นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 16
ตอนเย็นของวันนั้น ปองธรรมนั่งอยู่ตรงกลางเป็นประธานตัดสินความ ธิดายืนอยู่กับราม ส่วนเมขลายืนข้างๆ เทวัญ
ธิดาร้องไห้เข้าไปกอดแขนพ่อ
“คุณพ่อต้องจัดการไล่มันออกไปจากบ้านเรานะคะ นังเนี่ยมันมีพี่เทพแล้ว แต่ก็ยังมายั่วยวนผัวเก่า ทำแบบนี้มันเท่ากับหยามหน้าลูก เหยียบหน้าคุณพ่ออย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด”
“ยัยน้องเธอพูดเกินไปแล้วนะ” เทวัญปราม
“หรือว่าไม่จริง พี่เทพก็เห็นว่ามันกอดจูบกันกลางวันแสกๆ”
รามรีบบอก...
“แม่ผมไม่สบาย เขาก็เลยย้ายไปอยู่กับญาติที่นั่นชั่วคราว ผมก็แค่ไปเยี่ยม แล้วก็ไปเจอคุณเมที่ไปเยี่ยมน้าเขาเข้าพอดี”
“เป็นความจริงค่ะ ที่นั่นเป็นบ้านเด็กกำพร้า ถ้าใครคิดว่าเราจะไปทำเรื่องพรรค์อย่างว่าได้ คนคิดก็ปัญญาอ่อนสุดๆ” เมขลาเสริม
ธิดาคว้าที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะปาใส่
“แกด่าฉันหรือ”
เทวัญรีบเอาตัวบังเมขลาไว้ ที่เขี่ยบุหรี่โดนหน้าผากเทวัญแตก เลือดไหลออกมา ธิดาตกใจไม่น้อย
“คุณเทวัญ คุณทำแบบนี้ทำไม รู้จักห่วงตัวเองบ้างสิคะ”
เมขลาดูห่วงเทวัญมาก รามชักไม่พอใจ ธิดายิ่งบ้าใหญ่พาลใส่เมขลา เข้าไปกระชากแขน
“ก็เพราะแกนั่นแหละเป็นต้นเหตุ ไป ออกไปจากบ้านฉัน”
รามรีบเข้าไปดึงธิดาให้หยุดบ้า ปองธรรมรีบลุกยืนตวาดลั่น
“พอแล้ว หยุดบ้ากันสักที ถ้ามันวุ่นวายกันนัก ก็รีบๆแต่งพร้อมกันไปเลย จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว”
ปองธรรมเดินหนีไปทันที รามกับเมขลาตกใจมองหน้ากัน เพราะต่างก็ไม่อยากแต่งงานใหม่...
เทวัญเข้าไปช่วยเมขลา เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า เพราะจะต้องเดินทางไปเชียงราย
“ทำไมคุณพ่อคุณต้องให้เราไปแต่งกันไกลถึงไร่ชาด้วยคะ” เมขลาถามอย่างไม่เข้าใจ
“คุณพ่อมีงานสำคัญต้องไปทำ ก็เลยถือโอกาสจัดซะที่นั่นแต่คุณไม่ต้องห่วง ผมสั่งให้คนของผมสืบหาคนพวกนั้นแล้วเพียงแต่คงเจอตัวยากหน่อย เพราะมันเป็นพวกนักเลงไม่มีสังกัด”
“แต่ฉันอยากไปตามหาคุณแม่เอง ฉันคงขึ้นไร่ชากับคุณไม่ได้หรอก”
“ถ้าคุณไม่ไป แล้วจะหาหลักฐานช่วยแม่คุณได้ยังไง”
เมขลาฟังแล้วก็ตัดสินใจพยักหน้ารับอย่างเครียดๆ
เมื่อรามกลับเข้าไปในห้องนอน เขาใส่แว่นดำ ติดต่อกับยงยุทธทันที...
“ผมไม่เห็นหน้าพวกมัน แต่คิดว่าคงเป็นแค่พวกนักเลงปลายแถว ดาบลองไปสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ กับที่บ้านของคนชื่อโรสดู อาจได้เบาะแสเพิ่ม”
รามดึงรูปทรงวาดออกมา กดปุ่มที่แว่นเพื่อถ่ายภาพส่งให้ดาบยุทธ ครู่หนึ่งยงยุทธรับรูปทรงวาดที่ไหลออกมาจากเครื่องปริ้นซ์ ทันใด ก้องภพมาดึงไปจากมือ รู้ว่าเป็นแม่เลี้ยงราม ยงยุทธกลัวว่าจะโดนก้องภพตำหนิ รีบบอก
“ผมก็ไม่รู้ว่าใครครับ แต่ผู้กองขอร้องให้ช่วยตามหา”
ก้องภพส่งคืนให้
“สิ่งที่สายลับทำได้ยากที่สุด ไม่ใช่การลงมือฆ่าตัวเองเพื่อปกป้องความลับขององค์กร แต่มันคือการต้องตัดขาดคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตไปให้หมด”
ก้องภพไป ยงยุทธงง
“หรือท่านจะรู้จักคนในภาพนี้”
ที่ไร่ชา เชียงราย...ธิดาเดินนำรามไปที่ลานโล่งๆ แล้วหันมาบอก...
“คุณพ่อจะจัดงานเลี้ยงให้เราตรงนี้ นายว่าไง”
รามนึกถึงภาพสวมแหวนให้เมขลาอย่างเศร้าๆ ธิดาเห็นรามเฉย แว่ดใส่ทันที
“ถ้าไม่เต็มใจจะแต่งก็พูดมาตรงๆเลย”
รามได้สติรีบแก้ตัว
“ผมพูดแบบนั้นแล้วหรือ ผู้หญิงนี่ชอบคิดเอาเอง สรุปเอาเอง”
“แต่ใจนายคิด ฉันยังไม่ลืมเรื่องวันนั้นนะ”
“ไม่เอาน่า โมโหมากๆเดี๋ยวไม่สวยนะ ดูสิทำหน้าอย่างนี้ตีนกาขึ้นมาเป็นริ้วๆเลยเห็นมั้ย”
ธิดาทุบราม
“ใช่สิ นังเมียเก่านายมันคงสวยกว่าฉัน ดีกว่าฉัน ก็ไปหามันสิ”
“ถ้าคุณไล่ผม ผมไปจริงๆนะ”
“ก็ลองไปสิ ฉันจะฆ่านาย”
รามหัวเราะโอบเอวธิดาเข้ามากอด
“ถ้าฆ่าผมตาย คุณหาผู้ชายหล่อๆบาดใจแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ”
ธิดาซบอกรามยิ้มออกมา แต่รามกลับสีหน้าเศร้าลงเมื่อนึกถึงเมขลา
ห่างออกไป เมขลาเดินคู่มากับเทวัญ เธอเห็นภาพรามกอดกับธิดาก็รู้สึกปวดใจ รีบเดินเลี่ยงไปทางอื่น
“ผมไม่รู้ว่าใจคุณคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ามันทำให้คุณทุกข์ใจ ผมก็อยากแบ่งเบาให้คุณรู้สึกดีขึ้นนะ”
เทวัญบอกอย่างเป็นห่วง เมขลาหันมายิ้มพยายามเข้มแข็ง
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็พร้อมรับได้เสมอ ขอให้ฉันได้ช่วยคุณแม่ก็พอ”
“ไม่ต้องห่วงนะ เมื่องานของคุณเสร็จ ผมจะหย่าให้”
“ฉันเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากใช่มั้ยคะ”
“คุณก็เหมือนผม เพื่อคนที่รักแล้ว ก็ยอมทำได้ทุกอย่าง”
“ฉันจะรีบหาหลักฐานให้รามเห็นว่า อาของเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายกับพ่อคุณ เขาจะได้เชื่อสักทีว่าอาเขาคิดฆ่าคุณแม่ คุณจะได้ไม่ต้องหลอกพ่อคุณอีกต่อไป”
“คุณต้องระวังตัวให้มาก เพราะถ้าคุณโดนจับได้ พ่อผมคงเล่นงานคุณถึงตายแน่”
เมขลาพยักหน้า แต่จู่ๆก็หน้ามืด เทวัญรีบประคอง
ธิดาเกาะแขนรามเดิน เห็นเทวัญให้เมขลาขี่หลังเดินผ่านมา
“เอ๊ะ นั่นพี่เทพให้ใครขี่หลัง”
รามมองตามเห็นว่าเป็นเมขลา ก็หึงทันที...
“ขาก็มีเดิน ทำไมต้องถึงขนาดให้ขี่หลังกันด้วย”
“มันคงแกล้งสำออยออเซาะพี่เทพมากกว่า”
รามหมั่นไส้ หันมาอุ้มธิดาตัวลอย ธิดาตกใจ
“ว้าย! นายจะทำอะไรเนี่ย”
“ผมก็อยากให้คุณออเซาะผมบ้าง เราจะได้สวีทเหมือนเขาไง”
เทวัญมาถึงจุดที่รามยืนพอดี ธิดายิ้มยั่วกอดคอรามโชว์เมขลา ที่โมโหหึงขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรไปยัยน้อง”
“คุณเทเรซ่าเดินไม่ไหวครับ ผมก็เลยยอมเป็นราชรถให้ แล้วคุณเมละครับ ยังไม่ทันถึงวันส่งตัวเลย ก็ขาแข้งอ่อนไม่มีแรงเดินเองแล้วหรือ”
เมขลาไม่พอใจ แกล้งยั่วกลับ
“ใช่ค่ะ คุณเทวัญกับฉัน เราไม่อยากอยู่ห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว”
“อาการคล้ายผมกับคุณเทเรซ่าเลยนะครับ จริงมั้ยจ๊ะที่รัก” รามโต้ทันที
ธิดาแกล้งยั่วอีก...
“รามน่ะเขาบอกว่าแต่งงานครั้งนี้เขามีความสุขที่สุด ไม่เหมือนงานแต่งครั้งแรก เป็นวันแย่ๆ” ธิดาเน้นเสียง “ที่อยากลืม”
“อยากลืมก็แสดงว่ายังลืมไม่ลงสิคะ ไม่เหมือนฉันลืมไปหมดแล้วว่าเคยแต่งงานกับใคร หน้าตาเป็นยังไง”
เมขลามองเย้ย รามฉุน ก่อนที่การทะเลาะกันจะลุกลาม แสงเข้ามาขัดก่อน
“คุณเทวัญครับ พ่อเลี้ยงให้ผมมาเชิญคุณไปพบ” แสงมองราม “ส่วนแกไม่ต้อง”
รามเซ็งทันที เพราะอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรคุยกัน
ปองธรรม ชวนเทวัญไปที่โรงงานผลิตยา ขณะที่แสงยืนอยู่ห่างๆ
“โรงงานเราใกล้จะเปิดเดินเครื่องจักรได้เร็วๆนี้ ฉันจะถือโอกาสเปิดตัวหุ้นส่วนใหม่ให้พวกคู่ค้ารายใหญ่ๆได้รู้จัก”
เทวัญตาวาว
“เขาจะมาด้วยตัวเองเลยหรือครับพ่อ”
“เดี๋ยวแกก็จะได้รู้จักเขาในงานแต่งพวกแก”
ปองธรรมเดินไป ขณะที่รามยืนเจียมตัวหลบๆอยู่ แสงเห็นรีบเดินไปข่ม
“พ่อเลี้ยงไม่อนุญาตใครก็ห้ามเข้ามาบริเวณนี้”
ปองธรรมมองแสงแบบปรามๆ พ่อเลี้ยงเดินผ่านรามโดยไม่ทักทาย แสงรีบตาม เทวัญตบบ่ารามขณะเดินผ่านราม
“แว่นสวยดีนะ”
รามรอให้พวกปองธรรมพ้นไป แล้วรีบหันมาเล็งแว่นไปที่โรงงานผลิตยา ถ่ายรูปเก็บไว้ทันที...
ขณะที่เดินกลับ เทวัญหันไปบอกแสง
“พี่แสงมีงานก็ไปทำเถอะ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณพ่อ”
แสงก้มหัวแล้วไป
“คุณพ่อจะพักงานรามไปอีกนานมั้ยครับ คือ ผมเห็นว่ายัยน้องอาจจะเสียหน้า ถ้าวันงานมีแขกซักถามเรื่องหน้าที่การงานของราม”
“แกก็ห่วงน้องเป็นเหมือนกันหรือ”
“ผมมีน้องสาวเพียงคนเดียวนะครับ อะไรที่น้องมีความสุขผมก็อยากทำให้”
ปองธรรมรู้สึกดีกับเทวัญขึ้น
“ที่ยัยน้องยอมให้พ่อรับผู้หญิงคนนี้เข้ามา ก็เพราะเห็นแก่พี่ชายคนเดียวเหมือนกัน แกก็ควรคุมเมียแกไว้ให้ดีด้วย”
ปองธรรมตบบ่าเทวัญแล้วเดินนำไป ขณะเดียวกันในบ้าน เมขลาเดินสำรวจบ้านปองธรรม“ถ้าเราจะหาหลักฐาน มันก็ต้องเริ่มจากห้องทำงานพ่อเลี้ยงแต่ห้องทำงานพ่อเลี้ยงมันอยู่ห้องไหนกันละ”
รามกลับไปที่ห้อง เปิดโน๊ตบุ๊คคุยกับก้องภพ...
“วันแต่งงานของผมเป็นวันที่เหมาะที่สุด ที่ท่านจะบุกเข้าทลายโรงงานใหม่ของพ่อเสือ เพราะมันจะมีทั้งหุ้นส่วนใหม่และคู่ค้ารายใหญ่มากันเพียบ”
“ดี แต่นายต้องหารายชื่อเครือข่ายของมันมาให้ครบ เราจะได้รวบทีเดียวยกแก๊ง ไม่ให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
ก้องภพสั่ง รามรับคำแล้วปิดเครื่อง แล้วออกจากห้องไป ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เมขลาเดินไปถึงหน้าห้องเก็บอาวุธ เธอเปิดประตูห้อง ยื่นหน้าเข้าไปดูว่าห้องทำงานพ่อเลี้ยงหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่ใช่ แล้วเธอก็เห็นแสงกำลังนั่งขัดปืน เธอรีบปิดห้องทำให้เกิดเสียงดัง แสงหันขวับ
“ใคร!”
เมขลาตะลีตะลานวิ่งหนีเลี้ยวมุมทางเดินหายไป แสงออกมาไม่เห็นใครแต่ก็สงสัย รีบเดินตามไปทางที่เมขลาหนีไป
รามใส่แว่นดำคุยกับก้องภพอยู่ภายในห้องน้ำ...
“พ่อเสือกำลังหาฤกษ์วันแต่งอยู่ ผมรู้วันดีเดย์เมื่อไหร่ จะรีบส่งข่าวให้ท่านทราบทันที”
ทันใดเมขลาเปิดประตูพรวดเข้ามา
“ว้ายยย”
“เฮ้ยยยย”
เมขลากลัวแสงมาได้ยินรีบปิดปากราม เช่นเดียวกับรามที่กลัวคนได้ยินรีบปิดปากเธอไว้ด้วย ต่างคนต่างมองหน้ากันตาโต ไม่กล้าส่งเสียงร้อง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าแสงที่เงียบไป ทั้งคู่ปล่อยมือจากปากของกันและกัน
“คุณหนีใครมา อาการแบบนี้ไม่ใช่แค่เข้าห้องน้ำผิดแน่”
“เปล่านี่ไม่ได้หนี ทำไมฉันจะต้องหนีด้วย แล้วคุณล่ะ เข้าห้องน้ำทำไมไม่รู้จักล็อกประตู”
รามเดินเข้าหา เมขลาถอยหลังพิงประตู
“รู้สึกว่าคุณไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิดเลยนะ”
“คุณก็เหมือนกัน ทำตัวแปลกประหลาด อยู่ในห้องน้ำยังต้องใส่แว่นดำ เท่ซะตายล่ะ”
รามรีบดึงออก
“เรื่องของผม ส่วนคุณควรอยู่ที่นี่อย่างสงบเสงี่ยม อย่าเอานิสัยจุ้นจ้านกับเรื่องชาวบ้านมาใช้ ไม่งั้นอันตรายจะมาถึงตัว”
รามยื่นหน้าออกไปมองซ้ายขวา
“รอให้ผมไปพ้นจากตรงนี้ก่อน แล้วคุณค่อยออกมา”
รามออกไป ธิดาเดินมาพอดีในระยะห่างๆ พอเห็นรามจึงรีบก้าวเท้าไปหา แต่กลับเห็นเมขลาเดินออกจากห้องน้ำ
เมขลาเชิดใส่ราม
“ทำไมฉันจะต้องเชื่อคุณด้วย”
เมขลาเดินแซงหน้ารามไปเลย ธิดารีบหลบ
“แกทำให้ฉันเจ็บ ฉันจะทำให้แกเจ็บยิ่งกว่า นังเม!”
ธิดามองตามเมขลาอย่างแค้นใจ...
เช้าวันใหม่...ปองธรรมและทุกคน นั่งกินข้าวร่วมกัน...
“พ่อหาฤกษ์แต่งงานให้ลูกได้แล้วนะ” ปองธรรมเปิดฉากสนทนา
“เมื่อไหร่คะคุณพ่อ อย่าให้นานนักนะคะ หนูขี้เกียจรอ” ธิดารีบบอก
“อีกสองอาทิตย์ เรื่องงานเลี้ยงกับแขกที่จะเชิญมาพ่อจะเป็นคนจัดการให้เอง ลูกกับพี่เทพแค่เตรียมเข้าพิธีอย่างเดียวก็พอ”
“หนูนัดออแกนไนซ์มาวางรูปแบบในพิธี กลัวคุณพ่อจะทำออกมาแบบเชยๆหนูอายเขาแย่...” ธิดาแกล้งหันไปหาเมขลา “ไปด้วยกันนะ ฉันอยากให้เธอมาช่วยออกไอเดีย เพราะงานนี้ก็เป็นงานของเธอเหมือนกัน”
ทั้งหมดงงกับกริยาที่เปลี่ยนไปของธิดา
“เออ ก็ได้ค่ะ” เมขลาไม่ค่อยไว้ใจ แต่จำต้องรับคำ
ธิดายิ้มแต่สายตามุ่งร้าย รามมองธิดาอย่างสงสัยแต่เธอหันมายิ้มให้อย่างเนียนๆ
ในห้องทำงาน...ปองธรรมดึงกระดาษรายชื่อจากเครื่องปริ้นซ์ส่งให้แสง รามเปิดประตูเข้ามาพอดี แสงเห็นไม่พอใจพูดเสียงแข็งใส่ เพราะไม่กล้าตวาด
“นายโดนพักงานอยู่ไม่ใช่หรือ เข้ามาทำไม”
“ฉันเรียกรามมาเอง เข้ามาสิ”
รามเดินไปยืนข้างแสง ปองธรรมสั่งแสง
“แกรีบส่งการ์ดเชิญไปให้แขกคนสำคัญตามรายชื่อที่ฉันปริ้นให้ จำไว้ว่าต้องย้ำให้มาให้ได้ ฉันมีสินค้าชั้นดีให้ดู”
“ครับท่าน”
รามมองกระดาษในมือแสง แล้วมองไปที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะปองธรรม
“ราม ฉันจะให้แกแก้ตัวอีกครั้ง เอารูปนี้ไป...ไอ้หมอนี่มันเป็นตัวปล่อยยาทางสายภาคเหนือให้เรา แต่ว่าตอนนี้มันคิดถอนตัว แกไปเก็บมันซะ”
รามรับรูปมาก้มหน้ารับคำ แต่สายตาแอบจับจ้องไปที่เครื่องคอมฯบนโต๊ะ
เมขลาเดินตามธิดาขึ้นไปบนเนินเขา เธอมองรอบๆอย่างสงสัย...
“ทำไมต้องนัดออแกนไนซ์มาถึงบนนี้ละคะ ความจริงคุยกันที่บ้าน หรือลานที่จัดงานก็ได้”
“ฉันอยากถ่ายรูปคู่บนนี้ ดูสิวิวสวยออกจะตายไปเห็นมั้ย”
“ความจริงฉันยังไงก็ได้ คุณตัดสินใจไปได้เลย”
ธิดาเดินเข้าไปยื่นมือให้เมขลา
“ที่ผ่านมาฉันรู้ตัวว่าแรงเกินไป เมื่อวานฉันนอนคิดทั้งคืน เราควรจบอดีตไว้แค่ตรงนี้ เพราะถึงยังไงเธอก็กำลังจะมาเป็นพี่สะใภ้ของฉัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”
เมขลามองมือธิดาแบบไม่แน่ใจ
“ทำไม ไม่อยากญาติดีกันหรือ”
เมขลาไม่อยากทะเลาะด้วย จึงตัดสินใจยื่นมือไปจับด้วย ธิดายิ้ม
รามถ่ายรูปคนปล่อยยาของปองธรรม ผ่านทางแว่น ส่งไปให้ปองธรรมดู พลางอธิบาย...“รูปที่ท่านเห็นเป็นสายส่งยาทางภาคเหนือของพ่อเสือ มันคิดถอนตัวเลยโดนสั่งเก็บ ท่านจะให้ผมดำเนินการยังไงต่อไป”
ก้องภพตอบรามทางโฟนที่ติดกับหูฟัง
“ฉันจะส่งทีมฉลามขึ้นไปจับตัวมันเอง นายแค่รอเอาภาพถ่ายไปยืนยันว่ามันสิ้นชื่อไปจากโลกนี้แล้วก็พอ”
“ครับท่าน”
รามดึงแว่นออก มองไปเห็นทีมออแกนไนซ์เดินตรงมา รู้สึกแปลกใจที่ไม่เห็นเมขลากับธิดา“พวกคุณไม่ได้อยู่กับคุณเทเรซ่าในไร่ชาหรือครับ”
“เปล่านี่คะ เราเพิ่งมาถึงค่ะ คุณเทเรซ่านัดคุยกับเราที่นี่”
รามเอะใจว่าธิดาจะทำอะไรเมขลาหรือเปล่า รีบวิ่งไปทางเนินเขาทันที
เทวัญออกมาจากบ้านเห็นรามดูรีบร้อน จึงรีบตามไป
อ่านต่อหน้า 2
นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 16 (ต่อ)
เมขลายืนอยู่บนเนินเขา ธิดาชี้ชวนให้ดูสถานที่
“เราจะยืนคู่กับเจ้าบ่าวตรงนี้ แล้วให้ช่างภาพถ่ายให้เห็นวิวด้านหลัง ฉันว่าภาพออกมาจะเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยล่ะ”
ธิดาพูดไปก็เดินมายืนด้านหลังเมขลา
“แต่ฉันว่าตรงนี้มันลมแรงเกินไป ดูไม่ค่อยปลอดภัยนะ”
“ทำไมหรือ กลัวจะลื่นตกลงไปข้างล่างหรือไง”
ธิดายื่นมือไปจะแตะหลังเมขลาเพื่อจะผลัก ขณะเดียวกัน รามวิ่งมาถึงบริเวณพื้นที่จัดงานในไร่ชา เมื่อไม่เห็นใครก็หน้าตื่นกลัวเมขลามีอันตราย ทันใดเสียงเมขลาดังขึ้น
“กรี๊ด”
รามหันขวับไปตามเสียง ทางด้านเมขลานั้น ถูกผลักจนลื่น มือเธอคว้าข้อเท้าธิดาได้ ทำให้ธิดาโดนดึงลงไปด้วย ทั้งคู่กลิ้งตกเนินไปด้วยกัน
รามวิ่งขึ้นมาบนเนินพอดี เห็นทั้งคู่ลงไปนอนอยู่ด้านล่างด้วย แยกห่างกันไปคนละทาง รามรีบหาทางตามลงไป กระทั่งพบธิดานั่งตัวงอที่พื้น หน้าผากมีเลือดซึมออกมา รามรีบมองหาเมขลาเพราะห่วงมากกว่า
เมขลานอนคว่ำหน้า พยายามจะลุกขึ้น รามจะวิ่งไปช่วยเมขลาก่อน ธิดาเห็นรีบร้องเรียก
“โอ๊ย ราม ฉันอยู่ทางนี้”
รามชะงัก เมขลาเงยหน้ามองราม พยายามกัดฟันอดทนเพราะเจ็บที่ข้อศอก
“นายบอกว่ารักฉัน ไม่เคยรักมันเลยสักนิด งั้นวันนี้นายก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ ว่าที่นายพูดกับฉัน มันคือความจริง”
ธิดาจ้องหน้า รามเห็นสีหน้าเมขลาเจ็บแผลแล้วยิ่งสงสารแต่จำใจต้องเลือกหน้าที่ก่อน จึงเดินไปประคองธิดา เมขลามองรามอย่างเจ็บปวดหัวใจสุดๆ ธิดายิ้มเยาะอย่างเป็นผู้ชนะ
เมขลามองผ่านรามไปเห็นเทวัญยืนมองเหตุการณ์อยู่ เธอรู้สึกต้องการเทวัญอย่างสุดๆ
“คุณเทวัญ”
เทวัญเดินไปหาเมขลาโดยไม่มองหน้ารามกับธิดาเลย เทวัญอุ้มเมขลาเดินผ่านรามไป รามมองตามอย่างเจ็บปวดที่ช่วยเธอไม่ได้
รามทำแผลที่หน้าผากให้ธิดา แล้วลุกยืนไม่ยอมพูดอะไรเลย ธิดารีบดึงมือไว้
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเขานะ เขาลื่นตกไปเอง ฉันพยายามจะดึงเขาไว้ จนตัวเองลื่นตกไปด้วย”
รามแกะมือธิดาออก รามเสียงขรึม
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยสักคำ”
รามเดินออกไป ธิดาโมโหคว้าหมอนปาทิ้ง ขณะเดียวกัน เทวัญทำแผลที่ข้อศอกให้เมขลาที่ห้อง
“ผมต้องขอโทษแทนยัยน้องด้วย เรื่องนี้ผมไม่ยอมปล่อยให้เงียบไปแน่ๆ ยังไงก็ต้องพูดกับคุณพ่อ”
เมขลารีบห้าม
“อย่าเลยค่ะ ต่อไปฉันจะระวังตัวให้มากกว่านี้ ฉันไม่อยากให้คุณมีปัญหากับพ่อเลี้ยง”
“ผมจะรีบช่วยคุณหาหลักฐานให้เร็วที่สุด”
“ไม่ค่ะ ฉันจะหาเอง เขาเป็นพ่อคุณฉันรู้ว่าคุณลำบากใจ แต่ฉันสัญญา ถ้าฉันเจอสิ่งที่ต้องการ ฉันจะให้รามดูแค่คนเดียว ไม่ทำให้พ่อคุณต้องเดือดร้อนไปถึงตำรวจ”
เทวัญนิ่งไปจำนนด้วยเหตุผลของเมขลา แล้วออกจากห้องไป รามที่จะมาดูเมขลารีบหลบ
เสียงเคาะประตู เมขลาคิดว่าเป็นเทวัญจึงลุกไปเปิด รามรีบดันตัวเองเข้ามา
“คุณเข้าห้องผิดแล้ว เชิญออกไป โอ๊ยยย”
เมขลาโกรธ จะดันรามออกไป จึงเจ็บข้อศอก รามรีบจับดู
“เจ็บมากมั้ย ผมขอ...”
พูดไม่ทันจบ เมขลาสวนทันที
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ไปดูแลคนของคุณเถอะ”
“เขาทำร้ายคุณใช่มั้ย”
“เขาบอกว่าไงละ ฉันผลักเขา หรือเขาช่วยฉันจนตกลงมาด้วยกัน เขาบอกอะไรก็ตามนั้นแหละ”
รามห่วงเมขลาจะมีอันตรายอีก
“ถ้าอยากมีชีวิตต่อไป เลิกกับคุณเทวัญซะแล้วรีบไปจากที่นี่”
เมขลาน้อยใจตวาดใส่
“ไม่เลิก”
“รักเขามากขนาดยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเลยหรือ”
“ก็คงมากพอๆกับที่คุณรักยัยทะเลทราย ถึงขนาดปล่อยให้ฉันเจ็บโดยไม่เหลียวแลสักนิด แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรหรอกนะ เพราะคุณกับฉันมันก็มีแต่ความเกลียดให้กันอยู่แล้วนี่”
รามทนไม่ไหวอยากบอกความจริง
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ความจริงแล้วผมทำไปเพราะมีเหตุผล”
“เหตุผลอะไร”
เสียงมือถือรามดังขัดจังหวะ รามมองชื่อที่หน้าจอมือถือเห็นชื่อธิดาก็ถอนใจเซ็งๆ จำต้องกลับออกไป
บ่ายวันใหม่...เมขลาเข้าไปในครัว สาวใช้หันมามองอย่างแปลกใจ
“อุ๊ย คุณเมอยากได้อะไรคะ”
“ฉันอยากได้กาแฟสักแก้ว คือจะเอาไปให้พ่อเลี้ยงจ๊ะ”
“เดี๋ยวหนูเอาไปให้เองก็ได้”
“ไม่ต้องจ๊ะ คือฉันอยากเอาใจพ่อสามีน่ะ เธอชงให้ฉันก็พอ”
สาวใช้พยักหน้ารับ หันไปหยิบแก้ว เมขลารีบถาม
“เออนี่ ไม่รู้ห้องทำงานพ่อเลี้ยงห้องไหนหรือ”
สาวใช้บอกทางให้ เมื่อชงกาแฟเสร็จ เมขลาจึงถือถ้วยกาแฟเดินไปตามทาง...
“พอขึ้นบันไดไป ก็เดินเลี้ยวไปทางปีกซ้ายของตึกก็จะเจอ”
เมขลามาหยุดหน้าห้องปองธรรม มองซ้ายมองขวาแล้วแง้มประตูมองลอดช่องเข้าไป เห็นบริเวณโต๊ะทำงานไม่มีคนนั่งอยู่ เธอมองซ้ายขวาปลอดคน รีบผลุบเข้าห้อง ตรงไปที่โต๊ะทำงาน อย่างกลัวๆ
“เริ่มจากตรงไหนก่อนดี ใจเย็นไว้ยัยเม อย่าสั่นๆๆๆมันน่าจะเป็นพวกเอกสาร หรือสัญญาที่ต้องเซ็นชื่อกำกับไว้”
เมขลาฮึด รื้อบนโต๊ะ เปิดแฟ้ม หยิบเอกสารดู เสียงนาฬิกาปลุกเรือนเล็กๆปลุกขึ้นมา เธอสะดุ้งโหยง รีบตาลีตาเหลือกปิดนาฬิกามือไม้สั่น ถอนหายใจโล่งอกไปที แต่จู่ๆก็มีเสียงลูกบิดประตูหมุน เธอรีบหาที่ซ่อน เห็นโต๊ะวางหนังสือตรงมุมห้องมีผ้าคลุมโต๊ะยาวถึงพื้น รีบมุดเข้าไปใต้ผ้าแล้วเปิดผ้าคลุมโต๊ะนิดๆ มองไป เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือราม
นอกห้องทำงาน...แสงที่ตามรามมาค่อยๆเอื้อมมาจับลูกบิดประตู แต่ประตูถูกล็อก ขณะเดียวกันที่ด้านใน รามที่สวมแว่นดำติดต่อกับยงยุทธไปด้วย พยายามกดที่แป้นคีย์บอร์ด
“ผมเจาะเข้าไปไม่ได้”
ยงยุทธมองที่คอมฯ เห็นการเคลื่อนไหวของราม พลางสั่ง
“ผู้กองซูมขยายภาพให้ผมหน่อย ผมจะถอด password ให้”
รามกดปุ่มที่ขาแว่นตา เมขลาแอบดูรามอย่างสงสัยว่ารามกำลังทำอะไร
“เขาทำอะไรของเขานะ”
ขณะเดียวกัน ที่พื้นใต้โต๊ะข้างตัวเมขลา มีตุ๊กแกตัวใหญ่นอนหมอบอยู่
แสงวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน เห็นลูกน้องป่วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น
“แกเห็นพ่อเลี้ยงหรือเปล่า”
“ท่านออกไปตรวจไร่กับคุณเทวัญครับ”
“แกรีบไปหาพ่อเลี้ยง บอกว่าข้ามีเรื่องสำคัญรายงาน เรื่องคอขาดบาดตาย”
“ได้เลยลูกพี่”
แสงหันไปสั่งลูกน้องอีกคน...
“แกตามฉันมา”
แสงรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน เพื่อไปจับคนที่เข้าไปในห้องให้ได้คาหนังคาเขา
รามมองที่หน้าจอคอมฯอย่างลุ้นๆ ครู่หนึ่งเสียงยงยุทธดังขึ้น
“ถอด password ได้แล้วผู้กอง”
“ว่ามาเลยเร็วเข้าผมมีเวลาน้อย”
รามกดคีย์บอร์ดทีละตัวตามที่ยงยุทธบอก
เมขลาขยับตัวอยากให้เห็นชัดๆว่ารามทำอะไร มือไปแปะบนตัวตุ๊กแก เธอชะงัก ค่อยๆหันมามองที่มือตัวเอง ยังเห็นไม่ชัดว่าเป็นอะไร จึงหยิบขึ้นมาดู เห็นตุ๊กตาตัวใหญ่น่าเกลียดน่ากลัวจ้องหน้า เธอเผลอตัวร้องกรี๊ดออกมาดังลั่น รีบมุดหนีออกมาจากโต๊ะโดยกำตุ๊กแกออกมาด้วย
รามตกใจหันไปเห็นเมขลา
“คุณ !”
เมขลาขยะแขยงตุ๊กแกจนลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง วิ่งไปกอดรามหลับตาปี๋
“ช่วยด้วย อี๊ ตุ๊กแก ตุ๊กแก เอามันออกไปจากมือฉันที”
“คุณเงียบเสียงลงก่อนได้มั้ย ก็คุณกำมันไว้ทำไม ปล่อยมือสิ”
เมขลามองมือยังกำตุ๊กแกจริง ยิ่งร้องใหญ่
“อ๊ายยย ไม่เอา ไปๆๆ”
เมขลาปาตุ๊กแกทิ้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูถูกกระแทกปังๆ ทั้งคู่สะดุ้งตกใจ มองไปที่ประตู
“ซวยแล้ว เพราะคุณคนเดียวทำเสียเรื่องหมด มานี่”
รามกระชากมือเมขลา วิ่งไปที่หน้าต่าง
ด้านนอก...แสงกับลูกน้องช่วยกันกระแทกประตูหลายๆที จนประตูเปิดออก แสงรีบเข้าไป เห็นเพียงม่านตรงหน้าต่างพัดไหวไปมา แสงรีบวิ่งไปดูทางหน้าต่าง มองไปด้านล่าง เห็นรามกับเมขลาในระยะไกล แสงหรี่ตามองเห็นแต่ด้านหลังคนทั้งสองไม่ได้เห็นหน้าตาชัดเจน แสงยกปืนเล็งกะเอาให้ตาย แสงยิงออกไป เปรี้ยง!ๆๆๆ
แสงถือปืนวิ่งออกมาจากบ้าน สั่งลูกน้องหลายคน
“พวกแกรีบตามมันไป มันถูกฉันยิง หนีไม่ได้ไกลหรอก”
ทั้งหมดรีบไป ปองธรรม เทวัญ ธิดา รีบลงจากรถวิ่งมาหน้าบ้าน
“แกยิงปืนทำไมในบ้านฉัน เกิดอะไรขึ้น”
“มีคนแอบเข้าห้องพ่อเลี้ยงครับ”
“แกเห็นมั้ยว่ามันเป็นใคร” ปองธรรมถาม
“ผมเห็นหน้ามันไม่ชัด แต่มั่นใจว่าเป็นคนในนี่เอง”
เทวัญชักหวั่นใจกลัวเป็นเมขลา รีบถาม
“ใครหรือ”
แสงมองหน้าธิดา
“รามครับ”
“ไอ้บ้า ทำไมแกชอบใส่ร้ายแฟนฉันนัก คุณพ่ออย่าไปเชื่อมันนะคะ มันอิจฉารามกลัวรามจะได้ดีกว่ามัน”
“แยกกำลังไปค้นหามันให้เจอ ฉันจะไปดูหน้ามันเอง เป็นใครเดี๋ยวก็รู้”
ปองธรรมสั่ง แสงแยกไปอีกทาง ธิดากับเทวัญมองตามอย่างไม่สบายใจทั้งคู่
ธิดารีบเข้าไปในห้องราม แต่ก็ไม่พบว่าเขาอยู่ในห้อง ทำให้เธอกังวลใจมาก ขณะที่เทวัญไปที่ห้องเมขลาก็ไม่พบเธอเช่นกัน เทวัญรีบออกไปจากห้อง พบธิดาตรงดิ่งมาพอดี
“แม่พี่สะใภ้ตัวดีล่ะ อยู่หรือเปล่า”
เทวัญไม่พอใจที่ธิดาก้าวร้าวใส่เมขลา รีบเดินไปเลยโดยไม่ตอบธิดา
ธิดาโมโห
“เดี๋ยวสิพี่เทพ นังเมมันแอบนัดรามไปเจอกันอีกแล้ว พี่เทพทนได้ยังไง ทำไมไม่คิดจะทำอะไรกับคนของตัวบ้าง”
ธิดาฮึดฮัดคิดๆว่าจะเอาไง แล้ววิ่งกลับห้องไปเอาปืน
แสงแตะหยดเลือดที่พื้นหญ้า บริเวณด้านหลังบ้านปองธรรม
“คราวนี้แกเสร็จฉันแน่ไอ้ราม”
แสงสะใจ รีบไปต่อ ขณะเดียวกันรามจูงมือเมขลามาถึงหน้าโรงคั่วใบชา
“เข้าไปหลบที่นี่ก่อน”
เมขลาเจ็บที่ต้นแขน ทรุดลง
“โอ๊ยยย”
รามตกใจก้มดู เห็นเลือดไหลที่ต้นแขน
“คุณโดนยิงหรือ”
เมขลากัดฟันพยักหน้าว่าใช่
รามโมโหแล้วห่วง
“แล้วทำไมไม่รีบบอก จะทำอวดเก่งไปถึงไหน”
เมขลาหน้าซีดเป็นลมไป
“เมๆๆๆ”
รามรีบอุ้มเมขลาเข้าไปในโรงคั่วใบชา รามเปิดดูแผล ดึงเศษแก้วออกมา แล้วโล่งใจยิ้มออก
“ยัยตัวแสบเอ๊ย โดนเศษแก้วบาดแล้วบอกว่าโดนยิง”
รามหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพันแผลให้ มองหน้าเธอแล้วเผลอใจลูบแก้ม เมขลาขยับตัวแต่ยังไม่ฟื้น เบียดตัวเข้ากอด รามตัวแข็ง แล้วค่อยๆกอดเธอไว้ในอก
เมขลาลืมตาตื่น สงสัยว่าตัวเองอยู่ไหนเงยหน้ามองราม เห็นรามกำลังกอดตัวเองอยู่ก็ตกใจ รีบผละจากอกของเขา...
“ฉันยังไม่ตายหรือ คุณอย่าผ่าแผลฉันเหมือนวันนั้นนะฉันไม่เอา ฉันทนเจ็บไม่ไหวแน่ โอ๊ย แขนฉันชาไปหมดแล้ว”
“ผ่ากระสุนไม่ได้หรอก สงสัยคงต้องตัดแขน”
“อะไรนะถึงขั้นตัดแขนเลยหรือ”
รามชูเศษแก้วที่บาดแขน
“ถ้าไอ้เศษแก้วนี่มันทำให้คุณกลายเป็นคนแขนด้วนได้ ผมก็คงตายไปแล้วตอนโดนกระสุนเจาะขา ซื่อบื้อจริงๆ”
เมขลาเหวอ แต่เก๊กอวดเก่ง
“ก็เพราะคุณนั่นแหละ จับฉันกระโดดลงมาไม่ดูตาม้าตาเรือ”
“ใครใช้ให้คุณเข้าไปเจ๋ออยู่ในห้องนั่นไม่ทราบ ผมช่วยหนีออกมาทันก็บุญถมแล้ว ยังจะมาโทษกันอีก”
“ใครเจ๋อกันแน่ ฉันจะเอากาแฟไปให้พ่อเลี้ยง แล้วคุณเข้าไปทำไม”
“ผมทำงานกับพ่อเลี้ยง ทำไมจะเข้าไปไม่ได้”
“แต่ฉันเห็นคุณเปิดคอมของพ่อเลี้ยง เหมือนกำลังค้นหาอะไร”
“ผมมาปริ้นงานให้พ่อเลี้ยง”
“แล้วทำไมต้องหนี”
รามอึกอัก
“ก็ ผมกลัวคุณจะเดือดร้อน ถ้าโดนจับได้ว่าเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต คิดหรือว่าพ่อเลี้ยงจะไม่เล่นงานคุณ”
ทันใดเสียงแสงดังขึ้น
“เข้าไปค้นให้ทั่ว”
รามกับเมขลาตกใจ
แสงกำลังจะเดินตามลูกน้องเข้าไป เทวัญตามมาถึง
“หาตัวเจอมั้ยพี่แสง”
แสงหันมา
“หยดเลือดมันมาหยุดแค่ตรงนี้ครับคุณเทวัญ ผมคิดว่ามันคงต้องซ่อนตัวอยู่ในนี้”
“ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าเจอก็จับเป็นนะอย่าเอาถึงตาย”
เทวัญรีบบอก ปองธรรมมาพร้อมลูกน้อง ขอปืนจากแสง
“เอาปืนมา ถ้ามันเป็นไอ้ราม ฉันจะยิงทิ้งเอง”
ปองธรรมเข้าไป แสงและลูกน้องปองธรรมตาม เทวัญเครียดจัดกลัวเมขลาจะอยู่กับรามด้วย
รามกับเมขลา หลบอยู่หลังเครื่องคั่วใบชาขนาดใหญ่ เมขลารู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกเพราะความชื้นและความร้อนภายในโรงคั่ว
“ฉันหายใจไม่ค่อยออกเลย มันรู้สึกทั้งร้อนทั้งอึดอัด”
“ปกติคุณไม่ใช่คนปอดแหกนี่ อดทนอีกหน่อย”
เมขลาน้อยใจ
“คุณนี่ปากร้ายที่สุด คุณจะพูดปลอบฉันดีๆหน่อยไม่ได้หรือถึงฉันจะเก่งกล้าสามารถยังไง ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่นะ”
รามไม่ตอบ แต่ทำในสิ่งที่เมขลาคาดไม่ถึง เขาจูบแก้มจ๊วบ
“แบบนี้ใช่มั้ย”
เมขลาจะอ้าปากพูด แต่รามหูดีได้ยินเสียงคน รีบยกนิ้วปิดปากให้เงียบ ปองธรรมกับเทวัญหยุดเดิน“เข้าไปค้นดูให้ทั่ว”
ปองธรรมสั่งลูกน้อง เทวัญรีบรับอาสา
“ผมเอง”
ลูกน้องหยุด เทวัญเข้าไปแทน
เทวัญเข้ามา ค่อยๆเดินมองหาเมขลากับราม จนใกล้จะถึงบริเวณเครื่องคั่วใบชา
“คุณเทวัญ”
เมขลาดีใจจะออกไป รามรีบดึงไว
“อย่า”
“เขาไม่ทำอะไรฉันหรอก คุณหลบอยู่ตรงนี้แหละ”
รามเสียงแข็ง
“อย่าไร้เดียงสาหน่อยเลย คิดว่าเขาคนเดียวงั้นหรือ อยู่เฉยๆ”
เมขลายอมนิ่ง รามชักปืนออกมา เธอรีบจับมือเขา...
“อย่าทำอะไรเขานะ ฉันไม่ยอมให้คุณทำร้ายเขาเด็ดขาด”
รามอึ้งไป มองหน้าเมขลาอย่างผิดหวัง
เทวัญก้าวเท้าไปเหยียบปลายขาแว่น จึงก้มหยิบขึ้นมาดู จำได้ว่าเป็นของราม ขณะที่รามไม่เห็นว่าตัวเองทำแว่นตกไว้ พยายามจะดึงมือเมขลาออก
“ตั้งใจฟังผมให้ดี ผมจะล่อพวกมันไปทางอื่น คุณหลบอยู่ตรงนี้ อย่าออกไป รอให้มันไล่ตามผมไปแล้วคุณรีบกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ส่วนคนรักของคุณ ผมไม่แตะเขาแน่ ไม่ต้องห่วง”
รามจะลุกขึ้น เทวัญมองไปทางเครื่องคั่วใบชาคิดว่ารามอยู่ในนี้แน่
“เจอตัวหรือเปล่า ทำไมชักช้านัก”
ปองธรรมถือปืนเข้ามาพร้อมลูกน้อง รามรีบเข้าที่เดิม เทวัญหันขวับไปหาพ่อ กำแว่นในมือแน่น ตัดสินใจว่าจะทำไงดี
“ว่าไงเล่า เห็นไอ้รามหรือใครหลบอยู่ในนี้มั้ย”
“ผมหาทั่วแล้ว ไม่เห็นใครเลยครับพ่อ ผมว่าป่านนี้มันคงหนีไปไหนๆแล้ว”
แสงพาลูกน้องวิ่งเข้ามา
“แล้วทางแกล่ะ”
“ไม่พบอะไรเลยครับพ่อเลี้ยง”
“งั้นยืนเซ่อกันอยู่ทำไมเล่า รีบไปค้นหาให้ทั่วไร่ ล่าตัวมันมาให้ได้ก่อนฟ้ามืด”
ปองธรรมและทั้งหมดออกไป เหลือแต่เทวัญมองไปทางเครื่องคั่วใบชา
“ราม ฉันรู้ว่านายอยู่ในนี้ออกมาเถอะ”
รามกับเมขลาค่อยๆ ลุกตัวขึ้นมาด้วยกัน
อ่านต่อตอนที่ 17