xs
xsm
sm
md
lg

มารยาริษยา ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มารยาริษยา ตอนที่ 5

หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว “เพียงดาวรถคว่ำหวิดดับพร้อมแฟนหนุ่ม” ในเช้าวันต่อมา มีรูปสภาพรถที่พังยับประกอบข่าว

สามขาเมาท์ประจำโมเดล รวมพลอยู่ที่ร้านส้มตำข้างออฟฟิศ ปลาหวาน กับคิว กำลังอุ่นไก่ปิ้งอยู่หน้าเตา ส่วนแหนมนั่งตาติดหนังสือพิมพ์ อ่านข่าวเสียงดัง
“เพียงดาวรถคว่ำหวิดดับพร้อมแฟนหนุ่ม”
“คุณดาวคงทำงานหนัก ต้องขับรถหลับในแน่ๆ เลย” แม่ค้าส้มตำว่า
แหนมรู้ลึกรู้ดีตามเคย “ไม่ใช่หรอกป้า เค้าทะเลาะกัน”
ปลาหวานมองหน้าเป็นเชิงเบรกแหนม
“คนของกองถ่ายกูดี้มาเม้าท์กับชั้นย่ะ ว่าคุณดาวไปอาละวาดถึงโน่น”
แม่ค้าอยากรู้ขึ้นมา “ทะเลาะอะไรกันเหรอ?
ปลาหวานตอบแทน “แหมแก ลิ้นกับฟันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง”
แหนมเหน็บ “กระทบกับหลักกิโลน่ะสิ จนเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้น คนอะไรเจ้าอารมณ์” หันมาทางคิว “นี่คิวแกเป็นผู้ชายน่ะ ถ้าได้แฟนอย่างคุณดาวแกจะเอามั้ย”
“ได้แต่ไม่ผูกพัน! คุณดาวน่ะเค้าสวยใครๆ เห็นก็ต้องชอบ แต่นิสัยเจ้าอารมณ์ของเค้านี่สิน่ากลัว เกิดวันดีคืนดี ทะเลากันคว้าปืนมายิงถึงตายเลยนะครับ” คิวสยอง
แหนมดีใจที่คิวเข้าข้าง
“เห็นมั้ยนังปลาหวาน” แหนมจ่ายเงินแล้วรับของมา “ใครๆ เค้าก็เห็นว่าคุณดาวเค้าน่ากลัว ชั้นว่าโอมออกจากโรงพยาบาลคราวนี้ต้องเลิกกับคุณดาวแน่ๆ”
“ชั้นว่าไม่เลิกหรอกย่ะ เค้าน่ะรักกัน” ปลาหวานมั่นใจ
แหนมกะปลาหวานเดินเถียงกันออกไป
“เดี๋ยวก่อนสิ ยังเม้าท์ไม่รู้เรื่องเลย”
แม่ค้าเซ็ง

อามคุยเฟซบุ๊คกับใบเฟิร์นอยู่ท่าทางเครียดๆ
“พี่อามเป็นอะไรรึเปล่าคะ วันนี้ท่าทางเครียดๆ” ฝ้ายสวมวิญญาณใบเฟิร์นพิมพ์ถาม
อามพิมพ์ตอบ “มีเรื่องไม่สบายใจครับ พี่ชายอยู่โรงพยาบาล วันนี้พี่ขอโทร.หาเฟิร์นได้ไหม พี่อยากคุยกับเฟิร์น”
“ไม่สะดวกค่ะ” ฝ้ายพิมพ์ตอบ
“งั้นถ้าว่าง เฟิร์นโทรหาพี่ก็ได้ นี่ครับเบอร์พี่ 089999xxxx พี่อยากคุยด้วยจริงๆ”
อามพิมพ์เลขเบอร์โทรศัพท์ แล้วมองลุ้น พอเห็นเฟิร์นไม่ตอบกลับมา อามถอนหายใจ
“พี่ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ งั้นคืนนี้แค่นี้นะครับ”
อามออกจากเฟซบุ๊ค แล้วถอดเสื้อ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
ครู่ต่อมาอามนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ มองมือถือแล้วถอนหายใจที่เฟิร์นไม่โทร.มาจริงๆ
ทันใดนั้นมือถือดังขึ้น อามเห็นเบอร์แปลกๆ รีบรับสาย เพราะคิดว่าอาจเป็นเฟิร์น
“ ฮัลโหลครับ...” อามดี๊ด๊า “น้องเฟิร์นจริงๆ เหรอครับเนี่ย” ท่าทางดีใจสุดๆ
ฝ้ายอยู่ในห้อง ท่าทีเก้ๆ กังๆ เคอะเขิน คุยมือถือกับอาม
ฝ้ายแอ๊บเสียงหวานหยด “ค่ะ เฟิร์นเห็นพี่อามไม่สบายใจ เลยโทร.มาหาค่ะ”
ข้างๆ ฝ้ายมีซองซิมมือถือใหม่วางอยู่ และซิมอีนเดิมวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
“เห็นบอกว่าพี่ชายเข้าโรงพยาบาล เป็นยังไงบ้างแล้วคะ”
“ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”
“พี่อามอย่าคิดมากนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน”
“แค่รู้ว่าน้องเฟิร์นเป็นห่วง แล้วโทรมาหาพี่ พี่ก็สบายใจขึ้นมากแล้วครับ”
อามออกอาการดีใจมากๆ ทิ้งตัวนอนบนเตียง ได้คุยมือถือกับฝ้ายแต่คิดว่าเป็นใบเฟิร์นอย่างสบายใจ

ฝ้ายคุยมือถือกับอามอยู่
“ค่ะ กู๊ดไนท์นะคะ ฝันดีค่ะ”
ฝ้ายวางสาย ถอนใจโล่ง แล้วมีความสุขที่ทำให้อามหายเครียดได้
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ฝ้ายตกใจรีบไปเปิด อามยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง
“มีอะไรไอ้อาม?”
อามดีใจสุดๆ “น้องเฟิร์นเค้าโทรมาหาชั้นแล้ว” แล้วเดินเข้ามาในห้อง นั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้ง
ฝ้ายเหวอกลัวอามเห็นซิมมือถือ เลยเดินไปเอาตัวบังซิมไว้ แล้วแอบหยิบซิมเก็บ
“เหรอๆๆ เค้าว่ายังไงบ้าง?”
อามอยู่ในอาการเพ้อ “เสียงเค้าหวานมาก พูดจาก็เพราะ สมกับเป็นลูกผู้ดี ตัวจริงเค้าต้องสวย น่ารัก เรียบร้อยแน่ๆ”
“แค่เสียง รู้ขนาดนี้เลยเหรอ”
“อยู่แล้ว น้ำเสียงก็บอกบุคลิกคน อย่างเสียงบาดรูหูอย่างแก หน้าตาก็ทุเรศเหมือนเสียงไง”
“ย่ะ” ฝ้ายเบ้ปาก ด้วยความหมั่นไส้
“ถ้าแกไม่เชื่อนะ วันที่ไปเจอน้องเค้า ชั้นจะถ่ายรูปมาให้แกดู”
ฝ้ายตกใจ “นี่คิดจะไปเจอน้องเค้าด้วยเหรอ”
“เออสิวะ คนเป็นแฟนกันก็ต้องเจอหน้ากันสิ ครั้งต่อไปชั้นจะนัดเจอเค้าแล้ว”
ฝ้ายกลุ้มๆ อามยิ้มเพ้อคิดถึงใบเฟิร์น

วันต่อมา ดีนี่สวมแว่นดำ ใส่บิกินี่ นอนบนแพยางที่สระว่ายน้ำคอนโด จิบมาการิต้าอยู่ เป้ากบว่ายน้ำมาหยิบแก้วมาการิต้าที่แพดีนี่
“เสียดายเน๊าะ ที่นังดาวไม่ตาย ป้าอุตส่าห์ตัดชุดดำเตรียมไว้ไปงานศพมัน”
“ป้าอย่าไปพูดแบบนั้นสิคะ มันไม่ดี”
“จริงด้วย พวกเราบารมีสูง พูดอะไรไปเดี๋ยวจะเป็นจริง ได้ข่าวว่านังดาวมันออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ แต่ว่าโอมยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย”
“เหรอคะ ดีนี่อยากไปเยี่ยมโอมจังเลย แต่กลัวพี่ดาวจะเข้าใจผิดอีก”
ป้ากบยุส่ง “ก็นังดาวมันออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดีนี่ก็ไปสิ จะได้ถือโอกาสทำคะแนนด้วยไง คนเราเห็นใจกันตอนเจ็บเนี่ยแหล่ะ”
“ไม่เอาอ่ะค่ะ ดีนี่ไม่อยากให้เค้ามีปัญหากันอีกแล้ว”
“เบื่อคนดี!!” ป้ากบกัด

ดีนี่ใส่แว่นดำเดินถือดอกไม้เข้ามาถึงหน้าห้องโอม หยุดดมดอกไม้อย่างอารมณ์ดี แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นโอมนอนอยู่บนเตียง ดีนี่ยิ้มจะพุ่งเข้าไปหา
แต่แล้วเพียงดาวในชุดลำลอง ลุกเดินจากโซฟาเข้ามาหา ยื่นน้ำให้โอมจิบ
ดีนี่ชะงัก แอบยืนดูอยู่ที่หน้าประตู
“ขอบคุณนะครับคุณดาว”
เพียงดาวพยุงโอมขึ้นมาจิบน้ำ โอมล้มตัวลงนอนอยากทุลักทุเล ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บไปทั่วร่าง
เพียงดาวตกใจ “โอม!”
เพียงดาวรีบเข้ามาช่วยพยุงตัวโอมลงนอน วินาทีนั้นเพียงดาวมองเห็นสภาพโอมแล้วสงสารนัก
“ชั้นขอโทษนะทำให้โอมเป็นแบบนี้
“ไม่เป็นไรครับคุณดาว แต่ต่อไปผมอยากให้คุณดาวเชื่อใจผมและใจเย็นมากกว่านี้”
“โอมไม่มีอะไรกับเค้าจริงๆ ใช่ไหม”
โอมมองจ้องหน้าเพียงดาว สีหน้าจริงจังแล้วพยักหน้า
“ชั้นขอโทษโอม ชั้นกลัวจะเสียโอมไป”
โอมมองแล้วเข้าใจ และรู้สึกสงสารเพียงดาวจับใจ ดึงร่างเพียงดาวเข้ามากอด
“ผมไม่มีวันไปจากคุณดาวหรอกครับ นอกจากคุณดาวจะทิ้งผม”
ดีนี่เห็นเพียงดาวกับโอมกอดกัน ดีนี่ผิดหวัง
“งั้นเดี๋ยวชั้นไปถามหมอดีกว่าว่าเมื่อไหร่โอมจะได้กลับบ้าน ชั้นคิดถึงโอมจะแย่แล้ว”
โอมยิ้มๆ เพียงดาวเดินออกไป

เพียงดาวเดินออกมาจากห้อง แต่ที่หน้าห้องไม่เห็นดีนี่อยู่แล้ว
เพียงดาวกดลิฟท์แล้วเดินเข้าไป โดยไม่รู้ว่าดีนี่แอบมองอยู่
เสียงอามเรียก “พี่ดีนี่ครับ!!!”
ดีนี่หันเห็น อาม แม่อ้อย และฝ้าย เดินมาอีกด้านหนึ่ง ทั้งหมดช่วยกันถือปิ่นโตและพวงมาลัยดอกไม้ ดีนี่ไหว้แม่
“พี่ดีนี่มาเยี่ยมพี่โอมเหรอครับ?” อามดี๊ด๊า
“ใช่ค่ะ แต่พี่ดีนี่เห็นโอมอยู่กับพี่ดาว เลยไม่อยากให้พี่ดาวเข้าใจผิด”
“งั้นไว้เจอกันใหม่นะคะ” ดีนี่ชะงักรู้ว่าฝ้ายไล่ตัวเองทางอ้อม
“พี่ดีนี่เป็นเพื่อนพี่โอม มาเยี่ยมพี่โอมแล้วทำไมพี่ดาวต้องโกรธด้วย เข้าไปเลยครับ มากับพวกผมก็ได้”
ดีนี่แสร้งทำทีเป็นไม่สบายใจ “แต่ว่า...”
แม่อ้อยบอก “ไม่เป็นไรหรอกหนูดีนี่ ไป เข้าไปเยี่ยมโอมกันเถอะ”
แม่อ้อย อาม และฝ้ายเดินนำดีนี่เข้าห้องไป

โอมกระอักกระอ่วนใจอยู่บนเตียงคนไข้ มองดีนี่แล้วนึกถึงเรื่องที่ดีนี่จูบตนที่หัวหิน ดีนี่ช่วยแม่เทแกงใส่ชามอยู่ กับอาม ฝ้าย
“น่าทานจังเลยค่ะแม่”
“โอมเค้าบ่นว่าอยากกินต้มจืดฟักน่ะ แม่เลยทำมาให้”
ดีนี่มองพวงมาลัยดอกไม้ “แม่คะ แม่เตรียมดอกไม้ไหว้ศาลพระภูมิไว้ไม่ใช่เหรอคะ ดีนี่ว่าแม่รีบไปไหว้ดีกว่านะคะ เดี๋ยวดอกไม้จะเฉาซะก่อน”
“ก็ดีเหมือนกันดีนี่ งั้นแม่ฝากโอมด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่รีบไปรีบมา”
ฝ้ายมองดีนี่ไม่พอใจนัก แต่จำใจช่วยแม่อ้อยกับอามถือของออกไป ดีนี่ยกสำรับมาให้โอมแล้วจะป้อน
“ทานหน่อยสิคะ ไม่งั้นเดี๋ยวดีนี่แย่งทานนะคะ...”
“ผมทานเองครับ...” ดึงช้อนมาจากดีนี่แล้วตักอาหารไม่คุยกับดีนี่
“โอมคะ..เรื่องที่หัวหินดีนี่ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ...แต่ผมมีเรื่องจะขอร้องดีนี่” ดีนี่ชะงัก “วันนี้ดีนี่กลับไปก่อนได้ไหมครับ” ดีนี่อึ้งเหมือนโดนไล่ “ผมกลัวคุณดาวมาเห็นแล้วจะเข้าใจผิด...”
ดีนี่หน้าชาแต่พยายามเก็บอาการแล้วทำตัวน่าสงสาร “ค่ะ...หายไวๆ นะคะโอม”
ดีนี่กำลังจะออกไปแล้วหันดูเห็นโอมกำลังกินแกงฟักแม่อ้อยอยู่

ขณะที่ดีนี่ยืนรอลิฟท์ มองตัวเลขชั้นที่ค่อยๆ เคลื่อนขึ้นมา ประตูลิฟท์เปิด เพียงดาวออกมา ดีนี่ทำเป็นตกใจ
“พี่ดาว!” ดีนี่ทำท่าจะเดินหนี เพียงดาวกระชากดีนี่ไว้
“ยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ!”
“คือว่าโอมเค้า...”
เพียงดาวรู้ทันดีนี่ “เลิกอ้างโอมสักที ชั้นเบื่อจะเล่นเกมกวนประสาทของเธอจะแย่อยู่แล้ว โอมเค้าบอกชั้นหมดแล้วว่าเค้าไม่ได้มีอะไรกับเธอ”
“โอมเค้าบอกอย่างนั้นเหรอคะ ถ้างั้นพี่ดาวก็เชื่อโอมเถอะค่ะ ผู้หญิงเราต้องหัดโง่ให้ถูกเวลา”
“เธอด่าว่าชั้นโง่เหรอ!!” เพียงดาวของขึ้น
“เปล่านะคะ ดีนี่ไม่ได้ว่าพี่ดาว พี่ดาวอย่าอารมณ์เสียสิคะ เดี๋ยวจะไปทะเลาะกับโอมอีก โอมเค้ายิ่งเพลียอยู่”
“นี่แกเข้าไปหาโอมแล้วเหรอ?”
“ดีนี่ก็แค่ทำแกงฟักมาฝากเค้านะค่ะ โอมเค้ายังชมเลยนะคะว่าแกงฟักของดีนี่อร่อย ขอเติมตั้งหลายชาม ดีนี่ขอตัวก่อนนะคะ”
ดีนี่เน้นตรงคำว่าแกงฟักอย่างจงใจ แล้วรีบออกไป เพียงดาวรีบพุ่งเข้าไปห้องโอมทันที

เพียงดาวพุ่งเข้ามาในห้อง เห็นโอมกำลังกินแกงฟักอยู่อย่างเอร็ดอร่อย เพียงดาวอึ้ง
“อร่อยมากไหมโอม!”
“อร่อยครับ...คุณดาวทานด้วยกันไหมครับ”
“โอมนี่กินง่ายนะ กินไม่เลือกเลย!” โอมงง เพียงดาวดึงจานข้าวโอมไปทิ้งลงถังขยะทันที
โอมเหวอ “คุณดาวเป็นอะไรครับ?”
“เลิกตีหน้าซื่อได้แล้ว! ชั้นไม่อยู่แป๊ปเดียวโอมก็นัดมันขึ้นมาหาเลยเหรอ”
“คุณดาวเจอดีนี่เหรอครับ”
“ยอมรับแล้วเหรอโอม ว่าโอมให้มันมาเจอจริงๆ”
“ผมไม่ได้นัดเค้ามานะครับ เค้ามาของเค้าเอง ผมไม่อยากให้เราทะเลาะกันเลยให้เค้ากลับไปก่อน ผมแคร์คุณดาวนะครับ”
“ถ้าแคร์ชั้นจริง โอมจะมานั่งกินกับข้าวที่มันทำมาให้แบบนี้เหรอ!”
“กับข้าวนี่ของแม่ผมครับ”
เพียงดาวไม่เชื่อ “เลิกเอาแม่มาอ้างเสียทีโอม กลิ่นน้ำหอมมันติดตัวก็บอกว่าของแม่ มันทำกับข้าวมาให้ก็บอกว่าของแม่ ชั้นคิดว่าชั้นจะลืมทุกอย่าง แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่ แต่โอมก็ไม่เลิกวุ่นวายกับมันสักที”
โอมระอาใจ “ทำไมเรากลับมาทะเลาะกันเรื่องนี้อีกแล้วครับ ไหนว่าเราจะเชี่อใจกัน”
“ชั้นจะเชื่อใจเธอก็ได้ แกงนี่ฝีมือแม่ใช่ไหม แล้วไหนล่ะแม่”
“แม่ลงไปไหว้พระครับ”
“ลงไปไหว้พระเหรอ!!” เพียงดาวกระชากถ้วยแกงฟักมา โอมดึงมือไว้
“อย่านะครับคุณดาว”
เพียงดาวไม่สนใจ โอมยื้อยุดอยู่กับเพียงดาวไปมา
แต่ในที่สุดเพียงดาวก็กระชากถ้วยแกงฟักจากโอมมาอย่างแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่อ้อย อาม และฝ้ายเปิดประตูเข้ามาพอดี น้ำแกงฟักในถ้วยสาดโดนหน้าแม่อ้อยเต็มๆ
ฝ้าย อาม และโอมตกตะลึง
“แม่!!” โอมคราง

เพียงดาวหันไปดูเห็นว่าหน้าแม่อ้อยเลอะแกงไปหมด เพียงดาวถึงกับอึ้ง
“แม่คะ...ดาว...ดาวขอโทษ”
แม่อ้อยงงมาก “หนูดาว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“คือ..ดาวเค้าเข้าใจผิดคิดว่าดีนี่เป็นคนทำกับข้าวมาให้ผมน่ะครับ” โอมว่า
“แกงนี่ แม่เป็นคนทำให้โอมเอง!” แม่อ้อยบอก
“แต่เมื่อกี๊ดีนี่มันไปบอกดาวว่ามันทำกับข้าวมาให้โอม มันโกหกดาว...” เพียงดาวอธิบาย
ทว่าอามรีบแทรกขึ้นอย่างไม่พอใจ “พอเถอะพี่ดาว! จะโทษคนอื่นไปถึงไหน”
โอมปรามน้อง “ไอ้อาม!!”
“ทำไมครับพี่โอม พี่โอมไม่เห็นเหรอครับว่าเค้าทำกับแม่เรายังไง ถึงตอนนี้พี่โอมยังจะเข้าข้างเค้าอีกเหรอครับ!”
โอมอึ้งพูดอะไรไม่ออก
“แม่คะ ดาวขอโทษค่ะ ดาวไม่รู้จริงๆว่ากับข้าวนี่แม่ทำ...”
อามสวนออกมาด้วยความโกรธ “พอทีเถอะครับ! ทำผิดแล้วก็มาขอโทษ แล้วมันต้องเป็นแบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง ทำไมพี่ดาวไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง”
“แม่ว่าโอมกับดาวแยกกันอยู่ซักพักเถอะนะ” แม่อ้อยบอก
เพียงดาวได้ฟังแล้วอึ้ง หมายความว่ายังไงคะแม่”
“ถ้าดาวอยู่คนเดียวอาจจะมีเวลาทบทวนว่าควรจะต้องปรับปรุงตัวยังไงบ้าง”
เพียงดาวพยายามจะอธิบาย “แม่คะ...”

แต่แม่อ้อยไม่ยอมฟัง แถมเดินหนีเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำอย่างไม่พอใจ เพียงดาวใจหล่นวูบ อึ้งๆ ไป


ในวันต่อมา ดีนี่มีจ๊อบถ่ายแบบแฟชั่นกับนิตยสารเล่มหนึ่ง และ กำลังทำงานอยู่ การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ดีนี่โพสท่าสวมสมใจช่างภาพ จังหวะนั้นเสียงช่างภาพร้องบอก

“โอเคครับ…รอถ่ายเซทต่อไปนะ”
ดีนี่เดินมาให้ป้ากบซับหน้า “เหนื่อยมั้ยจ๊ะดีนี่”
ดีนี่ส่ายหน้า
“แต่ป้านะเหนื่อยม๊ากมาก เห็นไหมพอนังดาวมันมีเรื่อง งานก็เทมาทางหนูหมด” ป้ากบหัวเราะคิกคัก
“ป้าคะ เมื่อวานน้องอามเค้าโทร.มาบอกดีนี่ว่า พอโอมออกมาจากโรงพยาบาล แม่จะให้โอมกลับไปอยู่บ้านค่ะ”
ป้ากบหัวเราะสะใจ “อย่างนี้แหละที่ว่าแม่เป็นพระพรหมของลูก ช่วยฉุดโอมออกมาจากปีศาจอย่างนังดาว แต่นังดาวเลิกกับโอมแบบนี้ก็ดี หนูจะได้พ้นคำครหาว่าแย่งผัวชาวบ้าน ทีนี้จะหงส์ร่อนมังกรรำก็ทำได้ตามสบายเลยลูก”
“ป้าพูดอะไรคะ บ้า” ดีนี่แอ๊บยิ้มเขิน

ตอนสายวันต่อมาโอม กลับมาจากโรงพยาบาลมีแม่อ้อยพยุงเดินเข้าบ้าน อามกะฝ้าย ถือของเข้าไปเก็บ
แม่อ้อยมองโอมเห็นท่าทางเศร้าซึม แล้วรู้สึกสงสาร
“โอม ไม่โกรธแม่ใช่ไหม?”
โอมฝืนยิ้ม “ไม่ครับ”
โอมขึ้นบ้านไป แม่อ้อยมองตามสงสารลูกชายนัก

เวลาเดียวกันเพียงดาวนั่งกอดเข่าเจ่าจุก อาการเหม่อลอย อยู่บนเตียง ถอนหายใจเศร้าๆ พลางลูบไล้เตียงนอนด้วยความคิดถึงโอม
จังหวะต่อมา เพียงดาวค่อยๆ เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อโอมที่แขวนอยู่ออกมา เอาเสื้อโอมมากอดคิดถึงโอมเหลือเกิน เพียงดาวน้ำตาไหลริน ด้วยความขมขื่นใจ
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือดัง เพียงดาวหยิบมาดูแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ
โอมนั่นเองโทรศัพท์มาหา ขณะอยู่ในห้องนอนที่บ้าน
“ผมถึงบ้านแล้วนะครับคุณดาว”
เพียงดาวพยายามกลั้นน้ำตา “แล้วโอมเป็นไงบ้างยังเจ็บแผลอยู่ไหม?”
“ไม่แล้วครับ” โอมชะงัก จับน้ำเสียงออก “คุณดาวร้องไห้หรือเปล่าครับ”
เพียงดาวไม่อยากให้โอมกังวล “เปล่า ฉันไม่ได้ร้อง โอมไม่ต้องห่วงฉันนะ”
โอมยิ้มออก “ไม่ห่วงแต่คิดถึงได้ไหมครับ”
เพียงดาวยิ้ม ความรู้สึกค่อยดีขึ้น
“คุณดาวครับ ผมรักคุณดาวนะครับ คุณดาวให้เวลาแม่ผมอีกนิดนะครับ ถ้าแม่ผมเข้าใจคุณดาวแล้ว ผมจะกลับไปอยู่กับคุณดาว”
“ฉันก็สัญญาว่าฉันจะทำให้แม่และน้องอามเห็นว่าฉันควบคุมอารมณ์ได้”
“ผมรักคุณดาวนะครับ” โอมบอกอีก
“รู้แล้ว โอมพูดไปแล้ว”
“ก็คุณดาวไม่เห็นบอกรักผมเลยนี่ครับ ผมก็เลยต้องพูดอีก” โอมเย้า
“คนบ้า...” เพียงดาวคิดถึงโอมมากมาย “โอม ฉันรักโอมนะ”

เพียงดาวตัดสินใจแวะมาหาสองเพื่อนรัก กำลังนั่งท่าทางเครียดๆ นั่งอยู่ในห้องทำงานแต้ว มีอู๋อยู่ด้วย
“ดาวไม่น่าวู่วามเลย ดาวเชื่อที่คนอื่นยุ จนต้องมีเรื่องกับแม่โอม ดาวไม่น่าเลยค่ะพี่แต้ว”
“ดาว ถึงแม่โอมจะให้โอมกลับไปอยู่บ้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าดาวกับโอมจะเลิกกันนะ” แต้วปลอบ
อู๋เสริม “ที่แม่เค้าทำก็ถูกนะ”
เพียงดาวชะงักหันมามอง
“มันเป็นความผิดของพวกชั้นด้วยแหละ เพราะที่ผ่านมาพวกชั้นไม่เคยเตือนดาวเลย ดาวรู้มั้ยเวลาดาวโกรธมันน่ากลัวมากเลยนะ”
เพียงดาวมองแต้วเป็นเชิงถามว่าเป็นแบบนั้นจริงเหรอ แต้วพยักหน้าเห็นด้วย
“เอาเป็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ย มองในแง่ดี มันจะช่วยให้ดาวปรับปรุงตัว ไม่ใจร้อนรู้จักควบคุมอารมณ์ แล้วถ้าดาวทำได้นะมันจะเป็นผลดีกับตัวดาว ทั้งเรื่องของโอมและเรื่องของงาน”
เพียงดาวนิ่งคิดตาม
“ช่ายๆ แล้วถ้าเมื่อไหร่ดาวเป็นนิวเพียงดาวนะ ขี้คร้านแม่โอม เค้าต้องห่อโอมส่งอีเอ็มเอสคืนมาให้ดาวเลยแหล่ะ” อู๋อวยสุดฤทธิ์
เพียงดาวคิดแล้วพยักหน้า “ดาวต้องทำให้ได้ ดาวต้องเลิกวู่วาม ดาวกับโอมต้องกลับมาอยู่ด้วยกัน”
แต้วกะอู๋กอดเพียงดาวไว้
สามคนไม่รู้ว่าแหนมยืนแอบมองอยู่ แล้วตกใจรีบวิ่งปรู๊ดออกไป

พนักงานโมเดลทุกคนหน้ามุ่ย จำใจจ่ายเงินแหนมคนละหนึ่งร้อยบาท แหนมเดินเก็บเงินพนักงานตามโต๊ะ แล้วเดินมาหยุดที่ปลาหวาน ปลาหวานจะวิ่งหนี
“จะหนีไปไหน แกแพ้พนันชั้น ชั้นบอกแล้วโอมต้องเลิกกับคุณดาว”
“แต่ที่ผมได้ยินมาเค้าแค่แยกกันอยู่ ไม่ได้เลิกกันนี่”
แหนมชะงักคำพูดคิว
พนักงานกรูเข้ามาจะเอาเงินคืนจากแหนม
แหนมร้องขึ้น “หยุดๆๆ ทุกคนเคยเห็นดาราที่บอกว่าแยกกันอยู่ แล้วกลับมาคบกันอีกไหมล่ะ”
พนักงานส่ายหน้า
“ฮิฮิ เห็นมั้ยล่ะ คนใจร้อนอย่างคุณดาวน่ะ ไม่มีใครทนได้หรอก ชั้นฟันธงได้เลย โอมกับคุณดาวไม่มีวันกลับมาคืนดีกันแน่”
“แต่เค้ายังไม่ประกาศว่าเลิกกัน เพราะฉะนั้นเอาเงินชั้นคืนมา”
ปลาหวานดึงเงินคืนจากแหนม พนักงานคนอื่นเลยเข้ามาดึงเงินจากแหนม แหนมกรี๊ด

วันต่อมาอามเปิดประตูร้าน เช็ดโต๊ะ เช็ดเคาน์เตอร์ จัดร้านเตรียมขาย ผิวปากอารมณ์ดี ฝ้ายเดินมามองหน้าอาม งงๆ
“อารมณ์ดีอะไรหนักหนาไอ้อาม”
“ตอนนี้พี่โอมกลับมาอยู่บ้านแล้ว ไม่ต้องไปอยู่กับคนเจ้าอารมณ์อย่างพี่ดาว แล้วอีกอย่างความรักของชั้นกับน้องเฟิร์นกำลังหว๊านหวาน”
ฝ้ายเซ็ง อามไม่สนใจกดมือถือ เห็นกดโทร.หาใบเฟิร์น
มือถือฝ้ายสั่น ฝ้ายมองอาม แล้วหยิบมือถือมาดูเห็นชื่ออามโทร.เข้ามา ฝ้ายเหวอมองอาม แต่อามไม่ได้สนใจ รอสายจากเฟิร์นยิ้มๆ
ฝ้ายรีบเดินไปหลบที่ชั้นหนังสือ แอ๊บเป็นใบเฟิร์น “สวัสดีค่ะพี่อาม
“สวัสดีครับน้องเฟิร์น น้องเฟิร์นทำอะไรอยู่ครับ?”
“กำลังจะไป” ฝ้ายหันทางขวาเห็นหนังสือสอนตีเทนนิส “ไปตีเทนนิสค่ะ”
“เหรอครับ คือพี่อยากรู้ว่าวันเสาร์น้องเฟิร์นว่างรึเปล่าครับ”
“วันเสาร์ เอ่อ..” ฝ้ายอึกอัก
อามเดินหลบมุมคุยโทรศัพท์มาทางฝ้ายแอบอยู่ ฝ้ายตกใจ มุดหนีไปอีกด้านของชั้นหนังสือ
“วันเสาร์ ติดเรียนพิเศษน่ะค่ะ”
“เหรอครับ แล้ววันอาทิตย์ล่ะครับ”
อามเดินหลบมุมคุยโทรศัพท์มาทางฝ้าย ใกล้เข้ามาอีก
ฝ้ายตกใจ มุดหนีไปอีกด้านของชั้นหนังสือ
“วันอาทิตย์ก็ไม่ว่างค่ะ”
อามน้อยใจ “พี่ชวนทีไรน้องเฟิร์นก็ไม่ว่างสักที มีอะไรรึเปล่าครับ หรือไม่อยากเจอพี่”
“คือพ่อเฟิร์นดุมากน่ะค่ะ แล้วท่านก็หัวโบราณ”
“เข้าใจแล้วครับ” ฝ้ายโล่งอก “เดี๋ยวพี่จะไปหาพ่อน้องเฟิร์นเอง”
ฝ้ายชะงัก “หือ!!”
“ผู้ใหญ่เค้าคงอยากให้เราเข้าตามตรอกออกตามประตู คบกันต้องอยู่ในสายตาท่าน ท่านจะได้รู้ว่าพี่จริงใจ” อามโชว์แมน
“เอ่อ คือว่า”
“น้องเฟิร์นเคยบอกว่าอยู่สุขุมวิท 31 ใช่ไหมครับ เดี๋ยววันเสาร์นี้พี่ไปหาเลย”
ฝ้ายเหวอ “ไม่ต้องหรอกค่ะพี่อาม วันอาทิตย์เฟิร์นพอจะว่างพอดี เดี๋ยวเรานัดเจอกันก็ได้ค่ะ”
“งั้นเราไปที่ร้าน....” อามบอกสถานที่ “ดีไหมครับ”
“ค่ะ”
อามเดินมาใกล้ฝ้าย ฝ้ายรีบมุดหนี หัวดันไปชนชั้นหนังสือ
“โอ๊ย!”
อามงงว่าทำไมเสียงอยู่ใกล้ๆ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับน้องเฟิร์น”
ฝ้ายรีบมุดไปอยู่แถวชั้นหนังสืออีกด้าน
“พอดีเดินสะดุดนิดหน่อยน่ะค่ะ”
“เพี้ยงๆ หายนะครับ”
“ค่ะ แค่นี้นะคะ”
ฝ้ายวางสาย ถอนใจ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นอามยืนมองอยู่ ฝ้ายตกใจคิดว่าอามจะจับได้
“แกมานั่งอู้งานทำไมตรงนี้เนี่ย!”
ฝ้ายโล่งที่อามจับไม่ได้

สายวันเดียวกันดีนี่กับป้ากบมาทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัดแห่งหนึ่งนักข่าวตามไปทำข่าว หลังถวายปัจจัยพระสงฆ์อิ่มบุญเรียบร้อย ดีนี่โพสท่า ลูบหัววัว แล้วไปให้หญ้าวัวในคอก ให้ถ่ายรูป
“วันนี้มาทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ เนื่องในโอกาสอะไรครับ” นักข่าวถาม
“ไม่มีโอกาสอะไรหรอกค่ะ ทำความดีทำได้ตลอดเวลาค่ะ ไม่ต้องรอให้มีโอกาสอะไร”
ป้ากบเสริมทันที “ถูกต้องค่ะ เพราะปกติดีนี่ของป้าเค้าก็มีจิตใจบุญสุนทานอยู่แล้วค่ะ”
นักข่าวซัก “ที่คุณดาวเค้าทะเลาะกับแฟนจนเกิดอุบัติเหตุ เกี่ยวของกับคุณดีนี่ด้วยหรือเปล่าครับ”
ป้ากบตอบแทน “ดีนี่เค้าเป็นนางแบบนะคะ ไม่ใช่ตำรวจจราจร จะมาเกี่ยวข้องอะไรด้วย”
“แต่มีข่าวลือว่าที่คุณดาวเค้าทะเลาะกับแฟน เพราะดีนี่เป็นต้นเหตุ” นักข่าวซักไซ้
“ดีนี่ยืนยันนะคะ ดีนี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดีนี่รักและเคารพพี่ดาวมาโดยตลอด เราสองคนก็เป็นพี่น้องร่วมวงการกัน ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย ดีนี่ว่าพี่ดาวคงพักผ่อนน้อยน่ะค่ะ อีกอย่างพี่ดาวก็ทำงานมานานแล้วด้วย ความเหนื่อยมันก็สะสม ดีนี่ว่าพี่ดาวหยุดรับงานแล้วพักผ่อนให้เพียงพอดีกว่านะคะ เพื่อสุขภาพของพี่ดาวเอง” ดีนี่ยิ้มแย้ม
“ใช่ๆค่ะ เวลากบเจอดาว กบก็เตือนดาวบ่อยๆ ว่าดาวทำงานมานานแล้วร่างกายมันก็ต้องทรุดโทรม ไม่เหมือนเด็กๆ รุ่นใหม่” ป้ากบกัดเพียงดาว
“ยังไงดีนี่ก็ฝากถึงทุกคนด้วยนะคะ เวลาขับรถอย่าประมาท ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”

ขณะเดียวกันเพียงดาวนั่งดูทีวีอยู่ เห็นดีนี่กับป้ากบพูดแดกดันตนเอง เพียงดาวกดปิดทีวี แล้วพยายามสะกดอารมณ์

วันต่อมาดีนี่เดินไล่แจกสายสิญจน์ ให้คนในออฟฟิศโมเดลอยู่ จนมาถึงแหนม คิว ปลาหวาน
“บุญรักษานะคะ พี่ปลาหวาน พี่คิว พี่แหนม”
“น้องดีนี่เนี่ย สวยแล้วใจบุญอีกนะคะ อย่างเนี้ยเค้าเรียกว่าสวยทั้งภายนอกและภายใน” แหนมชม
ปลาหวานเหน็บเอา “งั้นแกก็ขี้เหร่ทั้งภายนอกและภายในน่ะสิ”
ทั้งคู่มองกันอย่างเชือดเฉือน
“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ น้องดีนี่ใจบุญอย่างนี้เนี่ยนะต่อไปสิ่งดีๆ ก็ต้องเข้ามาในชีวิตแน่ๆ”
คิวเหลือบไปเห็นเพียงดาวเดินเข้ามา คิวชะงักบุ้ยใบ้ไปทางประตู
“สิ่งดีๆกำลังจะเข้ามาแล้วครับ”
ทุกคนหันไป เพียงดาวหันมาเห็นดีนี่ชะงักจะเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง ดีนี่วิ่งไปดักหน้าไว้
“สวัสดีค่ะพี่ดาว ดีนี่ไปทำบุญมา เอาสายสิญจน์มาฝากค่ะ”
เพียงดาวพยายามไม่สนใจ จะเดินหนี ดีนี่รีบไปดักหน้าอีก
“เก็บไว้กับตัวนะคะ จะได้หมดเคราะห์หมดโศก ปราศจากศัตรูทั้งเรื่องงานและความรัก”
เพียงดาวชักฉุน ดีนี่จะผูกสายสิญจน์ให้ เพียงดาวทนไม่ไหวปัดมือดีนี่ สายสิญจน์ร่วงกระจาย ทุกคนอึ้ง
ดีนี่แกล้งตกใจก้มลงเก็บเศร้าๆ ทุกคนมองดาวกลัวๆ
เพียงดาวกับปลาหวาน “ฝากบอกพี่แต้วกับพี่อู๋ด้วยนะว่าชั้นกลับแล้ว”
เพียงดาวออกไปทันที

เพียงดาวเปิดประตูรถ กำลังจะขึ้นรถ ดีนี่เดินตามจับประตูรถไว้
“ตามชั้นมาทำไม”
“ดีนี่จะฝากสายสิญจน์ให้โอมน่ะค่ะ” แกล้งนึกได้ “อุ้ย ลืมไปพี่ดาวกับโอมไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนี่ งั้นเดี๋ยวดีนี่เอาไปผูกข้อมือให้โอมเองดีกว่า”
เพียงดาวพูดใส่หน้า “สายสิญจน์เนี่ยมันเสื่อมตั้งแต่คนเลวๆอย่างเธอไปจับมันแล้วล่ะ”
“พี่ดาวคะ พี่ดาวแนะนำดีนี่มาตั้งหลายอย่าง ดีนี่ขอแนะนำพี่ดาวบ้างนะคะ บางทีตัวตนที่แท้จริงของเรา ก็ไม่สำคัญเท่าที่คนอื่นเค้าเห็นว่าเราเป็นยังไงหรอกค่ะ”
“สักวันทุกคนเค้าจะต้องเห็นธาตุแท้ของแก”
“กว่าจะถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไปก็ได้นะคะ ดีนี่ลาล่ะค่ะ”
ดีนี่เดินเชิดไปขึ้นรถแล้วขับออกไป

เพียงดาวมองตามดีนี่อย่างแค้นเคือง แล้วตัดสินใจขึ้นรถขับตามดีนี่ไปอย่างแรง

มารยาริษยา ตอนที่ 5 (ต่อ)

ดีนี่ขับรถแล่นมาบนถนน เพียงดาวเร่งความเร็วแซงดีนี่ แล้วขับตัดหน้าทันที ดีนี่ตกใจเบรกรถจนตัวโก่ง ดีนี่อารมณ์เสียลงจากรถเห็นเพียงดาวยืนอยู่หน้ารถ

“พี่ดาวทำอย่างนี้ทำไมคะ เดี๋ยวก็เป็นข่าวขึ้นมาอีกหรอกค่ะ” ดีนี่ของขึ้น
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงชั้น ที่ชั้นเป็นอย่างทุกวันนี้ก็เพราะฝีมือเธอทั้งนั้น”
“พี่ดาวอย่าคิดแบบนั้นสิคะ ที่พี่ดาวเป็นแบบนี้ก็เพราะเป็นกรรมของพี่ดาวมากกว่า”
“ฉันถามจริงๆทำไมเธอต้องจองล้างจองผลาญชั้น หรือว่าเธอมีปมด้อยอะไร หา ขาดความอบอุ่นเหรอ พ่อแม่ไม่รักหรือไง หรือโดนใครทำอะไรถึงกลายเป็นคนเลวๆแบบนี้?”
ดีนี่ชะงัก เพียงดาวสังเกตเห็น ดีนี่รีบทำสีหน้าปกติหันกลับเปิดประตูรถตัวเอง จะขึ้นรถ เพียงดาวเข้ามาเอามือดันประตูปิด
“จะหนีไปไหน หรือว่าชั้นพูดแทงใจดำ”
ดีนี่จะเปิดประตูรถอีก เพียงดาวจับตัวดีนี่เหวี่ยงออกจากรถแล้วผลักอย่างแรง

“จะไปไหน พูดออกมาสิ ว่าเมื่อก่อนไปเจออะไรมา ถึงได้ทำให้เธอเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เลวทรามได้ขนาดหนี หา” คว้าข้อมือดีนี่แล้วบีบ “พูดออกมาสิ ว่ามีปมด้อยอะไร ไปเจออะไรมาถึงได้เลวได้ขนาดนี้ พูดมา” เพียงดาวบีบแรงขึ้นอีก “ไปเจออะไรมา!!”
ดีนี่ทนไม่ไหวสะบัดจนเพียงดาวกระเด็น
ดีนี่เสียงกร้าวเรียกจิกเพียงดาว “เจอคนอย่างเธอไงดาว! คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง ไม่เคยเห็นหัวคนอื่น ดีแต่กดคนอื่นให้ต่ำ คนอย่างเธอมันควรจะเจอกับความตกต่ำซะบ้าง!”
“หางโผล่ออกมาแล้วเหรอ” เพียงดาวเหยียดยิ้ม
“เธอคิดสินะ ว่าเธอเก่งกว่าฉัน ดีกว่าฉันทุกอย่าง แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะดาว ชั้นนี่แหละจะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย ทั้งงาน ทั้งความรัก อีกหน่อยจะทำให้ทุกคนจำได้ลางๆ ว่าเคยมีนางแบบเจ้าอารมณ์คนนึง แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร”
“แกตั้งใจทำให้ทุกคนเข้าใจฉันผิด คิดว่าฉันไประรานไปหาเรื่องแก ทั้งๆ ที่ความจริงแกเป็นคนสร้างเรื่องเองทั้งหมด”
“ใครใช้ให้เธอโง่เองล่ะดาว ฉันสนตะพายไปทางไหน เธอก็เดินตามเกมฉันหมด”

“ปากชอบอ้างพระ ทำแบบนี้ไม่กลัวบาปกรรมรึไง”
“ไม่ต้องเอาบาปบุญมาขู่ชั้นหรอก หน้าตามันเป็นยังไง ฉันไม่เคยเห็น ฉันรู้แต่ว่าฉันจะต้องชนะ ส่วนเธอต้องไม่เหลืออะไรเลย”
จู่ๆ เพียงดาวก็หัวเราะลั่น ดีนี่งง
“นี่เสียใจจนเสียสติไปแล้วเหรอดาว”
เพียงดาวยิ้มสะใจ “เปล่าหรอก ฉันแค่ขอบใจที่แกสละเวลาคุยกับฉัน เดี๋ยวแกก็จะได้รู้ ว่าบาปกรรมหน้าตามันเป็นยังไง”
เพียงดาวล้วงไปในกระเป๋าถือแล้ว ชูเครื่องอัดเสียงในมือให้ดีนี่ดู
ดีนี่อึ้งตกใจ “นี่แก...แกอัดเสียงฉันไว้”
เพียงดาวยิ้มหันหลังกลับเอาเครื่องอัดเสียงใส่กระเป๋าถือ และเดินไปที่รถ
ขณะที่เพียงดาวกำลังจะเปิดประตูรถ ดีนี่ก็เดินเข้าไปกระชากกระเป๋าถือเพียงดาว แต่เพียงดาวจับแน่นไม่ยอมปล่อย สองคนยื้อยุดกันอยู่ แล้วกลิ้งลงไปข้างไหล่ทาง
ข้างทางบริเวณนั้นมีกองไฟที่เผาหญ้าลุกโชนอยู่

กระเป๋าเพียงดาวร่วงอยู่ข้างกองไฟ ดีนี่กับเพียงดาวต่างพยายามลุกจะไปคว้ากระเป๋า เพียงดาวกระชากผมดีนี่ไว้ แล้วตบหน้าดีนี่จนหน้าหงาย
เพียงดาวรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าได้ ดีนี่วิ่งมาด้านหลังผลักจนเพียงดาวล้มหน้าคว่ำเฉียดกองไฟอย่างลุ้นระทึก
พอเพียงดาวจะลุก ดีนี่ทะยานขึ้นคร่อม แล้วเอามือข้างหนึ่งกดหัวเพียงดาวไว้ ใช้อีกมือคว้ากระเป๋าขึ้นมาได้แล้วรีบลุกขึ้น
“แกไม่มีวันทำอะไรฉันได้หรอก!”
เพียงดาวจ้องดีนี่ ที่กำลังโยนกระเป๋าเข้าไปในกองไฟ เห็นไฟลุกท่วมกระเป๋า ดีนี่หัวเราะสะใจ
“ชั้นบอกแกแล้ว ว่าแกไม่มีวันทำอะไรชั้นได้!!”
เพียงดาวมองดีนี่แล้วหันหลังจะไปที่รถ แล้วจู่ๆ ก็หันกลับมาหาดีนี่ ชูเครื่องอัดเสียงที่ตนเองหยิบออกมาจากกระเป๋าได้ก่อน
ดีนี่อึ้งรีบวิ่งไปหา แต่เพียงดาวรีบขึ้นรถปิดประตูเคาะกระจกหยามหยัน
ดีนี่อึ้ง ไม่รู้จะทำยังไง ทรุดตัวเกาะรถเพียงดาวแล้วร้องไห้พร้อมกับยกมือไหว้ “พี่ดาว…ดีนี่ยอมแล้ว ขอโอกาสดีนี่สักครั้ง ดีนี่สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับพี่ดาวอีกเลย”

เพียงดาวมีสีหน้าสะใจ เร่งเครื่องขับรถทะยานออกไป
ดีนี่ทำอะไรไม่ได้ ร้องไห้โฮแล้วกรี๊ดออกมาอย่างคั่งแค้น! ตาวาวโรจน์

ที่คอนโดดีนี่ ป้ากบลุกพรวดขึ้นจากโซฟาในห้องรับแขก สีหน้าตกใจมาก
“ว้ายย! ตายแล้ว!!! แล้วหนูพูดอะไรไปเยอะหรือเปล่า?”
ดีนี่สะอึกสะอื้น แล้วพยักหน้า
ป้ากบคาดคั้น “พูดอะไรออกไปบ้าง?!!”
“ก็พูดเยอะน่ะค่ะ ดีนี่โมโหที่พี่ดาวเค้าว่าป้ากบดีนี่ทนไม่ได้ ก็เลยเถียงกลับไป พอเถียงเสร็จพี่ดาวเค้าก็ตบดีนี่อีก”
ดีนี่แสร้งร้องไห้เสียใจหนักแล้วซบไหล่ป้ากบอย่างน่าสงสาร ป้ากบตบไหล่ปลอบดีนี่
“คิดไม่ถึงเลยว่านังดาวมันจะใช้วิธีสกปรกอย่างนี้ เลว เลวมาก”
“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ ป้ากบ”
ป้ากบหนักใจ คิดอะไรไม่ออก ดีนี่ร้องไห้โฮ

อามอยู่ที่ร้านไอศกรีมแห่งหนึ่ง ชูสร้อยขึ้นเหมือนพูดอยู่กับใครบางคน
“พี่อามซื้อสร้อยมาให้เป็นของขวัญน้องเฟิร์น ขอพี่อามใส่ให้ได้ไหมครับ”
ที่แท้อามนั่งอยู่กับฝ้าย แต่เพ้อถึงใบเฟิร์น ฝ้ายส่ายหน้าระอาใจ ท่าทางกลุ้มหนัก
“ได้” ฝ้ายบอก
อามเซ็ง “โว้วว! นี่ชั้นขอใส่สร้อยให้ ไม่ได้มาขอยืมเงิน ทำไมแกต้องทำหน้ากลุ้มขนาดนี้ด้วยวะ” แล้วนึกได้ “ชั้นผิดเองแหล่ะที่ขอให้แกมาเล่นเป็นน้องเฟิร์น เพราะความจริงแกกับน้องเฟิร์นต่างกันราวฟ้ากับเหว”
ฝ้ายเซ็งหนัก “นี่แกจริงจัง จนต้องมาซ้อมก่อนเจอน้องเฟิร์นเค้าเลยเหรอ”
“เออน่ะสิ ชั้นรู้นะเว้ย ว่าแกคิดว่าคนที่เจอกันในอินเตอร์เน็ตมีแต่คนหลอกกันไปหลอกกันมา แต่ชั้นเนี่ยแหล่ะจะพิสูจน์ให้แกดู ว่ารักแท้ในโลกไซเบอร์มันมีจริง” อามเพ้อ
ฝ้ายหยั่งเชิง “แล้วถ้าเค้าไม่มาล่ะ แกจะเสียใจไหม”
“ชั้นไม่เสียใจหรอก” ฝ้ายงง “เพราะชั้นจะตามเค้าไปถึงบ้าน เข้าไปคุยกับพ่อเค้า ชั้นอยากให้พ่อน้องเฟิร์นเค้ารู้ว่าชั้นจริงใจกับน้องเฟิร์น”

“แกชอบเค้าขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฝ้าย น้องเฟิร์นเค้าไม่เหมือนคนอื่น เค้าเข้าใจชั้นทุกอย่าง เหมือนรู้จักชั้นมานานอย่างนั้นแหล่ะ เมื่อก่อนชั้นไม่เคยเชื่อเรื่องเนื้อคู่เลย จนกระทั่งมาเจอน้องเฟิร์น ชั้นก็เชื่อว่าคนที่เกิดมาเพื่อกันและกันมันมีจริง”
ฝ้ายได้ยินแล้วอึ้งๆ เหม่อๆ ตักไอติมกินแต่เลอะ อามเช็ดปากให้ฝ้าย
“ระวังหน่อยสิ ซุ่มซ่ามอย่างนี้ถึงไม่มีแฟนสักที”
ฝ้ายเขิน
อามหยิบสร้อยออกมา พยักหน้าให้ฝ้าย
“ให้พี่ใส่สร้อยให้ได้ไหมครับ”
ฝ้ายมองอามแล้วหวั่นไหว “ได้ค่ะ”
อามเดินอ้อมหลังไปใส่สร้อยให้ฝ้าย
สำหรับฝ้ายในใจส่วนหนึ่งก็มีความสุขที่ทำให้อามรู้สึกดีกับใบเฟิร์นได้ขนาดนี้ อีกส่วนก็รู้สึกกลุ้มใจว่าถ้าอามรู้ความจริง อามต้องเสียใจมาก ฝ้ายทั้งกลัวและรู้สึกผิด

รุ่งเช้า แผงหนังสือทั่วประเทศ หนังสือพิมพ์บันเทิงพาดหัวหน้าหนึ่ง “ผุดคลิปเสียงนางแบบ พ แฉสันดานนางแบบ ด หน้ามือเป็นหลังมือ”
“นี่ เค้าบอกว่าเป็นคลิปเสียงของนางแบบ พด. กับนางแบบรุ่นน้อง ดน.”
พิธีกรกฤษณ์นำเรื่องมาเม้าท์ในรายการแฉออนทีวี
“ใบ้ขนาดนี้ แกก็บอกไปเถอะว่าเป็นเพียงดาวกับดีนี่” มดดำว่า
กฤษณ์เซ็ง
โลกไซเบอร์ก็อื้ออึงไม่แพ้กัน ในหน้าอินเตอร์เน็ตมีแต่ข่าวคลิปเสียงดีนี่กับเพียงดาว, บางคนเปิดยูทูปฟังคลิปเสียง

เวลาเดียวกัน แหนม คิว และปลาหวานกำลังฟังคลิปเสียงของดีนี่อยู่ ที่ร้านส้มตำข้างออฟฟิศ
“ใครใช้ให้เธอโง่เองล่ะดาว ฉันสนตะพายไปทางไหน เธอก็เดินตามเกมฉันหมด”
ระหว่างที่ฟังแหนม คิว ปลาหวานสะดุ้งอึ้งกับสิ่งที่ดีนี่พูด
“ปากเธอชอบอ้างพระ ทำแบบนี้ไม่กลัวบาปกรรมรึไง”
“ไม่ต้องเอาบาปบุญมาขู่ชั้นหรอก หน้าตามันเป็นยังไง ฉันไม่เคยเห็น ฉันรู้แต่ว่าฉันจะต้องชนะ ส่วนเธอต้องไม่เหลืออะไรเลย”
คิวปิดมือถือ
ปลาหวานถามขึ้น “แกว่าใช่เสียงคุณดาวกับดีนี่รึเปล่า”
แหนมหงุดหงิดประชดส่ง “เสียงโก๊ะตี๋กับน้าค่อมมั้ง ก็ได้ยินชัดๆว่าเสียงคุณดาวกับน้องดีนี่จริงๆ”
“นี่ถ้าใช่จริงๆ พวกเราก็โดนหลอกกันหมดสิพี่” คิวว่า
แหนมครวญ “ทำไมน้องดีนี่เค้าแอ๊บเนียนได้ขนาดนี้เนี่ย อุตส่าห์มีภาพพจน์เป็นนางแบบรุ่นใหม่ ใส่ซื่อสุภาพ นอบน้อมมาตลอด เจออย่างนี้จะอยู่วงการได้ยังไง”

โอม อู๋ และแต้วนั่งดูหนังสือพิมพ์อยู่ที่ออฟฟิศ
“เห็นใสๆ ซื่อๆ แบบนั้นไม่น่าเล๊ย ทิ้งอนาคตตัวเองแท้ๆ” อู๋ว่า
“ที่ผ่านมาเราน่าจะเชื่อยัยดาวมันบ้าง” แต้วครวญ
“ผมก็ไม่คิดเลยนะครับว่าดีนี่เค้าจะเป็นอย่างนี้”
เพียงดาวเดินเข้ามาพอดี
“รู้เช่นเห็นชาติมันแล้วใช่ไหมโอม” ทุกคนหันไปมองเพียงดาว “ถ้าชั้นไม่ทำแบบนี้ก็ไม่มีใครรู้ความร้ายกาจของมันหรอก?”
โอมอึ้ง “หมายความว่าคลิปนี่ฝีมือคุณดาวเหรอครับ”
“ใช่ฉันอัดเองกับมือ”
ทุกคนตกใจ
“ดาว ทำไมทำอย่างนี้ ถ้านักข่าวรู้ว่าเป็นฝีมือเธอ เธอก็จะเสียไปด้วยนะ” แต้วบอก
“ดาวเสียจนไม่รู้จะเสียอะไรแล้วพี่แต้ว คราวนี้ให้นังดีนี่มันเป็นเสียบ้าง”
โอม นั่งนิ่งๆ อยู่ พยายามไม่แสดงความคิดเห็นอะไร
“ผมขอโทษนะครับที่เข้าใจคุณดาวผิด แต่คุณดาวสัญญาได้ไหมครับว่าอย่าทำแบบนี้อีก ผมเป็นห่วงคุณ”
เพียงดาวพยักหน้าในใจเป็นกังวล “หวังว่าแม่กับน้องอามจะเข้าใจฉัน เหมือนที่โอมเข้าใจนะ ไปกินข้าวกันเถอะ ชั้นหิวแล้ว วันนี้ชั้นเลี้ยงเอง”

ดาว โอม อู๋ และแต้วออกมาจากแฟฟิศจะเดินไปที่รถ ทันใดนั้น นักข่าวช่างภาพกรูเข้ามาเต็มไปหมด ทุกคนตกใจ

“ฉันว่าแล้ว ทำไงดีดาว !!” อู๋รีบถาม
นักข่าวกรูเข้ามาสัมภาษณ์โอม
“ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสามคนเป็นยังไงกันแน่ครับ” คนแรกถาม
“แล้วคุณมีความคิดเห็นกับคลิปเสียงยังไงคะ” อีกคนซัก
เพียงดาวพยายามดึงตัวโอมให้ไปอยู่ข้างหลัง และแทรกตัวเองขึ้นมาอยู่หน้า
“ดิฉันขอเป็นคนตอบคำถามทั้งหมดเองดีกว่าค่ะ”
“สรุปแล้วเสียงในคลิปเป็นเสียงคุณดาวกับดีนี่จริงหรือเปล่าคะ” นักข่าวคนเดิมถาม
“ก็อย่างที่ได้ยินน่ะค่ะ”
“คลิปเสียงทั้งหมดเป็นฝีมือคุณดาวหรือเปล่าครับ”
“ดิฉันไม่ขอตอบค่ะ แต่ยืนยันว่าเสียงในคลิปเป็นของจริงทั้งหมด”
“ถ้าเกิดดีนี่ออกมาปฏิเสธว่าในคลิปเสียงนั้นไม่ใช่ของเค้า คุณดาวจะทำยังไงคะ”
“นั่นก็เรื่องของเค้าค่ะ แต่มีหลักฐานขนาดนี้ จะยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอคะ แค่นี้ก่อนนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ”
สี่คนเดินฝ่าฝูงนักข่าวไมค์รวมออกไปขึ้นรถ

ที่บริเวณหน้าคอนโดป้ากบ มีนักข่าวรออยู่เต็มไปหมด ป้ากบเดินลงมาจากรถ ใส่แว่นตาดำ พยายามพรางตัว มองไปเห็นนักข่าวนั่งรออยู่ตรงลอบบี้ ป้ากบจะย่องเดินหนีไปขึ้นคอนโด
ทันใดนั้น นักข่าวคนหนึ่งหันไปเห็นป้ากบพอดี “นั่นไงป้ากบ”
นักข่าวทุกคนแห่กันไปหาป้ากบ
ป้ากบตกใจมาก จะเดินหนี แต่หนีไม่ทัน นักข่าวมาประชิดตัวเสียก่อน
“ป้ากบคะในคลิปเสียงนั่นเป็นเสียงของน้องดีนี่จริงหรือเปล่าคะ” นักข่าวจ่อไมค์ทันที
“เอ่อ…ไม่ขอตอบดีกว่านะคะ…รอน้องกลับมาตอบเองดีกว่า”
“อ้าว…ตอนนี้ดีนี่ไม่ได้อยู่เหรอครับ ไปไหนครับ หลบข่าวหรือเปล่า” นักข่าวถามซักอีก
“ตอนนี้อยู่หลวงพระบางค่ะ แล้วก็ไม่ได้หลบข่าวอะไรทั้งนั้น ดีนี่เค้ามีแพลนไปปฏิบัติธรรมที่หลวงพระบางอยู่แล้วค่ะ” ป้ากบตอแหล
นักข่าวยิงถาม “ตกลงคลิปเสียงนั้นเป็นเสียงดีนี่ใช่ไหมครับ”
“ถ้าน้องกลับมาจากปฏิบัติธรรมที่หลวงพระบางแล้ว พวกคุณมาถามจากปากน้องเองดีกว่าค่ะ ตอนนี้อย่าเพิ่งเชื่ออะไร รับรองว่าน้องกลับมาได้คำตอบแน่นอน ป้าขอตัวก่อนนะคะ”

ป้ากบเดินตัวลีบขึ้นคอนโดไปอย่างรวดเร็ว


ด้านดีนี่กำลังกลุ้มหนัก นั่งไม่ติดที่ เดินเป็นหนูติดจั่น มีเสียงเคาะประตูดัง ดีนี่เดินไปดูตรงตาแมวเห็นเป็นป้ากบ ดีนี่จึงเปิดประตูให้ ป้ากบรีบเดินเข้ามาในห้อง

“ข้างนอกเป็นยังไงบ้างคะ”
“นักข่าวเต็มไปหมดเลยดีนี่ หนูห้ามออกไปไหนเลยนะ ป้าบอกพวกมันว่าหนูไปทำบุญที่หลวงพระบาง”
ดีนี่ กะป้ากบมีสีหน้ากลุ้มใจหนัก
“แล้วเราจะปิดได้ถึงเมื่อไหร่คะ”
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

จู่ๆ เสียงฟ้าร้องครืนครัน ดีนี่ตกใจ มือปัดไปโดนชั้นเอกสารร่วง ดีนี่ก้มลงเก็บ แล้วหยิบแอกสารขึ้นมา เห็นเป็นบทละครที่ไว้สำหรับแคสต์งานสองสามหน้า
“นี่อะไรคะป้า”

“อ๋อ…บทละครที่ป้าเคยเขียนไว้ตอนสมัยที่ป้าปั้นเด็ก ป้าให้เด็กเล่นตามบทนี้ แล้วส่งเทปไปแคสต์งานน่ะ”
ดีนี่คิดไปคิดมา
ป้ากบกลุ้มหนัก “แล้วเรื่องคลิปเราจะทำยังไงดีดี่นี่”
ดีนี่คิดออก
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะป้า ดีนี่มีทางออกแล้ว ขอเวลาหนึ่งวัน มะรืนนี้ป้ากบเตรียมนัดนักข่าวได้เลย”

คืนนั้นอู๋ แต้วนั่งอยู่ที่โซฟา เพียงดาวเดินเข้ามาแล้วถามอย่างแปลกใจ
“แถลงข่าวอะไร! มันจะมีหน้ามาแก้ตัวอะไรอีก”
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าป้ากบโทร.นัดสื่อแล้วว่ามะรืนนี้ดีนี่จะกลับมาจากหลวงพระบาง แล้วก็จะแถลงข่าวเรื่องคลิปเสียง”
“เค้าก็คงมาบีบน้ำตาขอโทษ ขอโอกาสตามประสาแหล่ะ คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะดาว” อู๋บอก
“คิดว่าน้ำตาจะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องเหรอ คนเค้าตาสว่างหมดแล้ว คิดว่าจะมีใครเชื่อมันอีกเหรอ”
แต้ว อู๋พยักหน้าเห็นด้วยกับเพียงดาว

เวลานั้นดีนี่เปิดประตูให้ป้ากบเข้ามาในห้องที่คนโด สารรูปป้ากบสุดโทรม เดินถือซองเอกสารเข้ามาเพลียๆ
“ทุกอย่างเรียบร้อยนะคะป้า” ดีนี่ร้อนใจมาก
“เรียบร้อยสิ ป้าไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเนี่ย เอกสารพร้อมแล้ว ส่วนหนูน่ะไปเปลี่ยนเสื้อตัวนี้ซะ จะได้เนียนๆ”
ป้ากบยื่นเสื้อยืดตัวหนึ่งให้ดีนี่
สถานที่นัดแถลงข่าว เป็นบริเวณหน้าตึกหลังหนึ่ง บริเวณด้านหน้าถูกจัดเป็นที่แถลงข่าว อีกด้านหนึ่งมีหอพระตั้งอยู่ นักข่าวมารอกันอยู่นานแล้ว
สักครู่ก็มีรถตู้แล่นเข้ามาจอด
“มาแล้วๆ” ฝูงนักข่าวกรูไปหาดีนี่
ดีนี่ลงจากรถตู้ ใส่เสื้อยืดเขียนอักษรลาวว่า “สบายดี” ดีนี่ยกมือไหว้นักข่าวทุกคน
“สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน….”
นักข่าวเริ่มยิงคำถาม “น้องดีนี่คะ คลิปที่หลุดออกมาเมื่อวันก่อนเป็นเสียงของดีนี่หรือป่าวคะ”
“คิดยังไงกับฉายานางแบบสตอเบอแหลคะ?”

ดีนี่หน้าเสีย ป้ากบรีบกันนักข่าว
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ รับรองวันนี้ทุกคนจะได้รู้ความจริงทุกอย่าง น้องดีนี่จะตอบทุกคำถามเลยค่ะ ขอเวลาน้องแป๊บนึงนะคะ”
ป้ากบแหวกคน พาดีนี่เดินเข้ามาบริเวณหอพระ จากนั้นดีนี่ค่อยๆ กราบองค์พระอย่างแช่มช้อย แล้วมองตรงที่องค์พระ ดีนี่น้ำตาไหล นักข่าวถ่ายภาพดีนี่ไหว้พระ
ป้ากบน้ำตาซึม “ทำไมคนดีๆ อย่างดีนี่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ”
นักข่าวแอบสุมหัวกระซิบกัน “สร้างภาพหรือเปล่าเนี่ย”
ป้ากบได้ยินแล้วแอบค้อน ซึ่งป้ากบกับดีนี่แอบส่งสายตาให้กัน หวั่นๆ ใจว่าจะรอดรึเปล่า

ภาพในจอโทรทัศน์เวลานี้ เห็นดีนี่หน้าเศร้าๆ
เพียงดาว โอม แต้ว และอู๋ นั่งดูรายการข่าวบันเทิงซึ่งรายงานสดอยู่
“ทำเป็นไหว้พระ คิดว่าพระจะคุ้มครองคนชั่วๆเหรอ” เพียงดาวว่า
“จะไหว้พระสักกี่องค์ ฉันว่าก็ไม่รอดหรอกดาว หลักฐานมันชัดขนาดนี้” อู๋บอก

“ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่รอดีนี่นะคะ วันนี้ทุกคนจะได้รับทราบความจริงทั้งหมด”

“ตกลงเสียงในคลิปที่เป็นข่าว เป็นเสียงดีนี่ จริงหรือเปล่าครับ” นักข่าวซัก
“ถ้าอย่างนั้นคนที่เป็นฝ่ายถูกทำร้ายมาตลอดก็คือคุณดาวสิคะ” นักข่าวถาม
ดีนี่เช็ดน้ำตาป้อยๆ แล้วจะพูด นักข่าวต่างสนใจรอฟัง
“ตอนที่ดีนี่ทราบข่าวว่ามีคลิปเสียงหลุดออกมา ดีนี่ยังปฏิบัติธรรมอยู่ที่หลวงพระบาง ความจริงดีนี่ตั้งใจจะปฏิบัติธรรมให้ครบหนึ่งเดือนตามคำแนะนำของพระอาจารย์ที่นั่น แต่พอทราบข่าวดีนี่ก็ทำใจให้สงบไม่ได้เลย” ดีนี่เริ่มสะอื้น “พระอาจารย์เลยแนะนำให้ดีนี่กลับมา ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่”
เพียงดาวได้ฟังยิ่งหมั่นไส้ดีนี่
“โธ่ ดีนี่ไปปฏิบัติธรรมแท้ๆ กลับมีมารมาผจญ” ป้ากบครวญ
“สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่ออกไป ดีนี่ขอบอกว่า เสียงในคลิปนั้น...เป็นเสียงของดีนี่จริงๆ ค่ะ”

นักข่าวทุกคนฮือฮา
เวลานั้นที่ออฟฟิศโมเดล แต้ว ดาว และอู๋ งงๆที่ดีนี่ยอมรับง่ายๆ
“รับกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ” อู๋ว่า
“มันคงโดนหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด หึ ต่อไปก็คงบีบน้ำตาขอโทษล่ะสิ” เพียงดาวเยาะ
“ถึงยังไงเค้าก็คงหมดอนาคตแล้วล่ะดาว คนตีสองหน้าปลิ้นปล้อนแบบนี้ วงการเรารับไม่ได้หรอก”
เพียงดาวยิ้มสะใจ

ส่วนที่ในงานแถลงข่าว บรรดานักข่าวต่างฮือฮากับการยอมรับของดีนี่ นักข่าวยิงคำถามเป็นชุด
“งั้นแสดงว่าที่ผ่านมาดีนี่ก็จงใจสร้างภาพหลอกคนทั้งประเทศเลยสิคะ”
“จากนี้ไปคิดว่าสังคมจะเปิดโอกาสให้ไหมคะ หรือจะลาออกจากวงการเลย” นักข่าวอีกคนถาม

“ดีนี่ยอมรับว่าเป็นเสียงของดีนี่จริง แต่ดีนี่ก็มีบางอย่างอยากจะให้ทุกคนดู”
พลางดีนี่หยิบไอแพดออกมาแล้วเปิดคลิป
ภาพในคลิป เป็นฉากที่ดาดฟ้า ดีนี่ผมไว้ยังสั้น แต่งตัวเรียบร้อยต่างจากปัจจุบันยืนท่าทางเขินๆ ถือบทละครอยู่ ป้ากบยืนอยู่ด้วย
“ไม่ต้องเขินจ้ะดีนี่ เดี๋ยวหนูอ่านบทของนนทยา เดี๋ยวป้าจะอ่านบทของประกายดาวให้”
“ค่ะป้า” ดีนี่อ่านบท “พี่ดาวทำอย่างนี้ทำไมคะ เดี๋ยวก็เป็นข่าวขึ้นมาอีกหรอกค่ะ”
“เป็นข่าวชั้นก็ไม่กลัว ชั้นมีเงินพออุดปากนักข่าวได้ แกคิดว่าแกทำกับชั้นขนาดนี้ แกคิดว่าชั้นจะอยู่เฉยเหรอ” ป้ากบเล่นเป็นประกายดาว
“พี่ดาวอย่าคิดแบบนั้นสิคะ ที่พี่ดาวเป็นแบบนี้ก็เพราะเป็นกรรมของพี่ดาวมากกว่า”
“ไม่ต้องมาปากดี เธอรู้ไหมว่าทำแบบนื้ จะเจออะไร”
“เจอคนอย่างเธอไงดาว! คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง ไม่เคยเห็นหัวคนอื่น ดีแต่กดคนอื่นให้ต่ำ คนอย่างเธอมันควรจะเจอกับความตกต่ำซะบ้าง!”
“อย่างแกจะทำอะไรชั้นได้”
“เธอคิดสินะ ว่าเธอเก่งกว่าฉัน ดีกว่าฉันทุกอย่าง แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะดาว ชั้นนี่แหละจะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย ทั้งงาน ทั้งความรัก อีกหน่อยจะทำให้ทุกคนจำได้รางๆว่าเคยมีนางแบบเจ้าอารมณ์คนนึง แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร”
“นังหน้าด้าน แกยอมรับเหรอว่าแกอยากแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชั้น”
“ใครใช้ให้เธอโง่เองล่ะดาว ฉันสนตะพายไปทางไหน เธอก็เดินตามเกมส์ฉันหมด” เสียงดีนี่พูด
“คนอย่างแกต้องโดนกรรมตามสนอง” เสียงป้ากบพูด
“ไม่ต้องเอาบาปบุญมาขู่ชั้นหรอก หน้าตามันเป็นยังไง ฉันไม่เคยเห็น ฉันรู้แต่ว่าฉันจะต้องชนะ ส่วนเธอต้องไม่เหลืออะไรเลย”
ดีนี่ปิดคลิป นักข่าวฮือฮา
“นี่คือคลิปที่กบให้ดีนี่อ่านบทละคร บทเนี้ยกบเขียนไว้สำหรับแคสเด็กที่กบจะเอามาปั้นน่ะค่ะ คลิปเนี้ยถ่ายมาตั้งนานแล้ว สังเกตดูสิคะในคลิบน่ะดีนี่ผมยังสั้นอยู่เลย”
ดีนี่หยิบบทละครขึ้นมา เป็นบทละครเรื่อง ฤทธิ์ริษยา ตอนที่ 1
“นี่ค่ะ บทละครที่ดีนี่อ่านในวันนั้น”
ดีนี่ส่งบทให้นักข่าวต่อๆ กันไป นักข่าวกระจายกันดู
“แล้วทำไมกลายมาเป็นเสียงดีนี่กับคุณเพียงดาวได้ละครับ
ป้ากบตอบแทน “เมื่ออาทิตย์ก่อนกบเอาคอมไปซ่อม คลิปเนี้ยคงหลุดไป แล้วคงมีคนมือดี เอาคลิปไปตัดต่อใส่เสียงของดาว คงจะเป็นผู้ไม่หวังดี ตั้งใจเสี้ยมให้ดีนี่กับดาวมีเรื่องกันน่ะค่ะ”
“แล้วพอจะทราบไหมคะว่าเป็นฝีมือใคร” นักข่าวถาม
“ไม่ทราบน่ะค่ะ แต่ดีนี่อยากจะขอร้องคนที่ทำคลิปนี้ว่าให้หยุดการกระทำของคุณซะ อย่าทำให้ดีนี่กับพี่ดาวต้องบาดหมางกันเลยค่ะ”
นักข่าวซัก “แล้วนี่คุณดีนี่ได้เคลียร์กับคุณดาวหรือยังครับ”
“ดีนี่พยายามโทร.หาพี่ดาวแล้ว แต่พี่ดาวไม่รับสาย คงจะโกรธดีนี่ที่ทำให้พี่ดาวเค้าเสียชื่อน่ะค่ะ ดีนี่ฝากขอโทษพี่ดาวด้วยนะคะ และไม่ว่ายังไงดีนี่ยังรักและเคารพพี่ดาวเหมือนเดิม พี่ดาวเป็นไอดอลของดีนี่”
นักข่าวซุบซิบกันยังไม่มั่นใจที่ดีนี่พูด
ทันใดนั้นดีนี่ลุกขึ้น นักข่าวงงๆ ดีนี่หันหน้าไปทางหอพระพนมมือแล้วคุกเข่าลง
“ดี่นี่ขอสาบานต่อหน้าองค์พระพุทธรูป ว่าดีนี่ไม่ได้โกหก ดีนี่ไม่เคยเสแสร้ง
หน้าไหว้หลังหลอก ถ้าหากดีนี่โกหกแม้เพียงนิดเดียว ก็ขอให้” สะอื้นฮักๆ “...ขอให้...”
ป้ากบแสร้งทนไม่ไหวเข้าไปกอดดีนี่ร้องไห้ “พอแล้วดีนี่ พอแล้ว ทุกคนเชื่อหนูแล้ว..หนูเป็นคนดี พระต้องคุ้มครองหนู”

ดีนี่กับป้ากบกอดกันกลม ร้องไห้อย่างน่าเวทนา นักข่าวรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปกันระวิง

มารยาริษยา ตอนที่ 5 (ต่อ)

ภาพข่าวมหกรรมตอแหลของป้ากบกับดีนี่ ทำเอาทุกคนที่ดูอยู่ในออฟฟิศโมเดลต่างอึ้งๆ เพียงดาวเสียงสั่น น้ำตาคลอด้วยความโมโห

“ทำไมมันกล้าทำอย่างนี้ มันจัดฉากแหกตาคนทั้งประเทศ”
โอมห่วงใยความรู้สึกรีบจับมือเพียงดาวปลอบ “คุณดาวใจเย็นๆ นะครับ”
เพียงดาวหันมาหาโอม ถามในท่าทีนิ่งๆ “โอมไม่เชื่อมันใช่ไหม”
โอมยืนยันหนักแน่น “ไม่ครับ”
“อย่างนี้นี่เองทฤษฎีการโกหกที่เค้าบอกว่า ถ้าคิดจะโกหกให้โกหกเรื่องที่ใหญ่ คนฟังเค้าจะได้คิดว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ใครจะกล้าโกหกได้” อู๋ว่า
“ดาวอย่าเพิ่งทำอะไรนะ อยู่นิ่งๆ ทำอะไร นักข่าวเค้าจับตามองดาวอยู่” แต้วเตือน
เพียงดาวพูดทีท่าแน่วนิ่ง “สักวันนึงมันต้องได้รับผลกรรม”

คิว กะปลาหวานนั่งดูคลิปดีนี่แถลงข่าวในจอคอมพิวเตอร์ แหนมคุยมือถือเดินผ่านมา
“ใช่ๆ แกรอดูเองแล้วกัน เดี๋ยวสักพักก็มีคนอัพลงยูทูบ” กดวางสายหันมาเชิดใส่ปลาหวาน “เพื่อนชั้นที่อเมริกา โทร.มาถามเรื่องดีนี่กับคุณดาวน่ะ”
“ที่ป้ากบกับดีนี่พูดจะเป็นไปได้เหรอแก ตัดต่อคลิปเสียงยังไงเสียงไม่กระตุกสักกะนิด” ปลาหวานแปลกใจ
คิวรีบเสริม “ได้สิพี่เทคโนโลยีสมัยนี้ทำได้ทั้งนั้นแหละ”
แหนมต่อว่าปลาหวาน “ปลาหวานแกเลิกอคิติกับดีนี่สักทีได้ไหม แกไม่เห็นเหรอตอนที่ดีนี่เค้าก้มลงกราบสาบานกับองค์พระ ชั้นเนี่ยนะน้ำตาแทบไหลตาม”
ปลาหวานยังไม่อยากจะเชื่อ “สร้างภาพรึเปล่า แล้วใครเป็นคนตัดต่อ แล้วตัดไปเพื่ออะไร?”
แหนมประชดส่ง “ชั้นจะไปรู้เหรอ ชั้นไม่ใด้ทำงานกระทวงไอซีทีนะยะ แต่คนทำมันคิดจะดิสเครดิดดีนี่น่ะสิ พวกขี้อิจฉาเห็นใครดีกว่าไม่ได้!”

เรื่องราวกลายเป็นกระแสร้อนทอล์คออฟเดอะทาวน์ทันที กระทู้ในเว็บไซต์ดังพูดคุยเรื่องดีนี่โดนตัดต่อคลิปกับเพียงดาว
ดีนี่ออกรายการข่าวให้สัมภาษณ์ เบื้องหลังมีคนเอาคลิปมาให้ดีนี่ดู แล้ววิจารณ์คลิปดีนี่
ดีนี่เดินออกมาจากห้าง มีแฟนคลับมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจดีนี่ และแฟนคลับสาววัยรุ่นคนหนึ่งลงทุนนั่งรถเข็นเอาดอกไม้มายื่นให้ดีนี่
“หนูเป็นกำลังใจให้นะคะพี่ดีนี่”

ดีนี่ซาบซึ้งน้ำตาไหล รับดอกไม้แล้วสวมกอดแฟนคลับ
“พี่ดีนี่จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังค่ะ ขอบคุณนะคะ”

ดีนี่แวะมาที่บ้านโอม กำลังทำกับข้าวกะแม่อ้อย อาม ฝ้ายช่วยยกกับข้าวไปที่โต๊ะ
“แม่ก็คิดอยู่ว่าหนูดีนี่จะกล้าทำขนาดนั้นเลยหรอ” แม่อ้อยเคลิ้มคล้อยตาม
“ฝีมือพี่ดาวน่ะสิ” อามโกรธแทน
ดีนี่แสนดีแก้ตัวแทน “คงไม่ใช่หรอกค่ะ คงเป็นพวกที่ไม่ชอบพี่ดีนี่น่ะค่ะ อยากให้พี่ดีนี่มีเรื่องกับพี่ดาว”
ฝ้ายมองดีนี่ไม่เชื่อ และรู้ทัน
“คนพวกนี้มันเล๊วเลวนะคะ สักวันเวรกรรมต้องตามสนองมัน ให้ไปไหนก็มีแต่คนเกลียด ทำอะไรก็ขอให้ไม่เจริญ ว่ามั้ยคะพี่ดีนี่”
ดีนี่ชะงักรู้ว่าฝ้ายเหน็บ “ค่ะ”
“พี่ดีนี่ไปหลวงพระบางมาสนุกหรือเปล่าครับ” อามถาม
“สนุกจ้ะ พี่มีของฝากด้วยนะจ๊ะ” หยิบเสื้อยืดสกรีนสะบายดีมาแจกทุกคน
ฝ้ายแขวะ “แหม เสื้อแบบนี้ คุ้นๆ แถวถนนข้าวสารก็มีขาย”
ดีนี่สะอึกนึกแค้นฝ้ายในใจ
“พวกตาต่ำก็งี้แหละครับพี่ดีนี่” ฝ้ายตีอาม
ระหว่างนั้นโอมเดินเข้ามา โอมเห็นดีนี่ถึงกับชะงัก
“โอมกลับมาแล้วเหรอลูก กับข้าวเสร็จพอดีเลย ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกัน”
ดีนี่ดูออกว่าโอมไม่สนใจสักน้อย “งั้นดีนี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“อ้าว...ทำไมล่ะอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิ มาๆนั่งก่อน”
แม่อ้อยพาดีนี่ไปนั่งทีโต๊ะ

ดีนี่หาจังหวะพูดคุยกับโอมระหว่างกินข้าว
“แผลหายดีแล้วคะเหรอโอม”
โอมรักษามารยาท พยายามไม่มองหน้าดีนี่ “ครับ”
“คำภาวนาดีนี่ได้ผลจริงๆ ด้วย ตอนที่ดีนี่นั่งสมาธิอยู่หลวงพระบาง ดีนี่ภาวนาให้โอมหายไวๆ แล้วโอมก็หายจริงๆ ด้วย”
โอมมีท่าทีเย็นชา “ขอบคุณครับ”
ดีนี่เซ็ง รู้สึกได้ว่าโอมไม่อยากคุยด้วย
แม่ อาม และฝ้าย ก็สังเกตเห็นว่าโอมทำตัวเหินห่างจากดีนี่
“ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อน”
“อิ่มแล้วเหรอลูก กินไปนิดเดียวเอง”
“ครับ” โอมลุกออกไป
“ดีนี่ขอตัวนะคะ” ดีนี่ลุกตามโอมไป
แม่ อาม และฝ้าย มองหน้ากันงงๆ

โอมกำลังจะเดินขึ้นบ้าน ดีนี่เดินตามมา
“โอมคะ ดีนี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”
โอมยืนหันหลังให้ดีนี่
“โอมไม่เชื่อดีนี่เหรอคะ”
“ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อครับ”
“ดีนี่ยืนยันได้นะคะว่าคลิปเสียงดี่นี่กับพี่ดาวมีคนตัดต่อจริงๆ” ดีนี่ทำเป็นอึกอัก “เอ่อ…ดีนี่ไม่อยากพูดก็ต้องพูด คนที่ตัดต่อเสียงดีนี่อาจจะเป็นพี่ดาวค่ะ”
โอมหันขวับมาหาดีนี่ “ว่าไงนะครับ!”
“พี่ดาวคงเป็นคนทำคลิปนั้นขึ้นมาค่ะ” ดีนี่บอก
“ทำไมคุณถึงคิดว่าเป็นคุณดาว”
“พี่ดาวทำแบบนั้นเพราะคงโกรธดีนี่ ที่ดีนี่....ดีนี่บอกพี่ดาวไปว่าชอบโอม”
โอมอึ้ง หน้าเครียด
“ดีนี่ขอโทษนะคะ ที่ดีนี่ทรยศต่อความเป็นเพื่อนของเรา แต่ดีนี่ไม่เคยคิดแย่งโอมมาจากพี่ดาว ดีนี่เข้าใจแล้วก็พอใจแล้วที่ได้เป็นเพื่อนกับโอม” โอมอึ้งพูดไม่ออกจะเดินหนี “โอมคะ...” โอมชะงัก ดีนี่บีบน้ำตา “แค่ความเป็นเพื่อน ก็ให้ไม่ได้เหรอคะ”
“ขอโทษด้วยนะครับ ตอนนี้ผมสับสนไปหมด ขอให้เรื่องทุกอย่างมันเคลียร์ลงก่อน ผมกับคุณห่างกันสักพักนะครับ และผมอยากจะบอกกับคุณไว้ว่า ผมรักคุณดาวคนเดียวไม่สามารถรักคนอื่นได้อีกแล้ว”
โอมเดินเข้าบ้านไป
ดีนี่แค้น! แทบจะร้องกรี๊ดออกมาตรงนั้น

เช้าวันต่อมาแต้ว กับอู๋ เดินนำเพียงดาวเข้ามาภายในวัดแห่งหนึ่ง เพียงดาวมีท่าทางไม่ค่อยอยากมาวัดนัก มองไปเห็นภายในวัดแห่งนี้มีสระน้ำอยู่ และมีป้ายเขตอภัยทานปักอยู่ด้วย
“ดาวว่าดาวกลับก่อนดีกว่าค่ะพี่แต้ว”

“จะกลับทำไมดาว มาถึงที่แล้วทำบุญซะหน่อยเผื่อจะสบายใจขึ้น” แต้วว่า
“ดาวสมเพชตัวเอง พอมีความทุกข์ก็เอามาทิ้งให้พระให้เจ้า”
จู่ๆ เสียงป้ากบก็ดังแหวกอากาศขึ้น “ต๊าย ตายๆๆๆๆ ทำไมบังเอิญอย่างนี้”
แต้ว อู๋ และเพียงดาวหันไปเห็นป้ากบกับดีนี่ เดินเข้ามา
ป้ากบแขวะต่อ “เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เค้ามารับส่วนบุญที่เราอุทิศไปให้เมื่อกี๊”
อู๋แกล้งไม่เห็นป้ากบ “เสียงอะไรอ่ะดาว แต้ว หรือว่าผีกะเทยมาขอส่วนบุญ”
ดีนี่ยกมือไหว้เพียงดาว แต้ว และอู๋ “พี่ดาวคะ เรื่องคลิปที่มีคนตัดต่อน่ะ ถ้าพี่ดาวอยากให้ดีนี่ช่วยแก้ข่าวอะไร พี่ดาวบอกดีนี่ได้นะคะ ดีนี่ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจพี่ดาวผิด”
เพียงดาวเหน็บ “มาทำบุญคิดว่าจะไถ่บาปที่ไปแหกตาคนทั้งประเทศได้เหรอ!”
“นี่ นังดาว ดีนี่ของชั้นน่ะเค้าใจบุญ บารมีสูง ต่อให้มีคนคิดร้ายมันก็ต้องแพ้ภัยตัวเอง เหมือนหล่อนไง”
ดีนี่ห้ามป้ากบ “ป้ากบพอเถอะค่ะ”
แต้วเตือนเพียงดาว “ใจเย็นนะดาว อย่ามีเรื่องกันเลย ในวัดในวา”
“ใช่ ในวัดในวายังมาหาเรื่องคนอื่น เป็นมารศาสนาหรือไงจ๊ะดาว” ป้ากบแว้ดอีก
“นี่นังกบ! มือถือสากปากถือศีลอย่างพวกหล่อนนั่นแหละมารศาสนา ที่หลังวัดเค้ามีรูปปั้นเปรต รูปปั้นสัตว์นรก พากันไปเลือกเสียสิ ว่าตายไปจะไปอยู่ขุมไหนกัน”
ป้ากบสวนกลับ “หล่อนน่ะสิ ไฟนรกเผา เผาจนดำหมดแล้วเนี่ย”
อู๋ปรี๊ด “นังกบ!!”
อู๋จะเข้าไปตบ ถูกป้ากบคว้ามืออู๋ไว้ สองคนยื้อกัน
แต้ว กับดีนี่ ช่วยกันห้าม
อู๋ได้โอกาส เหวี่ยงป้ากบลงไปในสระน้ำ ป้ากบไม่ทันระวังร่างร่วงลงน้ำเสียงดังตูม
ป้ากบแหกปากร้องลั่น “ว้าย!!! ช่วยด้วย”
“อยู่ในน้ำดีแล้วกบ ให้ปลามันตอดความเลวของหล่อนไปบ้าง” อู๋ด่าซ้ำ
เพียงดาวมองอย่างสะใจ
“พี่แต้วพูดถูกนะคะ ดาวสบายใจขึ้นเยอะเลย ไปกันเถอะ”
แต้วละล้าละลัง หันไปทางดีนี่ “แล้วจะไม่ช่วย...”
เพียงดาวดึงแขนแต้วออกไป ป้ากบกรี๊ดตีน้ำสุดแรง

ตอนสายวันเดียวกันอามแต่งตัวอย่างหล่อ กำลังดักหน้าดักหลังออดอ้อนฝ้าย อยู่ที่บ้าน
“นะครับฝ้าย อามขอร้องนะครับ”
“ชั้นบอกแล้วไงว่าไปไม่ได้!”
“แต่มันเป็นวันสำคัญของชั้นนะ แกไม่คิดจะไปเจอน้องเฟิร์นเป็นเพื่อนชั้นเหรอ”
“ชั้นไปกับแก แล้วแกจะเจอน้องเฟิร์นได้ยังไง” ฝ้ายหลุดปาก
อามงง “หื๊อ?”
ฝ้ายรีบแก้ตัว “ก็ถ้าชั้นไปกับแก น้องเฟิร์นอาจจะเข้าใจผิดก็ได้” อามหยิบกระจกที่อยู่แถวหน้าโต๊ะส่องหน้าฝ้าย “ทำอะไรเนี่ย?” ฝ้ายงง
“ให้แกดูกระจก แกจะได้รู้ว่าเป็นไปไม่ได้”
“ไอ้บ้า”
“เอาน่ะ แกไปเป็นเพื่อนชั้น มันจะได้ไม่น่าเกลียด น้องเค้าจะได้สบายใจ ว่าชั้นไม่ได้คิดจะทำอะไรเค้า”
ฝ้ายตัดรำคาญ “เออ ไปด้วยก็ได้”
อามดีใจ “ขอบใจนะเพื่อนรัก”
อามหันไปหยิบหมวกกันน็อคจะยื่นให้ฝ้าย หันมาฝ้ายวิ่งหนีออกไป
“จำไว้เลยนะ งานแต่งชั้นกับน้องเฟิร์น ชั้นจะไม่ให้แกไป!!!”
อามเซ็ง
ฝ้ายวิ่งมาไกล หยุดหอบแล้วคิดไม่ตกว่าจะทำยังไง สีหน้ากลุ้มหนัก

ในที่สุดฝ้ายก็พาตัวเองมาเดินอยู่ในห้าง ผ่านร้านเสื้อผ้าต่างๆ กิริยาไม่มั่นใจ จนมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าสไตล์เกาหลีน่ารัก ฝ้ายมองหุ่นหน้าร้านที่แต่งตัวเกาหลีน่ารัก คิดบางอย่างในใจ

อามมาตามนัด กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในร้านอาหารริมทะเลสาป ท่าทางกระสับกระส่ายชะเง้อมองหาเฟิร์น อามก้มมองของขวัญในมือท่าทางตื่นเต้น รออยู่สักครู่หนึ่ง เสียงโทรศัพท์อามดัง อามรับ
“ครับ น้องเฟิร์น ตอนนี้พี่อามอยู่ที่ที่เรานัดกันแล้วนะครับ น้องเฟิร์นอยู่ที่ไหนครับ”
ฝ้ายแอ๊บเป็นเสียงใบเฟิร์น “ขอโทษนะคะพี่อาม คือว่าพอดีวันนี้เฟิร์นติดธุระ”
อามหน้าเศร้า ผิดหวังมาก “ไม่เป็นไรครับครับ ก็...น้องเฟิร์นติดธุระมาไม่ได้นี่ครับ”
“เฟิร์นจะบอกว่าเฟิร์นติดธุระเลยมาสายค่ะ ไม่ได้บอกว่าไม่มาเสียหน่อย”
อามหน้าบาน “เหรอครับ แล้วน้องเฟิร์นอยู่ไหนครับ”
“พี่อามหันหน้ามาทางทะเลสาบสิคะ”
อามหันไปดูที่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบ เห็นฝ้ายซึ่งแต่งตัวสไตล์สาวเกาหลี ทำผมหวานๆ มีโบว์ติดที่ผมน่ารักยืนคุยโทรศัพท์อยู่
อามพยายามเพ่งแต่จำไม่ได้ว่าคือฝ้ายนั่นเอง ฝ้ายยกมือโบกให้อาม อามมองอึ้งๆ แล้วยิ้มกว้าง
“น้องใบเฟิร์นอยู่ตรงนั้นนะครับ เดี๋ยวพี่ไปหา” อามบอกทางโทรศัพท์
ฝ้ายรีบห้าม “ไม่ได้นะคะ! พี่อามอยู่ตรงนั้นแหล่ะค่ะ” อามงงๆ ฝ้ายแถต่อ “คือคุณพ่อให้คนขับรถตามเฟิร์นมาด้วยน่ะค่ะ”
ว่าพลางฝ้ายชี้ไปที่คนขับรถที่ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงแสลค ใส่แว่นดำ ยืนรอฝ้ายอยู่
อามอึ้ง “ให้พี่อามเข้าไปคุยกับเค้าดีกว่านะครับ พี่อามจะได้ฝากบอกคุณพ่อเฟิร์นด้วย ว่าพี่อามจริงใจกับน้องเฟิร์นจริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายน้องเฟิร์นเลย” อามทำท่าจะลุกไปหา
ฝ้ายรีบห้าม “อย่าเลยเพิ่งเร่งรัดคุณพ่อเลยค่ะพี่อาม ถ้าไปเร่งรัดท่านมาก ท่านจะไม่พอใจ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะคะ”
อามนั่งลงเศร้าๆ “ก็ได้ครับ”
“พี่อามไม่โกรธเฟิร์นใช่ไหมคะ”
“ไม่โกรธครับ ความจริงพี่อยากอยู่ใกล้เฟิร์นมากกว่านี้ แต่แค่มองไกลๆ แบบนี้พี่ก็ยังรู้เลยว่าน้องเฟิร์นคือคนที่ใช่สำหรับพี่”
ฝ้ายยิ้มๆ แต่ในใจก็เครียด

ในร้านอาหารบรรยากาศแสนโรแม้นซ์เป็นใจ มีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางยิ่งโรแมนติก จู่ๆ เสียงเพลง อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง ของดา เอ็นโดรฟิน ดังขึ้น
อาม และฝ้ายที่แต่งตัวเป็นใบเฟิร์นนั่งคนละโต๊ะ คนละฝั่งทะเลสาบ กำลังคุยโทรศัพท์กันอยู่ท่าทางมีความสุข
“เพลงนี้พี่ขอครับ เพลงของเราไงครับน้องเฟิร์น”
ฝ้ายยิ้มเขิน
อามมัวแต่คุยกับฝ้าย เด็กเสิร์ฟถือแก้วน้ำเข้ามา จะวางแก้วให้ อามไม่ทันดูหันไปปัดแก้วน้ำ น้ำหกรดอาม เด็กเสิร์ฟขอโทษอาม อามขอโทษเด็กเสิร์ฟ ฝ้ายมองขำๆ อามหันไปยิ้มเขินๆให้ฝ้าย
เด็กเสิร์ฟยกน้ำส้มไปให้ฝ้าย แล้ววางกล่องของขวัญไว้ด้วย ฝ้ายหยิบขึ้นมาแกะดู เห็นเป็นสร้อย ฝ้ายใส่สร้อยแล้วหันให้อามดู อามยิ้มดีใจ ฝ้ายหันไปเห็นการ์ดที่แนบมาด้วย ฝ้ายหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน

“ขอบคุณที่ทำให้ทุกวันของพี่อามมีความหมาย พี่อามสัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องใบเฟิร์นต้องเสียใจ”
ฝ้ายอ่านแล้วอึ้งๆ และนึกสะท้อนใจว่าตนนี่แหละที่เป็นคนที่จะทำให้อามต้องเสียใจ

รถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอดหน้าห้องน้ำปั๊ม ฝ้ายหยิบเงินให้คนขับแท็กซี่ 500 บาท
“ขอบคุณนะคะลุงที่ยอมรอเป็นเพื่อน”
ฝ้ายกำลังก้าวลงจากรถ คนขับแท็กซี่เรียกไว้ “เดี๋ยวๆ”
ฝ้ายชะงัก รอฟัง
“ทำไมต้องให้ลุงรอด้วย แล้วทำไมต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ”
ฝ้ายอ้ำอึ้งไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร
“เป็นเมียน้อยเค้าใช่มั้ยเนี่ย นี่คงไปดักเจอผัวคนอื่นน่ะสิ เลิกเถอะนะรู้มั้ยว่ามันบาป” แท็กซี่ต่อว่า

ฝ้ายเจื่อนๆ น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก


เพียงดาวจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถออฟฟิศโมเดลเสร็จ ก้าวลงจากรถแล้วจึงหยิบมือถือขึ้นมาโทร.ออก

“ฮัลโหลโอม ชั้นแวะมาคุยงานกับพี่แต้ว เดี๋ยวยังไงตอนเที่ยงเราไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“คุณดาวครับตอนนี้ผมออกมาถ่ายแบบที่สตูข้างนอกน่ะครับ ไม่ได้เข้าออฟฟิศ”
เพียงดาวหน้าเจื่อนผิดหวัง “เหรอ งั้นไม่เป็นไร”
“งั้นผมทำงานก่อนนะครับ”
โอมวางสายแล้ว เพียงดาวจ๋อย จะเดินเข้าออฟฟิศ
แต่แล้วทันใดนั้น จู่ๆ โอมโผล่มาด้านหลังแล้วเข้าหอมแก้มหนึ่งฟอด เพียงดาวตกใจ
“นี่โอมโกหกชั้นเหรอ”
แทนคำตอบโอมกอดเพียงดาวอย่างรักใคร่
“ผมอยากเซอร์ไพร์สคุณดาวบ้างน่ะครับ” เพียงดาวยิ้มให้ “ผมคิดถึงคุณดาวจะแย่อยู่แล้ว”
เพียงดาวสะท้อนใจ “ชั้นก็คิดถึงโอม เมื่อไหร่เราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกัน
โอมหอมหน้าผากเพียงดาวปลอบใจ
“รออีกหน่อยนะครับ สักพักแม่ผมคงเข้าใจ”

เพียงดาวพยักหน้าแล้วยิ้มให้โอมอย่างเข้าใจ

ปลาหวาน คิวหน้า แหนม ยืนออกันอยู่หน้าห้องบอส อู๋ท่าทางกระวนกระวาย
“มันเข้าไปนานหรือยัง” อู๋ถาม
“เกือบชั่วโมงแล้วค่ะ ป้า...ป้าคะตั้งแต่ทำงานมา หนูไม่เคยเห็นคุณแต้วกับบอสแรงขนาดนี้เลยนะคะ” ปลาหวานบอก

อู๋กลุ้มใจมาก จึงตัดสินใจเอาหูแนบประตู ปลาหวาน คิว แหนมก้มหน้าลงไปฟังกับอู๋ ได้ยินเสียงบอสเต็มๆ

“ทำไมคุณต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วย แต้ว!”
อู๋ คิว แหนม และปลาหวาน ตกใจ

ในห้องบอส บรรยากาศยังมาคุแต้วยืนเครียดอยู่ตรงหน้าบอส
“เพราะโมเดลเป็นหนังสือแฟชั่น ไม่ใช่หนังสือกอสซิป แต้วมีจรรยาบรรณค่ะบอส”
“หมายความว่าผมไม่มี งั้นสิ??” บอสย้อน
แต้วชะงักรู้ว่าตัวเองแรง “ไม่ใช่ค่ะ แต่...”
“ แต้ว...ผมรู้ว่าคุณมีจรรยาบรรณ แต่โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกสิ่งมันผูกติดอยู่กับข่าว กับการประชาสัมพันธ์ ถึงเราไม่ทำคนอื่นก็ต้องทำ ผมไม่เห็นมันจะเสียหายตรงไหน”
“ใช่ค่ะ เรามีแต่ได้กับได้ แต่คนที่กำลังเป็นข่าวล่ะคะ บอส
“แล้วอยู่ในวงการนี้มันเลี่ยงการเป็นข่าวได้เหรอแต้ว”
แต้วเสียงแข็ง “เลี่ยงไม่ได้ค่ะ แต่แต้วก็จะไม่ยอมให้โมเดลเป็นส่วนหนึ่งในการกระพือข่าว การขายข่าวฉาวๆ ที่ไม่จรรโลงสังคมอย่างนี้!!”
บอสโมโหเอามากๆ “ถ้าคุณไม่ทำนั่นก็แสดงว่าวิสัยทัศน์ของคุณมันตกยุค เข้ากับโลกทุกวันนี้ไม่ได้ ...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็คงต้องมองหาคนอื่นที่มีวิสัยทัศน์มากกว่าคุณ”
แต้วอึ้ง นิ่งงันไป

ที่หน้าห้อง แหนม คิว ปลาหวาน และอู๋ก็อึ้งไม่ต่างกัน
ปลาหวานไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น “หมายความว่าถ้าคุณแต้วไม่ทำ บอสก็จะ...”
อู๋ไม่พูดอะไร หน้าเครียดกว่าเดิม

เพียงดาวกับโอม เดินเข้ามา เพียงดาวเห็นอู๋หน้าเสียก็สงสัย
“มีอะไรกันเหรอคะ พี่อู๋?”
แหนม คิว ปลาหวานมองหน้ากันเลิกลั่กแล้วแยกย้ายสลายโต๋กันไป เพียงดาว กับโอมงงงวย
อู๋กำลังจะบอก “เกิดรื่องใหญ่แล้วดาว คือว่า...”
จังหวะนั้น แต้วก็เดินตาแดงออกมา พอเจอเพียงดาวกับโอม และอู๋ก็ถึงกับอึ้ง
เพียงดาวงงหนัก “มีอะไรเหรอคะพี่แต้ว”

บอสตามออกมา เจอดาวโอมก็ชะงัก “คุณสองคนมาก็ดีแล้ว ดาว โอม...”
แต้วพูดเป็นเชิงขอร้อง “บอสคะ!!”
บอสมองหน้าแต้ว แล้วคิดออก “ผมให้คุณจัดการแล้วกัน ...แต้ว อย่าให้ผมทำในสิ่งที่ผมเองก็ไม่อยากทำนะ” แล้วเดินไป
โอมสงสัย “มีอะไรครับพี่แต้ว บอสเค้าพูดอะไร...”
อู๋จะบอก “คือว่า...”
แต้วห้าม “อู๋ อย่า!!” แล้วดึงอู๋ออกไป เพียงดาว กะโอมรีบตามออกไป

แต้วดึงข้อมืออู๋เข้ามาในห้องทำงานตัวเอง เพียงดาวกะโอมตามติด
“พี่แต้ว ตกลงมันมีเรื่องอะไรกันคะ ?
“ไม่มีอะไรหรอกดาว พี่คุยกับบอสเรื่องงานน่ะ”
“ไม่มีอะไรได้ยังไง ฉันได้ยินหมดแล้ว” หันมาหาเพียงดาว “บอสเค้าจะให้ดาวขึ้นปกกับดีนี่ แล้วให้โอมเป็นคนถ่าย”
โอมตกใจ เพียงดาวอึ้ง ก่อนจะค่อยๆโกรธ
“นี่บอสคิดจะเพิ่มยอดขาย เพิ่มโฆษณากันด้วยวิธีนี้เหรอ!!”
“พี่แต้วครับ...”
“โอมไม่ต้องห่วง พี่ก็ไม่ยอม พี่ทำหนังสือแฟชั่น ไม่ใช่หนังสือกอสสิป พี่มีจรรยาบรรณพอ” แต้วพูดจริงจัง
“มีจรรณยาบรรณแต่จะไม่มีงานน่ะสิ” อู๋พูดแดกดัน โอมกะเพียงดาวอึ้งๆ “บอสเค้าบอกว่า ถ้าแต้วมันไม่ทำ เค้าจะหา บอกอใหม่

เพียงดาวอึ้งของขึ้นอีก “ทุเรศ ทุเรศที่สุด ที่โมเดลมันติดตลาดจนทุกวันนี้ก็เพราะวิสัยทัศน์ของพี่แต้ว บอสเค้ามีแค่เงิน ทำหนังสือเป็นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้”
“แต่เค้าก็เป็นเจ้าของหนังสือ” อู๋ทำเหมือนจะร้องไห้ “ดาว โอม ชั้นขอร้องนะ ช่วยแต้วด้วยเถอะ ไม่อย่างนั้นแต้วมันแย่แน่”
“พอเถอะอู๋ ดาว พี่ไม่เป็นไร...”
“แต้ว....” อู๋คราง
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ” แต้วพยายามสงบใจ “มันอาจจะถึงเวลาที่โมเดลต้องเปลี่ยน บอกอ แล้วก็ได้...”
แต้วพยายามกลั้นน้ำตา แต่กลั้นไม่อยู่ น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินออกมาแต้วรีบปาดเช็ดน้ำตา เพียงดาวมองแต้วแล้วรู้สึกสงสาร

“บอกบอสเถอะค่ะว่าดาวยอมถ่าย”
สามคนอึ้ง
“ไม่ต้องหรอกดาว พอเธอกับดีนี่ขึ้นปกด้วยกัน เดี๋ยวนักข่าวก็ตีข่าวอีก ยิ่งโอมเป็นคนถ่ายด้วย คงเขียนกันสนุกปาก พี่ไม่ยอมให้ใครหาประโยชน์จากดาวหรอก”
“ดาวไม่คิดว่าใครหาประโยชน์จากดาว ดาวคิดว่านี่คือการช่วยพี่แต้ว” แต้วอึ้ง “ดาวรู้ว่าพี่แต้วรักโมเดลมาก ให้ดาวได้ช่วยพี่แต้วเหมือนที่พี่แต้วช่วยดาวมาตลอดเถอะนะคะ”
แต้วซึ้งใจนัก ร้องไห้ออกมา เพียงดาวกับแต้วกอดกัน อู๋ร้องไห้แล้วเข้าไปกอดสองสาว

ดีนี่กับป้ากบออกกำลังกายบนลู่วิ่งคู่กันอยู่ที่ฟิตเนส เสียงโทรศัพท์ป้ากบดัง ป้ากบรับ
“ค่ะ กบค่ะ...” สีหน้าดี๊ด๊าดีใจสุดชีวิต “หาอะไรนะคะ”
ป้ากบลืมวิ่งตารางลื่น ไถลตกรางดังแอ๊ก ป้ากบกรี๊ดด
ดีนี่หยุดวิ่งเข้ามาประคองป้ากบ “เป็นไงบ้างคะป้า”
“ไม่เป็นไร ฮิๆๆๆๆ” เห็นป้ากบเจ็บจะตายยังหัวร่อ ดีนี่งง “นี่เมื่อกี๊โมเดลเค้าโทร.มา บอกว่านังดาวมันเซย์เยส ยอมขึ้นปกกับหนูแล้ว”
ดีนี่ตาโต “จริงเหรอคะ”
“หึๆๆ มันยอมขึ้นปกกับหนูอ่ะดีแล้ว จะได้เห็นไปเลยว่าระหว่างซากปรักหักพังอย่างนางดาวกับคอนโดหรูๆอย่างหนูอะไรมันน่าดูมากกว่ากัน ยิ่งโอมเป็นคนถ่ายด้วย ข่าวมันก็ยิ่งฉาวๆๆๆ แล้วหนูก็จะดังๆๆๆขึ้นไปอีก”
“พี่ดาวเค้ายอมขึ้นปกกับดีนี่แบบเนี้ยแสดงว่าพี่ดาวเค้าคงใจเย็นขึ้นแล้วนะคะ”
ป้ากบเสี้ยมทันที “หนูเคยเห็นภูเขาไฟรอวันประทุมั้ยจ๊ะ มองเผินๆก็เหมือนไม่มีอะไร แต่พอมันประทุขึ้นมา ฉิบหายวายวอดกันไปหมด ป้าว่าเราสองคนอะนะต้องคอยกระทุ้งๆ ให้มันระเบิดต่อหน้านักข่าว เผลอๆครั้งนี้อาจเป็นการถ่ายแบบครั้งสุดท้ายของนังดาวแล้วก็ได้”

ดีนี่นิ่งคิดอะไรบางอย่าง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีงาม แต่เป็นแผนชั่ว


โปรดติดตามตอนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น