นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 15
ธิดาเดินยิ้มระรื่นควงแขนรามเข้ามานั่งลงที่ห้องรับแขก อีกมือโชว์แหวนที่นิ้วให้ปองธรรมผู้เป็นพ่อดู
“รามเขาขอหนูแต่งงานแล้วนะคะพ่อ”
ปองธรรมมองหน้า รามพยายามฝืนยิ้ม
“ผมขอโทษครับที่ไม่ได้ขออนุญาตท่านก่อน”
ปองธรรมตบบ่าหัวเราะ
“เฮ้ย ฉันไม่ถือสา ลูกผู้ชายใจนักเลงอย่ามัวแต่เงื้อง่าอยู่ มันจะไม่ทันใจหญิง โดยเฉพาะยัยหนูของฉัน มันใจร้อน”
“แหมคุณพ่ออ่ะ อย่าล้อหนูสิคะ หนูก็เขินเป็นเหมือนกัน”
ทันใดเย็นทะเล่อทะล่าหน้าตื่นเข้ามา
“พ่อเลี้ยงครับ พ่อเลี้ยง ขะขะคือ คุณๆๆ...”
เย็นจะบอกว่าเทวัญมา ธิดาตวาด
“ไอ้เย็น ฉันยังไม่เรียกใช้แก แกเสนอหน้าเข้าทำไม”
“พี่สั่งให้มันเข้ามาเอง”
เทวัญจูงมือเมขลาเข้ามา อีกมือถือกระเป๋าเดินทางของเธอมาด้วย ธิดาเห็นทนไม่ได้ คิดว่าเมขลาจะมาตามตื้อรามอีก ถลาเข้าไปกระชากแขนแรงๆ
“แกจะหน้าด้านตามจิกแฟนฉันไปถึงไหน ไสหัวแกออกไปจากบ้านฉัน ไปให้พ้น”
เทวัญดึงแขนเมขลาออก กอดปกป้องเต็มที่
“หยุดนะยัยน้อง อย่าเสียมารยาทกับคู่หมั้นพี่อย่างนี้”
“อะไรนะคะ คู่หมั้น!”
ทุกคนตะลึง เทวัญหันไปบอกพ่อ
“คุณเมเป็นคู่หมั้นผมครับพ่อ เราตกลงจะแต่งงานกันเร็วๆนี้”
ปองธรรมจ้องหน้าเมขลา ขณะที่รามมองอย่างคาดไม่ถึง เมขลาเองไม่ค่อยกล้าสบตารามเท่าไหร่
ปองธรรมเรียกเทวัญมาคุยที่ห้องทำงานตามลำพังแล้วตวาดลั่น
“ฉันไม่ให้แกแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”
“เพราะคุณเมเคยเป็น อดีตภรรยาของรามหรือครับพ่อ”
“มันไม่ใช่แค่นั้น ตอนนี้น้องแกก็กำลังจะแต่งงานกับราม มันจะมั่วกันไปยกใหญ่ พ่อรับไม่ได้”
“แล้วถ้าผมยอมสืบทอดงานของพ่ออย่างที่พ่อต้องการล่ะครับ พ่อจะยอมให้เราแต่งงานกันมั้ย”
ปองธรรมมองหน้าเทวัญอึ้งไป เพราะในใจอยากให้ลูกกลับมาสืบทอดกิจการอยู่แล้ว ธิดาที่แอบฟังอยู่ด้านนอก ผลักประตูเข้ามาทันที
“หนูไม่ยอม”
ปองธรรมกับเทวัญหันไปมอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
นอกตึก...รามดึงเมขลาออกมาคุยกันตามลำพัง
“กำลังเล่นตลกอะไร”
เมขลาสะบัดมือหลุด กวนประสาทใส่
“เล่นอะไร อ๋อเรื่องที่จู่ๆฉันก็จะเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้นะหรือก็ไม่เห็นแปลกนี่ แม่คุณจู่ๆก็หายตัวไป ถ้าฉันไม่รีบเกาะคุณเทวัญไว้ก่อน ก็อดตายกันพอดี”
รามโกรธมาก
“ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณหิวเงินจนตัวสั่น หรือเป็นโรคขาดผู้ชายแล้วจะลงแดงตาย ถ้าไม่ใช่เพราะอยากรู้เรื่องแม่หน้าคุณผมก็ไม่อยากแล”
เมขลากวนใส่
“อยากรู้เรื่องแม่ก็โทรถาม 191 สิคุณ ถามฉันจะได้อะไร”
รามกระชากข้อมือ
“พาผมไปหาคุณแม่เดี๋ยวนี้”
เสียงเทวัญดังขึ้น...
“นายมีสิทธิ์อะไรจะพาคู่หมั้นฉันไปไหนต่อไหน”
รามชะงักไป เทวัญเข้าไปหาเมขลา เทวัญเธอมาจากราม ที่ยอมปล่อยง่ายๆ แต่ก็มองหน้าเทวัญแบบไม่ชอบใจ
“คุณคงรู้เห็นเป็นใจกันล่ะสิ ผมว่าแล้ว ลำพังแค่ผู้หญิงคนเดียว คงไม่มีทางลักพาตัวแม่ผมไปได้ง่ายๆหรอก ถ้าไม่มีคนคอยช่วย”
“นายหมายความว่ายังไง”
รามไม่ตอบเทวัญหันไปขู่เมขลาแทน
“ตอนนี้คุณก็รีดไถเงินจากเขาได้สบายแล้วนี่ เก็บแม่ผมไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ปล่อยแม่ผมออกมาดีกว่า ไม่งั้นละก็......”
เทวัญชิงตัดบท
“คุณพ่ออนุญาตให้เราแต่งงานกันแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าใครจะทำอะไรคุณได้...นายควรรู้ฐานะของนายด้วย”
เทวัญจูงเมขลาไปทันที รามมองตามด้วยความเสียใจ และโกรธในขณะเดียวกัน
ธิดาซึ่งยังอยู่กับปองธรรมในห้องทำงาน คว้าปืนจากลิ้นชักโต๊ะออกมา...
“ถ้าพ่อไม่ฆ่ามัน หนูจะทำเอง”
ปองธรรมจับแขนไว้
“อย่าเอาแต่ใช้อารมณ์สิ ถ้าฆ่ามันแล้วจบพ่อคงทำไปแล้ว”
“แต่หนูทนเห็นมันอยู่ในบ้านนี้ไม่ได้ หนูกลัวมันยั่วยวนรามเขี่ยไฟเก่าให้คุขึ้นมา”
ธิดาจะไป ปองธรรมตามไปดึงไว้
“ใช่ว่าพ่ออยากได้มันเป็นสะใภ้ แต่หนูต้องเข้าใจ ถ้าพ่อฆ่ามันก็เท่ากับพ่อเฉือนหัวใจพี่ชายเรา เสือมันกินสัตว์ไม่ไว้หน้าก็จริง แต่มันจะไม่กินลูกตัวเองเด็ดขาด”
ธิดานึกถึงเทวัญ ทำให้อ่อนลงยอมให้ปองธรรมดึงปืนไป
“แล้วถ้ามันไม่ได้รักพี่เทพ แต่คิดจะหลอกเอาเงินละคะ”
ปองธรรมยิงปืนใส่แจกันแตกกระจุย
“มันก็จะมีสภาพแบบนี้”
ธิดายิ้มอย่างพอใจ เมื่อเห็นอย่างนั้น
เทวัญหิ้วกระเป๋าของเมขลา เดินนำเธอมาหยุดยืนหน้าห้อง ธิดากับรามเดินตามมาดู เทวัญวางกระเป๋าหันไปหาธิดา
“นี่มันห้องนอนพี่ ทำไมถึงไม่จัดห้องใหม่ให้คุณเมล่ะยัยน้อง”
ธิดาปรายตาเย้ยเมขลา
“อ้าวน้องก็นึกว่าพี่เทพ อยากนอนห้องเดียวกับคู่หมั้นซะอีก”
“พูดจาให้เกียรติแฟนพี่หน่อยนะยัยน้อง เรายังไม่ได้เข้าพิธีอย่างถูกต้อง”
ธิดากอดแขนราม ตั้งใจมองเมขลา
“พี่เทพนี่หัวโบราณจัง ขนาดน้องกับรามเราสองคนยังอยู่ด้วยกันแล้วเลย ไม่เห็นจะต้องดัดจริตทำเป็นรักนวลสงวนตัว”
เมขลาเจ็บจี๊ดมองหน้าราม รามนิ่งไม่อยากขัดใจธิดา เมขลาจึงประชดเข้าไปกอดแขนเทวัญบ้าง
“ฉันก็ไม่ถือหรอกค่ะ อยู่ก่อนแต่งมันเป็นเรื่องธรรมดา เข้าห้องเถอะค่ะที่รัก ฉันเหนื่อยจะแย่แล้วอยากจะนอนแช่น้ำอุ่นให้สบายเนื้อสบายตัว”
เมขลาดึงเทวัญเข้าห้องแล้วปิดประตูทันที รามหึงอยากเข้าไปดึงเมขลาออกจากห้องใจแทบขาด แต่ไม่กล้าแสดงให้ธิดาเห็นกลัวจะเสียงาน
“ดูมันสิคะ ดูช่ำชองเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เล่น พี่เทพของฉันเป็นคู่นอนคนที่เท่าไหร่ของมันก็ไม่รู้ สมเพชพี่เทพจริงๆ”
รามพูดไม่ออก ได้แต่นิ่งไปด้วยความเครียด
มื่อรามกลับเข้ามาในห้องนอน คำพูดของเมขลายังตามมารบกวน...
‘…ฉันก็ไม่ถือหรอกค่ะ อยู่ก่อนแต่งมันเป็นเรื่องธรรมดา เข้าห้องเถอะค่ะที่รัก ฉันเหนื่อยจะแย่แล้วอยากจะนอนแช่น้ำอุ่นให้สบายเนื้อสบายตัว...’
รามขบกรามแน่น กระชากลิ้นชักออก คว้ากล่องใส่แหวนแต่งงานออกมา โยนใส่ถังขยะ แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดดำออกมาเปลี่ยน
ไม่นานนัก รามในชุดดำ มีผ้าดำอำพรางหน้าตา ออกมานอกตึกด้านล่าง ตรงกับห้องนอนปองธรรม ยืนแหงนมองด้านบน สื่อสารกับยงยุทธผ่านแว่นตาไปด้วย
“วันนี้พ่อเสือออกจากถ้ำไปงานเลี้ยง ผมจะลองปีนเข้ารังนอนมัน เผื่อจะได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติม ดาบช่วยดูตำแหน่ง GPS พ่อเสือให้ที ถ้ามันใกล้กลับถึงปากถ้ำ ช่วยเตือนผมด้วย”
รามหยิบเชือกออกมา แต่ยังไม่ทันได้เหวี่ยงเชือกขึ้นไป มีแสงจากไฟฉายแว่บๆเข้ามา รามหันไปมอง เห็นเย็นกับลูกน้อง
“เฮ้ย นั่นมันเงาอะไรวะ ดำๆ”
เย็นกับลูกน้องแสงส่องไฟเพ่งมอง รามรีบวิ่งหลบอย่างรวดเร็วไปทางห้องนอนเมขลา
“ขโมยหรือเปล่าพี่”
“ตามสิวะ”
เย็นกับลูกน้องรีบตาม กิ่งไม้เกี่ยวผมเย็น
“โอ๊ยยๆๆๆ หัวข้า ใครจับหัวข้าวะ”
ลูกน้องรีบช่วยแกะ
รามวิ่งมาหยุดเงยหน้าขึ้นไป เห็นหน้าต่างห้องเมขลาเปิดอยู่ห้องเดียว ห้องอื่นปิดหมด รามหันไปมอง เห็นเย็นกับลูกน้องเป็นเงาตะคุ่มตามมา จึงรีบเหวี่ยงเชือกขึ้นไป ปลายตะขอเกี่ยวขอบหน้าต่าง อย่างแม่นยำเหมือนจับวาง
เมขลายืนหวีผมอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงตะขอกระทบขอบหน้าต่าง จึงหันไปมอง แล้วเดินไปดูที่หน้าต่าง แต่ม่านบางส่วนบังตะขอที่เกี่ยวขอบหน้าต่างจึงไม่เห็น เธอชะโงกมองลงไป แต่ไม่เห็นอะไร จึงผละไปจากหน้าต่าง รามยืนพิงกำแพงอยู่ขอบระเบียง มองลงไปเบื้องล่าง
ด้านล่าง...เย็นกับลูกน้องมองหาราม
“เอ็งว่ามันคนหรือตัวอะไรวะ ทำไมมันหายแวบไปเร็วขนาดนี้ เมื่อกี้ข้ายังเห็นมันวิ่งมาแถวนี้นี่หว่า”
เสียงหมาหอนขึ้นมาทันที
“ผะผะผีมั้งพี่”
เย็นกับลูกน้องรีบกอดกันตัวสั่น
“งั้นเราอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่านะ ต่างคนต่างอยู่ เอ็งว่าดีมั้ย”
“ดีจ๊ะพี่”
รามก้มหยิบก้อนหินข้างระเบียง แกล้งโยนลงไปให้โดนใบไม้สั่น
“เฮอออออ ผีหลอก”
สองคนวิ่งหนีกระเจิง
ด้านบน...รามขยับตัวไปที่หน้าต่าง มองผ่านช่องหน้าต่างเข้าไปดู เห็นเมขลาเดินไปที่เตียงนอน ลงนอนห่มผ้า รามกวาดมองทั่วเตียงไม่มีร่างเทวัญ
“ไหนบอกว่าจะนอนด้วยกัน ยัยตัวแสบลูกเล่นเยอะนักนะ คงเล่นตัวโก่งราคาสิท่า”
ปากพูดเกลียด แต่สายตากลับมองหน้าเมขลานิ่งนานเหมือนโดนมนต์สะกดไว้ เมขลาขยับตัวนอนดิ้น กางขากางแขนทั้งสองข้างแผ่เต็มเตียง รามถึงกับเผลอตัวอมยิ้มออกมา เสียงดาบยุทธเรียกสติรามกลับมา
“ผู้กอง พ่อเสือเดินทางกลับถ้ำแล้ว”
รามสะดุ้ง
“รับทราบ”
รามรีบกลับไปที่ห้องของตัวเองทันที เมื่อเข้าไปในห้อง เขาเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่สะดุดถังขยะล้ม กล่องแหวนกระเด็นออกมา จึงก้มหยิบตัดสินใจไม่ทิ้ง โยนบนโต๊ะเครื่องแป้งทำเป็นไม่ได้สนใจอะไร พูดโกหกตัวเอง
“แหวนราคาเป็นหมื่น เรื่องอะไรฉันจะทิ้งให้โง่”
รามถอดชุดดำ แต่ก็แอบยิ้มอย่างมีความสุข ที่เห็นเมขลาอยู่ในห้องตามลำพัง...
เช้าวันต่อมา...เมขลาออกมาเดินอยู่นอกตึกอย่างสำรวจ เงยหน้ามองแต่ละห้อง
“ห้องไหนมันห้องใครบ้างนะ แล้วห้องนอนกับห้องทำงานของพ่อเลี้ยงอยู่ตรงไหนเนี่ย โห ถ้าปีนเข้าทางหน้าต่าง สงสัยจะไม่ไหวนะเรา”
ที่หน้าอกเมขลามีจุดสีแดงจากปืนเล็งอยู่ หลังพุ่มไม้จักรเล็งปืนไปที่เมขลา กำลังจะลั่นไกปืน มีมือมาจับปืนไว้ จักรตกใจหันไปมองเห็นแสง
“ฆ่ามันไม่ได้นะคุณ”
“ไหนพ่อเลี้ยงรับปากว่าจะช่วยกำจัดมัน แต่ทำไมมันมาโผล่อยู่ที่นี่”
แสงบอกให้รู้ว่าเวลานี้เมขลาเป็นคู่หมั้นของลูกชายของปองธรรม จักรจึงรีบกลับไปรายงานให้เรืองฤทธิ์รู้ทันที...
“เราคงทำอะไรมันไม่ได้ในตอนนี้ เพราะมันกลายเป็นสะใภ้ของปองธรรมไปแล้ว”
“ว่าไงนะ”
“ผมเห็นมันอยู่ในบ้านพ่อเลี้ยงกับตา”
“แล้วยายแก่ล่ะ”
“ยังหาตัวไม่พบเลยครับ”
เรืองฤทธิ์ทุบโต๊ะปัง ด้วยความโมโหที่ไม่ได้ดังใจเลยสักอย่าง
เทวัญนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน ขณะที่เมขลานั่งอยู่ที่โซฟาใกล้ๆ เย็นนำส่งแฟ้มงานมาส่งให้
“ขอบใจ ต่อไปนี้มีอะไรที่คาราโอเกะ ก็มารายงานฉันเหมือนเดิม แล้วฉันจะแวะเข้าไปตรวจงานทีหลัง”
“ครับผม” เย็นมองเมขลา “ชะอุ๊ยหน้าคุ้นๆ”
เทวัญเหล่เย็น
“ไม่มีอะไรแล้วพี่เย็น ออกไปทำงานเถอะ”
เย็นพยักหน้าหงึกๆแล้วไป เมขลามองเทวัญอย่างเห็นใจ
“เพราะฉัน คุณเลยต้องกลับมาทำงานแบบเดิม”
“ใช่ว่าผมจะทำตลอดไปนี่ครับ ก็แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น รอจนคุณหาหลักฐานแฉเรืองฤทธิ์ให้รามเห็นได้ ผมก็คงวางมือ”
“ฉันจะรีบทำให้สำเร็จค่ะ”
“ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรที่มันเสี่ยงเกินไป ถ้าคุณคิดจะทำอะไรให้ปรึกษาผมก่อน”
เมขลาพยักหน้า มองเทวัญอย่างซาบซึ้ง แล้วเดินออกไปจากห้อง ขณะที่เดินออกไป รามโผล่พรวดเข้ามาดึงแขนไว้ แล้วเอากุญแจจิ้มที่เอว
“อย่าขยับ ไปกับผมเดี๋ยวนี้”
เมขลาคิดว่าถูกรามใช้ปืนจี้
“นี่นายคิดจะลักพาตัวลูกสะใภ้พ่อเลี้ยงหรือ”
“ผมไม่เอาคุณไปฆ่าให้เปลืองกระสุนหรอก พาผมไปหาแม่เดี๋ยวนี้ เดินไปดีๆ ถ้าทำให้ใครสงสัย ผมกล้ายิงคุณจริงๆตายเป็นตาย”
รามขู่ เมขลายังไม่ทันเดิน เสียงแสงดังมาจากข้างหลัง แสงไม่เห็นว่ารามแกล้งจี้เอวเมขลาอยู่
“ราม”
รามรีบปล่อยมือจากเมขลา ทำตัวปกติ
“ไปกับฉัน พ่อเลี้ยงเรียกประชุมด่วน”
รามรีบเดินตามแสงไป เมมองตามอย่างสงสัยอยากรู้
เมื่อรามกับเย็นเข้ามาในห้องทำงาน รวมกับลูกน้องคนอื่นๆ ปองธรรมสั่งงานทันที...
“ตั้งแต่ไอ้เสี่ยชิตมันซัดทอดฉัน ตำรวจมันก็ตามกลิ่นเราตลอดทำให้คนของเราทำงานยากขึ้น”
“ไอ้ตำรวจตัวแสบมันไม่มีแฟน ไม่มีญาติสนิทที่ไหนให้เราข่มขู่มันได้เลย นอกจากต้องเล่นงานที่ตัวมันอย่างเดียว” แสงรายงาน
“แกกับไอ้เย็นไปเล่นมันอย่าให้เหลือซาก”
ปองธรรมสั่ง รามห่วงภาคภูมิรีบเสนอตัว...
“ให้ผมไปแทนพี่แสงเถอะครับ ไอ้ผู้กองคนนี้มันทำให้ผมเกือบตายคราวก่อน ผมอยากเป็นคนฆ่ามันกับมือ”
แสงมองรามอย่างไม่พอใจ แต่จำต้องยอม
“ก็ได้ ฉันมอบหน้าที่นี้ให้แก”
แสงยิ่งแค้นราม ขณะที่ห้องข้างๆกันนั้น เมขลามาแอบฟัง แล้วช็อกเมื่อได้ยินว่ารามคิดจะฆ่าคน
เมื่อเดินออกมาที่หน้าตึก รามเดินจับแว่นดำปากพูดเบาๆ
“รามสูรเรียกเจ้าพสุธา เกิดเรื่องร้ายแรงระดับสุงสุด”
เย็นซึ่งเดินไปถึงรถก่อน หันมาตะโกนเรียก
“เร็วสิวะไอ้น้อง ชักช้าจริงวุ้ย”
รามรีบรายงานต่อ...
“ท่านต้องเตือนผู้กองให้ทันนะครับ ผมต้องรีบไปแล้ว”
รามตัดการติดต่อรีบเดินไปขึ้นรถ เย็นขับรถออกไปพ้นประตูรั้ว เมขลาที่ซุ่มอยู่ริมประตูรั้วรีบโผล่ออกมา โบกรถเรียกแท็กซี่ให้ตามไป
ทางด้านก้องภพ สั่งการยงยุทธเร่งรีบ
“หาทางติดต่อให้ผู้กองรู้ตัวตอนนี้เลยเร็วเข้า”
“ครับท่าน”
ยงยุทธโทรศัพท์หายงยุทธทันที
“ผู้กองภาคภูมิไม่รับสายครับท่าน”
“ติดต่อไปอีก” ก้องภพสั่งอย่างเครียดๆ
รามกับแสงไปถึงคอนโดของภาคภูมิ ทั้งสองคนตรงไปที่ลานจอดรถ โดยรามติดระเบิดแสวงเครื่องที่ใต้ท้องรถ เย็นยืนห่างออกมาคอยมองต้นทาง
ด้านหน้าคอนโด เมขลามาถึงพยายามมองหาราม
“หายไปไหนแล้วนะ”
เมเห็นรปภ.ที่ป้อมยาม
“หรือจะบอกรปภ.ให้แจ้งตำรวจ...ไม่ได้ ทำอย่างนั้นเขาก็ติดคุกคุณแม่รู้คงรับไม่ได้ ทำไงดีล่ะ”
เมขลาพยายามคิด ขณะเดียวกัน รามกับเย็นหลบมุมตึกรอภาคภูมิ เย็นชวนคุยไปด้วย“ไอ้รามเอ็งคิดเหมือนข้ามั้ย ว่าคู่นี้ตกลงปลงใจกันเร็วเกินคาด เพิ่งเห็นจีบกันไม่นาน เผลอแป๊บเดียวกลายเป็นผัวเมียกันซะแหละ เมียเอ็งนี่เสน่ห์แรงนี่หว่าจับลูกพ่อเลี้ยงอยู่มัด”
รามฉุนหลุดอารมณ์หึงใส่เย็น
“พี่พูดให้มันดีๆหน่อย เขายังไม่ได้เป็นผัวเมียกัน แค่คู่หมั้น”
“ทำไมต้องทำเป็นโมโหโทโสด้วยวะ อ๋อๆ อารมณ์แบบนี้เขาเรียกว่าหึง ฮ่าๆๆๆ”
รามหน้าบึ้ง แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นภาคภูมิเดินออกมา ขณะที่เย็นยังไม่เห็น ดึงแว่นดำจากรามไปใส่เอง
“แว่นเอ็งนี่ใส่แล้วหล่อดีนี่หว่า ขอข้ายืมใส่ไปโชว์สาวที่คาราโอเกะคืนนี้หน่อยละกัน”
รามรีบดึงแว่นจากตาเย็น
“นี่ไม่ใช่เวลาเล่นๆนะพี่”
รามมองไปทางภาคภูมิกำลังเดินตรงมาที่รถ รามมองที่กดระเบิดในมือเย็น ตัดสินใจดึงที่กดระเบิดมา แล้วหลอกเย็น
“ผมจัดการเอง พี่เย็นหมอบลง ระวังสะเก็ดระเบิดไว้ก่อน”
เย็นกลัวรีบหันหลังทำตาม เย็นอุดหูแล้วหมอบกับพื้นโดยไม่มองราม เมขลาเดินอยู่อีกมุมเห็นที่กดระเบิดในมือราม แล้วมองไปที่รถภาคภูมิ เธอเห็นภาคภูมิกำลังเดินมาที่รถ
เมตะโกนพร้อมกับที่รามกดระเบิด
“ระวัง ! ผู้กอง หลบไป”
ระเบิดที่รถดังสนั่น ไฟลุกท่วม ภาคภูมิไม่ได้ยินเสียงที่เมขลาตะโกนเตือน ภาคภูมิยังอยู่ในระยะห่างจากรถเพราะรามตั้งใจกดระเบิดก่อน ภาคภูมิหมอบกับพื้น ปลอดภัย
เมขลาหมอบอยู่กับพื้น ในสภาพอาการตกใจ ภาคภูมิเงยหน้าเห็นเมขลาคนเดียว
“เธอนี่เอง ยัยตัวร้าย”
เมขลาตกใจ
“ปะเปล่านะ ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันจะมาช่วยผู้กองต่างหาก”
“อย่าหนีนะ คราวนี้ฉันไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่”
เมขลาวิ่งหนี ภาคภูมิไล่ตามไป
เย็นเงยหน้าเห็นแต่ภาคภูมิวิ่งผ่านไปแค่คนเดียว ไม่เห็นเมขลา
“เฮ้ย มันยังไม่เละอีกหรือ ตายแน่พ่อเลี้ยงเอาข้าตายแน่”
“พี่กลับไปก่อน เรื่องนี้ผมรับผิดชอบเอง”
รามรีบวิ่งตามไปเพราะเป็นห่วงเมขลา เย็นจะตามแต่เห็นรปภ.วิ่งเข้ามา เย็นรีบชิ่งหนีไปอีกทาง
เมขลาวิ่งหนีขึ้นทางบันไดหนีไฟ แล้ววิ่งเข้าตัวคอนโดชั้นสอง ภาคภูมิไล่ตาม
“หยุด ฉันบอกให้หยุด เธอหนีไม่พ้นหรอก”
รามวิ่งมาเห็น รีบวิ่งเข้าคอนโดไปอีกทาง ได้ยินเสียงรถหวอของตำรวจมาถึงคอนโด รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที
เมขลาวิ่งหนีมาทางลิฟต์ รามซึ่งรู้ชั้นที่เมชลาอยู่ โผล่ออกมาพอดี
“คุณ !”
“ตามมานี่”
รามกระชากเมขลาตัวปลิว แต่พอวิ่งไป เจอตำรวจหลายนายวิ่งตรงมาด้านหน้าในระยะห่าง ทั้งคู่พากันชะงัก พอหันกลับไปก็เห็นภาคภูมิวิ่งมาในลักษณะปิดหัว ปิดท้ายไม่ให้หนีรอด
จังหวะที่ต้องเสร็จแน่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูห้องพักออกมาพอดี รามรีบผลักผู้หญิงให้พ้นประตู แล้วดึงเมขลาวิ่งเข้าห้องนั้น
“อ๊าย อะไรเนี่ย อะไร”
ผู้หญิงคนนั้นรีบวิ่งไปทางตำรวจ ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยค่ะ มีผู้บุกรุกห้องฉัน”
อ่านต่อหน้า 2
นางฟ้ามาเฟีย ตอนที่ 15 (ต่อ)
รามกับเมขลาหยุดอยู่ที่ระเบียงห้อง รามมองลงไปด้านล่างเห็นรถขนเฟอร์นิเจอร์จอดอยู่ เป็นฟูกที่นอนขนาดใหญ่
“โดด”
เมขลามองลงไป กลัวความสูง จะไม่ยอมโดด
“ไม่นะ ฉัน ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
เสียงภาคภูมิดังลอดเข้า
“พังเข้าไป”
ตามมาด้วยเสียงประตูโดนกระแทก รามรีบเร่ง
“เร็วสิ หรือจะให้ผมโยนลงไป 1 2”
“อย่านะ ฉันไปเอง”
เมขลารีบปีน รามช่วย
“โดด”
เมขลาหลับตาปี๋
“เจ้าพ่อเจ้าแม่ ช่วยลูกด้วยยยยย อ๊าย”
รามผลักเมขลาลงไป แล้วรีบกระโดดตาม ภาคภูมิกับตำรวจพังประตูเข้ามา ภาคภูมิวิ่งมาชะโงกดูที่หน้าต่าง
ท้ายรถ...เมขลายังนอนบิดเพราะเอวเคล็ด...
“อู๊ยยย กระดูกฉัน ฉันจะแขนหัก ขาหักหรือพิการหรือเปล่า ไอ้คนบ้า ให้ฉันกระโดดลงมาได้ยังไง”
“หุบปากเถอะน่าไม่ตายก็บุญแล้ว”
รามกระโดดลงจากท้ายรถอย่างรวดเร็ว ขึ้นไปที่คนขับเห็นกุญแจยังคาอยู่ รามสตาร์ทแล้วขับกระชากออกไปอย่างเร็ว
เมขลาหน้าคะมำ โวยวาย
“ว้ายยยย โอ๊ยยย เบาๆหน่อยสิ กระดูกกระเดี่ยวฉันจะหักเป็นท่อนๆอยู่แล้ว”
รามฉุนเมขลามากที่เกือบทำให้โดนตำรวจจับไปด้วย ชะโงกหน้าต่างรถออกมาตวาด...
“ถ้าอยากโดนจับเข้าซังเต ก็กระโดดลงไปเลย ผมก็รำคาญคุณเต็มทีแล้ว อยู่ใกล้ทีไรเป็นต้องหาเรื่องให้เกือบซวยไปด้วยทุกที”
เมขลาเกาะรถไว้แน่น
“ฉันตัวซวย คุณมันก็ไอ้มนุษย์ใจโหด คิดฆ่าคนได้ลงคอ”
“อ๋อ คุณก็เลยตามมาเพื่อช่วยไอ้ผู้กองนี่ โดยไม่นึกห่วงว่าผมจะโดนมันลากคอเข้าคุกหรือเปล่างั้นละสิ”
เมขลาโกหก
“ใช่ คุณโดนจับก็สมควรแล้ว จะได้ไม่ไปก่อเวรกับใครอีก”
รามโมโห หักพวงมาไปมา ทำให้เมขลากลิ้งอยู่บนฟูกร้องกรี๊ดๆๆ
“สมน้ำหน้า งานใหญ่ของผมเกือบต้องพังหมดเพราะคุณ”
รามใส่แว่นดำ แล้วรายงาน
“ท่านครับ ผู้กองภาคภูมิปลอดภัยแล้ว แต่กำลังจะมีปัญหาตามมา ท่านคงต้องออกแรงอีกครั้ง”
รามบอกให้ก้องรู้ว่าต้องมทำอย่างไรบ้าง...
ภาคภูมิไปที่ป.ป.ส เพื่อขอให้ออกหมายจับราม กับเมขลา แต่ก้องภพที่รู้เรื่องอยู่แล้วปฏิเสธ...
“ผมคงอนุมัติหมายจับให้คุณไม่ได้”
ภาคภูมิงง
“แต่สองคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัย ที่วางระเบิดรถผมนะครับท่าน”
“สองคนนี้เกี่ยวข้องกับคดีใหญ่คดีหนึ่ง ที่ทางเบื้องบนกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก ถ้าไปจับปลาซิวปลาสร้อยมา จะทำให้เสียปลาตัวใหญ่ไป”
“คดีใหญ่ที่ว่าคืออะไรครับ”
“มันไม่ใช่หน้าที่ที่คุณต้องรู้”
ก้องภพตบบ่าภาคภูมิก่อนเดินออกไป ภาคภูมิหน้าเครียดพูดไม่ออก
รามกลับไปหาปองธรรม ตีหน้าเศร้า ขณะที่เมขลามายืนข้างๆเทวัญ ดูสถานการณ์ด้วย...“ผมมาขอรับการลงโทษจากพ่อเลี้ยง เรื่องนี้ผมพลาดเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับพี่เย็น”
“แล้วไอ้เย็นมันหายหัวไปไหน” แสงถาม
“ผมไม่ทราบครับพี่”
ธิดารีบเข้าไปกอดแขนพ่อ
“คุณพ่อขา ยกโทษให้รามสักครั้งเถอะค่ะ รามเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้ระเบิดมันตูมตามขึ้นมาก่อนที่ไอ้ผู้กองจะมาถึงนี่คะ”
“แต่ก็ถือว่าทำงานพลาดนะครับพ่อเลี้ยง ผมว่าน่าจะไล่มันออก”
ธิดาหันขวับไปด่า...
“แกไม่เคยทำพลาดหรือไงหึไอ้แสง”
ปองธรรมตวาด
“หยุดได้แล้วธิดา พ่อจะตัดสินโทษมันเอง”
ปองธรรมเดินไปจ้องหน้าราม
รามยืนหลบหลังต้นไม้ มองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่แถวนี้ รามดึงแว่นมาใส่กดปุ่มที่ขาแว่น“รามสูรเรียกเจ้าพสุธา ตอบด้วย”
“ติดต่อมาก็ดีแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องผู้กองภาคภูมิ ฉันจัดการเคลียร์ให้เรียบร้อยแล้ว”
ขฯเดียวกัน เมขลาเดินย่องๆเข้ามาช้าๆ แต่ยังอยู่ในระยะที่ได้ยินเสียงรามแว่วๆ
“แต่ทางผมไม่เรียบร้อย ผมโดนพ่อเสือสั่งพักงานชั่วคราว คราวนี้คงจะเข้าถึงข้อมูลสำคัญยากขึ้น”
รามได้ยินเสียงคนเดินมา หันขวับไปเห็นเมขลา รามรีบดึงแว่นออกทันที
“คุณพูดอะไรอยู่คนเดียว ฉันได้ยินอะไรแว่วๆว่า พ่อเสือ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
รามหน้าบึ้งเดินเข้าหา เมขลาถอยหลัง
“เพราะคุณ ทำให้ผมถูกพักงาน คุณรู้มั้ยกว่าผมจะได้เป็นที่ไว้ใจของพ่อเลี้ยง มันยากแค่ไหน”
เมขลาคิดว่าตัวเองช่วยภาคภูมิไว้
“ก็แล้วทำไมคุณไม่บอกพ่อเลี้ยงไปล่ะว่า ฉันช่วยผู้กองไว้”
รามห่วงเมขลา แต่หาเหตุผลอื่นมาอ้าง
“เพราะผมต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้ขู่คุณไงล่ะ ถ้าคุณไม่พาคุณแม่มาหาผม ผมจะฟ้องพ่อเลี้ยงว่าคุณเป็นไส้ศึก”
“ฉันไม่รู้ว่าแม่คุณอยู่ไหน อยากจะทำอะไรก็เชิญ คนอย่างคุณมันเลวอยู่แล้วนี่ อยากฆ่าใครก็ฆ่า ทำไมไม่ฆ่าฉันอีกสักคนล่ะ”
เมขลาเชิดหน้าท้าทาย รามโมโห ไม่พอใจเธอทั้งเรื่องแม่และเรื่องทำให้งานใหญ่เสีย แต่พยายามควบคุมอารมณ์ เดินหนีไป
เมขลามองตาม แล้วยืนซึม เมื่อนึกถึงคำพูดราม...
‘…ให้ผมไปแทนพี่แสงเถอะครับ ไอ้ผู้กองคนนี้มันทำให้ผมเกือบตายคราวก่อน ผมอยากเป็นคนฆ่ามันกับมือ...’
เทวัญแตะบ่า เมขลาสะดุ้ง
“ยืนคิดอะไรอยู่”
เมขลาถอนใจ
“คนที่ทำงานองค์กรนี้ ต้องเลือดเย็น ไร้ความเป็นคนเหมือนกันหมดเลยหรือคะ ไม่มีโอกาสที่จะกลับตัวได้จริงๆหรือ”
“คุณหมายถึงรามหรือ”
“ฉันไม่ได้ห่วงเขาหรอกนะคะ เพราะฉันสงสารคุณแม่”
“คุณจะห่วงเขาก็ไม่เป็นอะไรนะครับ ผมไม่มีสิทธิ์ไปห้าม”
เทวัญน้อยใจ เมขลาจับมือเขาไว้...
“วันนี้ฉันตาสว่างแล้วค่ะ ว่าใครคือคนที่ฉันควรห่วง”
เทวัญดึงเมขลาเข้ามากอด รามที่เดินย้อนกลับมาเห็นพอดี เขาหยุดชะงัก หัวใจเจ็บหนึบ
เช้าวันใหม่...เมขลาเปิดประตูห้องนอนพุ่งออกมาอย่างเร็ว คุยมือถือไปด้วย
“หนูจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะน้ามุน”
เมขลารีบวิ่ง จะไปบอกเทวัญให้พาไปบ้านเด็กกำพร้า เมื่อไปถึงห้องทำงานของเขา เธอผลักประตูเข้าไปทันที
“คุณเทวัญคะ”
เทวัญนั่งคุยงานอยู่กับปองธรรมหันมามอง ปองธรรมมองเมขลาอย่างไม่ชอบ ตวาดใส่
“ไม่มีมือเคาะประตูก่อนหรือยังไง ทำเหมือนไม่มีพ่อแม่อบรมสั่งสอน...หัดอบรมเมียแกบ้างสิ”
เมขลาโกรธ เทวัญมองหน้าเธอย่างเห็นใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณเทวัญ ฉันเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่คอยอบรม เหมือนอย่างที่คุณพ่อคุณพูดจริงๆ ขอโทษนะคะ”
เมขลาปิดประตูตัดสินใจไม่บอกเทวัญแล้ว เทวัญจะลุกตามไปเพราะคิดว่าเธอต้องมีอะไร
“นั่งลง ฉันยังคุยงานกับแกไม่จบ”
เทวัญกลัวพ่อเลยจำยอมนั่งลง
รามนั่งครุ่นคิดว่าจะหาทางไปตามหาทรงวาด ขณะที่ธิดายืนชงกาแฟอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปกอดด้านหลัง ธิดายิ้มหวาน
“มาเอาใจฉันอย่างนี้ อยากจะอ้อนขออะไรล่ะ”
“ผมอยากกอดคุณไม่ได้หรือ”
ธิดาหันมาโอบคอราม
“มากกว่ากอดก็ได้”
รามแกล้งทำหน้าเศร้า
“ผมก็อยากทำยิ่งกว่านั้น แต่พอรู้ว่าแม่ผมไม่สบาย ผมก็หมดกระจิตกระใจอยากจะทำอะไร”
“ป่วยอีกแล้วหรือ ทำไมไม่รู้จักหายสักที”
“ก็โรคเก่ากำเริบ ผมก็เลยอยากจะขอคุณออกไปเยี่ยมแม่”
“ฉันไปด้วย เราจะแต่งงานกันแล้ว ฉันก็ควรไปทำความรู้จักกับแม่สามีเอาไว้”
“เออ รอวันอื่นดีกว่าดีมั้ย คือ ผมไม่อยากให้คุณเห็นสภาพความเป็นอยู่ของบ้านผม ทางเดินก็เป็นสะพานไม้ผุๆ ต้องเดินผ่านน้ำเน่า ได้กลิ่นทีแทบอ้วก”
ธิดาหน้าแหยเพราะความรังเกียจ
“ขนาดนั้นเลยหรือ เออ งั้นนายก็ไปเองเถอะ ไว้แม่นายหายดีแล้ว ค่อยนัดเขาออกมากินข้าวก็แล้วกัน”
รามยิ้ม
“ได้จ๊ะ งั้นผมไปนะที่รัก”
รามกลั้นใจหอมแก้มธิดาเพื่อเอาใจ ธิดาหอมตอบ
รามขับรถออกมาเกือบถึงประตูรั้ว เห็นเมขลาโบกรถแท็กซี่ แล้วรีบร้อนขึ้นไป เขาสงสัยว่าเธออาจออกไปหาแม่ จึงตัดสินใจขับตาม โดยไม่เห็นว่าลูกน้องแสงสองคนชะลอมอเตอร์ไซด์อยู่ข้างรั้ว รอที่จะเลี้ยวเข้าบ้าน
เมื่อลูกน้องเข้าไปในบ้าน แสงที่รออยู่ถามทันที...
“ว่าไง เจอตัวไอ้เย็นหรือยัง”
“ทั้งที่คาเฟ่ ที่คาราโอเกะ ที่ๆพี่เย็นชอบไป ไม่เห็นแม้แต่เงา ถามใครก็ไม่มีใครเห็นครับพี่”
“มันหายหัวไปไหนวะ แล้วไอ้รามล่ะ ไปเรียกมันมาให้ที”
“มันไม่อยู่หรอกพี่ ผมเห็นมันขับรถตามเออ....”ลูกน้องไม่กล้าพูด
แสงตวาด
“ตามใคร”
ลูกน้องพูดเบาๆ
“คู่หมั้นคุณเทวัญ ผมก็เลยให้ไอ้ยิ้มมันตามไป เผื่อมีอะไรช่วยพี่เล่นงานไอ้รามได้”
แสงยิ้ม ควักเงินใส่มือให้ลูกน้องเป็นรางวัล
เย็นเดินไปทางร้านโรส พลางบ่นพึมพำ
“ขืนกลับไปหาพ่อเลี้ยงตอนนี้ ถ้าไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต แล้วข้าจะไปหลบภัยที่ไหนดีวะเนี่ย”
ทันใด เสียงโรสโวยวายดังขึ้น...
“อย่านะ อย่าทำอะไรแม่ฉัน”
เย็นชะงักมองไป เห็นหัวหน้านักเลง พยายามจะกระชากชุลีไป เป็นนักเลงกลุ่มใหม่คนละกลุ่มกับที่เคยมาทวงหนี้โรส เย็นเห็นนักเลงหลายคนเลยหลบหลังเสาไฟฟ้าดูสถานการณ์ก่อนอย่างกลัวๆ
“ถ้าแกอยากได้แม่คืนก็เอาเงินที่แม่แกกู้ไป มาใช้คืนให้ครบห้าหมื่นห้า ห้ามขาดแม้แต่สลึงเดียว” นักเลงตวาดโรส
“ห้าหมื่นห้าหรือ งั้นแกเอาแม่ฉันไปได้เลย”
ชุลีโวยลั่น...
“นังลูกอตัญญู นี่แม่แกนะ ใจคอจะปล่อยให้แม่ตายหรือไง”
“ก็หนูจะไปหาที่ไหนตั้งห้าหมื่นห้า อุ้ยเดี๋ยวก่อนนึกออกแล้ว แกปล่อยแม่ฉันไปก่อน แล้วฉันจะพาแกไปเอาเงิน”
หัวหน้านักเลงหยุดคิดว่าจะเชื่อดีไม่เชื่อดี
แสงไปรายงานให้ธิดารู้ว่ารามตามเมขลาออกไป ธิดาตกใจทำถ้วยกาแฟตกแตก
“มันสองคนแอบนัดไปเจอกันหรือ แกรู้หรือเปล่าว่าที่ไหน”
เสียงมือถือแสงเข้ามาพอดี
“ไอ้ยิ้มคงส่งข่าวมา”
ธิดาคว้ามือถือมาคุยเอง
“มันสองคนอยู่ที่ไหน รีบบอกมาสิ มัวเอ้ออ้าอยู่ได้ เดี๋ยวแม่ตบขี้หูร่วง” ธิดาฟังลูกน้องบอก “แกโทรเข้ามาที่มือถือฉัน คอยบอกทางฉันเป็นระยะ ถ้าแกปล่อยให้มันหลุดไปได้ แกตาย”
ธิดาปามือถือใส่โซฟา เข้าไปคว้าปืนจากเอวแสง
“ฉันจะส่งมันลงนรกทั้งคู่”
เทวัญเข้ามาพอดี เห็นธิดาถือปืนดูโมโหเกรี้ยวกราดมากเลย รีบดึงไว้
“ยัยน้อง จะไปไหน”
“นังเมียตัวดีของพี่เทพ มันนัดรามออกไปด้วยกัน มันกำลังจะสวมเขาให้พี่ พี่จะนั่งโง่ทำเป็นไม่ร้อนรู้หนาวก็ตามใจ”
“ตั้งสติก่อน เอาปืนมาให้พี่”
“ไม่ วันนี้มันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”
ธิดาผลักเทวัญเซ แล้ววิ่งหนีออกไป เทวัญรีบตาม
ที่บ้านเด็กกำพร้า...ทรงวาดซึ่งยังป่วยอยู่ นอนซมอยู่ในห้องนอน ละมุนป้อนยาให้...
“หนูเมรู้แล้วว่าคุณไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวก็คงมาถึงค่ะ”
“ฉันก็แค่รู้สึกเหนื่อยๆไม่มีแรง ไม่เห็นต้องโทรไปรบกวนหนูเมเลย”
“คุณเองก็อยากรู้ข่าวคราว ของคุณรามด้วยไม่ใช่หรือคะ”
ทรงวาดซึมลงเมื่อพูดถึงราม
“เขาไม่เคยคิดว่าฉันเป็นแม่หรอก ถึงฉันจะหายไปหรือโดนคนฆ่าตาย เขาก็คงไม่รู้สึกเสียใจหรือเดือดร้อนอะไร”
ขณะเดียวกัน เด็กกำพร้าวิ่งเข้ามาหาละมุน
“คุณแม่ละมุนคะ มีคนมาหาคุณป้าค่ะ”
ละมุนประคองทรงวาดออกมา เห็นโรสยืนรออยู่
“นึกว่าใครมาหา เพื่อนหนูเมนี่เอง”
โรสรีบเข้าไปคุกเข่า กอดขาทรงวาดแกล้งบีบน้ำหูน้ำตาร้องไห้
“คุณนายต้องช่วยหนูนะคะ ถือเป็นการตอบแทนที่หนูเคยให้คุณนายมาพักพิงอยู่ที่บ้าน” ทรงวาดรีบประคองให้ยืน
“ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ หนูอยากให้ฉันช่วยอะไร”
“คือว่า....”
หัวหน้านักเลงกับลูกน้อง ผลักประตูปังเข้ามาแรงๆ
“นี่นะหรือแม่บุญธรรมของแก ได้เจอกันแล้วก็ให้มันจ่ายเงินมา อย่ามัวแต่พูดพล่ามมันเสียเวลา”
“เงินอะไร ทำไมฉันจะต้องให้คุณด้วย” ทรงวาดงง
หัวหน้าโมโหเลือดขึ้นหน้า
“แกว่าไงนะ พูดอย่างนี้แสดงว่ายังไม่เคยตายใช่มั้ย”
หัวหน้าตะคอกใส่ โรส ทรงวาด ละมุนถอยกรูด้วยความหวาดกลัว ขณะเดียวกันนั้น เมขลานั่งพะวงอยู่ในรถแท็กซี่ กลัวว่าทรงวาดจะเป็นอะไรมาก
“พี่คะ ช่วยขับเร็วหน่อยได้มั้ย เร็วอีกนิดนะคะ ขอบคุณค่ะ”
แท็กซี่วิ่งเร็วขึ้น แซงซ้าย แซงขวา รามรีบขับตามกลัวรถแท็กซี่รอดสายตา ด้านหลังรถรามมีมอเตอร์ไซด์ของลูกน้องแสงขับตามมาด้วย
ทรงวาดกับโรสถูกลากออกมาข้างนอก ทรงวาดพยายามแกะมือลูกน้องที่จับไว้
“ฉันจะไปเบิกเงินให้พวกคุณ แต่ตอนนี้ฉันยังไปไม่ได้ ฉันต้องรอเจอกับลูกสาวฉันก่อน”
ลูกน้องกระชากทรงวาดไม่ให้ดิ้น
“ไม่ได้ ฉันต้องการเงินเดี๋ยวนี้ เดินไปดีๆ หรือต้องให้ลงไม้ลงมือ”
“ฉันไม่ไป ปล่อย”
ทรงวาดหน้ามืด โรสเห็น
“แกอย่าไปทำอะไรเขานะ เขากำลังไม่สบาย คุณนายๆๆ”
ทรงวาดเป็นลมคอพับ
“เฮ้ย ห้ามเป็นอะไรไปนะโว้ย แล้วใครจะเบิกเงินให้ฉันเล่า”
“ฉันจะพาเขาไปหาหมอ ถ้าเขาฟื้นแล้วฉันจะเอาเงินให้พวกแก”
“ไม่ได้ เอาตัวนังคุณนายนี่ไป รอมันจนกว่าจะฟื้น”
หัวหน้าสั่งลูกน้อง ทันใดเสียงเย็นตะโกนลั่น...
“อย่านะโว้ย ใครก็ห้ามพาผู้หญิงของข้าไป ไม่งั้นตายยย”
เย็นวิ่งเข้าใส่พร้อมไม้ท่อนใหญ่ในมือ กะตั้งใจจะตีใส่หัวหน้านักเลง โรสดีใจที่มีคนมาช่วย
“ไอ้หน้าส้วม ช่วยฉันที”
เย็นวิ่งไปเร็วมากแต่เกิดสะดุด หน้าทิ่ม
“เฮ้ออออ”
เย็นถลาเปลี่ยนทิศทางพุ่งเข้าใส่โรสแทน ไม้ในมือเย็นตีไปบนหัวโรสพอดิบพอดี แทนที่จะเป็นหัวของนักเลง โรสร้องกรี๊ดก่อนสลบเหมือดคอพับไป
เมขลามาถึงบ้านเด็กกำพร้า เมื่อเข้าไปในห้องนอน ก็ไม่พบทรงวาดแล้ว เธอพยายามโทรหาละมุน
“ทำไมน้ามุนไม่ยอมรับสายนะ แล้วคุณแม่ไปไหนเนี่ย”
ทันใดเสียงละมุนดังขึ้น
“ช่วยด้วยๆ”
“น้ามุน”
เมขลารีบวิ่งไปตามเสียง กระทั่งถึงห้องเก็บของ เมื่อผลักประตูเข้าไป พบว่าละมุนโดนมัดมือไพล่หลังนั่งกองอยู่ที่มุมห้อง เมรีบเข้าไปแก้เชือกจนหลุด
“น้ามุนทำไมถึงเป็นอย่างนี้ละคะ”
“หนูเม รีบไปช่วยคุณทรงวาดเร็วเข้า ยังไม่ต้องสนใจน้า ยัยโรสพาใครมาก็ไม่รู้ เป็นพวกนักเลงดูน่ากลัวมาก พวกมันพาคุณทรงวาดไปที่ด้านหลังอาคาร ไม่รู้มันจะทำอะไร”
เมขลาตกใจมาก รีบวิ่งไปด้านหลังอาคาร รามโผล่มาขวางหน้าพอดี
“แม่ผมอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
“หลีกไป ฉันยังไม่มีเวลาคุยกับคุณ”
เมขลาผลักราม
“คิดจะรีบพาแม่ผมหนีอีกหรือ”
รามจะตาม เด็กนับสิบกรูเข้ามายืนขวางหน้ารามเป็นกำแพงไม่ให้ผ่านไป ทุกคนกอดอกจ้องรามตาไม่กะพริบ
รามชะงัก
“หนูๆ ช่วยหลีกทางให้น้าหน่อยนะจ๊ะ”
“เราไม่หลีก”
รามคิดออกหยิบเงินออกมา
“งั้นน้าจะให้ตังค์ไปซื้อขนมดีมั้ย ให้คนละร้อยเลย รับไปซิจ๊ะ”
เด็กมองเงินแล้วมองหน้ากันเพราะอยากได้
ธิดาพุ่งรถเข้ามาจอดด้านหน้ารั้ว โดยมีรถเทวัญวิ่งตามเข้ามาจอดอีกคัน ธิดาลงจากรถเห็นรถรามจอดอยู่ เธอโวยลั่น...
“เห็นมั้ย ผู้หญิงก็ร้ายผู้ชายก็เลว มันแอบนัดมาเจอกันจริงๆ”
ธิดาจะวิ่งเข้าไปในบ้านเด็กกำพร้า เทวัญเข้ามาจับแขนไว้
“ใจเย็นสิยัยน้อง มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่น้องคิดก็ได้ นี่มันไม่ใช่โรงแรม เขาจะแอบมาทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง”
“พี่เทพไม่ต้องมาเข้าข้างมัน แฟนตัวเองกำลังกกกับผู้ชายอื่นยังใจเย็นอยู่ได้ น้องไม่อยากโง่เหมือนพี่เทพหรอก”
ธิดากระชากหลุดจากเทวัญ รีบวิ่งเข้าไป เทวัญรีบกดมือถือหาเมขลาแต่ไม่ติดเพราะมือถือเธอติดๆดับๆเพราะแบตฯไม่ดี
เมขลาวิ่งเข้ามาทางด้านหลังทางออกบ้านเด็กกำพร้า แต่ไม่เห็นใครแล้ว ทันใดเธอโดนกระชากแขนให้หันหลัง เจอรามเต็มๆ
“บอกมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น เกี่ยวกับแม่ผมใช่มั้ย แม่ผมไปไหน ถ้าเขาเกิดเป็นอะไรไป ผมเอาคุณถึงตายแน่”
รามบีบแขนเมจนเจ็บท่าทางเอาจริง เมขลาลังเลจะบอกดีไม่บอกดี
“ปล่อยฉันนะ ถึงคุณจะเอาชีวิตฉัน ฉันก็พาแม่คุณออกมาไม่ได้ เพราะฉันไม่รู้”
“ต้องการค่าไถ่เท่าไหร่บอกมาเลย เงิน หุ้นในบริษัท บ้าน ถ้ากระหายอยากได้นัก ผมจะประเคนให้”
“น่าขำ กากมนุษย์อย่างคุณนะหรือ จะยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อแม่ ก็ไม่ใช่เพราะคุณหรือที่คอยทำร้ายจิตใจท่านสารพัด ที่พยายามตามหาคุณแม่เนี่ย คงกลัวไม่มีคนโอนมรดกให้ล่ะสิ”
“ใช่ แล้วเธอล่ะคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าหรือ ยอมถึงขนาดมีผัวถึงสองคนก็เพื่อเงินเหมือนกัน”
เมขลาตบฉาดที่หน้ารามเต็ม รามโกรธจัดลืมตัวปล้ำจูบ ธิดากับเทวัญวิ่งมาเห็นพอดี ธิดาแทบบ้า
“นังเม ฉันเตือนแกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับแฟนฉัน แกกับฉันคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกแล้ว”
ธิดาพุ่งเข้าหาเมขลาชักปืนจะยิง แต่รามเข้าไปหักข้อมือธิดาแย่งปืนไปได้ ธิดายิ่งโกรธ
“นี่นายปกป้องมันหรือ”
“ผมห่วงคุณจะติดคุกต่างหาก คุณกำลังเข้าใจผิด”
ธิดาไม่ยอมจะไปตบเมขลาให้ได้
“ยืนกอดกันกลมอย่างนี้นะหรือที่เรียกว่าเข้าใจผิด ถ้าฉันมาไม่ทันคงพากันขึ้นสวรรค์ถึงชั้นไหนแล้วก็ไม่รู้”
เมขลาก้มลงหยิบไม้ที่เย็นทิ้งไว้ เงื้อสู้
“ปล่อยเขา ถ้าตบมา ฉันก็ฟาดกลับ ดูสิว่าใครมันจะแรงกว่า”
ธิดาโกรธจัดไม่กล้าลุยด้วย
“แก แกกล้าทำฉันหรือ ฉันจะฟ้องคุณพ่อ โอ๊ยยย”
ธิดาจับหน้าผาก เพราะถูกหินเขวี้ยงใส่ มองไปเจอเด็กๆเป็นสิบ
“อย่ามาทำพี่เมของเรานะ ออกไป”
“ออกไป ๆๆๆๆๆ”
เด็กปาก้อนกรวดเล็กๆระดมใส่ ธิดากระโดดหลบปัดป้องพัลวัน
“ว้าย ไอ้เด็กบ้า แกอยากตายหรือไง รามๆช่วยด้วยไล่มันไปสิ”
ธิดาวิ่งไปหลบหลังราม เมขลาห้ามเด็ก
“เด็กๆ อย่าทำนิสัยไม่ดีอย่างนี้สิ ทำร้ายคนอื่นมันไม่ดีนะ พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว เรากลับไปหาน้ามุนกันดีกว่า”
เมขลาเข้าไปจูงเด็ก เด็กเชื่อฟังตามไป เทวัญหันไปสั่งราม
“นายพายัยน้องกลับไปก่อน ฉันจะอยู่รอคุณเม”
เทวัญเดินไปทางเดียวกับเมขลา ธิดาหันขวับมาบอกธิดา
“ไปอธิบายกับคุณพ่อเองแล้วกัน”
โปรดติดตามอ่านต่อตอนที่ 16