กุหลาบซาตาน ตอนที่ 21
ชัชกลับเข้าบ้านพร้อมกระเป๋าถือของโรส พอเข้ามาในห้องชัชเทกระเป๋าถือของโรสดูจึงพบกระเป๋าเงิน ตลับแป้ง น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ โทรศัพท์มือถือ และซองยา ชัชหยิบขึ้นมาดูแล้วนึกถึงตอนที่กินชาที่โรสเอามาให้แล้วหลับสนิทไม่รู้เรื่อง ชัชถอนใจอย่างเศร้าๆ แล้วล้วงเข้าไปด้านในกระเป๋า มีถุงมือติดออกมา ชัชมองถุงมือแล้วนิ่งคิด
ชัชเอาปืนในลิ้นชักออกมาตรวจดู แล้วเห็นเขม่าที่ปากกระบอก ชัชใช้น้ำยาเช็ดปืนทำความสะอาดเขม่า ใช้ผ้าเช็ดรอยนิ้วมือออกจากด้ามปืนแล้วเอาปืนเก็บใส่กล่อง เอากล่องปืนใส่ตู้มิดชิด ชัชนั่งลงที่เตียง คิดถึงโรส
“โรส คุณเคยมองเห็นบ้างไหม ว่าจุดจบของตัวเองจะเป็นยังไง”
วันต่อมาโชคนั่งรอลูกน้องอยู่ที่บ้านจนกระทั่ง ลูกน้องเดินเข้ามาหาพร้อมถุงใส่โทรศัพท์มือถือของวีณา
“เรียบร้อยแล้วครับ นาย”
โชคเอามือถือออกมา ยิ้มชอบใจ กำลังจะกดดูพอดีสาวใช้เดินนำพีชญากับภูษณะเข้ามา
“นายคะ มีแขกมาหาคุณชินค่ะ”
พีชญากับภูษณะมองโชคด้วยท่าทีเกรงๆ เพราะรู้เบื้องหลังว่าโชคเป็นยังไง
“สวัสดีค่ะ/ครับ”
ทั้งคู่ยกมือไหว้โชค โชควางโทรศัพท์ รับไหว้พีชญากับภูษณะอย่างยิ้มแย้ม
“อ้าว หวัดดีๆ นี่มายังไงกันแต่เช้า”
“เรามาหาชินน่ะค่ะ”
“เชิญนั่งก่อนเชิญนั่ง ...ไปตามคุณชินซิ” โชคสั่งสาวใช้ สาวใช้รีบออกไป พีชญากับภูษณะเดิน
ไปนั่งตัวลีบ “กินอะไรมาหรือยัง อ้าว ใครเอาน้ำท่ามารับแขกหน่อย” โชคตะโกนสั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ เรียบร้อยมาแล้ว” พีชญาบอก
“กินแล้วกินอีกก็ได้...เอ ชินนี่ยังไง นัดเพื่อนไว้ป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก”
“ไม่ได้นัดหรอกครับ เราพยายามโทรหาชินตั้งแต่เมื่อคืน แต่ติดต่อไม่ได้ เลยแวะมาหาที่บ้าน”
โชคเอะใจนิดนึง พอดีกับสาวใช้วิ่งลงมา หน้าตาตื่นๆ
“นายคะ”
“ว่าไง คุณชินล่ะ”
“คุณชินไม่อยู่ที่ห้องค่ะ”
“ไปไหนแต่เช้า”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ห้องไม่ได้เปิดแอร์ ที่นอนก็เรียบ ไม่มีรอยนอนเลย...หนูว่าเมื่อคืนคุณชินไม่ได้กลับบ้านค่ะ”
ชัชเดินลงมาพอดี ได้ยินถึงกับชะงัก
โชคกดโทรศัพท์ของตัวเองหาชินภัทร หน้าตาเริ่มกังวลๆ
“ยังไง พี่โชค” ชัชถาม
“ปิดเครื่อง”
“ปิดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ฝากข้อความไว้ ก็ไม่ได้เปิดอ่าน”
ภูษณะบอกพร้อมกับที่ลูกน้องของโชควิ่งเข้ามา
“รถคุณชินไม่อยู่ที่โรงรถครับ ยามตรวจดูโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว เมื่อคืนคุณชินไม่ได้กลับเข้ามาแน่ๆ”
พีชญากับภูษณะมองหน้ากัน รู้สึกว่าชักไม่ค่อยดี
“ชินไม่กลับมานอนบ้าน เป็นไปได้ไหมคะ ว่าเค้าอาจจะไปค้างที่โรงแรม”
“ไม่ใช่นิสัยของเค้า...ชินไม่ชอบนอนนอกบ้าน แล้วก็ไม่เคยปิดโทรศัพท์ด้วย”
โชคเริ่มกังวล พูดเบาๆ กับชัช
“ฉันว่า กลิ่นมักชักไม่ค่อยดีว่ะ ชัช...เมื่อวานฉันเพิ่งพูดขู่ไอ้กงพัดไป หรือว่ามันมาทำอะไรลูกชั้นวะ”
ชัชเหมือนนึกอะไรได้
“เดี๋ยวผมมา พี่โชค”
ชัชผลุนผลันออกไป
ชัชมาหาโรสที่เซฟเฮ้าส์อย่างร้อนใจ พอเปิดประตูเข้ามาชัชก็ต้องชะงักเมื่อไม่เห็นโรสในห้อง
“โรส...โรส” ชัชวิ่งดูไปรอบๆ ก่อนจะไปเจอโรสนั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่ง “โรส...” ชัชโล่งใจ “คุณอยู่นี่เอง”
“ฉันจะไปไหนได้ล่ะคะ...ท่าทางคุณรีบร้อน มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ก็ พอดีชินหายตัวไปจากบ้าน ผมเลยนึกว่า...”
ชัชชะงักหยุดพูด โรสที่ซึมอยู่ได้ยินเรื่องของชินภัทร ตาสว่างวาบ พูดสวนขึ้นทันที
“ชินหายตัวไป โดนลักพาตัวเหรอคะ”
“ไม่รู้ ผมไม่แน่ใจ”
“แต่คุณสงสัยฉัน”
“ผมรู้ ว่าผมล็อกประตูขังคุณเอาไว้ ก็แค่อยากมาดูให้แน่ใจ”
“คุณมาก็ดีแล้ว ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ...ฉันจะไปจากที่นี่” ชัชยิ้มอย่างดีใจเมื่อได้ยินคำตอบนี้
“หมายความว่า คุณรับข้อเสนอของผม เลิกแก้แค้น กลับไปใช้ชีวิตสงบที่สวิส”
“ค่ะ...เราไปกันเลยไหมคะ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ ยิ่งเร็วยิ่งดี”
ชัชดีใจ เดินนำโรสออกไปจึงไม่เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของโรส
ส่วนที่บ้านโชค โชคใช้โทรศัพท์ที่บ้านโทรจัดการเรื่องชินภัทร รอบตัวมีลูกน้องช่วยกันโทรหาที่โน่นที่นี่วุ่นวาย พีชญากับภูษณะนั่งจ๋อยอยู่ในห้อง ดูโชคด่าตำรวจเสียงลั่นบ้าน
“ทำไม ทำไมจะต้องรอ 48 ชั่วโมงถึงจะแจ้งความได้ 48 ชั่วโมงน่ะ ถ้าตายก็ขึ้นอืดแล้วโว้ย ตำรวจคิดอย่างงี้ไง โจรมันถึงได้เต็มบ้านเต็มเมือง...เออ ผมนี่แหละ โจร จะทำไม...”
มือชัชคว้าโทรศัพท์ออกจากมือโชค แล้ววางลงบนแป้น ส่ายหน้าเป็นเชิงปราม
“ไม่ได้เรื่องเลยเหรอพี่โชค”
“ยัง โทรไปตามโรงพยาบาลก็แล้ว สถานีตำรวจก็แล้ว ไม่ได้เรื่องเลย” โชคมองเลยไปเห็นโรสยืนแอบอยู่หลังชัช มองอย่างหาเรื่อง “เธอเพิ่งมาจากข้างนอก...” โชคมองโรสอย่างจับผิด “เมื่อคืนไม่ได้อยู่บ้านเหรอ ออกไปทำอะไรที่ไหนมา”
โรสไม่ตอบ หันมองหน้าชัช ชัชเข้ามาช่วยปกป้อง
“โรสไม่เกี่ยวน่ะ พี่โชค... คุณไปเก็บของเถอะ” ชัชบอกโรส โรสออกไป ชัชหันไปสั่งลูกน้อง “ให้คนของเราออกตระเวนหารถของคุณชิน เริ่มจากตรงนั้นอาจจะง่ายหน่อย”
“จะให้เริ่มหาที่ไหนก่อนครับ นาย”
“มันขึ้นอยู่กับว่า ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นชิน ชินมันอยู่ที่ไหน”
ชัชกับโชคหันไปมองพีชญากับภูษณะ ทั้งสองหน้าจืด
“เธอสองคนเป็นคนสุดท้ายที่เจอชิน ใช่ไหม” ชัชถาม
“ค...ครับ”
“ที่ไหน”
“ท...ที่บ้านไป๋ค่ะ”
โชคชะงัก ชัชขยับจะถามต่อ แต่โชคยกมือห้าม แล้วหันมองหน้าพีชญากับภูษณะ ส่งสายตาบังคับ
“ไป๋ ลูกสาวไอ้ปฐวีใช่ไหม...” พีชญากับภูษณะพยักหน้า “บ้านอยู่ที่ไหน”
พอรู้ว่าบ้านไปรมาอยู่ที่ไหน โชคจึงพาลูกน้องไปบ้านปฐวีทันที ขณะนั้นนงพงากำลังนั่งคุยอยู่กับสารวัตรยุทธนา
“เท่ากับว่าตอนนี้ ดิฉันนำศพท่านปฐวีออกมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้ว”
“ครับ”
“ท่านคงตายตาไม่หลับ ถ้าฆาตกรที่ฆ่าท่าน ยังลอยนวลอยู่อย่างนี้”
“ทางตำรวจก็ติดตามเรื่องนี้อยู่อย่างเต็มที่ครับ...แต่ตำรวจก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่ผู้วิเศษ ถ้าหากไม่มีใครยอมเปิดเผยข้อมูล การติดตามตัวคนร้ายก็คงทำได้ยาก”
“สารวัตรคิดว่าฉันปิดบังข้อมูลเหรอคะ”
“ผมคิดว่าคุณนงพงา มีหลายเรื่องที่ไม่ได้เล่าให้ผมฟัง...ในจำนวนหลายๆ เรื่องนั้น มันอาจจะมีซักเรื่อง ที่ช่วยให้ผมจับคนร้ายได้ก็ได้นะครับ”
นงพงาอึกอัก ไปรมาเดินหน้าตาตื่นเข้ามา
“คุณแม่ขา...มีแขกมาค่ะ” ไปรมาบอกแล้วหลบหลังนงพงา นงพงาดีใจที่ได้เปลี่ยนเรื่อง
“ใครจ๊ะ” นงพงาหันไปแล้วชะงัก เมื่อเห็นโชคเดินเข้ามา มีลูกน้องติดตามมาด้วย โชคสีหน้าขรึม สง่า แผ่อำนาจน่าเกรงขามมาก นงพงาอดกลัวไม่ได้ “คุณโชค คุณมาที่นี่ทำไม”
โชคมองนงพงา แล้วพูดอย่างวางอำนาจ
“ไม่ต้องตกใจ ฉันมาดี...ส่วนคุณ สารวัตร” โชคผายมือไปทางประตู “เชิญ”
สารวัตรยุทธนามองนงพงาเป็นเชิงถาม นงพงาพยักหน้า สารวัตรยุทธนาออกไป
โชคถามไปรมาเรื่องชินภัทร ไปรมาตอบโชค สั่นๆ ด้วยความกลัว
“ชินมาที่นี่จริงๆ ค่ะ เราสี่คนนัดทานข้าวกัน แต่เผอิญหนูไม่ว่าง หนูเลยให้ชินกลับไป”
“เธอเห็นเค้าออกจากบ้านไป” ไปรมาพยักหน้า “แล้วไม่รู้เลยเหรอ ว่าเค้าไปไหน เธอต้องรู้อะไรบ้างซี”
“คุณโชคคะ ลูกสาวดิฉันบอกไปแล้วไงคะ ว่าเราไม่รู้ ว่าชินภัทรไปไหน” นงพงาบอกเสียงเข้ม
โชคมองนงพงา สีหน้าขรึม เอาจริงเอาจัง
“นี่ คุณ ลองพยายามคิดกันหน่อยได้ไหม...ลูกชายผมหายไปทั้งคน เค้าอาจจะโดนใครทำร้าย หรือเป็นอะไรไปก็ได้...มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ”
“ฉันไม่เคยเห็นชีวิตใครเป็นเรื่องเล่นๆ อยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะชีวิตของใครก็มีค่าทั้งนั้น สำหรับครอบครัวและคนที่รักเค้า...แต่ฉันไม่ทราบจริงๆ ว่าลูกชายของคุณไปไหน”
โชคมีสีหน้าละอายใจแว่บหนึ่ง แล้วยักไหล่
“โอเค ขอบใจ”
โชคเดินกลับออกไปอย่างยะโส ลูกน้องตามไป นงพงาแทบทรุด ไปรมาเข้ามากอดนงพงา หน้าตาเป็นกังวล
“คุณแม่ขา ไป๋เป็นห่วงชินจังเลย...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
ขณะนั้นชินภัทรถูกขังอยู่ในห้องมืดภายในบ้านเช่าของกงพัด ภายในห้องมืดสนิท ชินภัทรใช้มือสองข้างแตะไปตามผนัง สำรวจห้อง เพื่อหาทางออกไป แต่เนื่องจากในห้องมืดจนมองไม่เห็นอะไร ชินภัทรเลยเดินไปสะดุดของที่กองไว้ จนตัวเซล้มลงไปกองกับพื้น เสียงดังโครมคราม เสียงประตูเปิด แสงสว่างแว่บเข้ามาแล้วหายไป
กงพัดและวีณามองชินภัทรผ่านแว่นที่ใช้มองในความมืดจึงเห็นชินภัทรตะเกียกตะกายจะลุก แต่แล้วก็ชนอะไรล้มลงอีก
“ฉันว่าเธออยู่เฉยๆ จะดีกว่า”
กงพัดบอกชินภัทรหันขวับ ตามเสียง
“กงพัด” ชินภัทรโถมเข้าใส่ แต่กลับไปชนผนัง
“บอกแล้วไงให้อยู่เฉยๆ ยิ่งวุ่นวายจะยิ่งเจ็บตัวนะ”
“พวกคุณจะทำอะไรผม”
เสียงวีณาดังมาอีกทาง
“เราไม่ทำอะไรเธอหรอกจ้ะ ชิน”
“พี่วี!” ชินภัทรแอบมีความหวัง “แล้วพี่วีจับผมขังไว้ทำไม” ชินภัทรถามแล้วเงี่ยหูฟัง พยายามจับตำแหน่งเสียงวีณา
“เพราะฉันไม่อยากให้พ่อของเธอรู้ ว่าฉันกับพัดอยู่ที่ไหน แล้วเราก็มีเรื่องอยากให้เธอช่วย”
ชินภัทรโถมเข้าใส่วีณา จับตัววีณาได้จะล็อกแขนไว้ แต่กลับโดนกงพัดล็อกคอ
“ปล่อย” ชินภัทรจำใจต้องปล่อยแขนวีณา กงพัดผลักชินภัทรเซไปชนผนัง “ตอนนี้ เธอไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด พยายามอยู่เฉยๆ อย่าดิ้นรนจะดีกว่าอย่าให้ฉันต้องจับเธอมัดเลย”
เสียงฝีเท้ากงพัดกับวีณาเดินออกไป ชินภัทรเซ็ง
วีณากับกงพัดเดินออกมาจากห้องมืด ทั้งสองถอดแว่น แล้วค่อยๆ ปรับสายตากับแสงสว่างด้านนอก
“ฉันว่าชินเค้าไม่ยอมอยู่เฉยๆ หรอก เค้าต้องหาทางหนีจนได้ซักวัน”
“เราจะไม่ขังเค้าไว้นานขนาดนั้นหรอก”
“แล้วคุณจะทำยังไงกับเค้าต่อไปคะ”
“ชินยังไม่พูดถึงโรสเลย แปลว่าทางนั้นยังจับโรสไม่ได้...ภายในวันสองวันนี้ โรสต้องมาหาเราแน่แล้วถึงตอนนั้น เราค่อยจัดการยุติการแก้แค้นนี้ซะ”
กงพัดบอก
ขณะนั้นที่บ้านโชค โรสเก็บของเพื่อเดินทางไปสวิสเซอร์แลนด์อย่างที่ชัชต้องการ โรสกำลังเอาพาสปอร์ต และของส่วนตัวที่จำเป็นใส่กระเป๋าถือใบใหญ่แต่นึกอะไรขึ้นมาได้จึงวิ่งไปที่ลิ้นชักจะไปหยิบปืน ปรากฏว่าเปิดมาแล้วพบแต่ความว่างเปล่า โรสชะงัก ชัชเดินเข้ามาจากด้านหลัง
“ปืนไม่อยู่แล้วล่ะ โรส” โรสหันมา เห็นชัชเดินเข้ามา “ผมจัดการเช็ดเขม่ากับรอยนิ้วมือออกจนหมด แล้วเอาไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณเก็บของเสร็จหรือยัง ผมอยากรีบไปก่อนที่พี่โชคจะกลับมา ไม่งั้นพี่โชคจะสงสัย ว่าทำไมคุณต้องรีบร้อนเดินทาง ทั้งๆ ที่ ที่บ้านกำลังมีเรื่อง”
“ค่ะ” โรสปิดกระเป๋า คว้ากระเป๋าถือมาสะพาย “ฉันพร้อมแล้ว ไปกันเถอะค่ะ”
ชัชกับโรสเดินลงบันไดมา สาวใช้หิ้วกระเป๋าเดินทางตาม ทั้งหมดออกไปด้วยกัน
โชคกลับมาบ้าน เดินมานั่งหน้าตาเครียดๆ
“ชิน...แกหายไปไหน ใครทำอะไรลูกพ่อรึเปล่า...”
โชครำพึงออกมาเบาๆ ถอนใจ แล้วมองไปเห็นโทรศัพท์มือถือของวีณาบนโต๊ะ โชคตาวาว รีบคว้ามากดดู Log ไปที่โทรออก เห็นเบอร์กงพัด
“ไอ้กงพัด”
โชคกดโทรหากงพัด กงพัดเดินมาดูโทรศัพท์ แล้วบอกกับวีณา
“มีคนใช้เครื่องของคุณโทรมา”
“ต้องเป็นคุณโชคแน่ๆ”
กงพัดรับสาย
“ฮัลโหล”
“แกจับตัวลูกฉันไปรึเปล่า”
“เป็นห่วงเหรอ” กงพัดพูดยิ้มๆ โชคยิ่งโมโห
“ไอ้กงพัด ฉันถามว่าแกจับลูกฉันไปหรือเปล่า”
“ชินภัทรอยู่กับผม”
“แกต้องการอะไร ไอ้กงพัด แกจับลูกฉันไปทำไม แกจับลูกฉันไปทำไม”
กงพัดหัวเราะ
“ถ้าคุณเป็นผม คุณคิดว่าคุณจะทำอะไร” กงพัดย้อนถาม โชคแทบคลั่ง
“แกอย่าทำอะไรลูกฉันนะ ถ้าแกบังอาจทำอะไรลูกฉัน ฉันจะ...”
“อย่าขู่ผม คุณโชค ตอนนี้คุณไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องอดทน และรอคอย”
“คอยอะไร”
กงพัดหัวเราะเบาๆ แล้ววางสายปิดเครื่อง โชคจะปาโทรศัพท์ทิ้งลงบนโซฟา กลุ้มใจ แล้วนึกอะไรได้ หยิบมากดดู Log ของวีณาต่อไป ก็เห็นชื่อของ โรสโผล่ขึ้นมา โชคแปลกใจ
“โรส!? โรส โรสเหรอ”
โชคดูเบอร์โรส คิดๆ
อ่านต่อหน้าที่ 2
กุหลาบซาตาน ตอนที่ 21 (ต่อ)
ชัชเดินตามมาส่งโรสที่ด้านในของสนามบินก่อนจะเข้าตรวจคนเข้าเมือง โรสมีสีหน้านิ่งขรึม ในใจคิดหาทางหนีทีไล่ไปตลอด ชัชเข้าใจว่าโรสเครียดเลยชวนคุย
“เสียดาย วันนี้เผอิญทางบ้านมีเรื่อง ไม่งั้นผมจะไปส่งคุณ”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันเดินทางคนเดียวบ่อยๆ”
ชัชเห็นโรสเสียงเครียด เลยหยุดเดิน กุมมือปลอบใจ
“เอาไว้เคลียร์เรื่องชินเสร็จ ผมจะบินตามไปหาคุณที่สวิสนะ”
“ค่ะ”
“ถึงจะยังไง คุณก็ยังเป็นภรรยาของผมอยู่นะ โรส”
“ค่ะ”
ชัชดึงโรสมากอด โรสกอดตอบ แต่แววตาของเธอนิ่ง โทรศัพท์โรสดังขึ้นเป็นเบอร์ของวีณา โรสกดทิ้ง
“ใครโทรมา”
มีสายโทรเข้าอีก คราวนี้เป็นเบอร์โชค โรสชะงักแล้วบอกชัช
“พี่ชายคุณโทรมาค่ะ”
“ต้องมีอะไรแน่ ผมรับเอง” ชัชดึงมือถือโรสมา “พี่โชค นี่ผมเอง ชัช”
“ไอ้ชัช ตอนนี้นังโรสมันอยู่กับแกใช่ไหม”
“ใช่ มีอะไรเหรอ พี่โชค”
“นังโรสมันหลอกแก ฉันเพิ่งเห็นในโทรศัพท์นังวีณา มันสองคนติดต่อกันมาตลอด มันเป็นพวกเดียวกัน...”
ชัชตกใจที่โชครู้ความจริง รีบกดปิดโทรศัพท์ทันที
“มีอะไรคะ”
“พี่โชคเก็บโทรศัพท์มือถือของคุณวีณาได้ เค้ารู้ว่าคุณติดต่อกับคุณวีณา อีกไม่นานเค้าต้องนึกออก ว่าคุณเป็นใคร...โรส สัญญากับผมได้ไหมว่าคุณจะไม่กลับมาที่เมืองไทยอีก” โรสไม่ตอบ ชัชย้ำอย่างจริงจัง “ผมไม่ได้พูดเล่นนะ โรส พี่โชคอาจจะแจ้งตำรวจให้จับคุณเข้าคุกหรือร้ายกว่านั้น เค้าอาจจะฆ่าคุณ...ผมขอร้อง เห็นแก่ผม เห็นแก่ความปลอดภัยของตัวคุณเอง...อย่ากลับมาเมืองไทยอีกเป็นอันขาด เข้าใจไหม โรส”
โรสมองไปในแววตาร้อนรนของชัช รู้ว่าต้องทำให้เขาเชื่อใจเธอ
“ค่ะ ชัช”
ทางด้านโชค เขากดโทรศัพท์หากงพัดอย่างบ้าคลั่งแต่กงพัดปิดเครื่อง โชคโมโหปาโทรศัพท์ทิ้ง
“ไอ้กงพัด ไอ้สารเลว แน่จริงทำไมไม่มาหากูวะ แน่จริงทำไมไม่มาหากู” โชคทั้งโกรธ ทั้งห่วงลูก จนน้ำตาจะไหล “นังโรส นังหนอนบ่อนไส้ ฉันเจอะหน้าแกเมื่อไหร่ แกตาย”
ส่วนที่สนามบิน โรสอยู่ด้านในของสนามบิน แอบมองออกมาเห็นชัชยืนอยู่ สายตาจับจ้องไปที่
ตารางการบินที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ชัชมองไปที่ตารางการบินของสายการบินที่โรสเดินทาง เห็นคำว่า boarding กระพริบอยู่ โรสถอนใจ ดูนาฬิกา รอ
เวลาผ่านไป...ชัชนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เงยหน้าขึ้นมา เห็นตารางการบินเปลี่ยนเป็น last call สีหน้าของชัชผ่อนคลายลง แล้วเดินออกจากจุดนั้นไป โรสที่เฝ้าแอบมองชัชอยู่ จะเดินออกมาด้านนอกแล้วชะงัก เมื่อเห็นชัชกลับมาพร้อมถ้วยเครื่องดื่ม มายืนดู โรสรีบหลบ ชัชเห็นว่าเครื่องออกไปแล้วจึงเดินออกไป โรสถอนหายใจ โล่งอก
พีชญากับภูษณะมาหาไปรมาที่บ้าน พอทั้งคู่มาถึงไปรมารีบวิ่งมาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ว่าไง พีช ภู...โทรไปถามทางบ้านชินรึยัง เค้าว่ายังไงมั่ง ได้ข่าวอะไรมั่งไหม”
“ใจเย็นๆ ... ภูโทรไปแล้ว”
“ว่าไงล่ะ”
“เห็นพ่อชินเค้าว่า ชินคงโดนจับตัวไป”
“ใครจับ”
“ก็...รู้สึกจะเป็นมือปืนที่ชื่อกงพัด แฟนพี่วีน่ะ พ่อชินเค้าว่านะ แต่เราไม่กล้าถามอะไรมากกว่านี้ เสียงเค้าดุ น่ากลัวม๊าก”
ไปรมานิ่งคิด เป็นห่วงชินภัทรมาก
ขณะนั้นโชคเดินวนไปเวียนมาเป็นเสือติดจั่นอยู่ที่บ้าน จนกระทั่ง ชัชเปิดประตูเข้ามา โชคโถมเข้าใส่
“ไอ้ชัช” โชคมองหาโรสแล้วกระซิบกระซาบถาม “ ไหน นังโรสมันอยู่ไหน” ชัชนิ่ง ทำใจนิดนึง เพราะรู้ว่าเรื่องใหญ่แน่ “ว่าไง นังโรสมันอยู่ไหน”
“ไปแล้ว”
“ไปแล้ว ไปไหน! แล้วแกปล่อยมันได้ยังไง! แกไม่ได้ยินที่ฉันบอกเรอะ ว่านังโรส มันเป็นพวกเดียวกับไอ้กงพัด!” โชคโวยวาย
“เป็นพี่สาว” ชัชบอก “โรสคือเพียงออ เด็กผู้หญิงที่พี่เผาให้ตายทั้งเป็นในกองไฟเมื่อ 15 ปีก่อน เค้ากลับมาเพื่อแก้แค้นแทนพ่อแม่ของเค้า”
โชคถึงกับอึ้ง
“โรส คือ เพียงออ”
“ใช่”
โชคพูดไม่ออก มองหน้าชัชอย่างเสียใจสุดๆ แล้วเดินช้าๆ ออกจากห้องไป
โชคทรุดลงนั่งที่โซฟา ชัชเดินตามมาเงียบๆ โชครำพึงกับตัวเอง
“คนที่คิดจะฆ่าฉัน กินอยู่ในบ้านฉัน นอนอยู่ในบ้านฉัน อยู่ข้างตัวฉันข้างลูกฉัน...แต่ฉันไม่รู้ตัวเลย...” โชคหันมองชัช แววตาเสียใจ “ดีนะ ที่ฉันไม่ประมาท ไม่งั้นฉันคงตายไปแล้ว แต่ไอ้ชินสิ มันไม่รู้เรื่องอะไร...ลูกฉันโดนไอ้กงพัดจับตัวไปแล้ว”
“ชินอยู่กับกงพัดเหรอพี่” ชัชถามอย่างตกใจ
“ใช่ มันจับลูกฉันไป แต่แกกลับปล่อยพี่สาวมัน...ทำไมวะ ชัช แกรักนังโรสมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ใช่ พี่โชค ที่ผมทำไป เพราะผมรักพี่ ผมไม่อยากให้พี่ฆ่าใครอีก พี่ทำผิดมามากแล้วนะ พี่โชค”
“แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ แกคิดว่าฉันโง่จนไม่รู้เลยเหรอ ว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรชั่วอะไรดี”
“แต่พี่ก็ทำ รู้แล้วทำไมพี่ยังทำ”
“เพราะฉันอยากให้แกเรียนสูงๆ มีบ้านดีๆ อยู่ มีงานดีๆ ทำ มีชีวิตที่ดีพร้อมทุกอย่าง ฉันไม่อยากให้แกหรือไอ้ชิน ต้องมาลำบากอย่างฉัน”
“พี่โชค ทำไมพี่ไม่บอกผม” ชัชถามอย่างเสียใจ
“บอกแก แกก็ไม่เข้าใจ ฉันเกิดมาจน ต้องดิ้นรนต่อสู้อยู่ข้างถนน ที่ฉันมีวันนี้ได้ก็เพราะฉันเลือกทางสายนี้...ฉันรู้แต่ว่าฉันเป็นพี่ ฉันเป็นพ่อ ฉันต้องดูแลให้พวกแกทุกคนมีความสุข จะผิด จะชั่ว จะเลวทรามต่ำช้ายังไง ฉันก็ทำไปแล้ว...มันแก้ไขอะไรไม่ได้ แกเข้าใจไหม มันแก้ไขอะไรไม่ได้”
“ก็จริง ที่ทำไปแล้ว มันแก้ไขไม่ได้ แต่พี่หยุดได้ไหม หยุดตอนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป”
โชคตบไหล่ชัช พูดอย่างอหังการ
“มันสายไปแล้ว ไอ้ชัช ฉันรู้ว่าคนอย่างฉันไม่ตายดี ฉันรู้ ว่าฉันต้องตกนรกหมกไหม้ แต่ฉันจะทำทุกอย่าง ให้ครอบครัวของฉันปลอดภัย...ถึงฉันจะตกนรก ฉันก็จะลากคอศัตรูของฉันลงไปด้วย แล้วถ้ามันทำอะไรไอ้ชิน ฉันสาบานฉันจะลากมันลงไปให้ถึงนรกขุมสุดท้ายเลย แกคอยดู”
โชคพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ชัชได้แต่หนักใจ
ที่บ้านปฐวี ขณะนั้นนงพงานั่งทบทวนดูโน๊ตที่เธอศึกษาเกี่ยวกับนิยายของโรส อย่างชั่งใจเมื่อนึกถึงคำพูดของสารวัตรยุทธนา
“ผมคิดว่าคุณนงพงา มีหลายเรื่องที่ไม่ได้เล่าให้ผมฟัง...ในจำนวนหลายๆ เรื่องนั้น มันอาจจะซักเรื่อง ที่ช่วยให้ผมจับคนร้ายได้ก็ได้นะครับ”
นงพงาถอนใจ
“เราควรจะบอกตำรวจไหม ว่าจริงๆ แล้ว คนร้ายเป็นใคร”
นงพงาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไปที่เบอร์สารวัตรยุทธนา หลังจากได้รับโทรศัพท์จากนงพงา สารวัตรยุทธาจึงรีบมาหานงพงาที่บ้าน นงพงาตัดสินใจบอกเรื่องโรสกับสารวัตรายุทธนา
“...ฉันทราบมาว่า คุณโรส ฮอลเลอร์คือคนบงการอยู่เบื้องหลังทั้งหมดค่ะ โรสบังคับให้น้องชายมาฆ่าคุณโชค เพื่อแก้แค้นแทนพ่อแม่ ท่านปฐวีทราบเรื่องเข้า แทนที่จะแจ้งตำรวจ กลับคิดจะแบล๊กเมล์เธอ” นงพงาบอกอย่างละอาย
“เธอเลยฆ่าท่านปฐวี”
“ค่ะ แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี่ ฉันไม่มีหลักฐานอะไรนะคะ ดนัยรับปากจะส่งคำสารภาพให้ฉัน แต่เค้าก็มาตายไปซะก่อน”
“เราโชคดีมากครับ...” สารวัตรยุทธาชูถุงให้ดู ด้านในมีโน๊ตบุ๊คสภาพเน่ามาก “ มีพลเมืองดีเก็บไอ้นี่ได้ ใกล้กับที่ที่คุณดนัยโดนยิงตาย ผมจะส่งให้พิสูจน์หลักฐานกู้ฮาร์ดดิสก์ขึ้นมา เราอาจจะได้สิ่งที่เป็นหลักฐาน เอาผิดคุณโรสได้...”
สารวัตรยุทธาออกจากบ้านปฐวีมาหาชัชที่โรงแรมเพื่อถามเรื่องโรส ชัชตอบคำถามสารวัตรยุทธนา เสียงเครียดและเศร้า ที่ไม่อาจปกป้องโรสได้
“โรสไปแล้วครับ เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว”
“กลับไปสวิสเซอร์แลนด์?”
“ครับ ตอนนี้ เธออยู่บนเครื่องแล้ว”
สารวัตรยุทธนาลุกไป โทรศัพท์สั่งงาน
“...ผมเองนะ ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับทางสถานกงศุลไทย ที่สวิสเซอร์แลนด์ด้วย คาดว่าจะมีผู้ต้องสงสัยเดินทางไปที่นั่น...เป็นผู้หญิง ชื่อ โรส ฮอลเลอร์ เป็นคนไทย แต่ถือพาสปอร์ตสวิส...”
ขณะที่ชัชเข้าใจว่าโรสอยู่บนเครื่องบิน ช่วงเวลาเดียวกันนั้นโรสยังอยู่ที่เมืองไทย เธอสะพายกระเป๋าใบเดียว ในมือถือดอกกุหลาบแดง 1 ดอก นั่งอยู่บนรถแท็กซี่มาที่บ้านเช่ากงพัด
กงพัดร้องเพลง มองแสงอาทิตย์ยามเย็นที่งดงามโดยมีวีณายืนฟังอยู่ เมื่อกงพัดร้องเพลงจบวีณาจึงถามขึ้นมา
“คุณร้องเพลงนี้บ่อยจัง ไปเอามาจากไหนคะ ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน”
“ไม่รู้เหมือนกัน ผมความจำเสื่อม คุณลืมไปแล้วหรือไง” กงพัดยิ้มล้อ
“แต่คุณจำเพลงนี้ได้นี่”
“นั่นสิ แปลกดีเหมือนกัน... ผมลืมทุกอย่างไปหมด มีแค่เพลงนี้เพลงเดียว ที่ติดอยู่ในหัวผม”
“มันคงไม่ใช่เพลงธรรมดา มันคงจะพิเศษ แล้วมีความหมายกับคุณมากๆ”
“ถูกแล้ว” เสียงโรสดังขึ้นด้านหลังกงพัดกับวีณาหันไปมอง “มันพิเศษมาก เพราะมันเป็นความทรงจำดีๆ ที่ฉันกับพัด เราเคยมีร่วมกันตอนเด็กๆ” โรสยิ้มให้กงพัด “พี่ภาวนาทุกวัน ขอให้ความทรงจำของเธอกลับคืนมา”
“ถ้าพระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตา ผมอยากให้ตัวเองความจำเสื่อมตลอดไป”
โรสนิ่วหน้า
“ทำไม”
“ตอนนี้ผมไม่มีความทรงจำ ไม่มีอดีตที่เลวร้าย ไม่มีความหลังที่ฝังใจ ผมเหมือนคนที่ตายแล้วเกิดใหม่ มีความสุขที่สุดแล้ว ผมไม่อยากกลับไปเป็นคนเดิม”
โรสไม่ชอบใจ ตัดบท
“แล้วเธอไปจับตัวชินภัทรมาทำไม”
“พัดไม่ได้ทำ” วีณาบอก
“อย่าโกหก ฉันรู้ว่าชินภัทรอยู่กับเธอ ตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน”
“พี่อย่ารู้เลย”
“ทำไมพี่จะรู้ไม่ได้ เธอสองคนจับชินภัทรมาทำไม”
“อีกไม่นาน พี่ก็รู้เอง” กงพัดตัดบท หันไปบอกวีณา “ผมจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวมา”
“ฉันลงไปส่งค่ะ พัด”
วีณาทำเสียงหวานแล้วตามกงพัดออกไป โรสมองอย่างระแวง มองสำรวจไปรอบๆ ห้อง โรสเห็นแว่นที่ใส่ในความมืดสองอัน แอบอยู่มุมห้อง โรสหยิบขึ้นมาดู คิดๆ
“อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะ คุณวางยาโรสให้สลบไป แล้วจับโรสมัดไว้ แล้วค่อยจัดการกับชินภัทร”
กงพัดสั่งวีณาเมื่อออกมาหน้าบ้าน
“แล้วคุณล่ะคะ คุณจะออกไปทำอะไร”
“ผมจะออกไปนัดคุณโชค ชนารณพ...ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อ 15 ปีก่อน จะต้องมารวมกันที่นี่ จากนั้น เราจะเริ่มพิจารณาคดี”
กงพัดเดินออกไป วีณามองตามอย่างมีความหวัง
วีณาเดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นโรสกำลังเทน้ำเย็นใส่แก้วสองใบ โรสหันมายิ้มให้วีณา
“ฉันดีใจที่ได้กลับมาเจอพัดอีก” โรสบอกแล้วส่งแก้วน้ำให้ “เราน่าจะดื่มฉลองกันหน่อย”
วีณายิ้ม แต่มองแก้วอย่างระแวง เพราะเธอเองก็คิดจะวางยาโรส
“แค่น้ำเปล่าน่ะ” โรสบอกเมื่อเห็นวีณายังไม่รับแก้ว “ฉันกับเธออาจจะเคยขัดแย้งกันแต่จากนี้ไป เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ วีณา ฉันจะเป็นพี่สาวของเธอ”
วีณายิ้มรับ เล่นละครไปด้วย
“จริงค่ะ งั้นเราควรจะฉลองด้วยอะไรที่มันดีกว่าน้ำเปล่าอย่างเช่น ...” วีณาเดินไปที่มุมห้อง “กาแฟ ดีไหมคะ”
วีณาชงกาแฟ ใส่น้ำตาล ใส่ครีม แล้วแอบเทยาผงสีขาวๆ ลงไปในแก้วกาแฟ คนจนละลาย ระหว่างนั้น โรสค่อยๆ เคลื่อนตัวไปใกล้ๆ กับที่ซ่อนปืนของกงพัด วีณาคนกาแฟเสร็จ กำลังจะยกแก้วกาแฟ
“เสร็จแล้วค่ะ”
พลั่ก...โรสเอาด้ามปืนทุบท้ายทอยวีณา ร่วงลงไป มือวีณาคว้าโดนขอบโต๊ะล้ม เกิดเสียงดังโครมคราม
ชินภัทรอยู่ในห้องมืด ได้ยินเสียงดังจากข้างบน ลุกพรวดอย่างมีความหวัง
“เสียงอะไร”
ชินภัทรได้ยินเสียงเหมือนคนลาก ทำอะไรบางอย่างอยู่ข้างบน
กงพัดใช้กล้องส่องมองดูบ้านโชค แล้วก้มดูซองกระดาษในมือ ลูกน้องโชคเห็นซองกระดาษที่กงพัดเอามาวางไว้หน้าบ้านจึงวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปหาโชคที่กำลังเตรียมปืนอยู่
“นายครับ นาย”
“อะไร”
“มีใครไม่รู้ แอบมาวางไว้หน้าบ้านครับนาย จ่าหน้าซองถึงนาย”
โชครรับมา เปิดดูข้างในเป็นกระดาษสีขาว เขียนด้วยลายมือ
“อยากพบชินภัทร ให้มาตามแผนที่นี้” โชคพลิกดู ด้านหลังมีแผนที่ไปบ้านเช่ากงพัด โชคพลิกจดหมายอ่านต่อ “มาคนเดียว ถ้าอยากให้ชินภัทรปลอดภัย”
โชคอ่านเสร็จ แค้นจัด
ส่วนที่บ้านเช่ากงพัดขณะนั้นโรสมัดวีณาที่หมดสติเอาไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนา โรสรื้อหาของจนเจอกระเป๋าเงินของวีณา โรสเอาไปและเอาปืนของกงพัดไปด้วย ก่อนออกจากห้องโรสคว้าแว่นที่มองในความมืดไปด้วย
ชินภัทรได้ยินเสียงคนซอยฝีเท้าใกล้เข้ามาด้วยความระแวง ชินภัทรขยับตัวไปด้านข้าง มือคลำไปจนเจอตู้กระจกเก่าๆ ชินภัทรถอดเสื้อออก เอาพันมือ แล้วต่อยกระจกแตก เปรี้ยง
โรสสวมแว่น เปิดประตูเข้ามาเห็นชินภัทรคว้ากระจกเป็นอาวุธ พุ่งเข้าใส่ อีกมือคว้าจับแขนโรสล็อกไว้ โรสรีบร้องบอก
“ชิน อย่า!” ชินภัทรชะงัก “นี่อาเองค่ะ อาโรส อามาช่วยชิน”
ชินภัทรทิ้งกระจก แปลกใจมาก
“อาโรส!”
“อาชัชให้อามาช่วยชิน ตอนนี้อาจับวีณามัดไว้ เรารีบไปกันเถอะค่ะก่อนที่กงพัดจะกลับมา”
โรสคว้ามือชินภัทรพาออกมาจากห้องมืด จากนั้นชินภัทรก็วิ่งนำโรสออกมาหน้าบ้านแล้วหยิบกุญแจรถออกมาชู
“ทางนี้ครับ อาโรส ผมจอดรถแอบไว้”
ชินภัทรพาโรสไปที่รถของตนที่จอดแอบซุกไว้ โรสแย่งกุญแจมา
“อาขับดีกว่าจ้ะ”
“แต่ว่า” ชินภัทรงง
“อารู้ทางดีกว่า ที่ที่เราจะไป”
“เราไม่กลับบ้านเหรอครับ”
“ไม่ได้จ้ะ อาชัชสั่งให้อาพาชินไปหลบในที่ปลอดภัย” โรสบอกแล้วรีบดันชินภัทรขึ้นรถ “ไปกันก่อน
เถอะ อย่าเพิ่งถาม”
ชินภัทรขึ้นรถโดยไม่ได้สงสัยโรส รถแล่นออกไป โรสยิ้มสะใจ
จบตอนที่ 21
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.