xs
xsm
sm
md
lg

นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 3

เมขลาวิ่งหนีมา แล้วอดหันกลับไปดูไม่ได้ เธอเห็นรามตั้งหลักสู้กับนักเลง ทำให้นึกเป็นห่วงขึ้นมา รามนั้นลงมือซัดผู้ร้ายอย่างฝีมือเหนือชั้นกว่า เขาสามารถจัดการได้แน่ๆ แต่กลับโดน
แอปเปิ้ลปาใส่จนหน้าหงาย พลิกความคาดหมายเสียเอง

“โอ๊ย”
รามเซไป เมขลาหน้าแหย เพราะที่ปาใส่นั้นกะช่วยเล่นงานคนร้ายแต่พลาด คนร้ายมองอึ้งงง
“ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
เมขลาหน้าเสียวิ่งเข้ามาประคอง รามเจ็บลุกขึ้นอย่างโมโห
“คุณทำอะไรของคุณฮึ แล้วนี่กลับมาทำไม”
“ก็มาช่วยคุณไง คุณยิ่งเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย”
รามส่ายหน้าพูดไม่ออก เจ็บก็เจ็บ โมโหก็โมโห คนร้ายได้สติกรูกันเข้ามาหาทั้งคู่ รามวิ่งพุ่งไปดึงเมขลาหนีไปในซอยข้างโรงพยาบาลซึ่งเป็นทางทางตัน เมขลาหน้าซีด แต่ไม่วายหันมาห่วงราม
“ไม่ต้องกลัวนะ ทำใจดีๆ หายใจลึกๆ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้”
เมขลาง่วนกับการหยิบมือถือ รามฉุดมือ
“ผมบอกให้คุณหนีไปไง”
พวกคนร้ายพุ่งเข้ามา รามพยายามต่อสู้พร้อมๆกับที่พยายามปกป้องเมขลาไว้
“แต่ฉันทิ้งคนเจ็บอย่างคุณไม่ได้หรอก”
เมขลาพยายามช่วยราม แหกวงล้อมเข้ามาประชิดด้านหลังระวังให้ จึงทำให้รามเสียสมาธิ จะสู้กับนักเลงก็มีเมขลาพันแข้งขา ทำให้เขาพลาดจนโมโห
“หนีไปเร็ว!”
“ไม่! เกิดคุณเป็นอะไร ฉันก็บาปไปชั่วชีวิตสิ”
นักเลงพุ่งเข้ามา เมขลาตั้งท่าจะสู้ตอบเก้ๆ กังๆ
“อย่านะ”
นักเลงไม่ฟังเงื้อไม้หน้าสามจะตี เมขลาหลับหูหลับตาจะสู้ แต่รามหันไปเล่นงานคนร้ายแทน รามเล่นงานจนทุกคนหมอบหมด พากันคลานหนีไป
“เป็นยังไงบ้าง คุณแน่นหน้าอก หรือเจ็บหัวใจบ้างไหม”
เมขลาวิ่งไปประคอง รามไม่รู้จะตอบยังไง อึกอัก ทันใดเสียงตบมือดังขึ้น พร้อมๆกับที่แสงกับเย็นเดินออกมาจากที่ซ่อนตัว
“เอ็งมันสุดยอดจริงๆว่ะ” เย็นปรบมือให้
เมขลาหันมองรามอย่างคิดไม่ถึง
“นี่มันอะไรกัน”
“ก็ไอ้รามแฟนน้อง มันอยากเข้าร่วมงานกับพวกพี่ ก็เลยต้องทดสอบกันหน่อย” บอกเมขลาแล้ว เย็นหันไปยิ้มกับราม “ดีใจด้วยนะโว้ย ที่เอ็งผ่านการทดสอบของพวกเรา”
“แต่เขาเป็นทั้งมะเร็ง ทั้งโรคหัวใจ จะเข้าร่วมแก็งกับพวกคุณได้ยังไง” เมขลาแย้ง
แสงงง
“อะไรนะ ขี้โรคขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อย่าไปฟังครับ ไม่จริงทั้งนั้น”
เมื่อรามบอกอย่างนั้น เมขลานึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ความสามารถในการต่อสู้ของรามนั้น มันค้านกับสิ่งที่เขาบอกเธอว่าป่วยใกล้ตายมาก เมขลาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าถูกหลอก หันไปมองรามอย่างเจ็บใจ
“นี่คุณโกหกฉันเหรอ”
รามไม่ตอบ เมขลาตบหน้ารามฉาดใหญ่
“คนเลว!”
เย็นกับแสงอึ้ง มองทั้งคู่ เมขลายังคงโวยวาย
“แล้วเรื่องแม่ของคุณที่ป่วยใกล้ตาย คุณก็โกหกฉันด้วยใช่ไหม ตกลงคุณเป็นใครกันแน่ แล้วทำแบบนี้ทำไมฮึ”
รามเห็นท่าจะไปกันใหญ่ รีบจับแขนเมขลาไว้ หันไปบอกเย็น
“เดี๋ยวผมจะติดต่อไปนะพี่เย็น”
รามลากแขนเมไป เย็นกับแสงมองตาม
“ฝีมือดีแต่มีผู้หญิงมาวุ่นวายแบบนี้ คงไม่ไหว”
แสงส่ายหน้าเดินไป
“มีเมียสวยซะด้วย แต่คุ้นหน้าชะมัด”
เย็นพยายามนึก แต่นึกไม่ออก


รามลากเมขลาออกไปที่ริมถนนแล้วผลักไปไกลๆ
“ไปให้พ้นจากที่นี่ แล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
เมขลาโมโหปรี๊ด หันขวับเล่นงานราม
“นึกหรือว่าฉันอยากจะเห็นหน้า คนหลอกลวงอย่างคุณ”
“จำคำพูดของคุณไว้ให้ดีๆ ล่ะ เพราะถ้าผมยังเห็นหน้าคุณอีก ผมจะจับคุณไปขายชายแดนเลย เห็นว่าทางโน้นกำลังอยากได้ผู้หญิงหน้าตา ท่าทางอย่างคุณพอดี”
“หน้าตา ท่าทางอย่างฉันเป็นยังไง”
รามกวาดตามองทั่วตัวอย่างยียวน เมขลารีบเอามือกอดอก มองรามตกใจ และโมโห
“นั่นสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน หรือว่าจะพิสูจน์มันเสียตรงนี้เลยดี”
รามกางมือเข้าทำท่าจะจับเมขลาแก้ผ้า เธอถอยหนี้
“ไอ้บ้า ไอ้ลามก ขอให้ตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด”
เมขลาวิ่งหนีกลับไปทางเดิม แล้วสะดุดผลไม้เยี่ยมไข้ที่เธอใช้ปาคนร้าย จึงหยุดก้มเก็บผลไม้มองอย่างโมโหแกมเซ็ง
“ต่อไปฉันจะไม่มีวันเชื่อผู้ชายคนนี้อีกแล้ว คนลวงโลก”
เมขลาปาผลไม้ทิ้งลงถังขยะอย่างแค้นใจ

เมขลาหิ้วตะกร้าผลไม้ที่ซื้อมาใหม่ ตรงไปที่ห้องทรงวาด เมขลาจะเคาะประตู แต่ประตูเปิดออกมาเสียก่อนโดยละมุนที่กำลังจะกลับบ้าน
“หนูเม! นี่หนูมาทำไม” ละมุนแปลกใจที่เห็นเมขลา
“หนูมาเยี่ยมคุณทรงวาดค่ะ”
ละมุนตกใจ
“นี่หนูรู้แล้วหรือ”
“รู้อะไรคะ แล้วนี่น้ารู้จักคุณทรงวาดด้วยหรือคะ”
ละมุนอึกอักก่อนถอนใจยาว
“มันคงถึงเวลาที่น้าต้องบอกเรื่องนี้กับหนูแล้วสินะ”
“เรื่องอะไรคะ”
ละมุนทอดตาไปในห้องทรงวาดก่อนตัดสินใจ พยักหน้าให้เมขลาตามไปอีกทาง

ทรงวาดนั่งรถเข็นออกมาดูวิวนอกห้องพัก แก้เครียด แก้คิดถึงราม เมขลาเดินมามองด้วยความรู้สึกเทิดทูน เพราะละมุนได้บอกเธอว่า...
‘…คุณทรงวาดเป็นคุณแม่อุปถัมภ์ของหนู...แต่เธอไม่อยากเปิดเผยตัวเลยขอให้น้าปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับ...’
เมขลาเดินตรงเข้าไปหา
“คุณแม่...”
ทรงวาดหันมองแปลกใจ
“หนู ?”
เมขลาฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจไว้ไม่ไหว ก้มลงกราบทรงวาดบนตัก ทรงวาดมองแปลกใจ
“หนูมากราบขอบพระคุณคุณแม่ค่ะ ที่กรุณาส่งเสียหนูเรียนจนจบ ทำให้หนูได้เป็นแอร์โฮสเตสตามที่ฝันไว้”
ทรงวาดนึกออกว่าเป็นใคร ยกมือลูบผมอย่างเอ็นดู
“หนูเมใช่ไหมจ๊ะ”
เมขลาพยักหน้า ในที่สุดก็ร้องไห้ออกมา ทรงวาดกอดเมขลาไว้อย่างดีใจ เรืองฤทธิ์เดินมาเห็นมองอย่างแปลกใจ
“พี่วาด! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ”
“พี่เบื่อ เลยอยากออกมาสูดอากาศข้างนอกน่ะ”
เรืองฤทธิ์มองเมขลาอย่างสงสัยว่าเป็นใคร ทรงวาดรีบแนะนำทั้งสองฝ่าย
“นี่หนูเมลูกสาวที่พี่อุปถัมภ์ไว้...คุณเรืองฤทธิ์ เป็นน้องชายของสามีแม่”
เมขลาสวัสดีเรืองฤทธิ์ แล้วหันมาบอกทรงวาด
“แล้วพรุ่งนี้เมจะมาเยี่ยมคุณแม่ใหม่นะคะ”
“แต่ถ้าหนูต้องไปทำงาน หรือมีธุระก็ไม่เป็นไรหรอกนะ”
“งานหรือธุระอะไรก็ไม่สำคัญเท่าคุณแม่ หรอกค่ะ”
ทรงวาดซึ้งใจที่เมขลาดูเป็นห่วงเธอมาก แล้วนึกเทียบกับราม
“นี่ถ้าตารามคิดได้อย่างหนูเมก็ดีสินะ”
“ผมจะไปหารามอีก รามจะได้เห็นว่าพี่วาดอยากเจอจริงๆ”
ทรงวาดพยักหน้า แล้วชะงักไปเมื่อเมขลา วิ่งกลับมาดักหน้าทรงวาด
“คุณแม่คะ...คุณแม่เดี๋ยวค่ะ...”
ทรงวาดกับเรืองฤทธิ์มองเมขลาอย่างปลกใจ


ค่ำคืนนั้น ทรงวาดนอนไม่หลับ พลิกไปมา แล้วมองไปเห็นกระดาษฉีกแผ่นหนึ่ง ที่วางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ทรงวาดเอื้อมมือหยิบมามอง แล้วนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันที่เมขลาส่งกระดาษแผ่นนี้มาให้แล้วบอก...
‘นี่เบอร์มือถือเมค่ะ ถ้าคุณแม่มีอะไรอยากให้เมทำให้ก็โทรไปตาม เมที่เบอร์นี้ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ’
ทรงวาดตัดสินใจโทรหาเมขลา ขอให้เธอไปตามรามเป็นเพื่อน เมขลารับปากทันที และได้มาพบกับทรงวาดวันรุ่งขึ้น...


ทรงวาดให้คนขับรถขับพาเธอ กับเมขลามาส่งที่หน้าที่พักราม ซึ่งเป็นตึกสองชั้น ด้านล่างเป็นสถานบันเทิง ชั้นบนเป็นที่พักของราม มามาซัง และผู้หญิงนั่งดริ๊งที่เช่าอยู่เป็นห้องๆ
เมื่อลงจากรถเมขลาอึ้งกับสถานที่ที่ทรงวาดขอให้พามา
“เอ่อ...คุณแม่แน่ใจนะคะ ว่าคุณแม่จะมาที่นี่จริงๆ”
ทรงวาดลังเล ก้มมองกระดาษที่จดที่อยู่รามมาเทียบ กับเลขที่ของไนต์คลับแล้วพยักหน้า“คนที่เขาบอกแม่ เขาจดมาให้ว่าเป็นที่นี่...เราลองเข้าไปดูก่อนก็แล้วกัน”
“ถ้าอย่างนั้นคุณแม่รออยู่ข้างนอกดีมั้ยคะ หนูจะเข้าไปตามคนที่คุณแม่อยากเจอให้เอง”
“ไม่เป็นไร แม่ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเขาอยู่ที่นี่แน่หรือเปล่า”
เมขลางงๆ แต่จำใจรับฟัง ขณะประคองทรงวาดเข้าไป

ในไนต์คลับ รามนั้งกดโทรศัพท์มือถือส่ง SMS ให้ก้องภพว่า...
‘กรงเสือเปิดกว้างสำหรับผมแล้ว’
“ราม!”
รามสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมองเห็นทรงวาดยืนอยู่กับเมขลา ทั้งสองคนต่างมองกันแล้วต่างก็อึ้ง
“คุณ!”
“นี่คุณอีกแล้วรึ!”
“ราม”
ทรงวาดดีใจมาก เมขลาหันมองอย่างแปลกใจ
“คุณแม่รู้จักเขาด้วยหรือคะ”
ทรงวาดไม่ตอบ เข้าไปกอดราม
“รามเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่าลูก”
รามตกใจ รีบแกะทรงวาดพัลวัน
“คุณจำคนผิดแล้ว”
รามจะไป ทรงวาดผวาตาม กอดแขนรามไว้
“ราม”
เมขลามองอยู่อึ้งๆ ตกใจ เมื่อรู้ว่าทรงวาดเป็นแม่ของราม
“นี่ลูกยังไม่หายโกรธแม่จริงๆหรือ”
รามไม่สบายใจที่จะต้องทำร้ายจิตใจทรงวาด แต่ก็พยายามตัดใจเพื่อไม่ให้งานเสีย ตัดสินใจเรียกมาม่าซัง
“เจ๊ ครับเจ๊”
มาม่าซังรีบเดินเข้ามา
“มีอะไรจ๊ะราม”
รามพยักหน้าไปที่ทรงวาด
“ช่วยพาผู้หญิงคนนี้ออกไปที เขาเพ้อเจ้ออะไรก็ไม่รู้”
“นี่คุณทำแบบนี้กับคุณแม่ได้ยังไง”
รามฝืนทำใจแข็ง
“เขาไม่ใช่แม่ผม”
ทรงวาดน้ำตาคลอ
“รามจะไม่พอใจแม่ยังไง รามก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองแบบนี้ กลับไปกลับแม่นะ ราม แล้วรามอยากให้แม่ทำยังไงแม่จะทำทุกอย่าง”
มาม่าซังจับแขนทรงวาดแกะออกจากราม
“จนเขาพูดขนาดนี้แล้ว ยังจะตื้ออยู่ได้ มานี่ ออกมากับฉัน”
มาม่าซังกระชาก ทำให้ทรงวาดเซ
“ว้าย”
เมขลารีบเข้าไปประคอง มองรามกินเลือดกินเนื้อ
“คนใจร้าย ป่าเถื่อน อกตัญญู”
รามไม่สนใจเดินไป ทรงวาดมองรามผิดหวัง เมขลาทำท่าจะไปเอาเรื่อง แต่มาม่าซังขึงตาจ้อง เท้าสะเอวมองกันท่าไว้
“ไปได้แล้วไป ประตูอยู่ทางโน้น ไปสิ ไม่อย่างงั้น ฉันจะเรียกลูกน้องมาโยนเธอออกไป”
เมขลามองมาม่าซังด้วยความโมโห ทรงวาดจับมือห้ามไว้
“ไม่เป็นไรหนู ไว้วันหลังเราค่อยมากันใหม่”
เมขลามองทรงวาดอย่างสงสารก่อนพาออกไป

รามนั่งเครียดจิบเครื่องดื่มในมุมด้านในของไนต์คลับ มาม่าซังเดินเข้ามาหายิ้มอย่างเอาใจ“เจ๊ไล่ทั้งสองคนนั่น ออกไปให้รามเรียบร้อยแล้วนะ”
รามฝืนยิ้ม
“ขอบคุณมากครับ”
“เรื่องเล็ก แต่ผู้หญิงคนเมื่อกี้นี่แปลกจริงๆ เลยนะ เจ๊เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น คนอะไรหน้าตาก็ดี แต่งเนื้อแต่งตัวก็ดี แต่กลับมาหาว่าคนอื่นเป็นลูกตัวเองหน้าตาเฉย”
“คนเราก็แบบนี้แหละครับ รู้หน้าไม่รู้ใจ”
มาม่าซังพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่รามบีบแก้วน้ำในมืออย่างแค้นๆเมื่อคิดถึงอดีต ขณะที่รามกับลักษณ์ ฝาแฝดของเขาอายุ 8 ขวบนั้น...
ลักษณ์นั่งวาดรูปแม่ที่มีวงแหวน มีปีกแบบปีกของนางฟ้า อยู่เหนือเด็กผู้ชายสองคนที่ยืนจับมือกัน ที่ภาพเขียนว่า “แม่ของผม”
ขณะที่ลักษณ์ กำลังวาดรูประบายสีอย่างขะมักเขม้น รามนอนเล่นตุ๊กตาทหารยิงกันอยู่ โรจน์เดินเข้ามาสีหน้ายิ้มแย้ม
“เด็กๆดูซิใครมา”
เด็กๆหันไปดู เห็นทรงวาดเข้ามากับพ่อ
“น้าวาด!”
ทั้งคู่ดีใจพุ่งเข้าไปกอด รามมองไปเห็นทรงวาดเอากระเป๋าเดินทางมาด้วย
“นี่น้าวาดจะมาอยู่กับเราเหรอครับ”
ทรงวาดพยักหน้าอายๆ พ่อบอกเด็กๆ เคร่งขรึม
“ใช่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป น้าวาดจะมาอยู่ที่บ้านนี้ เพื่อมาดูแล พ่อกับพวกลูกแทนคุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์...
“ถ้าอย่างนั้นผมเรียกน้าวาด ว่าแม่วาดได้มั้ยครับ”
ทรงวาดพยักหน้ารับตื้นตัน ทั้งสี่คนกอดกันอย่างดีใจ


เมื่อรามกับลักษณ์เรียนชั้นมัธยมปลาย บ่ายวันหนึ่งรามซึ่งออกแนวห้าวๆ ซ้อมเตะมวยอยู่ที่สนาม ส่วนลักษณ์ที่ชอบงานศิลปะกำลังวาดรูปรามด้วยสีถ่านอย่างสวยงาม
โรจน์ขับรถเข้ามาจอด ลงมาจากรถหน้าซีดๆ เหนื่อยๆยืนมองลูกสองคนแล้วกลุ้มใจ
“คนนึงก็บ้าวาดรูป คนนึงก็เอาแต่เล่นกีฬาเตะต่อยทั้งปี แล้วอีกหน่อยพวกมันจะช่วยงานพี่ได้ยังไงเนี่ย”
ทรงวาดเข้ามาช่วยรับกระเป๋ากับสูท
“ตอนนี้ปล่อยให้เด็กๆ เค้าสนุกไปกันก่อนเถอะค่ะ...พอถึงเวลาวาดว่าพวกเขาต้องทำได้เองนั่นแหละ”
พ่อพยักหน้าเอือมๆ ก้าวเดินตามทรงวาดเข้าบ้าน แล้วเกิดแน่นหน้าอก ทรุดลง
“โอ๊ย”
ทรงวาดร้องอย่างตกใจ
“พี่โรจน์...พี่โรจน์!”
รามกับลักษณ์ได้ยินเสียงทรงวาดร้องรีบวิ่งมา
“พ่อ...พ่อเป็นอะไรน้าวาด”
ลักษณ์เประคอง
“พ่อทำใจดีๆไว้นะครับ”
“รามไปเอารถออก ลักษณ์ ช่วยน้าประคองคุณพ่อที”
โรจน์พยายามพูดกับทรงวาดเป็นห้วงๆ
“ถ้าพี่เป็นอะไรไป...ฝาก...ลูก...ด้วยนะวาด...ให้พวกเขา...ตั้งใจเรียน ดูแลกิจการ...แทนพี่”
โรจน์พูดต่อไม่ออก ช็อค หมดสติไป

รามคิดถึงเรื่องราวในอดีตอย่างแค้นๆ
“ทำไมพ่อต้องฝากพวกผมไว้กับเขาด้วย ทำไม!”
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทรงวาดที่อยู่บนรถนั่งหน้าซีด เสียใจมาก เมขลามองสงสารบีบมือให้กำลังใจ และให้ดมยาดมไปด้วย
“ขอบใจหนูมาก แต่แม่ไม่เป็นอะไรแล้ว”
เมขลาจำใจพยักหน้าเก็บยาดม แต่มองทรงวาดอยางเห็นใจ
“คุณแม่ใจเย็นๆ นะคะ หนูว่าอีกไม่นานลูกชายคุณแม่ก็จะเข้าใจคุณแม่”
“แม่ก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน หวังมานานแล้ว แต่ดูเหมือนรามจะไม่เคยเข้าใจแม่สักที”
เมขลานึกสงสัยว่าแม่ลูกเขามีอะไรกัน ทรงวาดมองเหม่อไปนอกรถคิดถึงอดีต
“เขายังโกรธแม่เรื่องลักษณ์ไม่หาย”
“ลักษณ์?”
“ลักษณ์เป็นพี่ชายฝาแฝดของราม...”

ในอดีต...ทรงวาดหอบสมุดภาพวาดอยู่ในมือมาที่หลังบ้าน ลองเปิดๆ เห็นเป็นภาพวาดที่ลักษณ์วาดสะสมไว้ตั้งแต่เป็นเด็ก แล้วมองอย่างลังเล เรืองฤทธิ์ยื่นไฟแช็คให้
“เพื่ออนาคตของเด็กๆ พี่วาดต้องใจแข็งเข้าไว้”
ทรงวาดกลั้นใจจุดไฟแช็คเผาที่กระดาษวาดเขียน ไฟลามขึ้นอย่างเร็ว ขณะที่รามกับลักษณ์เดินแกมวิ่งมาอย่างรีบเร่ง แต่ไม่เห็นว่าเรืองฤทธิ์เป็นคนยื่นไฟแช็คให้ทรงวาด
“แม่...อย่า!”
รามร้องห้าม ลักษณ์จะเข้าแย่งภาพวาดแต่เรืองฤทธิ์คว้าตัวไว้
“ระวังนายลักษณ์”
“ไม่...”
ลักษณ์คู้ตัวลงอย่างเจ็บปวด เมื่อเห็นกระดาษวาดรูปกลายเป็นขี้เถ้า ลักษณ์เงยหน้ามองทรงวาดผิดหวัง เสียใจ
“แม่เผารูปของผมทำไม”
ทรงวาดฝืนใจทำเสียงแข็งใส่
“ยังจะมาถามแม่อีก จำไม่ได้หรือ ว่าพ่อสั่งเอาไว้ก่อนตายว่ายังไง รามกับลักษณ์ต้องสืบทอดกิจการของพ่อทันทีที่เรียนจบ จะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้ไม่ได้ ไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วตามแม่ไปประชุมที่บริษัท”
รามเซ็ง
“ผมไม่ไป ผมจะไปชกมวย”
รามจะไป แต่เรืองฤทธิ์พูดขัดขึ้น...
“อาเอานวมกับกระสอบทรายของราม ไปบริจาคหมดแล้ว”
รามหันขวับไปมองทรงวาด
“เป็นคำสั่งของแม่อีกใช่มั้ยครับ”
ทรงวาดไม่ตอบว่าจริงๆแล้วเป็นความคิดของเรืองฤทธิ์ ตัดบททันที...
“ทีนี้จะไปได้หรือยัง”
รามพูดไม่ออก โมโห ทรงวาดเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรู้สึกผิด แต่ต้องทำเพื่ออนาคตลูก

ค่ำคืนหนึ่ง...ทรงวาดกอดลักษณ์ที่สิ้นใจตายกับอกร้องไห้ตกใจ...
“ลักษณ์! ลักษณ์เป็นอะไรลูก ลักษณ์พูดกับแม่สิ ลักษณ์”
ขณะเดียวกันนั้น รามกับเรืองฤทธิ์ วิ่งพรวดเข้ามา
“ลักษณ์เป็นอะไรครับพี่วาด”
ทรงวาดส่ายหน้า ไม่รู้เหมือนกัน รามมองรอบๆ เห็นขวดยานอนหลับกลิ้งอยู่กับพื้น หยิบขึ้นมาดู บีบ เท เห็นขวดเปล่า รามเขวี้ยงขวดทิ้งแรงลงพื้น มองทรงวาดย่างโกรธจัด
“เพราะแม่ใจร้าย แม่ทำให้ลักษณ์กินยานอนหลับจนหมดขวด แม่เป็นคนทำให้ลักษณ์เป็นแบบนี้”
ทรงวาดส่ายหน้า รามไม่สนผลักทรงวาดออก เข้าอุ้มลักษณ์
“ถ้าลักษณ์เป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยแม่เลย”


ทรงวาดพยายามกลั้นสะอื้น หลังจากที่เล่าเรื่องราวในอดีตให้เมขลาฟัง
“แล้วรามก็ทำตามที่พูดจริงๆ...เขาหนีออกไปจากบ้านวันที่เราเผาศพลักษณ์ แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย จนกระทั่งนักสืบตามหาจนเจอตัว ในสภาพที่หนูเห็นนั่นแหละ”
เมขลาฟังแล้วก็สงสารทุกคน ค่อยหายเกลียดรามขึ้นมาบ้าง
“เพราะแบบนี้นี่เอง”
ทรงวาดพยักหน้า
“แม่คิดว่ารามจงใจจะฆ่าตัวเองทางอ้อม ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกต่อไป แม่คงต้องเสียรามไปเหมือนๆ กับที่เสียลักษณ์แน่ๆ”
เมขลาบีบมือทรงวาดอย่างสงสาร
“หนูสัญญาว่าหนูจะช่วยคุณแม่...ไม่ให้คุณแม่ต้องเสียคุณรามไปอีกคน”
ทรงวาดมองเมขลาอย่างมีหวัง

เรืองฤทธิ์เปิดห้องออกมาอย่างตกใจที่ไม่เห็นทรงวาดนอนอยู่ในห้อง เมขลาประคองทรงวาดมาพอดี
“พี่วาด นี่พี่ไปไหนมาครับ”
“ทำไมฤทธิ์ถึงไม่บอกพี่ว่าที่ๆ รามอยู่เป็นแบบไหน”
เรืองฤทธิ์มองทรงวาด แสร้งตีสีหน้าไม่สบายใจ
“พี่ไปหารามมาเหรอครับ แล้วเขาว่ายังไงบ้าง ยอมกลับมามั้ย”
“นอกจากไม่กลับ แล้วก็ยังทำเป็นไม่รู้จักคุณแม่ด้วยค่ะ”
เรืองฤทธิ์ทำทีเป็นหนักใจมาก
“นี่ละครับสาเหตุที่ผมไม่อยากให้พี่วาดเจอกับราม เพราะผมไม่อยากเห็นพี่วาดไม่สบายใจ เสียใจแบบนี้ไงครับ”
ทรงวาดพูดไม่ออก เรืองฤทธิ์แอบยิ้มอย่างสะใจ

ลูกน้องของเย็นสามคน เดินอาดๆเข้าไปในไนท์คลับที่รามพักอยู่ ด้วยท่าทีอันธพาลเต็มที่
“เฮ้ย ใครชื่อไอ้รามวะ”
สาวๆในร้านพากันมองกันเงียบกริบ
“พี่ถามไม่ได้ยินหรือไง หา...”
มาม่าซังเดินเข้ามามองอย่างไม่พอใจ
“ที่นี่จะบริการเฉพาะลูกค้า ใครไม่ใช่ก็เชิญออกไป”
“เจ๊ กล้าไล่พวกฉัน รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร”
“ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นพวกอันธพาล”
ลูกน้องคนหนึ่งพุ่งเข้ามา เงื้อมือจะตบ มาม่าซังคว้าเก้าอี้ฟาด ลูกน้องอีกคนจะเข้ามาจับ สาวๆในร้านเข้ามาช่วยจึงถูกเหวี่ยงกระเด็น ลูกน้องที่ตามเข้าไปช่วยคนแรก เงื้อตบมาม่าซัง ทันใด รามเข้าไปจับมือแล้วบิด ลูกน้องเย็นอีกคนเข้ามาจะชกราม
“อย่าสอดไอ้ลูกหมา”
รามชกสวนกลับอย่างว่องไว ลูกน้องสองคนแรกเข้าลุยกับรามพร้อมๆกัน รามหลบซ้ายขวา จับหัวสองคนโขกกันเองลงไปนอนกอง แต่คนหนึ่งได้ชักปืนจะยิง รามหมุนตัวเตะฟาดเท้าดีดปืนในมือจนกระเด็น รามจะซัดหน้าลูก แต่เย็นถลาเข้ามา
“เบามือหน่อยโว้ยราม ไอ้พวกนี้มันคนของข้าเอง”
รามปล่อย เย็นกระชากจมูกลูกน้องแรงๆ
“ข้าสั่งให้มาเรียกไอ้รามออกไปหาข้า ไม่ใช่ให้มาหาเรื่องกับมัน”
ลูกน้องจ๋อย
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเป็นลูกพี่รามของพี่เย็น”
เย็นตวาด
“ไป ไปให้พ้นหน้าข้า”
เย็นยกขาจะเตะ พวกลูกน้องวิ่งหนี รามรีบห้าม
“ใจเย็นพี่ เรื่องเข้าใจผิดกันน่ะ ผมไม่ถือหรอก”
มาม่าซังมาถามอย่างเป็นห่วง
“รามรู้จักพวกมันเหรอ”
“ลูกพี่ผมเอง” รามหันไปมองเย็น “พี่มาหาผมถึงนี่มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า”

รามพาเย็นไปเลี้ยง ที่ร้านอาหารใกลๆไนท์คลับ จานกองพะเนินสูงท่วมหัว เย็นกินอาหารที่รามสั่งให้อย่างเอร็ดอร่อย
“จริงเหรอพี่ นายพี่รับผมแล้วเหรอ”
รามถามอย่างร้อนใจ เย็นนึกได้ รีบวางช้อน หัวเราะเจื่อนๆ
“ยัง แต่ข้าตื๊อ พี่แสง จนเขายอมให้พาเอ็งไปหาพ่อเลี้ยงได้”
รามตื่นเต้น แต่ทำลังเล
“แล้วผมต้องทำยังไงบ้าง”
“แค่เอ็งฟิตร่างกายให้พร้อมก็พอ เพราะฝีมืออย่างเอ็ง พ่อเลี้ยงต้องให้งานดีๆ ทำแน่นอน”
“ขอบคุณพี่เย็นมากที่สนับสนุนผม ถ้าพี่อยากได้หรืออยากกินอะไรบอกผมเลยนะ ผมเต็มใจหาให้พี่เต็มที่”
เย็นหัวเราะเขินๆ
“เอ็งเต็มใจ แต่น้องๆ เขาจะเต็มใจรึเปล่านี่สิ”
รามหัวเราะอย่างเข้าใจว่าเย็นต้องการผู้หญิง รีบบอก
“งั้นเดี๋ยวผมพาพี่ไปคุยกับน้องเขาดีไหม”

เย็นตาลุกวาวขึ้นมาทันที

อ่านต่อหน้า 2








นางฟ้ากับมาเฟีย ตอนที่ 3 (ต่อ)

เมขลาลงรถแท็กซี่ ยืนมองหน้าไนต์คลับอย่างเครียดๆ นึดถึงเหตุการณ์ที่รามพยายามแกะแขนทรงวาดออกจากตน และทรงวาดนั่งเศร้าซึมอยู่บนรถแล้วก็ตั้งใจแน่วแน่ขึ้นมา

“ฉันจะต้องช่วยคุณแม่ให้ได้ เป็นยังไงเป็นกัน”
ด้านในไนต์คลับ สาวๆนั่งเอ็นเตอร์เทนแขกกันอยู่ เมขลาเดินกร่างเข้ามามองหาราม ทุกคนมองไปงงๆ เมขลาไม่ทันรู้สึกว่าเข้ามาผิดที่ผิดทาง ผู้ชายมองกันตาปรอยๆ มาม่าซังเห็นเดินเข้ามาดักมองจำได้
“นี่กลับมาอีกแล้วหรือเนี่ย ไม่เข็ดหรือไง”
“ฉันมาขอพบคุณราม”
“เสียใจ! รามสั่งไว้ว่าห้ามเธอเข้าพบเด็ดขาด”
“แต่ฉันต้องพบเขาให้ได้” เมขลาตะโกน “ราม...ราม ตารามสูร!”
เสียงเมขลาดังมาก ทำแขกแตกตื่น มาม่าซังตาเหลือก รีบจับปิดปาก เมขลาดิ้นแกะมือมาม่าซัง
“ปล่อยฉันนะ คุณราม คุณอยู่ไหนน่ะ”
มาม่าซังรีบเรียกสาวๆ
“ยังไม่รีบพาแม่นี่ออกไปอีก”
สาวๆกรูกันเข้ามาช่วยมาม่าซัง จะลากเมขลาออกไป
“ปล่อยฉัน อย่ามายุ่งกับฉันนะ คุณราม ออกมานะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ คนอกตัญญู”
สาวๆพยายามจิกผมเมขลา
“นี่แน่ะ นังตัวดี แกกล้าด่าพี่รามของพวกฉันรึ”
สาวคนหนึ่งเงื้อมือจะตบเมขลา รามกับเย็นเดินเข้ามาพอดี รามอ้าปากค้างรีบพุ่งเข้าไปแหวกวงล้อม เย็นมองๆอย่างสนใจ
“เดี๋ยวๆ สาวๆนี่มันอะไรกัน”
สาวๆชะงักเมื่อเห็นราม มาม่าซังชี้หน้าเมขลา
“ก็นังนี่มันมาตามจิกรามอีกแล้วน่ะสิ”
“มันด่าพี่รามด้วยรู้ไหม” สาวคนหนึ่งฟ้อง
เมขลาขึงตาใส่ราม
“ฉันไม่ได้ด่า ฉันพูดความจริง คนอะไรทิ้งได้กระทั่งพ่อแม่ ตาดำๆ รู้มั้ยว่าคุณทรง...”
รามรีบปิดปากเธอทันทีกลัวความลับแตก หันไปบอกมาม่าซัง
“ผมจัดการเอง” รามหันไปหาเย็น “เดี๋ยวผมมานะพี่”
รามลากเมขลาออกไป สาวๆ มองตามเซ็งที่อดเล่นงานเมขลา

รามลากเมขลามาหลังไนต์คลับ จับกดหลังชนกำแพง
“ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
“ฉันก็ไม่ได้อยากมาดูหน้าคุณสักหน่อย แต่ที่ฉันมานี่ก็เพราะเห็นแก่คุณทรงวาดหรอกนะ”
รามอึ้ง ก่อนฝืนทำเสียงแข็งใส่
“ทรงวาดอะไร ผมไม่รู้จัก”
เมขลาจ้องหน้าเขาบอกเสียงเข้ม
“โกหก ท่านเป็นแม่ของคุณนะ”
“ผมไม่เคยมีแม่ แล้วคุณก็เลิกยุ่งกับผมเสียที”
รามจะเดินหนี เมขลาดักหน้าไว้
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่ามีคนตั้งเท่าไหร่ที่อยากมีแม่แต่ไม่มีวันได้มี” เมขลาสะอึกเล็กน้อยคิดถึงตัวเอง “ส่วนคุณ...มีแม่อยู่ทั้งคนกลับบอกว่าไม่มีแม่ บ้าหรือเปล่า”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ ไปให้พ้น”
เมขลาจับมือของเขาหมับทั้งสองข้าง
“ไม่มีทาง วันนี้ฉันตั้งใจแล้วว่าฉันจะต้องทำทุกอย่าง เพื่อพาคุณออกจากที่อุบาทว์นี่ไปหาคุณทรงวาดให้ได้”
รามมองหน้า
“ทำทุกอย่างเลยใช่ไหม”
“ใช่”
“งั้นก็ดีเลย”
รามดึงเมขลามาที่ห้องพักแล้วเหวี่ยงเข้าไป ปิดประตู
“พร้อมแล้วใช่มั้ย”
เมขลางงๆ
“พร้อมอะไร”
“ก็พร้อมทำงานไง คืนนี้มีน้องลาพักคนนึง”
“หมายความว่าอะไร”
รามก้าวเข้าหา
“ผมเคยบอกคุณแล้วนี่ว่ารูปร่าง หน้าตาอย่างคุณเนี่ย ออเดอร์เพียบ ท่าทางน่าจะช่ำชองซะด้วย”
เมขลาตบหน้าเขาทันที
“คนชั่ว อย่ามาดูถูกฉันนะ”
“ได้...งั้นก็ต้องพิสูจน์ จะได้เก็งราคาถูก”
รามทำท่าจะเข้าปล้ำ
“อย่านะ อ๊ายยย ปล่อยฉัน”
เมขลาดิ้น รามทำเป็นหลุดมือ เมขลาวิ่งหนีออกไปได้ รามถอนใจเฮือก
“หวังว่าคงไปแล้วไปลับนะ”

รามเดินกลับเข้ามาในไนต์คลับ
“เรียบร้อยแล้ว”
เย็นมองยิ้มๆ
“เมียเอ็งนี่ดุน่าดู”
รามส่ายหน้า
“เฮ่ย...เขาไม่ใช่เมียผม”
“แล้วทำไมถึงกล้ามาวีนอาละวาดรามขนาดนี้” มาม่าถามอย่างสงสัย
เย็นเห็นด้วย
“ใช่...คราวก่อนก็มาช่วยเอ็งทีแล้ว”
“ผมก็ไม่รู้ ว่ามาติดใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป อย่าไปสนเลย เพี้ยนๆแบบนั้น นี่ต้องน้องๆผมนี่” รามหันไปมองสาวๆ “เจ๊...ขอให้น้องๆมาต้อนรับลูกพี่ผมหน่อยนะครับ”
มาม่าส่งยิ้มหวาน
“ได้อยู่แล้ว... สาวๆบริการเฮียเขาเต็มที่นะ”
สาวๆกรูมาหาเย็น ยกมือไหว้พร้อมกัน
“สวัสดีค่ะ เฮีย”
เย็นยิ้มปรีดิ์เปรม ทันใดนั้นเสียงมือถือดังขึ้น เย็นหงุดหงิด
“โธ่เว๊ย ใครวะ ขัดความสุขซะจริง” เย็นกดรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล อุย พี่แสง เอ่อ ฉัน...ก็มาตามไอ้รามให้พี่น่ะซิ งานอะไรนะ ได้ๆ จะรีบกลับเดี๋ยวนี้”
เย็นลุกพรวด
“ไอ้น้อง ข้าต้องรีบกลับไปประชุมงานใหญ่ของลูกสาวพ่อเลี้ยง”
“แล้วผมล่ะพี่”
รามรีบถาม เย็นคิดๆว่าจะทำยังไงดี...

ร้านเสื้อของธิดา ตั้งอยู่ในย่านไฮโซหรู หน้าร้านมีกระถางกล้วยไม้ ช่อไม้ที่ถูกส่งมาแสดงความยินดีจำนวนมาก
เย็นเกณฑ์ลูกน้องประมาณ 4-5 คน ตรวจความเรียบร้อยรอบๆร้าน สั่งลูกน้องให้พลิกดูก้อนหิน กระถางต้นไม้รอบๆร้านเพื่อหาวัตถุระเบิด แสงเห็นคนเดินผ่านหน้าร้าน ไล่ไปให้ไปเดินฝั่งตรงข้าม ห้ามคนทั่วไปเดินผ่านหน้าร้าน แม้กระทั่งกับหมาที่เดินผ่านยังไล่ให้ไปอีกฟากหนึ่ง พอทุกอย่างเคลียร์จึงยืนระวังรอบร้าน กระจายเป็นจุดๆ
เย็นนำทีมลูกน้องอีกชุด 2-3 คน เข้าตรวจความเรียบร้อยในร้าน เปิดประตูห้องน้ำตรวจ ทันใด ทุกคนได้ยินเสียงติ๊กๆๆๆ เหมือนระเบิดเวลา จึงชักปืนออกมาแล้วหันหลังชนกันอย่างระวังกลัวเป็นระเบิด แสงเปิดประตูเข้ามาเห็นพอดี ตบหัวทุกคน พยักหน้าไปที่นาฬิกาบนผนังต้นเหตุเสียง เย็นหัวเราะแห้งๆ ก่อนหันไปสั่งขึงขังให้ทุกคนเก็บปืน

รามเพิ่งมาถึง เห็นคนร้ายแต่งตัวกลมกลืนกับพวกลูกน้องแสง กำลังก้มๆจะซุกระเบิดตรงจุดใกล้จุดตัดริบบิ้น
“ทำอะไรน่ะ”
คนร้ายหันมาเห็นราม จะวิ่งหนีแต่รามคว้าตัวไว้ได้ ผู้ร้ายชูระเบิดขู่ราม รามผงะถอยหลัง
พวกแสงกับเย็นและคนอื่นกรูออกมา
“เอะอะอะไรกัน” แสงตวาดถาม
รามรีบเตือน
“ระวังครับพี่เย็น มันมีระเบิด”
คนร้ายโยนระเบิดใส่แล้ววิ่งหนี พวกแสงเย็นและลูกน้องแตกกระเจิงก้มหลบคนละทิศทาง รามกระโจนไปอีกทาง ปรากฏว่าระเบิดด้าน รามรีบไล่ตามคนร้าย ขณะที่วิ่งไปคว้ารถมอเตอร์ไซด์ ขึ้นคร่อม กำลังจะไป รามวิ่งมาถึง กระโดดถีบกระเด็นตกจากรถมอเตอร์ไซด์
รามกระโจนจับ ผู้ร้ายมีมีดพยายามจะสู้ แต่สุดท้ายโดนรามหักมือเสียงกระดูกหัก มีดหลุดมือ รามล็อกตัวไว้ได้ แสง เย็น พาลูกน้องตามมาถึง
“สุดยอดเลยวะไอ้ราม เห็นมั้ยพี่แสงว่าฉันตาถึงที่เรียกมันมา”
แสงเก๊กใส่ราม
“คราวหน้าถ้าฉันไม่สั่ง แกอย่ามายุ่ง...แล้วพวกแกจำไว้ อย่าบอกเรื่องนี้ให้พ่อเลี้ยงรู้เด็ดขาด เอาตัวมันกลับไปที่บ้านพ่อเลี้ยงก่อน”
ลูกน้องแสงสองคนลากตัวผู้ร้ายไป มือถือแสงดัง รีบกดรับ
“มีอะไร...คุณเทเรซ่ามาถึงแล้วหรือ”

ในร้านเสื้อ ธิดาเห็นทุกอย่างเรียบร้อย มีกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีส่งมาประดับสวยงาม ธิดามองรอบๆพอใจ ก่อนก้าวเข้าร้านแล้วชะงักที่เห็นลูกน้องแสงอยู่คนเดียว
“หายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย ทำไมเหลือแกอยู่คนเดียว”
ลูกน้องหน้าซีด ทันใด แสง เย็นกับพวกวิ่งถลามาตั้งแถวต้อนรับธิดา
“ขอโทษด้วยครับคุณเทเรซ่า พอดีว่าเราออกไปตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณรอบๆมาครับ”
ธิดาไม่พอใจ
“แล้วเป็นไง”
“ทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมเปิดร้านแล้วครับคุณเทเรซ่า”
“งั้นหรือ”
“ครับ”
ธิดายิ้มร้าย เงื้อมือขึ้นตบหน้าพวกแสงเรียงแถว พวกแสงเจ็บ พูดไม่ออก เย็นทนไม่ได้ถามทันที
“พวกเราทำผิดอะไรหรือครับ”
ธิดามองโมโห
“ยังจะถามอีก วันนี้วันอะไรแล้วฉันไม่ได้สั่งหรือไงว่าให้พวกแกแต่งตัวยังไง”
“แต่พวกเราก็ใส่สูทแล้วนี่ครับ”
ธิดาหันไปตบเย็นอีกรอบ
“คิดว่าแค่สูทกระจอกๆ นี่จะพอหรือไง”
เย็นงง ธิดากระแทกเสียงใส่
“พวกแกต้องไปหาเน็คไทมาผูกด้วย ถ้าหาไม่ได้ ก็ไปหาเชือกมาผูกคอตายซะไป๊”
ทุกคนกระวีกระวาดรีบไป

ไม่นานนัก แสง เย็น และลูกน้อง ผูกเน็คไทเรียบร้อย มายืนเรียงราย รอรับปองธรรม เพราะฟังเสียงจากหูฟังที่คนขับรถของปองธรรมบอกว่า ปองธรรมกำลังจะมาถึงแล้ว
รถเก๋งนำขบวนแล่นมา ตามด้วยรถปองธรรม และมีรถปิดท้ายอีกคันหนึ่งมาจอดที่หน้าร้าน แสงเดินมาเปิดประตูรถ เย็นเปิดประตูอีกด้านให้เทวัญ ธิดาเดินออกมาต้อนรับพ่อ
“คุณพ่อมาตรงเวลาเป๊ะเลย”
“ฤกษ์พานาทีในการทำธุรกิจการค้ามันสำคัญนะลูก เราต้องไม่พลาดแม้แต่นาทีเดียว ไปๆพ่อขอชมร้านสักหน่อย”
ธิดาคล้องแขนพ่อไป เทวัญเดินตาม รามยืนอยู่ห่างๆไม่ได้รวมกลุ่มกับพวกลูกน้องปองธรรม แต่จ้องปองธรรมอย่างสังเกค แล้วเดินเข้าไปกระซิบเย็น
“พี่เย็น อย่าลืมที่รับปากกับผมไว้นะครับ”
“เดี๋ยวข้าจัดการให้แน่ ไม่ต้องห่วง” เย็นให้กำลังใจ

ปองธรรมตัดริบบิ้นเปิดร้าน แขกทีมาร่วมงานพากันตบมือ ท่ามกลางนักข่าวที่มาถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ธิดายิ้มแก้มปริ เทวัญมองน้องสาวเอ็นดู หลังจากนั้น แขกกระจายตัวเข้าไปชมในร้าน ขณะที่ธิดารีบต้อนรับสีหน้ายิ้มแย้ม
เย็นที่ยืนอยู่กับแสงแอบกระซิบ
“พี่แสง เราน่าจะบอกพี่เลี้ยงดีมั้ยว่าไอ้รามมันสร้างผลงานจับไอ้มือวางระเบิดได้”
แสงกลัวตัวเองโดนเล่นงานที่ทำงานพลาด
“ไอ้โง่ ถ้าเอ็งบอกไปอย่างนั้น มีหวังพ่อเลี้ยงเล่นงานเอ็งกับข้านะสิ ที่ปล่อยให้ไอ้เลวนั่นแอบมาวางระเบิดได้”
“เออ ก็จริงของพี่นะ แต่ว่ามันอุตส่าห์มาแล้ว ยืนหัวโด่อยู่ข้างนอกนู้น...ราม...ราม...ทางนี้โว้ย”
รามแหวกคนเข้ามาในร้าน แขกเหรื่อหันมามองธิดาได้ยินเสียงเย็นหันมาเห็นรามในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ มีแจ็กเก็ตคลุมแล้วปรี๊ดขึ้น ขณะที่เย็นรีบมาหาปองธรรมที่ยืนกับธิดา
“พ่อเลี้ยงครับ นั่นไงครับไอ้ราม ที่ผมบอก”
ธิดาเหยียบเท้าเย็นอย่างแรง เย็นสะดุ้งเหลือบมองธิดางงๆ
“ฉันไม่สนใจว่าเพื่อนแกจะเป็นใคร แต่ที่นี่ไม่ต้อนรับคนสารรูปแบบนั้น” ธิดาหน้ายังยิ้ม แต่ตาจิกเย็นพูดเบาๆ
“...เอ่อ”
เย็นมองปองธรรมอย่างลังเล รามไม่พอใจธิดาแต่เก็บอาการไว้มองปองธรรมให้ตัดสินใจ
“ไม่ได้ยินที่คุณธิดาสั่งหรือ”
“เทเรซ่าค่ะคุณพ่อ”
ธิดาโมโหที่พ่อจำชื่อฝรั่งไม่ได้ซักที ปองธรรมหันไปสั่งเย็น
“พาเพื่อนแกออกไปได้แล้ว”
รามแอบถอนใจหงุดหงิด ผิดหวังที่ทุกอย่างยังไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จำต้องออกไปก่อน


เมขลานัดพบรุจที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอมาพักอยู่ เมขลายกน้ำมาให้ รุจบ่นทันที
“มีเรื่องด่วนอะไรนักหนา ต้องให้ฉันแล่นมาจากสนามบินอย่าบอกนะ ไปทำวีรกรรมช่วยชีวิตใครเข้าอีก จำไม่ได้หรือไง ที่ฉันบอกให้แกหัดเป็นแม่มดซะบ้างน่ะ”
“แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณแม่อุปถัมภ์ของฉัน ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องช่วยท่าน เพราะนี่เป็นทางเดียวที่ฉันจะตอบแทนพระคุณท่านได้”
รุจส่ายหน้า
“ตอบทุง ตอบแทนอะไรกัน เชยชะมัด เอ๊ะ หรือว่าถ้าแกช่วยเขาแล้ว เขาจะเซ็นยกมรดกให้แก”
“บ้า ท่านมีลูกชายอยู่แล้วทั้งคนจะมายกมรดกให้ฉันทำไม”
“ถ้ามีลูกชายด้วย ก็ค่อยน่าสนใจ เอ๊ย น่าช่วยหน่อย เออ แล้วลูกชายท่านหล่อมั้ย”
เมขลาถอนใจ
“แกจำผู้โดยสารคนนั้น ที่มีเรื่องกับฉันที่เกาหลีได้มั้ย”
รุจอ้าปากค้าง
“ตาคนที่จับก้นแกน่ะเหรอ”
เมขลาพยักหน้า

รามมองสูทกับเน็คไทที่เย็นหามาให้อย่างหงุดหงิด เมื่อเย็นบอกให้ใส่ซะ
“ผมมาทำงานกับพ่อเลี้ยง ไม่ได้มาเดินแบบนะพี่เย็น ใส่แบบนี้ถนัดที่ไหนกันเล่า”
“ถนัดไม่ถนัดก็ต้องใส่ ไม่งั้นคุณธิดาไม่มีทางปล่อยให้เอ็งได้เข้าใกล้พ่อเลี้ยงแน่ๆ”
รามยอมถอดแจ็กเก็ต ใส่สูท เน็คไทอย่างจำใจ
“แล้วมีอะไรที่ผมต้องทำ เพื่อคุณธิดาของพี่อีกมั้ยเนี่ย”
แสงเข้ามามองราม พอใจที่เห็นแต่งตัวเรียบร้อย
“ห้ามเรียกคุณธิดาว่าธิดา ให้เรียกว่าเทเรซ่าแทน” เย็นพูดแล้วปิดปาก นึกได้ว่าตะกี้เรียกว่าธิดา
“ไม่อย่างนั้น จะโดนไม่ใช่น้อยแบบนี้” แสงตบหัวเย็น
รามพยักหน้ารับ

ที่หน้าร้าน แอนดี้ถือช่อดอกไม้ก้าวเข้ามาในร้าน ธิดากำลังแนะนำสินค้าให้แขกคุณหญิงคุณนายอยู่ดีใจ ยิ้มแก้มปริวิ่งเข้าหาแอนดี้ จุ๊บแก้มกันซ้ายที ขวาทีแบบฝรั่ง นักข่าวถ่ายรูปกันใหญ่
ปองธรรมยืนอยู่กับเทวัญมองมา
“ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร”
ปองธรรมไม่พอใจ เทวัญนิ่วหน้ามอง ไม่ทันตอบ ธิดาจูงแอนดี้ฝ่าฝูงชนเข้ามาหา
“แอนดี้คะ นี่คุณพ่อกับพี่ชายของเทเรซ่าค่ะ คุณพ่อ พี่เทพ...นี่แอนดี้ แฟนเทเรซ่าค่ะ”
แอนดี้ยื่นมือไปขอเช็คแฮนด์ ปองธรรมไม่จับมือด้วย มองเขม็ง แอนดี้หน้าเสีย แต่ยังฝืนทำแจ่มใส
“กู้ดมอร์นิ่งครับแด้ดดี้ กู้ดมอร์นิ่งครับพี่เทพ”
เทวัญมองๆ
“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”
แอนดี้หัวเราะปลื้มมีคนจำได้
“พี่เทพจะเจอผมในละครหลังข่าวทุกวันจันทร์-พฤหัสครับ”
“คุณเป็นดาราเหรอ” ปองธรรมถาม
“ค่ะแอนดี้เป็นดารา เป็นนายแบบ แล้วก็เป็นหุ้นส่วนร้านของเทเรซ่าด้วย” ธิดาตอบแทน
แอนดี้ทำตาหวานใส่ธิดา
“แค่หุ้นส่วนร้านเองหรือ ผมคิดว่าเป็นหุ้นส่วนชีวิตเสียอีก”
ธิดายิ้มเขิน ปองธรรมมองแอนดี้ไม่พอใจแล้วหันไปกระซิบเทวัญ
“ไปสืบเรื่องไอ้หมอนี่เดี๋ยวนี้”

หลังร้าน... เทวัญยืนรายงานพ่ออยู่อย่างลำบากใจแกมเบื่ออึดอัด โดยอ่านจากSMS ที่ให้ลูกน้องหาส่งมาให้
“แม่ของแอนดี้เป็นสาวบาร์ที่พัทยา ส่วนพ่อไม่ปรากฏสัญชาติ เรียนจบแค่ม.5 เพราะหันมาถ่ายแบบเสียก่อน ส่วนที่ได้มาเล่นละครก็เพราะไฮโซสาวใหญ่ที่เคยเลี้ยงแอนดี้ก่อนเข้าวงการช่วยดัน”
ปองธรรมยิ้มเยาะ
“ไม่มีสกุลรุนชาติ ขาดการศึกษา แถมยังทำตัวเป็นแมงดา แบบนี้แกต้องไปหาคนมาสั่งสอนมันสักหน่อยแล้ว”
“ผมว่าพ่อน่าจะลองดูไปก่อนนะครับ เพราะแอนดี้เพิ่งคบกับน้องเอง”
ปองธรรมมองเทวัญอย่างโมโห
“ถ้าแกไม่คิดจะช่วย ก็ไปให้พ้น ไม่ต้องมาชักใบให้เรือเสีย”
เทวัญถอนใจแล้วเดินแยกไป ปองธรรมมองลูกชายหมั่นไส้ก่อนหันไปเห็นแสงที่มายืนอยู่
“มีอะไร”
“เรื่องคนที่ผมจะพามาให้พ่อเลี้ยงดูน่ะครับ”
“วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ออกไปก่อน”
แสงรีบถอย ปองธรรมนึกขึ้นมาได้
“เฮ้ยเดี๋ยว ฉันมีงานด่วน ถ้าไอ้นั่นมันทำได้ ฉันจะรับมันเข้าทำงาน”

แสงกับเย็นได้เดินไปหาราม บอกให้รู้ว่าปองธรรมต้องการให้กำจัดแอนดี้ออกไปจากร้าน รามฟังอย่างแปลกใจ
“ทำไมละครับ”
“ถ้าคิดจะทำงานกับพ่อเลี้ยง แกต้องไม่มีคำถาม”
“งานกระจอกอย่างงี้ สบายมากอยู่แล้ว เนอะ เดี๋ยวข้าช่วยเอง”
เย็นอาสา แสงขัด...
“แกไม่ต้องเจ๋อ ถ้างานแค่นี้แกทำไม่ได้ ก็กลับไปได้เลย”
รามรีบบิก
“ที่ถาม ก็เพราะเห็นว่างานมันง่ายไปต่างหากพี่”
รามมองไปที่แอนดี้ซึ่งกำลังเท่ถ่ายรูปกับธิดา อย่างรู้สึกสงสาร แต่ก็ต้องทำงานนี้...


แอนดี้ยืนส่องกระจกในห้องน้ำแต่งทรงผมสบายใจ เห็นเงารามปรากฏขึ้นในกระจก เขามองอย่างแปลกใจ แต่กลับโดนรามดันกระแทกอัดติดผนัง กระชากคอเสื้อแน่น
“โอ๊ย...แกเป็นใคร มาทำฉันทำไม”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ แต่แกต้องเลิกกับคุณเทเรซ่าเข้าใจไหม”
“แกพูดอะไรของแก ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยผมที”
แอนดี้จะหนี รามดึงตัวไว้ แอนดี้ล้มพรืดลง
“โอ๊ย แกจะทำอะไรฉัน”
รามได้ที ขึ้นคร่อมจับมือแอนดี้ไพล่หลัง
“แกจะยอมเลิกกับคุณเทเรซ่าไหม”
“ไม่มีทาง”
รามจับหัวแอนดี้กดลงพื้น
“พูดอีกทีสิ”
แอนดี้ตกใจ เห็นพื้นห้องน้ำสกปรกพยายามขืนศีรษะไว้
“เฮ้ย! อย่า! เดี๋ยวฉันเป็นสิว ถ่ายละครไม่ได้”
“อ๋อ..กลัวไม่หล่อใช่ไหม” รามล็อกคอแอนดี้ไว้
ขณะเดียวกันที่ด้านหน้า ธิดาเดินมามองๆ
“แอนดี้ ดาร์ลิ้ง อยู่ไหนคะ”
แอนดี้ได้ยินเสียงธิดา รีบชะเง้อคอตะโกน
“ผมอยู่นี่ ช่วยผมด้วยฮันนี่”
รามอึ้ง รีบควักคัทเตอร์ออกมาโชว์ขู่
“อย่าร้องนะ ไม่งั้นฉันกรีดหน้าแกแน่”
ธิดาได้ยินเสียงแอนดี้ รีบจับประตูเขย่าแต่ติดล็อก
“แอนดี้ อยู่ในนั้นหรือเปล่า แอนดี้”
ธิดาตบประตู หันรีหันขวาง แล้ววิ่งไปหากุญแจ ทางด้านแอนดี้พยายามหนีจากคัทเตอร์ราม
“แกอย่าทำอะไรบ้าๆ นะโว้ย”
ธิดาวิ่งกลับมา ไขกุญแจห้องน้ำ
“แอนดี้ๆ รอเดี๋ยวนะ เทเรซ่ากำลังเข้าไปช่วยแล้ว”
รามจิกหัวแอนดี้กระซิบถาม
“ตกลงแกจะเลิกยุ่งกับคุณเทเรซ่ามั้ย หรือจะให้ฉันกรีดหน้าแกจนหมอไม่รับเย็บ หมดทางทำมาหากินแทน”
แอนดี้เห็นคัทเตอร์เงาวับในมือรามอีกข้างหนึ่ง กลืนน้ำลายเอื้อกอย่างกลัวๆ ก่อนพยักหน้ารับ
ธิดาไขเปิดล็อกสำเร็จ เห็นเหตุการณ์พอดี ธิดากรี๊ด ตรงเข้าเอากระเป๋าถือฟาดแยกรามกับแอนดี้ออกทันที
“ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้สารเลว นายทำอะไรแฟนฉันฮึ...แอนดี้ๆเป็นยังไงบ้าง”
แอนดี้รีบแกะธิดาออก
“โน ไม่...ผมไม่เป็นอะไร อย่ามายุ่งกับผม”
แอนดี้รีบหนีไป ธิดาตาค้าง
“แอนดี้...แอนดี้ขา จะไปไหน รอเทเรซ่าด้วย”
ธิดาวิ่งตามแอนดี้ จะทันแล้ว ปองธรรมมองไปหันไปสั่งแสง
“ยังไม่รีบไปกันคุณธิดาไว้อีก”
แสงเผ่นไปขวางทาง พยักหน้าให้ พวกลูกน้องคนอื่นยืนเป็นแถวหน้าร้าน กั้นธิดาไม่ให้ไป แขกที่มาเริ่มมองๆ ธิดาผลักแสง
“หลีกไป” ธิดาชี้กราดที่คนอื่นๆ “พวกแกก็เหมือนกัน ถอยไปให้หมด”
ปองธรรมก้าวออกมาสกัดจับบ่าธิดาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน เทเรซ่า”
ธิดาปัดมือปองธรรมออก
“ไม่ได้หรอกค่ะ หนูไปหาแอนดี้ แอนดี้”
ธิดาตะโกน แอนดี้ไม่ฟัง ขึ้นรถ สตาร์ทขับออกไป ธิดากรี๊ด แอนดี้!”
“หยุดนะ” ปองธรรมดุ “ลูกรู้มั้ย ไอ้หมอนั่นไม่เหมาะสมกับลูกสักนิด”
ธิดาฉุกคิดได้
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี่เป็นฝีมือคุณพ่อใช่ไหมคะ”
ปองธรรมไม่ตอบ เห็นคนเริ่มมามุงๆ มองๆ จึงหันไปบอกเทวัญ
“พาน้องกลับบ้านไปก่อน”
เทวัญแตะมือธิดา
“ไปยายน้อง คนมองใหญ่แล้ว”
ธิดาขายหน้า เห็นคนมองมา แต่ยังโมโห
“คุณพ่ออย่านึกนะคะ ว่าทำแบบนี้แล้วจะขัดขวางความรักระหว่างหนูกับแอนดี้ได้”

ธิดาเดินกระแทกเท้าไป ปองธรรมถอนใจอย่างโล่งอก

อ่านต่อวันพรุ่งนี้







กำลังโหลดความคิดเห็น