ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
บุหงาหน้าฝน
ตอนที่ 21
เช้าวันใหม่...รสากับสหัสมาที่ โรงพยาบาลที่ระรินรักษาตัวอยู่ เดินเข้าไปในล็อบบี้ รสาคุยกับประชาสัมพันธ์ สหัสยืนรออยู่ทางด้านหลัง มองรอบๆอย่างระแวงระวัง สักครู่รสาก็เดินออกมาจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“เขาบอกว่าพี่รินไม่อยู่ที่นี่แล้ว”รสาหน้าเครียดไม่สบายใจ “สงสัยคุณธานีพาพี่รินกลับไปขังในบ้านเทพสุทธิพงศ์อีกแน่เลย”
“อยากรู้ว่าคุณระรินอยู่ที่นั่นรึเปล่า ก็คงต้องเข้าไปดู”สหัสแนะ
“ให้แอบเข้าไปเหรอ มันเสี่ยงมากนะ”
“เป็นทางเดียวไม่ใช่เหรอ”
รสากังวลแต่สหัสไม่กลัว อยากแหย่เสือ
+ + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...สหัสกับรสาเดินเข้ามา ข้างกำแพงบ้านนาวิศ เหลียวมองรอบๆอย่างระวังตัว
“เอาจริงใช่ไหม”รสากังวลกลัวๆ
“มาถึงนี่แล้ว ยังจะถามอีกเหรอ...คุณรออยู่แถวนี้ เห็นท่าไม่ดีก็รีบหนีไป”
รสาพยักหน้ารับ สหัสหันไปมองกำแพง จะปีนขึ้นไปแต่รสาดึงไว้
“เดี๋ยว...ระวังตัวด้วยนะ”
สหัสพยักหน้ารับ หันไปหาทางปีนกำแพงข้าม รสามองตามอย่างเป็นห่วง สหัสปีนเข้ามาบริเวณบ้านมองดูเห็นทางสะดวก แอบลัดเลาะเข้าไปอย่างระวังตัว มองไปทางตัวบ้าน
“น่าจะเป็นที่นี่”
สหัสมองดูรอบๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปในบ้านเห็นว่าไม่มีใคร ลองเรียกดู
“คุณระรินครับ...คุณระริน...”
ไฟในบ้านสว่างขึ้น สหัสหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นชาติ ทั้งสองต่างก็ตกใจที่เจอกันที่นี่
“แก...”
ชาติหยิบปืนออกมา แต่ช้ากว่าสหัสที่ถีบเก้าอี้เข้าใส่ ชาติเสียหลักหงายไป สหัสรีบหนีออกไปจากบ้านวิ่งมาที่รั้วจะปีนออกไป ชาติตามมาเห็นเข้ายิงออกไป สหัสหลบกระสุนยังปีนออกไปไม่ได้ ต้องวิ่งหนีไปทางอื่น
รสาที่รออยู่ ได้ยินเสียปืนก็ตกใจ
“สหัส...”
นาวิศกับธานีได้ยินเสียงปืน เดินออกมาดู มีลูกน้องตามประกบคุ้มกัน ชาติเข้ามารายงาน
“สหัสมันแอบเข้ามาที่นี่ครับนาย”
ธานีหันไปสั่งลูกน้อง
“ไปหาตัวมันให้เจอ”
ลูกน้องรับคำแล้วแยกย้ายกันตามหา ธานีมองรอบๆอย่างระวังตัว ก่อนกลับเข้าไปในบ้าน นาวิศยืนมองอยู่ เห็นธานีกลับเข้าไปในบ้านก็รีบออกไปอีกทาง
สหัสวิ่งเข้ามาหลบ แอบมองออกไป เห็นลูกน้องธานีถือปืนตามหา ไล่ล่า เขาจะหลบออกไปอีกทาง แต่เจอเข้ากับนาวิศ สหัสชะงัก
“นาวิศ...”
“มาที่นี่ทำไม”
สหัสจะเข้าทำร้ายนาวิศเพื่อหนีไป แต่นาวิศรับหมัดไว้ได้
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะหนีออกไปได้เหรอ”
นาวิศดันสหัสออกไป
“เอาสิ...ตะโกนให้ลูกน้องแกมาจับตัวฉัน”สหัสท้าทาย
“ฉันไม่มีลูกน้อง”นาวิศเสียงเรียบนิ่ง
สหัสแปลกใจที่นาวิศไม่โวยวายให้คนมาจับเขา
“ตกลงแกจะบอกรึเปล่า ว่าเข้ามาที่นี่ทำไม”นาวิศถามเสียงเข้ม
“รสาอยากให้แกได้คุยกับคุณระริน คุณระรินอยู่ที่ไหน”
“แสดงว่ารสาอยู่กับแก”
ขณะเดียวกันนั้น เสียงชาติก็ดังขึ้น
“แยกกัน อ้อมไปดูรอบตัวบ้าน”
นาวิศกับสหัสได้ยินเสียงอยู่ใกล้ สหัสหน้าตื่นตกใจ ทันใดนั้นนาวิศผลักสหัสหลบไปด้านหลัง พลางบอกกับสหัส
“อาระรินไม่ได้อยู่ที่นี่”
สหัสเสียหลักเซไป นาวิศออกไปรับหน้าชาติที่วิ่งมา พอเจอนาวิศก็ชะงัก
“คุณนาวิศ ออกมาทำอะไรครับ มีคนร้ายเข้ามา มันอันตรายนะครับ”
“ฉันออกมาตามคนร้าย มันไม่อยู่แถวนี้ รีบไปดูที่รั้วด้านหน้า”
ชาติลังเล นาวิศรีบย้ำ
“รีบไปสิ!”
“ครับ”
ชาติออกไป สหัสออกมาจากที่ซ่อน แปลกใจที่นาวิศช่วยเขาไว้
“แกช่วยฉันทำไม”
“เพราะแกบอกว่ารสาอยู่กับแก...รีบไปซะ ฉันฝากดูแลรสาด้วย”
นาวิศจะไป สหัสรีบเรียก
“เดี๋ยว! รสาห่วงคุณระรินมาก ตอนนี้คุณระรินอยู่ที่ไหน”
“บ้านที่สระบุรี”
นาวิศเดินแยกไปทางหนึ่ง สหัสมองตาม แล้วจึงรีบปีนกำแพงหนี
+ + + + + + + + + + + +
รสาซึ่งรออยู่ด้วยความกังวลใจ เห็นสหัสวิ่งกลับมาจากอีกทางหนึ่ง รสาดีใจ
“คิดว่านายโดนยิงอยู่ข้างในแล้ว”
“ก็เกือบไม่รอด...แต่นาวิศช่วยผมไว้”
“คุณนาวิศน่ะเหรอ ช่วยนายไว้ทำไม...!? “
สหัสมองรอบๆอย่างระวัง
“รีบไปจากที่นี่ก่อนเถอะ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง”
“เดี๋ยว... แล้วพี่รินล่ะ”
สหัสหันมายิ้ม
“ผมรู้แล้วว่าคุณระรินอยู่ที่ไหน”
รสายิ้มออก สหัสวิ่งนำรสาหนีออกไป
+ + + + + + + + + + + +
ชาติกลับมารายงานธานี
“แกปล่อยให้สหัสมันหนีรอดไม่ได้งั้นเหรอ แล้วนี่ฉันจะรู้ได้ไง ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่”
“ผมเจอมันในบ้านที่เราเคยขังคุณระริน... เป็นไปได้ไหมครับ ว่ามันคิดว่าคุณระรินอยู่ที่นั่น เลยมาตามหา”
“ถ้าอย่างนั้น สหัสมันคงช่วยรสาตามหาระรินอยู่... ระรินไม่ได้อยู่กับรสา...แล้วตอนนี้เมียฉันอยู่ที่ไหน”
ธานีสงสัย รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่... เคี่ยมโดนฝากขังอยู่กับแท่น เคี่ยมสีหน้าไม่ค่อยดี เพราะอาการโรคหัวใจกำเริบ
“นาย เป็นอะไรรึเปล่า”
เคี่ยมฝืนใจ ส่ายหน้า นาวิศเดินเข้ามากับสารวัตร
“นายเคี่ยม เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ตำรวจเปิดประตู นำตัวเคี่ยมออกมา แท่นเป็นห่วง
“เดี๋ยวก่อน คุณตำรวจ จะพานายไปไหน”
ตำรวจไม่ตอบ
“นาวิศ...นายไม่ใช่คนที่อยากฆ่าแกนะ คุณธานีต่างหาก”
ทุกคนไม่สนใจแท่น สารวัตรเดินนำนาวิศไปทางห้องสอบสวน ตำรวจคุมตัวเคี่ยมตามไป
“นาย...นาย...”
แท่นได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง
+ + + + + + + + + + + +
ในห้องสอบสวนของโรงพัก...
นาวิศนั่งคุยกับเคี่ยมโดยมีสารวัตรอยู่ด้วย
“ฉันอยากให้นายเคี่ยมเล่าให้ฟัง ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อพูดไป นายก็คงไม่เชื่อฉัน”
“ฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อ นายเคี่ยมไม่มีทางรู้หรอก สิ่งที่นายเคี่ยมต้องทำคือบอกความจริงออกมา”
เคี่ยมถอนใจ
“ผมไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุของคุณ... ผมกับคุณไม่มีความแค้นกัน แต่ผมต้องฆ่าคุณตั้งแต่วันแรกที่คุณไประนอง เพราะผมได้รับคำสั่งมา”
“หมายความว่ายังไง!?” สารวัตรถาม
“คุณธานีสั่งให้ผมฆ่าคุณนาวิศโดยให้ทำเหมือนอุบัติเหตุ เพื่อที่เขาจะได้ครอบครองบริษัทเทพสุทธิพงศ์ แต่ตอนนั้นคุณนาวิศแกล้งทำเป็นความจำสื่อม ผมเลยให้เขาอยู่ที่ระนอง ทำเหมือนเป็นคนงานคนนึง”
นาวิศยิ้มที่เคี่ยมยอมพูดเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา นาวิศหันไปบอกกับสารวัตร
“เราพอจะกันตัวนายเคี่ยมเป็นพยานได้ไหมครับ สารวัตร”
เคี่ยมแปลกใจที่ได้ยินนาวิศพูดอย่างนั้น
สารวัตรพยักหน้ารับ
“ครับ...ถ้านายเคี่ยมยอมร่วมมือ เราจะยังไม่สั่งฟ้อง แล้วกันตัวนายเคี่ยมไว้เป็นพยาน”
เคี่ยมมองสารวัตร แล้วหันมองนาวิศอย่างไม่เข้าใจ นาวิศยิ้มน้อยๆให้
+ + + + + + + + + + + +
ปาหนันนั่งเศร้าอยู่หน้าบ้าน เดื่อกับทับทิมเข้ามามอง รู้สึกเห็นใจ...
“คุณหนันคะ มานั่งเศร้าแบบนี้ไม่ดีเลย ไปกินข้าวเถอะค่ะ ป้าเจ่งเตรียมเสร็จแล้ว”
“หนันยังไม่หิว กินกันก่อนเถอะจ้ะ”
“โธ่...คุณหนัน...”
“หนันกินไม่ลง...หนันเป็นห่วงพ่อ เดื่อกับทับทิมกินก่อนเถอะ ไม่ต้องรอ”
นาวิศมาแอบดูอยู่ รู้สึกสะเทือนใจ
“คุณหนันครับ ผมขอโทษ... แต่ถ้าผมไม่ทำร้ายจิตใจคุณ ผมก็คงทำให้อาธานีตายใจไม่ได้...”
นาวิศบอกกับตัวเองอย่างเศร้าใจ...
+ + + + + + + + + + + +
เดื่อกับทับทิมได้ไปนั่งปรับทุกข์ด้วยกัน...
“ไอ้พร้าวมันไม่น่าทำกับนายอย่างนี้เลย มันไม่ใช่แค่ทำร้ายนาย แต่มันทำร้ายจิตใจคุณหนันด้วย ดูซิ วันๆคุณหนันเอาแต่นั่งเศร้า ข้าวปลาไม่กิน”เดื่อบ่น
“ข้าว่าจะกลับไปทำงานที่ฟาร์ม แล้วข้าจะชวนคุณหนันไปทำงานด้วย จะได้ไม่ต้องคิดมาก”ทับทิมออกความเห็น
“คุณหนันเป็นห่วงนาย ไม่มีกะใจจะทำอะไรหรอก...ทับทิมล่ะ ไม่ห่วงน้องมั่งเหรอ”
“ก็ห่วง...แต่ข้าคิดว่าไอ้แท่นมันติดคุกกับนายก็ดีเหมือนกัน มันจะได้ดูแลนาย”
ขณะเดียวกัน แท่นเดินเข้ามา
“ทับทิม...”
“ไอ้แท่น!?” เดื่อกับทับทิมหันไปเห็นแท่นก็ตกใจ
ทั้งสามคนพากันเข้าบ้าน ปาหนันเห็นแท่นก็แปลกใจมาก แท่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“ว่าไงนะ อยู่ๆตำรวจก็ปล่อยแท่นออกมาเหรอ”
แท่นพยักหน้า
“ครับ ผมถามแล้วถามอีกว่ามันเรื่องอะไร แต่ตำรวจก็บอกให้กลับมาเฉยๆอย่างนั้นล่ะ”
“แล้วพ่อล่ะ...ตำรวจไม่ปล่อยพ่อออกมาด้วยเหรอ”
แท่นมีท่าทีอึกอัก ลำบากใจ เจ่งรีบถาม...
“เอ้า ว่าไงล่ะไอ้แท่น นายได้ปล่อยตัวออกมาด้วยรึเปล่า”
แท่นถอนใจ
“เมื่อวานนาวิศให้ตำรวจพานายไปคุยในห้องสืบสวน แล้วนายก็ไม่กลับมาอีกเลย ตำรวจบอกว่านายโรคหัวใจกำเริบ ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน”
ปาหนันกับเจ่งมองหน้ากันอย่างตกใจ
“ไอ้แท่น แล้วตอนนี้นายอยู่โรงพยาบาลไหน”
แท่นส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้หรอก ตำรวจบอกว่าต้องปิดเป็นความลับ”
ทุกคนต่างก็มีสีหน้าร้อนใจ
“ทำยังไงดีล่ะคุณหนัน นายจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
ปาหนันนึกแค้นใจนาวิศ
“เขาคงพูดจาให้พ่อไม่สบายใจ โรคหัวใจเลยกำเริบ...ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย”
ปาหนันนึกแค้นใจนาวิศขึ้นมา หุนหันออกไป
“คุณหนัน จะไปไหนคะคุณหนัน...คุณหนัน”
ทุกคนหน้าตื่น มองตามปาหนันอย่างเป็นห่วง
+ + + + + + + + + + + +
นาวิศขับรถกลับมาที่บ้าน ปาหนันนั่งรออยู่หน้าบ้าน พอเห็นรถเขาก็ลุกขึ้นมา นาวิศจอดรถ มองอย่างแปลกใจ ปาหนันตรงเข้ามาทุบเขาทันที
“ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไม...ทำไม...ทำไม”
นาวิศรวบมือปาหนันไว้
“เดี๋ยวก่อนคุณหนัน อะไรกันครับ”
“คุณพูดอะไรกับพ่อ จนพ่อโรคหัวใจกำเริบ ต้องเข้าโรงพยาบาล”
นาวิศอึกอัก บอกไม่ได้
“ทำไมคุณถึงใจร้ายแบบนี้ หัวจิตหัวใจคุณทำด้วยอะไร คุณคงสะใจที่ทำร้ายพ่อฉันได้ เอาซี่...ทำฉันอีกคน คุณอยากเห็นฉันตายต่อหน้าคุณด้วยใช่ไหม แบบไหนล่ะคุณถึงจะพอใจ...”
ปาหนันเหลือบเห็นก้อนเศษกระเบื้องที่แตกอยู่บนพื้น หยิบขึ้นมายื่นให้นาวิศ
“เอาสิ...ทำร้ายฉัน จนกว่าคุณจะพอใจ”
นาวิศอึ้ง
“คุณหนัน...”
“เอาซี่...ทำให้ฉันเจ็บปวดเหมือนที่คุณคิดว่าพวกเราทำกับคุณ...แบบนี้ใช่ไหม ที่คุณต้องการ”
ปาหนันจะกรีดแขนตัวเอง แต่นาวิศรีบเข้ามาห้ามไว้
“คุณหนัน...อย่า ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
ปาหนันทรุดลงร้องไห้ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาน้ำตานองหน้า
“ฉันขอร้อง คุณแค้นเคืองพวกเรา อยากแก้แค้นยังไง มาลงที่ฉันนี่...อย่าทำอะไรพ่อฉันเลยนะ ฉันขอร้อง...นะคุณนาวิศ”
นาวิศทนใจแข็งกับปาหนันไม่ได้ ประคองเธอขึ้นมา ปาหนันมองหน้าเขาทั้งน้ำตา ทั้งสองสบตากัน ก่อนนาวิศจะรวบตัวปาหนันมากอดไว้
“ผมขอโทษคุณหนัน...ผมขอโทษ”
ปาหนันแปลกใจ ผละออกมา จ้องตานาวิศ
“ผมจำทุกอย่างได้หมดแล้ว”
ปาหนัน อึ้งไป
“คุณ...จำทุกอย่างได้หมดแล้ว...”
นาวิศพยักหน้ารับ
“ผมกำลังหาหลักฐานมัดตัวอาธานี ก็เลยต้องทำให้เขาตายใจ...ผมไม่เคยต้องการทำร้ายจิตใจผู้หญิงที่ผมรัก แต่ผมก็ต้องทำ...ผมขอโทษนะครับคุณหนัน”
“แล้ว...แล้วพ่อล่ะ...”
“นายเคี่ยมปลอดภัยดีครับ”
ปาหนันดีใจ ยิ้มทั้งน้ำตา นาวิศลูบแก้มปาหนัน เช็ดน้ำตา ระรินมองออกมาจากในบ้าน ยิ้มดีใจกับนาวิศ
ขณะเดียวกันนั้นระรินมองห่างออกไปทางด้านหลังนาวิศกับปาหนัน เธอเห็นชายหนุ่มใส่เสื้อลายดอก สวมแว่นกันแดดมีกล้องถ่ายรูปคล้องคอ ดูเหมือนนักท่องเที่ยว ชายหมุนคนนั้นถ่ายรูปมาทางนาวิศกับปาหนัน ระรินเพ่งมองออกไปอย่างสงสัยสักครู่ ชายหนุ่มในชุดนักท่องเที่ยวเดินผ่านไป
ระรินไม่ติดใจสงสัยมากนัก หันมองทางนาวิศกับปาหนัน ยิ้มดีใจไปด้วย ก่อนจะหลบเข้าไปในบ้าน
+ + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...
นาวิศพาปาหนันมาเยี่ยมเคี่ยม ที่โรงพยาบาล ทั้งสองมองผ่านกระจกหน้าห้อง เห็นเคี่ยมนอนอยู่ที่เตียงคนป่วย ยังไม่ฟื้น
“การผ่าตัดหัวใจเรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรน่าห่วง”หมอบอกกับทั้งสอง
ปาหนันจ้องมองเคี่ยมผ่านกระจกหน้าห้อง ยิ้มทั้งน้ำตา
“พ่อกำลังจะหายแล้ว จะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติซะทีนะจ๊ะ”
นาวิศค้อมหัวขอบคุณหมอ หมอออกไป นาวิศหันมาหาปาหนัน
“จากนี้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วนะครับ”
ปาหนัน หันมายิ้มให้นาวิศ
“ขอบคุณนะคะ สำหรับสิ่งที่คุณทำเพื่อพ่อ”
“ผมอาจจะผิดพลาด ทำไม่ดีกับคุณหนัน ในช่วงที่ผมจำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ ความรู้สึกที่เคยมีต่อคุณหนันมันกลับมาแล้ว...และผมสัญญา ว่าผมจะชดเชยให้คุณหนัน ผมจะทำเพื่อคุณหนันให้มากกว่านี้”
นาวิศกอดปาหนันไว้ ทั้งสองรู้สึกอบอุ่นใจ
+ + + + + + + + + + +
รูปนาวิศกอดปาหนัน ที่หน้าบ้านตกมาถึงมือธานี...
ธานีดูรูปถ่ายของนาวิศกับปาหนันสองสามรูป รู้สึกแค้น
“คุณธานีจะให้ทำยังไงต่อไปครับ”
“นาวิศมันบีบให้ฉันต้องเล่นกับมันแรงๆ แกจับตาดูทุกคนที่เกี่ยวข้องกับนาวิศ อย่าให้มันเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น... ฉันจะต้องลงมือก่อน”
ธานีบอกอย่างคั่งแค้นในใจ
+ + + + + + + + + +
ที่บ้านสระบุรี ระรินเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงรถที่หน้าบ้าน
“คุณนาวิศไม่ได้บอกว่าจะมานี่”
ระรินเดินไปแอบดูที่หน้าบ้าน แล้วรีบผลุบเข้ามา หน้าตื่น ระรินบอกกับตัวเองอย่างตกใจ ไม่ใช่รถคุณนาวิศ...
ระรินหาอะไรใกล้มือมาเป็นอาวุธ มีเสียงกุกกักที่ประตู ระรินเงื้ออาวุธในมือ เตรียมฟาด
ประตูเปิดเข้ามา ปรากฏว่าเป็นรสา ระรินชะงักดีใจ
“รสา...”
“พี่ริน !”
รสายิ้มโล่งใจที่เห็นระรินปลอดภัย ระรินทิ้งอาวุธในมือ โผเข้ากอดรสาแน่น รสายิ้ม น้ำตารื้น
“โอ๊ย พี่ริน...รสาหายใจไม่ออกแล้ว”
สหัสตามเข้ามา พลอยยิ้มยินดีไปด้วย
+ + + + + + + + + + + +
ระรินเล่าเรื่องนาวิศให้สหัสกับรสาฟัง รสาทอดถอนใจ...
“ที่แท้คุณนาวิศก็จำทุกอย่างได้หมดแล้ว”
ระรินพยักหน้ารับ
“ตอนนี้คุณนาวิศกำลังหาหลักฐานที่จะทำให้คุณธานีดิ้นไม่หลุด...ที่เขาพาตำรวจไปจับนายเคี่ยม ก็เพื่อให้คุณธานีตายใจ”ระรินหันไปบอกสหัส “ไม่ต้องเป็นห่วงนายเคี่ยมหรอกนะสหัส เรื่องทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว”
สหัสไม่พูดอะไร แต่ยังคงรู้สึกกังวล
+ + + + + + + + + + + +
เจ่ง เดื่อ ทับทิม รอปาหนันกลับมาด้วยความร้อนใจ...
“อยู่ๆก็หุนหันออกไป ป่านนี้ยังไม่กลับมา ไม่รู้ไปไหนของเค้า”เจ่งบ่น
“อย่าเพิ่งคิดมาน่ะป้าเจ่ง คุณหนันก็โตแล้ว ดูแลตัวเองได้...มั้ง”
ทับทิมเงื้อมือฟาดเดื่อ
“เป็นเล่นทุกที...ป้าเจ่งยิ่งห่วงคุณหนันอยู่”
เจ่งเห็นปาหนันเดินกลับมาก็ดีใจ
“คุณหนัน...”
เจ่งชะงักไป เห็นนาวิศตามเข้ามา
“นาวิศ!? นายมาที่นี่อีกทำไม”
แท่นโดดเข้ามา จะทำร้ายนาวิศ
“ไอ้นาวิศ...แก..!”
ปาหนันขวางไว้
“อย่าทำอะไรเขานะ แท่น”
“คุณหนันยังจะปกป้องคนอย่างนี้อีกเหรอคะ”
เดื่อชี้หน้านาวิศ
“คุณหนันไม่เห็นเหรอว่ามันทำอะไรกับนายบ้าง ปล่อยให้เดื่อกะไอ้แท่นสั่งสอนมันซะทีเถอะ”
“เพราะหนันเห็นน่ะสิ ว่าเขาทำอะไรให้พ่อเคี่ยม หนันถึงต้องห้ามทุกคนไว้...ทุกคนฟังหนันนะ พ่อได้ผ่าตัดแล้ว คุณนาวิศช่วยพ่อเอาไว้”
ทุกคนอึ้ง ทับทิมถาม...
“งงค่ะ ตกลงมันยังไงกันแน่ พร้าวจะดีหรือจะเลว เอาให้ชัดซิ”
นาวิศยิ้ม
“เอาเป็นว่า ผมกำลังจะจัดการอาธานี...ทุกคนไม่ต้องห่วงนะ ทุกอย่างกำลังจะจบแล้ว”
ปาหนันกับนาวิศยิ้มให้กัน คนอื่นต่างก็แปลกใจ สงสัย
+ + + + + + + + + +
นาวิศกลับมาบ้านที่กรุงเทพ นาวิศกลับเข้ามาในบ้าน เขาเตรียมพร้อมจะทำอะไรบางอย่าง ธานีนั่งรออยู่ หน้าตาขึงขัง บนโต๊ะมีเอกสารบางอย่าง
“พอจะนั่งคุยกับอาซักพักได้ไหมนาวิศ”
“แน่นอนครับ...ผมกำลังอยากคุยกับคุณอาอยู่พอดี”
ธานีหันมายิ้มให้นาวิศ
“พักหลังๆนี่เกิดเรื่องมากมาย จนเราสองคนอาหลานเหมือนจะห่างเหินกันไปนะ”
“อาจเป็นเพราะผมจำไม่ได้ ว่าเราเคยสนิทกัน”
“อันที่จริง...หลานน่าจะพูดว่าหลานจำได้แล้วว่า...เราไม่เคยสนิทกัน”
นาวิศมองธานี สีหน้าเคร่งขรึม ไม่ตอบอะไร
“เรื่องมันคงง่ายกว่านี้ ถ้าพี่นาวีไว้ใจอา ยกบริษัทเทพสุทธิพงศ์ให้อา...ไม่ใช่หลาน”
“ไม่ใช่หรอกครับ...เรื่องมันจะง่ายกว่านี้ ถ้าอาธานีรู้จักพอ”
“แต่ฉันต่างหากที่อยู่ช่วยงานในบริษัท ผิดกับแก ที่ไม่เคยทำอะไรเลย...รู้ไหมนาวิศ ฉันไม่เคยเสียใจ ที่พี่ชายอย่างมันตายไป”
นาวิศโกรธ กำมือแน่น
“แต่สำหรับคุณพ่อ...ผมว่าท่านคงเสียใจ ที่มีน้องชายอย่างอาธานี”
ธานียิ้ม
“รู้ไหม ฉันอยากให้เราพูดกันตรงๆอย่างนี้นานแล้ว”
“ผมว่าอาธานีต่างหาก ที่ไม่เคยตรงไปตรงมา...ผมคุยกับนายเคี่ยมแล้ว...เขาสารภาพ ว่าอาธานีให้เขาฆ่าผม โดยทำให้เหมือนอุบัติเหตุ...มันก็เลยทำให้ผมคิดถึงอุบัติเหตุของคุณพ่อ...อาธานีเป็นคนจัดฉากฆ่าคุณพ่อด้วยใช่ไหม”
ธานียิ้ม เดินเข้ามาใกล้นาวิศ
“ใช่...ฉันให้ไอ้เคี่ยมจัดฉากฆ่าแก แล้วฉัน ก็จัดฉากฆ่าพ่อแกด้วย...นั่นใช่ไหม สิ่งที่แกอยากได้ยิน”
นาวิศหรี่ตาแค้น หันกลับมามองธานีแล้วต้องชะงัก ธานีถือปืน จ่อมาที่เขา ธานียิ้มเย้ย
“ใช่...ฉันจัดฉากฆ่าพ่อแก ฉันให้ชาติตัดสายเบรก จนพ่อแกต้องตายในอุบัติเหตุไง นาวิศ!”
นาวิศโกรธ จะต่อยธานี แต่ธานียกปืนขึ้นมา นาวิศชะงัก ธานีชี้ปืนไปที่กระดาษ
“เซ็นซะ... คืนบริษัทให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อยแกไป”
นาวิศยิ้ม ส่ายหน้า
“ฉันต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจว่า จะปล่อย หรือไม่ปล่อยแก!”
ธานีชะงักแปลกใจ ทันใดนั้น สารวัตรพากำลังตำรวจเข้ามา
“คุณธานี ทิ้งอาวุธซะ!”
ธานีอึ้งไปอย่างตกใจ
“ทิ้งอาวุธ!”
ธานีจำต้องโยนปืนออกไป สารวัตรรีบเข้ามาจับตัวธานี
“คุณถูกจับข้อหาพยายามฆ่าคุณนาวิศ และข้อหาฆ่าคุณนาวีโดยเจตนา!”
ธานีอึ้งไป ไม่คาดคิดมาก่อน ถึงกับพูดไม่ออก ตำรวจจะพาธานีออกไป ทันใดนั้น ชาติโผล่เข้ามา ยิงใส่ตำรวจ
“นาย หนีเร็ว!”
ธานีกระโดดเก็บปืนได้ ยิงไปที่ตำรวจอีกคน แล้วหนีออกไป ชาติยิงสะกัด สารวัตรยิงไปไม่โดนใคร สารวัตรรีบตามธานีไปพลางสั่งลูกน้องที่นอนบาดเจ็บอยู่
“ตามกำลังเสริม”
ตำรวจหยิบวอออกมาขอกำลังเสริม นาวิศมองตามสารวัตรออกไปอย่างหนักใจ
+ + + + + + + + + + +
เช้าวันรุ่งขึ้น...ระรินรีบร้อนเข้ามาหานาวิศในบ้าน
“คุณนาวิศคะ...ตำรวจได้ตัวคุณธานีรึยังคะ”
นาวิศส่ายหน้า
“ยังเงียบอยู่เลยครับ”
สาวใช้พาสารวัตรเข้ามา
“คุณนาวิศคะ...สารวัตรวันชัยมาค่ะ”
นาวิศกับระรินหน้าตื่น เข้าไปหาสารวัตร
“สารวัตร ได้ตัวอาธานีรึยังครับ”
“เราพบรถที่คุณธานีกับลูกน้องใช้หลบหนีขับตกสะพาน แต่ยังไม่พบตัวคุณธานีกับลูกน้อง”
“เขาหนีรอดไปได้เหรอคะ!?”
“ดูจากสภาพรถที่เรากู้ซากมา การชนน่าจะแรงพอสมควร ตอนนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าคุณธานียังมีชีวิตอยู่รึเปล่า ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่งมหาร่างคุณธานีอยู่ ถ้าได้ความคืบหน้ายังไงผมจะรายงานให้ทราบอีกทีนะครับ”
ระรินหันไปถามนาวิศ
“หมายความว่า คุณธานี...อาจจะตายแล้วเหรอคะ”
นาวิศถอนใจกับชะตากรรมของธานี
จบตอนที่ 21
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.