xs
xsm
sm
md
lg

กุหลาบซาตาน ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กุหลาบซาตาน ตอนที่ 15
วันต่อมาโชคกับเป๋งเดินลงมาที่ชายหาด โชคพูดกับเป๋งอย่างจริงจัง
“แกต้องสาบาน ว่าทุกอย่างที่แกรู้ แกเห็น แกจะไม่ปริปากบอกใคร”
“สาบานครับนาย”
โชคจ้องหน้าเป๋ง
“โดยเฉพาะลูกกับน้องชายฉัน ห้ามเด็ดขาด”
เป๋งพยักหน้า โชคเดินนำเป๋งเข้าไปในร้านอาหารริมหาด
ขณะนั้นชัชนั่งทำงานอยู่ที่โรงแรม ชัชรับเอกสารมาจากพนักงาน ในนั้นมีสำเนาของโฉนดรุ่นเก่า และสำเนาของสัญญาซื้อขายต่างๆ
“นี่เป็นสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโฉนดที่ดิน และสัญญาซื้อขายที่ดิน ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของบลู โอเชี่ยน มารีน่า ครับ”
“เจ้าของเดิมชื่อ พุฒ พิมพากุล” ชัชนิ่วหน้าพอจะเดาเรื่องออก แล้วถามพนักงาน “ มีที่อยู่ติดต่อไหม”
“เจ้าของเดิมเสียชีวิตไปหมดแล้วครับ ทั้งสามีภรรยา หลังจากที่ขายที่ดินให้คุณโชค ก็เกิดไฟไหม้ ไฟคลอกตายทั้งบ้านเลย” ชัชพิงพนักเก้าอี้ ถอนใจหนัก แน่ใจว่าโชคคงฆ่าสองสามีภรรยาเพื่อแย่งที่ดินอีกตามเคย “ถ้าคุณชัชไม่มีอะไรเพิ่มเติม ผมขอตัว” พนักงานบอกอย่างเกรงใจยและจะลุกไป
“เดี๋ยวก่อน...ให้ใครเช็คให้ผมหน่อย เจ้าของที่เดิม เค้ามีทายาทไหม”
ส่วนที่ร้านอาหารริมหาดโชคนั่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ที่นั่งหน้าจ๋อยๆ
“ผมตรวจสอบดูแล้วครับ กงพัด พิมพากุล เป็นลูกของนายพุฒกับนางกุลธิดาพิมพากุล จริงๆ”
โชคโมโหเกือบจะกระชากคอเจ้าหน้าที่ แต่ยั้งไว้ทันเพราะกลัวคนอื่นตกใจ
“ไหนตอนนั้น ตำรวจบอกว่าหาศพไม่เจอไง ฉันก็นึกว่ามันตายไปแล้ว แล้วมันโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ หา ทำไมไม่มีใครบอกฉัน”
“ตอนนั้น ตำรวจเจ้าของเรื่องบอกว่าหาเด็กไม่เจอจริงๆ ครับ พอดีมันมีรอยเท้าวิ่งลงทะเลไป เลยสันนิษฐานว่าอาจจะไปตายในน้ำ แต่ต่อมาไม่กี่ปี ตำรวจคนนั้นค่อยมาบอกว่าเจอตัวแล้ว แต่มีคนพาไปอยู่ที่อื่น ผมเห็นว่าเรื่องมันแล้วไปแล้วเลยไม่ได้สนใจ”
โชคเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาจากร้านอาหาร มองไปในทะเล รำพึงกับตัวเองอย่างแค้นๆ
“ตกลงว่าลูกชายมันรอดไปได้ แล้วกลับมาแก้แค้นแทนพ่อแม่มันงั้นเหรอ...นึกว่ากูกลัวมึงรึไง”
อีกด้านหนึ่งของหาดกงพัดยืนอยู่หน้าบ้านเช่า วีณาแยกไปนั่งอยู่ที่ชายหาดอย่าง เหงาๆ กงพัดเปิดกล่องใบใหญ่ ในนั้นมีปืนและโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ กงพัดตรวจสอบปืนแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
กงพัดบอกกับโรส
“ดี เธออยู่ที่นั่นปลอดภัยที่สุดแล้ว พวกมันคงคิดไม่ถึง ว่าเธอจะกลับไปที่ ที่เคยอยู่เมื่อสิบกว่าปีก่อน...ห่างจากโรงแรมของพวกมันแค่นิดเดียว”
“ผมต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”
“มีโอกาสลงมือเมื่อไหร่ พี่จะโทรไปบอก”
กงพัดวางสายจากโรสเดินมาสวมกอดวีณา วีณาถามเสียงเศร้า
“คุณจะกลับไปฆ่าคนจริงๆ เหรอคะ”
“ผมไม่มีทางเลือก พวกมันจะฆ่าคุณ”
“เพราะพวกเค้าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ทำร้ายเค้า โรสต่างหากที่เป็นคนทำ”
“ผมรู้ ผมรักคุณ แต่ผมก็ทรยศโรสไม่ได้ แล้วถ้าจริงอย่างที่โรสว่า ถ้าโชคชะตากำหนดมาแล้ว ว่าผมต้องฆ่าเค้า มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้น”
กงพัดดึงวีณามากอด วีณาซบกับไหล่กงพัด แววตาของวีณาครุ่นคิดเธอกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง
ทางด้านโชคระหว่างนั่งรถเข้ากรุงเทพโชคนั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ลูกชายไอ้พุฒคือไอ้มือปืนกงพัด แล้วผู้หญิงที่มายิงไอ้ปฐวีล่ะ เป็นใคร” โชคถามเป๋ง
“เห็นคุณโรสบอกว่ามือปืนผู้หญิงที่มาดักยิงนาย คือคุณวีณาไมใช่เหรอครับ มันก็น่าจะใช่นะครับ ทำซะขนาดนี้ ไม่ใช่แฟนยิงแทนไม่ได้นะครับนาย”
“เฮ่ย อะไรที่ออกจากปากยัยโรส ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เสียดาย นังมือปืนมันเป็นใคร ก็ดันมีคนเห็นอยู่คนเดียว...ไอ้ปฐวีคนเดียวเท่านั้น”
โชคคิดๆ แล้วมองหน้าเป๋ง เหมือนจะมีแผนอะไรอีก
พอถึงกรุงเทพโชคจึงให้เป๋งแวะที่โรงพยาบาลของหมอภาคภูมิ เป๋งถือกระเช้าดอกไม้บังหน้าเข้ามาที่หน้าห้องปฐวี เจอพยาบาล
“จะไปห้องไหนคะ” พยาบาลถามเป๋ง
“เอ่อ ผมมาเยี่ยมท่าน ส.ส. ปฐวีครับ”
เป๋งบอก หมอภาคภูมิเดินออกมาพอดี
“ท่านไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วครับ”
“หา!”
เป๋งรีบกลับไปรายงานโชคหลังจากรู้ว่าปฐวีย้ายออกไปแล้ว โชคมีท่าทางตื่นเต้น ถามรัว
“ย้ายออกไปแล้ว ไปไหน กลับบ้านเหรอ มันจะตายปะแง่บๆ อยู่ เผลอแป๊บเดียว มันหายแล้วเหรอ”
“หมอบอกว่าย้ายออกไปรับการรักษาพิเศษครับ แต่เป็นความลับ บอกไม่ได้ว่าที่ไหน”
“การรักษาพิเศษ เป็นความลับ บอกใครไม่ได้ อะไรของมัน”
โชคทำหน้าสงสัย
รถพยาบาลแล่นมาจอดหน้าบ้านปฐวี บุรุษพยาบาลเข็นเตียงของปฐวีลงมาพร้อมอุปกรณ์เพียบ บอดี้การ์ดเหลือเพียงคนเดียว ช่วยอยู่ห่างๆ นงพงากับไปรมายืนมองอย่างห่วงใย
“เอาเข้าไปห้องด้านในเลยค่ะ”
นงพงาบอก บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าไป ระหว่างนั้นดนัยวิ่งพรวดพราดเข้ามา หน้าตาตื่น
“คุณนงครับ คุณนง นี่มันอะไรกันครับ ทำไมย้ายท่านกลับมาที่นี่”
นงพงาทำสีหน้าท่าทางบอกให้ดนัยหยุดพูดก่อน ดนัยเงียบไป แต่ท่าทางร้อนใจ
ในห้องชั้นล่างที่จัดเป็นห้องพักฟื้น ปฐวีนอนอยู่บนเตียง สีหน้าสดใสขึ้น นงพงากับไปรมาเดินมาข้างเตียงตรวจดูความเรียบร้อย จากนั้นนงพงาจึงหันไปพูดกับดนัย
“เมื่อวานนี้ คุณหมอบอกว่าท่านดีขึ้น เริ่มมีอาการตอบสนองบ้าง ถ้าเราดูแลดีๆ อีกไม่นาน ท่านน่าจะรู้สึกตัว”
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่เอาไว้ใกล้ๆ หมอล่ะครับ คุณนงพาท่านกลับมาอยู่ที่บ้านทำไม”
“ฉันกลัวน่ะดนัย ถ้าหากข่าวรั่วไหลออกไป ว่าท่านกำลังจะหาย อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านอีก เธอก็รู้วันที่ท่านยังรุ่งเรือง คนแวดล้อมเต็มบ้าน แต่ตอนนี้ เราแทบไม่เหลือใครแล้ว...”
ดนัยเจ็บใจ เสียใจ
“ไอ้คนพวกนี้ มันน่านัก ถ้าท่านฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมจะ...”
นงพงายกมือห้าม
“มาช่วยกันคิดเรื่องดูแลท่านตอนนี้ดีกว่ากว่า ท่านเป็นคนเดียวที่เห็นหน้ามือปืน มันอาจจะอยากปิดปากท่าน เราจะเสี่ยงอีกไม่ได้”
“แปลว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้ใช่ไหมครับ ว่าท่านกำลังจะหาย”
“จะต้องไม่มีใครรู้ นอกจากฉัน เธอ แล้วก็ยัยไป๋ คุณหมอรับปากฉันแล้ว ว่าทางโรงพยาบาลจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เราต้องไม่ให้ใครรู้ด้วยว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่บ้าน ...” นงพงาหันไปมองไปรมา “โดยเฉพาะ คนที่บ้านคุณโชค”
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ไป๋ไม่บอกชินแน่ๆ”
“ชินเป็นคนดี แต่แม่ไม่ไว้ใจคนอื่นที่บ้านเค้า” นงพงาหันไปพูดกับดนัยต่อ “เอาไว้ท่านพูด ให้การกับ
ตำรวจได้เมื่อไหร่ ฉันถึงจะวางใจ”
นงพงามองไปที่ปฐวีอย่างมีความหวัง
อีกด้านหนึ่งที่โรงแรมของโชค ชัชเดินวนเวียนไปมา คิดเรื่องที่โรสบอกว่าวีณาคือมือปืน
“ฉันเห็นคนที่ยิงท่านปฐวีในคืนนั้น เขาไม่ได้เล็งยิงท่านปฐวี เขาตั้งใจจะยิงคุณโชค แต่มันพลาดไปโดนท่านปฐวีแทน คุณวีณาค่ะ...วีณา เฟลแมน”
โทรศัพท์ชัชดัง ชัชสะดุ้งจากภวังค์รับโทรศัพท์
“ว่าไง ชิน”
ชินภัทรเดินอยู่ที่ล้อบบี้ ในมือมีซองเอกสาร
“ข้อมูลที่อาชัชอยากได้ มาถึงแล้วครับ”
“ขึ้นมาเลย อากำลังรออยู่” ชัชวางสาย สีหน้าครุ่นคิด “คุณวีณา คุณเป็นมือปืนจริงๆ เหรอ ไม่น่าเป็นไปได้”
ทางด้านวีณาเธอทำท่าทางลับๆ ล่อๆ แอบมาโทรศัพท์โดยไม่ให้กงพัดรู้ วีณาโทรศัพท์มาที่โรงแรมของโชคสายเข้าที่โอเปอเรเตอร์กลางของโรงแรม พนักงานรับ
“Good afternoon. Blue Star Hotel. Rattana’s speaking. What can I assist you?”
“ฉันขอพูดสายกับคุณชัชหน่อยค่ะ ชัช ชนารณพ น่ะค่ะ”
“คุณชัช รองประธานกรรมการน่ะเหรอคะ!? เอ่อ คุณต้องโทรไปที่ฝ่ายบริหารนะคะ”
“ช่วยโอนสายไปให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่มีเบอร์ ช่วยหน่อยนะคะ ฉันมีธุระสำคัญจริงๆ”
พนักงานโอนสายมาที่เลขาของชัช เลขารับสาย
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบต้องการติดต่อกับคุณชัชเรื่องอะไรคะ”
“ฉันชื่อวีณานะคะ ฉันมีเรื่องสำคัญ ต้องพูดกับคุณชัชค่ะ”
“เอ่อ” เลขาหันไปมองทางชัช เห็นชัชเข้าห้องประชุมไปกับชินภัทร “คุณชัชเข้าห้องประชุมไปแล้วค่ะ ดิฉันรับเรื่องแทนได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ค่ะ มันสำคัญมาก ฉันต้องพูดกับคุณชัชเท่านั้น งั้นฉันขอเบอร์มือถือคุณชัชได้ไหมคะ”
“ฉันคงให้ไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่า ฉันขอเบอร์คุณไว้ ให้คุณชัชโทรกลับดีไหมคะ”
“ไม่ได้เหมือนกันค่ะ เอาไว้ฉันโทรมาใหม่ดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ”
วีณาวางสายสีหน้าเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นกับสิ่งที่คิดจะทำ
ชัชเข้ามาในห้องประชุมกับชินภัทร ชินภัทรส่งกระดาษหลายแผ่นให้ชัช ซึ่งเป็นสิ่งที่พีชญาส่งมาให้ทางเมล์เกี่ยวกับประวัติและข้อมูลส่วนตัวของวีณา
“พี่วีณาเพิ่งแต่งงานกับสามีชื่อโจนาธาน เฟลแมน แล้วย้ายไปอยู่ที่สวิสเมื่อสามปีที่แล้วครับ ตอนแรกไปทำงานเป็นแม่ครัวที่ร้านอาหารแถวนั้น แล้วต่อมาก็เปิดร้านของตัวเอง ร้านที่เราเคยไปกันน่ะครับ”
“แล้วนิสัยใจคอล่ะ เป็นคนยังไง”
“พีชลองไปคุยกับคุณเบธ ลูกจ้างในร้านของพี่เค้า เบธยืนยันว่าพี่วีเป็นคนดีมากใจดี มีเมตตา แล้วก็ขี้สงสารมากๆ ด้วย ฟังๆ ดูไม่น่าจะฆ่าคนได้เลยนะครับ”
“คนใจอ่อนก็ฆ่าคนได้ ถ้ามีเหตุจำเป็น แล้วเรื่องปืนล่ะ”
“พี่วียิงปืนเก่งครับ ยิงแม่นด้วย ผมเห็นเค้ามีปืนติดตัวตลอด ยังเคยเอาปืนยิงขู่พวกผมหนนึงเลย”
ชัชใคร่ครวญ ชินภัทรถาม “อาชัชคิดว่าพี่วีมายิงพ่อ แต่พลาดไปโดนท่านปฐวี อย่างที่อาโรสพูดจริงๆ เหรอ
ครับ”
“มันก็เป็นไปได้ แต่ที่อานึกไม่ออกก็คือ คุณวีณามีแรงจูงใจอะไร”
“ช่วยคนที่ชื่อกงพัด คนรักของเค้าเหรอครับ”
“แกว่า คนเราจะทำเพื่อคนรักได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ชิน”
ชัชย้อนถาม ชินภัทรส่ายหัว ไม่มีคำตอบเหมือนกัน
ระหว่างนั้นที่บ้านโชค โรสเดินสำรวจไปรอบๆ บ้าน ระหว่างเดินก็เอามือแตะลูบไล้ไปตามเฟอร์นิเจอร์และกำลังวางแผนหาทางฆ่าโชค แววตาครุ่นคิด
“ไม่ได้ จะให้พัดบุกเข้ามาฆ่ามันในบ้านหลังนี้ไม่ได้ เสี่ยงเกินไป เราต้องหาวิธีอื่นอาจจะต้องล่อมันออกไปข้างนอก ใช่ ต้องล่อมันออกไปข้างนอก แต่จะทำได้ยังไง”
โรสนิ่งคิดแล้วสายตาไปหยุดที่รูปครอบครัว ที่มีชินภัทรอยู่ในนั้น
ชัชรู้จากเลขาว่าวีณาโทรมา ชัชจึงเดินกระวนกระวายรอโทรศัพท์ของวีณา
“เค้ายังไม่โทรมาอีกเหรอ”
ชัชเดินมาถามเลขา
“ยังเลยค่ะ”
ชัชส่ายหัวจะเดินกลับเข้าห้อง ทันใดนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น ชัชหมุนขวับรับสายแทนด้วยความร้อนใจ
“ฮัลโหล ผมชัชพูด นั่นใคร”
วีณาใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรเข้ามา เธอดีใจที่ชัชรับสายมือหยอดเหรียญที่เตรียมมาไปด้วย
“ฉันวีณาค่ะ คุณชัช ฉันอยากพบคุณ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ เรื่องคนที่ยิงท่านปฐวี”
ชัชเดินกลับเข้าห้อง ปิดประตู
“พูดมาเลยครับ มันเป็นใคร”
“เรื่องมันยาวค่ะ แล้วก็ซับซ้อนมาก คุณต้องมาเจอฉัน”
ชัชระวังขึ้นมานิดหน่อย เพราะไม่รู้ว่าวีณาจะมาไม้ไหน
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันบอกคุณไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้ สิบเอ็ดโมง คุณมาพบฉันที่... คุณต้องมาคนเดียวนะคะ มามือเปล่า ห้ามเอาอาวุธมา แล้วที่สำคัญอย่าบอกใครเป็นอันขาด ว่าคุณมาพบฉัน” ชัชอึ้งไปเพราะรู้สึกชักไม่น่าไว้ใจ วีณารู้สึกได้ รีบยืนยัน “ไว้ใจฉันนะคะ คุณชัช ฉันไม่ใช่คนร้าย ทุกอย่างที่คุณได้ยินมา มันไม่ใช่ความจริง ฉันไม่ได้เป็นคนยิงท่านปฐวี แต่ฉันรู้ ว่าใครทำ...”
สายตัดไปเพราะเหรียญหมด ชัชวางสาย สีหน้าครุ่นคิด เชื่อดีไม่เชื่อดี
คืนนั้นชัชกลับบ้านหน้าเครียด พอเดินเข้าบ้านเห็นสาวใช้เดินผ่านมา ชัชถาม
“นุ้ย คุณโรสอยู่ไหน”
“ข้างบนค่ะ”
ชัชรีบเดินไป
ชัชเดินเข้ามาในห้องพอเห็นโรสจึงถามตรงๆ
“โรส ในภาพนิมิตของคุณ คุณเห็นว่าคนที่ยิงท่านปฐวีวันนั้น จริงๆ แล้วต้องการยิงพี่โชคแน่เหรอ”
“ค่ะ...ถามทำไมเหรอคะ ชัช”
ชัชไม่ตอบ แต่ถามต่อ
“แล้วผู้หญิงคนนั้นคือคุณวีณา” โรสพยักหน้า “คุณแน่ใจนะ”
“ค่ะ” โรสเห็นชัชหน้านิ่งๆ เธอเริ่มไม่สบายใจ “คุณไม่เชื่อฉันเหรอคะ”
“เปล่า”
ชัชเดินเลี่ยงไปถอดเนคไท เตรียมอาบน้ำ โรสมองตามด้วยความระแวง
“คุณวีณาเป็นคนรักของมือปืนที่ชื่อกงพัด เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ข้างตัวเค้า ช่วยเหลือเค้ามาตลอด ใครจะอยากฆ่าคุณโชคล่ะคะ ถ้าไม่ใช่คุณวีณา...” ชัชไม่ตอบโรสยิ่งระแวง “๐หรือคุณคิดว่าเป็นใครคะ ชัช”
ชัชมองโรสนิ่งๆ ไม่ตอบ สีหน้ายังหมกหมุ่นกับเรื่องที่คิด เดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้สนใจโรส โรสหวั่นใจมาก
ที่บ้านปฐวี...ปฐวีนอนอยู่บนเตียง นงพงากับไปรมายืนอยู่มุมห้องมองดูหมอภาคภูมิฉีดยาบำรุงให้ปฐวี
“สภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นเป็นลำดับครับ ถ้าไม่มีโรคอื่นแทรกซ้อน ท่านน่าจะฟื้นขึ้นมาได้ภายในเร็ววันนี้”
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ที่ดูแลท่านอย่างดี”
“ยินดีครับ นี่ก็ค่ำแล้ว ผมขอตัวก่อน”
“ไป๋ไปส่งคุณลุงเองค่ะ”
นงพงาไหว้ลาหมอภาคภูมิ หมอภาคภูมิออกไปพร้อมกับไปรมา นงพงาเข้าไปที่ข้างเตียง กุมมือปฐวี
“หายเร็วๆ นะคะคุณ นงกับลูกต้องการคุณ” นงพงาบีบมือปฐวี มือนั้นตอบสนอง นงพงาชะงัก มองไปเห็นเปลือกตาปฐวีกระพริบถี่ๆ “คุณ...” ปฐวีลืมตาแล้วหลับลงไปอีก เพราะไม่ชินแสงแต่ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมา “คุณ คุณฟื้นแล้ว” นงพงาชะโงกหน้าไปมองอย่างตื่นเต้น “คุณเห็นนงไหมคะ ได้ยินที่นงพูดไหมคะ”
ปฐวีไม่ตอบแต่สีหน้าและแววตาบอกชัดว่ารับรู้ นงพงายิ้มทั้งน้ำตา วิ่งออกไปตามหมอภาคภูมิทันที
อ่านต่อหน้าที่ 2





กุหลาบซาตาน ตอนที่ 15 (ต่อ)
ขณะนั้นไปรมากำลังไหว้ลาหมอภาคภูมิที่กำลังจะขึ้นรถ นงพงาวิ่งถลาออกไปหา
“คุณหมอคะ คุณหมอ” ไปรมากับหมอภาคภูมิชะงัก นงพงารีบบอกพูดรัวด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ยัยไป๋ คุณพ่อฟื้นแล้วลูก” นงพงาบอกลูกสาวแล้วหันไปบอกหมอภาคภูมิ “ท่านฟื้นแล้วค่ะ ท่านลืมตา แล้วก็ฟังฉันพูดท่านเข้าใจด้วย”
“คุณพ่อ”
ไปรมาดีใจมากวิ่งตื๋อกลับเข้าไปข้างใน หมอภาคภูมิยิ้มให้นงพงา
ไปรมาวิ่งเข้าไปกอดปฐวี ปฐวีขยับไม่ได้แต่สีหน้าและแววตาบอกชัดว่ารับรู้
“คุณพ่อ คุณพ่อฟื้นแล้ว ไป๋ดีใจที่สุดเลย” ไปรมายิ้มทั้งน้ำตา “ไป๋คิดอยู่แล้ว ว่าคุณพ่อต้องไม่ทิ้งไป๋ไป”
ปฐวีมองไปรมาน้ำตาคลอแต่พูดไม่ได้ ขยับอะไรไม่ได้ นงพงาเข้ามาดึงไปรมาออกมา
“ให้คุณหมอตรวจคุณพ่อก่อนนะคะลูก”
หมอภาคภูมิเข้าไปข้างเตียง
“ท่านปฐวีมองที่ปลายปากกานี่นะครับ...”
ปฐวีทำตามที่หมอภาคภูมิบอก นงพงากับไปรมายืนกอดกัน มองปฐวีกับหมอภาคภูมิ สองแม่ลูกยิ้มไปปาดน้ำตาไปด้วยความปลื้มใจ
ส่วนที่บ้านของโชคขณะนั้นชินภัทรเถียงกับโชคเสียงเข้ม ท่าทางเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“พ่อจะอยากรู้เรื่องท่านปฐวีไปทำไม”
“ไม่ต้องถาม แกสนิทกับลูกสาวมัน แกก็ไปสืบให้พ่อหน่อย ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหนอาการเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่! ผมไม่ไว้ใจพ่อ” ชินภัทรเดินหนี โชคขวางไว้
“ไอ้ชิน นี่แกบังอาจ...”
ชินภัทรยกมือห้ามโชคให้หยุดพูด
“อย่า พ่อ! พ่อเองก็ไม่ไว้ใจผม ไม่เคยพูดความจริงกับผม ทั้งเรื่องของพ่อกับท่านปฐวี ทั้งเรื่องของพ่อกับมือปืนกงพัด พ่อไม่เคยบอกผมเลยว่าพ่อกับพวกเค้ามีเรื่องอะไรกัน พ่อทำอะไรเอาไว้ มันเลวร้ายขนาดไหน ทำไมทุกคนถึงอยากฆ่าพ่อ”
“ไอ้ชิน!”

ชินภัทรมองหน้าโชคนิ่งๆ โชคทำอะไรลูกไม่ได้ ได้แต่โมโหเดินปึงปังออกไป
ที่สวิสเซอร์แลนด์ขณะนั้นภูษณะกับพีชญานั่งค้นตำราอยู่ที่พื้นในห้องสมุด ระหว่างสองคน มีชั้นหนังสือสูงท่วมหัวกั้นไว้ พีชญาแอบมองภูษณะผ่านหนังสือที่คั่นอยู่ ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ปนเอ็นดู โทรศัพท์ภูษณะดัง
“ว่าไงจ๊ะ คนสวย”
ภูษณะรับสายพีชญาหูตั้ง ตาโต ยื่นหน้ามาแอบฟังทันที ไปรมาเป็นคนโทรหาภูษณะ เธอกลิ้งอยู่บนเตียงในห้องนอน หน้าตามีความสุขสุดๆ
“ภู เรามีข่าวดี แต่เราพูดกับใครที่นี่ไม่ได้ เราเลยโทรมาบอกภู แต่ภูต้องสัญญาก่อนนะ ว่าจะไม่บอกใครทั้งนั้น”
“เออ น่ะ ยังไม่รู้เลยว่าข่าวอะไร”
“พ่อเราฟื้นแล้ว คุณลุงหมอพ่อเธอบอกว่า อีกไม่นานก็คงพูดได้ ขยับตัวได้เหมือนเดิม เราดีใจที่สุดเลย ภู”
“เฮ้ยเหรอ เออ เราดีใจด้วย”
“แต่ภูห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะ โดยเฉพาะพีช”
“หา!” ภูษณะหันขวับไปมอง เห็นพีชญาแอบดูผ่านชั้นหนังสือ ภูษณะรีบลุกหนีและลดเสียงให้เบาลง “ทำไมต้องห้ามบอกยัยพีชด้วยล่ะ”
“เรื่องนี้ซีเรียสนะ ภู เราจะให้ชินรู้เรื่องพ่อเราไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าพีชรู้ พีชต้องบอกชินแน่ๆ”
“อ่ะ ถูกกก ถ้าพีชรู้ โลกรู้ ยัยนี่เก็บความลับเป็นซะที่ไหน สงสัยชาติที่แล้วคงซื้อลำโพงถวายวัด”
พีชญาโผล่มาดักหน้า ภูษณะสะดุ้ง
“นี่ นินทาลับหลังเหรอ” ภูษณะส่ายหน้า พีชญาถามอย่างสอดรู้มาก “แล้วนั่นคุยกับใคร ใครโทรมา”
“ยุ่งน่ะ”
“ไม่ยุ่งไม่ได้ ฉันอุตส่าห์เสียเวลามาติวให้เธอ เธอจะคุยกับคนอื่นได้ไง แล้วที่สำคัญ ตอนนี้เราอยู่ในห้องสมุด คุยโทรศัพท์ไม่ได้” พีชญาตั้งใจพูดให้คนปลายสายได้ยิน “มันเสียมารยาทนะคุณ เข้าใจไหม”
“เข้าใจไหมครับ คุณแม่” ภูษณะแกล้งพูด
“หา! คุณแม่” พีชญาตกใจทำท่าทุบหัวตัวเอง ซวยๆๆ ภูษณะจึงแกล้งพูดต่อ
“เค้าชื่อพีชครับคุณแม่ ไม่มีอะไรหรอกครับ เค้าคงจะหึงผมน่ะ เลยลืมตัวไปหน่อย”
ภูษณะวางสายแล้วยิ้มยั่ว พีชญาหน้าแตกสุดๆ
วันต่อมาที่บ้านโชค ชัชอยู่ที่ห้องอาหาร กำลังโทรศัพท์สั่งงานเลขาฯ
“คุณโทรเลื่อนนัดทนายวิชัยออกไปก่อน เผอิญผมมีนัดด่วน ใช่ นัดสำคัญมากไม่รู้เหมือนกันว่าจะเสร็จกี่โมง คุณเลื่อนนัดตอนบ่ายออกไปให้หมดก็แล้วกันเท่านั้นแหละ ขอบใจ”
ชัชวางสายโดยไม่รู้ว่าโรสยืนแอบอยู่ด้านหลังได้ยินทั้งหมด
“นัดสำคัญ นัดใคร”
โรสรำพึงออกมาอย่างแปลกใจ
อีกด้านหนึ่งวีณายืนอยู่หน้าบ้าน เธอชะเง้อมองออกไปเห็นกงพัดอยู่ที่ชายหาด กำลังช่วยเด็กซ่อมเจ๊ตสกีอยู่ วีณามองกงพัดด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความรัก
“พัด คุณเป็นคนดี ฉันจะไม่ยอมให้โรสทำร้ายคุณ โรสต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้”
วีณาคว้าดินสอมาเขียนโน้ตแปะเอาไว้หน้าประตูว่า “ฉันออกไปซื้อของใช้ เดี๋ยวมาค่ะ วี” วีณาคว้าผ้าสีสดมาสวมพันด้านนอก สวมหมวกกันแดด สวมแว่น ท่าทางเหมือนนักท่องเที่ยวที่ออกมาเดินเล่นชายหาด แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไป
หลังจากชัชออกจากบ้านไปแล้ว โรสรีบมาที่โรงแรม โรสทำเป็นเดินยิ้มแย้มเข้ามาที่โต๊ะเลขาฯ ชัช
“อ้าว คุณโรส สวัสดีค่ะ”
เลขายกมือไหว้โรส
“พอดีมีธุระกับคุณชัชนิดหน่อยค่ะ เค้าอยู่ในห้องรึเปล่าคะ” โรสแกล้งถาม
“นายไม่อยู่ค่ะ มีนัดข้างนอก”
“นัดใคร ที่ไหนคะ เผื่อจะเป็นคนที่ฉันรู้จัก”
“คงจะเป็นคุณที่โทรมาเมื่อเมื่อวานน่ะค่ะ ชื่อคุณวีณา คุณโรสรู้จักไหมคะ”
โรสสะดุ้ง ตกใจมากเมื่อรู้ว่าชัชมีนัดกับวีณา
ระหว่างนั้นชัชอยู่ในรถ ชัชมองนาฬิกาข้อมือ ใกล้จะสิบเอ็ดโมง ชัชบอกกับลูกน้องที่ช่วยขับรถให้
“ณรงค์ เดี๋ยวส่งฉันที่ถนนเลียบชายหาดนะ แล้วแกขับรถไปรอที่โรงแรมเราเสร็จธุระแล้วฉันจะโทรเรียก”
“ครับ นาย”

ชัชคิดๆ หยิบปืนขึ้นมาดูคิดถึงคำสั่งของวีณา
“คุณต้องมาคนเดียวนะคะ มามือเปล่า ห้ามเอาอาวุธมา แล้วที่สำคัญ อย่าบอกใครเป็นอันขาด ว่าคุณมาพบฉัน”
ชัชมองปืนอย่างชั่งใจแล้วตัดสินใจไม่เอาปืนไปตามที่วีณาบอก
ส่วนกงพัดเมื่อเดินกลับมาบ้าน กงพัดก็ร้องเรียกวีณา
“วี” กงพัดเห็นโน๊ตที่แปะอยู่ที่ประตู หยิบมาอ่าน “ออกไปซื้อของข้างนอก”
กงพัดยิ้มนิดๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป ไม่ได้ติดใจ จังหวะนั้นโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้ดังขึ้น กงพัดชะงักใจหายวูบ
“ได้เวลาแล้วเหรอ”
กงพัดถามเมื่อรับสาย
วีณานัดเจอกับชัชที่ร้านริมหาด วีณาถือถุงช้อปปิ้งเดินเข้ามาในร้าน นั่งอยู่ด้านในสุดติดชายหาด รอชัช เจ้าของร้านเดินมา
“ขอไดเอท โค้ก ค่ะ”
วีณาบอก เจ้าของร้านออกไป วีณาเห็นชัชเดินเข้ามาทางหน้าร้าน วีณาบีบมือตัวเองอย่างตื่นเต้น ทำท่าเหมือนจะเรียก ชัชหันมาพอดีพอเห็นวีณา ชัชยกมือเป็นสัญญานว่าเห็นแล้ว แล้วเดินเข้าไปหา ทันใดนั้นกงพัดก็เข้ามา
“วี”
“พัด!”
วีณาตกใจลุกขึ้นยืน หน้าตาตื่น ไม่รู้จะทำยังไงดี พอดีกับที่ชัชมองมาเห็นกงพัด
“กงพัด” กงพัดเห็นชัช จึงเข้ามากระชากแขนวีณาจะพาหนี “หยุดนะ หยุด”
กงพัดเห็นชัชจะเข้ามาจวนตัว เลยควักปืนออกมาขู่ ชัชชะงัก
“อย่านะ พัด อย่าทำเค้า” วีณาร้องห้ามอย่างตกใจ
“ถอยไป อย่าตามมา”
กงพัดบอกแล้วลากแขนวีณาออกไป...กงพัดดึงแขนวีณาวิ่งหนีไปตามหาดทราย วีณายื้อยุด
“หยุดก่อนได้ไหม พัด ฉันอยากคุยกับเค้า”
“พวกมันจะฆ่าคุณ”
“คุณชัชเป็นคนดี เค้าเคยช่วยเรามาแล้ว คุณจำไม่ได้เหรอ”
“นั่นมันก่อนที่เค้าจะคิดว่าคุณยิงพี่ชายเค้า”
“แต่ชั้นไม่ได้ยิง!” วีณาสะบัดหลุดจากกงพัด “แล้วนั่นก็คือสิ่งที่ฉันจะบอกเค้า ฉันจะบอกว่าฉันไม่ผิด คุณไม่ผิด เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งที่ชิลอง ทั้งที่เมืองไทย มันเป็นแผนการของพี่สาวคุณทั้งนั้น!”
ชัชตามมา
“เป็นความจริงเหรอ คุณวีณา”
กงพัดกับวีณาหันไปมองชัช กงพัดอาศัยช่วงที่วีณาเผลอกดจุดที่ต้นคอวีณา เธอหมดสติไปทันที
ชัชตกใจกงพัดเล็งปืนที่ชัช
“หันหลังไป” ชัชหันหลังตามที่กงพัดบอก “แล้วอย่าตามมาเป็นอันขาด ไม่งั้น ผมยิงคุณแน่”
กงพัดประคองวีณาที่หมดสติ ขึ้นเจ๊ตสกีที่จอดไว้ แล้วขับหนีไป ชัชยืนอึ้งกับข้อมูลใหม่ที่ได้ยิน
ชัชกลับมาที่โรงแรมแล้วโทรศัพท์ตามทนายทันที ทนายเดินเข้ามาด้วยท่าทางเร่งร้อน
“ครับ คุณชัช อยู่ที่คอฟฟี่ชอปนะครับ ได้ครับ เดี๋ยวพบกัน”
ทนายรีบไปพบกับชัชที่คอฟฟี่ชอปของโรงแรม...ชัชนั่งคุยกับทนาย
“สรุปว่านายพุฒ พิมพากุล มีลูกชายหญิงสองคน ชื่อกงพัดกับเพียงออ ทั้งสองคนรอดตายจากไฟไหม้ แล้วมีคนขออุปการะ เอาไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม”
“ครับ”
“แค่นี้เหรอ ใครอุปการะไป คนที่ชื่อเพียงออทำอะไร อยู่ที่ไหน เราไม่รู้เหรอ”
“ผมสืบมาได้แค่นี้ครับ คุณชัช ถ้าอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ คงต้องใช้หมายศาลแล้ว แต่คุณชัชคงต้องบอกผมว่าคุณเพียงออ พิมพากุล มาเกี่ยวข้องกับคดีคุณโชคยิงท่านปฐวีได้ยังไง”
ชัชอึ้งไปยังไม่มีคำตอบ
อีกด้านหนึ่งขณะนั้นไปรมาอยู่ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ ไปรมาเดินเลือกของแต่งบ้านอย่างมีความสุข ยิ้มสดใส ใส่หูฟังคุยโทรศัพท์กับนงพงาไปด้วย
“เอาของตกแต่งที่เป็นลายดอกไม้ดีไหมคะ คุณแม่ คุณพ่ออุดอู้อยู่แต่ในห้องทั้งวัน เห็นดอกไม้สวยๆ ในห้อง คุณพ่อจะได้สดชื่น”
นงพงาหอบตำรา เดินขึ้นบันไดตอบอย่างอารมณ์ดี
“สีสันสดใสน่ะโอเคค่ะ แต่ลายดอกไม้เลยเหรอลูก แม่ว่าไม่ใช่มั๊ง”
“งั้นไป๋ลองซื้อไปหลายๆ แบบดีไหมคะ คงต้องถูกใจคุณพ่อเข้าซักอย่างล่ะน่า”
ระหว่างนั้นมีสายตาแอบมองไปรมาอยู่ ไปรมาเดินย้ายไปดูอีกห้อง สายตานั้นตามไป เจ้าของสายตาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือชินภัทรนั่นเอง
ไปรมาเดินดูของแต่งบ้านอย่างเพลิดเพลิน แล้วไปหยุดที่ชุดหมอน 3 ใบ ที่พิมพ์คำว่า “พ่อ แม่ ลูก” ไปรมาหยิบใบที่พิมพ์ว่า “พ่อ” ขึ้นมาดูอย่างชอบใจ
“ไป๋”
ไปรมาหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นชินภัทร
“ชิน! มายังไงเนี่ย”
“ก็ตามมา อยากเจอไป๋น่ะ อยากคุยด้วย ไป๋ดูหน้าตาสดใสเชียวแปลว่าอาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“นี่ ถ้าจะคุยเรื่องคุณพ่อเราไม่คุยด้วยนะ”
“ไม่คุยก็ได้ เราก็แค่เป็นห่วง อยากให้พ่อไป๋หายไวๆ”
“บอกแล้วไง ว่าไม่คุยเรื่องคุณพ่อ ไม่งั้นเรากลับนะ”
ไปรมาทำท่าจะกลับจริงๆ ชินภัทรคว้ามือไปรมาเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน เรามาเตือนเพราะเป็นห่วงนะ ตอนนี้คุณพ่อไป๋เป็นคนเดียวที่จะบอกได้ ว่ามือปืนเป็นใคร ไป๋ต้องดูแลท่านให้ดีๆ”
“คุณพ่อชิน คงไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณพ่อเราอีกนะ” ไปรมาถามอย่างหวั่นใจ
“เปล่า คิดว่านะ ไม่รู้สิ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราไม่มีวันยอมให้พ่อทำอะไรพ่อไป๋อีกแน่ๆ เชื่อเรานะ ไป๋”
ไปรมาเห็นความจริงใจของชินภัทรเธอถึงกับอึ้งไป
เย็นวันนั้นโรสมาหากงพัดที่บ้านชายทะเล โรสใส่แว่น มีผ้าคลุมผม เดินปังๆ มาที่บ้านชายทะเล
กงพัดยืนอยู่หน้าบ้าน
“วีณาอยู่ไหน”
โรสถามด้วยความโกรธ
“ข้างใน เค้าโกรธผม”
โรสเปิดประตูเข้าไป
วีณานั่งอยู่หันมาตามเสียง เห็นโรสเดินปรี่เข้ามา ทำท่าเหมือนจะมาทำร้ายเธอ วีณาลุกขึ้นยืนจังก้า ในมือของเธอมีมีดปอกผลไม้ วีณายกขึ้นมาขู่โรส
“อย่านะ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ”
โรสหันไปใส่กงพัด
“เห็นไหม พัด พี่เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าวีณาจะทำให้เราเดือดร้อน ผู้หญิงคนนี้จะทำให้เราเดือดร้อน”
“คุณทำตัวเองต่างหาก! คุณทำลายทุกอย่าง ทั้งชีวิตพัด ชีวิตฉัน ชีวิตของผู้ชายที่รักและเชื่อใจคุณอย่างคุณชัช ความเลวร้ายของคุณ ทำลายชีวิตพวกเราทุกคน”
“เธอพูดมากไปแล้ว จัดการเธอซะ พัด” โรสบอกอย่างโกรธจัด
“อะไรนะ พี่โรส”
“ฆ่าเธอซะ” กงพัดนิ่ง โรสชักปืนขึ้นมา “ถ้าเธอไม่ทำ พี่จะทำเอง”
โรสจะยิงวีณา กงพัดเดินเข้าไปกอดวีณา
“ถ้าพี่จะฆ่าวี พี่ต้องฆ่าผมก่อน”
โรสมองกงพัด ทั้งโกรธ ทั้งผิดหวัง
“เธอยอมสละชีวิตให้เค้าเชียวเหรอ แล้วรู้ไหมว่าเค้าทำกับเธอยังไง เค้าจะบอกความจริงกับชัช ว่าเราเป็นใคร เพื่อแลกกับอิสรภาพของตัวเอง” โรสหลอกกงพัด วีณารีบปฏิเสธอย่างตกใจ
“ไม่จริง! คุณโกหก! พี่สาวคุณโกหก”
“เธอจะเชื่อใคร พัด เลือกเอา ระหว่างผู้หญิงที่เธอเพิ่งรู้จัก หรือพี่สาวที่รักเธอ”
“ผมไม่เลือกอะไรทั้งนั้น พอกันที ผมจะไปหาพวกมัน ผมจะรับว่าผมเป็นคนทำ ผมจะจบเรื่องทุกอย่างด้วยตัวผมเอง”
กงพัดเดินออกไปจากห้อง โรสตกใจ
“พัด” โรสวิ่งไปดึงกงพัดไว้ “หยุดนะ พัด เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ผมยอมตาย ถ้ามันจะทำให้คนที่ผมรัก ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข ไม่ต้องมาทะเลาะเข่นฆ่ากันแบบนี้”
วีณาสะพายกระเป๋าเดินออกมา
“ถ้าคุณจะไป ฉันจะไปกับคุณด้วย ฉันอยากจะบอกให้เค้ารู้ ว่าความจริงมันคืออะไร”
วีณาจะพากงพัดไป โรสพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นเฉียบ
“ไม่ต้องไปหรอก พัด เธอด้วยวีณา” โรสบอกแล้วพูดกับกงพัด “ต่อให้เธอบอกว่าเธอเป็นคนทำ ก็ไม่มีใครเชื่อเธอ เพราะปืนที่ใช้ยิงท่านปฐวี มีรอยนิ้วมือของวีณาเต็มไปหมด”
“อะไรนะ”
โรสยิ้มเยาะ
“ปืนกระบอกนั้น ฉันเอาไปให้พัด แต่เธอแย่งมันไปเอง จำได้ไหม...” วีณาคิดตามที่โรสบอกซึ่งวันนั้นเธอกระชากปืนจากมือโรส “ต่อให้เธอเปิดโปงฉัน เธอเองก็ไม่รอด ใครจะเชื่อว่าคนรักของกงพัด ที่มี
ลายนิ้วมืออยู่ที่ปืนกระบอกนั้น จะไม่รู้ไม่เห็นอะไร จริงไหม”
วีณารู้ทัน นึกแค้นโรส
“คุณเอาปืนมาขู่ฉัน โรส คุณมันปีศาจชัดๆ”
“รู้ก็ดีแล้ว! แล้วอย่าบังอาจมาท้าทายฉันอีก” โรสหันไปพูดกับกงพัด “ทำตัวดีๆ ทำตามที่พี่สั่ง แล้วเธอสองคนจะปลอดภัย”
โรสเดินออกไป วีณาทรุดลงกับพื้นทราย ร้องไห้ กงพัดลงมากอดวีณาด้วยความสงสารและเห็นใจ
“วี ผมขอโทษ”
คืนนั้นชัชยังไม่ขึ้นนอน ได้แต่เดินวนเวียนไปมาอย่างเครียด ใช้ความคิดอย่างหนักเมื่อนึกถึงคำพูดของวีณา
“ตกลงว่าใครเป็นมือปืนกันแน่ วีณาหรือเพียงออ พี่สาวของกงพัด” ชัชถอนใจ ประเด็นน่าสงสัยก็ผุดขึ้นอีก “ถ้าเพียงออเป็นคนยิง แล้วทำไมโรสเห็นหน้าวีณา โรสเข้าใจผิดหรือว่า...โรสหลอกเรา”
ชัชนั่งลงกุมขมับ โรสเดินเข้ามาพร้อมยาเม็ดเล็กๆ
“คุณคิดมากอีกแล้ว”
ชัชมองโรส แววตามีคำถามแต่ไม่ได้พูดออกมา
“ก็มันมีเรื่องให้คิด”
“ค่อยๆ คิดก็ได้นี่คะ คิดมากก็ปวดหัวเปล่า” โรสพูดอย่างอ่อนหวานพร้อมกับส่งยาให้ “ยาค่ะ”
“ยาอะไร ไม่เห็นเหมือนเดิม”
“ยาแก้ปวดธรรมดานี่ล่ะค่ะ เป็นตัวใหม่...นะคะ ดีกว่าทนปวดหัว”
ชัชรับไปกินเพราะขี้เกียจขัด โรสยิ้มพรายแววตาพอใจ
ชัชกินยาไปเพียงไม่นานก็นอนหลับคาโซฟา ลมหายใจผ่อนเบาแบบคนหลับลึก โรสนั่งลงข้างๆ ชัช พูดกับเขาเบาๆ
“ไม่ต้องกลัวนะคะ ชัช ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอก ยานี่แค่ทำให้คุณนอนหลับสนิทไปถึงเช้าเท่านั้น คุณคิดมากไปแล้ว สมองของคุณต้องพักบ้าง” โรสเอานิ้วเขี่ยผมที่ปรกหน้าชัช ในความเห็นแก่ตัวอย่างเลวร้าย เธอก็รักชัชอยู่เหมือนกัน “อีกไม่นานหรอกค่ะ ฉันแก้แค้นพี่ชายคุณสำเร็จเมื่อไหร่ เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจริงๆ ซะที”
โรสจูบหน้าผากชัช แล้วลุกไปพร้อมถ้วยยา ขณะที่ชัชหลับสนิท ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
จบตอนที่ 15
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.




กำลังโหลดความคิดเห็น