ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอน 23
รัญยังทำใจเรื่องบัวไม่ได้ จึงขังตัวเองอยู่แต่ในห้องโดยไม่ยอมลงมาทานอาหารจนกระทั่งบ่ายรมณีย์นึกเป็นห่วงลูกชายจึงมาหาที่ห้อง
“รัญ หลับอยู่รึเปล่าลูก”
รมณีย์ถามเมื่อเห็นรัญนอนอยู่บนเตียง
“เปล่าครับ”
“อ้าว ไม่ได้หลับ แล้วทำไมไม่ออกไปทานข้าวเที่ยงล่ะลูก เมื่อเช้าก็ไม่ได้ทานไม่ใช่หรือ”
“ผมไม่หิว”
รัญบอกเสียงเรียบ รมณีย์มองแล้วถอนใจ
“แม่พูดตรงๆนะ แม่ไม่สบายใจเลยที่ลูกทำตัวเหมือนคนไม่มีความรู้สึกแบบนี้”
“แล้วแม่อยากจะให้ผมเป็นยังไง”
“ก็ชวนน้องอ้อมไปกินข้าว ดูหนังฟังเพลง ชอปปิ้งอะไรก็ได้นี่ลูก หรือไม่ก็ไปหาเพื่อนเก่าของลูกก็ได้ ไปสังสรรค์เฮฮาให้ชีวิตมันสนุกสนาน”
รัญอึ้งกับคำว่าเพื่อน
“ตอนนี้ผมไม่มีเพื่อนที่ไหนแล้ว”
รมณีย์ละอายใจเรื่องเพชร
“เอ่อ แม่ไม่ได้หมายถึงตาเพชร เพื่อนคนอื่นก็ได้นี่ลูก”
“ผมไม่อยากคบใครแล้วครับ”
“แต่แม่อยากจะขอร้องลูกซักอย่างได้มั้ย”
“มีอะไรหรือครับ”
“อย่าโกรธตาเพชรเค้าเลยนะ เพราะถึงยังไงเค้าก็ยังให้เรายืมเงินตั้งห้าสิบล้าน”
“แม่ยังคงห่วงแค่เรื่องเงิน แม่ไม่เคยห่วงความรู้สึกของผมเลย”รมณีย์อึ้งกับคำพูดของรัญ “ผมจะบอกแม่อย่างนะถึงไอ้เพชรมันจะมีบุญคุณกับเรา แต่ผมก็ไม่ยอมให้มันย่ำยีหัวใจผม ผมอยากอยู่คนเดียวครับแม่”
รัญหันหลังให้ รมณีย์หน้าเจื่อนเดินออกไป...รมณีย์เดินออกมาหยุดหน้าห้องถอนใจ
“ซวยเลยเรา ไม่น่าเอาตาเพชรเป็นเป้าเลย แต่ถ้าไม่ใช่ตาเพชรรัญก็ไม่ยอมเลิกกับนังบัวระวงแน่ ... เอาน่ะ ได้อย่างเสียอย่าง”
รมณีย์บ่นแล้วเดินออกไป
+ + + + + + + + + + + +
วันต่อมาบัวเข้ามาทำงานที่บริษัท พนักงานต่างทักเธอเพราะเข้าใจว่าบัวไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่งกลับมา
บัวเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานและเจอกับการ์ตูนเข้าพอดี
“อ้าว ไอ้บัว นี่แกมาทำงานทำไม”
“แล้วทำไมฉันถึงไม่ต้องมาทำงาน”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกแกดีนะ ตอนนี้แกกำลังเฮริท์เรื่องพี่รัญ แกคงจะ ...”
“พอได้แล้วตูน ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่หรือ เวลาที่ฉันหยุดก็คือหยุด ฉันไม่มีเวลาโศกเศร้าเสียใจให้ใครอีกต่อไป แล้วแกก็ควรจะเลิกพูดถึงผู้ชายคนนี้ได้แล้ว เข้าใจมั้ย”บัวบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“เข้าใจค่ะ”
“ฉันว่าเรามาพูดเรื่องของแกกับคุณฉัตรชัยดีกว่า แม่บอกว่าแกจะแต่งงานกับเค้าหรือ”
“ยัง คุณป้าก็พูดเกินไป เค้าแค่จะให้พ่อแม่มาสู่ขอ”
“แกแอบชอบเค้าตั้งแต่อยู่เมืองไทยใช่มั้ย”
“เปล่า”
“อย่ามาปิดฉันไอ้ตูนฉันรู้ดี”
“รู้อะไร”
“ก็ตอนที่แกเล่าเรื่องเค้าแกดูอึกอักกึ๊กกั๊ก ไหนบอกมาซะดีๆ ว่าไปชอบเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็.. คงเป็นช่วงที่แกไม่อยู่”
“แล้วเคยจูบกันรึยัง”
“ไอ้บ้า ฉันไม่เล่าแล้ว แกเนี่ย”
การ์ตูนอายวิ่งหนีออกไป
“เดี๋ยวสิตูน กลับมาเล่าให้ฟังก่อน”
บัวร้องเรียกแต่ตูนไม่กันกลับมา ขณะนั้นมงคลเดินเข้ามาพอดี
“นี่ไอ้ตูนเป็นอะไร ทำไมวิ่งหน้าตื่นออกไป ลูกไปทำอะไรมัน”
“เปล่าค่ะ หนูแค่ถามว่ามันเคยจูบกับคุณฉัตรชัยรึยัง มันไม่ยอมบอก”
“แกนี่ ถามอะไร ใครจะบอกเรื่องแบบนี้ นี่ แม่เค้าให้มาชวนลูกไปงานเลี้ยงสภาสตรีด้วยกันเย็นนี้”
“หนูไม่ไปนะคะ”
“อ้าว แล้วจะกลับไปกินข้าวบ้านคนเดียวเหรอ”
“พ่อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูแวะหาอะไรกินข้างนอกแล้วค่อยเข้าบ้านก็ได้”
“ถ้าเหงา ก็ชวนไอ้ตูนไปสิ”
“ตูนมันคงไปกับแฟนน่ะค่ะ พ่อไม่ต้องห่วงหนูหรอก หนูไปคนเดียวได้ ชิลล์ ชิลล์”
มงคลมองลูกสาวอย่างโล่งใจ
“พ่อดีใจนะที่ลูกดูสดชื่น”
“ค่ะพ่อ จะไม่มีอะไรมาทำให้หนูเศร้าได้อีกต่อไป”
“แหม พ่อภูมิใจจริงๆ ที่ลูกเข้มแข็งเหมือนพ่อ”
มงคลดึงบัวมากอดตบไหล่แล้วเดินออก บัวมองตามหันหลังกลับ น้ำตาไหลรินออกมา บัวรีบเช็ดน้ำตา
สูดหายใจบอกตัวเองให้เข้มแข็ง
“ไม่ เราต้องไม่ร้องไห้”
+ + + + + + + + + + + +
เย็นวันนั้น รัญนัดเจอกับท่านทูตที่ร้านอาหาร เพื่อลาออกจากงานที่ทำอยู่
“คิดดีแล้วหรือที่จะลาออก”
ท่านทูตถามย้ำ
“ครับ อย่างที่ผมเรียนให้ท่านทราบตอนนี้ผมเองมีปัญหาทางครอบครัวมาก และที่สำคัญผมคงต้องอยู่ที่นี่เพื่อหาทางชำระหนี้สิน”
“แต่ผมเสียดายอนาคตคุณนะ คุณเองก็เป็นคนทำงานได้ดีมากในสายตาผม”
“ผมขอบคุณท่านมากครับ ใจจริงผมเองก็รักอาชีพนี้มาก แต่เมื่อสถานการณ์มันค่อนข้างวิกฤติ ผมก็ไม่อยากเอาปัญหาส่วนตัวของผมไปเบียดบังเวลาของราชการ”
“ผมเข้าใจ แต่ในขั้นต้นผมอยากให้คุณประวิงเวลาไว้ซักนิด ผมจะลองปรึกษาท่านรองดูว่ามีทางช่วยเหลือคุณได้ยังไงบ้าง”
“ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านอีกครั้งนึงครับ”
“ไม่เป็นไร ผมจะพยายามช่วยเหลือคุณเต็มที่ เมื่อสุดทางค่อยว่ากัน”
“ครับ”
“เอาล่ะ ผมขอตัวนะ เดี๋ยวผมต้องไปงานเลี้ยง”
“ขอบคุณครับท่าน”
ท่านทูตลุกขึ้นเดินออกไป เสียงโทรศัพท์รัญดัง รัญหยิบดูเห็นเป็นเบอร์เพชรที่โทรเข้ามา รัญไม่ยอมรับสายเพชร เพชรจึงฝากข้อความว่าอยากคุยด้วย...รัญฟังข้อความแล้วปิดโทรศัพท์
“แกยังมีหน้าจะเป็นเพื่อนฉันอีกหรือไอ้เพชร”
บัวเดินเข้ามาในห้องอาหาร รัญหันไปเห็นถึงกับชะงัก บัวเดินไปนั่งที่โต๊ะ ว่างรัญมองตามบัวนั่งหันหลังให้จึงไม่เห็นรัญ รัญนั่งมองบัวอย่างลังเลว่าจะเข้าไปหาดีหรือไม่...รัญตัดสินใจลุกเดินจากโต๊ะเดินไปหาบัว บัวถึงกับชะงักด้วยความตกใจเมื่อหันมาเห็นรัญ
“พี่รัญ”
ทั้งคู่มองสบตากันเห็นความอาลัยในแววตาทั้งคู่ รัญมองบัวแล้วตัดใจเดินผ่านไป บัวผิดหวังน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ ทรุดลงนั่ง
รัญกลับมาที่รถนั่งอึ้งด้วยความเจ็บปวดก่อนจะตัดใจขับรถออกไป คืนนั้นเมื่อรัญกลับมาบ้านก็พบ
รมณีย์นั่งรออยู่
“กลับมาแล้วหรือลูก ไปเที่ยวไหนมากลับซะดึกเชียว”
“ไปเรื่อยๆน่ะครับ”
รัญขยับจะเดินไปห้อง
“เดี๋ยวรัญ มาคุยกับแม่หน่อย”
“แม่มีอะไรเหรอครับ”
“แม่จะบอกลูกว่า พรุ่งนี้แม่จะไปคุยกับพ่อแม่น้องอ้อมเรื่องลูก”
“ก็ผมบอกแม่ไปหลายหนแล้วไงครับว่าผมไม่ได้รักน้องอ้อม”
“แม่เข้าใจความหมายของลูกนะ แต่บางทีชีวิตคู่มันก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากความรักก็ได้ มีคนเป็นร้อยเป็นล้านที่เค้าแต่งงานกันโดยไม่จำเป็นต้องมีความรัก”
“แม่ก็เลยคิดว่าผมกับน้องอ้อมไม่จำเป็นต้องรักกัน”
“ใช่ เพราะน้องอ้อมและครอบครัวเค้าจะส่งเสริมให้ลูกประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตได้”
“แล้วแม่คิดว่าครอบครัวเค้า จะยอมรับแต่งงานกับผมหรือ”
“ยอมสิลูก เค้าอยากแต่งกับลูกจะตายเค้าอยากจะใช้นามสกุลเรา”
“แต่เค้ายังไม่รู้นะครับว่าครอบครัวเราไม่เหลืออะไร แถมผมยังเป็นหนี้ไอ้เพชรอีกห้าสิบล้าน”
รมณีย์ถึงกับอึ้งไป
“แต่แม่คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาหรอก ขอแค่ลูกแต่งกับเค้าก่อน เรื่องใช้หนี้ค่อยว่ากันทีหลัง”
รัญมองแม่แล้วถอนใจ
“ก็ได้ครับ ถ้างั้นผมขอเวลาคิดซักคืนได้มั้ย แล้วพรุ่งนี้ผมจะตอบแม่”
รัญหันหลังเตรียมจะเดินกลับเข้าห้อง
“เดี๋ยวรัญ” รัญชะงักหันกลับมา“ที่แม่ทำอย่างนี้ ก็เพราะแม่เป็นห่วงชีวิตของลูกและครอบครัวเรานะ”
รัญหันมองแม่ รมณีย์จ้องมองรัญด้วยความรู้สึกวิงวอน รัญหันหลังกลับเดินเข้าห้องรมณีย์มองตามแล้วถอนใจที่รัญเริ่มยอมรับไปครึ่งทาง
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเจอหน้ารัญที่โต๊ะอาหารรมณีย์จึงทวงถามเรื่องเมื่อคืน รัญจึงตัดสินใจตอบตกลงที่จะแต่งงานกับอ้อม รมณีย์ดีใจมากรีบลุกไปโทรศัพท์หาอ้อม รินลดาเดินสวนกับรมณีย์ที่หน้าบันได รมณีย์จึงรีบบอกลูกสาว
“ยัยริน แกรู้มั้ยว่าพี่รัญเค้าจะแต่งงานกับน้องอ้อมแล้ว แม่ดีใจจริงๆ”
รมณีย์หอมแก้มรินลดาแล้วขึ้นข้างบน รินลดามองตามงงๆก่อนจะเดินเข้ามาหารัญที่โต๊ะอาหาร
“พี่รัญ แม่บอกว่า ...”
“ใช่ พี่จะแต่งงานกับอ้อม”
“แต่พี่ไม่ได้รักเค้าเลยนะ ถ้าพี่แต่งพี่จะมีความสุขเหรอ”
“วันนี้แต่งหรือไม่แต่ง มันก็เหมือนกัน สู้ทำให้แม่มีความสุขดีกว่าแล้วแกล่ะ แกตัดใจจากไอ้เพชรได้จริงรึเปล่า”
“เมื่อวานเค้ามาหาฉัน”
“แล้วไง”
“ฉันก็ไล่เค้าไป”
“แล้วมันยอมไปหรือ”
“เค้าไม่ยอม ฉันก็เลยเล่นงานเค้า”
“ดีแล้ว แกต้องเข้มแข็ง อย่าเชื่ออะไรมันง่ายๆ ไอ้นี่มันพูดจาหลอกล่อคนเก่ง ตัดใจจากมันซะ เพราะไม่อย่างงั้นแกจะเจ็บปวดเหมือนพี่”
“แต่ฉันก็ไม่อยากเชื่อว่าบัวระวงเค้าจะเป็นผู้หญิงแบบนี้ เพราะเท่าที่อยู่ด้วยกันเค้าก็ดูน่ารักไม่มีท่าทีที่จะเป็นผู้หญิง ...” รินลดาไม่กล้าพูดต่อ
“แกกำลังจะบอกว่า... เป็นผู้หญิงสำส่อนงั้นหรือ”
“ใช่ ยิ่งหลังๆฉันยิ่งรู้สึกว่าเค้าเป็นคนดีมาก แล้วฉันก็ดีใจที่พี่รักกับเค้า”
“หึ บางทีเราคิดว่าเรารู้จักเค้าแต่เราไม่รู้หรอกว่าหัวใจเค้าคิดอะไรอยู่”
รินลดาอึ้ง รัญยิ้มให้แล้วลุกเดินออก
“เฮ้อ ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยนะ”
รินลดาเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
(อ่านต่อหน้าที่ 2)
ตอนที่ 23 (ต่อ)
วันต่อมารินลดาออกมาเดินซื้อของที่ห้างจึงเจอกับเพชรที่สะกดรอยตามเธออีก เพชรพยายามจะอธิบายว่าเขากับบัวเป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่รินลดาก็ยังไม่ยอมเชื่อ เพชรจึงตัดสินใจรวบตัวรินลดาเข้ามากอดและดึง
ผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้ออกมาโปะหน้า รินลดาสลบในอ้อมกอดเพชร ยามวิ่งเข้ามาเห็นเพชรประคองรินจึงรีบถาม
“มีอะไรครับ”
“แฟนผมเป็นลมครับ จะรีบพาไปโรงพยาบาล”
เพชรช้อนตัวอุ้มรินลดาเดินลงบันได ไปที่รถ เพชรวางรินลดาไว้ในรถ แล้วไปนั่งที่คนขับ...
“วันนี้เธอจะได้รู้ความจริงซะที ขอหอมแก้มที” เพชรหอมแก้มรินฟอด “คราวนี้ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว อีกทีก็ได้” เพชรหอมอีกฟอด “หอมจัง”
เพชรยิ้ม สตาร์ทรถขับกลับไปบ้านทันที...
+ + + + + + + + + + + +
รมณีย์พารัญมาพบกับครอบครัวของอ้อม ที่ร้านอาหารจีน หลังจากทานอาหารไปได้สักครู่ รมณีย์ก็เริ่มเข้าเรื่องพูดเรื่องอ้อมกับรัญ
“สรุปว่าทางคุณสิงห์กับน้องเพ็ญไม่ขัดข้องนะคะ พี่จะได้หาฤกษ์วันหมั้นกับวันแต่งเลย”
“ไม่ขัดข้องเลยค่ะ พี่หญิงบอกวันมาได้เลย” เพียงเพ็ญบอกอย่างเต็มใจ
“แล้วมันต้องมีพิธีอะไรบ้างคะคุณพ่อ อ้อมจะได้เตรียมตัวทัน”
“ก็ไม่มีอะไรมาก เราก็ทำกันอย่างง่ายๆ แค่สวมแหวนหมั้นก็จบ ใช่มั้ยคุณเพ็ญ”สิงห์บอก
“อุ๊ย คุณก็พูดเข้า คุณเป็นถึงปลัดกระทรวงจะมาทำมุบมิบเล็กๆไม่ได้นะคะ”
“ใช่ค่ะ ถูกของคุณเพ็ญ ไหนจะแขกจากกระทรวงต่างประเทศของตารัญ ไหนจะแขกของท่านปลัด”
“อุ๊ย อย่างนี้ก็งานช้างเลยนะคะคุณแม่”
“ใช่จ้ะ แม่ว่างานนี้งานใหญ่แห่งปีเลยล่ะ ดีมั้ยจ๊ะพ่อรัญ” รมณีย์หันไปถามลูกชาย
“แล้วแต่ทางนี้เลยครับ ผมยังไงก็ได้”
“ก็เป็นอันว่าจบเรื่อง”
“เดี๋ยวค่ะพี่หญิง เรายังไม่ได้คุยเรื่องสินสอดเลยนะคะ” เพียงเพ็ญแย้ง
“โทษทีพี่ลืมไป ทางน้องเพ็ญจะเรียกซักเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ”
“แล้วแต่พี่หญิงเลยค่ะ เราคนกันเอง”
“ใช่ครับ ผมเองก็ไม่ได้คิดที่จะขายลูกสาวหรอกครับ”สิงห์บอก
“ถ้าอย่างงั้นทองคำซักเก้าบาท” รมณีย์บอก
เพียงเพ็ญชะงัก
“แหวนเพชรซักเก้าสิบสตางค์”
คราวนี้อ้อมชะงักมองหน้าเพียงเพ็ญ
“เงินสดซักเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดีมั้ยคะ เป็นเลขมงคลเลยนะ”
“เดี๋ยวนะคะพี่หญิง พี่หญิงน่ะชอบพูดเล่น เก้าร้อยเก้าสิบเก้าล้านรึเปล่าคะ”
“พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ พี่พูดจริง”
“แม่คะ แหวนเพชรเก้าสิบสตางค์นี่มันกี่กระรัตคะ”อ้อมหันไปถามแม่
“ไม่ถึงกระรัตหรอกลูก”
“ไม่ถึงหรือคะ”
“พี่หญิงอย่าลืมนะคะนี่มันงานช้างแห่งปี ถึงจะเป็นเลขมงคลแต่น้องว่าน้อยไปค่ะ เฉพาะทองอย่างต่ำๆน้องว่าต้องมีเก้าสิบบาท”เพียงเพ็ญบอก
คราวนี้รมณีย์เป็นฝ่ายอึ้งบ้าง
“แหวนเพชรก็ต้องไม่น้อยกว่าสามกระรัต”
รมณีย์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“เงินสดก็ควรจะเป็นเก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท”
รัญเหลือบมองแม่
“แหม แต่พี่ว่ามันจะเวอร์ไปรึเปล่าน้องเพ็ญ ตอนนี้รัฐบาลเค้ารณรงค์ให้เราประหยัดแบบพอเพียงนะจ๊ะ”
“ผมก็คิดว่าไม่ต้องมากขนาดนั้นหรอกคุณเพ็ญ”สิงห์ออกความเห็น
“นี่คุณสิงห์ ลูกสาวเราทั้งคนนะ คุณทำยังกะซื้อขายปลาสลิด...เอาเป็นว่าน้องขอตามที่บอกดีกว่านะคะพี่หญิง”
“แต่พี่ว่า ...” รมณีย์ พยายามจะแก้ไขสถานการณ์ รัญจึงพูดขัดขึ้นมา
“เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ ผมคงต้องบอกคุณอาทั้งสองตามตรง”
สิงห์ เพียงเพ็ญ อ้อมหันมองหน้ารัญ
“เราคงไม่สามารถหาเงินหาทองจำนวนมากขนาดนั้นได้หรอกครับ”
“พี่รัญพูดอย่างนี้หมายความว่าไงคะ”อ้อมถามอย่างตกใจ
“ตอนนี้ครอบครัวผมกำลังล้มละลาย”
เพียงเพ็ญชะงัก
“ตารัญ เธอพูดอะไร”รมณีย์พยายามจะห้ามไม่ให้ลูกพูด
“ให้ผมพูดเถอะครับแม่ เพราะแม่พูดมาเยอะแล้ว ถ้าผมต้องแต่งงานกับน้องอ้อมผมก็ไม่อยากปิดบังความเป็นจริงเกี่ยวกับครอบครัวผมและตัวผม...ผมเองกำลังจะลาออกจากงาน แล้วก็มีหนี้สินที่ต้องชดใช้เค้าห้าสิบล้านบาท”
“หา ... ห้าสิบล้าน” อ้อมกับเพียงเพ็ญร้องออกมาพร้อมกัน
“แม่คะ ถ้าหนูแต่ง หนูต้องไปใช้หนี้ห้าสิบล้านหรือคะ”
“ถูกต้องแล้วครับ...ที่ผมพูดความจริงเพราะผมไม่อยากโกหกทุกๆคน แต่ถ้าคุณอาทั้งสองยังอยากให้น้องอ้อมแต่งงานกับผม ผมก็ยินดีที่จะแต่งด้วยครับ”
“ว่าไงคุณเพ็ญ”สิงห์หันไปถามภรรยา
“ยังจะมาถามฉันอีก ขืนแต่งไป คุณกับฉันต้องไปเป็นขอทานน่ะสิ”
“ใช่ค่ะแม่ หนูไม่แต่งนะคะ”
รมณีย์มองอ้อมกับเพียงเพ็ญ มองรัญอย่างโกรธ
“อาต้องขอบใจและนับถือน้ำใจเธอมากที่กล้าพูดความจริงออกมา”สิงห์บอกกับรัญ
“แล้วตกลงจะว่ายังไงคะเนี่ย”รมณีย์ถามขึ้นมา
“จะว่ายังไง คุณพี่หญิงต้องจ่ายมื้อนี้นะคะ ฉันไม่จ่ายหรอก ไปลูก”
เพียงเพ็ญลุกขึ้นคว้าแขนอ้อม อ้อมหันมาต่อว่ารมณีย์
“ไม่มีแล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ทำให้ฉันเสียเวลาอยู่ตั้งนาน ที่แท้ก็เป็นคุณหญิงถังแตก”
อ้อมกับเพียงเพ็ญรีบเดินออกไป สิงห์ลุกตามไป รัญยกมือไหว้
“ผมต้องกราบขอโทษคุณอาด้วยครับ ที่ทำให้เสียเวลา”
“อย่าพูดอย่างงั้น อาดีใจที่ได้เจอสุภาพบุรุษอย่างเธอ”
สิงห์เดินออก รมณีย์หันมาจ้องหน้ารัญอย่างโกรธจัด
“แม่ไม่เข้าใจทำไมแกถึงทำอย่างนี้ แกไม่อยากแต่งก็บอกมาตรงๆ แกต้องการฉีกหน้าฉัน ต้องการทำลายฉัน ใช่มั้ย ถึงทำแบบนี้”
“แม่ครับ แม่เป็นแม่ผม ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง แต่ที่ผมต้องบอกเพราะมันเป็นเรื่องจริง”
รมณีย์ทรุดลงแล้วร้องไห้ออกมา รัญทรุดนั่งตาม เหลือบมองแม่อย่างเห็นใจ
+ + + + + + + + + + + +
รมณีย์เดินออกจากรานอาหารจีนโดยความโกรธจัด รัญเดินตามหลังมาและเหลือบมองแม่
“อย่าโกรธผมเลยครับแม่ ที่ผมพูดไปก็เพราะไม่อยากให้แม่ต้องเสียผู้ใหญ่ไปมากกว่านี้”
“ฉันพยายามหาผู้หญิงดีๆให้แก แต่แกกลับทำลายมันลง จากนี้ไปก็เชิญแกไปอยู่กับนังบัวระวงผู้หญิงหากินของแกเถอะ”
รมณีย์เดินเลี้ยวออกมาแล้วต้องชะงักเมื่อเจอนิภาพรรณกับมงคล
“อ้าว สวัสดีครับคุณหญิงรมณีย์”
“สวัสดีค่ะคุณหญิง แหม พักนี้เราเจอกันบ่อยนะคะ มาทานอาหารหรือคะ”
มงคลกับนิภาพรรณทัก รมณีย์เชิดหน้าไม่ตอบ รัญยกมือไหว้คนทั้งคู่
“สวัสดีครับ”
“หวัดดีรัญ เจอกันอีกแล้วนะ”
“วันนี้มากับแฟนรึเปล่า อยากเห็นหน้าจัง”
“เอ่อ...”
รัญอึกอัก ขณะนั้นบัวเดินกดบีบีตามพ่อกับแม่เข้ามา บัวเงยหน้าแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นรัญ รัญเองก็ชะงักและช็อคที่ได้เจอบัว
“อ้าว บัวมาพอดี สวัสดีคุณหญิงรมณีย์ลูก แล้วนี่พี่รัญเพื่อนพี่เพชรจำได้มั้ย” มงคลบอกลูกสาวบัวมองรัญกับรมณีย์ รัญกับรมณีย์ถึงกับอึ้ง
“นี่ยัยบัวลูกสาวฉันค่ะ”นิภาพรรณบอก
“อะ อะไรนะ ลูกสาวคุณอย่างงั้นหรือ”
“ค่ะ ฉันรวินวรกานต์หรือบัวระวง”
บัวแนะนำตัวเองแล้วเชิดหน้าใส่รัญ รัญถึงกับอึ้ง รมณีย์ตั้งสติได้ก่อน
“เอ่อ รัญ ตารัญ ยืนนิ่งทำไมล่ะลูก ไม่ทักทายน้องบัวระวงเอ๊ยไม่ใช่ น้องรวินวรกานต์หน่อยสิลูก”
“นี่คุณเป็นน้องสาวเพชรจริงๆเหรอ”รัญถาม
“ใช่จ้ะ พ่อรัญ ยัยบัวที่ตอนเด็กๆอ้วนๆน่ะ เดี๋ยวนี้เป็นไง สวยมั้ย ผิดคาดใช่มั้ยล่ะจ๊ะ ถึงกับช๊อคเลยล่ะสิ”
“ แล้วไหนแฟนรัญล่ะ แนะนำให้อารู้จักบ้างสิ”
“เอ่อ เค้าไม่ได้มาครับ” รัญเหลือบมองบัว บัวมองเชิดไปทางอื่น “ผมขอตัวนะครับ”
“เชิญ”
“แล้วเจอกันนะคะ คุณหญิงรมณีย์”
“ค่ะ ป้าไปนะจ๊ะ หนูบัว”
“เชิญค่ะ”
รัญกับรมณีย์เดินออกไป
“แหม พ่อเสียดายตารัญจริงๆ”มงคลบอก
“ทำไมหรือคะ”บัวถามอย่างแปลกใจ
“ถ้าเค้าไม่มีแฟน พ่ออยากจะให้เค้ามาจีบลูก พ่อชอบทั้งนิสัยหน้าตาการศึกษาดูเป็นผู้ดีไปหมด”
“พอ พอเลยคุณมงคล ฉันไม่ไปเกี่ยวดองกับคุณหญิงถังแตกปลาทูเค็มนี่หรอก รู้มั้ยลูก ก่อนหน้านี้จะมายืมเงินเราตั้งห้าสิบล้าน ใครจะไปให้”
“หนูว่าเราไปทานข้าวเถอะค่ะ”
บัวตัดบทแล้ว เดินนำออกไป นิภาพรรณยังหันมาเล่นงานมงคล
“คุณนี่นะมีตาหามีแววไม่ จะไปคว้าเจ้าชายถังแตกมาให้ลูก”
นิภาพรรณเดินตามบัวออกไป มงคลบ่นตามหลังเมีย
“รู้อย่างนี้ตอนนั้นแต่งงานกับแม่ค้าขายปลาทูดีกว่า”
รมณีย์กับรัญเดินมาได้สักครู่ รมณีย์ก้ดึงแขนรัญเข้ามาในมุมนึง
“ทำไมลูกถึงไม่บอกแม่ว่าเธอเป็นลูกสาวเสี่ยมงคล”
“แล้วแม่ล่ะ ทำไมแม่ถึงได้บอกผมว่าเธอนอนกับไอ้เพชรเพื่อนผม”
“เอ่อ ก็.. ก็นังเจ๊อ้อน่ะสิ มันเป็นคนบอกแม่ มันจงใจจะใส่ความน้องบัว นี่ถ้าแม่เจอมันจะตบปากมันซะที ปากชั่วๆจริงๆ ทำให้ลูกกับคนรักต้องแตกแยกกัน”
“พูดไปตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วครับ เพราะผมกับเค้าเลิกกันแล้ว”
“ไม่นะรัญ แกต้องกลับไปหาน้องบัว แล้วขอโทษเค้าบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด นังเจ๊อ้อมันใส่ความ”
“ผมคงทำอย่างงั้นไม่ได้หรอกครับ”
รัญบอกแล้วเดินออกไป
“เดี๋ยวตารัญ ตารัญ ... ฮึ่ย นี่เราตาบอดสีรึไง ถึงได้เห็นนังอ้อมดีกว่น้องบัว เอ๊ะ หรือว่าเราควรจะไปกราบขอโทษเค้า ใช่ เพื่อเงินเราต้องทำให้ได้”
รัญหันกลับมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“แม่ครับ ผมขอล่ะครับ ทุกวันนี้เราก็ไม่มีเกียรติและศักดิ์ศรีแล้วนะครับ อย่าทำให้ครอบครัวเราต้องตกต่ำไปมากกว่านี้เลย กลับบ้านเถอะครับ”
รมณีย์อึ้งกับคำพูดและท่าทีจริงจังของรัญ แต่ยังไม่วายประชด
“แล้วเกียรติมันกินเข้าไปได้หรือไง”
รมณีย์สะบัดหน้าจำใจเดินออกไปอย่างขัดใจ รัญได้แต่ส่ายหน้ากับแม่
+ + + + + + + + + + + +
รินลดาเธอรู้สึกตัวอีกครั้งที่บ้านของเพชร เธอถูกเพชรมัดตัวไว้ไม่ให้หนี เพชรพยายามงัดหลักฐานมายืนยันว่าเขากับบัวเป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่รินลดายังไม่ยอม
เพชรถือถาดอาหารเข้ามาให้รินลดา
“เอา กินหูฉลามหน่อยนะ”
“เมื่อไหร่จะปล่อยฉันเนี่ย”
“ก็ผมกลัวคุณจะหนี”
“ฉันไม่หนีหรอก เพราะฉันต้องรอเจอพ่อแม่คุณแล้วก็บัว”
“ถ้าคุณพูดจริงผมจะแก้มัดให้คุณ”
“จริง”
“ก็ได้” เพชรดึงเชือกแก้มัดรินออก รินสะบัดแขนอย่างเมื่อย เพชรหยิบถ้วยหูฉลามขึ้นมา
“เอา กินหูฉลามหน่อย มา ผมป้อนให้”
“ไม่ต้อง ฉันกินเอง” รินรับถ้วยมาถือ “ แล้วเมื่อไหร่พ่อแม่คุณจะมา”
“เมื่อกี้ผมโทรไปแล้ว ท่านบอกใกล้ถึงบ้านแล้ว”
“แล้วคุณไม่กินหรือ” รินถามอย่างจากตักหูฉลามกิน
“คุณกินก่อน เดี๋ยวเหลือแล้วผมกินต่อได้”
“แหม เป็นลูกเศรษฐีอะไรขี้เหนียวจังซื้อมาถุงเดียว”
“ก็ผมอยากกินต่อจากคุณนี่”
“คุณนี่มันจอมเวอร์จริง ๆ”
“ผมอยากให้คุณรู้จริงๆนะว่าผมรักคุณมาก”
“ฉันไม่เชื่อ พี่รัญบอกว่าคุณเป็นผู้ชายที่ไว้ใจไม่ได้”
“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ผมเป็นแมวเชื่องแล้ว ตั้งแต่เจอคุณ” เพชรจับมือรินลดาไว้ “จริงๆนะ คุณคือผู้หญิงคนเดียว ที่สะกดให้ผมอยู่นิ่งและผมก็จะหยุดสต๊อปไว้ที่คุณคนเดียว”
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“เชื่อผมเถอะนะ ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจหรือผิดหวังในตัวผม”
รินลดาอึ้ง เพชรยกมือรินลดาขึ้นจูบ รินลดาถึงกับเคลิ้ม เพชรเคลื่อนหน้าเข้าหารินลดาหลับตา เพชรจุ๊บปากรินลดา จังหวะนั้นนิภาพรรณเดินเข้ามาพอดี
“มีเรื่องอะไรเพชรโทรเร่งแม่ยังกะไฟไหม้ ....”
นิภาพรรณสะดุ้งชะงักเมื่อเห็นเพชรกำลังจูบรินลดา ทั้งคู่รีบผละออกจากกัน
“โธ่แม่ ทำไมต้องมาตอนนี้”
“อ้าว ก็แกบอกให้ฉันรีบมา ... แล้วนี่ใคร” นิภาพรรณถามพร้อมกับมองหน้ารินลดา
“อ๋อ นี่รินแฟนผมเอง รินนี่แม่ผม”
“สวัสดีค่ะ”
“หวัดดีจ้ะ”
มงคลเดินตามเข้ามา
“มีเรื่องอะไรไอ้เพชร ...” มงคลชะงักเมื่อเห็นรินลดา
“แล้วนี่ก็พ่อผมครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“เอ่อ สวัสดีจ้ะหนู” มงคลมองหน้าเมียนิภาพรรณอย่างงงๆ
“แฟนตาเพชรเค้าชื่อหนูริน” นิภาพรรณบอก
“อ้าวหรือ งั้นเชิญตามสบายนะหนู”
รินลดายิ้มให้พ่อกับแม่เพชร บัวเดินตามเข้ามาถึงกับชะงักเมื่อเห็นรินลดา
“คุณริน”
“บัว”
“ใช่ครับ บัว น้องสาวแท้ๆของผมเอง และชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่ารวินวรกานต์ ตันติวราวิทยา คุณเชื่อรึยัง”
รินลดาอึ้ง
“มีอะไรหรือลูก”นิภาพรรณถามอย่างแปลกใจ
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูเพียงแต่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย”
รินลดามองหน้าบัวอย่างรู้สึกละอายใจ บัวมองรินลดานิ่งๆ
“งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”รินลดาบอก
“เดี๋ยวสิริน จะรีบไปไหน” เพชรรั้งไว้
“นั่นน่ะสิ อยู่คุยกันก่อนก็ได้”
“หนูต้องขอตัวค่ะ หนูลานะคะ”
รินลดายกมือไหว้พ่อกับแม่เพชร ลุกเดินออกไปผ่านหน้าบัว รินลดามองบัวอย่างเสียใจ
“ฉันขอโทษนะบัว”
รินลดาหลบตาบัวแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เพชรจะตามแต่บัวเรียกไว้
“เดี๋ยวพี่เพชร ขอฉันคุยส่วนตัวกับเค้าหน่อย” เพชรชะงัก
“เชิญ”
บัวรีบตามรินออกไป พ่อกับแม่มองตามอย่างงุนงง
“มันเรื่องอะไรกันลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
มงคลกับนิภาพรรณไม่เชื่อมองหน้ากันอย่างสงสัย
(จบตอนที่ 23)
ติดตามอ่านตอนต่อไป เวลา 9.30 น. พรุ่งนี้