มารยาริษยา ตอนที่ 6
เช้าวันต่อมา โบว์ที่ฝ้ายติดผมไปวันที่เจออามที่ร้านอาหาร วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฝ้ายหยิบมาลองทาบผมตัวเอง ส่องกระจกแล้วยิ้มๆ
เสียงอามเคาะประตูแล้วเปิดผลัวะเข้ามา ฝ้ายตกใจรีบซ่อนโบว์ไว้ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง
“ไอ้อาม ทำไมไม่มีมารยาทอย่างนี้” ฝ้ายด่า ตกใจไม่หายกลัวความลับแตก
“ฉันเคาะประตูแล้วนะ” อามมองจ้องฝ้ายที่มีพิรุธ “ท่าทางมีพิรุธ แกซ่อนอะไร อ่ะ...ซ่อนผู้ชายไว้ในห้องรึเปล่า”
ฝ้ายด่าอีก “ไอ้บ้า!!”
อามทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงอาการเพ้อๆ
“ฝ้าย แกไม่ได้ไปเจอน้องเฟิร์นกับชั้น แกพลาดอะไรไปตั้งหลายอย่าง”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับชั้นด้วย”
“แกจะได้ไปดูน้องเฟิร์นเค้าเป็นตัวอย่าง แล้วก็หัดทำตัวน่ารัก อ่อนหวานเหมือนเค้าไง แกจะได้มีผู้ชายมาจีบกับเค้าสักที”
ฝ้ายเซ็ง โดนเปรียบเทียบจนได้
อามเพ้อต่อ “ขนาดชั้นไม่ได้เจอเค้าใกล้ๆ ชั้นยังรู้สึกได้เลยว่าเค้าต้องสวยมากๆ เมื่อคืนแกรู้ไหมว่าชั้นฝันว่าอะไร ชั้นฝันว่าชั้นได้แต่งงานกับน้องเฟิร์นด้วย ในฝันน้องเฟิร์นเค้าใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว สวยมากเลย” เพ้อๆอยู่ครูหนึ่ง จึงหันมาหาฝ้าย “แล้วแกก็เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวว่ะ”
ฝ้ายเซ็งหนัก “ชั้นว่าแกหลงเค้ามากเกินไปรึเปล่า แล้วถ้าอะไรมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่แกคิด ชั้นกลัวแกจะเสียใจ”
“ไม่มีทางหรอก ชั้นบอกน้องเฟิร์นไปว่าชั้นจะไม่ทำให้เค้าเสียใจ และชั้นก็เชื่อว่าเค้าจะไม่ทำให้ชั้นเสียใจเหมือนกัน”
ฝ้ายอึ้ง ยิ่งกลุ้มและกดดันมากขึ้น
อามเห็นโบว์ที่ฝ้ายซ่อนไว้แลบออกมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง
“อะไรอ่ะฝ้าย”
อามหยิบโบว์อันนั้นขึ้นมาดูทันที อามมองที่โบว์แล้วมองหน้าฝ้ายนิ่ง
ฝ้ายซีด คิดว่าอามคงจับได้แน่ อามค่อยๆ หยิบเอาโบว์มาเทียบที่หน้าฝ้าย ฝ้ายยิ่งกลัว
“......ขี้เหร่มาก” ฝ้ายโล่ง “โบว์หวานๆ แบบนี้มันเหมาะกับผู้หญิงหวานๆ อย่างน้องเฟิร์นอย่างแกเนี่ย ชั้นว่าเอาปี๊บคลุมหน้าไว้เถอะ จะได้ไม่ไปทำร้ายสายตาคนอื่น”
อามขำก๊าก ฝ้ายโมโหดึงโบว์คืนมา อามออกไป
เห็นอามเพ้อหนัก เป็นเอามากขนาดนี้ ฝ้ายก็ยิ่งกลุ้มหนัก
ตอนสายวันเดียวกันนักข่าวแห่แหนกันมาทำข่าวที่สตูโมเดลเยอะมาก
อู๋กะแต้วมองอยู่อีกมุมหนึ่ง สองคนเป็นกังวลๆ
“บอสเค้าคิดอะไรของเค้าเนี่ย ทำไมเชิญนักข่าวมาเยอะแยะขนาดนี้” อู๋บ่น
“แกยังไม่รู้อีกหรออู๋ เค้าก็อยากดึงเรทติ้งหนังสือเค้าไง ดีนะที่ชั้นให้ดาวมันเข้าทางประตูหลัง จะได้ไม่ต้องเจอนักข่าว”
ป้ากบพาดีนี่เดินนวยนาดเข้ามา
“สวัสดีค่ะ ดีนี่มาแล้วค่ะ” นักข่าวกรูเข้าไปหาดีนี่
แต้วกับอู๋ เห็นยิ่งระอาใจ
“เพื่อนเราน่ะไม่อยากเป็นข่าว แต่สองคนนั่นน่ะกระสันอยากเป็นข่าวใจจะขาด” อู๋ว่า
นักข่าวยิงคำถามดีนี่ทันที “คุณดีนี่ถ่ายแบบกับคุณดาวแบบนี้ แถมคุณโอมเป็นคนถ่ายด้วย ไม่กลัว
มีปัญหากันเหรอครับ”
“จะมีปัญหากันได้ยังไงคะ พี่ดาวกับดีนี่เข้าใจกันแล้ว”
อู๋กับแต้วส่ายหน้า
“ทำไมเด็กคนเนี้ยสตอได้เนียนขนาดนี้นะ ชั้นเป็นกะเทยยังอายเลยแต้ว” อู๋บ่นอีก
แต้วมองดีนี่กับป้ากบอย่างไม่สนใจ
แต้วพาป้ากบกับดีนี่เดินเข้ามาในสตูดิโอ อู๋นั่งอยู่แถวนั้นด้วย
แต้วชี้ไปที่มุมห้อง “แต้วจัดที่แต่งหน้าไว้ให้ดีนี่กับป้ากบทางนู้นนะจ๊ะ”
อู๋ขัดขึ้นมา “ใช่ แล้วอย่าแหลมหน้าล้ำเส้นเข้ามาในเขตชั้นนะยะ ไม่งั้นเจอกะเทยแทงกบแน่”
ป้ากบสะบัดบ๊อบใส่ “เชอะ!”
ดีนี่เห็นโอมเข้ามา ก็ปรี่ไปหาทันที
“เมื่อวานดีนี่แวะไปที่บ้านแต่โอมไม่อยู่ ดีนี่เอาเค้กที่ทำไปฝากด้วย โอมได้ทานไหมคะ”
โอมหน้าเจื่อนๆ ทันใดนั้นประตูห้องแต่งตัวข้างหลังโอมเปิดผลัวะออกมา เห็นเพียงดาวที่ใส่เสื้อผ้าเตรียมถ่ายแบบเรียบร้อยออกมายืนข้างโอมแล้วจ้องดีนี่
แหนม ปลาหวาน คิว ทุกคนลุ้นๆ ว่าเพียงดาวจะระเบิดรึเปล่า
“ที่เค้าไม่อยู่บ้านเพราะเค้าไม่อยากเจอเธอ รู้อย่างนี้ก็เลิกไปกวนใจเค้าได้แล้ว”
ป้ากบแว้ดขึ้นมาทันที “นี่ดาว ดีนี่เค้าคุยกับโอมเฉยๆ เธอกับโอมก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว อย่างนี้เค้าเรียกว่าอะไรหวงก้างน๊า อ๋อ หมา!!”
อู๋ยิ้มหยัน “ท่าทางจะเชี่ยวชาญเรื่องหมานะกบ งั้นตัวที่เลี้ยงไว้ หล่อนช่วยหายาฆ่าเห็บหมัดมาใส่ด้วยนะ ท่าทางจะคันมาก”
ป้ากบโกรธจัด “นี่นังอู๋!!”
อู๋ถกแขนเสื้อชูกำปั้น ป้ากบชะงักเดินไปหาดีนี่
ป้ากบไม่ยอมจบ พูดกระแทกเพียงดาวต่อ “ดีนี่หนูต้องอดทนนะลูกนะ ท่องเอาไว้ มารไม่มีบารมีไม่เกิด เราน่ะมันดาวรุ่ง อย่าไปแลกกับดาวตกเลย”
เพียงดาวได้ยินไม่พอใจ ลุกจะเดินหนี แต่เหวี่ยงมือพลาดไปโดนแก้ว แก้วน้ำตกจากโต๊ะแตกดังเพล้ง ทุกคนอึ้ง
“นิ่งทำไม เก็บแก้วสิคิว” อู๋บอกคิว
คิววิ่งไปเก็บเศษแก้ว ดีนี่มองเศษแก้วคิดแผนออก
อีกด้านของสตู แหนม ปลาหวานซุบซิบกันอยู่
“แหนม แกว่างานนี้จะรอดไหม?” ปลาหวานถาม
แหนมตอบอย่างมั่นใจมาก “ชั้นว่าตบกันชัวร์”
เพียงดาวอยู่ในชุดสวยงามกระชากมือดีนี่แล้วง้างมือทำท่าจะคบ ทว่าเพียงดาวชะงักไม่ตบดีนี่แต่ค้างไว้ จากนั้นก็เห็นแสงแฟลชวูบวาบ
ทีมงานทุกคนดูอยู่ แต้ว อู๋ ป้ากบดูอยู่ด้วย โอมถ่ายภาพ ความจริงแล้วเพียงดาวกับดีนี่โพสท่าถ่ายแบบอยู่
มีนักข่าวค่อยเก็บภาพบรรยากาศการถ่ายแบบตลอดเวลา
อู๋บ่นเบาๆ “ไม่รู้ยังไงนะบอสเนี่ย ทำไมต้องให้ถ่ายคอนเซ็ปท์นี้ด้วย”
“ก็คงอยากให้มันฉาวน่ะสิ...ฉันคิดว่าอีกหน่อยฉันจะออกไปทำหนังสือของตัวเองแล้ว” แต้วพูดซีเรียส
“อย่าทิ้งเค้านะ...ไปด้วยนะ”อู๋อ้อน
ดีนี่กับเพียงดาวโพสท่ากันอยู่
ครู่ต่อมาดีนี่ และเพียงดาว เปลี่ยนชุดใหม่แล้ว โพสท่าจ้องหน้ากันแค้นๆ
ดีนี่โพสท่าดึงผมเพียงดาว เพียงดาวโพสท่ายกเอากระเป๋า Chanel 2.55 ตบหน้าดีนี่
ชุดต่อมาเพียงดาวดีนี่เปลี่ยนเป็นราตรียาว สวยสง่า ดีนี่นอนอยู่ เพียงดาวโพสท่าคร่อมเงื้อรองเท้า ส้นสูงของ louboutin จะตบ
“ดีครับ สวยครับ” โอมตะโกน ดีนี่ทำตามที่โอมบอก “อย่าเพิ่งลุกนะครับ เดี๋ยวผมขอเปลี่ยนเลนส์แป๊บนึงนะครับ”
โอมก้มเปลี่ยนเลนส์ ดีนี่ได้จังหวะเลยพูดยั่วเพียงดาว
“ดีนี่ยังไม่ได้ชมพี่ดาวเลยนะคะ เรื่องคลิปที่พี่ดาวอัดไป พี่ดาวเก่งมาก”
“แต่ชั้นก็เก่งไม่เท่าเธอหรอกนะ ก็อย่างว่าคนมันเลวในสายเลือด”
“ดีนี่ก็มีคลิปให้พี่ดาวดูเหมือนกันนะคะ เป็นคลิปของดีนี่กับโอม”
เพียงดาวอึ้ง “คลิปอะไร...”
“ไว้ไปดูเอาเองแล้วกันค่ะ มีทั้งภาพมีทั้งเสียง เร้าใจมาก”
เพียงดาวของขึ้นมาเป็นริ้วๆ พยายามควบคุมสติ
โอมเสร็จพอดี “โอเคครับพร้อมครับ 1.. 2...3”
สิ้นเสียงโอม เพียงดาวก็เงื้อรองเท้าในมือแล้วฟาดสุดแรง ทุกคนกรี๊ดตกใจคิดว่าเพียงดาวเอารองเท้าเฉาะหัวดีนี่
แต่เพียงดาวกลับฟาดเบี่ยงๆ ไป ดีนี่เองก็ตกใจ
“นังดาว แกจะบ้าหรือไง” ป้ากบพึมพำ
เพียงดาวยิ้มเยาะ “ฉันก็แค่โพสท่าตามคอนเซ็ปท์ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่พลาดหรอก” มองจ้องหน้าดีนี่ “แต่คนอื่นอย่าพลาดแล้วกัน”
อู๋เห็นท่าไม่ดี “ดาวๆๆ ฉันว่าเธอไปเติมปากนิดนึงดีกว่านะ มาๆๆ”
อู๋ กะแต้วพาเพียงดาวออกไป ดีนี่แอบมองเพียงดาวแค้นๆ
ดีนี่พูดกับป้ากบ “ป้ากบคะ ดีนี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ”
ดีนี่ออกมาจากห้องน้ำ ส่องกระจกดูหน้าตัวเองอยู่หน้าห้องน้ำ ล้างมือ เช็ดมือแล้วทิ้งทิชชู่ในถังขยะ ดีนี่ชะงักหยิบเศษแก้วออกมาจากถังขยะ
เศษแก้วเศษใหญ่น่ากลัวมาก ดีนี่ครุ่นคิดมองเศษแก้ว
เพียงดาว อู๋ กะแต้ว และทีมงานอยู่ในห้องแต่งหน้า
แต้วถาม “เสร็จแล้วใช่ไหมอู๋” อู๋พยักหน้า “ไปดาว..”
ทีมงาน อู๋ แต้ว และเพียงดาวออกจากห้องแต่งตัวไปแล้ว
ดีนี่เห็นว่าไม่มีใคร รีบเข้ามาในห้อง ดีนี่เดินไปที่มุมราวเสื้อผ้าของตนเอง มองกล่องรองเท้าที่แปะชื่อดีนี่ไว้
ดีนี่มองไปอีกมุมเห็นกล่องรองเท้าแปะชื่อเพียงดาว ดีนี่มีแผนในใจ
ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเพียงดาวแน่นอน
เพียงดาวกับดีนี่ถ่ายแบบต่อ โดยมีโอมเป็นคนถ่ายภาพ
แต้วบิ้วท์ทีมงาน “โอเค เซ็ทสุดท้ายแล้วค่ะ เปลี่ยนชุดเลย”
แต้ว อู๋พาเพียงดาวไปแต่งหน้า เพียงดาวเดินผ่านดีนี่แล้วจ้องหน้าเหยียดๆ โดยไม่ทันสังเกตุเห็นว่าลับหลังเพียงดาวดีนี่มองแล้วยิ้มเยาะ
เพียงดาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ อู๋เปลี่ยนสีปากให้
แต้วพูดกับเพียงดาว “เซ็ทสุดท้ายแล้ว โชว์ฝีมือเต็มที่เลยนะดาว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่แต้ว”
“ขอบใจดาวอีกครั้งนะ ที่ช่วยพี่”
ดีนี่เปลี่ยนชุด เปลี่ยนสีปากเสร็จ เดินเท้าเปล่าหาอะไรบางอย่าง เพียงดาวมองดีนี่
“ดาวเต็มใจค่ะพี่แต้ว ดีเหมือนกันจะได้รู้เสียทีว่าคนที่มันไม่มีฝีมือจริงๆ แต่เอาตัวเข้าแลกน่ะ มันอยู่ในวงการนี้ไม่ได้หรอก เผลอๆ อาจจะเป็นการถ่ายแบบครั้งสุดท้ายก็ได้ใครจะรู้”
ดีนี่แสร้งทำหน้าเจื่อน แล้วก้มหาของต่อ
แต้วกะอู๋เห็นสายตาของเพียงดาวที่มองดีนี่แล้วกังวล
“ดาว....ชั้นรู้นะว่าแกพยายามอดทน แต่ชั้นอยากรู้ว่าแกจะทนจนถ่ายรูปสุดท้ายได้รึเปล่า?” อู๋ถาม
“ดาวโอเคค่ะพี่” แต้วกะอู๋ไม่วายเป็นห่วง
เพียงดาวลุกไปส่องกระจก ดีนี่ยังหาของอยู่
“หาอะไรเหรอคะน้องดีนี่?” ชัช ทีมงานสงสัย
“รองเท้าดีนี่น่ะค่ะ ดีนี่หาของดีนี่ทั่วแล้วไม่เจอเลยค่ะ”
“แต่พี่เตรียมไว้ให้แล้วนะคะ อยู่กับชุดของดีนี่เลย เดี๋ยวพี่ช่วยหา”
ดีนี่ยิ้มขอบคุณ ชัชหารองเท้าให้ดีนี่ บริเวณเสื้อผ้าของดีนี่ แต่ไม่เจอ
เพียงดาวส่องกระจกอยู่ก็เหลือบไปเห็นกล่องรองเท้าที่แปะชื่อดีนี่อยู่ตรงที่วางรองเท้าของตนเอง
“ใช่นี่รึเปล่า?”
เพียงดาวหยิบกล่องรองเท้าของดีนี่ขึ้นมา ชัชมองงงๆ ดีนี่เดินมาจะรับรองเท้าจากเพียงดาว
“ขอบคุณค่ะพี่ดาว”
ดีนี่จะรับกล่องรองเท้าจากมือเพียงดาว แต่เพียงดาวเอากล่องรองเท้าวางกระแทกบนโต๊ะแล้วเอามือเขี่ยออกไปให้พ้นตัว ท่าทางรังเกียจ ดีนี่อื้ง
“ชัชแยกเสื้อผ้าพี่ดาวกับน้องดีนี่ไว้คนละมุมนี่ รองเท้าดีนี่ไปอยู่กับเสื้อผ้าพี่ดาวได้ไง?”
“มายังไงก็ไม่รู้ รู้แต่พอไปแล้วแผ่นดินตรงนี้สูงขึ้นทันทีเลย” อู๋กระแทกคำ
ดีนี่หน้าเจื่อน เพียงดาวไม่ได้สนใจมาก
“ขอรองเท้าให้ชั้นด้วยชัช”
ชัชหยิบรองเท้าให้เพียงดาว
ดีนี่มองเพียงดาวแล้วยิ้มร้ายออกมาแวบหนึ่ง เพียงดาวค่อยๆ ใส่รองเท้าคัทชูสีดำ
ดีนี่จ้องดาวแล้วยิ้ม
เพียงดาวใส่รองเท้าเข้าไปแต่ไม่เป็นอะไร ดาวกำลังจะเดินออกไป
แต่พอดีนี่ใส่รองเท้าคัทชูแล้วออกอาการเจ็บปวด ตกใจ ร้องกรี๊ดทันที
“โอ๊ยย!” ดีนี่ล้มลงทันที ทุกคนงง
ป้ากบปรี่เข้ามา “เป็นอะไรดีนี่?”
ดีนี่ถอดรองเท้าเห็นเลือดไหลออกมาเต็มเท้าดีนี่ ทุกคนตกใจร้องกรี๊ดลั่นสตู
ป้ากบรีบดูในรองเท้าดีนี่ แล้วหยิบเศษแก้วเปื้อนเลือดออกมา
โอมและทีมงานคนอื่นรีบวิ่งเข้ามาดู ทุกคนอึ้ง
นักข่าวฮือฮา กรูกันเข้ามาถ่ายรูป บันทึกภาพวิดีโอ
“ไม่มีอะไรค่ะๆ เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” แต้วบอก
“ดีนี่ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายต่อเถอะ...” ดีนี่ลุกขึ้นแล้วเจ็บร้องออกมา “โอ๊ย!”
“ดีนี่!!!”
ป้ากบชะงักแล้วคิดได้ หันมามองเพียงดาวแค้นจัด เพียงดาวเห็นสายตาป้ากบก็งง
“ไม่ต้องถ่ายแล้ว พาน้องส่งโรงพยาบาลก่อน” แต้วบอก
แต้ว กะปลาหวานรีบพาดีนี่ออกไป นักข่าวกรูตามออกไป ป้ากบมองเพียงดาวสายตาเคียดแค้นอยากจะเข้าไปบีบคอแต่เป็นห่วงดีนี่มากกว่าป้ากบตัดใจออกไป
“ทำไมเศษแก้วไปอยู่ในรองเท้าดีนี่ได้” ชัชเอ่ยขึ้นงงๆ
ทุกคนชะงักแล้วค่อยๆ หันไปมองเพียงดาวเป็นตาเดียวกัน
“อะไร...ฉันไม่รู้เรื่องนะ” เพียงดาวหันไปเห็นสายตาของอู๋และโอมที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ชั้นไม่ได้ทำนะโอม”
ทีมงานที่เหลือมองต่างมองเพียงดาวสายตาสงสัยแล้วค่อยๆ ออกไป โอมเดินออกไป
“โอม!! ชั้นไม่ได้ทำนะ เชื่อชั้นนะโอม” เพียงลุกตามโอมออกไป อู๋ตามติด
หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งนั้น นักข่าวรอทำข่าวดีนี่มากมาย
สักครู่หนึ่งพยาบาลเข็นดีนี่ออกมา มีป้ากบ กะแต้วตามออกมา นักข่าวกรูเข้าไปถาม
“เกิดอะไรขึ้นครับ ดีนี่”
“นี่เป็นอุบัติเหตุหรือว่ามีคนกลั่นแกล้ง”
ดีนี่พูดกำกวมชวนให้คิด “ดีนี่ ไม่ขอพูดอะไร ขอให้เรื่องนี้จบแค่นี้นะคะ”
“คุณดาวเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหมครับ”
“ดีนี่ขอร้องค่ะ ดีนี่ขอไม่ตอบนะคะ ขอให้เรื่องจบแค่นี้”
ป้ากบแค้นใจ “หนูไม่พุดป้าพูดเอง...กบฝากพี่ๆทุกคนถามดาวเค้าด้วยนะคะ ว่าทำไมทำกับเด็กของกบขนาดนี้”
ดีนี่แสร้งทำเป็นห้าม “ป้าคะ”
ป้ากบของขึ้นใส่แบบจัดหนัก
“กบเข้าใจค่ะ ว่าเค้าเกลียดดีนี่ ที่ผ่านมาเจอกับดีนี่ทีไรเค้าก็หาเรื่องค่อนขอดตลอด ดีนี่ก็ไม่เคยว่า มีข่าวอะไรเสียๆหายๆ ดีนี่ก็ไม่เคยซ้ำเติมมีแต่จะตามแก้ข่าวให้ แต่ดูเค้าทำสิคะ” มองสภาพแล้วยิ่งสงสารดีนี่ แค้นใจ จนน้ำตาไหล “เย็บยี่สิบเข็มเลยนะคะ เค้ากะจะให้ดีนี่เดินแบบไม่ได้ ดีนี่เค้าไปทำอะไรให้เธอเหรอ ดาว! จงเกลียดจงชังอะไรเด็กมันนักหนา”
ดีนี่บีบน้ำตาร้องไห้ “พอเถอะค่ะป้า”
นักข่าวหันมาทางแต้ว “จริงหรือเปล่าครับคุณแต้ว”
แต้วอึ้งพูดอะไรไม่ออก
เวลาผ่านไป อู๋ โอม เพียงดาว นั่งเครียดกันอยู่ อู๋ กะโอมมองเพียงดาว ที่มีท่าทีหัวเสีย
“อยากจะพุดอะไรก็พูดมาสิ โอม”
“คุณดาวทำหรือเปล่าครับ”
“ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ” เพียงดาวขึ้นเสียง
“แล้วเศษแก้วมันไปอยู่ในรองเท้าดีนี่ได้ยังไง” อู๋สงสัย
“ดาวไม่รู้”
“แต่ก่อนหน้านั้น ดาวเป็นคนหยิบรองเท้าให้ดีนี่เองนะ”
เพียงดาวอึ้ง โกรธอู๋ที่ไม่เชื่อตน แต้วเดินเข้ามา โอมถาม
“เป็นยังไงบ้างครับพี่แต้ว”
“เย็บยี่สิบเข็ม” แต้วบอก
ทุกคนอึ้ง
“พี่แต้วคะ ดาวไม่ได้ทำนะคะ ดาวก็ไม่รู้ว่าเศษแก้วไปอยู่ในรองเท้าเค้าได้ยังไง”
แต้วไม่มองหน้าดาว
“พี่แต้วไม่เชื่อดาวเหรอคะ”
แต้วเสียใจน้ำตาไหล “พี่คิดว่าที่ดาวยอมถ่ายแบบกับดีนี่ เพราะอยากจะช่วยพี่...”
เพียงดาวอึ้ง
“ก็ใช่สิคะ ดาวอยากช่วยพี่ ดาวถึงยอม นี่พี่หมายความว่ายังไง พี่คิดว่าดาวยอมถ่ายแบบกับเค้า เพราะอยากหาโอกาสทำร้ายเค้าเหรอคะ ทำไมพี่สงสัยดาวอย่างนี้ ดาวไม่ได้ทำนะคะ”
แต้วไม่ตอบ เพียงดาวเสียใจ ระคนน้อยใจ
“ทำไม ทำไมทุกคนไม่เชื่อดาว ดาวไม่ได้ทำจริงๆ”
อู๋ โอม และแต้วเครียดจัด พุดอะไรไม่ออก ดูเหมือนทุกคนต่างไม่เชื่อคำพูดเพียงดาว
วันต่อมาหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว “เหยื่ออารมณ์เพียงดาว ดีนี่เย็บกว่า 20 เข็ม”
มีคนซื้อหนังสือพิมพ์ไป แล้วเม้าท์กันสนุกปาก
ขณะเดียวกัน ในออฟฟิศหนึ่ง พนักงานรุมกันอยู่ที่คอมพิวเตอร์ เปิดอินเตอร์เน็ต อ่านกระทู้เพียงดาวที่ทำร้ายดีนี่ แล้วล็อกอินเข้าไปแสดงความเห็น พนักงานพิมพ์คำว่า
“เกลียดเพียงดาวมาก ทำอย่างนี้ได้ยังไง”
ตอนสายวันเดียวกัน รายการแฉออนทีวีก็ไม่พลาดหยิบประเด็นร้อนมานำเสนอ
“เรื่องมันไม่จบไม่สิ้นเลยนะคุณกฤษณ์ เรียกว่ามหากาพย์กันเลยทีเดียว” มดดำใส่อารมณ์
“ใช่ ไม่ธรรมดานะคราวนี้ เล่นแรงจริงๆ นางแบบ พด. ถึงกับเอาเศษแก้วไปใส่รองเท้าของนางแบบ ดน.เย็บไปตั้ง 20 เข็ม” กฤษณ์พูดเซฟกลัวถูกฟ้อง
แต่มดดำไม่หวั่น “ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องย่อ พูดไปเลยว่าเพียงดาวกับดีนี่”
“ไม่ได้หรอก เกิดคุณ พด. เค้าโกรธ เกิดเอาเศษแก้วมายัดใส่กางเกงผม เป็นเดชไอ้ด้วนเลยนะคุณ”
ทุกคนที่ดูต่างพากันขำๆ
ตอนสายๆ แหนม คิว ปลาหวาน อยู่ที่ร้านส้มตำข้างออฟฟิศโมเดล ร้านประจำ
“ชั้นว่าแล้วทำไมวันนั้นคุณดาวถึงนิ่งปกติ ที่แท้ก็มีแผน รอทำร้ายดีนี่นี่เอง”
“ฝีมือคุณดาวแน่หรอ คุณดาวเค้าจะทำแบบนั้นทำไม เสียเครดิตของเค้านะ” ปลาหวานไม่ปักใจเชื่อ
“พิษรักแรงหึงมั้งพี่ ผู้หญิงน่ะเวลาหึงมันน่ากลัวจัง ผมไม่กล้ามีแฟนแล้ว”
“ถึงแกกล้าก็หาไม่ได้หรอกไอ้คิว”
ปลาหวานกัดเจ็บคิวเซ็งๆ
ภาพในรายการข่าวทีวีเวลานั้น พิธีกรสาวสองคนกำลังคุยข่าวกันอยู่อย่างเมามันส์
“ประเด็นวงการบันเทิงเราตอนนี้คงไม่มีประเด็นไหนร้อนแรงเท่ากับเรื่องที่เพียงดาวนางแบบชื่อดังไปทะเลาะกลั้นแกล้งดีนี่นางแบบรุ่นน้อง จนเลือดตกยางออกค่ะ” คนหนึ่งเปิดประเด็น
พิธีกรอีกคนเสริม “เราไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าคนในวงการเค้าว่ายังไงกันบ้าง”
นุช นีรนาท เพื่อนนางแบบร่วมวงการ ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็น
“พอรู้เรื่องนุชก็ตกใจเหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าพี่ดาวจะทำขนาดนี้ มีข่าวขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะว่ายังไง” นุชออกตัว
ครู่ต่อมา หมู ดีไซเนอร์แบรนด์ดัง Memory กำลังให้สัมภาษณ์อยู่
“คนอื่นพี่ไม่รู้ แต่สำหรับพี่ ดาวคงร่วมงานกับพี่ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้แบบนี้ มันเป็นอันตรายกับผู้ร่วมงาน แล้วที่สำคัญเสียภาพลักษณ์แบรนด์ของพี่ด้วยค่ะ”
ต่าย ผู้จัดการช่อง Runway Chanel ให้สัมภาษณ์ต่อ
“คือในสังคมไทยเรา คนที่ทำงานด้านนี้ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นด้วย แต่ดาวเกิดเรื่องแบบนี้ มันก็ไม่ใช่ผลดีกับตัวดาวเลย เสียดายชื่อเสียงที่เค้าสะสมมา ตอนนี้พี่ก็ได้ยินข่าวมาว่าหลายแบรนด์รวมตัวกันแบนดาวแล้ว”
แต้วกะอู๋ดูรายการข่าวทางทีวีรายการนั้นอยู่ในห้องทำงานแต้ว สองคนต่างพากันถอนใจ
“ดาว มันแย่แน่แต้ว ทำไงดี” อู๋จิตตก
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์แต้วดังขึ้น แต้วรีบรับ
“อะไรนะคะ ป้านุช ค่ะๆๆ เดี๋ยวแต้วรีบไป” แต้วร้อนใจมาก
“มีอะไรแต้ว”
แต้วเครียดจัด
มารยาริษยา ตอนที่ 6 (ต่อ)
นักข่าวยืนรออออยู่หน้าบ้านเพียงดาวกันมากมาย รถแต้วแล่นมาจอด แต้วกะอู๋ลงจากรถ ป้านุชมาเปิดประตูให้ นักข่าวเห็นต่างพากันกรูเข้าไปทึ้งถามแต้วและอู๋
“เรื่องที่เพียงดาวแกล้งเอาเศษแก้วใส่รองเท้าดีนี่ มีเหตุจากอะไรคะ?”
“ตอนนี้ไม่อยากให้ด่วนตัดสินดาวนะคะ” แต้วตอบ
นักข่าวซักต่อ “คุณแต้วหมายความว่าเพียงดาวไม่ได้ทำเหรอคะ?”
อู๋กะแต้วมองหน้ากัน
แต้วพูดไม่เต็มปาก “ดาวไม่ใช้คนที่จะใช้ความรุนแรงนะคะ เชื่อแต้วเถอะนะคะ ขอตัวนะคะ”
แต้วกะอู๋ฝ่านักข่าวเข้าบ้านไป นักข่าวยังคงตะโกนถามไล่หลัง
ป้านุชพาแต้วและอู๋เข้ามาเห็นเพียงดาวท่าทางร้อนรนกระวนกระวาย ป้านุชกระซิบบอกแต้ว
“ไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ”
แต้วกะอู๋มองเพียงดาวอย่างสงสาร เพียงดาวเห็นแต้วกะอู๋ก็ชะงักยกมือไหว้ ดีใจที่สองคนมาเยี่ยม แต่ก็ยังน้อยใจที่แต้วอู๋ไม่เชื่อตน
แต้วบอก “อย่าเครียดนะดาว เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีก”
“ขอบคุณค่ะ”
“แกอยู่ในนี้แหละ ไม่ต้องออกไปเจอพวกนักข่าวหรอก เดี๋ยวเกิดเรื่องอีก”
เพียงดาวชะงัก “เกิดเรื่องอีก...ดาวไม่ได้ทำให้มันเกิดเรื่องนะคะพี่ พี่ทำไมไม่เชื่อดาว”
แต้วปลอบ “อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้เลยนะดาว พี่อยากให้ดาวพักผ่อน” หยิบยาและแก้วน้ำให้ “ทานยานี่นะ ตอนที่พี่เครียดๆ หมอเค้าให้ยานี่มา ช่วยได้ ดาวจะได้หลับสบายๆ” เพียงดาวอึ้งๆ
อู๋พยักหน้า “แค่ยาคลายเครียดน่ะดาว กินแล้วจะได้สงบใจ พักผ่อน
“สงบใจ...พี่คิดว่าดาวควบคุมอารมณ์ไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” แต้วลำบากใจ
“ดาวไม่กิน ดาวไม่ได้ป่วยนะคะ ดาวไม่ได้ทำร้ายดีนี่ คนอื่นจะเห็นว่าดาวเป็นยังไง ดาวไม่สน แต่พี่แต้วพี่อู๋รู้จักดาวดี พวกพี่เชื่อดาวนะคะ”
“ถึงยังไงพวกชั้นก็ไม่ทิ้งเธอหรอกดาว ชั้นจะอยู่ข้างเธอ” อู๋ว่า
“ดาวไม่ต้องการให้ใครเข้าข้าง ดาวต้องการให้พวกพี่เชื่อใจดาว” เพียงดาวบอกเสียงแข็ง
สองคนอึ้งไม่รู้จะพูดยังไง เพียงดาวมองหน้าแต้วอู๋อ้อนวอน
แต้วกะอู๋ลำบากใจ เพียงดาวยังคงรอคำตอบ โทรศัพท์แต้วดังขัดขึ้น แต้วหยิบดู
“ออฟฟิศโทร.ตามแล้ว เดี๋ยวพี่กับอู๋ต้องกลับไปประชุม แล้วเย็นๆ พี่จะรีบมานะ” แต้วหันไปพูดกับป้านุช “ฝากด้วยนะคะ ป้า”
แต้วกดรับโทรศัพท์แล้วเดินนำออกไป อู๋มองเพียงดาวด้วยความสงสาร แล้วตัดใจเดินตาม เพียงดาวอึ้งทรุดลงคาที่ แม้แต่แต้วกับอู๋ก็ไม่เชื่อเรื่องความบริสุทธิ์ของตน
สายวันนั้น ทีวีออกข่าวเป็นภาพเหตุการณ์ที่ดีนี่กับป้ากบอยู่ที่โรงพยาบาล อามนั่งดูอยู่ที่ร้านดอกไม้ มีโอมนั่งเช็ดกล้องหน้าเครียดๆ อยู่ แม่อ้อยนั่งจัดดอกไม้
“ทำไมพี่ดาวเค้าใจร้ายได้ขนาดนี้ครับ”
โอมเครียดมาก ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวแทนดาวยังไง
“อามปิดเถอะ แม่ไม่อยากดู”
อามปิดทีวี แม่อ้อยเดินออกไป โอมรู้ว่าเพียงดาวยิ่งติดลบในสายตาแม่ก็เครียดหนัก
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์โอมดังขึ้น โอมกดรับ
“ครับ คุณดาว”
แม่อ้อยกะอามหูผึ่ง หันไปมอง
เพียงดาวจอดรถคุยโทรศัพท์อยู่ในที่แห่งหนึ่ง
“โอม…โอมต้องเชื่อชั้นนะ ชั้นไม่รู้จริงๆ ว่าเศษแก้วมันไปอยู่ในรองเท้าดีนี่ได้ยังไง”
“ผมว่าคุณดาวอย่าเพิ่งพูดตอนนี้เลยครับ”
โอมอึกอัก
“วางสายเถอะลูก” แม่อ้อยบอก
“แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมโทร.กลับนะครับคุณดาว” โอมวางสาย
“นี่คงโทร.มาแก้ตัวอีกน่ะสิว่าไม่ได้ทำ” อามเหน็บแนม
ไม่ทันขาดคำเพียงดาวพรวดพราดเข้าร้านมา ทุกคนอึ้ง เพียงดาวไหว้แม่อ้อย
“คุณดาวมาได้ไงครับ”
“ชั้นต้องมา ชั้นอยากคุยกับโอมให้รู้เรื่อง โอมต้องเชื่อชั้นนะว่าชั้นไม่ได้เอาเศษแก้วใส่รองเท้าดีนี่จริงๆ”
“อยากให้คนอื่นเชื่อใจ แล้วเคยเชื่อใจคนอื่นบ้างหรือเปล่าล่ะ” อามต่อว่า
แม่อ้อยดุ “อาม!” หันมาพูดกับเพียงดาว “หนูดาวกลับไปก่อนเถอะ”
“แม่คะ ดาวไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ” แม่อ้อยนิ่ง “ดาวยอมรับนะคะว่าดาวเกลียดเค้า แต่ดาวไม่เคยคิดจะทำร้ายเค้าขนาดนั้น”
แม่อ้อยถอนหายใจหันหน้าหนีเพราะยากจะทำใจให้เชื่อ เพียงดาวใจหายรู้สึกเคว้งคว้างหันกลับมาหาโอมพยายามกลั้นน้ำตา
“โอม...ชั้นขอร้องล่ะแม้แต่พี่แต้วพี่อู๋ก็ไม่เชื่อชั้น ตอนนี้ชั้นเหลือแค่โอมคนเดียว โอมบอกชั้นได้ไหม ว่าโอมเชื่อชั้น”
โอมอึกอักตอบอะไรก็ไม่ดีไปหมด เพียงดาวใกล้หมดหวังจับแขนโอมขอร้อง
“พูดมาสิโอม...”
แม่อ้อยเสียงแข็งหน้าดุ “ดาวแม่ขอร้องกลับไปก่อนเถอะ”
เพียงดาวอึ้งๆ มองสายตาทุกคนที่มองมายังตนเอง รวมถึงโอมแล้วหมดหวัง เพียงดาวไหว้แม่แล้วเดินออกไป
หลายวันผ่านไป แผงหนังสือ หนังสือพิม์พาดหัวเด่นหรา “ทั้งวงการพร้อมใจแบนเพียงดาว”
เพียงดาวนั่งหมดอาลัยอยู่ในบ้าน แต้วเดินถือแก้วน้ำส้มมาให้ อู๋คุยโทรศัพท์อยู่
“ไม่ได้นะคะ จะถ่ายอยู่พรุ่งนี้แล้ว โทรมาแคนเซิลแบบนี้ไม่ได้นะคะ คิวยัยดาวก็ล็อคไว้ให้คุณแล้ว สัญญาก็เซ็นต์ไปแล้ว.... แบบนี้แล้วกันนะคะ ถ้าไม่ถ่ายคงต้องฟ้อง...”
เพียงดาวทนไม่ไหวแล้ว “พอเถอะค่ะพี่อู๋...” ดึงโทรศัพท์มาแล้วกดวางทันควัน “ดาวไม่ถ่ายแล้ว”
“ใจเย็นๆนะดาว” แต้วพูดปลอบ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะงานอื่นก็มีเยอะแยะใครจะแคนเซิลก็ปล่อยเค้าเถอะค่ะ”
แต้วกะอู๋มองเพียงดาวด้วยความสงสาร
โปสเตอร์โฆษณาสินค้าที่เพียงดาวเป็นพรีเซ็นเตอร์ตกอยู่ที่พื้นถนน ผู้คนเดินเหยียบย่ำไปมาอย่างไม่สนใจ
ขณะเดียวกันภายในรถเพียงดาวคุยโทรศัพท์หน้าตาซีเรียสอยู่
“ในสัญญาบอกว่าเป็นพรีเซนเตอร์สองปีนี่คะ นี่ยังไม่ครบสัญญาเลยนะคะ...” ฟังแล้วอึ้งไป “ค่ะ ดาวเข้าใจ”
เพียงดาวกดวางสายอย่างอ่อนล้า ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ แล้วต้องอึ้งอีก เมื่อเห็นพนักงานห้างรื้อบิลบอร์ดโฆษณาสินค้าของตัวเองลง และเห็นรูปบิลบอร์ดใบหน้าดีนี่กำลังถูกยกขึ้นเตรียมแขวนแทนที่รูปตน
เพียงดาวมองนิ่ง อึ้ง รู้สึกสะเทือนใจหนัก อาชีพที่เธอรักและทุ่มเทเพื่องานคุณภาพ กำลังจบสิ้นแล้วอย่างนั้นหรือ
สายวันต่อมา เพียงดาวพาตัวเองมานั่งอยู่ต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ของวัดแห่งหนึ่ง ซูเปอร์โมเดลสาวมั่นพยายามนั่งสงบสติอารมณ์ แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพียงดาวจิตตกทั้งโกรธทั้งผิดหวังที่ทุกคนต่างพากันเข้าใจผิด ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ผิด
เพียงดาวสติกระเจิงหยิบธูปมา แล้วเอาไฟแชคจุดธูปอย่างมีอารมณ์แต่จุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด นั่นยิ่งทำให้เพียงดาวรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง
เสียงแม่ชีดังมาจากเบื้องหลัง “ใจเย็นๆ นะคะหนู”
แม่ชีสีหน้าสงบนิ่ง นั่งคุกเข่าลงหยิบธูปและไฟแชคมาจุด แล้วยื่นส่งธูปให้เพียงดาว
เพียงดาวไหว้พระ แล้วเอาธูปไปปัก
“ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่มีความทุกข์หรอกหนู แต่ถ้าปล่อยให้ใจเราจับจดอยู่กับควาทุกข์มันก็จะยิ่งทุกข์หนัก แทนคิดถึงสิ่งที่เสียไป ลองคิดถึงสิ่งที่เรายังมีอยู่สิ
เพียงดาวนิ่งคิดตามแม่ชีแล้วพยักหน้า
แต้ว อู๋ และโอม อยู่ที่บ้านเพียงดาว ต่างอยู่ในอาการกระวนกระวายเป็นห่วงเพียงดาว ที่จู่ๆ หายตัวไปโดยไม่มีใครที่บ้านรู้ อู๋พยายามโทรศัพท์หาเพียงดาว แต่ไม่ติด
“มันไปไหนของมันเนี่ย ดาวยังไม่เปิดเครื่องเลยแต้ว โอม ชั้นเป็นห่วง” อู๋จิตตกมากกว่าใคร
แต้วพยายามปลอบ แม้ในใจจะร้อนรุ่ม “ใจเย็นๆ นะ ดาวอาจอยากอยู่เงียบๆคนเดียว ดาวมันคงไม่เป็นไรหรอก”
“ชั้นรู้ว่าแกพยายามปลอบใจตัวเอง ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าดาวมันโดนแคนเซิลงานทั้งปี คราวโอลีเวียงานเดียวมันยังหนีไปเขาใหญ่ นี่โดนแคนเซิลงานทั้งปี ชั้นกลัวมันทำใจไม่ได้ แล้วมันก็จะ....”
โอมยิ่งฟังยิ่งเป็นห่วง ลุกพรวดคว้ากุญแจรถจะออกไป
“ผมจะไปตามหาคุณดาว”
โอมวิ่งออกไปหน้าบ้าน แต้ว กะอู๋วิ่งตาม
“เดี๋ยวสิโอม โอมจะไปตามหาที่ไหน?” แต้วถาม
โอมยังไม่ทันตอบ รถยนต์ของเพียงดาวก็แล่นเข้ามาจอด แต้ว อู๋ และโอมดีใจมาก เพียงดาวก้าวลงจากรถด้วยท่าทางอันสงบ
แต้วกะอู๋ปรี่เข้าไปหาเพียงดาว
“ดาว แกหายไปไหนมา” อู๋ถาม
แต้วเสริม “พวกพี่เป็นห่วงดาวมากเลยนะ”
เพียงดาวอึ้งยังไม่ทันพูดอะไร โอมก็ดึงร่างเพียงดาวรั้งเข้ามากอด
“คุณดาวอย่าหายไปอีกนะครับ ผมเป็นห่วงคุณดาว”
เพียงดาวค่อยๆ ผละตัวออกจากโอม
“ดาวขอโทษนะคะ ที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง แต่ดาวไม่เป็นไรแล้ว”
ทุกคนต่างงุนงงที่เห็นเพียงดาวสงบอย่างน่าประหลาด
ที่โต๊ะอาหาร แต้ว อู๋ โอม และเพียงดาวนั่งทานข้าวมื้อเที่ยงกันอยู่ มีป้านุชคอยดูแล
สักครู่หนึ่งเพียงดาวก็รวบช้อน
“เห็นคุณดาวทานข้าวได้แบบนี้ป้าก็หายห่วงค่ะ” ป้านุชยิ้ม
“ดาว พี่กับอู๋มีงานต่อ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะแวะมาหาดาวอีกทีนึงนะ” แต้วออกตัว
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่แต้ว คืนนี้ผมจะค้างที่นี่” โอมบอก
อู๋สัพยอก “อู๊ยยย งั้นเราคงไม่จำเป็นแล้วล่ะแต้ว โอมคงจะปลอบใจยัยดาวได้ดีกว่าเราอ่ะ พี่ไปนะ”
เพียงดาวเรียกไว้ “เดี๋ยวค่ะ” แล้วเดินไปหยิบกระปุกยาของแต้วมาคืน
“ดาวคืนนะคะ”
แต้วมองเพียงดาวสายตาเป็นกังวล
“ดาวรู้ค่ะ ว่าพวกพี่ไม่เชื่อว่าดาวควบคุมอารมณ์ได้ เรื่องรองเท้าของดีนี่ถ้ามองกันจริงๆ สิ่งที่ดาวพูดก็เชื่อยาก”
แต้ว อู๋ โอม ต่างอึกอักไม่อยากพูดถึง
เพียงดาวพูดต่อ “พี่ๆทำถูกแล้วล่ะค่ะ เพื่อนที่ดีไม่ใช่ว่าต้องหลับหูหลับตาเชื่อเพื่อนทุกอย่าง แต่ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกไม่ควรก็ต้องตักเตือนกัน เหมือนที่พี่ทำเนี่ยแหละค่ะ ขอบคุณนะคะที่ตักเตือนดาว”
แต้วกะอู๋ใจชื้นยิ้มมองหน้ากัน
“พี่ดีใจนะดาวที่ดาวเข้าใจพี่...”
เพียงดาวยิ้ม สวมกอดแต้ว อู๋ซึ้งเข้าไปกอดรวบทั้งสองสาวไว้ในอ้อมแขน
โอมดีใจที่เห็นเพียงดาว แต้ว และอู๋กลับมาเข้าใจกัน
คืนนั้น เพียงดาวนั่งอยู่ปลายเตียงในห้องนอน กำลังเปิดดูรูปผลงานถ่ายแบบต่างๆ ของตนเองในไอแพดแล้วสะท้อนใจ เพียงดาวเลื่อนไปถึงรูปที่โอมหลอกให้ทำเซอร์ไพรส์ ตอนที่โอมเป็นคนถ่ายแบบให้ครั้งแรก
ระหว่างนั้นโอมเดินออกมาจากห้องน้ำ เข้ามาข้างหลังเพียงดาวแล้วหอมแก้ม
โอมแซว “เซอร์ไพรส์ครับ...”
เพียงดาวหันมองโอมสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
“โอม....ถ้าชั้นไม่ได้เป็นนางแบบแล้ว โอมยังจะรักชั้นไหม?”
“คุณดาวพูดอะไรครับ”
“ตอนนี้ไม่มีใครอยากร่วมงานกับชั้นแล้ว สิ่งที่ชั้นกลัวมาตลอดมันเกิดขึ้นแล้วโอม”
โอมดึงเพียงดาวเข้ามากอดปลอบ
“อย่ากังวลเลยนะครับคุณดาว คุณดาวจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้”
“ที่เขาใหญ่โอมเคยบอกชั้นว่า โอมรอถ่ายรูปชั้นมาสิบสองปี แล้วถ้าวันนี้ชั้นไม่ใช่นางแบบในฝันของเธอ เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา เธอยังจะรักชั้นอยู่ไหม”
โอมมองจ้องหน้าเพียงดาว “ที่เขาใหญ่ผมบอกว่า ผมจะรักแต่ดวงดาวและต้องเป็นดาวดวงนี้เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลกครับ ผมรักคุณดาว เพราะคุณดาวเป็นคุณดาว”
เพียงดาวกอดโอมแน่น ซาบซึ้งใจที่โอมยังอยู่เคียงข้าง
หลายวันต่อมา ที่บริเวณลอบบี้โรงพยาบาล มีนักข่าวมายืนรอทำข่าวกันอย่างหนาแน่น สักครู่หนึ่งพยาบาลเข็นดีนี่ที่นั่งบนรถเข็นออกมา ป้ากบเดินตามต้อยๆ พยาบาลหยุดรถตรงหน้านักข่าว ดีนี่ค่อยๆ ลุกยืน นักข่าวเฮ!! ปรบมือถ่ายรูปด้วยความดีใจ ดีนี่เดินให้สื่อมวลชนดูว่าหายแล้ว แล้วยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน
“ขอบคุณนะคะที่เป็นกำลังใจให้ดีนี่”
นักข่าวถ่ายรูปรัว ป้ากบยิ้มปลาบปลื้ม
บนแผงหนังสือ เห็นว่าปกหนังสือล้วนมีแต่รูปดีนี่ลง
บนถนนเห็นรถเมล์แล่นมา ที่ข้างรถเมล์เห็นรูปดีนี่เป็นฟรีเซ็นต์เตอร์กล้องถ่ายรูป
ที่บ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ดีนี่นั่งอยู่บนเก้าอี้อ่านนิทานให้เด็กฟัง เด็กๆ พากันล้อมวงฟังอย่างตั้งใจ
“...และแล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”
เด็กๆพากันปรบมือ พากันรุมกอดดีนี่ นักข่าวถ่ายรูป
จากนั้นดีนี่ก็เดินทางไปให้สัมภาษณ์ในรายการห้องข่าวบันเทิง
“ละครกำลังจะเปิดกล้องเร็วๆนี้ แต่เป็นเรื่องอะไรดีนี่ขออุบไว้ก่อนนะคะ ยังไงให้กำลังใจดีนี่ด้วยนะคะ”
ดีนี่กำลังก้าวสู่วงการบันเทิงอีกแล้ว หลังเขี่ยเพียงดาวลงจากบัลลังก์สำเร็จ
วันหนึ่งที่หน้าร้านกาแฟเจอเวนิว ดีนี่กำลังถ่ายรูปกับกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งอยู่ ป้ากบถ่ายเสร็จก็ยื่นคืนให้เด็กๆ
“ขอบคุณนะคะ” หันมาพูดกับดีนี่ “ขอบคุณนะคะพี่ดีนี่ พวกหนูรอดูละครของพี่ดีนี่อยู่นะคะ”
“ขอบคุณนะคะ ยังไงก็ตั้งใจเรียนแล้วก็เป็นเด็กดีนะคะ”
เด็กๆ ไหว้ดีนี่ แล้วพากันออกไปอย่างปลาบปลื้ม
ดีนี่กับป้ากบลงนั่ง ป้ากบหยิบหนังสือกอสสิปดาราที่วางบนโต๊ะขึ้นมาดู
“ว้าย!! ดูนี่สิจ้ะดีนี่”
ป้ากบส่งหนังสือให้ดีนี่ดู
บนหน้าปก เป็นภาพแอบถ่ายเพียงดาวกับโอมที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง เพียงดาวแต่งตัวสบายๆ ไม่เนี้ยบอย่างที่เคยเป็น มีข้อความพาดหัวว่า “ดาวตกดิน เพียงดาวหมดสภาพ”
“เห็นไหมจ๊ะดีนี่ คนที่มันทำกรรมมันก็ต้องได้รับผลกรรมอย่างนี้แหละ”
“ป้าอย่าไปว่าเค้าเลยค่ะ ต่อไปดีนี่ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถอะนะคะ”
ระหว่างนั้นดีนี่เหลือบเห็นใครบางคน
“เดี๋ยวดีนี่มานะคะป้า” ดีนี่ลุกออกไปเลย
“อ้าว! ดีนี่!” ป้ากบแปลกใจรีบลุกตามไป
ดีนี่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามามองหาใครบางคนในซูเปอร์มาเก็ตของเจอเวนิว ป้ากบตามมาแบบงงๆ
มองไปอีกด้านหนึ่งดีนี่เห็นหลังใครบางคนไวๆ เลี้ยวไปที่ล็อกขายเครื่องกระป๋อง ดีนี่รีบวิ่งไป ป้ากบวิ่งตาม
ดีนี่เลี้ยวมาเห็นว่าเพียงดาวที่แต่งตัวสบายๆ เลือกอาหารกระป๋องอยู่ ป้ากบตามมาเห็นเข้าก็หัวเราะชอบใจ
“สวัสดีค่ะพี่ดาว...”
เพียงดาวชะงักนิดหนึ่ง
“พี่ดาวลำบากมากไหมคะ?”
ป้ากบมองอาหารกระป๋องในรถเข็นแล้วร้องกรี๊ดกร๊าดพูดเหน็บแนม
“ต๊าย! ซื้อไปขายเหรอจ้ะ? คงไม่มีงานสินะดาว เออนี่ ครีมทาส้นเท้าแตกเค้าหาพริตตี้ไปออกงาน ดาวรับไหมจ้ะ ชั้นจะติดต่อให้”
เพียงดาวตอบหน้านิ่งๆ “เก็บไว้ทาหน้าตัวเองเถอะป้ากบ”
ป้ากบกรี๊ด “ว๊าย!! เรื่องอะไรมาด่าชั้น คนอุตสาห์หวังดี”
ดีนี่แสนดีรีบห้าม แต่ประชดอยู่ในที “ป้าอย่าไปว่าพี่ดาวเลยนะคะ คนเคยมีชื่อเสียงแล้วต้องมาตกต่ำขนาดนี้ เราต้องให้กำลังใจพี่ดาว”
เพียงดาวแดกดันกลับ “ถามจริงๆ ปั้นหน้าอย่างนี้ เหนื่อยไหม?” ดีนี่ชะงัก “ชีวิตชั้นก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ ดีซะอีกชั้นจะได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เค้ารักแล้วก็จริงใจกับชั้น แต่จุดจบของคนอย่างเธอ มันจะไม่เหลือใคร...”
“ว่าดีนี่เถอะค่ะ ถ้ามันทำให้พี่ดาวสบายใจขึ้น”
เพียงดาวมองดีนี่อย่างสมเพช
“ชั้นขอแนะนำนะ เลิกทำตัวอย่างนี้เถอะ เวรกรรมมันมีจริงๆ”
เพียงหยิบกล่องสตอเบอร์รี่ในรถเข็นตัวเองส่งให้ดีนี่
“อ่ะ ชั้นให้ ของชอบเธอไม่ใช่เหรอ”
ป้ากบของขึ้น “นังดาว!”
เสียงโทรศัพท์ดัง เพียงดาวไม่สนป้ากบกดรับทันที
“จ้ะโอม... ชั้นซื้อของเสร็จแล้ว จ้ะๆ เดี๋ยวเจอกัน”
เพียงดาวกดวางสายแล้วเข็นรถออกไป ดีนี่แค้นที่เห็นเพียงดาวยังมีความสุขดี
เช้าวันต่อมา โอมถือช่อดอกไม้ท่าทางอารมณ์ดีออกมาที่มอเตอร์ไซค์ ดีนี่เดินมา โอมหันเห็นดีนี่แล้วชะงักเปลี่ยนสีหน้า
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นละคะโอม?”
“มาหาแม่เหรอครับ แม่ออกไปธุระเดี๋ยงคงกลับ เข้าไปรอข้างในสิครับ”
“ดีนี่มาหาโอมค่ะ”
โอมลำบากใจมากๆ
“คือพี่แท้บเค้าจะให้ดีนี่ถ่ายแบบคอลเล็คชั้นใหม่ที่นิวซีแลนด์น่ะค่ะ ดีอยากให้โอมเป็นคนถ่ายน่ะค่ะ”
“ผมไม่ว่างครับ”
“งั้นรอจนกว่าโอมจะว่างก็ได้ค่ะ”
“ดีนี่ก็รู้ว่าทำไมผมถึงไปถ่ายดีนี่ไม่ได้” โอมของขึ้นนิดๆ แต่ยังรักษามารยาท
ดีนี่ชะงัก
“ผมขอบคุณนะครับที่ดีนี่รู้สึกดีๆกับผม แต่ผมรักคุณดาว”
ดีนี่พูดเหมือนคนเจียมตน “ดีนี่ก็ไม่เคยขอให้โอมเลิกรักพี่ดาว” เดินเข้ามาเกาะแขนโอม “ดีนี่แค่อยากให้โอมหันมามองดีนี่บ้าง”
“ถ้าดีนี่เคยรักใครจริงๆ ดีนี่จะรู้ว่าผมไม่มีวันทำได้” แกะแขนดีนี่ออก “ขอโทษนะครับ”
โอมขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไม่สนใจ ดีนี่แค้นใจจนร้องไห้ออกมา
มารยาริษยา ตอนที่ 6 (ต่อ)
อามขี่มอเตอร์ไซค์ มีฝ้ายซ้อนท้าย ขี่เข้ามาในซอยย่านถนนสุขุมวิท อามถือเอากล่องคุกกี้ลงมาด้วย ฝ้ายงงๆ ว่าอามพามาทำอะไรที่นี่
“ไหนว่าจะพามาทำบุญ แถวนี้มีวัดด้วยเหรออาม?”
“ไม่มี”
“อ้าว”
“ไม่เคยมีใครบอกแกเหรอว่าอย่าไว้ใจผู้ชายคนไหน แม้แต่คนใกล้ชิด” ฝ้ายสะดุ้ง ไม่รู้ว่าอามจะทำอะไร อามหัวเราะร่า “แต่อย่างแกผู้ชายควรระวังแกมากกว่า” เปลี่ยนเป็นพูดดีกับฝ้าย “คือแบบนี้นะ ชั้นจะมาหาน้องเฟิร์นเค้า”
ฝ้ายตกใจ “ห๊ะ”
“ชั้นเป็นผู้ชายไปหาน้องเค้าคนเดียวมันน่าเกลียด ชั้นเลยให้แกมาเป็นเพื่อน” อามเดินไปชะโงกมองตามบ้าน “ชั้นรู้ว่าน้องเฟิร์นเค้าอยู่ซอยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าบ้านเค้าหลังไหน” ที่ด้านหลังอาม ฝ้ายค่อยๆ ถอยหลังหนี ” แกว่าใช่หมู่บ้านนี้ไหม”
อามหันมาเห็นฝ้ายจะวิ่งหนี รีบคว้าฝ้ายไว้ทัน
“ไหนแกบอกว่าเป็นเพื่อนกันจะไม่ทิ้งกันไง”
ฝ้ายรีบแถ “ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพ่อน้องเค้าดุ ชั้นกลัวเค้าเอาปืนมาไล่ยิง”
“ยิ่งดุยิ่งดี ถ้ายิ่งดุแล้วชั้นไม่ถอย เค้าจะได้เห็นว่าชั้นจริงใจ”
“อามซอยนี้ก็ตั้งกว้าง แกก็ไม่รู้ว่าบ้านน้องเค้าอยู่ไหน หาไม่เจอหรอก”
“แกก็พูดถูกนะ”
ฝ้ายโล่งอก “งั้นกลับเถอะ”
“โทร.ถามน้องเฟิร์นดีกว่า” อามหยิบมือถือขึ้นมา
ฝ้ายสะดุ้ง แถหาทางออก “ชั้นไปหาห้องน้ำเข้าก่อนนะ”
ฝ้ายวิ่งจู๊ดหนีไป อามส่ายหน้าเซ็งๆ กดมือถือทันที
มุมหนึ่งห่างออกมาที่ข้างเสา ฝ้ายหลบอยู่ พลางหยิบมือถือขึ้นมารับ ดัดเสียงเป็นใบเฟิร์น
“สวัสดีค่ะพี่อาม”
“พี่มีเรื่องเซอร์ไพร์ส ตอนนี้พี่อยู่ซอยบ้านน้องเฟิร์นแล้วครับ”
ฝ้ายตอบนิ่งๆ “อ๋อค่ะ”
“อ้าว ไม่เซอร์ไพร์สเหรอครับ?”
ฝ้ายแกล้งเซอร์ไพร์ส “เซอร์ไพร์สค่ะ แต่ตอนนี้เฟิร์นไม่ได้อยู่บ้าน เฟิร์นหัวหินกับคุณพ่อน่ะค่ะ”
อามเศร้า “แล้วกลับเมื่อไหร่เหรอครับ”
“วันจันทร์ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่บ้านน้องเฟิร์นบ้านเลขที่เท่าไหร่อ่ะครับ พี่จะได้เอาขนมไปฝากไว้ให้น่ะครับ”
“ไว้วันหลังเราเจอกัน แล้วพี่อามค่อยให้เฟิร์นก็ได้ค่ะ”
“งั้นวันจันทร์เราไปดูหนังกัน พี่จะได้ให้ขนมน้องเฟิร์นด้วย โอเคนะครับ วันจันทร์เราเจอกัน”
“เออพี่อามคะ”
อามวางสายไปแล้ว
ฝ้ายกลุ้มใจ เดินมาหาอามหน้ากลุ้มๆ
“อ้าวไอ้ฝ้ายท้องเสียเหรอ ทำไมเหงื่อแตกล่ะ”
“อืม”
“กลับกันเถอะ น้องเฟิร์นเค้าไม่อยู่บ้าน”
อามอารมณ์ดีเดินผิวปากไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ฝ้ายหนักใจ
อามแกล้งขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
“เว้ยย!”
“เห็นยืนนิ่งๆ นึกว่าไม่ไป”
ฝ้ายเซ็ง ซ้อนท้ายอามอย่างกลุ้มใจ
แต้ว อู๋ เพียงดาว และโอม นั่งอยู่ด้วยกันในห้องทำงานแต้วที่ออฟฟิศโมเดล
“ตกลงได้ทำเลรึยังล่ะดาว?” แต้วถาม
“ก็กำลังเลือกอยู่ค่ะ อยากดูหลายๆ ที่”
อู๋แซว “หืมมม เข้าใจหาอาชีพนะ มีแฟนเป็นช่างภาพก็เปิดสตูถ่ายรูป แบบนี้เค้าเรียกฉลาดในการบริหารทรัพยากรบุคคล”
แต้วให้กำลังใจ “พี่ดีใจด้วยนะดาว” เพียงดาวยิ้ม แต้วหยิบปรู๊ฟงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา “เล่มนี้กำลังจะพิมพ์ ดาวช่วยพี่ดูหน่อยสิ เผื่อมีอะไรเพิ่มเติม”
เพียงดาวไม่เข้าใจ “ทำไมต้องให้ดาวดูด้วยล่ะคะพี่แต้ว?”
แต้วคะยั้นคะยอ “น่า...”
เพียงดาวงงๆ รับมาเปิดดู เปิดหน้าแรก เห็นเป็นกระดาษลายหวานๆ มีตัวหนังสือพิมพ์ว่า “ You are my star”
เพียงดาวชะงัก พลิกไปอีกหน้าหนึ่ง
เห็นเป็นรูปเพียงดาวที่เคยถ่ายแบบในชุดแต่งงานตัดแปะ และมีรูปโอมตัดแปะอยู่คู่กัน มีตัวหนังสือพิมพ์ว่า “Will you marry me?”
เพียงดาวอึ้งมองหน้าโอม โอมยิ้มแล้วยื่นแหวนให้เพียงดาว
“แต่งงานกับผมนะครับ”
เพียงดาวตื้นตันพูดไม่ออก อู๋กะแต้วลุ้นสุดขีด เพียงดาวน้ำตาไหล
“ค่ะ ค่ะ....”
เพียงดาวกับโอมกอดกันกลม แต้วกะอู๋ปลื้มใจ
“ดาว ถ้าเมื่อกี้แกตอบช้าอีกนิด ชั้นจะตอบแทนแกอยู่แล้วเชียว” อู๋เย้า
“เสร็จเรื่องสตูเมื่อไหร่ ผมจะคุยกับแม่เรื่องงานแต่งของเรานะครับ”
เพียงดาวยิ้มปลื้มยังพูดอะไรไม่ออก
“ดาว..ต่อไปดาวกับโอมจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วนะ ทั้งสองคนต้องหนักแน่น ใจเย็นๆ” พูดกับเพียงดาว “ดาว ดาวไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้วนะ พี่ดีใจด้วยนะดาว”
แต้วปลื้มและตื้นตันใจจนน้ำตาไหล สวมกอดเพียงดาว สองคนดีใจ
ป้ากบเปิดเช็คคิวงานอยู่ที่คอนโดดีนี่ ขณะที่ดีนี่นั่งกินข้าวเศร้าๆ ดีนี่รวบช้อน ป้ากบหันเห็นว่าข้าวยังไม่พร่องเลย
“อิ่มแล้วเหรอจ้ะดีนี่”
ดีนี่พยักหน้าซึมๆ
“นี่ป้าเข้าใจนะว่าต้องรักษาหุ่น แต่กินข้าวแบบแมวดมขนาดนี้ จะไม่สบายเอานะลูก” ดีนี่ไม่ตอบเอาแต่ซึม “ดีนี่ หนูเป็นอะไร ป้าเห็นซึมมาหลายวันแล้วนะเนี่ย”
ดีนี่โพล่งออกมา “พี่ดาวเค้าดีกว่าดีนี่ตรงไหนเหรอคะป้า?”
ป้ากบชะงัก “หนูพูดอะไร ก็เห็นๆ อยู่ว่าหนูดีกว่ามันทุกอย่าง สาวกว่า สวยกว่า แถมจิตใจดีกว่า หนูจะไปสนใจนังดาวมันอีกทำไม ป่านนี้มันคงเตรียมเอาสมบัติเก่ามาขายกินแล้วมั่ง ไม่มีงานแล้วนี่”
“ถ้าดีนี่ดีกว่าพี่ดาว แล้วทำไมโอมเค้าไม่รักดีนี่ละคะ?”
ป้ากบชะงัก “นี่หนูเศร้าเรื่องโอมเหรอจ้ะ? นี่ดีนี่ป้าขอพูดอะไรด้วยหน่อยนะ ตอนนี้หนูเป็นนางแบบอันดับหนึ่งแล้ว ผู้ชายในโลกใบนี้หนูจะเลือกใครก็ได้ มีคนที่หล่อกว่า รวยกว่า ชาติตระกูลดีกว่าโอมตั้งเยอะ หนูจะไปฝังใจกับโอมเค้าทำไม”
“ไม่ค่ะป้า...ดีนี่รักโอม ดีนี่ต้องการโอมคนเดียวเท่านั้น”
ดีนี่คับแค้นใจจนน้ำตาไหล ป้ากบหนักใจ แต่มองสภาพดีนี่แล้วก็สงสาร
ป้ากบตัดสินใจ “โอเค! ถ้าหนูรักเค้าขนาดนั้น ป้าจะช่วยเอง เลิกร้องไห้ได้แล้วลูก”
ดีนี่ไหว้ขอบคุณ ป้ากบคิดวางแผนหาวิธี
วันต่อมาเซลส์ขายอาคารชุดเดินนำเพียงดาวกับโอม ลงมาจากชั้นบน สองคนมาดูสถานที่เปิดสตูดิโอนั่นเอง
“แถวนี้ย่านธุรกิจ การเดินทางก็สะดวก คิดจะเปิดสตูถ่ายภาพที่นี่ผมว่าเวิร์คมากๆ เลยครับ” เซลส์ว่า
“ผมขอคิดดูก่อนนะครับ” โอมบอก
“งั้นเชิญชมตามสบายเลยครับ ไม่ต้องรีบ” เซลส์เดินออกไป
“ผมว่ามันแพงเกินไปนะครับคุณดาว”
“แต่ชั้นชอบนะโอม ห้องก็ไม่แคบไปน่าจะดัดแปลงทำสตูได้ หลังก็ไม่ใหญ่มาก ชั้นจะได้ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย มีครัวอยู่ด้วย เวลาโอมถ่ายภาพเสร็จเหนื่อยๆ ชั้นจะได้ทำกับข้าวไว้รอโอม ชั้นบนชั้นจะดัดแปลงเป็นห้องนอน เผื่อวันไหนงานยุ่งๆ เราจะได้ค้างที่นี่ได้ไง”
โอมสงสารเพียงดาวจับใจ “คุณดาวจะไม่กลับไปเดินแบบจริงๆ เหรอครับ” เพียงดาวอึ้ง “ที่ผ่านมาคุณดาวมีความสุขกับการทำงานมาก งานนางแบบคือทุกอย่างของคุณดาว คุณดาวต้องออกมา ดูแลสตู ดูแลผมแบบนี้ คุณดาวจะมีความสุขจริงเหรอครับ”
เพียงดาวหน้าหมอง เพราะใจจริงก็รักวงการนางแบบอยู่
“ความสุขนั้นมันผ่านไปแล้ว ชั้นไม่รู้ว่ามันจะกลับมารึเปล่า ชั้นอยากมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า”
เพียงดาวมองหน้าโอมแล้วจับมือ โอมยิ้มให้กำลังใจ “แต่ผมว่ามันก็ยังแพงไปอยู่ดี”
“โอมแค่มาเป็นช่างถ่ายภาพก็พอ เรื่องอื่นชั้นจัดการได้”
เซลส์เดินเข้ามา เพียงดาวเดินไปหาเซลส์
“โอนเร็วที่สุดวันไหนคะ” เพียงดาวคุยอยู่กับเซลส์
ระหว่างนั้นมือถือโอมสั่น เห็นเบอร์ดีนี่โชว์ขึ้นมา โอมรีบตัดสายทิ้ง
ดีนี่กดวางมือถือ “โอมเค้าปิดเครื่องไปแล้วค่ะป้า”
ป้ากบหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ
“ดีนี่ไม่โทร.แล้วค่ะ ดีนี่อาย โทร.ไปเค้าก็ไม่รับ”
“ด้านได้อายอดลูก ป้าไม่เชื่อว่าหนูจะสู้นังดาวไม่ได้ ป้ามีวิธีทำให้เค้ามาหาหนู”
ป้ากบเสี้ยม แล้วผุดยิ้มมีเลศนัยออกมา
เย็นนั้น โอมจอดมอเตอร์ไซค์แล้วจะเดินเข้าบ้าน ป้ากบวิ่งมาดักหน้าโอมหน้าตาตื่น
“โอม โอมต้องช่วยป้านะ ดีนี่แย่แล้วโอม”
โอมตกใจ “ดี่นี่เป็นอะไรครับ”
ไม่นานหลังจากนั้น ป้ากบเปิดประตูพาโอมเข้ามาในห้องดีนี่
ดีนี่แกล้งป่วยนอนซมอยู่ที่เตียง
“ไม่รู้ดีนี่เป็นอะไร ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน จนทรุดไข้ขึ้นเนี่ย วันนี้ป้าก็ต้องไปต่างจังหวัดด้วยเลยไม่มีใครดูแลดีนี่”
ดีนี่แกล้งฟื้นขึ้นมาแล้วตกใจ “โอม ป้าพาโอมมาทำไมคะ ให้โอมกลับไปเถอะค่ะ อย่าให้เค้าลำบากใจเพราะดีนี่อีกเลย”
ดีนี่จะลุกจากเตียงแล้วล้มลงตรงหน้าโอม
“ว๊าย! ดีนี่ ทำไมดื้ออย่างนี้”
โอมรีบประคองดีนี่ขึ้นเตียง
“โอมอย่าฝืนใจเลยค่ะ กลับไปเถอะค่ะ ดีนี่อยู่คนเดียวได้”
“ทำไมดีนี่พูดอย่างนี้ล่ะ โอมเค้าเป็นห่วงดีนี่มากนะ ป้าไปตามเค้าก็รีบมาเลย”
“โอมเป็นห่วงดีนี่จริงเหรอคะ”
“จริงสิครับ ก็เราเป็นเพื่อนกัน” โอมเน้นคำว่าเพื่อน
“ถ้าโอมให้ดีนี่ได้แค่ความเป็นเพื่อน ดีนี่ก็จะพอใจกับแค่นั้น แต่อย่าหลบหน้าดีนี่เลยนะคะ ขอเวลาให้ดีนี่ทำใจบ้าง ได้ไหมคะโอม” โอมอึ้งๆ “งั้นโอมกลับไปเถอะค่ะ”
ดีนี่บีบน้ำตา โอมสงสารดีนี่
“ได้ครับ ผมขอโทษที่เคยหลบหน้าดีนี่ เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
ป้ากบแอบยิ้มสมใจ
เย็นวันเดียวกันอามกะ ฝ้ายยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าร้านดอกไม้
“เมื่อก่อนชั้นไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เลย ชั้นขี้เกียจไปเรียน แต่จันทร์นี้ชั้นอยากให้มาถึงเร็วๆ จะได้ไปดูหนังกับน้องเฟิร์น”
ฝ้ายถอนหายใจ สุดจะกลุ้ม
“แกเป็นอะไร เห็นชั้นมีความสุขแล้วอิจฉารึไง”
ฝ้ายไม่ตอบ แท็กซี่วิ่งมา อามโบก
“ไปปากคลองตลาดครับ”
อามขึ้นรถ ฝ้ายขึ้นตาม
“นี่จะพาแฟนไปซื้อดอกไม้เหรอ” แท็กซี่แซว
อามรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่แฟนผมหรอกครับ ทางเดียวที่มันจะได้ดอกไม้จากผม คือดอกไม้จันตอนมันตาย”
ฝ้ายเซ็งหันหน้าหนี อามขำ
“พูดก็พูดเถอะมีลูกสาวสมัยนี้น่าหนักใจครับ วันก่อนผมเจอเด็กผู้หญิงหน้าตาก็ดูเรียบร้อยน่ารัก ไปเป็นเมียน้อยเค้าซะงั้น” แท็กซี่ว่า
ฝ้ายคุ้นๆ เรื่องที่แท็กซี่พูด “หือ?”
“นัดเจอกับผู้ชายที่ร้านอาหาร ก็ไม่กล้าไปเจอเค้าตรงๆ นะ กลัวเมียเค้าดักตบ” แท็กซี่ฟุ้งต่อ
ฝ้ายหันไปมองจ้อง จำได้ว่าเป็นแท็กซี่คนเดียวกับที่ตัวเองเคยจ้างตอนไปเจออาม ฝ้ายรีบก้มหน้าเอามือบัง
“เด็กผู้หญิงสมัยนี้ก็ทั้งนั้นแหล่ะ เห็นแก่เงิน ยอมไปเป็นเมียน้อยเค้า”
“ไม่จริงหรอกครับ ผมก็ไม่ใช่คนรวย แฟนผมเค้ายังไม่รังเกียจผมเลยครับ” อามแย้ง
“น้องผู้ชายอาจจะรู้ไม่จริง แล้วน้องผู้หญิงว่ายังไง”
“ก็ไม่รู้ค่ะ ยังไม่เคยมีแฟน”
แท็กซี่มองหน้าฝ้ายผ่านกระจกหลังแล้วคุ้นๆ “หน้าน้องคุ้นๆนะเนี่ย”
ฝ้ายยิ่งปิดหน้าแล้วก้มหน้าอีก “หน้าหนูโหลน่ะค่ะ จอดปั๊มตรงนี้แหละคะ”
“เว้ยย! ไอ้ฝ้าย” อามโมโห ยิ่งรีบๆ
“ชั้นปวดท้องน่ะ”
แท็กซี่เบรก
“ไม่ต้องรอนะคะ เดี๋ยวไปคันใหม่ท่าทางจะนาน”
ฝ้ายรีบลงจากแท็กซี่ อามลงตามมางงๆ
เวลาดัยวกันดีนี่นอนซมอยู่ที่เตียง โอมคุยมือถืออยู่
“ดีนี่หลับไปแล้วครับป้ากบ”
ป้ากบนอนคุยมือถืออยู่บนเตียงนวดในสปาแห่งหนึ่ง ตอแหลว่าอยู่ต่างจังหวัด
“นี่ป้าถึงนครปฐมแล้ว กำลังรอแต่งหน้าให้เจ้าสาวอยู่ โอมอย่าลืมนะจ๊ะ ต้องวัดไข้ให้ดีนี่ทุกชั่วโมง ถ้าดีนี่ไข้ขึ้น ก็เช็ดตัวให้ดีนี่ด้วย เจ้าสาวมาแล้วจ้ะ เดี๋ยวป้าแต่งเสร็จจะรีบกลับไป”
ป้ากบวางสาย บรรดาหมอนวดหนุ่มหล่อล่ำ เตรียมน้ำมันนวดตัวให้ป้ากบอยู่
“เน้นที่บั้นเอวนะจ๊ะ ป้าเมื่อย”
โอมถือปรอทเข้ามาหาดีนี่
“วัดไข้หน่อยนะครับดีนี่ เดี๋ยวผมไปหยิบน้ำให้ จะได้ทานยาด้วย”
โอมยื่นปรอทให้ดีนี่ ดีนี่อมปรอท โอมเดินออกไป
ดีนี่รีบหยิบไฟแช็คข้างเตียง ขึ้นมาลนที่ปลายปรอทห่างๆ ให้อุณหภูมิขึ้น
โอมเดินเข้ามา ดีนี่ซ่อนไฟแช็ค แล้วหยิบปรอทส่งให้โอม
“ไข้ขึ้นสูงนะครับเนี่ย”
ดีนี่สำออย แกล้งปวดหัว “ดีนี่ปวดหัวจังเลยค่ะ”
“เดี๋ยวเช็ดตัวหน่อยนะครับ”
โอมพาดีนี่นอนลง ออกไปหยิบผ้าเช็ดตัว
โอมบิดผ้าเช็ดตัวอยู่ ดีนี่ยังแกล้งนอนซมอาการหนักอยู่ โอมเช็ดตามแขนให้ดีนี่ แล้วเช็ดซอกคอ
ดีนี่แกล้งเพ้อ
“โอม โอมอย่าทิ้งดีนี่ไปนะคะ”
ดีนี่คว้าจับมือโอมไว้ “ผมอยู่นี่ครับ ดี่นี่ไม่เป็นไรนะ”
ดีนี่หลับตาพร่ำเพ้อ ผวาตัวกอดโอม
“โอมอย่าทิ้งดีนี่ไป โอมไม่รักดีนี่ก็ไม่เป็นอะไร”
โอมมองเห็นกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ดีนี่ใส่อยู่หลุดลุ่ย โอมพยายามเบี่ยงตัวออก ดีนี่รีบกอดโอมไว้
“โอมอย่าทิ้งดีนี่ไป”
โอมเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ทันใดนั้นมือถือโอมดัง โอมได้สติรีบปล่อยดีนี่ เดินไปจะรับมือถือ ดีนี่เซ็ง
รู้ว่าเพียงดาวโทร.มา
โอมรับมือถือ “ครับคุณดาว”
ดีนี่ยิ่งแค้นจัด
เพียงดาวกำลังเดินดูเฟอร์นิเจอร์แต่งสตูดิโอ
“ชั้นกำลังมาเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าร้านของเรา แต่ชั้นยังไม่ได้ซื้อหรอก รอโอมมาดูด้วยกัน”
“ครับ”
“แล้วโอมอยู่ที่ไหนจ๊ะ”
โอมอึกอัก โกหกออกไปอีกเพื่อให้เพียงดาวสบายใจ “อยู่ที่บ้านครับ”
“จ้ะ ไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้นะโอม”
โอมวางสาย แล้วเดินกลับมาห่มผ้าให้ดีนี่
“ดีนี่พักผ่อนนะครับ”
โอมรีบเดินออกไป
ดีนี่เซ็งและแค้นที่แผนการไม่สำเร็จ
แต้วกะอู๋คุยกันออกรสออกชาติ สองคนขำกันอยู่ อู๋เล่าอย่างออกรสชาติ
“เสียดายจริงๆ ชั้นไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ ไม่งั้นชั้นจะส่งประกวด รับรองชั้นต้องได้รางวัลคลิปตลกแห่งปี”
แต้วตีอู๋ขำๆกัน
เพียงดาวเข้ามา“ขำอะไรกันคะ?”
อู๋รีบปรี่เข้าไปหาเพียงดาว “ก็งานเดินแบบคุณแก้วน่ะสิ ยัยมิ้งอุตส่าห์ได้เดินชุดฟินนาเล่ย์ ไม่รู้เดินท่าไหน กลิ้งหลุนๆๆ ลงเวที กระโปรงหลุด หวอออก ยัยมิ้งทำอะไรไม่ถูกวิ่งร้องไห้เข้าหลังเวทีไปเลย” อู๋ขำคิกคัก “ชั้นว่าถ้าเป็นเธอ นะ ต้องแก้สถาณการณ์ได้ ไม่ปล่อยให้งานเค้าเละแบบนี้หรอก”
อู๋ขำต่อ เพียงดาวหน้าหมองไป แต้วพยายามสะกิดอู๋ จนอู๋นึกได้
“งานไร้สาระน่ะดาว เธอไม่ไปแหละดีแล้ว” เพียงดาวอึ้งๆ “ชั้นขอโทษนะ ชั้นไม่น่าพูดเรื่องนี้ให้ดาวคิดถึงวงการเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกหน่อยดาวคงทำใจได้”
แต้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “เออนี่ แล้วสตูเรียบร้อยเป็นยังไงบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยบอกนะ”
“ก็รอตบแต่งอยู่น่ะค่ะ ดาวว่าจะไปเรียนทำอาหารจะได้วุ่นๆ ไม่ต้องคิดมาก”
“เตรียมตัวเป็นแม่บ้านให้โอมน่ะสิ อิจฉ๊าอิจฉา ยังไงก็อย่าลืมทำเผื่อพวกชั้นด้วยนะ
เพียงดาวยิ้มๆ
สายวันหนึ่งภายในห้องเรียนอาหาร ครูกำลังสอนเพียงดาวทำอาหารอยู่ คนในคลาสมองเพียงดาวแล้วซุบซิบๆ เพียงดาวพยายามทำตัวปกติ
เวลาเดียวกันดีนี่ใส่ชุดแนวพังค์ถ่ายแบบอยู่
เพียงดาวหั่นผักแล้วเผลอมีดบาดมือ
จังหวะต่อมาเพียงดาวยกถ้วยน้ำซุปมาให้โอมชิม แล้วลุ้นๆ ว่าโอมชอบไหม โอมชิม แล้วยกนิ้วให้ เพียงดาวดีใจ มือถือโอมดัง โอมเลี่ยงไปรับ
ดีนี่ใส่ชุดถ่ายแบบ อยู่ในฉากกำลังรอถ่ายแบบ คุยมือถือกับโอม
โอมท่าทางเหนื่อยหน่าย
เวลาเดียวกัน อามซื้อป๊อบคอร์น และน้ำอัดลมแล้วเดินมานั่งรอใบเฟิร์นที่หน้าโรงหนัง
มือถืออามดัง อามหยิบขึ้นมาดู เห็นเป็นข้อความจากใบเฟิร์น
“พี่อามเข้าไปก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวเจอกันในโรงหนัง”
อามเดินเข้าโรงหนังไป
ขณะที่ฝ้ายซึ่งแต่งตัวสวย หวาน แอบอยู่ที่มุมหนึ่ง
อามนั่งชะเง้อรอใบเฟิร์นอยู่ ที่นั่งข้างอามว่าง มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมานั่ง อามดีใจนึกว่าเฟิร์น แต่ไม่ใช่
“ขอโทษค่ะ นั่งผิดที่”
ผู้หญิงเลื่อนไปนั่งอีกที่
มือถืออามดัง ใบเฟิร์นโทร.มา อามกดรับสาย “ครับน้องเฟิร์น น้องเฟิร์นอยู่ที่ไหนแล้วครับ”
“แถวหนึ่งบีค่ะ”
อามหันไปเห็นฝ้ายที่แต่งตัวหวานสไตล์เกาหลีนั่งอยู่ไกลๆ
“น้องเฟิร์นมานั่งกับพี่อามสิครับ พี่อามซื้อตั๋วไว้ให้แล้ว”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณพ่อเฟิร์นให้ลูกน้องตามมาด้วยน่ะค่ะ”
ฝ้ายชี้มั่วไปที่ผู้ชายหุ่นล่ำท่าทางน่ากลัวที่นั่งอยู่แถวหลังฝ้าย แต่เยื้องๆไปหน่อย
“เฟิร์นไม่ได้ขอคุณพ่อว่าจะมาดูหนังกับพี่อามน่ะค่ะ เฟิร์นไม่กล้าน่ะค่ะ ยังไงวันนี้เรานั่งคนละที่ได้ไหมคะ”
“ได้ครับ” อามวางสายเข้าใจ
ถึงเวลาหนังฉายแล้ว อามไม่ได้มองจอ หันไปมองแต่ทางฝ้าย
ผู้หญิง 2 ที่นั่งข้างหลังอามไม่พอใจ
“คุณคะ นั่งดีๆไม่ได้เหรอคะ บังชั้น”
“ครับๆ” อามหันไปแต่ก็ยังหันมามองฝ้ายอีก
เวลาผ่านไปหนังจบแล้ว คนทยอยออกไปจาโรง อามรีบลุกมองหาใบเฟิร์น แต่ไม่เจอแล้ว อามถอนใจเศร้าๆ
อามเดินพล่านหน้าโรงหนัง มองหาเฟิร์นแต่ไม่เจอ จึงกดมือถือโทร.หา
“ น้องเฟิร์นทำไมรีบกลับล่ะครับ”
ฝ้ายที่อยู่ในห้องน้ำแอ๊บเสียงเป็นใบเฟิร์น
“พอดีคุณพ่อโทรมาตามน่ะค่ะ ต้องรีบกลับ”
“ครับๆ”
อามวางสายจะเดินออกไป พอดีผ่านเทพผู้ชายที่ฝ้ายที่ปลอมเป็นใบเฟิร์นบอกว่าเป็นลูกน้องพ่อยืนเลือกเครื่องสำอางอยู่กับจอยเพื่อนผู้หญิง
“นังจอย เตี้ยต่ำดำทมิฬอย่างหล่อน ทาสีแดงเข้าไปกาคาบพริกเลยนะยะ”
อามฟังเสียงพูดเห็นท่าทางกระตุ้งกระติ้งของเทพแล้วอึ้ง แต่ก็เดินเข้าไปหา
“ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้กลับกับน้องเฟิร์นเหรอครับ”
“เฟิร์นไหนคะ นี่มุขจะจีบพี่รึเปล่า” เทพงง
“พี่ไม่ได้เป็นลูกน้องพ่อน้องเฟิร์นเหรอครับ”
“พี่เป็นลูกน้องใครไม่ได้หรอกค่ะ พี่เป็นได้แต่แม่บ้าน ว่าแต่น้องมีแม่บ้านรึยังคะ”
เทพขยิบตาให้อาม
“เห็นผู้ชายไม่ได้เลยนะอีเทพ!” จอยจัด
“พี่ไม่รู้จักเฟิร์นจริงๆเหรอครับ?”
“ไม่รู้จักค่ะ” เทพย้ำ
อามอึ้งๆ
ที่ออฟฟิศโมเดล ตอนสายวันต่อมา แหนม คิว และปลาหวานกำลังกินคัพเค้กอยู่
“อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย” คิวว่า
แหนมเหน็บ “แก ของฟรีอร่อยทั้งนั้นแหละ”
คิวเซ็งเป็ด
ป้ากบกับดีนี่เข้ามา ดีนี่ไหว้ทุกคน
“สวัสดีค่ะ”
แหนมแซว “แหม มารับเช็คหน้าบานเลยนะคะป้า ทานเค้กหน่อยไหมคะ”
แหนมยื่นคัพเค้กให้ป้ากบ
“น่ากินเหมือนกันนะเนี่ย” ป้ากบกินคัพเค้ก
“คุณดาวทำมาฝากค่ะ” ปลาหวานบอก
ป้ากบรีบพ่นพรวด
“ถุยๆๆ!! กินเข้าไปได้ยังไง มันใส่ยาพิษรึเปล่า นังดาวมันทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”
ปลาหวานบอกต่อ “คุณดาวทำมาให้ทานตั้งหลายอย่างแล้วค่ะ คุณดาวเค้าไปเรียนทำอาหารมา เตรียมไปเป็นแม่บ้านให้โอมค่ะ”
“เค้าจะเปิดสตูด้วยกัน สตูเสร็จแล้ว โอมคงลาออกแล้วก็ไปแต่งงานกับคุณดาวน่ะค่ะ น่าเสียดายนะคะ” แหนมบอก
“เสียดายทำไม ท่าทางโอมกับคุณดาวมีความสุขออก” ปลาหวานว่า
ดีนี่แอบแค้น
“ขอดีนี่ชิ้นนึงนะคะ”
ดีนี่หยิบถ้วยคัพเค้กขึ้นมา แล้วมองที่กระดาษห่อคัพเค้กเห็นมีชื่อโรงเรียนติดอยู่ ดีนี่คิดๆ
ในห้องเรียนทำอาหารตอนสายวันนั้น ครูสอนกำลังยกหม้อต้มพาสต้าลงจากเตาไฟฟ้าเซรามิค
เพียงดาว และนักเรียนคนอื่นยืนดูครูสอนอยู่
“ต้มเส้นพาสต้าเสร็จเราก็เอาเส้นไปแช่ในน้ำเย็นนะคะ”
ครูเอาเส้นพาสต้าแช่น้ำเย็น
“ต่อไปเราก็จะมาเตรียมมีทซอสกันนะคะ”
เพียงดาวหั่นผัก มะเขือเทศ หัวหอมอยู่
คนแนะนำคอร์สเอ่ยเชิญชวน “เชิญเลยค่ะ ห้องเรียนเราทันสมัยมากนะคะ คอร์สนึงก็เราก็จะรับไม่เกินสี่คน จะได้ทั่วถึง”
“เหรอคะ ดีนี่สมัครเลยดีไหมคะป้ากบ” เสียงดีนี่ดังขึ้น
เพียงดาวชะงักหันไป เห็นดีนี่ กับป้ากบยืนอยู่ คนแนะนำคอร์สนึกได้ว่าเพียงดาวกับดีนี่มีเรื่องกันอยู่ รีบชวนออกไป
“ไปดูห้องเรียนอาหารญี่ปุ่นดีกว่านะคะ”
“ขอดีนี่ดูอีกนิดนึงนะคะ” ดีนี่เดินไปหาเพียงดาวยิ้มแย้มทักทาย “สวัสดีค่ะพี่ดาว”
เพียงดาวไม่สนใจ หั่นหอมต่อ
ป้ากบกัดอีก “มาเรียนทำอาหาร เตรียมตัวจะเป็นแม่ค้าเหรอจ๊ะดาว”
เพียงดาวเริ่มไม่พอใจกระแทกมีดใส่ เพียงดาวพูดกับครูอย่างมีอารมณ์
“ขอโทษนะคะ ไหนบอกว่าคลาสนี้เรียนเป็นส่วนตัวไง ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นมาวุ่นวายล่ะคะ”
คนแนะนำคอร์สรีบเรียก “คุณกบคุณดีนี่คะ เชิญไปดูห้องเรียนอาหารญี่ปุ่นดีกว่าค่ะ”
“แป๊บนึงนะคะ ดีนี่ดีใจนะคะที่พี่ดาวมีความสุข ถึงพี่ดาวจะไม่ได้เป็นนางแบบอันดับหนึ่ง ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีคนสนใจแล้วก็ตาม” ดีนี่กัด
เพียงดาวยิ้มเยาะ “เธอคงแทบคลั่งสินะ ที่เห็นชั้นมีความสุข ชั้นไม่มีชื่อเสียง แต่ชั้นก็ยังมีคนที่รักชั้นโดยที่ไม่สนใจชื่อเสียงของชั้น เธอล่ะมีใครบ้าง?”
ดีนี่สะอึก
“อย่าโกรธกันนะ ถ้างานแต่งชั้นไม่เชิญเธอ”
เพียงดาวหันทำอาหารต่อไม่สนใจให้ราคาดีนี่
ดีนี่แค้นเดินไปกระซิบดาว
“เธอคิดว่าเธอแต่งงานไปแล้วจะมีแต่ความสุขเหมือนในนิทานเหรอดาว? ตราบใดที่ชั้นยังอยู่ ชั้นจะตามจองล้างจองผลาญเธอ เธอจะต้องตกต่ำยิ่งกว่านี้ เธอจะต้องไม่เหลือใคร” ดีนี่กร้าว
เพียงดาวหันจ้องหน้าดีนี่ พร้อมๆ กับที่ดีนี่เปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนหวาน
“แล้วเจอกันนะคะพี่ดาว”
ขณะที่ดีนี่จะเดินออกไป เพียงดาวสุดจะทนดึงดีนี่กลับมาแล้วตบดีนี่สุดแรง ทุกคนตกใจ
ป้ากบเข้าไปช่วย เพียงดาวตบป้ากบ แล้วผลักป้ากบออกไปชนคนที่จะเข้ามาช่วยกระเด็น
เพียงดาวจิกหัวดีนี่
“แกจะตามจองล้างจองผลาญชั้นไปถึงไหน!!”
เพียงดาวจิกหัวดีนี่ลากไปที่เตา
“พี่ดาวอย่านะคะ”
เพียงดาวไม่สนเอาหน้าดีนี่ไปนาบที่เตาเซรามิค
ทุกคนตะลึง ตื่นตกใจ ป้ากบช็อก ร้องกรี๊ด ดีนี่กรี๊ดสุดเสียงด้วยความตกใจ
โปรดติดตามตอนต่อไป