รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 23
ณ บ้านบุริศราวัณ พิมพ์นฤมลมองรวิภาสแบบยังตามอารมณ์ไม่ทัน
“พี่ภาสพูดอย่างนี้หมายความว่าไงคะ”
“ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ”
รวิภาสเดินหนีพิมพ์นฤมลจะเดินเข้าบ้าน พิมพ์นฤมลรีบเดินไปขวางทางไว้ไม่ให้ไป”
“นี่พี่ภาสโกรธนมลเรื่องอะไรคะ”
“พี่มีพี่ธัชบงการชีวิตคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องการคนอื่นมากำหนดกฎเกณฑ์ชีวิตพี่อีก เข้าใจมั้ย”
“นมลไปกำหนดกฎเกณฑ์ชีวิตพี่ภาสตอนไหนคะ”
“นมลคิดเองตัดสินใจเองคนเดียวมาตลอด ทั้งเรื่องที่บอกเลิกพี่ หรือที่ให้พี่ธัชบังคับพี่ไปเรียนต่อ แล้วนี่พอนึกไม่อยากให้พี่ไป ก็รีบไปหาหลักฐานมาแก้ไขปัญหาได้ทันที”
“พี่ภาสพาลใหญ่แล้ว นมลรู้ว่าหลักฐานสัญญาซื้อขายไร่บุริศราวัณอยู่ที่ไหนก็เมื่อวานนี้เอง ทุกอย่างมันฉุกละหุกไปหมดจนนมลไม่มีเวลาบอกพี่ภาส นมลไม่ได้คิดจะตัดสินใจแทนพี่ภาส ทุกอย่างที่นมลทำลงไปก็เพื่อเราสองคนนะคะ”
“งั้นต่อไปนี้ก็ไม่ต้องคิดจะทำอะไรเพื่อพี่อีก พี่ขอคิดเองตัดสินใจเองบ้าง”
รวิภาสเดินเข้าบ้านไป พิมพ์นฤมลมองตามอย่างผิดหวังเสียใจ
บุรธัชมองณิชมนรอฟังคำปฏิเสธอยู่
“ที่ณิชาพูดมาเป็นความจริงหรือเปล่า”
“ฉัน..ฉันก็เคยบอกคุณแล้วว่า ฉันตั้งใจจะไปจากที่นี่...”
“แล้วทำไมต้องไปกับนายพงษ์เทพด้วย แล้วทำไมต้องเป็นซิดนีย์”
บุรธัชมองณิชมนรู้สึกเริ่มสะกิดใจอะไรบางอย่าง ณิชาภัทรรีบเข้าแทรกแซง
“ธัชไม่ต้องถามอะไรมากหรอกค่ะ สรุปก็คือประนอมยอมรับแล้วว่า ตั้งใจจะหนีไปกับคุณพงษ์เทพ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีความจริงใจกับใครเลย ใครให้ผลประโยชน์มากกว่าก็ไปกับคนนั้นนั่นแหละ”
“ที่ฉันตัดสินใจไปกับคุณพงษ์เทพก็เพราะเค้าสามารถพาฉันไปจากที่นี่ได้เร็วที่สุด อย่างที่คุณต้องการไงคะ คุณณิชา”
“เธออย่ามาอ้างหน่อยเลย ผู้ชายที่เธอเลือกก็คือ คุณพงษ์เทพ ไม่ใช่ธัชไม่งั้นเธอคงไม่คิดหนีไปกับเค้าหรอก และที่สำคัญเธอเลือกที่จะบอก ความจริงทุกอย่างกับคุณพงษ์เทพคนเดียว ไม่ได้หมายความว่า คุณพงษ์เทพมีความสำคัญต่อเธอที่สุดหรอกเหรอ”
บุรธัชหันไปมองณิชมน
“ค่ะ คุณพงษ์เทพรู้ความจริงทุกอย่างว่า ผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน แต่ธัชไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เลยใช่มั้ยล่ะ แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ธัชเป็นได้แค่ตัวสำรองตัวเลือกสุดท้ายของเค้าเท่านั้น”
“ค่ะ คุณพงษ์เทพรู้ว่า ฉันเป็นใคร แต่ฉันมีเหตุผลที่บอกคุณหรือคนอื่นไม่ได้ แต่หากคุณต้องการรู้ให้ได้ล่ะก็..”
บุรธัชมองณิชมนอย่างผิดหวังแล้วเดินออกไป
“เธอจะบอกอะไรตอนนี้ ก็สายไปแล้วล่ะ ประนอม !” ณิชาภัทรพูด
ณิชาภัทรเดินตามบุรธัชไป ณิชมนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ได้
พรรณอรเลื่อนถ้วยน้ำชาให้นวลแขกับดาวเรือง
“ฉันต้องขอบคุณคุณพรรณอรนะที่ไม่ถือโทษโกรธคุณชายธัช ฉันรู้ว่า คุณชายได้แผลงฤทธิ์แผลงเดชไว้ไม่ใช่น้อย แต่คุณก็ยอมยกโทษให้ง่ายๆ” นวลแขกล่าว
“ดิฉันก็ไม่เคยโกรธอะไรคุณชายตั้งแต่แรกแล้วนี่คะ คุณหญิง ก็เลยไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องยกโทษให้”
“คุณพรรณอรเป็นคนที่มีจิตใจที่ประเสริฐจริงๆค่ะ ปัญหาทุกอย่างก็เลยคลี่คลายได้รวดเร็วอย่างนี้” ดาวเรืองชมพรพรรณยังยุ่งวุ่นวายอ่านหลักฐานสัญญาซื้อขายไร่บุริศราวัณ
“พี่อรจะยกโทษให้คุณชายก็ยกโทษไปนะคะ แต่มาดูสัญญานี่ก่อน ตายๆทำไมพี่นฤสรณ์ถึงได้ซื้อไร่บุริศราวัณราคาแพงลิบลิ่วอย่างนี้ ดูซิคะ ดู”
พรรณอรดึงสัญญาซื้อขายจากมือพรพรรณมาเก็บใส่ซองอย่างรำคาญใจ
“ไม่ต้องดูแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป”
รวิภาสกับพิมพ์นฤมลเดินเข้ามาท่าทางหมางเมินใส่กันอย่างเห็นได้ชัด
“ภาสมาแล้ว ทำไมเพิ่งเข้ามาล่ะ มาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” นวลแขถาม
“ก็คงมัวแต่ดีใจอยู่กับนมลมั้งค่ะ คุณหญิง นี่ภาสคงดีใจแย่เลยใช่มั้ยล่ะ ที่ไม่ต้องไปเรียนต่อแล้ว”
“แค่เลื่อนไปก่อนเท่านั้นแหละครับ อาอร ยังไงผมก็จะไปเรียนต่อ”
บุรธัชกับณิชาภัทรเดินเข้ามาต้องหยุดชะงักฟัง
“ผมดีใจด้วยนะครับที่บ้านเรากับบ้านสรณาลัยเข้าใจกันดีแล้ว แต่เรื่องของผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยนี่ครับ ทุกคนอยากให้ผมไปเรียนต่อ ผมก็จะไปเรียนครับ”
รวิภาสเหลือบตามองพิมพ์นฤมลอย่างกวนๆ คนอื่นๆนิ่งอึ้งอย่างตามไม่ทันพิมพ์นฤมลเดินออกไปด้วยความโมโห
“แล้วนี่เราจะฉลองข่าวดีวันนี้ยังไงดีล่ะครับเนี่ย” รวิภาสถาม
บุรธัชมองรวิภาสอย่างไม่เข้าใจ
ณิชมนเดินเข้ามาพลางครุ่นคิดเรื่องบุรธัชอย่างคิดไม่ตก พงษ์เทพที่รออยู่นานแล้วก้าวยาวๆเข้ามาหาอย่างร้อนใจ
“คุณณิชมน...”
ณิชมนเดินหนีไม่อยากพูดด้วย
“คุณณิช..คุณฟังผมก่อนซิครับ”
“ทำไมคุณต้องโกหกฉันด้วยคะ คุณพงษ์เทพ”
“ถ้าผมไม่โกหกคุณ คุณก็ไม่ยอมไปกับผมน่ะซิ คุณเองน่าจะเข้าใจดีบางครั้งการโกหกก็เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”
“นี่คุณไม่ได้รุ้สึกผิดเลยใช่มั้ย งั้นก็ดี คุณทำให้ฉันตัดสินใจง่ายขึ้น ต่อไปนี้คุณไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก ฉันจะไปจากที่นี่หรือไม่ไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแล้ว”
“นี่คุณคิดจะเปลี่ยนใจไม่กลับซิดนีย์แล้วล่ะซิ คุณจะหาข้ออ้างอะไรอีกล่ะ คุณชายธัชก็รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว ปัญหาของภาสกับนมลก็จบไปด้วย คุณยังมีเรื่องค้างคาอะไรอีก หรือว่าคุณคิดจะกลับไปหาคุณยายของคุณ”
“ฉันตัดสินใจอะไรไปแล้ว ฉันจะไม่เปลี่ยนใจหรอกค่ะ แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนก็คือ คุณไม่ได้เป็นเพื่อนฉันอีกต่อไปแล้ว คุณพงษ์เทพ !”
ณิชมนเดินออกไป พงษ์เทพมองตามเริ่มรู้สึกผิดที่โกหกณิชมน
รถบ้านสุธาสินกับรถบ้านสรณาลัยแล่นตามๆกันออกไป บุรธัชยืนรอส่งจนรถทุกคันแล่นออกไปลับตาแล้วเดินกลับเข้าบ้าน รวิภาสเดินออกมาจากในบ้าน
“กลับกันไปหมดแล้วหรือครับ พี่ธัช”
บุรธัชมองรวิภาสอย่างจับอารมณ์ยังไม่ได้ว่ามาแนวไหน
“เรื่องไปเรียนต่อ แกพูดจริงหรือพูดเล่น”
“พูดจริงซิครับ เรื่องอนาคตของผม พูดเล่นได้ยังไง”
“ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ไม่ต้องมาทำประชดกันอย่างนี้”
“ผมไม่ได้ประชด มีคนอยากให้ผมไป ผมก็จะไป”
“แกไม่ได้ประชดฉัน แล้วแกประชดใคร นมลเหรอ แกก็รู้ว่า ที่นมลอยากให้แกไปเรียนต่อก็เพราะหวังดีกับแก”
“นมลไม่เชื่อใจผมต่างหากล่ะครับ พี่ธัช กลัวผมจะทำอะไรบ้าๆขึ้นมาอีก ผมอยู่ก็มีแต่ทำลายชีวิตเค้า ก็เลยอยากกำจัดผมไปให้พ้นๆ”
“ไม่ว่านมลจะทำอะไร เค้าคิดถึงแกเป็นคนแรก อะไรที่เป็นผลดีกับแกเค้ายอมทำทุกอย่าง แม้เค้าจะต้องเป็นคนที่ต้องเจ็บที่สุดก็ตาม แกเสียหน้านักหรือไงที่แกไม่ได้เป็นคนจัดการปัญหาทุกอย่างเอง แต่เป็นนมล ถ้าแกคิดว่าตัวแกสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด แกก็ไปเรียนต่อเถอะ ฉันจะไม่ห้ามแกหรอก นายภาส !”
บุรธัชเดินออกไป รวิภาสนิ่งอึ้งไป
บ้านสรณาลัยในตอนเช้า ณิชมนเดินไปเดินมาคิดหาทางออกของชีวิตตัวเองแล้วตัดสินใจได้เธอเดินเข้าไปหาพรรณอรกับพิมพ์นฤมลที่นั่งดูโปรแกรมเที่ยวในนิตยสารด้วยกัน
“ไปยุโรปอย่างที่นมลบอกก็ดีนะ ไปกันกี่วันดีล่ะ ซักสองอาทิตย์ดีมั้ย” พรรณอรพูด
พิมพ์นฤมลพยักหน้ารับอย่างเนือยๆไม่กระตืนรือร้นนัก
“คุณผู้หญิงคะ”
พรรณอรกับนมลเงยหน้าขึ้นมองณิชมน
“คุณนมล..เออ..คือ นอมมีเรื่องจะเรียนให้ทราบค่ะ นอมมาขอลาออกค่ะ”
“ทำไมล่ะคะ พี่นอม เกิดอะไรขึ้น !”
“อย่าถามเหตุผลเลยนะคะ นอมจำเป็นจะต้องลาออกจริงๆ..”
พรพรรณลากพันธ์นฤสรร์เดินเข้ามาโวยวายขัดจังหวะ
“พี่อร ! พี่อรรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังคะ”
“รู้เรื่องอะไร”
พรพรรณส่งเอกสารให้พรรณอรทันที พิมพ์นฤมลรีบเข้าไปดูเอกสารด้วยอีกคน
“ก็เรื่องผลสอบของพันสรน่ะซิคะ พันสรสอบไม่ผ่านค่ะ !”
พันธ์นฤสรร์หลบหน้าหลบตาอย่างละอายใจ
“แล้วตอนนี้ครูชัยอยู่ไหน”
“ออกไปไหนแต่เช้าแล้วก็ไม่รู้ เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ประนอมนั่นแหละช่วยคิดหน่อยซิ เราต้องเปลี่ยนครูใหม่หรือยังไงดี”
“นอมคงอยู่ช่วยไม่ได้แล้วล่ะค่ะ นอมกำลังมาขอลาออกกับคุณผู้หญิงอยู่น่ะค่ะ”
“เธอยังลาออกไม่ได้ ! ต้องอยู่ช่วยเรื่องพันสรก่อน”
“นะ ประนอม อยู่ช่วยเรื่องพันสรก่อน แล้วเรื่องลาออกไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ” พรรณอรร้องขอ
ณิชมนหันไปสบตากับพิมพ์นฤมลแล้วรีบเมินหลบไป
ชัยวัฒน์ถือซองเอกสารสมัครงานเดินเข้ามาเขาเดินตรงไปหาพนักงานที่เคานเตอร์
“ขอโทษนะครับ แผนกบุคคลไปทางไหนครับ” ชัยวัฒน์ถาม
“มารับสมัครงานหรือคะ เลี้ยวขวาแล้วตรงไปนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ชัยวัฒน์ขยับจะเดินออกไปแล้วเห็นพงษ์เทพเดินมากับณิชาภัทร พงษ์เทพกับณิชาภัทรคุยเรื่องณิชมนกันท่าทางเคร่งเครียด
“ณิชาจะไม่รออีกต่อไปแล้วนะคะ คุณพงษ์เทพ ถ้าคุณจัดการให้ประนอมไปจากที่นี่ไม่ได้ ณิชาจะจัดการเอง”
“คุณอย่าใจร้อนนักเลยน่า ยังไงคุณนอมก็ต้องกลับไปกับผมแน่”
“แล้วมันเมื่อไหร่ละคะ เอาอย่างนี้จบงานเปิดตัวรีสอร์ตเมื่อไหร่คุณจะต้องพาประนอมไปจากที่นี่ ถ้าไม่งั้นณิชาจะบอกความจริงกับทุกคนว่า แม่บ้านประนอมที่อยู่บ้านสรณาลัยตอนนี้เป็นตัวปลอม เป็นพวกสิบแปดมงกุฎสวมรอยเข้ามา ทีนี้คุณนอมของคุณได้ไปชดใช้กรรมในคุกแน่ !”
ณิชาภัทรเดินออกไป พงษ์เทพยืนนิ่งคิดอย่างหนักใจแล้วเดินตามณิชาภัทรไป ชัยวัฒน์โผล่หน้าจากที่หลบยิ้มอย่างสะใจที่ได้ข้อมูลที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลช่วยกันตรวจค้นเอกสารในโต๊ะทำงานของชัยวัฒน์
“เราทำอย่างนี้จะดีหรือคะ คุณนมล”
“ก็น้าพรสั่ง จะทำไงได้ล่ะคะ ดูซิคะ มีแต่ข้อสอบที่พรินท์จากอินเตอร์เน็ตไม่เห็นมีแผนการเรียนการสอนอย่างที่ครูชัยเคยคุยไว้เลย”
พิมพ์นฤมลหยุดค้นเอกสารมองณิชมนนิ่ง
“พี่นอมจะลาออกจริงๆหรือคะ ทำไมล่ะคะ พี่นอม”
“นอมก็อยากบอกเหตุผลนะคะ แต่นอมยังบอกตอนนี้ไม่ได้”
“พี่นอมบอกนมลได้ทุกเรื่องเลยนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร นมลรับได้หมด”
“คุณนมลอย่าเพิ่งรู้ดีกว่าค่ะ นอมยังไม่อยากให้คุณนมลเกลียดนอม”
“นมลไม่มีวันเกลียดพี่นอมหรอกค่ะ ไม่ว่าจะยังไงนมลก็เห็นพี่นอมเป็นพี่สาวเสมอ พี่นอมมีปัญหาอะไร บอกนมลได้ พี่นอมช่วยนมลมามากแล้ว ขอให้นมลได้มีโอกาสช่วยพี่นอมบ้าง”
“คุณนมลไม่ต้องช่วยอะไรนอมหรอกค่ะ ขอเพียงแต่ว่า ถ้าหากต่อไปคุณนมลได้รู้ความจริงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับนอม ก็ยกโทษให้นอมด้วยนะคะ”
“ยกโทษเรื่องอะไรคะ พี่นอม”
“อีกไม่นานคุณนมลก็คงจะรู้ค่ะ”
ณิชมนเสค้นเอกสารต่อแล้วชะงักเจอวุฒิการศึกษาปลอมของชัยวัฒน์เป็นปึกมีสำเนาปริญญาบัตรของหลายๆมหาวิทยาลัยในชื่อของชัยวัฒน์ จำรัสพงศ์
“พี่นอมเจออะไรหรือคะ”
“ไม่มีอะไรคะ เป็นอย่างที่คุณพรพรรณคิดไว้ไม่มีผิด ที่คุณพันสรสอบไม่ผ่านเป็นเพราะการสอนของครูชัยจริงๆ”
พิมพ์นฤมลมองณิชมนที่ก้มหน้าก้มตารวบรวมเอกสารอย่างข้องใจไม่หาย
ณิชมนส่งแฟ้มเอกสารที่รวบรวมจากโต๊ะชัยวัฒน์ให้พรพรรณดู
“อะไรกัน นี่ปีนี้ทั้งปีครูชัยสอนพันสรแค่นี้เองเหรอ แล้วนี่อะไร รายงานผลการเรียนของพันสรมีแค่สามเดือนแรก แล้วที่เหลือหายไปไหนหมด”
พิมพ์นฤมลส่งซองเอกสารให้พรพรรณดูเพิ่มอีก
“ผลการสอบครั้งก่อนของพันสรที่ครูชัยแอบซ่อนไว้ พันสรสอบตกทุกวิชาเลยค่ะ ที่ไปสอบครั้งนี้ก็เพื่อไปสอบซ่อมของปีก่อนไม่ใช่ไปสอบเลื่อนชั้นค่ะ น้าพร”
พรรณอรพาพันธ์นฤสรร์เดินเข้ามานั่ง
“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ จ้างครูมาเพิ่มดีมั้ย”
“ให้คุณพันสรไปเรียนที่โรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆดีกว่านะคะ”
“แต่พันสรไม่ชอบไปโรงเรียนนี่นา” พรรณอรกล่าว
“คุณพันสรไม่ชอบไปโรงเรียนจริงๆ หรือว่าที่ไม่ไปโรงเรียนเป็นเพราะห่วงคุณแม่คะ”
ทุกคนหันมามองพันธ์นฤสรร์เป็นตาเดียว
“ก็ทั้งสองอย่างแหละครับ”
“โธ่ พันสร นี่ลูกไม่ยอมไปโรงเรียนเป็นเพราะไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียวเหรอ ตอนนี้แม่เข้มแข็งขึ้นเยอะแล้ว ไปข้างนอกก็ได้แล้ว พันสรไม่ต้องห่วงแม่แล้วนะ ไปโรงเรียนเถอะนะ ลูก”
ชัยวัฒน์เดินมาหยุดแอบฟังอยู่ห่างๆ
“ไปเรียนที่โรงเรียนสนุกกว่าเรียนที่บ้านคนเดียวเยอะเลยนะคะ คุณพันสร”
“ตอนนี้มีโรงเรียนทางเลือกเยอะแยะ ไม่ได้เรียนอย่างเคร่งเครียดเหมือนโรงเรียนปกติทั่วไป เรียนไปเล่นไป รับรองพันสรต้องชอบแน่ๆ” พิมพ์นฤมลเชียร์
“ผมขอลองเรียนดูก่อนล่ะกัน ถ้าผมไม่ชอบก็ขอกลับมาเรียนที่บ้านเหมือนเดิมได้มั้ยล่ะครับ”
“อย่างนี้แสดงว่าพันสรยอมไปโรงเรียนแล้วล่ะ”
“ให้คุณพันสรไปเรียนที่โรงเรียน ส่วนครูชัย คุณพรพรรณน่าจะให้โอกาสอีกซักครั้งนะคะ ครูชัยน่าจะพอสอนการบ้านคุณพันสรได้…”
“เห็นจะไม่ได้หรอก ครูชัยสอนไม่ได้เรื่องอย่างนี้ ยังไงก็ต้องไล่ออก !” พรพรรณบอก
ชัยวัฒน์ก้าวเข้ามาปรากฎตัว
“ไม่ต้องมาไล่ ผมขอลาออกเอง งานกระจอกๆอย่างนี้ ผมก็ไม่อยากทำนักหรอก !”
ชัยวัฒน์เดินปึงปังออกไป ทุกคนมองตามโล่งใจไป
ชัยวัฒน์เก็บข้าวของใช้ส่วนตัวที่โต๊ะทำงานใส่กระเป๋าณิชมนเดินเข้ามา ยืนมองอยู่ห่างๆ
“คุณพรพรรณสั่งให้มาเฝ้างั้นเหรอ กลัวผมจะหยิบอะไรติดมือไปงั้นซิ ทั้งเขี้ยวทั้งเค็มอย่างนี้ ถึงได้ไม่มีใครอยากทำงานที่นี่ คุณเองก็เหมือนกัน อีกไม่นานก็จะต้องโดนเหมือนผมนี่แหละ อยู่ที่คุณจะปลอมเป็นแม่บ้านประนอมไปได้นานแค่ไหน”
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉัน..ฉันไม่เข้าใจ”
“คุณไม่ต้องห่วง ผมไม่บอกใครหรอก แต่อาจจะต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนนิดหน่อย คุณสนิทกับคุณพงษ์เทพมากไม่ใช่เหรอ ที่รีสอร์ตเทพสุธากำลังรับพนักงานเพิ่มอยู่ ช่วยฝากงานให้หน่อยซิ”
“ฉันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้”
“งั้นผมก็คงช่วยเก็บความลับให้คุณไม่ได้เหมือนกัน ! ดูซิเจ้านายคุณจะว่าไง ถ้ารู้ความจริงว่า คุณไม่ใช่แม่บ้านประนอม !”
ชัยวัฒน์หยุดเก็บข้าวของทำขู่เดินออกไป
“ฉันช่วยเรื่องงานไม่ได้ แต่ฉันช่วยไม่ให้คุณติดคุกได้นะคะ คุณชัยวัฒน์”
ณิชมนดึงสำเนาปริญญาบัตรปลอมจากกระเป๋าของชัยวัฒน์ขึ้นมา
“คุณปลอมวุฒิการศึกษามาเป็นครูของพันสร คุณรู้มั้ย ถ้าถูกจับได้ต้องติด คุกกี่ปี ถ้าคิดจะเปิดโปงฉันล่ะก็ คิดดูซะก่อนนะ คุณชัยวัฒน์”
“ถ้าจะติดคุกก็ติดด้วยกันแหละ”
“ก็ได้ งั้นเราไปหาคุณผู้หญิงด้วยกัน ให้ทุกคนรู้ความจริงกันวันนี้เลย”
ชัยวัฒน์ชะงักอย่างไม่แน่จริง กระชากกระเป๋ากลับมา
“ฉัน..ฉันลาออกแล้วก็ถือว่า จบๆกันไปก็แล้วกัน แต่ระวังไว้ให้ดีเถอะ แกทำให้ฉันต้องตกงาน ฉันไม่ปล่อยแกไว้หรอก”
ชัยวัฒน์เดินปึงปังฮึดฮัดออกไป ณิชมนถอนใจอย่างโล่งอก
รีสอร์ตเทพสุธาในตอนเช้าณิชมนกับพิมพ์นฤมลเดินเข้ามาในล็อบบี้
“ทำไมพี่นอมไม่บอกนมลตั้งแต่เมื่อวานคะ นมลจะได้จับนายชัยวัฒน์ส่งตำรวจซะเลย คนอย่างนี้ไม่ควรปล่อยให้ไปหลอกลวงคนอื่นต่อไปนะคะ”
“คุณชัยวัฒน์คงไม่กล้าไปหลอกลวงใครอีกแล้วล่ะคะ”
“คนสมัยนี้น่ากลัวจริงนะคะ หน้าตาดีๆดูไม่ออกเลยว่า เป็นพวกสิบแปดมงกุฎ คนที่หลอกลวงต้มตุ๋นคนอื่นนี่ไม่มีความละอายใจบ้างหรือไงนะ”
ณิชมนนิ่งอึ้งเหมือนถูกว่าไปด้วย
“ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากหางานด้วยวิธีนี้หรอกค่ะ คุณนมลที่นอมบอกคุณนมลก็เพราะว่า ต่อไปถ้าหากจะรับใครเข้าทำงานก็ต้องตรวจสอบให้ดีๆนะคะ”
“เพราะอีกหน่อยพี่นอมก็จะไม่อยู่ช่วยเราแล้วใช่มั้ยคะ พี่นอมอย่าเพิ่งลาออกได้มั้ยคะ รอไปอีกซักหน่อย รอให้นมลเรียนจบก่อนก็ได้ นะคะ พี่นอม..นะคะ”
“นอมลาออกไปตอนนี้ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ นอมอยากลาออกไปเองดีกว่าที่จะถูกไล่ออกอีกครั้ง”
บุรธัชกับรวิภาสเดินมาจากข้างในรีสอร์ต ณิชมนกับพิมพ์นฤมลมองบุรธัชกับรวิภาสแล้วต้องชะงักยืนนิ่งมองหน้ากันชั่วอึดใจ
“เข้าไปกันเถอะค่ะ พี่นอม พวกๆพี่พีอาร์คงรอเราอยู่ ไปค่ะ พี่นอม”
“คุณภาสคงมีเรื่องที่จะคุยกับคุณนมลนะคะ”
“แต่นมลไม่มีอะไรจะคุยด้วยแล้ว”
พิมพ์นฤมลเดินลิ่วๆ เข้าไปข้างในรีสอร์ต
“ตามไปซิคะ คุณภาส คุณรู้ใช่มั้ยคะว่า คุณต้องทำยังไง”
รวิภาสเดินตามพิมพ์นฤมลไป ณิชมนหันมามองบุรธัช บุรธัชเดินแยกออกไปอีกทาง ณิชมนยืนนิ่งตัดสินใจว่าจะทำไงดี
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 23 (ต่อ)
พิมพ์นฤมลเดินเข้ามาทางไปสำนักงานของรีสอร์ต รวิภาสเดินตามมาดึงตัวเธอไว้
“นมล...พี่ขอโทษ..”
พิมพ์นฤมลสะบัดมือออกจากรวิภาส
“นมลไม่ยกโทษให้”
“นมลโกรธ พี่เข้าใจ แต่นมลก็ต้องเข้าใจพี่ด้วย อยู่ๆพี่ก็โดนจับตัวส่งไปเรียนต่อ อยู่ๆก็โดนเรียกตัวกลับมา พี่ไม่ชอบที่จะต้องทำตามคำสั่งของคนอื่นโดยไม่รู้อะไรเลย มันหงุดหงิด เข้าใจมั้ย”
“แล้วพี่ภาสไม่ได้ดีใจเลยหรือไงคะที่เราสองคนไม่ต้องแยกจากกัน พี่ภาสมัวแต่คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงนมลเลย หงุดหงิดโมโหเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ก็ตอนนี้คิดได้แล้วไง..”
“นมลก็คิดได้เหมือนกัน พี่ภาสก็เป็นคนเผด็จการบ้าอำนาจไม่ได้ต่างกับพี่ชายธัชเลย ทุกอย่างจะต้องอยู่ที่การตัดสินใจของพี่ภาสคนเดียว พี่ภาสต้องเลิกนิสัยเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ไม่งั้นนมลคงต้องคิดเรื่องของเราใหม่”
“นี่นมลยังไม่ยอมยกโทษให้พี่เหรอ”
“ถ้านมลยอมยกโทษให้พี่ภาสง่ายๆ เดี๋ยวพี่ภาสก็ได้ทำผิดอีก ลองทบทวนความผิดของตัวเอง ตั้งแต่เราคบกัน พี่ภาสทำผิดอะไรไปบ้าง แล้วก็คิดเอาเองว่า ทำยังไงถึงจะทำให้นมลยอมยกโทษให้”
พิมพ์นมลเดินออกไป รวิภาสยืนเหวออึ้งยังคิดอะไรไม่ออก
บุรธัชเดินมาตรวจบริเวณที่จะจัดงานเปิดตัวรีสอร์ต กลุ่มพนักงานและคนงานกำลังเริ่มจัดเตรียมงาน
“ใครก็ได้ไปตามคุณภาสมาให้ที” บุรธัชสั่ง
ณิชมนเดินเข้ามาหาบุรธัช
“คุณจะให้คุณภาสช่วยงานอะไรหรือคะ ให้ฉันทำแทนไปก่อนมั้ยล่ะคะ”
“ไม่ต้อง”
บุรธัชเดินหนีณิชมนออกไป ณิชมนรีบเดินตามง้อบุรธัช
“เราอย่าจากกันอย่างนี้เลยนะคะ คุณชายธัช ถ้าเราจะต้องจากกัน ฉันก็อยากให้เราจากกันด้วยความรู้สึกดีๆ”
“เรายังเหลือความรู้สึกดีๆ กันอยู่หรือ ประนอม.. ฉันคงจะรู้จักเธอได้แค่นี้ใช่มั้ย รู้จักเธอในฐานะแม่บ้านที่ชื่อประนอม”
“ฉันจำเป็นต้องบอกคุณพงษ์เทพว่า ฉันเป็นใคร ก็เพราะสถานการณ์บังคับ แล้วที่สำคัญฉันไม่ได้สนใจว่า คุณพงษ์เทพจะรู้สึกยังไง ถ้าหากเค้าจะรู้ความจริง แต่สำหรับคุณ..ฉันแคร์ความรู้สึกของคุณ ฉันกลัวค่ะถ้าคุณรู้ว่าฉันเป็นใคร..ฉันกลัวความรู้สึกของคุณจะเปลี่ยนไป”
“ไม่ว่าเธอเป็นใคร ความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธอจะไม่มีวันเปลี่ยน ทีนี้เธอจะบอกความจริงกับฉันได้หรือยัง”
“การรู้ความจริงอาจจะไม่เป็นผลดีกับคุณก็ได้”
“ให้ฉันเป็นคนตัดสินเองดีกว่า ฉันจะให้เวลาเธอคิดก็แล้วกัน...”
ณิชาภัทรเดินมาหยุดมองอยู่ห่างๆ บุรธัชดึงณิชมนเข้ามาใกล้
“เธอจะไปจากฉันโดยที่เราไม่เข้าใจกันอย่างนี้ หรือว่าจะบอกความจริงทุกอย่างกับฉัน เพื่อให้ความรู้สึกดีๆของเรากลับคืนมา”
บุรธัชเดินออกไป ณิชมนมองตามนิ่งคิดตัดสินใจไม่ได้ ณิชาภัทรมองตามณิชมนแน่ใจว่าณิชมนยังตัดใจจากบุรธัชไม่ได้
ที่วิทยาลัยพลพิทักษ์ ดาวเรืองไม่เห็นด้วยกับณิชาภัทรอย่างสิ้นเชิง
“ครูไม่เห็นด้วยนะ ณิชา เธอจะเปิดโปงประนอมไปทำไมกัน”
“ณิชาควรจะถามอาจารย์มากกว่าค่ะ อาจารย์ก็รู้จากคุณพงษ์เทพแล้วไม่ใช่หรือคะว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ประนอม แล้วทำไมอาจารย์ถึงไม่คิดจะทำอะไรเลยล่ะค่ะ”
“ครูมีเหตุผลของครูก็แล้วกันน่ะ”
“ณิชาไม่เข้าใจเลย ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมดคะ ทำไมทุกคนปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้หลอกลวงคนอื่นอยู่ได้
“ก็เพราะทุกคนเชื่อว่า ประนอมเป็นคนดีน่ะซิ ณิชา..ลองมองดูประนอมคนนี้ให้ดีๆ เด็กคนนี้ทำให้เธอคิดถึงใครบางคนหรือเปล่า”
“ณิชามองผู้หญิงคนนี้แล้ว ก็เห็นแต่สิบแปดมงกุฎดีๆ นี่เอง ถ้าอาจารย์ไม่ไปช่วยยืนยันว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่บ้านประนอม ณิชาหาวิธีจัดการผู้หญิงคนนี้เองก็ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวซิ ณิชา เธอไม่อยากรู้หรือไงว่า ประนอมคนนี้จริงๆแล้วเป็นใคร”
“ณิชาไม่สนใจหรอกค่ะว่า ผู้หญิงคนนี้จะเป็นใคร ณิชาต้องการให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตณิชาให้เร็วที่สุดเท่านั้น ณิชาลานะคะ”
ณิชาภัทรผลุนผลันออกไปก่อนที่ดาวเรืองจะบอกว่าณิชมนเป็นใคร ดาวเรืองรู้ว่าถึงเวลาที่จะบอกเรื่องณิชมนกับนวลแขแล้ว
ณิชาภัทรเดินกลับมาที่รถอย่างผิดหวังไม่ได้ดังใจ ชัยวัฒน์โผล่พรวดเข้ามาเหมือนเดินเตร่รออยู่แล้ว
“สวัสดีครับ คุณณิชาภัทร”
“เรารู้จักกันหรือคะ”
“เราไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่เรามีศัตรูคนเดียวกัน ก็แม่บ้านประนอมไงครับ ผมเคยทำงานที่บ้านสรณาลัย บังเอิญผมไปรู้ความลับของแม่บ้านประนอมตัวปลอมเข้า มันก็เลยรีบกำจัดผมให้พ้นทางด้วยการกลั่นแกล้งจนผมถูกไล่ออกจากงาน”
ณิชาภัทรมองชัยวัฒน์อย่างไม่ไว้ใจ
“เรามาช่วยกันเปิดโปงให้ทุกคนรู้เถอะครับว่า ยัยประนอมคนนี้เป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ถ้าขืนปล่อยต่อไป คนบ้านสรณาลัยได้ถูกมันหลอกเงินหมดตัวแน่ๆเลยนะครับ”
“แล้วเราจะทำอะไรได้ ตอนนี้หลักฐานทุกอย่างอยู่ที่คุณชายธัช อาจารย์ดาวเรืองก็ไม่ยอมเป็นพยานให้ แล้วตอนนี้ก็มีแต่คนคอยปกป้องประนอมถ้าเราไม่มีหลักฐานแน่นหนาจริงๆ คงเอาผิดกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แน่”
“ไม่ยากหรอกครับ เราก็ต้องหาหลักฐานใหม่ซิครับ เอาแบบที่ยัยแม่บ้านประนอมดิ้นไม่หลุดเลย ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง แต่งานนี้คงต้องมีค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ...”
“เรื่องเงินน่ะไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่หลักฐานที่คุณพูดถึงน่ะ มันคืออะไร”
“ก็แม่บ้านประนอมตัวจริงไงครับ คุณณิชาภัทร ผมจะไปตามตัวประนอมตัวจริงมาให้เอง คราวนี้ประนอมตัวปลอมก็จะได้พบจุดจบซะที”
ณิชาภัทรนิ่งคิด
รวิภาสช่วยกลุ่มคนงานขนกระถางต้นไม้ลงจากรถ บุรธัชเดินเข้ามาหารวิภาสส่งขวดน้ำให้
“ฝ่ายสถานที่ขอต้นไม้เพิ่มอีกน่ะครับ พี่ธัช เดี๋ยวผมจะรีบจัดเตรียมสถานที่จัดงานให้เสร็จ ซักบ่ายสามทุกอย่างน่าจะเสร็จเรียบร้อยครับ”
“คุยกับนมลแล้วใช่มั้ย เป็นไงบ้างล่ะ”
รวิภาสนิ่งชะงักสีหน้ายุ่งยากใจอย่างบอกไม่ถูก
“ยังไม่หายโกรธน่ะซิครับ ผมก็ยอมรับผิดแล้ว ไม่รู้จะเอายังไงอีก”
“แกก็ต้องขอโทษเค้าจนกว่าเค้าจะหายโกรธ”
“ก็จะให้ผมขอโทษยังไงล่ะครับ ให้ผมคุกเข่าอ้อนวอนขอนมลยกโทษให้งั้นเหรอครับ ผมทำไม่เป็นหรอก”
“ถ้าหากจะต้องคุกเข่าขอโทษ แกก็ต้องทำ แต่แกต้องขอโทษด้วยความจริงใจ ให้นมลรู้ว่าแกทำทุกอย่างเพื่อเค้าได้ แล้วแกจะได้นมลกลับคืนมา แต่ถ้าแกคิดว่านมลไม่มีค่าพอ แกก็ดื้อด้านอย่างนี้ต่อไปก็แล้วกัน”
“ขอบคุณนะครับ พี่ธัช”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรให้แกเลย ที่จริงฉันไม่เคยทำหน้าที่พี่ชายที่ดีด้วยซ้ำ ถ้าฉันเป็นพี่ชายที่ดี ฉันน่าจะปล่อยให้แกมีชีวิตของตัวเอง ถ้านมลไม่เจอหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของอานฤสรณ์ ฉันก็คงจะทำตัวงี่เง่าต่อไป สุดท้ายฉันก็จะไม่เหลือใครเลย”
“ยังไงผมก็ไม่หนีพี่ธัชไปไหนหรอกครับ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงเราจะโกรธกันให้ตาย แต่เราก็ไม่มีวันตัดขาดจากกันได้ ผมรู้ว่า ที่ผ่านมาทุกอย่างที่พี่ธัชทำลงไปก็เพื่อครอบครัวของเรา”
“แต่ยังไงฉันก็ต้องขอโทษแก นายภาส ขอโทษที่ฉันไม่เคยพยายามเข้าใจแกเลย ขอโทษที่เป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”
“เราต่างไม่เคยพยายามเข้าใจกันต่างหากล่ะครับ แต่เรามาเริ่มใหม่ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะครับ พี่ธัช”
บุรธัชตบไหล่รวิภาสแล้วดึงตัวรวิภาสมาโอบไหล่กอดไว้
ณิชาภัทรกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับชัยวัฒน์
“เจอตัวแล้วเหรอ ยังเหรอคะ.. ได้ๆ เดี๋ยวฉันจะโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปให้นะ คุณชัยวัฒน์ ได้เรื่องยังไงรีบโทรมาบอกล่ะ”
ณิชาภัทรกดปิดโทรศัพท์มือถือ นวลแขเดินเข้ามาหยุดมอง ณิชาภัทรหันไปเห็นนวลแขอดรู้สึกว่ากำลังแอบทำผิดไม่ได้
“อาจารย์ดาวเรืองบอกย่าแล้ว เรื่องที่เรากำลังหาทางเปิดโปงประนอม”
“คุณย่าคงไม่คิดจะห้ามณิชาอีกคนนะคะ”
“เราน่าจะให้โอกาสประนอมได้อธิบายก่อนนะ ณิชา เค้าอาจจะมีความจำเป็นก็ได้ถึงต้องหลอกคนอื่นว่าเป็นแม่บ้านประนอม”
“เราไม่จำเป็นต้องฟังคำอธิบายจากพวกหลอกลวงต้มตุ๋นพวกนี้หรอกค่ะนี่คุณย่าคิดจะปกป้องประนอมอีกคนหรือไงคะ”
“ไม่รู้ซินะ ย่ารู้สึกว่า ย่าถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูก ย่าไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะมีเจตนาร้ายอะไร ถ้าเค้าจะหลอกลวงต้มตุ๋นจริงๆ น่าจะปลอมตัวเป็นคนอื่นไม่ใช่เป็นแค่ลูกจ้างทำงานบ้าน”
“ถ้าไม่มีเจตนาร้าย ทำไมเค้าบอกไม่ได้ล่ะคะว่า เค้าเป็นใคร ทางที่ดีเราควรกำจัดผู้หญิงคนนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ คุณย่า ทุกอย่างจะได้กลับมาเหมือนเดิมซักที”
“แน่ใจหรือ ณิชา ไม่มีประนอมแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม”
ณิชาภัทรนิ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ในห้องณิชมน พิมพ์นฤมลแต่งชุดสวย เปิดประตูเข้ามาในห้อง
“แต่งตัวเสร็จหรือยังคะ พี่นอม”
ณิชมนเดินออกมาอย่างเคอะเขิน
“นอมต้องไปด้วยจริงๆ หรือคะ”
“ต้องไปซิคะ วันเปิดตัวรีสอร์ตของเราทั้งที พี่นอมจะไม่ไปได้ไงคะ น้าพรสั่งให้นมลกับพี่นอมไปช่วยต้อนรับแขกที่มาในงาน ไปกันเถอะค่ะ คุณแม่กับน้าพรไปรอที่งานแล้ว แต่เดี๋ยวนะคะ”
พิมพ์นฤมลถอยมาตรวจดูณิชมนอีกครั้ง
“สร้อยของพี่นอมไม่เข้ากับชุดเลยค่ะ เปลี่ยนสร้อยดีกว่านะคะ”
พิมพ์นฤมลจะถอดสร้อยให้ณิชมน
“นอมถอดเองดีกว่าค่ะ”
“ณิชมนรีบร้อนถอดสร้อยออกมาเก็บใส่ลิ้นชักไม่อยากให้พิมพ์นฤมลได้เห็นล็อคเก็ตสร้อยชัดๆ พิมพ์นฤมลมองณิชมนอย่างพิจารณาไตร่ตรอง”
“พี่นอมคะ ถ้าพี่นอมมีอะไรที่จะบอกนมล บอกนมลตอนนี้ได้เลยค่ะ”
“บอกเรื่องอะไรหรือคะ”
“ก็บอกเรื่องที่พี่นอมคิดว่าจะทำให้นมลโกรธน่ะซิคะ พี่ภาสก็รู้เรื่องนี้ด้วยใช่มั้ยคะ พี่ภาสกับพี่นอมทำเหมือนมีเรื่องอะไรปิดบังนมลอยู่ตกลงมันเรื่องอะไรกันคะ”
ณิชมนนิ่งคิดตัดสินใจ
“ให้งานวันนี้ผ่านไปก่อนนะคะ แล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน”
ณิชมนรีบเดินออกไปจากห้อง พิมพ์นฤมลเดินตามแต่แล้วก็หันมามองที่ลิ้นชักที่ใส่สร้อยของณิชมน
นวลแขในชุดออกงานเดินออกมาในบ้าน ดาวเรืองรีบร้อนเดินเข้ามารีบยกมือไหว้นวลแข
“สวัสดีค่ะ คุณหญิง คิดว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว”
“มีอะไรหรือคะ ครู เดี๋ยวเราก็ไปเจอกันที่งานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ดิฉันมีเรื่องอยากจะเรียนให้คุณหญิงทราบน่ะค่ะ”
“เรื่องอะไรหรือ”
“ก่อนหน้านี้ดิฉันก็คิดจะเรียนเรื่องนี้ให้คุณหญิงทราบ แต่ก็เกิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาจนไม่มีโอกาสได้เรียนคุณหญิง แล้วที่สำคัญทางโน้นก็ยังไม่พร้อม ดิฉันก็เกรงว่าคุณหญิงจะทำใจรับไม่ได้..”
“นี่ครูกำลังพูดเรื่องอะไร ฉันฟังจนงงไปหมดแล้ว”
“เรื่องหนูณิชมนน่ะค่ะ เราพบตัวหนูณิชมนแล้วค่ะ คุณหญิง”
นวลแขนิ่งอึ้งทั้งแปลกใจทั้งดีใจ
ณ รีสอร์ตเทพสุธา ในงานมีบรรยากาศสบายๆมีวงดนตรีบรรเลงเพลงชิวๆบนเวที ผู้คนเดินขวักไขว่เต็มงานณิชาภัทร พรรณอรและพรพรรณยืนรอต้อนรับแขกในงาน พันสรควงแขนพิมพ์นฤมลกับณิชมนเดินเข้ามาในงาน บุรธัชกับพงษ์เทพยืนคุยกับแขกในงานอยู่กันคนละมุมของงานมองพุ่งตรงมาที่ณิชมน บุรธัชกับพงษ์เทพต่างเดินตรงมาหาณิชมนแทบพร้อมๆกัน
“ประนอม..” บุรธัชเรียก
“คุณนอม..” พงษ์เทพเรียก
พิมพ์นฤมลมองบุรธัชกับพงษ์เทพแล้วยิ้มขำ
“นักข่าวเริ่มมากันแล้ว นมลไปก่อนนะคะ พี่นอม”
พิมพ์นฤมลรีบแยกเดินออกไปก่อน ณิชาภัทรรีบเข้ามาหาณิชมน
“ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปช่วยนมลซิ ประนอม”
“ฉันมีงานให้ประนอมช่วย ไปกับฉันหน่อย” บุรธัชบอก
“แต่ผมมีเรื่องที่จะคุยกับคุณนอม เรื่องสำคัญด้วย” พงษ์เทพขัด
“แต่เรื่องนายภาสกับนมลน่าจะสำคัญกับประนอมมากกว่าเรื่องของคุณนะ คุณพงษ์เทพ”
บุรธัชดึงณิชมนให้เดินไปด้วยกัน
“ปล่อยธัชไปก่อนเถอะค่ะ คุณพงษ์เทพ ให้เวลาธัชได้บอกลาประนอมหน่อยเถอะค่ะ เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นประนอมแล้ว”
“คุณคิดจะทำอะไร”
“แล้วคุณก็จะรู้เองค่ะ”
ณิชาภัทรเดินแยกออกไปต้อนรับแขก พงษ์เทพมองตามอย่างไม่สบายใจ
รวิภาสเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้นกระสับกระส่ายอยู่ข้างเวที บุรธัชดึงตัวณิชมนมาหารวิภาส
“พร้อมหรือยัง นายภาส”
“แน่ใจนะครับว่า จะได้ผลน่ะ คุณคิดว่าไง พี่ธัชบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่า ผมจะง้อนมลยังไง”
“บอกแล้วค่ะ ถ้าคุณแน่ใจว่าได้ผล ก็คงได้ผลแหละค่ะ”
“ไม่ได้ให้กำลังใจกันเลย”
“มันต้องได้ผลซิ รับรองถ้าแกยอมลงทุนขนาดนี้ นมลต้องยอมคืนดีด้วยแน่ๆ แต่ถ้าไม่ได้ผล ก็ถือว่าเป็นการเอ็นเตอร์เทนแขกในงานแล้วกัน”
พันธ์นฤสรร์วิ่งหน้าเริดเข้ามา
“บนเวทีพร้อมแล้วล่ะครับ พี่ภาสลุยได้เลย”
พันธ์นฤสรร์ดึงรวิภาสออกไป รวิภาสหันมายิ้มหน้าแหยกึ่งกล้ากึ่งไม่แน่ใจ ณิชมนกับบุรธัชหันมามองหน้ากันอดยิ้มขำรวิภาสไม่ได้
นักข่าวรุมถ่ายรูปณิชาภัทร พงษ์เทพ พรรณอรและพรพรรณในฐานะเจ้าของรีสอร์ตร่วม พิมพ์นฤมลพานักข่าวสองคนเข้ามายืนรอสัมภาษณ์เจ้าของรีสอร์ต
“ยังขาดคุณชายบุรธัชอีกคน รอซักครู่นะคะ เดี๋ยวนมลไปตามให้”
ณิชมนรีบร้อนเข้ามาดึงตัวพิมพ์นฤมลไป
“ไปด้วยกันหน่อยค่ะ คุณนมล”
“พี่นอมจะพานมลไปไหน นมลต้องอยู่ดูแลพี่ๆนักข่าวนะคะ”
“ยังไงคุณนมลก็ต้องไปกับนอมค่ะ”
ณิชมนไม่ฟังเสียงดึงตัวพิมพ์นฤมลไปยืนอยู่หน้าเวที ณิชมนกับพันธ์นฤสรร์ช่วยกันต้อนให้แขกในงานถอยห่างให้พิมพ์นฤมลยืนอยู่คนเดียวโดดเด่น บนเวทีวงดนตรีเริ่มอินโทรเพลงแล้วรวิภาสก็เดินออกมายืนกลางเวที พิมพ์นฤมลนิ่งอึ้งมองรวิภาสว่าจะทำอะไรต่อไป
รวิภาสเริ่มร้องเพลงรักง้องอนพิมพ์นฤมลอย่างจริงใจสุดๆ บุรธัชเดินมาหยุดอยู่ข้างณิชมน พันธ์นฤสรร์ดึงพรรณอรกับพรพรรณเข้ามาร่วมดูรวิภาสง้องอนพิมพ์นฤมล ณิชาภัทรกับพงษ์เทพตามเข้ามาแต่ตากลับมองไปที่คู่บุรธัชกับณิชมนมากกว่า บุรธัชดึงมือณิชมนมากุมไว้ไม่ยอมปล่อย รวิภาสร้องเพลงจนจบแล้วกระโดดลงจากเวทีมายืนตรงหน้าพิมพ์นฤมล
“นมล..ยกโทษให้พี่ด้วยนะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะขอให้นมลยกโทษให้ ต่อไปนี้พี่จะไม่ทำให้นมลโกรธพี่อีกแล้ว พี่สัญญา”
พันธ์นฤสรร์ถือช่อดอกไม้มาส่งให้รวิภาส รวิภาสรับช่อดอกไม้มาแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าพิมพ์นฤมล
“พี่ภาส !”
“ยกโทษให้พี่นะ นมล”
พิมพ์นฤมลรีบรับช่อดอกไม้จากรวิภาส
“นมลยกโทษให้แล้ว ลุกขึ้นๆ อายเค้า”
พิมพ์นฤมลรีบดึงรวิภาสให้ลุกขึ้น ผู้คนรอบๆข้างตบมือให้กันเกรียวกราว รวิภาสโค้งให้กับทุกคนอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตัวเองบุรธัชดึงณิชมนออกไปเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พิมพ์นฤมลดึงรวิภาสออกไปอย่างเขินอายสายตาผู้คนพรรณอรกับพรพรรณมองตามรวิภาสกับพิมพ์นฤมล
“คู่นี้น่ารักจริงๆ เหมาะสมกันที่สุด” พรรณอรกล่าว
“หวังว่าคงจะไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรอีกนะคะ” พรพรรณพูด
ณิชาภัทรกับพงษ์เทพมองตามบุรธัชที่พาณิชมนหายออกไปจากงาน
อ่านต่อหน้าที่ 3
รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 23 (ต่อ)
บุรธัชดึงณิชมนมาที่มุมเงียบห่างออกมาจากงาน
“มีอะไรหรือคะ คุณชายธัช”
“ถึงเวลาที่เธอจะต้องให้คำตอบกับฉันแล้ว”
“ถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันเป็นใคร คุณสัญญาได้มั้ยล่ะคะว่า คุณจะไม่บอกคนอื่นอีก ไม่ว่าคุณอยากจะบอกแค่ไหนก็ตาม”
“นี่เธอเป็นใครกันแน่”
“คุณรับปากฉันก่อนซิคะ แล้วฉันจะบอกคุณว่า ฉันเป็นใคร”
พงษ์เทพเดินเข้ามา
“อย่าเสี่ยงดีกว่าน่า คุณนอม คุณก็รู้ว่า คุณชายใกล้ชิดกับครอบครัวของคุณแค่ไหน ไม่มีทางที่จะเก็บความลับไว้ได้แน่ๆ ถ้าคุณบอกความจริงกับคุณชาย คุณไม่มีทางได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองแน่”
“นี่พูดเรื่องอะไรกันอยู่ ฉันรู้จักครอบครัวของเธอด้วยเหรอ ประนอม”
“คุณต้องรีบไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ คุณณิชามีแผนอะไรอยู่ก็ไม่รู้ รีบไปก่อนที่คุณจะถูกคุณณิชาเล่นงานดีกว่า”
บุรธัชดึงณิชมนไว้ทันทีไม่ยอมให้ไปง่ายๆ
“เธอยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะบอกความจริงกับฉัน”
ณิชมนมองบุรธัชอย่างลังเลใจ
พิมพ์นฤมลดึงรวิภาสหลบผู้คนมาอีกมุมของรีสอร์ต
“พี่ภาส ! พี่ภาสรู้ตัวหรือเปล่าว่า ทำอะไรลงไป”
“ถ้าหากทำให้นมลหายโกรธได้ พี่ทำได้ทุกอย่าง ให้พี่ไปตะโกนบอกรักนมลตอนนี้ก็ยังได้นะ นมลจะได้รู้ว่า พี่อยากได้นมลกลับคืนมาแค่ไหน”
รวิภาสทำท่าจะออกไป พิมพ์นฤมลดึงตัวรวิภาสไว้สุดแรง
“จะบ้าหรือ พี่ภาส แค่นี้ก็อายคนอื่นจะแย่แล้ว”
“นมลหายโกรธพี่แล้วใช่มั้ย”
“หายโกรธแล้ว แล้วก็ยกโทษให้หมดแล้วด้วย สัญญาอะไรไว้ก็ทำให้ได้ตามที่สัญญาก็แล้วกัน”
“พี่ก็กลัวว่าจะทำให้นมลโกรธโดยไม่รู้ตัว นมลก็รู้ พี่เป็นคนใจร้อน ทำก่อนคิดอยู่เรื่อย ยิ่งเป็นเรื่องของนมล พี่ก็ยิ่งใจร้อน ลุยก่อนคิดทีหลัง”
“พี่ภาสจะทำให้นมลโกรธอีกกี่ครั้ง เราก็จะกลับมาคืนดีเหมือนเดิมค่ะ นมลยกโทษให้พี่ภาสได้เสมอ เหมือนกับที่พี่ภาสไม่เคยโกรธนมลได้นานพี่ภาสไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้นมลกลับคืนไป เพราะนมลไม่เคยไปจากพี่ภาส นมลอยู่ข้างๆ พี่ภาสเสมอ..”
“นมล...”
รวิภาสดึงพิมพ์นฤมลเข้ามากอด
บุรธัชยังยื้อตัวณิชมนไว้อยู่ บุรธัชมองณิชมนเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง
“บอกฉันมา เธอเป็นใคร เธอคงไม่ใช่...”
พงษ์เทพเข้าไปดึงตัวณิชมนออกมาจากบุรธัช
“คุณนอมไม่อยากให้คุณรู้ คุณก็อย่ารู้เลย คุณชายธัช ปล่อยให้คุณนอมไปกับผมดีกว่า คุณนอมไม่ไว้ใจคุณ แต่เธอไว้ใจผม เธอรู้ว่า ผมสามารถปกป้องเธอได้และทำตามที่เธอต้องการได้ทุกอย่าง แต่คุณทำไม่ได้หรอก”
“คุณพงษ์เทพ ฉันบอกแล้วว่า ฉันจะไม่ไปกับคุณ”
“ให้ผมได้มีโอกาสแก้ตัวซักครั้งเถอะนะครับ คุณนอม ถ้าคุณไม่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์ของคุณจริงๆ ต้องการให้ทุกคนที่นี่รู้จักคุณในฐานะแค่เป็นแม่บ้านประนอม คุณก็ต้องทิ้งทุกอย่างไปในตอนนี้”
“ถ้าเธอไปตอนนี้ก็เท่ากับเธอหนีปัญหา เธอจะหนียังไง เธอก็หนีตัวเองไปไม่พ้นหรอก ถึงเวลาที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาแล้ว”
ณิชมนนิ่งคิดยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะบอกความจริงกับบุรธัชดีหรือเปล่า
“คุณแม่บ้านประนอมเชิญที่เวทีด้วยครับ คุณแม่บ้านประนอมตัวจริง คุณประนอม บุญเสริม เชิญที่เวทีด่วนเลยครับ” ชัยวัฒน์ประกาศ
ณิชมนสะดุ้งตกใจ บุรธัชกับพงษ์เทพหันไปมองณิชมนแปลกใจไม่รู้เกิดอะไรขึ้นอีก ณิชมนยืนตัวแข็งเริ่มกลัวจับใจว่าเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆ
พรรณอร พรพรรณ ณิชาภัทรและพันสรรวมทั้งแขกในงานยืนอออยู่หน้าเวที ชัยวัฒน์ถือไมค์ยืนกร่างอยู่บนเวที
“ฮัลโหลๆ คุณแม่บ้านประนอมมาที่เวทีด่วนครับ”
“ลงมาเดี๋ยวนี้นะ นายชัย ใครก็ได้ไปเรียกรปภ.มาที” พรพรรณสั่ง
“นี่เค้าคิดจะทำอะไรเนี่ย”
ณิชาภัทรยืนมองนิ่งอึ้งไม่รู้ว่าชัยวัฒน์จะจัดใหญ่ขนาดนี้ได้แต่เลยตามเลย รวิภาสกับพิมพ์นฤมลวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” รวิภาสถาม
“ไม่รู้เหมือนกันครับ อยู่ๆครูชัยก็โผล่เข้ามาในงาน แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นเนี่ยล่ะครับ” พันธ์นฤสรร์บอก
บุรธัช ณิชมนและพงษ์เทพตามมาสมทบ ชัยวัฒน์หันมาเห็นณิชมนที่เดินตรงเข้ามาหา
“คุณต้องการอะไร คุณชัยวัฒน์” ณิชมนพูด
ชัยวัฒน์กระโดดลงจากเวทีเข้าไปหาณิชมน
“ก็ต้องการมาเปิดโปงความจริงน่ะซิครับ”
ชัยวัฒน์ลากณิชมนให้ทุกคนได้เห็นหน้าโดยทั่วกัน
“ผู้หญิงคนนี้อ้างว่าตัวเองเป็นคนของอาจารย์ดาวเรือง ชื่อนางสาวประนอม บุญเสริม”
บุรธัชดึงตัวณิชมนออกจากเงื้อมมือชัยวัฒน์
“แกจะทำอะไร ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ไป”
บุรธัชกับรวิภาสเข้าไปประกบตัวชัยวัฒน์ ชัยวัฒน์ดิ้นรนไม่ยอมให้จับตัวไว้ง่ายๆ
“เดี๋ยวก่อนซิครับ ผมยังไม่ได้เฉลยตอนสำคัญเลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ประนอมครับ มันเป็นพวกสิบแปดมงกุฏสวมรอยเป็นแม่บ้านประนอม ไม่เชื่อก็ถามดูได้เลย”
บุรธัชกับรวิภาสชะงักไม่คิดว่าชัยวัฒน์จะมาแฉเรื่องนี้ ชัยวัฒน์สะบัดตัวหลุดจากบุรธัชกับรวิภาสได้ก็ตรงไปหาณิชมนอีก
“ยอมรับความจริงมาซะดีๆ ว่า เธอไม่ใช่แม่บ้านประนอม ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่บ้านประนอมจริงๆ ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่แสดงว่า เค้าชื่อนางสาวประนอม บุญเสริม”
พรรณอรกับพรพรรณมองหน้ากันเริ่มใจไม่ดี
“คุณก็ไม่มีหลักฐานที่จะปรักปรำพี่นอมเหมือนกัน”
“ทำไมจะไม่มี คุณประนอม..เชิญครับ”
ประนอมตัวจริงอ้วนดำอายุสามสิบปี เดินตัวสั่นออกมาอย่างไม่แน่ใจ
“ตกลงพี่จะให้หนูมาทำงานอะไรกันแน่คะ” ประนอมตัวจริงถาม
“ผู้หญิงคนนี้แหละครับ ประนอม บุญเสริมตัวจริง ! แค่นี้พอเป็นหลักฐานได้มั้ยล่ะครับ”
รปภ.สองคนกรูเข้ามาประกบตัวณิชมนเหมือนวางคิวไว้แล้ว
“จับตัวส่งตำรวจได้เลย !” ณิชาภัทรสั่ง
พงษ์เทพรีบเข้ามาหาณิชมน
“บอกทุกคนซิครับว่า คุณเป็นใคร”
“ค่ะ คุณชัยวัฒน์พูดความจริงทุกอย่าง ฉันไม่ใช่ประนอม บุญเสริมค่ะฉันอยากได้งานทำ ฉันก็เลยสวมรอยเข้ามาเป็นแม่บ้านประนอม”
ณิชมนหันไปมองพรรณอร พรพรรณ พิมพ์นฤมลและพันธ์นฤสรร์
“ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องโกหก ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“พาตัวไปได้แล้ว” ณิชาภัทรพูด
รปภ.ประกบพาตัวณิชมนเดินออกไปท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่มองมา
“คุณทำเกินไปแล้ว ณิชา !”
บุรธัชรีบตามณิชมนออกไป รวิภาสและพงษ์เทพรีบตามไปกลุ่มคนบ้านสรณาลัยพิมพ์นฤมล พรรณอร พรพรรณและพันธ์นฤสรร์ที่ยืนอื้ออึงอยู่
รปภ.สองคนประกบตัวณิชมนเดินออกมาจากข้างในงาน บุรธัช รวิภาสและพงษ์เทพตามออกมา
“ปล่อยประนอมเดี๋ยวนี้” บุรธัชสั่ง
ณิชาภัทรเดินตามมา
“ธัชก็เรียกประนอมอยู่ได้ ก็รู้แล้วว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ประนอม”
“พี่ณิชาไม่ใช่เจ้าทุกข์ซักหน่อย ไม่มีสิทธิ์อะไรจะจับประนอมนะครับ” รวิภาสแย้ง
“พี่ก็เป็นผู้เสียหายด้วยเหมือนกัน ทำไมจะแจ้งจับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้”
“ถึงเวลาที่คุณต้องบอกความจริงกับทุกคนแล้วนะครับ” พงษ์เทพพูด
“พาตัวไปได้เลย เดี๋ยวตำรวจก็คงจะมาถึงแล้ว” ณิชาภัทรบอกกับรปภ.
นวลแขกับดาวเรืองเดินเข้ามา
“ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้ ณิชา”
“คุณย่าพูดว่าอะไรนะคะ”
“ย่าบอกว่า ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้”
รปภ.ปล่อยมือจากณิชมนรีบถอยหลังไป พิมพ์นฤมล พรรณอร พรพรรณ และพันธ์นฤสรร์เพิ่งตามออกมา
“ณิชาไม่เข้าใจทำไมต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้นัก ถึงคนอื่นจะไม่ยอมเอาเรื่อง แต่ณิชาเชื่อว่า คุณพรพรรณจะต้องไม่ยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้แน่ ใช่มั้ยคะ คุณพรพรรณ”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ขอฉันตั้งสติก่อน” พรพรรณบอก
พรพรรณหันไปมองณิชมนอย่างงงไม่หาย
“นี่ตกลงเธอไม่ใช่แม่บ้านประนอมจริงๆ เหรอ แล้วเราจะทำไงกันดีล่ะคะ พี่อร จับส่งตำรวจหรือยังไง”
“ดิฉันขอเถอะนะคะ อย่าเรื่องถึงตำรวจเลยนะคะ เรื่องภายในครอบครัวเราน่าจะจัดการกันเองมากกว่า” ดาวเรืองร้องขอ
ดาวเรืองหันไปมองณิชมนที่ยังนิ่งเฉยไม่ยอมพูดอะไร
“ถ้าหนูไม่ยอมบอกความจริง ฉันคงจะต้องเป็นคนบอกทุกคนเอง หนูคนนี้ไม่ใช่คนของครู ไม่ใช่ประนอม บุญเสริม แต่หนูคนนี้ชื่อ ณิชมน ชุติมันต์ลูกสาวของณัชชา หลานสาวของคุณหญิงนวลแข สุธาสินค่ะ”
ณิชาภัทรนิ่งอึ้งตะลึงงัน
“ณิชมน ชุติมันต์...น้องณิชมน..” ณิชาภัทรพึมพำ
ชัยวัฒน์เดินย่องมาดูเหตุการณ์ถึงกับอึ้งไปแล้วรีบถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว บุรธัชกับรวิภาสยืนงงไม่อยากจะเชื่อ
“ประนอมเป็นหลานสาวของคุณหญิงนวลแข !” พรรณอรตกใจ
“พี่เค้าชื่อณิชมนค่ะ คุณแม่” พิมพ์นฤมลพูด
“ถูกต้องแล้ว หนูคนนี้เป็นหลานของฉันเอง !”
บุรธัชมองณิชมนอย่างคาดไม่ถึงได้แต่อึ้งงงงันไป
ชัยวัฒน์กำลังย่องหนีจะเปิดประตูขึ้นรถ รวิภาสตามหลังมาคว้าคอเสื้อไว้ลากตัวออกมาจากรถ
“ปล่อยผมๆ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมอุตส่าห์มาช่วยเปิดโปงความจริงมาจับผมได้ไง”
พิมพ์นฤมลเดินตามาพร้อมกับตำรวจสองนาย
“ทำไมคุณจะไม่ได้ทำอะไรผิด คุณปลอมวุฒิการศึกษาสมัครเข้ามาเป็นครูของพันสร ทั้งที่คุณไม่มีคุณสมบัติของความเป็นครูเลย อย่างนี้ถือว่า คุณฉ้อฉลหลอกลวงคนอื่น”
“ถ้าจะจับผมก็ต้องไปจับยัยประนอมตัวปลอมด้วย หรือเห็นว่ายัยนั่นเป็นหลานสาวคุณหญิงไปแล้ว ก็เลยไม่กล้าแจ้งจับ ธ่อเว้ย อย่างนี้ไม่ยุติธรรมนี่หว่า ถ้าจะจับก็จับให้หมดซิ”
“คุณณิชมนไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเสียหายนี่หว่า แต่แกเกือบจะทำลายอนาคตของเด็กดีๆคนนึง พันสรต้องเสียเวลาอยู่กับครูจอมปลอมอย่างแกเป็นปี จับตัวไปได้แล้วครับ คุณตำรวจ แล้วเดี๋ยวเราจะตามไปให้ปากคำที่โรงพักทีหลังครับ”
นายตำรวจสองนายประกบตัวชัยวัฒน์แล้วพาตัวออกไป
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่อยากหางานดีๆทำเท่านั้น อย่าเอาเรื่องผมเลยนะครับ ปล่อยผมเถอะ ผมขอร้อง”
ชัยวัฒน์ดิ้นรนตะโกนร้องขอความเห็นใจไปตลอดทาง
“นมลเชื่อแน่ว่า บ้านนมลไม่ใช่เหยื่อรายแรกและรายเดียวของนายชัยวัฒน์คนนี้แน่ๆ โชคดีที่จับตัวได้ทัน หมดเรื่องกันซักทีนะคะ พี่ภาสเราไปดูพี่นอม..เอ๊ยพี่ณิชมนกันดีกว่า”
“นมลไม่โกรธคุณณิชเค้าเหรอ”
“ถ้านมลจะโกรธ นมลควรโกรธพี่ภาสมากกว่า ถ้าพี่ภาสบอกเรื่องนี้กับนมล เรื่องคงไม่บานปลายอย่างนี้หรอกค่ะ นี่พี่ภาสไม่สะกิดใจอะไรเลยเหรอ ตอนนี้รู้ว่า พี่นอมบอกว่า เค้าชื่อณิชมนน่ะ”
“พี่ก็รู้สึกคุ้นๆชื่ออยู่ แต่ตอนนั้นมันนึกไม่ออกนี่นา ใครจะคิดล่ะว่า หลานสาวของคุณหญิงย่าจะมาปลอมตัวเป็นแม่บ้านประนอม”
“ต่อไปนี้ห้ามมีความลับอะไรกับนมลเด็ดขาด เข้าใจมั้ยคะ ไปค่ะ นมลอยากรู้ว่า ตอนนี้พี่ณิชมนจะเป็นไงบ้าง”
พิมพ์นฤมลดึงรวิภาสเดินออกไปด้วยกันอย่างใจร้อน
ณิชมนนั่งนิ่งอยู่เป็นศูนย์กลางในห้องรับแขกในรีสอร์ต บุรธัชยืนมองณิชมนอยู่ห่างออกไป ณิชมนไม่กล้าสบตากับบุรธัชแม้แต่น้อย ณิชาภัทรนั่งนิ่งเงียบยังไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันในวันนี้ นวลแขกับดาวเรืองเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ณิชมน
“หนูณิชมน..” ดาวเรืองเรียก
“หนู..หนูไม่ใช่...”
“ถึงเวลานี้แล้ว หนูยังจะปฏิเสธอีกหรือว่า หนูไม่ใช่ณิชมน ชุติมันต์หลานสาวของคุณหญิงนวลแข ทำไมหนูถึงได้หัวดื้ออย่างนี้นะฉันไม่รู้ว่า ณัชชาเล่าอะไรให้หนูฟังบ้าง แต่หนูควรจะฟังทางคุณยายของหนูด้วย”
“ณิชมนอาจจะยังไม่พร้อมที่จะยอมรับฉันเป็นยาย ฉันจะรอจนกว่าเธอจะพร้อมก็แล้วกันนะ”
“ที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมรับว่าเป็นหลานคุณย่า ก็อาจเป็นเพราะเค้าไม่ใช่ณิชมนตัวจริงก็ได้นะคะ” ณิชาภัทรพูด
“ณิชา..ยอมรับความจริงซะเถอะ ผมเชื่อว่า ผู้หญิงคนนี้คือณิชมนน้องสาวของคุณจริงๆ”
“แต่ณิชายังไม่ปักใจเชื่อหรอกค่ะ เราไม่มีหลักฐานอะไรเลยนอกจากคำพูดของผู้หญิงคนนี้ที่เที่ยวบอกใครๆว่า เป็นณิชมนเค้าเคยโกหกว่าเป็นแม่บ้านประนอมมาแล้ว ทำไมจะโกหกไม่ได้ล่ะค่ะว่าเป็นหลานสาวคุณหญิงนวลแข ใช่มั้ยล่ะ เธอคงไปแอบได้ยินเรื่องณิชมนจากใครมา ก็เลยปั้นเรื่องโกหกคุณพงษ์เทพจนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายอย่างนี้”
“ครูหาหลักฐานให้ได้นะ ณิชา ณิชมนมีสร้อยของณัชชาติดตัวมาน่าจะพอเป็นหลักฐานขั้นแรกที่พิสูจน์ได้ว่า เธอเป็นณิชมนตัวจริง”
ณิชาภัทรเดินเข้าไปหาณิชมน
“ไหนล่ะคะสร้อยที่อาจารย์พูดถึง สร้อยเส้นนี้หรือคะ”
นวลแขกับดาวเรืองมองไปที่สร้อยคอของพิมพ์นฤมลที่ณิชมนใส่อยู่
“คุณณิชาพูดถูกแล้วล่ะค่ะ หนูไม่มีหลักฐานอะไรเลย ถ้าจะไม่เชื่อว่า หนูคือณิชมน ก็ไม่ต้องเชื่อค่ะ หนูก็ไม่ต้องการให้ใครเชื่อเหมือนกัน”
ณิชมนลุกขึ้นจะเดินหนีออกจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจรวิภาสกับพิมพ์นฤมลเดินเข้ามา
“อย่าเพิ่งไปค่ะ หลักฐานอยู่ที่นมลค่ะ อาจารย์หมายถึงสร้อยเส้นนี้ใช่มั้ยคะ”
พิมพ์นฤมลหยิบสร้อยจากกระเป๋าออกมาส่งให้ดาวเรือง ดาวเรืองตรวจดูแล้วส่งต่อให้นวลแข นวลแขเปิดล็อคเก็ตสร้อยออกมาดูแล้วนึกถึงณัชชาลูกสาวเป็นอย่างแรก รูปนวลแขอยู่ในล็อคเก็ต
“ณัชชา...”
นวลแขเงยหน้ามองณิชมนอีกครั้ง
“ณิชมน..ยังจะปฏิเสธอีกมั้ยว่า เธอไม่ใช่หลานของยายคนนี้”
ณิชมนนิ่งอึ้งมองนวลแขอย่างทำอะไรไม่ถูก พิมพ์นฤมลดึงณิชมนให้เดินเข้าไปหานวลแข ณิชมนมองนวลแขที่ลดทิฐิแล้วโดยหมดสิ้นมีแต่รอให้ณิชมนเดินเข้าไปหาณิชมนทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้านวลแข
“ค่ะ หนู..ณิชมน ลูกของแม่ณัชชาค่ะ คุณยาย..”
ณิชมนก้มลงกราบที่ตักของนวลแข นวลแขดึงณิชมนเข้ามากอดไว้แน่น ณิชาภัทรมองณิชมนนิ่งที่สุดก็ต้องยอมรับความจริงว่าณิชมนคือณิชมนตัวจริง บุรธัชยืนมองณิชมนด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวายใจเขาเดินออกไปอย่างเงียบๆ รวิภาสรีบเดินตามบุรธัชออกไป นวลแขดึงณิชมนขึ้นมานั่งเคียงข้างกันแล้วกอดณิชมนไว้แน่นเหมือนไม่ยอมให้หนีไปไหนอีก ณิชมนน้ำตาไหลเงียบๆในอ้อมกอดของยายที่ได้เจอกันในที่สุด
จบตอนที่ 23
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.