รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 24 อวสาน
ณ รีสอร์ตเทพสุธา บรรยากาศกร่อยๆภายในงานที่แขกบางกลุ่มเริ่มเดินออก ส่วนแขกและนักข่าวที่เหลืออยู่พากันจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องณิชมน บุรธัชเดินออกมาหยุดยืนนิ่งคิดเรื่องณิชมน รวิภาสเดินตามออกมา
“พี่ธัชครับ เวลานี้พี่ธัชควรจะอยู่กับคุณณิชนะครับ”
บุรธัชนิ่งคิดไม่ตอบอะไรท่าทางเงียบจนน่ากลัว
“พี่ธัชเป็นอะไรไป อย่าบอกนะว่า พี่ธัชโกรธคุณณิชเค้าน่ะ”
“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่า ตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง”
“คุณณิชเค้าคงมีเหตุผลที่ปิดบังความจริงกับพวกเรา ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า คุณณิชเป็นหลานของคุณหญิงย่า ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว”
“เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก นายภาส”
พงษ์เทพรีบร้อนเดินเข้ามา
“คุณชายธัช แขกในงานสงสัยกันใหญ่ว่า เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้นักข่าวไม่ได้โฟกัสการเปิดตัวรีสอร์ตของเราแล้ว แต่กลับไปสนใจเรื่องคุณณิชมนแทน เราจะทำไงกันดีล่ะทีนี้”
“ผมว่าเราปิดงานเลยแล้วกันครับ” รวิภาสเสนอ
“ปิดงานเลยก็ดี แต่ต้องหาทางปิดงานให้สวยหน่อย ไม่งั้นที่เราทุ่มเทจัดงานวันนี้ก็สูญเปล่า นายภาส ไปตามออการ์ไนซเซอร์มา เราต้องบรีฟตอนจบของงานใหม่แล้ว” บุรธัชสั่ง
รวิภาสกับพงษ์เทพหันมามองบุรธัชอย่างอยากรู้ว่าจะทำยังไงต่อไป
พรรณอรกับพรพรรณกำลังช่วยต้อนกลุ่มแขกให้กลับเข้างาน
“อย่าเพิ่งกลับนะคะ งานยังไม่จบนะคะ พี่อรอยู่คุยกับคุณจุรีก่อนนะเดี๋ยวพรขอไปต้อนน้องๆนักข่าวกลับมาก่อน”
“พี่ว่าจะไปดูประนอม..เอ๊ย..หนูณิชมนซะหน่อย ไม่รู้ว่า เป็นไงบ้าง”
“พี่อรไม่ต้องเป็นห่วงประนอมหรอกค่ะ นี่คงกำลังซักฟอกตรวจดีเอ็นเอตรวจปานแดงปานดำอยู่ละมั้ง เดี๋ยวเราก็คงรู้ผลว่าเป็นหนูณิชมนตัวจริงหรือเปล่า”
พันธ์นฤสรร์วิ่งเข้ามาดึงพรรณอรกับพรพรรณไปด้วยกัน
“ไปที่เวทีกันครับ คุณแม่ น้าพร เค้าจะปิดงานกันแล้วครับ”
พงษ์เทพยืนอยู่กลางเวทีหน้าไมค์กล่าวเกริ่นไปบ้างแล้วเพื่อปิดงาน
“ผมขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกท่านที่ให้เกียรติมางานในค่ำคืนวันนี้แล้วทางรีสอร์ตเทพสุธาก็หวังว่า เราจะได้มีโอกาสได้ต้อนรับทุกท่านอีกในโอกาสหน้า และงานในวันนี้จะจบสมบูรณ์ไปไม่ได้ ถ้าหากไม่มีบุคคลสำคัญท่านนี้ ประธานโครงการเทพสุธา คุณหญิงนวลแข สุธาสินครับ”
พรรณอร พรพรรณ และพันธ์นฤสรร์มาถึงหน้าเวทีแล้วรีบปรบมือนำ แขกในงานปรบมือดังสนั่น/กลุ่มนักข่าวกรูกันเข้าถ่ายรูป นวลแขค่อยๆเดินมาที่กลางเวทีพงษ์เทพถอยหลังไปยืนรอเบื้องหลัง บุรธัช รวิภาสและพิมพ์นฤมลยืนรออยู่ข้างเวที ณิชาภัทรเดินตรงมาหาบุรธัช
“นี่ไม่มีอยู่ในสคริปท์นี่คะ ธัชต้องเป็นคนปิดงานนี่คะ ไม่ใช่คุณย่า”
“เชื่อผมเถอะ แบบนี้จะดีกว่า”
“ดีกว่านี่ ดีสำหรับใครคะ ธัช”
ดาวเรืองเข้ามาดึงณิชาภัทรออกมา
“รอดูไปก่อนน่า ณิชา”
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างสงสัยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น นวลแขยืนอยู่กลางเวทีเริ่มกล่าวปิดงาน
“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน.. ในที่สุดรีสอร์ตเทพสุธาก็เสร็จสมบูรณ์อย่างงดงาม แต่ก็ไม่มีอะไรงดงามไปกว่ามิตรภาพของผู้ร่วมโครงการเทพสุธาโครงการเทพสุธาเริ่มต้นด้วยความแตกต่างทางความคิด แต่ก็จบลงด้วยความรักความเข้าใจ ความสำเร็จในวันนี้จึงเกิดขึ้นมาได้...”
บุรธัชหันไปมองทางพรรณอรและพรพรรณ
“วันนี้นอกจากจะเป็นวันฉลองการเปิดตัวของรีสอร์ตเทพสุธาแล้ว เรายังมีเรื่องที่น่ายินดีอีกสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือ จะมีการหมั้นระหว่างหม่อมราชวงศ์รวิภาส บุริศร์กับหม่อมหลวงพิมพ์นฤมล นวพรรษในปลายปีนี้..”
พิมพ์นฤมลหันขวับมามองรวิภาสอย่างตกใจคาดไม่ถึง
“เราจึงได้เปิดงานด้วยการแสดงของว่าที่คู่หมั้นทั้งสอง ส่วนเรื่องที่น่ายินดีเรื่องที่สองก็คือ ดิฉันขอถือโอกาสนี้แนะนำหลานสาวของดิฉันณิชมน ชุติมันต์..ผู้ที่จะมาร่วมสานต่อโครงการเทพสุธาของเราค่ะ”
พงษ์เทพเดินพาณิชมนมายืนข้างนวลแข นวลแขดึงณิชมนเข้ามาใกล้ ณิชาภัทรยืนนิ่งอึ้งไม่คิดว่านวลแขจะเปิดตัวณิชมนอย่างนี้
“หลานสาวดิฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาตลอด แต่ที่สุดเธอก็ตัดสินใจกลับมาอยู่กับครอบครัวที่เมืองไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด ความสุขอื่นใดไม่เท่ากับความสุขที่ได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์สุดท้ายดิฉันขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้งานในค่ำคืนนี้จบลุล่วงไปด้วยดี และขอขอบคุณแขกทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงาน ขอบคุณนะคะ”
กลุ่มนักข่าวกรูกันเข้าไปถ่ายรูปณิชมนกับนวลแข ณิชาภัทรยืนมองนวลแขกับณิชมนอย่างพยายามทำใจยอมรับ
ณิชมนมองจากเวทีมาที่บุรธัช ทั้งสองมองสบตากันนิ่งต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร
ณิชาภัทรกับนวลแขเดินเข้ามาในบ้าน นวลแขมองณิชาภัทรที่นิ่งเงียบมาตลอดทาง
“ณิชา...”
“ณิชาไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณย่า เพียงแต่ยังตั้งรับไม่ทัน ขอเวลาณิชาอีกซักหน่อยนะคะ”
“ย่าเข้าใจ..เรื่องมันเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน ย่าเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ตอนที่ได้รู้ความจริงจากอาจารย์ดาวเรือง”
“ณิชาคงทำใจรับน้องณิชมนไม่ยากหรอกค่ะ แต่ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะยอมรับณิชาเป็นพี่หรือเปล่า โชคชะตานี่เล่นตลกกับเราจริงๆเลยนะคะ ผู้หญิงที่ณิชาพยายามกำจัดออกไปจากชีวิต กลับเป็นน้องสาวที่ณิชากำลังตามหาอยู่...”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย ถ้าหากย่าจะรับณิชมนกลับมาอยู่ที่บ้านของเรา”
“ณิชาไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ณิชาจะพยายามนะคะ คุณย่า ณิชาจะพยายามทำตัวเป็นพี่สาวที่ดี อะไรที่ทำเพื่อน้องได้ ณิชาก็จะทำให้ค่ะ”
“ขอบใจนะ ณิชา ขอให้รู้ไว้นะ ถึงย่าจะได้หลานสาวเพิ่มมาอีกคน แต่ย่าก็ยังรักเราเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง”
“ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ คุณย่า ณิชาต้องแบ่งคุณย่าให้น้องณิชมนแล้วนี่คะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่ารักณิชาน้อยลงนิดนึง แต่ได้น้องณิชมนกลับคืนมา ก็ถือว่าคุ้มล่ะค่ะ คุณย่า”
ณิชาภัทรกอดนวลแขไว้พยายามทำใจรับณิชมนให้ได้แม้จะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม
พรรณอรกับพรพรรณมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะเริ่มยังไงและหันไปมองณิชมนที่นั่งนิ่งคิดหนักเรื่องตัวเอง พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์เดินเข้ามาร่วมวงด้วย พันธ์นฤสรร์มองคนโน้นคนนี้ที่ยังนิ่งเงียบกันอยู่
“นี่พี่นอมเป็นหลานสาวของคุณหญิงนวลแขจริงๆหรือครับผมไม่อยากจะเชื่อเลย !”
“ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ตอนนี้พี่นอมเป็นพี่ณิชมนไปแล้ว เข้าใจมั้ยแล้วตกลงเราจะทำยังไงต่อไปดีคะ คุณแม่ น้าพร”
“ทางผู้ใหญ่คุยกันเรียบร้อยแล้วล่ะจ้ะ หนูณิชมนควรจะกลับไปอยู่กับคุณยาย ส่วนเรื่องหมั้นของนมลกับภาสนั่นน่ะ...” พรรณอรพูด
“เรื่องหมั้นไม่ต้องไปจริงจังหรอกค่ะ พี่ชายธัชคงแค่อยากจะหันเหไม่ให้นักข่าวไปสนใจพี่ณิชมนมากนัก..ตอนนี้เรื่องพี่ณิชมนสำคัญกว่าค่ะ”
“เรื่องมันก็เกิดขึ้นอย่างปุบปับเหลือเกิน เอาอย่างนี้แล้วกัน หนูณิชมนพร้อมจะกลับไปอยู่กับคุณยายเมื่อไหร่ก็กลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ถ้ายังอยากจะอยู่ที่นี่ไปก่อน ก็ตามสบายเลยนะ” พรพรรณกล่าว
“หนูยังไม่พร้อมค่ะ แล้วคิดว่า ไม่มีวันพร้อมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่หนูไม่รู้จักด้วย”
“เวลานี้แหละที่หนูจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับครอบครัวของหนู การที่คุณยายของหนูประกาศรับหนูเป็นหลานต่อหน้าทุกคน ก็บอกได้ทุกอย่างแล้วว่า ท่านต้องการหนูกลับไปแค่ไหน”
ณิชมนนิ่งคิดจะทำยังไงต่อไปในชีวิต
ณิชมนนั่งจับเจ่าอยู่ที่เตียงมองรูปของครอบครัวที่ถ่ายด้วยกันครั้งสุดท้าย พิมพ์นฤมลเดินเข้ามานั่งด้วย
“ยังตัดสินใจไม่ได้หรือคะ พี่ณิช...นี่นมลเรียกพี่ณิชได้ใช่มั้ยคะ”
“ได้ซิคะ พี่ต้องขอบคุณคุณนมลนะคะ ที่ไม่โกรธพี่ที่ไม่บอกความจริง”
“นมลไม่โกรธหรอกค่ะ แต่ก็น้อยใจนิดหน่อยที่พี่ณิชไม่เชื่อใจนมล แต่คนที่น่าจะโกรธพี่ณิชคงจะเป็นพี่ชายธัชล่ะค่ะ ยังไงก็หาโอกาสคุยกันซะนะ”
“คุณชายคงไม่อยากคุยกับพี่แล้วล่ะค่ะ คุณชายมองพี่เหมือนพี่เป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว..แค่ชั่วข้ามคืนทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไปหมด”
“พี่ชายธัชคงกำลังสับสนเหมือนกับเราทุกคนในตอนนี้ ค่อยๆ คุยกันปรับความเข้าใจกันนะคะ ขอแค่พี่ณิชอย่าใช้วิธีหนีปัญหาอีกก็แล้วกัน คืนนี้นมลขอนอนด้วยนะ ขอนมลอยู่กับพี่นอมของนมลเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่พี่นอมจะกลายเป็นคุณณิชมน หลานสาวคุณหญิงนวลแขในวันพรุ่งนี้...”
“ไม่ว่าจะยังไงพี่ก็ยังเป็นพี่นอมของคุณนมลคนเดิมนะคะ”
“แต่พี่ณิชไม่ต้องคอยดูแลนมลอีกแล้วนะคะ ตอนนี้พี่ณิชมีครอบครัวของตัวเองที่ต้องกลับไปดูแล นมลดีใจด้วยจริงๆนะคะ”
พิมพ์นฤมลกอดณิชมนไว้อย่างรักสนิทใจเหมือนพี่สาวจริงๆ ณิชมนนิ่งคิดรู้ว่าที่สุดก็ต้องกลับไปหาครอบครัวของตัวเอง
เช้าวันใหม่ที่บ้านบุริศราวัณ รวิภาสรีบร้อนเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารรินกาแฟเองแล้วรีบยกดื่มอย่างรวดเร็ว อาจกำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้ามองรวิภาสอย่างแปลกใจ
“จะรีบไปไหนครับ คุณภาส”
“จะรีบไปรับคุณณิชมน หลานสาวคนใหม่ของคุณหญิงย่าน่ะซิครับ”
บุรธัชเดินเข้ามา
“แกไม่ต้องไปแล้ว ฉันโทรบอกอาจารย์ดาวเรืองแล้วว่า เราจะไม่ไปด้วย เรื่องของครอบครัวคนอื่น เราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“คุณณิชเป็นคนอื่นที่ไหน พี่ธัชก็..อย่ามาทำเป็นงอนไม่เข้าเรื่องหน่อยเลย ถ้าคุณณิชเค้าบอกความจริงพี่ได้ เค้าก็คงบอกไปนานแล้ว”
“ไม่ใช่เพราะบอกไม่ได้ แต่เค้าไม่ต้องการจะบอกฉันต่างหาก”
“แต่คุณชายก็รู้ความจริงแล้วนี่ครับ คุณชายน่าจะดีใจที่คุณแม่บ้านประนอมที่แท้ก็เป็นหลานสาวคุณหญิงท่าน ทีนี้อะไรๆก็คงง่ายขึ้น”
“แต่พี่ธัชชอบทำให้อะไรๆยากขึ้นเสมอครับ ลุงอาจ นี่ถ้าพี่ธัชยังฟอร์มเยอะท่าแยะอย่างนี้ ระวังจะมีคนอื่นมาฉกคุณณิชไป ไม่รู้ด้วยนะ”
“ใครจะฉกก็ฉกไป ฉันไม่สนใจ !”
บุรธัชเดินไม่สบอารมณ์ออกไป รวิภาสกับอาจมองหน้ากันอย่างหน่ายใจ
กันยา สายใจและรำไพจับกลุ่มเมาธ์กันสนั่นหวั่นไหว
“เรื่องจริงหรือวะ ฟังมาผิดหรือเปล่า เป็นไปได้ไง” รำไพถาม
“เรื่องจริงซิ ป้า”
ดำเกิงเดินยิ้มอารมณ์ดีเข้ามา
“ถ้าป้าไม่เชื่อ ถามพี่ดำได้เลย”
สายใจรีบลากดำเกิงเข้ามาร่วมวง
“พี่ดำรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนใช่มั้ย”
“เรื่องที่ไอ้ชัยวัฒน์ถูกตำรวจจับน่ะเหรอ รู้ซิ ฉันไปให้ปากคำที่โรงพักตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พวกแกรู้มั้ย ไอ้ชัยวัฒน์นี่มันก็สิบแปดมงกุฎดีๆนี่เอง ที่จริงมันจบแค่ม.6 แต่มันใช้วุฒิปลอมสมัครงานไม่รู้กี่ที่แล้ว เป็นครูบ้างเป็นไกด์บ้าง หลอกต้มคนไปทั่ว”
“เรื่องไอ้ครูชัยนั่นช่างเถอะ มันติดคุกไปก็ดีแล้ว เราอยากรู้เรื่องพี่นอมต่างหาก”
“ตกลงพี่นอมเป็นหลานสาวคุณหญิงนวลแขจริงๆ เหรอ แล้วพี่นอมมาเป็นแม่บ้านที่นี่ทำไม งงจริงๆ”
“เรื่องทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเพราะฉันเอง ฉันนี่แหละที่เป็นคนทำให้คุณณิชมนกลายเป็นคุณแม่บ้านประนอม” ดำเกิงพูดอย่างภูมิใจ
ณิชมนเดินเข้ามา
“ฉันต้องขอบคุณพี่ดำเกิงนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ดำเกิง ตอนนี้ฉันอาจจะยังเดินหางานทำอยู่ข้างถนน แล้วฉันก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักทุกคนที่นี่”
“พี่นอม..” กันยากับสายใจเรียก
“คุณณิชมน..” ดำเกิงเตือน
“คุณณิชมน..”
“ทุกคนคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ฉันทำหน้าที่แม่บ้านไม่ได้อีกต่อไป นี่จ้ะป้ารำไพ รายการอาหารของเดือนนี้ เดี๋ยวเดือนหน้าคุณผู้หญิงจะจ้างคนเพิ่มมาช่วยป้าในครัวนะ”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ ป้าดีใจจนพูดไม่ถูกเลย”
“พี่กันยา พี่สายใจ ตั้งใจทำงานอย่างนี้ต่อไปนะคะ รับรองปีหน้าได้ขึ้นเงินเดือนแน่ๆ ส่วนพี่ดำเกิง ที่พี่อยากไปทำงานที่ไร่ ฉันคุยกับคุณพรพรรณให้แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร หมดธุระของฉันแล้ว ฉันลาทุกคนเลยนะคะ แล้วคงได้เจอกันอีก”
ณิชมนยกมือไหว้ลาทุกคนจนทุกคนยกมือรับไหว้แทบไม่ทันเธอเดินออกไปทุกคนมองตามยังหน้าตาเหวอกันอยู่
“นี่มันนางฟ้าชัดๆ เลยนะเนี่ย !” กันยากล่าว
“โธ่ แล้วเราจะหาคุณแม่บ้านดีๆอย่างนี้ที่ไหนได้อีก”
“แล้วอย่างนี้เราต้องไปตามประนอมตัวจริงกลับมาหรือเปล่าล่ะเนี่ย”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างสงสัย
พรรณอรนั่งยิ้มขำ ส่วนพรพรรณที่นั่งทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะขำดีหรือโกรธดี ดาวเรืองนั่งมองประนอมที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ที่พื้น
“กราบขอโทษคุณพรรณอรกับคุณพรพรรณซะ ประนอม”
ประนอมก้มลงไหว้พรรณอรกับพรพรรณอย่างเงอะๆงะๆ
“หนูขอโทษค่ะ หนูเสียใจจริงๆนะคะ”
“ประนอมหนีตามแฟนไปทำงานที่กรุงเทพฯค่ะ ก็เลยเบี้ยวงานทางนี้ไปแล้วหนำซ้ำยังหลงไปเป็นเครื่องมือให้ชัยวัฒน์หลอกใช้อีก แย่จริงๆ”
“หนูไม่รู้จริงๆ นี่คะ อาจารย์ นายชัยวัฒน์คนนั้นเค้าบอกว่า เค้าเป็นคนบ้านสรณาลัยมาตามให้หนุกลับไปทำงาน พอดีตอนนี้หนู..หนู..”
“โดนแฟนทิ้งก็เลยคิดจะกลับมาทำงานที่นี่งั้นซิ” ดาวเรืองพูด
“ดิฉันคงรับประนอมกลับมาทำงานที่นี่ไม่ได้หรอกนะคะ” พรพรรณบอก
“ดิฉันก็ไม่ได้คิดจะให้ประนอมกลับมาทำงานที่นี่หรอกค่ะ แต่อยากให้เค้ามาขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายกัน”
“เราไม่ถือโทษโกรธประนอมหรอกค่ะ อาจารย์ ที่จริงเราน่าจะขอบใจประนอมด้วยซ้ำ ถ้าประนอมไม่เบี้ยวงานหนีไปกรุงเทพฯ เราก็คงไม่ได้รู้จักกับหนูณิชมน ดิฉันคงไม่ได้ลูกสาวน่ารักๆเพิ่มอีกคน คงเสียดายแย่เลยนะคะ”
พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์พาณิชมนเดินเข้ามา
“พี่ณิชพร้อมแล้วค่ะ อาจารย์”
พรพรรณมองณิชมนแล้วหันไปมองประนอมแล้วอดถอนใจยาวไม่ได้
“แต่ดิฉันยังไม่พร้อมเลยค่ะ อาจารย์”
ทุกคนยิ้มขำพรพรรณกันเป็นแถวประนอมคลานตัวลีบๆ ออกไปอย่างรู้งาน ดาวเรืองมองณิชมนอย่างดีใจที่ยอมตกลงกลับไปหานวลแข
พิมพ์นฤมล พรรณอร พรพรรณและพันธ์นฤสรร์เดินออกมาส่งณิชมนกับดาวเรือง ณิชมนยกมือไหว้ลาพรรณอรกับพรพรรณ
“หนูลานะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง หนูจะไม่มีวันลืมทุกคนที่นี่เลยล่ะค่ะ”
พิมพ์นฤมลเดินเข้าไปกอดลาณิชมน
“พี่ณิชไม่ต้องลานมลนะคะ ยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอีก”
“นั่นน่ะซินะ อีกหน่อยเราก็จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วล่ะ”
“จริงด้วยซิคะ พี่อร อีกไม่ช้าไม่นานทั้งนมลทั้งหนูณิชมนก็จะได้เป็นสะใภ้บ้านบุริศราวัณ เราก็ได้เกี่ยวดองเป็นญาติกันจริงๆล่ะทีนี้”
“พี่นมลกับพี่ภาสนี่โอเค ผมรู้ตั้งนานแล้ว แต่พี่ณิชนี่เป็นแฟนกับพี่ชายธัชตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย”
“คงจะมีอะไรเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คือ..คุณชายธัชกับหนู..”
“เรื่องนั้นเราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่า ตอนนี้คุณหญิงกำลังรอหนูอยู่นะ”
“หนูขอบคุณอีกครั้งนะคะ แล้วหนูจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ”
“สัญญานะจ้ะ ว่างเมื่อไหร่ต้องกลับมาเยี่ยมเรานะ” พรรณอรบอก
ดาวเรืองพาณิชมนเดินออกไปกลุ่มหมู่มวลคนรับใช้กันยา สายใจ ดำเกิงและรำไพออกมายืนส่ง ณิชมนหันมามองบ้านสรณาลัยอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปกับดาวเรือง
ณ บ้านสุธาสิน ดาวเรืองพาณิชมนเดินเข้ามาในบ้าน ณิชมนมองรอบๆบ้านด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ณิชาภัทรพานวลแขเดินเข้ามา ณิชมนยืนมองนวลแขยังไม่แน่ใจนักกับการตัดสินใจของตัวเอง
ณิชมน..
นวลแขเดินเข้าไปรวบตัวณิชมนเข้ามากอด
ขอบใจนะที่กลับมาหายาย...
หมดหน้าที่ของดิฉันแล้ว ดิฉันขอลากลับนะคะ คุณหญิงครูรับรองว่า หนูจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแน่ เพราะไม่มีที่ไหนจะสุขได้เหมือนอยู่บ้านที่มีครอบครัวที่รักหนู ดิฉันลานะคะ คุณหญิง
ดาวเรืองยกมือไหว้ลานวลแขแล้วเดินออกไป
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ น้องณิช” ณิชาภัทรบอก
“ยายมีเรื่องอยากจะคุยกับหนูมากมาย ยายดีใจเหลือเกินที่ณัชชาให้หนูกลับมาหายาย หนูรีบส่งข่าวไปบอกแม่เลยนะว่า ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วให้เค้ารีบกลับมา..ตั้งแต่แม่หนูหนีไป ไม่มีวันไหนที่ยายไม่คิดถึงแม่หนูเลย ว่าไง เราจะติดต่อแม่หนูได้ยังไง..
“คุณยายคะ...แม่ไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ แม่ตายแล้วค่ะ คุณยาย..
นวลแขยืนนิ่งอึ้งตกใจเกือบคุมสติไม่ได้ ณิชมนมองนวลแขอย่างเข้าใจ
นวลแขเช็ดน้ำตาที่รินไหลพลางดูรูปครอบครัวของณิชมนที่มีอยู่ไม่กี่ใบ ณิชมนส่งรูปที่ถ่ายครั้งสุดท้ายที่สวนสาธารณะให้นวลแขดู
“ณัชชา..”
“ณิชมีรูปอยู่แค่นี้แหละค่ะ คุณยาย บ้านเราไม่ชอบถ่ายรูปกันเท่าไหร่”
“ทุกอย่างเป็นความผิดของยายเอง ถ้ายายยอมลดทิฐิลง รีบไปตามหาครอบครัวของหนู เราคงจะได้มีโอกาสเจอกัน เหมือนกับว่าเค้าจะรู้นะ ทั้งณัชชาทั้งชยทัต..เหมือนเค้าจะรู้ตัวว่า เค้าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เค้าสองคนถึงได้พยายามใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด..”
“พ่อกับแม่รักกันมาก..เราอยู่กันลำบากหน่อย แต่เราก็มีความสุข แต่ความรู้สึกผิดที่ทำให้คุณยายกับคุณปู่โชติผิดหวังเสียใจ ทำให้พวกท่านไม่มีความสุขได้เต็มหัวใจ ไม่มีวันไหนที่แม่จะไม่คิดถึงคุณยายเหมือนกันค่ะ ความฝันของแม่คือ ได้กลับมากราบคุณยายซักครั้งนึง”
ณิชาภัทรมองณิชมนอย่างเห็นใจเมื่อรู้เรื่องครอบครัวของณิชมน ณิชมนทรุดตัวลงนั่งที่พื้นก้มลงกราบที่ตักนวลแข
“แม่ขอให้ณิชมากราบขอโทษคุณยายแทนแม่ด้วย คุณยายยกโทษให้แม่ด้วยนะคะ…”
นวลแขดึงณิชมนขึ้นมานั่งด้วยแล้วกอดแน่น
“ยายยกโทษให้แม่หนูนานแล้ว แล้วหนูกับแม่ล่ะยกโทษให้ยายหรือยัง”
“คุณย่าไม่เคยลืมอาณัชชาเลยนะ น้องณิช คุณย่าแอบให้คนตามหาอาณัชชามาตลอด คุณย่าไม่เคยตัดขาดอาณัชชาได้จริงๆ ยิ่งมารู้ทีหลังว่าอาณัชชามีลูกสาว คุณย่าก็เร่งให้อาจารย์ดาวเรืองรีบตามหาน้องณิชให้เจอ..”
“ณิชไม่ได้โกรธคุณยายหรอกนะคะ ที่ณิชคิดจะกลับไปซิดนีย์ เพราะณิชไม่อยากเป็นส่วนเกินของครอบครัวคุณยาย”
“หนูเป็นหลานของยาย จะเป็นส่วนเกินได้ยังไงกัน ต่อไปนี้ครอบครัวของยายก็คือ ครอบครัวของหนูนะ ณิชมน”
นวลแขดึงณิชมนเข้ามากอดอีก ณิชาภัทรมองณิชมนยอมรับได้ในที่สุด
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 24 อวสาน (ต่อ)
เช้าวันใหม่ที่ไร่บุริศราวัณ บุรธัชเดินคุยงานกับหัวหน้าคนงาน
“เดี๋ยวทางเกษตรจังหวัดจะมาดูงานที่ไร่ของเรา ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้ด้วย แล้วที่อยากได้คนงานเพิ่ม ก็บอกลุงอาจไว้แล้วกัน แค่นี้แหละ บ่ายๆ ฉันจะเข้ามาใหม่”
บุรธัชวุ่นกับงานจนเหมือนจะลืมณิชมนไปได้ชั่วขณะแล้วก็อดคิดถึงณิชมนไม่ได้เขานึกถึงตอนที่แกล้งใช้ณิชมนให้ล้างรถเขามองไปที่ที่จอดรถแล้วพยายามสะบัดภาพณิชมนออกไปจากหัว รวิภาสกับพิมพ์นฤมลเดินเข้ามาหาบุรธัช
“มาทำอะไรกัน มาช่วยงานพี่หรือไง นมล” บุรธัชทัก
“มาช่วยเป็นกาวประสานใจให้พี่ชายธัชต่างหากล่ะคะ”
ณิชมนเพิ่งก้าวเข้ามามองบุรธัชอย่างไม่แน่ใจ
“เรื่องครอบครัวก็เคลียร์กันเรียบร้อยแฮปปี้เอ็นดิ้งไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณควรจะมาเคลียร์ปัญหาหัวใจแล้วนะครับ” รวิภาสกล่าว
รวิภาสดึงพิมพ์นฤมลออกไปทิ้งให้ณิชมนยืนเผชิญหน้าอยู่กับบุรธัช บุรธัชเดินหนีจะไปขึ้นรถ ณิชมนรีบเดินตามไปขวางทางไว้
“คุณยังโกรธฉันอยู่หรือคะ คุณก็รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว คุณน่าจะเข้าใจว่าทำไมตอนนั้นฉันถึงบอกคุณไม่ได้ว่า ฉันเป็นใคร”
“ฉันไม่เข้าใจ ! แล้วก็คงไม่มีวันเข้าใจด้วย”
“ถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันเป็นหลานคุณยาย คุณจะยอมปิดเป็นความลับมั้ยล่ะ คุณไม่มีวันยอมแน่ แล้วคุณจำไม่ได้ใช่มั้ย คุณสัญญาว่า ไม่ว่าฉันจะเป็นใคร คุณยอมรับได้ทั้งนั้น”
“ใช่ ฉันยอมรับได้ทั้งนั้น ต่อให้เธอเป็นอาชญากรเคยฆ่าใครตายมา ความรู้สึกของฉันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่นี่เธอปิดบังความจริงด้วยเหตุผลโง่ๆ คิดเอาเองว่าคุณหญิงย่าไม่ต้องการเธอ คิดแต่จะหนี เพราะเธอ...คุณหญิงย่าต้องทุกข์ใจแค่ไหน รู้มั้ย”
“ในเมื่อคุณไม่พยายามเข้าใจฉัน ก็ไม่ต้องเข้าใจ ฉันจะไม่อธิบายอะไรแล้ว”
“ก็ไม่ต้องอธิบาย มันสายไปแล้วที่จะมาพูดอะไรตอนนี้ ถ้าเธอพูดความจริงตั้งแต่แรก เรื่องของเราก็จบลงด้วยดีไปนานแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะให้ชีวิตทุกคนต้องสับสนวุ่นวาย”
“ฉันมาที่นี่เพื่อขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือฉันมาตลอด และก็มาขอโทษที่ทำให้ชีวิตคุณต้องยุ่งยาก ต่อไปนี้ชีวิตของคุณจะง่ายขึ้น เพราะฉันจะไม่เข้าไปวุ่นวายชีวิตคุณอีกแล้ว คุณชายธัช”
ณิชมนเดินออกไป บุรธัชนิ่งอึ้งมองตามณิชมนอย่างใจหายเขาตัดใจหันเดินออกไปอีกทาง ณิชมนหันกลับมามองเห็นบุรธัชเดินออกไปลิ่วๆ ณิชมนมองตามบุรธัชอย่างน้อยใจเสียใจที่หันหลังเดินไปโดยไม่ไยดี
บุรธัชเดินมาที่รถอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย รวิภาสเดินมาหาบุรธัชเห็นท่าทีพี่ชายก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“พี่ธัช พี่จะยอมให้เรื่องของพี่กับคุณณิชจบลงอย่างนี้จริงๆเหรอ”
“ก็เค้าเลือกที่จะจบอย่างนี้เอง”
“พี่ธัชต่างหากที่เป็นคนเลือกให้มันจบลงอย่างนี้ พี่ธัชหัดเข้าใจคนอื่นบ้าง ไม่มีใครที่มีเหตุผลกับทุกเรื่องเหมือนกับพี่ธัชได้หรอก”
“แต่เรื่องสำคัญอย่างนี้ มาใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินใจได้ยังไง”
“คุณณิชอายุน้อยกว่าผมอีกนะ พี่ธัช เค้าเดินทางมาที่นี่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครช่วยคิดช่วยตัดสินใจด้วย ถ้าหากเค้าจะตัดสินใจอะไรผิดๆไปบ้าง พี่ก็น่าจะเข้าใจ”
บุรธัชเริ่มจะมีสติคิดได้บ้างอะไรบ้าง
“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว รีบไปตามง้อขอคืนดีซะ ผู้หญิงดีๆ อย่างคุณณิชผ่านเข้ามาในชีวิต ก็รีบคว้าไว้ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาดไปๆ ขึ้นรถครับ”
รวิภาสรีบลากบุรธัชขึ้นรถไป
ณิชมนเดินเข้ามาในบ้านสุธาสิน พิมพ์นฤมลเดินตามตื๊อต้อนหน้าต้อนหลัง
“พี่ณิชคะ พี่ชายธัชไม่ได้โกรธพี่ณิชจริงๆหรอกค่ะ เค้าก็แค่งอนนิดๆหน่อยๆเท่านั้นแหละ เค้าเป็นคนสำคัญของพี่ณิช แต่กลับรู้เป็นคนเกือบสุดท้ายว่า พี่ณิชเป็นใคร ก็ต้องน้อยใจกันบ้างล่ะ”
“คุณนมลเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คุณชายธัชไม่ใช่คนสำคัญของพี่ คุณนมลไม่ต้องพูดอะไรอีก เพราะยังไงพี่ก็จะไม่กลับไปเจอคุณชายอีก”
“โธ่ พี่ณิชก็..”
ณิชมนมองผ่านพิมพ์นฤมลไปที่ด้านหลังอย่างแปลกใจ พิมพ์นมลหันกลับไปมองด้านหลังตามณิชมน นวลแขและณิชาภัทรนั่งคุยอยู่กับสุเทพพ่อของพงษ์เทพ และมีพงษ์เทพนั่งถัดไป ณิชาภัทรรีบเข้ามาดึงตัวณิชมนให้ไปนั่งด้วย
“ไปจ้ะ ทุกคนกำลังรอน้องณิชอยู่”
“มีเรื่องอะไรหรือคะ แล้วนี่คุณพงษ์เทพมาทำไมคะ”
“คุณพงษ์เทพให้คุณพ่อมาเจรจาสู่ขอน้องณิชน่ะค่ะ” ณิชาภัทรบอก
ณิชมนนิ่งอึ้งตกใจ
พิมพ์นฤมลกับณิชาภัทรเดินออกมาที่ทางเข้าบ้านทั้งสองวุ่นวายกับการกดโทรศัพท์มือถืออย่างกังวลใจ
“ธัชปิดมือถืออีกแล้ว โทรหาภาสติดมั้ย นมล”
“โทรติดค่ะ แต่พี่ภาสไม่ยอมรับสาย ลืมมือถือไว้ในรถอีกแน่ๆ”
รวิภาสลากบุรธัชเข้ามา
“เดินเร็วๆ พี่ธัช แล้วจะพูดอะไรกับคุณณิช ก็คิดให้ดีก่อนพูดด้วยล่ะห้ามวีนห้ามเหวี่ยงเด็ดขาด ไม่งั้นคราวนี้คุณณิชได้หนีกลับซิดนีย์แน่ๆ”
“นี่รู้เรื่องกันแล้วใช่มั้ยคะ ถึงได้มากันที่นี่”
“รู้เรื่องอะไร นมล” รวิภาสถาม
“ก็เรื่องที่คุณพงษ์เทพขอน้องณิชแต่งงานน่ะซิ นี่คุณพ่อของคุณพงษ์เทพมาเจรจาขอหมั้นน้องณิชไว้ก่อน เห็นว่าได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้วนะ”
“คุณพงษ์เทพเล่นใช้ไม้นี้เลยเหรอ เห็นหรือยังล่ะ พี่ธัช คุณพงษ์เทพรุกหนักข้ามขั้นขอแต่งงานเลย พี่ธัชมัวแต่โกรธงอนอะไรก็ไม่รู้ ถ้าคุณณิชประชดยอมแต่งงานกับคุณพงษ์เทพไป ก็หมดกันเลยนะ พี่ธัช”
“ฉันจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่” บุรธัชกล่าว
บุรธัชรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที
“ต้องให้เจออย่างนี้ถึงจะรู้สึก !”
รวิภาสมองตามอย่างค่อยน่าลุ้นหน่อยที่บุรธัชเริ่มขยับทำอะไรบ้าง
ณิชมนนิ่งอึ้งพูดไม่ออกอยู่ นวลแขมองณิชมนสลับมองพงษ์เทพอย่างคาดคะเนความสัมพันธ์ว่ายังไงกัน สุเทพตบไหล่พงษ์เทพอย่างภาคภูมิใจพลางร่ายยาวต่อ
“ผมรับรองได้เลยนะครับ คุณหญิง ลูกชายของผมคนนี้มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมคู่ควรกับหนูณิชมนทุกประการ เชื่อผมเถอะนะครับพงษ์เทพสามารถดูแลหนูณิชมนให้มีความสุข ทั้งสองคนนี้เกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพราะบุพเพสันนิวาสหรอกเหรอครับ พงษ์เทพถึงได้ไปเจอหนูณิชมนบนเครื่องบิน แล้วก็ช่วยดูแลหนูณิชมนเรื่อยมา..”
“ดิฉันเข้าใจค่ะ คุณสุเทพ” นวลแขขัด “ดิฉันก็พอจะรู้เรื่องอยู่บ้างคุณพงษ์เทพกับหนูณิชเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แล้วก็ต้องขอบคุณมากที่ช่วยดูแลหลานของดิฉันมาตลอด ส่วนเรื่องแต่งงาน..คงต้องถามเจ้าตัวดูเอง ดิฉันคงจะตอบแทนไม่ได้..”
“หนูณิชไม่น่าจะมีอะไรขัดข้องนะครับ ใช่มั้ย หนูณิช” สุเทพถาม
บุรธัชเดินเข้ามาขัดจังหวะ
“ณิชมนคงจะตอบตกลงไม่ได้หรอกครับ เพราะเธอมีเรื่องติดค้างผมอยู่เธอยังไม่มีอิสระที่จะตัดสินใจอะไรได้”
รวิภาส พิมพ์นฤมลและณิชาภัทรเข้ามาร่วมเหตุการณ์
“คุณณิชมนไม่ใช่แม่บ้านประนอมแล้วนะครับ คุณชาย เธอไม่มีอะไรติดค้างคุณชายแล้ว แล้วถ้าคุณชายเป็นสุภาพบุรุษพอ คงไม่คิดจะบีบบังคับอะไรเธอด้วยการทวงหนี้บุญคุณเก่าๆหรอกนะครับ”
“คุณเองก็ช่วยเหลือณิชมนมาไม่น้อยเหมือนกัน คงไม่คิดจะให้เธอชดใช้บุญคุณด้วยการแต่งงานหรอกนะครับ”
“พอซักทีเถอะค่ะ คุณพงษ์เทพคะ ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรักเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่คุณ คุณชายธัชคะ ฉันกับคุณไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ฉันมีอิสระที่จะตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ขอโทษนะคะ คุณสุเทพ หนูขอตัวค่ะ”
ณิชมนยกมือไหว้สุเทพแล้วรีบลุกเดินหนีทุกคนออกมาบุรธัชตามมาดึงตัวณิชมนไว้
“ไม่มีอะไรติดค้างกันเหรอ เธอคิดผิดแล้ว เรายังมีเรื่องติดค้างกันอีกเยอะ !”
บุรธัชลากตัวณิชมนให้ออกไปด้วยกัน
“คุณหญิงย่าไม่ต้องตกใจครับ นี่เป็นเรื่องปกติของคู่นี้ ลากกันไปลากกันมาอย่างนี้ เดี๋ยวทุกอย่างก็เรียบร้อยเอง” รวิภาสบอก
ณิชาภัทรมองตามอย่างรู้ว่าต้องถอดใจจากบุรธัชแล้ว
บุรธัชลากตัวณิชมนเข้ามาในบ้าน ณิชมนดิ้นรนจนหลุดจากบุรธัชมาได้
“คุณชายธัช ! คุณไม่มีสิทธิ์จะทำกับฉันอย่างนี้อีกแล้วนะ”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว คุณโกรธฉันที่ฉันเห็นแก่ตัว ทำอะไรไม่นึกถึงความรู้สึกของคนอื่น จนคุณยกโทษให้ฉันไม่ได้..”
“ฉันขอโทษ..ฉันก็คิดถึงแต่ตัวเองเหมือนกัน ฉันมัวแต่โกรธที่เธอไม่ยอมบอกความจริง โกรธที่เธอไม่ยอมให้ฉันช่วยอะไรเลย ฉันลืมนึกไปว่าเธอผ่านเรื่องร้ายมามาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะเชื่อใจใคร แต่ต่อไปนี้ขอให้เธอเชื่อใจฉัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องให้ฉันอยู่เคียงข้างเธอ...ได้มั้ย..ณิชมน..”
“ฉันขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน”
“ณิชมน...”
อาจเดินถือซองเอกสารเข้ามา
“คุณณิชมน..ผมก็รออยู่ว่า เมื่อไหร่คุณจะมาซักที ช่วยรับนี่ไว้ด้วยนะครับ”
ณิชมนรับซองเอกสารจากอาจอย่างงงๆ
“ซองอะไร ลุงอาจ ไม่ใช่เวลานี้น่า ลุงอาจ”
“เวลานี้แหละครับเหมาะเจาะที่สุดแล้ว คุณชายสั่งผมไว้นานแล้ว ถ้าหากพบทายาทของคุณโชติ ชุติมันต์ ให้ส่งมอบเอกสารนี่ให้ทันที”
ณิชมนดึงเอกสารในซองออกมากวาดตาดูอย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณโชติมอบให้ทายาทของท่าน นั่นก็คือ คุณครับ คุณณิชมน ชุติมันต์”
ณิชมนหันไปมองบุรธัชแล้วนึกถึงเรื่องบ้านชุติมันต์ ตอนที่บุรธัชบุกบ้านสรณาลัยคิดว่าพรพรรณจะแย่งซื้อบ้านชุติมันต์ ในตอนนั้นบุรธัชพูดว่า
“พวกคุณต้องการอะไร พินัยกรรมของคุณโชติก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า ท่านขายบ้านให้ผมคนเดียวเท่านั้น จะบอกให้นะ ไม่ว่าจะใช้เล่ห์กลอะไร ทรัพย์สินทุกอย่างของชุติมันต์จะต้องเป็นของผม !”
ณิชมนพยายามเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณโชติขอให้คุณชายช่วยเก็บรักษาบ้านชุติมันต์รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆไว้ให้ทายาทของท่านน่ะครับ”
“พอได้แล้ว ลุงอาจ” บุรธัชบอก
“คุณโชติไม่มีญาติที่ไหนเหลือเลย คุณชายก็เลยต้องซื้อบ้านชุติมันต์ไว้ไม่งั้นทรัพย์สมบัติทุกชิ้นจะตกเป็นของแผ่นดินไป คุณชายไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร แล้วก็ไม่รู้ว่า ทายาทของคุณโชติจะกลับมาเมื่อไหร่แต่คุณชายก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเก็บทรัพย์สมบัติทุกชิ้นไว้ให้ครับ”
“ขอบคุณนะคะ ลุงอาจ”
“คุณต้องขอบคุณคุณชายซิครับ ถึงจะถูก คุณชายรอคอยคุณมานานแล้วอย่าทำให้คุณชายต้องผิดหวังเลยนะครับ คุณณิชมน”
อาจเดินออกไป ณิชมนหันมามองบุรธัชอย่างรู้สึกดีขึ้น
ณิชาภัทรเดินออกมาส่งพงษ์เทพกับสุเทพ สุเทพหันมามองลูกชายอย่างเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“แกนะแก ทำฉันขายหน้าจริงๆ..ฉันไปรอที่รถ รีบตามไปล่ะ”
สุเทพเดินหัวเสียออกไป พงษ์เทพมองตามแล้วยิ้มขำอย่างไม่ซีเรียสอะไรแล้ว
“กลับไปนี่ สงสัยผมโดนด่าเละแน่ๆ ดีไม่ดีผมอาจจะถูกตัดออกจากกองมรดกก็คราวนี้แหละ”
“คุณไม่เสียใจเลยหรือไงคะ”
“ที่จริงผมก็คิดอยู่แล้วว่า ผลจะออกมาอย่างนี้ แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะครับ ผมขอสู้จนถึงที่สุดก่อน แล้วผมก็ได้รู้ว่า ผมแพ้อย่างหมดรูปจริงๆ ยังไงคุณณิชก็ไม่เลือกผม แต่ผมก็ไม่เสียใจนะครับ อย่างน้อยผมก็ได้พยายามแล้ว”
“เราต้องรู้ได้ยังไงคะว่า เมื่อไหร่ที่เราจะต้องหยุดพยายาม”
“ผมว่า คุณรู้คำตอบแล้วนะครับ คุณณิชา”
ณิชาภัทรนิ่งคิด
บุรธัชเดินออกมาส่งณิชมน ณิชมนมองซองเอกสารในมือแล้วส่งคืนให้บุรธัช
“ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ ทรัพย์สินทุกชิ้นของบ้านชุติมันต์ควรเป็นของคุณ ไม่ใช่ของฉัน”
“ทรัพย์สินทุกชิ้นของบ้านชุติมันต์เป็นของเธอ ณิชมน ฉันแค่ช่วยดูแลไว้ให้เธอเท่านั้น ฉันเป็นนักธุรกิจ ฉันมีวิธีบริหารทรัพย์สินโดยไม่ได้ใช้เงินของฉันเลย เธอสบายใจได้”
“แต่คุณเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของบ้านชุติมันต์มากกว่าฉัน คุณดูแลคุณปู่คุณเก็บรักษาทรัพย์สินให้ทายาทที่คุณไม่รู้จัก..”
“ฉันดีใจที่ทายาทของคุณโชติคือ เธอ..ณิชมน เห็นมั้ยว่า ชีวิตเธอกำหนดให้ต้องมาเจอฉันจริงๆ เรามีอะไรที่เกี่ยวพันกันได้ตลอด ไม่น่าแปลกที่ฉันรู้สึกเหมือน..เราเคยรู้จักกันมาก่อน..”
“เราเคยเจอกันมาก่อนค่ะ คุณชายธัช จำผ้าพันคอที่ฉันอยากคืนให้คุณได้มั้ยคะ เจ้าของผ้าพันคอผืนนั้นคือ คุณค่ะ คุณเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ที่ซิดนีย์..”
บุรธัชนิ่งอึ้งมองณิชมนเริ่มเห็นภาพที่เกิดขึ้นที่ซิดนีย์ได้ชัดเจนขึ้น เขานึกถึงตอนที่ช่วยณิชมนจากมาเฟียจีนเขามองณิชมนเหมือนได้รู้เรื่องที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ..”
“แต่ฉันเชื่อแล้วว่า..ชีวิตนี้ฉันคงหนีคุณไปไม่พ้นแน่ๆ”
“เพราะฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอแล้ว”
“คุณชายธัช..”
“แล้วเธอก็เป็นเจ้าของชีวิตฉันด้วย ณิชมน..”
บุรธัชดึงณิชมนเข้ามากอดไว้
รวิภาสกับพิมพ์นฤมลขี่จักรยานด้วยกันมาแล้วหยุดมองหาบุรธัชกับณิชมน
“นมลบอกแล้วว่า พี่ชายธัชไม่พาพี่ณิชมาที่นี่หรอก สงสัยจะไปที่บ้านกันล่ะมั้ง ลองโทรถามลุงอาจซิคะ พี่ภาส”
“ไม่ต้องโทร ไม่ต้องตามแล้ว ถ้าพี่ธัชง้อคุณณิชเองไม่ได้ ต้องมีกองหนุนคอยช่วยอย่างนี้นะ ปล่อยให้อยู่เป็นโสดไปจนแก่ตายเถอะ”
“ไม่ช่วยไม่ได้นะ นมลอยากช่วยให้พี่ณิชสมหวังมีความสุข”
“พี่ธัชไม่ได้เรื่องอย่างนี้ สงสัยคู่เราได้แต่งก่อนแน่นอน ปลายปีเราหมั้นกันอีกสองปีก็แต่ง อยู่กันซักปีก็น่าจะมีลูกได้ เรามีลูกกันสองสามคน พี่ธัชอาจจะเพิ่งง้อคุณณิชสำเร็จ..”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ใครจะหมั้นใครจะแต่งคะ พี่ภาส”
“ก็เราสองคนไง ไม่ได้ยินที่คุณหญิงย่าประกาศบนเวทีที่วันเปิดตัวรีสอร์ตเหรอ เรื่องที่น่ายินดีเรื่องแรก การประกาศหมั้นระหว่างหม่อมราชวงศ์รวิภาสกับหม่อมหลวงพิมพ์นฤมล”
“ไม่มีการหมั้นไม่มีการแต่งทั้งนั้นแหละค่ะ พี่ภาสไปเรียนโทจบก่อนแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน หรืออาจจะต้องรอให้นมลเรียนจบโทก่อนโน่นเลย”
“กว่านมลจะเรียนจบโทอีกกี่ตั้งกี่ปี !! แล้วใครบอกว่า พี่จะไปเรียนต่อไม่ทราบ !!”
“มีปัญหาเหรอ”
“มีซิ มีปัญหาแน่นอน” รวิภาสเสียงดัง “เราต้องหมั้นกันก่อนที่พี่จะไปเรียนต่อพี่ไม่อยู่ แล้วมีหนุ่มๆมาจีบนมลล่ะ ไม่รู้ล่ะ พี่ต้องตีตราจองไว้ก่อน ห้ามไม่ให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนเข้าใกล้นมลเด็ดขาด !”
“ไม่ฟังกันอย่างนี้ นมลโกรธนะ ไหนบอกว่าจะไม่ทำให้นมลโกรธอีก”
รวิภาสถอนใจเฮือกๆ ทำใจให้เย็นเข้าไว้
“ก็ได้ๆ ยังไม่หมั้นก็ได้ หายโกรธยัง”
“ยัง !”
“แล้วพี่ต้องทำยังไง นมลถึงจะหายโกรธล่ะ”
พิมพ์นฤมลหันมามองรวิภาสอย่างมาดร้ายมีเล่ห์เหลี่ยม
รวิภาสวิ่งเหนื่อยหอบมาตามทางในไร่ พิมพ์นฤมลขับรถเอทีวีไล่กวดตามมาช้าๆ
“วิ่งเร็วๆหน่อยซิคะ”
“วิ่งเร็วแล้ว”
“ต้องเร็วกว่านี้ ไม่ไหวแล้วล่ะซิ”
“ไหวๆ ขอหายใจแป๊บนึง”
“ห้ามหยุดพัก นี่เป็นการลงโทษ ต่อไปนี้ถ้าพี่ภาสทำให้นมลโกรธอีกก็ต้องเจอแบบนี้แหละ วิ่งต่อไป เร็ว !”
รวิภาสวิ่งต่อไปได้อีกไม่กี่อึดใจก็หยุดลงนอนแผ่ที่พื้น พิมพ์นฤมลเดินมาหยุดชะโงกมองอย่างสะใจ
“หมดแรงแล้วล่ะซิ”
พิมพ์นฤมลยื่นมือส่งให้จะช่วยพยุงรวิภาสขึ้น รวิภาสจับมือพิมพ์นฤมลแล้วดึงเธอจนเสียหลักล้มลงไปนอนที่พื้นด้วยกัน
“พี่ภาส !”
“อย่าโกรธพี่เลยนะ อีกไม่นานเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้อีกแล้ว”
“พี่ภาสยอมไปเรียนต่อแล้วใช่มั้ย”
“พี่จะไปเรียนต่อ เพื่ออนาคตของเราสองคน นมลรอพี่นะ”
“นมลก็ต้องรออยู่แล้ว...”
รวิภาสดึงพิมพ์นฤมลเข้ามากอดไว้
บ้านสุธาสินในตอนเช้า ณิชาภัทรเลื่อนรูปของตัวเองออกไป แล้วจัดวางรูปของณิชมนลงแทนพร้อมรูปอื่นๆที่เป็นรูปณิชมนกับพ่อแม่ รวมทั้งรูปณัชชากับนวลแข ณิชาภัทรหันกลับมาเห็นบุรธัชเดินเข้ามา
“มาหาน้องณิชหรือคะ”
“ครับ เรานัดไปบ้านชุติมันต์กันน่ะครับ เรายังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยนะณิชา..คุณเป็นยังไงบ้าง”
“ถ้าธัชหมายถึงเรื่องน้องณิชล่ะก็..ณิชาไม่มีปัญหาอะไรเลย ณิชายินดีและเต็มใจรับน้องสาวคนนี้ ก่อนหน้านี้ณิชาไม่เห็นด้วยเลยที่ธัชจะคบกับน้องณิช แต่ตอนนั้นเค้าเป็นแค่แม่บ้านที่มีประวัติน่าสงสัย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ณิชาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกีดกันน้องณิชไปจากธัชแล้ว มีข่าวดีเมื่อไหร่ ธัชต้องบอกณิชาเป็นคนแรกนะคะ”
ณิชมนเดินเข้ามาหยุดฟัง
“ณิชา...”
“ณิชาเคยสงสัยตัวเองนะคะ ที่ณิชาพยายามแย่งธัชกลับคืนมา เพราะทนที่จะแพ้แม่บ้านอย่างประนอมไม่ได้ หรือว่าณิชารักธัชเกินกว่าจะยอมเสียธัชไป จนถึงตอนนี้ประนอมกลายเป็นณิชมน หลานของคุณย่า ความรู้สึกของณิชาก็ไม่เปลี่ยน..ณิชาคงยังรักธัชอยู่..รักมาก..ธัชไม่ได้รู้สึกอะไรกับณิชาแล้ว แต่ธัชก็เคยรักณิชาใช่มั้ยคะ ว่าไงคะ ที่ผ่านมาธัชเคยรักณิชาบ้างหรือเปล่า..”
“คุณเป็นเพื่อนที่ผมรักที่สุด..ณิชา..”
“คุณไม่เคยรักณิชาจริงๆ...ขอบคุณนะคะที่ไม่โกหกณิชา..”
ณิชาภัทรเดินกลั้นน้ำตาออกไป ณิชมนผละเดินตามไปบุรธัชยืนนิ่งอึ้งอย่างทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เห็นใจณิชาภัทร
ณิชาภัทรเดินกลั้นน้ำตาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดใจเป็นที่สุด นวลแขเดินออกมาหยุดชะงักเห็นณิชาภัทรที่เหมือนเด็กกำลังเดินหลงทาง
“เป็นอะไร ณิชา...”
“คุณย่าขา..”
ณิชาภัทรโผเข้ากอดนวลแข กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ณิชายอมแพ้แล้วล่ะค่ะ”
ณิชมนเดินเข้ามา
“พี่ณิชายังไม่แพ้หรอกค่ะ พี่ณิชายังมีโอกาสได้คุณชายกลับมานะคะ”
ณิชาภัทรตกใจหันกลับมามองณิชมน
“ไม่จ้ะ พี่จะไม่วิ่งไล่ตามคนที่ไม่รักพี่อีกต่อไปแล้ว พี่หลอกตัวเองมาตลอดว่า พี่มีสิทธิ์ในตัวธัช พี่คิดว่า เราเคยรักและจะกลับมารักกันได้อีก พี่รอคอยโอกาสที่พี่กับธัชจะกลับมาเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะธัชมีน้องณิชอยู่แล้ว”
“ย่าดีใจนะที่เราคิดได้ เราจะไปไขว่คว้าสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา ก็เหมือนไขว่คว้าอากาศที่จับต้องไม่ได้ การรักใครซักคน บางทีก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับรักกลับมาเสมอไป มีสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง ทำใจรับมันให้ได้”
“พี่ณิชาคะ...ณิชไม่เคยคิดจะมาทำลายความสุขของพี่ณิชา..”
“ไม่มีน้องณิช ธัชก็ไม่กลับมาหาพี่อยู่ดีแหละ พี่ต่างหากที่เป็นคนทำลายความสุขของน้องณิช พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พี่ทำลงไปได้ยังไง ต่อไปนี้พี่ควรทำหน้าที่พี่สาวที่ดี ถึงเวลาแล้วที่น้องณิชควรจะได้มีความสุข อยู่กับทุกคนที่รักน้องณิช คุณย่ามีน้องณิชแล้ว ณิชาไม่อยู่บ้านซักพัก คงไม่เป็นอะไรนะคะ”
“พี่ณิชาจะไปไหนคะ”
“ยังไม่รู้เลย ขอไปไหนไกลๆ ซักพัก อยู่ๆพี่ต้องเสียทั้งคุณย่าทั้งธัชให้น้องณิช ก็คงขอเวลาทำใจซักพักใหญ่ๆ แต่พี่สัญญานะ พี่จะเข้มแข็งกลับมา..”
นวลแขดึงณิชาภัทรเข้ามากอด ณิชาภัทรหันไปยิ้มให้ณิชมนแต่ก็อดน้ำตาคลอไม่ได้ ณิชมนมองนวลแขเช็ดน้ำตาให้ณิชาภัทรด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
อ่านต่อหน้าที่ 3
รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 24 อวสาน (ต่อ)
พงษ์เทพจิบกาแฟฆ่าเวลารอณิชมนอยู่ ณิชมนเดินเข้ามานั่งด้วย
“ผมดีใจจริงๆ ที่คุณยอมออกมาพบผม”
ณิชมนนิ่งคิดเรื่องณิชาภัทร ภาพณิชาภัทรกอดนวลแขร้องไห้ยังติดตาอยู่
“นี่คุณยังโกรธผมอยู่อีกหรือครับ ผมหมดหนทางแล้วจริงๆ ก็เลยบังคับให้คุณพ่อไปสู่ขอคุณ ผมอยากให้คุณรู้ว่า ผมจริงจังกับคุณแค่ไหน”
“เรื่องนั้นช่างเถอะค่ะ คุณมีเรื่องจะพูดกับฉันแค่นี้ใช่มั้ย”
พงษ์เทพดึงมือณิชมนไว้ไม่ให้ลุกหนีไป
“คุณณิช...ตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไรจากคุณเลย ผมขอแค่ ขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ถ้าเราได้พบกันอีก ก็อย่าทำเหมือนผมเป็นคนแปลกหน้า ผมทนไม่ได้จริงๆ”
“คุณจะไปไหนหรือคะ”
“คุณพ่อส่งให้ผมไปดูงานที่ยุโรป ไปหลายเดือนครับ อาจจะไปเป็นปีเลยก็ได้ ผมไปก็ดีเหมือนกัน ผมไม่เห็นหน้าคุณ ผมคงทำใจได้ง่ายขึ้น”
“การไม่ได้เจอกันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงๆ หรือคะ”
“อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องปวดหัวใจเวลาเห็นคุณอยู่กับคุณชายธัช แล้วถ้าคุณแต่งงานกับคุณชายเมื่อไหร่ ผมคงเจ็บปางตายแน่เลย”
ณิชมนนิ่งอึ้งยิ่งเครียดเมื่อนึกถึงความรู้สึกของณิชาภัทร
“คุณณิช..อย่าคิดมากนะครับ คนอย่างผมไม่ตายเพราะอกหักหรอกครับ ผมไม่เคยเสียใจที่ได้รู้จักคุณ ได้รักคุณ..ขอแค่คิดถึงเพื่อนคนนี้บ้าง คุณยังเห็นผมเป็นเพื่อนอยู่ใช่มั้ยครับ”
“คุณจะเป็นเพื่อนฉันเสมอค่ะ คุณพงษ์เทพ เพื่อนต้องช่วยเหลือเพื่อนใช่มั้ยคะ คุณช่วยอะไรฉันอย่างนึงได้มั้ย”
พงษ์เทพมองณิชมนอย่างรอว่าจะให้ช่วยอะไร
บุรธัชเดินเร็วๆ ออกมาหาพงษ์เทพที่ยืนรออยู่
“คนงานบอกว่า คุณมีธุระด่วน มีอะไรเหรอ คุณพงษ์เทพ”
พงษ์เทพส่งจดหมายให้บุรธัช
“คุณณิชให้ผมเอาจดหมายมาให้คุณ แล้วก็นี่ด้วยครับ”
พงษ์เทพส่งผ้าพันคอให้บุรธัช บุรธัชนิ่งอึ้งตกใจเข้าใจในความหมาเขานึกถึงณิชมนพยายามจะคืนผ้าพันคอให้เขา
“ตราบใดที่ผ้าพันคอผืนนี้ยังอยู่ที่เธอ เธอก็ยังไปจากฉันไม่ได้”
บุรธัชกำจดหมายกับผ้าพันคอไว้แน่น
“ตอนนี้ณิชมนอยู่ที่ไหน ผมถามว่า เค้าอยู่ที่ไหน !! เค้าบอกหรือเปล่าว่า เค้าจะไปไหน”
“ผมไม่รู้ กลับบ้านไปแล้วมั้งครับ คุณณิชจะไปไหนได้ นี่เกิดอะไรขึ้นหรือครับ คุณชาย !”
บุรธัชพุ่งออกไปทันที พงษ์เทพมองตามอย่างงงๆ แล้วรีบตามบุรธัชไป
บุรธัชนั่งนิ่งหน้าตาเฉยชา ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างรู้สึกผิด รวิภาส พิมพ์นฤมลเดินตามพงษ์เทพเข้ามาอย่างร้อนใจ
พี่ณิชหายตัวไปจริงๆ หรือคะ
“คราวนี้พี่ธัชทำอะไรอีกล่ะ” รวิภาสถาม
สงสัยจะเป็นความผิดของผม ผมคงเผลอหลุดพูดอะไรออกไปที่ทำให้คุณณิชไม่สบายใจแน่ๆ” พงษ์เทพกล่าว
เป็นความผิดของณิชาเองค่ ณิชาไม่น่าพูดเลยว่า ณิชาจะไปจากบ้านซักพัก น้องณิชก็เลยตัดหน้าหนีไปซะก่อน ณิชานี่แย่จริงๆ
แต่เราตามตัวพี่ณิชกลับมาได้นี่คะ พี่ณิชทิ้งจดหมายไว้ให้พี่ชายธัชไม่ใช่หรือคะ พี่ณิชเขียนว่าไงบ้าง
เค้าบอกหรือเปล่าว่า เค้าจะไปไหน
“ฉันยังไม่ได้เปิดอ่าน แล้วก็ไม่คิดจะอ่านด้วย”
“แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า พี่ณิชหนีไปไหน เราแจ้งตำรวจกันดีกว่านะคะพี่ภาส ไปค่ะ ไปโรงพักกัน”
นวลแขเดินเข้ามา
“ไม่ต้องไปหรอก ย่ารู้ว่า หนูณิชไปไหน หนูณิชมาขออนุญาตย่ากลับไปซิดนีย์ เค้าขอกลับไปจัดการธุระส่วนตัว เสร็จธุระเมื่อไหร่ก็จะกลับมาเอง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”
“โธ่ คุณย่าขา คุณย่าก็รู้ว่า ทำไมน้องณิชถึงได้หนีกลับซิดนีย์”
“ใช่ ย่ารู้ ถึงย่ารั้งหนูณิชไว้ได้ ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร หลานของย่าดื้อกันทุกคน อยากกลับไปก็ให้ไป คนเรามักจะรู้ค่าของความรัก ก็ต่อเมื่อต้องสูญเสียมันไป บทเรียนชีวิตอีกบทของเราทุกคน...”
นวลแขมองบุรธัชให้รู้ว่าไม่ได้พูดถึงณิชมนคนเดียวแต่บุรธัชไม่รับรู้ด้วย กำลังโกรธณิชมนอยู่
“เรารู้แล้วว่า ณิชมนไม่ได้หายตัวไปไหน แต่กลับไปซิดนีย์ งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอกลับไปทำงานต่อนะครับ คุณหญิงย่า”
บุรธัชยกมือไหว้ลานวลแขแล้วเดินดุ่มๆออกไป รวิภาสกับพิมพ์นฤมลมองหน้ากันแล้วหันกลับไปมองบุรธัชอย่างอึ้งๆ
บุรธัชเดินเข้ามาโยนผ้าพันคอกับจดหมายลงบนโต๊ะ จดหมายพลาดหล่นร่วงลงบนพื้น รวิภาสเดินเข้ามาเก็บจดหมายส่งให้บุรธัช
“เปิดอ่านหน่อยเถอะ พี่ธัช พี่ธัชจะได้รู้เหตุผลว่า ทำไมอยู่ๆ คุณณิชถึงได้หนีกลับไปซิดนีย์”
“ฉันไม่ต้องการรู้ !”
“นี่พี่ธัชไม่คิดจะไปตามคุณณิชจริงๆ เหรอ”
“ไม่ ! ฉันเคยบอกเค้าแล้วว่า ถ้าเค้าหนีไปจากฉันอีก ฉันจะไม่ไปตาม”
“คุณณิชอาจจะต้องการอยู่คนเดียว เค้าอยากจะขอเวลาคิดซักพัก อย่าลืมนะ พี่ธัช ตั้งแต่คุณณิชมาที่นี่ ก็มีแต่เรื่อง เค้าไม่เคยมีเวลาได้หยุดหายใจคิดเรื่องตัวเองเลย..”
“ฉันขอร้องเค้าแล้วนะ นายภาส ฉันขอให้ฉันได้อยู่เคียงข้างเค้า ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะช่วยกันคิดหาทางออกด้วยกัน แต่เค้าก็ตัดสินใจจะไปอยู่ดี ฉันสงสัยจริงๆ เค้าเห็นฉันเป็นอะไร”
“พี่ธัชก็ไปถามเจ้าตัวเค้าซิครับ พี่ธัชจะอยู่เฉยๆ ปล่อยทุกอย่างไปตามบุญตามกรรมงั้นเหรอ ไม่มีอีกแล้วนะครับ ที่พี่ธัชจะบังเอิญไปเดินชนคุณณิชหรือจะได้ไปเจอกันที่ไหนอีก อย่ามัวนั่งรอให้ปาฏิหาริย์เกิด บางครั้งเราก็ต้องสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาเอง...”
รวิภาสเดินออกไปขี้เกียจจะพูดอะไรอีกแล้ว บุรธัชมองจดหมายในมือนิ่งคิด
ที่ซิดนีย์ ณิชมนเดินอย่างโดดเดี่ยวบนถนนกลางเมืองท่ามกลางผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา เธอหยุดยืนรอข้ามถนนมองรถที่แล่นสวนไปมาแล้วนึกถึงบุรธัชเกือบขับรถชนเธอ นึกถึงตัวเองยืนกลางถนนเกือบถูกรถชนบุรธัชพุ่งเข้าชารต์ตัวช่วยไว้ ในตอนที่รถบุรธัชยางแตกเธอกับบุรธัชค้างคืนด้วยกันและที่บ้านริมทะเลบุรธัชกับเธอเดินที่ชายหาด ณิชมนยืนนิ่งได้แต่คิดถึงบุรธัชอย่างสลัดภาพบุรธัชออกไปไม่ได้
บุรธัชยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางไร่ในมือถือจดหมายของณิชมนอยู่
“ฉันเคยผ่านการสูญเสียมามากแล้ว ฉันหวังว่า นี่จะเป็นการสูญเสียครั้งสุดท้าย นั่นก็คือการสูญเสียคุณ แต่เราอาจจะได้พบกันอีก พบกันในฐานะคนที่เคยมีความทรงจำดีๆร่วมกัน เราคงเป็นกันได้แค่นี้จริงๆกลับไปหาพี่ณิชาเถอะนะคะ พี่ณิชาเป็นคนที่เหมาะสมกับคุณที่สุดแล้วคุณเคยรักพี่ณิชา คุณจะต้องรักเธอได้อีกครั้ง ไม่มีฉันแล้ว..ทุกอย่างจะต้องกลับไปเหมือนเดิมอย่างแน่นอน......ลืมฉันซะเถอะนะคะ ฉันก็จะลืมคุณเหมือนกัน...”
บุรธัชอ่านจดหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า นึกถึงตอนที่เขาดึงณิชมนเข้ามากอดไว้แล้วพูดว่า
“ฉันไม่เคยคิดว่า ในชีวิตนี้ฉันจะพูดคำนี้ แต่ฉันเชื่อว่า ปาฏิหาริย์ทำให้เราได้เจอกัน และความรักจะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน...”
บุรธัชนึกถึงคำพูดของรวิภาสที่ทิ้งท้ายให้เขาได้คิด
“อย่ามัวนั่งรอให้ปาฏิหาริย์เกิด บางครั้งเราก็ต้องสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาเอง”
จดหมายหลุดมือจากบุรธัชปลิวหลุดออกไป เขายืนมองนิ่งอย่างตัดสินใจอะไรบางอย่าง
บ้านบุริศราวัณในตอนเช้า รวิภาส พิมพ์นฤมล ณิชาภัทร และพงษ์เทพผลัดกันลุกไปชะเง้อมองว่าบุรธัชจะลงมาเมื่อไหร่ บุรธัชเดินออกมารวิภาสปราดเข้าไปหาเป็นคนแรก
“พี่ธัช ตกลงพี่จะเอายังไง”
“ไม่ต้องถามเลย พี่ชายธัชต้องไปตามพี่ณิชเดี๋ยวนี้เลย” พิมพ์นฤมลบอก
“เดี๋ยวณิชาจะจองตั๋วเครื่องบินให้เอง”
“ถ้าคุณชายไม่ไป ผมจะไปตามคุณณิชเอง แล้วถ้าคุณณิชเปลี่ยนใจมาทางผมล่ะก็ อย่ามาโทษผมนะครับ”
บุรธัชนิ่งฟังทุกคนพูดๆๆ อย่างอดทน อาจถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาพร้อมส่งพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินให้บุรธัช
“รีบไปกันเถอะครับ คุณชาย เดี๋ยวจะตกเครื่องบิน”
“นี่พี่ธัช..”
“ฉันจะไปซิดนีย์ ไปตามณิชมน”
“น้องณิชยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย แล้วธัชจะไปตามหาน้องณิชที่ไหน”
“ผมพอได้ข้อมูลมาบ้าง จะลองไปที่ทำงานเก่าของณิชมนดูก่อน น่าจะได้เบาะแสอะไรบ้าง แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะตามณิชมนให้เจอ”
“ผมเชื่อว่า คุณชายต้องทำได้อยู่แล้ว เจอตัวแล้วก็จับใส่กุญแจอย่าให้หนีไปได้อีกนะครับ” พงษ์เทพกล่าว
“ณิชาขอโทษจริงๆที่เป็นต้นเหตุให้น้องณิชหนีไป ถ้าเจอน้องณิชแล้ว พาตัวกลับมาให้ได้นะคะ บอกว่าณิชารอจัดงานแต่งงานให้ธัชกับน้องณิชอยู่ อย่าลืมบอกให้ได้นะคะ”
บุรธัชยิ้มแล้วเดินออกไปอย่างมั่นใจ อาจถือกระเป๋าเดินทางตามไปทุกคนมองตามอย่างโล่งใจ
ร้านอาหารไทยในซิดนีย์ บุรธัชเดินถอยหลังออกจากร้านอาหารพนักงานในร้านเดินไล่ออกมา เขาพยายามตื๊อถามพลางเปิดรูปในมือถือให้ดูพนักงานส่ายหน้าท่าเดียว บุรธัชเดินออกมาอย่างผิดหวัง
ร้านดอกไม้ในวันใหม่ บุรธัชเดินผ่านไปตามร้านต่างๆ เดินผลุบเข้าไปหลายร้านแล้วเดินออกมา เขาเดินออกจากร้านดอกไม้แล้วขีดฆ่ารายชื่อที่ทำงานของณิชมนออกไปอีกหนึ่ง
ในตอนเย็น บุรธัชเดินขาลากอย่างเหนื่อยอ่อนมาตามทางเดินใจกลางเมืองเขามองไปรอบๆด้านที่กว้างใหญ่ผู้คนลานตาดูไม่มีความหวังเอาซะเลย
ที่สวนสาธารณะ บุรธัชเดินมาทรุดตัวนั่งพักที่ม้านั่งในสวนสาธารณะ กดดูข้อมูลในมือถืออย่างเคร่งเครียดแล้วมองกระดาษโน้ตในมือ รายชื่อที่ทำงานที่พักเก่าของณิชมนถูกขีดฆ่าจนหมดไม่มีเหลือ
“เราต้องหาณิชมนให้เจอ !”
บุรธัชขยับพันผ้าพันคอใหม่แล้วนึกถึงสถานที่อีกที่ได้รีบผุดลุกออกไปทันที ณิชมนเดินมานั่งที่ม้านั่งถัดไปที่อย่างเฉียดฉิวเกือบจะได้ทันเห็นบุรธัชเธอเปิดหนังสือพิมพ์ขีดฆ่าร้านอาหารไปอีกหนึ่งอย่างหมดแรง
“เราต้องทำได้ เราต้องหางานให้ได้ภายในวันนี้แหละ”
ณิชมนฮึดขึ้นมาใหม่เปิดหางานในหนังสือพิมพ์ต่อไป
บุรธัชเดินเข้ามาหยุดยืนมองซอยเปลี่ยวที่เคยช่วยณิชมนจากมาเฟียจีน เขามองไปรอบๆตัวมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีวี่แววผู้คนเลย
“ไม่มีทางเป็นไปได้ เค้าจะกลับมาที่นี่ทำไม คิดอะไรบ้าๆ”
บุรธัชหันหน้ากลับมาต้องหยุดนิ่งอึ้งไปหนึ่งอึดใจเต็มๆ ณิชมนยืนมองมาที่บุรธัชอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“คุณชายธัช !”
บุรธัชขยับเดินไปหาณิชมน มาเฟียจีนสองคนโผล่พรวดเข้ามาอย่างไม่ให้ตั้งตัว
“Hey you !”
บุรธัชเข้าไปกางกั้นปกป้องณิชมนก่อนที่มาเฟียจีนจะไปถึงตัว เขาซัดมาเฟียคนแรกถอยออกไปชนกับมาเฟียคนที่สอง ก่อนจะดึงณิชมนไป
“หนีเร็ว !” บุรธัชบอก
บุรธัชลากตัวณิชมนวิ่งหนีไป มาเฟียจีนสองคนตั้งตัวได้ไล่ตามกวดทั้งสองคน เขาพาณิชมนวิ่งหนีพลางเตะโยนถังขยะข้าวของในซอยขวางทางไปตลอดทาง ณิชมนดึงบุรธัชหลบเข้าทางลัดในซอยแคบผลุบหายไปทั้งสองคน
บุรธัชกับณิชมนพากันวิ่งหนีหลบมาเฟียจีนจนถึงสวนสาธารณะ เขากับณิชมนยืนหอบเหนื่อยยังตื่นเต้นตกใจไม่หาย
“พวกมันตามเรามาไม่ทันแล้วล่ะค่ะ นี่เจ้านายมันต้องให้คนคอยเฝ้าที่อพาร์ทเมนท์ฉันแน่ๆ ฉันกลับมาปุ๊บก็เจอตัวฉันปั๊บฉันนี่โง่จริงๆ ไม่น่ากลับไปพักที่เดิมเลย”
“เธอโง่จริงๆนั่นแหละ รู้ว่า กลับมาต้องเจอกับอะไร ก็ยังดื้อด้านกลับมา เธอไม่ใช่ณิชมนคนเดิมแล้ว เธอมีเงินที่จะจ่ายหนี้ให้พ่อเธอได้ แต่เธอก็เลือกที่จะเสียสละทุกอย่าง ด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่า”
“ฉันเคยคิดว่า ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่มันไม่ใช่ เราอยู่กันแค่สองคนไม่ได้ เรายังมีครอบครัวที่ต้องแคร์ ถ้าคนในครอบครัวไม่มีความสุข เราก็ไม่มีความสุขไปได้”
“แล้วเธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้ว คุณหญิงย่ากับณิชามีความสุขเหรอเธอทำให้คุณหญิงย่าต้องเป็นทุกข์อีกครั้ง แล้วณิชาก็จะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต...”
“พี่ณิชารักคุณ..ถ้าคุณกับพี่ณิชาคืนดีกัน คุณยายรักพี่ณิชา คุณยายทนเห็นพี่ณิชาเสียใจไม่ได้หรอก แล้วอีกหน่อยคุณจะพลอยเกลียดฉันไปด้วย ที่ฉันทำร้ายคนรอบข้างของคุณทุกคน”
“เธอคิดเองตัดสินใจเองอีกแล้ว ณิชมน ณิชาไม่ได้รักฉันจนจะเป็นจะตายอีกไม่นานเค้าก็จะลืมฉันไปได้เอง คุณหญิงย่ารักเธอไม่น้อยไปกว่าณิชาท่านอยากเห็นเธอมีความสุขกับคนที่เธอรักซะยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เธอเคยว่าฉันไม่มีหัวใจ แต่เธอต่างหากที่ไม่มีหัวใจไม่รู้จักความรัก เธอถึงหนีฉันมา คนที่จะไม่เหลือใครเลย คือเธอต่างหาก ไม่ใช่ฉัน”
บุรธัชเดินออกไป ณิชมนยืนนิ่งอึ้งไป
ณ ไร่บุริศราวัณ รถรวิภาสแล่นมาตามทางในไร่แล้วจอด รวิภาสกับพิมพ์นฤมลลงจากรถมองไปรอบๆ ไร่
“พี่ต้องไปเรียนต่อเมื่อไหร่ ต้องคิดถึงที่นี่แย่เลย แค่คิดก็ไม่อยากไปแล้ว”
“ยังไงพี่ภาสก็ต้องไปค่ะ”
“นมลคิดดูดีๆนะ พอพี่เรียนจบโท นมลก็เรียนจบตรีที่นี่พอดี พี่เรียนจบกลับมา นมลก็ต้องไปเรียนต่อ เราสวนกันไปสวนกันมาอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก”
“เวลากับระยะทางจะทำให้เราสองคนเปลี่ยนไปใช่มั้ย”
“ไม่..ไม่มีทาง”
“เราโตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอดนะคะ พี่ภาส เราไม่มีวันรู้หรอกว่าถ้าเราอยู่ห่างกันแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง นมลไม่ต้องการคำสัญญาอะไรจากพี่ภาสเลย ขอแค่ถ้าวันไหนที่พี่ภาสไม่รู้สึกคิดถึงนมลแล้ว ก็บอกนมลด้วยแล้วกัน”
“พี่จะต้องคิดถึงนมลทุกนาทีเลย นมลไม่ต้องการคำสัญญา แต่พี่จะให้คำสัญญา พี่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากนมล นมลเป็นทุกอย่างให้พี่ได้ เป็นเจ้าตัวยุ่งคอยกวนใจ เป็นป้าแก่คอยเตือนสติ แล้วก็เป็นคนที่อยู่ในหัวใจพี่ตลอดมา เราจะต้องรักกันอย่างนี้ไปอีกนาน..นานและนาน..”
“พี่ภาสก็เป็นทุกอย่างให้นมลได้ เป็นพี่เป็นเพื่อน..เป็นเพื่อนสนิทที่สุดในโลก ความรักจืดจางได้ แต่ความเป็นเพื่อนของเราจะอยู่ตลอดไปค่ะ...”
รวิภาสเหนี่ยวคอพิมพ์นฤมลมาใกล้แล้วกอดไว้อย่างอบอุ่น
อีกด้านหนึ่งที่สวนสาธารณะในซิดนีย์ ณิชมนเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ที่เธอเคยมาโปรยเถ้ากระดูกแม่ เธอนิ่งคิดถึงบุรธัชนึกถึงความบังเอิญที่ได้เจอกันครั้งแล้วครั้งเล่า เธอนึกถึงความรู้สึกหลังจากรู้ว่าบุรธัชเป็นคนช่วยเธอจากมาเฟียจีนที่ซิดนีย์
“คุณคิดว่า อะไรทำให้เราได้มาพบกันอีกครั้ง”
“ก็เพราะฉันไง ถ้าฉันไม่ตามหาเธอ เราก็คงไม่ได้พบกันอีก”
“ฉันหมายถึงก่อนหน้านั้น คุณไม่คิดบ้างหรือไงคะว่า เราอาจจะเคยเดินสวนทางกันที่ไหนซักแห่ง แล้วเราก็ได้มาเจอกันอีก”
ณิชมนมีความสุขเต็มเปี่ยมเหมือนชีวิตเติมเต็มที่ได้เจอผู้ชายที่ช่วยเหลือเธออีกครั้งและเป็นบุรธัช
“งั้นก็แสดงว่า ชีวิตเธอกำหนดมาให้ต้องพบกับฉัน...”
ณิชมนนิ่งคิด
“ถ้าชีวิตเรากำหนดมาให้ต้องพบกัน..เราก็จะได้พบกัน..” ณิชมนกล่าว
ก่อนที่ทั้งสองจะได้รู้จักกัน บุรธัชกับณิชมนต่างคนต่างมานั่งคิดเรื่องของตัวเองแต่มองไม่เห็นกัน บุรธัชเดินเฉียดไปทางณิชมน ปลายผ้าพันคอปลิวให้ณิชมนเห็นทางหางตา ณิชมนเงยหน้าขึ้นมองเห็นเป็นบุรธัชที่รู้สึกว่ามีคนมองมาบุรธัชหันกลับสบตากับณิชมน
ในครั้งที่บุรธัชเข้ามาช่วยณิชมนจากมาเฟียชายร่างยักษ์เข้ามาฉุดพาณิชมนหนีไป ณิชมนรั้งตัวไว้หันไปมองบุรธัชอีกครั้ง หมอกรอบๆตัวบุรธัชจางหายไปณิชมนได้เห็นบุรธัขอย่างชัดเจนว่าเป็นคนที่ช่วยเธอไว้ เธอกลับมาที่ซอยเปลี่วเผื่อจะได้เจอบุรธัช ก้มลงหยิบผ้าพันคอขึ้นมาแล้วจะหันกลับมาเห็นบุรธัชเดินเข้ามาหยุดมองมา ณิชมนคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย
“ถ้าเป็นไปได้ก็ดี..จริงมั้ยคะ แม่..คุณชายธัชจะได้รู้ณิชเป็นใครตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ไม่ว่าเราจะได้เจอกันที่ไหนหรือครั้งไหนก็ตาม..แล้วณิชก็คงไม่ทำให้เค้าต้องเสียใจแบบนี้..”
ณิชมนประสานมือหลับตาลง
“ขอโอกาสอีกซักครั้งได้มั้ย ขอให้ได้พบเค้าอีกซักครั้ง ครั้งเดียวเท่านั้น”
ณิชมนลืมตาขึ้นมองไปรอบๆตัวที่ว่างเปล่าไม่มีผู้คน เธอเดินออกมาอย่างตัดใจแล้วเธอก็เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ห่างไกลออกไปมากเห็นเพียงผ้าพันคอที่ปลิวไปตามลม ภาพเลือนๆของผู้ชายที่มีผ้าพันคอเคลื่อนไหวเหมือนเดินตามหาคนอย่างร้อนรน ณิชมนวิ่งไปหาทันทีด้วยความรู้สึกว่าต้องใช่บุรธัชแน่ๆ
เธอวิ่งไปจนใกล้เห็นภาพผู้ชายคนนั้นชัดขึ้นๆจนเห็นว่าเป็นบุรธัชจริงๆ เธอรีบวิ่งพุ่งไปหาบุรธัชเหมือนกลัวว่าภาพจะสลายไปเหมือนที่เคยฝัน บุรธัชก้าวยาวๆ เข้ามาหาณิชมนจับตัวณิชมนไว้ก่อนที่จะล้มลงไป
“ไม่ต้องวิ่ง !” บุรธัชพูด
“คุณกลับมาหาฉัน.. คุณชายธัช ฉันมีโอกาสได้เจอคุณอีกครั้งจริงๆ..”
“ฉันจะทิ้งเธอให้อยู่ที่นี่คนเดียวได้ไง เธอได้ถูกเจ้าหนี้ฆ่าตายแน่ ฉันจะใช้หนี้ให้ แล้วกลับไปกับฉัน ไม่มีแต่ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการต่อรองอะไรทั้งนั้น คราวนี้เธอต้องทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น”
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะกลับไปกับคุณ”
บุรธัชมองณิชมนอย่างไม่เชื่อใจกลัวมีลูกเล่นอะไรอีก
“ถ้าคิดว่าจะกลับไปแล้วค่อยหาทางหนีใหม่ ก็เลิกคิดได้เลย กลับไปเราจะแต่งงานกัน”
“นี่เป็นคำขอแต่งงานที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลย คุณยังไม่บอกรักฉันเลย แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไงคะ คุณชาย”
“เธอจะไม่แต่งงานกับคนที่ไม่รัก ฉันก็เหมือนกัน ฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรักเท่านั้น ฉันรักเธอ..ณิชมน..ตอนนี้เธอมีครอบครัวรออยู่ มีบ้านให้กลับ มีตั้งสามบ้าน บ้านคุณยายของเธอ บ้านคุณปู่ของเธอ แล้วก็บ้านบุริศราวัณ แต่บ้านเดียวที่เธอต้องกลับไป คือบ้านของฉัน..บ้านของเรา”
“ค่ะ ฉันจะกลับไปที่บ้านของเรา ฉันสัญญากับคุณแล้วนี่คะว่า ฉันจะกลับไปเป็นแม่บ้านให้คุณ ก่อนที่เราจะกลับไป ฉันมีเรื่องจะสารภาพ...ฉันโกหกคุณค่ะ..”
บุรธัชมองณิชมนเตรียมใจรับว่าจะมีอะไรอีก
“ที่ฉันบอกว่า ฉันไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ ไม่เชื่อในความรัก ฉันโกหกคุณแต่นี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ที่ทำให้คุณตามหาฉันเจอ ความรักของคุณต่างหากที่ทำให้ฉันได้เจอคุณอีกครั้ง และครั้งนี้ฉันจะไม่จากคุณไปไหนอีกค่ะคุณชายธัช..ฉันให้สัญญา..”
บุรธัชดึงณิชมนเข้ามากอดไว้อย่างไม่ให้หนีหลุดมือไปได้อีกตลอดชีวิต
Where there is great love, there are always miracles…
ความรักทำให้เกิดปาฏิหาริย์ได้เสมอ...
จบบริบูรณ์