กุหลาบซาตาน ตอนที่ 16
เช้าวันรุ่งขึ้นชัชยังนอนอยู่ที่โซฟาตัวเดิม มีผ้าห่มบางๆ คลุมอยู่ ชัชค่อยๆ รู้สึกตัวตื่น ลุกขึ้นมาอย่างงงๆ
“หลับอะไรขนาดนี้เนี่ย”
ชัชบ่นอย่างแปลกใจตัวเอง โรสเดิน ยิ้มอ่อนหวานเข้ามา
“ฉันเห็นคุณหลับสนิทมาก เลยเกรงใจ ไม่กล้าปลุก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ สงสัยยาคุณจะแรงไปนะ” ชัชเห็นนาฬิกาที่ผนัง แล้วตกใจ “นี่แปดโมงกว่าแล้วเหรอนี่” ชัชลุกพรวดพราด “ผมไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า ไปทำงานสายแน่วันนี้”
“แหม พักบ้างอะไรบ้างก็ได้นะคะ คุณทำงานหนักมาก คุณโชคสิ อยู่แต่ในบ้านทั้งวัน...ใจคอพี่ชายคุณ เค้าจะไม่ออกไปไหน ไปทำอะไรเลยบ้างเลยเหรอคะ” โรสแอบหลอกถาม
“คนพรรค์นั้น ไม่ไปไหนน่ะดีแล้ว ออกไปก็ก่อเรื่อง ผมไปอาบน้ำล่ะ สายแล้ว”
ชัชรีบร้อนออกไป
ส่วนที่บ้านปฐวี ปฐวีนั่งอยู่บนเตียง นงพงาป้อนน้ำให้
“ขอบใจจ้ะ”
ปฐวีบอกเสียงเบา แหบเครือเพราะยังไม่ค่อยมีแรง
“นงขอร้องคุณหมอไม่ให้บอกใคร ว่าคุณกำลังจะหาย แต่ทั้งทนาย ทั้งตำรวจเค้าก็รออยู่ ว่าถ้าคุณฟื้นเมื่อไหร่ เค้าจะให้คุณขึ้นให้การ” ปฐวีพยักหน้ารับรู้ “แต่ก่อนที่คุณจะให้การกับศาล คุณบอกนงก่อนได้ไหมคะ นงอยากฟังความจริงจากปากคุณ”
“ความจริง”
“อย่าปิดนงเลยค่ะ นงรู้ ว่าคุณไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คุณสร้างภาพเอาไว้ บอกนงได้ไหมคะ ว่าระหว่างคุณกับคุณโรส มีเรื่องอะไรกัน ทำไมเธอถึงต้องการฆ่าคุณ”
ปฐวีตกใจและแปลกใจ
“คุณรู้”
“เดาเอาน่ะค่ะ แต่นงไม่กล้าพูดกับใคร เพราะมันไม่มีหลักฐาน นงมั่นใจ ว่าเธอมาเพื่อแก้แค้นใครซักคน เธอมาแก้แค้นคุณเหรอคะ คุณไปทำอะไรเอาไว้ ทำไมเธอถึงได้อยากให้คุณตาย”
นงพงามองปฐวี แววตาคาดคั้น
นงพงาเข็นรถพาปฐวีออกมาในสวน ปฐวีนั่งอยู่บนรถเข็น เล่าให้นงพงาฟัง
“...โรสต้องการกำจัดนายโชค เธอเลยมาขอให้ผมช่วย”
“เพราะเธอรู้ ว่าคุณก็ต้องการกำจัดคุณโชคเหมือนกัน ...ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วทำไมเธอถึงยิงคุณล่ะคะ”
“คืนนั้น โชคมันจะฆ่าผม มันคิดว่าผมเป็นคนจ้างมือปืนไปฆ่ามัน ผมกำลังจะบอกมัน ว่าจริงๆ แล้วมือปืนนั่นไม่ใช่คนของผม...ผมก็เห็นโรส”
“เธอยิงคุณเพื่อปิดปาก ถ้านงเดาไม่ผิด เธอคงไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาลด้วยใช่ไหมคะ”
“โรสจงใจฆ่าผม” ปฐวีบอกอย่างนึกแค้น
“คุณต้องบอกตำรวจ ทั้งเรื่องคุณโรส และความขัดแย้งทั้งหมดระหว่างคุณกับคุณโชค” ปฐวีมองหน้านงพงา ไม่แน่ใจ นงพงาวิงวอน “นงไม่อยากให้ใครเจ็บใครตายอีก...นะคะ”
ปฐวีเห็นหน้านงพงา รู้ว่าปฏิเสธไม่ได้ เลยพยักหน้า
ส่วนที่สวิสเซอร์แลนด์พีชญานั่งอ่านเมล์อยู่คนเดียว ภูษณะวิ่งเข้ามาหา ร้องตะโกนมาแต่ไกล
“พีชชชชชชช ยัยพีชอยู่ไหนนนนน”
พีชญาหันไปอย่างตกใจ
“มีอะไร เอะอะโวยวายอะไร”
“คะแนนสอบกลางภาคออกแล้ว เรารอดตายแล้ว”
ภูษณะบอกอย่างดีใจ พีชญาดีใจไปกับภูษณะ ทั้งสองกระโดดกอดกันอย่างลืมตัว
“เย้ๆๆๆๆ”
“เห็นไหม เราบอกแล้วว่าถ้าตั้งใจ เธอต้องทำได้”
ภูษณะกับพีชญากระโดดกอดกันอีก กอดกันไปซักพักก็ชะงัก
“ขอบใจนะ พีช ถ้าเราไม่มีพีชเป็นกำลังใจ คงทำไม่ได้ขนาดนี้”
ภูษณะพูดด้วยน้ำเสียงซึ้งๆ อย่างประหลาด พีชญาเขินขึ้นมา ผละออก
“เอ่อ ไม่เป็นไร...ฉันไปก่อนนะ นึกได้ว่ามีเรียน”
พีชญาวิ่งหนีไปด้วยความเขิน ภูษณะยิ้ม...พีชญาวิ่งมาหลบเขินอยู่ที่มุมตึก
“บ้าๆๆๆ อีตาภูบ้า ทำท่าพิลึก คิดอะไรอยู่เนี่ย”
โทรศัพท์มือถือดัง พีชญารับ
“อุ๊ย... ฮัลโหล ชิน นึกยังไงโทรมา มีอะไร”
พีชญาถามอย่างดีใจ
“มีเรื่องอยากขอให้พีชช่วยหน่อยน่ะ” ชินภัทรบอกมาตามสาย
“ว่ามา...”
ชินภัทรพูดลาพีชญาหลังจากคุยธุระกับเธอเสร็จแล้ว
“โอเค ขอบใจมากนะ พีช” ชินภัทรวางสาย แล้วหันมาบอกชัชที่รอฟังอยู่ “พีชรับปากว่าจะไปหาข้อมูลของกงพัด กับคนที่ชื่อเพียงออให้ครับ”
“ดี ขอบใจมาก”
“ผมช่วยอาชัชแล้ว คราวนี้ถึงตาอาชัชต้องบอกผม ว่าทำไมเราต้องสืบหาคนชื่อเพียงออ เค้าเป็นใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่บ้านเรา”
“อาสงสัยว่าเค้าคือคนสั่งฆ่าพ่อของแก”
“หา! ทำไมล่ะครับ”
“เรื่องมันยาว แล้วก็ไม่น่าฟังเท่าไหร่”
“แต่ผมอยากฟัง ผมรับได้ครับ อาชัช”
ชินภัทรบอกเสียงจริงจัง ชัชถอนใจ ไม่อยากเล่า
“เอาเป็นว่า ในอดีต พ่อแกเคยทำความผิดที่ร้ายแรงมาก แล้วตอนนี้ สิ่งนั้น มันกำลังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง กรรมสนองกรรมน่ะชิน”
ชินภัทรฟังแล้วถึงกับอึ้งไป
ขณะนั้นโรสยังอยู่ที่บ้าน เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของชัช รื้อเอกสารที่ชัชอ่านอยู่เมื่อคืน เห็นว่าเป็นสำเนาเอกสารที่เกี่ยวกับที่ดิน โฉนด สัญญาซื้อขาย ประวัติ มรณบัตร และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับพุฒและกุลธิดา พิมพากุล
“คราวนี้ คุณรู้แล้วสินะ ว่าพี่ชายคุณมันเลวร้ายขนาดไหน”
เสียงโชคดังขึ้น
“โรส” โรสสะดุ้ง เห็นโชคแต่งตัวแบบจะออกจากบ้าน เดินอาดๆ เข้ามา หน้าตาหาเรื่อง “เธอมาวุ่นวายอะไรที่โต๊ะน้องชายฉัน”
โรสลุกขึ้นยืน เอามือรวบกระดาษเอกสาร ทำท่าเหมือนจัด
“ภรรยาจัดโต๊ะทำงานให้สามี เรียกว่าวุ่นวายเหรอคะ”
โชคมองโรสอย่างระแวง เดินเข้ามาใกล้ มองเอกสารในมือโรส
“เอามานี่” โรสไม่ส่ง โชคกระชากไปดูจนได้ พอเห็นว่าเป็นเอกสารอะไร ก็ตกใจ หน้าเสีย “เฮ้ย นี่มัน ...”
โรสยิ้มเยาะ
“เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าหยั่งกับเห็นผี เอ๊ะ หรือว่ากลัววิญญานของเจ้าของที่เดิม จะมาหักคอเอา”
“แก”
โชคโมโหโรส แต่พอเห็นสาวใช้เดินผ่านมาหยุดมอง เลยไม่อยากต่อปากต่อคำกับโรส หอบเอาเอกสารทั้งหมด เดินปึงปังออกไป
โชคออกมาหน้าบ้านแล้วกระโจนเข้ารถ ขับออกจากบ้านไปเอง ด้วยอารมณ์แรง แทบจะชนเป๋งกับบอดี้การ์ดกระเด็นโรสยืนมอง ยิ้มสะใจ
โชคมาที่โรงแรมเดินเป็นพายุเข้ามาที่ห้องชัช กระชากประตูออก ขณะนั้นชัชกำลังสั่งงานลูกน้องอยู่
“ไอ้ชัช” ชัชพยักหน้าให้พนักงาน พนักงานลนลานออกไป โชคเดินอาดๆ เข้าไป ปาเอกสารใส่ชัช “แกทำอะไรของแก หา”
ชัชเห็นเอกสาร เข้าใจว่าโชคโกรธเรื่องอะไร ชัชจึงตอบโต้อย่างไม่กลัว
“ถึงพี่ไม่บอกผม ผมก็ต้องหาทางรู้เองจนได้ ทำความชั่วอะไรเอาไว้ นึกว่าจะปิดได้เหรอพี่ ไม่มีทางหรอก”
“ทุกอย่างที่ฉันทำ ก็เพื่อเรา เพื่อครอบครัวของเรา ถ้าไม่มีฉัน ก็ไม่โรงแรม ไม่มีท่าเรือ ไม่มีห้องทำงานหรูๆ ให้แกมายืนด่าฉันอยู่แบบนี้หรอกเว้ย!”
“พี่อย่ามาอ้างเรา ผมไม่เคยขอให้พี่ทำแบบนี้ พี่ปล้นที่ดินเค้ามายังไม่พอ ยังฆ่าเมียเค้า ฆ่าลูกเค้า เด็กนะพี่ เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย พี่ทำได้ยังไงวะ หา! ทำไมพี่ถึงได้เลวได้ถึงขนาดนี้”
โชคตบหน้าชัชดังฉาด ด้วยความโกรธจัด
“เออ ฉันมันเลว ฉันฆ่าพ่อแม่มันไปแล้ว ถ้าไอ้กงพัดมันโผล่หัวออกมา ฉันก็จะฆ่ามันอีกครั้ง แล้วแก...” โชคชี้หน้าชัช “ก็อย่าได้บังอาจ มาขวางทางฉัน”
โชคผลุนผลันออกไป ชัชมองตามอย่างโกรธๆ
โชคเดินลิ่วๆ ออกไปด้วยความโกรธและเสียใจ โรสยืนมองโชคอยู่ที่มุมหนึ่งด้วยสีหน้าสะใจก่อนจะ
ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากงพัด
โทรศัพท์มือถือของกงพัดวางอยู่บนโต๊ะ มีสายเข้า เห็นหน้าจอเป็นรูปดอกกุหลาบแดง กงพัดเดินมายืนมองชั่งใจก่อนจะยกขึ้นมากดทิ้ง...ห่างออกไป วีณากำลังทากาวซ่อมพื้นรองเท้าคู่เก่งของเธออยู่ วีณามองการกระทำของกงพัดอย่างพอใจ
โรสขับรถตามโชคออกมานอกเมือง พยายามกดโทรศัพท์ไปด้วยอย่างขัดใจ ปรากฏว่ากลายเป็นโหมดฝากข้อความ
“พัด โอกาสมาถึงแล้ว เธออยู่ที่ไหน รีบโทรกลับมาหาพี่เดี๋ยวนี้”
โรสวางสายแล้วขับตามรถโชคไปอย่างใจจดใจจ่อ
กงพัดเปิดฟังข้อความ วีณาเดินมานั่งข้างๆ ถามอย่างอดห่วงไม่ได้
“ฟังจากน้ำเสียง คุณโรสคงโกรธมาก”
“ช่างเค้าเถอะ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือ ให้เค้าทำร้ายใครต่อใครอีกต่อไป เราจะไปจากที่นี่ ไปให้พ้นจากโรส” กงพัดจับมือวีณา
“เราจะหนีอีกเหรอคะ”
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย วี เชื่อผม แล้วต่อจากนี้ เราสองคนจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”
กงพัดกับวีณายิ้มให้กัน
ส่วนโชคหลังจากขับรถออกจากโรงแรม โชคขับรถออกมาถึงเส้นที่ข้างทางเป็นนาเกลือโล่ง ไม่มีบ้านคน
“บอกคนเตรียมเรือไว้ ฉันจะออกเรือ เออ...จะออกตอนนี้ ใครมีปัญหาอะไรไหม เท่านี้แหละ”
โชคโทรศัพท์สั่งลูกน้อง และเมื่อวางสายโชคเร่งรถไปอย่างโมโห โรสขับตาม ตาเหลือบดูโทรศัพท์ ไม่มีใครโทรกลับมา โรสโมโห
“พัดนะพัด มัวทำอะไรอยู่ “
โรสมองไปเห็นโชคชะลอรถ เข้าจอดข้างทาง โรสรีบชะลอตาม โชคจอดรถเห็นไฟเตือนว่าน้ำมันหมด โชคเซ็ง
“เว้ยยยยยย ให้มันได้อย่างงี้สิวะ ชีวิตกู”
โชคลงจากรถปิดประตูปัง เตะยางอย่างหงุดหงิด โรสจอดรถหลบอยู่ห่างออกไป แอบดู
“เอายังไงดี โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ”
โรสเห็นโชคล็อกรถแล้วเดินไปตามคันนา ไปที่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางนาเกลือ
โชคเดินไปหน้าบ้าน เป็นบ้านเก่าๆ โทรมๆ ที่ทำไว้นั่งพัก เก็บอุปกรณ์ทำนาเกลือเท่านั้น โชคร้องเรียก
“มีใครอยู่ไหม”
ไม่มีเสียงตอบ โชคเห็นประตูแง้มอยู่ โชคเปิดเข้าไป ภายในบ้านห็นของรกรุงรัง ไม่มีคนอยู่ โชคเซ็ง กำลังหันหลังกลับไปก็ได้ยินเสียงของตกด้านนอก บริเวณหลังบ้าน
“อยู่ข้างหลังก็ไม่บอก ฮึ่ย”
ที่หลังบ้านโรสถือสามง่ามเหล็กที่มีปลายแหลมน่ากลัว ดักรออยู่ตรงมุมบ้าน โชคเดินมากำลังจะเดินไปถึงตรงที่โรสดักรออยู่ โรสได้ยินเสียงเท้าเดินใกล้เข้ามาเธอกระชับสามง่ามในมือเตรียมพร้อมแล้วเง้อขึ้น แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังโรส
“ทำอะไรน่ะ”
โรสหันขวับ สะดุ้ง รีบกระชากชายคนนั้นหลบเข้าประตูหลังบ้านไปทันที พร้อมๆ กับที่โชคเดินโผล่มาถึงด้านหลัง ไม่เจอใคร โชคงง
“อะไรวะ”
โชคหันรีหันขวาง เห็นประตู กำลังจะมองเข้าไป ก็พอดีประตูเปิดออกมา ชายกลางคนแต่งตัวแบบชาวบ้านจนๆ หน้าตาซื่อๆ เดินออกมาพร้อมกับสามง่าม อีกมือกำแบงค์พันเอาไว้
“หาอะไรเหรอคุณ”
“น้าอยู่ที่นี่เหรอ” ชายนั้นพยักหน้า “แถวนี้มีปั๊มน้ำมันไหม รถผมน้ำมันหมด จอดอยู่โน่น”
ชายนั้นเดินนำโชคไป โรสค่อยๆ เดินออกมา ถอนใจ
ค่ำวันนั้นปฐวีนั่งอยู่บนรถเข็น อยู่ในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างภูมิฐาน หลังโต๊ะตัวใหญ่ มีรูปของปฐวีในชุดขาวเต็มยศ รอบๆ ห้องมีถ้วยรางวัล โล่ห์ประกาศเกียรติคุณต่างๆ เรียงเป็นแถว ปฐวีกวดาตามองทุกสิ่งในห้องด้วยความภูมิใจ นงพงาในชุดกลับจากทำงาน เปิดประตูเข้ามา
“คุณมาอยู่ที่นี่เอง เป็นยังไงบ้างคะ”
“ดีจ้ะ”
“นงคุยกับทนายแล้ว พรุ่งนี้ เค้าจะแวะมาฟังคำให้การ คุณพร้อมนะคะ”
ปฐวียังไม่ทันตอบ ก็มีเสียงเคาะประตู
“เข้ามา”
ดนัยเข้ามา หน้าตาดีใจ
“ท่าน” ดนัยเข้ามาทรุดตัวลง กราบที่แขนปฐวี “ตอนท่านโทรไปผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ผมดีใจมากเลยครับ ที่ท่านหายดี”
นงพงามองดนัยงงๆ ปฐวีอธิบาย
“ผมนัดดนัยมาคุยงานหน่อย หลับไปซะนาน อยากรู้อะไรมันเป็นอะไร”
นงพงาออกจากห้องไป ปฐวีฟังดนัยรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี
“นายโชคขึ้นศาลไต่สวนไปแล้วรอบนึงครับ หลักฐานที่ตำรวจมีก็คือกระสุนปืนที่ยิงท่าน มาจากปืนนายโชค แล้วก็ปืนอีกกระบอกนึง”
“ของมือปืนผู้หญิงคนนั้น”
“ครับ”
“ตำรวจรู้ไหม ว่าเป็นใคร”
“ยังครับ ตอนนี้หลักฐานที่มี ก็แค่รอยรองเท้า แต่ยังสืบหากันไม่ได้ ว่าเป็นใคร”
ปฐวีนั่งฟัง หันมองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง แววตาครุ่นคิด ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
อ่านต่อหน้าที่ 2
กุหลาบซาตาน ตอนที่ 16 (ต่อ)
ที่บ้านโชคขณะนั้นชัชนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก้มหน้าก้มตาง่วนกับเอกสาร โรสเดินผ่านมาแอบดู แล้วเดินออกไป...โรสบดยานอนหลับเป็นผง เทใส่ลงในถ้วยโกโก้ร้อน เอาช้อนคน โรสทำท่าเหมือนจะยกไป แล้วเปลี่ยนใจวางลง
ชัชนั่งอ่านเอกสารต่างๆ อย่างเคร่งเครียด มีเสียงเคาะประตู
“เข้ามา” นุ้ยเปิดประตูเข้ามา พร้อมถ้วยโกโก้ร้อน”อะไรน่ะ นุ้ย”
“โกโก้ร้อนค่ะ คุณโรสเห็นคุณทำงานดึก เลยสั่งให้นุ้ยเอามาให้”
นุ้ยวางถ้วยโกโก้แล้วออกไป ชัชมองแล้วยกขึ้นมาดม ได้กลิ่นหอมของโกโก้ ชัชสีหน้าผ่อนคลายลง
เวลาผ่านไป...บ้านโชคปิดไฟเกือบหมดแล้วเหลือเพียงไม่กี่จุด โรสเดินย่องกลับมาดูที่ห้อง เห็นชัชหลับซบกับพนักเก้าอี้ โรสเข้าไปจับมือชัชออกจากกองเอกสาร แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาดูแล้วตกใจ
“นี่มัน ประวัติของเรานี่”
โรสเห็นว่าเอกสารปึกนั้น เป็นสำเนาของเอกสารเก่าๆ หลายอย่าง ที่เกี่ยวกับเด็กหญิงเพียงออ พิมพากุล โรสวางเอกสารลงมองชัชอย่างเสียใจ
“ทำไมคุณต้องมาสืบเรื่องฉัน ฉันบอกคุณแล้วไง ว่ามือปืนคือวีณา ทำไมคุณไม่เชื่อฉันคะ ชัช ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฉัน” โรสมองชัชที่นอนนิ่ง จากความเสียใจเปลี่ยนเป็นโกรธ “คุณทำฉันผิดหวังมากนะคะ ชัช เสียงแรงฉันรักคุณ...ไม่น่าเลย”
วันต่อมาที่ล็อบบี้โรงแรมโชคพีชญากับภูษณะเดินเข้ามาในล็อบบี้ พีชญามองไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นเต้น
“โห เนี่ยเหรอ โรงแรมของชิน”
“นี่ เบาๆ หน่อยได้ไหม อายเค้า ทำเป็นบ้านนอกเข้ากรุงไปได้”
“บ้านนอกที่ไหน เมืองนอกย่ะ คนไม่เคยมาก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา ไม่เหมือนคนบางคนหรอก” พีชญาตบหน้าภูษณะเบาๆ “หน้าเนี่ย จะเก๊กไปไหน”
“เฮ่ย เจ็บนะ”
“เว่อร์...แค่เนี้ยนะ เจ็บ”
“ลองบ้างไหม” ภูษณะตบแก้มพีชญาคืน
“เดี๋ยวเหอะ”
พีชญาโมโหเงื้อมือกะตบเต็มที่ แต่มีมือมาคว้ามือพีชญาเอาไว้ หมับ! พีชญาหันไปมองเห็นชินภัทรยิ้มให้
“มาตบกันอะไรตรงนี้ เดี๋ยวเรียกรปภ.จับซะเลยนี่”
“ก็ได้ นี่เห็นแก่ชินนะนี่ ไม่งั้น...”
“ไม่งั้นทำไม หนอย...ตบได้ตบเอาเดี๋ยวปั๊ดจูบคืนซะนี่”
“ไอ้บ้าภู ชินดูมัน ดูมันพูด”
ชินภัทรขวางเอาไว้
“เอาน่ะๆ อย่าเพิ่งตีกัน ไปหาอาชัชก่อน อาชัชรออยู่นานแล้ว”
ชินภัทรพาพีชญากับภูษณะมาพบกับชัชที่คอฟฟี่ช้อปของโรงแรม ชินภัทร พีชญา ภูษณะ นั่งเรียบร้อยอยู่ตรงหน้าชัช
“เราลองไปสืบถามที่โบสถ์ดูแล้วครับ เค้าบอกว่าคนที่ชื่อกงพัด เค้าเร่ร่อนตามพ่อบุญธรรมไปทั่วสวิส เพิ่งมาอยู่ที่มองเทรอเมื่อห้าปีที่แล้วนี่เอง หลังจากที่พ่อบุญธรรมของเค้าตายไป”
“มาคนเดียวเหรอ”
“ค่ะ มาคนเดียว แล้วก็อยู่คนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีใครรู้จักหรือเคยได้ยินคนชื่อ เพียงออ พิมพากุล เลยค่ะ”
“อาชัช คิดว่าพี่สาวของกงพัดอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เหรอครับ”
“อาคิดว่าอย่างนั้น แต่แปลกถ้าพี่สาวของกงพัดยังอยู่ แล้วเป็นคนบงการเรื่องนี้จริงๆ เธออยู่ที่ไหน ทำไมไม่มีใครรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของเธอบ้างเลย”
“เพียงออ ชื่อแปลกนะครับ ถ้าผมเคยได้ยินซักครั้ง ผมก็ต้องจำได้”
ชินภัทรเอะใจ คิดได้
“ใช่ ชื่อเค้าแปลก จำง่าย ถ้าเค้าจะทำเรื่องผิดกฏหมาย เค้าจะใช้ชื่อจริงทำไม ใช้ชื่ออื่นดีกว่า จริงไหมครับ อาชัช”
“มันก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเพียงออจะใช้ชื่อปลอม เธอจะใช้ชื่อว่าอะไร”
ชัชครุ่นคิด
พอคุยธุระกับชัชเสร็จแล้วชินภัทร พีชญา ภูษณะจึงมาพบกับไปรมาที่สวนสาธารณะ...ชินภัทร พีชญา ไปรมา ภูษณะ นั่งบนเสื่อ มีตะกร้าปิคนิคสวยงาม พีชญาดีดอูคูเลเล่เล่นไปด้วยหงุงหงิง
“เฮ้อ อิ่ม” ภูษณะล้มตัวลงนอนแผ่ “สบายใจจัง เสียดายอากาศร้อนไปหน่อย คิดถึงอากาศที่สวิส”
“เราก็คิดถึง คิดถึงโรงเรียน คิดถึง...” ไปรมาหันมองชินภัทร “ทุกๆ อย่าง”
“ตอนนั้นเรามีแต่ความสุข ไม่มีอะไรให้คิด ให้กลุ้มใจ ไม่รู้เมื่อไหร่นะ ไป๋ ที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
“คงอีกไม่นานหรอก ทุกอย่างคงจะจบลงด้วยดี เพราะตอนนี้คุณพ่อเราท่านพูดได้แล้ว” ชินภัทรกับพีชญาพีชมองแปลกใจ ดีใจ ภูษณะยิ้มปลื้มไปด้วย “ท่านนัดกับทนายแล้วท่านกำลังจะขึ้นให้การกับตำรวจ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น”
ทุกคนมองหน้าไปรมา พลอยมีความหวังไปด้วย
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปฐวี ทนายนั่งรออยู่ในห้องรับแขกนงพงาเข็นปฐวีเข้ามา
“สวัสดีครับ ท่าน”
“สวัสดีครับ เชิญตามสบาย”
“คุณจะตั้งคำถาม หรือจะให้ท่านเป็นฝ่ายเล่าคะ” นงพงาถามนาย
“ก็ไม่มีอะไร อย่างที่ดนัยหรือคุณนงพงาก็คงให้การไปแล้ว นายโชคจับตัวผมไปจากงานศพ เอาไปที่โรงฆ่าสัตว์ แล้วก็ขู่จะเอาชีวิตผม เขายิงผมที่ขานัดนึง” ปฐวีบอก
“ครับ แต่มีมือปืนอีกคนนึงลอบยิงท่านถึงสองนัด คุณโชคบอกว่าท่านเห็นหน้ามือปืนคนนั้น ก่อนที่ท่านจะหมดสติไป” ปฐวีนิ่งไป นงพงามองหน้าปฐวีอย่างแปลกใจ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ท่านรู้จักไหมครับ จำหน้าได้หรือเปล่า”
“ไม่ แล้วมันก็มืดมาก ผมคงบอกไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร”
ปฐวีบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ นงพงาแปลกใจ เสียงดังอย่างลืมตัว
“อะไรนะคะ”
ปฐวีมองหน้านงพงา
“ผมจำได้เท่านี้ ขอตัวนะ”
ปฐวีเข็นรถออกจากห้องไป นงพงาสับสนไปหมด
“เอ่อ คุณนง...”
“ดิฉันต้องขอโทษนะคะ”
นงพงาเดินออกไป นงพงาตามปฐวีเข้ามาในห้องทำงาน
“นี่มันหมายความว่ายังไงคะ ทำไมคุณทำแบบนี้ ทำไมคุณไม่พูดความจริงออกไป”
“ถ้าผมให้การ ว่าผมรู้จักโรส ผมร่วมมือกับเค้า กำจัดนายโชค ชื่อเสียงของผมก็พังพินาศหมด ผมจะทำไปเพื่ออะไร”
“เพื่อความถูกต้อง เพื่อความยุติธรรม ไงคะ”
“คุณเพ้อฝันมากไปแล้ว นง คุณต้องหัดมองความจริงบ้าง” ปฐวีผายมือไปรอบห้อง “คุณจะแลกชื่อเสียง เกียรติยศ ความภาคภูมิใจทุกอย่างที่ผมสั่งสมมาเป็นสิบๆ ปีเพื่อเอาคนหยั่งยัยโรสเข้าตะรางงั้นเหรอ มันคุ้มกันเหรอ” นงพงาอึ้งด้วยความโกรธ ปฐวีหว่านล้อม “ถ้าผมพูดความจริงออกไป ไม่ใช่แค่คนอื่นจะมองผมไม่ดี แต่ยัยไป๋ก็จะต้องพลอยเสียใจไปด้วย”
“ค่ะ ยัยไป๋คงเสียใจ ที่คุณมีเบื้องหลังไม่สวยงามอย่างที่แกคิด แต่อย่างน้อย นงก็ยังบอกลูกได้ ว่าคุณกลับตัวกลับใจแล้ว”
“เหลวไหล!” ปฐวีจะหนี นงพงาเดินไปขวางไว้
“เดี๋ยวค่ะ โรสรู้ว่าคุณเห็นหน้าเธอ ถึงคุณไม่บอกตำรวจ เธอคงไม่ปล่อยคุณเอาไว้ โรสต้องพยายามจะฆ่าคุณอีก คุณไม่กลัวบ้างหรือไง”
ปฐวียิ้ม
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง คนที่คิดจะฆ่าผม ผมไม่ปล่อยให้มันลอยนวลผมจะส่งตัวโรสให้นายโชค ให้มันสองคนจัดการกันเองก่อน แล้วผมค่อยคิดบัญชีกับคนที่เหลือ”
นงพงาฟังแล้วอึ้งพูดไม่ออก เธอหันหลังเดินออกไปปิดประตูน้ำตาร่วง ปฐวีอยู่ในห้อง ยิ้มร้ายๆ
ส่วนที่สวนสาธารณะไปรมากับเพื่อนๆ กำลังจะแยกย้ายกันกลับ
“โอเค แยกย้ายๆ แล้วอาทิตย์หน้าเรานัดเจอกันใหม่นะ”
“เธอไปส่งไป๋ละกัน ฉันจะกลับกับภู”
พีชญากับภูษณะแยกย้ายไป ชินภัทรกันมาถามไปรมา
“จะกลับเลยไหม”
“เดี๋ยวก่อน ชิน...พ่อเราฝากมาให้พ่อเธอ”
ชินภัทรงงสุดๆ ไปรมายื่นซองจดหมายสีครีมเนื้อหนาให้ ปิดผนึกด้วยเทปกาวใส บนลายเซ็นของปฐวีเพื่อป้องกันการเปิดอ่าน
“จดหมาย”
“อึมม์”
“พ่อไป๋ส่งจดหมายถึงพ่อเรา เรื่องอะไร”
ชินภัทรถามด้วยความอยากรู้ ไปรมาเองก็อยากรู้เหมือนกัน
“ไม่รู้ เราก็เดาไม่ออก คุณพ่อบอกว่าเรื่องของผู้ใหญ่ ห้ามยุ่ง”
“พูดอย่างนี้ เรายิ่งอยากรู้”
“เราก็เหมือนกัน”
ชินภัทรดูที่ผนึก แล้วหนักใจ
“ปิดผนึกซะขนาดนี้ ถ้าใครแอบเปิดก็คงโดนจับได้”
“จับได้ชัวร์”
ทั้งสองมองหน้ากัน ถอนใจเฮือกๆ อยากรู้สุดๆ แต่ก็ไม่กล้า
ชินภัทรนำจดหมายกลับมาให้พ่อ โชครับจดหมายจากมือชินภัทรพลิกดูในมือโชคคือซองอยู่ในสภาพเรียบร้อย
“ไอ้ปฐวีฝากมาให้ฉัน”
“ครับ”
“แปลก”
“พ่อจะเปิดอ่านเลยไหมครับ”
“ยุ่งน่ะ”
โชคถือจดหมายเดินกลับเข้าไปในห้องดูหนัง ล็อกประตู ชินภัทรมองตามโชคแววตามีเลศนัย
โรสอยู่ในบ้าน ยืนแอบมองชินภัทรที่เดินวนเวียน ชะเง้อชะแง้รอชัชอยู่หน้าบ้านโรสตัดสินใจ เดินออกมา
“รออาชัชเหรอคะ ชิน”
“ครับ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ท่าทางเหมือนมีเรื่องไม่ดี” โรสทำเสียงห่วงใย
“ก็...ไม่เชิงครับ”
ชินภัทรพยายามเลี่ยงๆ ไป ไม่ใช่ชินภัทรไม่ได้ไม่ไว้ใจโรสแต่เป็นเรื่องสำคัญ เลยไม่อยากพูดมากโรสยิ่งอยากรู้จึงพยายามเลียบเคียงถาม
“ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับมือปืนที่ยิงคุณพ่อ ชินปรึกษาอาได้นะคะ อาเป็นคนมองเห็นเหตุการณ์ในวันนั้น อาอาจจะพอช่วยอะไรได้”
“ไม่เป็นไรครับ อาโรส” ชินภัทรบอกแล้วหันไปเห็นประตูเปิด “อาชัชมาพอดี” รถชัชเลี้ยวเข้าประตูมา ชินภัทรวิ่งออกไปหา เข้าไปลากแขนชัช “อาชัชครับ ผมมีเรื่องด่วน เรื่องพ่อกับท่านปฐวี”
ชัชเห็นโรสยืนอยู่ข้างหลังชินภัทรเลยตัดบท
“เข้าไปคุยกันข้างใน”
ชัชเดินนำชินภัทรเข้าไปในห้อง ปิดประตู โรสมองตามรู้ว่าชัชไม่อยากให้เธอได้ยิน
พอเข้ามาในห้องทำงานชินภัทรบอกกับชัชเรื่องจดหมายของปฐวี
“ท่านปฐวีส่งจดหมายลับถึงพี่โชค”
“ครับ ผมว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ”
“แล้วไป๋เค้าพอจะรู้ไหม ว่าพ่อเค้าต้องการอะไร”
“ไป๋ก็ไม่รู้ครับ แต่ว่า...”
ชัชมองชินภัทร เห็นชินภัทรทำหน้าแปลกๆ ชินภัทรจึงเล่าเหตุการณ์ที่สวนสาธารณะให้ชัชฟัง
“จะดีเหรอ ชิน ถ้าพ่อเธอจับได้ล่ะ”
ไปรมาถามเมื่อรู้ว่าชินภัทรจะเปิดจะหมายออกดู
“ไม่หรอกน่ะ”
ชินภัทรเปิดผนึกออก ผนึกทำให้กระดาษตรงลายเซ็นขาดออก
“ขาดเลย”
“เดี๋ยวเราก็เปลี่ยนซองใหม่ ปิดผนึกแล้วเซ็นใหม่ พ่อเราไม่เคยเห็นลายเซ็นพ่อเธอซักหน่อย จะกลัวอะไร”
ชินภัทรเอาจดหมายในซองออกมาดู ไปรมาชะโงกหน้ามา
“ไหน อ่านด้วย พ่อเราเขียนว่าอะไร”
ขณะนั้นโชคอยู่ในห้องดูหนัง โชคนั่งอยู่ที่เก้าอี้เพียงลำพังกลางห้องใหญ่ นั่งอ่านจดหมายของปฐวี
ซึ่งเนื้อหาในจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์
“..ตอนนี้ ศัตรูของผม ก็คือศัตรูของคุณ เราต้องร่วมมือกัน จัดการกับมันก่อนที่มันจะฉวยโอกาสแว้งกัดเราอีก...ถ้าอยากรู้ว่า “มัน” คือใคร ให้ไปพบผมที่...วันศุกร์ ตอนเที่ยงและขอเตือนว่า ให้เก็บเรื่องการนัดหมายนี้เป็นความลับ อย่าบอกใครเป็นอันขาดเพราะ “มัน” อยู่ใกล้ตัวคุณ มากกว่าที่คุณคิด”
โชคหยิบไลท์เตอร์มาเผาจดหมายทิ้งด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ส่วนที่ห้องทำงานของชัช ชัชฟังชินภัทรเล่าเนื้อความในจดหมายแล้วหนักใจ
“มันอยู่ใกล้ตัวคุณ มากกว่าที่คุณคิด...ใครกัน”
“ผมสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี”
“อาก็กลัว”
“แล้วอาชัชว่าพ่อจะไปตามนัดไหม”
“ไปแน่ ไม่ต้องถามเลย เป็นอา อาก็ไป”
ชัชบอกอย่างมั่นใจ ขณะนั้นโรสหลบมาอยู่ในสวนเธอถึงกับหน้าเครียด
“มันเรื่องอะไรกันนะ ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนมีลับลมคมนัย”
โรสบ่นพึมพำออกมา เสียงโทรศัพท์ดัง โรสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่มือถือไม่โชว์เบอร์
“ใคร” โรสรับสายอย่างระแวง “ฮัลโหล”
ปฐวีอยู่บนรถเข็น คุยโทรศัพท์กับโรส
“สวัสดี คุณโรส”
โรสแทบช็อก
“ท่านปฐวี”
“ขอบคุณที่ยังจำเสียงได้ ความจริงเราก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน นับตั้งแต่...เธอแวะไปฆ่าฉัน ที่โรงพยาบาล” ปฐวีบอกเสียงเหี้ยม
“โทรมาทำไม ต้องการอะไร” โรสถามอย่างหวาดหวั่น
“ฉันมีข้อเสนอ ฉันจะไม่บอกตำรวจ ว่าเธอคือมือปืนที่ยิงฉัน ที่โรงฆ่าสัตว์วันนั้นฉันจะไม่เอาเรื่องเธอที่พยายามฆ่าฉัน”
“แลกกับอะไร”
“ฆ่าโชค ชนารณพ!เธอกำจัดมันให้ฉันแล้วฉันจะถือว่าเราหายกัน ตกลงไหม”
“ทำไมต้องเป็นฉัน” โรสถามอย่างระแวง
“เพราะจะต้องไม่มีตัวฉัน หรือคนของฉันไปเกี่ยวข้องกับการตายของมัน ฉันรู้นะว่ามือปืนที่ชื่อกงพัดเป็นคนของเธอ ฉันจะส่งโชคไปให้ เธอส่งคนของเธอมาจัดการฆ่ามัน”
โรสเริ่มสนใจ
“คุณโชคไม่ไปไหนคนเดียวหรอก คนของฉันจะรอดมาได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันกับเธอ เราสองคนรอดแน่ๆ โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ นะโรส ว่าไงตกลงหรือไม่ตกลง”
โรสนิ่งใช้ความคิด แล้วสักครู่จึงค่อยๆ ยิ้มออกมา แววตาร้ายๆ
“ตกลงค่ะ ท่านปฐวี”
จบตอนที่ 16
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.