xs
xsm
sm
md
lg

หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 2

เวลาต่อมาฉวีวรรณขับรถเข้ามาจอดในโรงพัก ดาหวันรีบเปิดประตูรถออกมา พุ่งไปทางตัวตึกสน. ด้วยความร้อนใจเป็นห่วงดนัยสุดๆ

“พี่ดนัย หวันไม่ยอมให้พี่ติดคุกแน่” ดาหวันพูดออกมา
ฉวีวรรณเปิดประตูรถออกมาตะโกนไล่ตามหลังมา
“รีบๆจับมันขังลืมเลยยิ่งดี ฉันจะจัดโต๊ะจีนเลี้ยงลิงเจ็ดภูเขาไปเลย”
ดาหวันไม่สนใจพี่สาวเดินไปเลย ฉวีวรรณเซ็ง บ่นตามหลังดาหวันไป
“ยายหวัน นี่แกรอฉันก่อนสิ หวัน!”

ทางด้านดนัยกับชลิต กำลังเดินลงบันไดมาที่หน้าโรงพัก  ระหว่างนั้นอุ๊บอิ๊บก็วิ่งตามลงมา แทรกตรงกลาง แล้วเกาะแขนดนัยแน่นอย่างรักใคร่
“พี่ดนัยขา พี่ดนัยอย่าถือสาเรื่องเข้าใจผิดกันเลยนะคะ”
ดนัยพยายามดึงแขนออก
“ฉันว่าเธออย่ามายุ่งกับฉันดีกว่า”
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะคะ พี่ดนัย อุ๊บอิ๊บ รักพี่ดนัยนะคะ” อุ๊บอิ๊บเข้าไปกอดอีก
จังหวะนั้นเองดาหวันก็เข้ามายืนจังก้าตรงหน้า มองอุ๊บอิ๊บอย่างเอาเรื่อง ศึกชิงดนัยระเบิดขึ้น!
“ถอยออกมาซะ อุ๊บอิ๊บ! พี่ดนัยไม่ใช่กิ่งไม้ให้ชะนีอย่างเธอมาโหน”
“นังดาหวัน แกด่าฉันเหรอ”
“โง่หรือไง ถึงไม่รู้ว่าฉันด่าน่ะ”
อุ๊บอิ๊บกรี๊ด แล้ววิ่งเข้ามาจะตบดาหวัน ดาหวันหลบ...แล้วสวนกลับตบอุ๊บอิ๊บกระเด็น
“หวัน!”
ดนัยเรียกแล้วเข้าไปจะจับตัวดาหวัน แต่ถูกดาหวันสะบัดแรงแบบไม่ให้มายุ่ง ดนัยเซไปตามแรง ชลิตจับตัวดนัยไว้
“ลมเพชรหึงพัดกระหน่ำ งานนี้แหลกแน่ ไอ้ดนัยเอ๊ย”
อุ๊บอิ๊บ พุ่งเข้ามาลากดาหวันไปจะไปโขกกับผนังปูน ดาหวันไม่ยอมยันอุ๊บอิ๊บออกทัน แล้วทั้งสองยื้อตบตีกัน ชุลมุนวุ่นวายมาก ฉวีวรรณวิ่งตามเข้ามาเห็น ตกใจ
“ยายหวัน! นี่มันอะไรกัน”
ศิริ ธานี ธนวัติ และพาณิชย์เดินออกมาจากโรงพักเห็นภาพที่ดาหวันตบอุ๊บอิ๊บลงไปกองกับพื้น ร้องกรี๊ดอยู่พอดิบพอดี
“จำไว้ อย่ามาวุ่นวายกับพี่ดนัยอีก” ดาหวันบอกน้ำเสียงจริงจัง
“ยายหวัน!” เสียงศิริตวาดลั่น
ดาหวันและทุกคนอึ้ง ตะลึง มอง ศิริเป็นตาเดียว
“พ่อ”
“พ่อมาที่นี่ได้ยังไง” ฉวีวรรณเป็นงง
“ฮึ! คุณลุงเป็นพ่อ หวีกับหวัน!”
ชลิตสะอึก ดนัยพลอยอึ้ง หน้ายุ่งไปด้วย
“หนูหวี หนูหวัน ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ นี่พี่ธนวัติ กับพาณิชย์จำได้มั้ย”
ธานีเป็นคนพูดแทรกขึ้น ดาหวันมองหน้าธนวัติ กับพาณิชย์ อย่างเกลียดเอามาก เพราะเพิ่งมีเรื่องกันมา
“จำได้ติดตาลืมไม่ลงเลยล่ะค่ะไม่รู้ว่าพี่ธนวัติ พี่พาณิชย์จำกวางตัวนั้นได้หรือเปล่า” ดาหวันเยาะ
ธนวัติ และพาณิชย์ อึ้งไป กลัวโดนแฉอยู่เหมือนกัน จังหวะนั้นเองอุ๊บอิ๊บลุกขึ้นวิ่งเข้าไปกอดธานี ฟ้อง ขัดจังหวะ
“ป๊า ไปญาติดีกับมันทำไม ดาหวันมันตบหนูนะ ฮือ...”
“โอ๋ อย่าคิดมากนะอุ๊บอิ๊บ ถือว่าพี่น้องตบทักทายกันก็แล้วกันนะ” ธานีว่า
พอได้ฟังศิริยิ่งอารมณ์ขุ่น
“งามหน้าจริงๆ ลูกสาวฉัน กล้าตบกันเพราะไอ้กุ๊ยนี่นะเหรอ”
“พี่ดนัยไม่ใช่กุ๊ย พี่ดนัยเป็นแฟนหวัน”
ดาหวันเถียง แถมบอกข่าวร้าย เล่นเอาศิริตะลึง
“อะไรนะ!”
ดาหวันพูดต่อ
“พ่อได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ หวันกับพี่ดนัยจะแต่งงานกัน”
พวกธานี ธนวัติ และพาณิชย์ ชักสีหน้า
“ผมไม่ยอมนะครับ! คุณลุงสัญญากับผมแล้วนะครับ”
พอพาณิชย์แย้งมาศิริอึ้งอีก ขณะที่ฉวีวรรณสงสัยจึงถามขึ้น
“นี่มันเรื่องอะไรกันพ่อ พ่อไปสัญญาอะไรกับเค้า”
ศิริมองฉวีวรรณกับชลิตไปมา
“แล้วแกล่ะ หวี อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนั่น...” ศิริชี้ไปที่ชลิต
ชลิตรีบยกมือไหว้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“ครับ คุณพ่อ ผมชื่อชลิต เป็นแฟนฉวีวรรณรับปริญญาเสร็จปุ๊บ ผมจะรีบจัดขันหมากมาสู่ขอฉวีวรรณปั๊บเลยครับ”
ธนวัติพูดขัดขึ้น
“ไม่มีทาง!! ฉวีวรรณต้องแต่งงานกับฉันเท่านั้น!”
“บ้า อย่ามาพูดบ้าๆ” ฉวีวรรณด่าธนวัติ
“แกนั่นแหละ เงียบได้แล้ว แล้วก็รับรู้ไว้ด้วย ว่าแกสองคนมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว คือธนวัติกับพาณิชย์”
ศิริตัดบท บอกด้วยน้ำสียงเคร่ง ดาหวันกับฉวีวรรณตะลึง อุทานออกมาพร้อมกัน
“พ่อ!!!”
“คุณลุงแน่ใจหรือครับ ผมว่าคนที่คุณลุงเลือกจะทำให้ลูกสาวคุณลุงตกนรกทั้งเป็นนะครับ”
ถูกดนัยพูดสอนแทรกขึ้น ศิริสุดทน ต่อยหน้าดนัย จนหน้าหันล้มลงไปกองกับพื้น
“ไม่ต้องมาสอนฉัน แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับลูกสาวฉันด้วย”
ดาหวันตกใจจะวิ่งเข้าไปหาดนัย
“พี่ดนัย!”
แต่ถูกศิริคว้ามือไว้ แล้วฉุดแขนฉวีวรรณลากให้กลับบ้าน
“กลับบ้านได้แล้ว ไป!”
ศิริฉุดลากสองสาวที่โวยวายดังลั่นสน. เดินออกไป ธานีและลูกหลานตามออกไปด้วย
ดนัยมองตามเจ็บ ชลิตเข้ามาหา พูดอย่างว้าวุ่นใจ
“ดนัย ...งานเข้าอย่างแรงแล้วเว้ย”

คืนนั้นชลิตตามมาที่บ้านดนัย นงนุชวางแก้วน้ำหวาน ของว่างลงข้างหน้า สองหนุ่มที่กลุ้มใจกันอยู่
“กินน้ำกินท่ากันก่อนนะลูก เครียดไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
“ผมมืดแปดด้านแล้ว ..แม่ครับ พวกผมควรจะทำยังไงดี” ชลิตพูดอย่างเครียด นงนุชนั่งลง ถอนหายใจเล็กน้อย แล้วค่อยว่าขึ้น
“แม่ว่า...ยังไงคุณศิริก็เป็นผู้ใหญ่ เอาไว้ให้ท่านอารมณ์เย็นลงแล้วเราสองคนค่อยไปกราบขอโทษท่าน แล้วอธิบายความจริงให้ท่านทราบซะ”
“เขาจะฟังหรือแม่ เห็นหน้าก็คงจะฆ่าทิ้งแล้วมั้ง”
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ความจริงใจที่ลูกมีหรอกนะ แม่เชื่อว่าถ้าลูกหาโอกาสเหมาะๆ คุยกับท่าน ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีเอง”
ดนัย กับชลิตนิ่งฟัง มองนงนุช ครุ่นคิดคล้อยตาม

วันต่อมา ดนัยกับชลิตทำตามที่นงนุชแนะนำ สองหนุ่มถือพานพุ่มขอขมามาคนละอัน เดินมาด้อมๆ มองๆอยู่หน้ารั้วบ้าน
“ทำไมบ้านเงียบกริบอย่างนี้ล่ะ ยังกับไม่มีคนอยู่” ดนัยแปลกใจ
“บรรยากาศวังเวงเหมือน บ้านผีสิง”
ชลิตพูดพลางหันไปทางหนึ่ง ป๊ะกับป้าแก่ๆ ยืนยิ้มยิงฟันดำน้ำหมาก ในมือถือตะกร้าจ่ายตลาด ชลิตตกใจ นึกว่าผีหลอก ร้องสะดุ้งโหยง
“เอ้ย...” พานขมาในมือหล่นกระจาย ชลิตวิ่งมาหลบหลังดนัย
“ไอ้ชลิต ไอ้บ้า นั่นป้าไม่ใช่ผี” ดนัยบอกยิ้มๆ
ชลิตหันมองอีกที จนแน่ใจ แล้วถอนหายใจ
“โอ้ย ป้า จะมาก็ไม่รู้จักให้ซุ่มให้เสียงกันบ้างเลย”
ดนัยถามป้าคนนั้น
“คุณศิริ กับลูกๆอยู่หรือเปล่าป้า”
ป้าส่ายหน้า “กลับเชียงใหม่หมดแล้ว”
“ฮึ ทำไมต้องรีบกลับขนาดนี้ด้วย”
“คุณผู้ชายจะจัดงานหมั้นให้คุณหนูนะสิ อาทิตย์หน้านี้แล้ว” ป้าคนใช้บอก
ดนัย กับชลิต ตาโต ตกใจร้องออกมาพร้อมกัน
“อะไรนะ”
ทั้งสองหนุ่มตะลึง ตกใจกับข่าวร้ายที่ได้ยิน!!!

บ้านศิริ ในเชียงใหม่เป็นบ้านที่มีระเบียงด้านหลังต่อยาวเชื่อมกันได้ มีทางขึ้นลงโดยไม่ต้องผ่านตัวบ้าน
และเวลานั้นฉวีวรรณกำลังพาดาหวันย่องออกไปแอบตรงประตูเข้าบ้าน
ฉวีวรรณแอบชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอก...โดยไม่รู้ตัวว่าศิริผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาจากประตูอีกทาง
และศิริเข้ามายืนหลังดาหวัน
ฉวีวรรณมองไปทางหน้าบ้าน
“พวกเราหนีไปตั้งหลักกันก่อนนะ หวัน” ฉวีวรรณบอกน้อง
ดาหวันมองตามพี่สาวไปที่หน้าบ้าน “ถูก ใครจะอยู่ให้พ่อจับหมั้น”
ศิริฟังอยู่สะกิดดาหวันเบาๆ ดาหวันปัดๆ แบบรำคาญ
“อ๊อย... แมลงแถวนี้เยอะจริง”
ศิริสะกิดอีก ดาหวันรำคาญหันกลับไปเงื้อมือจะตบ พอเห็นเป็นศิริ ก็ชะงัก ทำหน้าจะร้องไห้ แล้วทรุดลงไปกองที่พื้นยกมือไหว้ศิริแทน
ศิริขยับเข้าไปแทนที่ดาหวัน ฉวีวรรณยังชะโงกมองข้างนอก พูดไปด้วยไม่ขาดปาก
“เอาล่ะ หวัน เรารีบไปก่อนที่พ่อใจยักษ์จะกลับมาดีกว่า”
ศิริสะดุ้ง แล้วฉวีวรรณคว้ามือศิริหมับโดยนึกว่าเป็นหวัน ดึงแล้วจูงออกไปนอกบ้านแบบไม่ทันมอง ดาหวันมองตามพี่สาวที่จูงพ่อออกไป ทำหน้าแหยๆ จะร้องไห้
“พี่หวี... ฮือ... โชคดีนะ...”

ฉวีวรรณจูงมือศิริเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าบ้าน
“เร็วๆ เข้า ยายหวัน เดี๋ยวพ่อกลับมาจะยุ่ง”
จังหวะนั้นสุภาพเดินผิวปาก ควงกุญแจรถเข้ามา ป๊ะกับฉวีวรรณ
สุภาพ หนุ่มใหญ่คนนี้ เป็นผู้จัดการฟาร์ม คนสนิทของศิริ แข็งขันจริงจังแต่ก็ดูใจดี เอางานเอาการแต่ก็ไม่ได้เรื่อง โก๊ะ หลุดตลอดๆ
“คุณหวี!” สุภาพทักเสียงดัง
“นึกว่าตาบอดหูหนวก แล้วกันนะ สุภาพ...ฉันจะหนี”
ฉวีวรรณพูดแล้วขยับจะไป สุภาพงง รีบขวาง
“ดะ เดี๋ยวครับ คุณหวี ...คุณหวีจะหนี แล้วคุณหวีพาคุณพ่อไปด้วยทำไมครับ”
ฉวีวรรณยังไม่รู้ตัว พูดอย่างรำคาญ
“สุภาพ พ่อเพ่อที่ไหนล่ะ นี่มันยายหวะ..” ฉวีวรรณหันไปป๊ะศิริ ตกใจร้องลั่น “พ่อ!!”
ฉวีวรรณหน้าแตก ศิริยิ้มแต้
“ไปซี้ ไป หนีไปด้วยกัน จะไปไหนล่ะ ลูก”
ฉวีวรรณทำอะไรไม่ได้ นอกจากเบ้ปากอยากจะร้องไห้
“พ่อนะพ่อ ทำไมต้องรู้ทันหวีด้วย

ห้องนอนฉวีวรรณเป็นห้องที่มีระเบียงต่อยาวลงบันไดวนได้ และด้านล่างของห้องเป็นลานจอดรถได้
ศิริดึงแขนฉวีวรรณกับ ดาหวันคนละข้างลากเข้ามาในห้องนั้น ทั้งสองร้องโวยวายให้ปล่อย ดาหวัน ฉวีวรรณสะบัดจะวิ่งออกไปอีก สุภาพยกมือกั้นประตูไม่ให้ไป
“อะ อะ ไม่ได้ครับ คุณหนูทั้งสองคนต้องอยู่ในนี้ ตามที่นายสั่ง”
“สุภาพเข้าข้างพ่อได้ไง สุภาพไม่เห็นเหรอว่าพ่อไม่มีเหตุผล” ฉวีวรรณโวยวายหาพวก
สุภาพเผลอตัว เดินเข้าไปต่อว่าศิริ
“นั่นสิครับ นาย ทำแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะ”
“อย่าปัญญาอ่อน...”
ศิริเอามือตบบ้องหู สุภาพทั้งสองข้างพร้อมกัน สุภาพชะงัก สะดุ้ง งง แล้วกลับไป กั้นประตูเหมือนเดิมได้
“อึยย ถูกต้องแล้วครับ นายถูกที่ซู้ด”
ดาหวันเหลืออด ต่อว่าศิริ
“ทำไมพ่อต้องกีดกันความรักของหวันด้วย พี่ดนัยเป็นคนดีนะพ่อ”
“ดีบ้าอะไร จีบทั้งแกกิ๊กทั้งหนูอุ๊บอิ๊บ แถมยังเป็นอันธพาลอีกต่างหาก”
“ยังไงมันก็ไม่เห็นต้องหมั้นเลยนี่พ่อ หวีกับหวันยอมเป็นโสด ไม่แต่งกับใครเลยก็ได้เอ้า”
ฉวีวรรณเสนอทางออกแต่ถูกดาหวันโวยใส่
“เรื่องอะไรล่ะ พี่หวีขึ้นคานไปคนเดียวเหอะ หวันจะแต่งกับพี่ดนัย”
“ยายหวัน ยายน้องแก่แดด”
“เห็นมั้ย พวกแกมันไว้ใจได้ที่ไหน” ศิริตัดบท
“พ่อฟังหวีก่อน...”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันตัดสินใจแล้ว...พวกแกสองคนต้องอยู่ในห้องนี้ จนกว่าจะถึงวันหมั้น”
พอพูดจบศิริเดินลิ่วออกจากห้องไป สุภาพเดินตามแล้วปิดประตูปัง ฉวีวรรณถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจ ไม่รู้จะทำยังไง

ที่บ้านธานีในเชียงใหม่คืนนั้น ธานียกแก้วไวน์ 2 ใบมาให้ ธนวัติและพาณิชย์ที่นั่งอยู่ที่โซฟาในบ้านมุมหนึ่ง
“อะ ดื่มฉลองกันหน่อย ว่าที่คู่หมั้นทั้งสองคน” ธานีบอก
“ขอบคุณฮะ ป๊า ไม่นึกเลยว่า ความสำเร็จมันจะได้มาง่ายๆ...” ธนวัติรับแก้วไป
“คนมันโง่ ไง ไอ้วัติมันเลยต้องตกเป็นเหยื่อคนฉลาดๆ อย่างเรา” ธานีหัวเราะชอบใจ
พาณิชย์พูดด้วยท่าทีจริงใจมากๆ
“ฉลาดอย่างเดียวไม่พอ มันต้องชั่วสุดๆ ด้วยถึงจะทำได้”
เสียงหัวเราะของธานีขาดหายไปในคอ ชะงักกึก
“เอ่อ ..พาณิชย์หลานรัก เมื่อกี้แกชมหรือ ด่าวะ”
“เอ้า ก็ชมสิครับ คุณอา คุณอาเคยสอนผมเองไม่ใช่เหรอครับว่า ถ้าชั่วแล้วได้ตังค์ ก็ทำไปเถอะ”
ธานีค่อยหัวเราะออก เสียงดังก้องห้อง
“ถูกต้อง ! สมบัติของไอ้ศิริมีเป็นร้อยๆ ล้าน ฉันหวังว่าพวกแกคงไม่ปล่อยให้สองพี่น้องนั่นหลุดมือไปนะ”
“ไม่ต้องห่วงน่า ป๊า งานนี้ได้ทั้งเงินทั้งผู้หญิง แถมยังได้กระทืบหน้าศัตรูด้วยการแย่งแฟนมันอีก
“แกหมายถึง ไอ้ดนัยกับชลิตน่ะเหรอ” พาณิชย์ถาม
“หึ หึ สะใจจริงๆ ว่ะ ป่านนี้มันสองคนคงกระอักเลือดตายไปแล้ว”
ธนวัติพูดแล้วมองออกไป ด้วยความสะใจ

วันต่อมา บริเวณทางเข้าฟาร์มแห่งนั้น มีป้ายชื่อหราว่า ”ศิริฟาร์มนมสด” และใกล้ๆ ทางเข้ามีไม้กั้น คอยตรวจรถเข้าออก คล้ายๆ ด่านตรวจ ดนัยกับชลิตขับมอเตอร์ไซด์มาคนละคัน รถดนัยเป็นแบบแมนโครต ส่วนชลิตเป็นเวสป้าสุดเท่ สองหนุ่มมองป้ายก็รู้ว่ามาไม่ผิดที่แน่นอน

ครู่ต่อมาชลิตกับดนัยโดนคนงานหมู่หนึ่ง จับโยนตัวลอยออกมากองอยู่ที่พื้นถนน หน้าด่าน สุภาพตามออกมาไล่ เสียงอย่างเข้ม
“ที่นี่ไม่ใช่รีสอร์ท ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น”
ดนัยขยับตัวลุกขึ้นบอกธุระ
“แต่เรามาพบคุณศิรินะครับ”
“ใช่ เรามีธุระสำคัญจะพูดด้วย” ชลิตว่าตาม
“ไม่ได้นัดล่วงหน้า ก็พบไม่ได้”
สุภาพพูดแล้วหันเดินออกไปยังรถกระบะของตัวเอง ที่จอดอยู่แถวหน้าด่านนั้น
“โอ้ย ทำไมโหดอย่างนี้วะ”
ดนัยมองเห็นลู่ทาง สะกิดบุ้ยใบ้ให้ชลิต รีบไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
สตาร์ทรถทำท่าว่าจะกลับ รถสุภาพเลี้ยวรถเข้าไปที่ด่าน คนงานยกไม้กั้นขึ้น ดนัยกับชลิต รีบเร่งเครื่องตามหลังรถสุภาพเข้าไป คนงานที่พยายามกัน แตกกระเจิงกลัวรถชน
ดนัยกับชลิตขับมอเตอร์ไซค์ ตามหลังรถสุภาพเข้าไปในเขตฟาร์ม แล้วแซงนำหน้าขึ้นไป

สองข้างทางของถนนในศิริฟาร์ม เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สวยงาม สุภาพขับรถไล่ตามหลังดนัยกับชลิต ขับแกล้งไล่จี้ แล้วจังหวะนั้นดนัยกับชลิตขับปาดหน้าสุภาพได้ สุภาพเข่นเขี้ยว เร่งเครื่องไล่ล่า สองฝ่ายผลัดกันขับปาดไปมา
แล้วท้ายสุด สุภาพขับปาดหน้ารถดนัย จนดนัยต้องหักหลบลงไปข้างทาง รถวิ่งเลยลงไปในทุ่งหญ้า ชลิตเลี้ยวขับตามไปด้วย
สุภาพไม่ยอมแพ้ เลี้ยวรถกลับ ขับตามลงไป มอเตอร์ไซค์ชลิตขับตามหลังดนัย ซึ่งขับคู่ขนานไปกับรถกระบะสุภาพที่พยายามไล่ล่า
ดนัยพยายามเร่งเครื่องหนีขึ้นนำ แต่สุภาพเลี้ยวรถปาดไปอีกทางเพื่อไปดักหน้า แล้วพุ่งไปขวางทางรถ ดนัยขับเข้ามากระชั้นชิด เฉียดจะชนกับรถสุภาพไปเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ก็ขี่ผ่านไปได้
แต่รถของชลิตที่ขับตามหลังมา เบรกไม่ทัน ชลิตแหกปากร้องดังลั่น มอเตอร์ไซค์พุ่งเข้าไปปีนกองฟางที่มัดกองขวางทางอยู่ แล้วเหาะลอยตัวเหินขึ้น ข้ามรถกระบะของสุภาพไปได้
มอเตอร์ไซค์ของชลิตลงไปแตะพื้น แล้วขับต่อไปได้สวยงาม ดนัยที่จอดมองเพื่อนอยู่ โล่งอก
“ชลิต ไปเว้ย”
ดนัยร้องบอก สองหนุ่มหล่อกะทัดรัด ขับหนีออกไปอีก สุภาพเข่นเขี้ยว ตะโกนตามไล่หลัง
“เฮ้ย...อย่าเข้าไป”
สุภาพรีบขึ้นรถขับตามไปอีก

ขณะที่ศิริกำลังเดินตรวจงานในฟาร์ม คนงานหมู่หนึ่งที่เข็นรถหญ้า ฟาง ขนของกันอยู่ จังหวะนั้นดนัยกับชลิต ขับมอร์เตอร์ไซค์หนีตาย ,มีรถสุภาพไล่จี้หลัง ยิงปืนเข้ามาบรรดา คนงานแตกกระจาย หนีฮือ รถดนัยแล่นเข้าไปชนกองฟางพลิกล้ม เฉียดฉิวจะชนศิริ
ชลิตตามเข้ามา รถล้มอยู่อีกฟากหนึ่ง ใกล้ๆ กัน สุภาพขับรถตามมาจอด เปิดประตูลงมา คนงานกรูเข้าไปจับตัว ดนัยกับชลิต ดึงตัวมายืนต่อหน้าศิริ
“นาย! พวกมันบุกรุก” สุภาพรีบรายงาน
“นึกว่าใคร พวกอันธพาล พูดไม่รู้เรื่องนี่เอง” ศิริจำสองหนุ่มได้
“คุณลุงครับ พวกผมไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ...” ดนัยบอก
“พวกเรารักลูกสาวคุณลุงจริงๆ ฮะ” ชลิตพูดพร้อมกับหัวเราะ
ศิริหัวเราะเหมือนชอบใจมาก
“แหม ซึ้งมาก...รักจริงหวังปอกลอกใช่มั้ยละ
ชลิตหัวเราะตาม ตอบรับไม่ทันคิด
“ครับ ใช่ครับ คุณลุง”
“ชลิต!!” ดนัยร้องทัก
“เฮ้ย ไม่ใช่ครับ รักจริงหวังแต่งครับ พวกผมหน้าซื่อหัวใจสะอาด ไม่บังอาจหลอกคุณลุ.. เว้ย”
ชลิตยังพูดไม่จบ... ศิริหยิบปืนออกมายิงเปรี้ยงๆ ชลิตดนัยวงแตกกระเจิงพากันวิ่งหนี
“ไอ้พวกกุ๊ยกะล่อน หวังจะเกาะลูกสาวฉันกิน วันนี้พวกแกชะตาขาดแล้ว!”
ศิริตะโกนพร้อมกับไล่ยิงดนัยกับชลิต ไปอีกเปรี้ยงๆ ๆ ชลิตดนัยวิ่งหลบวุ่น แล้วชลิตดึงดนัยให้หนีวิ่งออกไป ศิริกับสุภาพรีบวิ่งไล่ตาม
ชลิตกับดนัยวิ่งหน้าตั้ง ตัดสินใจหนีเข้าไปหลบในโรงโคนม
ศิริถือปืนวิ่งตามเข้ามา แล้วบุ้ยใบ้ให้สุภาพวิ่งไปดักอีกทาง ศิริตามเข้าไปในโรงโคนม จ้องเล็งปืนใส่สองหนุ่ม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
ดนัย ชลิตวิ่งไปจนจะสุดประตูอีกด้าน สุภาพกระโดดเข้ามาดักหน้า
“จะหนีไปไหน”
สุภาพพุ่งเข้ามาจะจับตัวดนัย ดนัยหลบเบี่ยง สุภาพเสียหลัก ถลาเข้าไปหาศิริ ชนกันตูม
ศิริล้มลงไปกองกับพื้น ส่วนสุภาพกระเด็นไปจูบปากวัว!
จังหวะนั้นชลิตกับดนัยก็วิ่งหนีออกไปอีก

ดนัย กับชลิตวิ่งหนีออกมา ที่ลานตรงมุมหนึ่งในฟาร์ม โดยไม่ทันมองว่า มีรถกระบะของทองอินขับเลี้ยวเข้ามาจอดปาดหน้า ทั้งสองกระโดดหลบร้องลั่นพร้อมๆ กัน
“เฮ้ย!!!”
ทองอินเปิดประตูรถลงมา
ทองอิน คนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่บ้านน้ำปด สุขุมน่าเชื่อถือ เป็นตรงเอาเรื่อง เขายังเป็นรุ่นน้องพ่อของดนัยที่ตายไปแล้ว และรุ่นพี่ที่คณะด้วย คอยให้ความช่วยเหลือดนัย
“พี่ทองอิน”
“ดนัย มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ทองอินแปลกใจ จังหวะนั้นศิริ กับสุภาพก็ตามออกมา ไม่ทันฟังใครศิริก็ยิงปืนตูม ทุกคนหลบ แล้วทองอินลุกถามขึ้น
“คุณศิริ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”
“ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไปซะ ฉันจะฆ่าไอ้กะล่อนสองคนนั่น” ศิริเล่นบทโหดหวงลูกสาวนั่นเอง
“คงต้องเกี่ยวแล้วล่ะครับ เพราะดนัยเป็นน้องผมเอง” ทองอินบอก
ศิริยอมลดปืนลง
“ฮึ นายดนัยเป็นน้องป่าไม้ทองอินนี่นะ”
“ครับ ดนัยเรียนคณะเดียวกับผม เรานับถือกันเหมือนพี่น้องจริงๆ คุณศิริมีอะไรก็ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถอะครับ”
“ก็ได้ คราวนี้ผมจะยกให้เพราะเห็นแก่ป่าไม้” ศิริบอก
“แต่ถ้ามีครั้งต่อไป” สุภาพพูดพร้อมทำท่าเชือดคอตาย
“หวังว่านายสองคนจะฟังภาษาคนรู้เรื่อง...อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก”

ดนัยกับชลิตจ๋อยไปเลย

อ่านต่อหน้า 2 วันพรุ่งนี้







หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 2 (ต่อ)

สภาพบ้านของทองอิน เป็นบ้านไม้กึ่งตึกแบบที่เห็นบ้านพักข้าราชการต่างจังหวัด ดูมีฐานะแต่ไม่ได้รวยมากมาย ดนัยกับชลิตตามทองอินมาที่บ้าน ขณะนั้นทองอินยกแก้วน้ำเย็นมา ให้ชลิตกับดนัยดื่ม

“ดีนะฉันแวะไปเยี่ยมคุณศิริพอดี เกือบตายแล้วไหมล่ะ”
“ทำไงได้ล่ะพี่ เราดันไปรักลูกสาวเขานี่”
คำพูดจริงของชลิต ทำให้ทองอินหัวเราะออกมา
“อานุภาพความรักมันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน” ทองอินหันไปทางดนัย “แล้วนายล่ะ ดนัย รักดาหวันมากเท่ากับที่ ชลิตรักฉวีวรรณหรือเปล่า”
ดนัยอึ้ง ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารักดาหวันแบบไหนกันแน่
“เออ ก็...”
“อะไร ถามแค่นี้ ไม่แน่ใจแล้วเหรอ” ทองอินว่า
“เปล่าๆ ผมแค่ไม่แน่ใจว่า เท่าไม่เท่ายังไง ความรักมันเอามาชั่ง ตวง วัดได้ด้วยเหรอ”
จังหวะนั้นเสียงมือถือดนัยดังขึ้น ดนัยกดรับเห็นหน้าดาหวันปรากฏขึ้นบนจอมือถือ
“หวัน ..หวันเป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงดนัยเป็นห่วง

เวลาเดียวกันนั้นภายในห้องนอนฉวีวรรณที่บ้านเชียงใหม่ ดาหวันกำลังพูดกับดนัยบนมือถือ
“พี่ดนัย วันศุกร์นี้เป็นวันหมั้นแล้วนะ”
ดนัยผลุดลุกขึ้น หน้าตากังวลขึ้นมา
“อะไรนะ หวัน”
ชลิตฟังอยู่หน้าตื่น ตกใจไปด้วย
“เฮ้ยย ก็พรุ่งนี้น่ะสิ!!!”
“หวันไม่อยากหมั้นกับพี่พาณิชย์ หวันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว” ดาหวันบอก
“ไม่ต้องกลัวนะ หวัน พี่จะหาทางช่วยหวันเอง” น้ำเสียงของดนัยมุ่งมั่นมากๆ

ฉวีวรรณโมโหที่เห็นและได้ฟังน้องสาวคุยกับดนัย จึงเข้ามาดึงมือถือจากดาหวัน ไปพูดกับดนัย
“ไม่ต้องมายุ่งเลยนะ ฉันกับน้องแก้ปัญหาเองได้”
ดนัยมองดูฉวีวรรณบนมือถือ อย่างระอาใจ
“มันไม่ใช่เวลามาหาเรื่องทะเลาะนะ ฉวีวรรณ”
ชลิตได้ยินก็รีบแทรกเข้ามา หน้าตาตื่น
“หวี ให้เราช่วยอะไร บอกมาเลย”
“งั้นช่วยบอกไอ้คนที่ยืนข้างๆ ชลิตด้วยนะว่า...ไปตายซะ!”
ฉวีวรรณแลบลิ้นใส่ดนัย
ไม่คิดว่าจะเจอมุกนี้ ดนัยผงะ แล้วภาพฉวีวรรณดับไป
“กวนประสาทจริงๆ แกทนอยู่กับยายหวีได้ยังไง ชลิต”
ดนัยหันไปหาชลิต แต่ปรากฏว่า เห็นชลิตวิ่งหายไปทางหนึ่งแวบๆ ดนัยเห็นแล้วร้องตาม
“เฮ้ย ชลิต ไปไหนวะ”

ที่แท้ชลิตวิ่งมาที่ริมสะพานข้ามคลองเล็กๆ แห่งหนึ่งข้างบ้านทอง กำลังระเบิดอารมณ์ ชลิตตะโกนระบายอารมณ์
“อ๊าก... ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย!”
ดนัยวิ่งเข้ามาหยุดมองตรงหนึ่ง เห็นชลิตปีนขอบสะพานทำท่าจะโดด
“ไม่อยากอยู่แล้วโว้ย...”
ดนัยรีบวิ่งเข้ามาดึงตัวชลิต
“ไอ้บ้า แกจะทำอะไร”
“ฉันช่วยอะไรหวีไม่ได้เลย ฉันอยากตาย”
“ไอ้ชลิต ใจเย็น” ดนัยเตือน
“ปล่อย ฉันอยากตาย ได้ยินไหม”
ชลิตคลั่งโวยวาย จะโดดสะพานให้ได้ ดนัยเหลืออด ต่อยหน้าชลิตไปตูมหนึ่ง ชลิตเซไป นิดนึง นิ่งสงบลง
“ถึงแกตายไป มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก เก็บชีวิตแกไว้ช่วยล้มงานหมั้นกันดีกว่า”
ชลิตได้ฟีงก็หูผึ่ง มองหน้าดนัย
“แกพูดอย่างนี้หมายความว่าไง แกมีแผนแล้วเหรอ”
“ใช่ เราต้องพาดาหวันกับฉวีวรรณหนี!” ดนัยพูด
“เออดีนะ พาหนี...” แต่พอนึกได้ดนัยก็หันมาหน้าตื่น “เฮ้ย... ขืนพ่อเค้าแจ้งจับติดคุกหัวโตนะเว้ย”
“หรือแกจะปล่อยให้คนที่แกรักหมั้นกับไอ้ผู้ชายชั่วๆอย่างนั้น”
ชลิตอึ้ง ดนัยตบไหล่ชลิต
“มันไม่มีทางเลือกแล้ว...เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน”
ดนัยพูดอย่างมุ่งมั่น ส่วนชลิตอึ้งๆ แต่ก็ยอมรับ

บรรยากาศหน้าบ้านศิริติดตุงไว้ทั่ว บริเวณบ้าน ที่สนามมีแขกเหรื่อเดินขวักไขว่ ขณะที่ภายในห้อง ฉวีวรรณกำลังกดมือถือหาแจ๋ แต่ไม่ติด
ฉวีวรรณกับดาหวัน อยู่ในชุดหมั้นแบบเจ้านางทางเหนือ มีผ้าไหมผืนสวยพาดไหล่ ติดปิ่นปักไหวๆ บนผมที่ถูกเกล้ามวย แบบเครื่องประดับศรีษะทางเหนือ สองพี่น้อยสวยอยู่ในอาภรณ์คนละสี
“แจ๋นะ แจ๋ มัวทำอะไรอยู่ โทรไปก็ไม่รับ”
ฉวีวรรณเริ่มเม้ง ส่วนดาหวันนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่เตียง
“หวันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินขึ้นหลักประหาร หวันอยากร้องไห้”
ระหว่างนั้นเอง อุ๊บอิ๊บที่มาถึงก่อน ก็เดินเข้ามาเยาะเย้ย
“อุ๊ยต๊ายตาย ชุดสวยจังเลยอ่ะ เสียดายนะที่พี่ดนัยกับพี่ชลิตไม่มีโอกาสได้เห็น”
“อุ๊บอิ๊บ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ออกไปซะ” ฉวีวรรณบอกเสียงขุ่น
“แหม อุ๊บอิ๊บอุตส่าห์มาสมน้ำหน้า เอ๊ย... อวยพรให้นะ” อุ๊บอิ๊บยังไม่หยุดเยาะ
“ถ้ายังปากดี ฉันจะจับเธอโยนบกออกไปเดี๋ยวนี้”
พูดเท่านั้นฉวีวรรณก็พุ่งเข้าไปผลักไหล่จนอุ๊บอิ๊บกระเด็น แล้วโผเข้าไปลากคอดึงออกไป

ดาหวันรีบลุกมาห้ามฉวีวรรณ แจ๋วิ่งเข้ามาในห้องช่วยห้ามดึงอีกแรง อุ๊บอิ๊บตกใจกลัว รีบสะบัดจนหลุดแล้ววิ่งหนีออกไปเลย แจ๋ถอนหายใจอย่างเซ็งกับความเลือดร้อนของเพื่อน
“อะไรกันนักหนาเนี้ย หวีก็ใจเย็นๆ หน่อยซิ”
“ฉันเย็นไม่ลงแล้ว แจ๋ งานที่ฉันบอกให้เธอช่วย เรียบร้อยหรือยังล่ะ” ฉวีวรรณถามแจ๋
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตอนนี้ กิมจิกับบุญทิ้งเตรียมตัวรออยู่แล้ว
แจ๋บอกฉวีวรรณ ดาหวันสนใจอยากรู้ตะหงิดๆ
“อะไรน่ะ พี่หวี พี่แจ๋ มีแผนอะไรกันเหรอ
“รู้แล้วเหยียบเลยนะ ยายหวัน”
“หวันจะรูดซิปปากให้สนิทเลย พี่หวีมีแผนอะไรรีบบอกมาเถอะ”
ดาหวันตะลึง ด้วยความอยากรู้

รถกระบะส่งนมคั้นนั้น เป็นแบบไม่มีหลังคา ติดตราศิริฟาร์มนมสด กระบะด้านหลังบรรทุกกล่องโฟมซ้อนๆ กัน ข้างในใส่นมสดเป็นถุงๆ แล่นมาตามทาง จังหวะนั้นรถก็ชะลอความเร็วแวะจอดข้างทางคนขับวิ่งเข้าป่าไปปัสสาวะ
ชลิตกับดนัยที่แอบอยู่ด้านหลังกระบะ รีบกระโดดลงมา อาศัยจังหวะเหมาะ ดนัยขึ้นประจำที่คนขับ ชลิตนั่งข้าง ออกรถไปเลย ชลิตมีกระเป๋าสะพายข้างด้วยใบหนึ่ง คนขับเดินกลับเข้ามาแล้วตกใจ รถหายไปไหน พอเพ่งมองเห็นรถแล่นไปไกลลิบๆ ร้องโวยวายรีบวิ่งตาม

ขบวนแห่ขันหมากของหมั้น ของ ธนวัติ และพาณิชย์ เคลื่อนขบวนมาที่หน้าบ้านศิริ โดยมีธานี กับอุ๊บอิ๊บ ร่วมเดินอยู่ด้วย เป็นขบวนแบบประเพณีทางเหนือมีตุง รวมทั้งเครื่องทองของหมั้น มีดนตรี สะล้อ ซอ ซึงต่างๆ บรรเลงดนตรีจังหวะสนุกๆ คลอให้นางรำฟ้อนแห่ขบวน
ธนวัติ กับ พาณิชย์ ใส่สูทขาวอย่างเท่ ธานี อุ๊บอิ๊บ ศิริ แต่งสไตล์ไทยประยุกต์ ศิริยืนมองอยู่บนระเบียงบ้าน ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข
จังหวะนั้นธนวัติหันมองสบตา ฉวีวรรณที่ยิ้มกริ่ม ตีหน้าหงิก ใส่ ธนวัติไม่ถือสายิ้มมุมปาก ขยิบตาให้อย่างกวน
ฉวีวรรณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน มีแผนอยู่แล้วภายในใจ
“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวได้สนุกแน่”

เวลาเดียวกันนั้นดนัยขับรถมาถึงบริเวณหน้าด่านทางเข้า สุภาพคุมตรวจรถ เข้าออกอยู่อย่างเข้มงวด โบกให้รถดนัยจอด
“เฮ้ย จอด” สุภาพบอก
ชลิตอยู่ในรถข้างคนขับดนัยออกปาก
“จัดเต็มไปเลยเพื่อน”
ดนัยจัดให้..เร่งเครื่องรถยนต์จะพุ่งไปข้างในฟาร์มอย่างแรง สุภาพหน้าตื่น รถดนัยพุ่งเข้ามา กระโดดหลบแทบไม่ทัน ดนัยขับชนไม้กั้นหัก ผ่าด่านเข้าไปเลย สุภาพโวยวายดังลั่น ชี้มือสั่งให้ลูกน้องตามจับ
“จับมันให้ได้ ไป!”
ศิริเดินลงมารับ ขบวนขันหมากที่หน้าบ้านใบหน้ายิ้มแย้ม ฉวีวรรณ ดาหวัน และแจ๋ตามลงมาด้วยฉวีวรรณแอบกระซิบกับดาหวัน
“พร้อมนะ ยายหวัน”
ดาหวันยกมือโอเคกับฉวีวรรณและแจ๋ “ค่ะ พี่หวี”
แจ๋ดีดนิ้ว “แผนหนึ่งเริ่มได้!”
ธานีเดินยกมือไหว้เข้ามาหาศิริ
“สวัสดีครับ พี่ศิริ วันนี้ฤกษ์งามยามดี จะได้หมั้นหมายลูกสาวพี่เสียที”
“เชิญๆ ข้างในเลยนะครับ”
จังหวะนั้นเอง แจ๋ก็หลิ่วตาให้ฉวีวรรณ เป็นสัญลักษณ์แล้วเริ่มปฏิบัติการณ์ แจ๋แถเข้าไปหาธนวัติ
“เดี๋ยวๆๆ ค่ะ ฝุ่นเปรอะเสื้อพี่วัติ หมดเลย แจ๋เช็ดให้นะคะ”
แจ๋ทำเป็นเอาผ้าเช็ดหน้าปัดๆ เสื้อธนวัติ แล้วทำจมูกฟุดฟิด
“อุ้ย พี่วัติใช้น้ำหอมอะไรค่ะ กลิ่นเหมือนพวกเก้งกวางชอบใช้เลยนะคะ”
“นี่เธอพูดอะไร” ธนวัติงงแกมเม้ง
“เอ้า ก็ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันไงค่ะ พี่วัติ” ฉวีวรรณเสริม
“โห น้องหวีรู้ได้ไง น้ำหอมขวดนี้ เพื่อนเกย์พี่วัติเป็นคนซื้อมาฝากจริงๆด้วย” ธนวัติคุยโอ่
“แม่เจ้า! แน่ใจนะคะว่าเพื่อนไม่ใช่เมีย!
ธนวัติกับพาณิชย์หันขวับ มาตีหน้ายักษ์ เสียงประทัดเป็นตับ แตกปังๆๆ ดังสนั่นหวั่นไหว ตรงท้ายขบวนแห่ ดังขึ้นมาทันที
แขกเกรื่อแตกตื่นวิ่งหนี แตกเป็นทางมองไปเห็น กิมจิ กับบุญทิ้ง ที่เวลานี้แต่งหญิงอย่างงาม เดินฝ่ามาจากท้ายขบวน
บุญทิ้งนั้นดูสวยงามตามท้องเรื่อง ขณะที่กิมจิจะออกแนวกะเทยถึก พยายามแอ๊คท่าเป็นกะเทย เรียกจิกธนวัติ พาณิชย์ แต่ก็ทำไม่เหมือนเพราะเป็นผู้ชายแท้เพิ่งหัดทำกะเทย จึงดูทื่อๆ หลุดๆ ตลอดๆ
“พี่วัติขา...” กิมจิ แถเข้ามา
“พี่พาณิชย์ขา” บุญทิ้งตาม
“ไอเลิฟยู” กิมจิ บุญทิ้ง จิกปลายเท้าโพสท่าเก๋กู้ดส่งจูบพูดออกมาพร้อมกัน
ผู้คนทั้งในขบวน และฝ่ายศิริทั้งหมดหันมามองอย่างฮือฮา
“ใครเอากูปรีกับสมเสร็จมาปล่อยแถวนี้วะ” ธานีพูดอย่างโมโหเดือดดาล
กิมจิ กับ บุญทิ้ง หันมาขยิบตาให้ฉวีวรรณกับแจ๋ ฉวีวรรณยกมือโอเค แล้วทั้งสามสาวก็รีบแอบหนีเข้าบ้านไป เพื่อเก็บของ

กิมจิกับบุญทิ้งเดินมาเกาะธนวัติ กับพาณิชย์คนละคู่ อ้อล้อ ลูบไล้ไปมา กิมจิเล่นกับธนวัติ
“สามีขา จีจี้ไม่ใช่ทิชชู่นะคะ สามีจะได้ใช้แล้วทิ้งๆ ขว้างๆ”
บุญทิ้งอ้อล้อใส่ทางพาณิชย์ โดยยังไม่ทิ้งคราบเป็นกะเทยธรรมะ
“สิทธิ สามินัง สิทธิ ภริยาจัง พวกเรามาทวงสิทธิ์ของภรรยาที่ถูกต้องตามพฤตินัยค่ะ”
ธานีเอามือกุมหัวใจ จะเป็นลม เรอออกมา
“เอิ๊ก แน่น เอิ๊ก หายใจไม่ออก”
ศิริรีบประคอง หน้าตาตื่น
“ธานี เฮ้ยย ใจเย็นๆ”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ธนวัติกับพาณิชย์อึ้งมึน ที่ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด

บริเวณลานหลังบ้านศิริ ลานนี้อยู่ใต้ระเบียงห้องฉวีวรรณพอดี และสามารถโยนกระเป๋าลงมาที่รถได้ ดนัยขับรถส่งนมเข้ามาจอดเทียบ ข้างๆ รถแจ๋ ซึ่งเป็นรถจิ๊ป ไม่มีหลังคา ทั้งสองเปิดประตูรถออกมา ดนัยหันบอกชลิตให้รออยู่ที่รถ
“แกดูต้นทางไว้นะ ชลิต”
ชลิตรับคำ ดนัยรีบเดินเข้าประตูหลังบ้านไป

ทางด้านฉวีวรรณกับแจ๋ช่วยกันยกกระเป๋าเสื้อผ้าจะไป แล้วเหลียวไปต่อว่า ดาหวันที่ยกมือถือมากดส่งข้อความ กระเป๋าฉวีวรรณกับดาหวันเป็นกระเป๋าเดินทาง แบบเดียวสีเดียวกันทั้งสองใบ
“นี่ยายหวัน ขนกระเป๋าแกออกมาได้แล้ว” ฉวีวรรณว่า
“เดี๋ยวๆ ขอหวันส่งข้อความบอกพี่ดนัยก่อน” ดาหวันบอก
ฉวีวรรณได้ฟังชะงักกึก กระแทกกระเป๋าลงไปบนเท้าของแจ๋ พอดี แจ๋ร้องอย่างเจ็บ
“อู้ยๆๆๆ โดนเล็บขบซะด้วย!”
ฉวีวรรณตรงเข้าไปที่ดาหวัน ดึงมือถือดาหวันไป
“ไม่ได้ ฉันไม่อนุญาตให้แกเปิดเผยแผนการหนีของเราให้ ไอ้ดนัยรู้”
ฉวีวรรณจะปามือถือ ดาหวันรีบแย่งคืน
“อย่านะพี่หวี” ดาหวันดึงคืนมาได้ “พี่หวีเป็นอะไรมากมั้ยเนี้ย พี่ดนัยเป็นแฟนหวันนะ”
“ฉันมีปัญญาช่วยแกได้ ไม่ต้องพึ่งพาไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นหรอก” ฉวีวรรณฉวยมือถือจากมือดาหวัน “ไป เราจะหนีไปกับแจ๋”

ระหว่างนั้น ดนัยวิ่งขึ้นบันไดมา เหลียวซ้ายแลขวาว่าจะเดินไปห้องไหนดี ดนัยชี้ไปทางหนึ่ง เดินลิ่วเข้าไปเปิดประตูห้องๆ หนึ่ง ขณะที่ดนัยจะเปิดประตูห้องเข้าไป เป็นจังเดียวกับที่ประตูห้องฉวีวรรณเปิดออก แจ๋โผล่ออกมาโบกมือให้ฉวีวรรณกับดาหวันยกกระเป๋าใบหนึ่งตามมา
สามสาวได้ยินเสียงประตูห้องที่ดนัยเข้าไปดังกึกกัก สามสาวชะงักหน้าตื่น ดนัยเปิดประตูออกมา หน้ายังไม่ได้มองดู ดาหวันดีใจอ้าปากจะเรียกดนัย ฉวีวรรณรีบตะปบปากดาหวันทันควัน
“พะ...” ดาหวันโดนฉวีวรรณตะปบปาก
กุญแจรถร่วงที่พื้น ดนัยรีบก้มลงเก็บเลยยังไม่เห็นสามสาว แจ๋กับฉวีวรรณ หน้าตื่น รีบทั้งดันทั้งลากตัวดาหวันกลับเข้าห้อง ปิดประตู ทั้งหมดตื่นตะลึงที่เห็นดนัยอยู่บนเรือน
“ไอ้ดนัยปากมอม มันมาได้ยังไง” ฉวีวรรณเอ่ยขึ้น ครุ่นคิด
“อิอิ ...ความรักนำทางไงล่ะ พี่หวี”
ฉวีวรรณกับแจ๋ฟังดาหวัน สองสาวทำท่าอาเจียนพร้อมกัน
“แหวะ...”
“ยังจะมาน้ำเน่าอีก ...มันจะเอาความซวยมาให้ แกรู้บ้างมั้ย!”

ที่หน้าห้อง ดนัยจะเดินลงบันไดแล้วชะงักกึก หันไปเห็นกระเป๋าเดินทางวางอยู่
“ใครเอากระเป๋าเดินทางมาวางแถวนี้” ดนัยถามตัวเอง
ดนัยเหลือบมองไปแล้วเห็นชายเสื้อของแจ๋ ที่ทับติดอยู่กับประตูแลบออกมา ดนัยมองที่ประตูห้อง อมยิ้มอย่างมีแผน ว่าแล้วก็ทำท่าป้องปากตะโกนขึ้น เพื่อให้พวกข้างในได้ยิน
“ฮัลโหล ชลิตเหรอ ฉันหาหวันกับหวีไม่เจอเลยว่ะ” ดนัยป้องปากยิ้มๆ
ในห้องเวลานั้น แจ๋ ฉวีวรรณ ดาหวัน แนบหูฟังกับประตูเรียงกันเป็นแถว
“ฉันว่าเรากลับกันเถอะ ฉันจะรีบลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” ดนัยแกล้งพูดต่อ  
ครู่ต่อมาทุกอย่างก็เงียบสงัด แจ๋รีบหันมาบอกทุกคน
“มันไปแล้ว” แจ๋บอก

ไม่นานหลังจากนั้นแจ๋ก็เปิดประตูห้องออกมา ฉวีวรรณกับดาหวันตามมาติดๆ ฉวีวรรณเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นดนัยก็กระหยิ่มยิ้มย่อง
“โธ่ นึกว่าจะแน่ กลับไปกินหญ้าซะเถอะ ไอ้ดนัยซื้อบื้อ”
โดยหารู่ไม่ว่า ดนัยยืนหลบอยู่หลังประตู พอแจ๋เปิดออกมาเลยปิดดนัยไว้ จังหวะนั้น ดนัยผลักบานประตูที่ปิดออกมาดังผ่าง
“พอดีฉันไม่ใช่ควายเสียด้วยสิ ยายหวีปากเน่า!”
ฉวีวรรณ แจ๋ ตกใจ ส่วนดาหวันเนื้อเต้นดีใจสุดขีดรีบสะบัดแขนพี่สาวเข้าไปเกาะแขนดนัย
“ว้าย... ดนัย” แจ๋ตกใจ
“พี่ดนัย” ดาหวันดีใจ
“แก! นี่แกหลอกฉันอีกแล้วเหรอ” ฉวีวรรณโมโหที่หลงกลดนัยอีก
“ช่วยไม่ได้ คนมันฉลาดน่ะ” หันไปพูดกับดาหวัน “ไปหวัน เราไม่มีเวลาแล้ว”
ดนัยฉวยแขนดาหวันจะพาเดินออกไป ฉวีวรรณรีบเข้าไป ดึงดาหวัน ฉุดเข้าไปในห้องเลย
“ฉันไม่ให้ไป”
“อ๊อย พี่หวี” ดาหวันร้อง
ดนัยตามเข้าไปในห้อง
“ยายป้าหวี หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
แจ๋รีบลากกระเป๋าทุลักทุเลตามเข้าห้องไปด้วย

หน้าบ้านศิริเวลาเดียวกันนั้น กิมจิ และบุญทิ้ง ต่างพากันเกาะธนวัติ กับพาณิชย์ อ้อล้อถ่วงเวลาให้เพื่อนๆ ด้านบนบ้าน 
“จีจี้ไม่ย้อมไม่ยอมนะคะ พี่วัติจะหมั้นกับชะนีหน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” กิมจิในร่างจีจี้โวย
บุญทิ้งยังเจ้าธรรมะอยู่
“มุสาวาทาเวระมณี พี่พาณิชย์ อย่าโกหกเลยนะคะ บอกความจริงไปเถอะค่ะว่า พี่เป็นเกย์”
ธานีฟังแล้วอยากจะร้องไห้
“ฉันอยากจะกริ๊ดเป็นภาษาใบ้ พวกแกเก็บงำสะใภ้ข้ามเพศนี่ไว้นานเท่าไรแล้ว”
“คุณพ่อน่ารักอ่ะ คุณพ่อยอมรับจีจี้ด้วยอ่ะ พี่วัติขา”
กิมจิ โน้มหน้าจะจูบแก้มธนวัติ ธนวัติจะสุดทน ต่อยตูมเข้าคางกิมจิ กระเด็นไปชนบุญทิ้ง สองสาวข้ามเพศล้มระเนระนาด ไปอยู่แถวๆ อุ๊บอิ๊บ
“ทนไม่ไหวแล้วโว้ยย ไอ้ไส้เดือนสองตัวนี่เป็นใคร”
จังหวะนั้นอุ๊บอิ๊บก็ดึงวิกกิมจิขึ้นมา แล้วชี้หน้าจำได้
“ตายแล้ว! นี่มัน กิมจิ กับ บุญทิ้ง!” อุ๊บอิ๊บเรียกหันไปบอกคนอื่นๆ “พวกเราโดนหลอกแล้วค่ะ!”
ธนวัติเข้าไปกระชากคอกิมจิ ต่อยกลิ้ง
“ไอ้ผักดอง แกตาย”
พาณิชย์เดือด กำหมัดปรี่เข้ามาต่อยบุญทิ้ง
“ไอ้บุญทิ้ง! เอาชีวิตมาทิ้งแท้ๆ”
พาณิชย์ซ้อมแล้วถีบบุญทิ้งจนเซถลาไปกอดอุ๊บอิ๊บ โดยไม่ทันระวังตัวอุ๊บอิ๊บตกใจกรี๊ดลั่น แล้วตบบุญทิ้งล้มคว่ำ แน่นิ่งไปตรงหน้า
ธนวัติจะต่อยกิมจิ ไอ้หนุ่มบอยแบนด์รีบยกพานของหมั้นขว้างใส่ ธนวัติยกมือปัดป้อง ข้าวของกระจาย แต่พอกิมจิหันจะวิ่งหนี เจอ ธานี กับ ศิริดักหน้า
“จะหนีไปไหน” ธานีถาม
“อยู่ดีไม่ว่าดีนะพวกนาย มาก่อเรื่องบ้าบออย่างนี้ทำไม”
“ผมบอกไม่ได้หรอกฮะ หวีสั่งว่าเป็นความลับ” กิมจิกลัวจนหลุดปาก
“อะไรนะ! ยายหวีเหรอ!!”
ศิริร้องลั่น จนกิมจิตกใจ
“เปล่านะ ผมไม่ได้พูดว่าหวีเป็นคนวางแผน” กิมจิสะดุ้งที่เผลอหลุด “เฮ้ย!แย่แล้ว”
กิมจิหันจะหนีไปแจ้งข่าว แต่เจอธนวัติขวาง แล้วปล่อยหมัดเข้าหน้ากิมจิเต็มๆ กิมจิร่วงลงไปสลบคาที่

ภายในห้องเวลานั้นดนัยกับฉวีวรรณ ดึงแขนดาหวันไปมา ต่างคนต่างไม่ยอมกัน
“หวันมานี่” ดนัยดึงดาหวัน
“หวันอยู่กับพี่” ฉวีวรรณดึงน้องคืน
“ไป หวัน” ดนัยดึงกลับ
“ไม่ให้ไปเว้ย” ฉวีวรรณดึงน้องสาวคืน
แจ๋รำคาญทนไม่ไหวโวยขึ้นมากลางวง
“โอ้ย...นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นชักคะเย่อ พอได้แล้ว”
จู่ๆ ฉวีวรรณก็เกิดขาผลิก จนเซล้ม ดนัยได้โอกาสเลยรีบฉุดดาหวันออกไปเลย ฉวีวรรณตาม
“ยายหวัน กลับมาเดี๋ยวนี้”

บริเวณทางเดินชั้นบนของบ้าน ดนัยจูงดาหวันวิ่งหนี แต่ถูกฉวีวรรณที่วิ่งไล่ จนฉวีวรรณไล่มาทันเข้าไปดึงไหล่ดนัยไว้
“หยุดนะ”
จังหวะนั้นชลิตเห็นดนัยหายไป จึงตามขึ้นมาปรี่มาหา
“มัวทำอะไรกันอยู่”
นาทีนั้นฉวีวรรณไม่สนหน้าไหน เธอผลักดนัยไปอีกทาง ดาหวันร้องกรี๊ดกร๊าด
“ฉันไม่ให้หวันไปกับนายเด็ดขาด!”
“เธอจะบ้าแล้วเหรอ” ดนัยว่า
“เออ สิ เดี๋ยวจะบ้าให้ดู”
ว่าแล้วฉวีวรรณก็วิ่งไปชะโงกหน้าที่หน้าต่าง ตะโกนเรียกพ่อ

“พ่อ พ่อ ช่วยด้วย หวันโดนฉุด!”

อ่านต่อวันพรุ่งนี้







หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 2 (ต่อ)

เสียงร้องตะโกนของฉวีวรรณ ทำเอาศิริ ธานี ธนวัติ และพาณิชย์ ทุกคนพากันเงยหน้าไปมอง ฉวีวรรณที่โผล่มาทางหน้าต่างเป็นตาเดียว

“นั่น ผมนึกอยู่แล้ว หนูหวีหนูหวันไม่มีทางทำให้พ่อขายหน้าหรอก มันต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
ฟังธานีพูดศิริโกรธเอาเรื่อง
“พวกมันรนหาที่ตายแล้ว!
ศิริก้าวเท้าออกไปหน่อย กิมจิที่สลบอยู่ข้างๆ ยกมือขึ้นรวบขาศิริ หมับไม่ยอมให้ไป พอธานีจะวิ่งไปเหมือนกัน แต่โดนบุญทิ้งล็อกตัวไว้ จึงมีแต่ธนวัติ กับ พาณิชย์เท่านั้นที่วิ่งรี่ เข้าไปในตัวบ้านได้
สุภาพวิ่งหน้าตื่นมาจากมุมหนึ่ง เข้ามาฟ้องศิริ
“นาย นาย ไอ้เด็กสองคนนั่นมันฝ่าด่านเข้ามาแล้วครับ”
“รู้แล้วเว้ย แงะไอ้มือกาวนี่ออกก่อน” ศิริหมายถึงกิมจิ ที่ทุ่มเทรั้งขาไว้แน่น

บริเวณทางเดินชั้นบนของบ้าน ชลิตรีบวิ่งเข้าไปดึงตัวฉวีวรรณ
“หวี บรรลัยแล้ว ไปเร็ว!”
ชลิตรีบดึงมือฉวีวรรณให้ไป แต่ฉวีวรรณยังดื้อยื้อไว้ไม่ยอมไปด้วย
“ไม่ หวีจะไปกับแจ๋ ปล่อยหวี”
“หวีไปเหอะ แจ๋ไหว้ละ”
ดนัยรีบฉุดดาหวันจะลงบันได จังหวะนั้นธนวัติ กับพาณิชย์สวนขึ้นมา
“ไอ้ดนัย!”
ดนัยไวกว่าถีบตูมเข้าให้ ธนวัติหงายหลัง พาณิชย์สวนขึ้นมา ต่อยดนัยล้มกลิ้ง ไปต่อหน้าสาวๆ ที่เวลานั้นเอาแต่กรี๊ด
ชลิตรีบผละจากฉวีวรรณไปสู้กับพาณิชย์ ด้านธนวัตพอตั้งตัวได้ เข้ามาสู้กับดนัยทั้งเตะทั้งต่อย จังหวะหนึ่งธนวัติถีบดนัยล้มกลิ้ง แล้วจะเข้าไปซ้ำ
ดาหวันรีบหยิบโคมไฟตั้งโต๊ะใกล้มือทุ่มใส่ศรีษะธนวัติ จนธนวัติทรุดล้มลงสลบไป
ส่วนชลิตสู้กับพาณิชย์ต่อ ชลิตหลอกล่อเบี่ยงหลบซ้ายสลับขวาขวา แล้วซัดพาณิชย์จนเซไปตรงหน้าแจ๋
ไวเท่าความคิดแจ๋ยกเข่าเข้าเป้าพาณิชย์ผ่าหมาก พาณิชย์หน้าเสีย งอก่องอขิงล้มไปกองกับพื้นอย่างเจ็บ
“แจ๋แจ๋วที่สุด” แจ๋เช็ดจมูกตัวเอง ในท่าเดียวกับบรู๊ซ ลีจากหนังกังฟูเรื่องโปรด

จังหวะนั้นเสียงศิริ ธานี สุภาพ ก็ดังลอดขึ้นมาจากข้างล่าง
“เฮ้ยย แยกย้ายกันหา จับตัวมันให้ได้” ศิริร้องอย่างเดือดดาล
จู่ๆ ฉวีวรรณก็ตะโกนขึ้นมา
“พ่อ พ่อช่วยด้วย”
ทุกคนที่เหลือหน้าเครียด ดนัยรีบบอกให้ทุกคนถอยกลับเข้าห้อง
“ถอยก่อน มาทางนี้!”

ทั้งหมดเข้ามาในห้อง แจ๋รีบปิดล็อกประตูห้อง แล้วสั่งการให้ สองหนุ่มยกกระเป๋า เพราะแจ๋จับตัวฉวีวรรณที่พยายามดิ้นหนี
“กระเป๋าๆ เอากระเป๋าไปก่อน” แจ๋บอกระหว่างที่ดนัยกับชลิตยกกระเป๋า
ชลิต กับดนัยช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางของดาหวัน เดินออกระเบียงไป โยนลงที่หลังรถส่งนมพอดี
“ปล่อยฉันนะ! พ่อช่วยด้วย พ่อ” ฉวีวรรณ ยังคงออกฤทธิ์

ขณะที่หน้าห้อง ศิริ ธานี และสุภาพวิ่งเข้ามา ศิริจับลูกบิดเห็นติดล็อก ทุบประตูรัวเรียก
“ยายหวี ยายหวัน เฮ้ยย เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ สุภาพ เอากุญแจมา!”

ที่ระเบียงห้อง ดนัยกับชลิตช่วยกันยกกระเป๋าฉวีวรรณ โยนลงไปที่รถแจ๋ ฉวีวรรณสะบัดวิ่งตามมาที่ระเบียง,แจ๋ตามมาด้วย
“ใครบอกว่าฉันจะไป เอากระเป๋าคืนมา”
เห็นฉวีวรรณโวยวาย ดาหวันหน้ายุ่งเริ่มกังวล
“พี่ดนัยหวันไม่ไปแล้วล่ะ หวันไม่อยากให้พี่เดือดร้อน”
“มาถึงขั้นนี้แล้วห้ามเปลี่ยนใจ” ดนัยบอก
“ถูกต้อง”
ชลิตพูดจบก็หยิบถุงกระสอบออกมาจากกระเป๋าสะพาย โยนให้ดนัย1 ใบ ชลิตเอากระสอบคลุมตัวฉวีวรรณทันที ฉวีวรรณร้องกรี๊ดเสียงดัง ดนัยเอากระสอบคลุมตัวดาหวันเหมือนกัน ดาหวันร้องลั่น“อ๊าย...”

ส่วนที่หน้าห้องเวลานั้น สุภาพกำลังเอากุญแจเป็นพวงๆ ไขประตูอยู่..อย่างลนลาน เพราะไม่รู้ดอกไหนโดยมีศิริสั่งการอยู่ข้างๆ อย่างร้อนรน
“ให้ไวๆ ลูกสาวข้าโดนฉุดนะเว้ย ขืนชักช้าเอ็งจะโดนเตะ”
“ทราบคร๊าบ นายคร๊าบ เร่งจนมือสั่นไปหมดแล้ว”
เสียงกลอนประตูคลิกปลดล็อกดังขึ้น ทั้งหมดตาโต ศิริรีบเปิดประตูเข้าไป
“เยี่ยมยอด บุกเข้าไปเลย!” ธานีบอก
ประตูห้องเปิดออก ศิรินำหน้าเข้ามา ธานี กับสุภาพตามหลัง
“ยายหวี ยายหวัน พ่อมาช่วยแล้ว”
สาวๆ ทุกคนตกใจ กรี๊ดลั่น
ดาหวันกับฉวีวรรณที่โดนคลุมกระสอบ ตกใจ วิ่งพล่านสลับที่กัน โดยที่ดนัยกับชลิตไม่ทันมอง
“ปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้”
ศิริพูดเสียงขุ่น พร้อมกันนั้นพรรคพวกจะพุ่งเข้าไป บุญทิ้งกับกิมจิ วิ่งเข้าประตูมาพร้อมถังดับเพลิงในมือ
“หยุดเถอะลุง!”
ทั้งสามหันกลับไป กิมจิ ฉีดน้ำยาดับเพลิงใส่ทั้งหมดทันที ทั้งสามคนเนื้อตัวขาวโพลน หน้าบอกบุญไม่รับ แจ๋รีบหันบอกดนัย ชลิต
“หน่วยเหนือมาช่วยแล้ว ...รีบหนีไป!”
ดนัยรีบแบกคนที่อยู่ตรงหน้าขึ้นบ่า โดยคิดว่าเป็นดาหวัน ซึ่งที่แท้เป็นฉวีวรรณ อุ้มเดินไปตามทางเลียบระเบียง
ชลิตก็แบกคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเองคิดว่าเป็นฉวีวรรณ แต่จริงๆ เป็นดาหวัน แบกขึ้นบ่าตามดนัยไปติดๆ
สุภาพ กับ ธานี กำหมัดเข้าไปซัด กิมจิ กับบุญทิ้ง ชุลมุน
“สกปรกไม่ว่า อย่ามาเรียกข้าว่าลุง” ธานีบอก
สุภาพออกลีลาซ้อม “โดนซะบ้างๆ”
แต่ศิริรีบวิ่งเข้ามาที่ระเบียง แจ๋รีบปิดประตูระเบียงกันไว้ พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดลั่น ออกอาการลุ้นมากๆ
ศิริหัวโขกกระจก ชักสีหน้าเจ็บ
“ประทานโทษนะคะ คุณพ่อ แจ๋ไม่ได้มีเจตนา” แจ๋พูดกับศิริ แล้วหันกลับไปตะโกนตามหลังดนัย “ไปเลย ๆ หนีไปให้ไกลๆ”
ศิริโมโห พยายามดันประตูระเบียงออกไป แต่แจ๋กันไว้เต็มที่

บ้านของศิริมีบันไดวนต่อจากระเบียงลงมาที่ลานหลังบ้าน ดนัยแบกฉวีวรรณที่คลุมกระสอบ ร้องดิ้นๆ ลงบันไดมา ชลิตแบกดาหวันที่คลุมกระสอบตามหลัง ลงบันไดมาด้วย ในที่สุดดนัยก็แบกฉวีวรรณที่คลุมกระสอบขึ้นรถส่งนม ซึ่งเป็นจังหวะที่ศิริผลักประตูระเบียงออกมาจนได้ แจ๋ทานกำลังไม่ไหว กระเด็นเซไป ศิริพุ่งมาติดริมระเบียง ตะโกนห้าม
“เฮ้ย อย่าหนีนะ”
ดนัยไม่สนใจ ปิดประตูปัง วิ่งไปที่นั่งคนขับ

เวลานั้นธานีวิ่งตามออกมาที่ระเบียง สุภาพตามหลัง แต่โดนกิมจิ กับบุญทิ้ง ที่หน้าตาบวมปูด เกาะล็อก
เป็นปลิง พยายามรั้งสุดชีวิต ออกมาด้วย
“ปล่อยคุณหนูซะ หยุดได้แล้ว” สุภาพตะโกนบอกดนัย
“พูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง มันก็ต้องพูดด้วยไอ้นี่... “
ธานีหยิบปืนจากเอวออกมา เล็งยิงไปปังๆๆ กิมจิ บุญทิ้ง และแจ๋ ร้องลั่นหลบไปกองอยู่ด้วยกัน ชลิตแบกดาหวัน วิ่งหลบกระสุนไปที่รถแจ๋ แล้วเลยเอาดาหวันขึ้นรถแจ๋ไปเลย ดนัยเห็นท่าไม่ดี รีบออกรถไปก่อน ศิริรีบห้ามธานี
“อย่ายิงๆ เดี๋ยวถูกลูกสาวฉัน”
แจ๋โบกมือ บ๊ายบาย
“โชคดีนะ ดนัย”
“สาธุ..ซิ่งไปเลยนะครับ”
สุภาพหันมาปาดปากบุญทิ้งขณะพูด
“ทะลึ่ง! มันต้องจับตัวให้ได้ซิ ไม่ใช่ไปเชียร์ให้มันหนี”

เหตุการณ์ด้านล่างของบ้าน อุ๊บอิ๊บวิ่งนำหน้าออกมา ธนวัติ กับ พาณิชย์ตามหลังมาพร้อมคนงานสองสามคน
“พี่ดนัยอยู่ไหน พี่ดนัยรอ อุ๊บอิ๊บก่อน”
ธนวัติรีบคว้าตัวอุ๊บอิ๊บไว้
“อย่ายุ่ง...” ชลิตหันมาสั่งสมุน “จับมัน!”
คนงานกรูเข้าไปจะจับชลิต
“ปล่อยนะ พี่วัติ อุ๊บอิ๊บจะไปหาพี่ดนัย” อุ๊บอิ๊บโวยวายลั่น

จังหวะนั้นชลิตเร่งเครื่องรถพุ่งแรงเข้ามาจะชนคนงาน จนคนงานกระจายไปคนละทาง ชลิตถอยรถสุดแรง แล้วรีบออกรถ ซิ่งออกไปอีกราย พาณิชย์แค้นวิ่งออกไปตะโกนด่า
“โธ่เว้ย ให้มันหนีไปได้ยังไงวะ”
ศิริ คั่งแค้นอย่างหนัก สั่งการอยู่บนบ้าน
“สั่งทุกหน่วยทุกคน สกัดรถส่งนม รถแจ๋ จับตัวมันมาให้ได้!”

เวลาต่อมาดนัยขับรถส่งนม มาตามทาง ฉวีวรรณที่อยู่ในกระสอบร้องอู้อี้ๆ พยายามดึงกระสอบขึ้น
“อยู่เฉยๆ ก่อนได้ไหม หวัน เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
ฉวีวรรณพูดเสียงอู้อี้ “ฉันไม่ใช่หวัน”
ดนัยไม่ได้สนใจฟัง มองเห็นข้างหน้าตาลุก
“เฮ้ย อะไรนะ”
จังหวะนั้นดนัย เห็นขบวนรถส่งนม 4-5 คัน ขับสวนเข้ามา ธนวัติอยู่บนหลังรถคันหนึ่ง ยืนจังก้าประทับปืนในท่าอย่างเท่ๆ เล็งแล้วยิงปืนใส่รถของดนัย
“ปังๆ”
ดนัยขับหลบกระสุน ฉวีวรรณ ร้องกริ๊ด... ดนัยตัดสินใจรีบเลี้ยวรถเข้าไปในถนนอีกสาย ระยะกระชั้น
มีเพียงรถของธนวัติที่เลี้ยวตามไปทัน ส่วนคันอื่นขับเลยไป
ธนวัติยังขับไล่หลังดนัยแบบไล่ล่า ยิงไม่นับ ไม่ยั้ง
“ไอ้ธนวัติ...จะสู้มันยังไง ปืนก็ไม่มี” ดนัยพูดกับตัวเอง
ธนวัติยิงมาอีก รถดนัยส่ายไปมา ฉวีวรรณเอาแต่กรี๊ด แล้วจังหวะนั้นเท้าก็ไปแตะเหยียบอะไรบางอย่างที่พื้นรถ ฉวีวรรณพยายามก้มลงไปหยิบขึ้นมาได้ ที่แท้มันเป็น ไม้หนังสติ๊ก
“อะไรน่ะ หวัน” ดนัยหันมองดู “ฮึ หนังสติ๊ก!!”
“โชคดีที่มันตกอยู่ในรถ” ยื่นไปทางดนัย “อะ เอาไป”
“เฮ้ย อะไรของเธอ”
“ตอนเด็กๆ นายเป็นแชมป์ยิงหนังสติ๊กไม่ใช่เหรอ จัดการมันเลยสิ ดนัย...”
ดนัยอึ้งไป

รถดนัยแล่นห่างออกไป แล้วจู่ๆ ดนัยก็เบรกเอื้ยดกลางถนน ดนัยเปิดประตูรถออกมา พร้อมหนังสติ๊กในมือ ยืนอยู่ท้ายรถ หันหน้าไปที่รถธนวัติที่แล่นเข้ามา จังหวะนั้นเองดนัยเก็บก้อนดินที่พื้นขึ้นมา โยนในมือแล้ว ตั้งท่าเตรียมยิง
ธนวัติยิ้มกริ่ม เล็งปืนยิงดนัยปังๆ กระสุนแฉลบไม่โดน ดนัยยิงหนังสติ๊กออกไป ลูกดินพุ่งไปเข้ากลางแสกหน้าธนวัติล้มทั้งยืน ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
คนขับรถตกใจ รถพุ่งเข้ามาหาดนัย แล้วเบรกเอี๊ยดตรงหน้า เฉียดไปไม่กี่คืบ ดนัยจ้องตาอย่างไม่กลัวเกรง ขึ้นหนังสติ๊ก เล็งยิงไปที่คนขับ
คนขับตาเหลือก แล้วรีบเหยียบถอยหลัง ขับหนีหายไปเลย ดนัยยิ้ม แล้วหันกลับไปที่รถ เปิดประตูฝั่งฉวีวรรณ
“ขอบใจนะ หวัน”
ดนัยดึงกระสอบออกจากตัวฉวีวรรณ แล้วตะลึง ตกใจ
“ยายป้าหวี!!!
“เป็นฉันแล้วทำไม...จะเอาคำขอบใจคืนเหรอ”
ฉวีวรรณบอก ดนัยอึ้งใบ้กิน พูดไม่ออก

บนถนนอีกด้าน รถจิ๊ปคันหนึ่งแล่นทะยานตามมาด้วยความเร็วสูง รถมอเตอร์ไซค์เท่ๆ อีกคันซึ่งมีพาณิชย์ซ้อนท้าย มาดักรออยู่ เลี้ยวออกจากถนนแยก ขับตามรถชลิตไป ด้วยความเร็วเช่นกัน เวลานั้นดาหวันที่อยู่ในกระสอบดิ้นขลุกขลัก
“ปล่อยฉันนะ”
“โอ้ย กินนกหวีดเข้าไปเหรอ หวี เสียงแหลมเป็นยายหวันตัวแสบเชียว” ชลิตยังไม่รู้ว่าดาหวัน
จังหวะนั้นรถมอเตอร์ไซค์ของพาณิชย์ ก็ตีคู่ขึ้นมาฝั่งทางด้านดาหวัน พาณิชย์ยกปืนจะยิง ชลิตตะโกนลั่น ให้หมอบ
“เฮ้ย หมอบ”
ดาหวันก้มลงซุกกับพื้นรถ ร้องกรี๊ด
พาณิชย์ยิงพลาดกระสุนทะลุกระจกหน้าเป็น รู ลูกปืน ชลิตรีบเร่งรถ ปาดหน้ามอเตอร์ไซค์
“หวีอย่าลุก หลบไป!”
มอเตอร์ไซค์พาณิชย์ปาดแซงมาทางฝั่งชลิต พาณิชย์ยกปืนจะยิงอีก จังหวะจะลั่นไก จู่กระสอบที่คลุมดาหวันอยู่ ก็ลอยมาจากรถจิ๊ป ไปปะหน้า คนขับมอเตอร์ไซค์ จนทำให้เสียหลัก เลี้ยวไปตกคูข้างทาง ร่างของพาณิชย์กระเด็นไปอีกมุมหนึ่ง มอเตอร์ไซค์ระเบิด ไฟลุกท่วม
ชลิตมองเห็นจากกระจกหลัง ยิ้มสะใจ
“หึหึ กระสอบของหวีนี่ เด็ดจริงๆ ขอบใจมากเลยนะที่ช่วยเรา”
ชลิตหันไปหา แล้วกลับต้องตกใจ ตาลุกวาว เพราะเจอดาหวันทำหน้าเบ้ แสยะปากกวนใส่
“เฮ้ย... ยายตัวแสบบ!”
ชลิตรีบเบรกรถเอี๊ยด ดาหวันไม่ทันระวัง แทบหน้าคะมำ
“เบรกมาได้ ผิดหวังมากเหรอที่เป็นหวันน่ะ”
“ไม่จริง มันต้องเป็นหวีสิ ฉันจับมากับมือ” ชลิตยังไม่อยากเชื่อ
“ใครใช้ให้จับผิดตัวล่ะลุง..” ดาหวันเยาะ
อารมณ์ชลิตเวลานี้อยู่ในโหมดเซ็งๆ
“เธอเงียบๆ ไปเลยดีกว่า”
“ทำไม ถ้าหวันจะพูดหวันก็จะพูด เป็นหวันแล้วมันยังไง”
“ก็ซวยนะสิ ถามได้”
ดาหวันกรี๊ดลั่น อยากจะฆ่าชลิต เข้าไปทุบเนื้อตัวชลิตพัลวัน รัวไม่ยั้ง
“อีตาบ้าหน้านกฮูก”
แต่แล้วจังหวะหนึ่ง รถก็กระแทกดึงดาหวันมาปะทะอกชลิตโดยไม่ตั้งใจ ทั้งสองมองหน้ากันอึ้ง
เสียงมือถือของชลิตดังขึ้น ขัดจังหวะพอดี ชลิตตาลุกหน้าหวานๆของฉวีวรรณลอยมา ยกมือถือขึ้นมารับสาย
“ฮัลโหล ดนัย หวีอยู่กับแกใช่มั้ยวะ” ดนัยรีบถามขึ้นมา
เวลาเดียวกันนั้นฉวีวรรณเอาแต่ร้องโวยวาย จะลงอยู่ ตลอดเวลา ดนัยพูดมือถือกับชลิต ขับรถอยู่ไปอย่างเอือมระอาใจ
“ปล่อยฉันนะ ฉันจะลง! ปล่อย...”
“ได้ยินเสียงแสบแก้วหูของแฟนนายแล้วใช่มั้ย ฉันกราบเลยเอ้า ช่วยมารับตัวยายป้านี่ไปที” ดนัยว่า
“ฉันอยากส่งคืนยายเด็กปากกรรไกรให้แกเหมือนกัน” ชลิตนึกขึ้นมาได้ “เอางี้ เรามาแลกเปลี่ยนตัวประกัน ที่บ้านพี่ทองอินดีมั้ย” ชลิตคุยมือถือในรถ
“ตกลงตามนั้น แล้วเจอกัน”
ดนัยกดปิดมือถือ ฉวีวรรณแว้ดใส่ทันที ทั้งคู่เปิดฉากทะเลาะกันอีกยก
“ใครบอกว่าฉันจะไปกับนาย ...จอดรถเดี๋ยวนี้เลย”
“เป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน” ดนัยว่า
“ไอ้ดนัย”
“ผู้หญิงอะไรพูดจาไม่เพราะเลย ทำตัวให้มันน่ารักๆ อย่างดาหวันเค้าบ้างได้ไหม”
“ทำไม ฉันจะเป็นของฉันอย่างนี้ ใครฟังไม่ได้ก็จอดรถลงไป”
“ให้มันได้อย่างนี้ซี้ ยายหวีขาเหวี่ยง”

ฉวีวรรณเข้าไปดึงหูดนัย อย่างหมั่นไส้ทนไม่ไหว
“ไอ้ผู้ชายปากนรก”
ดนัยตกใจทั้งเจ็บอีกด้วย
“อ๊อย... ยายป้าหวี เธอทำอะไรของเธอ”
“นี่แน่ะ ...ยังจะปากเก่งอีกมั้ย”
ฉวีวรรณยิ่งบิด ดนัยยิ่งร้องเจ็บ แล้วดนัยตาเหลือกเห็นแสงไฟหน้า ของรถที่สวนเข้ามา
“เฮ้ย...!”
ฉวีวรรณตกใจหันมองตามเห็นรถบรรทุกแล่นเข้ามาจะชนอยู่แล้ว ฉวีวรรณกรี๊ดลั่น
“อ๊าย...”
ดนัยตัดสินใจหักหลบ รถเสียหลักพุ่งไปชนราวที่กั้นถนน แรงกระแทกทำให้รถลอยละลิ่วลงไปในเหวข้างทาง แล้วไถลไปตามเนิน ทั้งสองคนร้องลั่น สีหน้าตื่นตระหนก ในที่สุดรถพุ่งเข้าไปชนต้นไม้จอดนิ่งสงัด

ศีรษะของดนัยกระแทกกับพวงมาลัยอย่างแรงจนสลบคาที่ ขณะที่ฉวีวรรณก็หน้าคว่ำลงไปกองอยู่กับคอนโซลรถ หมดสติไปเหมือนกัน!!


อ่านต่อวันพรุ่งนี้





หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 1
หอบรักมาห่มป่า ตอนที่ 1
เสียงนกร้องแสนสดใสดังก้องกังวาน ช่วยขับเน้นให้บรรยากาศผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ผืนนี้งดงามยิ่งขึ้น ภาพชีวิตสัตว์น้อยใหญ่ในป่า พร้อมเสียงร้องระงม ขับคลอสอดประสานไพเราะจับใจ มองทอดสายตาไกลออกไปจะเห็น ฝูงกวางก้มกินน้ำอยู่บริเวณริมลำธารสวย นกกำลังทำรังบนต้นไม้ใหญ่ กระทิงวิ่งในทุ่งหญ้า ขณะที่ฝูงลิงวิ่งไล่ไต่ปีนต้นไม้อย่างมีความสุข ดนัยในชุดทะมัดทะแมงใส่รองเท้าเดินป่า สะพายเป้ กำลังสนุกและสุขล้นกับการถ่ายรูปธรรมชาติในป่าผืนสวย จังหวะหนึ่งเขาลดกล้องถ่ายรูปในมือลง เผยให้เห็นว่าเขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา และเท่สุดๆ รอยยิ้มขณะชื่นชมและมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็ชวนหลงใหล ดนัยที่คนใกล้ชิดรู้จัก เขาเป็นชายหนุ่มอายุ 22 ปี หน้าตาหล่อเหลา เก่ง เท่ แต่ติดดิน ดนัยเป็นพูดตรง จนถูกมองว่าเป็นคนขวานผ่าซาก รักความถูกต้อง ที่สำคัญรักธรรมชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น