xs
xsm
sm
md
lg

เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 10
 

ธาวินเดินออกมาพลางกวาดตามองรอบบริเวณวัดไม่เห็นใคร คนร้ายคนหนึ่งถือปืนจ่อธาวินพร้อมขมขู่

“อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากตาย”
“ใจเย็นลูกพี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน” ธาวินบอก
คนร้ายอีกคนเดินถือปืนเข้ามาปิดทางแล้วสั่งพร้อมกับเอาปืนจ่อ
“เอามือไว้บนหัว”
“นี่จะปล้นผมหรือ” ธาวินถาม
“กูบอกให้เอามือไว้บนหัว” คนร้ายคนแรกบอก
“ครับ ๆ”
ธาวินยกมือวางบนหัว คนร้ายอีกคนเข้ามาค้นตามตัวแล้วหันไปบอกคนร้ายคนแรก
“ไม่มีอะไร”
คนร้ายคนแรกสั่ง
“เอาตัวมันไป”
คนร้ายคนที่สองจับมือธาวินจะบิดไพล่หลัง ธาวินสะบัดศอกกระแทกใส่หน้าคนร้ายจนเสียหลัก
คนร้ายคนแรกยกปืนยิง ธาวินกระโดดหลบ คนร้ายไล่ยิง ธาวินวิ่งหนี บุญทันวิ่งโผล่เข้ามาพร้อมปืนยิงใส่จนคนร้ายคนแรกหลบไป คนร้ายอีกคนคว้าปืนจะยิงใส่บุญทัน บุญทันยิงสวน คนร้ายคนที่สองหลบไป ตำรวจ สองนายวิ่งเข้ามาพร้อมอาวุธ คนร้ายคนแรกสั่งอีกคน
“ไปก่อนเร็ว”
ตำรวจวิ่งมาหาบุญทันแล้วบอก
“ทิ้งปืน”
บุญทันยกมือขึ้นพร้อมปืน
“ผมป้องกันตัวเองครับ คนร้ายมันจะยิงเพื่อนผม”
“วางปืนลง” ตำรวจสั่ง
บุญทันวางปืนลงกับพื้น ธาวินวิ่งเข้ามาหาแล้วบอก
“ใช่ครับ คนร้ายมันจะยิงผม รีบตามมันไปเถอะครับ”
ตำรวจคนแรกสั่ง
“ตามคนร้ายไป สั่งสกัดจับด้วยทางนี้ผมจัดการเอง”
ตำรวจคนที่สองวิ่งออกไป
“มีเรื่องอะไรกัน” นายตำรวจถาม
“ผมก็ไม่ทราบครับ ผมออกมาตามหาแฟน อยู่ๆมันก็เอาปืนมาจ่อผม”
“แล้วแฟนคุณอยู่ไหน”
“ผมยังไม่เจอเธอเลย” ธาวินบอก
บุญทันมองหน้าธาวินรูสึกถึงกลิ่นอายเลือดอีกครั้ง

สารวัตรสมยศนั่งภายในรถตู้ มองญาดาและมณทกานต์นอนสลบไม่ได้สติแล้วกดโทรศัพท์หาปารมีทันที
“ว่าไง” ปารมีพูดขึ้น
“ผมได้ตัวผู้หญิงสองคนแล้ว แต่ไอ้ภูบดีมันรอดไปได้”
“ไม่เป็นไร ไอ้ภูบดีไว้จัดการทีหลังได้ นังผู้หญิงสองคนนั่นชั้นยกให้คุณ หลังจากได้เงินค่าไถ่แล้ว ฆ่ามันทิ้งซะ”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
สารวัตรสมยศกดวางสายไป ปารมียิ้มกระหยิ่ม นภาในชุดนอนที่ยืนฟังอยู่ทางด้านหลัง ปารมีหันขวับมา
“แม่”
“แกคิดจะทำอะไร ผู้หญิงสองคนหมายถึงใคร”
“แม่ไม่ต้องรู้หรอก”
“ไม่นะปา ชั้นไม่ยอมให้แกทำเรื่องเลวๆแบบนี้ บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้ว่าแกสั่งให้ใครไปฆ่าใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับภูบดี”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแม่นะคะ”
“เกี่ยวสิเพราะชั้นเป็นแม่แก แกต้องบอกชั้นมาเดี๋ยวนี้ว่าแกคิดจะทำอะไร”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าแม่อยากรู้ หนูสั่งให้คนไปฆ่านังตาลกับนังเมย์”
“อะไรนะ”
“แล้วหนูก็จะฆ่าไอ้ภูบดีด้วย”
นภาตบปารมี
“นี่แกบ้าใหญ่แล้ว แกรู้ตัวรึเปล่าว่าแกพูดอะไร”
“หนูไม่ได้บ้าหรอกค่ะแม่ แม่บอกหนูเองไม่ใช่หรือคะว่า สมบัติทุกอย่างของคุณปู่มันควรจะเป็นของเรา ถ้าไม่มีไอ้ภูบดีซักคน หนูก็จะได้ครอบครองบ้านวริทธิวรนันท์”
“ชั้นก็แค่พูดบ่นไปตามประสา ไม่ได้คิดที่จะให้แกไปฆ่าใคร”
“แต่แม่พูดกรอกหูหนูทุกวันตั้งแต่หนูยังเด็ก จนหนูจำได้ขึ้นใจว่าบ้านวริทธิวรนันท์จะต้องเป็นของเรา สมบัติทุกชิ้นจะต้องเป็นของหนู แม่จำไม่ได้หรือคะ”
ปารมีย้อนนภาจนอึ้งและสลดไปเพราะรู้สึกผิด
“แม่ไม่ได้ตั้งใจ แม่ขอโทษ ที่แม่พูดไปก็เพราะน้อยใจชีวิตตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูกผูกใจเจ็บใคร อย่าทำแบบนี้เลยนะลูก ยุติทุกอย่างซะ”
“ไม่ค่ะ หนูเดินหน้ามาไกลแล้ว หนูจะไม่มีวันถอยหลัง”
“ปารมี แม่ขอร้อง อย่าถลำลึกไปกว่านี้เลย ถ้าตำรวจจับได้ลูกจะต้องติดคุกไปจนวันตายนะ”
“ไม่ค่ะ ตำรวจไม่มีทางจับหนูได้หรอก ถ้าแม่ไม่บอก”
“ปารมี”
“ที่หนูทำทุกอย่างก็เพื่อเราสองคนนะคะแม่ หนูเบื่อเต็มทีแล้วที่ต้องก้มหัวทำตัวลีบต่อหน้าทุกคน ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวพราะเราเป็นแค่ผู้อาศัย ถ้าไม่มีไอ้ภูบดีกับเมียมันแล้วก็นังเมย์ บ้านวริทธิวรนันท์ก็จะเป็นของเรา มันจะเป็นของเรานะแม่”
นภาน้ำตาไหลรินมองปารมีอย่างเสียใจแล้วคว้ามือปารมี
“ไม่นะปา แม่จะไม่ยอมให้ลูกทำผิดอีกแล้ว แค่ลูกฆ่านังอ้อยหัวใจแม่ก็แทบแตกสลาย อย่าทำเรื่องเลวร้ายอีกเลยนะลูก แม่ขอร้อง นะลูกนะ หยุดทุกอย่างแค่นี้ แล้วเราไปบอกคุณปู่ว่าเราทำอะไรลงไป”
ปารมีแกะมือนภาออก
“นี่แม่พูดอะไรของแม่ หนูฆ่านังอ้อยก็เพื่อแม่ หนูทำทุกอย่างเพื่อชดเชยชีวิตที่ขาดไปของแม่ หนูกำลังทำความฝันของแม่ให้เป็นความจริง”
“แต่แม่ไม่ต้องการ แม่ไม่อยากได้มันแล้ว แม่อยากได้ลูกของแม่คืนมา แม่อยากได้ลูกที่น่ารัก ลูกสาวที่เป็นคนดีของแม่คืนมา” นภาพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
ปารมีจับตัวแม่เพื่อเรียกสติ
“แม่คะ แม่ต้องตื่นได้แล้วล่ะค่ะเพราะลูกสาวคนนั้นไม่เคยมีอยู่จริง”
นภาน้ำตาไหลรินมองหน้าปารมีที่แววตานิ่ง ปารมีปล่อยแขนนภาแล้วเดินออก นภาทรุดลงร้องไห้สะอื้นปานขาดใจ ปารมีบอกตัวเอง
“ไม่มีใครมาหยุดยั้งชั้นได้ ทุกอย่างต้องเป็นของชั้น”

ยามเช้าที่บ้านวริทธิวรนันท์ พิพัฒน์นั่งตกตะลึงกับเรื่องของญาดากับมณทกานต์
“ว่าไงนะ หนูตาลกับยัยเมย์หายไปงั้นหรือ”
“ครับ” ธาวินขานรับ
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อวานตอนงานศพครับ” ธาวินบอก
“แล้วทำไมไม่มีใครบอกชั้น”
“พวกเราไม่อยากให้ท่านตกใจครับก็เลยให้ตำรวจออกติดตาม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เบาะแสอะไร” บุญทันบอก
พิพัฒน์หันมองหน้าบุญทัน
“ดี มีอะไรจะปิดบังก็ปิดให้หมดนะ”
บุญทันชะงักมองหน้าธาวิน
“คุณปู่หมายถึงอะไรครับ” ธาวินถาม
“ก็แกสองคนมีอะไรปิดบังชั้นล่ะ”
ธาวินกับบุญทันมองหน้ากันไม่แน่ใจว่าพิพัฒน์รู้เรื่องการสลับตัว ปรารถเข้ามาพอดี
“สวัสดีครับท่าน”
“ปรารภ นี่คุณรู้เรื่องกับเค้ารึยังว่าหนูตาลกับยัยเมย์หายไป”
“ผมทราบแล้วครับ”
“สรุปว่ามีชั้นคนเดียวที่เป็นตาแก่นอนหลับอยู่ในบ้านไม่รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย”
“ไม่ใช่ครับคุณปู่ อย่างที่บุญทันบอก เราไม่อยากให้คุณปู่ตกใจ” ธาวินบอก
“แล้วไง ตอนนี้ชั้นไม่ตกใจเลยหรือ ที่พวกแกยังหาตัวหนูตาลกับยัยเมย์ไม่เจอ”
“ผมว่าท่านใจเย็นก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้ตำรวจกำลังออกตามหาข่าวอยู่” ปรารภว่า
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทุกคนชะงัก ธาวินลุกไปรับ
“ฮัลโหล”
เสียงสารวัตรสมยศพูดโทรศัพท์
“บอกคุณพิพัฒน์ว่าถ้าไม่อยากให้หลานสาวกับหลานสะใภ้ตายเตรียมเงินไว้ยี่สิบล้าน”
“นั่นแกเป็นใคร” ธาวินถาม
“แล้วชั้นจะติดต่อกลับมาอีกที จำไว้นะถ้าเรื่องถึงตำรวจนังสองคนนี่ตายแน่”
พูดแล้วสารวัตรสมยศก็วางสายไปทันที
ทุกคนมองจ้องมาที่ธาวินเป็นตาเดียว
“ใครโทรมา” พิพัฒน์ถามขึ้น
“มันบอกว่ามันจับตัวตาลกับน้องเมย์ไป ให้เราเตรียมเงินให้มันยี่สิบล้าน”
ทุกคนอึ้ง ธาวินกับบุญทันมองสบตากัน

ภายในบ้านเช่าของคนร้ายในเวลากลางวัน ญาดากับมณทกานต์ถูกมัดมือโดยเอาหลังชนกันมีเชือกพันรอบเอวทั้งสองให้ตัวติดกันอยู่ในห้อง มณทกานต์ขยับตัวตื่นมองอย่างงุนงงที่เห็นญาดาอยู่ด้วย
“พี่ตาล ... พี่ตาลคะ...พี่ตาล”
ตาลบิดขยับตัวลืมตามองรอบตัวอย่างงงเช่นกัน
“คุณเมย์ ...นี่มันอะไรกันเนี่ยทำไมเรามาอยู่ที่นี่”
“มีคนจับตัวเรามา”
ประตูห้องถูกเปิดออก ลูกน้องที่หนึ่งโผล่หน้าเข้ามามองญาดากับมณทกานต์แล้วพูดโทรศัพท์
“ฟื้นแล้วครับ ... สองคนเลยครับ... ครับ นายไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้รอดไปแน่..ครับผม”
หลังลูกน้องวางสายไป ญาดาถาม
“พวกแกเป็นใคร จับเรามาทำไม”
“ไม่ต้องถามอะไรมาก ชั้นจะเตือนให้เธอสองคนรู้ว่าอย่าคิดหนีเป็นอันขาด เพราะถ้าเธอหนี เธอจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป”
ลูกน้องพูดแล้วก็เดินออกไป
“นี่มันเรื่องอะไรกันพี่ตาล แล้วพวกมันเป็นใคร”
“พี่ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เราต้องหาทางหนีก่อน”
ญาดากับมณทกานต์มองสำรวจรอบห้อง

ปารมีเดินเข้ามาในร้านอาหาร สารวัตรสมยศนั่งอยู่ที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว ปารมีเดินเข้ามานั่ง สารวัตรสมยศยกแก้วเครื่องดื่มชูให้
“ขอดื่มให้กับความสำเร็จของเรา”
“ยัง ชั้นจะดื่มก็ต่อเมื่อคุณฆ่านังสองคนนั่นและไอ้ภูบดีเรียบร้อย”
“ไม่ต้องห่วง วันนี้คุณได้ฟังข่าวดีแน่ เพราะผมจะฆ่าไอ้ภูบดีตอนที่มันเอาเงินค่าไถ่มา และจากนั้นพอผมได้เงินผมก็จะฆ่าผู้หญิงตามไป พอใจมั้ย”
“ถ้าเป็นจริงอย่างที่คุณพูดล่ะก็ ชั้นจะมีรางวัลใหญ่ให้”
“งั้นคุณก็เตรียมไว้ได้เลย”
สารวัตรสมยศบอกอย่างมั่นใจ ปารมียิ้มอย่างมีหวังและมั่นใจ

ในเวลาต่อมา ปรารภหิ้วกระเป๋าเงินเข้ามาวางตรงหน้าพิพัฒน์
“ผมเบิกเงินสดมาทั้งหมดยี่สิบล้าน”
“ตอนนี้ก็รอแค่ว่าเมื่อไหร่มันจะโทรมา” พิพัฒน์บอก
“หวังว่าคุณเมย์กับคุณตาลจะปลอดภัยนะครับ” บุญทันบอก
“ต้องปลอดภัยสิ ในเมื่อมันบอกมันต้องการแค่เงิน”
“ไม่ต้องห่วง ผมประสานกับทางตำรวจแล้ว ตำรวจนอกเครื่องแบบจะขับรถตามเราไปห่างๆ ทันทีที่เราออกจากบ้าน”
เสียงโทรศัพท์บ้านดัง ทุกคนหันมอง ธาวินรับสาย
“ฮัลโหล”
สารวัตรสมยศพูดโทรศัพท์จากร้านอาหาร
“ได้เงินแล้วใช่ไหม”
“ใช่ จะให้เราเอาไปให้ที่ไหน”
“ไปที่ลานจอดรถ แกไปคนเดียว ถ้ามีตำรวจเข้ามายุ่งด้วยล่ะก็ แกจะได้ศพผู้หญิงกลับไป”
สารวัตรสมยศหันมายิ้มให้ปารมี
“นับถอยหลังได้เลย”
ธาวินวางโทรศัพท์หันมาบอกกับทุกคน
“มันบอกให้เราไปที่......”
“ชั้นไปด้วย” บุญทันบอก
“มันให้ชั้นไปคนเดียว”
“แต่มันอันตรายนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกบุญทัน ถึงยังไงก็มีตำรวจนอกครื่องแบบตามไปห่างๆอยู่แล้ว” ปรารภบอก
“แต่ผมว่า...”
“ไว้ใจชั้น ชั้นต้องพาน้องเมย์กับตาลกลับมาได้แน่” ธาวินบอก
บุญทันพยักหน้า
“มีปืนอยู่หน้ารถ ถ้ามีอะไรใช้ได้เลย”
ธาวินพยักหน้า พิพัฒน์มองอยู่
“ผมไปนะครับคุณปู่”
“ระวังตัวด้วย”
“ครับ”
ธาวินถือกระเป๋าเงินเดินออกไป พิพัฒน์ ปรารภและบุญทันมองตามอย่างเป็นห่วง

สารวัตรสมยศกดโทรศัพท์หาลูกน้อง
“แป๊ะหรือ ฟังให้ดีนะ รออยู่ที่นั่น จะมีคนเอาเงินไปส่ง พอได้เงิน ยิงมันทิ้งได้เลย”
บริเวณลานจอดรถที่นัดพบ ภายในรถกระบะ แป๊ะ ลูกน้องสารวัตรสมยศกำลังฟังคำสั่งอยู่
“อย่าให้มันรอดไปได้นะ” สารวัตรสมยศสั่ง
“ครับ”
สารวัตรสมยศโทรต่อไปหาลูกน้องที่บ้านเช่า
“ครับพี่”
“อีกชั่วโมง ยิงผู้หญิงทิ้งได้เลย”
“ครับ”
ลูกน้องคนแรกที่ได้รับคำสั่งจากสารวัตรสมยศหันไปบอกลุกน้องอีกคน
“เจ้านายบอกว่าอีกชั่วโมงยิงผู้หญิงทิ้งได้เลย”
“เสียดายนะ สวยทั้งสองคน” ลูกน้องคนที่สองบอก
“งั้นก่อนฆ่าทิ้งเราก็น่าจะ ...” ลูกน้องคนที่สามเสนอความเห็น
“ไม่ได้โว้ย นายสั่งห้ามยุ่ง”
“อีกชั่วโมงก็ต้องยิงทิ้งแล้ว นายจะรู้ได้ไงพี่เก่ง” ลูกน้องคนที่สองบอก
“นั่นดิพี่เก่ง ถ้าเราไม่พูดใครจะรู้” ลูกน้องคนที่สามบอก
เก่งมองลูกน้องทั้งสองคนก่อนบอกว่า
“เออ เออก็ได้ แต่ข้าขอก่อนนะโว้ย”
“ปัดโธ่ แล้วทำปากแข็งบอกไม่เอาแต่แรก” ลูกน้องคนที่สองแซวขึ้น
“ข้าเอาคนน้อง” เก่งบอก
“งั้นชั้นเอาคนพี่” ลูกน้องคนที่สองบอก
“งั้นชั้นขอดับเบิ้ล ทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ” คนที่สามบอก
ทั้งกลุ่มหัวเราะร่วนให้กันแล้วลุกเดินออกไป
 
อ่านต่อหน้า 2





เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 10(ต่อ) 
 

ภายในห้องกักขังหน่วงเหนี่ยว คนร้ายทั้ง 3 เปิดประตูห้องเข้ามา มณทกานต์กับญาดาหันไปมอง

“ไอ้โหน่ง เอ็งไปแก้มัดผู้หญิง” เก่งพูด
ลูกน้องคนที่สามเดินเข้ามาหาเพื่อทำตามคำสั่ง
“พวกแกจะทำอะไร” มณทกานต์ถาม
“อยู่เฉยๆเดี๋ยวน้องก็รู้เอง”
ลูกน้องคนที่สามเข้ามาแก้เชือกที่มัดพันเอวมณทกานต์กับญาดา
“ไอ้พงษ์ ถ้าเอ็งจะเอาคนพี่ก็ไปใช้อีกห้อง” เก่งบอก
พงษ์เข้ามากระชากแขนญาดาแล้วบอก
“ไปจ้ะคนสวย”
“ปล่อยชั้นนะ แกจะทำอะไรชั้น”
“หุบปากน่ะ มานี่”
พงษ์ลากญาดาออกไป มณทกานต์จะวิ่งตาม
“ปล่อยพี่ตาลนะ”
เก่งยกมือขวางมณทกานต์กันไว้
“ไม่ต้องห่วงเค้าหรอกน่า เดี๋ยวเค้าก็จะไปถึงสวรรค์พร้อมๆเรา”
มณทกานต์ชะงักผงะถอย
“ไอ้โหน่ง เอ็งออกไปรอข้างนอก” เก่งบอก
“ชั้นอยู่ด้วยไม่ได้หรือ” โหน่งว่า
“เอ็งไปเฝ้าข้างนอกไว้ ถ้าข้าเรียบร้อยแล้วเอ็งค่อยเบิ้ล” เก่งบอก
“ก็ได้”
โหน่งเดินออกไป เก่งเดินเข้าหา มณทกานต์ถอยหนี
“นี่ แกจะทำอะไร”
“ก็ทำให้น้องมีความสุขก่อนตายไงจ๊ะ”
เก่งจะเข้าไปรวบตัว มณทกานต์มุดหลบ

อีกห้องหนึ่ง พงษ์ผลักญาดาลงบนเตียง
“อย่าทำอะไรชั้นเลยนะ ชั้นกลัวแล้ว “
ญาดาขยับตัวถอยหนี
“ไม่ต้องกลัวจ้ะ เพราะพี่จะไม่รุนแรงกับน้อง”
พงษ์ตามขึ้นมาบนเตียงแล้วลูบแก้ม ญาดาบิดหน้าหลบอย่างขยะแขยง พงษ์ทำท่าจะก้มลงจะจูบตาล
“เดี๋ยวพี่”
“ว่าไงจ๊ะ” พงษ์ถาม
“พี่ช่วยแกะมือหนูก่อนได้มั้ยจ๊ะ หนูเมื่อย”
พงษ์มองอย่างลังเล ญาดาพูดเสียงออดอ้อน
“นะพี่ ถึงยังไงหนูก็หนีไม่รอดแล้ว นะจ๊ะพี่รูปหล่อ”
ญาดายิ้มให้พร้อมกับทำตาปริบ ๆ
“ก็ได้”
ญาดาพลิกตัวให้พงษ์แกะเชือกที่มัดมือทางด้านหลังออก

ฝ่ายมณทกานต์มองซ้ายขวาพยายามหาทางหนี เก่งเดินเข้าหารวบตัวกอด มณทกานต์หลบไม่พ้นถูกเก่งเข้ากอดรัด มณทกานต์กลั้นใจกระทืบเท้าเก่งเต็มแรงจนร้อง “โอ๊ย”
เก่งปล่อยมือที่กอดลวนลามอยู่ มณทกานต์ได้จังหวะเตะเข้าที่หว่างขา เก่งลงไปร้องลั่นตัวงออยู่ที่พื้น

บริเวณหน้าห้อง โหน่งได้ยินเสียงร้องชะงักแล้วหัวเราะชอบใจ
“พี่เก่ง ร้องเสียงลั่นยังกะถูกเชือด”

ญาดาหลุดจากเชือกก็หันไปตบผัวะเข้าที่หน้าพงษ์จนหน้าสะบัดไป พงษ์ยังไม่ทันตั้งหลัก ญาดาก็เอานิ้วจิ้มลูกกะตาอย่างเต็มแรง

โหน่งหันมองกลับไปที่อีกห้องแล้วชะงักเอะใจ ลุกเดินเข้าไปดู ญาดาเปิดประตูพรวดออกมาพอดี “เฮ้ย ..” โหน่งร้องขึ้น
มณทกานต์เปิดประตูจากอีกห้องออกมา
“พี่ตาล”
โหน่งกระชากปืนออกมา ญาดาได้จังหวะกำหมัดซัดไปที่ก้านคอจนหน้าคะมำเสียหลัก ญาดาตบหน้าซ้ำอย่างไม่ยั้ง เล่นเอาโหน่งทั้งเจ็บ ทั้งมึนและทรุดลงกับพื้น
ญาดาวิ่งไปหามณทกานต์แล้วบอก
“ ไปเร็ว”
เก่งและพงษ์วิ่งออกมาจากห้อง
“ไอ้พงษ์”
“พี่เก่ง มันหนีไปได้”
“ตามไปสิวะ เร็ว”
เก่งกับพงษ์วิ่งตามออกไป
บริเวณลานจอดรถที่นัดพบ ธาวินเลี้ยวรถเข้ามาจอด รถของคนร้ายกระพริบไฟให้สัญญาณ ธาวินกระพริบไฟตอบ ภายในรถคนร้าย แป๊ะพูดโทรศัพท์ผ่านสมอลทอล์ค
“มันมาแล้วครับนาย”
ภายในร้านอาหาร สารวัตรสมยศนั่งบัญชาการผ่านโทรศัพท์มือถือ
“ดี ชั้นจะโทรบอกให้มันลงจากรถมาหาแก”
สารวัตรสมยศกดสายหาธาวิน
ภานในรถวิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ธาวินดูเบอร์แล้วกดรับ
“ฮัลโหล”
“ลงจากรถแล้วเอาเงินมาส่งให้คนของชั้น” สารวัตรสมยศสั่ง
“แล้วผู้หญิงอยู่ไหน” ธาวินถาม
“อยู่ในรถ”
“แต่ชั้นต้องเห็นผู้หญิงก่อน ชั้นถึงจะเอาเงินให้แก”
“ถ้าแกอยากให้ผู้หญิงตายก็ตามใจ เพราะแกไม่มีทางเลือกถือเงินลงมาจากรถ”
ธาวินไม่มีทางเลือกบอก
“ก็ได้”
ธาวินถือกระเป๋าเงินเปิดประตูลงมาจากรถเดินไปยังรถกระบะของคนร้าย

ภายในรถกระบะ แป๊ะพูดโทรศัพท์กับสารวัตรสมยศ
“มันกำลังเดินมาครับ”
“รับเงินแล้วยิงมันได้เลย” สารวัตรสมยศสั่ง
“ครับ”
ภายในร้านอาหาร สารวัตรสมยศและปารมียิ้มให้แก่กัน

แป๊ะใส่สมอลทอล์คเปิดประตูลงจากรถกระบะตามคำสั่ง ลูกน้องอีกสามคนก้าวตามลงมา
กลุ่มคนร้ายและธาวินเดินลงมาเผชิญหน้ากัน
“ส่งกระเป๋ามา” แป๊ะบอก
“ผู้หญิงอยู่ไหน” ธาวินถาม
ภายในร้านอาหาร สารวัตรสมยศฟังเสียงธาวินกับแป๊ะโต้ตอบกันผ่านทางโทรศัพท์ สารวัตรสมยศมองหน้าปารมีที่มองด้วยสีหน้ามีลุ้น
แป๊ะชักปืนออกมาจ่อธาวิน
“นี่อย่าบอกนะว่าพวกแกหักหลัง”
“ส่งกระเป๋ามาได้แล้ว” แป๊ะบอก
ธาวินมองคนร้ายทั้งสี่คนก่อนวางกระเป๋าลง ลูกน้องแป๊ะคนหนึ่งก้าวเข้ามาหยิบกระเป๋า
“ขอบใจ”
จบคำแป๊ะยิงลั่นไกปืนยิงใส่ทันที ธาวินถึงกับผงะ แป๊ะยิงซ้ำอีกสองนัดจนร่างของธาวินกระเด็นล้มลงกับพื้นแน่นิ่งไป
เสียงปืนที่ดังผ่านมาเข้ามายังโทรศัพท์มือถือทำให้สารวัตรสมยศยิ้มและนึกเดาว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
“ว่าไงแป๊ะ”
“เรียบร้อยครับ”
สารวัตรสมยศยิ้มยกนิ้วโอเคให้ปารมี ปารมียิ้มกว้างดีใจ
บริเวณลานจอดรถ แป๊ะเดินตามเข้ามาดูศพ ธาวินกระชากปืนออกยิงสวนเข้าไปจนแป๊ะผงะหงายไป ฝ่ายสารวัตรสมยศได้ยินเสียงปืนดังขึ้นที่ปลายสายก็สะดุ้ง
“แป๊ะ ไอ้แป๊ะ”
ปารมีมองหน้าสารวัตรสมยศด้วยสายตาแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
บริเวณลานจอดรถ ตำรวจทั้งนอกและในเครื่องแบบโผล่เข้ามาล้อมกลุ่มคนร้ายไว้
“หยุดนะนี่ตำรวจ ทิ้งปืน”
สารวัตรสมยศได้ยินเสียงตำรวจก็มองหน้าปารมีอย่างตกใจ
“มีอะไร” ปารมีถาม
“ตำรวจ”
ปารมีมีสีหน้าตกใจเหมือนกัน
กลุ่มคนร้ายหันมากระชากปืนยิงใส่ตำรวจ ตำรวจยิงสกัดจับ กลุ่มคนร้ายวิ่งหนีไป
บุญทันวิ่งเข้ามาหาธาวิน
“ไอ้วิน แกเป็นไงบ้าง”
ธาวินไอสำลักเจ็บหน้าอกจากแรงกระแทกของกระสุนก่อนจะกระชากเสื้อตัวนอกออกอย่างอึดอัดจน เห็นเสื้อเกราะอยู่ด้านใน
“ชั้นไม่เป็นไร” ธาวินบอก
“แล้วน้องเมย์กับแฟนแกล่ะ”
“มันหักหลังเรา”
บุญทันมองหน้าธาวินแล้วอึ้งไป

ภายในร้านอาหาร ปารมีมองสารวัตรกดสายโทรศัพท์
“ยิงผู้หญิงสองคนนั่นทิ้งได้เลย” สารวัตรสมยศสั่ง
ภายในบ้านเช่า โหน่งพูดโทรศัพท์เสียงละล่ำละลัก
“เอ่อ คือ”
“มีอะไร”
“ผู้หญิงหนีไปครับนาย”
“เอ็งว่าอะไรนะ”
“คือพี่เก่งกับพี่พงษ์กำลังไปตามตัวผู้หญิงอยู่ครับ”
“ไอ้ระยำเอ๊ย นี่พวกมึงทำอะไรกันวะ”
“เอ่อ แค่นี้ก่อนนะครับนาย เดี๋ยวผมจะตามไปสมทบกับพี่เก่ง”
สมยศวางสายไปด้วยสีหน้าโกรธขึ้ง ปารมีถาม
“มีอะไร”
“ผู้หญิงหนีไปได้”
“อะไรนะ”
“ผมว่าเราแยกกันก่อน ผมจะไปจัดการกับลูกน้อง”
สารวัตรสมยศเดินลุกออกไป ปารมีโกรธจัด
“ไอ้บ้าเอ๊ย ทุกอย่างกำลังจะจบอยู่แล้ว”

ญาดากับมณทกานต์วิ่งกระเซอะกระเซิงออกมาในสวน เก่งกับพงษ์วิ่งตามมาแต่ไกล เหนี่ยวไกปืนยิงตามหลัง ญาดากับมณทกานต์วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต มณทกานต์หยุดหายใจหอบอยู่ข้างทาง
“พี่ตาล เมย์ไปไม่ไหวแล้ว”
“ต้องไหวสิน้องเมย์ เราหยุดไม่ได้นะ มันจะฆ่าเรา ไป”
ญาดาเข้าพยุงมณทกานต์วิ่งหนีต่อไป

บริเวณริมถนน รถคันหนึ่งแล่นเข้ามา ญาดากับมณทกานต์วิ่งโผล่ออกมาโบกมือให้รถจอด
“ช่วยด้วยค่ะ” ญาดาร้องเรียกเสียงสั่น
“จอดด้วยค่ะช่วยเราด้วย” มณทกานต์บอก
รถแล่นเข้ามาจอด ญาดารีบเปิดประตูข้างคนขับแล้วก็ชะงักไปชั่วครู่
“สารวัตรสมยศ” ญาดาเรียก
“หวัดดีครับคุณตาลมาทำอะไรแถวนี้ครับ”
“ช่วยเราด้วยค่ะ มีคนจับเราสองคนมา มันจะฆ่าเรา”
“งั้นขึ้นรถมาเลยครับ”
ญาดากับมณทกานต์เปิดประตูแล้วรีบกระโดดขึ้นรถทันที สารวัตรสมยศขับรถออกไปทันที

ภายในรถ ญาดากับมณทกานต์หายใจอย่างเหนื่อยหอบ
“นี่โชคดีนะคะที่เราเจอสารวัตร” ญาดาพูดขึ้น
“ใช่ค่ะ ไม่งั้นเราสองคนต้องไม่รอดแน่” มณทกานต์บอก
สารวัตรสมยศยิ้มรับให้ญาดากับมณทกานต์แล้วบอก
“ใช่ครับ โชคดีจริงๆที่ผมเจอคุณสองคน”

ภายในห้องรับแขกบ้านพิพัฒน์ ปรารภกำลังพูดโทรศัพท์กับตำรวจ
“ขอบคุณมากครับ ครับ ครับ”
ปรารภวางสายแล้วหันมาบอกพิพัฒน์ที่นั่งลุ้นระทึกอยู่
“ตำรวจบอกว่าจับตัวคนร้ายได้คนนึงมันซัดทอดว่าคนที่ว่าจ้างคือ สารวัตรสมยศครับ”
“คุณว่าใครนะ”
“สารวัตรสมยศที่เคยมาทำคดีให้ท่าน”
“แล้วมันบอกรึเปล่าครับว่า มันเอาตัวตาลกับน้องเมย์ไปไว้ไหน”
“บอกครับ มันเอาตัวไปขังไว้ที่บึงกุ่ม ตอนนี้ตำรวจกำลังนำเจ้าหน้าที่ไปช่วยอยู่ครับ”
“แล้วทำไมสารวัตรสมยศถึงต้องการฆ่าผม” ธาวินถาม
“นั่นสิ ตอนแรกผมก็คิดว่าคนร้ายมันต้องการแค่เงินค่าไถ่ แต่ถ้ามันต้องการฆ่าคุณภูด้วยแสดงว่ามันต้องมีจุดประสงค์อื่น” บุญทันว่า
“จุดประสงค์อะไร” พิพัฒน์ถาม
“แกจะบอกว่าสารวัตรสมยศอยู่เบื้องหลังการตายของลุงภาคินงั้นหรือ” ธาวินถาม
บุญทันพยักหน้าแล้วเหลือบมองพิพัฒน์กับปรารภเที่จ้องหน้าอย่างจับผิด บุญทันชะงักแล้วแสร้งยิ้มก่อนจะหันมาบอกธาวิน
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะครับ”
ธาวินเหลือบมองเห็นปรารภกับพิพัฒน์มองหน้าอยู่ก็ทำหน้าเครียดหันมาพยักหน้าให้บุญทัน
“อย่านานล่ะ มีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ”
บุญทันจะขยับลุกจะเดินไป พิพัฒน์ทักขึ้น
“ภูบดี ปู่ว่าแกควรจะเปิดเผยตัวได้แล้วนะ”
บุญทันชะงักกึก ธาวินทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“เปิดเผยเรื่องอะไรครับคุณปู่” ธาวินถาม
“ชั้นไม่ได้พูดกับเธอ ชั้นพูดกับหลานชายชั้น”
ธาวินอึ้งเหลือบมองบุญทันที่มีสีหน้าลังเล ปรารภลุกเดินมาหาบุญทัน
“คุณภูครับ คุณปู่รู้ความจริงหมดแล้วว่าคุณสองคนสลับตัวกัน”

พิพัฒน์มองจ้องมาที่บุญทันสายตานิ่ง ธาวินมองหน้าบุญทันกับพิพัฒน์
 
อ่านต่อหน้า 3 เวลา 09.30น.





เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 10(ต่อ) 
 

ญาดาหันไปถามสารวัตรสมยศที่กำลังขับรถออกถนนนอกเมือง
 
“นี่เราจะไปไหนคะ เส้นนี้มันออกนอกเมืองนี่”
“อ๋อ ผมจะขับไปออกวงแหวนรอบนอกแล้วกลับอีกเส้น”
ญาดาเหลือบมองแล้วเริ่มเอะใจ
“ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้มั้ยคะสารวัตร ชั้นจะโทรบอกคุณปู่ว่าเราปลอดภัยแล้ว”
“พอดีแบตผมหมดน่ะครับ คุณเมย์ไม่ต้องห่วง ผมส่งคุณสองคนถึงบ้านปลอดภัยแน่”
สารวัตรสมยศยิ้ม มณทกานต์พยักหน้ารับรู้ อยู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของสมยศก็ดังขึ้น มณทกานต์กับญาดาชะงักหันมองหน้ากัน ก่อนจะมองไปที่สารวัตรสมยศที่มองยิ้มให้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผมนึกว่าแบตหมดซะอีก”
สารวัตรสมยศล้วงไปข้างตัวเหมือนจะหยิบโทรศัพท์ แต่หยิบปืนออกมาจ่อญาดาแล้วบอก
“อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากตาย”
“หนีเร็ว”
ญาดาบอก มณทกานต์ขยับจะเปิดประตูกระโดดหนี
“อย่าหนีนะ ถ้าเธอหนีนังนี่ตาย”
มณทกานต์ชะงักไป

รถของสารวัตรสมยศเข้ามาจอดที่ข้างทางแล้วเปิดประตูลงจากรถ ปืนยังจ่อญาดาอยู่
“เอาล่ะ ลงจากรถ ลงมาช้าๆ”
สารวัตรสมยศมือหนึ่งจ่อปืนญาดา อีกมือเปิดประตูรถด้านหลังกระชากมณทกานต์ลงมาแล้วผลักไปหาญาดา
“นี่แกจะทำอะไรเราเนี่ย” ญาดาถาม
“ไม่ต้องพูดมาก คุกเข่า”
มณทกานต์กับญาดามองหน้ากัน แล้วคุกเข่าด้วยความกลัว
“เอามือวางไว้บนหัว”
ญาดากับมณทกานต์ทำตามที่สารวัตรสมยศบอก
“นี่คุณจะทำอะไรเรา” มณทกานต์ถาม
สารวัตรสมยศเดินไปรอบตัวของญาดากับมณทกานต์แล้วบอก
“ทำอะไรหรือก็ฆ่าเธอสองคนน่ะสิ”
“ชั้นขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรเราเลยนะ ปล่อยเราไปเถอะ” ญาดาบอก
“ใช่ ถ้าคุณอยากได้เงินชั้นจะบอกคุณปู่ให้เอาเงินให้คุณ ปล่อยเราไปเถอะนะ” มณทกานต์ว่า
“ปล่อยให้โง่หรือ ขืนชั้นปล่อยไปเธอสองคนจะได้เอาตำรวจมาลากคอชั้นเข้าตะรางน่ะสิ”
“ชั้นไม่ทำอย่างงั้นหรอก ชั้นสัญญา” ญาดาบอก
“ใช่ ชั้นก็สัญญา ปล่อยเราไปเถอะ” มณทกานต์ว่า
“หุบปาก เตรียมตัวตายได้แล้ว”
สารวัตรสมยศยกปืนเล็งที่หัว ญาดาหลับตาอย่างหวาดกลัว มณทกานต์ร้องไห้ยกมือไหว้เสียงสั่น
“อย่า...ได้โปรด อย่าฆ่าพวกเราเลย”
สารวัตรสมยศฉายแววตาเหี้ยมบอก
“ลาก่อน”
นิ้วสมยศแตะไกปืน เสียงปืนดังสั่น ญาดาหลับตาปี๋ มณทกานต์หวีดร้อง
ฉับพลันในจังหวะนั้น จู่ๆไหล่สมยศสะบัดจนปืนกระเด็นหลุดจากมือในทันที
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนแรกพูดขึ้น
ญาดากับมณทกานต์สะดุ้งมองเห็นตำรวจในชุดนอกเครื่องแบบที่สวมทับด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตวิ่งเข้ามา
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้น”
สารวัตรสมยศกุมไหล่ที่โดนกระแทกแล้วหันไปมองพลางขยับจะหนี ตำรวจอีกสองนายวิ่งจ่อปืนเข้ามา ตำรวจคนที่สองบอกย้ำ
“มอบตัวเถอะครับสารวัตร คุณถูกจับแล้ว”
“คุณหนีไม่รอดหรอก เชื่อผม มอบตัวซะ” ตำรวจคนแรกบอกย้ำ
ญาดาและมณทกานต์ลุกขึ้นวิ่งไปหาตำรวจทันที
ตำรวจที่กรูกันมาทั้งสองด้านจ่อปืนล้อม สารวัตรสมยศจำใจยกมือขึ้น ตำรวจเข้าไปล็อกตัวไว้
ญาดากับมณทกานต์มองหน้าแล้วกอดกันด้วยความดีใจที่รอดตายในครั้งนี้

บุญทันกับธาวินและปรารภเดินขึ้นมาบนโรงพักในเวลาต่อมา ปรารภบอกบุญทัน
“เดี๋ยวผมจะไปคุยกับผู้กำกับ คุณภูกับคุณวินไปหาคุณเมย์ คุณตาลก่อนได้นะครับ”
บุญทันกับธาวินพยักหน้า ปรารภขยับจะเดินแยกไป บุญทันพูดขึ้น
“เดี๋ยวครับคุณปรารภ”
“ครับ”
“คุณปรารภอย่าเพิ่งบอกให้ใครรู้นะครับว่าผมกับธาวินสลับตัวกัน”
“ทำไมล่ะครับ”
“ผมอยากให้แน่ใจว่า สมยศอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี่เพียงคนเดียวจริงรึเปล่า”
“แล้วคุณเมย์กับคุณตาลล่ะครับ”
“ผมว่าอย่าเพิ่งบอกดีกว่าครับ ให้เราเคลียร์เรื่องคนร้ายให้จบก่อนค่อยบอก” ธาวินบอก
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะเรียนให้คุณท่านทราบ”
“ขอบคุณครับ”
ปรารภเดินแยกไปคนละทางกับธาวินกับบุญทัน

ภายในห้องสอบปากคำ หมวดตำรวจพิมพ์สำนวนการให้ปากคำของญาดากับมณทกานต์
“คนร้ายที่จับตัวไปมีสามคนไม่ทราบชื่อ นอกจากสารวัตรสมยศ” ตำรวจทวนคำการสอบสวน
“ค่ะ”
“แล้วคนร้ายที่เหลือจำหน้าได้มั้ยครับ”
“จำได้ค่ะ”
ตำรวจพิมพ์เพิ่มเติมในสำนวน
“เอาล่ะครับ เรียบร้อย ขอบคุณมากครับ”
เมื่อสอบปากคำเสร็จ หมวดตำรวจก็ลุกเดินออกไป ธาวินกับบุญทันเปิดประตูสวนเข้ามาพอดี
“ตาล”
“น้องเมย์”
ธาวินกับบุญทันเดินเข้าไปหา ต่างฝ่ายต่างโผเข้ากอดแฟนตัวเอง
“คุณภู”
“บุญทัน”
ธาวินดึงญาดาออกมามองแล้วจับที่ใบหน้าจับผมของญาดา
“เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ ตาลนึกว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าคุณภูอีกแล้ว”
ญาดาร้องไห้ด้วยความดีใจ ธาวินดึงเข้ามากอด
บุญทันดึงมณทกานต์ออกมามอง
“ผมเป็นห่วงคุณมากรู้มั้ย”
มณทกานต์น้ำตาซึม
“ค่ะ ชั้นรู้”
มณทกานต์โผกอดบุญทันอีกที
ครู่หนึ่งเมื่อญาดาผละออกจากอ้อมกอดของธาวินก็ถาม
“ทำไมสารวัตรสมยศถึงต้องการฆ่าเราสองคน”
“ใช่ค่ะ เค้าอำมหิตมากเลย เค้าเอาปืนจ่อหัวพวกเรา ดีนะที่ตำรวจมาทัน ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว” มณทกานต์บอก
“ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำเค้าอยู่”
“ใช่ เดี๋ยวเราคงรู้ว่าเค้าทำไปเพราะอะไร”
ธาวินดึงตัวญาดา บุญทันดึงตัวมณทกานต์มากอดอีกครั้งเพื่อปลอบใจ

ภายในห้อง ตำรวจผู้กำกับบอกกับปรารภ
“จากที่เราสอบปากคำ สมยศไม่ยอมให้การอะไรบอกจะให้การในชั้นศาล”
“หมายความว่าเค้าปฏิเสธ”
“ครับ แต่คุณปรารภไม่ต้องห่วง พยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนาขนาดนี้ ยังไงก็ดิ้นไม่หลุดแน่”
“แล้วผู้กำกับคิดว่าจะมีใครอยู่เบื้องหลังสมยศมั้ยครับ”
“ผมยังตอบไม่ได้เพราะสมยศไม่ยอมพูดอะไร แต่ถ้ามีใครอยู่เบื้องหลัง คนๆนั้นก็ต้องหาทางติดต่อสมยศแน่ครับ”
ปรารภพยักหน้ารับรู้
“ขอบคุณมากครับ แล้วผมรับคุณตาลกับคุณเมย์กลับได้เลยมั้ยครับ”
“เชิญครับ เราบันทึกปากคำเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นผมลานะครับ”
ปรารภยกมือไหว้ ผู้กำกับรับไหว้ ปรารภเดินออกไปสมทบกับธาวินที่ประคองญาดา และบุญทันประคองมณทกานต์ที่กำลังเดินลงจากโรงพัก
ปารมีแอบยืนอยู่ที่มุมหนึ่งมองไปยังกลุ่มของภูบดีแล้วมองกลับไปบนโรงพักด้วยความลังเล
“เอาไงดี ถ้าเราขึ้นไปเยี่ยมตำรวจก็จะสงสัยเรา แต่ถ้าไม่ขึ้นไปจะรู้ได้ยังไงว่าไอ้สมยศมันจะไม่หักหลังเรา”


ภายในห้องขัง สมยศนั่งอยู่ในห้องขัง คิดถึงคำพูดของผู้กำกับ
“ผมว่าคุณยอมสารภาพดีกว่าสมยศ โทษหนักจะได้ลดเป็นเบา”
สมยศนิ่งไม่ตอบ
“คุณเองก็เป็นตำรวจย่อมรู้ดีว่าถ้าคุณให้การเป็นประโยชน์กับทางราชการ ตัวคุณก็จะมีโอกาสรอดมากขึ้น”
สมยศยังคงนิ่งงัน
สมยศลังเลระหว่างรักตัวเองกับรักปารมี เพราะปารมีเคยบอกว่า
“รอให้ถึงวันที่เราได้ทุกอย่างก่อน วันนั้นเราจะเปิดเผยให้คนทั้งโลกรู้ว่าเรารักกันแค่ไหน”

บุญทันขับรถมาจอดที่หน้าบ้านพิพัฒน์ ญาดา มณทกานต์ ธาวินและบุญทันก้าวลงจากรถแล้วเดินขึ้นบ้าน ต้นหอมกับมะยมยืนรออยู่อย่างเป็นห่วง
“คุณตาลคุณเมย์กลับมาแล้วหรือคะ” ต้นหอมถามขึ้น
“เป็นยังไงบ้างคะคุณเมย์ คนร้ายมันทำร้ายคุณรึเปล่า” มะยมถาม
“ชั้นไม่เป็นไร คุณปู่อยู่ไหน” มณทกานต์ว่า
“รออยู่ในห้องรับแขกค่ะ” มะยมบอก
มณทกานต์กับบุญทันเดินเข้าไป ญาดาหันมาบอกธาวิน
“เดี๋ยวตาลตามเข้าไปนะคะ”
ธาวินพยักหน้าแล้วเดินตามบุญทันกับมณทกานต์เข้าไป
“ต้นหอม” ญาดาเรียกขึ้น
“ขา”
“เดี๋ยวช่วยตามน้าอ้อยให้ไปหาชั้นที่ห้องหน่อยนะ”
“น้าอ้อยไม่อยู่ค่ะ ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีใครเจอตัวแกเลย”
ญาดาตกใจ
“จริงหรือ”
“ค่ะ สงสัยว่าจะหนีไปแล้ว เสื้อผ้าอะไรก็ไม่เอาไป ไม่รู้ขโมยของไปรึเปล่านะคะ”
“หนูว่าคุณตาลต้องตรวจดูของในห้องหน่อยนะคะว่ามีอะไรหายไปรึเปล่า” มะยมว่า
ญาดามองมะยมสีหน้านิ่ง
“ที่จริงหนูจะแจ้งตำรวจให้เค้าตามหาแล้วค่ะ แต่คุณนภาบอกไม่ต้อง” ต้นหอมบอก
ญาดาห่วงเจ๊อ้อยจึงนิ่งอึ้งไป ต้นหอมบอก
“คุณตาลคะ”
“หือม์”
“หนูว่าคุณตาลไปหาคุณท่านก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวท่านจะรอนะคะ”
ญาดาพยักหน้าทั้งที่อึ้งอยู่
“อืมม์”
ญาดาเดินเข้าบ้านไป ต้นหอมกับมะยมมองตาม
“ทำไมคุณตาลถามหาน้าอ้อยบ่อยจัง หรือว่าแกมีเรื่องอะไรกับน้าอ้อย” ต้นหอมตั้งข้อสังเกต
“จะมีเรื่องอะไร ชั้นว่าน้าอ้อยต้องยืมตังค์คุณตาลไปแหงๆ ขนาดของชั้นน้าอ้อยยืมไปห้าร้อยยังไม่คืนเลย” มะยมว่า
“เออ อาจจะจริง ไป ไปเตรียมอาหารตั้งโต๊ะก่อนเร็ว” ต้นหอมบอก
ต้นหอมกับมะยมเดินออกไป นภาแอบมองอยู่ด้วยแววตาหวาดหวั่น

ภายในห้องรับแขก ญาดา มณทกานต์นั่งอยู่กับธาวินและบุญทัน พิพัฒน์เดินเข้ามานั่งลง
“นับว่าโชคดีนะที่หลานสองคนปลอดภัย ต่อไปนี้จะไปไหนมาไหนห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด”
“ค่ะ” ญาดาและมณทกานต์รับคำพร้อมกัน
“แกกับบุญทันก็เหมือนกันนะ ปู่จะจ้างตำรวจมาคอยคุ้มกัน”
“สำหรับผมคงไม่ต้องหรอกครับ ผมว่ามันจะดูโอเวอร์ไป”
“จะโอเวอร์ยังไง แกลืมไปแล้วหรือว่าแกเป็นใคร”
พิพัฒน์บอกบุญทันเสียงเข้มจนญาดากับมณทกานต์รู้สึกแปลกใจ ธาวินรีบตัดบทกลัวพิพัฒน์จะหลุดเผยความจริง
“ใช่ แกเป็นหลานเขยคุณปู่นะ บุญทัน การมีตำรวจติดตามไม่โอเวอร์หรอก ตกลงครับคุณปู่สั่งตำรวจมาได้เลย”
ญาดาและมณทกานต์หันไปมองหน้าธาวิน และรู้สึกว่าคำพูดกับท่าทางธาวินดูแปลกๆ ธาวินยิ้มเกลื่อน
“ผมว่าตาลกับน้องเมย์คงเหนื่อย ไปอาบน้ำให้สบายแล้วมาทานข้าวกันดีกว่า” ธาวินบอก
“ใช่ครับ” บุญทันเสริม
“งั้นตาลขอตัวก่อนนะคะคุณปู่”
“เดี๋ยวหนูมาค่ะ” มณทกานต์ว่า
เมื่อมณทกานต์กับญาดาเดินออกจากห้องไป ธาวินรีบบอกเตือนพิพัฒน์ทันที
“คุณปู่ครับ คุณปู่ต้องระวังคำพูดหน่อยนะครับ อย่าเผลอพูดอะไรออกมาให้ใครรู้ว่าไอ้ภูเป็นใคร”
“ใช่ครับคุณปู่ บางทีคนร้ายอาจจะอยู่รอบๆตัวเรา” บุญทันว่า
“แกหมายความว่าสมยศไม่ใช่คนร้ายตัวจริงงั้นหรือ”
“ผมยังไม่แน่ใจจนกว่าตำรวจจะสรุปคดีออกมา” บุญทันว่า
“เอาล่ะ ชั้นจะพยายามไม่ลืมว่าแกคือ ไอ้บุญทันคนขับรถ”
“และผมคือภูบดีหลานชายนะครับ” ธาวินยิ้มทะเล้น
“เออ”

พิพัฒน์มองค้อนหมั่นไส้ ธาวินกับบุญทันยิ้มให้กันกับความจริงที่เผยให้ปู่รู้ แต่แววตาก็ยังสะพรึงถึงเรื่องคนร้ายตัวจริงอยู่
จบตอนที่ 10
 
อ่านต่อตอนที่ 11 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.




กำลังโหลดความคิดเห็น