กุหลาบซาตาน ตอนที่ 11
ชัชโทรศัพท์หาโชค โชคเดินไปเดินมาขณะคุยโทรศัพท์กับชัช
“แกก็ระวังตัวดีๆ ล่ะ ไอ้ชัช แล้วจับตัวไอ้มือปืนมาให้ฉันให้ได้” โชคหันมา เห็นโรสเดินผ่านมาพอดี ทั้งสองทำหน้าตามึนตึงใส่กัน โชคแกล้งพูดโทรศัพท์เสียงดัง “คนที่มันกล้าลองดีกับฉัน ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มันจะต้องเสียใจ”
โชควางสาย ยิ้มเหี้ยมๆ โรสเดินเชิดออกไป โรสเดินไปหยุดอยู่นอกบ้านสีหน้าเปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาทันทีเพราะนึกเป็นห่วงกงพัด
“พัด...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ที่ร้านอินเตอร์เน็ตแถวเยาวราชวีณากับกงพัดนั่งอยู่ในร้าน พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโรส
“คนชื่อโรสมีเป็นร้อยๆ หาทั้งวันก็ไม่เจอ” วีณาบอก
“เค้าต้องเกี่ยวข้องกับคนชื่อชัช คุณลองหาดูซิ ว่าคุณชัชอยู่ที่ไหน” กงพัดบอก
“ถ้าหาเจอ แล้วคุณจะไปหาคุณโรสที่นั่นเหรอ มันอันตรายนะคะ”
“หาให้เจอก่อน จะยังไงเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
วีณาพยักหน้า ค้นหาข้อมูลของชัชต่อไป ระหว่างนั้นเป๋งเดินผ่านร้านอินเตอร์เน็ต เป๋งเห็นหัววีณาแว่บๆ เพราะคอมพิวเตอร์บังไว้เป๋งชะงัก พยายามมองอย่างสนใจ แต่เด็กที่นั่งเล่นเกมส์อยู่เห็นเป๋งมองเข้ามานึกว่ามองตัวเองจึงไม่พอใจ แต่ไม่สนใจ เป๋งกดโทรศัพท์หาชัช
“ผมเจอคุณวีณาแล้วครับ นาย”
“เฝ้าไว้ อย่าเพิ่งเข้าไป รอฉันก่อน”
ชัชสั่งเป๋ง พอวางสายจากเป๋งชัชจึงพยักหน้าเรียกลูกน้องให้ตามไป
ขณะนั้นวีณากับกงพัดกำลังหาข้อมูลผ่านกูเกิ้ล บนหน้าจอมีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อชัช ชนารณพ ขึ้นมาเต็มไปหมดเป็นสิบๆ หน้า
“ค่อยๆ หาไป เดี๋ยวคงเจอน่ะ”
กงพัดพูดให้กำลังใจวีณา วีณาเริ่มต้นคลิกดูข้อมูลโดยไม่รู้ว่าที่นอกร้านเป๋งยังคงจับตาดูวีณา เด็กที่เล่นเกมส์หันไปเห็นเป๋งแอบมองก็ไม่พอใจ
“มองหาอะไรวะ...รู้จักกับมึงป่ะ” เด้กหันไปถามเพื่อน
“เปล่า มันมายืนอยู่นานแล้ว กูยังสงสัยอยู่เลย ว่ามันมาแอบมองอะไร”
กงพัดได้ยินเด็กสองคนคุยกัน เอะใจ จึงหันออกไปมองนอกร้าน ประสานสายตากับเป๋งเข้าอย่างจัง
เป๋งหลบตาแล้วเดินเลี่ยงไป กงพัดเอะใจ กระซิบบอกวีณา
“วี ไปเถอะ”
“อ้าว ทำไมคะ”
“ผมว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย”
วีณาตกใจ มองไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตระหนก ขณะนั้นชัชกับลูกน้องเดินมาถึงหน้าร้าน เป๋งรีบรายงาน
“คุณวีณาอยู่ข้างในกับผู้ชายคนนึงครับ”
“แกสองคนเฝ้าหน้าร้านไว้ ฉันกับเป๋งจะเข้าไปเอาตัวเค้าออกมา”
ชัชสั่งลูกน้อง เป๋งหันไปมองในแล้วร้องขึ้นมา
“คุณวีณาหนีแล้วครับ นาย”
ชัชมองไปเห็นวีณากับกงพัดกำลังจะออกประตูหลังร้าน ชัชตกใจ
“เป๋ง แกเฝ้าทางนี้...แกตามชั้นมา”
ชัชพาลูกน้องวิ่งไปด้านหลังร้าน
กงพัดกับวีณาหนีออกหลังร้าน วีณาเหลือบไปเห็นชัชกับลูกน้องโผล่ออกมาจากตรอกข้างร้านก็ตกใจ
“คุณชัช!”
“หยุดนะ คุณวีณา”
ชัชตะโกน วีณากระชากกงพัดวิ่งหนีไปในตรอกคดเคี้ยว ชัชกับพวกวิ่งตาม
วีณากับกงพัดวิ่งหนีชัชกับลูกน้องที่ใกล้เข้ามาทุกที จนมาถึงทางแยกในตรอกดนัยและพวกออกมาดักหน้าทั้งสองเอาไว้
“จับมัน!”
กงพัดกับวีณาตกใจ งุนงง ไม่รู้ว่าดนัยเป็นใคร ลูกน้องของดนัยคนหนึ่งพุ่งเข้ามาจะจับตัววีณา กงพัดจับแขนบิดแล้วทุ่มมันเข้าใส่ดนัย ลูกน้องอีกคนจะยิง แต่กระสุนจากด้านหลังพุ่งเข้ามาโดนที่มือของมัน ปืนกระเด็นไป วีณากับกงพัดหันไป เห็นชัชกับลูกน้องตามมา
“จัดการพวกมันก่อน”
ดนัยตะโกนสั่งลูกน้อง จากนั้นดนัยและลูกน้องก็ยิงปืนใส่ชัชและพวก ทางฝ่ายชัชยิงสู้ ต่างฝ่ายวิ่งหลบกระสุนกันวุ่นวาย กงพัดรีบคว้ามือวีณาที่ยืนตื่นตกใจอยู่
“วี ทางนี้”
กงพัดพาวีณาวิ่งหนีไป ชัชเหลือบไปเห็น วิ่งตามกงพัดไป คนของดนัยจะสกัด แต่ถูกเป๋งยิงร่วงลงไป ชัชวิ่งตามวีณาไปเพียงลำพัง ทิ้งให้ลูกน้องยิงกันอยู่ข้างหลัง
กงพัดกับวีณาวิ่งเข้ามาในตรอกร้าง รอบตัวมีแต่ห้องแถวและโกดังที่ปิดตาย ทั้งสองยืนมองอย่างเคว้งคว้าง
“พัด เราจะทำยังไงดี”
วีณาถามอย่างนึกกลัวกงพัดมองไป เห็นประตูเก่าๆ มีโซ่คล้องเอาไว้ ไม่ได้ล็อก กงพัดรีบพาวีณาหลบเข้ามาในโกดัง ด้านในมีกระสอบแป้งตั้งสูงท่วมหัวเป็นแถวๆ หลายแถว
“หลบในนี้ก่อน”
“ยังไงพวกมันต้องหาเราจนเจอ” วีณาบอกอย่างเป็นกังวล
“พวกที่เราเจอตะกี๊มันเป็นใคร มันไม่ใช่พวกคุณชัช ทำไมมันต้องการตัวผม”
วีณายังไม่ทันตอบ ประตูก็เปิดออก ทั้งสองสะดุ้ง กงพัดดึงวีณามาไว้ข้างตัวและเมื่อมองไปที่ประตูจึงเห็นชัชเดินข้ามา พร้อมปืนในมือ
“คุณวีณา กงพัด ผมรู้นะว่าคุณสองคนอยู่ในนี้” ชัชเดินเข้ามายืนนิ่ง กวาดสายตามองไปรอบๆ “คุณวีณา คนที่คุณกำลังปกป้องอยู่เป็นคนร้าย เป็นฆาตกร เขาไม่มีทางหนีรอด ถ้าผมเรียกตำรวจมาตอนนี้ คุณจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยนะ”
วีณากับกงพัดแอบอยู่หลังกองกระสอบแป้งด้านในสุด
“เขาพูดถูก ถ้าตำรวจมา คุณจะพลอยเดือดร้อน...เราต้องแยกกัน” กงพัดกระซิบบอกวีณา
“ไม่...” กงพัดเอานิ้วแตะปากวีณาให้เงียบ
“เขาต้องการตัวผมคนเดียว คุณไปก่อน ผมจะหาทางตามไป”
วีณาส่ายหน้าเด็ดเดี่ยว ไม่ยอม ชัชเดินเข้ามายืนกลางช่องระหว่างแถวกระสอบแป้ง
“กงพัด ถ้าแกออกมา ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรคุณวีณา ถ้าไม่อย่างนั้น” ชัชยกโทรศัพท์ขึ้นมา “ฉันจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้ หนึ่ง...สอง...”
“ผมอยู่นี่!”
กงพัดดึงมือวีณาเดินออกมายืนตรงข้ามชัช ชัชมองกงพัดเต็มตา นี่คือมือปืนที่เขาตามหา!
“แกเองเหรอ ชื่อกงพัด”
“คุณต้องการอะไร”
“ไปกับฉัน”
“ผมต้องแน่ใจว่าวีณาจะปลอดภัย”
ชัชยิ้มแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเป๋ง
“เป๋ง รออยู่ที่หน้าร้านเดิมใช่ไหม คุณวีณากำลังจะไปหาแก แกพาเค้าไปส่งที่สนามบิน แล้วอยู่คุ้มกันเค้า จนกว่าเค้าจะขึ้นเครื่องไปอย่างปลอดภัย เข้าใจไหม” ชัชวางสาย พูดกับกงพัด “พอใจหรือยัง”
กงพัดมองตาชัช เห็นความจริงใจกงพัดจึงพยักหน้า
“ไม่นะคะ พัด ไม่...”
วีณารีบบอก กงพัดดึงวีณามากอดแล้วกระซิบบอก
“คุณไปเถอะ วี คุณจะปลอดภัย”
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมจะไปกับเค้า จะได้รู้เสียที ว่าตัวเองเป็นใคร เคยทำอะไรเอาไว้บ้าง”
วีณาน้ำตาคลอ
“แต่คุณสัญญาว่าจะไม่ทิ้งฉัน”
กงพัดยิ้ม ทำให้วีณามั่นใจ
“ผมสะสางเรื่องราวทางนี้เสร็จแล้ว ผมจะรีบไปหาคุณ ผมสัญญา”
กงพัดดึงวีณามาจูบที่หน้าผาก แล้วผลักวีณาออกไปแล้วเดินเข้าไปหาชัช วีณาเดินออกไปทั้งน้ำตา
ชัชยืนมองกงพัด รู้สึกได้ถึงความดีและความรักที่มีอยู่มากมายในใจของกงพัด
“ดูท่าทาง แกไม่เหมือนคนที่รับจ้างฆ่าคนเป็นอาชีพเลย” ชัชบอก
“ผมไม่ใช่”
“แล้วแกมายิงพี่ชายฉันทำไม!” ชัชบอกเสียงกร้าวแล้วยกปืนขึ้นเล็งไปที่กงพัด “ถ้าไม่มีใครจ้าง แกมีเหตุผลอะไร ถึงมาทำร้ายคนในบ้านฉัน”
ชัชเล็งปืนไปที่กงพัด กงพัดนิ่งอึ้ง ไม่มีคำตอบ
วีณาวิ่งปาดน้ำตาออกจากโกดัง พอเลี้ยวมุมตึกเธอก็ต้องชะงัก มองไปข้างหน้าอย่างตกใจ เมื่อเห็นปฐวียืนยิ้มอยู่ตรงหน้า
“คุณวีณา”
ที่โกดังขณะนั้นชัชจับกงพัดบิดแขน กดลงกับพื้น โครม! ปืนจ่ออยู่ที่เอว กงพัดเจ็บแต่ไม่ปริปากร้อง
“ผมไม่รู้จริงๆ ผมบอกแล้วไง ผมความจำเสื่อม ผมจำอะไรไม่ได้”
“ความจำเสื่อมเรอะ! แกจะให้ฉันเชื่อจริงๆ เหรอ” ชัชเอาปืนขู่ “พูดมาเดี๋ยวนี้ ใครจ้างแกมาฆ่าพี่ชายฉัน ไม่งั้นแกตาย”
เสียงปฐวีดังขึ้นด้านหลัง
“หยุดนะ คุณชัช”
ชัชสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียง หันไปจึงเห็นปฐวีเดินเข้ามา ถือปืนเล็งมาที่ตน
“ท่านปฐวี!” ชัชผลักกงพัดลงกับพื้น ยิ้มเยาะ “งานนี้ถึงกับมาด้วยตัวเองเลยเหรอครับ”
“วางปืนลง...เดี๋ยวนี้” ปฐวีสั่งเสียงเข้ม ชัชยอมทิ้งปืนลงกับพื้น “แล้วถอยออกไปยืนทางโน้น” ชัชทำตาม ปฐวีหันไปสั่งกงพัด “ส่วนแก มากับฉัน” กงพัดมองหน้าชัช มองหน้าปฐวี ยืนงง ไม่ขยับ “ดนัย!”
ดนัยเดินเข้ามาโดยลากวีณาเข้ามาด้วย ในมือดนัยมีปืนจ่อเอววีณาไว้
“วี!”
กงพัดขยับตัวจะเข้าไปหาวีณา ดนัยกระแทกปืนใส่วีณา ปฐวีห้าม
“อย่าแม้แต่จะคิด... แกไม่มีทางเลือกหรอก ไปกับฉัน ไม่งั้น แกกับผู้หญิงตาย!”
กงพัดมองวีณาที่สีหน้าเจ็บปวดอยู่ในเงื้อมมือดนัย เครียด แล้วหันไปมองชัช สันชาตญานบอกกงพัดว่าชัชเป็นคนที่เขาเชื่อถือได้มากกว่าปฐวี กงพัดมองตาชัชแบบขอความช่วยเหลือ ชัชเข้าใจ แล้วเหลือบมองไปที่ปืนบนพื้น
กงพัดเดินไปหาปฐวีทันใดนั้น กงพัดก็สไลด์ตัวไปเตะปืนบนพื้นกระเด็นขึ้นมา ปฐวีกับดนัยตกใจไปชั่วขณะ ชัชกระโจนคว้าปืน กงพัดฉวยโอกาสที่ดนัยสนใจชัช เข้าไปช่วยวีณาออกมาได้ ปฐวีจะยิงกงพัดแต่โดนชัชยิงสกัด ลูกกระสุนโดนกระสอบแป้งกระจุยกระจาย ดนัยช่วยปฐวียิงชัช แป้งสีขาวกระจุยกระจายฟุ้งเต็มห้องจนมองอะไรไม่ถนัด กงพัดกับวีณาฉวยโอกาสวิ่งหนีออกไป ชัชดวลปืนยิงกับดนัย ท่ามกลางละอองแป้งฟุ้งกระจายสวยงาม ปฐวีวิ่งตามกงพัดไป
บนถนนเล็กๆ เงียบๆ กงพัดกับวีณาวิ่งหนีสุดชีวิต วีณาสะดุดล้ม กงพัดเข้าประคอง แสงไฟรถของปฐวีสาดเข้ามา รถพุ่งเข้าหากงพัดกับวีณาทั้งคู่ตกใจ ทันใดนั้นมีรถกระบะติดฟิล์มดำทั้งคันขับมามาปาดหน้ารถปฐวี ปฐวีหักหลบจนรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง คนขับกดกระจกลงมาใส่แว่นพรางใบหน้า ซึ่งเธอก็คือโรสนั่นเอง
“ขึ้นรถมาก่อน เร็ว”
โรสตะโกนบอกกงพัดกับวีณารีบขึ้นรถ โรสขับพาหนีออกไป ปฐวีทุลักทุเลออกมาจากรถ มองตามอย่างเจ็บใจ สงสัย
“ใครวะ”
โรสขับรถเข้าไปในมุมตึกที่ลับตาคนแล้วจอด จากนั้นก็หันมาถอดแว่น
“คุณโรส” วีณาอุทานออกมาแต่ โรสไม่สนใจวีณา หันไปต่อว่ากงพัด
“ทำอะไรน่ะ พัด พวกมันกำลังล่าตัวเธออยู่นะ ทำไมระวังตัวบ้าง เธอคิดจะทำอะไรของเธอ”
“คุณรู้จักผม” โรสผงะ อึ้ง “คุณเป็นใคร...”
“เธอถามว่าฉันเป็นใคร! เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร” โรสทวนคำถามอย่างงงสุดๆ
“ผมรู้ว่าคุณชื่อโรส แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แล้วผม...เป็นใคร”
โรสงง ไม่เข้าใจ วีณาช่วยอธิบาย
“พัดถูกทำร้าย เค้าความจำเสื่อม เค้าจำอดีตของตัวเองไม่ได้เลย”
โรสตะลึง พูดไม่ออก
“คุณคงต้องรู้จักผมดี คุณถึงเสี่ยงมาช่วยผม บอกผมได้ไหม ว่าผมเป็นใคร แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร ทำไมทุกคนถึงได้ต้องการตัวผม”
โรสอึ้งมองกงพัด แววตาเปลี่ยนจากงุนงงเป็นเสียใจ ผิดหวัง
โรสตัดสินพากงพัดกลับมาที่ห้องเช้าของเขา โรสไขกุญแจ พากงพัดกับวีณาเข้าในที่ห้องเช่า
“นี่เป็นห้องของเธอ ก่อนจะเกิดเรื่อง เธอพักอยู่ที่นี่...”
กงพัดและวีณามองไปรอบๆ ห้อง อย่างสนใจ ห้องเรียบร้อยสมถะ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือรูปถ่ายและแผนผังการรักษาความปลอดภัยที่บ้านโชค ที่ติดอยู่เต็มผนัง วีณาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“นี่มัน...”
“แผนผังการรักษาความปลอดภัยที่บ้านของคุณโชค”
“ผมเป็นคนทำ?” โรสพยักหน้า กงพัดเศร้า “ผมเป็นมือปืน รับจ้างฆ่าคนอย่างที่เค้าว่าจริงๆ”
วีณาไม่อยากเชื่อ มองโรสอย่างไม่ไว้ใจ พูดด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร
“แล้วคุณล่ะคะ คุณโรส คุณเป็นใคร...คุณรู้ว่าพัดเป็นมือปืน มาลอบฆ่าคุณโชค แล้วทำไมคุณยังมาช่วยเรา คุณต้องการอะไร...หรือว่าจริงๆ แล้ว คุณเอง เป็นคนจ้างให้พัดทำเรื่องบ้าๆ นี่”
“ไม่มีใครจ้างให้พัดฆ่าคุณโชค... เธอทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ...ในพระคัมภีร์เปรียบมนุษย์เหมือนกับข้าวในนา ข้าวพันธุ์เลวจะต้องถูกทำลาย ไม่ให้มาปะปนกับข้าวพันธุ์ดี เธอคือคนที่ทำหน้าที่นั้น”
โรสพูดกับกงพัด กงพัดนิ่งอึ้ง ไม่แน่ใจ โรสเข้าไปพูดโน้มน้าวหว่านล้อมกงพัด “โชค ชนารณพเป็นคนเลว พัด คนอย่างเค้าสมควรตาย”
วีณารีบขวาง
“ทำไมเราต้องเชื่อคุณด้วย”
โรสมองวีณาอย่างไม่ถูกชะตา แล้วเล่าให้กงพัดฟัง
“เมื่อ 15 ปีก่อน คุณโชคอยากได้ที่ดินริมทะเลแห่งนึง แต่เจ้าของไม่ยอมให้ เค้าเลยฆ่าเจ้าของตาย แย่งเอาโฉนดไป...แต่โชคร้าย ที่มีคนในบ้านเห็นเหตุการณ์...” โรสเล่าถึงอดีตอย่างเจ็บแค้น แล้วภาพก็เปลี่ยนเป็นเหตุการณ์ในอดีต
เปรี้ยง! ประตูไม้ถูกถีบเปิดออก โชคยืนตระหง่าน ก้มลงมองดูเด็กสาววัยสิบขวบที่อยู่ในอ้อมอกของกุล เด็กหญิงมองโชคอย่างโกรธแค้น โชคยกปืนจะยิง กุลเข้าขวาง ผลักเด็กหญิงกระเด็นไปโชคหันไปยิงกุลแทน
“แม่!”
เพียงออ หรือ โรส คือเด็กหญิงคนนั้น เธอร้องเรียกแม่ โชคหันปืนมาทางเด็กหญิงอีกที เด็กหญิงตะลึง โชคยกปืนเล็ง ยิงปัง! เด็กผู้ชายวัยไล่เรี่ยกันวิ่งเข้ามาขวางเอาตัวบังเด็กผู้หญิงไว้ กระสุนเจาะเข้ากลางหลัง เลือดไหลริน โชคจ้องตาเด็กผู้หญิงที่มองมาอย่างเกลียดชัง แล้วยิงซ้ำอีกที กะให้ทะลุไปถึงเธอ ร่างของเด็กทั้งสองไหวสะท้านด้วยแรงกระสุน ทั้งสองค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น
จากนั้นโชคก็ราดน้ำมันลงที่พื้นบ้าน สาดไปในห้องด้านหลัง แล้วทิ้งไลท์เตอร์ลงกับพื้น ไฟลุกพรึ่บ
วีณากับกงพัดฟังเรื่องราวที่โรสเล่าอย่างสะเทือนใจ โรสหันมาบอกกงพัด
“เค้าคิดว่าทุกคนตายหมด เลยเผาบ้านเพื่อทำลายหลักฐาน แต่เด็กสองคนยังไม่ตาย พี่สาวที่บาดเจ็บ พาน้องชายที่กำลังจะหมดสติเพราะพิษบาดแผล ฝ่ากองไฟหนีออกมา ทั้งสองคนรอดออกมาได้ แต่น้องชายก็โดนไฟคลอกที่กลางหลัง มันเจ็บปวดทรมานมาก จนกลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเค้ามาจนโต”
“เด็กผู้ชายคนนั้นคือตัวผม...ใช่ไหม”
โรสพยักหน้า
“เธอคือกงพัด พิมพากุล ลูกชายของเจ้าของที่ดินสองคนนั้น”
“แล้วเด็กผู้หญิงล่ะ..”
โรสหันมองวีณาแล้วเล่าต่อ...เพียงออในสภาพสวมเสื้อผ้ามอมแมมจากไฟไหม้ และโชกไปด้วยเลือดประคองร่างของกงพัดที่ทั้งตัวถูกห่อด้วยกระสอบจนมิดชิดเข้ามาล้มคว่ำในโบสถ์ที่หน้ากางเขน
“พี่สาวกระเสือกกระสนพาน้องชายไปที่โบสถ์ และที่นั่น เขาทั้งสองก็ได้รับความเมตตา...” อูริคเดินเข้ามาเห็นเด็กสองคนนอนหายใจรวยรินปางตายจึงเข้ามาดูอย่างตกใจ...โรสน้ำตาคลอ เล่าอย่างเศร้าและคับแค้น “คุณพ่ออูริค รักษาสองพี่น้องจนหาย ท่านรับสองพี่น้องเป็นลูกบุญธรรม แล้วพาหนีไปจากเมืองไทย เพื่อให้พ้นอันตราย กงพัดขอใช้ชื่อนามสกุลเดิมที่พ่อแม่ตั้งให้ เพื่อเตือนใจไม่ให้ตัวเองลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น...ส่วนเพียงออ พี่สาวของเขา เปลี่ยนมาใช้ชื่อและนามสกุลที่พ่ออูริคตั้งให้ว่า...โรส ฮอลเลอร์”
วีณากับกงพัดตะลึง
“โรส ฮอลเลอร์... คุณเป็นพี่สาวของพัด”
“ใช่ เราสองคนสัญญากัน ว่าเราจะกลับมาแก้แค้นให้กับดวง วิญญานของพ่อและแม่ เธอสัญญากับพี่ ว่าเธอจะฆ่าโชค ชนารณพ! แล้วเอาทุกอย่างที่เป็นของเรากลับคืนมา” โรสจับมือกงพัด เน้นเสียงจริงจัง “เธอจะยังรักษาสัญญาของเราใช่ไหม พัด!”
กงพัดอึ้งไปเมื่อได้รู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเอง วีณามองสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความแค้นของโรสอย่างไม่ไว้วางใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
กุหลาบซาตาน ตอนที่ 11 (ต่อ)
ขณะนั้นที่เรือนรับรองบ้านโชค เป๋งกับลูกน้อง 3-4 คนที่บาดเจ็บจากการปะทะ กำลังพักผ่อน บางคนก็ช่วยกันทำแผล ทุกคนดูสะบักสะบอม โชคกับชัชกำลังเถียงอันอยู่อีกมุมหนึ่งของบ้าน
“ไอ้ปฐวีต้องตาย”
โชคบอกเสียงกร้าว
“ผมไม่เห็นด้วย” ชัชแย้ง
“ฉันไม่ได้ถามแก...ในเมื่อมันแสดงตัวออกมาโต้งๆ แล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับไอ้มือปืนคนนี้ ฉันก็ต้องฆ่ามัน”
“ไม่! พี่จะฆ่าคนมั่วซั่วอีกไม่ได้ สิบกว่าปีที่ผ่านมาเนี่ย พี่เคยนับมั่งไหม ว่าฆ่าคนไปเท่าไหร่ ก่อศัตรูเอาไว้ที่ไหนมั่ง...มันอาจจะไม่ใช่ท่านปฐวีก็ได้ ที่ส่งคนมาฆ่าพี่”
โชคชะงัก
“ทำไม แกรู้อะไรมา”
“ไอ้มือปืนคนนั้น ท่าทางมันไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นท่านปฐวีมาก่อนด้วยซ้ำ”
“คนอย่างไอ้ปฐวีจะลงไปจ้างมือปืนเองทำไม” โชคยิ้มเยาะ “มันอาจจะมีนางนกต่อคอยจัดการให้ ไม่แน่ นังนกตัวนั้น อาจจะทำรังอยู่บนหัวกบาลโง่ๆ ของแกนี่ก็ได้”
“ไปๆ มาๆ พี่ก็หาเรื่องโรสอีกแล้ว...ถามจริงๆ เถอะพี่โชค ถ้าพี่เป็นโรสเป็นผู้หญิงสาวสวย อยู่ถึงสวิสเซอร์แลนด์ มีการงานทำดิบดี แล้วมีคนจ้างพี่ให้มาเป็นนกต่อ มายุ่งกับนักเลง มือปืน ฆาตกรรม...พี่จะทำไหม ต้องจ้างกันซักเท่าไหร่เหรอพี่ มันถึงจะคุ้มกัน” โชคเถียงไม่ออก แต่ยังทำหน้าดื้อ ไม่ยอมรับ “คนที่วางแผนฆ่าคนน่ะพี่ มันต้องมีแรงจูงใจมากกว่านั้น...พี่ลองคิดดีๆ แล้วกัน ว่าเคยทำอะไรใครเอาไว้มั่ง นอกจากท่านปฐวี”
โชคคิดตามมที่ชัชพูด
วันต่อมาไปรมาโทรศัพท์คุยกับนงพงา ซึ่งขณะนั้นนงพงาอยู่ที่ห้องทำงานในมหาวิทยาลัย
“ตกลงว่าคุณพ่อจับมือปืนคนนั้นไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้จ้ะ ไป๋โทรมาถามแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ลูก”
นงพงาถามลูกสาวอย่างแปลกใจ ไปรมาตอบเสียงเศร้า
“ไป๋อยากรู้น่ะค่ะ ว่าใครเป็นคนจ้างเค้ามาฆ่าพ่อชิน ไป๋อยากให้คุณพ่อจับตัวเค้าให้ได้ แล้วให้เค้าพูดความจริงออกมา ว่าคุณพ่อไม่ได้ทำ”
“แม่ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ว่า...”
“แต่อะไรคะ คุณแม่...”
“เปล่าจ้ะ ไป๋อย่าคิดมากเลยนะจ๊ะ ตั้งใจเรียนดีกว่านะลูก”
นงพงาพูดจบก็วางสาย ก้มลงมองหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ พาดหัว “ลิ่วล้อมาเฟียยกพวกสาดกระสุนใส่กันกลางเยาวราช” นงพงาถอนใจหนักหน่วง
ที่สวิสเซอร์แลนด์ไปรมากำลังแต่งหน้าคัพเค้กในถาดด้วยอาการกังวล เป็นห่วงทางกรุงเทพฯ ถอนใจเฮือกๆ ไปด้วย พีชญากับภูษณะที่ทำงานอยู่ในครัวมองอย่างหนักใจ พีชญาวางมือจากงาน เข้ามาเท้าสะเอวมองหน้าไปรมา
“นี่ ทำอะไรเนี่ย...ทำเค้กหน้าเศร้าเหรอ คนทำเป็นแบบนี้ คนกินจะอร่อยได้ยังไง”
ไปรมาวางกรวยแต่งหน้าเค้กลงแล้วถอนใจ
“พีชไม่เข้าใจเราหรอก”
“ทำไมจะไม่เข้าใจ เธอกลุ้มใจเรื่องทางบ้าน เธอคิดถึงชิน แต่ไม่กล้าโทรหาเค้า เราเข้าใจทุกอย่างแหละ แต่เรากำลังทำงานนะ ไป๋...จำได้ไหม ครูสอนว่าทำงานแบบนี้ ต้องทำด้วยใจจะอกหักรักคุดตุ๊ดเมินยังไง เธอก็ต้องลืมมันไปก่อน ไม่งั้นงานจะดีได้ยังไง”
“จริงของพีช...งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว ต้องแยกกันให้ได้ ถึงจะเป็นมืออาชีพใช่ไหม”
“ถูกกกกก...ทำไป ทำเร็วๆ ล่ะ เดี๋ยวเสิร์ฟไม่ทัน”
พีชญากลับไปที่มุมของตัวเอง ภูษณะอมยิ้ม
“วันนี้พูดดีนี่ ไม่สบายเหรอ”
“ไอ้บ้า ฉันพูดดีได้ย่ะ แต่พูดกับคนดีๆ เท่านั้น ทำงานไป”
พีชญาดุภูษณะ แล้วแอบหันมองไปรมาด้วยความเป็นห่วงและตัดสินใจแอบเขียนข้อความบอกชินภัทร
“ถึงงานจะออกมาเรียบร้อยดี แต่พอเลิกเรียน ไป๋ก็กลับไปนั่งเศร้าอยู่คนเดียวอีก เรากับภูก็ไม่รู้จะช่วยยังไง คงจะดี ถ้าชินกับไป๋จะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เราก็ได้แต่หวังนะ ว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี...”
ชินภัทรนั่งอ่านเมสเสจของพีชญา แล้วพิมพ์ตอบ
“...สถานการณ์ทางนี้แย่ลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ พ่อเรากับพ่อไป๋เพิ่งปะทะกันไปเมื่อคืน เพราะพ่อไป๋ออกมาปกป้องมือปืนคนนั้น...เรานึกไม่ออกเลยพีช ว่าถ้าไป๋อยู่ตรงนี้ เราจะพูดกับไป๋ว่ายังไง”
ชินภัทรพิมพ์เสร็จ ถอนใจอย่างเศร้าๆ
วันต่อมาที่พรรคสันติไทย ปฐวีไม่พอใจลูกน้องจึงตวาดเสียงดัง
“ตกลงไม่มีใครรู้เลย ว่ามันเป็นใคร”
“ครับ แต่ไม่ใช่พวกนายโชคแน่ เพราะสายของเราบอกว่า พวกนั้น มันคิดว่าท่านช่วยพามือปืนหนีไป”
“มันเลยคิดว่าไอ้มือปืนนั่นเป็นคนของฉัน ดีนะ ดี...ฉันเลยกลายเป็นจำเลยที่หนึ่งไป”
“เอ หรือว่าจะมีใครสร้างสถานการณ์ เพื่อใส่ร้ายท่าน” ดนัยสันนิฐาน
“โอ้ย จะใครล่ะ นอกจากฉัน กับพวกมัน มีใครรู้จักไอ้มือปืนคนนี้ซะที่ไหน คิดอะไรให้มันเข้าท่ากว่านี้หน่อย ดนัย”
ปฐวีกระแทกตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานอย่างฉุนๆ กระชากหนังสือพิมพ์มาอ่าน แต่มือไปโดนซองกระดาษที่ใส่รูปถ่ายที่นงพงาแอบถ่ายโรสกระเด็นออกมา ปฐวีชะงัก คิดอะไรได้ คว้ารูปมาคลี่ดู รูปใบสุดท้าย คือรูปโรสวิ่งตามแท็กซี่ที่มีวีณาและกงพัดนั่ง
“จริงสิ ยังมีอีกคนที่รู้เรื่องนี้” ดนัยหันมองหน้าปฐวี ปฐวียิ้ม รำพึงกับตัวเอง “โรส...”
โทรศัพท์มือถือโรสดังขึ้น โรสเห็นเบอร์จึงมีสีหน้าไม่สบายใจ
“ท่านปฐวี” โรสมองไปรอบๆ ตัว แล้วเดินหลบไปหาที่ลับตาคน รับสายปฐวี “ว่าไงคะ”
“ผมรู้นะ ว่าคนที่ผมเจอเมื่อคืน คือคุณ”
“ท่านพูดอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ” โรสถามอย่างตกใจ
“ผมไม่อ้อมค้อมนะคุณโรส เอาตัวมือปืนที่ชื่อกงพัดมาให้ผม พรุ่งนี้เที่ยงตรง ผมจะรอคุณที่สวนรถไฟ”
โรสอึกอัก
“ฉันบอกแล้วไงคะ ฉันไม่รู้ ว่าท่านพูดอะไร”
“พาตัวมือปืนมาให้ผม ช่วยผมกำจัดคุณโชค แล้วคุณจะมีชีวิตต่อไปอย่างสุขสบาย ไม่แน่นะ ซักวันเราอาจจะมาเป็นหุ้นส่วน ทำธุรกิจร่วมกันก็ได้ ผมชอบคนเก่งๆ อย่างคุณ”
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่มีอะไรจะให้ท่านหรอกค่ะ”
ปฐวีหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะเปิดโปงให้ทุกคนรู้ ว่าคุณเป็นคนยังไง...คุณชัชอาจจะหลงคุณจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แต่ผมรู้ว่าคุณโชค ต้องฟังผมแน่ๆ” โรสอึ้งหน้าเครียดขึ้นมาทันที “เที่ยงตรง พรุ่งนี้ ถ้าคุณไม่มา ผมจะไปหาคุณโชคทันที พร้อมหลักฐาน”
ปฐวีวางสายไป โรสนิ่งคิดแล้ววิ่งออกไป
โรสวิ่งกลับเข้าห้องล็อกประตูแล้วเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย
“จะทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี ฉันมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะแพ้ไม่ได้แกมาทำลายแผนของฉันไม่ได้”
สายตาโรสไปหยุดที่ลิ้นชักใส่ปืนของชัช โรสพุ่งเข้าไป ในนั้นมีปืนสั้น กระบอกที่ชัชไม่ได้ใช้ประจำ วางอยู่โรสคว้าขึ้นมา มองปืนในมือ
วีณากลับมาเก็บข้าวของที่ห้องแถวของเธอ วีณาเก็บเสื้อผ้าข้าวของยัดลงกระเป๋าจนเต็ม พยายามขย่มตัวเพื่อรูดซิปปิดกระเป๋า ปากก็พูดกับกงพัดไปด้วย
“ฉันเคยทำงานที่เชียงใหม่ เราจะไปอยู่ที่นั่นกัน”
“ผมไม่อยากหนี”
“พัด เราคุยกันแล้วไงคะ ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเราอยู่แถวนี้ ซักวันเค้าต้องหาเราจนเจอ แล้วไหนจะคุณโรสอีก เค้าก็รู้แล้วว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน”
“คุณไม่อยากให้ผมเจอกับโรส”
“ฉันไม่อยากให้คุณกลับไปเป็นฆาตกร ฉันอยากให้คุณทิ้งทุกอย่าง ไปใช้ชีวิตที่สุขสงบกับฉัน” กงพัดอึ้ง “นะคะ พัด”
“แต่เค้าเป็นพี่สาวผม เป็นคนช่วยชีวิตผม”
วีณาไม่ชอบโรส พยายามเถียงข้างๆ คูๆ
“แต่คุณก็ช่วยชีวิตเค้า รับกระสุนแทนเค้า ก็หายกันแล้วไงคะ”
“ไม่รู้สิ ผม...” กงพัดสับสนไม่รู้จะพูดยังไง
“พัดคะ ฉันไม่ใช่คนไม่รู้คุณคน คุณโรสช่วยชีวิตคุณ ถ้าเค้าขอให้คุณสละชีวิต ตายแทนเค้า ฉันจะไม่ว่า แต่นี่เค้าขอให้คุณฆ่า เค้าขอให้คุณทำลายชีวิตคนอื่น มันบาปนะคะ”
“ผมรู้ วี ผมรู้... ผมไม่เคยอยากฆ่าใคร แต่ว่า...”
“งั้นก็ไปนะคะ หนีไปกับฉัน ไปให้พ้นจากเรื่องบ้าๆ พวกนี้ซะที ไปค่ะ”
วีณาลากแขนกงพัด อีกมือลากกระเป๋า กงพัดไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมให้วีณาลากไป ทั้งสองเดินไปถึงหน้าประตูบ้าน เมื่อเปิดออกก็ต้องตกใจ ที่เห็นโรสยืนตระหง่านอยู่หน้าบ้านพอดี
“คุณวีณา” โรสมองกระเป๋าอย่างรู้ทัน รีบหันไปหากงพัด “พัด...” โรสทำเสียงน่าสงสาร “ช่วยพี่ด้วย พี่กลัว พี่กลัว”
โรสโผเข้ากอดกงพัด ตัวสั่นด้วยความกลัว วีณาถึงกับอึ้ง
ทั้งหมดกลับเข้ามาคุยกันในห้อง โรสตัวสั่นอยู่ข้างๆ กงพัด วีณามองอย่างสนใจ
“ทำใจดีๆ ก่อนค่ะ คุณโรส ทุกอย่างมันต้องมีทางแก้ไข” วีณาบอก
“ไม่มีทางหรอกค่ะ ส.ส. ปฐวีเค้าเห็นพี่ เค้าเห็นว่าพี่มาช่วยเธอสองคนออกไป เค้าจะฟ้องคุณโชคพรุ่งนี้ พี่ต้องตายแน่ๆ พัด พี่ต้องตายแน่ๆ”
กงพัดมองโรสที่ดูเปราะบางน่าสงสาร พูดอย่างห่วงใย
“ไม่ต้องกลัว” กงพัดกุมมือโรสปลอบใจ “หนีไปกับเรา ผมจะปกป้องพี่เอง”
“ไม่มีทาง เค้าสองคนมีเส้นสาย มีลูกสมุนรับใช้เต็มไปหมด เราไม่มีทางหนีพ้น...เรามีทางออกเหลือแค่ทางเดียว” โรสวิงวอนอย่างน่าสงสาร “เราต้องกำจัดเค้าซะ”
วีณาสะอึก กงพัดแปลกใจ
“กำจัด...ท่านปฐวีน่ะเหรอ” กงพัดย้อนถาม โรสพยักหน้า
“ท่านปฐวีตายไปซะ เราสองคนก็จะปลอดภัย” โรสหยิบปืนของ ชัชขึ้นมา “พี่สืบมาแล้ว คืนนี้ ท่านปฐวีจะไปงานศพ พี่อยากให้เธอตามไป แล้วจัดการปิดปากเค้า ด้วยปืนกระบอกนี้”
โรสยื่นปืนให้กงพัด แต่วีณาชิงคว้าแย่งไป เอาซ่อนไว้ข้างหลัง
“ไม่! ฉันไม่ยอม ...ฉันไม่ยอมให้คุณฆ่าคนบริสุทธิ์” วีณาบอกกับกงพัด
“ท่านปฐวีไม่ใช่คนบริสุทธิ์ เค้าเป็นนักการเมืองสกปรก หน้าไหว้หลังหลอก แล้วที่สำคัญ เค้าเป็นศัตรูของฉัน... เค้าจะทำลายแผนของเรานะ พัด เราต้องฆ่าเค้า”
“ผมไม่อยากฆ่าใคร...ผมไม่อยากฆ่าใคร” กงพัดเครียดและกลัดกลุ้ม โรสเข้าไปจับกงพัดเขย่า มองอย่างคาดคั้น เหมือนสะกดจิต
“ลืมหน้าที่ของตัวเองไปแล้วเหรอ พัด ลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นใคร ต้องทำอะไร” กงพัดเมินหน้าหนี เจ็บปวด สับสน โรสจับหน้ากงพัดไว้ในอุ้งมือของเธอ จ้องตา คาดคั้นต่อไป “เธอเคยสัญญาอะไรเอาไว้ เธอจะไม่ทำตามสัญญาเหรอ เธอจะไม่แก้แค้นให้พ่อกับแม่แล้วหรือไง พัด ว่าไง พัด”
“ผม...ไม่...ผมไม่รู้”
วีณาเห็นกงพัดท่าทางทรมานจิตใจมาก ทนไม่ไหว เข้าไปกระชากโรสออก
“พอที หยุด แล้วออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” วีณายัดปืนใส่กระเป๋าโรส “เอาปืนสกปรกของคุณออกไปด้วย ไป”
“ฉันไปก็ได้” โรสมองกงพัด แล้วพูดทั้งน้ำตาอย่างน่าสงสาร “พี่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ นึกไม่ถึง ว่าเธอจะปล่อยให้คนอื่นฆ่าพี่ จำเอาไว้นะพัด ถ้าพี่ตายไป ก็เท่ากับว่า เธอเป็นคนฆ่าพี่ เธอฆ่าพี่ด้วยมือของเธอเองจำเอาไว้”
โรสเดินออกไป กงพัดขยับจะตาม วีณากอดกงพัดเอาไว้
“ไม่ค่ะ อย่าไปฟังนะคะ พัด อย่าไปสนใจ”
“โรสเป็นพี่ของผมนะ วี พี่ที่ปกป้องผมด้วยชีวิต ผมจะปล่อยให้เค้าตายได้ยังไง”
กงพัดบอกอย่างเจ็บปวด
ค่ำวันนั้นรถตู้ของปฐวีแล่นมาบนถนนหน้าวัด ดนัยนั่งหน้ากับคนขับ ปฐวีกับนงพงาอยู่ในชุดไว้ทุกข์ ภายใต้ทีท่าสงบเรียบร้อย ทั้งคู่กำลังขัดแย้งกันอยู่อย่างรุนแรง
“คุณทำไม่ถูก ที่นงให้เบาะแสคุณวีณากับคุณ เพื่อให้คุณไปแจ้งตำรวจ ไม่ใช่ให้ทำตัวเป็นศาลเตี้ยซะเอง”
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ได้ตั้งใจ ผมพาคนไปดูลาดเลาเฉยๆ ไม่นึกว่าจะไปเจอพวกนายโชค...มันไล่ยิงเราก่อน จะให้ผมทำยังไง”
“คุณก็น่าจะแจ้งตำรวจ ทำไมคะ ทำไมคุณถึงไม่ยอมแจ้งตำรวจ คุณมีอะไรที่ไม่อยากให้ตำรวจรู้เหรอคะ”
“ไม่มี! แล้วก็หยุดพูดซ้ำซากได้แล้ว ไม่มีประโยชน์” นงพงามองปฐวีอย่างตัดพ้อ “แล้วทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย ถึงวัดแล้ว เจ้าภาพเค้าเห็นคุณทำหน้าแบบนี้ เค้าจะนึกว่าคุณไม่อยากมา”
รถเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดรถวัด นงพงาหันมาพูด
“อยากหรือไม่อยากนงก็ต้องมาค่ะ สามีเราเป็นคนส่งเค้าไปตาย ยังไงๆ นงก็ต้องมาขออโหสิกรรม!”
ปฐวีสะอึก นงพงาเมินหน้าหนี เชอะ!
ระหว่างนั้นโทรศัพท์ที่บ้านโชคดังขึ้น เป๋งเป็นคนรับสาย
“บ้านคุณโชคครับ...ครับ นายชัช”
“คุณโรสอยู่ไหม เป๋ง ขอสายคุณโรสหน่อย”
“ไม่อยู่ครับ ออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ อยู่ๆ ก็หายแว๊บบบไปเลย ไม่ได้สั่งใครเอาไว้ด้วย นายชัชมีอะไรเหรอครับ”
“ฉันมีลูกค้าสำคัญจะเข้าพักที่โรงแรมคืนนี้ อาจจะต้องพาไปเลี้ยงเลยโทรมาบอกว่าจะกลับดึกหน่อย”
เป๋งมองไปที่อาหารดีๆ ที่วางเต็มโต๊ะ หน้าตากระหยิ่ม
“อ้าว หยั่งงี้ก็ไม่มีใครกลับมาทานข้าวเย็นสิครับ” เป๋งหยิบน่องไก่ทอดเข้าปาก “แหม น่าเสียดาย วันนี้กับข้าวน่ากินทั้งนั้น ไม่มีใครอยู่ทานเลย”
“พี่โชคออกไปตั้งนานแล้ว ไม่ได้กลับบ้านหรอกเหรอ” เป๋งตกใจที่เผลอพูด ไก่แทบหลุดออกจากปาก “ไอ้เป๋ง แกรู้ใช่ไหม พี่โชคไปไหน”
“เอ่อ...ไม่รู้ครับ นายไม่ยอมบอกผม นายบอกว่าไม่อยากให้คุณชัชรู้”
ชัชวางสาย รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
“โรสก็ไม่อยู่ พี่โชคก็ไม่อยู่...จะมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่านี่”
ส่วนที่วัดปฐวีกับนงพงาเดินไปที่ศาลาเล็กๆ ที่จัดงานศพ ซึ่งเป็นงานศพที่จัดขึ้นอย่างเล็กๆ ไม่หรูหรา มีดนัยและลูกน้องเดินตาม เข้าไปด้านใน เจ้าภาพที่หน้าตาโศกเศร้าออกมาไหว้ต้อนรับปฐวีและนงพงา จากมุมมืดนอกศาลาห่างออกไป โรสแอบมองปฐวีกับนงพงาอยู่ โรสอยู่ในชุดเสื้อกางเกงสีดำกลมกลืนกับงานศพ โรสดูนาฬิกาที่ข้อมือ
“พัด ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยทำให้พี่ผิดหวัง เธอต้องมานะ พัด เธอต้องมา”
จบตอนที่ 11
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.