xs
xsm
sm
md
lg

รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 16

พิมพ์นฤมลวางจานฟักทองผัดไข่ไหม้ๆเละๆดูไม่น่ากินลงบนโต๊ะ มีนตักข้าวแฉะๆโปะลงในจานส่งให้กันต์ กันต์ส่งต่อให้เพื่อน ทุกคนมองจานข้าวเละๆในมือแล้วมองจานฟักทองผัดไข่
“กับข้าวมีแค่นี้เหรอ นมล” กันต์ถาม
“นี่มันอะไร?”
“แน่ใจนะว่า ทำให้คนกิน”
“ไม่ต้องพูดมาก กินๆไป กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” กันต์บอก
ทุกคนตักฟักทองมากินแล้วต้องพะอืดพะอมกันถ้วนหน้าพากันคว้าน้ำมาดื่มล้างปาก แล้วหันไปมองพิมพ์นฤมลเป็นตาเดียว พิมพ์นฤมลทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มทน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บนถนน ณิชมนกำลังหลับตาเบี่ยงหน้าหนีไปมา
“คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ถ้าคุณทำอะไรฉัน ฉันร้องจริงๆ ด้วยคุณชายธัช !”
ณิชมนหยุดโวยวายรู้สึกบรรยากาศรอบๆ ตัวสงบนิ่งเกินไป เธอลืมตาขึ้นโดยฉับพลัน บุรธัชยืนห่างออกไปมองมาที่เธออย่างขำๆ
“โวยวายอะไรของเธอ”
“ก็..ก็คุณบอกว่าคุณจะปิดปากฉัน ฉันก็นึกว่า คุณจะ..คุณจะ..”
“จะอะไร จะจูบเธองั้นเหรอ”
“ฉัน..ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นซะหน่อย ฉันคิดว่า คุณจะบีบคอฉันต่างหากล่ะ คุณชอบใช้แต่อารมณ์อย่างนี้ คุณถึงได้คุยกับคุณภาสไม่รู้เรื่อง วันนี้จะเป็นโอกาสที่คุณจะได้แก้ตัวใหม่...”
ณิชมนทำท่าจะร่ายยาวอีก บุรธัชทำหน้าเข้มขยับเข้าไปใกล้
“ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ เราไปต่อกันเลยดีมั้ยคะ ฉันอยากจะให้คุณได้เจอคุณภาสเร็วๆ แล้วคุณจะได้เห็นคุณภาสในมุมมองใหม่”
“แล้วถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดล่ะ”
“ฉันรับรองว่า ที่คุณมาวันนี้ไม่เสียเวลาเปล่าแน่ คุณจะได้รู้จักน้องชายคุณดีขึ้น ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันพูดล่ะก็ ฉันรับผิดชอบเอง”
บุรธัชมองณิชมนอย่างหมายมาด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลกับมีนตักข้าวใส่ปากอย่างกลืนไม่ลง กันต์กับนักศึกษาคนอื่นๆจะตักฟักทองแล้วเปลี่ยนใจตักน้ำปลาราดข้าวกินแทน รวิภาสเดินเข้ามาวางจานคะน้าผัดปลาเค็มลงบนโต๊ะ
“ไอ้ภาส แกมาช่วยชีวิตได้ทัน ไม่งั้นพรุ่งนี้ได้ลงหน้าหนึ่งแน่เด็กค่ายตายหมู่เพราะอาหารเป็นพิษ”
ครูมงคลยกจานไข่เจียวถาดใหญ่ตามมา
“เห็นคุณภาสบอกว่ากับข้าวไม่พอ ผมเลยให้แม่บ้านเจียวไข่มาให้”
“วันนี้เรารอดตายแล้ว !!”
“ขอบคุณมากนะครับ ครู” รวิภาสพูด
“ไม่ต้องขอบคุณอะไรหรอกครับ ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้เด็กๆมาช่วยทำกับข้าวให้ดีกว่านะครับ”
“อย่างนี้นมลก็ตกงานแล้วน่ะซิ”
“วันแรกก็โดนไล่ออกเลยนะ นมล” นศ.ชายแซว
“แล้วพรุ่งนี้จะให้นมลทำอะไรล่ะ”พิมพ์นฤมลถาม
“ให้อยู่เฉยๆเป็นดีที่สุด คอยยิ้มหวานๆให้กำลังใจพี่ๆไปแล้วกัน
“นั่นดิ แค่ยิ้มก็เหนื่อยจะแย่แล้วเนอะ คุณหนูจะไหวหรือเปล่าเนี่ยไม่ไหวก็บอก พี่จะได้ส่งกลับบ้าน” นศ.ชายแซวอีก
พิมพ์นฤมลไม่ขำด้วยก้มหน้ากินข้าวน้ำตาเล็ด รวิภาสมองรู้พิมพ์นฤมลแอบปาดน้ำตาป้อยๆอยู่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลกับมีนล้างจานชามหม้อกระทะกันอย่างเงียบๆ
“อย่าคิดมากเลยนะ นมล พวกพี่ๆเค้าแค่แซวเล่น” มีนปลอบ
“ฉันมันไม่ได้เรื่องจริงๆ งานง่ายๆแค่นี้ก็ทำไม่ได้”
“ก็คนไม่เคยทำ มันก็ต้องพลาดกันได้ ไม่ต้องกลุ้มใจไป พรุ่งนี้ค่อยแก้ตัวใหม่ ฉันไปตักน้ำก่อนนะ”
มีนคว้าถังน้ำเดินออกไป พิมพ์นฤมลก้มหน้าก้มตาล้างจานชามไปทำจานร่วงหลุดมือตกพื้นแตกกระจาย เธอรีบเก็บเศษจานที่แตกจนบาดนิ้วตัวเองเข้า
“โอ๊ย !”
รวิภาสเดินเข้ามา
“เป็นอะไร นมล”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”
รวิภาสรีบดึงมือเธอไปดู
“แก้วบาดมือนี่ ล้างแผลก่อนให้สะอาดก่อน แล้วเดี๋ยวพี่ใส่ยาให้”
รวิภาสจับมือพิมพ์นฤมลไว้แล้วเทน้ำราดล้างแผล พิมพ์นฤมลน้ำตาร่วงอีกครั้ง
“เจ็บเหรอ ขอโทษๆ เจ็บแผลมากเลยเหรอ”
“ไม่ได้เจ็บแผล นมลโมโหตัวเองต่างหาก นมลไม่เอาไหนจริงๆ ทำอะไรก็ไม่เป็น นมลไม่น่ามาที่นี่เลย นอกจากไม่ได้ช่วยงานแล้วก็ยังมาสร้างปัญหาให้คนอื่นอีก”
“พี่ต่างหากที่เป็นคนสร้างปัญหาให้นมล”
พิมพ์นฤมลชะงักกึกมองรวิภาส
“พี่ขอโทษ... ถ้าพี่ไม่ให้นมลทำอาหารเย็นคนเดียว วันนี้ก็คงไม่มีปัญหาหรอก พี่ไม่ได้ตั้งใจแกล้งนมลนะ แค่อยากให้นมลรู้ว่า งานออกค่ายมันหนักแค่ไหน ก็นึกว่านมลจะถอดใจกลับบ้าน..”
“แต่นมลก็อยู่สู้ต่อ พี่ภาสยอมรับได้หรือยังว่า นมลไม่ได้เป็นคุณหนูอย่างที่พี่ภาสคิด นมลเข้มแข็ง ทำงานหนักได้ นมลเปลี่ยนไปแล้วนะคะ พี่ภาส..”
รวิภาสพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรรณอรนั่งอ่านหนังสืออยู่ พันธ์นฤสรร์นอนกลิ้งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ไม่ห่าง พรพรรณกดโทรศัพท์มือถือแล้วรอสาย
“ฝากข้อความอีกแล้ว” พรพรรณพึมพำ
พรพรรณกดมือถือใหม่อีกครั้ง
“อ้าว แบตหมดอีก”
พรพรรณเดินกลับไปนั่งกับพรรณอร
“พี่อร นมลไม่ยอมเปิดมือถือซะที หรือว่านมลลืมเอามือถือไปคะ”
“โรงเรียนอยู่ไกลขนาดนั้นคงจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ล่ะมั้ง”
“ตายล่ะ ติดต่อกันไม่ได้อย่างนี้ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะทำยังไงคะ ป่านนี้ไม่รู้นมลเป็นไงมั่ง หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ”
“นมลไปออกค่ายน่ะดีแล้ว จะได้ออกไปผจญภัยโลกภายนอกบ้าง ประสบการณ์อย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ”
“แต่พรก็อดห่วงไม่ได้นี่คะ เราไม่เคยปล่อยนมลไปไกลหูไกลตาแบบนี้”
“น้าพรไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่นมลเค้ามีพี่ภาสคอยดูแลอยู่..”
พรรณอรตะปบปิดปากพันธ์นฤสรร์ไว้
“อะไรนะ พันสร ใครคอยดูแลพี่นมลอยู่”
“ก็พี่ๆเพื่อนๆในชมรมไงล่ะ ไปกันตั้งหลายคน คงจะช่วยดูแลกันอยู่”
“แต่ตะกี้พรได้ยินว่า..”
“อ่านหนังสือจบแล้วใช่มั้ย พันสร เราไปกินไอติมกันดีกว่า ที่แม่สัญญาไว้ไง ถ้าพันสรอ่านหนังสือจบ แม่จะให้กินไอติม ไปๆ” พรรณอรขัด
พรรณอรดึงตัวลูกชายไป พรพรรณมองตามอย่างสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรรณอรดึงตัวพันธ์นฤสรร์มาทางครัว โดยที่มือพันธ์นฤสรร์ยังถือหนังสือการ์ตูนอยู่
“คุณแม่สัญญาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย นี่ผมอ่านการ์ตูนนะครับ ไม่ได้อ่านหนังสือเรียนซักหน่อย”
“พี่ภาสไปค่ายกับพี่นมลจริงๆ เหรอ พันสร”
“จริงมั้งครับ”
“อ้าว ! นี่ลูกเดาเอาหรือเนี่ย เล่นเอาแม่ตกใจหมด พี่นมลเค้ารับปากกับแม่แล้ว เค้าคงไม่ไปค่ายกับพี่ภาสเค้าอยู่แล้วล่ะน่า”
“แต่ผมว่าพี่ภาสต้องไปด้วยแน่ๆ พี่นมลไม่กล้าไปออกค่ายคนเดียวหรอกครับ ถ้าไม่มีพี่ภาสไปด้วย”
“นั่นน่ะซิ พี่ภาสต้องไปด้วยแน่ๆ ยังไงลูกก็อย่าบอกน้าพรเรื่องนี้นะ”
“ทำไมล่ะครับ”
“เดี๋ยวน้าพรจะยิ่งเป็นห่วงพี่นมลไปใหญ่น่ะซิ นะๆ อย่าบอกน้าพรนะ สัญญากับแม่นะ พันสร”
พันธ์นฤสรร์พยักหน้ารับอย่างไม่เข้าใจ พรรณอรไม่สบายใจนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาสปิดพลาสเตอร์ปิดแผลที่นิ้วให้พิมพ์นฤมลจนเสร็จ
“แค่นี้นมลทำเองก็ได้ พี่ภาสชอบทำเหมือนนมลเป็นเด็กอยู่เรื่อย”
“รู้แล้วน่าว่า เราน่ะโตแล้ว เก่งแล้ว”
“พี่ภาสไม่อยากให้นมลโตหรือไง”
“ไม่อยาก พี่อยากให้นมลงอแงง๊องแง๊งอย่างที่เคยเป็นมากกว่า พี่ไม่อยากให้นมลเปลี่ยนไปเลย”
“นมลเป็นผู้ใหญ่ขึ้น พี่ภาสจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยกับนมลไง”
“ถ้านมลเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เข้มแข็งขึ้น นมลก็ไม่ต้องให้พี่ดูแลแล้วใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ว่านมลจะเปลี่ยนไปแค่ไหน นมลก็อยากให้พี่ภาสอยู่ข้างๆเสมอแต่ต่อไปนมลจะไม่ให้พี่ภาสดูแลนมลฝ่ายเดียว นมลก็จะดูแลพี่ภาสด้วย เราจะดูแลกันและกัน”
รวิภาสกุมมือพิมพ์นฤมลไว้
“โอเค เราจะดูแลกันและกัน”
“ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เราก็จะไม่ทิ้งกัน...”
“เราจะไม่ทิ้งกัน.. ล้างจานต่อได้แล้ว ไป แล้วอย่าลืมไปตักน้ำด้วยล่ะตักมาหลายๆถังเลยนะ”
รวิภาสเดินออกไปทันที ทิ้งให้พิมพ์นฤมลอยู่กับกองจานชามกองโต
“พี่ภาส ! ไหนว่าจะไม่ทิ้งกันไงล่ะ”
พิมพ์นฤมลมองตามรวิภาส
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถบุรธัชแล่นมาจอดที่โรงเรียนเวียงดอย บุรธัชกับณิชมนพากันลงจากรถ
“ทำไมคุณภาสมาออกค่ายซะไกลขนาดนี้ นี่แสดงถึงความตั้งใจจริงของคุณภาสเลยนะคะเนี่ย คุณภาสคงต้องการช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนจริงๆ”
“เธออย่าเพิ่งมั่นใจไปหน่อยเลย นายภาสอาจจะไม่ได้มาที่นี่ก็ได้”
“แต่ฉันมั่นใจว่า คุณภาสต้องมาที่นี่แน่ๆ”
“ถึงนายภาสมาที่นี่ เราก็ไม่รู้แน่ว่า มันมาที่นี่ทำไม มันอาจจะมาเที่ยวก็ได้กว่าฉันจะบังคับให้มันไปช่วยงานที่ไร่ก็แทบเป็นแทบตาย แล้วคนอย่างนายภาสเนี่ยนะจะมาสร้างโรงเรียนที่นี่”
“ก็เพราะคุณไปบังคับคุณภาสน่ะซิคะ คุณภาสถึงไม่เต็มใจทำงานให้คุณแล้วคุณจะรู้ เวลาที่คุณภาสมีอิสระได้ตัดสินใจเอง คุณภาสสามารถทำสิ่งดีๆได้มากมายแค่ไหน”
ณิชมนเดินนำออกไป บุรธัชเดินตามไปอย่างไม่เห็นด้วย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาส กันต์และกลุ่มนักศึกษาพากันเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ รวิภาสกับกันต์ช่วยกันเอาผ้าใบคลุมกองไม้
“วันนี้งานไปได้เร็วกว่าที่คิดนะ อย่างนี้สามวันห้องสมุดก็คงเสร็จ ถ้ามีเวลาเหลือก็อยู่ช่วยสอนหนังสือเด็กๆกันต่อ แกว่าไงวะ” รวิภาสถาม
“ไม่อยากรีบกลับบ้านล่ะซิ อยู่ต่ออีกซักอาทิตย์ก็ได้นะ แกจะได้สวีทกับน้องนมลได้นานๆ”
“ฉันพูดเรื่องงานอยู่ อย่านอกเรื่องซิวะ”
“ไม่ปฏิเสธซักคำ แสดงว่า ตกลงกันเป็นแฟนเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย ฉันก็นึกอยู่แล้วเชียว คู่ไหนคู่นั้นจิกกัดกันเช้าเย็นเมื่อไหร่ จากคู่กัดก็กลายเป็นคู่กิ๊กทุกคู่ แล้วพี่ธัชรู้หรือยัง พี่ธัชไม่ค่อยชอบบ้านนมลไม่ใช่เหรอ”
“พี่ธัชจะชอบหรือไม่ชอบ ก็เรื่องของพี่ธัช ฉันไม่สน”
“แกจะไม่สนก็ไม่ได้นะโว้ย ฉันเห็นแกทำตัวกบฎต่อต้านพี่ธัชสารพัดแต่สุดท้ายก็แกต้องทำตามคำสั่งพี่ชายของแกอยู่ดี”
“พี่ธัชอาจจะบังคับฉันได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องนมล ฉันไม่ยอมแน่ !”
รวิภาสมีความมั่นใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนเดินเร็วๆนำมาอย่างมั่นอกมั่นใจ เธอหันมามองบุรธัชเดินตามาอย่างเฉื่อยชา
“เดินเร็วๆ หน่อยซิคะ ฉันได้ยินเสียงมาจากทางโน้นน่ะค่ะ”
เสียงเฮๆดังเป็นระยะๆดังมาจากหลังโรงเรียน บุรธัชยังคงเดินมาอย่างช้าๆ สบายอารมณ์ ณิชมนอดรนทนไม่ไหวเข้าไปลากตัวบุรธัชให้ไปด้วยกัน
“ยังไงคุณก็หนีความจริงไปไม่พ้นหรอกค่ะ คุณชายธัช คุณทำผิดต่อน้องชายคุณมานานแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะได้ทำสิ่งที่ถูกต้องซะที”
ณิชมนลากบุรธัชไปอย่างเร็ว
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนลากตัวบุรธัชเข้ามาด้านหลังโรงเรียน ณิชมนท่าทางเริงร่าที่บรรลุจุดมุ่งหมาย เธอยิ้มค้างก่อนจะค่อยๆ หุบยิ้มไปบุรธัชนิ่งมองไปที่ภาพกลุ่มนศ.เฮฮากันรอบกองไฟ รวิภาสเดินเล่นกีตาร์เพลงแด๊นซ์กระจายไปรอบๆ
พิมพ์นฤมล กันต์ มีน กลุ่มนักศึกษาเกาะเอวกันเป็นแถวเต้นสนุกล้อมรอบกองไฟกลุ่มนศ.ชายอีกกลุ่มนั่งตั้งวงดูคล้ายๆตั้งวงเหล้ารวิภาสเล่นกีตาร์ไปแจมกับกลุ่มนศ.ชาย
นศ.ชายคนหนึ่งส่งแก้วน้ำให้รวิภาส
“หมดแก้วๆๆ !!”
รวิภาสรับมุกรับแก้วน้ำมาดื่มรวดเดียวหมด พิมพ์นฤมลหันไปมองรวิภาสอย่างเป็นห่วง กันต์มองอย่างขำๆ
“ไอ้พวกนี้เมาน้ำเปล่าก็ได้ด้วย” กันต์บอก
รวิภาสรัวกีตาร์ออกลวดลายนักร้องร็อคสุดฤทธิ์ พิมพ์นฤมลขยับตัวจะไปแจมกับรวิภาสแต่ต้องชะงักไป รวิภาสหมุนตัวหันมาประจันหน้ากับบุรธัชเข้าอย่างจังเขาปล่อยมือจากกีตาร์ยืนมองบุรธัชนิ่ง ณิชมนตามเข้ามาพลอยชะงักไปด้วย
ทุกคนรอบๆ นิ่งเงียบกึกไปในทันทีทีบุรธัชมองรวิภาสอย่างระอาใจ
“แกนี่ทำให้ฉันผิดหวังได้ทุกที”
บุรธัชเดินผละออกไปโดยไม่ทันเห็นพิมพ์นฤมล
“เดี๋ยวซิคะ คุณชายธัช อย่าเพิ่ง คุณภาสตามไปซิคะ ตามไปอธิบายให้พี่ชายคุณเข้าใจ...”
รวิภาสเดินผละออกไปเล่นกีตาร์ต่ออย่างไม่สนใจ พิมพ์นฤมลรีบตามรวิภาสไป
“พี่ภาส !”
ณิชมนละล้าละลังแล้วผละตามไปทางที่บุรธัชไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินหลุดออกจากหลังโรงเรียน ณิชมนวิ่งตามมาจนทันคว้าแขนบุรธัชไว้
“คุณชายธัช ! คุณจะไปไหนคะ”
“กลับบ้าน”
“คุณอย่าเพิ่งตัดสินคุณภาสซิคะ มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดก็ได้”
“เธอไม่ต้องมาแก้ตัวแทนนายภาสเลย ภาพที่ฉันเห็น มันอธิบายได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว นายภาสไม่ได้มาออกค่ายสร้างโรงเรียนหรอก มันก็แค่ย้ายที่กินเหล้าเท่านั้นแหละ”
“คุณนี่ทำไมถึงมองคุณภาสในแง่ร้ายจริงๆ”
รวิภาสเดินเข้ามา
“พี่ธัชพูดถูกแล้วล่ะ ประนอม ไม่ต้องอธิบายให้เหนื่อย แล้วพี่ธัชตามผมมาที่นี่ทำไม พี่ธัชยังแอบคาดหวังกับผมอยู่หรือครับ โธ่ ไม่ต้องหวังอะไรกับผมหรอกครับ ไงผมก็เป็นไอ้น้องชายไม่เอาถ่านของพี่ธัชคนเดิม ไม่มีวันเปลี่ยนหรอกครับ”
“เออ ฉันมันโง่เอง ที่ยังหวังว่า แกโตขึ้น แกน่าจะคิดได้บ้าง ต่อไปนี้ฉันจะเลิกหวังในตัวแก ตอนนี้แกทำตัวเสเพลให้พอ เรียนจบเมื่อไหร่ ก็จะหมดเวลาสนุกของแกเมื่อนั้น”
บุรธัชเดินออกไป
“คุณชายธัช ! คุณนี่จริงๆ เลย แล้วฉันจะกลับมาจัดการกับคุณทีหลัง” ณิชมนบอกรวิภาส
ณิชมนรีบตามบุรธัชไป รวิภาสหันกลับเดินออกไปต้องชะงักเห็นพิมพ์นฤมลยืนมองอย่างไม่เห็นด้วย
อ่านต่อหน้าที่ 2





รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 16(ต่อ)
บุรธัชเดินกลับมายืนรอที่รถ ณิชมนเดินตามมาถึงที่รถ
“ขึ้นรถ !” บุรธัชสั่ง
“ไม่ ! ฉันจะไม่กลับจนกว่าคุณจะไปพูดกับคุณภาสให้รู้เรื่อง”
“ฉันกับนายภาสไม่มีเรื่องอะไรจะต้องพูดกันแล้ว”
“ยังไงคุณก็ต้องให้โอกาสคุณภาสได้อธิบาย…”
“เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินที่มันพูดหรือไง ตอนนี้คนที่ไม่ยอมรับความจริงน่ะคือ เธอ ! ฉันเองก็นึกอยู่แล้ว นายภาสน่ะเหรอจะทำเรื่องดีๆกับเค้าได้ มันดีเกินที่จะเป็นเรื่องจริง ขึ้นรถไปได้แล้ว”
“ไม่ !”
“ฉันบอกให้ขึ้นรถ”
“ก็บอกว่าไม่กลับ”
บุรธัชรวบตัวณิชมนโยนเข้าไปในรถ ณิชมนไม่ยอมแพ้จะพุ่งออกมา
“อย่าลงจากรถเป็นอันขาด !” บุรธัชดุ
ณิชมนนิ่งไปแค่เสี้ยววินาทีแล้วก็ขยับจะลงจากรถ
“ถ้าเธอลงจากรถ ฉันจะทิ้งเธอไว้นี่แหละ”
ณิชมนหยุดนั่งนิ่งๆอย่างขัดใจ บุรธัชเข้าไปนั่งในรถมองณิชมนอย่างพอใจที่เชื่อฟัง
“ฉันไม่ได้กลัวที่จะถูกทิ้งไว้ที่นี่หรอกนะ เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว ฉันไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆหรอก คุณชายธัช” ณิชมนหยิ่ง
บุรธัชมองณิชมนทำถอนหายใจใส่อย่างให้เห็นว่ารำคาญจริงๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาสกับพิมพ์นฤมลเดินกลับมาด้วยกัน
“ทำไมพี่ภาสไม่บอกความจริงคุณชายธัชไปล่ะคะ”
“บอกไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”
“ทำไมจะไม่มีอะไรดีขึ้น อย่างน้อยคุณชายธัชก็จะมองพี่ภาสดีขึ้น แล้วใครจะไปรู้ คุณชายเห็นพี่ภาสมีความรับผิดชอบแล้ว เค้าอาจจะยอมปล่อยให้พี่ภาสมีอิสระขึ้น...”
“ไม่มีทางหรอก นมล ยังไงพี่ธัชก็คงจะควบคุมชีวิตพี่ต่อไป พี่ธัชไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรอก”
“ทุกคนเปลี่ยนกันได้ค่ะ พี่ภาสจะปล่อยให้คุณชายธัชเข้าใจพี่ภาสผิดไปอย่างนี้อีกนานแค่ไหน หรือว่าพี่ภาสเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ได้ปั่นหัวคนอื่นเล่น”
“มันก็สนุกดีนะ ได้เห็นพี่ธัชโวยวายเรื่องไม่เป็นเรื่อง นี่ถ้ารู้ทีหลังว่าอะไรเป็นอะไร ได้หน้าแตกละเอียดกันล่ะ”
“งั้นพี่ภาสก็เล่นสนุกต่อไปก็แล้วกัน คุณชายจะได้มีเหตุผลที่จะกำหนดอนาคตของพี่ภาส แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ อนาคตของพี่ภาสก็จะไม่มีนมลอยู่ด้วยแน่”
พิมพ์นฤมลเดินไม่พอใจออกไป
“นมล !” รวิภาสเรียกแล้วนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถบุรธัชแล่นตะบึงมาตามถนนท่ามกลางป่าเขาที่มืดมิด ณิชมนมองบุรธัชเป็นระยะๆ
“ขับช้าๆ ก็ได้ค่ะ คุณจะรีบไปไหน”
บุรธัชไม่ตอบยังคงเหยียบคันเร่งซิ่งรถไปอย่างเร็ว
“นี่คุณรู้สึกผิดขึ้นมาล่ะซิ คุณเสียใจใช่มั้ยล่ะที่รีบร้อนออกมา ถ้าคุณอยู่ต่อ คุณก็จะได้รู้ความจริง..”
“ขอฉันขับรถเงียบๆ ได้มั้ย”
เสียงยางรถระเบิดดังสนั่น
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
บุรธัชพยายามบังคับรถที่เริ่มทรงตัวไม่อยู่ รถบุรธัชแล่นแฉลบเข้าข้างทางแล้วหยุดนิ่งสนิทเขารีบลงจากรถมาดูยางรถที่แตกแบน ณิชมนลงจากรถตามมา
“รถเป็นอะไรไปคะ”
“ยางแตก”
“ยางแตกก็เปลี่ยนยางซิคะ อย่าบอกนะว่า คุณเปลี่ยนยางไม่เป็น งั้นฉันเปลี่ยนให้เอง”
ณิชมนรีบไปเปิดท้ายรถดูแล้วถอยออกมามองหน้าบุรธัช
“รถคุณไม่มียางอะไหล่ !”
บุรธัชพยักหน้ารับแบบว่ารู้อยู่แล้ว
“แล้วเราจะทำไงดีล่ะทีนี้” ณิชมนร้อนรน
บุรธัชยืนนิ่งใจเย็น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรกำลังคุยโทรศัพท์กับอาจอยู่
“ลุงอาจแน่ใจนะคะว่า ธัชไม่ได้ลืมเอามือถือไป ยังไงก็ให้ธัชโทรกลับหาณิชาด้วยนะคะ ไม่ว่าดึกแค่ไหน ก็ต้องโทรมา ณิชาจะรอ ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ณิชาภัทรกดปิดโทรศัพท์ นวลแขเดินมาหยุดมองณิชาภัทร
“เกิดอะไรขึ้น”
“ธัชน่ะซิคะ หายไปกับแม่บ้านประนอมตั้งแต่เช้า ป่านนี้ยังไม่กลับถึงบ้านเลย ไปไหนก็ไม่รู้ ถามทีไร ลุงอาจก็บอกให้รอถามธัชเอง”
“ย่าไม่ได้หมายถึงคุณชาย ย่าถามถึงเราต่างหาก เกิดอะไรขึ้น ตอนที่เราเป็นแฟนกับคุณชาย ยังไม่โทรจิกกันถึงขนาดนี้เลย”
“แหม คุณย่าใช้คำแรงจังค่ะ ณิชาไม่ได้โทรจิกซะหน่อย ก็แค่พยายามโทรตามตัวธัชให้เจอให้ได้เท่านั้น”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง”
“ณิชากลัวค่ะ... คุณย่า ณิชารู้สึกว่า กำลังจะเสียธัชไป”
“คนเรามักจะรู้ค่าของกันก็เมื่อตอนที่ต้องสูญเสียนี่แหละ”
“ณิชาเห็นค่าของธัชมาตลอดนะคะ แต่ธัชน่ะซิคะ ไม่เคยค่าของณิชาเลย”
“เราก็ต้องทำใจนะ คุณชายก้าวไปข้างหน้าแล้วคงไม่หันหลังกลับมาอีกเราก็ต้องทำให้ได้อย่างคุณชายเค้า”
“ณิชาก็พยายามทำใจอยู่ แต่ณิชาทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ คุณย่า ณิชาเสียธัชให้กับแม่บ้านอย่างประนอมไม่ได้จริงๆ”
ณิชาภัทรหงุดหงิดใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเปิดท้ายรถขนเต็นท์หลังเล็กพร้อมถุงนอนออกมา ณิชมนเดินมาที่บุรธัช
“นี่คุณจะทำอะไร อย่าบอกนะว่า เราต้องค้างกันที่นะ แล้วนี่อะไรคะ คุณมีเต็นท์มีถุงนอนมีอุปกรณ์แคมปิ้งครบ แต่ไม่มียางอะไหล่เนี่ยนะ”
“เธอจะโวยวายให้ได้อะไรขึ้นมา เป็นความผิดของฉันหรือไง”
“ไงฉันก็ไม่ค้างที่นี่”
“ก็ตามใจ จะเดินกลับไปที่โรงเรียนก็ได้ ไม่กี่สิบกิโลเอง ผู้หญิงอึดๆอย่างเธอคงจะเดินไหว เชิญ”
บุรธัชเริ่มกางเต็นท์อย่างไม่ใส่ใจณิชมน ณิชมนมองไปไกลถนนในความมืดน่ากลัว
“ฉัน..ฉันค้างที่นี่ก็ได้ แต่ฉันจะไม่นอนในเต็นท์กับคุณ ฉันจะนอนในรถ”
“ก็ดี ฉันจะได้นอนสบายๆไม่ต้องเบียดใคร แล้วฉันก็มีถุงนอนอยู่ใบเดียวซะด้วย แล้วเกิดฟลุ๊คมีรถผ่านมา ก็เรียกให้ด้วยล่ะ”
ณิชมนมองบุรธัชแล้วทำปากขมุบขมิบว่าบุรธัชที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลกับมีนเดินออกมาด้วยกันถึงห้องน้ำ ถือไฟฉายส่องมาตลอดทาง ทั้งสองหอบชุดนอน ผ้าขนหนู ขันใส่แชมพู สบู่มาด้วย มีนมองพิมพ์นฤมลที่หน้าเฉยๆเหมือนอารมณ์ไม่ดี
“เป็นอะไรไป นมล พี่กันต์บอกว่าแกกับพี่ภาสแฮปปี้เอนดิ้งกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมทำหน้าเหวี่ยงอย่างนี้ล่ะ”
“ไม่ได้เหวี่ยงไม่ได้วีน แค่หงุดหงิดเท่านั้นแหละ พี่ภาสชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เรื่อย ไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา”
“แกนี่มีเรื่องทะเลาะกับพี่ภาสได้ทุกวันเลยนะ แล้วนี่จะคบกันยืดมั้ยเนี่ย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วไม่รู้ว่าที่เราคบกันอยู่นี่ เราคบกันแบบไหน”
“แกกำลังจะบอกว่า แกกับพี่ภาสเป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนงั้นเหรอขอทีเถอะ ไอ้คำพูดเสร่อๆอย่างนี้มันไว้ใช้สำหรับคนที่กลัวการผูกมัด จะเป็นเพื่อนหรือแฟนก็เลือกเอาซักอย่าง อย่ามาทำครึ่งๆกลางๆ”
“ก็ได้ๆ ตอนนี้ฉันกับพี่ภาสเป็นแฟนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเราอาจจะกลับเป็นเพื่อนกันอย่างเดิมก็ได้ เรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก”
พิมพ์นฤมลรีบเข้าห้องน้ำไปเป็นการตัดบท มีนมองตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนนอนกระสับกระส่ายไม่สบายตัวนอนพลิกตัวไปมาในรถ เธอลุกขึ้นนั่งไล่ตบยุงในรถ
“แล้วคืนนี้จะหลับได้มั้ยล่ะเนี่ย ปิดกระจกดีกว่า”
ณิชมนขยับตัวไปจะกดปิดกระจก อยู่ๆบุรธัชยื่นหน้าพรวดมาที่กระจกหน้าต่างณิชมนผงะถอยหลังอย่างตกใจ
“ว้าย !”
“ฉันเอง”
“อย่ามาแกล้งกันอย่างนี้ ฉันแทบหัวใจวายตาย”
“ไม่ได้แกล้ง ยังไม่นอนใช่มั้ย ออกมาคุยกันหน่อย”
“คุยเรื่องอะไร”
“เรื่องนายภาส”
บุรธัชผละเดินออกไป ณิชมนมองตามอย่างตัดสินใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

มีนอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนกางเกงเลเสือยืดยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เธอยืนกอดอกหนาวสั่นเอื้อมมือไปตบประตูห้องน้ำ
“นมล อาบน้ำเสร็จหรือยัง ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว”
“อีกแป๊บเดียว จะเสร็จแล้ว”
รวิภาสเดินเข้ามาหามีน
“ไปก่อน ไป พี่รอนมลเอง”
“แต่ว่า..เดี๋ยวนมลว่า..”
มีนทำท่าจะค้านแต่แล้วก็ยอมเดินไปเงียบๆแต่โดยดี พิมพ์นฤมลเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำพลางผูกกางเกงเลอย่างทุลักทุเล
“เสร็จแล้วๆ ไอ้กางเกงนี่มันผูกยังไงน่ะ มีน”
พิมพ์นฤมลเงยหน้าขึ้นเป็นรวิภาสที่ยืนรออยู่
“พี่ภาส”
พิมพ์นฤมลมัวแต่มองรวิภาสอย่างแปลกใจจนทำกางเกงเลหลุดมือแทบร่วงลงพื้น
“ว้าย ! ตายแล้ว”
พิมพ์นฤมลรีบตะครุบกางเกงเลไว้ได้ทัน รวิภาสหัวเราะขำ
“มา พี่ผูกให้ มันต้องผูกอย่างนี้”
รวิภาสดึงตัวพิมพ์นฤมลเข้ามาใกล้ค่อยๆ จับขอบกางเกงเลรวบผูกเข้าด้วยกัน เขาอ้อยอิ่งเอื้อมมือไปด้านหลังดึงเชือกมาผูกเอวให้อีกครั้ง และรวบตัวพิมพ์นฤมลมากอดไว้
“ถ้าพี่ทำให้โกรธ...ก็ขอโทษนะ”
“กลับไปนี่ พี่ภาสจะต้องไปพูดกับคุณชายธัชให้เข้าใจนะ”
รวิภาสนิ่งไม่ยอมรับปาก
“ถ้าพี่ภาสยังดื้ออยู่อีกล่ะก็ เราก็ไม่ต้องมาพูดกันแล้ว”
พิมพ์นฤมลเดินผละออกไป รวิภาสรู้สึกยุ่งยากใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นมลเดินออกมาจะกลับไปที่ตัวโรงเรียน รวิภาสเดินมาดึงตัวเธอไว้
“ทำไมนมลต้องสนใจด้วยว่าพี่ธัชจะคิดกับพี่ยังไง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเราสองคนเลย”
“นมลจะไม่พูดซ้ำอีกแล้ว ถ้าพี่ภาสไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ”
“ยังไงพี่ก็ไม่ให้พี่ธัชขัดขวางความรักของเราสองคนแน่”
“ที่พี่ภาสเปลี่ยนใจมาคบกับนมลนี่ เพราะรักนมลจริงๆหรือคะ”
“ทำไมถามอย่างนี้ล่ะ”
“นมลเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วน่ะซิคะ พี่ภาสคนที่บอกว่ารักนมลกับพี่ภาสคนที่เกลียดนมล คนไหนเป็นตัวจริงกันแน่”
“ที่พี่เคยพยายามอยู่ห่างๆ นมล เพราะพี่ต้องการปกป้องนมล…”
“แล้วตอนนี้พี่ภาสปกป้องนมลได้แล้วเหรอคะ พี่ภาสจะทำยังไงถ้าคุณชายรู้เรื่องของเรา ทำตัวเกเรเสเพลหลอกคุณชายไปวันๆ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้หรอกนะคะ มันมีแต่ทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลงรวมทั้งเรื่องของเราสองคนด้วย...”
พิมพ์นฤมลเดินออกไป รวิภาสยืนนิ่งอึ้ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชนั่งอยู่ที่หน้ากองไฟกองเล็กๆ เต็นท์กางไว้เรียบร้อยแล้วด้านหลัง ณิชมนเดินมานั่งอย่างรักษาระยะห่างจากบุรธัชเธอเห็นมือถือของบุรธัชวางอยู่เหล่มองแล้วค่อยๆ เอื้อมมือจะไปหยิบ
“แถวนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์”
ณิชมนชะงักหดมือเข้ามาทันที
“ฉันก็อยากออกไปจากที่นี่เหมือนเธอนั่นแหละ แต่ตอนนี้เรามีทางเลือกเดียว รอให้ถึงเช้าแล้วภาวนาขอให้มีรถผ่านมาแถวนี้ เลิกทำท่าเหมือนฉันจะทำอะไรเธอได้แล้ว มันน่ารำคาญ”
“ก็คุณน่าไว้ใจมั้ยล่ะ แล้วนี่คุณเปลี่ยนใจแล้วใช่มั้ย พรุ่งนี้เรากลับไปที่โรงเรียนอีกครั้งนะคะ”
“ไม่กลับ”
“ไหนคุณบอกว่าจะคุยเรื่องคุณภาสไงล่ะ”
“ไม่อยากคุยแล้ว คุยกันเรื่องอื่นดีกว่า”
“ถ้าไม่คุยเรื่องคุณภาส ฉันก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณแล้ว”
“หลังจากทำงานกับฉันครบสองอาทิตย์แล้ว เธอจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป”
“ฉันมาจากไหน ฉันก็จะกลับไปที่นั่น”
“เธอจะกลับขอนแก่นงั้นเหรอ”
“ฉันไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่ทีแรกแล้ว ฉันน่าจะพอใจกับชีวิตตัวเอง ฉันมีพ่อแม่ที่รักฉันที่สุด ฉันจะต้องการความรักจากคนอื่นทำไมอีก ฉันจะต้องอยู่คนเดียวให้ได้..”
บุรธัชมองณิชมนอย่างสงสัย
“ฉัน..ฉันจะพยายามหางานใหม่ทำ แล้วก็อยู่ได้ตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใครน่ะค่ะ เราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า ฉันมีคำถามจะถามคุณเป็นคำถามทางจิตวิทยา..”
“เค้าไม่บอกกันล่วงหน้าหรอก เค้าต้องถามก่อนแล้วค่อยบอกทีหลังว่าเป็นการวิเคราะห์ทางจิตวิทยา”
“เถอะน่า ถ้าคุณเดินเข้าป่าแล้วเจอเสือยืนขวางทางอยู่คุณจะทำยังไง”
“เข้าป่าเค้าห้ามพูดถึงเสือกัน”
“ตอบคำถามมาเถอะน่า”
“เสือตัวใหญ่แค่ไหนล่ะ แล้วเสืออะไร เสือโคร่ง เสือดำ เสือดาว”
“เสืออะไรก็ได้ ที่มันดุๆกินคนน่ะ ตอบมาดีๆ อย่าโยกโย้ได้มั้ย”
บุรธัชกับณิชมนเถียงกันในบรรยากาศสบายๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรมองโทรศัพท์มือถือในมืออย่างใจจดใจจ่อ
“จะไม่โทรมาจริงๆเหรอ ธัช”
ณิชาภัทรกดดูรูปตัวเองกับบุรธัชในมือถือรูปแล้วรูปเล่า
“ณิชาจะต้องเสียธัชไปจริงๆเหรอ..”
ชาภัทรหมดหวังที่จะได้รับโทรศัพท์จากบุรธัช
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

กลุ่มนักศึกษาชายหญิงแยกกันเป็นสองฝั่งนอน พิมพ์นฤมลเอาเสื้อผ้ามาวางทับรวมกันมาวางไว้ใช้แทนหมอนเธอล้มตัวลงนอนเอาผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ห่มแก้ขัดและขยับตัวไปมานอนท่าไหนก็ไม่ถนัดจนหัวตกไปโขกกับพื้น เธอลุกขึ้นมาจัดกองเสื้อผ้าใหม่อีกครั้ง มีนหอบหมอนกับผ้าห่มมาวางให้เธอ
“เอ้า นมล มีคนให้เอามาให้”
“ใครเหรอ”
“ไม่เห็นจะต้องถามเลย นาทีนี้ก็ต้องเป็นพระเอกของแกน่ะซิ นี่อย่ามาทำหยิ่งใส่นะ ถ้าจะเอาไปคืนก็ไปคืนเอง”
“เรื่องอะไรจะเอาไปคืน ฉันเป็นนางเอกยุคใหม่ หยิ่งในเรื่องที่ควรหยิ่ง ฉันไม่ทำตัวงี่เง่าให้ตัวเองต้องลำบากหรอก”
“งั้นแกก็ควรจะเลิกโกรธพี่ภาสได้แล้ว แกอย่าหวังว่า แกจะเปลี่ยนพี่ภาสได้ในวันเดียว คนจะคบกันก็ต้องให้โอกาสกันบ้าง หรือว่าพี่ภาสไม่ดีพอที่จะได้โอกาสจากแก”
พิมพ์นฤมลมองไปที่ฝั่งนักศึกษาผู้ชายนอนรวมกันอยู่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาสนอนหนุนกระเป๋าเป้แทนหมอน เขากอดอกด้วยความหนาว พิมพ์นฤมลเดินมาวางผ้าคลุมไหล่ผืนหนาๆใหญ่ๆไว้บนพื้น
“ถือว่าแลกกัน” พิมพ์นฤมลบอก
รวิภาสจับมือพิมพ์นฤมลไว้
“หายโกรธแล้วเหรอ”
“ยัง พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“อย่าโกรธเลยนะ”
พิมพ์นฤมลมองรวิภาสจนต้องให้คำตอบ
“พี่จะทำตามที่นมลบอก พี่จะทำให้พี่ธัชเข้าใจพี่ใหม่ เราเข้าใจกันแล้วใช่มั้ย ไม่โกรธกันแล้วนะ”
“ไม่โกรธแล้วก็ได้”
“ถ้าไม่โกรธแล้ว ก็ห่มผ้าให้หน่อยซิ”
พิมพ์นฤมลหยิบผ้าคลุมมาห่มให้รวิภาส รวิภาสจับมือเธอไว้ กันต์ที่นอนหันหลังให้ตลอดหันมาเหล่มอง
“ไปจีบกันที่อื่น ไป๊” กันต์พูดลอยๆ
“ห้ามข้ามเขตกันไม่ใช่เหรอ พี่ภาส” นศ.ชายล้อ
“เป็นหัวหน้าชมรมฯ มันก็ดีอย่างนี้แหละ ไอ้น้อง” กันต์แซวรวิภาส
พิมพ์นฤมลรีบลุกหนีออกไปทันที
“คืนนี้ไอ้พี่ภาสฝันดีทั้งคืนแน่ๆ”
รวิภาสหันไปถีบกันต์กระเด็นไปไกล
รวิภาสขยับกลับมานอนห่มผ้าคลุมของพิมพ์นฤมลอย่างมีความสุข
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชกับณิชมนยังคงคุยกันอย่างสนุกเพลินจนลืมเวลา
“คุณตัดสินใจสู้กับเสือด้วยมือเปล่า แสดงว่า คุณเป็นคนกล้าเผชิญกับปัญหา ชอบที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง คุณเลือกที่จะเปิดประตูออกไปอย่างไม่ลังเล แสดงว่า คุณเป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้ ชอบผจญภัยเพื่อจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ”
“งั้นฉันถามเธอมั่ง ถ้าหากเดินหลงทางอยู่ในป่ามาสามวันสามคืน ทั้งหิวทั้งเหนื่อยจนล้มลงได้ทุกนาที แล้วเธอก็มาเจอน้ำตกเย็นฉ่ำกลางป่าเธอจะทำยังไง”
“ฉันก็กระโจมลงไปในน้ำตกทันทีน่ะซิ แล้วคุณล่ะ”
“ฉันต้องมองรอบๆให้แน่ใจก่อน น้ำตกสวยๆ อาจจะมีอันตรายแอบแฝงอยู่ก็ได้”
“น้ำตกเป็นสัญลักษณ์แทนความรักใช่มั้ยล่ะ ฉันวิเคราะห์ให้ก็ได้ คุณเป็นคนที่กลัวความรักไม่ยอมรักใครง่ายๆ คุณเป็นขี้ระแวงไม่ไว้วางใจคน”
“ใครบอก ในทางจิตวิทยา น้ำตกเป็นสัญลักษณ์แทนเซ็กซ์ต่างหาก เธอเลือกที่กระโจมลงไปในน้ำตกทันที แสดงว่า..”
“หยุดเลยนะ คุณ..คุณพูดชี้นำหลอกให้ฉันตอบ..ไม่เอาแล้ว เลิกเล่นแล้ว”
บุรธัชมองณิชมนยิ้มขำอย่างอารมณ์ดีอย่างประหลาด
“มีความสุขมากเลยใช่มั้ย คุณชายธัช”
“เธอน่าจะภูมิใจนะ ที่ทำให้คนอยู่ใกล้ๆมีความสุข เธอเป็นผู้หญิงที่แปลกบางครั้งฉันอยากไล่เธอไปให้ไกลแสนไกล แต่บางครั้งเธอก็ทำให้ฉันอยากอยู่ใกล้ๆเธอได้”
บุรธัชจับตามองณิชมนนิ่งเผลอแสดงความรู้สึกบางอย่างในใจ
“ดึกแล้ว..ฉันกลับไปที่รถดีกว่า”
บุรธัชดึงมือณิชมนไว้
“เข้าไปนอนในเต็นท์ ไป”
“ฉันบอกแล้ว ฉันจะนอนในรถ”
“ฉันบอกให้เข้าไป นอนในรถแล้วจะหลับเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีแรงขับรถให้ฉันหรอก ฉันจะนอนข้างนอกเอง”
ณิชมนมุดเข้าไปในเต็นท์แล้วโผล่หน้าออกมาใหม่ เธอวางถุงนอนให้
“บางครั้งคุณก็เป็นคนน่าอยู่ใกล้ๆได้เหมือนกัน” ณิชมนพูด
ณิชมนรีบมุดกลับเข้าไปในเต็นท์ บุรธัชมองตามณิชมนยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
อ่านต่อหน้าที่ 3





รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 16(ต่อ)
โรงเรียนเวียงดอยในตอนเช้าตรู่ รวิภาส กันต์และกลุ่มนักศึกษาเริ่มต้นสร้างห้องสมุดช่วยกันขนไม้ขนถุงปูนเข้ามาพิมพ์นฤมลกับมีนเดินเข้ามา
“อาหารเช้าเสร็จแล้วค่า” พิมพ์นฤมลบอก
“เช้านี้มีอะไรกินบ้าง นมล”
“มีอะไรกินได้บ้างจะดีกว่ามั้ย พี่กันต์” นศ.ชายถาม
“กินแล้วไม่จู๊ดๆ น่ะ นมล พี่ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่” นศ.ชายอีกคนแซว
“ถ้าใครกลัวกินไม่ได้ ก็ไม่ต้องกิน ไปๆ ทุกคนไปกินข้าว ส่วนไอ้คนที่พูดมาก ให้มันหากินเอง” รวิภาสพูด
“กินซิครับ พี่ กินครับ ฝีมือทำอาหารของน้องนมลต้องกินได้อยู่แล้ว”
“วันนี้รับรองกินได้ทุกอย่างค่ะ”
“แล้วก็อร่อยด้วยค่ะ”
“วันนี้ฝ่ายสวัสดิการขอแก้ตัวค่ะ อาหารเช้าวันนี้พวกเราทำสุดฝีมือเลยไม่ต้องห่วงนะคะ มีนเป็นคนลงมือทำ นมลเป็นแค่ผู้ช่วย รับรองกินได้และอร่อยชัวร์ๆ”
“ไม่ต้องไปหว่านล้อมพวกมันหรอก ถ้ามันไม่กิน ก็ช่างหัวมัน เราไปกินข้าวกัน ไป”
รวิภาสจูงมือพิมพ์นฤมลออกไป เธอพยายามดึงมือออก รวิภาสดึงมือไว้จับมือพาพิมพ์นฤมลเดินนำหน้าออกไป
“สวีทกันจริง อิจฉาโว้ย”
กันต์และกลุ่มนักศึกษาชายแกล้งโห่ใส่รวิภาสกับพิมพ์นฤมล
“อิจฉาก็รีบหาแฟนซิวะ” รวิภาสยิ้ม
“เฮ้ย เค้ารับว่าเป็นแฟนกันแล้ว รับทราบกันให้ทั่วๆ นะครับ”
กันต์และกลุ่มเพื่อนๆ โห่ฮิ้วกันอีกรอบ รวิภาสพาพิมพ์นฤมลเดินหนีกลุ่มเพื่อนๆ ออกไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เต็นท์กางอยู่กลางป่ากองไฟมอดไปหมดเหลือแต่ควันจางๆ ณิชมนนอนหลับอยู่ในเต็นท์สะดุ้งตื่นผุดลุกขึ้นมานั่งเธอมองไปรอบๆตัวนึกขึ้นได้ว่าอยู่ที่ไหนและรีบมุดออกมาจากเต็นท์มองหาบุรธัชแต่ไม่เจอ ณิชมนพรวดพราดออกไปที่รถทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถบุรธัชยังจอดอยู่ที่ริมถนน ณิชมนรีบร้อนตามมาที่รถมองหาบุรธัชยังไม่เจอ
“คุณชายธัช ! หายไปไหนของเค้า”
ณิชมนมองไปไกลๆ เห็นบุรธัชสะพายเป้เดินไปไกลลิ่วๆ
“คุณชายธัช !”
ณิชมนรีบวิ่งไล่กวดจนทันดึงตัวบุรธัช
“คุณจะไปไหนคะ” ณิชมนหอบ
“ไปหาคนมาช่วย ถนนใหญ่อยู่ทางโน้น น่าจะมีรถผ่านมาบ้าง เธอกลับไปนั่งรอในรถไป แล้วก็ล็อคประตูรถด้วยล่ะ”
บุรธัชเดินนำออกไป ณิชมนยังคงเดินตามบุรธัชหันมามอง
“บอกให้ไปรอที่รถ”
“ฉันไปด้วย เรามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน อย่าลืมซิ ฉันเป็นผู้ช่วยคุณนะคุณไปไหนฉันก็ต้องไปด้วย แล้วฉันน่ะเป็นเซียนนักโบกรถเลยนะจะบอกให้ ฉันโบกคันไหน รับรองไม่มีพลาด”
รถแล่นผ่านมาณิชมนรีบชูนิ้วโป้งโบกรถ รถแล่นผ่านวืดไปอย่างไม่ไยดี บุรธัชมองณิชมนอย่างขำๆ เขาเดินนำไปณิชมนรีบเดินตาม รถผ่านมาอีกคันเขาและเธอช่วยกันโบกรถเรียกแต่รถก็ผ่านไปอีกคัน
บุรธัชกับณิชมนเดินเหนื่อยหมดแรงจนมาถึงถนนทางหลวงเขาหยิบขวดน้ำส่งให้ณิชมน เธอรับมาดื่มอั๊กๆจนหมดขวดเธอเงยหน้ามองบุรธัชยิ้มแหยๆที่ลืมตัวดื่มน้ำจนหมด เขาและเธอเดินต่อไป ณิชมนปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อย
บุรธัชเอื้อมมือจะไปเช็ดเหงื่อแล้วชะงักหดมือกลับ ณิชมนหันมามองเห็นบุรธัชเก้อไป รถกระบะแล่นผ่านมา ณิชมนจะกระโดดออกไป บุรธัชดึงตัวไว้แล้วออกไปโบกรถให้เอง รถกระบะจอดเข้าริมทางบุรธัชเข้าไปเจรจาขอความช่วยเหลือเขาหันมาพยักหน้าให้ณิชมนให้รู้ว่าเจรจาสำเร็จและช่วยดึงณิชมนขึ้นท้ายรถกระบะแล้วตัวเองก็ตามขึ้นไปนั่งอย่างหมดแรง
รถกระบะตีรถกลับไปทางที่รถบุรธัชจอดเสียอยู่ บุรธัชกับณิชมนนั่งอยู่ท้ายรถกระบะหันมายิ้มให้กันอย่างโล่งใจ ณิชมนนั่งพิงรถอย่างหมดแรงหลับตาลงแล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเธอโงนเงนไปมา บุรธัชจับตัวณิชมนให้พิงไหล่ไว้
บุรธัชมองไปรอบๆแล้วเอื้อมมือหยิบพัดใบลานเก่าๆที่ทิ้งอยู่ท้ายรถถือพัดบังแดดให้ณิชมนไว้ ณิชมนหลับสบายนอนพิงไหล่บุรธัชไปเธอขยับตัวนอนให้สบายขึ้นเอนตัวซบเข้าที่อกบุรธัชจนเหมือนอยู่ในอ้อมกอด
เธอค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ตาประสานกับตาบุรธัชที่หน้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม เธอตกใจตัวเองขยับลุกขึ้นนั่งตัวตรงบุรธัชก็รีบโยนพัดทิ้งไปทันที ทั้งบุรธัชกับณิชมนหันหน้ามองไปคนละทางอย่างเขินๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรเดินฉับๆ เข้ามาในบ้าน มองกวาดไปรอบๆ บ้านรู้สึกว่าบ้านเงียบผิดปกติ อาจเดินเข้ามา
“คุณณิชา มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ธัชล่ะคะ”
“คุณชายไม่อยู่ครับ”
“ธัชออกไปไหนแต่เช้าคะ แล้วทำไมไม่โทรหาณิชา ลุงอาจบอกให้ธัชโทรกลับหาณิชาหรือเปล่า”
“ผมขอโทษด้วยจริงๆ ผมไม่มีโอกาสได้บอกน่ะครับ”
“หมายความว่าไง ไม่มีโอกาสได้บอก นี่เมื่อคืนธัชไม่ได้กลับบ้านหรือคะแล้วคุณนอมล่ะ”
“คุณนอมก็..ก็ไม่ได้กลับมาเหมือนกันครับ”
พงษ์เทพเดินเข้ามา
“นี่หมายความว่า ธัชหายไปกับคุณนอมทั้งคืนหรือคะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” พงษ์เทพถาม
“ธัชกับคุณนอมออกไปด้วยกันตั้งแต่เมื่อวานค่ะ แต่ป่านนี้ยังไม่กลับถึงบ้านเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เกิดอุบัติเหตุหรือเปล่าครับ”
“ณิชาไม่คิดว่า เป็นเรื่องของอุบัติเหตุหรอกค่ะ น่าจะเป็นเรื่องของความตั้งใจให้เกิดมากกว่า ลุงอาจบอกณิชามาเดี๋ยวนี้เลยนะคะว่า ธัชกับคุณนอมไปไหน ทำไมถึงบอกณิชาไม่ได้”
“คุณชายไปธุระส่วนตัวน่ะครับ เป็นเรื่องภายในครอบครัว”
“ธัชไม่เคยเห็นณิชาเป็นคนอื่นนะคะ ลุงอาจ”
“บอกมาเถอะครับ ลุงอาจ ถ้าหากลุงอาจไม่บอก เราคงต้องไปแจ้งความ ลุงอาจคงไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายใหญ่โตไปหรอกนะครับ”
อาจจนใจต้องยอมตอบคำถาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรเดินหงุดหงิดมาที่รถ พงษ์เทพเดินตามมา
“ธัชไปตามภาสแค่นี้ทำไมถึงบอกกันไม่ได้ ลุงอาจนี่กวนประสาทจริงๆทำเป็นลับลมคมในไปได้ ณิชาไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน”
“คุณชายธัชอาจจะมีปัญหาภายในครอบครัวที่จะต้องเคลียร์ ลุงอาจก็เลยไม่อยากให้คนนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“แล้วคุณนอมล่ะคะ ทำไมธัชถึงพาไปด้วยล่ะ คุณนอมเป็นยิ่งกว่าคนนอกเป็นแค่แม่บ้านเท่านั้น ณิชาไม่เข้าใจจริงๆ ธัชมีปัญหาอะไรทำไมไม่ปรึกษาณิชา แม่บ้านอย่างคุณนอมจะช่วยอะไรได้”
“แต่คุณนอมเป็นคนที่ดูเข้าใจคนอื่นดีนะครับ ผมว่า เรารีบตามไปดีกว่าเดี๋ยวก็คงจะได้รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไปรถผมดีกว่านะครับ”
พงษ์เทพเดินไปเปิดประตูรถให้ณิชาภัทร
“แล้วคุณคิดว่า เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมธัชกับคุณนอมถึงได้หายไปด้วยกันทั้งคืน..”
“ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้น ผมขอให้ทั้งสองคนปลอดภัยกลับมาก็พอ คุณอย่าคิดฟุ้งซ่านไปเลย ยิ่งคุณคิดในแง่ร้ายก็ยิ่งแสดงว่า คุณไม่ได้รู้จักคนที่คุณรักเลย คุณณิชา”
ณิชาภัทรนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถกระบะแล่นออกไปบุรธัชหันกลับมามองณิชมน
“ไป เรากลับกันได้แล้ว”
“เราจะไปได้ไกลแค่ไหนคะ แน่ใจนะคะว่า ยางไม่ไประเบิดกลางทางอีก”
“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คุณลุงเค้าเป็นช่างเก่า เค้ารับรองว่า เรากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน”
“รถขับไปไกลแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาแล้ว...”
ณิชมนมองบุรธัชอย่างขอร้อง
“คุณชายธัชคะ”
“คำตอบของฉันก็คือ ไม่”
“ฉันขอร้องคุณครั้งนี้ แล้วฉันจะไม่ขอร้องอะไรคุณอีกตลอดชีวิตเลย เรากลับไปที่โรงเรียนอีกครั้งเถอะนะคะ”
บุรธัชนิ่งคิดยังเล่นตัวไม่ให้คำตอบง่ายๆ
“ฉันรู้นะคะ ลึกๆในใจของคุณ คุณเชื่อในตัวคุณภาส คุณกลับไปหาคุณภาสอีกครั้งเถอะค่ะ ให้โอกาสคุณภาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แล้วก็ให้โอกาสตัวคุณเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้องด้วย”
บุรธัชมองณิชมนอย่างกำลังจะให้คำตอบ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

กันต์กับกลุ่มนักศึกษาช่วยกันสร้างห้องสมุด ก่ออิฐ ตอกไม้กันอยู่ รวิภาสเข็นรถเข็นขนอิฐขนไม้เข้ามาเหงื่อแตกซ่กๆโทรมตั้งแต่หัวจดเท้าเขาขนอิฐออกจากรถเข็นอย่างแข็งขันและหยุดพักหายใจเช็ดเหงื่อที่ไหลโทรม
“นายภาส” บุรธัชเรียก
รวิภาสชะงักหันไปมองเห็นบุรธัชกับณิชมนเดินเข้ามา
“พี่ธัช...”
กันต์เดินมาหารวิภาส
“ไอ้ภาส ตกลงบ่ายนี้จะประชุมกี่โมงวะ แกเร่งงานจนน้องๆมันหายใจไม่ทันแล้ว เลื่อนเป็นประชุมตอนเย็นแล้วกันนะ”
กันต์หยุดกึกหันไปเห็นบุรธัช
“พี่ธัช...หวัดดีครับ ตามสบายนะครับ”
กันต์เดินหลบออกไปทันที
“ทีนี้คุณเชื่อฉันได้หรือยังล่ะ คุณภาสไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดคุณสองคนมีอะไร ก็คุยกันซะให้รู้เรื่อง”
ณิชมนถอยออกมา พิมพ์นฤมลโผล่เข้ามาด้านหลังณิชมน
“คุณนมล !”
พิมพ์นฤมลดึงณิชมนออกไปโดยบุรธัชไม่ทันได้เห็น บุรธัชมองรวิภาสนิ่งอยู่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชกับรวิภาสเดินออกมาด้วยกัน บุรธัชมองรวิภาสอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมแกต้องโกหกฉันด้วย”
“ผมพูดความจริง พี่ธัชก็คงไม่เชื่อผม พี่ธัชตัดสินผมไปแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ผมก็เป็นไอ้น้องชายที่ไม่ได้เรื่องอยู่ดี”
“ฉันเป็นพี่ที่แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“มันอาจจะเป็นความผิดของผมก็ได้ ผมทำตัวเลวมาก่อน จะมากลับตัวตอนนี้ ก็เชื่อได้ยากเหมือนกัน”
“แต่ตอนนี้แกเปลี่ยนไปแล้ว”
“ผมเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ที่เปลี่ยนไปแน่ๆ คือผมมีจุดมุ่งหมายในชีวิตแล้ว ที่ผมเลือกเรียนเกษตร ไม่ใช่เพราะพี่ธัชบังคับ ผมอยากเรียนเองด้วย ผมตั้งใจจะช่วยทำงานที่ไร่ของเรา ผมเรียนจบเมื่อไหร่ พี่ธัชก็เลิกห่วงผมได้แล้ว ไปทำตามความฝันของพี่ธัชเถอะครับ”
“นายภาส...”
“ผมรู้ พี่อยากเป็นสถาปนิก ถ้าท่านพ่อไม่ตาย พี่คงไม่กลับมา พี่คงเปิดบริษัทออกแบบไม่ที่เมลเบิร์นก็ที่ซิดนีย์ พี่ธัชจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ แต่พี่ก็ต้องกลับมาดูแลผม ต้องทิ้งความฝันของตัวเอง...”
บุรธัชมองรวิภาสอย่างคิดไม่ถึง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลดึงณิชมนมานั่งที่โต๊ะอาหารใกล้บริเวณครัว เธอยิ้มดีใจที่รวิภาสกับบุรธัชจะได้เข้าใจกัน
“พี่นอมเก่งจริงๆ เลยค่ะ อย่างนี้พี่ภาสกับคุณชายธัชก็จะได้เข้าใจกันซักที”
“ก็อาจจะต้องลุ้นกันหน่อยล่ะค่ะ คุณชายธัชเอาแต่ใจตัวเองไม่ยอมฟังใครง่ายๆ….”
“พี่ภาสก็หัวดื้อจะตาย...”
“แต่คุณชายได้เห็นด้วยตาตัวเองอย่างนี้ ก็น่าจะยอมฟังคุณภาสบ้างนะคะ”
“เมื่อวานนมลก็คุยกับพี่ภาสไปหลายรอบแล้ว ก็น่าจะยอมพูดความจริง”
“ยังไงวันนี้นอมก็ต้องทำให้สองคนนี้เข้าใจกันให้ได้ค่ะ”
“แล้วพี่นอมทำยังไงคะ คุณชายถึงได้ยอมกลับมาที่นี่อีกครั้ง”
พิมพ์นฤมลมองสำรวจณิชมนอย่างละเอียด
“นี่พี่นอมใส่ชุดเดิมนี่คะ เมื่อคืนพี่นอมไม่ได้กลับบ้านหรือไงคะ ใช่มั้ยคะถ้ากลับบ้านไปก่อนแล้วมาใหม่ ก็ไม่น่ามาเช้าได้ขนาดนี้ พี่นอมกับคุณชายแวะค้างคืนที่ไหนหรือคะ”
“จะค้างที่ไหนก็อย่าไปสนใจเลยค่ะ เอาเป็นว่านอมทำให้คุณชายกลับมาที่นี่ได้ก็แล้วกัน”
“พี่นอมกับคุณชายค้างคืนด้วยกันสองต่อสองหรือคะ”
“นอมหิวค่ะ หิวมากๆเลย นอมไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้ว มีอะไรกินบ้างคะ กับข้าวน่ากินจังเลยค่ะ คุณนมลทำเองหรือคะ แหม เก่งจริงๆนอมขออนุญาตนะคะ”
ณิชมนรีบหันไปสาละวนเปิดโน่นเปิดนี่ดูอาหารไป พิมพ์นฤมลมองณิชมนอย่างจับผิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชยังยืนคุยกับรวิภาสอย่างเปิดใจต่อไป
“ผมเป็นคนทำลายความฝันของพี่ธัช...”
“ฉันตัดสินใจถูกแล้วที่กลับมาดูแลแก นายภาส ฉันกลับไปเป็นสถาปนิกได้ทุกเมื่อ แต่การได้อยู่กับแกได้ดูแลแก เวลาแบบนั้นคงจะหาไม่ได้อีกแกอย่าคิดว่าแกเป็นภาระของฉัน ฉันเป็นพี่ของแก ฉันก็มีหน้าที่ของฉัน แล้วก็เป็นหน้าที่ที่ฉันเต็มใจทำ”
“นี่เราเคลียร์กันหมดทุกเรื่องแล้วใช่มั้ยครับ พี่ธัช”
“ยัง..ฉันยังมีเรื่องข้องใจ”
“อะไรอีกล่ะครับ”
“ในเมื่อแกคิดได้รู้จักรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง แล้วทำไมต้องทำตัวกวนประสาทให้ฉันต้องปวดหัวด้วย แกทำตัวดีๆไม่ได้หรือไงวะ ไปทำกิจกรรมก็บอกว่าไปกินเหล้า ไปออกค่ายก็บอกว่าไปจีบสาว..”
“นี่เรากลับมาที่เดิมแล้วนะครับ พี่ธัช ก็ผมบอกแล้วว่า บอกไปพี่ธัชก็ไม่เชื่อผม เอ้า ต่อไปนี้ผมจะพูดความจริงกับพี่ธัชทุกเรื่อง”
“แล้วนี่แกบอกฉันทุกเรื่องแล้วจริงๆ เหรอ นายภาส”
“ก็อาจจะมีอะไรตกหล่นไปบ้าง ชีวิตคนนะไม่ใช่หนังสั้นจะได้เล่าจบได้ภายในสิบนาที”
“แล้วที่แกเคยบอกฉันว่า แกคบกับนมลอยู่ เป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นแค่เรื่องโกหกอีกเรื่องของแก...”
รวิภาสมองบุรธัชที่กำลังนิ่งอึ้งเพราะหาคำตอบไม่ได้ เขาไม่แน่ใจว่าจะตอบความจริงดีหรือเปล่า

จบตอนที่ 16
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.




กำลังโหลดความคิดเห็น