xs
xsm
sm
md
lg

นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 17

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางฟ้ากับมาเฟียตอนที่ 17

ธิดาเดินกลับมาที่หน้าบ้านอย่างฉุนเฉียว หลังจากไปหารามไม่เจอ เธอสติแตกถึงกับยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อระบายความคั่งแค้นในใจออกมา

“หายหัวไปไหนกันหมด”
เมขลาใส่เสื้อคลุมของเทวัญเพื่อปกปิดแผลที่แขน เดินมาพร้อมเทวัญ ธิดาเห็นก็โมโหจัด เล็งปืนจะยิง
“แก แกอยากได้รามนักใช่มั้ย งั้นเอาลูกตะกั่วไปแทนแล้วกัน”
เทวัญรีบเอาตัวบังเมขลาไว้
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะยัยน้อง คุณเมเขาไม่ได้ไปกับราม พี่ยืนยันได้”

ปองธรรมกับแสงเข้ามาจากอีกทาง หลังจากไปค้นหารามไม่เจอ
“แล้วแฟนแกหายไปไหนมา”
ปองธรรมถา พลางจ้องหน้าเขม็ง เมขลาพยายามควบคุมอาการตื่นเต้น
“คือฉันออกไปเดินเล่น แล้วก็เกิดหลงทางค่ะ”
เทวัญช่วยพูด
“ตอนผมออกไปตามหาผู้ร้ายแถวท้ายไร่ ก็เลยเจอเข้าพอดีครับพ่อ โชคดีที่ยังไม่เดินหลงเข้าไปในป่า”
ปองธรรมพยักหน้า
“แล้วรามล่ะ รามอยู่ไหน มีใครเห็นรามบ้าง” ธิดาถาม
“ผมอยู่นี่ครับ”
ทุกคนหันไปมอง รามเดินตรงดิ่งเข้ามา ธิดารีบเดินเข้าไปหา
“นายหายตัวไปไหนมา รู้มั้ยว่ามีคนจ้องใส่ร้ายนาย หาว่านายคือคนร้ายที่แอบเข้าห้องทำงานคุณพ่อ”
ธิดามองไปทางแสงอย่างไม่พอใจ
“ไอ้ตีนแมวที่แอบย่องเข้าห้องพ่อเลี้ยง มันโดนลูกกระสุนฉันถ้านายไม่ใช่มัน กล้าให้พิสูจน์มั้ยล่ะ”
รามกางแขนออกให้แสงตรวจร่างกาย ธิดาปราม
“แกกล้าหรือ”
“เทเรซ่า”
ปองธรรมปราม ธิดาเห็นหน้าปองธรรมดุมาก ไม่กล้าหือ แสงบีบจับตัวรามหาบาดแผลไม่เจออะไรเลย แสงงง หันไปบอกปองธรรม
“แต่ผมยิงโดนมันจริงๆนะครับพ่อเลี้ยง ไอ้พวกนี้มันยังเห็นรอยเลือดหยดเป็นทาง ใช่มั้ย” แสงหันไปถามลูกน้อง
ธิดาโมโห ส่ายปืนไปมาใส่แสงกับลูกน้อง
“ใครตอบว่าใช่ ฉันจะยิงให้เดี้ยงมันทั้งหมดนี่เลย ออกไป”
แสงกับลูกน้องรีบไป ปองธรรมหันไปถามราม
“วันนี้เขาเกิดเรื่องมากมาย นายหายไปไหนมา”
“ผมไปตามเก็บสายส่งยา ตามใบสั่งของพ่อเลี้ยงมาครับ”
ปองธรรมยังไม่ทันได้พูดต่อ เมขลาเกิดเจ็บแขน
“อู๊ยยย”
เมขลาเผลอจับที่แผล ปองธรรมหันมอง รามกับเทวัญต่างตกใจพอกัน เทวัญเห็นเลือดเมขลาซึมออกมาจากเสื้อเทวัญที่คลุมไว้ รีบแก้ไขสถานการณ์เอามือโอบมือเพื่อปิดตรงที่เลือดซึม
“เมเจ็บเท้าหรือ เห็นบ่นว่าเดินจนรองเท้ากัด”
เมขลารีบรับลูกทันที
“เออใช่ค่ะ ตอนนี้อยากจะแช่เท้าในน้ำอุ่นมากๆค่ะ”
“ผมขอตัวก่อนนะครับพ่อ”
เทวัญรีบพาเมขลาไป รามมองตามอย่างห่วงใย

เทวัญพาเมขลาเข้าห้อง ทำแผลที่แขนให้ เมขลานอนหลับเพราะเพลียและเจ็บแผล เทวัญคลุมผ้าห่มให้ เทวัญลุกเดินไปที่ประตูกำลังเอื้อมมือจับลูกบิด ได้ยินเสียงเพ้อ...
“ราม...ราม...ราม...”
เทวัญหันมามองเมขลาอย่างเจ็บปวดใจ นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เจอเมขลากับรามอยู่ด้วยกัน...เขาไปรับตัวเมขลามาจากราม และเห็นว่าเธอเจ็บอยู่...
‘เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมคุณไปอยู่กับเขา’
เมขลาพูดไม่ออก...
‘คือฉันเออ แค่อยากเอากาแฟไปให้พ่อคุณ ก็อย่างที่ฉันเคยบอกคุณนั่นแหละว่าฉันอยากเอาใจท่าน แล้วพอดีว่า...’
รามรีบขัดขึ้น
‘ผมเข้าไปหาพ่อเลี้ยง ก็เลยเจอเข้าพอดี จนเกิดเรื่องที่พี่แสงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ร้าย’
เมขลาเก็บคำพูดอื่นไว้ ยังไม่อยากบอกเทวัญเรื่องที่เห็นราม เข้ามาทำอะไรแปลกๆ เพราะห่วงรามเหมือนกัน รามรีบตัดบท...
‘หมดหน้าที่ผมแล้ว คุณช่วยสอนให้แฟนคุณหยุดก่อเรื่องวุ่นๆสักที เขาไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร’
‘นายก็เตรียมแก้ตัว กับน้องฉันไว้ให้ดีด้วยก็แล้วกัน’ เทวัญย้อน
เทวัญนึกถึงเรื่องราวในอดีตแล้วถอนใจ ตัดใจเดินออกจากห้อง แล้วก็พบรามยืนรออยู่ รามส่งยาล้างแผลกับยาแก้ไข้ให้เทวัญ
“เผื่อคุณจะต้องการ แผลเขาอาจติดเชื้อจากเศษแก้วได้ถ้าไม่ล้างแผลเสียก่อน ส่วนยาแก้ไข้น่าจะให้กินป้องกันไว้ เพราะแผลอาจระบมขึ้นมาคืนนี้ก็ได้”
เทวัญรับมาเหมือนจะเอา แต่กลับปฏิเสธ
“ไม่ต้อง เมเป็นคู่หมั้นฉัน ฉันจัดการเองได้”
เทวัญยัดยาคืนใส่มือราม
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้ห่วงผู้หญิงของคุณ ก็แค่อยากตอบแทนที่คุณเทวัญช่วยให้ผมรอดจากการโดนเข้าใจผิดก็แค่นั้น”
เทวัญลังเลมองยาในมือราม ทันใดธิดาเข้ามาคว้าหมับไปอ่านดู
“ยาล้างแผล ใครเป็นอะไรหรือ”
เทวัญกับรามมองหน้ากัน ธิดามองไปที่ประตูอย่างหวาดระแวง ก้าวเท้าตั้งใจจะผลักประตูไปดูเมขลา
เทวัญรีบบังประตู
“เมเขาหลับแล้ว อย่าไปรบกวนเขาดีกว่า”
“นอนหลับจริงหรือพี่เทพต้องการปกป้องมัน ยาขวดนี้เอามาให้มันใช่มั้ย หลีกไปน้องจะเข้าไปดูให้เห็นกับตา”
ธิดาพยายามผลักเทวัญออก รามรีบหาทางแก้ไขสถานการณ์เพื่อช่วยเม ตัดสินใจดึงมีดพับออกมาบาดนิ้วตัวเองอย่างรวดเร็วจนธิดามองไม่เห็น เพราะรามอยู่หลังธิดา แต่เทวัญเห็นรามลงทุนช่วยเมขลา
“โอ๊ยยย”
ธิดาหันไปเห็นเลือดที่นิ้วราม รีบดู
“ตายแล้วราม นี่นายไปโดนอะไรมา”
“คุณเทวัญเห็นผมโดนมีดบาด ก็เลยหายามาให้ คุณก็เอาแต่ใช้อารมณ์อย่างนี้ทุกที ป่วยการจะอธิบาย”
รามทำเป็นโกรธ แย่งยาจากมือธิดา แล้วเดินหนีไป ธิดารีบวิ่งตาม
“ราม เดี๋ยวก่อนสิ ฉันขอโทษ”
เทวัญโล่งใจ

เทวัญกลับไปที่ห้อง ถอดเสื้อโยนไปบนเตียง เขาหันไปเห็นแว่นดำของรามหล่นลงพื้น จึงหยิบขึ้นมาดู คิดว่าแว่นนี้มาอยู่ในกระเป๋าได้ไง แล้วก็นึกออกว่าเขาเดินเหยียบปลายขาแว่นที่ตกอยู่ จึงเก็บมา ตั้งใจว่าจะคืนรามแต่ลืม เทวัญวางแว่นไว้บนโต๊ะ ทันใดเสียงยงยุทธเรียกเข้ามา
“มือกระบี่ เรียกรามสูร”
ที่แว่นดำ มีไฟแดงกระพริบที่ขาแว่น เทวัญเหลือบเห็นเกิดความแปลกใจ เดินไปหยิบดูอีกครั้ง เขามองขาแว่นอย่างสงสัย ตัดสินใจสวมแว่นดู เสียงยงยุทธดังขึ้นอีก
“ผู้กองครับ ตกลงผู้กองโหลดรายชื่อเครือข่ายพ่อเสือมาได้สำเร็จหรือเปล่า ท่านผู้บัญชาการกำลังรอฟังข่าวอยู่”
เทวัญงง ที่ดาบเรียกรามว่าผู้กอง
“ผู้กองๆ ตอบด้วย”
เทวัญรีบหาปุ่มที่ขาแว่น กดปิดทันที เทวัญนึกถึงคำพูดแสงที่บอกกับปองธรรมว่าเห็นคนเข้ามาในห้องปองธรรม และคิดว่าเป็นราม ก็เข้าใจทันทีว่ารามเป็นใคร!

เช้าวันใหม่...เทวัญมาดูแผลให้เมขลา...
“แผลแห้งแล้ว ยังเจ็บอยู่มั้ย”
“นิดๆเองค่ะ โชคดีที่มันไม่อักเสบ เมื่อคืนฉันฝันถึงคุณด้วย”
“ฝันถึงผม”
“ค่ะ ฝันว่าคุณไล่ยิงราม คงเพราะฉันตื่นเต้นกับเรื่องเมื่อวานมั้งคะ ก็เลยเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะ”
เทวัญหน้าเครียดขึ้นมา
“คุณพอรู้มั้ยว่าก่อนที่รามจะมาทำงานกับพี่เย็น เขาเคยทำงานอะไรมาบ้าง”
“ฉันพอรู้จากเรืองฤทธิ์ว่า รามใช้ชีวิตเสเพลมาตลอด เล่นพนันพี้ยา มั่วสุมกับอบายมุขทุกประเภท คุณถามทำไมหรือคะ”
“ไม่มีอะไรครับ แค่อยากรู้ประวัติของลูกน้องบ้างเท่านั้น”
เทวัญยิ้มบางๆกลบเกลื่อน

รามพยายามหาแว่น แต่หาในห้องไม่พบ จึงเดินไปที่โรงคั่วใบชา เขามองไปตามพื้นอย่างมั่นใจว่าจะต้องตกอยู่แถวนี้ รามกวาดตาจนเห็นแว่นตกอยู่ที่เดิม บริเวณที่เทวัญเก็บได้ รามยิ้มอย่างดีใจ แล้วรีบออกไปจากบริเวณนั้นทันที เทวัญเดินออกมาจากที่ซ่อน ยิ่งแน่ใจว่ารามเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่ไม่รู้ว่ารามจะทำอะไรกันแน่
เทวัญตามรามไปห่างๆ เห็นรามเข้าไปในห้องทำงานของปองธรรมพร้อมแสง จึงตัดสินใจไปที่ห้องพักของราม เปิดตู้เสื้อผ้าเห็นกระเป๋าเป้สำหรับใส่เสื้อผ้าวางอยู่ เทวัญหยิบออกมาค้นๆ
ทางด้านราม ส่งภาพศพของสายส่งภาคเหนือที่ปองธรรมสั่งให้ไปฆ่าทิ้ง ให้ปองธรรมดู
“ไอ้อาท สายส่งที่พ่อเลี้ยงให้ผมไปตามเก็บมัน ผมส่งมันไปพบยมบาลแล้วครับ”
ปองธรรมมองรูปศพเลือดอาบหน้าอย่างพอใจ
“ใครที่มันคิดทรยศหรือเอาใจออกห่างจากองค์กร จุดจบของมันคือ ตายสถานเดียว”
ปองธรรมน้ำเสียงเหี้ยมมองหน้าราม รามสายตานิ่งไม่สะทกสะท้าน จึงตบบ่ารามอย่างพอใจ
“ส่วนคนที่มีผลงานเข้าตาอย่างแก ฉันจะส่งเสริมเต็มที่ ฉันจะให้นายเป็นหัวหน้าคุมการส่งสินค้าในวันเปิดโรงงานใหม่ แกจะได้รู้จักกับขาใหญ่ในวงการเราไว้”
แสงอิจฉารีบขัด
“แต่รามเป็นเจ้าบ่าว อาจไม่คล่องตัวนะครับพ่อเลี้ยง”
“เพราะเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ จะได้ไม่เป็นที่สงสัยของใคร”
แสงขบกรามแน่นเพราะแค้นราม เมื่อพากันเดินออกมาจากห้องปองธรรม แสงพูดตามหลัง
“แกอย่าคิดว่าจะตบตาฉันได้ มันต้องมีสักวันที่แกพลาด วันนั้นฉันจะเหยียบแกซ้ำให้จมดิน”
รามหันมาหาแสง ยิ้มกวนๆ
“ผมว่าพี่คงจะเหนื่อยเปล่า สู้เอาเวลาไปกอดกกตำแหน่งพี่ไว้ไม่ให้ถูกเขี่ยตกกระป๋องจะดีกว่า”
แสงโกรธมากชักปืนออกมา
“ไอ้ราม”
รามจ้องหน้าแสงไม่กลัวเกรง เพราะรู้ว่าแสงไม่กล้า แสงยับยั้งใจไว้ ค่อยๆลดปืนลง

เทวัญยังค้นอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าราม เสียงลูกบิดประตู เทวัญรีบหลบทันที รามเปิดประตูเข้ามา รามกดมือถือติดต่อก้องภพทันที
“ฮัลโหล ท่านครับ โชคเข้าข้างเราแล้ว พ่อเสือไว้ใจให้ผมเป็น หัวหน้าคุมการซื้อขายยาครั้งใหญ่ วันนั้นให้ท่านส่งกองกำลังเข้ามาสองสาย สายหนึ่งไปที่โรงงานผลิตผมจะคอยส่งสัญญาณ ให้จับพวกมันทีเดียวยกฝูง ส่วนอีกสายให้บุกไปในงาน พ่อเสือจะอยู่ที่นั่น”
“ดีมาก ฉันจะเรียกประชุมด่วน เดี๋ยวก่อนราม ระวังตัวให้ดีด้วย คนของฉันบุกไปถึงเมื่อไหร่ นายรีบชิ่งออกมาทันที” ก้องภพสั่ง
“ครับท่าน ท่านก็ระวังตัวด้วยนะครับ”
รามตัดสาย จะเดินไปทางห้องน้ำ แต่สายตาแวบเห็นปลายแขนเสื้อ แล่บออกมาจากตู้ รู้สึกผิดสังเกต ชักปืนออกมา เล็งไปที่ตู้ ค่อยๆก้าวไปเปิดตู้ออกอย่างระวังตัว แต่ไม่เห็นเทวัญ รามหันปืนไปทางอื่น กวาดตามองหา
เทวัญยืนซ่อนตัวอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์ เทวัญกลั้นหายใจเพราะกลัวรามเจอ รามจับตาไปที่เทวัญซ่อนตัวพอดี กำลังจะก้าวเท้าไปช้าๆ ธิดาผลักประตูเข้ามาพอดี รามไวมากหันปากกระบอกปืนไปทางธิดาทันที
“ว้าย จะบ้าหรือราม นี่ฉันเองนะ นายเอาปืนออกมาทำไม”
รามลดปืนลง
“ผมได้กลิ่นแปลกๆในห้องนี้ เหมือนมีคนแอบเข้ามา”
“นายระแวงไปเองมากกว่า คุณพ่อเพิ่มคนคุ้มกันรอบตัวบ้าน ถึงสองเท่าตัว ใครหน้าไหนจะแหลมเข้ามาได้ รีบไปกับฉันดีกว่า คุณพ่อรออยู่”
ธิดาลากรามไป รามไม่กล้าขัดใจเพราะปองธรรมรออยู่ เทวัญโผล่ออกมาจากที่ซ่อน โล่งใจ

ที่ห้องรับแขก...ปองธรรมแกล้งขู่ขึ้นไกปืนต่อหน้าออแกนไนซ์ ที่จะมาจัดงานแต่งงาน
“ฉันไม่ค่อยถูกใจรูปแบบงานที่คุณทำกันอยู่ ถ้าจะให้เปลี่ยนใหม่ คิดว่าทันมั้ย”
“ทันครับ ทันแน่นอนครับท่าน” ออแกนไนซ์ยืนขาสั่นพรั่บๆ
“ดี งานนี้ฉันอยากให้มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง เอาแบบชุดใหญ่ชนิดเห็นแล้วฮือฮาตาค้าง เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเท่าไหร่เท่ากัน”
“ผมจะรีบไปติดต่อให้ทันทีครับพ่อเลี้ยง”
ปองธรรมพยักหน้า ออแกนไนซ์รีบออกไปทันที แสงโชว์ความฉลาดพูดเบาๆกับพ่อเลี้ยง
“พ่อเลี้ยงจะเอาพลุมาดึงความสนใจของแขกในงาน เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตเวลาเรามีการซื้อขายสินค้าใช่มั้ยครับ”
“ถ้าแกฉลาดคิด ฉันก็คงไม่ต้องเหนื่อยลงมาเล่นเองแบบนี้”
แสงจ๋อย ขณะที่ธิดากับรามเดินเข้ามา ปองธรรมหันไป เห็นธิดากับรามเดินเข้ามาในชุดแต่งงานตอนเย็น ปองธรรมโบกมือให้แสงออกไป แสงถอยออกไปปองธรรมเข้าไปกอดธิดา
“โอ้โห นี่ลูกสาวพ่อหรือนางฟ้ากันแน่ ฮ่าๆ”
ธิดายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เทวัญเดินเข้ามาพอดี จึงหันไปบอก
“พี่เทพรีบมาลองสูทสิคะ”
เทวัญมองหาเมขลา
“เมละครับพ่อ”
“เจ้าสาวอยู่นี่ค่ะ”
ช่างเสื้อจูงมือเมขลาออกมา เธออยู่ในชุดเจ้าสาวสวย เทวัญกับรามมองตะลึง ธิดามองด้วยความริษยา
“เฟอร์เฟค พอดีเป๊ะไปทุกสัดส่วน หายากจริงๆค่ะที่จะมีเจ้าสาวอกตูม เอวคอด สะโพกกลมกลึง ได้มาตรฐานเหมือนคุณเม” ช่างเสื้อบอกเทวัญ ขณะที่เดินแยกไปคุยกันอยู่ 3 คน
ธิดากับรามที่ยืนอีกด้าน ได้ยินก็หมั่นไส้มาก
“รู้สึกว่าช่วงเอวจะแน่นไปนะคะ คงต้องขยายออกอีกสัก 2 นิ้ว”
ช่างเสื้อที่ดูธิดาอยู่บอก ธิดาไม่พอใจ แว๊ดใส่ทันที...
“เธอว่าฉันอ้วนหรือ ฉันใส่ได้พอดีไม่เห็นอึดอัดตรงไหน”
ช่างเสื้อหน้าเสีย
“ถ้าคุณเทเรซ่าว่าใส่ได้ ก็ไม่ต้องแก้ก็ได้ค่ะ”
เมขลามองมาทางราม ธิดารีบอ้อนรามโชว์โชว์ โดยกอดคอรามโน้มหน้าไปพูดใกล้ๆ
“นายว่าฉันอ้วนหรือเปล่า”
“ไม่นี่ คุณหุ่นดีแล้ว ผมชอบแบบนี้แหละเต็มไม้เต็มมือดี”
ธิดามองเย้ย เมขลารีบเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นภาพบาดตา เทวัญมองอย่างรู้ว่าเธอเสียใจ

รามกับเทวัญ ไปนั่งคุยกับปองธรรมที่โซฟารับแขก ขณะที่ธิดายังยืนอยู่กับช่างเสื้อ กำลังเลือกถุงมือ กันอยู่ สาวใช้ยกกาแฟมาเสิร์ฟธิดา
“กาแฟค่ะคุณเทเรซ่า”
“ไม่เห็นหรือไงว่าฉันทำอะไรอยู่”
สาวใช้จะไป ธิดานึกขึ้นได้
“เดี๋ยวก่อน เอามานี่”
ธิดามองไปทางเมขลาอย่างมุ่งร้าย

อีกมุมหนึ่ง...เมขลาเลือกรองเท้ากำลังลองสวม ธิดาถือกาแฟเดินมาหา
“พักดื่มกาแฟก่อนดีมั้ยคะพี่สะใภ้คนสวย”
ธิดายื่นให้เมขลา
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันยังไม่นึกอยากดื่ม...พี่รับมั้ยคะ” เมขลาหันไปถามช่าง
“ดีเลยค่ะ ได้จิบสักหน่อยคงดี”
ช่างเสื้อจะยื่นมือไปรับ
“คงให้ช่างไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันตั้งใจจะยกมาให้คุณเมเป็นพิเศษ”
ธิดาตั้งใจสาดกาแฟใส่ชุดแต่งงานเมขลาเต็มๆ
“ว้าย...แม่...แม่”
ช่างเสื้อร้องอย่างตกใจ ทุกคนตกใจกันหมด ปองธรรม เทวัญ รามลุกยืนมองมาทางเมขลา
รามรีบก้าวเท้าจะไปช่วย แต่ชะงักแทบไม่ทันเพราะเทวัญรีบสาวเท้าไปหาก่อน
“ทำอะไรแบบนี้ยัยน้อง” เทวัญตำหนิ
“น้องไม่ได้ตั้งใจนะคะ กาแฟมันหลุดมือเอง ช่างก็เห็น ใช่มั้ยคะช่าง”
ธิดาหันขวับไปถาม ช่างเสื้อกลัวธิดาเลยพยักหน้าเออ ออไป
“ถึงไม่ตั้งใจ น้องก็ควรขอโทษคุณเม”
ธิดาไม่พอใจที่เทวัญเข้าข้างเมขลา
“น้องไม่ขอโทษ ถ้าเมียพี่ไม่พอใจ ก็ไม่ต้องแต่ง”
ปองธรรมขัด...
“เรื่องเล็กๆแค่นี้ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ แค่กระโปรงเลอะนิดหน่อย ไปซักออกก็สิ้นเรื่อง หรือถ้าไม่ออกก็ตัดมันใหม่”
ปองธรรมเข้าข้างธิดา
“ท่านพูดถูกค่ะ รอยสกปรกแค่ล้างออกก็หมดไป แต่ถ้าจิตใจสกปรกขัดถูยังไงก็ยากจะหลุดออก ฉันขอตัวไปห้องน้ำนะคะ”
เมขลาบอกเทวัญก่อนรีบไปเพราะถ้าอยู่ต้องทนไม่ได้แน่ ธิดามองเมด้วยความแค้น แต่รามมองตามด้วยความห่วงใย

เมขลารีบเดินมาเกาะระเบียง รีบกดมือถือหารุจ
“รุจแกอยู่ไหนเนี่ย ฉันคิดถึงแกอ่ะ”
เมขลาเสียงสั่นจะร้องไห้
“ไรยะนังเม ฉันอยู่ที่แอร์พอร์ท แกเป็นอะไร ทำไมหายหัวไปเลย”
“ฉันสบายดี ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
เมขลาร้องไห้ออกมา รุจตกใจ
“แกร้องไห้หรือ แกอยู่ไหน ฉันจะไปหาแกเดี๋ยวนี้ เมๆๆ”
เมขลาตัดสายพยายามเช็ดน้ำตา มีคนยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอเงยหน้ามองตกใจที่เห็นเป็นราม จึงรีบปาดน้ำตา เชิดหน้า
“ให้มาทำไมคะ”
“อยากเอาไปทำอะไรก็ได้ เช็ดขี้มูก เช็ดน้ำลาย ตามใจ”
เมขลาจะเดินหนี
“ร้องไห้ทำไม ความจริงวันนี้คุณน่าจะดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้สามีรวยล้นฟ้า แถมยังมีอำนาจใหญ่คับเมือง”

รามยังปากเสียไม่เลิก เมขลาโกรธ
“คุณก็ไม่แตกต่างจากฉันนักหรอก ฉันเกาะขากางเกงคุณเทวัญ ส่วนคุณก็เกาะชายกระโปรงยัยทะเลทราย หน้าไม่อายพอกัน”
รามเจ็บที่โดนดูถูก
“คุณคิดว่าผมอยากจะเป็นแบบนี้หรือ ถ้าเลือกได้ ผมก็อยาก...อยากทำอะไรตามที่หัวใจเรียกร้อง”
“คุณพูดเหมือนกับว่าคุณโดนบังคับ แล้วไอ้ที่ฉันเห็นกอดกันหวานจี๋จ๋าน่ะ หัวใจคุณไม่ได้เรียกร้องหรือไง อย่ามาทำเป็นผู้ชายปากอย่างใจอย่างหน่อยเลย”
“ด่าพอหรือยัง อย่าตัดสินผมจากสิ่งที่คุณเห็น”
“งั้นคุณก็ช่วยบอกสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นให้ฉันรู้สิ ฉันจะได้เลิกหลับหูหลับตาเดินอยู่ในความมืด”
“ถ้าผมเลือกได้ ผมคง...”
“คงอะไร คุณจะทำไม”
รามมองมือเมขลา เห็นแหวนแต่งงานวงเก่าที่นิ้วนาง รามคว้ามือเมขลามาดูถึงกับอึ้ง
“ทำไมคุณยังใส่มันอยู่”
เมขลาจะดึงมือออก แต่รามจับไว้แน่น รามมองหน้าอย่างคาดคั้นรอคำตอบ
“อยากให้ฉันโยนมันทิ้งไป เหมือนที่คุณทำกับแหวนแต่งงานอีกวงงั้นสิ”
รามพูดไม่ออก เมขลาน้ำตาคลอ
“ถ้าคุณยังไม่อยากบอกสิ่งที่ฉันยังไม่รู้ ฉันจะตั้งคำถามให้คุณตอบเอง คุณแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้าก็พอ มันอาจเป็นคำถามงี่เง่า แต่ฉันก็อยากรู้ ก่อนที่มันจะสายไป เคยมีสักแวบหนึ่งมั้ย ที่คุณ คุณจะรู้สึก รู้สึกชอบฉันบ้าง”
รามแทบอยากจะตอบไปทันทีว่า ชอบแต่ไม่กล้าตอบตอนนี้ รามเหลือบเห็นธิดาเดินมาทางด้านหลัง ในระยะที่ได้ยิน รามแข็งใจพูดโกหกออกไป
“ตั้งแต่ผมได้พบกับคุณเทเรซ่า ผมไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกชอบใครได้อีก เรื่องระหว่างเรา ผมอยากให้คุณลืมไปให้หมด”

เมขลาปวดร้าวใจ ค่อยๆ ดึงมือตัวเองออกจากมือราม รีบเดินผละไปอีกทางโดยไม่เห็นธิดา ธิดายืนฟังอยู่ และยิ้มร่าออกมาด้วยความดีใจ

อ่านต่อหน้า 2





นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 17 (ต่อ)

เทวัญยืนลังเลอยู่หน้าห้องปองธรรม ตั้งใจมาบอกเรื่องที่รามเป็นสายตำรวจ เขาสูดหายใจยาวๆ ก่อนตัดสินใจผลักประตูเข้าไป เทวัญเห็นปองธรรมกำลังคุยมือถือกับลูกค้ารายใหญ่ หัวเราะชอบใจดูอารมณ์ดี

“เราเป็นคู่ค้ากันมานาน ผมต้องคัดของดีให้เสี่ยอยู่แล้ว ฮ่าๆๆถ้าผมรวย เสี่ยก็ต้องรวยด้วย ได้ๆ แล้วเจอกันวันงาน”
ปองธรรมหันมาเจอเทวัญ
“พ่อครับ ผมมีเรื่องอยากบอก เกี่ยวกับ....”
เทวัญอึกอัก

ก่อนถึงวันแต่งงาน 1 วัน...บริเวณจัดงานแต่ง คนงาน และออแกนไนซ์มาเตรียมงานตกแต่งสถานที่ เวที แสงเดินเข้ามาถามลูกน้อง
“เรียบร้อยดีมั้ย”
“ตามที่พ่อเลี้ยงสั่งมาทุกอย่างครับ”
เมขลายืนอยู่แถวนั้น ขยับเข้าใกล้เพราะอยากรู้อยากเห็น
“ดี ฉันจะแวะไปดูความเรียบร้อยที่โรงงานใหม่ พรุ่งนี้มีแต่คู่ค้าบิ๊กๆทั้งนั้น ฉันไม่ไว้ใจไอ้ราม”
แสงเดินไปทางโรงงาน เมขลารีบตามพลางพึมพำ
“โรงงานใหม่ ลูกค้าบิ๊กๆ”

ก้องภพเดินเข้าสถานีตำรวจในชียงรายพร้องยงยุทธ ตำรวจบนสถานนี่ต่างพากันแสดงความเคารพ ยงยุทธโทรหาราม เมื่อติดต่อได้จึงส่งมือถือให้ก้องภพ
“ฉันมาถึงที่นี่แล้ว เราจะสนธิกำลังบุกขึ้นไปพร้อมกันพรุ่งนี้เช้า ใครที่เกี่ยวข้องจับให้หมดไม่มีไว้หน้า ล้างกันให้สะอาดหมดจดในคราวเดียว”
ก้องภพบอก และเรียกตำรวจเข้าประชุม เพื่อวางแผนจับกุมทันที ทางด้านราม เมื่อรายงานความเคลื่อนไหวทุกอย่างแล้ว ก็นั่งเครียด เพราะห่วงเมขลาจะติดร่างแห หรือเป็นอันตรายไปด้วย
รามเห็นสาวใช้เดินผ่านมา รีบถาม
“เห็นคุณเมมั้ย”
“น่าจะอยู่ในไร่นะคะ เห็นบอกว่าจะไปเดินเล่น”
รามรีบตามไปอย่างร้อนใจมาก

เทวัญซึ่งนั่งอยู่ในห้อง เปิดลิ้นชัก ดึงปืนออกมา บรรจุกระสุน พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา...
‘พ่อครับ ผมมีเรื่องอยากบอก เกี่ยวกับ...’
ปองธรรมโอบไหล่เทวัญ ชิงพูดอารมณ์ดี
‘เรื่องอื่นไว้คุยกันวันหลัง วันนี้พ่อกำลังมีความสุขที่สุด’
ปองธรรมปล่อยมือจากไหล่เทวัญ เดินกางแขนออกอย่างภาคภูมิใจ
‘เสร็จจากงานนี้องค์กรของเราจะใหญ่โตขึ้นกว่าเก่า ไม่ว่าแก๊งไหนก็ต้องมาสยบแทบเท้าเรา เทพ ต่อไปแกต้องตั้งใจทำงาน ต้องเด็ดขาดมากขึ้น จะอ่อนปวกเปียกเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ องค์กรที่พ่อสร้างขึ้นมา ต้องอาศัยแกคนเดียว จำไว้ อย่าทำให้พ่อผิดหวัง’
เมื่อพ่อพูดอย่างนั้น เทวัญเปลี่ยนใจไม่บอกเรื่องราม และเขาตัดสินใจว่าจะเป็นคนสังหารรามด้วยตัวเอง
เทวัญมองปืนในมืออย่างมุ่งมั่น...
“ขอโทษด้วยนะ ฉันจำเป็นต้องเลือกพ่อ!”

แสงเดินเข้าโรงงานผลิต เมขลาจะตามเข้าไปดู แต่โดนรามที่ตามมาทัน ปิดปากแล้วลากตัวออกมา รามลากมาถึงไร่ชา เมขลาได้จังหวะ กัดทันที...
“โอ๊ยยย”
รามปล่อยมือ เมขลาหันมามองว่าเป็นใคร
“คุณเองหรือ หยุดมายุ่งกับฉันเสียที ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
เมขลายังโกรธเรื่องที่รามบอกว่ารักธิดา รามตัดสินใจพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง...
“เก็บเรื่องที่คุณไม่พอใจผมไว้ก่อน แล้วฟังผมให้ดี คุณต้องรีบไปเก็บเสื้อผ้าแล้วไปจากที่นี่ภายในคืนนี้”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันไม่ทราบ ฉันไม่ไป”
“ผมเตือนคุณด้วยความหวังดี พรุ่งนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ถึงขึ้นฆ่ากันตายเป็นเบือ ถ้าคุณอยู่จะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย”
“คุณรู้ได้ไง ใครบอกคุณ แล้วทำไมจะต้องฆ่าแกงกัน”
“ผมพูดได้แค่นี้คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ไปบอกพ่อยอดขมองอิ่มของคุณให้พาคุณไปจากไร่คืนนี้ ต้องคืนนี้เท่านั้น”
รามเดินแยกไป เมขลายืนงงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

ขณะที่รามเดินไปนั้น เทวัญหลบอยู่หลังต้นไม้ เล็งปืนไปที่รามตัดสินใจยิง
เปรี้ยง!!
กระสุนนัดแรกพลาด กระสุนเฉียดไป รามรีบหลบหลังต้นไม้แล้วชักปืนออกมาแต่ไม่รู้ทิศทางคนยิง
เมขลาได้ยินเสียงปืนในทิศทางที่รามเดินไป เธอรีบวิ่งหาทันที ขณะที่รามยังกวาดตามองหาคนยิง
“ฉันได้ยินเสียงปืน เกิดอะไรขึ้น”
รามหันไปมองเมขลา ทำให้เสียสมาธิ รีบตะโกนตอบ
“อย่าเข้ามา หลบไป”
เปรี้ยง !!
เทวัญยิงออกไปอีกนัด โดยไม่เห็นเมขลาวิ่งมา กระสุนนัดนี้ยิงโดนรามถากไหล่ ปืนหลุดมือ รามเจ็บรีบจับที่ไหล่ เมขลาวิ่งถึง รีบคว้าปืนที่พื้นเล็งออกไปมั่วๆ พร้อมกับเอาตัวบังรามไว้
“ออกมาเลยไอ้คนขี้ขลาด แน่จริงก็ออกมา อย่าดีแต่ลอบกัด”
เทวัญยืนหลบหลังต้นไม้ไกลออกไป ยื่นหน้าออกไปจะยิงรามอีก แต่เห็นเมขลาห่วงรามมากขนาดจะยิงสู้ ลดปืนลงไม่กล้ายิงอีก รีบหลบไปทางอื่น รามกระชากเมขลาให้หลบหลังต้นไม้ด้วยกัน
“อยากตายหรือไง เอามานี่”
รามแย่งปืนไป ตวาดใส่เพราะห่วง
“ทำไมคุณชอบทำอะไรงี่เง่าอยู่เรื่อย ถ้ามันยิงใส่ คิดหรือจะสู้มันได้”
“ก็เพราะฉันห่วง....”
“พอได้แล้ว ยืนเฉยๆ แล้วไม่ต้องเปิดปากพูดอะไรทั้งนั้น”
รามยื่นหน้าออกไปมอง มือถือปืนแน่น เมขลามองแผลรามที่ไหล่เห็นเลือดซึมออกมา

เมื่อแน่ใจว่าคนที่ซุ่มยิงไม่อยู่แล้ว รามกับเมขลาเดินกลับมาด้วยกัน เมขลามองแผลรามอย่างเป็นห่วง แต่รามกลับพูดกวนๆ
“คุณแอบแช่งผมอยู่ละสิ”
“ใช่ ฉันกำลังเสียดายที่กระสุนมันแค่ถากไหล่ไป คนยิงมันน่าจะยิงตัดขั้วหัวใจไปเลย” เมขลาย้อนกวนๆ
“อยากเห็นผมตาย แล้วเข้ามาช่วยผมทำไม”
“อย่าเข้าใจผิด ถ้าคุณตาย งานแต่งงานของฉันคงเปลี่ยนเป็นงานศพของคุณ เข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันถึงช่วยคุณ”
เมขลามองหน้ารามแบบเชิดๆ รามผิดหวัง รามแค่นหัวเราะ รู้สึกน้อยใจกับชีวิต
“นั่นสินะ ถ้าผมตาย ก็คงเหมือนหมาตัวหนึ่ง คงไม่มีใครเสียใจหรือร้องไห้ให้ผม”
เมขลารู้สึกว่าตัวเองพูดแรงไป รามมองเลยไป เห็นธิดาเดินออกมาจากบ้านเหมือนกำลังมองหาใคร
“ผมจะหลบไปเข้าด้านหลัง ไม่อยากให้คุณเทเรซ่าเห็นผมมากับคุณ คุณจะเดือดร้อน ไม่ใช่สิ ผมกลัวเขาเข้าใจผิด”
รามรีบหลบไปด้านหลัง เมขลามองตามอย่างเจ็บ
“กลัวเขาเข้าใจผิด แคร์กันเหลือเกินนะ”
เมขลามองเสื้อรามตัวนอกที่ถอดออกตอนดูแผลที่ไหล่ราม แล้วลืมคืน เธอบีบเสื้อแรงๆอย่างหมั่นไส้เจ้าของเสื้อเป็นอย่างมาก แล้วจะเดินเข้าบ้านสวนกับธิดา
“อย่าเพิ่งไป นั่นเสื้อใคร”
เมขลาโกหกทันที
“เสื้อคุณเทวัญค่ะ ฉันเห็นอากาศมันเย็นๆ ก็เลยจะเอาไปให้เขาใส่แต่หาเขาไม่เจอ”
ธิดาอดยั่วไม่ได้
“แล้วเธอเห็นสามีสุดที่รักของฉันมั้ย”
“ฉันไม่สนใจมองสามีชาวบ้านค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
เมขลารีบเดินเข้าบ้าน เพราะไม่อยากโดนธิดาซักต่อ

เมขลาเคาะประตูเรียกเทวัญ ตั้งใจอยากมาบอกเรื่องที่รามเตือน
“คุณเทวัญคะ คุณเทวัญ”
แต่เทวัญเงียบไม่มีเสียงโต้ตอบออกมา ก็ได้แต่แปลกใจว่าเขาหายไปไหน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เทวัญไปนั่งดื่มเหล้าที่คอฟฟี่ช็อปของโรมแรงในเมือง เทวัญเมาฟุบอยู่ที่โต๊ะ เพราะกลุ้มใจที่ไม่รู้จะหาทางทำยังไงต่อไป เขาเพ้อประสาคนเมา...
“แม่ครับ ผมจะทำยังไงดี ผมอยากช่วยพ่อ แต่ผมก็ทำไม่ได้ผมไม่อยากทำร้ายใคร ผมมันไม่เอาไหน ผมมันอ่อนแอเหมือนที่พ่อด่า”
สัญญาณมือถือของเทวัญกระพริบ เทวัญไม่ได้รับสาย เมขลากดมือถือหาเทวัญหลายครั้งจนอ่อนใจ
“คุณหายไปไหนของคุณนะ คุณรามจะให้เราหนีไปคืนนี้ ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรกันแน่”
เมขลาพยายามโทรหาเทวัญอีก

เช้าวันใหม่...เมขลานั่งหลับที่ขอบเตียง มือถือยังอยู่ในมือ เพราะโทรหาเทวัญจนหลับไป เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอตกใจสะดุ้งตื่น
“นี่เช้าแล้วหรือ”
เมขลารีบไปเปิดประตู สาวใช้เข้ามา
“ตายแล้ว คุณเมยังไม่แต่งตัวอีกหรือคะ ประเดี๋ยวช่างแต่งหน้าก็จะมาแล้วนะคะ”
“คุณเทวัญล่ะ กลับมาหรือยัง”
“เธอเพิ่งกลับบ้านตอนเช้ามืดนี่เองค่ะ อู๊ยย กลิ่นเหล้าหึ่ง”
เมงงที่เทวัญไปกินเหล้า สาวใช้เห็นเสื้อรามบนเตียงนอนจึงเดินไปหยิบ
“ทำอะไรน่ะ”
“ก็เอาไปซักไงคะ”
เมขลารีบดึงคืน
“เออไม่ต้องจ๊ะ ฉันยังไม่ได้ใส่เลย”
สาวใช้มองเสื้ออย่างสงสัย
“เสื้อของคุณหรือคะ ดูมันตัวใหญ่โคร่งเหมือนเสื้อผู้ชาย”
“ฉันชอบใส่เสื้อหลวมๆ เธอออกไปได้ล่ะ ฉันจะรีบแต่งตัว”
สาวใช้เดินออกไป เมขลามองดูรูกระสุนบนเสื้อ Thumb drive หล่นลงมาที่พื้น เธอหยิบขึ้นมาดูอย่างสนใจ
“มันอาจจะมีคำตอบที่ฉันอยากรู้อยู่ในนี้ก็ได้”
เมขลาตัดสินใจเสียบ Thumb drive เข้าไปในโน้ตบุ๊ก แล้วคลิกตามไฟล์ดeภาพ เห็นภาพถ่ายโรงงานผลิตทั้งภายนอกภายใน เครื่องมือผลิตยาเสพติด และสุดท้ายเป็นภาพผงขาวใส่ถุงเรียงเป็นตับ

รามเดินหา Thumb drive ที่หายไป บริเวณที่ถูกยิง
“มันหายไปไหนของมันวะ ที่ห้องก็ไม่เจอ ที่นี่ก็ไม่มี...หรือว่า...”
รามคิดไปถึงตอนที่เขาถูกยิง แล้วนั่งพิงต้นไม้อยู่ เมขลาช่วยถอดเสื้อตัวนอกออกมาถือไว้ และเวลานี้เสื้ออยู่กับเธอ รามจึงรีบกลับไปที่บ้าน
เมขลาเมโหลดภาพทั้งหมดใส่เครื่องไว้แล้ว และนำ Thumb drive ไปใส่ในเสื้อรามเหมือนเดิม รามผลักประตูพรวดพราดเข้ามาคิดว่าเมขลาคงหนีไปแล้ว เมขลาสะดุ้งรีบปิดโน้ตบุ๊ก เดินไปรับหน้า
“ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก” รามคว้ามือเมขลาไว้ “รีบไปเดี๋ยวนี้เลย ไปตอนนี้ก็ยังทัน”
เมขลาสะบัดหลุด
“คุณเทวัญเขาไม่ไป ฉันก็ไม่ไป อะไรจะเกิดก็เกิด ฉันพร้อมตายพร้อมคุณเทวัญ”
รามฟังยิ่งโมโห ประชดใส่
“รักกันขนาดนั้นก็เชิญตามสบาย” รามแบมือ “เสื้อผมล่ะ มันอยู่กับคุณใช่มั้ย”
เมขลามองไปที่เตียง พยายามไม่ให้รามสงสัย
“ฉันตั้งใจจะชุนตรงที่เป็นรูกระสุนให้ แล้วค่อยคืนคุณ”
รามรีบไปหยิบเสื้อ
“ไม่จำเป็น ไปตามห่วงคนของคุณดีกว่า”
รามจะไป เมขลารีบเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน ทำไมคุณไม่ทำเพื่อคนที่คุณรัก รีบวางมือจากงานผิดกฎหมายทั้งหมด แล้วพายายทะเลทรายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“ผมกำลังเป็นลูกเขยคนโปรดของพ่อเลี้ยง อนาคตจะได้เป็นใหญ่ในแก๊งเห็นๆ เรื่องอะไรจะโง่ไปจากที่นี่”
“จุดจบของพวกคุณ ไม่โดนตำรวจยิงตาย ก็ถูกหักหลังฆ่ากันเอง นี่หรือ สิ่งที่คุณต้องการ”
“ใช่ ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนความคิดผมไม่ได้ ผมเกิดมาเพื่อเป็นโจรไม่ใช่นักบุญ”
ช่างแต่งหน้าเดินเข้ามาพอดีชะงักมองทั้งคู่ รามรีบเดินกลับไปที่ห้อง แล้วค้นเสื้อ พบ Thumb drive อยู่ในนั้น ก็ถอนใจอย่างโล่งอก

รามใส่ชุดไทย เพื่อเตรียมใส่บาต์ตอนเช้า และได้ไปยืนที่หน้าบ้านรอพระพร้อมธิดา ปองธรรม และลูกน้อง...
*ธิดากับรามอยู่ในชุดไทย*
ปองธรรมมองหาเทวัญกับเมขลา
“ทำไมเทวัญกับเจ้าสาวยังไม่มา มัวทำอะไรกันอยู่ เดี๋ยวก็เสียฤกษ์พานาทีหมด” ปองธรรมหันไปสั่งกับแสง “ไปตามมาสิ”
แสงพยักหน้ารับคำสั่งแล้วเลี่ยงไป ธิดาบ่นทันที
“พี่เทพเป็นคนตรงต่อเวลา คนที่ชักช้า ชอบทำตัวเป็นคนสำคัญน่าจะเป็นนังเม”
รามไม่ได้สนใจฟัง มองนาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลารอการมาถึงของพวกก้องภพ

เมขลาในชุดไทยแต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย นั่งคิดหนักถึงสิ่งที่คุยกับราม
“จุดจบของพวกคุณ ไม่โดนตำรวจยิงตาย ก็ถูกหักหลังฆ่ากันเอง นี่หรือ สิ่งที่คุณต้องการ”
“ใช่ ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนความคิดผมไม่ได้ ผมเกิดมาเพื่อเป็นโจรไม่ใช่นักบุญ”
เมขลาถอนใจ หันไปถามความเห็นช่างแต่งหน้า
“พี่คะ ถ้าพี่รักใครมากๆ แล้วเห็นเขากำลังจะโดดลงเหวลึก พี่จะทำยังไงคะ”
ช่างแต่งหน้านิ่งคิดแล้วบอก...
“พี่ก็ต้องรีบวิ่งไปดึงเขาไว้ ไม่ให้กระโดดลงไปสิคะคุณน้องแต่ถ้ายังดื้อไม่ฟังกัน ก็ต้องทุบหัวแล้วลากไปให้พ้นปากเหว ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ”
เมขลาฟังแล้ว ตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่าง หันไปบอก
“พี่ลงไปข้างล่างก่อนแล้วกันค่ะ ฉันเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจะรีบตามไป”
“อย่าช้านะคะ พระใกล้มาแล้ว”
เมขลาพยักหน้า เมื่อช่างแต่งหน้าออกไป เมขลารีบโทรหาภาคภูมิทันที พอภาคภูมิรู้ว่าเป็นใครโทรมาก็โวยใส่
“เธอเป็นพวกเดียวกัน คิดหรือว่าฉันจะเชื่อ รอให้ฉันสืบหาหลักฐานได้ก่อนเถอะ ฉันจะรวบทีเดียวทั้งสองคนด้วยมือฉันเอง”
“อย่าเพิ่งวางสายนะ ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะส่งอะไรไปให้ดู รับรองว่าผู้กองต้องตาค้างแน่ บอกเมลผู้กองมา”
ภาคภูมิตัดสินใจบอกอีเมลให้รู้ แล้วนั่งรอดูว่าเมขลาจะส่งอะไรมาให้...

แสงเข้าไปในห้องนอนเทวัญ เห็นเขานั่งหมดสภาพที่พื้นข้างเตียง ยังอยู่ในชุดที่ใส่เมื่อวาน แต่สภาพโทรมกว่าเดิมกระดุมเสื้อหลุดลุ่ย ผมยุ่งเหยิง
“คุณเทวัญ ทำไมยังไม่แต่งตัวอีกละครับ...นี่คุณเมาหรือ ไหวหรือเปล่าครับ ผมช่วย”
เทวัญโบกมือห้ามไม่ให้ช่วย ลุกยืนได้เพราะสร่างเมาแล้ว ออกจากห้องไปหาเมขลาทันที ทางด้านเมขลานั่งโหลดไฟล์ดรูปเพื่อส่งไปใหภาคภูมิ
“ราม ฉันจะพาคุณไปให้พ้นปากเหวเอง”
เมื่อโหลดรูปเสร็จแล้ว เมขลาเลื่อนเมาท์ไปกด sent ส่งข้อมูลไปให้ภาคภูมิเสร็จเรียบร้อย
“คุณส่งอะไรไปให้ใคร”
เมขลาสะดุ้งโหยง หันขวับไปด้านหลัง เทวัญจับจ้องไปที่หน้าจอคอมฯ

ทันทีที่ได้ข้อมูลจากเมขลา ภาคภูมิพุ่งออกมาจากห้องทำงานอย่างรีบร้อน จ่าวิ่งมารับหน้า แต่ภาคภูมิไม่ยอมหยุดคุยด้วย
“ไม่รอขอหมายค้นก่อนหรือครับผู้กอง”
“ไม่ทันแล้ว จับก่อนขอทีหลัง มีอะไรผมรับผิดชอบเอง”
จ่ารีบวิ่งตามภาคภูมิไป

เทวัญมองรูปโรงงานผลิตในโน้ตบุ๊ก แล้วหันมามองเมขลา
“ฉันขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ โรงงานใหม่ของพ่อคุณมันไม่ใช่เล็กๆ ถ้าฉันปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรเลย ก็จะมีเด็กที่ติดยาเพิ่มขึ้น มีครอบครัวที่ต้องล่มสลายอีกมากมาย ฉันทนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้หรอกค่ะ”
“คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมต่างหากที่ปกปิดคุณไว้ เพราะความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ครอบครัวของตัวเอง”
“จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นวันนี้ใช่มั้ยคะ”
“คุณรู้ได้ยังไง ใครบอกคุณ”
“รามค่ะ เขาเตือนฉันให้หนีไปจากที่นี่”
เทวัญจับมือเมขลา
“ฟังผมนะเม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้รู้ว่าผมหวังดีกับคุณ เรื่องของพ่อผม ผมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด”
“คุณพูดอะไรของคุณ ช่วยพูดให้ฉันเข้าใจหน่อยได้มั้ย”
“ไม่ใช่รามคนเดียวหรอก ที่อยากให้คุณไปจากที่นี่ ผมเองก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน....”
เทวัญพูดจบโป๊ะยาสลบ เมขลาพยายามดิ้น แต่สุดท้ายก็หมดสติ เทวัญกอดเมไว้ในอ้อมกอด
เทวัญน้ำตาไหลเพราะต้องพรากจากเธอตลอดไป กับการตัดสินใจครั้งนี้...

ธิดากระสับกระส่าย ที่เมขลากับเทวัญยังไม่มา เธอบ่นอย่างหงุดหงิด
“ไปตามกันถึงไหน ทำไมถึงยังไม่มาอีก”
รามคิดว่าเมขลาหนีไปแล้ว
“หรือว่าจะไปกันแล้ว”
ธิดางง
“ไปไหนคะ”
ปองธรรมหันมอง รามรู้สึกตัว แก้เก้อ
“คือ ผมคิดว่าคุณเทวัญคงจะไปรอผมที่โรงงานแล้วน่ะ ผมขอไปที่โรงงานก่อนนะครับ”
ธิดาฉุดรามไว้
“จะไปได้ยังไง เรายังไม่ได้ตักบาตรกันเลยนะ”
รามอึกอัก มองปองธรรมที่พยักให้ เพราะห่วงงานของตัวเองมากกว่า
“ตักบาตรน่ะ ตักเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โอกาสดีๆ แบบวันนี้ นานๆ ถึงจะมีทีนึง”
ธิดาอ้าปากค้าง โกรธพ่อ
“คุณพ่อ!”
ปองธรรมไม่สนใจธิดา หันไปบอกราม
“นายรีบไปเถอะ”
“คุณพ่อ! แล้วใครจะตักบาตรกับลูก”
“ก็พ่อไง”

ธิดาเซ็งสุดๆ แต่เลี่ยงไม่ได้ เพราะรามเดินลิ่วนำไปก่อนแล้ว

อ่านต่อหน้า 3





นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 17 (ต่อ)

ในขณะกำลังไปที่โรงงาน รามเดินผ่านแถวด้านหลังห้องนอนของเมขลา เขามองๆ อย่างเข้าใจว่าเธอคงหนีไปแล้ว

“ขอให้คุณหนีไปได้ตลอดรอดฝั่งนะ”
รามรีบตรงไปที่โรงงาน โดยไม่รู้ว่าภายในห้องนั้น เมขลานอนหมดสติอยู่บนเตียง โดยมีเทวัญคลุมผ้าห่มให้ในอาการเศร้าๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“คุณเทวัญครับ”
“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ยกโทษให้ผมด้วยนะเม นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราทุกคนแล้ว”
เทวัญยกมือเมขลาขึ้นจูบ แล้วออกไปจากห้อง พบแสงยืนรออยู่จึงเดินออกไปด้วยกัน บอกให้แสงรู้ว่าเขาจะไม่ใส่บาตร
“คุณเทวัญแน่ใจนะครับ ว่าจะไม่ตักบาตรเช้านี้จริงๆ” แสงถามย้ำอย่างแปลกใจ
“ตักไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะวันนี้จะไม่มีงานอะไรทั้งนั้น”
“ทำไมล่ะครับ” แสงงง
เทวัญไม่พูดอะไร กระทั่งมาที่หน้าบ้าน เขาได้บอกให้ปองธรรม และทุกคนรู้พร้อมกัน
“ตำรวจได้กลิ่นเรื่องของเราแล้ว และคงจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้าทางที่ดี คุณพ่อรีบหนีก่อนเถอะครับ”
ทุกคนตกใจ ปองธรรมย้อนถาม
“เทพรู้ได้ยังไง”
“นั่นสิคะ ข่าวพี่เทพมั่วหรือเปล่า” ธิดาไม่อยากเชื่อ
เทวัญมองน้องเครียดๆ ธิดาหลบตา ไม่เคยเห็นพี่เครียดเท่านี้มาก่อน
“เรื่องแบบนี้ใครจะล้อเล่น”
“แล้วตำรวจมาได้ยังไง”
“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคุยกันที่หลังครับ ตอนนี้คุณพ่อรีบไปก่อนเถอะ...รีบพาคุณพ่อไปสิ”
เทวัญสั่งธิดา ปองธรรมส่ายหน้า...
“ไม่ได้ พ่อทิ้งทุกอย่างที่พ่อสร้างขึ้นมากับมือไปไม่ได้หรอก เทพไปกับเทเรซ่าเถอะ”
“แต่คุณพ่อยกงานทั้งหมดให้ผมดูแลแล้วจำไม่ได้หรือครับ นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้แสดงฝีมือให้คุณพ่อเห็นนะครับ”
ปองธรรมอึ้ง ธิดาลังเล เทวัญเร่ง
“รีบไปสิยายน้อง”
“ไม่ น้องจะไปตามราม เขาเพิ่งเข้าไปที่โรงงานเมื่อกี้นี้เอง”
เทวัญแค้นราม แต่ฝืนเก็บความรู้สึก
“เรื่องรามพี่จัดการเอง”
เทวัญคิดจะจัดการฆ่า แต่ธิดาเข้าใจผิดคิดว่าจะช่วย บีบมือพี่ชายแน่น
“พี่เทพสัญญาแล้วนะ”
เทวัญกล้ำกลืนความรู้สึกพยักหน้า แสงหันไปสั่งลูกน้อง
“คุ้มกันพ่อเลี้ยงกับคุณเทเรซ่าเร็ว”
ลูกน้องปองธรรมล้อมหน้า ล้อมหลังธิดากับปองธรรมพาหนีไป ธิดากับปองธรรมไม่อยากไป แต่ขัดไม่ได้
“เดี๋ยว”
เทวัญชะงักนึกว่าพ่อเปลี่ยนใจไม่ยอมไป เครียดขึ้นมา
“แล้วเทพรีบตามพ่อกับน้อง ไปที่เซฟเฮาส์ให้เร็วที่สุดนะ”
เทวัญพยักหน้า ปองธรรมตัดใจไป
เทวัญมองพ่อกับน้องเศร้า
“ลาก่อนครับคุณพ่อ...เทเรซ่า”

ในโรงงานห่อใบชา ยาเสพติดที่ถูกแพ็กอย่างดีด้วยห่อใบชา เรียงกันเป็นตับ รามหยิบห่อใบชาขึ้นมาชั่งน้ำหนักในมือ ก่อนหันมองลูกน้องรามสวมแว่น ติดต่อกับก้องภพไปด้วย
“ของครบ แล้วคนล่ะ ครบหรือยัง”
“ขาดแต่หุ้นส่วนคนใหม่ของพ่อเลี้ยงครับ”
รามพยักหน้ารับ ก่อนทำทีเป็นเดินสำรวจของแต่จริงๆ พูดกับก้องภพผ่านแว่นตา
“ ถ้าเสือตัวใหม่เดินทางมาถึงถ้ำ ผมจะติดต่อไปอีกครั้ง”
พวกก้องภพรออยู่ในรถตู้มอมๆ แบบรถตู้โดยสารระหว่างอำเภอเขียน ทำทีเป็นจอดเสียอยู่ริมทาง ภายในรถนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค ก้องภพแต่งตัวเป็นคอมมานโดพร้อมบุก ส่วนยงยุทธเป็นฝ่ายยุทธโธปกรณ์ จึงแต่งตัวธรรมดา
ก้องภพตอบกลับรามไป...
“พอนายชี้ตัวมันให้ฉันเสร็จ ก็รีบปลีกตัวออกมาเลยนะ ฉันจะส่งหน่วยจู่โจมเข้าไปทันที ได้ยินมั้ยรามสูร...รามสูร...จ้าวพสุธาเรียกรามสูร รามสูรตอบด้วย”
ก้องภพเครียด ยงยุทธหันมามอง
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้กองหรือครับท่าน”
ก้องภพส่ายหน้าอย่างไม่รู้ว่าทำไมรามเงียบไป

ทางด้านรามนั้นยืนอึ้ง เพราะเขาเห็นจักรลงมาจากรถ ตามมาด้วยเรืองฤทธิ์
“อาฤทธิ์มาที่นี่ทำไม หรือว่า...ยายตัวแสบโทรไปตามให้มางานแต่งงานวันนี้ เป็นไปไม่ได้ ยายนั่นมีปัญหากับอาฤทธิ์อยู่นี่”
รามงง แต่ตัดสินใจซุ่มดู เห็นจักรกำลังชี้ชวนเรืองฤทธิ์ดูโน่นนี่อยู่ ทันใดแสงพรวดเข้ามา...
“คุณจักร! รีบออกไปจากที่นี่ก่อน”
รามอึ้ง เมื่อเห็นแสงมากับเทวัญ จักรมองแสงงงๆ
“จะรีบไปไหน ให้ผมแนะนำเจ้านายของผมก่อน นี่คุณเรืองฤทธิ์เจ้าของเงินครึ่งหนึ่ง ที่สร้างโรงงานนี่ที่พ่อเลี้ยงอยากเจอ”
รามซีดมองเรืองฤทธิ์อย่างไม่อยากเชื่อ และเสียใจที่ได้รู้ความจริง เสียงก้องภพดังขึ้น...
“รามสูร...จ้าวพสุธาเรียก รามสูรตอบด้วย”
รามได้สติ ขยับขาแว่นพูดตอบเสียงแหบเครือ
“ครับท่าน”
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงเงียบไป หรือเสือตัวใหม่ไม่มาแล้ว”
รามฟังคำถามก้องภพแล้วเครียด เพราะเวลานี้ ชีวิตเรืองฤทธิ์อยู่ในมือเขา รามหันไปมองทางพวกเรืองฤทธิ์อีกครั้งอย่างครุ่นคิด เห็นเรืองฤทธิ์จับมือแสงที่มีทีท่าร้อนรน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเรืองฤทธิ์ คือ...”
แสงจะบอกให้หนี แต่เรืองฤทธิ์ที่มองเทวัญคาดไม่ถึงพูดขัดขึ้น
“เดี๋ยว...นี่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ผมเป็นลูกชายพ่อเลี้ยง”
เรืองฤทธิ์รีบปรับตัว ทำยิ้มแย้มตบบ่าเทวัญ
“แล้วก็ไม่บอก ที่แท้ก็คนกันเองทั้งนั้น”
รามเครียด ตัดสินใจไม่ถูก ก้องภพเรียกมาอีก
“รามสูร เรื่องเสือตัวใหม่ว่ายังไง”
รามนึกถึงสิ่งที่ก้องภพเคยบอก...
‘…คนเป็นสายลับต้องใจเด็ด ไม่มีญาติ ไม่มีหัวหน้า ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรัก นายพร้อมที่จะเสียสละหรือเปล่า...’
รามสูดลมหายใจลึกยาว ตัดสินใจ
“มาแล้วครับท่าน ผมจะส่งรูปให้เดี๋ยวนี้”
รามกดแว่น ส่งภาพเรืองฤทธิ์ตรงหน้าให้ก้องภพดู ก่อนกดตัดการติดต่อ มองแทนสายตารามไปที่เรืองฤทธิ์ พึมพำเบาๆ
“ขอโทษนะครับอา แต่ผมต้องทำตามหน้าที่”
ก้องภพติดต่อกลับมาอีกครั้ง...
“งั้นนายถอนตัวออกมาเลย” ก้องภพหันไปสั่งยงยุทธ “ให้พวกหน่วยจู่โจมเข้าเคลียร์พื้นที่เดี๋ยวนี้ ขอให้พยายามจับเป็นให้ได้มากที่สุด”
“เดี๋ยวครับท่าน”
ยงยุทธมองขึ้นไปบนฟ้า
“มีอะไร”
“ดูนั่นสิครับ”
ยงยุทธชี้ไปนอกหน้าต่างรถ ก้องภพมองตาม เห็นเฮลิคอปเตอร์ที่ภาคภูมิ มาพร้อมกับหน่วยจู่โจม บินตรงมาทางไร่ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
“ลองติดต่อไปสิดาบ ว่าของหน่วยไหนแล้วมาที่นี่ทำไม”
ยงยุทธรีบหยิบอุปกรณ์สื่อสาร ก้องภพมองอย่างกังวล กลัวจะเสียแผน


ขณะเดียวกันที่หน้าโรงงาน จักรหันไปถามแสง
“เมื่อกี้คุณจะบอกอะไรผม”
แสงจะบอก แต่เสียงเฮลิคอปเตอร์เข้าเสียก่อน
ทุกคนแหงนมองตามเห็นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจบินมา 2-3 ลำบนท้องฟ้า รามที่กำลังจะหนีออกไป ชะงัก แหงนหน้ามองเฮลิคอปเตอร์
“ไม่เห็นท่านบอกเลย ว่าจะเข้าจู่โจมทางอากาศ”
รามรีบกดก้านแว่น ติดต่อก้องภพ
“รามสูรเรียกจ้าวพสุธา ๆ ตอบด้วย”
ทางก้องภพไม่ได้รับสาย เพราะกำลังยุ่งมาก รามเครียด ปิดสัญญาณเรียกออก
“แล้วนี่มันหน่วยไหนกันวะ”
รามยืนลังเล ว่าจะหนีหรือไม่หนี

ภาคภูมิลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ยืนจังก้าหน้าโรงงาน ถือปืนดูน่าเกรงขาม ประกาศลั่น
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ”
จักรหันหาเรืองฤทธิ์
“เอายังไงดีครับคุณฤทธิ์”
“ก็หนีสิวะ”
เทวัญสืบเท้าไปห้าม
“ผมว่าเราน่าจะยอมรับผิดไปก่อน โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”
เรืองฤทธิ์ยิ้มร้ายใส่เทวัญ
“แกอยากรับก็รับไปไปคนเดียวเถอะ...ไปโว้ย”
เรืองฤทธิ์วิ่งไปที่รถ จักรวิ่งตาม
ภาคภูมิเห็นมีการเคลื่อนไหว ประทับปืน แล้วตะโกนสั่ง
“ หยุด อย่าขยับ วางอาวุธลงกับพื้น”
จักรพยายามสู้ ยิงสวนไป พวกภาคภูมิเลยยิงกลับกระสุนปลิวว่อน เทวัญพูดไม่ออก แสงรีบเข้าคุ้มกันเทวัญ
“ไปอยู่ในโรงงานก่อนครับคุณเทวัญ”
“แต่..”
“เชื่อผมเถอะ ตอนนี้มันหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่มีใครฟังคุณหรอก ออกไปตอนนี้ก็มีแต่จะตายเปล่า”
แสงรีบลากเทวัญเข้าไปข้างในโรงงาน และยิงป้องกันตัวไปด้วย

ธิดากับปองธรรม ที่กำลังหนีกระเซอะกระเซิง ในป่าชายไร่กับลูกน้องชะงักหันไปมองทางโรงงาน
“เสียงปืนนี่! ตำรวจมาแล้วใช่มั้ยคะคุณพ่อ แล้วรามล่ะ รามอยู่ไหน”
ธิดาคลั่ง ปองธรรมจับแขนลูกแน่น
“ไม่ต้องห่วงรามหรอก เขาอยู่กับตาเทพแล้ว เรารีบไปกันเถอะ”
ธิดาดิ้น
“แต่ลูกจะไปหาราม ลูกไม่อยากให้เขาโดนตำรวจจับ ลูกไม่อยากเป็นหม้าย คุณพ่อปล่อยลูก บอกให้ปล่อยไง”
ปองธรรมสุดทน ตบหน้าธิดาเรียกสติ ธิดามองพ่ออย่างคาดไม่ถึง ปองธรรมเสียใจเพราะไม่เคยรุนแรงกับลูก เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาลูก หันไปสั่งลูกน้อง
“รีบเดินกันไปสิโว้ย ชักช้าอยู่ได้ หรือพวกแกอยากกินลูกกระสุนแทนข้าว”
ลูกน้องปองธรรมลนลาน รีบหักรกถางพง เดินไป ปองธรรมจะก้าวเดินหันมองธิดาที่ยืนนิ่ง ปองธรรมพูดเสียงอ่อน
“พ่ออาจจะทำเกินไป แต่พ่อยอมปล่อยให้ลูกไปไม่ได้จริงๆ”
ธิดาเข้าใจ สะอื้นฮัก ห่วงรามด้วย รักพ่อ กลัวไปหมด

เมขลารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา กุมหัวอย่างมึนๆ
“ทำไมฉันถึงมาหลับอยู่ที่นี่ได้ คุณเทวัญคะ คุณเทวัญ”
เมลุกขึ้นโผเผไปเปิดประตู แล้วชนกับกระดาษและกุญแจรถที่เทวัญทิ้งไว้ให้ กุญแจรถกับตกลงพื้น จึงหยิบทั้งสองอย่างขึ้นมา...
“นี่มันลายมือคุณเทวัญนี่”
เมขลาอ่านข้อความในกระดาษ
“คุณเม...ยกโทษให้ผมด้วยที่ทำกับคุณแบบนี้ แต่นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน หนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ผมทิ้งกุญแจรถกับเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ให้คุณแล้ว ลาก่อน”
“นี่มันอะไรกัน...คุณเทวัญคะ...คุณเทวัญ...คุณอยู่ไหน”
เมขลาเปิดประตูวิ่งถลาออกไปนอกห้องแล้วชะงัก เห็นคอมมานโดของก้องภพอยู่ไกลๆ กำลังจะเข้ามาค้นในบ้าน จึงรีบหลบไปอีกทาง

เทวัญที่ซ่อนอยู่กับแสง เห็นพวกลูกน้องกับคู่ค้าของปองธรรม แตกตื่น วิ่งหนีตำรวจกันให้ขวักไขว่ หลายคนหยิบปืนขึ้นมา ยิงเจ้าหน้าที่ของภาคภูมิที่เข้ามา บางคนตาย บางคนก็เจ็บ บางคนรอดออกไปได้ แสงเครียดยิงตอบโต้ตำรวจ เทวัญทนดูไม่ได้ พุ่งเข้าแย่งปืนแสง
“อย่าพี่แสง อย่าตอบโต้เจ้าหน้าที่”
“ไม่ทำแบบนั้น เราจะรอดได้ยังไงล่ะครับ”
“ได้สิ ถ้าผมยอมรับผิด ทุกคนจะปลอดภัย”
“แต่..”
เทวัญไม่ฟังออกไปจากบังเกอร์แล้ว แสงอ้าปากค้าง จะตามแต่ลูกปืนจากเจ้าหน้าที่ที่ยิงมาชุดใหม่เฉียดแสงพอดี
แสงจำใจต้องแอบอยู่กับที่ เทวัญหนีตาย ไปอีกทาง แสงมองเป็นห่วง กลัวตายก็กลัว
“โธ่โว้ย จะมาเป็นพระเอกเอาอะไรตอนนี้วะ”

พวกคอมมานโดของก้องภพ ลงจากรถจีเอ็มซี ตรงไปล้อมโรงงาน ก้องภพก้าวลงจากรถตู้ ที่แล่นตามมาจอด สั่งผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
“ผมเพิ่งรู้ว่าพวกพ่อเลี้ยงปองธรรมหนีไปแล้ว เลยอยากให้พวกคุณจับเป็นลูกน้องกับคู่ค้าของเขาให้ได้มากที่สุด แล้วระวังอย่าปะทะพวกผู้กองภาคภูมิล่ะ”
พวกคอมมานโดรับคำ ก่อนสลายตัวแยกย้ายกันไป ก้องภพหันไปมองยงยุทธ
“เมื่อครู่รามติดต่อมา แต่ผมไม่ทันได้รับสาย คุณลองตามตัวเขาทีสิ ว่าออกไปจากที่นี่หรือยัง”
“ครับ”
ยงยุทธ ผลุบหายเข้าไปในรถตู้ ก้องภพมองรอบๆ เครียดๆอย่างเป็นห่วงราม ขณะเดียวกันนั้น รามกำลังหาทางออกไปจากโรงงานอย่างเครียด
“ผู้กองภาคภูมิมาได้ยังไงวะ”
รามชะงัก เห็นเทวัญหยิบปืนพกออกมามองคิดๆ ก่อนจะก้มวางปืนลงที่พื้น ตั้งใจจะออกไปมอบตัว แต่ยังไม่ทันวาง รามมาจับไว้
“เดี๋ยว คุณจะทำอะไรน่ะ”
“มอบตัว เรื่องพวกนี้จะได้จบและโรงงานก็จะได้ปิดอย่างที่นายต้องการไง”
รามทำไก๋
“คุณพูดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
“ผู้กองคงมัวแต่ส่งข่าวให้พรรคพวกอยู่ล่ะสิ เลยลืมไปว่าวันนั้นผู้กองทำแว่นสายลับตกไว้ในโรงคั่วใบชา”
รามอึ้งที่เทวัญเรียกตนเองว่าผู้กอง
“จริงๆ ผมก็อยากขอบใจ ที่ผู้กองคิดจะช่วยให้พ่อผมเลิกทำอาชีพนี้ แต่วิธีของผู้กองมันสกปรก เสียจนผมรับไม่ได้”
รามชักฉุน
“ผมก็ไม่ได้สกปรกไปกว่าพ่อคุณหรอก”
“อย่าลามปามพ่อผม ท่านรักและไว้ใจคุณเหมือนลูก คุณทรยศหักหลังท่านแบบนี้ได้ยังไง”
เทวัญพุ่งเข้าบีบคอรามแน่นเพราะแค้น ล้มไปด้วยกัน ปล้ำสู้กัน
“แล้วยังน้องผมอีก ผู้กองหลอกเขาทำไม ไอ้คนสารเลว”
เทวัญบีบคอรามแน่น เสียงภาคภูมิดังขึ้น
“หยุดนะ อย่าขยับ”
เทวัญชะงัก รามก็อึ้ง ทั้งสองเห็นภาคภูมิเข้ามา
“ดีมาก ลุกขึ้นช้าๆ แล้วเอามือวางบนหัว”
เทวัญก่อนยอมทำตาม รามกระซิบ
“หนีไปเร็วคุณเทวัญ”
เทวัญชะงักมองรามไม่เชื่อสายตา
“ไปสิ คุณไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ด้วยสักนิด จะรับผิดไปทำไม”
“ซุบซิบอะไรกัน วางมือบนหัว แล้วยืนอยู่ตรงนั้น อย่ากระดุกกระดิก”
ภาคภูมิถือปืนคุมเชิงเดินเข้ามา รามทนดูไม่ได้ ผลักเทวัญออกไป แล้วชักปืนขึ้นยิงภาคภูมิ แต่เจตนายิงพลาด ก่อนหนีไป
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”ภาคภูมิตามรามไป
แสงเข้ามาพอดี รีบช่วยเทวัญ
“ทางนี้ครับคุณเทวัญ”

เมขลาปลอมตัวด้วยการทำหร้ามอมแมม โพกหัวเป็นชาวบ้าน ลัดเลาะไปตามไร่ชา หนีพวกคอมมานโดที่บุกค้นบ้านออกมา จะไปหาเทวัญ กับรามที่โรงงาน เธอสวนทางกับลูกน้องปองธรรมที่วิ่งหนีตายออกมา เมขลารีบจับตัวไว้
“เห็นคุณเทวัญมั้ย” ลูกน้องส่ายหน้า “แล้วคุณรามล่ะ”
“อยู่ที่ในโรงงาน”
ลูกน้องรีบหนีไปทันที
“สาธุ ขออย่าให้พวกคุณเป็นอะไรเลย”
เมขลาทำอะไรไม่ถูก แอบที่ในไร่มองไป เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล้อมโรงงานไว้หมดแล้ว

แสงพยายามพาเทวัญหนี แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ผมไม่หนี ถ้าพี่อยากหนีก็ไปเถอะ ผมจะรับผิดเรื่องทั้งหมดเอง คุณพ่อจะได้พ้นผิด”
“แต่ถ้าผมปล่อยให้คุณติดคุก พ่อเลี้ยงฆ่าผมแน่”
เทวัญกลั้นใจหยิบปืนขึ้น
“งั้นพี่แสงเลือกเอา จะให้ผมฆ่าตรงนี้ หรือจะรอดไปหาคุณพ่อ”
แสงลังเล
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางอาวุธลง”
เทวัญหันไป เห็นก้องภพกับพวกตรงเข้ามา เทวัญหันไปพยักหน้าให้ แสงตัดใจ
“โชคดีนะครับคุณเทวัญ”
แสงวิ่งหนีไป พวกก้องภพไล่ตามไป ก้องภพหันมองเทวัญ ทั้งสองสบตากัน
เทวัญกลั้นใจ โยนปืนทิ้ง ยกมือขึ้นบนศีรษะ
“ผมเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าคุณจะจับ ก็จับได้เลย แต่หยุดฆ่าแกงลูกน้องผมเสียที”

ก้องภพอึ้ง คิดไม่ถึงว่าเทวัญจะรับง่ายๆ

อ่านต่อตอนที่ 18




กำลังโหลดความคิดเห็น