xs
xsm
sm
md
lg

รักออกอากาศ ตอนที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ร่วมพูดคุย ถก เถียง แสดงความคิดเห็นเรื่องละครอย่างสร้างสรรค์  หรือจะด่าทอ ต่อว่า...ทีมงานได้ที่ แฟนเพจละครออนไลน์ facebook.com/ละครออนไลน์เอเอสทีวี ได้แล้วจร้า...

 รักออกอากาศ  ตอนที่ 1 

บนถนนเส้นนั้นอากาศสดชื่นเย็นสบาย สายลมจากธรรมชาติพัดโชยมาเป็นระยะ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาเขียวขจีสองข้างทาง เสียงเพลงลูกทุ่งจังหวะคึกคักดังสนั่นลั่นรถกระบะคันที่ สมใจ สาวสวยมาดเท่กำลังขับมาตามทางอย่างสบายอกสบายใจ

สมใจขยับตัวโยกตามจังหวะเพลง โดยไม่รู้ว่าที่ด้านหลังรถในเวลานั้นกำลังปั่นป่วน เพราะ อุ๊ยคำที่นั่งตัวลีบอยู่ในกระสอบตะกร้าใบชาที่บรรทุกมาแน่นเอี๊ยด กำลังพยายามจะแหวกกระสอบออกมา และสะกิดแคบหมูเพื่อจะขอลงแต่ดูท่าไม่สำเร็จ
“นังแค๊บ นังแค๊บ”
อุ๊ยคำตะโกนเรียกเพื่อจะให้แคบหมูบอกสมใจให้หยุดรถ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากอีกฝ่าย อุ๊ยคำจึงคว้ากระป๋องแถวนั้นขว้างเปรี้ยงไปที่หัวของแคบหมูดังโป๊ก
“โอ๊ย! ผีป่าผีบ้าเขวี้ยงอะไรใส่วะ” แคบหมูบ่น
“ไม่ใช่ผีบ้าผีป่า ผีอุ๊ยนี่ล่ะ นังแค๊บ จอดเว๊ย อุ๊ยจะลง”
“แล้วก็ไม่บอก จอดด้วย!” แคบหมูตะโกนบอกสมใจ
รถเบรคเอี๊ยดทันที จนแคบหมู กับอุ๊ยคำ เสียหลักหัวทิ่มพรวดไม่เป็นท่า ใบชาหล่นใส่เต็มหัวหู
“โอย! นังแค๊บหมา!” อุ๊ยคำด่า
“แคบหมู! ไม่ใช่แคบหมา เรื่องไรมาด่าชั้น นู่น ต้องไปด่าคนขับโน่น พี่สมใจ๋” แคบหมูโวย
สมใจ ในมาดเท่ใส่แว่นเรย์แบนโผล่หน้าขึ้นมาพร้อมกับถอดแว่นแล้วว้ากใส่แคบหมูทันที
“จะแหกปากไปไหน นังแค๊บ”
อุ๊ยคำกับแคบหมูใบชาเต็มหัวหู นั่งจ้องสมใจตาเขม็ง
“เอี๊ยด! ขนาด บ่ อุ๊ย” สมใจพูดเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่ดูท่าอุ๊ยคำและแคบหมูจะไม่ขำด้วย

สมใจขับกระบะมาถึงบ้าน พอคำปุยรู้เรื่องราวก็ยืนหัวเราะอยู่ท้ายรถกระบะ ในขณะที่สมใจยกของลงจากหลังรถพร้อมกับเท้าสะเอวถาม
“ขำอะไรนักหนาห๊า นังปุ๋ย เป็นไร เป็นบ้า โดนผู้ชายทิ้งเหรอไง”
“อุ๊ย! ตายละ! พุทโธ ธัมโม สังโฆ! พูดจาไม่เป็นมงคลนะนังใจ๋ ฉันก็แค่ขำว่า มุกแกน่ะแป้กตล๊อด อ้อ แต่ถึงชั้นจะต้องเป็นบ้าเพราะโดนผู้ชายทิ้ง มันก็ยังน่าภูมิใจกว่าใครบางคนที่เกิดมาโตจนป่านนี้ แต่ยังไม่เคยได้แอ้มผู้ชาย” คำปุยพูดพลางหันไปทางแคบหมูหาหน่วยสนับสนุน
“จริงมั้ยนังแค๊บ”
“เฮ๊ย! ไม่ใช่ไม่เคยแอ้มเว้ย แต่ชั้นไม่ยอมให้แอ้มตะหากเล่า” สมใจคุยโวอย่างภูมิใจ
“ไม่ยอม ไม่ยอมให้ใครแอ้ม พี่โก้หนุ่มไฮโซที่เขารอแกไม่ไหว จนต้องเผ่นแนบโกอินเตอร์แล้วอ่ะเหรอ” คำปุยพลั้งปาก
สมใจอึ้งไป นัยน์ตาฉายแววเศร้าวูบหนึ่ง
คำปุยสังเกตเห็น ก็ตกใจ จ๋อยไป เพราะนึกขึ้นได้ว่าไม่น่าพูด ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องรีบทำตลกกลบเกลื่อน
“อ๋อๆ รึจะเป็นไอ้ปลัดจืดหน้าจ๋อย ฮ่าๆ”
ทั้งสองคนฮากลิ้งกันอีก สมใจแอบอาย

สมหมายผู้เป็นพ่อของสมใจ เข้ามาทันได้ยินเข้า จึงรีบตะโกนมาแต่ไกล
“เฮ้ย! ใครจะอ้ง จะแอ้มอะไรกันวะ”
คำปุยสะดุ้งโหยง รีบวางท่าเรียบร้อยสงบเสงี่ยม แคบหมูจึงแทรกขึ้นทันที
“อ๋อ ก็เจ๊ปุ๋ยเขาว่าเจ๊ใจ๋ว่าโตจนป่านนี้ยังไม่เคยได้แอ้มผู้ชาย เจ๊ใจ๋ก็เถียงว่าเจ๊ใจ๋ไม่ยอมให้แอ้มตะหาก เจ๊ปุ๋ยก็เลยว่า...”
สมใจกับคำปุยพร้อมใจกันผลักหัวแคบหมูดังพลั่กๆ
“โอ๊ย!” แคบหมูร้องลั่น
สมหมายไม่พอใจนัก วางลังชาท้ายรถดังโครม ก่อนหันมาต่อว่าคำปุยเล็กน้อย
“นี่นังปุ๋ย เอ็งอยากจะแอ้ม ใคร อะไร ยังไง มันก็เรื่องของเอ็ง ไม่ต้องมาชวนลูกสาวข้าไปแอ้มด้วย คนอย่างนายสมหมายน่ะ ทำไร่ชา “ม่วนใจ๋” เลี้ยงลูกสาวมาอย่างดี ไม่ต้องแอ้มใครก็ไม่มีวันอดตายหรอกเว้ย ที่สำคัญไม่ว่าใครหน้าไหน ก็อย่าหวังจะได้แอ้มลูกสาวข้าง่ายๆ" 
แคบหมูถอนใจเฮือก บ่นพึมพำอย่างแก่แดด “นั่นไง้! ถึงได้อยู่มาจนป่านนี้”
สมใจสะดุ้งโหยง คำปุยแอบขำกิ๊กกั๊ก
สมหมายตะโกนดุแคบหมู
“ไอ้แค๊บ! แกว่าไรนะ”
“อูย เปล่าๆ จ้ะ ลุงหมาย”
สมศรี แม่ของสมใจได้ยินบทสนทนา เดินเข้ามารับลังใบชา ก่อนจะสำทับกับพวกเด็กๆ
“นี่ ตาหมาย เด็กๆ มันพูดเล่นกัน แกจะไปเอาจริงเอาจังอะไรกับมันห๊า! ใจ๋ เมื่อคืนนอนพอนะลูก"
“ไม่ต้องห่วงจ้ะแม่
“ถ้าง่วงก็แวะนอนนะ เอาชาไปส่งช้าหน่อยก็ได้ ยังไงก็โทร.บอกลูกค้าเขาก่อนคงไม่เป็นไร
“มีนังปุ๋ยนั่งไปด้วย ไม่มีทางหลับลงหรอกจ้ะแม่”
“กว่าจะไปถึงก็มืดค่ำแล้ว” สมหมายบอกแม่แล้วหันไปสั่งคำปุย
“นังปุ๋ย ห้าม! ชวนไอ้ใจ๋ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์นะเว๊ย ไอ้แสงสีเสียงในกรุงเทพฯ เนี่ย ข้าเกลียดนักเกลียดหนา โดยเฉพาะ ไอ้ผู้ชายไฮโซเมืองกรุง เนี่ย ข้าเกลียดที่สุด”
สมหมายทำหน้าตาขึงขัง บอกให้รู้ว่าเกลียดจริงๆ

ค่ำคืนนั้นภายในผับหรูย่านใจกลางเมือง แสงสีเสียงในผับวูบวาบสุดฤทธิ์ นักเที่ยวเต้นกันกระจาย ทันใดนั้นเพลงแดนซ์ก็หยุดดื้อๆ แล้วเสียงเพลง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ดังขึ้น ทุกคนฮือฮา ช่วยกันร้องเพลง ก้อง หรือ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว หรือกิ๋ง รวมทั้ง เอมี่ และเจอาร์ เดินถือเค้กเข้ามาหาใครคนหนึ่งก้อง กิ๋ง เอมี่ เจอาร์ ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์พร้อมกัน หนุ่มรูปงาม คุณากร หรือ เจ้าคุณหันมามองตามเสียงและจ้องดูเค้ก
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ คุณคะคุณขา ดาหลิงของมี่นะคะ”
เอมี่ทำเสียงหวาน พูดจบก็พุ่งเข้าโน้มคอเจ้าคุณจุ๊บ ซ้ายจุ๊บขวาอย่างออกนอกหน้า
“มีความสุขมากๆ นะ เจ้าคุณ” กิ่งแก้วอวยพร
“โชคดีรับเบญจเพสเว๊ยเพื่อน” ก้องเกียรติอวยพรต่อ
“เอ้า เป่าเค้กซิ ไอ้คุณ!” เจอาร์บอกเจ้าคุณให้เป่าเค้ก ทุกคนปรบมือเฮ
“เดี๋ยวก่อน!” เสียงใครคนหนึ่งร้องทักไว้
ทุกคนหันไปมองตามเสียง เห็นแมทธิวยืนอยู่พร้อมกับกล่องของขวัญขนาดใหญ่เบิ้มข้างกาย เจ้าคุณ
แอบเซ็ง เพราะรู้ว่าแมทธิวไม่เคยมาดี
“เซอร์ไพรส์สำหรับ เจ้าคุณเพื่อนรักของเรายังไม่หมดแค่นั้น”
แมทธิวดีดนิ้วเสียงดังให้สัญญาณ เสียงเพลงแดนซ์เร้าใจดังขึ้น กล่องของขวัญเปิดออกพร้อมโคโยตี้สาวสุดเซ็กซี่ ผู้คนฮือฮา โคโยตี้ปรี่เข้ามาเลื้อยไล้ใส่เจ้าคุณทันที แถมโชว์ลีลาสุดฤทธิ์ ผู้คนขำไปเชียร์เย้วๆไป เจ้าคุณ แอบอาย
“ไอ้แมทมันจะบ้าเหรอ ไม่รู้รึไงว่าไอ้คุณมันขี้อาย” กิ่งแก้วเอ่ยขึ้น
“ก็เพราะมันรู้น่ะซิ เวรกรรมจริงๆ” ก้องเกียรติว่า หน้าหน่ายๆ
กิ่งแก้วอึ้ง หันไปมองแมทธิวที่กำลังขำกลิ้ง แล้วหันไปทางเจ้าคุณที่อยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“แมท! ทำอย่างนี้ได้ไง” เอมี่ปรี่เข้าหาแมทธิวทันที
“ทำไม หึงมันเหรอ” แมทธิวสวนขึ้น
เอมี่ไม่ตอบ แต่พรวดๆๆ เข้าไปกระชากไหล่โคโยตี้มาประจันหน้า
“คิดจะล่วงละเมิดแฟนฉันเหรอนังโคโยตี้ ฝันไปเถอะ! จำใส่กะโหลกไว้นะ คนอย่างคุณเอมี่ แรดอย่าง
สงบ ตบเมื่อจำเป็น ตอแหลอย่างเยือกเย็น เพราะชั้นเป็น ไฮโซ!”
พูดจบเอมี่ก็ตบผัวะๆๆๆ ทุกคนตกใจ แต่โคโยตี้ไม่สะท้าน หันกลับมาจ้องหน้าเอมี่แล้วตบกลับจนเอมี่หน้าหัน
“ว๊าย! แก” เอมี่ร้องเสียงหลง
“แกก็จำไว้นังไฮโซ คนอย่างน้องเป้ยน่ะ ตบแล้วตบเลยไม่เคยตบเล่น เพราะชั้นเป็นโคโยตี้เว้ย"
พูดจบโคโยตี้นามน้องเป้ยก็ตบรัว จนเอมี่ไมทันตั้งตัวก็ล้มคว่ำลงไป แต่แล้วจังหวะหนึ่งก็ลุกขึ้นมาได้
“แก ตาย!” เอมี่พูดแทบเป็นคำราม
หลังจากนั้นเอมี่ และน้องเป้ยก็เปิดฉากตะลุมบอน ตบกันนัว ฝ่ายเจ้าคุณเซ็งสุดขีดที่มีเรื่องกลางงานวันเกิดตัวเอง เจอาร์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าไปห้าม
“หยุดเถอะครับ พลีสๆ คิดซะว่าเจอาร์ขอเถอะครับสาวๆ”
สาวๆ พร้อมใจกันจัดให้ตามคำขอ ตบเจอาร์ซะหมุนติ้ว แล้วหันไปฟ้อนเล็บตบกันต่อ เจ้าคุณเซ็งหนักจะเดินออกไป แมทธิวเข้ามาขวาง
“เฮ๊ย! จะรีบไปไหน เซอร์ไพรส์ ยังไม่หมดเว้ยเพื่อนรัก” แมทธิวว่า
เจ้าคุณมองแมทธิวอย่างประหลาดใจ

เวลาเดียวกันในร้านหมูกระทะริมถนน สมใจ กับคำปุย นั่งมองเนื้อหมูบนกระทะกำลังสุกดังฉื่อฉ่าๆ สมใจนั่งจ้องเนื้อหมูที่กำลังสุกด้วยความอยากกิน
“อยากกินเหลือเกิน หมูกระทะกรุงเทพฯ ในที่สุดฝันของไอ้ใจ๋ก็เป็นจริง เนอะนังปุ๋ย”
คำปุยไม่ตอบ เพราะมัวแต่มองพนักงานชายในร้านที่กล้ามโตเป็นมัดๆ พร้อมเลียปากหมุบหมับ
“นั่นซิ คงจะกรุบกรอบ หวาน มัน ล่ำขนาด”
สมใจหันไปมองตามคำปุยแล้วก็ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“นี่! นังปุ๋ย ไหนคุยนักคุยหนาว่าเป็นกุลสตรีล้านนา”
“อุ๊ย! ตายละ ลืมตัว พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
สมใจยิ้มๆ แล้วก็ส่ายหัว หันไปมองนั่งจ้องเนื้อหมูที่กำลังสุกเสียงฉ่าๆ อย่างหมายมั่นปั้นมือ

ส่วนในผับกลางงานวันเกิดเจ้าคุณ แมทธิวยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนเวที
“แอทเทนชัน พลีส แอทเทนชันพลีส! เพื่อนๆ ที่รักทุกคนโปรดฟังทางนี้”
เจ้าคุณ เอมี่ ที่หน้าตามีร่องรอยฟกช้ำ หัวฟูยุ่งหลังตบกับโคโยตี้ รวมทั้ง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ ยืนมองอย่างสงสัย
“นั่นไอ้แมทมันจะทำอะไรของมันอีกน่ะ” กิ่งแก้วเอ่ยขึ้น
“อย่าบอกนะว่าจะเอาโคโยตี้มาตบกับชั้นอีก คุณคะคุณขามี่เจ็บจังเลยค่ะ” เอมี่ หันไปอ้อนเจ้าคุณ
“ฉันว่า ฉันกลับดีกว่าว่ะ” พูดจบเจ้าคุณทำท่าก็จะเดินออกไป
“อ้าว จะรีบหนีไปไหนล่ะเจ้าคุณเพื่อนรัก” แมททิวเรียกไว้
เจ้าคุณชะงัก หันมามองแมทธิวเซ็งๆ
“เป็นเจ้าของวันเกิดแท้ๆ จะทิ้งแขกไว้อย่างนี้ได้ไง จริงมั้ยพวกเรา”
เพื่อนๆ เฮรับกันลั่น เจ้าคุณหน้านิ่ง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว ได้กลิ่นไม่ค่อยดี เอมี่ เจอาร์ สงสัยใคร่รู้
“เอาล่ะ ไหนๆ เพื่อนเก่าแก่ก็อุตส่าห์มารวมตัวกันซะขนาดนี้ แกจะใจดำไม่ขึ้นมาพูดอะไรขอบใจเพื่อน
หน่อยเหรอวะ ไอ้คุณ”
เจ้าคุณอึ้ง ตะลึง

“นั่นไง ไอ้แมท นึกแล้ว” ก้องเกียรติส่ายหน้าด้วยความเซ็ง
“ไม่ต้องนะคุณ ไม่ต้องขึ้นไป ไม่ต้องสนใจไอ้แมทมัน” กิ่งแก้วเอ่ยขัดขึ้น เจ้าคุณยังอึ้งอยู่
“ไงครับ ไอ้เจ้าคุณ แค่ขึ้นมาพูดอะไรนิดๆ หน่อยๆ แค่นี้ ป๊อดเหรอวะ ฮ่าๆ ไอ้คุณป๊อด”
เพื่อนๆ ฮากันเกรียว
“คุณคะคุณ ไปซิคะ คนเขาขำกันกลิ้งแล้ว ไม่อายรึไง” เอมี่เรียกบอกคุณเลิ่กลั่ก
“จะบ้าเหรอเอมี่ ไม่รู้อะไรก็หุบปากไปเลยดีกว่า” กิ่งแก้วสวนขึ้นมา
“เอ๊ะ! คุณกิ๋งคะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดจากับเอมี่อย่างนี้คะ”
“ก็สิทธิ์ในความเป็นเพื่อน เพื่อนที่เรียนกับไอ้คุณมันมาตั้งแต่อนุบาลไงล่ะ” กิ่งแก้วบอกอย่างฉุนเฉียว
“แต่มี่เป็นแฟนเจ้าคุณ เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ เอ่อ... ปีที่แล้ว”
“เฮ๊ย! พอได้แล้ว จะเถียงกันทำไม”
ก้องเกียรติพูดยังไม่ทันจะจบ เจ้าคุณก็พุ่งพรวดออกไปที่เวทีทันที
“เฮ๊ย! ไอ้คุณ ไอ้คุณ อย่าขึ้นไป ไอ้คุณ”
“ไม่ทันแล้วไอ้ก้อง งานเข้าล่ะเว๊ย ไอ้คุณ”
“แย่แล้ว” ก้องกับกิ๋งเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
แมทธิวยืนอยู่กับเจ้าคุณแล้ว ประกาศก้อง
“ไม่อยากจะเชื่อ! ไอ้คุณกล้าขึ้นเวที ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้ไอ้คุณหน่อยพวกเรา”
เพื่อนทุกปรบมือเฮกันเกรียว แมทธิวทำหน้าเจ้าเล่ห์ เจ้าคุณเริ่มประหวั่น
“เกือบ 20 ปีผ่านไป เราลองมาดูซิว่า ดช.เจ้าคุณ เพื่อนเราจะยัง ขาสั่นอยู่รึเปล่า ฮ่าๆ”
เพื่อนฮากันกระจาย กับการเลียนแบบท่าทางของเจ้าคุณโดยแมทธิวที่ยืนทำท่าขาสั่นประกอบ เจ้าคุณหน้าจ๋อย
“เอ้า! แน่จริงก็พูด” แมทธิวยื่นไมค์ให้เจ้าคุณ เจ้าคุณจ้องไมค์ ตาหวั่นๆ
“ก้อง ไปเอาเจ้าคุณลงมา” กิ่งแก้วสั่ง ก้องเกียรติขยับตัวแล้วชะงักกึกกับภาพที่เห็น
เจ้าคุณคว้าไมค์หมับไปแล้ว เพื่อนเฮกันลั่น
“เซอร์ไพรส์! เซอร์ไพรส์สุดๆ ไอ้เจ้าคุณที่ไม่เคยกล้าพูดหน้าชั้นเรียนมาตลอดเกือบ 20 ปี กำลังจะพูดบนเวทีให้พวกเราได้ฟังกันคร้าบพี่น้อง ฮ่าๆ” แมทธิวเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเย้ยหยันอยู่ในที
เพื่อนเฮกันลั่น แต่เจ้าคุณเหงื่อแตก พร้อมๆ กับภาพในอดีตโผล่เข้าในความคิดของเขา


เหตุการณ์ในขณะนั้น เด็กชายเจ้าคุณวัย 5-6 ขวบ ยืนตัวสั่นอยู่หน้าชั้นเรียน
“เอ้า! เจ้าคุณ พูดแนะนำตัวซิคะ” คุณครูบอก
เด็กชายเจ้าคุณมองไปยังเพื่อนๆ ที่จ้องกันตาแป๋ว แล้วเหงื่อแตกกาฬ ตัวสั่น
“ผะ ผะ ผะ ผม” เจ้าคุณติดอ่าง พูดไม่ออก
เพื่อนๆ เด็กชายเด็กหญิงขำกันกลิ้ง นำโดย แมทธิว เจอาร์ ยกเว้น ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว
“ไม่เอา อย่าหัวเราะเยาะเพื่อนใหม่นะคะ พูดต่อซิคะ เจ้าคุณ”
“ผะ ผะ ผม ชะ ชะ ชื่อ” เจ้าคุณจะร้องไห้ เพื่อนขำกันกลิ้ง ยกเว้น ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว
“ชะ ชื่อ จะ จะ จะเจ้าคุณ” พูดจบเจ้าคุณก็ปล่อยโฮ พร้อมฉี่ราดทันที
“ฉี่ราด! เด็กใหม่ฉี่ราด เด็กใหม่ฉี่ราด เจ้าคุณฉี่ราด” แมทธิวล้อเจ้าคุณขึ้นเป็นคนแรก จนเพื่อนๆ ล้อตามกันเกรียว “เจ้าคุณฉี่ราดๆ ฮ่าๆ” ในขณะที่เจ้าคุณเหงื่อแตกซิก

นึกมาถึงตอนนี้ เจ้าคุณยังถือไมค์ยืนนิ่ง อยู่บนเวที
“พูดไม่ออกเหรอ ไอ้คุณ อ๋อ หรือว่ากลัวฉะ ฉะ ฉะ ฉี่ จะ จะ ระ ระ ราด กลัวฉี่จะราดอีกเหรอวะ ฮ่า”
คำพูดเยาะเย้ยแมทธิวทำเอาเพื่อนๆ ฮากันกลิ้ง
“โธ่ เจ้าคุณ” กิ๋งทำหน้าสงสารเจ้าคุณสุดชีวิต
“อะไรกันคะ ใครฉี่จะราดคะ” เอมี่ยังงง
“อู้ว! ก็ไอ้คุณคะคุณขาของคุณมี่ไง โอ๊ย เรื่องมันยะ ยะ ยาว ฮ่าๆ” เจอาร์ทำท่าจะเมาท์
“ไอ้จ้อย! เลิกล้อไอ้คุณซะที” ก้องตะโกนขึ้น
“เจอาร์เว้ย เปลี่ยนชื่อเป็นเจอาร์มาหลายปีแล้ว เรียกไอ้จ้อยอยู่ได้” เจอาร์ฉุน
“เฮ๊ย! เจ้าคุณ” กิ๋งร้องขึ้น
เจ้าคุณพุ่งหมัดใส่หน้าแมทธิวล้มคว่ำกลางเวที ผู้คนฮือฮา แมทธิวลุกพุ่งสู้ ฟัดกันนัว ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เอมี่ เจอาร์ รีบพุ่งขึ้นบนเวทีจับทั้งคู่แยกออกจากกัน
“ไป ไอ้แมทพอแล้ว เดี๋ยวไอ้คุณมันเอาตาย” เจอาร์ลากแมทธิวออก
“กลัวที่ไหน เข้ามาซิเว้ย ไอ้ขี้ป๊อด ไอ้ติดอ่าง” แมทธิวกล้าๆ กลัวๆ ด่ากลับ
เจ้าคุณโมโหจะพุ่งเข้าใส่อีก ก้อง กิ๋ง เอมี่ ช่วยกันรวบตัวไว้ชุลมุน
“เอาไอ้แมทออกไปไอ้เจ เร็ว!”
ก้องสั่ง เจอาร์รีบลากแมทธิวที่โวยวายทำปากเก่งออกไป
“เจ ปล่อย! กลับมาก่อนไอ้แมท กลับมา” เจ้าคุณโพล่งขึ้น
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเอมี่ ช่วยกันรวบตัวเจ้าคุณไว้
“อะไรคะเนี่ย ทำไม่คุณคะคุณของมี่ถึงได้โมโหขนาดนี้” เอมี่ยังงงต่อไป
“โอ๊ย!! หยุดถามซะทีได้มั้ย”
กิ่งแก้วสบถด้วยความรำคาญเอมี่เต็มทน เจ้าคุณถือโอกาสพุ่งออกไปทันที
“เฮ้ย! ไอ้คุณ!” ก้องเกียรติตะโกนเรียก ทุกคนรีบวิ่งตามออกไป

ทุกคนออกไปหน้าผับ เจอาร์ล็อกแมทธิวออกมาข้างรถที่จอดอยู่ แมทธิวสะบัดพรึ่บ
“ปล่อยเว๊ย! ไอ้จ้อย”
“เฮ้ย! พอแล้วน่าไอ้แมท แค่นี้ก็ฮาขี้แตกขี้แตนแล้ว นึกๆ ก็สงสารไอ้คุณมัน แกก็รู้อยู่ว่ามันพูดต่อ
หน้าคนเยอะๆ ได้ที่ไหน ถ้าพูดเมื่อไหร่มันต้อง ตะ ตะ ตะ ติด อะ อะ อะ อ่าง ฮ่าๆ”
สองคนมองหน้ากันฮากลิ้ง...ที่แท้ทั้งคู่รู้กัน
“ไอ้แมท!” เจ้าคุณตะโกนลั่น ผู้คนแถวลานจอดรถชะงักกึก หันไปมอง เห็นเจ้าคุณวิ่งไล่มาไกลๆ
“เผ่นเร็วไอ้แมท!” เจอาร์ร้องบอก แมทธิวรีบสตาร์ทรถซิ่งออกไป เจ้าคุณวิ่งมาไม่ทัน รีบวิ่งไปที่รถตัวเอง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเอมี่ วิ่งตามมา
“ว๊าย! คุณคะคุณ จะทิ้งมี่ได้ไง”
เจ้าคุณไม่สนแล้ว สตาร์ทรถ 3 คนกระโดดขึ้นรถกันระนาว เอมี่นั่งหน้า ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว นั่งหลัง
“ไอ้คุณ ใจเย็น!” เจ้าคุณกระชากรถออก จนทั้ง 3 คนหงายเงิบ

เวลาเดียวกันนั้น ภายในร้านหมูกระทะ คำปุย กับสมใจใช้ตะเกียบคีบหมูชนกันแล้วส่งเข้าปากอย่างอร่อย
“ลำขนาดๆ”
ทันใดนั้นมือถือสมใจดังขึ้น สมใจควานกระเป๋าหยิบมือถือรุ่นพระเจ้าเหาเครื่องเก่าๆ หน้าจอขาว-ดำออกมารับ
“ฮาโหลๆ อ้าว เงียบ”
“นังใจ๋ มือถือรุ่นพระเจ้าเหานี่เมื่อไหร่จะเอาไปคืนที่ประตูท่าแพซะทีห๊ะ ขโมยของเก่าร้อยปีมาใช้อย่างนี้มันบาปกรรมนะแก" คำปุยว่า
“แล้วเมื่อไหร่แกจะกลับไปยืนเฝ้าประตูท่าแพซะทีล่ะ จะได้ฝากมือถือไปคืนด้วย” สมใจกัดคำปุยกลับ พลางเคาะมือถือ เคี้ยวหมูไปด้วยแบบชิลล์ๆ
“อ๋อ ก็ว่าจะรีบกลับ ว๊าย! ต๋ายล่ะ ชั้นไม่ใช่ผีเฝ้าประตูเมืองนะยะ นังนี่ แร้งส์!”
สมใจคาะมือถือรุ่นเก่ากับโต๊ะจนคำปุยตกใจ
“ธัมโม! สังโฆ!”
ทันใดนั้นเสียงมือถือเรียกเข้าดังทันที สมใจยิ้ม รับสาย
“ฮาโหล จ้ะ แม่จ๋า”
คำปุยค้อนขวับ อ่อนใจกับเพื่อนสาว

บนถนนโล่ง รถแมทธิววิ่งฉิว อีกแป๊บรถเจ้าคุณวิ่งไล่จี้ตามมา เจอาร์หน้าตาตื่น ขณะที่แมทธิวตั้งหน้าตั้งตาซิ่งอย่างสนุก
“อะ อะ อะ ไอ้แมท!” เจอาร์ร้องทัก
“อะไร ติดอ่างยังกะไอ้คุณเชียวไอ้จ้อย”
“โอย ฉี่จะราดเหมือนมันอีกด้วยล่ะ เบาหน่อยซิเว้ย” เจอาร์ว่า
“ขืนเบาก็แพ้ไอ้คุณมันซิเว้ย”
“แพ้นิดแพ้หน่อยจะเป็นไรไปเล่า”
“เป็นซิวะ จะนิดจะหน่อยก็ไม่ได้ คนอย่างฉันจะยอมแพ้ไอ้คุณไม่ได้เด็ดขาด”
พูดจบแมทธิวก็ซิ่งซะเจอาร์หงายเงิบ รถแมทธิววิ่งฉิว รถเจ้าคุณไล่ล่าตามมาติดๆ ดูน่าตื่นเต้นหวาดเสียว
เจ้าคุณขับรถแบบมุ่งมั่นเช่นกัน ในขณะที่เอมี่ที่นั่งข้างๆ ตัวสั่น
“คุณคะคุณ มี่กลัวนะ เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะคะ” เจ้าคุณซิ่งอีก
“ไอ้คุณ แกขับรถเร็วเกินไปแล้ว ปล่อยไอ้แมทมันไปเถอะ”
“ไม่!” พูดจบก็กระชากรถแรงขึ้น จนทุกคนหงายเงิบ
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเอมี่ กรี๊ดกร๊าดลั่นรถ เพราะรถแมทธิววิ่งฉิว รถเจ้าคุณไล่ล่าไล่บี้อย่างฉิวเฉียดทุกคนลุ้น อย่างตื่นเต้น

ส่วนที่ร้านหมูกระทะ สมใจยังคุยโทรศัพท์กับแม่ต่อ
“โอเคๆ ค้างก็ค้าง”
สมใจบอกแม่ พลางหันมาพยักพเยิดกับคำปุยที่คีบหมูใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วก็ฟังไปด้วย
“โอเค ดึกแล้ว อย่าขับรถ มันอันตราย ไอ้พวกรถซิ่งมันเยอะ” สมใจทวนคำแม่อีกครั้ง
“หนูจะค้างคืนนึง” สมใจพูดพลางตีมือคำปุยที่กำลังคีบหมูชิ้นสุดท้ายในกระทะ คำปุยร้องลั่น
“ว๊าย”
สมใจทำหน้าตาท่าทางเหมือนจะบอกว่า “ชิ้นนั้นของชั้น ชั้นจะกิน!”
คำปุยทำปากมุบมิบด่าเพื่อน
“หนูกินหมูกระทะอยู่ ปลอดภัยดี คงไม่มีรถซิ่งที่ไหนมาเสยหรอกน่า” สมใจคุยกับแม่ต่อ
“แค่นี้นะแม่ รักนะ หวัดดีจ้ะ” สมใจวางหูก่อนจะหันมาเม้งคำปุยที่กินหมูกะทะเกือบหมด
“นังปุ๋ย พรุ่งนี้กลับบ้านไปไล่ปอบหน่อยดีมั้ย อะไรวะ กินคนเดียวเกือบหมดกระทะ”
“ก็แกมัวแต่คุยโทรศัพท์อยู่นี่ หมูมันจะไหม้ ชั้นก็อุตส่าห์ช่วยกิน จะให้เสียของเหรอะ”
“ไม่ต้องเลย ชิ้นนี้สุดท้ายแล้วฉันกินเอง แหม...หมูกระทะกรุงเทพฯ หมูกระทะในฝัน”

ฝ่ายเจ้าคุณกำลังตั้งใจซิ่ง รถสองคันไล่ซิ่งมาใกล้ร้านหมูกระทะ มีคนข้ามถนนตัดหน้า แมทธิวหักหลบ
ไปอีกทาง เจ้าคุณเลยหักหลบอีกทาง โดยกำลังจะพุ่งเสยเข้าร้านหมูกระทะ คนในรถร้องลั่น คำปุยร้องกรี๊ด สมใจกำลังจะเอาหมูกระทะเข้าปาก หันขวับไปมองตะลึง
“เฮ๊ย!”
เจ้าคุณที่อยู่ในรถตกใจ คนในร้านกระโดดหลบหนีกันระนาว มีคนหนึ่งพุ่งชนสมใจที่ยืนคีบหมูอยู่ในมือ
สมใจหัวทิ่ม หมูชิ้นสุดท้ายกระเด็นลอยเคว้งอยู่ในอากาศ ก่อนจะไปตกแหมะลงที่หน้าคำปุย
“อ๊าย...”
คำปุยตกใจร้องกรี๊ดดังลั่น ปัดหมูร่วงลงพื้น สมใจมองตามอย่างแสนเสียดาย
รถเจ้าคุณที่เสยเข้ามาในร้าน จอดแน่นิ่งตรงโต๊ะสมใจพอดีเป๊ะ ทุกอย่างนิ่ง เงียบงันชั่วขณะ เฮียเจ้าของร้านหมูกระทะวิ่งออกมายืนมอง
“ซี้เลี้ยว ชิกหายเลี้ยว หมดตัวเลี้ยว”

“แย่แล้ว ไอ้คุณ” ก้องเกียรติพูดในขณะกอดกิ่งแก้วอยู่
“เรื่องเล็ก” เจ้าคุณพูดขึ้นแบบไม่นี่หระ
“ฮือๆ แค่นี้ยังเรื่องเล็กอีกเหรอ” เอมี่ร้องลั่น เสียงสั่น
ส่วนสมใจหันไปถามสารทุกข์สุกดิบกับคำปุยอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรมั้ย ไอ้ปุ๋ย” สมใจถาม
“หน้า หน้าชั้นโดนหมูกระทะ ดูให้หน่อยเสียโฉมมั้ย หน้าชั้นเละมั้ยไอ้ใจ๋”
คำปุยพูดพลางเอามือตะปบหน้าตัวเองสำรวจตรวจตรา
“ไม่เละ สวยเหมือนเดิม” คำปุยใจชื้นขึ้นมา
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ!”
“แต่ไอ้คนที่ทำให้ชั้นอดกินหมูกระทะชิ้นสุดท้าย มันเละแน่”

สมใจคำรามในลำคอขณะเหลือบมองหมูชิ้นสุดท้ายที่ตกอยู่กับพื้นหยิบขึ้นมามอง แล้วหันไปที่รถต้นเหตุ เห็นเจ้าคุณกำลังเปิดประตูเดินลงมา แว่บหนึ่งสมใจแอบมองด้วยสายตาชื่นชมในความหล่อ แต่ยังคงจ้องเอาเรื่องต่อ เจ้าคุณเดินมา ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เอมี่ รีบวิ่งตามมาด้วย เจ้าของร้านรีบเข้าไปตั้งท่าจะโวยใส่
“ลื้อทำอย่างนี้...”
เฮียเจ้าของร้านหมูกระทะยังพูดไม่ทันจบ เงินปึกใหญ่ในมือเจ้าคุณเกือบทิ่มหน้าเฮีย เฮียชะงักกึกตาโต
“ไอ๊หยา!” เฮียเสียงอ่อยลง
“พอมั้ย” เจ้าคุณถามกลับ
เฮียคว้ามานับ ตาโต
“ว่าไง”
“พอครับ พอยิ่งกว่าพอ เอ่อ ไม่ทราบว่า ท่านอยากจะได้เตาหมูกระทะไปเป็นที่ระลึกด้วยมั้ยครับ” เฮีย
ประจบ
ระหว่างนั้นด้านในร้าน ลูกค้ากลุ่มที่เป็นนักข่าวหันมาคุยกัน

“นั่นมัน..ไฮโซ นี่นา” ข่าวหญิงหญิงเอ่ยขึ้น
“หน้าหนึ่ง แน่นอน” นักข่าวชายคว้ากล้อง รีบออกไปร่วมวงทันที นักข่าววิ่งกรูตามมาถ่ายรูประรัว
“เฮ๊ย! ถ่ายทำไม” เจ้าคุณเอามือบังหน้าไว้
“นักข่าวนี่ แย่แล้วไอ้คุณ” ก้องเกียรติมองหน้ากิ่งแก้วอย่างรู้กัน กิ่งแก้วรีบเข้าไปหานักข่าว ห้ามไว้
“พี่คะ ขอเถอะนะคะพี่ อย่าเป็นข่าวเลยนะคะ”
“ไม่ได้หรอกน้อง นี่มันเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ข่าวใหญ่...ไฮโซซิ่งนรก หวิดตายหมู่ยกร้านหมูกระทะ เลยนะน้อง” นักข่าวชายเอ่ยขึ้นสีหน้าจริงจัง
“แต่ผมจ่ายเงินให้เจ้าของร้านไปแล้ว” เจ้าคุณเอ่ยขึ้น

“แค่นั้น มันยังไม่จบหรอกไอ้ตีนผี” เสียงสมใจดังแทรกขึ้นมา
ทุกคนชะงักกึก เจ้าคุณหันขวับมองไปเจ้าของเสียง เห็นสมใจที่ยืนหน้าตาเอาเรื่องอยู่ โดยมีคำปุยคอยยั้งๆ ด้วยสายตาแอบปลื้มเจ้าคุณไม่น้อย
“นี่ แกเรียกใครว่า ไอ้ตีนผี คุณคะคุณของชั้นน่ะเขาเป็น ไฮโซ นะยะ” เอมี่แว๊ดใส่สมใจทันที
“เออ ไอ้ไฮโซตีนผี” สมใจด่าอีกดอก
“ว๊าย! คุณคะคุณ ดูซิคะ คนอะไรหยาบคาย”
“ก็คงไม่หยาบคายเท่า คุณคะคุณอะไรของเธอหรอกนะยะ ที่เอะอะก็จะเอาเงินฟาดหัวชาวบ้าน”
สมใจเลียนเสียงเอมี่ ด่ากระทบกระเทียบเจ้าคุณ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ฉันไม่ได้ฟาดหัวเธอซักหน่อย อ๋อ หรือว่าอยากโดนฟาด” เจ้าคุณว่า
“หยาบคาย” สมใจด่าอีก
"ว๊าย! ผู้ชายปากจัด” คำปุยแอบขำ ปลื้มปนตกใจกับคำพูดของเจ้าคุณ
“แล้วคิดเหรอว่าน้ำหน้าอย่างนายจะมีบุญได้ฟาดฉัน”
ฟังคำพูดเย่อหยิ่งของสมใจ เจ้าคุณถึงกับอึ้ง
“ต๊าย! กล้าพูด” เอมี่พูดไป มองเหยียดสมใจ
“คนอย่างฉันไม่มีวันยอมให้ใครเอาเงินมาฟาดหัว แต่สำหรับไอ้คนที่มันทำให้ชั้นอดฟาดหมูกระทะชิ้น
สุดท้าย มันต้องโดนชั้นฟาดปากแน่”
สมใจไม่สนแถมชูหมูชิ้นสุดท้ายขึ้นมา พูดจบก็เขวี้ยงหมูใส่หน้าเจ้าคุณดังแปะ แล้วพุ่งเข้าจะลุยเจ้าคุณทันที คำปุยร้องกรี๊ดรีบล็อกสมใจไว้อย่างชุลมุน นักข่าวถ่ายรูปรัว ก้องกับกิ๋งรีบลากเจ้าคุณขึ้นรถ
ก้องขังออกไปทันที
“พี่คะ เอามันลงหน้าหนึ่งเลยนะคะ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลนะคะ”
สมใจตะโกนบอกนักข่าว
“ไอ้ใจ๋ ใจเย็นๆ อโหสิ ขอสุมาเต๊อะ” คำปุยหอบแฮ่กๆ
“ชาตินี้อย่าได้เจอะได้เจออีกเลย ไอ้ไฮโซตีนผี ไอ้ไฮโซผีนรก”
สมใจมองตามด่าซ้ำเจ้าคุณอีกรอบ
“ผีบ้าอะไร ล้อ หล่อ” คำปุยอมยิ้ม พึมพำออกมา

สมใจหันขวับไปมองคำปุยในอาการเซ็งและหน่ายสุดขีด ขณะที่เพื่อนสาวผมทองหัวเราะแหะๆ 

อ่านต่อหน้า 2





ร่วมพูดคุย ถก เถียง แสดงความคิดเห็นเรื่องละครอย่างสร้างสรรค์  หรือจะด่าทอ ต่อว่า...ทีมงานได้ที่ แฟนเพจละครออนไลน์ facebook.com/ละครออนไลน์เอเอสทีวี ได้แล้วจร้า...

 รักออกอากาศ  ตอนที่ 1 (ต่อ) 

แมทธิวนอนหัวเราะอย่างสะใจอยู่บนเตียงที่คอนโด ขณะดูภาพข่าวเหตุการณ์เจ้าคุณซิ่งรถชนร้านหมูกระทะบนหน้าจอไอแพด

“จะขำอีกนานมั้ยเนี่ย” เอมี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“คงอีกนานล่ะจ้ะ ที่รัก แหม ข่าวหมูกระทะร้อนๆ รวดเร็วทันใจดีจริงๆ สะใจเป็นบ้า”
แมทธิวพูดพลางหันมองเอมี่ที่นั่งหน้าหงิกอยู่ข้างๆ
“มี่ซิจะบ้า ขับรถไล่กันซะขนาดนั้น มี่กลัวแทบตาย ไม่รู้จะแข่งกันไปถึงไหน” เอมี่บ่นอุบ
“ก็จนกว่าไอ้เจ้าคุณมันจะแพ้ แพ้ผมทุกอย่าง แพ้อย่างราบคาบไงล่ะเอมี่” แมทธิวพูดน้ำเสียงจริงจัง
“โธ่ แมท เลิกคิดจะเอาชนะเจ้าคุณซะเถอะ เพราะถึงยังไง คุณก็ไม่มีวันชนะเจ้าคุณได้ทุกอย่างหรอกน่า
โดยเฉพาะ เรื่อง มี่ เพราะถึงยังไง เจ้าบ่าวของมี่ก็ต้องเป็นลูกชายไฮโซอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อเจ้าคุณ ไม่ใช่เพลย์บอยหนุ่มที่ชื่อแมทธิว”
แมทธิวเหล่มองอย่างไม่พอใจ โพล่งขึ้นมาทันที
“ทำไม ไอ้คุณมันมีอะไรดีกว่าผม ก็แค่มันรวยกว่าผมเท่านั้นเอง”
“นั่นแหละ สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่ทำให้คุณหญิงแม่ของมี่ปลื้มมากจนอยากให้มี่แต่งงานกับเจ้าคุณ
จนตัวสั่น”
“ทั้งที่ลูกสาวของคุณหญิงแม่อยากอยู่กับแมทธิวจนตัวสั่น” แมทธิวผุดยิ้มเข้าเล่ห์ หันไปกอดเอมี่
เอมี่ผลักแมทธิวออกทันที แล้วลุกขึ้นจ้องหน้าพูดยิ้มๆ แต่หมายความตามนั้นจริงๆ
“ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ถ้าอยู่ยาว ต้องเจ้าคุณคนเดียวเท่านั้น” เอมี่ยิ้มเยาะตั้งท่าจะเดินออกไป แมทธิวมองตามอย่างอึ้งๆ เอมี่เอี้ยวตัวหันกลับมากำชับ
“อ้อ อีกอย่างนึง อย่าเรียกมี่ว่าที่รัก อีกเด็ดขาด เดี๋ยวเผลอติดปากขึ้นมาแล้วมันจะยุ่ง”
“เชอะ นึกว่าอยากเรียกตายละ อีนังมัมมี่ ”
คล้อยหลังเอมี่ที่เดินออกไป แมทธิวพึมพำอย่างเคืองๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนยิ้มอย่างสะใจอีกครั้ง
“ฉันก็แค่อยากเอาชนะแกทุกอย่างเท่านั้นแหละ ไอ้เจ้าคุณ”

ทางด้านเจ้าคุณกำลังนอนแช่น้ำในอ่างอยู่ที่คฤหาสน์ โดยมีไมเคิลคนขับรถและคนรับใช้ คอยดูแลอยู่ จังหวะหนึ่งจู่ๆ เจ้าคุณตบน้ำอย่างยั๊วจนน้ำกับฟองสบู่กระจาย
“โธ่เว๊ย! จะยืนเซ่ออยู่ทำไม นวดซิ”
ไมเคิลเอามือลูบฟองสบู่ที่กระเด็นมาโดนหน้าอย่างชาชิน
“ครับผม อย่า’รมณ์เสียเลยนะครับคุณหนู เรื่องข่าวแค่นี้ คุณผู้หญิงยกหูกริ๊งเดียว เคลียร์เรียบ” ไมเคิลว่า
“อย่าจุ้น ชั้นไม่ได้ยั๊วเรื่องนั้น” เจ้าคุณบอก
“อ้าว แล้วยั๊วเรื่องไหนล่ะครับ ใครมันบังอาจทำให้คุณหนูยั๊ว บอกไมค์ เดี๋ยวไมค์เคลียร์เอง”
ไมเคิลวิ่งมาจ้องหน้าเจ้านายอีกครั้ง
“ยัยหมูกระทะ!”
เจ้าคุณพูดอย่างแค้นเคืองใจ ได้แต่ตบน้ำฟองแตกกระจาย จนไมเคิลเปียกซกอีกรอบ

เวลาเดียวกัน ที่ห้องพักในโรงแรมเล็กๆ กลางใจเมือง
“ฮ้าดเช้ย!” จู่ๆ สมใจจามขึ้นดังลั่น ขณะนั่งอยู่ที่หน้ากระจก
“สงสัยพ่อกับแม่แกจะบ่นถึงล่ะไอ้ใจ๋” คำปุยทักขึ้น แล้วหันกลับไปนอนบนเตียง
“ชั้นว่าไอ้ไฮโซผีนรกนั่นมันแอบด่าชั้นอยู่มากกว่า” สมใจหมายถึงเจ้าคุณ
“ตายล่ะ เขาออกจะหล่อล่ำออกปานนั้น ทำไมไปเรียกเขาซะเสียหาย น่าจะเรียกเขาว่า เจ้าชาย เจ้าชาย
ล่ำบึ้ก เอ๊ะ! รึ เทพบุตรซิกซ์แพ็ก ดีล่ะ” คำปุยตาเป็นประกายวิบวับ
“เทพบุตรผีเปรตน่ะสิงนังปุ๋ย นี่ เดี๋ยวนี้เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนแล้วเหรอยะ” สมใจกัด
“อู๊ย เห็นมาตั้งนานแล้ว... อ่ะ ล้อเล่น นี่ไอ้ใจ๋ นึกในทางที่ดีว่าเราแคล้วคลาด ไม่โดนพ่อเทพบุตรซิกซ์แพ็ก
ขับรถชนตายก็บุญแล้ว พระท่านว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะเพื่อน”
“เกือบโดนมันขับรถชนตายยังพออภัยได้ แต่ไอ้อดกินหมูกระทะชิ้นสุดท้ายนี่มันระงับไม่ไหวจริงๆ ว่ะ”
“เอาน่า สุมาเต๊อะ อโหสิกันไปจะได้หมดเวรหมดกรรม แต่เอ๊ะ หล่อล่ำอย่างนี้ก็น่าจะจองเวรจองกรรม
กันไปทุกชาตินะ” คำปุยหลุดขำก๊าก
“นี่แน่ะ นังเพื่อนทรยศ ถึงจะหล่อแต่นิสัยเลวนรกขนาดนั้น ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ก็ขออย่าได้เจอะเจอกัน
อีกเลย เอ้า! นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้กลับกันแต่เช้า”
สมใจเอาหมอนฟาดคำปุยก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที กลางดึกคืนนั้นสมใจฝันเป็นตุเป็นตะ

สมใจขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านมาตามถนนนอกเมือง โดยมีคำปุยนั่งหลับคอพับมาข้างๆ
“อ้าว นังปุ๋ย แล้วบอกจะคอยคุยเป็นเพื่อน”
พูดไม่ทันขาดคำ สมใจก็ต้องเบรกเอี๊ยด ร้องลั่นอย่างตกใจเพราะมีรถเก๋งคันหนึ่งพุ่งออกมาตัดหน้ากะทันหัน
“เฮ้ย!”
“ว๊าย! อะไรกันวะไอ้ไจ๋ แกขับรถยังไงของแก” คำปุยหัวทิ่มพรวด ตกใจตื่น หน้าตาเลิ่กลั่กถามทันที
“แกลงไปถามไอ้บ้านั่นกับชั้นดีกว่า นังปุ๋ย!”
สมใจจ้องรถเก๋งคันนั้นตาลุกวาว ขณะเปิดประตูผลัวะอย่างยั๊ว จ้ำอ้าวๆ ไปยืนท้าวสะเอวที่รถเก๋ง โดยมีคำปุยวิ่งประกบ
“ขับรถประสาอะไรห๊า คุณ ไม่เห็นเหรอว่า...”
สมใจชะงักกึก เมื่อเห็นคนขับรถเก๋งเปิดประตูลงมาเป็นโก้ ไฮโซอดีตคนรักเก่า โก้เองก็ชะงักเช่นกันเมื่อเห็นสมใจ
“ใจ๋” โก้เรียกสมใจอย่างดีใจเป็นที่สุด
“พี่โก้” สมใจพึมพำ และอึ้งๆ กับสิ่งที่พบตรงหน้า
“ต๋ายล่ะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ” คำปุยอุทาน
“พี่ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอใจ๋” โก้ปราดเข้าไปจับมือสมใจ
“ดีใจที่ได้เจอใจ๋ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้พี่โก้เคยทิ้งใจ๋ไปน่ะเหรอคะ” สมใจประชด
“พี่...พี่ขอโทษที่ต้องไปเรียนต่อโดยไม่ทันได้บอกลาใจ๋ แต่พี่ดีใจจริงๆ นะที่ได้เจอใจ๋ เพราะเมื่อวานพี่ไปหา
ใจ๋ที่บ้านแต่ก็ไม่เจอ”
“พี่โก้ไปหาใจ๋ ทำไมเหรอคะ”
“คือ พี่อยากเอาการ์ดให้ใจ๋”
โก้ควักการ์ดสีชมพูออกมาส่งให้ สมใจอึ้ง
“พี่กำลังจะแต่งงานน่ะจ้ะ”
“แต่งงาน” สมใจช็อก!
โก้ยิ้มรับ สมใจน้ำตาหยดติ๋งๆ
“ไม่จริ๊ง!”

สมใจนอนอยู่บนเตียงในสภาพน้ำตานองหน้า ตะโกนลั่น ลุกพรวดขึ้นนั่งทั้งที่หลับตา
“ไม่จริง! พี่โก้โกหก”
คำปุยที่นอนหลับอยู่สะดุ้งโหยง ตกใจตื่น
“คุณพระช่วย! ไอ้ใจ๋ ไอ้ใจ๋ เป็นอะไร” คำปุยเขย่าตัวสมใจ
“เปล่า ไม่เป็นไร” สมใจรู้สึกตัว แล้วมองไปรอบๆ จึงรู้ว่าตัวเองฝันไป
“อย่า ฉันได้ยินแกร้องว่า พี่โก้ โกหก อะไรเนี่ยล่ะ”
“เปล่า”
“ถามจริง จนป่านนี้แกยังไม่ยอมลืมพี่โก้อีกเหรอวะ” คำปุยคาดคั้น
“นังปุ๋ย ฉันบอกว่าฉันเปล่า ฉันแค่ฝันร้าย”
“อ่ะ ฝันร้ายก็ฝันร้าย” คำปุยไม่ค่อยเชื่อ ล้มตัวจะนอน แล้วเด้งตัวขึ้นใหม่ทันที เหมือนนึกอะไรได้
“นี่ ไอ้ใจ๋ ชั้นว่ามันยังไงๆ แล้วนะหมู่นี้ เมื่อหัวค่ำก็เพิ่งจะโดนรถเสยเฉียดตายมาแหมบๆ นี่แกก็มาฝัน
ร้ายอีกแล้ว พรุ่งนี้เช้าแวะเข้าวัดทำบุญล้างซวยกันหน่อยมั้ย”
“จะบ้าเหรอ”
“ซะหน่อยมั้ย” คำปุยเสียงเข้ม
“เออๆ ตามใจ” สมใจรับปากส่งๆ
“ทำบุญซะมั่ง ต่อไปจะได้ไม่ต้องเจอเรื่องซวยๆ อะไรอีกเข้าใจมั้ยแก”

สมใจล้มตัวลงนอนคิดถึงเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ก่อนจะผล็อยหลับไปท่ามกลางเสียงคำปุยที่ยังพูดบ่นอยู่

เช้าวันใหม่ เจ้าคุณเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ กำลังยืนมองไมเคิลที่นำเสนอเสื้อผ้าที่จะใส่ให้เลือก เจ้าคุณมองนิ่งๆ ไปทีละตัวๆ จนถึงตัวที่ใช่ก็พยักหน้า ไมเคิลช่วยสวมใส่เสื้อให้จนเสร็จ แล้วฉีดน้ำหอมให้ 2-3 ฟึ่ด
จากนั้นไมเคิลเปิดลิ้นชักกระจก เลือกแว่นกันแดดที่วางเรียงรายอยู่เต็ม เจ้าคุณมองแล้วชี้ไปที่แว่นอันหนึ่ง แล้วเดินออกไปทันที ไมเคิลยิ้มแย้มหยิบแว่นขึ้นมาใส่เก็กหล่อกับกระจกนิดนึง แล้วรีบถอดออก

มะขิ่นสาวใช้ต้นห้องชาวพม่า ตะโกนเสียงดังลั่นห้องรับแขก
“คุณหญิงแม่ ลงมาแล้วค่ะ”
รจนาวรรณ ก้าวลงบันไดมาอย่างสง่างาม แล้วกางแขน เดินยิ้มหวานเข้ามาสวมกอดลูกชาย
“มอร์นิ่งจ้ะ เจ้าคุณลูกรัก”
“มอร์นิ่งครับ” เจ้าคุณลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปกอดแม่เบาๆ
รจนาวรรณหอมแก้มซ้าย ขวา เห็นลูกชายทำหน้าเซ็งๆ ก็นึกรู้ทันที
“โธ่ เจ้าคุณจ๊ะ เรื่องข่าวอะไรของหนูนั่นน่ะ แม่จัดการเคลียร์ให้เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะหนูจ๋า อย่าทำหน้าไม่หล่อซิจ๊ะลูกแม่”
เจ้าคุณไม่พูดอะไร แต่หยิบหนังสือพิมพ์ส่งให้รจนาวรรณ ผู้เป็นแม่รับมางงๆ แล้วอ่านข่าวพาดหัว “ไฮโซซิ่งนรกเสยยกร้านหมูกระทะ” มีภาพเจ้าคุณหราอยู่ในเหตุการณ์ โดยมีสมใจร่วมเฟรมนั้นด้วย
“อุ่ย!” รจนาวรรณมองจ๋อยๆ
เจ้าคุณแล้วยิ้มแหยๆ
“ช่างมันเถอะครับแม่ ผมชินแล้ว ข่าวแย่ๆ กับผมมันเป็นของคู่กัน”
“อุ๊ย! พูดอะไรอย่างนั้นจ๊ะ เท่าที่แม่จำได้ เจ้าคุณของแม่ก็เคยเป็นข่าวแย่ๆ มาแค่ ไม่ถึงสิบครั้งนะจ๊ะ” รจนาวรรณพยายามปลอบลูกชายสุดหวง
“สิบเอ็ดครับ” เจ้าคุณแย้ง
“สิบเอ็ด รวมครั้งนี้ก็เป็นสิบสอง แหม ครบโหลพอดี” รจนาวรรณหน้าแหย แต่ยังรีบยิ้มให้ลูกชาย
“แม่ไม่โกรธผมบ้างเลยเหรอครับที่ทำแต่เรื่องแย่ๆ” เจ้าคุณถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โธ่ หนูจ๋า อย่าคิดมากซิจ๊ะกับข่าวแค่นี้”
“ไม่ได้หมายถึงข่าวอย่างเดียวครับ ผมหมายถึงเรื่องพ่อ”
รจนาวรรณหน้าจ๋อย แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ตายจริง กี่โมงแล้วเนี่ย”
เจ้าคุณถอนหายใจเบาๆ รู้ว่าแม่เปลี่ยนเรื่อง
“8 โมง 15 แล้วเจ้าค่ะ” มะขิ่นตอบ
“8 โมง 15 ไปกันเถอะจ้ะ ประเดี๋ยวไม่ทันฤกษ์ดีของหนูก้องกับหนูกิ๋งเขาล่ะแย่เลย ไปเร็วๆ ไมค์รีบเอารถ
ออก”
รจนาวรรณคว้าข้อมือลูกชายแล้วผลุนผลันออกไป

ที่ออฟฟิศ ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว รับของขวัญจากมือคุณหญิงรจนาวรรณโดยมีเจ้าคุณยืนอยู่ข้างๆ รจนาวรรณรู้งานฉีกยิ้มรับกล้องช่างภาพ รู้งานสุดฤทธิ์
“ขอบพระคุณคุณหญิงแม่นะครับที่กรุณาให้เกียรติมางานเปิดบริษัทของเรา” ก้องเกียรติยิ้มขอบคุณรจนาวรรณ
“ฟังพูดเข้าซิ หนูก้อง พูดยังกับเป็นคนอื่นคนไกล เพื่อนลูกคุณก็เหมือนลูกแม่นะจ๊ะ แม่รักทุกคน”
รจนาวรรณพูดพลางโน้มคอกิ่งแก้วเข้ามาหอมแก้วฟอดใหญ่
“ขอบพระคุณค่ะคุณหญิงแม่” กิ่งแก้ว ยกมือไหว้
“เออ... ว่าแต่เมื่อไหร่หนูสองคนจะแต่งงานกันซะทีจ๊ะ จีบกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาล มันนาน...มากแล้ว
นะจ๊ะ”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วเขิน เจ้าคุณอมยิ้ม
“เอ่อ ก็ขอทำงานเก็บเงินก่อนครับ ก็นี่ไงครับ ถ้าบริษัทของเราโชคดีมีงานเข้าเยอะๆ ผมก็คงจะกล้าไป
ขอกิ๋งเขาล่ะครับ” ก้องเกียรติตอบ แล้วอมยิ้ม
“แหม ถล่มตัวจริงนะ ที่บ้านหนูน่ะมีบริษัทกำจัดปลวกมาฉีดยามั่งรึเปล่าจ๊ะหนูก้อง”
“เอ่อ ก็น่าจะมีนะครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน ทำไมเหรอครับ”
“เอ๊า! ก็ระวังปลวกจะมากินเงินคุณพ่อคุณแม่ของหนูก้องหมดอ่ะซิจ๊ะ ฮิฮิ”
คนฟังทั้งหมดก็จังงังกับมุกรจนาวรรณ แต่ก็ทำขำแหะๆ แก้ฝืดนิดหนึ่ง
“อ้าว! นี่ไง แต่งพร้อมกับลูกคุณของแม่ซะเลยดีมั้ยจ๊ะ”
รจนาวรรณพูดจบหันไปมอง แล้วยิ้มแฉ่ง กางแขนรับ เอมี่ที่วิ่งถลาเตรียมให้กอดมาแต่ไกล
“คุณหญิงแม่ขา...”
สองคนกอดกันกลม จุ๊บซ้ายทีขวาทีไปมา
“ทำไมเพิ่งมาจ๊ะลูก ตายจริง ลูกคุณจ๊ะ ทำไมหนูไม่ไปรับลูกมี่มาด้วยกันล่ะจ๊ะ แย่จัง อย่างนี้คุณหญิงแม่
ของลูกมี่จะเคืองคุณหญิงแม่ของลูกคุณตายล่ะ” รจนาวรรณต่อว่าลูกชาย
“นั่นซิคะ คุณคะคุณน่ะใจดำ ปล่อยให้มี่มาเองคนเดียว” เอมี่รีบผสมโรง
“แม่ครับ มีคนรอให้ดอกไม้ไอ้ก้องอีกเยอะ เราไปรอตรงโน้นดีกว่า
เจ้าคุณตัดบทดื้อๆ รจนาวรรณมองหากลุ่มของวิบูลย์ เจ้าของเคเบิ้ลทีวี
“จริงด้วย จ้ะๆ แม่เฟดก่อนนะจ๊ะ” รจนาวรรณหันไปหาก้องเกียรติและกิ่งแก้ว “ขอให้บริษัทเจริญๆ หนูก้องจะได้ไปขอหนูกิ๋งแต่งงานเร็วๆ ส่วนลูกคุณกะลูกมี่เราไปเคลียร์กันต่อทางนู้นนะจ๊ะ”
“ค่ะๆ ดีค่ะ คุณหญิงแม่ขา”
“ไปละ” เจ้าคุณพยักหน้าให้เพื่อนทีหนึ่ง ก่อนจะเดินหน้าเมื่อยๆ ออกไป

ไม่นานหลังจากนั้น กิ่งแก้ว ออกมาต้อนรับวิบูลย์ ที่มาแสดงความยินดี
“สวัสดีค่ะ เสี่ยวิบูลย์”
“อ้า ซาหวักลี อาคุณกิ๋ง อาคุณก้อง เสี่ยมายิงลีล้วยนะ ขอให้เฮงๆ”
วิบูลย์ส่งดอกไม้ให้กิ่งแก้วแต่ตายังจ้องไปที่เจ้าคุณ
“ขอบคุณค่ะ คงจะเฮงมากๆ เลยล่ะค่ะ ถ้าเสี่ยให้เวลาพวกเราทำรายการมั่งซักชั่วโมง สองชั่วโมง” กิ่งแก้วอ้อน
“ล่ายซิ เอาไปเล๊ย เอาไป 24 ชั่วโมงเลยก็ได้” วิบูลย์ตาวาวเพราะมีไอเดียเด็ด
“ห๊า! 24 ชั่วโมง” ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว อุทานพร้อมกัน
“ใช่ เสี่ยจะยกให้ 24 ชั่วโมงเลย ถ้า...”
“ ถ้า...” ก้องเกียรติและกิ่งแก้วลุ้น ในขณะที่วิบูลย์ยิ้มแฉ่งแต่ยังไม่ได้บอกข้อเสนอ

มุมหนึ่งในงานเลี้ยง
“พูดเป็นการ์ตูนน่า เอมี่ จู่ๆ จะมาแต่งงานอะไรกันวันนี้ พรุ่งนี้” เจ้าคุณเอ่ยขึ้น
“คุณหญิงแม่ขา” เอมี่ฟ้องรจนาวรรณเสียงอ้อน
“การ์ตงการ์ตูนอะไรกันจ๊ะหนูจ๋า เอางี้ แค่หนูเซย์เยส แม่รับรองว่าแม่สามารถจัดงานแต่งงานให้หนูกับ
หนูมี่ได้ในพริบตาเลยทีเดียว” รจนาวรรณบอก
“เย้! คุณหญิงแม่เก่งที่สุดในโลกเลยค่ะ” เอมี่ดี๊ด๊า
“ว่าไงจ๊ะ ลูกจ๋า” รจนาวรรณรอคำตอบจากเจ้าคุณ
“ก็แล้วแต่แม่...”
เจ้าคุณถอนหายใจ หลังตอบประโยคชินปากกับผู้เป็นแม่ รจนาวรรณ และเอมี่ดีใจกอดกันแน่น
“...แต่ไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้” เจ้าคุณตอบทิ้งท้าย สีหน้าไร้ความรู้สึก ทำเอาสองคนสลดลง ยังกอดกันอยู่หน้า
เจื่อนไป

เวลาเดียวกันนั้น ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และวิบูลย์กำลังต่อรองธุรกิจกันอยู่
“ม่ายล่าย! ต้องทันที ต้องเหลียวนี้” วิบูลย์เอ็ดตะโร
“โธ่! เสี่ยคะ คือว่า...”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว มองหน้ากันอย่างหนักใจ ก่อนหน้านี้ทั้งหมดแอบๆ คุยโปรเจ็กต์กันไว้
“ไม่รู้ล่ะ อาไฮโซเจ้าคุณอีกำลังดัง นี่ก็เพิ่งจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งไปหมาดๆ ถ้าเราได้อีมาล่ะก็ ลื้อ ลื้อ แล้วก็อั๊ว รับรองว่าเฮงเฮงเฮงกันหมดแน่ ฮ่าๆ เชื่ออั๊วซี่ ไปติดต่ออีมาให้ล่าย แล้วอั๊วจะยกเวลาให้พวกลื้อ 24 ชั่วโมง”
ฟังแล้วก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว หันมามองหน้ากันอย่างลำบากใจ
“เวลาและวารีม่ายเคยคอยใคร แล้วก็อย่าให้อั๊วรอนาน โอเค้ ฮ่าๆ”
พูดจบวิบูลย์ก็หัวเราะร่าเดินออกไป
“ทำไงดีล่ะ ก้อง”
กิ่งแก้วและก้องเกียรติหนักใจ เมื่อวิบูลย์ยื่นข้อเสนออยากได้ไฮโซชื่อดังอย่างเจ้าคุณมาออกทีวี

แมทธิว ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
“จะให้ไอ้คุณออกทีวี โอ้วมายก็อด โอ้วมายก็อด”
เจอาร์ทำหน้าตกใจ แมทธิวหันขวับหน้าตาไม่พอใจ
“เฮ๊ย จะดังไปไหน เดี๋ยวไอ้คุณได้ยิน” กิ่งแก้วรีบเอามือตะปบปิดปากเจอาร์
“เอ๊า! ไงเนี่ย อยากจะให้ไอ้คุณออกทีวี แล้วจะกลัวมันได้ยินทำไม” เจอาร์ รีบแกะมือกิ่งแก้วออก
“โง่ตั้งแต่อนุบาลยันแก่เลยนะไอ้จ้อย ขืนให้ไอ้คุณได้ยิน มันเอาฉันตายแน่ ก็รู้อยู่ว่าไอ้คุณมันขี้อายแค่
ไหน แล้วจะให้มันออกทีวีเนี่ยนะ” ก้องเกียรติพูดในขณะที่แมทธิวตั้งใจฟัง และเริ่มเครียด
“ใช่ แถมรายการทีวีธรรมดาที่ไหน เสี่ยเขาอยากให้ทำเรียลลิตี้” กิ่งแก้วว่า
“ว้าว! เรียลลิตี้” เจอาร์ตื่นเต้น
“เออ 24 ช.ม. ตามติดชีวิตไฮโซ 24 ช.ม.ของ เจ้าคุณ-คุณากร ไฮโซจอมซ่าขาประจำหน้าหนึ่ง!”
ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นอย่างหวั่นใจ แต่แมทธิวอึ้ง ด้วยความอิจฉา
“ว๊าวๆ ไอ้คุณเพื่อนเราจะดังใหญ่แล้ว” เจอาร์ยิ้มดีใจ
“ดังตุ้บอ่ะซิ ตามติดชีวิตไฮโซเฉยๆ ก็ว่ายากแล้ว แต่นี่เสี่ยเขาอยากให้ไอ้คุณมันปลอมตัวเป็นชาวบ้านไป
อยู่บ้านนอก” กิ่งแก้วยังมีสีหน้ากังวล
“ว้อท!” เจอาร์ร้องเสียงหลง แมทธิวตาลุกวาว
“คุณหนูตั้งแต่เกิดอย่างไอ้คุณเนี่ยนะ เฮ้อ! หางานอื่นทำดีกว่า เยอะแยะ”
ก้องเกียรติรำพันกับตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าเพราะคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางเป็นไปได้
แมทธิวจอมวางแผนรีบเสียบทันที
“เฮ๊ย! เยอะแยะอะไร แกจะไปหาเวลา 24 ช.ม.ทุกวัน ได้ง่ายๆ อย่างนี้ที่ไหน คิดให้ดีนะเว๊ย”
“แต่ถึงเจ้าคุณจะยอม เราก็อย่าทำเลยก้อง สงสารเพื่อน คนทั้งประเทศจะเห็นเพื่อนเราเป็นตัวตลกเนี่ย
นะ” กิ่งแก้วส่ายหน้าแบบไม่ทำดีกว่า
“ตลกที่ไหนกิ๋ง นอกจากไอ้คุณเพื่อนเราจะดังแล้วเนี่ย มันยังต้องไปช่วยเหลือตัวเอง ต้องไปเป็นชาวบ้าน
มันจะได้เก่งขึ้น รู้จักเอาตัวรอด ไม่เป็นคุณหนูอย่างที่แกชอบเป็นห่วงอีกต่อไปไงกิ๋ง จริงมั้ย”
แมทธิว พยายามหว่านล้อมสุดฤทธิ์ กิ่งแก้ว ก้องเกียรติเริ่มมองหน้ากัน

“แล้วบริษัทของแกก็จะได้แจ้งเกิด เกิดพร้อมๆ กับไอ้คุณ มันมีแต่บวกๆ นะเว๊ย คิดให้ดี” แมทธิวบิ้วท์ต่อ
“แต่ไอ้คุณมันไม่มีทางยอม” ก้องเกียรติส่ายหน้า
“เรื่องนั้น ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง ไม่เกิน 3 วัน ไอ้คุณมันต้องรับปากยอมออกทีวีให้แกแน่นอน”
แมทธิวพูดอย่างมั่นใจ เบือนหน้าแอบยิ้มร้ายออกมา ในขณะที่ทุกคนงง

พิธีพราหมณ์ที่บริเวณหน้าออฟฟิศของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ข้าวของบูชาวางครบครัน ดูขลังเข้ม พราหมณ์กำลังสวดเสร็จพอดี พราหมณ์พรมน้ำมนต์ให้ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วที่ยืนคู่กันอยู่ข้างๆ
“เฮงเฮงเฮง เอ้า! มารับน้ำมนต์ให้เป็นสิริมงคล” พราหมณ์เดินรดน้ำมนต์
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วรีบหันไปพยักหน้าเรียกเพื่อนๆ ที่นั่งพนมมืออยู่อีกมุม เจ้าคุณ เอมี่ รจนาวรรณ เจอาร์ แมทธิว รีบลุกพรวด
“ไปจ้ะลูก ไปรับน้ำมนต์เร็ว”
“ผมรอตรงนี้ดีกว่าครับ” เจ้าคุณบอกแม่
“ไม่ได้ๆ อย่าดื้อๆ ไปรับน้ำมนต์ให้เป็นสิริมงคลนะจ้ะหนูจ๋า จะได้เฮงเฮงเฮง” รจนาวรรณฉุดเจ้าคุณลุกไป
โดยมีเอมี่ตามไปติดๆ
“รอลูกมี่ด้วยค่า คุณหญิงแม่ขา”
“เฮงด้วยคนซิครับ” เจอาร์รีบตามไป เหลือแมทธิวนั่งมองตามยิ้มเยาะ
“ผมว่าหนูจ๋าของคุณหญิงแม่จะซวยๆๆ ซะล่ะมากกว่ามั้ง ฮ่าๆ” แมทธิวยิ้มเยาะ

รจนาวรรณน้อมรับน้ำมนต์เสร็จ พราหมณ์เงื้อมือจะพรมให้เจ้าคุณแล้วชะงักกึก มือค้าง ตาเหลือก
“คุณพระช่วย!”
เจ้าคุณมองงงๆ ทุกคนก็งง รจนาวรรณสยองทันที
“มีอะไรเจ้าคะท่าน มีอะไรเจ้าคะ” รจนาวรรณ เสียงสั่นพนมมือแต้
“ไอ้นี่ลูกชายเอ็งเหรอ นังคุณนาย” พราหมณ์ถามโดยไม่มองหน้า
“เจ้าค่ะ”
“ลูกเอ็งรึเปล่า นังคุณหญิง” พราหมณ์จี้ถาม
“เจ้าค่ะ ลูกดิฉันเองเจ้าค่ะ” รจนาวรรณ หวั่นใจ กล้าๆ กลัวๆ
“ปีนี้ เบญจเพส” พราหมณ์จ้องเจ้าคุณเขม็ง เจ้าคุณงง รจนาวรรณสะดุ้งเฮือก
“เจ้าค่ะ ปีนี้เบญจเพส ทำไมเจ้าคะ ลูกคุณจะเป็นอะไร รึเปล่าเจ้าคะ” รจนาวรรณถามอย่างร้อนใจ พนม
มือ เสียงสั่น
“ดาวประจำตัวตกเลขมรณะ”
ขณะพูดพราหมณ์ตาลุกวาว มองจ้องหน้าเจ้าคุณที่ยังคงงงอยู่ ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะรจนาวรรณ
“อะไรนะเจ้าคะ”
“ต้องรีบไปทำบุญใหญ่ มิฉะนั้นชะตาจะขาด! ดวงจะถึงฆาต! ชีวิตมันจะหาไม่!”
พราหมณ์ประกาศก้อง พร้อมชี้หน้าเจ้าคุณ
“เอิ้ก!” รจนาวรรณ ลมใส่หงายเงิบลงในอ้อมแขนเจ้าคุณที่รับไว้ทันพอดี
“แม่! แม่!” เจ้าคุณตกใจเรียกแม่ตัวเองสุดเสียง
ทุกคนชุลมุน วิ่งมาดูแลรจนาวรรณกันโกลาหล

แม้ว่าจะดูไม่เชื่อพราหมณ์นัก แต่เจ้าคุณยังคงห่วงแม่ที่เป็นลมล้มพับลงไปและดูอาการหนักทีเดียว

บนถนนนอกเมือง ขณะนั้นสมใจขับรถมุ่งหน้ากลับหมู่บ้านม่วนแต๊ โดยมีคำปุยนั่งหลับคอพับอยู่ข้างๆ
“อ้าว นังปุ๋ย แล้วบอกจะคอยคุยเป็นเพื่อน”
พูดไม่ทันขาดคำ สมใจก็ต้องเบรกเอี๊ยด
“ว๊าย! อะไรกันวะไอ้ใจ๋ แกขับรถยังไงของแก” คำปุยหัวทิ่มพรวด ตื่นเลิ่กลั่กทันที
“ทำไมฉันรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยมาตรงนี้ เบรกรถแบบนี้ แล้ว แกก็พูดประโยคนี้ด้วย”
สมใจหันขวับมองเพื่อน ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างรู้สึกคุ้นๆ
“แล้วฉันผลักหัวแกหยั่งงี้ด้วยละเปล่าห๊า แหม นังใจ๋ ยังไง ระลึกชาติได้รึไงยะ”
คำปุยบ่นพร้อมผลักหัวสมใจ
“จริงนะเว้ย! แล้วชั้นก็ได้เจอพี่...” สมใจยังอึ้งอยู่ พูดไม่ออก
“พี่อะไร บอกมา พี่อะไร” คำปุยถามกลับทันที
“นึกออกแล้ว ฉันฝัน เมื่อคืนที่ฉันฝันร้ายไงไอ้ปุ๋ย โอย ไม่เอาล่ะ รีบไปดีกว่า ขืนอยู่แถวนี้มีหวังเจอเรื่อง
ซวยๆ อีก เฮ้อ!”
สมใจรีบกระชากรถออกตัวพรืด
“ว๊าย! นังใจ๋ นังผีบ้า” คำปุยหงายเงิบ ร้องลั่น
ในขณะที่สมใจขับรถแล่นไปตามทาง มีเสียงของคำปุยโวยวายไปตลอดทาง
“นี่! แล้วอย่าลืมแวะเข้าวัดรดน้ำมนต์ไล่ผีก่อนนะแก”

บนถนนนอกเมืองอีกฟาก รถแล่นมาตามทางดินลูกรัง ฝุ่นตลบ ในรถคันนั้นเจ้าคุณ รจนาวรรณ นั่งกระเด็นกระดอนกันอยู่ดูน่าขำ เจ้าคุณหน้าตายังกะท้องผูก ก่อนจะถาม
“ทำไมต้องมาไกลถึงขนาดนี้ล่ะครับแม่”
“เอ๊า! ลูกคุณ หนูไม่ได้ยินท่านพราหมณ์สั่งเหรอจ๊ะว่าต้องมาทำบุญใหญ่ที่วัดนี้เท่านั้น จะทำบุญใหญ่ก็ต้องมีความเพียรพยายามนะจ๊ะ อดทนหน่อยน้า สู้เพื่อแม่นะจ๊ะหนูจ๋า”
“แม่น่ะ ไปเชื่ออะไรเลอะเทอะ” เจ้าคุณส่ายหน้าน้อยๆ
พูดไม่ทันขาดคำ รถก็กระดอนอย่างแรงจนหัวเจ้าคุณกระแทกกับหลังคารถอย่างจัง รจนาวรรณตะลึง
“ไอ้ไมค์!” เจ้าคุณกุมหัวไว้
ไมเคิลตกใจเบรกเอี๊ยด เจ้าคุณหน้าทิ่มเบาะอีกดอก รจนาวรรณตะลึงหนัก
“โอ๊ย!” เจ้าคุณกุมที่ใบหน้าตัวเอง
“ขอโทษครับคุณหนู” ไมเคิลหน้าเสีย รีบหันมายกมือไหว้ทั้งที่ยังขับรถอยู่
“เฮ้ย! ระวัง!”

เจ้าคุณร้องลั่น ตาเหลือก เมื่อเห็นรถของสมใจพุ่งออกมาจากทางแยกข้างหน้า

อ่านต่อหน้า 3





ร่วมพูดคุย ถก เถียง แสดงความคิดเห็นเรื่องละครอย่างสร้างสรรค์  หรือจะด่าทอ ต่อว่า...ทีมงานได้ที่ แฟนเพจละครออนไลน์ facebook.com/ละครออนไลน์ เอเอสทีวี ได้แล้วจร้า...

 รักออกอากาศ  ตอนที่ 1 (ต่อ) 

สมใจเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่เห็นรถเจ้าคุณพุ่งเข้ามาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ส่วนคำปุยเอาแต่ร้องกรี๊ดๆๆ

“อร๊าย...ๆๆๆ ”
ไมเคิลรีบหักรถหลบ รจนาวรรณวี๊ดลั่น เจ้าคุณร้องตะโกน
"เฮ้ย!!"
สมใจเลี้ยวรถหลบไปได้สบายบรื๋อ แล้วขับต่อไปไม่ยอมหยุด
“ไอ้บ้า! ขับรถประสาอะไร!”
สมใจด่าส่ายหัวไปมา โดยที่ยังไม่รู้ใครเป็นคนขับรถ ในขณะที่คำปุยพนมมือสวดมนต์ ปากคอสั่นล่วงหน้าไปแล้ว
“นังใจ๋! รีบไปวัดให้ไวเลยแก” คำปุยบอกเสียงซีเรียส

รจนาวรรณวี๊ดลั่นเมื่อเห็นรถเสียหลักพุ่งไป ไมเคิลเบรกเอี๊ยดได้ทันก่อนจะชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง รถจอดแน่นิ่ง เจ้าคุณถอนใจเฮือก แต่รจนาวรรณยังตะลึงไม่หาย
“นั่นไง! ทันตาเห็นเลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ดูซิ ซวยซ้ำซวยซ้อน ไมค์! ให้ไว รีบไปวัดด่วน! อย่าให้มารมันตามมาผจญพวกเราได้ทัน” รจนาวรรณพูดหน้าตาตื่น
“ครับผม!” ไมค์รีบบึ่งรถออกทันที เล่นเอาสองแม่ลูกหงายเงิบไปตามๆ กัน

ครู่ต่อมาที่บริเวณโรงทานปล่อยโค กระบือ เสียงของสมใจดังขึ้น ขณะกำลังให้หญ้ากับโคและกระบือกับคำปุยอยู่ในวัด
“จะหนีไปไหน” สมใจถามขึ้นเสียงดัง
สมใจกำลังยื่นหญ้าให้โค กระบือ แต่มันเบือนหน้าหนีต่อหน้าต่อตา
“ต๋ายละ นังใจ๋ อย่าว่าแต่คนเลย วัวควายยังไม่อยากกินของๆ แกเลย ฮ่าๆ” คำปุยขำเยาะเพื่อน
“ทะลึ่ง ทะลึ่ง อ่ะ! แม่สาวล้านนามหาเสน่ห์ วัวรักควายหลง แน่จริงก็ป้อนซิ มันจะกินของแกมั้ย” สมใจประชด พลางโยนหญ้าให้คำปุย
“แหม ก็แค่แซวนิดแซวหน่อย”
คำปุยค้อนขวับ บ่นงุบงิบ พร้อมกับยื่นหญ้า ให้วัว ควาย ปรากฏว่าพวกมันรับไปเคี้ยวหมับๆๆ เล่นเอาสมใจถึงกับอึ้ง
“เห็นมั้ยๆ มันกินของชั้นจริงๆ ด้วย แกพูดถูกเป๊ะนังใจ๋ ชั้นมัน แม่สาวล้านนามหาเสน่ห์ จริงๆ ฮ่าๆ”
คำปุยกรี๊ด หัวเราะสะใจ
“เฮ้อ!” สมใจส่ายหน้าด้วยความเซ็ง
“นังใจ๋!” คำปุยชะงักกึก
“อะไร” สมใจทำหน้าเซ็งใส่
“ฉันว่ามันแปลกๆ นะ วัวควายมันกินหญ้าฉัน แต่ไม่ยอมกินหญ้าของแก ยังกะมีอะไรมาขวางไม่ให้แกได้ทำบุญล้างซวยงั้นแหละ รึว่า...”
คำปุยทำสีหน้าจริงจัง ส่วนสมใจมองเพื่อนสาวอย่างงงๆ
“ต๋ายละ! สงสัยเจ้ากรรมนายเวรจะตามล้างตามผลาญแกอยู่ล่ะ นังใจ๋!”
“อะไรวะ” สมใจทำหน้างงๆ ต่อไป

อีกมุมในบริเวณใกล้ๆ กัน เจ้าคุณ รจนาวรรณ และไมเคิลเดินมาให้อาหารโคและกระบือเช่นกัน เจ้าคุณ
กับรจนาวรรณ กำลังเดินเขย่งๆ ไม่ค่อยเต็มเท้า เพราะไม่เคยเดินดินลักษณะนี้มาก่อน
ไมเคิลกางร่มให้มือหนึ่ง อีกมือก็หอบหญ้าฟ่อนใหญ่เดินตามประกบ
“โห รองเท้าผม” เจ้าคุณไมได้ท่าทางรังเกียจ แต่โคลนติดเต็มรองเท้า
“โธ่! หนูจ๋า รองเท้าน่ะจะหาใหม่เมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ชีวิตเราน่ะหาใหม่ไม่ได้ ตายแล้วฟื้นยากนะจ๊ะ”
เจ้าคุณถอนใจเฮือก แล้วทั้งหมดก็เดินต่อไปถึงคอกโค กระบือที่สมใจกับคำปุยอยู่อีกมุมหนึ่งแต่ถูกวัวควายบังจนมิด ทั้งหมดจึงไม่เห็นกัน
“ให้อาหารโค กระบือเลยจ้ะหนู” รจนาวรรณบอก
“ห๊า!” เจ้าคุณทำหน้างง
“เร็วๆ รู้มั้ยโบราณท่านว่า คนกำลังจะทำบุญทำดีมักจะชอบมีมารมาขวาง เอ้า! เร็วสิหนู”
รจนาวรรณ สั่งลูกชาย แล้วดึงหญ้าจากมือไมเคิลมาใส่มือเจ้าคุณทันที เจ้าคุณมองวัวควายอย่างงงๆ
ส่วนวัวและควายมองกลับมาที่เจ้าคุณน้ำลายยืด
“ไอ้ไมค์!” เจ้าคุณมองจ้องนิ่งๆ ก่อนจะโยนหญ้าฟึ่บไปให้ไมเคิลรับไว้ ไมเคิล รับได้หวุดหวิด เย้ย!”
“รีบปฎิบัติ” เจ้าคุณบอก
“ครับผม” ไมเคิลรู้ทันทีว่าเจ้าคุณจะให้ป้อนวัว ควายแทน
“ไมค์!” รจนาวรรณเรียกเสียงดัง เพื่อบอกให้ไมเคิลหยุด

สมใจ กับคำปุย สะดุ้งได้ยินเสียงดังเอะอะ ชะเง้อมองๆ แต่พอดีกับเจ้าคุณเบือนหน้า ท้าวสะเอวหันตัวไปอีกทางอย่างเซ็งๆ ทั้งคู่เลยยังไม่ทันเห็นหน้ากัน
“พวกไฮโซ ! เสร็จแล้วกลับกันเถอะนังปุ๋ย” สมใจไม่ได้ถูกชะตากับเหล่าไฮโซนัก รีบชวนคำปุยกลับบ้าน
“หาไรกินก่อนได้มั้ยนังใจ๋ หิวแล้ว” คำปุยอ้อน
“นังปอบ!” สมใจกับคำปุยเดินออกไป
รจนาวรรณยังคงถลนตาใส่ไมเคิลเป็นเชิงออกคำสั่ง
“อย่าเชียวนะ!”
ไมเคิลหน้าแหย ส่งหญ้าคืนให้เจ้าคุณ
“แหะๆ ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้จริงๆ ครับ”
“ไม่ว่าใครก็ทำแทนไม่ได้ทั้งนั้น ลูกจ๊ะ ท่านพราหมณ์ย้ำนักย้ำหนาว่ากรรมของหนู หนูต้องแก้เองหนูก็
ยินไม่ใช่เหรอจ๊ะ นึกซะว่าทำเพื่อแม่ได้มั้ยจ๊ะ เจ้าคุณจ๋า”
รจนาวรรณ อ้อนลูกชายแต่ยังแฝงไว้ด้วยน้ำเสียงเผด็จการ เจ้าคุณถอนใจเฮือกก่อนจะยอมรับหญ้าจาก
ไมเคิลอย่างจนแต้ม ก่อนจะค่อยๆ ป้อนหญ้าอย่างแหยงๆ วัวควายกินใหญ่
“เก่งมากจ้ะ ลูกแม่ ต่อไป พายเรือไปตักน้ำกลางแม่น้ำเอามาให้พระทำน้ำมนต์ไว้อาบ”
รจนาวรรณตบมือดีใจยกใหญ่
“อะไรนะแม่”
เจ้าคุณแทบช็อกเมื่อได้ยินแม่สั่ง

เจ้าคุณไม่รอช้าจ้ำอ้าวเดินหนีไปยังสะพานไม้เก่าๆ จ้ำพรวดๆ ด้วยความสุดทนแล้ว มีไมเคิลวิ่งหอบแฮ่กๆ ตาม แต่ก็ไม่ทันอยู่ดี
“คุณหนูกลับมาก่อนครับ แฮ่กๆ กลับมาก่อน” ไมเคิลเรียกเจ้านายที่ไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
“กลับไปก็บ้าแล้วไอ้ไมค์ แกอยากจะกลับไปพายเรือตักน้ำ กลางแม่น้ำมาทำน้ำมนต์ก็เชิญแกตาม
สบาย”
เจ้าคุณพูดไปจ้ำไปโดยไม่มองเหลียวหลัง เดินขึ้นสะพานข้ามคลองไปหน้าตาเฉย

ที่ปลายสะพานอีกด้าน สมใจกับคำปุยกำลังเดินขึ้นมาเช่นกัน สมใจถือน้ำแดงใส่ถุง คำปุยถือน้ำส้มใส่ถุง
อีกมือถือลูกชิ้นปิ้ง กินอย่างเอร็ดอร่อย
“นังปอบเอ๊ย มัวแต่โอ้เอ้ เดี๋ยวปิ๊กบ้านผิดเวลาล่ะ พ่อด่าตาย”
อีกฟากเจ้าคุณจ้ำอ้าวไป หันหน้ามาพูดกับไมเคิล แต่ไม่ได้มองข้างหน้า
“ตั้งแต่เกิดมาแกเคยเห็นชั้นพายเรือเหรอไอ้ไมค์ แกอยากเห็นชั้นตกน้ำ จมน้ำตายใช่มั้ย” เจ้าคุณบ่นอุบ
ไมเคิลวิ่งตาม “ไม่อยากครับ”
ไม่ทันขาดคำ เจ้าคุณที่กำลังจ้ำพรวดหันขวับมาชนเปรี้ยงเข้ากับสมใจ สมใจถลาล้มกองลงกับพื้น ในขณะเจ้าคุณยืนหงายหลังวืดๆ อยู่ขอบสะพานอย่างหวาดเสียว ชวนลุ้น
“เฮ๊ย!”
ร่างของเจ้าคุณหงายหลังหล่นตู้มลงไปในคลอง หายต๋อมไปเลย สมใจอึ้ง คำปุยกรี๊ด
ไมเคิลร้องเรียก “คุณหนู!”
“ต๋ายละ ถ้ามันตายล่ะแกตกนรกแน่นังใจ๋” คำปุยเอ่ยขึ้น
“มันมาชนชั้นเองนะ”
สมใจชักหวั่นๆ หันกลับไปมองในคลอง แป๊บนึงเจ้าคุณทะลึ่งพรวดขึ้นมาตะโกนต่อว่า
“เดินยังไงวะ ตาบอดรึไง”
สมใจเห็นเป็นเจ้าคุณก็อึ้ง
“ไอ้ไฮโซซิ่งนรก! แกน่ะซิ ไอ้ตีนผี ขับรถซิ่งจะชนชั้นยังไม่พอ ยังจะวิ่งมาชนชั้นเกือบตกสะพานอีก จะรีบ
กลับนรกเหรอไอ้บ้า”
เจ้าคุณเห็นเป็นสมใจก็อึ้ง อารมณ์ขึ้นอีกรอบ
“ยัยหมูกะทะ! จะจองล้างจองผลาญชั้นไปถึงไหน ทำไมไม่รีบไปผุดไปเกิดห๊า” เจ้าคุณโมโหสุดขีด
“หึ้ย! คิดถึงแกมั้ง กลัวได้ไปเกิดแล้วอดเจอแกไง เพราะหน้าอย่างแกคงต้องตกนรกร้อยชาติพันชาติ” สมใจตะโกนด่า
เจ้าคุณชี้หน้าอย่างจะเอาเรื่อง แล้วเจ้าคุณก็ว่ายน้ำพรวดๆ จะขึ้นฝั่ง หวังเอาเรื่องสมใจ
“เผ่นเหอะใจ๋” คำปุยลากสมใจเตรียมชิ่งหนี
“กลัวมันทำไม”
“ไปๆ ปิ๊กบ้านเร็ว นังใจ๋” คำปุยลากออกไปจนได้
“เฮ๊ย! อย่าหนีซิ อย่าหนี ไอ้ไมค์! จับไว้ซิ” เจ้าคุณตะโกนพูดทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในน้ำ

ไมเคิลเงอะงะจะจับร่างเจ้าคุณ แต่สมใจเงื้อหมัดปรามเป็นเชิงห้าม ส่วนคำปุยก็ตั้งการ์ดยังกะนักมวย ไมเคิลเลยไม่กล้า สุดท้ายสองสาวกำลังจะเดินจากไป
“โธ่เว้ย!” เจ้าคุณโวยวายฮึดฮัดตีน้ำกระจาย
รจนาวรรณยังมองไม่เห็นลูกชาย จึงวิ่งกระด๊อกกระแด๊กหอบแฮ่กๆ เข้ามาหาไมเคิล
“ไอ้ไมค์! ตกลงได้หรือเปล่า น้ำมนต์น่ะ”
“น่าจะได้เยอะเลยครับ”
พูดจบก็หันไปมองในคลอง รจนาวรรณยิ้มชื่นใจแล้วมองตาม เห็นเป็นเจ้าคุณลอยคอเป็นลูกหมาตกน้ำอยู่ “ลูกแม่!” รจนาวรรณกรี๊ดลั่น แล้วร่างก็หงายเงิบเป็นลมไป ดีที่ไมเคิลรับไว้ได้ทัน
“แม่! ยัยหมูกะทะ อย่าให้เจอ ฉันเอาตายแน่”
เจ้าคุณแค้นสมใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ตกใจเป็นห่วงแม่ที่เป็นลมไป

สมใจขับรถฝ่าความมืดบนถนนทางเข้าบ้านม่วนแต๊ จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งร่างสูงทะมึนทะลึ่งพรวดมายืนขวางหน้ารถอย่างกับในหนังผี สยองขวัญ
“เฮ้ย!” สมใจตกใจ จนต้องเบรกรถกะทันหัน
“กรี๊ด! พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปผุดไปเกิดเถิดอ้าย” คำปุยสวดมนต์เหมือนทุกครั้งที่ตกใจ
“คุ้นๆ นะ นังปุ๋ย” สมใจบอก พร้อมกับเปิดไฟสูงใส่
ชายคนดังกล่าวไม่ใช่ผี แต่คือสมหมาย ผู้เป็นพ่อ ยืนหน้าบึ้งยืนท้าวสะเอวอยู่
“ว่าแล้ว” คำปุยพูดอย่างเซ็งๆ
ที่แท้สมหมายออกมายืนรอลูกสาวด้วยความห่วงใยและกำลังเม้งอย่างได้ที่
“กรุงเทพฯ-ม่วนแต๊ แค่นี้ ทำไมถึงกลับซะดึกดื่นเที่ยงคืนห๊า ไอ้ใจ๋”
“กรุงเทพฯ-ม่วนแต๊ นะพ่อ ไม่ใช่กรุงเทพฯ- มวกเหล็ก สระบุรี”
“ก็กรุงเทพฯ-ม่วนแต๊ น่ะซิเว้ย ข้าไม่ได้โง่ แล้วข้าก็ฉลาดมากด้วยที่จะรู้ว่าถ้าเอ็งออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้ามืด เอ็งก็ต้องถึงบ้านก่อนค่ำ”
“นี่ ตาหมาย จะช้านิดช้าหน่อย แต่มันกลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว แกอยากให้ลูกมันรถคว่ำตายรึไงห๊า” สมศรีผู้เป็นแม่เข้าข้างลูกสาว
“จริงด้วยน้าศรี หมู่นี้ไอ้ใจ๋ยิ่งดวงไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย” คำปุยบอก
“ห๊า! เอ็งว่าไงนะนังปุ๋ย” สมศรีหน้าตาตื่น
“ไอ้ปุ๋ย”
สมใจดุคำปุยไม่อยากให้พ่อแม่กังวล แต่ไม่มีวี่แววว่าเพื่อนสาวผมทองอีกฝ่ายจะลดละ
“ก็ไอ้ใจ๋น่ะซิน้า ท่าทางมันจะมีเคราะห์ ไปกรุงเทพฯ งวดนี้มันซวยซ้ำซวยซ้อน พระศุกร์เข้าพระเสาร์แหวก” คำปุยร่ายเป็นต่อยหอย
“แทรก เจ๊ แทรก” แคบหมูตะโกนขัดขึ้น
“เออ พระเสาร์แทรก”
“งี่เง่าน่า นังปุ๋ย พระศุกร์พระเสาร์อะไรของเอ็ง” สมหมายไม่เชื่อเรื่องพรรณ์นี้
“เงียบ!” สมศรีตวาด
สมหมายเงียบกริบหงอ
“ไงต่อนังปุ๋ย”
“แต่น้าศรีไม่ต้องห่วงนะ เมื่อเช้าฉันชวนไอ้ใจ๋มันแวะทำบุญที่วัดเรียบร้อยแล้ว เลยถึงบ้านช้าไงน้าหมาย”
“จริงนะ ไม่ใช่ไปแวะเจ๊าะแจ๊ะกับไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ ที่ไหนนะ” สมหมายไม่วางใจ
“ไม่มี๊ ลากนังปุ๋ยไปสาบานที่ไหนก็ได้”
คำปุยชะงัก แต่ยังยกมือท่วมหัว
“แต่เฮ๊ย! พ่อเทพบุตรซิกซ์แพ็ก นั่นนับด้วยมั้ยวะไอ้ใจ๋”
คำปุยหันไปถามสมใจที่ทำตาโต สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำถาม
“นังปุ๋ย!”
“เอ็งว่าไรนะ เทพบุตรซิกแซ็กอะไรของเอ็งนะนังปุ๋ย”
“ซิกซ์แพ็ก ลุง ซิกซ์พ็ก” แคบหมูคอยเสริม
“เออ นั่นแหละๆ มันเป็นใคร ยังไง แล้วทำอะไรลูกสาวข้ารึเปล่านังปุ๋ย” สมหมายซัก
“โธ่! พ่อ ใจเย็น มันไม่ได้ทำอะไร” สมใจว่า
“ใช่ ไม่ได้ทำอะไรเลยน้าหมาย แค่จะขับรถซิ่งมาเสยไอ้ใจ๋เกือบตาย คาร้านหมูกระทะ แค่นั้นเอง อุ๊บส์!”
คำปุยตาเหลือก เพราะสมใจรีบตะบบปากคำปุยไว้แน่น ในขณะที่ สมหมาย สมศรีและ แคบหมู ตกใจพร้อมกัน
“จริงเหรอไอ้ใจ๋” สมหมายฮึดฮัด ท่าทีขึงขังจะเอาเรื่อง “มันเป็นใคร บอกข้ามาว่ามันเป็นใคร ข้าจะไปฆ่ามัน”
พูดจบสมหมายวิ่งออกไปทันที ทุกคนกรูวิ่งตามคอยเหนี่ยวรั้งห้ามไว้ แล้วทั้งกลุ่มก็ชะงักกึก เพราะมีใครคนหนึ่งโผล่เข้ามายืนขวาง
“ปลัด!” สมหมายร้องขึ้น
ปลัดจืด ยิ้มให้นิดๆก่อนจะมองอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ปลัดจืดนั่งคุยกับสมใจ โดยมีคำปุย กับแคบหมูทำฟอร์มไม่สนใจ แต่สอดแนมสุดฤทธิ์อยู่แถวๆ นั้น
“ขอบใจมากนะที่มาถูกเวลาเป๊ะ”
“ใช่ซิ ถ้าไม่ได้ปลัดจืดคนโปรดเหาะลงมาขวางไว้ เทวดาหน้าไหนก็คงเอาน้าหมายไม่อยู่หรอก จริงมั้ย นังแค๊บ” คำปุยพยักเพยิด
“เงียบไปเลยนังปุ๋ย เพราะแกคนเดียว พ่อองค์ลงเลยเห็นมั้ย”
“ก็ชั้นพูดเรื่องจริงนี่ แหม นึกๆ แล้วก็เปรี้ยวปาก เอ๊ย! อยากรู้จังว่า ป่านนี้พ่อเทพบุตรซิกซ์แพ็กของฉันจะเป็นไงมั่ง”
คำปุยแกล้งส่งสายตาหวานหยอกเย้าใส่สมใจ
“ใครเหรอใจ๋ พ่อเทพบุตรซิกซ์แพ็ก” ปลัดจืดถาม
“อย่าไปสนใจเลย ป่านนี้มันจมน้ำตายไปแล้วมั้ง”
ปลัดจืดมองหน้าสมใจอย่างแอบข้องใจ แต่สมใจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

เวลาเดียวกัน ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ เจ้าคุณกำลังอาบน้ำ โดยมีไมเคิลคนสนิทคอยดูแลเช่นเคย จังหวะนั้นน้ำในอ่างจากุชซี่ถูกเจ้าคุณตบดังเปรี้ยง น้ำกระจาย สาดกระเด็นใส่หน้าไมเคิล ที่ยืนถือผ้าเช็ดตัวรออยู่ ไมเคิลเอามือลูบหน้าอย่างชินชา
“ยัยหมูกระทะ ยัยตัวแสบ” เจ้าคุณสบถอย่างคั่งแค้น
“ขึ้นเถอะครับคุณหนู ตั้งแต่กลับมา แช่ไป 5 รอบแล้วนะครับ” ไมเคิลเตือน
“น้ำคลองนะเว๊ยไอ้ไมค์ที่ยัยหมูกระทะนั่นทำชั้นตกลงไปน่ะ พูดมาก มานี่เลย ขัดหลัง” เจ้าคุณโวยวาย
“ขัดจนจะถลอกแล้วนะครับผม” ไมเคิลแย้ง
“ขัดอีก!”
“ครับผม”
ไมเคิลคว้าอุปกรณ์มาขัดหลัง เจ้าคุณหลับตาคลายเครียด
“คุณหนูครับ ไมค์ว่า มันแปลกๆ นะครับที่จู่ๆ คุณหนูก็ต้องมาเจอกับคุณยัยหมูกระทะนั่นถึงสองครั้งสองหนติดๆ” ไมเคิลตั้งข้อสังเกต
“แปลกยังไง”
“แปลกยังไง ไมค์ว่า บางทีคุณยัยหมูกระทะอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณหนูก็ได้” ไมเคิลว่า
“ไอ้ไมค์ จะบ้า”
“ครับผม ไอ้ไมค์มันบ้า”
“ไม่มีทาง ชาตินี้ชั้นกับยัยหมูกระทะไม่มีวันจะได้เจอกันอีก ชัวร์”
เจ้าคุณพูดกับตัวเองอย่างมั่นใจ

ส่วนสมใจทรุดตัวลงนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน ก่อนจะเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง ค่อยๆ หยิบรูปใบหนึ่งที่ซ่อนซุกไว้ลึกๆ ออกมาดู
เป็นรูปสมใจถ่ายคู่กับโก้ ในชุดนักศึกษา สมใจมองรูปแล้วอมยิ้มแต่แอบเศร้า นึกถึงความหลังครั้งเก่า สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันกับอดีตคนรัก หากแต่เธอถูกกีดกันจากแม่ของฝ่ายชาย

ในมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนั้น เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว สมใจสวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะ เนี้ยบคล้ายนักศึกษาชาย กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กับคำปุย คำปุยจ้องหน้าเพื่อนแล้วขำกิ๊กๆ
“ขำอะไร นังปุ๋ย”
“ก็ขำเพื่อนน่ะซิ ไม่อยากจะเชื่อว่าเห็นห้าวๆ เฮ้วๆ อย่างนี้ จะมีรุ่นพี่ไฮโซสุดหล่อ มาขอเป็นแฟน” คำปุยแซว
“เชื่อซะ!”
“อร้าย! แก่น ว๊าย! ไม่น่าเชื่อ พูดถึงก็มาพอดี” คำปุยพยักเพยิด
สมใจเงยขึ้นมอง แล้วยิ้มออกมา เมื่อเห็นโก้เดินหล่อถือน้ำแดงเข้ามาสองแก้ว
“โห คนเรานะ อยู่กัน สามคน ซื้อน้ำมา สองแก้ว” คำปุยบ่นกระปอดกระแปด
“นี่ของปุ๋ยครับ”
“อ้าว!” คำปุยเหวอ
“ใจ๋กับพี่ เราทานแก้วเดียวกันก็ได้นะครับ” โก้บอก
สมใจพยักหน้าให้ โก้นั่งลงข้างสมใจ
“โอย จืดเลย น้ำหวานจืดเลย สู้ไม่ได้แล้ว” คำปุยว่า
โก้กับสมใจไม่สน โก้เอาหลอดใส่แก้วเพิ่มอีกหลอด แล้วสองคนก็ดูดน้ำในแก้วเดียวกัน มองตากันเยิ้มๆ
“ต๋ายละ พุทโธ ธัมโม สังโฆ! สงสัยลูกจะต้องโก ไรท์นาว! ไปเดี๋ยวนี้แล้ว คุณพระคุณเจ้า คนเขาจะหวานกัน ลูกไม่กล้าอยู่เป็นมาร” คำปุยรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกินของหัวใจ ขยับลุกเดินออกไป
สมใจกับโก้ ยิ้มกันสนุกๆ

นึกถึงเหตุการณ์ตอนนี้สมใจเผลออมยิ้มนิดๆ ก่อนจะหยิบรูปอีกใบหนึ่งออกมา เป็นรูปโก้ในชุดรับปริญญามีสมใจยืนยิ้มอยู่ข้างๆ อย่างยินดี ในมือโก้มีช่อใบชาสด แทนช่อดอกไม้จากสมใจ สมใจหวนนึกถึงความหลังครั้งนั้นขึ้นมาอีก

ในอีกมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย ในวันรับปริญญา พ่อแม่โก้กำลังเม้งโก้ในชุดรับปริญญา โดยมีน้องนุช คุณหนูไฮโซมาดนุ่มนิ่มหน้าตาน่ารัก ยืนหงอยๆ อยู่ใกล้ๆ
“ลูกโก้ทำอย่างนี้ได้ยังไง นังนั่นมันเป็นใคร”
“คุณแม่ ใจ๋เป็นแฟนโก้” โก้บอกแม่
“แฟน แฟนลูกโก้มีอยู่คนเดียว จะต้องเป็นคนที่คุณหญิงแม่หามาให้ และคนๆ นั้นก็คือ หนูนุช”
แม่โก้ปรี๊ดแตก โก้หันไปมองน้องนุช ซึ่งยิ้มให้แหยๆ ให้
“คุณแม่ โก้กับน้องนุช เรารักกันเหมือนพี่น้อง” โก้บอก
“อย่ามาพี่น้อง ไม่มีคำว่าพี่น้อง ลูกชายคนเดียวของแม่ต้องมีคนรักที่ เหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก ไม่ใช่นังเด็กบ้านนอกคอกใบชาอย่างนี้”
แม่โก้พูดอย่างมีอารมณ์ พลางมองไปที่ช่อใบชาในมือโก้ กระชากมาถือไว้ แล้วขว้างช่อใบชาของสมใจทิ้งลงพื้นสุดแรง พร้อมกับเอาเท้าเหยียบๆ ขยี้ๆ
“คุณแม่!” โก้ตกใจ
สมใจแอบยืนหน้าจ๋อยดูอยู่กับคำปุยที่ปรี่จะออกไปลุย
“อึ๊ย นังคุณนายไฮโซ” คำปุยปรี๊ด
“ช่างมันเถอะ” สมใจห้ามเพื่อน
“ไอ้ใจ๋” คำปุยฮึดฮัด อย่างขัดใจ
สมใจหันหลังค่อยๆ เดินออกไปจากตรงนั้น คำปุยงง ก่อนจะเริ่มวิ่งตามมา ในขณะที่สมใจเดินปาดน้ำตาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง

นึกถึงวันนั้นสมใจก็มีน้ำตาไหลเอ่อออกมา แต่เอามือปาดน้ำตา ทำใจเข้มแข็ง เก็บรูปลงลิ้นชักตามเดิมแล้วล้มตัวลงนอน
แต่พอหลับตาลง จู่ๆ ใบหน้าเจ้าคุณ ก็โผล่มาเต็มตา สมใจหลับตาลง ลืมตาใหม่ก็ยังเห็นหน้าเจ้าคุณอยู่อีก
“ยัยหมูกระทะ!”
สมใจลืมตาพรึ่บ ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง
“ไอ้ตีนผี! ตกใจหมด แกจะจองเวรจองกรรมชั้นไปถึงไหนวะ เจ้าประคู้ณ ขอให้ไอ้ตีนผีมันไปผุดไปเกิด อย่าตามมาหลอกมาหลอนลูกอีกเล๊ย”
สมใจนึกได้ กราบหมอน 3 ที ทำปากมุบมิบเหมือนสวดมนต์แป๊บนึง กราบอีก 3 ทีแล้วอธิษฐาน

บรรยากาศยามเช้าวันนี้ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ แสนสดชื่นเช่นทุกวัน สมใจกำลังคุมและช่วยงานคนงานง่วนอยู่ จู่ ๆ ก็มีถ้วยน้ำแข็งไสราดน้ำแดงเหมือนปุยหิมะ ยื่นมาตรงหน้าสมใจชะงัก เมื่อคนที่ยื่นให้มาคือ หวานเจี๊ยบ เพื่อนสาวรุ่นน้องคนสนิทที่ขายน้ำแข็งใสอยู่ในเมืองนั่นเอง
“หวานเจี๊ยบ”
“จ้ะ ปุยหิมะราดหัวใจหวานเจี๊ยบ เอ๊ย! ราดน้ำแดงของโปรดพี่ใจ๋” หวานเจี๊ยบยิ้มกริ่ม
“ขอบใจ”
คำปุยแหวกหน้าออกมาจากไร่ชา “ต๋าย!! ถ่อมาถึงที่นี่ เอามาแก้วเดียวเนี่ยนะ”
คำปุยเหน็บหวานเจี๊ยบ
“เออสิ ของซื้อของขาย แต่ให้ฟรีพี่ใจ๋ได้คนเดียว คนอื่นอยากกินก็ไปซื้อเอาที่ร้านหวานเจี๊ยบซิยะเจ๊ปุ๋ย”
“เออ ฉันมันผิดเอง ที่เกิดมาสวยใส ไม่ได้สวยเท่ห์เหมือนไอ้ใจ๋มัน”
“ถูก เท่ห์ ทิ่มใจหวานเจี๊ยบ”
หวานเจี๊ยบมองสมใจตาหวานเชื่อม แถมทำท่าซารังแฮโยแบบเกาหลีใส่
“พอๆ โตจนป่านนี้แล้ว จั๊กกะจี้” สมใจบอก
“จั๊กกะจี้ตรงไหนอ่ะพี่ใจ๋” หวานเจี๊ยบเอานิ้วจิ้มเอวสมใจ หยอกล้อไปมา “นี่เหรอๆ”
“พอแล้วนังหวานเจี๊ยบ เลิกเล่นได้แล้ว แกก็รู้ว่าไอ้ใจ๋มันไม่ชอบ มันชอบผู้ชาย แล้วมันก็เคยโดนผู้ชายหักอกมาแล้วด้วย ฮ่าๆ” คำปุยขำกลิ้ง
“นี่แน่ะ! ตลกมากมั้ย”
ไม่พูดเปล่า สมใจเคาะกะโหลกคำปุยไปหนึ่งที
“เห็นมั้ยพี่ใจ๋ พวกผู้ชายงี่เง่า ใจร้ายใจดำ บอกแล้วก็ไม่ยอมเชื่อ สู้สาวสวยหวานชาญฉลาดและใจดีอย่างหวานเจี๊ยบก็ไม่ได้” หวานเจี๊ยบสบโอกาส
“ไม่ทันแล้วหวานเจี๊ยบเอ๋ย ผู้ชายมานู่นแล้ว” คำปุยพูดพลางบุ้ยใบ้
ทุกคนมองตาม จึงรู้ว่าปลัดจืดมาหาสมใจอีกตามเคย และมาพร้อมกับน้ำแดง หกถุงด้วยกัน ปลัดจืดไม่ได้สนใจหวานเจี๊ยบสักนิด เดินเข้ามาถึงก็คว้าถ้วยน้ำแข็งออก แล้วยื่นถุงน้ำแดงให้สมใจทันที
“ละลายหมดแล้ว อย่าไปกินเลย เอานี่ดีกว่า” ปลัดจืดว่า
“ไอ้จ๋อย” หวานเจี๊ยบแค้นเคืองใจ
“ฉันเอามาฝากคำปุยแล้วก็คนงานด้วย” ปลัดจืดหันมาทางคำปุย
“ต๋าย! พ่อพระพ่อเทวดา” คำปุยรีบรับมาแล้วมองหน้าสมใจ “จะไปหาได้ที่ไหนอีกเนี่ย นี่ ดูไว้ นังหวานเจี๊ยบ ดูไว้”
คำปุยรับถุงน้ำแดง ชูใส่หน้าหวานเจี๊ยบไปมา แล้วรีบวิ่งเอาไปแจกคนงาน
“ส่วนเธอ” ปลัดจืดยัดถ้วยน้ำแข็งไสคืนใส่มือหวานเจี๊ยบ “อ่ะ เอาไปกิน”
“ไอ้ ไอ้ ไอ้ปลัดจ๋อย! หน้าจืด ใจดำ” หวานเจี๊ยบด่า ยิ่งแค้นเข้าไปใหญ่
“ฉันชื่อปลัดจืด เรียกให้ถูก ยัยเค็มปิ๊ด หน้าเลือด” ปลัดจืดตอกกลับ จากนั้นทั้งคู่ก็เปิดฉากทะเลาะกัน
“ไอ้บ้า ฉันชื่อหวานเจี๊ยบย่ะ เรียกให้ถูก”
“อ้าวเหรอ ไม่รู้นี่ เห็นเค็มจะตาย ขายของก็แพงนรก”
“นรกบ้านแกซิ ทำไม ฉันขายของแพงยังไง แพงตรงไหน” หวานเจี๊ยบแว้ดใส่
“ก็น้ำแข็งไสอะไร ถ้วยละตั้ง 30”
“30 นั่นขายฝรั่งเว้ย! คนไทยขาย 15”
“บ้าซิ ทำอย่างนี้มันเอาเปรียบนักท่องเที่ยว แล้วใครที่ไหนเขาจะอยากมาเที่ยวบ้านเรา สงสัยต้องส่งคนไปตรวจสอบซะแล้ว”
“เอาซิ เบ่งเหรอ โชว์ออฟเหรอ ข่มขู่ประชาชนเหรอ ดูมันซิ พี่ใจ๋ เฮ้ย!” หวานเจี๊ยบเหวอเมื่อไม่เห็นสมใจแล้ว

ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่า สมใจหายไปจากตรงนั้นนานแล้วตั้งแต่สองคนเริ่มทะเลาะกัน
“เห็นมั้ย เพราะเธอคนเดียว กรี๊ดๆ ยังกะนกหวีด ดูซิ ใจ๋เขารำคาญหนีไปแล้ว”
“แกแหละ ไอ้ปลัดจ๋อย”
ทั้งสองเขม่นมองจ้องหน้ากันเขม็ง

คำปุยยังคงหัวเราะร่วน และแซวสมใจเรื่องที่หวานเจี๊ยบและปลัดจืด เปิดศึกชิงนางกลางไร่ชา

“ไง เปิดศึกชิงนางแต่เช้าเชียว นึกแล้วก็ตลกดีนะ สมัยอยู่ โรงเรียนไอ้หวานเจี๊ยบมันคอยดักส่งดอกไม้ให้พี่ใจ๋ตล๊อด แกนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ นะไอ้ใจ๋ พออยู่มหา’ลัยก็กระชากหัวใจไอ้หนุ่มไฮโซเนื้อหอมจากกรุงเทพฯ ไปครอง อุ๊บส์!”
แม้ว่าคำปุยจะรู้ตัวว่าพูดมากไป แต่สมใจยังคงเก็บอาการ
“ถามจริง ไอ้ใจ๋ แกยังคิดถึง เอ่อ พี่โก้อยู่ป่าว” คำปุยตัดสินใจถามออกมา
“จะบ้าเหรอ ไม่แล้ว” สมใจโกหกตาใส
“เออ ดี ผู้ชายมีเยอะแยะมากมายยิ่งกว่าใบชา เชื่อเพื่อน” คำปุยว่า
จังหวะนั้นมีเสียงดังลั่นลอดเข้ามา
“แต่ต้องไม่ใช่ ไอ้ผู้ชายไฮโซเมืองกรุง!”
สมใจรู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงที่ดังกังวานนั้นคือใคร
“ใช่มั้ย ไอ้ใจ๋”
สมหมายถามลูกสาวก่อนจะกางแขนออก สมใจโผเข้าไปกอดพ่อ
“พ่อจะไม่มีวันยอมให้ไอ้ผู้ชายคนไหนมันทำร้ายจิตใจลูกสาวพ่ออีกเป็นอันขาด โดยเฉพาะไอ้ผู้ชายไฮโซเมืองกรุง” สมหมายพูดเสียงจริงจัง

คำปุยรู้ตัวรีบย่องออกไป ผ่านสมศรีที่แอบยืนมองอยู่อีกมุม ปล่อยให้พ่อลูกกอดกันต่อไป

อ่านต่อหน้า 4





ร่วมพูดคุย ถก เถียง แสดงความคิดเห็นเรื่องละครอย่างสร้างสรรค์  หรือจะด่าทอ ต่อว่า...ทีมงานได้ที่ แฟนเพจละครออนไลน์ facebook.com/ละครออนไลน์ เอเอสทีวี ได้แล้วจร้า...

 รักออกอากาศ  ตอนที่ 1 (ต่อ) 

ที่บริเวณบึงเวคบอร์ด กลุ่มก๊วนของเจ้าคุณ ซึ่งมีก้องเกียรติ กิ่งแก้ว แมทธิว เอมี่ และเจอาร์กำลังเล่นเวคบอร์อย่างสนุกสนาน สาวๆ ส่งเสียงกรี๊ดให้เจ้าคุณและแมทธิวไม่ขาดสาย ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ มอง อย่างสุดปลื้มอยู่ริมบึง มีเพียงเอมี่ที่ดูไม่สบอารมณ์มากนัก เหล่ค้อนสาวๆ เหล่านั้นไปมา

“จะกรี๊ดอะไรกันนักกันหนา หน้าไม่อายจริงๆ นังพวกนี้” เอมี่สบถ
“เฮ้อ อยากมีแฟนหล่อด้วยรวยด้วยมันก็ต้องทำใจ โอเค้ เอมี่ ว่าแต่ไอ้ 2 คนนี้ดีกว่า มันเป็นอะไรนักหนาถึงได้ไม่เคยมีใครยอมแพ้ใคร เจอกันทีไรเป็นต้องแข่งกันตลอดเวฯ” เจอาร์ว่า
“สองคนนี้ซะที่ไหน ไอ้แมทซี้แกตะหากล่ะไอ้เจ ที่คอยจ้องจะเอาชนะไอ้คุณตลอดเวลา”
เสียงสาวๆ กรี๊ดวี๊ดว๊ายกันลั่น ทุกคนหันขวับไปมอง แมทธิวกำลังเสียฟอร์มหล่นต๋อมลงกลางบึง เจอาร์ส่ายหน้าแบบ “เพื่อนกู!” แล้ววิ่งไปดูแมทธิว เพื่อนที่ขึ้นฝั่งมา ท่ามกลางสายตาเวทนาปนขำของสาวๆ ที่ยังคงกรี๊ดกร๊าดกับความเท่ของเจ้าคุณอยู่
“แล้วมันก็มักจะแพ้ไอ้คุณตลอดซะด้วย”
กิ่งแก้วพูดแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ แต่แมทธิวดูไม่สบอารมณ์กับการแข่งครั้งนี้อีกเช่นเคย

“กระจอก!” แมทธิวขัดใจ
“ก็มี่ก็เคยบอกแล้วใช่ม้า ว่าแมทไม่มีทางจะชนะเจ้าคุณได้ทุกอย่างหรอก เห็นรึยัง” เอมี่เยาะ
“พูดมาก!! เดี๋ยวผมก็พูดมั่งหรอก เอมี่” แมทธิวยั๊ว!
เอมี่ตกใจ ในขณะที่กิ่งแก้วมองๆ อย่างสงสัย
เอมี่รีบพูดสวนขึ้นเลย “อ๊ะแหม มี่ก็แค่แหย่เล่นอ่ะ ขี้โมโหจังแมทน่ะ”
“เฮ๊ย! ไอ้แมท เงียบหน่อยเถอะวะ” ก้องเกียรติชักไม่สบอารมณ์
“อ้าวเฮ๊ย! ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเห็นป๋าก้อง รมณ์บ่จอยเว๊ย วันนี้เกิดเหตุอาเพทอะไรหว่า ว้อทซับ ว้อทซับแม้น” เจอาร์งง
“ฉันรู้แล้วไอ้ก้อง แกกำลังกลุ้มใจเรื่อง รายการทีวี ของแกอยู่ใช่มั้ยเพื่อน” แมทธิวพูดดักคอ

ก้องเกียรติเซ็ง ไม่อยากพูดถึง แต่เสียงสาวๆ ยังคงกรี๊ดกร๊าดเจ้าคุณที่กำลังจะขึ้นฝั่งอย่างลั่น แมทธิวหันมองเจ้าคุณอย่างไม่พอใจ ก่อนจะยิ้มร้าย แล้วกันไปคุยกับก้องเกียรติต่อ
“ใจเย็นเพื่อน ฉันบอกแกแล้วนี่ว่า ฉันจะทำให้ไอ้คุณมันรับปากแกให้ได้ภายใน สามวัน”
“รับปาก รับปากอะไรเหรอคะ” เอมี่ท่าทางอยากรู้
“อย่าดีกว่าไอ้แมท ฉันว่า...” ก้องเกียรติพูดไม่ทันจับ
“อยู่เฉยๆ คอยดูให้ดี แล้วจะรู้ว่าแมทธิวทำได้”

แมทธิวก็เดินไปหาเจ้าคุณ ปล่อยให้ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วกังวล ส่วนเอมี่ยังอยากรู้อยู่จนเจอาร์รำคาญ
ในขณะที่เจ้าคุณกำลังได้รับเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ ก็มีเสียงดังขึ้น
“ไอ้ฉี่เหม็น”
แมทธิวตะโกนใส่จนทุกคนเริ่มงงว่าแมทธิวหมายถึงใครกันแน่ แล้วทำจมูกฟุดฟิด
“อ้าว ไม่ได้กลิ่นฉี่เหม็นกันเลยเหรอครับเนี่ย”
“ใครเหรอคะ ใครฉี่เหม็นเหรอคะ” สาวๆ ส่งเสียงถาม
แมทธิวไม่ตอบ แต่ยิ้มกริ่มแล้วทำจมูกฟุดฟิดไปใกล้ๆ เป้าเจ้าคุณ เจ้าคุณหน้านิ่ง สาวๆ เริ่มมองหน้ากันแมทธิวทำหน้ากวนประสาท เงยหน้าขึ้นมองเจ้าคุณขำๆ
“แกว่าใครฉี่เหม็นวะ ไอ้เจ้าคุณ”
แมทธิวพูดไม่ทันขาดคำ หน้าก็หงายเงิบเพราะหมัดของเจ้าคุณซัดเปรี้ยงเข้าเต็มๆ จนแมทธิวลงไปนั่งกองกับพื้น สาวๆ กรี๊ดกร๊าดวิ่งหนี
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เอมี่ เจอาร์ พุ่งเข้ามาห้ามกันใหญ่ เพราะแมทธิวลุกขึ้นแลกหมัดกับเจ้าคุณนัวเนีย ก้องเกียรติ เจอาร์ล็อกแมทธิวไว้ กิ่งแก้ว เอมี่ ล็อกเจ้าคุณ
“เมื่อไหร่แกจะเลิกพูดไอ้เรื่องงี่เง่านั่นซะทีไอ้แมท”
“งี่เง่าอะไร อ๋อ ไอ้เรื่องที่แกฉี่ราด ฉี่เหม็น พูดติดอ่างน่ะเหรอ”
“ไอ้แมท”
“เออ ไอ้เรื่องงี่เง่าพวกนั้นนั่นแหละ เมื่อไหร่แกจะเลิกพูดถึงมันซะที”
ไม่พูดเปล่า กิ่งแก้ว ก้องเกียรติ ต้องพากันห้ามเจ้าคุณเพราะจะพุ่งชกแมทธิว
“ได้ ฉันจะเลิกพูด” แมทธิวพูดสวนขึ้นมาเสียงจริงจัง
ทุกคนชะงักกึกว่าทำไมมันง่ายอย่างนี้
“ถ้าแกยอมตกลง” แมทธิวยื่นข้อเสนอ
“ตกลงอะไร” เจ้าคุณมองหน้าคู่กัด
“ตกลงไปอยู่บ้านนอก” แมทธิวว่า
“แกว่าไงนะ” เจ้าคุณแปลกใจกับข้อเสนอนั้น
“ถ้าแกยอมไปอยู่บ้านนอก หนึ่งเดือนเต็ม ฉันจะยอมเลิกพูดถึงเรื่องงี่เง่าของแก และที่สำคัญ ฉันจะยอมกราบเท้าแกทีหนึ่งด้วย แต่ถ้าแกทำไม่ได้ แล้วแกหนีกลับมาก่อน นอกจากฉันจะล้อแกไปตลอดชีวิตแล้ว แกยังจะต้องกราบเท้าชั้นหนึ่งที ไอ้เจ้าคุณ”

เจ้าคุณและทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
เอมี่ยังสงสัยไม่เลิก เพราะยังไม่รู้เรื่องที่เจ้าคุณจะต้องไปอยู่บ้านนอกในรายการเรียลลิตี้ของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว
“ว่าไง...ไอ้ฉี่เหม็น???
เจ้าคุณมองหน้าแมทธิวอย่างเคือง
“ป๊อดซิ ไอ้ฉะ..ฉะ..ฉะ...ฉี่..ระ..ระ...ราด ฮ่าๆ”
“พอได้แล้วไอ้แมท!” ก้องเกียรติทนไม่ไหว
“ก็เพราะแกมันขี้ขลาดตาขาวอย่างนี้ไงไอ้คุณ แกเลยต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ พ่อแกต้องตายก็เพราะแก”
เจ้าคุณอึ้งตะลึงกับคำพูดของแมทธิว พร้อมกันนั้นเรื่องราวในอดีตก็ผุดขึ้นมาในความคิด

วันนั้น ด.ช.เจ้าคุณร้องเรียกพ่อ ในขณะที่พ่อเจ้าคุณกุมหน้าอกเจ็บปวดร้องเรียก
“เจ้าคุณ” ด.ช.เจ้าคุณได้แต่ตกใจยืนมองพ่อ แล้วร้องไห้ ส่ายหน้าอย่างกลัวๆ พ่อเจ็บ เอื้อมมือไขว่คว้า

นึกถึงตอนนี้ สีหน้าแววตาเจ้าคุณตื่นตระหนกเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อตอนเด็กๆ ไม่มีผิด
“ฉันบอกให้แกหุบปากได้แล้วไอ้แมท” กิ่งแก้วปราดไปกระชากเจ้าคุณ “ไป คุณ กลับบ้าน”

ก้องเกียรติและกิ่งแก้วพยายามลากเจ้าคุณกลับบ้านแต่ไม่สำเร็จ
เจ้าคุณรับคำท้าของแมทธิว จนทำให้กลุ่มเพื่อนตะลึงไปตามๆ กัน
“ตกลง ฉันจะยอมไปอยู่บ้านนอก หนึ่งเดือนเต็ม”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ เอมี่อึ้ง แต่แมทธิวยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

ในมุมลับตา บึงเวคบอร์ด เอมี่ลากแมทธิวมามุมลับตาคน ชะเง้อชะแง้ก่อนจะพูด
“นี่มันอะไรกันแมท แมทกำลังจะทำอะไร บอกเอมี่มาเดี๋ยวนี้”
“ผมไม่ได้ทำอะไร ไอ้ก้องตะหาก มันจะทำรายการทีวี”
“เอมี่“ก้องจะทำรายการทีวี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณคะคุณของมี่”
“เกี่ยวซี่ เพราะไอ้ก้องมันจะถ่ายทอดสด คุณคะคุณของมี่ ที่ไปตกระกำลำบากที่บ้านนอก ออกรายการทีวี 24 ช.ม.”
“ห๊า! คุณคะคุณ ต้องไปอยู่บ้านนอก ออกทีวี 24 ช.ม.”
“ใช่และคุณก็ต้องร่วมมือกับผมด้วย
“ไม่ มี่จะไม่...”
“ถ้าไม่ ผมจะบอกไอ้คุณให้หมดว่าเรา 2 คน เป็นอะไรกัน”
“ไอ้เลว!” เอมี่เงื้อมือจะตบ
แต่แมทธิวคว้ามือไว้ได้
“เราก็เลวพอกันแหละ เอมี่ เชื่อผมซิ ฟังนะ ถ้าไอ้คุณมันไปตกระกำลำบากมากๆ มันก็จะต้องอยากกลับบ้าน เผลอๆ มันอาจจะอยากกลับมาแต่งงานกับคุณไวๆ ทีนี้แผนจับผู้ชายไฮโซของคุณ มันก็จะสำเร็จเร็วเกินความคาดหมาย จริงมั้ยจ๊ะ ที่รัก”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกมี่ว่าที่รัก เดี๋ยวผู้ชายไฮโซของมี่ได้ยินเข้า มี่ก็อดจับอ่ะซิ”
“ไอ้คุณ เตรียมหัดกราบงามๆ ไว้ได้เลย แกได้กราบเท้าฉันแน่”
แมทธิวและเอมี่ยิ้มแฉ่งอย่างสุขใจเมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกันอีกครั้ง

ทั้งเพื่อน และรจนาวรรณ อยู่กันพร้อมหน้าที่คฤหาสน์บ้านเจ้าคุณ
“เจ้าคุณจะไปอยู่บ้านนอก”
“เมืองนอกครับ/ ค่ะ” เพื่อนทุกคน ประสานเสียง รับมุกแทนเจ้าคุณ
“เมืองนอก เมืองนอกน่ะเมืองไหน แล้วนึกยังไงจู่ๆ หนูก็อยากไปอยู่เมืองนอกจ๊ะ”
“เอ่อ เอ่อ คือ...” เจ้าคุณอึกอัก
“เจ้าคุณเขาอยากไปเรียนคอร์สอะไรสั้นๆ เพิ่มเติมน่ะค่ะ” กิ่งแก้วตั้งสติตอบแทนเพื่อน เจ้าคุณอึกอัก ในขณะที่แมทธิวแอบยิ้มสะใจ
“เจ้าคุณอยากไปเรียนหนังสือ โถ พ่อคุณของแม่ อะไรดลใจให้ขยันเรียนขึ้นมาตอนนี้จ๊ะ ตอนเด็กๆ ขี้เกียจไปโรงเรียนจะแย่ ร้องไห้แงๆ ทู้กวัน ฮิฮิ”
แม้จะฟังแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อหู แต่รจนาวรรณก็ยิ้มแฉ่งเข้าไปกอดหอมลูกชายในความเอ็นดูไม่ได้ ฟากเจ้าคุณสะดุ้ง แมทธิว กับเจอาร์แอบขำ
“สงสัยจะอานิสสงส์จากการทำบุญใหญ่วันนั้นแน่ๆ สาธุ เออ ยังไม่ได้บอกแม่เลยว่าหนูอยากไปเรียนต่อที่ไหนจ๊ะ”
“อะ..เอ่อ..ทะ..ที่”
เจ้าคุณติดอ่าง แมทธิวสะใจอีก
“อังกฤษครับ เจ้าคุณจะไปอังกฤษ” ก้องเกียรติตอบแทน
“เหรอ”
“เออ”
“อ้าว”
รจนาวรรณมองหน้าลูกชาย
“ครับ อังกฤษครับ ผมจะไปอังกฤษ”
“อังกฤษ ดีจัง แม่จะได้ไปช้อปปิ้งสนุกเลย ไปด้วยกันนะจ๊ะลูกมี่”
“อึ๋ย” เอมี่ลืมตัวออกอาการรังเกียจบ้านนอกขึ้นมา
“คืองี้ค่ะ คุณหญิงแม่ขา คือว่าเจ้าคุณเขาตั้งใจจะไปเทคคอร์ส ปลีกวิเวกน่ะค่ะ” กิ่งแก้วช่วยชีวิตไว้อีกรอบ“ปลีกวิเวก”
“ครับ คือ มันเป็นคอร์สใหม่ เน้นวิถีพุทธให้รู้จักอยู่กับตัวเองได้ แบบ ต้องอยู่คนเดียวน่ะครับ ห้ามมีคนอื่นมาอยู่ด้วย”
ก้องเกียรติพยายามเสริมช่วยเจ้าคุณอีกรอบ แต่ดูเหมือนมะขิ่นสาวใช้จะทำตัวน่าสงสัยขึ้นมาอีก

“โห แบบนี้บ้านมะขิ่นก็มีเยอะแยะค่ะ”
“นั่นซิ ไปพม่าดีก่ามั้ยลูกจ๋า ใกล้หน่อย ถ้าหนูไปอยู่ไกล..แม่คิดถึง” รจนาวรรณว่า
“ไม่ได้หรอกค่ะ เจ้าคุณอยากจะเรียนภาษาเพิ่มด้วย จริงมั้ย”
กิ่งรีบเร่งรัด เจ้าคุณได้แต่พยักหน้าหงึกๆ
“เหรอลูก ว่าแต่ จะไปเมื่อไหร่ แล้วจะไปกี่วันล่ะจ๊ะ”
“ผมจะไปเร็วที่สุด แล้วก็จะอยู่เดือนหนึ่งครับ”
“ห๊า! หนึ่งเดือน”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว ตกใจ แต่ไม่กล้าเสียงดัง หันมามองหน้ากัน ขณะเดียวกันเจ้าคุณมีสายตามุ่งมั่น และต้องการเอาชนะคำสบประมาทของแมทธิวให้จงได้


มุมหนึ่งคฤหาสน์บ้านเจ้าคุณ กิ่งแก้วและก้องเกียรตินั่งปรึกษากันเรื่องเจ้าคุณต้องการไปอยู่ต่างจังหวัดให้เร็วที่สุด ทำให้คู่รักก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ไม่สบายใจเล็กน้อยเพราะยังไม่ได้หาที่ทางในความรีบร้อนของเพื่อนหนุ่มไม่ได้
“เจ้าคุณมันจะไปเร็วที่สุด แต่นี่เรายังไม่ได้เริ่มติดต่ออะไรเลย จะไปอยู่ที่ไหน? กับใคร? อะไรยังไงล่ะเนี่ย โอย จะเป็นลม”
“เฮ้อ! จะบรรลัยก็คราวนี้ล่ะมั้งเรา”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วจ้องมองหน้ากันเครียดๆ ก่อนที่ก้องเกียรติจะนึกได้
“เค้านึกออกแล้ว!”
ก้องเกียรติยิ้มดีใจกับหนทางที่คิดออก ว่าจะให้เพื่อนชายไฮโซของตนไปอยู่ที่ไหน

หมู่บ้านม่วนแต๊ ในยามค่ำคืน ถนนเปลี่ยว และดูน่ากลัว หน้าบ้านลุงกำโป๊ง เสียงเพลงพื้นเมืองทางเหนือแว่วมา รถก้องเกียรติแล่นฝ่าเข้ามาในความมืด ก้องเกียรติ ขับรถมายังหมู่บ้านดังกล่าวแบบไม่แน่ใจนัก เพราะไม่ได้มานานแล้ว
“ใช่แน่นะ ไม่หลงแน่นะ” กิ่งแก้วท้วง
“น่าจะ...” ก้องเกียรติว่า
“น่าจะใช่ หรือน่าจะหลง”
“น่าจะหลง”
เห็นมั้ย บอกแล้วว่าน่าจะ..”
“ล้อเล่น มาถูกแล้ว นู่นไง ตรงไปอีกนิด.” ก้องเกียรติหยอกแฟนสาว แต่ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นภาพคล้ายผีเด็กนั่งห้อยอยู่บนต้นไม้
“เป็นอะไรอ่ะก้อง”
“คือ ไม่มีอะไร อีกนิดเดียวก็ถึง”
ภาพผีเด็กบนต้นไม้หายไปแล้ว
“งั้นก็รีบไปซิ แถวนี้มื้ดมืด น่ากลัว”
ก้องเกียรติยิ้มจ๋อยๆ แล้วจะออกรถ ผีเด็กโผล่พรวดข้างกระจกคนขับ
“กรี๊ด!”
“เฮ้ย!
กิ่งแก้วและก้องเกียรติกอดกันกลม ผีเด็กเริ่มเอาผ้าขาวคลุมหัวออก เอาไฟฉายลงจากใต้คางแล้วเคาะกระจกถาม
ที่แท้ผีเด็กที่ว่าคือไส้อั่ว ที่จะเข้ามาทักทายทั้งคู่ว่าจะไปไหนในเวลาวิกาล ซึ่งไส้อั่วอาสาพาไปบ้านกำโป๊ง เพื่อนสนิทของพ่อกิ่งแก้วและก้องเกียรติ

“ข้านี่แหละ กำโป๊ง ว่าแต่พวกเอ็งน่ะ เป็นใคร”
“ผมชื่อก้อง ส่วนนี่กิ๋งแฟนผมครับ”
กำโป๊งมองอย่างหยิ่งๆ ยังคงจำไม่ได้ว่าใคร และมาหาตนทำไม
“ลุงครับ พ่อผมชื่อเกียรติ-เกียรติศักดิ์ รักดี ลุงพอจะจำได้มั้ยครับ” ก้องเกียรติขยายความ
“ห๊า! เกียรติศักดิ์ รักดี ไอ้เกียรติ หัวหน้าห้องป.5 ห้อง ค.ควาย ไอ้เกียรติมันตายแล้วเรอะ โธ่! ไม่ได้กินข้าวด้วยกันมา 20-30 ปี นี่ข้าต้องไปกินข้าวต้มงานศพมันซะแล้ว ไม่ ไม่จริ๊ง”
“เอ่อ ใจเย็นครับลุง พ่อผมยังไม่ตายครับ”
“อ้าว”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วมองหน้ากันอย่างงงๆ ชักไม่แน่ใจว่าโปรเจ็กท์ของตนจะสำเร็จหรือไม่

อีกมุมของบ้านกำโป๊ง จู่ๆ เจ้าของบ้านก็ลุกพรวดร้องลั่น จนกิ่งแก้วและก้องเกียรติต้องร้องทัก
“ไฮโซบ้านเฮา” กำโป๊งอุทานลั่น
“เบาๆ ครับลุง”
“ทำไม บ้านข้า ทำไมข้าจะพูดเสียงดังไม่ได้ แล้วข้าก็พูดเสียงดังของข้าอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่เชื่อก็กลับถามพ่อเอ็งดู”
“ครับๆ ผมเชื่อครับ แต่ที่ต้องขอให้ลุงพูดเบาๆ ก็เพราะเรื่องนี้มันเป็นความลับ”
“ลับแล๊บอะไร ข้าไม่ชอบเว้ย คนบ้านม่วนแต๊ มีแต่โปร่งใส ไม่มีลับลมคมใน ไม่ซับซ้อนเหมือนพวกในเมืองเว๊ย” กำโป๊งโวยวาย
“ก็ใช่ไงคะ ก็เพราะความน่ารักของคนที่นี่ไงคะ เราเลยอยากมาถ่ายรายการไฮโซบ้านเฮาที่นี่”
“ถ่ายเถิ่ยอะไร พวกเราอยู่ของเราสงบๆ อย่ามายุ่งยากวุ่นวาย น่ารำคาญ”
“ก็เพราะที่นี่สงบน่ะซิครับ เราถึงอยากให้คนอื่นๆ ได้เห็นความสงบแบบนี้ว่ามันดียังไง จะได้อยากเอาเป็นแบบอย่างถึงความรัก ความสามัคคี ความสงบสุขของที่นี่”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า”
“ก็ถ้าจะมาที่นี่ แล้วจะไม่เกี่ยวกับลุงกำโป๊งได้ไงล่ะค้าไฟฟ้าของทั้งหมู่บ้านก็มาจากกังหันลมฝีมือลุงกำโป๊งคนเก่งคนนี้คนเดียว”
“ใช่ครับ พ่อผมชมให้ฟังมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ว่าลุงกำโป๊งเนี่ยสุดยอดอัจฉริยะ ไฮเทคสุดๆ นี่ถ้าไม่เบื่อกรุงเทพฯ แล้วหนีมาเก็บตัวอยู่ที่นี่ มีหวังป่านนี้ได้เป็นศาสตรจารย์ไปแล้ว
“ไอ้เกียรติพ่อเอ็งมันก็พูดเกินไป”
เจอคำชมเข้าให้กำโป๊งเก๊กพองสุดตัว แต่ก็ยังมีฟอร์ม สองคนแอบตีมือให้กันแบบไม่มีเสียง แต่ดีใจสุดขีด

เช้าวันใหม่ สมใจขับรถกระบะคันเก่งมาหน้าบ้านกำโป๊งซักพักสวนกับรถของก้องเกียรติ กิ่งแก้ว สมใจเหลียวมองนิดๆ ก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านที่มีกังหันลม, จานดาวเทียม ฯลฯ แบบบ้านๆ ทำเอง อยู่ในบริเวณบ้าน กำโป๊งเห็นสมใจก็พิรุธนิดๆ สมใจลงรถมา
“หวัดดีจ้ะลุง พ่อให้เอาชามาให้ลุงจ้ะ”
“เออ ขอบใจ ฝากขอบใจไอ้หมายมันด้วย”
“ตะกี๊รถใครเหรอลุง”
“อ๋อ เออ รถใครไม่รู้ มันหลงทางมา อย่าไปสนใจเลยไอ้ใจ๋”
“หลงทาง”
กำโป๊งตาโตเมื่อเห็นปลัดจืดกำลังเดินมาถูกจังหวะพอดี แถมสิ่งยิ้มหวานให้สมใจอีกด้วย
“อ้าว! พ่อปลัด มีอะไรมาแต่เช้าเชียว”
“สวัสดีครับลุง ไงใจ๋”
“เอาชามาให้ลุงน่ะ”
“ผมจะมาขอยืม...ของลุงหน่อยนะครับ
“ได้ซิ จะรีบไปหยิบให้เดี๋ยวนี้ล่ะ
กำโป๊งรอดตัวจากการซักไซ้เรื่องธุระของก้องเกียรติและกิ่งแก้วไปในทันที

ในตลาดบ้านม่วนแต๊ ที่ร้านน้ำแข็งไสหวานเจี๊ยบ ซึ่งมีร้านโจ๊กเล็กๆ ใกล้ๆ ขณะที่สมใจและ ปลัดจืดกินโจ๊ก อยู่ ก็มีมือวางแก้วน้ำแดงลงตรงหน้าสมใจ
“น้ำแดงหวานเจี๊ยบชื่นใจจ้ะพี่ใจ๋”
“ขอบใจ”
“แล้วน้ำเขียวชั้นล่ะ”
“ไม่ขาย ไปกินที่อื่น”
ปลัดจืดลุกขึ้นพรวด แต่ก่อนจะด่าก็มีมือ ถือถุงน้ำเขียวยื่นพรวดเข้ามาตรงหน้าปลัดจืด ปลัดจืดหันมองขวับ เธอลำใย หรือชอบเรียกตัวเองแบบเกาหลีว่าแทใย ที่ยืนยิ้มหวานตาเยิ้มยั่วยวนอยู่
“น้ำเขียวของแทใยหอมหวานชื่นใจจ้ะพี่ปลัด”
“เออ แล้วก็เชิญพาไปกินกันที่อื่นนะยะ อย่ามาเกะกะแถวนี้ นังลำใย
“แทใย เว๊ย! ไม่ใช่ นังลำใย เกาหลีเว๊ยเกาหลี เข้าใจมั้ย นังเค็มปิ๊ดปี๋ นังเกลือ”

ปลัดจืดกับสมใจขำกิ๊ก หวานเจี๊ยบค้อนขวับ
“ขำอะไรไอ้ปลัดจ๋อย แหม..นังเกาหลี หน้ายังกะเต้าหู้ยี้โดนสิบล้อทับแล้วยังไม่เจียม
“อ้าวเฮ้ย!..ด่าลูกสาวข้าขนาดนั้นมาตบกะแม่มันเลยดีกว่ามั้ย นังหวานเจี๊ยบ”
ลำยอง แม่ของลำใยเดินหน้าตาเอาเรื่องเข้ามา แต่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยอย่างปลัดจืดที่หมายมั่นปั้นมือให้ลำใยจับให้ได้
“ว๊าย! พ่อปลัด เมื่อคืนเพิ่งจะฝันถึง ฝันว่าพ่อปลัดมาขอเป็นลูกเขย แหม ดีใจจังเลย สงสัยฝันจะเป็นจริงใช่มั้ยจ๊ะ พ่อปลัดจ๋า”
“อย่าซิแม่ แทใยอาย”
ลำใยอายแต่ซุกความอายไปที่หน้าอกของปลัด ซึ่งอีกฝ่ายพยายามปัดแต่ไม่สำเร็จ
“ต๊าย! เหมาะสมกันยังกะผีเน่าโลงผุ”
“อ๊าว! นังเกลือ พูดงี้ก็สวยซิแก”
“ไม่เอาน่า อย่ามีเรื่องกันเลยนะ ขอร้องล่ะ”
“เงียบไปเลยนังใจ๋ ทำไม หวงพ่อปลัดล่ะเซ่ นี่ฟังไว้เลยนะ บ้านม่วนแต๊มีแค่แทใย ลูกสาวข้าเท่านั้นที่เหมาะสมคู่ควรกับผู้ชายอย่างปลัดจืด จำไว้”
“แหวะ ยังกะหล่อตายล่ะ เจ้าประคู้ณ! วันนี้พรุ่งนี้ ขอให้มีผู้ชายหล่อๆ รวยโคตรๆ หล่นจากฟ้าลงมาที่ม่วนแต๊ซักคนเถอะว้า ไอ้หน้าจืดหน้าจ๋อย มันจะได้ตกกระป๋อง”
ปลัดจืดเหล่หวานเจี๊ยบ สมใจยิ้มๆ ส่ายหน้าเซ็งๆ

เวลาเดียวกัน รจนาวรรณกำลังร่ำไห้ลาลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โดยนึกว่ากำลังไปเทคคอร์สที่เมืองนอก ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าคุณกำลังจะไปตกระกำลำบากที่บ้านนอก
“ตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยจากกันนานอย่างนี้เลยนะลูกจ๋า”
“ครับ แม่”
“แล้วนี่ทำไมเขาใจดำจัง ให้แม่ไปส่งหน่อยก็ไม่ได้”
“เอ่อ มันเป็นกฎของเขาน่ะค่ะคุณหญิงแม่”
กิ่งแก้วพยายามอธิบาย เพื่อไม่ให้รจนาวรรณไปส่งเจ้าคุณ
“กฎแก่ดอะไรมันโหดร้ายอย่างนี้ ดูซิ ไปนานเป็นเดือน แล้วเอาข้าวของไปแค่นี้จะพอเหรอจ๊ะ ลูกจ๋า”

ไมเคิลกับมะขิ่นพยายามยัดกระเป๋าเดินทางหลุยส์หลายใบ ใส่ท้ายรถของก้องเกียรติจนแน่นเอี้ยดไปหมด ก้องเกียรติและกิ่งแก้วมองหน้ากันแบบมีพิรุธ
“พอยิ่งกว่าพออีกครับคุณหญิงแม่ ไม่ต้องห่วงนะครับ รับรองว่าถ้าจบคอร์สเมื่อไหร่ เจ้าคุณจะกลายเป็นลูกชายคนใหม่ที่คุณหญิงแม่ต้องภูมิใจมากๆ เลยครับ ผมรับรอง”
“จ้ะๆ”
“ได้เวลาแล้วค่ะ ไปเถอะคุณ เดี๋ยวตกรถ เอ๊ย! ตกเครื่องกันพอดี”
เจ้าคุณหันมามอง กิ่งแก้วทำเนียน
“แม่ครับ ไม่ต้องห่วงผมนะครับ แล้วผมจะโทร.หาทุกวัน”
“วันละ 3 เวลาก่อนอาหารนะจ๊ะ ไม่งั้นแม่คงทานข้าวไม่ลง”
“ครับ ผมจะโทร.มา”
เจ้าคุณรับคำกอดแล้วก้มลงกราบแม่ รจนาวรรณหอมฟอดใหญ่ซ้ายขวา น้ำตาเปียกแก้ม เจ้าคุณขึ้นรถไปกับก้องเกียรติและกิ่งแก้ว คุณหญิงแม่โบกมือลาจนลับตา
“อย่าลืมโทร.หาแม่นะลูกจ๋า แม่คิดถึงลูกนะจ๊ะ ฮือๆ ทำไมฉันรู้สึกใจมันหวิวๆ ยังไงพิกลก็ไม่รู้ตากระตุกด้วย”
“ข้างไหนครับผม” ไมเคิลถาม
“ตาบอดรึไงแก ไอ้ไมค์ ไม่เห็นเหรอ ข้างขวา”
“แย่แล้ว ขวาร้าย ซ้ายดี” มะขิ่นทำนาย
“ขวาร้าย ลูกคุณ!”

คำทำนายทายทักของมะขิ่นยิ่งทำให้รจนาวรรณคิดถึงและเป็นห่วงเจ้าคุณมากขึ้น

อ่านต่อตอนที่ 2




กำลังโหลดความคิดเห็น