เรื่องย่อจบบริบูรณ์
“มือปราบพ่อลูกอ่อน”
บทประพันธ์ : สีชาติ
บทโทรทัศน์ : ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
กำกับการแสดง : ปกาศิต กิ่งศักดิ์ - ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ผู้จัด : ณฐนนท์ ชลลัมพี บริษัทชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
แนวละคร : โรแมนติก แอ็คชั่น คอมเมดี้
วันเวลาออกอากาศ : เวลา 20.15 น.ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3
ออกอากาศ : วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 -
จำนวนตอนออกอากาศ :
กริสน์ (ศรราม เทพพิทักษ์) นายตำรวจนอกเครื่องแบบ อารมณ์ดี ขี้เล่น แต่ในเรื่องงานจริงจังกับหน้าที่มาก ฝีมือการต่อสู้อยู่ในระดับขั้นเทพ ไม่ชอบความจู้จี้จุกจิก ขี้รำคาญ และที่สำคัญไม่ชอบเด็ก หากมีเด็กมายุ่งด้วยในเวลาทำงานจะทำงานพลาดตลอดๆ
กริสน์ทำงานให้หน่วยงานลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกส่งไปแฝงตัวเป็นสายสืบ คอยสืบข่าวความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายาเสพติด โดยเป็นบอดี้การ์ดปลายแถวคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ อธิป (ธนายง ว่องตระกูล) มาเฟียใหญ่ที่เปิดธุรกิจ อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ตบังหน้า อธิปมักจะป่วยออดๆ แอดๆ อย่างไร้สาเหตุเสมอ กริสน์ได้ไปประสบเหตุการณ์ลอบฆ่าอธิป จากฝีมือของ จตุพล (ศุภกร กิจสุวรรณ) หลานชายห่างๆ ของอธิปผู้มีนิสัยมักใหญ่ใฝ่สูงอยู่เบื้องหลัง ซึ่งร่วมมือกับ น้อมพงษ์ (ศานติ สันติเวชกุล) เจ้าของสถานบันเทิงกลางคืน เพื่อตนจะได้ขึ้นเป็นมาเฟียใหญ่แทนอธิป
กริสน์ได้เสี่ยงชีวิตช่วยอธิปให้รอดพ้นจากการลอบฆ่าครั้งนี้ จนอธิปไว้วางใจให้เป็นคนสนิท เป็นสาเหตุที่ทำให้จตุพลอิจฉา เพราะอธิปให้ความสำคัญกับกริสน์มากกว่าหลานแท้ๆ อย่างตน
กริสน์ได้รับข้อมูลจาก ภัทรดนัย (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) นายตำรวจชื่อเท่ แต่บุคลิกต่างกันราวฟ้ากับเหว ขี้เล่นผิดจังหวะและจริงจังผิดสถานการณ์ เพื่อนสนิท ซึ่งประสานงานกันมาตลอด ว่าจะมีการส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ในงานฉลองวันเกิดของ โอปอ (น้องแจน เดอะเทรนเนอร์ - ด.ญ.ครองขวัญ มงคล) สาวน้อยวัย 16 ปี ลูกสาวคนเดียวของอธิป กริสน์จึงรีบไปโรงแรมเพื่อเคลียร์สถานที่
แต่เพราะขณะปฏิบัติภารกิจลับกริสน์ดันไปยืนเกะกะขวางทาง พิมมาดา (สุนิสา เจสท์) สาวสวยหุ่นดี เจ้าระเบียบ ปากจัด เจ้าของร้านดอกไม้ซึ่งถูกจ้างมาตกแต่งดอกไม้ในงานเลี้ยงวันนี้ ในระหว่างที่เธอกำลังช่วย เต๋า ( สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ) และ เต้ย (หนึ่ง-รณภร คณิชิวาภรณ์) ลูกน้องฝีมือดี จัดดอกไม้อยู่ในงาน จึงเกิดเรื่องชนกันสะดุดล้มหัวคะมำ ทำเอาซุ้มดอกไม้ในงานที่ตั้งเตรียมอยู่ใกล้ๆ หล่นกระจัดกระจาย ทั้งสองต่างกล่าวโทษกันจนเกิดการปะทะคารมกันอย่างรุนแรง แต่ได้อธิปมาห้ามปรามไว้ และชวนกริสน์ขึ้นไปคุ้มกันความปลอดภัยหน้าห้องที่อธิปบอกว่าจะมีการเจรจาธุรกิจสำคัญกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ที่หน้าห้องนั้น กริสน์พยายามเข้าไปเพื่อสืบค้นว่าผู้ใหญ่ที่อธิปเจรจาธุรกิจด้วยนั้นเป็นใคร แต่ไม่สามารถเข้าได้ จนกระทั่งมีบริกรซึ่งถูกสั่งให้ยกช่อดอกไม้จากร้านพิมมาดาที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเข้าไปในห้อง กริสน์ได้จึงเห็นว่าอธิปนั่งคุยอยู่กับ สุขสันต์ (ธนากร โปษยานนท์) นักการเมืองหนุ่มใหญ่ ที่ได้ดีเพราะแฟนสาวไฮโซ แพรวพิลาศ (นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล) สุขสันต์เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งประเทศโดยเฉพาะสาวๆ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษ บวกกับภาพลักษณ์ที่ทุ่มเททำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านเกี่ยวกับเด็กมาโดยตลอด แต่เบื้องหลังของสุขสันต์คือพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่โดยมี ฉัตรชัย (แบด-ศิณัชชัย คูสกุลธรม) และ ฮิม (อิทธพันธ์ จิรสุขประเสริฐ) เป็นสมุนข้างกาย
แต่ก่อนที่ กริสน์จะได้ข้อมูลมากไปกว่านี้ มาวิน (สิทธิชัย ผาบชมพู) เจ้าหน้าที่จอมกร่างขี้โม้ซึ่งเพิ่งจบจากต่างประเทศ และเป็นอดีตคู่หมั้นของพิมพ์มาดา มาวินอยากเอาหน้าสร้างผลงาน จึงได้ทะเล่อทะล่านำกำลังตำรวจบุกเข้าไปในงาน และเปิดฉากบู๊หลับหูหลับตายิงกราดเพียงเพราะตกใจกับเสียงลูกโป่งแตกเท่านั้นเอง จึงทำให้การเจรจาระหว่างสุขสันต์และอธิปยุติโดยทันที
พร้อมๆกับที่สุขสันต์หายตัวไปโดยที่ไม่มีใครเห็น ทางฝ่ายมาวินและตำรวจบางส่วนได้ตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าพ่อที่มาร่วมงาน ทำเอาจอมกร่างอย่างมาวินถึงกับเข่าอ่อนปวกเปียก
ระหว่างนั้นกริสน์ได้รับโทรศัพท์จากภัทรดนัย สั่งให้ช่วยเหลือมาวินออกมาให้ได้ กริสน์จึงแสร้งทำทีเข้าไปเอาเรื่อง และส่งสัญญาณให้มาวินจับตนเป็นตัวประกัน แต่เพราะความอ่อนหัดของอีกฝ่าย ดันตื่นเต้นจนหันมาซุบซิบกับกริสน์ตอนเดินผ่านเวที เสียงจึงดังลอดเข้าไมค์จนได้ยินไปทั่วห้องจัดเลี้ยง
ฐานะของกริสน์ถูกเปิดเผย เลยต้องเผ่นหนีอุตลุต จตุพลฉวยโอกาสแฉว่ากริสน์เป็นสายตำรวจ
พิมมาดาต้องตกกะไดพลอยโจน เข้าสู่วังวนของการไล่ล่า ขณะที่เธอเดินโทรศัพท์เล่าเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นให้เพื่อนฟังเป็นฉากๆ พอกำลังจะเปิดประตูรถ กริสน์ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ ก็พุ่งเข้ามาดันตัวเธอขึ้นรถ แล้วสั่งให้พาหนีการตามล่าจากสมุนจตุพลที่ไล่ยิงมาติดๆ
พิมมาดาโวยวายลั่น ทั้งถีบทั้งตบกริสน์ เพื่อเอาตัวรอด แต่พอไม่นานมีเสียงปืนจากสมุนจตุพลยิงถล่มเข้าใส่ พิมมาดาถึงกับกรี๊ดหลับหูหลับตา ถอยรถจนเกือบจะไปทับเหล่ามือปืนทั้งหลายที่วิ่งกรูตามมา ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิด พุ่งหนีการตามล่าอย่างน่าหวาดเสียว โดยมีกริสน์คอยสั่งการและยิงสวนกับกลุ่มลูกน้องจตุพล พิมมาดาขับปาดซ้ายแซงขวาตลอดทาง สร้างความอลหม่านไปทั่วท้องถนน จนในที่สุดก็สามารถหนีรอดจากการติดตามสำเร็จ
พิมมาดาพยายามไล่กริสน์ให้ลงจากรถ เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหา แต่กริสน์ซึ่งโดนกระสุนขณะหนีการไล่ล่า ขู่ว่าตอนนี้ยังไม่ปลอดภัยดี สุดท้ายพิมมาดาจึงจำใจยอมให้กริสน์นั่งร่วมทางจนไปถึงบ้าน และเมื่อถึงที่หมายยังไม่ทันจะหันไปไล่เขา พิมมาดาก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อ แจ๊ส (น้องดาด้า - ด.ญ.สุชาดาเช็คลีย์) กับ โจ๊ก (น้องสกาย - ด.ช.สุทธินันท์ เทียนสุวรรณ) หลานจอมป่วง วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่า จีจ้า (น้องชาร์เลท - ด.ญ.ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) หลานสาวคนเล็กอาการหอบหืดกำเริบ มิหนำซ้ำยาขยายหลอดลมก็ดันมาหมดพอดี กริสน์ได้สติก่อนเพื่อนจึงรีบอุ้มจีจ้าพาไปส่งโรงพยาบาล โดยสภาพแย่ไม่ต่างกันทั้งคนอุ้มและคนถูกอุ้ม
อาการของจีจ้าดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้ ส่วนกริสน์ก็แยกย้ายไปทำแผล ขณะที่กริสน์กำลังเดินออกจากโรงพยาบาลเขาเห็นพิมมาดาและเด็กๆ โดนสมุนจตุพลล้อมอยู่ที่รถเพราะเข้าใจผิดว่าพิมมาดาและเด็กๆ ทั้ง 3 เป็นครอบครัวกริสน์ จึงมาดักทำร้าย กริสน์เข้าต่อสู้ด้วยฝีมือบู๊ขั้นเทพ จัดการสมุนจตุพลราบคาบ ช่วยเหลือพิมมาดาและเด็กๆ สำเร็จ ทำให้จีจ้าชื่นชมอย่างออกนอกหน้า พิมมาดาพากริสน์ไปส่งที่บ้านเป็นการตอบแทนอย่างไม่เต็มใจนัก
กริสน์ลงจากรถ กำลังเดินจะถึงตัวบ้าน เขาก็พบว่ามีตำรวจหลายนายแอบดักซุ่มอยู่รอบๆบริเวณ จึงตัดสินใจวิ่งหลบหนีเลาะลัดออกหลังซอย และกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะที่วิ่งผ่านมาพอดี กลายเป็นว่ารถคันนั้นคือรถพิมมาดาที่กำลังแล่นออกมาจากซอยพอดีเป๊ะ จีจ้าที่นั่งอยู่เบาะหลังได้ยินเสียงกุกกัก หันไปมองพบว่าเป็นกริสน์ เธอดีใจจนแทบจะตะโกนออกมาแต่กริสน์จุ๊ปากห้ามเอาไว้
เมื่อถึงบ้าน พิมมาดาให้หลานๆ ช่วยขนของลงจากท้ายกระบะก็ต้องตกใจเมื่อเห็นกริสน์นอนหมดสติเพราะแผลเลือดนองอักเสบไข้ขึ้นอยู่ท้ายรถ สุดท้ายพิมมาดากับเด็กๆต้องช่วยกันลากชายหนุ่มลงจากท้ายรถด้วยความทุลักทุเลเพื่อมาทำแผลและให้กริสน์พักอยู่ในโรงรถแทนที่จะให้ขึ้นไปพักรักษาตัวอยู่ในบ้าน
แม้วัยจะเฉียดเลขสามในเร็ววันนี้ แต่พิมมาดายังครองตัวเป็นโสดไม่มีคนมาจีบ เพราะคนอื่นๆ ต่างก็คิดว่าเธอเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง โดยหลังจากพี่ชายและพี่สะใภ้ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุได้ทิ้งหลานจอมแสบทั้งสามคนกับกิจการร้านดอกไม้ให้เธอรับช่วงดูแลต่อ โดยมี เต๋า และ เต้ย สองลูกจ้างชายใจหญิงคู่หูติงต๊องแต่ฝีมือดีมาก...คอยช่วยงาน ตั้งแต่วันนั้นพิมมาดาก็กลายเป็นคุณแม่จำเป็นของเด็กๆ ที่คอยหาเรื่องมาให้ปวดหัวได้ทุกวัน
โจ๊ก อายุ 15 ปีแล้ว เป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นกำลังคึกคะนอง เรียนหนังสือไม่เก่ง และไม่ชอบถูกบังคับ ต่างจาก แจ๊ส น้องสาววัย 10 ซึ่งเป็นเด็กเก็บกด แม้จะเรียนหนังสือเก่ง แต่ก็เป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว เป็นพวกแอนตี้สังคม ส่วน จีจ้า น้องสาวคนเล็กวัย 6 ขวบนั้นเป็นจอมทะเล้นประจำบ้าน มีเจ้าป๊อปคอร์น น้องหมาพันธุ์ชิวาวาเป็นเพื่อนซี้ จีจ้าชอบดูการ์ตูนแนวซูเปอร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ มีนิสัยสดใสร่าเริงตามวัย แต่มีโรคหืดหอบประจำตัว ถึงแม้ทั้งสามจะเป็นพี่น้องกัน แต่ด้วยอายุที่แตกต่างกันจึงทำให้ทั้งสามทะเลาะกันแทบจะทั้งวันทุกครั้งที่รวมตัวกัน โดยเฉพาะลับหลังพิมมาดาด้วยแล้ว ทั้งสามจะสะกดคำว่าระเบียบไม่เป็นเลยทีเดียว นอกจากนั้นเด็กๆ ยังถูกเรียกพบผู้ปกครองและถูกหมายหัวจากอาจารย์ประจำชั้น พิมมาดาต้องปวดหัววิ่งเข้าออกโรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง
ทางด้านกริสน์เข้าใจว่าพิมมาดาเป็นสาวใจแตก ริมีแฟนตั้งแต่ยังเด็ก ถึงได้มีลูกตั้งสามคน มิหนำซ้ำยังเป็นเผด็จการกับเด็กๆ แต่เรื่องของพิมมาดายังไม่ได้กวนใจให้เขาปวดหัวเมื่อเทียบกับที่จอมแสบทั้ง 3 คน โดยเฉพาะจีจ้าที่ทำท่าจะปลื้มเขาเอามากๆ ถึงกับหอบหมอนมาขอนอนด้วย รบเร้าให้กริสน์เล่าวีรกรรมบู๊โลดโผนและเป็นอาจารย์แบบคาราเต้คิดให้ กริสน์รำคาญถึงขั้นโวยวายอาละวาดเมื่อมีเด็กมานัวเนียใกล้ๆ พิมมาดาออกคำสั่งกับเด็กๆห้ามวุ่นวายกับกริสน์อีกเพราะกลัวว่าเด็กๆ จะเป็นคนชอบความรุนแรง
ภัทรดนัยปลอมตัวมาส่งข่าวให้กริสน์รับรู้ว่าขณะนี้นอกจากจะถูกเปิดโปงจากวงการมาเฟียว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบแล้ว ยังถูกใส่ร้ายโดนออกหมายจับคดีรับสินบนจากทางการอีกด้วย กริสน์จึงแปลงโฉมตัวเองโดยการโกนหนวดโกนเคราและหั่นผมที่ยาวสลวยทิ้งและตั้งใจจะแวะไปที่ร้านดอกไม้เพื่อจะลาและขอโทษพิมมาดาแต่กลับไม่พบ เพราะยังไม่กลับจากส่งเด็กๆไปโรงเรียน กริสน์กลับถูกกะรัตและสมหญิงซึ่งตอนแรกจำไม่ได้ว่าเป็นคนเดิมขอร้องให้ช่วยอยู่เฝ้าร้านแทนชั่วครู่ เพราะทั้งคู่จะไปถ่ายรูปศิลปินเอเอฟซึ่งมาถ่ายแบบอยู่ใกล้ๆ กริสน์ไม่พอใจแต่ไม่มีเวลาจะคิดอะไร เมื่อลูกค้าแห่กันเข้ามาสั่งดอกไม้จนรับออเดอร์แทบไม่ทัน ระหว่างกำลังวุ่นวายอยู่กับการต้อนรับลูกค้า รอยยิ้มของกริสน์ก็หุบลง เมื่อมาวินก้าวเข้ามาและแสดงตัวว่าเป็นคนรักเก่าของพิมมาดา แต่ทิ้งหญิงสาวไปเมืองนอก ปล่อยให้พิมมาดาคิดว่าปมด้อยของตัวเองเป็นต้นเหตุ
มาวินจำกริสน์ไม่ได้เพราะรูปลักษณ์ที่สะอาดสะอ้าน ไม่เหลือคราบบอดี้การ์ดในวันนั้น แต่กริสน์จำแม่นว่ามาวินเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด พอเห็นมาวินมาอวดเบ่ง ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพิมมาดา จึงเกิดความหมั่นไส้ ยียวนกวนโมโหใส่กัน ทำเอาลูกค้าต้องรีบเผ่นหนีกันให้จ้าละหวั่น โชคดีที่พิมมาดากลับมาห้ามศึกได้ทัน หลังจากมาวินกลับไปอย่างขัดใจ พิมมาดาก็หันมาจะเล่นงานกริสน์ ทั้งที่เขาเอาใบออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งดอกไม้ทั้งหมดที่เขาช่วยรับมาให้ดู ทำเอากริสน์รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแร
กริสน์หุนหันออกมาจากร้าน จีจ้าซึ่งไม่สบายไม่ได้ไปโรงเรียนเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปโวยวายหาว่าพิมมาดาใจร้าย เลยถูกลงโทษด้วยการสั่งกักบริเวณ แต่เจ้าตัวแสบแอบปีนหน้าต่างหนี และได้ทันเห็นกริสน์กำลังขึ้นรถแท็กซี่ออกจากร้านไปพอดี
กริสน์ตั้งใจแอบเข้าไปที่บ้านตนเองเพื่อไปเอาหลักฐานสำคัญของจตุพลที่ตนสืบได้ในช่วงที่เป็นบอดี้การ์ดเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ขณะที่กริสน์กำลังเก็บหลักฐานอย่างระวังตัวอยู่นั้น เขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังลั่น เขาคว้าปืนไปดูที่ประตู กลับพบจีจ้ายืนอยู่คนเดียว จีจ้าเฉลยว่าตัวเองขอร้องมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีให้ตามกริสน์มาและขออยู่ด้วย เพราะโกรธน้าที่ชอบดุ ผสมกับความชื่นชอบกริสน์ส่วนตัว จีจ้ารบเร้าจนกริสน์รำคาญ ยอมให้อยู่ด้วย จอมป่วนถึงยอมสงบลงได้ กริสน์โทร.หาพิมมาดาเพื่อแจ้งข่าวว่าจีจ้าปลอดภัย แทนที่จะได้รับคำขอบคุณ กลับถูกหญิงสาวกล่าวหาว่าเป็นโจรลักพาตัว กริสน์จึงตัดบท แกล้งทิ้งให้พิมมาดากระวนกระวายอย่างสะใจ แต่แล้วกรรมก็ตามสนอง คืนนั้นกลับกลายเป็นฝันร้ายสุดๆ สำหรับกริสน์ ที่ต้องดูแลเด็ก 6 ขวบทั้งคืน
วันรุ่งขึ้นกริสน์ถูกจีจ้าปลุกให้ตื่นขึ้นตั้งแต่เช้ามืด จีจ้าลากกริสน์ที่ยังสะลึมสะลือมาที่หน้าต่าง ด้วยสัญชาติญานกริสน์รู้สึกตัวว่ามีคนซุ่มอยู่รอบบ้าน กริสน์รีบคว้าปืนและไม่ลืมคว้ายาพ่นหอบหืดของจีจ้ากระโดดหนีออกทางหน้าต่างไปด้วย กริสน์นอกจากจะต้องหนีเอาตัวรอดหัวซุกหัวซุนจากพวกลูกน้องจตุพลแล้ว ยังต้องคอยพะวงกับการหิ้วจีจ้าติดตัว แต่เจ้าตัวแสบกลับเห็นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสนุกสนานหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนกระทั่งอาการหอบกำเริบ กริสน์นั้นไหนจะต้องรีบบรรจุกระสุนแล้วยังต้องรีบพ่นยาแก้หอบให้จีจ้าด้วย แต่ก่อนที่กริสน์จะจนมุม จู่ๆ ภัทรดนัยก็ขับรถเข้ามาสลายวงล้อม พากริสน์กับจีจ้าหนีรอดได้ทัน
พิมมาดาจากที่เคยสดในเปลี่ยนไปเป็นคนเคร่งเครียด เพราะคำฝากฝังของพี่ชายที่กลัวว่าลูกๆจะ เติบโตขึ้นมาในสังคมอย่างไม่มีคุณภาพ เธอจึงเข้มงวดกับเด็กๆ เพื่อไม่ให้พี่ชายบนสวรรค์ต้องเสียใจ...เรื่องที่จีจ้าหลานชายคนเล็กหายตัวไปพร้อมๆกับชายแปลกหน้าทำให้เธอรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจและทำให้ได้พบกับมาวินอดีตคนรักของเธออีกครั้ง
เมื่อกริสน์พาจีจ้ากลับมาถึงบ้าน ก็เกิดมีปากเสียงระหว่างกริสน์กับพิมมาดา มาวินโยนความผิดว่า กริสน์เป็นคนร้ายลักพาตัวจีจ้าไป มาวินทำอวดเก่งจะเข้าไปจับกุมตัว เลยถูกกริสน์เล่นงานสอนมวยจนล้มไม่เป็นท่า ท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของเด็กๆ พิมมาดาขอร้องให้มาวินกลับไปก่อน จากนั้นก็ไล่กริสน์ออกจากร้านไป
ระหว่างที่กริสน์เดินแช่งชักหักกระดูกพิมมาดามานั้น พอดีสวนกับสุขสันต์ที่กำลังเดินเข้าไปพบพิมมาดา กริสน์จำได้ และนึกสงสัยบวกกับภัทรดนัยที่รอรับกริสน์อยู่หน้าร้านให้ข้อมูลว่า สุขสันต์มาติดพันพิมมาดาได้ระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่พิมมาดามาจัดดอกไม้ในงานเลี้ยงวันเกิดลูกสาว สุขสันต์ประทับใจในความสวยมีเสน่ห์ของพิมมาดามาก เลยเอาเรื่องดอกไม้ที่เป็นผู้นำเข้าและส่งออกมาเป็นข้ออ้างเพื่อมาพบหญิงสาวที่ร้านตลอด พิมมาดาเองก็ชื่นชมในความเป็นกันเองง่ายๆของนักการเมืองอย่างสุขสันต์เช่นกัน กริสน์ที่กำลังกลุ้มใจว่าจะสืบข้อมูลเกี่ยวกับสุขสันต์จากทางไหน จึงเกิดปิ๊งไอเดีย คิดจะใช้พิมมาดาเป็นสะพานเข้าถึงตัวของสุขสันต์
ส่วนในร้านดอกไม้ สุขสันต์ที่เห็นว่าโจ๊ก แจ๊ส และจีจ้า เป็นอุปสรรคความรักของเขากับพิมมาดา ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์ที่รักเด็กอย่างที่ใครๆเห็น เสนอที่จะรับเป็นธุระส่งเด็กๆทั้ง3 ไปศึกษาต่อต่างประเทศ พิมมาดาถูกกล่อมจนเห็นดีเห็นงามด้วย โดยที่ไม่ถามความสมัครใจของเด็กๆ เมื่อทั้ง 3 รู้เข้าก็โกรธและต่อต้าน จนถูกพิมมาดาดุรุนแรง เด็กๆ โดยเฉพาะจีจ้าที่น้อยใจวิ่งร้องไห้ออกมาจากร้านมาเจอกับกริสน์ที่ด้อมมอง หาทางจะเข้าไปสืบพอดี จีจ้าโผเข้ากอดกริสน์ทันที และฟ้องกริสน์อย่างขมขื่น
เมื่อสุขสันต์กลับไปแล้ว เด็กๆ กลับเข้ามายื่นข้อเสนอกับพิมมาดา ว่าทั้ง 3 จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นคนมีระเบียบวินัย อีกทั้งสัญญาว่าผลการสอบปลายภาคที่จะมีใน 1 เดือนถัดไปจะทำให้ติด 1 ใน 10 ให้ได้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องมีกริสน์เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่ไม่เป็นผล พิมมาดาใจแข็งยืนยันไม่รับเขา กริสน์ส่งซิกกับเด็กๆทันที จีจ้าเริ่มบีบน้ำตาอ้อนวอนผสมกับแกล้งทำอาการหอบหืดเพื่อขอร้องพิมมาดาอนุญาตให้กริสน์อยู่ที่นี่ด้วย ใครเข้ามาช่วยจีจ้าก็ยิ่งดีดดิ้นหนักขึ้น โจ๊กและแจ๊สโวยวายร้องให้กริสน์ช่วย
พิมมาดายอมรับปากเด็กๆ ให้กริสน์พักอยู่ด้วย โดยมีเงื่อนไขเพิ่มว่าภายใน 1 เดือน กริสน์ต้องทำให้เด็กๆ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้พ้นจากข้อหาทัณฑ์บน ไม่เคยทำความดีงามให้โรงเรียน ก่อแต่ปัญหา แลกกับการที่ไม่ต้องถูกส่งไปต่างประเทศ และเขาจะต้องทำงานในร้านดอกไม้ด้วยถ้ากริสน์ทำไม่ได้ เธอจะไล่ออกทันที เพราะเธอเชื่อว่ากริสน์ไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้อย่างแน่นอน
กริสน์ไม่คิดว่าการรับบทลูกจ้างร้านดอกไม้จะยากกว่างานตำรวจของเขา แค่จดจำชื่อดอกไม้ทั้งหมดให้ได้ก็เซ็งแล้ว วันแรกเขาก็ทำดอกไม้ช้ำเสียหายไปหลายดอก รวมทั้งแจกันแตกเกือบยกลัง แถมยังถูกพิมมาดาใช้ให้เป็นแมสเซนเจอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งดอกไม้ให้ลูกค้าด้วย แต่กริสน์ก็ยังโชคดีที่กะรัตและสมหญิงคอยช่วยเหลือห่างๆ ถึงแม้ว่าภาพผู้ชายร่างใหญ่ท่ามกลางดอกไม้สวยงามจะดูขัดตา
อย่างไร แต่กริสน์สามารถดึงลูกค้าให้เข้าร้านได้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะนอกจากหุ่น ล่ำ มาดแมนแล้ว กริสน์ยังมีลีลา และท่าทางไม่เหมือนใครจนเป็นที่ดึงดูดของลูกค้า ทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงกลุ่มชายไม่จริงหญิงไม่แท้ โดยเฉพาะ เค้ก (สิตางศุ์ ปุณภพ) สาวสวยเซ็กซี่เจ้าของร้านเบเกอร์รี่ฝั่งตรงข้ามที่เข้ามาติดพันกริสน์ ใฝ่ฝันอยากได้มาเป็นพ่อของลูก แม้จะมีใครพูดเข้าหูว่า กริสน์อาจจะเป็นเกย์เพราะผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนจะชอบและมีความใฝ่ฝันอยากทำงานร้านดอกไม้ แต่เค้กไม่เชื่อคอยติดตามและหาทางพิสูจน์ความแมนของกริสน์ตลอดเวลา สร้างความปวดหัวให้กริสน์เป็นอย่างมาก
นอกจากนั้นกริสน์ยังต้องเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กๆ ทั้งที่กริสน์ไม่ได้อยากทำ แต่เด็กๆ เป็นลู่ทางในการทำให้พิมวางใจ เขาจะได้เข้าหาสุขสันต์ได้เร็วๆ กริสน์ใช้มาตรการสั่งสอนเด็กๆเหมือนอยู่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจโดยการเป่านกหวีดปรี๊ดปลุกเด็กๆทุกเช้า ขุดทั้ง3ออกมาจากเตียง จัดการแต่งตัว เฝ้าทั้ง3กินอาหารเช้าที่พิมมาดาทำให้ วันแรกที่กริสน์พาเด็กๆไปโรงเรียน เส้นเลือดในสมองของกริสน์ก็แทบแตก เพราะความวุ่นวายสุดๆ ไม่มีใครนั่งเฉยๆสักคน เอาแต่ทะเลาะ ปาของใส่กัน เป็นการขับรถที่ทรมานที่สุดในชีวิตของกริสน์ แต่เมื่อถึงโรงเรียนเขาก็กลับกลายเป็นฮีโร่ เมื่อช่วยเหลือ เมทินี (ดารณีนุช โพธิปิติ) ม่ายสาวไฮโซที่มาส่ง ลูกปาล์ม (แจ็ค แฟนฉัน - เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) คู่ปรับตัวฉกาจน์ของโจ๊ก จากโรคจิตแอบถ่าย ทำให้เมทินีปลื้มกริสน์เป็นอย่างมาก รวมถึง ครูฟ้าใส (พุดเดิ้ล ปาจารีย์ ณ นคร) ทำให้เมทินีปลื้ม กริสน์ถึงขนาดตามมาขอบคุณที่ร้านดอกไม้ โดยไม่คิดว่าพิมมาดาจะแอบไม่พอใจอยู่ลึกๆ แต่ซ่อนความรู้สึกเอาไว้ใต้รอยยิ้มและพาลอารมณ์ไม่ดีไปทั้งวันจนกะรัตและสมหญิงผิดสังเกต
หลังจากส่งเด็กๆ เข้าโรงเรียน กริสน์อาศัยช่วงเวลาที่พ้นสายตาพิมมาดาติดต่อกับภัทรดนัยได้สะดวก แต่โชคร้ายที่เค้กผ่านมาเห็นกริสน์กับภัทรดนัย ทำให้เค้กเข้าใจว่าภัทรดนัยเป็นคู่ขาของกริสน์ เค้กพาลเกลียดภัทรดนัยที่มาพรากผู้ชายในฝันของเธอ ทุกครั้งที่ภัทรดนัยปลอมตัวมารอกริสน์ที่ร้านของเธอ เค้กจะต้อนรับภัทรดนัยอย่างไม่แยแส ไม่ดูแล กลายเป็นคู่กัดที่ระห่ำจนใครก็ฉุดไม่อยู่
กริสน์พยายามสนับสนุนให้พิมมาดาชักชวนสุขสันต์มาที่ร้านดอกไม้บ่อยๆ และยังคอยพูดเชียร์ให้พิมมาดาเปิดใจรับสุขสันต์ไว้พิจารณา ทุกครั้งที่สุขสันต์มาหาพิมมาดาที่ร้าน กริสน์จะเข้ามาวนเวียนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สุขสันต์ก็ไม่เอะใจอะไร เพราะคิดว่ากริสน์เป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน จนกระทั่ง กริสน์สังเกตเห็นอากัปกิริยาของสุขสันต์ที่เวลาเจอพวกเด็กๆ ดูแล้วมีอาการไม่ต่างจากตัวเองที่ไม่ถูกชะตากับเด็กๆ ซึ่งขัดแย้งกับภาพนักการเมืองรักเด็กที่สุขสันต์มีเป็นอย่างมาก กริสน์เผลอแฉสุขสันต์ แล้วงงที่ห้ามปากตัวเองไม่ได้ เหมือนเขาเกิดจริงใจกับพิมและเด็กๆขึ้นมา ซึ่งเป็นการผิดแผนอย่างร้ายแรง โชคดี ที่พิมมาดาสั่งให้กริสน์สนใจทำงานมากกว่าเรื่องของเธอ แล้วไล่ให้ไปดูแลเด็กๆไม่ให้มาก่อกวนเธอกับสุขสันต์อีก
หลังเลิกเรียนและช่วงวันหยุดจีจ้าก็มักจะมาขลุกอยู่ที่ร้านดอกไม้และติดสอยห้อยตามกริสน์ไปส่งดอกไม้อยู่เสมอเพราะอยากจะคลุกคลีใกล้ชิดกับกริสน์ซึ่งเป็นฮีโร่ของเขา การทำงานลับๆ ของกริสน์จึงยากลำบากมากขึ้น เพราะต้องระวังทั้งพิมมาดา จีจ้า แล้วยังมีเค้กที่ชอบโผล่มากระทำการ ”ตรวจตุ๊ด” แบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ไม่มีปี่มีขลุ่ยอีกด้วย
กริสน์รับข้อมูลจากภัทรดนัยที่ต้องการเอกสารด้านบัญชีของสุขสันต์ เท่ากับว่ากริสน์ต้องหาทางเข้าถึงบ้านของสุขสันต์ให้ได้ กริสน์พยายามตื๊อให้พิมมาดาไปทานดินเนอร์ที่บ้านสุขสันต์ แต่พิมมาดาไม่เอาด้วย กริสน์จึงหาจังหวะเหมาะๆ แอบเอามือถือของพิมมาดามาส่งข้อความไปหาสุขสันต์เรื่องทานอาหารค่ำที่บ้าน แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อแจ๊สเข้ามาเจอ กริสน์พยายามหาข้ออ้าง เพราะกลัวว่าแจ๊สจะปากโป้งไปเล่าให้พิมมาดาฟัง แต่ผิดคาดเมื่อแจ๊สยื่นข้อเสนออย่างเป็นต่อ ให้พรุ่งนี้เขาไปโรงเรียนในฐานะผู้ปกครองของตนแลกกับการที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
วันรุ่งขึ้นกริสน์แต่งตัวเท่ห์ ผูกไทด์เตรียมตัวไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าตรู่ และจากการที่กริสน์ได้คุยกับ ครูวันใส ครูประจำชั้นของแจ๊สอย่างเป็นทางการ ครูฟ้าใสประทับใจกริสน์ตั้งแต่วันที่ช่วยเมทินี กริสน์จึงได้รู้ว่าถึงแม้แจ๊สจะเรียนเก่ง แต่เข้ากับเพื่อนๆ ในชั้นเรียนไม่ได้เลย เอาแต่เก็บตัวอยู่คนเดียว วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มาก็มั่นใจว่าต้นเหตุน่าจะเกิดจากการเข้มงวดของพิมมาดา การที่กริสน์เข้าไปข้องเกี่ยวกับแจ๊สที่โรงเรียนทำให้เขาเริ่มรู้ข้อมูลว่า แจ๊ส ถูกเพื่อนล้อเรื่องที่แอบไปปลื้มรุ่นพี่ที่ชื่อ ลูกปาล์ม ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเมทินี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นและคู่ปรับของโจ๊ก
ยิ่งไปกว่านั้นกริสน์ยังได้รู้ความลับสำคัญว่าโจ๊กเป็นสมาชิกชมรมกีฬาชกมวย ถึงขนาดเป็นนักกีฬาโรงเรียนโดยมี ครูพงษ์พัฒน์ (ปีเตอร์ ไมอ๊อคชิ) เป็นครูพี่เลี้ยง ที่มักจะคอยพูดจาข่มขู่และดูถูกกริสน์ต่อหน้าเด็กๆ เสมอ โดยเฉพาะต่อหน้าครูวันใส เพราะครูพงษ์พัฒน์ แอบหลงรักครูวันใสอยู่ ด้วยเหตุนี้โจ๊กจึงมีรอยฟกช้ำพกกลับบ้านให้เห็นอยู่เสมอ เป็นเหตุให้พิมมาดาเข้าใจผิด คิดว่าโจ๊กชอบไปก่อเรื่องวิวาท ทำตัวเป็นนักเลงนักเรียนไปโน่น
โจ๊กขอร้องกริสน์ไม่ให้บอกเรื่องที่เขาเป็นสมาชิกชมรมกีฬาชกมวยกับพิมมาดา เพราะกลัวถูกบังคับให้เลิกชกมวย และกริสน์ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้พบกับ โอปอ ลูกสาวคนเดียวของอธิปอีกครั้ง โอปอเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ โอปอรู้สึกสนใจโจ๊กตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเขายี้ใส่ความน่ารักความสวยของตน ทำให้โอปออยากเอาชนะ แต่ท่าทางความรักจะเป็นรักสามเส้าอิรุงตุงนัง เมื่อหนุ่มปาล์มก็มีใจให้โอปอไม่น้อยเช่นกัน ถึงแม้ว่ากริสน์จะพยายามหลบหน้าอย่างไร แต่โอปอก็ยังจำเขาได้ โชคดีที่โอปอไม่ต้องการให้โจ๊กรู้เรื่องครอบครัว จึงบอกแค่ว่ากริสน์เป็นคนขับรถให้ตนมาก่อน
เมื่อกลับมาถึงร้านดอกไม้ กริสน์พบว่าสุขสันต์อยู่กับพิมมาดาอยู่ก่อนแล้ว สุขสันต์ยังคงแสร้งทำเป็นหวังดีมายืนยันที่เสนอตัวเป็นธุระส่งเด็กๆ ทั้ง3 ไปศึกษาต่อต่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีของเด็กๆ กริสน์พยายามจะพูดกับพิมมาดา แต่พิมมาดากลับต่อว่ากริสน์ที่เข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเธอมากเกินไป แล้วที่สำคัญกริสน์ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยพวกเด็กๆได้ ทำให้กริสน์ต้องยกเอาข้อตกลงที่พิมมาดาเคยให้กับเด็กๆไว้ว่าในเวลา1เดือน กริสน์จะเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กๆให้ได้ ถ้ายังไม่ครบเดือน พิมมาดาห้ามส่งเด็กๆ ไปไหนทั้งสิ้น
สุขสันต์ตัดพ้อที่พิมมาดาให้ความสนิทสนมกับกริสน์ เขาเห็นว่ากริสน์เป็นผู้ทำให้พิมมาดาลังเลเรื่องส่งเด็กๆไปต่างประเทศ และบางครั้งก็ดูทั้งคู่ใกล้ชิดกันเกินควร วันนั้นหลังจากสุขสันต์กลับออกไปจากร้าน กริสน์ตัดสินใจขับรถกระบะส่งดอกไม้ตามออกไป โดยไม่รู้ว่ามีเด็กๆ ขึ้นท้ายกระบะตามไปด้วย กริสน์ตามสุขสันต์ไปจนถึงโกดังท่าเรือแห่งหนึ่ง กริสน์ตกใจที่พบว่าเด็กๆแอบตามเขามาแต่หน้าที่การงานต้องมาก่อนกริสน์จึงออกคำสั่งเด็กๆไม่ให้ลงจากรถอย่างเด็ดขาด กริสน์สะกดรอยจนเห็นสุขสันต์เข้าไปส่งมอบของล็อตใหญ่กับจตุพล ซึ่งเป็นลังบรรจุดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ด้านใต้ลังนั้น เต็มไปด้วยยาเสพติด กริสน์รีบเอามือถือมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ส่วนด้านในสุขสันต์ขอให้จตุพลส่งคนไปจัดการพี่เลี้ยงเด็กของพิมมาดา เพราะเป็นอุปสรรคหัวใจของตน โดยที่จตุพลไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงเด็กคนนั้นคือ กริสน์ศัตรูเก่านั่นเอง
ขณะกลับไปที่รถ กริสน์ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงรู้ว่าเด็กๆ กำลังตกอยู่ในอันตรายจากลูกน้องของ จตุพลที่สุ่มดูลาดเลาอยู่ พวกเด็กๆวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง กริสน์รีบวิ่งไปช่วยเด็กๆ แต่กลับทำมือถือที่ถ่ายคลิปวิดีโอหลักฐานหล่น ทำให้กริสน์ต้องเลือกว่าจะช่วยเหลือเด็กๆหรือหลักฐาน กริสน์จำใจต้องทิ้งหลักฐาน ปล่อยให้โทรศัพท์ที่ถ่ายคลิปมาเพียบตกน้ำจมหายไป เพื่อไปช่วยโจ๊กกับจีจ้าที่อยู่ในอันตรายก่อน และพามาขึ้นรถได้ แต่กลับพบว่าแจ๊สหายไป จนกระทั่งไปเจอแจ๊สนั่งซุกและขดตัวด้วยความกลัวอยู่ในหลืบๆ หนึ่ง
กริสน์รีบพาแจ๊สออกจากที่ซ่อน และหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่พวกจตุพลจะรู้ว่าผู้บุกรุกเป็นใคร
อ่านต่อหน้า 2
เรื่องย่อจบบริบูรณ์ “มือปราบพ่อลูกอ่อน” (ต่อ)
เมื่อกริสน์และเด็กๆ กลับถึงบ้าน พิมมาดาดักรออยู่แล้ว พร้อมกับเปิดฉากโวยวายใส่กริสน์ว่าพาเด็กๆไปเถลไถลที่ไหน ทำไมเสื้อผ้าเลอะเทอะ กริสน์กับพวกเด็กช่วยกันปกปิด ด้วยการอ้างว่าไปเข้าคอร์สดัดพฤติกรรมนอกสถานที่แบบเข้มงวดมา แล้วพวกเด็กๆ ก็แสร้งทำตัวสุภาพ ยกมือไหว้ พูดจาไพเราะ ลงท้ายค่ะครับ จนพิมมาดาได้แต่มึนงง กริสน์ต้องเคลียร์กับเด็กๆอยู่นาน เด็กทั้ง3ยอมที่จะไม่ซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหวังไม่ให้กริสน์บอก พิมมาดาเรื่องที่ตามกริสน์ไปและกลัวว่าจะไม่ได้ตามออกไปผจญภัยอีก
กริสน์ได้ข่าวอธิปป่วยจากโอปอ รวมกับที่กริสน์สงสัยว่าทำไมผู้ที่ติดต่อรับของล็อตใหญ่จึงกลับกลายเป็นจตุพลแทนอธิป กริสน์จึงวางแผนสืบโดยให้โอปอทำทีว่าสั่งดอกไม้ไปให้พ่อ ทำให้มีโอกาสได้คุยกับอธิปและเก็บตัวอย่างยาที่คนของจตุพลนำมาให้อธิปกินทุกวันไปให้ภัทรดนัยตรวจสอบ จึงพบว่าจตุพลแอบวางยาพิษให้อธิปกินเรื่อยๆ เป้าหมายเพื่อโค่นบัลลังก์อธิป หวังทำธุรกิจเองโดยตรงกับสุขสันต์ กริสน์กำชับให้อธิปแอบบ้วนยาออกทุกครั้ง และสัญญาจะช่วยพาออกไปจากคฤหาสน์ของเขาที่มีแต่ลูกน้องจตุพลคุมอยู่
จตุพลสั่งลูกน้องไปจัดการกริสน์ที่ร้าน โดยทำทีเข้ามาขโมยเงิน พอดีกับมาวินเข้ามาตามตื๊อพิมมาดาอยู่ มาวินเอากฏหมายมาข่มขู่พวกโจร ยังไม่ทันได้ทำอะไร ขณะที่กริสน์จัดการลูกน้องจตุพลจนราบคาบพิมมาดาเริ่มรู้สึกประทับใจในตัวกริสน์มากขึ้นที่สามารถดูแลร้านให้ปลอดภัยได้ จตุพลสงสัยว่าทำไมพี่เลี้ยงเด็กถึงมีฝีมือขนาดจัดการลูกน้องฝีมือดีๆของเขาได้
กริสน์ต้องการติดต่อภัทรดนัยแต่ไม่สะดวกเหมือนเดิม เพราะกลัวถูกจับได้ จึงถือโอกาสวางแผนว่าอยากช่วยโปรโมทร้านให้ขายดี ด้วยการไปเดินแจกใบปลิวแถวสยาม พิมมาดาเห็นดีด้วยและยังสนับสนุนให้เขาพาโจ๊ก แจ๊ส และจีจ้าไปเป็นผู้ช่วย กริสน์เลยต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ พาไปเปิดหูเปิดตา
การแจกใบปลิวเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน แจ๊สซึ่งชอบเก็บตัวรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นวัยรุ่นได้มีเวทีแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำ หรือร้องเพลง แจ๊สชวนกริสน์กลับบ้านก่อนจะถูกเยาะเย้ยเพราะบังเอิญเหลือมาเจอกับกลุ่มเพื่อนๆที่โรงเรียน แต่แล้วกริสน์ก็เหลือบไปเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังมีปัญหา เพื่อนเจ็บขาขึ้นเวทีไม่ได้ กริสน์ได้โอกาสจึงรีบดึงแจ๊สเข้าไปแนะนำตัว แล้วอาสาที่จะขึ้นเต้นแทน แจ๊สตกกะไดพลอยโจนเลยต้องเออออไปตามที่กริสน์แนะนำ ด้วยพรสวรรค์ในการเต้นที่มีอยู่ในตัวของเด็กสาว ทำให้แจ๊สเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วทั้งลานและสามารถเอาชนะเพื่อนๆจากโรงเรียนตัวเองได้อีก สร้างความภูมิใจให้กับแจ๊สเป็นอย่างมาก
กริสน์ถือโอกาสปล่อย เด็กๆ ไว้ตามลำพังแล้วเลี่ยงไปพบภัทรดนัยซึ่งงานนี้ลงทุนปลอมตัว เป็นเด็กแร๊พโย่ กริสน์เล่าเรื่องที่ตนได้ไปเห็นมา ทั้งเรื่องของสุขสันต์และเรื่องที่อธิปถูกวางยา กริสน์มั่นใจว่าสุขสันต์ทำธุรกิจผิดกฏหมายแน่ เพียงแต่ ถ้าจะต่อกรกับคนระดับนี้ เราต้องมีหลักฐานที่แน่นหนารัดกุม ไม่อย่างนั้นเราเองจะเป็นฝ่ายถูกเล่นงานเสียเอง..แต่ยังไม่ทันวางแผนทำอะไร อยู่ๆเค้กก็ถลาเข้ามาขับไล่ภัทรดนัย ให้ออกไปห่างๆกริสน์ เพราะกริสน์กำลังจะหายขาดจากโรคชอบเพศเดียวกันแล้ว อย่าเอาเชื้อมาติดอีก ภัทรดนัยได้แต่เซ็ง
พิมมาดาได้รับเชิญจากสุขสันต์ให้ไปทานอาหารค่ำที่บ้าน กริสน์ดีใจมากที่จะมีโอกาสไปสืบข้อมูล แต่พิมมาดายื่นคำขาดว่าห้ามตามไป กริสน์รีบส่งซิกให้เด็กๆพร้อมใจกันโวยวาย อาละวาด แต่ยิ่งทำให้พิมมาดาไม่ให้ไป เพราะเกรงจะไปสร้างเรื่องวุ่นวายให้สุขสันต์ กริสน์จึงรีบส่งซิกให้เด็กๆเงียบอีกคราวนี้เด็กๆนั่งนิ่งเซื่องซื่อในทันที จนพิมมาดางง กริสน์รับรองว่าจะให้เด็กๆอยู่หน้าบ้าน ไม่ไปขัดขวางความสุขและไม่ก่อเรื่องใดๆแน่นอน
ที่บ้านสุขสันต์ ระหว่างที่พิมมาดากำลังทานอาหารค่ำอยู่กับสุขสันต์ กริสน์กำชับให้พวกเด็กๆ เล่นกันอยู่ที่สนาม ห้ามไปไหน แล้วกริสน์ก็รีบฉวยโอกาสเข้าไปในบ้าน หลบสายตาของบอดี้การ์ดต่างๆ ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในห้องทำงานของสุขสันต์ กริสน์พยายามจะดาวน์โหลดข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ออกมาให้มากที่สุดตามที่ภัทรดนัยบอกไว้ กริสน์เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์จนสามารถดาวน์โหลดได้ ระหว่างรอการดาวน์โหลดนั้น กริสน์ไปที่หน้าต่างเพื่อมองตรวจความสงบของเด็กๆ พบว่าจีจ้าหายไป เมื่อกริสน์หันมาอีกที กลับเจอจีจ้านั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังเล่นเกมอยู่ จีจ้าสั่งยกเลิกการดาวน์โหลดของกริสน์แบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กริสน์แทบคลั่ง รีบร้อนจะดาวน์โหลดใหม่อีกครั้ง แต่กลับมีคนเข้ามาเสียก่อน กริสน์ต้องรีบอุ้มจีจ้า ปีนออกทางหน้าต่าง จีจ้าพยายามร้องจะบอกกริสน์ว่าตัวเองทำรองเท้าหลุด แต่กริสน์ไม่ได้ใส่ใจ รีบออกจากห้องให้เร็วที่สุด เมื่อกริสน์โหลดข้อมูลจากคอมของสุขสันต์เพื่อเก็บหลักฐานได้สำเร็จ เวลานั้นแพรวพิลาศดันมาเจอสุขสันต์กับพิมมาดาอยู่ที่บ้านจึงโมโหมาก แพรวพิลาศด่าพิมมาดาจนหน้าชา พิมมาดารับไม่ได้รีบหนีกลับบ้านทันที
อยู่ๆ วันหนึ่งพิมมาดาก็ปรึกษากริสน์ว่าสุขสันต์ขอแต่งงาน หลังจากมางอนง้อหลังถูกแพรวพิลาศด่าประจานในงานเลี้ยงที่บ้าน พิมมาดาบอกว่าหากเธอตอบตกลง ปัญหาเรื่องการเลี้ยงเด็กๆ ตามลำพัง จะหมดไป เพราะสุขสันต์เป็นกูรูด้านเด็ก อีกทั้งอนาคตของเด็กๆ ก็จะมั่นคง ก้าวหน้าอย่างแน่นอน กริสน์รู้สึกทนไม่ได้ที่พิมมาดาเห็นผิดเป็นชอบ แล้วก็ดันงอน ทะเลาะกับเธอไปโดยไม่ตั้งใจ แล้วกริสน์ยังเลยเถิด ไปหลอกใช้มาวินให้มาเห็นภาพสวีทระหว่างพิมมาดากับสุขสันต์ มาวินโวยวายว่าที่ตัวเองมาเพราะมีคนในร้านโทรไปเรียกให้มา พิมมาดารู้ทันทีว่าต้องเป็นกริสน์แน่ๆ รีบไปเล่นงานกริสน์
แม้ว่ากริสน์จะพยายามพูดให้พิมมาดาตาสว่างถึงความจริงภายใต้หน้ากากคนดีที่สุขสันต์สวมอยู่ ก็ยิ่งทำให้พิมมาดาเกลียดกริสน์มากขึ้นไปอีก ที่มาใส่ร้ายคนดีๆอย่างสุขสันต์ และกริสน์ก็เป็นคนเชียร์ให้เธอรักกับสุขสันต์เองในทีแรก พิมมาดาเฝ้ารอแค่ให้ถึงเวลาตามที่เธอสัญญากับเด็กๆไว้ จากนั้นจะไล่กริสน์ออกไปทันที กริสน์ได้แต่เจ็บปวดอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ ว่าทำไมตนถึงเป็นห่วงเป็นใยพิมมาดานัก กริสน์รู้ตัวว่าเริ่มหลงรักพิมมาดาเข้าแล้ว ทำให้ภัทรดนัยต้องคอยเตือนสติกริสน์ให้ตัดเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องของงาน คิดถึงภารกิจเอาไว้
สุขสันต์มาที่ร้านดอกไม้บ่อยขึ้น และพิมมาดาก็ทำท่าหวานใส่ประชดกริสน์ สร้างความปวดใจให้กริสน์ จนพวกเด็กๆสังเกตเห็น จีจ้าแอบได้ยินสุขสันต์นัดแนะชวนพิมมาดาไปฉลองวันเกิดที่ภัตตาคาร จึงรีบรายงานทุกคน และร่วมกันวางแผน พอถึงวันสำคัญก็เล่นตลกด้วยการทำเป็น โทรไปเลื่อนนัดสุขสันต์ อ้างว่าพิมมาดามีงานในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้พิมมาดาไปรอแกร่วอยู่ที่ร้านตามเวลานัด จากนั้นก็ทำเป็นว่าพิมมาดาโทรกลับมาแจ้งว่าโดนกระชากกระเป๋า กริสน์ได้ยินเข้าก็หลงกลรีบออกไปเพื่อช่วยเหลือพิมมาดาทันที
กริสน์ตามพิมมาดามาที่ภัตตาคาร พบพิมมาดากำลังนั่งเซ็งอยู่ ครั้นพอสอบถามก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าโดนเด็กๆ หลอก พิมมาดาโกรธมากตั้งใจจะกลับไปเอาเรื่อง แต่กริสน์กลับดึงมือหญิงสาวเอาไว้ แล้วถือโอกาสเลี้ยงอาหารเป็นการไถ่โทษในเรื่องที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ถูกลูกน้องของจตุพลจับตามองผ่านกล้องวงจรปิด
เช้าวันรุ่งขึ้นสุขสันต์เอาของขวัญวันเกิดมาให้พิมมาดาที่ร้าน ได้ยินพิมมาดากำลังดุจีจ้าเรื่องรองเท้าคู่ใหม่ข้างที่หายไป ทำให้สุขสันต์แน่ใจว่าใครคือผู้บุกรุกห้องทำงานของตน สุขสันต์ทำเป็นปกป้องจีจ้า อ้างว่าอาจจะทำหล่นในโรงรถจึงชวนจีจ้าออกไปหา เมื่อไปถึงโรงรถสุขสันต์ข่มขู่จีจ้าว่าจะจับส่งไปเมืองนอก จีจ้ากลัวสุขสันต์มาก ขณะนั้นอยู่ๆ กริสน์ก็โผล่เข้ามา จีจ้ารีบถลาไปหากริสน์ทันที ทำให้สุขสันต์มั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดต้องเป็นฝีมือกริสน์แน่ๆ
วันถัดมา พิมมาดาให้กริสน์เอาดอกไม้ไปส่งด่วนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง กริสน์รีบขึ้นรถกระบะ จีจ้าร้องจะไปด้วยให้ได้ จนพิมมาดาต้องให้ไป แต่กำชับว่าห้ามเถลไถล ระหว่างทาง กริสน์สังเกตได้ว่ามีรถขับสะกดรอยตามมา สุดท้ายกริสน์หนีไม่พ้น เมื่อมีรถกระบะ3-4คันเข้ามาตีขนาบล้อมรถกระบะของกริสน์เอาไว้ทุกด้าน จตุพลเป็นคนนำลูกน้องเข้าจับตัวกริสน์ ตามคำสั่งที่ได้รับมาจากสุขสันต์ กริสน์รู้ทันทีว่าการจัดส่งดอกไม้นี้เป็นแค่แผนหลอกให้เขามาติดกับ จีจ้าถูกจับไว้ได้ กริสน์ร้องขอให้ปล่อยเด็กไปแลกกับตัวเอง แต่ไม่เป็นผล
จีจ้าถูกแยกไปขังที่อื่น ขณะที่กริสน์ถูกจตุพลซ้อมจนสะบักสะบอม จตุพลคาดคั้นถามหาหลักฐานที่ กริสน์ได้ไปคืออะไรและอยู่ที่ไหน กริสน์สวมรอยอ้างว่าถ้าตนไม่ติดต่อกลับไปหาทีมงาน หลักฐานนี้จะถูกส่งต่อให้สื่อมวลชนทันที ทีแรกจตุพลหลงกล กำลังจะยอมให้กริสน์ใช้มือถือได้ แต่อยู่ๆสุขสันต์โทรเข้ามาหาจตุพลสั่งให้จัดการฆ่ากริสน์เดี๋ยวนี้ เพราะไม่มีข้อมูลใดๆหลุดออกไปจากคอมพิวเตอร์แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดกริสน์กุเรื่องขึ้นมา จตุพลควักปืนออกมากำลังจะเหนี่ยวไก ทันใดมือขวาของอธิปก็เข้ามาช่วยเหลือกริสน์และจีจ้าออกมาได้อย่างทันท่วงที
กริสน์ได้รู้เรื่องจากคนของอธิปว่า อธิปให้เขาคอยตามประกบกริสน์มาสักระยะแล้ว เพราะต้องการให้กริสน์มาช่วยพาอธิปหนี ก่อนที่จตุพลจะฆ่าอธิปอย่างเลือดเย็น กริสน์และภัทรดนัยจึงต้องรวมหัวกันวางแผนเพื่อช่วยเหลืออธิปออกมา โดยมีเค้กที่เวลานี้รู้แล้วว่ากริสน์เป็นตำรวจและเป็นผู้ชายแท้ๆ เค้กดี๊ด๊าสุดพลัง อาสาเป็นกองหนุนให้ จนทำให้ภัทรดนัยรู้สึกรำคาญมากๆ
การที่กริสน์ช่วยเหลืออธิปออกมาได้ เป็นเหตุให้จตุพลถูกสุขสันต์เล่นงานอย่างหนัก สุขสันต์โกรธมากต้องการฆ่าทั้งกริสน์และอธิปให้หมดสิ้นไป จตุพลน้อยเนื้อต่ำใจที่สุขสันต์ดีแต่สั่งใช้งาน เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ลงโทษ อย่างไม่เคยเห็นหัว ไม่เคยเห็นคุณงามความดีของตนที่ทุ่มเทเสี่ยงอันตรายให้เลย จึงไปเที่ยวดับอารมณ์ และเจอมาวินที่เข้ามาตีซี้ และเสนอว่าจะช่วยเป็นแบ็คสนับสนุนให้จตุพลกำจัดสุขสันต์ เพราะตนแค้นที่สุขสันต์มาแย่งแฟนไป มาวินยุแยงปั่นหัวจนทำให้จตุพลคิดหักหลังสุขสันต์ แล้วขึ้นมาเป็นใหญ่เอง โดยมาวินอาสาจะใช้ความเป็นตำราจช่วยเหลืออีกแรง แท้จริงแล้วมาวินตั้งใจจะหักหลังจตุพลอีกทีเพื่อตนจะได้มีผลงานชิ้นโบว์แดง
พิมมาดาเห็นกริสน์นั่งทำแผลฉกรรจ์ ที่ได้มากจากการช่วยอธิป จึงเริ่มตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วกริสน์ เป็นใครกันแน่ นอกจากกริสน์มาเป็นพนักงานที่ร้านแล้ว ประวัติอื่นๆของกริสน์ตนไม่เคยได้รู้เลย กริสน์ไม่สามารถบอกอะไรได้ บอกได้แค่ว่าตนไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นคนที่รักและหวังดีกับพิมมาดามาตลอด พิมมาดาไม่เชื่อคำพูดกริสน์ บอกว่าเธอรู้เรื่องที่กริสน์เป็นผู้ร้ายหนีหมายจับของตำรวจ มาวินเป็นคนบอกเธอ กริสน์พยายามเล่าความจริงเรื่องที่ตนเป็นตำรวจสืบสวนราชการลับ พิมมาดายิ่งโกรธที่กริสน์ยังโกหกไม่เลิก เธอไล่กริสน์ออกจากบ้าน ห้ามกริสน์มาใกล้ชิดหลานๆของเธอ ถ้าเธอเห็นหน้ากริสน์อีก ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม เธอจะแจ้งตำรวจจับทันที
จากที่ไม่เคยรักเด็ก กริสน์เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเด็กๆ และพิมมาดามันคือความผูกพันโดยไม่รู้ตัว กริสน์ได้รับโทรศัพท์จากจีจ้าว่าโจ๊กไปก่อเหตุวิวาทชกปาล์มจนสลบ กริสน์จึงรีบไปที่โรงพยาบาล พบว่าพิมมาดาอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว ต้นเหตุเกิดจากเพราะปาล์มต้องการแสดงให้โอปอเห็นว่าตนเก่งกว่าโจ๊ก เมทินีไม่พอใจที่ลูกชายโดนทำร้าย จะเอาโจ๊กออกจากโรงเรียนให้ได้ พิมมาดาต้องยอมอดกลั้น คุกเข่าขอโทษแทนหลานชายด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ กริสน์ช่วยพูดขอร้องและกล่อมจนเมทินียอมใจอ่อน
โจ๊กไม่ยอมรับผิด และบอกว่ากริสน์เป็นคนสอนให้เขาสู้กับอุปสรรคในชีวิต กริสน์เป็นคนใจถึงไม่เหมือนพิมที่ใจไม่ถึง กลัวไปทุกอย่าง กลัวความลำบากจนต้องยอมเป็นแฟนสุขสันต์เพื่อเงิน ทั้งๆที่ไม่ได้รัก เธอโกรธมากจนลืมตัวตบหน้าโจ๊กอย่างแรง และยื่นคำขาดให้เขาเลิกชกมวย โจ๊กเสียใจมาก วิ่งหนีออกไป พิมมาดาต่อว่ากริสน์ที่ปกปิดเรื่องหลานๆกับตนและไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมเด็กๆได้ ปล่อยให้ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา กริสน์โต้ตอบโดยให้เหตุผลว่าพิมมาดาเลี้ยงเด็กแบบบีบบังคับให้เข้ากรอบที่ไร้เหตุผล และไม่เคยสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ หรือเปิดใจรับฟัง ว่าแล้วพิมมาดาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแจ้งตำรวจจับกริสน์ กริสน์ต้องรีบหนีอย่างหัวซุกหัวซุนออกไป แต่แล้ว พิมก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมเธอจึงเศร้าและหดหู่อย่างไร้เหตุผล
พวกเด็กๆ ไม่เชื่อว่ากริสน์จะเป็นผู้ร้ายอย่างที่พิมมาดาบอก และคิดว่าสุขสันต์ต่างหากคือผู้ร้าย พิมมาดาไม่เชื่อและสั่งลงโทษพวกเด็กๆ พวกเด็กๆจึงแผลงฤทธิ์และสร้างปัญหากลับตาลปัตรจากที่เคยดีขึ้นเมื่อตอนกริสน์อยู่ ที่เคยตื่นเช้าตามเวลาที่กริสน์เป่านกหวีดปลุก และพาวิ่งออกกำลัง และให้กินข้าว เข้านอน ทำเตียง ขัดรองเท้า จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แบบนักเรียนนายร้อยอย่างที่กริสน์พร่ำสอน เด็กๆก็กลับมานอนตื่นสายตะวันโด่ง ไม่เก็บเตียง ขว้างปาอาหารใส่กัน ปล่อยให้ห้องรก โดยเฉพาะเวลาที่สุขสันต์มาหาพิมมาดา พวกเด็กๆ ก็กลั่นแกล้งจนสุขสันต์เลอะเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว แต่กลับทำให้พิมมาดาเห็นใจสุขสันต์มากขึ้น เมื่อสุขสันต์เสนอเรื่องแผนการส่งเด็กๆไปเรียนต่างประเทศอีกครั้ง พิมมาดาจึงเห็นด้วยทันที เมื่อพวกเด็กๆรู้ จึงคิดจะหนีออกจากบ้าน แต่สุขสันต์ให้คนจับตัวเด็กๆ มาขัง แล้วปลอบใจพิมมาดาว่าเราต้องใจแข็งเพื่ออนาคตที่ดีของเด็กๆ
ทั้งๆที่ถูกตามล่าโดยผู้ร้ายและตำรวจซึ่งมีมาวินเป็นตัวการ แต่กริสน์ก็ปฏิเสธคำชวนของอธิปที่ให้ไปพักตั้งสติที่เซฟเฮ้าส์ของอธิปก่อน เพราะกริสน์เป็นห่วงเด็กๆและพิมมาดา จึงยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆร้านดอกไม้ โดยอาศัยร้านเบเกอร์รี่ของเค้กเป็นที่หลบภัย เค้กเชื่อมั่นและจะขอสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกริสน์ตลอดไป
ในคืนก่อนวันเดินทางของพวกเด็กๆ พิมมาดาเข้ามาร่ำลาเด็กๆ และเอายาแก้หอบหืดมาให้จีจ้า แต่พวกเด็กๆไม่พูดด้วย จีจ้าถึงกับเขวี้ยงขวดยาพ่นแก้หอบหืดแตก พิมมาดาพยายามเข้าใจพวกเด็กๆ แล้วอยู่ๆกริสน์ก็บุกปีนเข้ามา พิมมาดาตกใจที่กริสน์เล็ดลอดสายตาบอดี้การ์ดของสุขสันต์มาได้ ทีแรกพิมมาดาจะเรียกคนของสุขสันต์เข้ามา แต่กริสน์และเด็กๆขอร้องเอาไว้ กริสน์ขอโอกาสแค่ครั้งเดียว ขอให้พิมมาดาเชื่อใจ เพราะภัทรดนัยเพิ่งได้รับแจ้งมาเกี่ยวกับกำหนดการส่งของล็อตใหม่ของสุขสันต์ที่กำลังจะเข้าท่าเรือพรุ่งนี้เช้า กริสน์ขอให้หยุดส่งเด็กไปเมืองนอก รอให้ตนจับสุขสันต์ให้ได้ก่อน พวกเด็กๆช่วยกันขอร้อง แต่พิมมาดาปฏิเสธ
เช้ารุ่งขึ้น สุขสันต์โทรมาบอกพิมมาดาว่าติดธุระด่วน ไม่สามารถมารับไปส่งสนามบินด้วยตัวเองได้ ทำให้พิมมาดาย้อนคิดถึงคำพูดของกริสน์ พอดีกับรถตู้มารอรับ พาเด็กๆและพิมมาดาขึ้นรถไป ระหว่างทาง พิมมาดาสังเกตว่ารถตู้ไม่ได้ขับไปสนามบิน เลยสังสัยว่าจะพาไปไหน จึงพบว่าคนของสุขสันต์แท้จริงแล้วคือ ภัทรดนัยที่ปลอมตัวมา พวกเด็กๆดีใจที่กริสน์ส่งคนมาช่วย ภัทรดนัยบอกว่าจะพาพิมมาดาไปที่เซฟเฮ้าส์ของอธิป เพื่อให้เธอและเด็กๆปลอดภัยจากเงื้อมมือของทั้งสุขสันต์และมาวิน
ที่ท่าเรือ ขณะกริสน์กำลังจะจับสุขสันต์ที่จำนนด้วยหลักฐานอันเป็นความผิดซึ่งหน้า พิมมาดากับเด็กๆและโอปอก็ดันโผล่มาแบบผิดที่ผิดเวลา เพราะโอปอรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พาทุกคนหลบจากเซฟเฮ้าส์พ่อและตามกริสน์มาด้วยความเป็นห่วง พิมมาดาได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเบื้องหลังของสุขสันต์ แท้จริงแล้วเป็นเอเย่นต์นำเข้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยเอาธุรกิจนำเข้าดอกไม้ต่างประเทศมาบังหน้า พิมมาดาตาสว่าง แต่ทั้งหมดถูกสมุนของสุขสันต์จับตัวไว้ทั้งโขยง
สุขสันต์พยายามหว่านล้อมล้างสมองพิมมาดาให้เห็นดีเห็นงามด้วยในสิ่งที่เขาทำอยู่ เพราะมันนำพามาซึ่งเงินทองและอำนาจบารมีมากมาย พิมมาดาสาปแช่ง สุขสันต์กำลังจะยิงกริสน์ แต่ทันใด จตุพลที่ร่วมมือกับมาวินหักหลังสุขสันต์ เข้ามายิงสุขสันต์ที่ขาจากทางด้านหลัง สุขสันต์ทรุดลงไป แล้วจตุพลก็หันมาจะยิงมาวิน เพราะรู้ว่าสันดานคนอย่างมาวินจะต้องหักหลังตนคืนแน่ๆ เพื่อที่มาวินจะได้เอาหน้าในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ทลายขบวนการยาเสพติดรายใหญ่แต่เพียงลำพัง..มาวินถูกจับไต๋ได้ หมดท่า ถึงขั้นยกมือไหว้ ร้องขอชีวิตจากจตุพล แล้วมาวินก็วิ่งหนีหลบเข้าไปซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์
ระหว่างนั้น ภัทรดนัยพาตำรวจเข้ามาพอดี พร้อมๆ กับพวกอธิป ที่ยกพลมาเฟียกลับใจมาช่วยทางการ และเป็นพยานให้ทางตำรวจ ยืนยันในความบริสุทธิ์ของกริสน์ จตุพลถูกต้อนจนกระทั่งจนตรอก จึงคว้าจีจ้าที่อยู่ใกล้มาเป็นตัวประกัน จีจ้ามีอาการหอบหืดขึ้นมา พิมมาดาพยายามขอให้ปล่อยจีจ้า แต่จตุพลไม่สนใจ พาจีจ้าขึ้นรถขับหนีไป พิมมาดาเป็นห่วงจีจ้า ถ้าไม่รีบพ่นยา จะเป็นอันตรายมาก และอาจถึงแก่ชีวิตได้
จตุพลขับรถหนีตำรวจขึ้นไปบนสะพานข้ามแม่น้ำ แต่ถูกตำรวจดักล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้ จตุพลหนีไม่รอด เอาจีจ้ามาเป็นตัวประกนขู่ว่าจะโยนทิ้งแม่น้ำ พิมมาดาขอร้องทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล จีจ้ากัดมือจตุพลในจังหวะที่จตุพลเผลอ แล้วรีบวิ่งหนีออกมา กริสน์รีบกระโดดตะครุบตัวจีจ้าเอาไว้ได้ จนถูกจตุพลยิงเข้าที่ด้านหลัง เต็มๆ กริสน์ล้มคว่ำหมดสติในทันที โดยมีจีจ้าอยู่ในอ้อมกอด
แต่แล้วในที่สุดจตุพลก็ถูกตำรวจรวบตัวไปได้ พิมมาดาเห็นสภาพกริสน์นอนจมกองเลือดเป็นตายเท่ากัน ก็ใจหาย และจีจ้าที่กระหืดกระหอบแทบขาดใจตาม พิมมาดาตกใจทำอะไรไม่ถูก โจ๊กกับแจ๊สตามเข้ามาคอยปลอบพิมมาดาอย่างมีสติ จัดแจงให้รถพยาบาลเข้ามาพากริสน์และจีจ้าไปรักษาตัวจนได้ พิมมาดาแปลกใจที่ในสถานการณ์เช่นนี้แต่พวกเด็กๆ กลับมีสติมากกว่าเธอเสียอีก แล้วเธอก็สัมผัสได้ว่าแท้จริงแล้ว พวกเด็กๆเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น พวกเด็กๆ สามารถดูแลกันและกันได้เป็นอย่างดี เพียงแต่เธอมีอคติทำให้ไม่เคยมองเห็นเท่านั้นเอง
กริสน์นอนพักรักษาตัวโดยมีเค้กคอยดูแลไม่ห่างเป็นที่หมั่นไส้ของภัทรดนัยมาก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่พิมมาดาไม่แวะมาเยี่ยมเขาเลยสักครั้งเดียว ทั้งๆที่เขากับจีจ้าอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน เมื่อกริสน์ออกจากโรงพยาบาลได้ กริสน์คิดจะไปหาพิมมาดาที่ร้านดอกไม้ ภัทรดนัยเชียร์ให้กริสน์สารภาพความในใจไปเลย แต่เมื่อกริสน์ไปถึงร้านดอกไม้ พิมมาดากลับเมินเฉยใส่กริสน์ และยังสั่งห้ามเด็กๆติดต่อกับกริสน์อีก พิมมาดาบอกว่ากริสน์รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าสุขสันต์ไม่ใช่คนดี แต่ทำไมกริสน์ถึงสนับสนุนและยุให้ตนไปรักด้วย เพราะกริสน์คิดจะใช้ตนเป็นสะพาน เพื่อบรรลุผลประโยชน์ของตัวเอง เอาชีวิตของตนและหลานๆเข้าไปเสี่ยง กริสน์พยายาม ขอโทษ แต่พิมมาดาตบหน้าและไล่ให้ออกไปจากชีวิต ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีก
พิมมาดาพยายามซ่อนความรู้สึกเศร้าเอาไว้ใต้รอยยิ้ม เฝ้ามองหลานๆที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างภูมิใจ..โจ๊กเรียนดีขึ้นและได้เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาเยาวชนโลก..แจ๊สกลายเป็นคนยิ้มง่าย กล้าแสดงออก และได้เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น..ส่วนจีจ้าก็แข็งแรงขึ้นมาก เพราะออกกำลังกายและทานอาหารตามอย่างที่กริสน์สอนไว้..พิมมาดาอดนึกถึงกริสน์ไม่ได้เมื่อทุกอย่างรอบตัวเธอนั้นมีเขาเกี่ยวข้องทั้งหมด..พวกเด็กๆเห็นพิมมาดาทุกข์ทรมานใจ จึงวางแผนเพื่อหลอกให้พิมมาดากับกริสน์ได้มาเจอกันและได้อยู่ด้วยกันเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจให้หมดสิ้น
เช้าวันหนึ่งเมื่อมาพิมมาดาเปิดร้านดอกไม้ตามปกติ ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นกริสน์สวมชุดพนักงานมารอต้อนรับ พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่คุกเข่าขอเธอแต่งงาน และถึงแม้พิมมาดาจะมีทิฐิอย่างไรก็ตาม แต่พอเจอบทสารภาพรักแบบนี้ก็ให้อ้ำอึ้งไปเลยทีเดียว แต่ก่อนจะยอมรับรักแต่โดยดีเด็กทั้ง 3 โผล่ออกมาแจม โดยมีข้อแม้ว่า กริสน์ต้องยอมเป็นพ่อของพวกเขาแลกกับการได้น้าสาวแสนสวยไปเป็นภรรยา ซึ่งคำตอบนั้นก็คงไม่เหนือความคาดหมาย
สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ทุกชีวิตที่เกี่ยวพันกันล้วนมีแต่ร้อยยิ้ม อธิปช่วยเหลือพิมมาดาสนับสนุนร้านดอกไม้ให้มีชื่อเสียงขึ้นมา ส่วนโจ๊กก็คบหากับโอปอโดยมีปาล์มเป็นเพื่อนสนิท เค้กรู้ว่ากริสน์รักพิมมาดา ได้แต่ช้ำใจ แต่ยังโชคดีที่มีภัทรดนัยมาอาสาดามหัวใจให้
ทุกๆ เช้า แทนที่กริสน์จะต้องเป่านกหวีดปลุกเด็กๆ กลับเป็นเด็กๆ ที่ตื่นนอนกันเองก่อนเวลา และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตามระเบียบแบบแผนที่กริสน์เคยสอนเอาไว้
จบบริบูรณ์
รายชื่อนักแสดง ใครเป็นใครใน
มือปราบพ่อลูกอ่อน
หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ รับบทเป็น กริสน์
วิกกี้ สุนิสา เจ็ทท์ รับบทเป็น พิมมาดา
ธนากร โปษยานนท์ รับบทเป็น สุขสันต์
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบทเป็น ภัทรดนัย
ศุภกร กิจสุวรรณ รับบทเป็น จตุพล
ด.ญ.สุชาดาเช็คลีย์ รับบทเป็น แจ๊ส
ด.ญ.ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา รับบทเป็น จีจ้า
ด.ช.สุทธินันท์ เทียนสุวรรณ รับบทเป็น โจ๊ก
ด.ญ.ครองขวัญ มงคล รับบทเป็น โอปอ
สิทธิชัย ผาบชมพู รับบทเป็น มาวิน
สิตางค์ ปุณภพ รับบทเป็น เค้ก
รมิดา ประภาสโนบล รับบทเป็น แพรวพิลาศ
ศานติ สันติเวชกุล รับบทเป็น น้อมพงษ์
ธนายง ว่องตระกูล รับบทเป็น อธิป
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบทเป็น เมทินี
ปาจารีย์ ณ นคร รับบทเป็น ครูฟ้าใส
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ รับบทเป็น ปาล์ม
ฝันเด่น จรรยาธนากร รับบทเป็น เดช
ปีเตอร์ ไมอ๊อคชิ รับบทเป็น ครูพงษ์พัฒน์
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบทเป็น เต๋า
รณภร คณิวิชาภรณ์ รับบทเป็น เต้ย
ศิณัชชัย คูสกุลธรรม รับบทเป็น ฉัตรชัย
อิทธพันธ์ จิรสุขประเสริฐ รับบทเป็น ฮิม
ร่วมด้วยนักแสดงรับเชิญ
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
สุปราณี เจริญผล
ดลกมล ศรัทธาทิพย์
หยอง ลูกหยี
“มือปราบพ่อลูกอ่อน” โดยผู้จัด “ต้น-ณฐนนท์” ค่าย “ชลลัมพี โปรดักช์ชั่น จำกัด” นำแสดงโดย หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์, วิกกี้-สุนิสา เจ็ท ร่วมด้วย ปาย-สิตางค์, อู๋-ธนากร, นุ่น-รมิดา” และนักแสดงรุ่นจิ๋วฝีมือสุดแจ๋ว น้องดาด้า น้องสกายและน้องชาเลท ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 อสมท
และโปรดติดตามอ่านเรื่องราวแสนสนุกสนานเฮฮาของ “มือปราบพ่อลูกอ่อน” สมบูรณ์ที่สุด ละเอียดทุกลมหายใจตัวละคร เต็มอิ่มจุใจ ไม่มีการตัดทอนย่นย่อ และตรงตามบทโทรทัศน์ช่อง 3 ตั้งแต่ต้นจนอวสาน ทุกวัน เริ่ม จันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 นี้