เกมร้ายเกมรัก ตอนอวสาน
ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ฟ้าลดานั่งหนาวสั่น สายชลถอดเสื้อออก สะบัดๆๆ ก่อนจะเดินเอาเสื้อมาคลุมให้
“ฉันไม่เป็นไร”
“หน้าซีดตัวสั่นขนาดนี้ ยังบอกไม่เป็นไรอีก”
ฟ้าลดาพูดไม่ออก หนาวมากๆ สายชลจับมือเธอมาเป่าให้ แล้วสายชลก็เอามือของเธอมาจับที่คอของเขา
“อุ่นขึ้นมั๊ย”
ฟ้าลดาพยักหน้า สายชลจับมือเธอออกมา แล้วเอามาถูๆๆให้ความอบอุ่น ฟ้าลดามองเขาสายตาอ่อนโยน รู้สึกดี ปล่อยให้เขาทำแบบนั้นต่อไป ก่อนที่เขาจะเอาไม้ปั่นบนเศษใบไม้แห้งจนเกิดไฟ แล้วหันไปมองฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก
“ท่าทางจะตกถึงเช้า”
สายชลหันไปเห็นฟ้าลดานั่งหน้าแย่ๆ ก็เป็นห่วง
“นางฟ้าเป็นไร”
“ชักหิว”
สายชลนิ่งคิด แล้วก็หันไปตรงปากถ้ำ เอามือยื่นออกไป รองน้ำฝน แล้วรีบเอามาให้
“ดื่มน้ำฝนไปก่อนนะ”
ฟ้าลดามองน้ำฝนในมือของเขาอึ้งๆ
“รีบดื่มเร็วเข้า เดี๋ยวมันจะหกหมด”
ฟ้าลดากินน้ำฝนจากมือสายชลจนหมดแล้วเงยหน้ามองเขา
“แล้วคุณไม่หิวเหรอ”
“หิว”
ฟ้าลดาลุกเดินไป ยื่นมือไปรองน้ำฝนแล้วเดินกลับมาตรงหน้าเขา ยื่นมือออกไปให้
“อ่ะ...”
สายชลยิ้มรู้สึกดี กินน้ำฝนจากในมือฟ้าลดา สองคนยิ้มให้กัน
+ + + + + + + + + + +
กองไฟลุกโชติช่วง สายชลเริ่มหนาว เพราะไม่ได้ใส่เสื้อ ฟ้าลดาหันไปมอง
“หนาวเหรอ”
สายชลปากสั่นตัวสั่น
“เย็นนิดหน่อย”
“เย็นนิดหน่อยอะไร ตัวสั่นปากสั่นขนาดนั้น”
“ไม่เลย สายชลไม่หนาว สายชลแข็งแรงมาก”
สายชลลุกขึ้นยืนพร้อมเบ่งกล้ามโชว์ แต่กลับจามออกมาเสียงดังลั่น
“ฮัดเช้ย!”
ฟ้าลดาอดขำออกมาไม่ได้ สายชลยิ้มเขินๆมอง ฟ้าลดาผงะกับรอยยิ้มของเขาแล้วก็นิ่งไป
“เอาเสื้อคุณคืนไปเถอะ”
ฟ้าลดาเอาเสื้อออกมายื่นให้ เขาดันเสื้อคืน
“ไม่ต้อง”
“ฉันไม่เป็นไร... ฮัดเช้ย!”
ฟ้าลดาจามทันทีใส่หน้าเขาเต็มๆ
“ขอโทษ”
สายชลอมยิ้ม หยิบเสื้อมาคลุมให้
“ไม่เป็นไร...สายชลเป็นผู้ชาย แค่นี้สายชลทนได้ นางฟ้าใส่ไว้เถอะ สายชลเป็นห่วงกลัวนางฟ้าจะไม่สบาย”
สายชลมองฟ้าลดาแววตาจริงจังมาก จนเธอต้องยอมใส่เสื้อของเขา สายชลเดินไปนั่งห่างๆ เอามือจ่อไปที่กองไฟเพื่อต้องการความอบอุ่น ฟ้าลดามองสายชลแววตาอ่อนลงกว่าตอนที่มาถึงที่เกาะวันแรก
ฝนยังตกไม่หยุด ฟ้าลดานั่งหลับ สัปหงก สายชลหันไปเห็น ค่อยๆขยับเข้ามาหา ขณะที่เธอกำลังจะหงายหลัง เขาเข้ามาประคองรับเอาไว้ได้ทัน ค่อยๆจับหัวเธอให้มาซบกับไหล่
+ + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...ท้องฟ้าสดใส...
ฟ้าลดายังหลับอยู่ เธอฝันเห็นเมื่อครั้งเธออยู่บนเกาะนี้กับสายชล
‘นางฟ้ารักสายชล รักมากกว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ รักจนไม่รู้จะบอกสายชลว่ายังไง’
สายชลยิ้มด้วยความดีใจ ฟ้าลดาจับมือเขามาจับที่หัวใจของเธอ
‘สายชลได้ยินเสียงหัวใจนางฟ้ามั๊ย’
สายชลพยักหน้า
‘สายชลเป็นคนเดียวที่จะได้เป็นเจ้าของหัวใจนางฟ้า’
สายชลกับฟ้าลดายิ้มให้กัน แล้วก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากัน
ฟ้าลดาสะดุ้งตื่นตกใจกับความฝัน แล้วก็เห็นเขากอดตัวเองเอาไว้ เธอมองเขาแววตาเต็มไปด้วยความรัก ฟ้าลดายอมรับแล้วว่าเธอรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นสายชล หรือว่าชาร์ล ฟ้าลดายกมือจับหน้าสายชล ทำให้เขาตื่น สายชลลืมตา เห็นเธอยิ้มให้เขา
“เช้าแล้ว”
แดดเริ่มออกแล้ว สายชลกับฟ้าลดาเดินมาด้วยกัน เขาเดินห่างออกไป ฟ้าลดาเหล่มอง แล้วก็ค่อยๆเข้าไปใกล้เขา สายชลหันมาอีกทีเห็นฟ้าลดาอยู่ข้างๆ ก็แปลกใจ ฟ้าลดาอมยิ้ม สายชลเองก็รู้สึกดี ทั้งสองเดินกันไปเขินๆ แล้วฟ้าลดาก็สะดุดจะล้ม สายชลรีบเข้ามาพยุง แล้วจับมือของเธอเอาไว้
“เดินไปด้วยกันแบบนี้ดีกว่า”
ฟ้าลดารีบดึงมือออก
“ไม่เป็นไร ฉันเดินเองได้”
ฟ้าลดารีบเดินออกไปด้วยความเขิน ทำหน้าไม่ถูก พอเดินไปได้สองสามก้าว ก็สะดุดล้ม สายชลตกใจรีบเข้าไปดู
“นางฟ้า!”
ฟ้าลดาหน้าเหยเก
“โอ๊ย!”
สายชลรีบประคอง ฟ้าลดาเจ็บข้อเท้า
“เจ็บ...”
“ขึ้นหลังสายชลดีกว่า”
สายชลเดินมาตรงหน้า ฟ้าลดามองๆลังเล
“ขึ้นมาซินางฟ้า”
ฟ้าลดาขี่หลังเขา สายชลแบกเธอเดินไปตามทาง แอบมองเขาแล้วยิ้มอย่างรู้สึกดี กระทั่งมาถึงชายหาด
“วางฉันลงได้แล้ว ฉันเดินเองได้แล้วล่ะ”
สายชลวางฟ้าลดาลงบนพื้น หันไปถามอย่างห่วงใย
“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ...”
ฟ้าลดายิ้มพยักหน้าตอบ
“ถ้างั้นเรามาวิ่งแข่งกันกลับบ้านดีมั๊ย”
“ได้...ฉันชนะคุณชัวร์”
ฟ้าลดาพูดจบก็วิ่งออกไปก่อน สายชลเหวอ
“อ้าว ทำไมวิ่งไปก่อนล่ะ นางฟ้า”
สายชลยิ้มแล้วก็วิ่งตามไป
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาวิ่งมาตามชายหาด สายชลวิ่งเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาจับแขน ฟ้าลดาสะดุด สายชลดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ทั้งสองนิ่งงัน มองหน้ากันราวกับตกอยู่ในภวังค์ สายชลจับฟ้าลดาให้หันมาประจันหน้ากับเขา ฟ้าลดาแปลกใจว่าเขาจะทำอะไร สายชลยื่นหน้า เอาหน้าผากมาแตะกับหน้าผากฟ้าลดา
“จำได้มั๊ยว่านางฟ้า ว่าเราเคยสัญญาอะไรกัน...ครอบครัวของสายชลก็คือนางฟ้า ครอบครัวของนางฟ้าก็คือสายชล เราสัญญาว่าเราจะอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป”
ฟ้าลดารู้สึกเต็มตื้น ถึงจะจำไม่ได้ แต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่สายชลพูดมันโดนใจ มันมีความหมายมาก ทั้งคู่เอาหน้าผากแตะกัน ก่อนผละออกมามองกันและกัน แล้วทั้งคู่ก็ผละออกมา สายชลเคลื่อนหน้าเข้าไปจะจูบ ฟ้าลดาไม่ขัดขืน แต่ทันใดนั้นเสียงยาซะ กับลูกน้องที่ตามมาก็ดังขึ้น
“คุณฟ้าลดา”
สายชลกับฟ้าลดาหันไปก็ตกใจที่เห็นยาซะยืนอยู่
“ไอ้ยาซะ”
สายชลจับมือฟ้าลดาจะพาวิ่งหนี ก็เจอลูกน้องยาซะสองคนเดินมาขวาง สายชลเอาตัวบังฟ้าลดาเอาไว้ ยาซะเดินมาหา
“พี่สาวคุณฟ้าลดา ให้ผมมาพาคุณฟ้าลดากลับบ้านครับ”
ฟ้าลดากับสายชลตกใจ
“หนีไปนางฟ้า!” สายชลกระซิบ
ฟ้าลดาละล้าละลัง เป็นห่วง สายชลเร่งเสียงเบา
“ไปซิ”
ฟ้าลดารีบวิ่งหนีออกไป ลูกน้องจะตาม สายชลเข้าไปอัด ยาซะวิ่งไปหาฟ้าลดา สายชลเห็น ผลักลูกน้องเซไปชนลูกน้องอีกคนล้มลง แล้วกระโดดตะครุบตัวยาซะ สองคนกลิ้งกันไปบนพื้นทราย ฟ้าลดาหันมามองสายชลเป็นห่วง ลูกน้องยาซะเข้ามาหา ฟ้าลดาคว้าท่อนไม้บนพื้น ฟาดไปตรงหน้าไม่หยุด ลูกน้องไม่กล้าเข้ามา
สายชลคร่อมยาซะ อัดยาซะไม่หยุดด้วยความโกรธแค้น ด้านฟ้าลดาพยายามสู้กับลูกน้อง สายชลเห็นยาซะหมดแรง ก็ลุกขึ้นไป หันไปเห็นฟ้ากำลังแย่ ก็รีบเข้าไปจัดการลูกน้องสองคน แล้วจับมือฟ้าจะพาหนี ทันใดนั้นเสียงปืนดังปัง! ทั้งสองตกใจหันไปเห็นยาซะถือปืน เลือดกบปากเดินมาหาทั้งสอง
“ถ้าไม่อยากตาย ส่งเธอมาให้ฉัน”
สายชลเอาตัวบังฟ้าลดาเอาไว้
“ฉันจะไม่ยอมให้แก มาพรากนางฟ้าไปจากฉันอีก”
สายชลเลือดขึ้นหน้า ร้องเสียงดังลั่นพร้อมวิ่งเข้าไปหายาซะ
“ย๊ากกกก!”
ยาซะตกใจที่สายชลเหมือนหมาบ้า สายชลพุ่งเข้ามาแย่งปืน กระบอกปืนไปทางยาซะ ทันใดนั้นเสียงลูกน้องยาซะดังขึ้น
“หยุดนะเว๊ย!!”
สายชลกับยาซะหันไป เห็นลูกน้องเอามีดสั้นจ่อไปที่คอหอยฟ้าลดา เธอถูกลูกน้องสองคนล็อคแขนเอาไว้ ฟ้าลดาหน้าแย่มาก ยาซะได้ที ใช้หลังปืนซัดเสยคาง สายชลหมดสติ ล้มไปบนพื้นทันที ฟ้าลดาตกใจ
“สายชล!”
ยาซะ กับลูกน้องช่วยกันลากฟ้าลดาไปที่เรือ
“ปล่อยฉัน ปล่อย ปล่อยซิ...ปล่อย!”
ฟ้าลดาดิ้นสุดแรง จนเกือบจะหลุด ยาซะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบผ้าเช็ดหน้าที่มียาสลบออกมาปิดปาก ไม่นานฟ้าลดาหมดสติไป ยาซะกับลูกน้องช่วยกันยกฟ้าลดาขึ้นไป
+ + + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...
สายชลนอนหมดสติอยู่บนหาดทราย ค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองเห็นว่ารอบตัวมืดมิด เขากำทรายแน่นด้วยความโมโห และเสียใจที่ช่วยฟ้าลดาเอาไว้ไม่ได้ เขารีบไปขึ้นเรือ และขับกลับไปที่ฝั่งทันที
ขณะที่หมอวัฒนานอนหลับอยู่ เสียงมือถือดังขึ้น เขาเปิดโคมไฟมองนาฬิกา เห็นเวลาตีสอง หยิบมือถือมาดูพอเห็นชื่อก็แปลกใจรีบกดรับสาย
“คุณสหัส...ครับ...แพรให้ยาซะมาจับตัวน้องฟ้าที่เกาะมิน”
“ใช่ครับ คุณชาร์ลโทรมาบอกผม ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไงว่าคุณชาร์ลพาคุณฟ้าไปที่นั่น”
หมอวัฒนาผงะ คิดย้อนไปถึงคำพูดของชมพูแพรที่มาถามเขา
‘…ตอนนี้แพรเข้าใจทุกอย่างแล้ว แพรยอมรับได้ถ้าคุณชาร์ลกับยัยฟ้าจะรักกัน แพรอยากไปขอโทษคุณชาร์ลกับยัยฟ้า พี่หมอรู้มั๊ยว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน...’
‘เขาสองคนไปเกาะมิน’
หมอวัฒนาแทบช็อค ที่รู้ว่าชมพูแพรหลอกเขา หันไปพูดโทรศัพท์อย่างรู้สึกผิด
“ผมเป็นคนบอกแพรว่าคุณชาร์ลกับน้องฟ้าไปที่ไหน...คุณไม่ต้องห่วงทางนี้ ผมจะจัดการเอง คุณรีบไปรับคุณชาร์ลกลับมา แล้วเราค่อยโทรหากัน”
หมอวัฒนาวางสาย ทั้งโมโหทั้งเสียใจ
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรเดินออกมาหาหมอวัฒนา ที่ยืนรออยู่อย่างหงุดหงิด...
“พี่หมอจะคุยอะไรกับแพรตอนตีสามคะ”
หมอวัฒนาขยับมาใกล้
“น้องฟ้าอยู่ไหน”
ชมพูแพรชะงักทำเป็นไม่เข้าใจ
“น้องฟ้าอยู่เกาะมินกับคุณชาร์ลไงคะ พี่หมอเป็นคนบอกแพรเอง”
หมอวัฒนาจ้องหน้า
“เลิกเล่นละครซักที ผมรู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้ว แพรให้ยาซะไปจับตัวน้องฟ้ากลับ มา”
ชมพูแพรหน้าถอดสี หมอวัฒนาโกรธ
“แพรทำเป็นสำนึกผิด เพื่อให้ผมบอกว่าคุณชาร์ลพาน้องฟ้าไปไหน”
ชมพูแพรรีบเปลี่ยนอารมณ์ทำเป็นฉุน
“แพรไม่สนุกกับพี่หมอนะคะ อย่ามาอำกันแรงแบบนี้”
หมอวัฒนามองเธอด้วยสายตาผิดหวัง
“พูดความจริงซักทีเถอะแพร คุณให้ยาซะจับตัวน้องฟ้าไปไว้ที่ไหน”
“นี่พี่หมอเมารึเปล่า ถึงได้พูดจาเพ้อเจ้อ”
“ผมไม่ได้เมา”
“ถ้าไม่เมา ก็คงจะไม่สบาย พี่หมอกลับไปเถอะค่ะ แพรง่วงจะตายอยู่แล้ว”
ชมพูแพรรีบหันหลังจ้ำเดินเข้าไปในบ้าน หมอวัฒนาเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนแพร...แพร”
แต่พอเขาจะตามเข้าไปเธอก็ปิดประตูใส่หน้า หมอวัฒนาหัวเสีย และเป็นห่วงฟ้าลดา
+ + + + + + + + + + + +
เมื่ออยู่ตามลำพัง ชมพูแพรคุยโทรศัพท์กับยาซะทันที
“แกเอายัยฟ้าไปไว้ที่ไหน...ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้”
ชมพูแพรเหลือบเห็นหมอวัฒนายังยืนอยู่หน้าบ้าน...ไม่ยอมกลับไป เธอหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“ยังไม่กลับไปอีก”
ชมพูแพรหันไปพูดโทรศัพท์
“ฉันเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน เฝ้ามันให้ดี”
“ครับ”
ยาซะวางสาย หันมองไปที่ฟ้าลดาที่ถูกมัดมือที่โกดังริมแม่น้ำ นอนหมดสติอยู่บนพื้น แสงจากพระจันทร์ส่องเข้ามา แต่ไม่มากนัก ยาซะยิ้มอย่างพอใจ ที่อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาจะได้เงินแล้ว แล้วหันหลังเดินออกไปจากโกดังแล้วปิด
เช้าวันรุ่งขึ้น...
ชมพูแพรยืนอยู่ที่ริมหน้าต่าง มองว่าหมอวัฒนายังอยู่รึเปล่า เห็นหน้าบ้านว่างเปล่า ชมพูแพรยิ้มสบายใจ เดินออกไปขึ้นรถขับออกไปจากรั้วบ้าน หมอวัฒนาที่จอดรถแอบอยู่ตรงมุมหนึ่ง ก็รีบขับตามไปทันที
ชมพูแพรขับมาตามทาง ไม่รู้ว่าหมอวัฒนาขับรถตามมา เพราะเขาขับตามห่างๆ รถชมพูแพรเลี้ยวเข้าไปในซอยหนึ่ง หมอวัฒนาเลี้ยวรถตามเข้าไป ไม่นานก็มีรถแล่นออกมาจากซอยข้างๆตัดหน้า หมอวัฒนาเบรกรถ พยายามชะเง้อมองหารถชมพูแพร
+ + + + + + + + + +
สายชลกับสหัส ลงมาจากเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็ก แล้วเดินไปขึ้นรถโดยสหัสเป็นคนขับ สายชลนั่งข้างๆ...ขณะที่รถวิ่งไปตามท้องถนนเสียงมือถือดังขึ้น สหัสกดรับสายผ่านทางบลูทูธ
“ครับคุณหมอ...คุณหมออยู่ที่ไหนนะครับ ได้ครับได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
สหัสวางสายหันไปมองสายชล ที่นั่งหน้ากังวลใจมาก
“คุณหมอขับตามรถคุณแพรไม่ทัน แต่คุณหมอคิดว่าคุณแพรน่าจะมุ่งหน้าไปที่แม่น้ำ”
สายชลบอกให้สหัสขับรถ ไปตามเส้นทางที่หมอวัฒนาบอกทันที
ทางด้านชมพูแพร เดินมาหายาซะที่รออยู่ด้านหน้าโกดัง
“น้องสาวคุณอยู่ในนี้ ผมทำงานสำเร็จแล้ว ขอค่าเหนื่อยผมด้วย”
“งานแกจะจบ ก็ต่อเมื่อกำจัดนังฟ้าลดาสำเร็จ”
ยาซะชะงักอึ้ง
“ผมคิดว่าคุณให้จับน้องสาวคุณมาเพื่อสั่งสอน ไม่นึกเลยว่าคุณจะ...”
“ไม่ต้องพูดมาก ทำงานของแกให้เสร็จก็พอ เปิดประตู”
ยาซะเปิดประตูให้ ชมพูแพรเดินเข้าไปตามลำพัง...
(อ่านต่อ หน้า 2)
เกมร้ายเกมรัก ตอนอวสาน (ต่อ)
ชมพูแพรยืนมองฟ้าลดา ที่ยังหมดสติด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเข้ามาแก้เชือกที่มัดข้อมือออก ฟ้าลดาค่อยๆฟื้นขึ้นมา ยังเบลอๆ มึนๆ เห็นชมพูแพรก็ผงะ พยายามลุกขึ้นยืน
“พี่แพร”
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่”
ฟ้าลดาอึ้ง
“ฉันไม่เคยเห็นแกเป็นน้องนับตั้งแต่วันที่แกลืมตาดูโลก...ที่ฉันทำเป็นรักแก เพราะฉันต้องสร้างภาพพี่สาวที่แสนดีให้ทุกคนเห็น”
ชมพูแพรมองฟ้าลดา แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนเธอรู้สึกได้
“ไม่จริง” ฟ้าลดาน้ำตารื้นด้วยความเสียใจ
ชมพูแพรตะคอก
“จริง! ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องอดทนมากแค่ไหนแกรู้บ้างรึเปล่า ฉันต้องทนเห็นพ่อแม่รักแก เชิดชูแก ส่งเสียให้แกเรียนสูงๆ มีอะไรก็ประเคนให้แกทุกอย่าง แกทำอะไรก็ถูกต้องไปหมด ในขณะที่ฉัน...ไม่ได้อะไรเลย ทำอะไรก็ผิด พ่อแม่ไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตา แล้วเขาสองคนเอาฉันมาเลี้ยงทำไม”
ชมพูแพรระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแรง น้ำตาพร่างพรู
“พี่แพรหมายความว่ายังไง”
ชมพูแพรกระชากฟ้าลดาให้ลุกขึ้นยืน
“ฉันไม่ใช่พี่สาวแก...ฉันเป็นเด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่พ่อกับแม่เอามาเลี้ยง แล้วแกก็มาเกิด แกจะมาเกิดทำไมนังฟ้าลดา”
ชมพูแพรกระชากคอเสื้อฟ้าลดา เข้ามามองแววตากร้าว เต็มไปด้วยความอาฆาต
“ยี่สิบกว่าปีที่แกเห็นฉันแสดงออก มันเป็นเรื่องโกหก ความรู้สึกในตอนนี้...ที่แกเห็นตรงหน้า มันคือความจริง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันจริงใจกับแกที่สุด”
ฟ้าลดายังอึ้งไม่หาย ชมพูแพรปล่อยมือจากฟ้าลดา
“ถึงพี่แพรจะไม่ใช่พี่สาวแท้ๆของฟ้า แต่ฟ้าก็รักพี่แพรนะคะ”
“ไม่ต้องโกหก ฉันไม่เชื่อ”
ฟ้าลดาน้ำตาไหลพราก
“พี่แพรเป็นครอบครัวของฟ้า ฟ้ารักพี่แพร”
ชมพูแพรเคียดแค้น
“แต่ฉันเกลียดแก”
ฟ้าลดาอึ้ง ชมพูแพรรีบผละออกมา
“ฉันเกลียดแกได้ยินมั๊ย”
“ทำไม”
“เพราะแกเป็นเมียคุณชาร์ล เป็นผู้หญิงที่คุณชาร์ลรัก”
ฟ้าลดาพูดไม่ออก เอาแต่ร้องไห้ ชมพูแพรเข้ามากระชากผมฟ้าลดาให้เงยหน้ามองเธอ
“ทำไมแกไม่พูดว่าแกไม่รักเขา”
ฟ้าลดาเงียบ ชมพูแพรปล่อยมือ
“แกรักเขาใช่มั๊ย”
ชมพูแพรจับไหล่ฟ้าลดาเขย่าแรงๆ
“แกรักเขาใช่มั๊ยฟ้าลดา...ใช่มั๊ย”
ชมพูแพรก้มหน้าร้องไห้หมดแรง ฟ้าลดาเองก็ร้องไห้ เข้ามาจับแขนพี่สาว
“พี่แพร...ฟ้าขอโทษ ฟ้าขอโทษ” ฟ้าลดาสะอื้น
ชมพูแพรปัดแขนออก
“ไม่ต้องมาขอโทษ ฉันไม่มีวันอภัยให้แก”
“ฟ้าต้องทำยังไง พี่แพรถึงจะอภัยให้ฟ้า”
ชมพูแพรนิ่งไปพัก แล้วก็เงยหน้าขึ้นมา
“แกจะต้องหายสาบสูญไปจากที่นี่ แล้วอย่ากลับมาอีกเลยตลอดชีวิต แกทำได้รึเปล่า แต่ถ้าแกไม่ยอม ฉันจะให้ยาซะจัดการกับแก”
ชมพูแพรมองด้วยสายตาเหี้ยมจนฟ้าลดาตกใจ
“แกทำตามที่ฉันขอได้รึเปล่าฟ้าลดา”
“ถ้ามันจะทำให้พี่แพรอภัยให้ฟ้า ฟ้าจะทำ”
ชมพูแพรยิ้มด้วยความดีใจสุดๆ
+ + + + + + + + + + +
หมอวัฒนาขับรถเข้ามาภายในบริเวณโกดังริมแม่น้ำ แล้วก็เห็นรถชมพูแพรจอดอยู่ เขาดีใจที่คิดถูก รีบโทรบอกให้สหัสรู้ ไม่นานนัก สายชล กับสหัสมาถึง
“นางฟ้าอยู่ไหน”
หมอวัฒนา ชี้ไปที่โกดังร้าง
“ผมคิดว่าน้องฟ้าถูกจับอยู่ในนั้น ผมไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไป เพราะกลัวว่าน้องฟ้าจะไม่ปลอดภัย”
สายชลหน้าเครียด
“จะเข้าไป หรือไม่เข้า นางฟ้าก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี...สหัส...โทรแจ้งตำรวจ”
“ครับ”
สหัสโทรศัพท์หาตำรวจทันที สายชลกับหมอวัฒนาเข้าไปข้างใน ทางด้านยาซะยืนรออยู่หน้าประตูโกดังด้วยความเซ็ง
“ทำไมมันคุยกันนานอย่างนี้วะ”
ยาซะเริ่มหงุดหงิด หันไปเห็นชมพูแพรกับฟ้าลดาเดินออกมา ยาซะดีใจ
“จบเรื่องซักที...เงิน” ยาซะแบมือ
ชมพูแพรมองหน้ายาซะ
“ลบเสียงฉันในมือถือแกก่อน แล้วฉันจะให้”
ยาซะมองๆคิดว่าชมพูแพรคงไม่กล้าตุกติก ก็เลยหยิบมือถือออกมา เปิดเสียงให้ฟังอีกครั้ง....
เสียงชมพูแพรดังขึ้น...
‘ทำได้ดีมาก’
‘ยินที่ได้ร่วมงานกับคุณนะครับ...ว่าแต่คุณแน่ใจเหรอว่าวิธีนี้ จะทำให้น้องสาวคุณอยากไปจากที่นี่’
‘ฉันมั่นใจ’
ฟ้าลดาได้ยินก็ยิ่งเสียใจ ที่ทุกอย่างเป็นแผนของชมพูแพร ยาซะกดลบคลิปเสียงให้เห็น ชมพูแพรพอใจล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเช็ดเงินสดออกมาให้
“เช็คเงินสด แกเอาไปเบิกเงินได้เลย”
ยาซะดีใจแต่พอเห็นตัวเลขก็ผงะ
“ห้าแสน!”
ยาซะเงยหน้ามองชมพูแพรไม่พอใจ
“เราตกลงกันว่าห้าล้านไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่นึกว่างานมันจะง่ายขนาดนี้ ห้าแสนยังมากเกินไปด้วยซ้ำ”
ยาซะโมโหสุดๆ ชักปืนที่เหน็บกางเกงด้านหลังออกมาจ่อไปที่ชมพูแพร ฟ้าตกใจรีบเข้ามาขวาง
“แกอย่าทำอะไรพี่สาวฉันนะ”
ยาซะเอาหลังมือตบหน้าฟ้าลดาอย่างแรง จนเธอล้มไปบนพื้นเลือดกลบปาก ชมพูแพรตกใจ
“ฟ้า!”
ยาซะเอาปืนจ่อ ชมพูแพรไม่กล้าขยับ
“แกกล้ามากที่เล่นตุกติกกับฉัน อยากตายใช่มั๊ย!”
ชมพูแพรกลัวสุดๆ ฟ้าลดาคิดหาทาง เห็นท่อนไม้บนพื้น ค่อยๆคลานไปหยิบขึ้นมา
“ถ้าไม่อยากตาย เอาเงินห้าล้านมาให้ฉันเดี๋ยวนี้” ยาซะขู่เสียงเข้ม
“งั้นแกก็ต้องปล่อยฉันไป” ชมพูแพรต่อรอง
ยาซะส่ายหน้า
“ฉันไม่โง่เชื่อแกอีกแล้ว เราจะไปด้วยกัน”
ชมพูแพรเครียด ทันใดนั้นฟ้าลดาก็เอาท่อนไม้ฟาดหลังยาซะอย่างแรงผัวะ
“โอ๊ย!” ยาซะร้องลั่น
ยาซะหันไป จะแย่งไม้ แต่ฟ้าลดาตีไม่หยุด ตีๆๆๆ จนยาซะต้องยกมือป้องกันตัวเองเอาไว้ ไม่มีจังหวะยิงปืน ชมพูแพรหน้าตาตื่นทำอะไรไม่ถูก ฟ้าลดาฟาดจนยาซะเซ ทิ้งไม้แล้วรีบฉุดแขนชมพูแพรวิ่งหนีไปที่ริมแม่น้ำ
ฟ้าลดาสะดุดล้ม ชมพูแพรตกใจรีบหันมา
“ยัยฟ้า”
“พี่แพรหนีไป”
ยาซะโผล่ออกมา ทั้งสองตกใจ ฟ้าลดารีบผลักชมพูแพรออกไป
“หนีไปพี่แพร”
ชมพูแพรส่ายหน้ารีบเข้ามาประคองฟ้าลดาให้ลุกขึ้น ยาซะเดินเข้ามา ใกล้ถึงตัวฟ้าลดา
“พวกแกไม่รอดหรอก”
ทันใดนั้น สายชลกับหมอวัฒนาเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดี
“นางฟ้า!” สายชลตะโกนลั่น
ฟ้าลดากับชมพูแพรหันไป ยาซะรีบดึงฟ้าลดาเข้ามา จับล็อคคอเป็นตัวประกัน เอาปืนจ่อที่บริเวณหน้าอก ทุกคนชะงักไปอย่างตกใจ
“อย่าเข้ามา ไม่งั้นมันตาย”
สายชลเป็นห่วงฟ้าลดามาก รีบต่อรองกับยาซะ
“แกต้องการอะไร แกบอกฉัน ฉันให้แกได้ทุกอย่าง เพื่อแลกกับชีวิตนางฟ้า”
ยาซะหัวเราะสะใจ
“ฮ่าๆๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่แกขอร้องฉัน...คุกเข่า”
สายชลยังยืนนิ่ง ยาซะยิงไปบนพื้นใกล้ๆกับตรงที่เขายืน สายชลสะดุ้ง หมอวัฒนาจะเข้ามา ยาซะหันปืนไปทางหมอวัฒนา
“มึงไม่เกี่ยว ถอยไป”
หมอวัฒนาไม่กล้าทำอะไรวู่วาม ขยับถอยหลัง ยาซะหันปืนไปทางสายชล ที่ตัดสินใจยอมคุกเข่าลงบนพื้น ยาซะหัวเราะลั่น ลากฟ้าลดามายืนตรงหน้าสายชล แล้วใช้หลังปืนตบหน้าสายชลอย่างแรงจนหน้าหัน
“ปล่อยฉันนะ”
ฟ้าลดาพยายามดิ้น ยาซะรัดฟ้าลดาแน่นขึ้น
“หยุด!” ยาซะตวาด
“ฉันขอล่ะ อย่าทำอะไรนางฟ้า แกอยากได้อะไรจากฉันบอกมาเลย บอกมา”
สายชลอ้อนวอน ยาซะยิ้มเหี้ยม
“ชีวิตแก”
สายชลชะงัก
“ฉันต้องการชีวิตแก” ยาซะย้ำ
สายชลตอบทันทีด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ได้ ฉันจะให้ชีวิตฉันกับแก”
ชมพูแพรหันไปมองสายชล รู้เลยว่าเธอไม่มีทางแทนฟ้าลดาได้ เขารักฟ้าลดามากจริงๆ
“นางฟ้าคือชีวิตของฉัน ถ้านางฟ้าเป็นอะไร ฉันคงเจ็บยิ่งกว่าตัวฉันเป็น”
ฟ้าลดาน้ำตาคลอ สายชลหันไปมองฟ้าลดาแววตาเต็มไปด้วยความรัก
“สายชลรักนางฟ้านะ รักมากที่สุด ชาตินี้สายชลอาจจะไม่ได้อยู่กับนางฟ้า แต่สายชลจะอธิษฐานให้สายชลเกิดมารักนางฟ้าทุกชาติไป”
ฟ้าลดาน้ำตาไหล รับรู้ได้ถึงความรักที่สายชลมีให้เธอ
“เลิกน้ำเน่า แล้วก็เตรียมตัวตายได้แล้ว”
ยาซะหันปืนไปทางสายชล ฟ้าลดาได้จังหวะที่ยาซะไม่เอาปืนจ่อเธอ จึงกระทืบเท้ายาซะอย่างแรง ยาซะเสียจังหวะ
“อ๊าก!”
สายชลพุ่งเข้าไปแย่งปืนกับยาซะ หมอวัฒนาเข้าไปดึงฟ้าลดาออกมา ยาซะกับสายชลแย่งปืนกัน แล้วเสียงดังปังขึ้น ฟ้าลดาผงะ นึกตอนที่สายชลกับญาซะตู่สู้แย่งปืนกันที่เกาะมิน
ในอดีตนั้น...ปืนลั่นดังปัง สายชลกับยาซะมองหน้ากัน ฟ้าลดาลุ้นมากว่าใครโดนยิง แล้วสายชลกับยาซะก็ผละออกจากกัน สายชลก้มมองท้องตัวเองเห็นเลือดไหลออกมา ฟ้าลดาตกใจ รีบเข้าไปประคองสายชล
‘สายชล!’
สายชลไม่มีแรงยืน ทรุดเข่าลงกับพื้น ฟ้าลดาร้องไห้จะขาดใจ
‘สายชล...สายชล...’
ยาซะหัวเราะด้วยความสะใจ เข้ามาฉุดเธอให้ลุกขึ้นยืน เธอไม่ยอมไป
‘ปล่อยนะปล่อย...ปล่อยซิ...ปล่อย...’
สายชลจับมือฟ้าลดาไว้แน่น ยาซะหันไปเห็นหัวเสีย เข้ามากระทืบแขน สายชลไม่ยอมปล่อย ยาซะต่อยสายชล เลือดพุ่งออกจากปากร่วงลงกับพื้น ปล่อยมือ ฟ้าลดาร้องไห้
สติฟ้าลดากลับมา...เธอจะร้องไห้ พูดเสียงเบา
“สายชล”
ทางด้านสายชล กับยาซะผละออกจากกัน สายชลก้มมองมือตัวเองมีเลือดเต็มมือ เงยหน้าเห็นยาซะถูกยิงที่ท้อง
ยาซะหมดแรงที่จะยืน ล้มไปบนพื้นพร้อมกับปืนที่ตกลงข้างตัว ไม่นานสายชลได้สติ รีบหันไปทางฟ้าลดา แล้วเข้าไปกอดแน่น ชมพูแพรได้แต่มองด้วยความเจ็บปวด หมอวัฒนาหันไปมองชมพูแพรด้วยความเห็นใจ
ทันใดนั้นยาซะฟื้นขึ้นมา หยิบปืนที่ตกข้างตัว หันไปมองชมพูแพร
“เพราะแกคนเดียวนังชมพูแพร”
ยาซะยกปืนขึ้นมาเล็งไปทางแพร ฟ้าลดาเห็นยาซะกำลังจะยิงพี่สาวก็รีบผละออกจากสายชล แล้วเอาตัวเข้าไปขวาง
“พี่แพรระวัง”
ยาซะยิงเปรี้ยง!
กระสุนเข้าหว่างอก ฟ้าลดาผงะ ชมพูแพรแทบช็อคที่น้องสาวรับกระสุนแทนเธอ สายชลกับหมอวัฒนาตกใจ
ทันใดนั้นสหัสก็พาตำรวจเข้ามา
ตำรวจยิงยาซะเปรี้ยง!นัดเดียวตายคาที่...
ฟ้าลดากำลังจะล้ม สายชลรีบถลาเข้ามารับไว้ในอ้อมกอด ตะโกนเรียกเสียงดังลั่น
“นางฟ้า”
สายชลประคองฟ้าลดาที่กำลังจะหมดสติ ชมพูแพรตกใจมาก
“ยัยฟ้า!”
ชมพูแพรจะเป็นลม หมอวัฒนารีบเข้ามากอดชมพูแพรเอาไว้...สายชลน้ำตารื้นขึ้นมา
“นางฟ้า...”
ฟ้าลดามองหน้าสายชลน้ำตาคลอ รู้สึกเจ็บปวด และรู้แล้วว่าเธอรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นสายชลหรือชาร์ล
ฟ้าลดากลัวตายแล้วจะไม่ได้เจอสายชล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวหมดสติ แขนตกลงข้างตัว สายชลแทบบ้า ตะโกนลั่น...
“นางฟ้า...”
+ + + + + + + + + + + +
เจ้าหน้าที่เข็นเตียงฟ้าลดา ไปตามทางในโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว สายชล กับชมพูแพร วิ่งตามมาข้างๆ สหัสกับหมอวัฒนาวิ่งตามมาข้างหลัง
“นางฟ้าอย่าเป็นอะไรนะ ได้โปรดอย่าเป็นอะไรนางฟ้า” สายชลกุมมือฟ้าลดาแน่น
ชมพูแพรน้ำตาไหล
“ฟ้า...ฟ้า...”
เจ้าหน้าที่เข็นฟ้าลดาเข้าห้องผ่าตัด สายชลจำต้องปล่อยมือ สายตาของเขามองตามเธอไปจนกระทั่งประตูปิด หมอวัฒนาโอบชมพูแพรปลอบใจ สหัสเข้ามาจับบ่าสายชลที่หน้าแย่มากๆ
ค่ำคืนนั้น...
หน้าห้องผ่าตัด สายชลนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา สหัสอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ หมอวัฒนากับชมพูแพรนั่งอยู่ด้วย ชมพูแพรเศร้ามาก
หลังจากรอกันอยู่นาน หมอออกมาที่หน้าห้อง ทุกคนที่รออยู่รีบเข้าไปหา
“อาการคนไข้ยังไม่ปลอดภัย กระสุนโดนจุดสำคัญ และคนไข้ก็เสียเลือดมาก หมออยากให้คุณเผื่อใจไว้บ้าง”
ทุกคนอึ้ง ชมพูแพรเสียใจมาก
“เป็นเพราะแพร แพรทำให้น้องเป็นแบบนี้”
ชมพูแพรร้องไห้อย่างหนักจนเป็นลม หมอวัฒนาตกใจ รีบประคอง ขณะที่สายชลทรุดลงอย่างหมดแรง...
กลางดึก...
ฟ้าลดาถูกนำออกจากห้องผ่าตัดไปในห้องไอซียู สายชลเข้าไปเยี่ยมยืนมองฟ้าลดาที่ให้ออกซิเจน สายระโยงระยางเต็มตัว หน้าซีดเซียว เขาบรรจงจับมือของเธอขึ้นมาแนบแก้ม น้ำตาไหลลงมาทันที ก่อนจะเอามืออีกข้างจับไปที่หัวของเธอแล้วพูดเสียงสั่น
“ความชั่วร้ายจงออกไป สิ่งดีดีจงเข้ามา ความชั่วร้ายจงออกไป สิ่งดีดี...จงเข้ามา...ความ...ชั่วร้าย จงออกไป สิ่งดี...ดี จงเข้ามา...”
สายชลทนไม่ไหวอีกต่อไป ร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เมื่อคิดว่าฟ้าลดาจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“นางฟ้า...ตื่นขึ้นมาเถอะ ตื่นขึ้นมาคุยกับสายชล อย่าทิ้งสายชลไปอีกเลยนะนางฟ้า นางฟ้าคือหัวใจอีกครึ่งนึงของสายชล เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ถ้าไม่มีนางฟ้า แล้วสายชลจะอยู่ได้ยังไง”
สายชลก้มหน้าจูบหน้าผากฟ้าลดา ก่อนจะผละออกมาร้องไห้หนักขึ้น...ซบหน้ากับมือฟ้าลดาร้องไห้แทบขาดใจ
ทางด้านชมพูแพรยังหมดสติ นอนอยู่อีกห้อง หมอวัฒนายืนกุมมือเธอไว้ตลอดเวลา ไม่นานเธอก็ฟื้นขึ้นมา
“ยัยฟ้า...”
ชมพูแพรรีบลุกขึ้นเลยทำให้มึนหัว หมอวัฒนาต้องประคองเอาไว้
“แพรจะไปหายัยฟ้า พี่หมอพาแพรไปหายัยฟ้าทีนะคะ”
ชมพูแพรส่งสายตาเว้าวอน หมอวัฒนาลังเล แล้วตัดสินใจพาเข้าไป ทั้งสองยืนอยู่หน้าห้อง มองฟ้าลดาที่นอนไม่ได้สติ สายชลยังเฝ้าอยู่ข้างๆ ชมพูแพรรู้สึกผิดอย่างมาก และเสียใจสุดๆ
“ถ้ายัยฟ้าเป็นอะไรขึ้นมา แพรจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเอง”
ชมพูแพรร้องไห้ หมอวัฒนาจับมือเธอไว้ ระหว่างนั้นพยาบาลเดินเข้ามาหาสายชล
“คุณคะ...ห้องไอซียูอยู่เฝ้าไม่ได้นะคะ”
สายชลรีบลุกขึ้นยืน
“ขอผมอยู่เถอะนะครับ”
“ไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนี้คนไข้ต้องระวังการติดเชื้อ การที่คุณอยู่ มันจะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น คนไข้อาจจะอาการแย่ลงนะคะ”
หมอวัฒนาเดินเข้ามาหา
“คุณชาร์ล...เชื่อพยาบาลเถอะนะครับ”
สายชลหันไปมองฟ้าลดาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
+ + + + + + + + + + +
เมื่อออกมาจากห้องไอซียู สายชลหันมาทางหมอวัฒนา กับชมพูแพรที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ผมจะนั่งเฝ้านางฟ้าอยู่ที่นี่ครับ ถ้านางฟ้าฟื้นขึ้นมา ผมอยากให้เธอเห็นผมเป็นคนแรก”
หมอวัฒนากำลังจะห้าม แต่สายชลชิงพูดก่อน
“หมอกลับไปเถอะ ถ้ามีอะไร ผมจะโทรบอก”
หมอวัฒนาหันมาทางชมพูแพร
“แพรไม่กลับ แพรจะอยู่รอจนกว่ายัยฟ้าจะฟื้นขึ้นมาเหมือนกัน”
สายชลปรายตามองชมพูแพรไม่พูดอะไร หมอวัฒนาถอนหายใจ
“ผมรู้ว่านะครับว่าพวกคุณเป็นห่วงน้องฟ้า แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าน้องฟ้าจะรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมมั่นใจว่าไม่ใช่วันนี้แน่นอน น้องฟ้าแย่ไปคนหนึ่งแล้วนะครับ พวกคุณควรจะรักษาตัวเองให้ดี”
“ยังไงผมก็ไม่กลับ คุณหมอพาคุณแพรกลับไปเถอะ”
สายชลไม่มองหน้าชมพูแพร หันหลังจะเดินไปนั่ง ชมพูแพรรีบเดินมาตรงหน้า สายชลชะงัก หมอวัฒนาตกใจว่าเธอจะทำอะไร
“แพรรู้ว่าคุณเกลียดแพร เพราะแพรทำให้ยัยฟ้าเป็นแบบนี้ แพรเองก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน เกลียด...ที่ตัวเองให้อารมณ์มาอยู่เหนือสติ จนทำให้ยัยฟ้าเป็นตายเท่ากัน”
ชมพูแพรน้ำตารื้นขึ้นมา
“ถ้าเป็นไปได้ แพรก็อยากเป็นคนที่อยู่ในห้องนั้นแทนยัยฟ้า...แพรอยากอยู่ที่นี่ อยากอยู่รอจนกว่ายัยฟ้าจะฟื้น ตอนนี้แพรรู้แล้วว่ายัยฟ้ารักแพรมากขนาดไหน”
สายชลหน้านิ่ง
“คำพูดนี้ คุณควรจะเก็บไว้พูดกับนางฟ้า ไม่ใช่ผม”
สายชลเดินเลี่ยงไปนั่งไกลๆ ชมพูแพรมองสายชลอย่างเสียใจ หมอวัฒนาเข้ามาจับไหล่ชมพูแพร แล้วพาเดินมานั่งอีกฝั่ง ชมพูแพรหันไปมองสายชลอย่างรู้สึกผิดมาก สายชลไม่มองใคร เอนหัวพิงกำแพงอย่างคนสิ้นหวัง
(อ่านต่อ หน้า 3)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 21 (ต่อ)
เช้าวันใหม่สายชลหัวพิงกำแพงหลับอยู่ ชมพูแพรนอนซบไหล่หมอวัฒนาที่นอนหลับเช่นกัน ระหว่างนั้นป้าเนียมเดินเข้ามาหา
“คุณแพร คุณหมอ”
ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตื่นเห็นป้าเนียม
“มาได้ยังไงคะ” ชมพูแพรแปลกใจ
“ผมโทรบอกป้าเนียมเองแหละครับ เพราะผมรู้ว่าคุณกับคุณชาร์ล ไม่มีทางยอมกลับบ้านแน่ๆ” หมอวัฒนาบอก
“ป้าเอาโจ๊กแล้วก็เสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนค่ะ แล้วนี่คุณฟ้าเป็นไงบ้างคะ”
“ยังไม่ฟื้นเลย”
ป้าเนียมหน้าเศร้า...พนมมือ
“คุณท่านทั้งสองช่วยคุ้มครองคุณฟ้าด้วยนะคะ”
ป้าเนียมหันไปเห็นสายชลก็เดินเข้าไปหา
“คุณชาร์ล”
สายชลขยับตัวหันมาเห็นป้าเนียมก็ชะงัก
“ป้าเอาเสื้อมาให้คุณเปลี่ยนน่ะค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
สายชลหันไปสบตากับชมพูแพรพอดี ทั้งคู่ชะงักกันไป สักครู่ตำรวจเดินเข้ามา ทั้งหมดหันไปเห็น ชมพูแพรหน้าถอดสี รู้สึกหวาดกลัว ตำรวจเห็นสายชลเลยเดินไปหา สายชลลุกขึ้นยืน
“คุณชาร์ลครับ พอจะมีเวลาซักครู่มั๊ยครับ ผมอยากสอบปากคำถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้”
“ได้ครับ ต้องไปที่สถานีตำรวจรึเปล่า”
“ไม่ต้องครับ ผมขอใช้ห้องที่โรงพยาบาลเอาไว้ เชิญครับ”
ตำรวจกับสายชลเดินผ่านชมพูแพร เธอหลบตาเพราะกลัว สายชลเดินตามตำรวจออกไป ชมพูแพรเงยหน้ามองตามอย่างกังวลใจ
เวลาผ่านไป สายชลเดินออกมากับตำรวจ ชมพูแพรกับหมอวัฒนาหันไปมอง
“ขอบคุณมากนะครับ คำให้การของคุณเป็นประโยชน์กับรูปคดีมาก ผมไปนะครับ”
สายชลยิ้ม ตำรวจหันไปทางหมอวัฒนากับชมพูแพรที่ใจเต้นมาก ตำรวจผงกหัวลา หมอวัฒนายิ้มให้ ตำรวจเดินออกไป ชมพูแพรแปลกใจหันไปทางสายชล
“ผมให้การไปว่ายาซะกับผมเคยทะเลาะกันมาก่อน มันรู้ว่าผมกับนางฟ้ารักกัน มันก็เลยมาลักพาตัวนางฟ้าเพื่อแก้แค้น”
ชมพูแพรมองสายชลอย่างอึ้งๆที่เขาช่วยเธอ
“นี่คุณช่วยแพรเหรอคะ”
สายชลมองนิ่ง
“ผมไม่ได้ช่วยคุณ ผมช่วยนางฟ้า นางฟ้ารักคุณมาก เขาคงไม่ต้องการให้พี่สาวเพียงคนเดียวของเขาต้องเป็นอะไรไป ถ้านางฟ้าอยู่ตรงนี้ นางฟ้าก็ต้องทำแบบเดียวกับผม”
ชมพูแพรน้ำตาคลอ
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ แล้วก็ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”
สายชลหน้าสลดลง
“ผมเองก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกัน ที่ผมใช้คุณเป็นเครื่องมือ การผูกพยาบาท เป็นการจองเวรที่ไม่มีวันสิ้นสุด ทำให้เราไม่มีความสุขเลยซักนิด”
ชมพูแพรพยักหน้าเห็นด้วย สายชลกับชมพูแพรยิ้มให้กัน หมอวัฒนายิ้มด้วยความสบายใจ
ในห้องไอซียู หมอตรวจอาการฟ้าลดาแล้วพอใจ ก่อนจะหันมาบอกสายชล หมอวัฒนา และชมพูแพรที่รอฟังอยู่...
“ผมดีใจด้วยนะครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ผมต้องขอดูอาการเธออีกสักพักนะครับ”
สายชลรีบถามอย่างร้อนใจ
“แล้วนางฟ้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ครับ”
“ข้อนี้ผมตอบไม่ได้ มันขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของคนไข้ แต่พวกคุณไม่ต้องห่วง ผมมั่นใจว่าคนไข้ต้องฟื้นแน่นอน”
ทุกคนสบายใจ สายชลเข้าไปมองฟ้าลดาด้วยความดีใจ
สายชลอยู่เฝ้าฟ้าลดาต่อ ขณะที่หมอวัฒนากับชมพูแพร ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่กันแล้วพากันมาที่วัด
ชมพูแพรเอาแจกันดอกไม้มาวางตรงหน้าที่ เก็บอัฐิพ่อกับแม่ยกมือไหว้หน้าเศร้า รู้สึกผิด
“คุณพ่อคุณแม่แพรขอโทษนะคะ อโหสิกรรมให้แพรด้วย”
ชมพูแพรน้ำตาไหล ปาดน้ำตาแล้วก็ลุกขึ้น หันไปมองหมอวัฒนาที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองพากันเดินไปตามทางเดินในวัด
“เมื่อก่อนแพรคิดว่าไม่มีใครรักแพร แต่ความจริงแล้วแพรได้รับความรักจากทุกคน เพียงแต่แพรไม่รู้จักพอ ทำให้แพรทำเรื่องที่เลวร้ายที่สุดลงไป และถ้ายัยฟ้าเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ แพรคงเหมือนตายทั้งเป็น”
ชมพูแพรถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ได้พูดออกไป หมอวัฒนาจับมือเธอไว้...
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นอดีต สิ่งที่แพรต้องคิดถึงคือปัจจุบัน และอนาคต เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ยครับ...แพรอย่าเพิ่งปฏิเสธผมเลยนะ ผมอยากให้แพรรู้ว่าผมรักแพร วันแรกผมรักแพรยังไง วันนี้ก็มีแต่จะรักมากขึ้น ผมมั่นใจว่าความรักของผม จะทำให้แพรเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ”
ชมพูแพรนิ่งไป หมอวัฒนามองลุ้น สักครู่เธอก็ดึงมือออก หมอวัฒนาใจเสีย
“แพรขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่ยังรักแพร แต่แพรทำผิดกับพี่หมอไว้มากมายเหลือเกิน ถ้าจะให้แพรกลับไปคบกับพี่หมอ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แพรทำไม่ได้ แพรขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ผมไม่เคยโกรธแพร ผมจะรอแพรนะครับ ไม่ว่านานเท่าไหร่ ผมก็จะรอแพรตรงที่เดิม”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ต่างก็รู้สึกสบายใจขึ้น...
สายชลเซ็นเอกสารต่างๆ ที่สหัสเอามาให้อยู่ ร้านกาแฟในโรงพยาบาล
“ขอบใจนายมากที่ช่วยเหลือฉันทุกอย่าง นายทำเกินหน้าที่มากไปแล้วรู้มั้ย”
สหัสยิ้ม
“สิ่งที่ผม...ผมไม่ได้ทำเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ ผมทำด้วยความเต็มใจ คุณชาร์ลก็เป็นเหมือนน้องชายผมคนนึงนั่นแหละครับ”
สายชลชะงัก สหัสหน้าเสีย
“เออ ผมคงจะพูดมากไปผมขอโทษ”
สายชลยิ้มตบบ่าสหัส
“ฉันก็เห็นนายเป็นพี่ชายเหมือนกัน...พี่ชาย”
สายชลกับสหัสยิ้มให้กัน แล้วสายชลก็เห็นจดหมายลาออกของเพลินตา
“ยัยตาจะกลับอเมริกาเมื่อไหร่”
สหัสหน้าจ๋อย
“พรุ่งนี้ครับ”
“นายไปส่งพวกเขาที่สนามบินด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ”
สายชลมองสหัสแปลกใจ
“เป็นอะไร”
“เปล่าครับ”
“เปล่าอะไร...อยู่ดีดีก็ซึม”
สหัสพูดไม่ออก สายชลมองสงสัย แล้วก็นึกอะไรได้
“อย่าบอกนะว่านายเสียใจ ที่ยัยตาจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
สหัสถอนหายใจ
“มันรู้สึกใจหาย ยังไงก็ไม่รู้”
สายชลยิ้มมองอย่างรู้ใจ
“ถ้านายไม่อยากให้เขากลับ นายต้องรั้งเขาเอาไว้ให้ได้ นายยังมีโอกาส อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป นายจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจตลอดชีวิต”
สหัสมองสายชลอย่างครุ่นคิด
เสียงกดออดหน้าบ้านดังขึ้น เพลินตากับพิสมัยเดินออกมาดูว่าใครมา แล้วก็เห็นว่าสหัสยืนอยู่
“นายสาหัส”
เพลินตากับพิสมัยมองหน้ากันด้วยความสงสัย แล้วเดินออกมาพร้อมกัน
“นายมาทำไม” เพลินตาถามเสียงเข้ม
“เออ...”
สหัสอึกอัก...เหล่มองไปที่พิสมัย
“ไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วย”พอสมัยถามทันที
สหัสรีบตอบทันที
“ใช่ครับ”
พิสมัยสะดุ้ง
“แต่ฉันจะอยู่”
สหัสหันไปมองเพลินตา
“คุณแน่ใจนะว่าจะให้แม่คุณอยู่”
เพลินตาหงุดหงิด
“นี่แม่ฉัน...ทำไมฉันต้องไม่แน่ใจ มีอะไรก็คุยมาเร็วๆ สั้นๆ เพราะฉันยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จ”
สหัสรวบรวมความกล้า
“ผมคิดว่าผมชอบคุณ”
เพลินตากับพิสมัยผงะ อ้าปากค้าง นิ่งงันไปทั้งแม่ทั้งลูก สหัสแปลกใจ
“คุณเพลินตา คุณพิสมัย”
เพลินตากับพิสมัยได้สติ เพลินตาโวยใส่ทันที
“ฉันจะไปอยู่แล้ว นายยังไม่เลิกยั่วโมโหฉันอีกเหรอ”
“ผมพูดจริง”
พิสมัยมองไม่เชื่อ
“ไม่มีทาง แกจะมาชอบลูกสาวฉันได้ยังไง”
“ผมยอมรับว่าตอนแรกผมไม่ชอบคุณ เพราะว่าคุณพูดมาก”
เพลินตาสะดุ้ง สหัสพูดต่อ
“เรื่องเยอะ ชอบเถียง เกี่ยงงาน ไม่มีสาระ”
เพลินตาถึงกับหน้าม้าน พูดไม่ออก พิสมัยเองก็อึ้งไปเช่นกัน
“แต่หลังจากวันที่ผมรู้ว่าคุณกำลังจะกลับอเมริกา มันทำให้ผมรู้ว่า ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงคุณ ผมคงเหงา ถ้าไม่มีคนเรื่องมากอย่างคุณมาสั่งให้ผมทำโน่นทำนี่ ผมคงหว้าเหว่ ถ้าไม่มีคนคอยเถียงผม ผมคงเป็นใบ้ และถ้าไม่มีคนอย่างคุณที่ชอบทำตัวไร้สาระ ชีวิตผมคงขาดสีสัน ผมขาดคุณไม่ได้ครับคุณเพลินตา”
เพลินตาแทบจะระทวยตรงนั้น พิสมัยเองก็พูดไม่ออก สหัสเดินมาใกล้ประตู จ้องหน้าเพลินตาแววตาจริงใจสุดๆ
“ผมไม่ขอให้คุณเชื่อผมตอนนี้ แต่ผมอยากขอโอกาส ที่คุณเคยบอกว่าคุณอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ คุณอาจจะได้เจอใครบางคนที่รักคุณอย่างที่คุณเป็น ผมมั่นใจว่าผมคือผู้ชายคนนั้น”
สหัสมองเพลินตานิ่งนาน เพลินตาใจเต้นไม่เป็นส่ำ แล้วสหัสก็หันหลังเดินออกไปหน้าเศร้า พิสมัยมองเพลินตาอย่างรู้ว่าลูกคิดอะไร เพลินตาเห็นแม่มองก็รีบกลบเกลื่อนสีหน้า
“ไอ้หมอนั่นพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้นะคะแม่”
เพลินตารีบหันหลังจะเดินเข้าบ้าน พิสมัยครุ่นคิด แล้ว็ตัดสินใจเปิดประตู เพลินตาได้ยินเสียง หันมามองแปลกใจ
“นายสหัส”
สหัสหยุดเดิน หันมาเห็นพิสมัยเปิดประตูอยู่
“พูดมากขนาดนี้ ไม่คอแห้งเหรอ เข้ามาดื่มน้ำก่อนซิ”
สหัสอึ้งไปพัก เพลินตาก็หันมองแม่ด้วยความอึ้ง
“จะเข้ามามั๊ย” พิสมัยดุ
สหัสสะดุ้ง
“เออ...ครับ...ครับ”
สหัสยิ้มออกมาด้วยความดีใจ หันไปมองเพลินตาที่ดูเก้อๆเขินๆ พิสมัยมองสองคนแล้วก็อมยิ้ม สหัสรีบเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเพลินตาและพิสมัย
ในห้องไอซียู เจมส์ ธงไทย วีรเดช มามิ แป๊ะ และ จุ๊ ยืนอยู่ข้างเตียงฟ้าลดา ขณะที่สายชลยืนอยู่ตรงข้าม
“หมอบอกว่าวันพรุ่งนี้จะย้ายนางฟ้าเข้าไปอยู่ห้องปกติ” สายชลบอก
มามิดีใจ
“งั้นก็หมายความว่านางฟ้าใกล้จะฟื้นแล้ว”
สายชลส่ายหน้า
“ยังไม่ใช่เร็วๆนี้”
“แล้วหมอบอกรึเปล่าครับว่าฟ้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่” เจมส์ถามอย่างเป็นห่วง
“มันอยู่ที่ว่าร่างกายของนางฟ้าพร้อมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นนางฟ้าก็จะฟื้นเอง”
วีรเดชมองฟ้าลดาอย่างสงสาร
“ไอ้ฟ้าเอ๊ย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแท้ๆ นี่ถ้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณชาร์ลต้องรีบพาไปทำบุญเก้าวัด ทำสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาให้เจ้ากรรมนายเวรนะครับ อ้อ แล้วก็ทำบุญไปให้ไอ้คนที่มันจับนางฟ้าไปด้วย อโหสิให้เขา จะได้ได้บุญเยอะๆนะครับ”
“ครับ”
วีรเดชหันไปบอกทุกคน
“พี่ว่าพวกเรากลับกันได้แล้ว ไอ้ฟ้าจะได้พักผ่อน”
ธงไทยเข้าไปจับเตียง
“หายเร็วๆนะฟ้า”
แป๊ะหันไปลาสายชล
“แป๊ะกับจุ๊ไปนะพี่ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่”
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ”
ทุกคนพยักหน้าแล้วก็เดินออกไป สายชลเอื้อมมือมาลูบหัวฟ้าลดา เจมส์หันไปมองเห็นความห่วงใยของสายชลที่มีต่อฟ้าลดาก็จ๋อยๆ มามิหันไปเห็นสีหน้าเจมส์
ในร้านกาแฟ เจมส์นั่งหน้าเศร้า อกหัก ระหว่างนั้นมามิเอากาแฟมาให้
“กาแฟดำรสเข้ม ดื่มแล้วรับรองหายอกหัก”
เจมส์หันขวับ มามินั่งลง
“พูดอะไร”
มามิยิ้มๆ
“ไม่ต้องมาปิดฉันหรอก ฉันรู้ว่าพี่เจมส์ชอบนางฟ้า”
เจมส์อึ้งหน้าถอดสี
“เธอรู้ได้ไง”
“ทำไมฉันจะไม่รู้ แววตาที่พี่เจมส์มองนางฟ้ามันปิดไม่มิด”
“ตอนนี้ฉันกำลังพยายามตัดใจ”
“ถ้าพี่เจมส์อยากตัดใจจากนางฟ้าได้เร็วๆ ฉันมีวิธี”
เจมส์สนใจ
“อะไร”
มามิยื่นหน้ามาตรงหน้าเจมส์
“มาชอบฉันแทนไง”
เจมส์อึ้งรีบลุกขึ้นยืนหันหลัง
“อย่ามาพูดเล่น”
มามิลุกเดินมาตรงหน้า
“ไม่ได้พูดเล่น พูดจริง ฉันชอบพี่ ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว ตกลงเอาไง พี่คิดว่าพี่จะชอบฉันได้รึเปล่า”
“ให้ตอบตอนนี้เนี่ยนะ”
“เออ...ตอบมาเลย ฉันไม่อยากรักใครข้างเดียวอีกแล้ว ถ้าพี่มั่นใจว่าพี่ไม่มีทางชอบฉัน ฉันจะได้ไปหาคนอื่น”
เจมส์นิ่งอึ้งพูดไม่ออก มามิจ้องหน้า
“ว่าไง”
“ถ้าต้องการคำตอบตอนนี้ ฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่ชอบเธอ”
มามิจ๋อยไปเลย
“แต่!”
มามิชะงัก
“ถ้าหลังจากวันนี้ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ฉันว่าฉันน่าจะชอบเธอได้ไม่ยาก”
มามิยิ้มเพราะมีลุ้น
“จริงนะ”
เจมส์พยักหน้า
“อื้อ”
“อย่าหลอกกันนะ”
“อื้อออออ”
มามิดีใจสุดๆ กระโดดกอดเจมส์ คนทั้งร้านหันมามอง เจมส์ยิ้มด้วยความเขิน รีบแกะมือมามิออก มามิหันไปเห็นคนมองก็ยิ้มเขินไปอีกคน
ค่ำคืนนั้น ป้าเนียมตุ๋นน้ำซุป แหวนยื่นหน้ามาข้างๆ
“หอมจังป้า อะไรอ่ะ”
“ไก่ดำตุ๋นยาจีน พรุ่งนี้ข้าจะฝากคุณแพรเอาไปให้คุณฟ้า”
“แล้วคุณฟ้าทานได้แล้วเหรอป้า”
ป้าเนียมนึกได้
“เออจริงด้วย โธ่เอ๊ย...ข้าก็ลืมนึกไป”
“ป้าไม่ต้องห่วงว่ามันจะเสียของ เพราะว่าฉันจะกินเอง”
แหวนหยิบทัพพีจะตักกิน เจอป้าเนียมตีมือเพียะ แหวนสะดุ้ง
“โอ๊ย! ป้าอ่ะ เจ็บนะ”
แหวนเหลือบไปเห็นชมพูแพรยืนอยู่ก็ชะงัก
“เมื่อไหร่ป้ากับแหวนจะเลิกทะเลาะกันซักที”
ป้าเนียมหันไปเห็นชมพูแพรก็ตกใจ
“คุณแพรลงมาที่ครัวทำไมคะ”
“แพรมีเรื่องอยากคุยกับป้าค่ะ”
ป้าเนียมแปลกใจ ชมพูแพรเหล่แหวน แหวนรู้ตัว
“เออ...แหวนนึกได้ว่ายังไม่ได้ปิดบ้าน แหวนไปปิดบ้านก่อนนะคะ”
แหวนออกไป ชมพูแพรเดินมาหาแล้วก็โผกอด ป้าเนียมตกใจ
“แพรขอโทษนะคะที่แพรเคยพูดไม่ดี แล้วก็ทำตัวไม่ดีกับป้า ทำให้ป้าต้องเสียใจ ทั้งๆที่ป้ารักแล้วก็ดูแลแพรมาตั้งแต่เด็กๆ ป้าอย่าโกรธแพรนะ”
ป้าเนียมน้ำตาไหล กอดแพรตอบ
“ป้าไม่โกรธคุณหรอกค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงคุณก็ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆที่น่ารักในสายตาของป้าเสมอ”
ชมพูแพรผละออกมายิ้มทั้งน้ำตา ป้าเนียมเองก็ร้องไห้ แล้วก็เช็ดน้ำตาให้ ชมพูแพรเช็ดน้ำตาให้ป้าเนียมบ้าง สองคนกอดกันอีก
(อ่านต่อหน้า 4)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 21 (ต่อ)
วันรุ่งขึ้น สายชลเช็ดตัวให้ฟ้าลดา เช็ดไปก็พูดไป
“สายชลจะเล่าเรื่องของเราให้นางฟ้าฟัง พอนางฟ้าฟื้นขึ้นมา นางฟ้าจะได้จำสายชลได้”
สายชลมองฟ้าลดาด้วยความรัก แล้วเล่าโดยเริ่มจาก ช่วงที่อยู่ด้วยกันที่เกาะมินตั้งแต่เจอกันครั้งแรก...ฟ้าลดาก่อความวุ่นวาย...ฟ้าลดาแก้ผ้าลงไปอาบน้ำกับสายชลที่น้ำตก...ตอนประกวดธิดาเจ้าสมุทร ตอนเต้นฮาวาจนถึงตอนแต่งงานกัน...
หลายวันต่อมา ฟ้าลดาสีหน้าดีขึ้นทุกๆวัน สายชลคอยดูแลเธออย่างดี คอยพลิกตัวให้ นวดแขน นวดขา ฟังเพลงด้วยกันโดยเอาหูฟังใส่หูตัวเองข้างหนึ่งใส่หูฟ้าลดาข้างหนึ่ง...
ค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่สายชลกำลังหวีผมให้ฟ้าลดา ระหว่างนั้นพยาบาลเดินเข้ามา
“ถึงเวลาฉีดยาแล้วค่ะ”
สายชลพยักหน้ายิ้มรับ หลีกทางให้พยาบาลเอายาฉีดตรงสายน้ำเกลือ ครู่หนึ่ง พยาบาลหันมาบอก...
“ภรรยาคุณสีหน้าดีขึ้นมากเลยนะคะ”
“แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้นขึ้นมานะครับ”
“คุณเคยลองกอดภรรยาเหรอยังคะ”
สายชลแปลกใจ
“กอด”
พยาบาลยิ้ม
“ค่ะ เขาบอกว่าการกอด เป็นยาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอ้อมกอดจากคนที่เรารัก ลองดูนะคะ”
พยาบาลพูดจบก็เดินออกไป สายชลหันไปมองฟ้าลดา ค่อยๆพยุงเธอขึ้นมา แต่ไม่ถนัด เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วตัดสินใจขึ้นไปนอนบนเตียงกับเธอ เอาแขนข้างหนึ่งสอดไปข้างใต้ตัวเธอแขนอีกข้างกอดเอาไว้
เช้าวันใหม่ ฟ้าลดาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ยังเบลอๆงงๆ หันไปเห็นสายชลกอดตัวเองอยู่ก็ชะงักมองเขาอย่างรู้สึกดี สักครู่สายชลขยับตัวตื่น เห็นฟ้าลดาลืมตาก็ดีใจมาก
“นางฟ้าฟื้นแล้ว”
สายชลรีบลุกจากเตียง แล้ววิ่งออกไปเปิดประตู ตะโกนเรียกหาหมอ
“หมอ...หมออยู่ไหนหมอ เมียผมฟื้นแล้ว เมียผมฟื้นแล้ว”
ฟ้าลดามองสายชลแล้วก็ยิ้มออกมา หมอเข้ามาตรวจฟ้าลดา แล้วหันไปบอก...
“อาการคุณฟ้าลดาดีขึ้นมาก อยู่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวัน ก็น่าจะกลับบ้านได้ครับ”
สายชลยิ้มดีใจ
“ขอบคุณมากครับ”
หมอเดินออกไป สายชลเดินมาหาฟ้าลดา สองคนมองหน้ากัน ฟ้าลดาดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง สายชลกำลังจะจับมือเธอ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร ชมพูแพรกับหมอวัฒนาก็เข้ามา
“ยัยฟ้า!” ชมพูแพรดีใจ
สายชลรีบดึงมือกลับ ฟ้าลดาหันไปมอง
“พี่แพร”
ชมพูแพรเข้ามากอดฟ้าลดา ทำให้สายชลต้องถอยออกไป หมอวัฒนาเข้ามาสะกิด
“เราออกไปข้างนอกกันดีกว่าครับ”
สายชลพยักหน้า มองฟ้าลดาเสียดายนิดๆเพราะอยากอยู่กับฟ้าลดาสองคน
เมื่ออยู่กันตามลำพัง ชมพูแพรจับมือฟ้าลดาอย่างรู้สึกผิด
“พี่ขอโทษ ขอโทษที่พี่คิดทำร้ายฟ้า เพราะความเห็นแก่ตัวของพี่ ทำให้พี่ขาดสติ ทำเรื่องเลวร้ายกับน้องสาวเพียงคนเดียวของพี่ ฟ้าอภัยให้พี่ได้มั๊ย”
“พี่แพรไม่จำเป็นต้องขอโทษฟ้า ฟ้าเข้าใจพี่แพรทุกอย่าง และฟ้าไม่เคยโกรธพี่แพรเลยค่ะ”
ชมพูแพรดีใจมากลุกขึ้นกอดน้องสาว สองพี่น้องกอดกันแน่น สักครู่ชมพูแพรก็ผละออกมา เอากระเป๋ามาเปิดแล้วหยิบสร้อยที่สายชลให้ฟ้าลดาออกมา
“พี่เอาสร้อยมาคืน “
ชมพูแพรเอาสร้อยใส่มือฟ้าลดา
“สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่คุณชาร์ลให้ฟ้า ตอนที่ฟ้ากับคุณชาร์ลแต่งงานกันที่เกาะมิน คุณชาร์ลเก็บมันเอาไว้ตลอด...เผื่อซักวันเขาจะเจอนางฟ้าของเขา และมันก็ถึงเวลาแล้วที่สร้อยจะได้อยู่กับเจ้าของของมัน”
ฟ้าลดาเอาสร้อยขึ้นมาดู รู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ
สายชลเดินไปเดินมาหน้าห้องพักคนไข้ หมอวัฒนามองตามสายชลแปลกใจ
“คุณชาร์ลเดินไปเดินมานานแล้วนะครับ เป็นอะไรรึเปล่า”
สายชลหยุดเดินหันมา
“คุณแพรคุยกับคุณฟ้านานจังเลยนะครับ”
“ก็คงมีเรื่องคุยกันเยอะแหละครับ”
สายชลพยักหน้า แล้วก็นั่งลง พลางถอนหายใจ
“คุณชาร์ลเป็นอะไรกันแน่ บอกผมมาเถอะครับ”
สายชลหันไป
“ผมอยากรู้ว่านางฟ้าจำผมได้รึเปล่า เมื่อกี๊ผมกำลังจะถามแต่คุณแพรกับคุณหมอมาซะก่อน”
หมอวัฒนายิ้ม
“ใจเย็นครับคุณชาร์ล คุณมีเวลาคุยกับน้องฟ้าอีกนาน ผมรับรองว่าน้องฟ้าไม่หนีคุณไปไหนอีกแน่ๆ”
หมอวัฒนาพยักหน้าให้ความมั่นใจ สายชลพยักหน้ารับสบายใจขึ้น
ทางด้านชมพูแพร ยังคุยอยู่กับฟ้าลดา...
“ฟ้ายังจำเรื่องที่เกาะมินไม่ได้เหรอ”
“จำได้ไม่ทั้งหมดค่ะ ฟ้าเห็นภาพ...ไม่ปะติดปะต่อ แต่ฟ้ารู้สึกบางอย่างกับคุณชาร์ล”
“ความรู้สึกนั้น คือความรักใช่มั๊ย”
ฟ้าลดานิ่งไปพักแล้วก็พยักหน้า ชมพูแพรยิ้มดีใจ
“ถ้างั้นฟ้าก็บอกคุณชาร์ลเลยซิ”
“ฟ้า...เออ ฟ้าไม่รู้จะพูดยังไง”
“คำว่ารัก มันพูดง่ายมากนะฟ้า”
ฟ้าลดาลำบากใจ รู้สึกเขินๆ
หน้าห้องพัก สายชลหันมาทางหมอวัฒนา
“หมอว่านางฟ้าจะจำทุกอย่างได้เหรอยัง”
“ผมว่าน้องฟ้าคงจำได้บ้าง แต่อาจจะไม่ทั้งหมด”
“แล้วหมอว่านางฟ้า จะกลับมารักผมอย่างเดิมมั้ย”
หมอวัฒนายิ้ม
“อันนี้ผมตอบไม่ได้ คุณต้องถามน้องฟ้าเอง”
สายชลถอนใจ แล้วชมพูแพรก็เดินออกมา สายชลกับหมอวัฒนารีบลุกเดินมาหา
“แพรกับยัยฟ้า...เราเข้าใจกันแล้วค่ะ”
หมอวัฒนากับสายชลยิ้มดีใจ
“ดีใจด้วยนะครับ ถ้างั้นผมขอเข้าไปหานางฟ้านะครับ”
“ยัยฟ้าหลับไปแล้วค่ะ”
สายชลผงะ ชมพูแพรยิ้มๆ
“แล้วคืนนี้แพรจะอยู่เฝ้ายัยฟ้าเอง คุณชาร์ล กลับไปพักเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมอยู่ด้วยนะครับ ผมนอนตรงนี้ก็ได้”
สายชลหันไปที่โซฟาหน้าห้อง ชมพูแพรกับหมอวัฒนามองหน้ากัน ไม่พูดอะไร
ค่ำคืนนั้น ฟ้าลดาตื่นขึ้นมา หันมาเห็นสายชลนั่งอยู่ข้างๆ ก็ชะงัก สายชลยิ้มให้
“นางฟ้า...”
ฟ้าลดามองหาชมพูแพร
“พี่แพร...”
“คุณแพรไปทานข้าว นางฟ้าจะเอาอะไร”
“น้ำ...”
สายชลรีบเอาน้ำมาให้ดื่ม ฟ้าลดาปากเลอะ สายชลก็เช็ดให้
“นางฟ้ายังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า”
“นิดหน่อย”
“แล้วนางฟ้าจำอะไรได้บ้างมั๊ย”
แววตาสายชลมีความหวังมากๆ ฟ้าลดายังไม่ทันตอบ ชมพูแพรก็เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอยัยฟ้า”
ฟ้าลดาพยักหน้า สายชลเซ็งที่ชมพูแพรกลับมาเร็ว เลยเดินไปนั่งที่โซฟามองฟ้าลดาห่างๆ
เช้าวันใหม่ สายชลนอนอยู่บนโซฟา ชมพูแพรออกมาจากในห้อง เห็นสายชลก็เข้ามาปลุก
“คุณชาร์ล”
สายชลสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นนั่ง
“นางฟ้าเป็นอะไรครับ”
“ยัยฟ้าไม่ได้เป็นอะไรคะ แพรจะฝากคุณชาร์ลเข้าไปอยู่ข้างในที แพรจะลงไปซื้อของข้างล่าง”
สายชลยิ้ม
“ได้ครับ”
ชมพูแพรเดินออกไป สายชลสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไป แล้วเข้าไปในห้อง เห็นฟ้าลดานอนหลับก็อมยิ้ม แล้วก็ลากเก้าอี้แบบที่ปรับเอนนอนได้ มานั่งข้างเตียงรู้สึกยังง่วงอยู่
สายชลเปิดทีวี เสียงดังมากเขาตกใจ รีบกดลดเสียง หันไปมองฟ้าลดายังหลับอยู่ก็ถอนหายใจโล่งอก สายชลเอาหัวพิงพนักเก้าอี้ หาว แล้วตาก็ค่อยๆปิดหลับไป...
ฟ้าลดารู้สึกตัว หันมาลืมตาเห็นสายชลนอนอยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นมานั่งมองเขานิ่งนาน มองอย่างที่คนรักมองกัน พลันเสียงมือถือของสายชลดังขึ้น ฟ้าลดาตกใจแกล้งหลับต่อ สายชลสะดุ้งตื่น หยิบมือถือออกมากดปิดเสียง หันไปมองฟ้าลดาเห็นยังหลับก็โล่งใจ รีบเดินออกไปรับสาย
“ฮัลโหล...พรุ่งนี้เครื่องบินโบอิ้งที่เราซื้อจะมาส่ง นายก็ไปดูแทนฉันแล้วกัน ฉันต้องดูแลนางฟ้า...ไม่ได้เหรอ ฉันต้องไปด้วยตัวเอง พรุ่งนี้กี่โมง”
ฟ้าลดาลืมตาได้ยินทุกอย่างครุ่นคิด
วันต่อมา ฟ้าลดาให้ชมพูแพรพาออกจากโรงพยาบาล มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กโดยที่สายชลไม่รู้ ป้าเนียมกับแหวนประคองฟ้าลดามานั่ง
“ค่อยๆนะคะคุณฟ้า”
“แหวนสวดมนต์ให้คุณฟ้าทุกคืนเลยนะคะ ดีใจสุดๆที่คุณฟ้ากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”
ฟ้าลดายิ้ม
“ขอบใจนะแหวน”
ชมพูแพรถือกระเป๋าตามมาวาง
“ป้าเนียมดุยัยฟ้าให้แพรหน่อยเถอะค่ะ ไม่รู้จะรีบกลับมาทำไม ร่างกายยังไม่แข็งแรง”
“ฟ้าไม่อยากนั่งๆนอนๆอยู่ที่โรงพยาบาลนี่คะ...พี่แพร พี่แพรช่วยพาฟ้าไปที่ที่หนึ่งได้มั๊ยคะ”
ชมพูแพร ป้าเนียม แหวน มองฟ้าลดาด้วยความสงสัย
หมอวัฒนาทำหน้าที่ขับรถ ขณะที่ชมพูแพรนั่งข้างๆ ส่วนฟ้าลดานั่งอยู่ด้านหลัง
“ตอบมาได้หรือยังว่า...ทำไมเราถึงไม่ให้พี่บอกคุณชาร์ลว่า เราออกจากโรงพยาบาลแล้ว รู้มั๊ยว่าคุณชาร์ลเค้าเป็นห่วงเรามากแค่ไหน”
ชมพูแพรถาม ฟ้าลดาหน้าสลด
“ฟ้ารู้ค่ะ ที่ฟ้าอยากไปทะเล เพราะว่าทะเลเป็นที่ที่ความรักของฟ้ากับสายชลเริ่มต้น ฟ้าอยากจำเรื่องราวของเราให้ได้ทั้งหมด ฟ้ารู้สึกว่าถ้าฟ้าจำไม่ได้ แล้วฟ้าบอกรักสายชล มันเหมือนฟ้าเอาเปรียบเขา เพราะความรักของสายชลที่มีให้ฟ้ามันช่างมากมายเหลือเกิน”
“โธ่...ยัยฟ้า”
ฟ้าลดาหันไปมองนอกหน้าอย่างต่างเศร้าสร้อย หมอวัฒนากับชมพูแพร หันมามองหน้ากันด้วยความกลุ้มใจ
บ่ายวันนั้น หมอวัฒนาขับรถมาจอดหน้าบ้านริมทะเล ทั้งสามคนลงจากรถ ฟ้าลดาหิ้วกระเป๋า ค่อยๆเดินเข้าไปในบ้าน ชมพูแพรจะตามเข้าไป หมอวัฒนารั้งแขนเอาไว้
“ผมว่าเราต้องช่วยคุณชาร์ล ขืนรอให้น้องฟ้าจำทุกอย่างได้ ก็ไม่รู้ว่าคุณชาร์ลต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่ ตอนนี้ความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับน้องฟ้าแล้วก็คุณชาร์ลอีกแล้ว สิ่งสำคัญก็คือน้องฟ้ารักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเค้าจะเป็นชาร์ล หรือว่าสายชล”
ชมพูแพรมองหมอวัฒนาเห็นด้วย และตัดสินใจโทรบอกให้สายชลรู้...
ฟ้าลดาเดินออกมาจากในห้อง ไม่เห็นชมพูแพรกับหมอวัฒนา แต่เห็นกระดาษโน้ตที่วางบนโต๊ะ จึงหยิบขึ้นมาอ่าน
“พี่กับพี่หมอออกไปตลาด”
“ไม่รอเราเลย” ฟ้าลดาวางกระดาษลงที่เดิม
ทางด้านหมอวัฒนากับชมพูแพร เดินมาด้วยกันที่ชายหาดอีกด้าน
“ไม่รู้คุณชาร์ลมาถึงเหรอยังนะคะ ขอให้คุณชาร์ลกับยัยฟ้าลงเอยกันซักทีเถอะ”
ชมพูแพรหยุดเดิน หมอวัฒนาหยุดตามหันมาหา
“เขาสองคนเป็นเนื้อคู่กัน ถึงจะจากกันไปนานหลายปี แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาเจอกัน เพราะความรักที่มั่นคงที่คุณชาร์ลมีให้น้องฟ้า ถึงทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
ชมพูแพรยิ้ม
“จริงค่ะ”
หมอวัฒนาหน้าเครียดขึ้นมา
“แล้วถ้าเกิดผมต้องจากแพรไป โดยที่ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ แพรจะมีคนอื่นมั๊ย”
ชมพูแพรแปลกใจ
“พี่หมอหมายความว่ายังไง”
“ผมต้องไปอเมริกาวันมะรืนนี้”
ชมพูแพรชะงัก
“คราวนี้คงไปนานหลายปี ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่”
หมอวัฒนาคว้ามือชมพูแพรมาจับ
“ผมอยากให้แพรรู้เอาไว้นะครับว่าความรักที่ผมมีให้แพร จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ชมพูแพรรู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะไป
“แล้วถ้าเกิดแพรตามพี่หมอไป พี่หมอจะอนุญาตมั๊ยคะ”
หมอวัฒนาผงะ แล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“อนุญาตซิแพร ถ้าไงเราไปพร้อมกันเลยมั๊ย”
ชมพูแพรหัวเราะ
“แพรเตรียมตัวไม่ทันหรอกค่ะ แต่แพรจะตามไปหาพี่หมอแน่ๆ”
หมอวัฒนากับชมพูแพรยิ้มให้กัน อย่างมีความสุขที่สุด
เย็นวันนั้น สายชลขับรถมาจอดหน้าบ้านริมทะเล รีบลงจากรถ จะเข้าไปในบ้านแต่ประตูล็อค เขารีบวิ่งไปหลังบ้าน ประตูก็ล็อค มองผ่านหน้าต่างเข้าไปก็ไม่มีคนอยู่ สายชลใจเสียมาก รีบวิ่งออกมาที่ชายหาดมองหาฟ้าลดาไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายใจ
“นางฟ้า อย่าหนีสายชลไปอีกนะ”
สายชลวิ่งหาฟ้าลดาไปตามชายหาดแต่ก็ไม่เจอ เขาหยุดวิ่งหอบเหนื่อย แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเธอยืนแช่น้ำทะเลอยู่ จึงเดินมาหยุดข้างๆ
“นางฟ้า”
ฟ้าลดาชะงัก หันไปมอง
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“หมอโทรบอกผม...ทำไมถึงหนีสายชลมาอีก”
ฟ้าลดานิ่งไป แล้วก็หันหลังให้เขา
“นางฟ้าไม่รักสายชลเหรอ”
ฟ้าลดาหันไปมองหน้าเขา
“ฉันยังจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้...”
สายชลรีบพูดขัด
“สายชลไม่สนใจ ว่านางฟ้าจะจำได้หรือไม่ได้ ความทรงจำสามารถสร้างด้วยกันใหม่ได้”
ฟ้าลดาคิดตามที่เขาพูด สายชลเดินมาจับมือของเธอทั้งสองข้าง เธอมองหน้าเขาหัวใจเต้นแรง
“สิ่งที่สายชลต้องการรู้ก็คือ นางฟ้ารักสายชลรึเปล่า”
สายชลมองฟ้าลดาลุ้น ฟ้าลดามองเห็นแววตาของเขาที่มองเธอด้วยความรัก ก็ฝืนใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“ยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าฉันรัก หรือ ไม่รักคุณ”
สายชลแปลกใจเห็นฟ้าลดาใส่สร้อยอยู่ เขายิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“นางฟ้าใส่สร้อย หมายความว่านางฟ้ารักสายชล”
ฟ้าลดายิ้มเขินๆ แล้วก็พยักหน้า สายชลดีใจสุดๆ กระโดดโลดเต้น ร้องดังลั่นตะโกนไปทางทะเล
“วู้วู้...นางฟ้ารักสายชล นางฟ้ารักสายชลได้ยินมั๊ย”
ฟ้าลดาหัวเราะชอบใจ สายชลเข้ามากอดหญิงสาวสุดที่รักไว้แน่น ฟ้าลดากอดตอบเขาอย่างรักสุดหัวใจ
“นางฟ้า...สายชลมีความสุขมากเหลือเกิน ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมวันนี้”
สักครู่ทั้งสองก็ผละออกจากกัน ฟ้าลดายิ้มให้เขาอย่างสุขใจ
“นางฟ้าก็มีความสุขมากที่สุด ขอบคุณนะสายชล ขอบคุณที่รักนางฟ้า”
ฟ้าลดายื่นหน้า เอาหน้าผากมาแตะกับหน้าผากสายชล
“นางฟ้าสัญญาว่าต่อจากนี้ นางฟ้าจะไม่แยกจากสายชลแม้แต่วันเดียว นางฟ้ารักสายชล”
สายชลค่อยๆบรรจงจูบหน้าผากฟ้าลดาอย่างแผ่วเบา แล้วจูบแก้มสองข้าง จูบจมูก แล้วเอาปากมาแตะกันเบาๆ ก่อนจะกอดกันอยู่ริมทะเลด้วยความรัก และสุขใจที่จะไม่พลัดพรากกันอีกแล้ว...
จบบริบูรณ์