มารยาริษยา ตอนที่ 2
แฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นใหม่ของร้านเสื้อ Alert ใกล้เริ่มงานเข้ามาทุกที บรรดานางแบบแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วแคทยืนดูอยู่
เพียงดาวสวมชุดเรียบร้อยแล้วออกมาจากมุมเปลี่ยนเสื้อ และบรรดานางแบบต่างทยอยใส่คอนแทคเลนส์ ป้ากบกับดีนี่มองอยู่ ดีนี่มีท่าทีกลัวๆ
เป็นนางแบบชื่อเฟย์ที่ใส่คอนแทคเลนส์มองกระจก แล้วไม่เป็นอะไร เช่นเดียวกับนางแบบ ฟางใส่คอนแทคเลนส์มองกระจกแล้วก็ไม่เป็นอะไร
เพียงดาวใส่คอนแทคเลนส์ อู๋คอยช่วยอยู่ข้างๆ ดีนี่ กะป้ากบมองลุ้นระทึก
ซึ่งเพียงดาวใส่คอนแทคเลนส์เสร็จ แต่ไม่เป็นไร
แต่ทันใดนั้นมิ้งค์ที่ถูกวางตัวเดินคู่เพียงดาว ใส่คอนแทคเลนส์แล้วรู้สึกเคืองตา
มิ้งค์เอ่ยขึ้น “ทำไมแสบอย่างนี้”
“ตาแห้งรึเปล่า เอาน้ำตาเทียมไหม” แคทมองดูความเรียบร้อยอยู่
“ไม่ค่ะพี่ มันแสบมาก”
แคทมาดูตาให้มิ้งค์ แล้วต้องตกใจ
“ทำไมเป็นอย่างนี้!” มิ้งค์น้ำตาไหลพราก “พี่ว่าถอดออกก่อนดีกว่า” หันไปต่อว่าทีมงาน “เอาคอนแทคเลนส์มาจากไหนเนี่ย”
ทีมงานคนหนึ่งรีบบอก “แต่คนอื่นก็ไม่เป็นอะไรนะคะ”
ทุกคนมารุมดูมิ้งค์
ดีนี่หวั่นๆ พูดกับป้ากบ “ตาจะบอดไหมคะป้ากบ”
ป้ากบเองก็แอบหวั่น ปลอบใจตัวเองแล้วแอบหยิบโทนเนอร์ขึ้นมาดู “คงไม่ถึงบอดหรอก ที่ข้างขวดเค้าเขียนไว้ว่าสูตรอ่อนโยน”
มิ้งค์แสบตาไม่หาย
“น้ำตายังไม่หยุดไหลเลย พาน้องไปหาหมอไป” แคทตัดสินใจ ทีมงานพามิ้งค์ออกไป แคทเครียดจัด “นี่มันวันอะไรของชั้นเนี่ย แล้วจะเอานางแบบที่ไหนมาเดิน”
ดีนี่แอบยิ้มสมใจ
นางแบบคนอื่นแต่งตัวอยู่ ทีมงานวุ่นวาย แคทคุยโทรศัพท์อยู่
“ห๊ะ ไปเชียงใหม่...แค่นี้นะ” แคทวางสาย ทีมงานวิ่งเข้ามา
“พี่แคทคะ โทร.ตามไปก็ไม่มีใครว่างเลยค่ะ วันนี้ที่พารากอนเค้าก็มีงาน”
แคทเครียดหนัก “ใกล้จะเริ่มงานแล้วด้วย”
ป้ากบสบโอกาสแถเข้ามาหาแคท
“พี่แคทขา กบไม่อยากจะพูดอะไรอย่างนี้เลย พูดแล้วจะน่าเกลียด แต่เห็นว่าพี่แคทกำลังเดือดร้อน แล้วน้องดีนี่ของกบก็ผ่านงานมาบ้าง ไม่ทราบว่าจะพอช่วยอะไรพี่แคทได้บ้างไหมคะ”
อู๋กัด “โอ้โห ขนาดไม่อยากพูดนะเนี่ย”
ป้ากบมองค้อน แคทมองดีนี่พิจารณา “ไหนหนูลองเดินให้พี่ดูสิ”
ดีนี่เดินแบบ ท่วงท่าสง่า หน่วยก้านดี เดินสวยงาม
“ใช้ได้ งั้นไปแต่งตัวแล้วเดินแทนมิ้งค์เลย”
ป้ากบแอบดีใจ แต่เพียงดาวไม่เห็นด้วย
“จะดีเหรอคะพี่แคท แต่เค้ายังไม่เคยซ้อมบล็อกเลยนะคะ”
แคทพูดกับดีนี่ “งั้นหนูก็ดูพี่ดาวแล้วกันนะ ตอนแรกก็ไปหยุดโพสพร้อมกัน เดินไปสุดเวทีแล้วหยุดโพสอีกครั้งนึง แล้วก็กลับมาพร้อมกับพี่ดาวนะจ๊ะ” ดีนี่พยักหน้าฟังตาม แคทกับดาวสายตาเป็นเชิงขอร้อง “ยังไงพี่ฝากดูน้องด้วยนะดาว”
“ค่ะ”
“ดีนี่รบกวนพี่ดาวด้วยนะคะ”
พลางดีนี่มองเพียงดาวด้วยความเกรงใจ
เพียงดาวแค่พยักหน้าแล้วเดินเลี่ยงออกไป
ผู้เข้าชมงานแฟชั่นโชว์แน่นขนัด ช่างภาพออเต็มที่หน้าเวที แต้วกับปลาหวานนั่งฟร้อนท์โรว์หน้าเวที
แฟชั่นโชว์เริ่มขึ้นนางแบบเดินออกมาเป็นเซ็ทๆ อย่างที่ซ้อมไว้ จนถึงเซ็ทฟินาเลย์ เพียงดาวเดินออกมาโพส ดีนี่ตามออกมา
คนดูฮือฮา ทุกคนงงๆ ว่า ดีนี่เป็นใคร
แต้วจำได้ว่าเป็นนางแบบชื่อมิ้งค์ จึงโทร.หาอู๋ทันที “ฮัลโหลอู๋ ทำไมเด็กป้ากบ ได้เดินกับยัยดาว”
อู๋อยู่หน้ามอนิเตอร์หลังเวที “เรื่องมันยาว เดี๋ยวเม้าท์ๆ”
แต้ววางสาย
ที่หน้าเวทีเพียงดาวกับดีนี่เดินเฉิดฉายคู่กัน เหมือนดาว 2 ดวง เปล่งแสงแข่งกัน ทั้งคู่มาหยุดที่กลางเวทีแล้วโพสท่าสวย
เพียงดาวหมุนเดินกลับตามคิว แต่ดีนี่ยืนนิ่งให้นักข่าวถ่ายรูป เพียงดาวจึงกลายเป็นตัวประกอบเป็นฉากหลังของดีนี่ นักข่าวต่างกดชัตเตอร์ถ่ายรูปดีนี่ ให้ความสนใจกันคึกคัก เพียงดาวตกใจที่ดีนี่ผิดคิว แต่ยังเดินต่ออย่างมืออาชีพแล้วมาโพสที่ทางออก
ปลาหวานกระซิบแต้ว “ผิดคิวอย่างนี้ โดนคุณดาวเอาตายแน่เลย”
ด้านหลังเวที ป้ากบตกใจ แคทกลุ้มๆ
ส่วนด้านหน้าดาวโพสรอดีนี่ แต่ดีนี่ไม่กลับมาสักที ยังยืนให้นักข่าวถ่ายรูป เพียงดาวตัดสินใจเดินกลับไปยืนโพสข้างดีนี่อีกครั้ง แล้วคล้องแขนดีนี่เดินกลับมา ระหว่างทางดาวแอบส่งสายตาไม่พอใจให้ดีนี่
ดีนี่แสร้งทำเป็นรู้สึกผิด
โชว์จบแล้วดีนี่นั่งร้องไห้ตัวสั่นยกมือไหว้ทุกคน ป้ากบส่งกระดาษทิชชู่ให้ แคทยืนกลุ้มๆ แน่นอนว่าเพียงดาวไม่พอใจมาก อู๋ยืนข้างๆ
ทีมงานแบ็คเสตจก็กลุ้มๆ
“ดีนี่ขอโทษค่ะ ดีนี่ขอโทษ”
“เธอจงใจผิดคิวรึเปล่า”
ทุกคนเหลียวขวับหันไปมองเพียงดาวเป็นตาเดียว
เพียงดาวพูดต่อ “เพราะเห็นว่านักข่าวอยู่เยอะ เลยแกล้งผิดคิว เรียกร้องความสนใจจาก
นักข่าว จะได้แจ้งเกิดใช่ไหม”
ป้ากบแว้ดออกมา “นี่นังดาว ดีนี่ของชั้นใสซื่อบริสุทธิ์โลกสวย ไม่ได้รอบจัดเหมือนหล่อนนะยะ”
“ดีนี่ผิดเองค่ะ คือแสงแฟลชมันเข้าตาดีนี่น่ะคะ ดีนี่เลยตาพร่ามองไม่เห็น ดีนี่ขอโทษนะคะ” ดีนี่ครวญคร่ำ
“เห็นไหมคะดีนี่บอกแล้วว่าตาพร่าค่ะ ตาพร่า ไม่ได้จงใจสร้างซีน เหมือนที่คนใจแคบกล่าวหา”
เพียงดาวไม่เชื่อที่ดีนี่พูด “ตาพร่า แล้วทำไมตอนกลับเดินกลับได้
ป้ากบชะงักคิดตาม นึกได้ว่าเพียงดาวพูดถูก
ป้ากบแถแก้ต่างให้ “ก็ตอนกลับตามันปรับแสงได้เลยเดินได้ไง เด็กมันเพิ่งมาใหม่ มันไม่ชิน ใครจะหลังสู้ฟ้าหน้าสู้แฟลชแบบหล่อนล่ะ”
“พอเถอะค่ะป้ากบ ดีนี่ผิดเอง” เข้าไปกราบแคท “ดีนี่ขอโทษนะคะพี่แคท ดีนี่ขอโทษค่ะพี่ดาว ดีนี่ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“แล้วไปแล้วก็ปล่อยมันเถอะ ดีที่ได้ดาวช่วยแก้ปัญหาให้ ก็ไม่ได้เสียอะไรมาก แยกย้ายได้แล้ว”
แคทเดินออกไป ไม่พอใจนัก
“ดีไซเนอร์เค้าบอกว่าไม่มีปัญหาแล้ว มีไอ้อีที่ไหนมีปัญหาอีกไหม” ป้ากบแว้ดใส่
“ชั้นมี!” อู๋ทำท่าจะเข้าไปหากบ
“แต่ชั้นไม่มี” ป้ากบพาดีนี่เดินออกไป
ดีนี่นั่งหน้าบวมตาช้ำๆ เพราะร้องไห้หนักอยู่ในรถป้ากบ
“เห็นไหมดีนี่ นังดาวมันจับผิดหนู ใส่ร้ายว่าหนูแย่งซีนมัน กลัวว่าหนูจะเกิดน่ะสิ”
“อย่าไปว่าเค้าเลยค่ะป้า ความผิดดีนี่เอง” ดีนี่บอก
“นี่เราไม่รู้จักโกรธจักเกลียดเลยรึไง ป้าโกรธแทนหนูจนตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย” พูดแล้วแค้นเพียงดาวขึ้นมา “นังดาวนะนังดาว นังดาวมฤตยู ตอนนี้ยอมมันไปก่อน แต่วันไหนที่หนูเขี่ยมันลงจากบัลลังก์ได้ วันนั้นเราจะเหยียบซ้ำให้มันจมดินไปเลย เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ” ดีนี่รับคำ
ตอนเย็นๆ ที่ร้านจำหน่ายหนังสือ ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่มีร้านกาแฟด้านในด้วย อามสวมชุดพนักงานร้านถือเค้กกับกาแฟมาเสิร์ฟให้เปียโน เด็กผู้หญิงวัยใสหน้าตาน่ารัก
“มาแล้วครับ เปียโน” อามหยิบไอโฟนขึ้นมา “ถ่ายรูปด้วยกันนะครับ
เปียโนยิ้มเขินๆ พยักหน้า อามเขยิบมาใกล้เปียโน ยกไอโฟนขึ้น เล็งแล้วกำลังกดถ่าย
ทันใดนั้นฝ้ายก็ยื่นหน้ามาขอถ่ายด้วย ในจังหวะที่อามกดถ่ายพอดี อามเห็นฝ้ายในรูปแล้วตกใจ ฉุนกึก
“เว้ยย! อะไรเนี่ยไอ้ ฝ้าย?”
“ร้านจะปิดแล้ว รีบเก็บร้าน กลับบ้านได้แล้ว พี่โอมกับน้าอ้อยรอกินข้าวอยู่”
อามรีบบอกกับเปียโน “ลูกเพื่อนแม่น่ะครับ เข้ามาเรียนกรุงเทพฯ เลยมาขออยู่ด้วย” หันมาบอกฝ้าย “กลับไปก่อนเลย มีธุระอยู่เห็นไหมเนี่ย”
ฝ้ายเหน็บ “ให้แม่กับพี่รอ จะดีเหรอไอ้อาม”
เปียโนรีบบอก “อามกลับก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แม่กับพี่อามไม่ได้รอหรอก ฝ้ายมันก็พูดเว่อร์”
“ถ้าอามไม่สนใจพี่โอมกับน้าอ้อยก็ไม่เป็นไร แต่สนใจฝ้ายกับลูกในท้องบ้างเถอะ” ฝ้ายยิงมุกผัวเมียสดๆ
อามงง เปียโนอึ้งหันมองหน้าฝ้าย ฝ้ายพยักหน้าร้องไห้ทันที
เปียโนด่าอาม “ไอ้ผู้ชายหลอกลวง!”
ไม่ด่าเปล่าเปียโนหยิบจานเค้กป้ายหน้าอามแล้วเดินหนีไป
อามเซ็งโมโหหันมองฝ้ายอย่างเอาเรื่อง
“เรื่องอะไร ไปโกหกว่าแกท้องกับชั้น ชั้นจะจีบใครทำไมต้องขัดขวางตลอดเลยวะ”
“ชั้นก็ตอบแทนน้าอ้อยที่อุตส่าห์ให้ชั้นอยู่ด้วย ชั้นก็ต้องคอยควบคุมแกไม่ให้ไปหน้าหม้อกับสาวๆ ที่ไหน”
“ไม่ให้ชั้นจีบผู้หญิง ให้ชั้นจีบทอมอย่างแกรึไง!!”
ฝ้ายหยิบเค้กอีกจานมาป้ายหน้าอาม แล้วเดินหนีไป
อามแค้นจัดวิ่งไปไล่เตะฝ้าย
ค่ำนั้นกลับจากร้านมาถึงบ้าน ฝ้ายก็เข้าห้องนอนทันที ที่หน้ากระจกมีรูปฝ้ายกับอามถ่ายรูปด้วยกัน
ฝ้ายหยิบลิปสติกมาทาปาก พยายามแอ๊คท่าให้น่ารัก มองในกระจกไม่แน่ใจ ฝ้ายหน้าเจื่อน รู้ว่าไม่ใช่ตัวเอง เช็ดปากออก แล้วหยิบรูปที่ถ่ายคู่อามมาดู
เย็นวันหนึ่ง สองสาวแหนมกะปลาหวานอยู่ที่ออฟฟิศโมเดล กำลังยืนดูหนังสือพิมพ์ดาราที่โต๊ะ คิวจิบกาแฟยืนอยู่ด้วย
ปลาหวานเอ่ยขึ้น “ชั้นอยู่ในงาน ชั้นว่านางแบบดีนี่เนี่ย จงใจเดินผิดคิวแหละแก”
“มองโลกในแง่ร้าย ดูหนังหน้าน้องเค้าสิ” แหนมกระแทกเสียง พลางชี้หนังสือพิมพ์บันเทิง พาดหัวข่าวหรา “แจ้งเกิดนางแบบหน้าใหม่ ทาบรัศมีเพียงดาว” พร้อมภาพประกอบข่าวจากงานเดินแบบ Alert มีรูปดีนี่ เพียงดาวคู่กัน
“ใสขนาดนี้จะกล้าคิดแบบนั้นได้ยังไง ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย เค้ายังไม่กล้าเลยมั้ง” แหนมสำทับ
คิวฟังอยู่ออกความเห็น “ตั้งใจไม่ตั้งใจไม่รู้ แต่ตอนนี้เค้าเป็นที่สนใจ ใครๆ ก็จับตามองเค้า” คิวมองจ้องรูปดีนี่ “ผมยังอยากมองเลย”
แหนมเหน็บ “ก็ได้แค่มองนะ หมาเห็นเครื่องบิน”
คิวเซ็ง
แหนมเอ่ยขึ้นอีก “แต่เกิดเรื่องแบบนี้ อยากรู้จริงๆ คุณดาวจะคิดยังไง”
เพียงดาวเดินเข้ามาทันได้ยิน “อยากรู้ก็ถามสิ”
แหนมเหวอ ปลาหวาน คิวตกใจ
พอได้สติแหนมรีบหยิบมือถือขึ้นมา แกล้งจ๊ะจ๋า “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า จะลงโฆษณาเหรอคะ ค่ะ”
แล้วแหนมก็รีบออกไป
ปลาหวานเหวอแล้วหันมายิ้มแหยๆ ให้เพียงดาว “คุณดาวมาประชุมเรื่องถ่ายปฏิทินใช่ไหม
คะ มาตรงเวลาจังเลยนะคะ บอสกับคุณแต้วยังไม่มาเลยค่ะ”
เพียงดาวไม่ตอบอะไร เดินออกไป
ครู่ต่อมาเพียงดาวเดินคุยโทรศัพท์เข้ามาที่ห้องประชุมโมเดล
“แต้วชั้นมาถึงออฟฟิศแล้ว เดี๋ยวชั้นนั่งรอในห้องประชุมเลยนะ”
เพียงดาววางสาย มองไปเห็นมีโน้ตบุ๊คเปิดวางอยู่ แต่ไม่ได้สนใจ
ทันใดนั้นที่หน้าจอโน้ตบุ๊คเครื่องนั้นมีสกรีนเซฟเวอร์รูปดาวขึ้นมา เป็นรูปตั้งแต่สมัยเริ่มเข้าวงการจนถึงปัจจุบัน
เพียงดาวมองรูปตัวเองฉงนในใจ
ระหว่างนั้นโอมเดินเข้ามาแล้วไปนั่งตรงที่โน้ตบุ๊คของตัวเอง
พอเพียงดาวรู้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คโอมแล้วทำหน้าไม่ถูก
“โน้ตบุ๊คผมเองน่ะครับ”
เพียงดาวทำขรึมพยักหน้าส่งๆ แกล้งไม่ใส่ใจ
“มีแต่รูปคุณดาวน่ะครับ เพราะผมชอบคุณ”
คราวนี้เพียงดาวอึ้ง เขิน แต่พยายามเก็บอาการ
“ขอบใจ ชั้นว่าชั้นไปหากาแฟกินก่อนดีกว่า”
เพียงดาวเดินออกจากห้องเลี้ยวซ้าย
“คุณดาวครับ ห้องครัวอยู่โน้นครับ”
นางแบบตัวแม่ยิ่งอายหนักรีบเดินกลับไปทางขวา โอมมองตามยิ้มๆ ขำในความฟอร์มจัดของเพียงดาว
ดาวหยุดยืนตั้งหลักในแพนทรี คิดถึงเรื่องที่โอมพูด แอบใจเต้น โอมเข้ามายืนด้านหลังตอนไหนไม่รู้
“ไม่ทานกาแฟเหรอครับ”
เพียงดาวเสไปจะชงกาแฟ แต่ดันเปิดโหลกาแฟไม่ได้
“เดี๋ยวผมเปิดให้ครับ” โอมบอก
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เพียงดาวดึงฝาสุดแรง กาแฟกระจายเลอะสองคน
เพียงดาวกะ โอมชะงัก ช่างภาพหนุ่มพยายามกลั้นขำเพราะกลัวดาวโกรธ แต่เพียงดาวทนไม่ไหว หลุดขำเอง
“ขอโทษนะคะ เลอะเทอะหมดเลย”
เพียงดาวหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้โอม
“ขอบคุณครับ เรื่องผิดคิวที่งานพี่แคท คุณดาวเก่งมากเลยนะครับ ที่แก้สถานการณ์ได้”
“ไม่ชมนางแบบใหม่เหรอคะ เห็นฉบับไหนก็ชมว่าเค้าสวย”
“ผมมองไม่เห็นใครครับ เห็นแต่คุณดาว” โอมบอกแน่วนิ่ง
เพียงดาวชะงักหันมามองหน้าโอม
“ผมชอบคุณดาวมาตั้งนานแล้วครับ ผมดีใจมากเลยที่งานชิ้นแรกของผมได้ถ่ายคุณดาว”
เพียงดาวมองโอม “คุณนี่ปากหวานนะคะ.... แต่ใช้ไม่ได้กับชั้น”
เพียงดาวเดินออกไป พร้อมปราการหัวใจที่ตั้งไว้หลังเข็ดกับรักครั้งก่อน
ตอนเย็นวันเดียวกัน ที่คอนโดดีนี่ จังหวะหนึ่งป้ากบส่งสมุดบางอย่างให้ดีนี่ ดีนี่รับสมุดมาเปิดดูงงๆ
“อะไรคะป้า?”
ป้ากบยิ้มบอก “คิวงานของหนูไงจ้ะ ตั้งแต่งานเดินแบบพี่แคท ก็มีแต่คนสนใจหนู ดูสิขอคิวหนูมาจนป้าไม่เห็นวันว่างเลยนะจ๊ะ”
ดีนี่หน้าระรื่น “ค่ะป้ากบ ขอบคุณนะคะ”
“มีอีกเรื่อง ก่อนออกมาป้าเพิ่งได้รีบโทรศัพท์จากโมเดลแม็กกาซีน เค้าบอกว่าจะให้หนูไปถ่ายแบบ”
ดีนี่กระโดดกอดป้ากบดี๊ด๊าสุดขีด
“จริงเหรอคะป้า ดีนี่ดีใจจังเลยค่ะ ดีนี่จะได้ลงโมเดลแม็กกาซีน”
“ถึงคราวนี้หนูจะไม่ได้ลงปก แต่หนังสือโมเดลเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลมาก พอหนังสือวางแผง ป้าก็คงต้องซื้อสมุดคิวเล่มใหม่ เพราะเล่มนี้ก็คงเต็ม”
ป้ากบตีหน้าเศร้าชวนขำ ดีนี่ยิ้มดีใจ สีหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง ดึงป้ากบมานั่งที่โซฟา
“ป้ากบ รอตรงนี้แป๊บนึงนะคะ”
ดีนี่เดินเข้าห้องนอนไป แล้วหยิบกล่องบางอย่างมานั่งคุกเข่าต่อหน้าป้ากบ แล้วกราบตักป้ากบ
“ดีนี่ทำอะไร?”
“ป้ากบคะ ดีนี่ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาสดีนี่เข้าวงการ ป้ากบรับไว้นะคะ”
ดีนี่ยื่นแหวนให้ป้ากบ ป้ากบงงๆ
“วงอาจจะเล็กไปนิดนึง แต่ดีนี่ตั้งใจซื้อให้ป้ากบค่ะ”
“จะมาให้ป้าทำไมลูก ค่าคิวป้าก็หักไปแล้ว”
“ปกติเงินเดือนเดือนแรกของลูก เค้าก็ต้องให้เงินพ่อแม่ไม่ใช่เหรอคะ” ป้ากบชะงัก “พ่อแม่ดีนี่ไม่อยู่แล้ว ก็มีแต่ป้ากบแหล่ะค่ะที่เหมือนพ่อเหมือนแม่ดีนี่”
กะเทยช่างแต่งหน้าและนักปั้นซาบซึ้ง น้ำตารื้นกอดดีนี่แน่น
“น้ำตาจะไหล โถดีนี่ของป้า ปกติที่ผ่านมามีแต่คนเนรคุณกับป้า พอมันดังมันก็ถีบหัวส่ง ป้าไม่เคยเจอคนกตัญญูอย่างหนูเลย ดีนี่ป้าสัญญานะลูก ว่าป้าจะ ไม่มีวันทิ้งหนู จะทุ่มสุดตัวเพื่อดีนี่ของป้า”
ป้ากบกอดดีนี่ร้องไห้ ดีนี่กอดป้ากบหน้านิ่ง
เย็นนั้นพอประชุมเสร็จสามคนเดินคุยกันมาตามทางเดินในออฟฟิศ
“ชั้นดีใจมากเลยที่ปฏิทินครบรอบ 17 ปี ใช้โลเคชั่นที่เขาใหญ่ แล้วโอมไปถ่ายด้วย บรรยากาศที่เขาใหญ่ก็โรแมนติก เค้าจะหวั่นไหวกับชั้นไหม” อู๋เขี่ย
“เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ชั้นไม่ให้แกไป ชั้นเปลี่ยนช่างแต่งหน้าดีกว่า”
แต้วรู้ทัน อู๋แกล้งตีแต้ว หาตัวช่วย “ดาวบอกชั้นหน่อยสิ ว่าชั้นพอจะมีหวังไหม”
เพียงดาวนึกถึงโอมแล้วพยายามสลัดความคิด “ก็ไม่แน่นะคะ แปลกๆ แบบเค้า อาจจะจูนตรงกับคลื่นความถี่พี่อู๋ก็ได้”
“ว๊าย! ตุ๊ดนะยะ ไม่ใช่วิทยุชุมชน” อู๋กรี๊ดใส่
เพียงดาวคิดถึงโอมขึ้นมาอีก รีบตัดบทกลบเกลื่อน
“ดาวไปก่อนนะคะ เดี๋ยวดาวไปเดินแบบไม่ทัน”
ขณะที่โอมเดินออกมาจะไปขึ้นรถ เห็นเพียงดาวพยายามสตาร์ทรถอยู่ แต่ไม่ติด โอมเห็นรีบไปหาดาว
“เป็นอะไรครับคุณดาว”
“รถสตาร์ทไม่ติด ชั้นมีงานด้วย คุณซ่อมรถเป็นไหม”
“ถ้าให้ผมไปส่ง จะเร็วกว่านะครับ”
“อย่าดีกว่าค่ะ”
“คุณดาวอย่าลืมสิครับ ว่ากฎข้อแรกห้ามไปสายนะครับ”
พลางโอมยื่นหมวกกันน็อคให้
เพียงดาวจำใจรับหมวกกันน็อคมา โอมขึ้นมอเตอร์ไซค์ เพียงดาวสวมหมวกกันน็อคขึ้นซ้อนท้ายโอม
การจราจรตอนเย็นๆ รถติดแออัด
เพียงดาวสวมหมวกกันน็อคซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มา จังหวะที่โอมขับรถซอกแซกตามช่องรถยนต์ ดาวที่ไม่คุ้นเสียหลักโผกอดโอม พอรู้ตัวก็ตกใจรีบผละมืออก
โอมรีบบอก “เกาะไว้ดีกว่าครับคุณดาว น่าจะปลอดภัยกว่า”
เพียงดาวอึกอัก “ค่ะ”
เพียงดาวเกาะเอวโอมแล้วรู้สึกดีอย่างประหลาด โอมบิดรถทะยานไปเบื้องหน้า
โอมขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งเพียงดาวถึงจุดหมายเรียบร้อย
เพียงดาวรีบลงจากรถ แล้วยื่นเงินให้โอม ก่อนจะนึกได้
“ขอโทษค่ะ” เพียงดาวจะเดินไปโอมเรียกไว้ “คุณดาวครับ”
เพียงดาวชะงักหันมา โอมชี้ที่หมวก เพียงดาวนึกได้ก็ยิ่งเขิน เดินกลับมาแล้วถอดหมวก แต่ถอดไม่ออก
“ผมช่วยครับ”
โอมถอดหมวกกันน็อคให้เพียงดาว ใบหน้าโอมกับเพียงดาวใกล้กันแค่คืบ เพียงดาวใจเต้น
เพียงดาวถอดหมวกกันน็อคยื่นให้โอม แล้วรีบเดินเข้าไป โอมยิ้มมองตาม
โปรดติดตามตอนต่อไป เวลา 17.00 น.
มารยาริษยา ตอนที่ 2 (ต่อ)
ตอนสายวันนั้น แม่อ้อยขนดอกไม้ออกมาเตรียมจะเอาไปที่ร้าน แม่อ้อยมีงานสอนจัดดอกไม้ เป็นอาชีพเสริม ที่แทบจะเป็นอาชีพหลักของนาง
อามเดินผ่านมา แม่อ้อยได้กลิ่นน้ำหอมฉุนมาจากตัวอาม
“กลิ่นอะไรเนี่ย” แม่อ้อยถามลูกชายคนเล็ก “อามจะไปไหนเนี่ย ทำไมฉีดน้ำหอมฉุนขนาดนี้ ไหนบอกว่าจะช่วยแม่ขนดอกไม้ไปที่ร้าน”
“วันนี้อามมีนัดครับแม่”
อามวิ่งไป แล้ววิ่งกลับมา “ขอดอกไม้ช่อนึงนะครับ” วิ่งออกไปจริงๆ
ฝ้ายยืนหน้าบูดอยู่ ขณะที่อามวิ่งออกมา
“ไปเลยฝ้าย แกต้องไปอธิบายกับ เปียโนว่าแกไม่ได้ท้องกับชั้น”
“ชั้นก็ไม่น่าไปบอกเค้าอย่างนั้นเลยเน๊าะ งั้นเรารีบไปดีกว่า เดี๋ยวชั้นขับรถไปให้เอง”
ฝ้ายรับปากง่ายๆ อามงง ฝ้ายขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทเครื่อง
“มาสิ”
อามซ้อนท้ายงงๆ
ฝ้ายขี่มอเตอร์ไซค์ มีอามซ้อนมา อามมองทางงงๆ ไม่ใช่ทางไปร้านที่นัด
“ไอ้ฝ้าย ชั้นนัดน้องเค้าที่ร้านสโนไวท์ แกรู้จักทางรึเปล่าเนี่ย”
“รู้ เนี่ยทางลัด”
“ลัดไปไหนวะเนี่ย”
“ไม่รู้ทางก็เงียบๆไปเถอะ”
ฝ้ายบอกส่งๆ อามเซ็ง
ฝ้ายขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง อามลงจากรถโกรธๆ
“ไอ้ฝ้าย! ไหนบอกว่ามาถูกไง ทำไมพามาวัด”
“ก็วัดนี่ไง ที่ที่ถูกที่ควรสำหรับพุทธศาสนิกชน”
“พูดอย่างนี้ ถ้าชั้นเถียงก็บาปสิ.. แกรีบพาชั้นไปหาน้องเปียโนเลย”
ระหว่างนั้นหลวงพี่รูปหนึ่งเดินออกมา ถาม “โยม นี่เพื่อนที่จะมาช่วยทาสีกำแพงวัดใช่ไหม?”
อามอึกอัก “เอ่อคือ..”
“โยมนี่ใจบุญจริงๆนะ วัดนี้มันอยู่ในซอยลึกไม่ค่อยมีคนมา วัดก็ทรุดโทรม โยมทั้งสองใจบุญใจกุศลก็ขอให้เจริญนะ”
อามจำใจรับคำหลวงพี่ “ครับ”
ฝ้ายดึงช่อดอกไม้จากอาม
“เค้าเอาดอกไม้มาถวายพระด้วยค่ะ”
“โบสถ์อยู่ทางโน้นน่ะโยม” หลวงพี่บอกแล้วเดินไป
อามหันมาต่อว่าฝ้าย “ฝ้าย! แกทำแบบนี้ทำไม!”
“มาวัดจะได้ช่วยชำระจิตใจ แกจะได้เลิกมองคนที่หน้าตา หลงแต่สิ่งสวยๆ งามสักที”
อามของขึ้นแค้นใจหนัก
“ตามมาสิ จะได้รีบทาสี”
ฝ้ายกำลังทาสีกำแพงวัดอยู่อย่างขะมักเขม้น
“ฝ้าย”
ฝ้ายหันตามเสียงเรียก หันไปโดนแปรงจุ่มสีของอามที่ถือรออยู่ อามขำก๊าก
“ทำอะไรเนี่ย ไอ้อาม”
“ทำเป็นโกรธ ทีแกหลอกฉันมาวัดล่ะ ไม่คิดว่าฉันจะโกรธบ้างเหรอ”
“แก!!”
ฝ้ายโมโหหันไปเห็นกำแพงวัดฝั่งอาม เห็นอามเขียนชื่อตัวเองแล้วมีรูปหัวใจ
“ไอ้อาม ฉันให้แกมาทาสีกำแพงวัดนะ ไม่ใช่ให้มาเขียนกำแพงเล่น”
“แกจะซีเรียสทำไป เดี๋ยวฉันก็ทาสีทับอยู่ดี” หันหากระป๋องสีเห็นว่าหมดแล้ว “เดี๋ยวฉันไปหยิบสีก่อนนะ”
พออามเดินออกไป ฝ้ายเซ็งมองตรงที่อามเขียนกำแพงแล้วคิดไปคิดมา สักครู่ฝ้ายเติมชื่อตัวเองหลังรูปหัวใจ ฝ้ายมองยิ้มๆ แล้วถอนใจสมเพชตัวเอง
ที่แท้ฝ้ายแอบหลงรักอาม โดยที่อีกฝ่ายไม่คาดคิด และไม่เคยคิด
ตอนสายวันใหม่ ทีมงานแฟชั่นของนิตยสารโมเดลกำลังเตรียมงานถ่ายแบบในสตูดิโอ ดีนี่แต่งหน้าเสร็จแล้วยืนอยู่ด้วยพร้อมป้ากบ แต้วลงมาตรวจความเรียบร้อยของทีมงาน อู๋ยืนข้างๆ แต้ว
“ช่วยดูไฟด้วย อยากให้แสงมันซอฟท์ๆ หน่อย พี่อยากได้ลุคดูน่ารักๆ” แต้วบอกช่างไฟของสตู
แม่บ้านยื่นน้ำให้ดีนี่ ดีนี่ยกมือไหว้นอบน้อม
“ขอบคุณค่ะ”
อู๋มองแล้วพูดลอยๆ “ทำไมคนมีสัมมาคาราวะอย่างดีนี่ ถึงมาอยู่กับนังกบได้”
ป้ากบแว้ด “ได้ยิน”
อู๋สวน “ตั้งใจ”
ป้ากบเบ้ปากใส่อู๋ “ชิ” หันมาถามแต้ว “แล้ววันนี้ใครเป็นตากล้องให้ดีนี่คะ”
“ช่างภาพใหม่ชื่อโอมนะค่ะ” แต้วบอก
ป้ากบฉงน “หื๊อ!” แล้วนึกได้ “โอมที่ถ่ายปกเล่มที่แล้วเหรอคะ” แต้วพยักหน้า ป้ากบเดินไปกระซิบ
ดีนี่ “คนที่หล่อๆ คนที่เราเจอไงจ๊ะดีนี่ ขนาดเหี่ยวๆ อย่างนังดาวยังถ่ายมาซะใสเชียว ป้าว่าต่อไปเค้าต้องเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงมากเลย”
ดีนี่พยักหน้า “ค่ะ”
ปลาหวานรีบบอก “โอมโทรบอกว่าใกล้มาถึงแล้วนะคะคุณแต้ว”
“ทางนี้ก็เร่งๆมือกันเลยนะ”
ดีนี่นึกถึงโอมแล้วยิ้ม
ตรงลานจอดรถออฟฟิศโมเดลเวลานั้น โอมกำลังใส่หมวกกันน็อคอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์
เสียงดีนี่ดังขึ้นบอกอย่างตื่นเต้น “นี่มัน Ducati 966 นี่คะ” โอมหันมอง “ดีนี่ค่ะ โอมใช่ไหมคะ”
โอมอึ้งๆ “ครับ”
ดีนี่เดินมาดูรถ “รุ่นนี้หายากนะคะ สมัยเรียนเรียนที่อเมริกา เพื่อนดีนี่สะสมรถพวกนี้น่ะค่ะ” ลูบมอเตอร์ไซค์ “ถ้าได้ท่อของ Termignoni จะ เจ๋งมากเลยนะเนี่ย”
โอมยิ้มให้ “ดีนี่สนใจรถพวกนี้ด้วยเหรอครับ ปกติผู้หญิงจะไม่ค่อยสนใจ”
“ดีนี่ชอบมากเลยค่ะ จะว่าอะไรไหมคะ ถ้าดีนี่ขอลองนั่งหน่อย”
“ได้ครับ”
ดีนี่ลองขึ้นนั่ง แล้วลูบไล้ไปตามตัวถัง และเบาะรถ
“ถ้าได้ขับคงตื่นเต้นน่าดูนะคะ”
โอมยิ้มๆ ดีนี่จะก้าวลงแล้วแกล้งเซจะล้ม โอมพยุงดีนี่ไว้ด้านหลัง
จังหวะนั้น เพียงดาวเดินเข้ามาพอดี เห็นโอมอยู่กับดีนี่แล้วรู้สึกโกรธโอม โดยที่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องโกรธ
โอมเห็นเพียงดาวรีบผละออกจากดีนี่
“สวัสดีค่ะพี่ดาว วันนี้ดีนี่มีถ่ายแบบที่โมเดลค่ะ”
เพียงดาวหันมามองโอม “มิน่าล่ะถึงต้องมาทำความคุ้นเคยกับช่างภาพ”
เพียงดาวจะเดินหนี ดีนี่ปรี่ตาม
“พี่ดาวคะ เรื่องงานพี่แคทอย่าโกรธดีนี่เลยนะคะ ดีนี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“แต่ที่ชั้นเห็นมันไม่ใช่นะ ชั้นขอแนะนำเธออีกอย่าง การเป็นนางแบบที่ดีต้องใช้ความสามารถ ไม่ใช่ใช้ทางลัด” ปรายตามองโอม “แต่ไม่แน่นะ ช่างภาพบางคนเค้าอาจจะชอบให้ใช้”
“พี่ดาวหมายความว่ายังไงคะ?” ดีนี่แอ๊บแบ๊วถาม
เพียงดาวไม่ตอบ แอบชำเลืองมองโอมอย่างไม่พอใจก่อนเดินออกไป โอมมองตามเพียงดาวอึ้งๆ
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป
ในขณะที่เพียงดาวเดินเข้าลิฟท์ไป โอมตามมาจนทันเอามือบังลิฟท์ไว้ แล้วตามเข้าไป เพียงดาวชะงัก แต่ไม่มองหน้าโอม
“รถคุณดาวเป็นยังไงบ้างครับ ซ่อมรึยัง”
“ซ่อมเสร็จแล้วค่ะ ขอบคุณ วันนี้ถ่ายแบบให้ดีนี่เหรอคะ”
“ครับ”
“มิน่าถึงสนิทกันเชียว คงต้องสนิทกับนางแบบทุกคนที่จะถ่ายสินะคะ” เพียงดาวเหน็บ ไม่มีเหตุผล
“ครับ ก็รู้จักกับนางแบบไว้ เวลาถ่ายจะได้ดึงเสน่ห์นางแบบออกมาได้ครับ”
เพียงดาวประชดประชัน “อ๋อ เข้าใจแล้ว”
“แต่สำหรับคุณดาวผมชอบคุณดาวจริงๆ นะครับ”
เพียงดาวอึ้งไป “อย่ามาใช้วิธีนี้กับชั้น....มันไม่ได้ผล”
โอมมองหน้าเพียงดาวแล้วยิ้ม
เพียงดาวสบตาโอมแล้วชะงัก ในใจหวั่นไหวอย่างประหลาด พอรู้สึกตัวเลยเสไปด่าลิฟท์กลบเกลื่อน
“ทำไมลิฟท์ช้าอย่างนี้เนี่ย!”
โอมบอกยิ้มๆ “คุณดาวยังไม่ได้กดชั้นเลยครับ”
เพียงดาวหน้าแตก โอมกดเปิดลิฟท์แล้วออกไป พร้อมกับหันมาบอก
“เจอกันวันถ่ายปฏิทินที่เขาใหญ่นะครับ”
โอมเดินลับตัวไปแล้ว เพียงดาวรู้สึกหวั่นไหวกับโอมมากขึ้น แล้วกลับยิ่งโกรธตัวเองที่รู้สึกอย่างนั้น
การเปิดตัวในงานแฟชั่นโชว์ครั้งแรก ดูเหมือนจะได้ผลเกินคุ้ม ดีนี่เป็นที่รู้จักชั่วข้ามคืน งานล้นมือ
วันเวลาผ่านไป ภายในห้างแห่งนั้นมีคนรุมขอลายเซ็น ขอถ่ายรูปดีนี่ล้นหลาม ดีนี่เซ็นต์ลายเซ็นต์ให้ ป้ากบยืนยิ้มปลื้มอยู่ข้างๆ
ภาพดีนี่ปรากฏในสื่อแทบทุกชนิด
โฆษณาในจอทีวีบนรถไฟฟ้า เป็นดีนี่ดื่มน้ำดื่ม คนที่ยืนรอรถไฟฟ้ายืนมองโฆษณาดีนี่ อย่างสนใจ
บนแผงในร้านหนังสือ เห็นดีนี่ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น ผู้คนหยิบเล่มที่ดีนี่เป็นปกไปจ่ายเงิน
ในสตูดิโอแห่งหนึ่ง กำลังถ่ายรายการบันเทิง เห็นคนดูอออยู่เต็มในสตู รอคอยใจจดจ่อ
“วันนี้เราจะได้พบกับนางแบบที่มาแรงที่สุด ดีนี่ครับ”
พิธีกรผายมือ คนดูปรบมือสนั่น ดีนี่ออกมาไหว้พิธีกร ไหว้คนดู สวยงาม ป้ากบยืนยิ้มปลื้มใจ
วันหนึ่งอามอยู่ที่ร้าน หยิบหนังสือจากชั้นเล่มหนึ่ง เป็นนิตยสารแฟชั่นวัยรุ่นมีดีนี่ขึ้นปก อามมองรูปดีนี่ยิ้มๆ ท่าทางปลื้ม
เสียงดีนี่ดังข้างหลังอาม “ขอโทษนะคะ”
พร้อมกับมีมือจะหยิบหนังสือตรงชั้นหน้าอาม อามยื่นหนังสือให้
“นี่ครับ”
ดีนี่รับมา อามเพ่งมองจึงเห็นว่าเป็นคนเดียวกับบนปก อามอึ้ง ตกใจไม่คิดว่าจะเจอดีนี่ตัวจริง แล้วมองหนังสือ มองหน้าดีนี่ มองหนังสือ มองหน้าดีนี่ อยู่อย่างนั้น ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ดีนี่ขำพยักหน้าว่าใช่แล้ว “ค่ะ...” อามยิ้มเขิน “ปกเล่มนี้พอขายได้ไหมคะ
“ขายดีครับขายดี” อามตื่นเต้นหันหลังกลับไปพึมพำ “ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก”
พออามหันกลับมา เจอป้ากบยืนมองอยู่ อามตกใจ
“เว้ย!!”
ป้ากบแว้ด “ตกใจอะไร เด็กบ้า”
อามจ๋อยเดินเลี่ยงไป ป้ากบคุยกับดีนี่
“ดีนี่เหนื่อยไหมลูก”
“ไม่เหนื่อยค่ะ ดีนี่สนุก ดีนี่ชอบทำงาน”
“เมื่อกี๊ที่ป้าออกไปรับโทรศัพท์ แชมพูโอลิเวียร์เค้าชวนหนูไปงานอีเว้นต์ ไม่แน่นะหนูอาจจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของเค้าก็ได้ โฆษณาเค้าแต่ละตัวออกอากาศทั่วเอเซีย หนูจะได้โกอินเตอร์ ถ้าได้นะ ทั้งเงินทั้งชื่อเสียงมาแน่”
ดีนี่เนื้อเต้น “เหรอคะป้ากบ...” แล้วนึกได้ “แต่พี่ดาวเค้าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโอลิเวียร์มาตั้งหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“เป็นมาตั้งหลายปี เค้าต้องเบื่อๆบ้างแหล่ะหนู ผมหงอกขึ้นรึยังก็ไม่รู้ ป้าว่านังเพียงดาวมันหมดยุคแล้วล่ะ ยุคนี้มันยุคของหนู”
“ไม่รู้สิคะป้ากบ”
ป้ากบหันไปเปิดหนังสือเล่มอื่น
ดีนี่มองหนังสือที่ตัวเองขึ้นปก แล้วมองไปบนชั้น เห็นหนังสือแฟชั่นอีกเล่มที่เป็นปกเพียงดาว ดีนี่ค่อยๆ เอาหนังสือปกตัวเอง ไปวางทับปิดหนังสือที่เพียงดาวขึ้นปก
เวลาผ่านไป ฝ้ายนั่งกินข้าวอยู่ในร้านฟาสฟู๊ดในห้าง อามนั่งมองหนังสือที่ดีนี่ขึ้นปก อามเพ้อๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อามจะตักข้าวกิน ฝ้ายหมั่นไส้ ดึงจานข้าวออก อามตักวืด
“อะไรวะไอ้ฝ้าย?”
“ก็นึกว่ามองรูปนางแบบแล้วจะอิ่ม ไม่ต้องกินข้าว” อามเซ็ง “บ้าดาราไปได้”
อามเพ้อไม่หาย “เค้าสวยจริงๆนะเว้ย ทั้งสวย ทั้งหุ่นดี ชั้นคิดไว้แล้วว่าถ้าชั้นมีแฟน ชั้นต้องหาแฟนได้เหมือนคุณดีนี่”
ฝ้ายขัดใจนัก “ทำไมแกมองคนที่ความสวยวะ คนเราจะคบกันเป็นแฟนกัน น่าจะมองที่จิตใจด้วย”
“แกพูดเพราะอิจฉาคนสวยน่ะสิ คนอะไรขี้เหร่แล้วยังขี้อิจฉาอีก ชั้นถามแกจริงๆ เวลาแกส่อกระจก แกเสียใจไหมที่แกเกิดมาเป็นทอมแล้วยังไม่สวยอีก ชั้นเห็นหน้าแกแล้ว เสียใจแทนแกทุกครั้งเลย ชาตินี้จะมีคนมาชอบแกไหมเนี่ยฝ้าย”
ฝ้ายโมโหลุกพรวดขึ้น อามงง “ไปไหน ไม่กินข้าวเหรอ”
ฝ้ายตะโกนใส่หน้า “ไม่กินแล้ว”
“ค่าข้าวล่ะ”
“จ่ายให้ด้วย”
ฝ้ายโมโหอามเดินฮึดฮัดออกไป
เดินโมโหมาถึงบริเวณเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง ฝ้ายมองเงาสะท้อนตัวเองในกระจก เห็นเด็กผู้หญิงท่าทางแก่นๆ ไม่มีอะไรเทียบดีนี่ได้ ฝ้ายถอนใจ น้อยใจตัวเอง พนักงานขายเดินเข้ามาหาฝ้าย
“น้องคะ ลองแต่งหน้าหน่อยไหมคะ ไม่ซื้อไม่เป็นไร”
ฝ้ายไม่มั่นใจ “ไม่ดีกว่าค่ะพี่ ไม่ค่ะ
พนักงานดึงฝ้ายมา “ลองแต่งหน่อยเถอะค่ะ น้องน่ารักจะตาย แต่งนิดหน่อยรับรองสวยสไตล์เกาหลีเลยค่ะ”
พนักงานดึงฝ้ายมานั่งที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
พริบตานั้นพนักงานแต่งหน้าฝ้ายเสร็จแล้ว ฝ้ายนั่งหันหลังอยู่ พนักงานหยิบกระจกให้ฝ้ายส่อง ภาพในกระจกเป็นฝ้ายที่น่ารักผิดตา ฝ้ายตะลึงตัวเอง
“ไอ้ฝ้าย”
อามเห็นยืนตะโกนอยู่ไกลๆ ฝ้ายตกใจ อาย ไม่อยากให้อามเห็นหน้า
ฝ้ายรีบวิ่งหนี
“ฝ้าย ไปไหนฝ้าย” อามเรียก วิ่งตามฝ้าย
ฝ้ายวิ่งหนีอามออกมาหน้าห้าง เห็นบ่อน้ำพุรีบวิ่งปิดหน้าอายมากหนีไปทางบ่อน้ำพุ อามวิ่งตามติด
“ไอ้ฝ้าย!!”
ฝ้ายไม่ฟังอาม วิ่งปิดหน้าแล้วสะดุดหิน หน้าคว่ำลงไปในบ่อน้ำพุทันที อามตกใจ
“เว้ยย!” อามรีบวิ่งไปดึงฝ้ายขึ้นมา
อามเห็นหน้าฝ้ายแล้วตะลึง ทันใดนั้นอามขำก๊าก เพราะใบหน้าฝ้ายเละเทะ ทั้ง Mascara ทั้ง Eyeliner เปียกน้ำ เปื้อนเต็มใบหน้า
“นี่แกไปทำอะไรมาเนี่ย ไปแต่งหน้ามาเหรอ อ๋อ อยากสวยแต่เครื่องสำอางไม่อยากอยู่ด้วย”
ฝ้ายอายหนัก “หุบปากไปเลยไอ้อาม”
“อยากแต่งหน้า ทีหลังแกก็เอาถ่านมาทาหน้าสิวะ ความดำของถ่านจะได้กลบความขี้เหร่ของแก”
ฝ้ายของขึ้นทั้งโมโหทั้งอาย ตีอามพัลวัน “ไอ้บ้าๆๆ”
อามขำกลิ้ง
วันต่อมา ตรงบริเวณลานกิจกรรมในห้าง บรรยากาศถูกตกแต่งเป็นสีฟ้าทั่วทั้งงาน มีป้ายยี่ห้อแชมพูโอลิเวียร์เด่นเด้ง พร้อมดิสเพลย์จัดแสดงผลิตภัณฑ์แชมพู โดยมีคัตเอาท์รูปเพียงดาวกับแชมพูอยู่
บรรดาเซเลบแต่งตัวโทนสีฟ้ามาร่วมงาน นักข่าวสื่อมวลชนกำลังเก็บภาพและสัมภาษณ์ผู้มาร่วมงาน
อุ้ม พิธีกรสาวช่องรันเวย์จ๊ะจ๋าจริตล้นอยู่หน้ากล้อง “ตอนนี้อุ้มอยู่ที่งานเฟรชแฟร์ วิท โอลิเวียร์ งานเปิดตัวแชมพูสูตรใหม่ของโอลิเวียร์ค่ะ งานนี้มาเซเลบดารามากมายมาร่วมงาน ส่วนจะมีใครบ้าง ตามอุ้มมาเลยค่ะ”
เห็นสมพลเจ้าของสินค้าถ่ายรูปร่วมกับเซเลบ ก่อนที่สมพลจะปลีกตัวมาให้นักข่าวสัมภาษณ์
“คุณสมพลคะ โอลิเวียร์ครบรอบ 20 ปีแล้ว นอกจากเปลี่ยนแพคเกจแล้วยังมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมคะ” นักข่าวถาม
“เราก็จะมีสูตรใหม่ออกมาเรื่อยๆ น่ะครับ” สมพลตอบ
นักข่าวซัก “แล้วแบรนด์แอมบาสเดอร์ยังเป็นคุณดาวอยู่รึเปล่าคะ”
“เรื่องนี้ทางบริษัทกำลังประชุมกันอยู่ครับ แต่เร็วๆ นี้เราจะประกาศแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ยังไงก็ขอให้ติดตามกันนะครับ”
อีกด้านของงานเพียงดาวโพสท่าสวยให้นักข่าวถ่ายรูปคู่กับคัตเอาท์ของเธอ อู๋ยืนดูอยู่บริเวณนั้น
อุ้มพูดกับกล้องทีวี “ทางนั้นค่ะ ดาวเด่นของงาน แฟชั่นไอคอนของเรา พี่ดาว แบรนด์แอมบาสเดอร์ของโอลิเวียร์ 5 ปีซ้อนค่ะ”
เพียงดาวโพสท่าถ่ายรูปเสร็จ นักข่าวเข้าไปหาเพียงดาว อุ้มแถเข้าไปถามก่อน
“พี่ดาวขา แบรนด์แอมบาสเดอร์ปีนี้ยังเป็นของพี่ดาวอยู่รึเปล่าคะ”
“ก็ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่น่ะค่ะ แต่ที่ผ่านมาพี่ก็แฮปปี้มากที่ได้ร่วมงานกับโอลิเวียร์”
นักข่าวอีกคนถามขึ้น “แบรนด์เค้าเปลี่ยนแพคเกจแบบนี้ เค้าจะเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์
ด้วยรึเปล่าครับ”
เพียงดาวชะงักไปนิดหนึ่ง “ไม่ทราบค่ะ เร็วๆ นี้ก็จะประกาศ รอดูเองแล้วกันค่ะ”
นักข่าวซักต่อ “มีข่าวลือหนาหูว่าดีนี่จะได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ คุณดาวคิดเห็นยังไงคะ”
“ไม่มีความคิดเห็นค่ะ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่” เพียงดาวตอบนิ่งๆ
ระหว่างนั้นป้ากบ กับดีนี่เดินนวยนาดเข้ามา ดีนี่ใส่ชุดราตรีเว้าหลังลึกและเซ็กซี่
นักข่าวคนหนึ่งหันไปเห็นดีนี่ร้องขึ้น “ดีนี่มาแล้ว”
บรรดานักข่าวผละจากเพียงดาวกรูเข้าไปหาดีนี่ เพียงดาวอึ้งๆ อู๋เข้ามาหา
“เห่อของใหม่ก็แบบนี้แหละดาว แต่ยังไงก็สู้เธอไม่ได้หรอก” อู๋หมั่นไส้กบ “ดูหน้านังกบสิ บานเป็นจานดาวเทียมเลย”
เพียงดาวอึ้งๆ มองนักข่าวที่ดูเหมือนจะสนใจดีนี่มาก ลึกๆ แล้วแอบกังวล
ด้านดีนี่กับป้ากบ ยืนยิ้มแย้มต่อหน้าสื่อ
“น้องดีนี่คะ ข่าวที่บอกว่าดีนี่จะได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโอลิเวียร์คนใหม่แทนดาว จริงรึเปล่าคะ” นักข่าวเปิดประเด็น
“ไม่ทราบสิคะ วันนี้ดีนี่แค่มาร่วมงาน”
“คือกบก็ได้ข่าวเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่รู้สิคะ ทางบริษัทเค้าก็เปลี่ยนแพคเกจใหม่ อาจจะเบื่ออะไรเก่าๆที่ใช้มาหลายปี แล้วก็อยากได้ของใหม่ๆ อย่างดีนี่ก็ได้ค่ะ”
อู๋มองป้ากบด้วยความหมั่นไส้
โปรดติดตามตอนต่อไป
มารยาริษยา ตอนที่ 2 (ต่อ)
ตอนสายวันต่อมา แม่อ้อยจัดดอกไม้อยู่ ส่วนอามนั่งดูข่าวทีวี งานที่ดีนี่กับดาวอีเว้นท์ของโอลีเวียร์ อามชี้ที่ดีนี่ บอกแม่อย่างปลื้มโปรด
“คุณดีนี่เค้าเคยมาที่ร้านหนังสือ ตัวจริงส๊วยสวย แม่อยากได้ลูกสะใภ้แบบนี้ไหมครับ”
แต่ถูกแม่อ้อยเหน็บ “เรียนให้จบก่อนไหมอาม เพ้อเจ้ออยู่ได้” อามเซ็ง “เอาข้าวต้มไปให้ฝ้าย
ไป”
อามเซ็งเดินเข้าครัวไป
ฝ้ายนอนซมอยู่ที่เตียง ได้ยินเสียงเคาะประตู ฝ้ายค่อยๆ ลุกขึ้นไปเปิดเห็นอามยืนถือถ้วยข้าวต้มอยู่
“มีอะไรอาม คนยิ่งปวดหัวอยู่”
“เรียกตั้งนานไม่เปิด นึกว่าแกตายไปแล้ว แม่ให้เอาข้าวต้มมาให้ กินเลยนะ”
ฝ้ายพยักหน้า อามเลยจะตักข้าวต้มกินเอง
“เว้ยย!” ฝ้ายร้อง
อามขำๆ “ล้อเล่น เอามาให้แกกินนั่นแหละ”
อามวางถ้วยข้าวต้ม
“สมน้ำหน้า อยากวิ่งทะเล่อทะล่าหนีตกลงน้ำจนเป็นไข้ไปเอง ถามจริงๆทำไมวันนั้นแกถึงไปแต่งหน้า”
“ชั้นบอกแล้วไงว่าอย่าไปพูดถึงเรื่องนั้น”
อามเย้า “นั่นแน่ๆ อายๆ ชั้นว่าแกต้องทำใจนะ ที่เค้าบอกว่าไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งใช้ไม่ได้กับแก”
ฝ้ายน้อยใจนัก “ใช่สิ แกไม่เคยเห็นชั้นเป็นผู้หญิงอยู่แล้วนี่”
“โอ๋คุณผู้หญิงน้อยใจอีกแล้ว มาครับคุณผู้หญิง งั้นทานข้าวต้มหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมป้อนให้”
อามเป่าแล้วจะป้อนให้ ฝ้ายปัดมืออามออก
“ไม่ต้องเลย กินเองได้”
ฝ้ายยกข้าวต้มมากิน แอบยิ้มอย่างดีใจที่อามเป็นห่วง
ปฏิบัติการณ์เขี่ยเพียงดาวลงจากบัลลังก์ของป้ากบ เริ่มขึ้นในตอนสายวันนั้น ป้ากบพาดีนี่มาที่บริษัทโอลิเวียร์ สองคนอยู่ที่หน้าตึก แต่ท่าทางดีนี่ลังเลนิดๆ
“วิธีนี้จะดีเหรอคะป้า”
“ดีสิ เราต้องไปสืบให้ได้ว่านังดาวมันเสนอค่าตัวไปเท่าไหร่ ป้าจะดั๊มราคาหนูลงสู้กับมัน”
มดเดินออกมาพอดี ป้ากบเดินไปหาตอแหลใส่ทันที
“มดจ๋า สวัสดีจ้ะมด ไปทำอะไรมาหน้าตาดูสวยขึ้นนะเนี่ย” หันมาทางดีนี่ แนะนำ “พี่มดเอเจนซี่ เป็นคนดูแลโฆษณาโอลิเวียร์โดยตรงจ้ะ”
ดีนี่ไหว้มด “สวัสดีค่ะ”
ป้ากบดึงมดมากระซิบ “มดจ๋าคือป้าอยากให้มดช่วยเชียร์ดีนี่ของป้ากับคุณสมพลให้หน่อยน่ะจ้ะ ป้าอยากให้ดีนี่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโอลิเวียร์”
“คือ...” มดอึกอัก
ป้ากบยื่นข้อเสนอ “เดี๋ยวป้าจะให้เปอร์เซ็นต์มด 10 เปอร์เซ็นต์”
มดอ้าปากจะพูด “คือ...”
“20 เปอร์เซ็นต์เลย” ป้ากบเทหน้าตัก
“กี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ทันแล้วค่ะป้า” มดบอกจ๋อยๆ
เพียงดาวกับอู๋เดินมา อู๋กัดทันที “อ้าวนังกบ มาอ๊บๆ อะไรแถวนี้จ๊ะ”
ป้ากบเห็นเพียงดาวกับอู๋ ถึงกับอึ้ง
“อ๋อ..นี่คงจะมาวิ่งเต้นให้เด็กตัวเองได้งานน่ะสิ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น แต่คงไม่ทันแล้ว ดาวเพิ่งเซ็นต์สัญญากับโอลิเวียร์ไป แล้วพรุ่งนี้เค้าจะถ่ายแล้วด้วย”
อู๋หัวเราะเยาะเย้ย ป้ากบแค้น
“จะเป็นไปได้กี่ปี เดี๋ยวอีกหน่อยก็ต้องไปโฆษณาแชมพูปกปิดผมขาว”
อู๋กระแทกเสียงตอกหน้า “ก็ยังดีกว่ามาแล้วไม่ได้ถ่าย หน้าแหก!”
ดีนี่ยิ้มหวาน “ดีนี่ยินดีด้วยนะคะพี่ดาว”
เพียงดาวบอกทันที “ชั้นเคยบอกเธอไปแล้วไง ว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดจากทางลัด...” ปรายตามอง
ทั้งดีนี่ และป้ากบ “แต่ท่าทางเธอจะจำไม่ได้”
สองคนเดินออกไป
ป้ากบโกรธจนตัวสั่น แค้นหนัก
ที่ล็อบบี้บริษัทโอลีเวียร์ สองคนกำลังจะกลับ ป้ากบท่าทางแค้นเคืองไม่หาย
“เลือกนังดาวไปได้ยังไง ใช้ซ้ำๆมาตั้งสี่ห้าปีไม่รู้รึไงว่าคนเค้าเบื่อจะตาย ไม่มีวิสัยทัศน์บ้างเลย”
ระหว่างนั้นสมพลเดินผ่านมา มีเลขาตามมาด้วย
ป้ากบหันไปเห็นสมพลก็รีบเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะคุณสมพล”
สมพลรับไหว้
ดีนี่ไหว้อย่างนอบน้อม “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ มาได้ยังไงครับเนี่ย?”
“พอดีกบผ่านมาแถวนี้ เลยพาน้องดีนี่แวะมาสวัสดีคุณสมพลน่ะค่ะ น่าเสียดายจังเลยนะคะที่เราไม่ได้ร่วมงานกัน”
สมพลมองรูปร่างหน้าตาดีนี่เป็นนัย “น่าเสียดายครับ”
สมพลเดินออกไปกับเลขาแล้ว
“กลับกันเถอะดีนี่ ไปหาน้ำใบบัวบกกินกันสักโอ่ง แค้นใจนังดาวจริงๆ”
“ป้ากบคะ วันนี้ไม่ต้องไปส่งดีนี่ก็ได้นะคะ พอดีดีนี่มีธุระ” ดีนี่ขอตัว
ป้ากบมองหน้า “จะดีเหรอจ๊ะดีนี่ ฝนจะตกแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดีนี่โชคดีวันฝนตก”
ป้ากบงงๆ ดีนี่มองตามสมพล คิดแผนบางอย่างในใจ
ไม่นานนักที่หน้าตึกบริษัทโอลิเวียร์ ฝนกำลังตกหนัก เทสายกระหน่ำ
จังหวะที่รถสมพลแล่นออกมาจากที่จอดใต้อาคาร ทันใดนั้นดีนี่ซึ่งยกเอากระเป๋าถือบังฝน ตัดหน้ารถ รถเบรกเอี๊ยด ดีนี่โดนรถเฉี่ยวล้มลง สมพลกดกระจกรถชะโงกหน้าดู เห็นดีนี่ที่ตัวเปียกฝน ชุดแนบเนื้อ เซ็กซี่มาก
“ขอโทษนะคะ คือดีนี่หาแท็กซี่กลับบ้านไม่ได้เลยค่ะ”
สมพลมองรูปร่างดีนี่เพลิน ดีนี่แกล้งสะเทิ้นอายเอามือปิด
สมพลพยักหน้าให้คนขับรถ คนขับรถเปิดประตูให้ดีนี่ขึ้นมานั่ง
ดีนี่ขึ้นมานั่งข้างๆ สมพลท่าทางอายๆ สมพลยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ดีนี่
“เช็ดซะนะครับเดี๋ยวจะไม่สบาย”
ดีนี่ไหว้ขอบคุณ แล้วรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเนื้อตัว สมพลมองดีนี่แล้วยิ้ม
ทีมงานกองถ่ายโฆษณาโอลิเวียร์ นัดกันในตอนเช้า ทีมงานเตรียมงานอยู่ สมพล และทีมงานของมด เอเจนซี่อยู่ห้องรับรองอีกห้อง ซึ่งมอนิเตอร์ดูถ่ายทำ
เพียงดาวแต่งหน้า แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเน้นรูปร่างสวย นั่งอ่านบทรออยู่
มดและทีมงานเดินออกมาจากห้องสมพล ทุกคนหน้าซีดลอบมองไปยังเพียงดาว
ทีมงานคนหนึ่งกระซิบ “เอายังไงดีพี่ จะบอกคุณดาวยังไงดี”
มดกระซิบตอบ “ไม่รู้ ชั้นขอคิดก่อน”
ป้ากบพาดีนี่นวยนาดเข้ามา “มาแล้วค่ะ กบมาแล้ว”
เพียงดาวหันไปเห็นดีนี่กับป้ากบแล้วงง
“สวัสดีค่ะพี่ดาว ดีนี่ดีใจนะคะที่ได้ร่วมงานกับพี่ดาว” ดีนี่ไหว้สวยงาม
“หมายความว่ายังไง?”
ทีมงานผลักมดเข้าไปหาเพียงดาว
มดจำใจต้องพูด “คืออย่างนี้นะคะคุณดาว ปีนี้คุณสมพลเค้าอยากให้มีแบรนด์แอมบาสเดอร์สองคนน่ะค่ะ คือคุณดาวกับดีนี่”
ป้ากบแทรกทันควัน “ก็จะได้เทียบกันไปเลย ว่าใครแก่ใครเก่า ใครใหม่ใครซิง”
“ทำแบบนี้ได้ยังไง ที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้ ไม่งั้นชั้นก็ไม่ถ่าย”
สมพลเดินเข้ามา “มีอะไรกันเหรอ?”
เพียงดาวปรี่เข้าไปหา “คุณสมพล ทำไมคุณทำแบบนี้คะ”
สมพลแก้ตัว “ทำแบบนี้ อ๋อ คืออย่างนี้คุณดาว ปีนี้เราเปลี่ยนแพคเกจใหม่ ผมก็อยากได้แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ด้วย ส่วนคุณดาวก็ยังอยู่”
ป้ากบสาระแนอีก “ใช่ เธอก็เป็นแพคเกจเก่าไปไงดาว ส่วนดีนี่ของฉันก็เป็นแพคเกจใหม่”
เพียงดาวมองป้ากบอย่างไม่พอใจ “ดาวไม่ยอมค่ะ อยู่ๆ จะมาเปลี่ยนกันแบบนี้ได้ยังไง! ถ้าไม่ได้ตามที่ตกลง ดาวก็ไม่ถ่าย!”
“คุณต้องถ่าย สัญญาระบุไว้แล้ว” สมพลเสียงกร้าว
“ก็ฟ้องสิคะ ฟ้องเลย!!” เพียงดาวย้อน ไม่แคร์แล้ว
“อย่าให้มันเกินไปนะดาว สมัยนี้เด็กใหม่ๆ ที่น่าสนใจกว่าคุณก็มีตั้งเยอะ คุณก็แค่นางแบบหน้าเก่า ที่ผมยอมจ้างคุณต่อก็เพราะเห็นว่าเราร่วมงานกันมานาน หัดเจียมตัวซะบ้าง” สมพลบอก
เพียงดาวอึ้งโกรธจนเนื้อตัวสั่น ดีนี่รีบวิ่งปรี่เข้าไปหาดาว
บอกด้วยท่าทางกลัวๆ “พี่ดาวใจเย็นๆ นะคะ ดีนี่อยากร่วมงานกับพี่ดาวนะคะ พี่ดาวจะให้ดีนี่ทำอะไรก็บอกได้เลยค่ะดีนี่ยอม”
เพียงดาวอึ้ง ตัวสั่นเทาหันไปหาดีนี่แล้วเหลือบไปเห็นรอยแดงเป็นจ้ำที่คอ แล้วหันไปมองรอยแดงจ้ำๆ คล้ายกันที่คอสมพล
เพียงดาวพูดคาดคั้นเอากับดีนี่ “นี่เธอนอนกับเค้าใช่ไหม ถึงได้งานนี้!”
ดีนี่อึ้ง แต่รีบส่ายหน้าปฏิเสธ
สมพลชะงักแล้วรีบแก้ตัวกลบเกลื่อน “พูดจาเหลวไหลน่ะดาว คุณดูถูกผมมากเกินไปแล้ว
เพียงดาวสวนคำ ไม่ไว้หน้า “หรือไม่จริง จะถ่ายอยู่แล้ว แล้วจู่ๆ มันจะโผล่ขึ้นมาได้ยังไง”
“อยากฟังความจริงใช่มั้ยดาว ที่ผมเพิ่มดีนี่เค้าเข้ามาเนี่ย เพราะคุณน่ะมันเก่า หน้าช้ำหมดแล้ว แล้วตอนนี้เราต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นนางแบบวัย 30 กว่าอย่างคุณ ทำไม่ได้หรอก!” สมพลด่ากลายๆ
เพียงดาวอึ้ง ของขึ้นเป็นริ้วๆ โกรธ
“คุณจะมาเลือกมากไม่ได้แล้ว เพราะวัยอย่างคุณมันไม่มีทางเลือกนักหรอกดาว....คุณคงเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”
พูดเท่านั้นสมพลก็เดินออกไป
เพียงดาวอึ้งๆ ยืนตัวสั่น ทุกคนมองเพียงดาวเป็นตาเดียว
ป้ากบรีบปรี่เข้าไปหาดาว
“นังดาว! เรื่องอะไรแกมาใส่ร้ายดีนี่แบบนี้ พูดแบบนี้ดีนี่ของชั้นเสียหายนะ”
เพียงดาวไม่สนใจป้ากบหันมาพูดกับดีนี่ “บอกไปสิ ว่าเธอนอนกับเค้า
ดีนี่ร้องไห้ ท่าทีกลัวๆ “ดีนี่เปล่านะคะ ดีนี่เปล่า”
เพียงดาวกระแทกเสียง “ยอมเอาตัวเข้าแลกแบบนี้ คนถึงได้มองว่าวงการนี้มันโสโครก วงการถึง
ได้เสื่อมลงทุกวัน!”
“ดีนี่ไม่ได้ทำจริงๆ ค่ะพี่ดาว” ดีนี่ส่ายหน้าร้องไห้
เพียงดาวบีบแขนดีนี่ “ชั้นประมาณเธอผิดไปจริงๆ เธอร้ายกว่าที่ชั้นคิด”
เพียงดาวโกรธจัด เดินสะบัดหน้าออกไป
ตอนสายของวันเดียวกัน อู๋วิ่งหน้าตาตื่นมาหาแต้วในออฟฟิศโมเดล
“แย่แล้วแต้ว”
แต้วสวนออกมา “รู้แล้วคนที่กองถ่าย เค้าโทร.มาบอกชั้นเรื่องยัยดาวแล้ว”
“เกิดอะไรเนี่ย อยู่ดีๆ ดีนี่ก็ได้ถ่ายโฆษณาคู่กับดาว หักหน้ายัยดาวชัดๆ ได้ยินว่าเค้าด่าว่ามันเป็นนางแบบหน้าเก่าด้วย”
แต้วกับอู๋เป็นห่วงเพียงดาวพอกัน
“โธ่เอ้ย ดาวจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย”
มือถือดังแต้วหยิบมือถือมาดู “ดาว”
เพียงดาวจอดรถคุยโทรศัพท์กับแต้วซึ่งอยู่ที่ออฟฟิศ ใช้มือเช็ดน้ำตาพยายามกลั้นน้ำตา
“ตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน?” แต้วถามร้อนใจ
เพียงดาวพยายามเข้มแข็ง “พี่แต้ว ดาวไม่เป็นอะไรค่ะ”
“ตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน พี่กับอู๋จะไปหา”
“พี่แต้วคะ ดาวขอโทษนะคะที่ทำให้พี่วุ่นวายไปด้วย แต่ดาวทนไม่ไหวจริงๆ ดาวขอหลบไปพักบ้านพี่ที่เขาใหญ่สักพักนะคะ พอดีดาวมีกุญแจสำรองอยู่”
แต้วท้วง “ดาวกลับมาคุยกันก่อนนะ”
“ดาวขอร้อง ดาวขออยู่คนเดียวสักพักนะคะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องงานถ่ายปฏิทินพรุ่งนี้นะคะ ยังไงดาวก็ไม่ทำให้พี่แต้วเดือดร้อนมากกว่านี้”
“ไม่ใช่อย่างนั้นดาว”
“ดาวขอปิดโทรศัพท์นะคะ พี่แต้วไม่ต้องเป็นห่วง”
เพียงดาววางสาย กดปิดเครื่องทันที แล้วนั่งร้องไห้นึกถึงเรื่องที่สมพลพูด
“อยากฟังความจริงใช่มั้ยดาว ที่ผมเพิ่มดีนี่เค้าเข้ามาเนี่ย เพราะคุณน่ะมันเก่า หน้าช้ำหมดแล้ว แล้วตอนนี้เราต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นนางแบบวัย 30 กว่าอย่างคุณ ทำไม่ได้หรอก! คุณจะมาเลือกมากไม่ได้แล้ว เพราะวัยอย่างคุณมันไม่มีทางเลือกนักหรอกดาว”
เพียงดาวสะท้อนใจ เสียใจร้องไห้หนักขึ้น
แต้วกับอู๋ยังนั่งกลุ้มอยู่สองคนที่ออฟฟิศโมเดล จู่ๆ แต้วก็โวยวาย เสียงดัง เมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“แย่แล้ว”
“มีอะไรแย่กว่านี้อีกเหรอ?” อู๋ถาม
แต้วไม่ตอบ หยิบมือถือมากด แล้ววางสายหน้าเจื่อน
“ดาวปิดเครื่องไปแล้ว ชั้นลืมบอกยัยดาวไปว่าโอมเค้าไปดูโลเคชั่นถ่ายปฏิทิน ตอนนี้ค้างอยู่ที่บ้านเขาใหญ่”
อู๋ตกใจ แต้วพยายามโทร.หาโอมแต่ไม่ติด “โทรหาโอมก็ไม่ติด สงสัยไม่มีสัญญาณ”
อู๋กังวล ไม่อยากนึกภาพ “โถ...โอมไปเจอยัยดาวตอนอารมณ์เสีย ชั้นว่าเธอรีบหาช่างภาพใหม่เถอะแต้ว โอมโดนยัยดาวฉีกเป็นชิ้นๆ แน่”
สองคนเครียดหนัก
โอมขับมอเตอร์ไซค์มาตามทาง มองวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเขาใหญ่สวยงาม เวลาเย็นย่ำมากแล้ว ระหว่างทางโอมแวะหยุดถ่ายโลเคชั่น ระหว่างนั้นโอมใส่หูฟังฟังเพลงไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย ยินเสียงเพลงเศร้าๆ ดังลอดออกมา
เวลาเคลื่อนคล้อยจากเป็นเป็นมืดค่ำ เพียงดาวยังคงนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่โซฟาในห้องโถงใหญ่บ้านพักอย่างอ้างว้างและเดียวดาย
จังหวะหนึ่งก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กที่ประตู เพียงดาวตกใจ
“ใครน่ะ? ใคร?” เงียบไม่มีเสียงตอบ “ชั้นถามว่าใคร?” เพียงดาวตะโกนถามซ้ำ
ไม่มีเสียงตอบอีก เพียงดาวหันไปหยิบเหล็กเขี่ยถ่านมาถือกระชับไว้ในมือ ดักรออยู่ตรงหน้าประตู
และแล้วทันใดนั้นประตูถูกเปิดเข้ามา พร้อมเงาสูงโปร่งของใครคนหนึ่งเดินเข้าบ้านมา เพียงดาวตกใจ ฟาดเหล็กไปที่หัวใครคนนั้นเต็มแรง ร่างนั้นล้มลง เพียงดาวฟาดซ้ำอีก
“โอ๊ย!!”
เพียงดาวเห็นชัดว่าเป็นโอม ก็ตกใจ
“คุณ!”
โอมตื่นตะลึง “คุณดาว!”
ครู่ต่อมาเพียงดาวนั่งทำแผลให้โอมในโถงนั้น
“ชั้นก็ถามอยู่ว่าใคร ทำไมไม่ตอบ”
“ก็ผมใส่หูฟังอยู่” โอมบอกเสียงอ่อยๆ
เพียงดาวหยิบสำลีค้างอยู่ โอมมองจ้องเพียงดาวแล้วยิ้มมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดดาวขนาดนี้
“คุณยังไม่ได้บอกผมเลย ว่าทำไมถึงมาที่นี่ก่อน”
เพียงดาวเสียงเข้มขึ้นมาทันที “ชั้นไม่อยากพูดถึง” พอหันมาเห็นโอมยิ้มให้ก็ด่าออกไป “จะบ้ารึเปล่า เจ็บจะตายยังมายิ้มอีก”
โอมยิ้มพลางบอก “เจ็บก็คุ้มครับ”
เพียงดาวชะงัก “ชั้นไม่ใช่เด็กที่คุณจะมาล้อเล่นได้”
โอมพูดเสียงซีเรียส ท่าทีจริงจัง “ผมไม่เคยบอกว่าผมล้อเล่น”
โอมมองสบตาหวานฉ่ำ เพียงดาวจิ้มแผลโอมแรงๆ
“โอ๊ย”
เพียงดาวบอกเสียงเคร่งท่าทีขรึมๆ “ชั้นรู้ว่าคุณต้องการอะไร อย่าพยายามเลย ความรักเป็นเรื่อง
ของคนโง่ ชั้นฉลาดมานานแล้ว”
“แต่ผมยังโง่อยู่เลยครับ ความจริงบางครั้งคนโง่ๆ ก็มีความสุขนะครับ”
เพียงดาวเหยียดยิ้มที่โอมยังเชื่อมั่นในความรัก แล้วหยิบกล่องพยาบาลจะลุกหนี กล่องปฐมพยาบาลดันฟาดไปโดนโคมไฟตั้งโต๊ะจะร่วง
โอมกับเพียงดาวต่างรีบโผไปจับโคมไฟนั้นไว้ สองคนมือประสานกัน อยู่ใกล้ชิดกัน ทั้งโอม ทั้งเพียงดาวใจเต้นระรัว มองตากันนิ่งงัน ปากเกือบจะจูบกันแล้ว
เพียงดาวได้สติก่อนรีบผละออกจากโอมแล้วเดินเข้าห้องไป
โอมมองตามตาละห้อย
คืนนั้นเพียงดาวนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องนอน คิดทวนหวนย้อนถึงเรื่องความรักที่โอมพูด แล้วคิดถึงอดีตที่เจ็บปวดของตัวเอง
ครั้งนั้นเมื่อนานมาแล้ว ที่บ้านเพียงดาว วันนั้นดาวในอดีตหน้าตาตื่นตะหนก ขณะที่เชษฐ์ ชายหนุ่มหน้าตาดี คนรักเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าในมือมองเพียงดาวอย่างเย็นชา
“ผมขอโทษนะดาว...แต่ผมอยู่กับคุณไม่ได้แล้วจริงๆ” เชษฐ์เอ่ยขึ้น
เพียงดาวน้ำตาไหลริน “ทำไม ชั้นทำผิดอะไร คุณถึงต้องทำอย่างนี้กับชั้น”
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่ผมต้องแต่งงานกับเค้า คุณเข้าใจไหม ...ครอบครัวเรามีธุรกิจร่วมกัน ผมทำให้เค้าเสียใจไม่ได้หรอกดาว”
“แล้วชั้นล่ะ...ทำไมคุณถึงทำให้ชั้นเสียใจได้ ก็ไหนคุณบอกว่าคุณรักชั้น” เพียงดาวครวญคร่ำ
“ผมก็ไม่ได้โกหกคุณนะ” ในขณะพูดเชษฐ์เดินมาลูบหัวเพียงดาวเบาๆ เพียงดาวจับมือเชษฐ์ “ผมรักคุณ...แต่ความรักอย่างเดียวมันไม่พอหรอกดาว ผมต้องการคนที่สนับสนุนผมได้...อย่าเสียใจเลยนะ ถือว่าอย่างน้อยเราก็เคยมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน”
เชษฐ์ค่อยๆ แกะมือเพียงดาวแล้วเดินจากไป เพียงดาวน้ำตาไหลพราก
“เชษฐ์อย่าไป เชษฐ์อย่าทิ้งชั้นไป...”
เพียงดาวเกาะประตูร้องไห้ อย่างน่าสงสาร
เพียงดาวดึงตัวเองออกจากความรักขมในอดีต กินยานอนหลับไปสองเม็ด แต่แล้วเปิดกระปุกใหม่ เทยานอนหลับอีกสองเม็ด กินเพิ่มแล้วล้มตัวลงนอน พยายามข่มตาให้หลับ
เช้านั้น แต้วกะอู๋ลงจากรถเพียงสองคนเดินมาหาเพียงดาวที่ออกมารอรับ เพียงดาวมองหาทีมงาน
“แล้วคนอื่นล่ะคะ จะมาถ่ายปฏิทินกันไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มีถ่ายแล้วดาว” แต้วบอก
เพียงดาวงงๆ
“ก็เธอไปก่อเรื่องที่โอลิเวียร์ บอสเลยยกเลิกงานปฏิทินเธอ แล้วตอนนี้ทั่ววงการเค้าก็รวมหัวกันแบนเธอหมดแล้ว” อู๋ว่าเสียงขุ่นเขียว
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้” เพียงดาวตะโกนก้อง
“ดาวยอมรับเถอะว่าเธออยู่ในวงการมาสิบกว่าปี หน้าเธอช้ำหมดแล้ว เธอขายไม่ได้แล้วทุกวันนี้ใครๆก็ต้องการเด็กหน้าใหม่ๆ” แต้วพูดใส่หน้า
อู๋ผสมโรง “ที่ทุกคนเค้าทนเธอ เพราะเธอทำงานให้เค้าได้ เธอไม่มีงาน เธอก็ไม่มีค่าแล้วดาว”
แต้วกะอู๋จะเดินหนีไปต่อหน้า
“พี่แต้ว พี่อู๋จะไปไหนคะ?”
“ชั้นก็ไม่อยากทนเธอแล้วเหมือนกัน
แต้วพูดจบ สะบัดตัวไปกะอู๋เดินขึ้นรถ ดาวตามไปเคาะกระจกหน้าต่าง ร้องร่ำ อย่างน่าเวทนา
“อย่าทิ้งดาวไป”
แต้วกะอู๋ขับรถออกไป เพียงดาววิ่งตามแต่ไม่ทัน ทรุดตัวลงร้องไห้
“กลับมา อย่าทิ้งดาวไป”
เพียงดาวสะดุ้งตื่น รู้สึกตัวว่าฝันไป จึงร่ำไห้อยู่บนเตียงอย่างอ้างว้างและเดียวดาย
กลางดึก เพียงดาวนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ยินเสียงโอมกำลังเคาะประตู
“คุณดาวเป็นอะไรครับคุณดาว”
“ชั้นไม่เป็นอะไร ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น!”
โอมตะโกนต่อ “คุณดาวครับ เปิดประตูสิครับ”
“ชั้นบอกให้ออกไป!!”
โอมเป็นห่วงเพียงดาวมากจึงพังประตูเข้ามา เห็นเพียงดาวนั่งร้องไห้อยู่
เพียงดาวลุกพรวดขึ้นไปผลักโอมออกไปจากห้อง “ออกไป ชั้นบอกให้ไป!!”
โอมเห็นว่าเพียงดาวเสียใจหนัก และไม่มีสติจึงดึงร่างเพียงดาวเข้ามากอด ผ่องถ่ายความรู้สึกห่วงใยไปให้
ทว่าเพียงดาวเอาแต่ตีโอม และในที่สุดก็หมดแรง ร้องไห้อยู่กับอกแกร่งของโอม
“คุณดาว คุณดาวเป็นอะไรบอกผมสิครับ”
เพียงดาวยิ่งร้องไห้หนัก “ชั้นมันเก่าแล้ว ไม่มีใครอยากทำงานกับชั้นแล้ว!!”
“ไม่จริงนะครับคุณดาว ผมคนนึงที่อยากทำงานกับคุณดาว แล้วก็รอมาตั้ง 12 ปี กว่าจะได้ถ่ายรูปคุณดาว”
เพียงดาวชะงักมองหน้าโอมแล้วผลักออก “ไม่ต้องมาโกหกชั้น”
“ผมไม่เคยโกหก ทำไมคุณดาวชอบคิดว่าผมโกหกอยู่เรื่อย คุณรู้ไหมครับทำไมผมถึงมาเป็นช่างภาพ...” เพียงดาวมองจ้องหน้าโอม “เพราะผมฝันไว้ว่าผมจะได้มาถ่ายภาพคุณดาว ผมมั่นใจว่าผมจะต้องถ่ายคุณดาวได้สวยที่สุด เพราะอะไรที่ทำด้วยความรัก มันมักจะออกมาดีเสมอ”
เพียงดาวสะอื้นร้องไห้ออกมา เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีค่า “ชั้นมีค่าจริงๆ เหรอ ชั้นยังมีค่าจริงๆ เหรอ
โอม?”
“ครับ คุณดาวมีค่าสำหรับผมเสมอ”
สองมือของโอมประคองหน้าเพียงดาวแล้วเช็ดน้ำตาให้ โอมค่อยๆ ก้มลงจูบ เพียงดาวจูบตอบ สองคนค่อยๆ ล้มตัวลงบนที่นอน
เพียงดาวยังสะอื้นเล็กๆ โอมโน้มหน้าไปจูบซับพวงแก้มที่เปื้อนน้ำตาของเพียงดาว บอกเสียงแผ่ว
“ผมรักคุณดาวครับ”
โอมประทับจูบนิ่มนวล เพียงดาวจูบตอบ สองคนตราตรึงในรสจูบของกันและกัน
อ่านต่อตอนที่ 3