ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 6
ณ บ้านบุริศราวัณ รวิภาสเดินฮัมเพลงมาที่โต๊ะอาหารซึ่งอาจกำลังดูแลคนรับใช้เก็บโต๊ะอาหารเช้าอยู่
“พี่ธัชออกไปทำงานแล้วหรือครับ”
“คุณชายออกไปแล้วครับ”
“ไปที่ไร่หรือว่าไปที่เทพสุธาล่ะครับ ผมจะได้หลบหลีกได้ถูก เจอหน้ากันทีไรบ่นจนหูชาทุกที บ่นเรื่องเดิมซ้ำๆซากๆ ผมเบื่อที่จะฟังแล้ว”
“คุณภาสก็ทำตัวดีๆ ซิครับ คุณชายก็จะเลิกบ่นไปเอง”
“ผมก็ว่า ผมทำตัวดีแล้วนะครับ ลุงอาจ” รวิภาสเย้า
อาจมองรวิภาสอย่างรู้ทัน
“การไปทำตัวดีที่อื่น มันไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกครับ คุณภาสต้องทำดีให้คุณชายเห็นด้วย คุณชายมั่นใจในตัวคุณเมื่อไหร่ ก็จะเลิกเข้มงวดกับคุณเอง แต่ถ้าคุณยังแกล้งทำตัวเกเรให้คุณชายปวดหัวเล่น ก็คงมีเรื่องให้ทะเลาะกันทุกวันอยู่อย่างนี้ ทุกอย่างขึ้นกับตัวคุณภาสคนเดียวเท่านั้นแหละครับ”
วิภาสทำเป็นไม่เข้าใจที่อาจเตือน
“ลุงอาจไม่ต้องซีเรียสไปหรอกครับ พี่น้องก็ต้องมีเรื่องทะเลาะกันเป็นธรรมดา วันไหนผมไม่ได้ทะเลาะกับพี่ธัช ผมคงนอนไม่หลับแน่ แล้วตกลงเช้านี้พี่ธัชไปไหนหรือครับ ไปไร่หรือไปเทพสุธา”
“ไม่ได้ไปทั้งสองที่ครับ เห็นว่าเช้านี้จะพาแม่บ้านประนอมไปฝากงานที่บ้านคุณหญิงนวลแข”
“ลุงอาจฟังผิดหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เรื่องไร่บุริศราวัณแล้ว พี่ธัชเคยสนใจที่ไหน พาแม่บ้านประนอมไปฝากงาน..พี่ธัชคิดจะทำอะไรของเค้าเนี่ย?”
รวิภาสแปลกใจที่บุรธัชไปยุ่งเกี่ยวกับประนอม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านสุธาสิน ณิชมนเดินดุ่มๆตรงเข้ามาในบ้านแล้วชะงักยืนงง บุรธัชเดินตามหลังเข้ามายืนมองณิชมนที่ไม่รู้ไปทางไหนดี
“เธอจะไปไหน”
“ก็ไปพบคุณหญิงนวลแขน่ะซิ”
“แล้วรู้หรือว่า ต้องไปพบท่านที่ไหน เดินลิ่วๆ เข้ามาอย่างกับเป็นเจ้าของบ้าน หรือที่รีบเดินเข้ามานี่เพราะกลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนใจ”
“เปล่าซะหน่อย” ณิชมนอึกอัก
คนรับใช้เดินเข้ามายกมือไหว้บุรธัช
“สวัสดีค่ะ คุณชาย คุณท่านรออยู่ที่สวนหลังบ้านค่ะ”
บุรธัชหันมองณิชมนที่ขยับจะเดินตามมา
“รออยู่ตรงนี้แหละ ฉันจะเข้าไปเรียนคุณหญิงย่าก่อน อย่าหนีไปไหนล่ะ”
บุรธัชบอกแล้วเดินเข้าไปก่อนจะเดินออกมาใหม่
“ แดง” บุรธัชพูดกับคนรับใช้ “เฝ้าคุณคนนี้ไว้นะ อย่าให้หนีไปไหนเด็ดขาด”
ณิชมนมองบุรธัชอย่างไม่ชอบใจ คนรับใช้ยืนงงๆ บุรธัชเดินเข้าไปข้างในบ้าน
ณิชมนเดินดูรอบๆบ้านแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรูปถ่ายรูปใหญ่ของนวลแข
“คุณย่า...”ณิชมนพึมพำ
ณิชมนไล่ดูรูปถ่ายของครอบครัวที่วางอยู่ เห็นรูปครอบครัวณิชาภัทร เห็นรูปณิชาภัทรในวัยต่างๆ และมาจบที่รูปณิชาภัทรกับนวลแขกอดกันอย่างสนิทสนม
“ไม่มีรูปแม่เลย..”ณิชาภัทรพึมพำ แล้วก็นิ่งไปด้วยความเศร้าใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชาภัทรพานวลแขเข้ามานั่งที่โต๊ะสนามหลังบ้านสุธาสิน
“คุณย่าขา เชื่อณิชาเถอะนะคะ วิธีนี้จะทำให้เราหาตัวน้องณิชมนได้เร็วที่สุด”
“ยังไงย่าก็ไม่เห็นด้วย ย่าไม่ต้องการให้คนนอกมารับรู้เรื่องในครอบครัวของเรา”
บุรธัชเดินเข้ามา เขายกมือไหว้นวลแข
“สวัสดีครับ คุณหญิงย่า”
“ธัชมาพอดีเลย ธัชมาช่วยพูดกับคุณย่าหน่อยซิ คุณย่าไม่ยอมให้ณิชาจ้างนักสืบตามหาน้องณิชมน แล้วอย่างนี้เราจะได้เจอตัวน้องณิชมนเมื่อไหร่ล่ะคะ” ณิชาภัทรหาคนสนับสนุน
“ยัยณิชา ให้คุณชายพูดธุระของเธอก่อนซิ” นวลแขปราม
“แต่เรื่องของณิชาสำคัญกว่านี่คะ ตอนนี้เราต้องรีบตามตัวน้องณิชมนให้เจออย่างเร็วที่สุดก่อนที่อาชยทัตจะพาครอบครัวย้ายไปที่ไหนอีก”
“ถ้าคุณหญิงย่าไม่อยากให้จ้างนักสืบ เราไปตามหากันเองก็ได้ครับ”
“ไม่ต้องหรอก คุณชาย” นวลแขบอก “ย่าให้คนที่ไว้ใจได้ตามหาให้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่า ถ้าได้เจอตัวจริงๆ ณัชชาจะยอมกลับมาหรือเปล่า”
“คุณย่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย ถ้าอาณัชชารู้ว่า คุณย่ายกโทษให้ทุกอย่างแล้ว อาณัชชาต้องยอมกลับมาแน่ๆค่ะ” ณิชาภัทรมั่นใจ
“ที่ย่าให้คนไปตามหาณัชชา เพราะห่วงเราต่างหาก ถ้าหากย่าตายไปเมื่อไหร่ผีพนันอย่างตาชยทัตได้ส่งลูกสาวมาฟ้องร้องแบ่งมรดกจากเราแน่ ย่าถึงต้องตามสองแม่ลูกนั่นให้มารับส่วนแบ่งมรดกตามที่ควรจะได้ ย่าไม่ยกโทษให้คนที่ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้ง่ายๆหรอก”นวลแขยังคงวางฟอร์ม
อีกด้านหนึ่ง ณิชมนที่แอบฟังอยู่นิ่งอึ้งไป
ณิชมนหันหลังเดินออกไปอย่างช้าๆเธอรู้อย่างชัดเจนแล้วว่าย่าไม่ต้องการเธอ
“ถ้าคุณหญิงย่าทำพินัยกรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีใครจะมาฟ้องร้องแบ่งมรดกได้หรอกครับ”
“คุณย่าแค่หาข้ออ้างไปอย่างนั้นแหละค่ะ ธัช ณิชารู้ว่า คุณย่าให้คนตามหาอาณัชชาก็เพราะยังรักและเป็นห่วงอยู่ จะหลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกณิชาภัทรคนนี้ไม่ได้หรอกนะคะ คุณย่าขา”
บุรธัชยิ้มเห็นด้วยกับณิชาภัทร นวลแขทำเป็นไม่ได้ยินและไม่รับรู้ด้วย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินหนีจนออกมาจากตัวบ้านสุธาสิน
“ก็ท่านมีหลานย่าอยู่แล้ว จะไปสนใจหลานยายที่ไม่เคยเห็นหน้าทำไมล่ะ ....หลานคนนี้เป็นสุดรักสุดดวงใจของท่านเลยครับ ผมรับรองได้เลยว่า ท่านจะต้องยกมรดกทั้งหมดให้คุณณิชาแน่ๆ”
ณิชมนนึกถึงคำพูดของลุงแสวงก็ยิ่งปวดใจ
“ก็ท่านมีหลานอยู่คนเดียวนี่ครับ…” คำพูดของลุงแสวงดังก้องในความคิด
ณิชมนหันกลับไปมองบ้านสุธาสินอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณย่า ณิชจะไม่มาทวงสิทธิ์ของณิชแน่ ณิชจะไม่กลับมาที่นี่อีก !”
ณิชมนเดินออกจากบ้านด้วยความเจ็บปวดใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชกับณิชาภัทรเดินออกมาจากทางสวนหลังบ้านสุธาสิน
“คุณย่านี่ปากแข็งจริงๆ เลยนะคะ คุณย่าไปหาคุณป้าดาวเรืองอยู่บ่อยๆ ก็เพราะไปถามข่าวเรื่องอาณัชานี่แหละ ท่านคิดถึงอาณัชชาจะตาย ยิ่งรู้ว่าอาณัชชามีลูกสาว ท่านยิ่งร้อนใจอยากเจอหน้าหลาน แต่ก็ยังทำเป็นฟอร์มว่าไม่สนใจ”
“ก็คุณหญิงย่าเคยประกาศตัดขาดคุณอาณัชชาไปแล้ว ท่านก็คงอาจจะกระดากใจที่ต้องมาคืนคำในตอนนี้ คุณก็อย่าไปเซ้าซี้ท่านเรื่องคุณอาณัชชาให้มากนักจะยิ่งทำให้ท่านทำตัวไม่ถูก”
“ก็ได้ค่ะ ณิชาจะพยายามไม่พูดเรื่องอาณัชชากับคุณย่าอีก เดี๋ยวท่านเกิดทิฐิขึ้นมา สั่งห้ามไม่ให้ณิชาตามหาน้องณิชมนล่ะก็แย่เลย แล้วนี่ธัชจะฝากใครมาทำงานที่นี่ คนงานที่ไร่เหรอคะ”
“ไม่ใช่คนงานที่ไร่”
บุรธัชมองหาณิชมนในขณะที่คนรับใช้ถือแก้วน้ำเดินเข้ามาพอดี
“แดง ผู้หญิงที่มากับฉันหายไปไหนแล้วล่ะ”
“เมื่อกี้นี้ยังรออยู่ตรงนี้นี่คะ” คนรับใช้ตอบ
“เค้าไม่อยู่แล้ว ฉันสั่งแล้วใช่มั้ยว่า ให้เฝ้าเอาไว้อย่าให้หนีไปไหน”
“ก็น้องเค้าบ่นว่าหิวน้ำ แดงก็เลยไปเอาน้ำมาให้ แดงไปแค่แป๊บเดียว...แป๊บเดียวจริงๆนะคะ”
“ธัชพาใครมาฝากงานคะ นี่อย่าบอกนะว่า..เป็นแม่บ้านประนอม” ณิชาภัทรกล่าวสวนขึ้นมา
ณิชาภัทรมองบุรธัชที่ไม่ปฏิเสธ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินมาตามถนนหน้าบ้านสุธาสินอย่างเหนื่อยอ่อน เธอรู้สึกสะเทือนใจที่ได้ยินคำพูดของนวลแข เธอหมดแรงจนหงุดหงิดนึกไปถึงตัวต้นเหตุ
“เพราะอีตาคุณชายแวมไพร์คนเดียวทำให้เราต้องมาเดินขาลากอย่างนี้ ยุ่งกับเราซะจริง !”
ณิชมนปาดเหงื่อหันไปมองถนนที่ว่างเปล่าแล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออย่างกลุ้มใจ
“เราจะกลับถึงบ้านเมื่อไหร่เนี่ย”
ณิชมนหยุดเดิน แล้วประสานมือหลับตาสวดอ้อนวอน
“ลูกเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอคนใจดีขับรถผ่านมาซักคันเถอะ”
รถแล่นมาจอดเทียบข้างณิชมน เธอลืมตาหันไปมองอย่างดีใจ เมื่อเห็นว่าไม่ใช่รถของบุรธัชจึงถลาไปหาทันที
กระจกค่อยๆลดลง เป็นรวิภาสที่อยู่ในรถ
“จะไปไหนเหรอครับ ให้ผมไปส่งมั้ย?”
ณิชมนมองรวิภาสอย่างไม่วางใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสุธาสิน นวลแขมองบุรธัชกับณิชาภัทรที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ผมต้องขอโทษคุณหญิงย่าด้วยนะครับ ผมตามตัวประนอมเจอเมื่อไหร่ จะพามากราบขอโทษที่ทำเสียมารยาทอย่างนี้ “
“ไม่เป็นไรหรอก คุณชาย เด็กเค้าอาจไม่อยากทำงานที่นี่ก็ได้” นวลแขไม่ติดใจ
“เจ้าตัวเป็นคนบอกผมเองว่า อยากมาทำงานที่บ้านคุณหญิงย่า ผมก็อุตส่าห์พามาฝากงานด้วยตัวเอง อยู่ๆก็หนีไปซะเฉยๆ ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ“
“ธัชพามาหรือว่าลากประนอมมาล่ะคะ ประนอมถึงได้เผ่นหนีออกไปอย่างนี้ นี่คงจะไปบังคับเค้ามาล่ะซิ ใช่มั้ยล่ะคะ” ณิชาภัทรพูดดัก
“ผมไม่ได้บังคับ ผมอาสาพาเค้ามาที่นี่ เค้าบอกเองว่า เค้าอึดอัดใจที่ต้องทำงานที่บ้านสรณาลัย ผมก็เลยช่วยหางานใหม่ให้ นี่คงจะโกหกอีกตามเคย ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรเชื่อไม่ได้จริงๆ”
“ประนอมอาจจะไม่ได้โกหกก็ได้ คนเราบางทีก็พูดอะไรไปโดยไม่ได้ตั้งใจเค้าอาจจะแค่บ่นไปอย่างนั้น ธัชเองต่างหากที่จริงจังไปเอง”ณิชาภัทรกล่าว
“แม่ประนอมอะไรนี่เป็นคนของบ้านสรณาลัยหรอกเหรอ คุณชายทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ ถ้าหากแม่ประนอมอยากมาทำงานที่นี่ก็ให้เค้ามาเอง คุณชายอย่าได้ไปยุยงส่งเสริม ไม่งั้นเดี๋ยวก็ได้ผิดใจกับทางคุณพรรณอรอีกหรอก”
“ผมกับทางบ้านนั้นก็ไม่มีวันญาติดีกันอยู่แล้ว เค้าจะคิดยังไงกับผม ผมไม่สนใจหรอกครับ คุณหญิงย่า”
“ธัชไม่สนใจว่าคนบ้านสรณาลัยจะคิดยังไง แต่สนใจแม่บ้านของเค้าเหลือเกินนะคะ นอกจากอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ธัชยังต้องการอะไรมากกว่านั้นอีกหรือเปล่าคะ”
บุรธัชอึ้งไปเพราะไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยุ่งกับประนอมนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถรวิภาสแล่นมาจอดหน้าร้านกาแฟติดกับร้านขายของที่ระลึกและขายผลิตผลของโครงการเทพสุธา
ณิชมนอยู่ในรถมองรวิภาสอย่างไม่วางใจ
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม ไหนบอกว่าจะไปส่งฉันที่บ้านสรณาลัยไงล่ะคะ”
“ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ขอแวะกินอะไรรองท้องก่อนนะครับ”
รวิภาสลงจากรถไป ณิชมนรีบลงตาม
“คุณภาสคะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้วดีกว่านะคะ แถวนี้น่าจะพอหารถได้ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ให้ฉันติดรถมาด้วย”
“ก็ได้ครับ คุณคงต้องรีบกลับไปทำงานต่อ แม่บ้านที่ส่งตรงจากซิดนีย์อย่างคุณ เงินเดือนคงแพงน่าดู นายจ้างก็ต้องใช้งานให้คุ้มกับเงินเดือน”
“คุณภาส...คุณ..คุณได้ข้อมูลมาผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันมาจากขอนแก่นไม่ได้มาจากซิดนีย์”
“เราเคยเจอกันที่สนามบิน”
ณิชมนอ้าปากจะค้าน
“ผมจำคนไม่ผิดหรอก ผมเป็นคนความจำดีมาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับหนังสือหนาเป็นร้อยๆหน้า ผมอ่านหนเดียวก็จำได้แล้ว มีคนเคยบอกว่าผมใช้วิธีจำด้วยภาพ อย่างที่เค้าเรียกว่า โฟโต..โฟโต..”
“อ๋อ Photographic memory” ณิชมนเผลอตอบ
ณิชมนปิดปากตัวเองอย่างตกใจ
“สำเนียงภาษาอังกฤษเป๊ะมาก อยู่ลอนดอนมากี่ปีแล้วเหรอครับ”
รวิภาสมองณิชมนอย่างขำๆ ณิชมนโมโหตัวเองไม่น่าเผลอไปเลยจริงๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนนั่งหน้าเซ็งอยู่กับรวิภาสในร้านกาแฟ บริกรเอาแซนวิชกับกาแฟมาเสิร์ฟให้รวิภาสแล้วเดินออก
รวิภาสกินแซนวิชอย่างเอร็ดอร่อย
“แน่ใจนะครับว่า จะไม่ทานอะไร แซนวิชที่นี่อร่อยมากเลยนะครับเค้กก็มีนะครับ มีทั้งเค้กแครอท เค้กสตอร์เบอรี่ ส่วนใหญ่ก็ใช้ผลิตผลจากไร่ของเรา รับรองว่าสดสะอาดปลอดภัยไร้สารพิษ”
“คุณอยากถามอะไรฉัน ก็ถามมาเลยค่ะ”
“แล้วคุณจะตอบความจริงหรือเปล่าล่ะครับ”
“ฉันจะตอบเท่าที่ตอบได้ก็แล้วกัน “
“คุณเป็นใคร” รวิภาสถาม
“ฉันชื่อณิชมน ฉันเกิดที่เมืองไทย พออายุได้สิบสองปี พ่อแม่ก็พาฉันไปอยู่ที่ซิดนีย์ พอพ่อแม่ฉันเสีย ฉันก็เลยตัดสินใจย้ายกลับมาที่นี่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ที่ฉันเข้าไปทำงานที่บ้านสรณาลัยเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ พี่ดำเกิงเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นประนอม บุญเสริม ตอนนั้นฉันไม่มีเงินไม่มีที่พัก ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็เลยต้องเลยตามเลย”
“คุณไม่มีญาติพี่น้องที่นี่เลยเหรอครับ”
ณิชมนอึ้งไป
“ไม่มีค่ะ ฉันสาบานได้เลยว่า ฉันไม่ได้เป็นพวกนักต้มตุ๋นอย่างที่พี่ชายคุณกล่าวหา แล้วก็ไม่ได้คิดร้ายกับครอบครัวคุณนมล ฉันแค่อยากทำงานเก็บเงินพอค่าตั๋วเครื่องบิน แล้วฉันก็จะกลับซิดนีย์”
“ทำไมล่ะครับ”
“ฉันเหมือนคนหลงทางที่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นแหละค่ะ ฉันควรกลับไปที่ที่ของฉันดีกว่า ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นความจริง คุณจะตัดสินใจทำยังไงต่อไปก็แล้วแต่คุณ ฉันทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ฉันก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา”
รวิภาสมองณิชมนนิ่งคิดพิจารณา รวิภาสหยิบเงินจากกระเป๋ามาวางบนโต๊ะ
“ไปครับ ผมไปส่งคุณที่บ้านสรณาลัยเอง”
รวิภาสลุกขึ้นยืน ณิชมนลุกขึ้นตามอย่างรีรอ ยังไม่แน่ใจว่ารวิภาสตัดสินใจยังไง
“คุณเป็นประนอม บุญเสริมต่อไปเถอะครับ ผมเชื่อว่าคุณไม่คิดร้ายกับใคร แค่นี้ผมก็โอเคแล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครแน่โดยเฉพาะกับพี่ธัช”
ณิชมนมองรวิภาสอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของบ้านสุธาสิน บุรธัชเดินดุ่มๆ ออกมาที่รถ ณิชาภัทรเดินตามมา
“ธัชโกรธณิชาเหรอคะ ณิชาพูดผิดตรงไหน ก็ธัชสนใจแม่บ้านประนอมมากเกินไปจริงๆ “
“ผมสงสัยว่าประนอมเป็นใครเท่านั้น ไม่ได้สนใจอย่างที่คุณว่า แล้วก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าอยากรู้ความจริงเท่านั้น”
“แล้วธัชอยากรู้ความจริงไปทำไมคะ ปกติธัชไม่เคยสนใจเรื่องคนอื่น อย่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่แฟนตัวเอง ธัชยังไม่ค่อยใส่ใจเลย ณิชาก็ต้องสงสัยบ้างซิ ที่ธัชอยากให้ประนอมมาทำงานที่นี่อาจจะมีเหตุผลอื่น”
“เหตุผลอะไร”
“ถ้าประนอมทำงานที่นี่ ธัชก็จะได้เจอประนอมได้ง่ายขึ้นไงคะ ไม่ต้องคิดหาเรื่องไปเจอประนอมที่โน่นที่นี่ ถ้าคิดจะจีบประนอมจริงๆล่ะก็ ธัชก็เลิกตั้งตัวเป็นศัตรูกับบ้านสรณาลัยซะ จะได้เข้าออกบ้านนั้นได้อย่างสบายๆไม่ต้องทำอะไรหลบๆซ่อนๆ อย่างนี้”
“คุณบ้าไปใหญ่แล้ว ณิชา ผมไม่บ้าไปไล่จีบผู้หญิงที่ไม่รู้จักหรอก แล้วยิ่งผู้หญิงที่โกหกปลิ้นปล้อนอย่างนี้ ยิ่งไม่มีทาง ยิ่งนับวันผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งทำตัวน่าสงสัย แล้ววันนี้ก็หนีไปดื้อๆอย่างนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่”
“โอเคๆ ค่ะ ณิชาจะพยายามเชื่อว่า ธัชแค่อยากรู้ความจริงเท่านั้น ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น ถ้ารู้ความจริงเมื่อไหร่ ธัชก็ต้องรีบถอยห่างจากประนอมทันทีนะคะ ณิชาไม่ชอบให้ธัชอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆ ณิชาหึงค่ะ”
ณิชาภัทรเดินหนีไป บุรธัชไม่คิดจริงจังกับคำพูดของเธอเท่าไหร่นัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ภายในบ้านสรณาลัย พรพรรณกำลังมองกันยากับสายใจแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ประนอมหนีงานออกไปเที่ยวกับผู้ชาย? ดีแตกซะแล้วเหรอเนี่ย” พรพรรณยังไม่ปักใจเชื่อ
พิมพ์นฤมลที่นั่งฟังอยู่ด้วยรีบแย้งทันที
“อาจจะเป็นญาติก็ได้นะคะ น้าพร “
“ถ้าเป็นญาติ ทำไมพี่นอมต้องทำหลบๆซ่อนๆด้วยล่ะคะ” กันยาบอก
“ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นแฟนพี่นอมแน่ๆ เลยล่ะค่ะ” สายใจเสริม
“หนูก็ไม่อยากเป็นคนขี้ฟ้องหรอกนะคะ หนูแค่อยากให้คุณพรพรรณรับทราบไว้เท่านั้น ถ้าหากว่าเกิดมีอะไรขาดตกบกพร่องขึ้นมา ก็เป็นเพราะพี่นอมไม่อยู่ควบคุมงานในบ้าน ไม่ใช่ความผิดของหนูสองคน”
“คุณพรพรรณต้องตัดเงินเดือนพี่นอมค่ะ ทีหลังจะได้ไม่กล้าทำอย่างนี้อีก”
“แล้วก็ลดตำแหน่งด้วยนะคะ หนูพร้อมที่จะทำหน้าที่แม่บ้านแทนพี่นอมได้ทุกเมื่อทุกเวลา” กันยากล่าว
ชัยวัฒน์เข้ามาเสริมอย่างได้จังหวะ
“ตัดเงินเดือนหรือลดตำแหน่งไม่พอหรอกครับ ทำผิดร้ายแรงขนาดนี้ต้องไล่ออกสถานเดียว”
“แค่ออกไปทำธุระข้างนอก ไม่ได้เรียกว่าทำผิดร้ายแรงหรอกค่ะ” พิมพ์นฤมลแย้ง “ น้าพรคะอย่าเพิ่งตัดสินอะไรนะคะ ควรจะให้โอกาสพี่นอมได้อธิบายก่อน”
“ได้ น้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า ประนอมไปไหนไปกับใครไปทำไม ถ้าไม่มีข้อแก้ตัวดีๆล่ะก็ ก็เตรียมตัวตกงานได้เลย!”
พิมพ์นฤมลมองพรพรรณอย่างไม่สบายใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสขับรถมาจอดที่หน้าบ้านสรณาลัย ณิชมนรีบลงจากรถ รวิภาสลงตาม
“คุณภาสส่งฉันตรงนี้ก็พอค่ะ “
“ผมไม่เดินเข้าไปส่งคุณให้คนในบ้านสงสัยหรอก ผมมีข้อสงสัยอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไรคะ”
“ตอนนี้ประนอมตัวจริงอยู่ที่ไหน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่เห็นประนอมจะติดต่อมาที่บ้านสรณาลัยเลยค่ะ นี่คุณคงไม่คิดว่า ฉันจะทำอะไรประนอมตัวจริง แล้วสวมรอยมาทำงานแทนหรอกนะคะ”
รวิภาสหัวเราะ
“นั่นมันนิยายของอาพรรณอรแล้วล่ะครับ เห็นผมเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปได้”
“ถ้าเป็นคุณชายธัชล่ะก็ เค้าต้องคิดอย่างนั้นแน่ๆ แล้วนี่คุณจะไม่บอกพี่ชายคุณจริงๆ ใช่มั้ยคะ อย่าได้เผลอบอกอะไรไปแม้แต่นิดเดียวเลยนะคะ ไม่งั้นเค้าจับฉันส่งตำรวจแน่ๆ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถึงผมบอกความจริงไป พี่ธัชก็ไม่เชื่ออยู่ดี ในสายตาของพี่ธัช ผมไม่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวลเรื่องพี่ธัช ห่วงตัวคุณเองดีกว่า ประนอมตัวจริงอาจเปลี่ยนใจกลับมาทำงานที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะครับ โชคดีนะครับ”
รวิภาสขึ้นรถแล้วขับออกไป ณิชมนยืนมองรถรวิภาสแล่นออกไป
กันยากับสายใจโผล่หน้ามาจากที่ซ่อน
“ยัยแม่บ้านนี่ร้ายจริงๆ วันเดียวควงผู้ชายสองคน ไปกับคนนึง แต่กลับมากับอีกคน สงสัยจะเหวี่ยงแหหว่านเสน่ห์ไปทั่ว“
“นั่นมันคุณภาส น้องชายคุณชายธัชไม่ใช่เหรอ” สายใจถาม
“เออ จริงด้วย ไปยังไงมายังไง ถึงกลับมาด้วยกันได้”
ณิชมนเดินกลับเข้าบ้าน กันยากับสายใจรีบหลบ
ณิชมนเดินเข้าบ้านอย่างสบายใจขึ้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลรีบร้อนมาเคาะประตูห้องทำงานพรรณอร
“คุณแม่ขา คุณแม่ เปิดประตูหน่อยค่ะ“
พิมพ์นฤมลยืนรอไม่มีเสียงตอบรับจากพรรณอร
“นมลรู้ว่า คุณแม่ทำงานอยู่ แต่นมลมีเรื่องด่วนจริงๆ ขอเข้าไปหน่อยนะคะ”
พิมพ์นฤมลจะเปิดประตูเข้าไปแต่ประตูล็อค พันธ์นฤสรร์เดินเข้ามาสะกิด
“อย่าเพิ่งมายุ่งตอนนี้ พันสร พี่มีเรื่องสำคัญต้องให้คุณแม่ช่วย”
พันธ์นฤสรร์ยื่นกุญแจห้องให้ดู
“ไม่ยุ่งก็ได้ นึกว่าอยากจะให้ช่วย”
“พันสร อย่าเพิ่งไป !”
พันธ์นฤสรร์ตั้งท่าจะเดินไป พิมพ์นฤมลรีบดึงตัวพันธ์นฤสรร์ไว้และรับกุญแจไปไขประตู
“ขอบใจนะ เธอนี่หัวไวจริงๆ”
พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์เข้าไปในห้องทำงานที่มีเสียงเพลงคลาสสิคดังลั่นห้อง พันธ์นฤสรร์เดินไปปิดเครื่องเสียง
พรรณอรนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟา บนตักของเธอมีหนังสือเต็มไปหมด
“คุณแม่ คุณแม่ตื่นเถอะค่ะ คุณแม่ต้องไปช่วยพี่นอมนะคะ อย่าให้น้าพรไล่พี่นอมออกนะคะ มีคุณแม่คนเดียวที่ช่วยพี่นอมได้ คุณแม่คะ คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรคะ”
พิมพ์นฤมลเขย่าตัวพรรณอรที่นอนหลับเป็นตาย
พันธ์นฤสรร์หยิบขวดยาบนโต๊ะข้างโซฟาส่งให้พิมพ์นฤมลดู
“นี่ยาอะไร” พันธ์นฤสรร์ถาม
“ยาแก้แพ้อากาศ มิน่าคุณแม่ถึงหลับไม่รู้เรื่อง”
พันธ์นฤสรร์ส่งยาให้ดูอีกขวด
“ยาคลายเครียด ! อย่างนี้คุณแม่ไม่หลับไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยเหรอทำไงดี พันสร”
พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์มองหน้ากัน จากนั้นจึงช่วยกันเขย่าตัวพรรณอรให้ตื่น
“คุณแม่ขา !”
“คุณแม่ครับ !”
“ตื่นได้แล้ว” พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์ตะโกนพร้อมกัน
“นมล...พันสร....”
พรรณอรลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็นแล้วก็ผล็อยหลับต่อ
“คุณแม่ ! อย่าหลับค่ะๆ”
“คุณแม่ๆ คณแม่ครับ ตื่นครับ”
พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์ช่วยกันเขย่าตัวพรรณอรให้ตื่นแต่พรรณอรยังคงหลับไม่รู้เรื่อง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินเข้ามาในบ้านสรณาลัยจะจัดเก็บขยะรีไซเคิลต่อ กันยากับสายใจตรงเข้ามาประกบตัวณิชมนซ้ายขวา
“มีอะไรเหรอคะ”
ชัยวัฒน์เดินเข้ามาพร้อมกับพูด
“ยังมีหน้ามาถามอีก ทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ”
“ฉันทำอะไรคะ”
“พี่นอมไปไหนมาล่ะ” กันยาถาม
“ไปกับใคร” สายใจถามต่อ
“ไม่ต้องถามมากหรอก ก็เห็นๆอยู่ ว่าแอบลักลอบออกไปพบผู้ชาย รีบพาตัวไปให้คุณพรพรรณลงโทษได้แล้ว ดวงคนเราก็อย่างนี้แหละ คุณแม่บ้าน ขึ้นเร็วก็ตกเร็ว !” ชัยวัฒน์พูดเยาะเย้ย
ณิชมนตกใจไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องขนาดนี้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเข้ามาในบ้าน พรพรรณมองเธออย่างไม่พอใจ
“ว่ายังไงล่ะ ประนอม เธอหายไปไหนมา”
“คือว่า..นอม..นอมไป..” ณิชมนตอบอย่างอึกอัก
ชัยวัฒน์ กันยาและสายใจรอลุ้นอยู่
“เธอมีความจำเป็นอะไรถึงต้องทิ้งงานไป ถ้าเธอบอกเหตุผลไม่ได้ ฉันคงจะให้เธอทำงานที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว”
ชัยวัฒน์ กันยาและสายใจแอบยิ้มดีใจ
“เพราะนี่ไม่ใช่ความผิดครั้งแรก คราวที่แล้วเธอก็ออกไปข้างนอกโดยไม่ขออนุญาตก่อน คราวนี้หนีงานไปกับผู้ชาย ต่อไปเธอไม่พาผู้ชายเข้ามามั่วสุมในบ้านเลยเหรอ ฉันรับไม่ได้จริงๆ ฉันน่าจะให้เธอออก ตั้งแต่รู้จากอาจารย์ดาวเรืองว่าเธอมีประวัติไม่ดีเรื่องผู้ชายแล้ว คนเรานี่เปลี่ยนกันไม่ได้จริงๆ”
“คุณพรพรรณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ นอม..นอมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะคะ นอมมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องออกไปกับ..ไปกับ..”
“ออกไปกับใครล่ะ ถ้าเธอไม่บอก ฉันไล่เธอออกแน่”
พิมพ์นฤมลประคองพรรณอรที่สะลึมสะลือเดินเข้ามา พันธ์นฤสรร์ประคองกาแฟถ้วยโตเดินตามมาไม่ห่าง
“ยัยพร เธอไล่ประนอมออกไม่ได้นะ” พรรณอรพูด
“ประนอมทำผิด ทำไมพรจะไล่ประนอมออกไม่ได้ล่ะคะ”
“ยังไงก็ไล่ประนอมออกไม่ได้ เพราะว่า..”
พรรณอรยังคงง่วงจัด พิมพ์นฤมลส่งผ้าเย็นให้เช็ดหน้าเช็ดตา พันธ์นฤสรร์ยื่นถ้วยกาแฟให้
พรรณอรจิบกาแฟแต่ก็ยังไม่ตื่นดีทำให้คิดอะไรไม่ออก
“เพราะว่า..เพราะว่าอะไรนะ นมล” พรรณอรถาม
“เพราะว่าคุณแม่เชื่อว่าพี่นอมมีเหตุผลที่ต้องทิ้งงานไปข้างนอก พี่นอมพูดความจริงเถอะค่ะ เราทุกคนพร้อมที่จะเข้าใจพี่นอม”
“นอมบอกความจริงก็ได้ค่ะ นอมออกไปกับคุณชายบุรธัชค่ะ”
ทุกคนมองณิชมนอย่างคาดไม่ถึง พรรณอรแปลกใจจนหายง่วงโดยทันที
ณิชมนนิ่งคิดหาเหตุผลที่จะทำให้ไม่ถูกไล่ออก
อ่านต่อหน้าที่ 2
ตอนที่ 6 (ต่อ)
ที่ร้านกาแฟของโครงการเทพสุธา รวิภาสขนถุงเมล็ดกาแฟเข้ามาจากหลังร้านเตรียมจะบด บุรธัชเดินเข้ามาหยุดมอง
“งานที่ไร่เสร็จแล้วเหรอ ถึงได้มาทำงานที่นี่ ไม่รู้หรือยังไงว่า งานแปลงเกษตรทดลองต้องคอยติดตามผลทุกวัน นี่ถ้าพลาดอะไรไป ที่เราลงแรงทำกันมาก็เหนื่อยเปล่า”
“งานแปลงทดลองไม่ถึงกับต้องติดตามผลทุกวันหรอกครับ ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์กว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ผมว่าปุ๋ยตัวใหม่ของพี่ธัชได้ผลดีกว่าปุ๋ยไนโตรเจนสูตรสามสิบห้า...”
รวิภาสลืมตัวคุยเรื่องงานอย่างจริงจังแล้วรีบเปลี่ยนท่าทีเพราะไม่อยากให้บุรธัชได้ใจ
“อย่างนี้ถือว่าได้ผลตามที่ต้องการแล้ว ผมหมดหน้าที่ไม่ต้องไปทำงานที่แปลงทดลองแล้วใช่มั้ยครับ”
“แกเข้าใจคำว่าแปลงทดลองมั้ย ไม่ใช่ทดลองครั้งเดียวแล้วเลิก มันต้องทดลองหลายๆครั้ง แกต้องทำงานที่ไร่จนกว่าฉันจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”
“ผมอยากช่วยงานที่นี่มากกว่า ที่ไร่งานหนักจะตาย เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน ทำงานที่นี่มีแอร์เย็นสบาย แถมได้บริการลูกค้าสาวๆ ด้วย เมื่อเช้าแม่บ้านประนอมของพี่ธัชยังแวะมากินกาแฟที่นี่เลย”
“ประนอมมาที่นี่เหรอ แล้วเค้าพูดอะไรกับแกหรือเปล่า”
“เค้าบอกว่าร้านเราน่ารักดี ถ้ามีเวลาจะแวะมาอีก”
“แค่นั้นเหรอ”
“แล้วพี่ธัชคิดว่าเค้าจะพูดอะไรกับผมหรือครับ ผมรู้นะว่า พี่ธัชให้ลุงอาจตามสืบเรื่องประนอมอยู่ ให้ผมช่วยสืบให้มั้ยล่ะ รับรองผมต้องได้ข้อมูลที่แม่นยำถูกต้องกว่าลุงอาจแน่”
“ไม่ต้อง แกเอาเรื่องเรียนให้รอดก่อนเถอะ ก่อนที่จะมายุ่งเรื่องของคนอื่นแล้วแกก็อยู่ห่างๆประนอมไว้ด้วย ผู้หญิงคนนี้ไว้ใจไม่ได้ !” บุรธัชเสียงแข็ง
รวิภาสมองบุรธัช เขาคิดอยู่แล้วว่าบุรธัชไม่เคยเชื่อใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ชัยวัฒน์ กันยาและสายใจเดินกลับเข้ามาในครัวบ้านสรณาลัย รำไพที่กำลังคนซุปบนเตารีบปิดเตาแก๊สแล้วหันมาร่วมวงทันที
“ว่าไงๆ” รำไพทัก “คุณพรพรรณไล่แม่ประนอมออกไปแล้วใช่มั้ย”
“ยังไม่รู้เลยป้า คุณพรพรรณไล่พวกเราออกมาจากห้องซะก่อน”
“แต่ฉันคิดว่า ยัยนอมต้องถูกไล่ออกชัวร์ หนีงานไปมั่วกับผู้ชายอย่างนี้คุณพรพรรณไม่เอาไว้แน่”
“แต่ยัยนอมไปกับคุณชายธัชนะ คนอย่างคุณชายเหรอจะไปกิ๊กกับแม่บ้าน ตำแหน่งแม่บ้านมันก็หัวหน้าคนใช้ดีๆ นี่เอง” กันยาพูด
“ยายประนอมไปกับคุณชายธัช? เป็นไปได้ยังไง “ รำไพถามอย่างข้องใจ
“คนอย่างประนอมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ป้ารำไพ ดูก็รู้แล้วว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ท่าทางจะทะเยอทะยานไม่น้อย นี่คงจะหวังสูงจนคิดไปจับคุณชายธัช คุณพรพรรณรู้อย่างนี้แล้ว ไม่ไล่ออกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”
ชัยวัฒน์ยังลุ้นให้ณิชมนโดนไล่ออก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในบ้านสรณาลัย พรรณอรกับพรพรรณมองณิชมนอย่างนิ่งคิดพิจารณา
“ไหนเธอลองอธิบายใหม่อีกครั้งซิว่า เธอไปกับคุณชายธัชทำไม”พรพรรณซัก
“โธ่ ยัยพร ประนอมก็อธิบายอย่างชัดเจนแล้วว่า คุณชายธัชพาประนอมไปสมัครงานที่บ้านคุณหญิงนวลแขเพราะเข้าใจผิดคิดว่าประนอมอยากเปลี่ยนงาน ไม่เห็นจะต้องอธิบายอะไรอีกเลย” พรรณอรอธิบายซ้ำ
“อธิบายแค่นี้ยังไม่พอหรอกค่ะ พี่อร เธอต้องอธิบายให้ฉันเข้าใจมากกว่านี้ ทำไมเธอต้องไปกับคุณชายธัชด้วย แล้วไปสนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณชายธัชถึงได้คิดหางานใหม่ให้เธอ”
พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์ นั่งร่วมฟังอยู่ด้วย
“พี่นอมบอกความจริงมาเถอะค่ะ ไม่ต้องกลัวว่า เราจะมองคุณชายธัชในทางไม่ดี เราเข้าใจค่ะว่า คุณชายคิดกับบ้านเรายังไง”
“คุณชายไม่ได้หางานใหม่ให้นอมเพราะหวังดีหรอกนะคะ แต่เค้ายังเข้าใจผิดคิดว่านอมเป็นสายของบ้านสรณาลัยที่คิดไปบ่อนทำลายเค้า เค้าก็เลย..เออ.กึ่งๆบังคับให้นอมแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยไปทำงานที่บ้านคุณหญิงนวลแขซะ ถ้านอมไม่ไปด้วย คุณชายก็จะเข้ามาในบ้าน นอมไม่อยากให้ทุกคนวุ่นวายเพราะนอม นอมก็เลยตัดสินใจไปกับคุณชายค่ะ” ณิชมนไหลไปเรื่อย
“คราวนี้ประนอมอธิบายได้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ เคลียร์ตัวเองได้แล้ว เป็นอันว่าประนอมพ้นข้อกล่าวหาทุกข้อ เอ้า หมดเรื่องแล้ว ไปกินข้าวกันดีกว่า”พรรณอรตัดบท
“ยังค่ะ เรายังไม่หมดเรื่องกันง่ายๆ หรอกนะ ประนอม” พรพรรณไม่ยอมแพ้
“ตกลงจะไล่หรือไม่ไล่เนี่ย!” พันธ์นฤสรร์เริ่มหงุดหงิด
ณิชมนมองพรพรรณเขม็งอย่างรอฟังคำตอบ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งภายในครัวบ้านสรณาลัย ชัยวัฒน์นั่งดื่มกาแฟ กันยากับสายใจเตรียมจัดโต๊ะอาหารกลางวัน รำไพตักผัดผักใส่จาน ทุกคนทำงานอยู่แต่ก็กระวนกระวายอยากรู้ข่าวประนอม
พันธ์นฤสรร์เดินเข้ามา
“หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย ขอน้ำเย็นๆนะ ไม่เย็นไม่เอา”
“คุณพันสรครับ ตกลงประนอมถูกไล่ออกหรือเปล่าครับ”
กันยาส่งแก้วน้ำให้พันสร พันธ์นฤสรร์ดื่มน้ำยังตั้งท่าไม่ตอบ
“ไม่เห็นเย็นเลย”
สายใจรีบตักน้ำแข็งให้เพิ่มอีก
“นี่ค่ะๆ คราวนี้เย็นเจี๊ยบจับใจเลย”
“นี่ค่ะ ไอติมชอกโกแล็ตที่คุณพันสรชอบ”
กันยายกไอศกรีมถ้วยใหญ่วางไว้ให้
“น้าพรไม่ให้กินไอติมก่อนกินข้าว”
“เราไม่บอกใครหรอกค่ะ ถ้าไม่พอเดี๋ยวป้าตักให้อีก”
พันสรตักไอศกรีมกินอย่างมีความสุขที่มีคนรุมล้อมให้ความสนใจ
“คราวนี้คุณพันสรบอกได้หรือยังครับว่า คุณพรพรรณไล่ประนอมออกหรือเปล่า ประนอมถูกไล่ออกไปแล้วใช่มั้ยครับ”
พันธ์นฤสรร์พยักหน้ารับเพราะถูกใจกับการได้กินไอศกรีม
“ทำงานไม่ถึงเดือนอย่างนี้ ไม่ได้เงินชดเชยแน่ๆ”
“ไม่ต้องพูดถึงเงินชดเชยหรอกย่ะ เงินเดือนซักบาท คุณพรพรรณก็ไม่ให้หรอก คุณเธอเกลียดพวกผู้หญิงทำตัวฉาวโฉ่ที่สุด”
“ตกลงว่า ยัยคุณแม่บ้านถูกไล่ออกจริงๆหรือคะ คุณพันสร” สายใจถาม
“เปล่า น้าพรไม่ได้ไล่ประนอมซักหน่อย พูดเองเออเองไปได้”
พันธ์นฤสรร์คว้าถ้วยไอศกรีมวิ่งออกไป
“อ้าว !!” ทุกคนพูดพร้อมกัน
ชัยวัฒน์และทุกคนในครัวคอตกด้วยความผิดหวัง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของบ้านสรณาลัย พรรณอรกับนมลมองณิชมนอย่างดีใจด้วย แต่พรพรรณยังคงมองหน้าณิชมนอย่างเอาเรื่องอยู่
“ที่ฉันไม่ไล่เธอออกก็ไม่ได้หมายความว่า เธอพ้นผิดนะ เธอยังมีความผิดอยู่ฐานที่ออกไปกับคุณชายธัชโดยไม่ได้รับอนุญาต”พรพรรณขู่
“เธอก็เห็นใจประนอมหน่อยซิ ตอนนั้นมันเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจเฉพาะหน้า ถ้าหากประนอมไม่ตัดสินใจออกไปกับคุณชายธัชเดี๋ยวนั้น รับรองเธอจะต้องบุกเข้ามาในบ้านเราแน่” พรรณอรแก้ต่าง
“พี่นอมทำไปก็เพื่อพวกเรานะคะ” พิมพ์นฤมลกล่าว “พี่นอมไม่อยากให้เราไม่สบายใจก็เลยออกไปรับหน้ากับคุณชายธัชซะเอง”
“แล้วในเวลานั้น ประนอมจะไปขออนุญาตใครได้ เธอก็ออกไปทำงาน ฉันก็หลับเป็นตายอยู่ในห้องทำงาน เธออย่าเคร่งคัดกับกฎระเบียบนักเลย อะไรปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยผ่านไป”
“แต่เรื่องนี้พรคงปล่อยผ่านไปไม่ได้หรอกค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะพรไม่ลงโทษประนอมหรอกค่ะ แต่จะให้ประนอมทำงานชดใช้ความผิดที่ทำ”
“คุณพรพรรณจะให้นอมทำอะไร สั่งมาได้เลยค่ะ นอมจะทำงานอย่างเต็มที่..สุดความสามารถเลยค่ะ”
“ทางจังหวัดขอความร่วมมือมาให้เข้าร่วมโครงการร่วมใจพัฒนาปีนี้เป็นโครงการสร้างฝายชะลอน้ำ ฉันจะให้เธอเป็นคนประสานงานโครงการนี้”
พรพรรณยิ้มอย่างมีเลศนัยแอบแฝง
ณิชมนยิ้มรับ แต่ตาว่างเปล่าไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าต้องไปทำอะไร ไม่เข้าใจกระทั่งว่าฝายคืออะไร
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
หลังจากได้รับงานจากพรพรรณ ณิชมนนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เปิดหน้าเวปกูเกิ้ลค้นหาคำว่า “ฝาย” เธอจดจ้องอยู่กับการหาข้อมูล
“ฝอ-อา-ยอ ฝาย..สะกดอย่างนี้ใช่มั้ยนะ ฝายชะลอน้ำ เป็นอย่างนี้นี่เอง"
ณิชมนคลิกดูรูปฝายบนคอมพิวเตอร์ไปเรื่อยๆพลางพลิกดูแฟ้มเอกสารของโครงการ
พิมพ์นฤมลเดินเข้ามา ณิชมนสะดุ้งตกใจจะปิดคอมพิวเตอร์แต่ปิดไม่ทัน
“คุณนมล..นอมขอโทษนะคะ นอมไม่ได้ขออนุญาตก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่นอมคงร้อนใจเรื่องงานที่น้าพรมอบหมายให้ทำ ก็เลยรีบมาเสิร์ชหาข้อมูล ดูพี่นอมใช้คอมคล่องเหมือนกันนะเนี่ย”
“นอมเคยเรียนมาบ้างน่ะค่ะ แล้วก็เคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ก็เลยพอใช้อินเทอร์เน็ตเป็น”
“พี่นอมไม่เห็นต้องออกตัวเลยค่ะ สมัยนี้เด็กป.1 ก็ใช้อินเตอร์เน็ทเป็นแล้ว คุณแม่เคยสอนว่า อย่าตัดสินคนที่การศึกษา คนไม่ได้จบมหาวิทยาลัยทำงานเก่งกว่าคนจบด็อกเตอร์มีเยอะแยะไป นี่หรือคะโครงการของน้าพร”
พิมพ์นฤมลหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดอ่านดูแล้วต้องตกใจ
“ตายแล้ว !”
“มีอะไรหรือคะ คุณนมล”
“นมลจำโครงการนี้ได้แล้วล่ะค่ะ นึกว่ายกเลิกไปแล้วซะอีก โครงการนี้เป็นปัญหาคาราคาซังอยู่นะคะ พี่นอม เพราะการสร้างฝายชะลอน้ำครั้งนี้ต้องไปสร้างบนที่ดินของคุณชายบุรธัช”
“แล้วทำไมหรือคะ”
“ถามได้ ถ้าหากทางเราเป็นฝ่ายประสานของโครงการนี้ ไม่มีทางซะล่ะที่คุณชายธัชจะให้ความร่วมมือ นี่น้าพรตั้งใจหาทางไล่พี่นอมออกทางอ้อมหรือเปล่าคะเนี่ย”
ณิชมนเริ่มกังวลใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสรณาลัย พรรณอรมองพรพรรณอย่างไม่เห็นด้วย
“นี่มัน Mission Impossible ชัดๆ ไม่มีทางที่ประนอมจะทำงานนี้สำเร็จแน่ๆ คุณชายธัชไม่ให้คนบ้านเราไปเหยียบไร่ของเค้าด้วยซ้ำ แล้วเค้าจะยอมให้เราไปสร้างฝายบนที่ดินของเค้าได้ยังไง เธอคิดยังไงของเธอ”
“ก็พี่อรเคยบอกเองว่า ประนอมเป็นคนมีความสามารถเกินตัว พรก็เลยอยากทดสอบประนอมซักหน่อยว่า จะเก่งซักแค่ไหน ถ้าประนอมเกลี้ยกล่อมคุณชายธัชเข้าร่วมโครงการได้ พรจะเปลี่ยนกฎระเบียบในบ้านเสียใหม่ จะยอมให้ประนอมไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ”
“แล้วถ้าประนอมเกลี้ยกล่อมคุณชายธัชไม่สำเร็จล่ะ”
“ถ้าประนอมทำไม่สำเร็จ เราก็คงต้องหาแม่บ้านคนใหม่”
“เธอจะไล่ประนอมออกด้วยเหตุผลอะไร”
“ก็โทษฐานที่ไม่สามารถทำงานชดใช้ความผิดได้ยังไงล่ะคะ พรทำอย่างนี้หวังดีกับครอบครัวเรานะคะ ตอนนี้ประนอมเป็นจุดอ่อนของบ้านเราที่คุณชายธัชจ้องโจมตีอยู่ ถ้าหากประนอมไปจากที่นี่ซะ คุณชายธัชก็หาเรื่องอะไรเราไม่ได้อีก จะได้หมดปัญหาเรื่องประนอมซักที”
พรรณอรมองพรพรรณอย่างคัดค้าน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในร้านกาแฟของโครงการเทพสุธา รวิภาสเดินเก็บถ้วยกาแฟตามโต๊ะ พิมพ์นฤมลเดินตามตื๊อรวิภาส เนื่องจากเขารู้เรื่องโครงการฝายชะลอน้ำแล้ว
“พี่ภาสต้องช่วยพี่นอมด้วยนะคะ ถ้าหากพี่นอมพูดให้คุณชายธัชเข้าร่วมโครงการไม่สำเร็จ น้าพรต้องไล่พี่นอมออกแน่ๆ”
“ถ้าคุณอาพรพรรณไล่ประนอมออก ก็หาแม่บ้านคนใหม่ซิ”
“แต่ไม่มีใครที่จะเหมือนพี่นอมอีกแล้ว ถึงแม้นมลจะรู้จักพี่นอมไม่นานแต่นมลรู้สึกเหมือนพี่นอมเป็นพี่สาวนมล แล้วพี่นอมก็เป็นคนดีด้วยนมลไม่อยากให้พี่นอมต้องตกงานเพราะความอคติของน้าพร”
“แล้วฉันจะช่วยอะไรเธอได้”
“พี่ภาสก็ช่วยพูดกับคุณชายธัชให้หน่อยซิคะ ถ้าพี่ภาสพูด คุณชายธัชน่าจะเชื่อนะคะ หรืออย่างน้อยก็อาจจะยอมอ่อนข้อให้เราบ้าง”
“คนอย่างพี่ธัชไม่เชื่อใคร นอกจากเชื่อตัวเอง”
“ไม่มีทางที่จะช่วยพี่นอมเลยหรือคะ”
รวิภาสนิ่งทำเป็นคิดไปอย่างนั้น
“ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก วันนี้ฉันทำงานหัวหมุนตั้งแต่เช้า ไม่ได้พักเลยรอให้สมองโล่งๆ แล้วจะช่วยคิดหาทางให้ก็แล้วกัน”
“งั้นนมลทำงานแทนพี่ภาสเอง พี่ภาสไปนั่งพักเลยค่ะ”
พิมพ์นฤมลดันตัวรวิภาสให้ไปนั่ง
“นั่งพักให้สบายเลยนะคะ นั่งพักไปก็คิดไปนะคะ ว่าจะช่วยพี่นอมยังไง”
รวิภาสมองพิมพ์นฤมลที่กระตือรือร้นช่วยงานอย่างขำๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ไร่บุริศราวัณ บุรธัชกำลังเดินคุยกับหัวหน้าคนงานอยู่
“พรุ่งนี้ส่งคนงานไปช่วยที่เทพสุธาซักสามสี่คนนะ คุณณิชาอยากจะจัดแต่งสวนหน้าโครงการใหม่ แล้วอาทิตย์หน้าเราจะขยายพื้นที่ที่สวนพฤกษชาติ เตรียมพันธุ์ไม้ตามที่สั่งไปให้พร้อมด้วย”
“ครับ คุณชาย”
คนงานเดินออกไป บุรธัชเดินจะกลับเข้าออฟฟิศแต่ก็ต้องชะงักเพราะเห็นณิชมนยืนรออยู่ ณิชมนยืนเก้ๆกังๆเริ่มต้นไม่ถูกเลยยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ คุณชาย ฉันมีเรื่องสำคัญมาเรียนปรึกษาค่ะ”
“ไม่ว่าเธอจะมาปรึกษาเรื่องอะไร คำตอบก็คือ” “ไม่”
“คุณยังไม่รู้เลยว่า ฉันมาปรึกษาเรื่องอะไรก็ปฏิเสธซะแล้ว กรุณาฟังฉันก่อนได้มั้ยคะ คือทางจังหวัดให้ทางไร่สรณาลัยเป็นฝ่ายประสานโครงการร่วมใจพัฒนา”
“ไม่ !”
“แต่โครงการสร้างฝายชะลอน้ำไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ใครคนใดคนนึง แต่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม การสร้างฝายครั้งนี้จะช่วยเก็บกักชลอน้ำให้อยู่บนผิวดินนานขึ้น ช่วยป้องกันไฟป่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำรวมทั้งเป็นแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร”
“ท่องมากี่วันแล้วนี่”
“ฉันเชื่อในโครงการนี้จริงๆนะคะ โครงการนี้นอกจากจะให้ประโยชน์มหาศาลกับเกษตรกรแล้วก็ยังเป็นโครงการที่ทำให้เรารวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน…”
“แล้วจะสร้างเป็นฝายแบบไหน”
ณิชมนลืมท่องมา พลิกดูแฟ้มเอกสารแทบไม่ทัน
“เนื่องจากเรามีระยะเวลาอันสั้น เราจะทำฝายแบบกึ่งถาวรและฝายแบบผสมผสาน.”
“ฝายแบบนี้จะต้องมีคนไปตรวจเช็คสภาพทุกหกเดือน ฉันอยากรู้นักว่าหลังจบโครงการจะมีใครรับภาระนี้ต่อมั้ย สร้างฝายเสร็จก็ถ่ายรูปส่งข่าวประชาสัมพันธ์แล้วก็จบกันไป ไอ้โครงการสร้างภาพอย่างนี้ฉันไม่สนใจจะร่วมมือด้วยหรอก”
บุรธัชเดินหนีออกมา
“เดี๋ยวซิ คุณ..คุณชาย อย่าเพิ่งไป ฉันยังพูดไม่จบเลย ประโยชน์ของโครงการครั้งนี้ยังมีอีกเยอะ มีเป็นสิบๆหน้าเลย ฟังกันก่อนซิ”
ณิชมนเดินตามตื๊อบุรธัชต่อ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่ร้านกาแฟของโครงการเทพสุธา พิมพ์นฤมลล้างถ้วยกาแฟและจานขนมจนเสร็จแล้วหันมาจัดตู้ขนม รวิภาสนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออย่างสบายใจ
พิมพ์นฤมลเงยหน้ามองรวิภาส จ้องให้รู้ตัว รวิภาสเงยหน้ามองพิมพ์นฤมลทำไม่รู้ไม่ชี้ นมลวางมือจากงานตรงไปหารวิภาส
“พี่ภาสคิดออกหรือยังว่าจะช่วยพี่นอมยังไง”
“ยัง”
“ยังไม่ได้คิดหรือไม่ยอมช่วยคิด นี่พี่ภาสหลอกใช้งานนมลใช่มั้ย”
“เธอเสนอตัวทำงานแทนฉันเอง แล้วมาหาว่าฉันหลอกใช้ได้ยังไง”
“พี่ภาสไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย เป็นสุภาพบุรุษต้องช่วยผู้หญิงที่อ่อนแอกว่าซิ”
“ผู้หญิงยุคนี้ต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง ไม่ใช่รอแต่ให้ผู้ชายมาช่วย เธอเองก็เหมือนกัน หัดรู้จักยืนด้วยขาของตัวเองบ้าง เธอกลัวประนอมถูกไล่ออกเพราะกลัวไม่มีใครเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาใช่มั้ยล่ะ ที่เธอมาหาฉันให้ช่วยนี่ จริงๆแล้วให้ช่วยใคร ช่วยเธอหรือช่วยประนอม”
“ก็ต้องช่วยพี่นอมซิ นมลต้องการช่วยพี่นอม เพื่อนช่วยเพื่อน คนที่ไม่มีหัวใจ..เออ..ไม่มีน้ำใจอย่างพี่ภาส ไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“งั้นก็แสดงให้เห็นหน่อยว่า เธอยอมช่วยเพื่อนได้แค่ไหน”
พิมพ์นฤมลมองรวิภาสโดยไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไรอีก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชเดินตรวจแปลงทดลองการเกษตรและแปลงดอกไม้เมืองหนาวในไร่บุริศราวัณ โดยมีณิชมนเดินตามมาติดๆ
“คุณชายธัชคะ คุณอ่านรายละเอียดของโครงการก่อนนะคะ แล้วค่อยตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ฉันเชื่อว่า ถ้าหากคุณเข้าใจจุดประสงค์ของโครงการนี้..”
“ฉันเชื่อว่า” บุรธัชพูดขัด “โครงการนี้ร่วมใจพัฒนาเป็นโครงการที่เกิดจากความตั้งใจดี แต่ฉันไม่เชื่อในตัวเธอ”
“ถ้าเป็นเรื่องเมื่อเช้า ฉันอธิบายได้นะคะ”
บุรธัชยืนนิ่งรอฟังคำอธิบาย ณิชมนนิ่งคิดหาข้อแก้ตัวแต่คิดไม่ทัน
“อธิบายมาซิ ทำไมเธอถึงไม่อยู่รอพบคุณหญิงนวลแข”
“คือว่า..ฉัน..ฉันนึกได้ว่า อาจารย์ดาวเรืองเป็นคนฝากฉันเข้าทำงานที่บ้านสรณาลัย ถ้าหากฉันจะไปทำงานที่อื่น ฉันก็น่าจะเรียนท่านให้รับทราบก่อน คุณว่าจริงมั้ยล่ะคะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะโทรเรียนอาจารย์ดาวเรืองให้เอง”
บุรธัชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“อย่าค่ะ อย่า ! ถึงจะเรียนอาจารย์ดาวเรืองให้ทราบแล้ว ฉันก็ต้องไปขอลาออกจากบ้านสรณาลัยก่อน”
“ไม่มีปัญหา ฉันจะลาออกให้เธอเอง”
บุรธัชจะกดโทรศัพท์มือถืออีก ณิชมนโผเข้าจับมือบุรธัชไว้แน่น
“อย่าโทรค่ะ อย่าโทร ก็ได้ๆ ฉันบอกความจริงก็ได้”
บุรธัชมองมือณิชมนที่จับมือเขาอยู่ ณิชมนรีบปล่อยมือจากบุรธัช
“เธอบอกความจริงกับฉันมาซะดีกว่า อย่าให้ฉันไปรู้ความจริงเองทีหลัง ไม่งั้นเธอลำบากแน่”
ณิชมนนิ่งมองบุรธัชอย่างคิดหนัก
“บอกดีมั้ย..พี่กับน้องจะเหมือนกันมั้ยเนี่ย” ณิชมนพึมพำ
“ว่ายังไงล่ะ เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้ไปวุ่นวายที่บ้านคุณโชติ แล้วยังอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคุณหญิงนวลแข เธอต้องการอะไร เธอมีอะไรเกี่ยวข้องกับบ้านชุติมันต์หรือบ้านสุธาสินหรือเปล่า”
ณิชมนสูดหายใจลึกๆเฮือกใหญ่แล้วตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันบอกความจริงก็ได้ ! พูดไปคุณก็คงไม่เชื่อ แต่ฉันทนโกหกต่อไปไม่ไหวแล้ว” ณิชมนกลั้นใจ
“ฉัน-ชอบ-คุณ !” ณิชมนโพล่งออกมา “ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องคุณโชติหรือเรื่องคุณหญิงนวลแขเลย ฉันอยากรู้เรื่องคุณต่างหาก ฉันอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณ”
บุรธัชนิ่งอึ้งตะลึงงัน
“นี่เธอ !” บุรธัชตะคอก
“ฉันเป็นคนบ้านสรณาลัยก็เลยไปสืบที่บ้านคุณไม่ได้ ฉันก็เลยต้องไปสืบเรื่องคุณที่บ้านชุติมันต์ แต่พอไปบ้านสุธาสิน ฉันกลัวคุณณิชาจับได้ ฉันก็เลยหนีออกมาก่อน เข้าใจแล้วใช่มั้ย นี่ค่ะเอกสารของโครงการ ช่วยรับไว้พิจารณาด้วยนะคะ”
ณิชมนฉวยโอกาสที่บุรธัชยังงงงันยัดแฟ้มเอกสารใส่มือ
“แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาขอคำตอบนะคะ”
ณิชมนผลุนผลันออกไปทันที
บุรธัชยืนงงไม่คิดว่าณิชมนจะใช้ไม้นี้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินลิ่วๆ มาที่รถ เธอยังตกใจกับตัวเองอยู่
“เราพูดอะไรออกไปเนี่ย เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ช่างมันๆ พรุ่งนี้ค่อยคิด ใจเย็นๆ ณิชมน ทุกปัญหาต้องมีทางออก
ณิชมนเปิดประตูรถแต่บุรธัชเข้ามาดึงประตูไว้
“ฉันมีคำตอบให้แล้ว”
บุรธัชโยนแฟ้มโครงการเข้าไปในรถบ้านสรณาลัย
บุรธัชมองณิชมนแล้วยิ้มอย่างเหนือกว่า
“เธอบอกว่า เธอชอบฉันใช่มั้ย”
ณิชมนถอยกรูดอย่างกลัวใจ
“ค่ะๆ ฉันชอบคุณ คงเป็นเพราะคุณ..คุณช่วยชีวิตฉันไว้ตั้งสองครั้งฉันก็เลยซาบซึ้งในความดีของคุณ แต่..แต่มันคงเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้ ต่อไปฉันจะไม่ตามไปละลาบละล้วงถามเรื่องส่วนตัวคุณอีกแล้ว คุณคงเข้าใจนะคะ บางทีคนเราก็สับสนกับความรู้สึกของตัวเอง..”
“ฉันว่า เธอไม่ได้รู้สึกสับสนหรอก เธอชอบฉันจริงๆ...”
“แค่ชั่ววูบ..แค่ชั่ววูบเท่านั้นจริงๆ ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณแล้ว”
“งั้นก็มาพิสูจน์กันหน่อย”
บุรธัชดึงณิชมนเข้ามาใกล้ ก้มหน้าลงใกล้จนลมหายใจรดหน้า ณิชมนยืนนิ่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก
บุรธัชฉิวเฉียดเกือบจูบปากณิชมนแต่แล้วเขาก็ผละออกจากเธอ
“แต่คิดอีกที เธอไม่มีค่าพอที่จะต้องพิสูจน์อะไร นอกจากเป็นคนโกหกปลิ้นปล้อนแล้ว เธอก็ยังไม่มีศักดิ์ศรี ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่ถ้ายังมีฉันอยู่ ไม่ว่าเธอมุ่งหวังอะไร เธอไม่มีวันทำสำเร็จ !”
บุรธัชเดินออกไป ณิชมนนิ่งอึ้งด้วยความโกรธ
จบตอนที่ 6
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.