xs
xsm
sm
md
lg

กุหลาบซาตาน ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กุหลาบซาตาน ตอนที่ 7
วีณาออกมาจากสถานีตำรวจ พร้อมกับซองเอกสาร 1 ใบ
“Thank you very much.”
“You’re welcome. Let us know if you find anything, OK?”
“I will. Bye”
วีณากลับมาบ้านส่งกระดาษที่พรินต์รูปสเก็ตช์คนร้ายให้กงพัดดู กงพัดดูเปรียบเทียบกับหน้าตัวเองในกระจก
“นี่ผมเหรอ...ดูไม่ค่อยเหมือนผมเท่าไหร่”
“นั่นมันภาพที่ตำรวจเค้าสเก็ตช์ตามที่เด็กคนนั้นเล่าให้ฟัง แต่นี่...คือคุณ”
วีณาส่งกระดาษอีกแผ่นให้ เป็นสำเนาพาสปอร์ตของกงพัด พิมพากุล
“กงพัด พิมพากุล”
“ตำรวจเค้าบอกว่า กงพัดเดินทางกลับมาจากเมืองไทย 2-3 วันก่อนที่จะเกิดเรื่อง แล้วหลังจากเหตุการณ์ที่ปราสาทชิลอง กงพัดก็หายตัวไป”
กงพัดหันมองหน้าตัวเองในกระจกอีกครั้ง กงพัดเอามือแตะหน้าตัวเอง แล้วพูดเศร้าๆ
“ผมเป็นคนร้ายจริงๆ หรือนี่”
“ไม่จริงค่ะ วันแรกที่ฉันพบคุณ คุณเป็นคนดี มีน้ำใจ ฉันไม่เชื่อว่าคนอย่างคุณจะเป็นคนร้าย”
กงพัดพยายามคิด แต่คิดไม่ออก
“ผมจำอะไรไม่ได้เลย ผมเป็นกงพัดจริงๆ หรือเปล่า ถ้าจริง ผมมีเหตุผลอะไร ถึงได้ทำเรื่องแบบนั้น”
“เราต้องหาทางให้คุณนึกออกให้ได้ มันต้องมีซักวิธีสิน่ะ” วีณาบอกอย่างมั่นใจ
ที่บ้านปฐวีขณะนั้นนงพงานั่งอ่านหนังสือนิยายของโรสอยู่ หนังสือนิยายที่นงพงาอ่านชื่อ Evil Rose หน้าปกเป็นรูปดอกกุหลาบสีแดง ที่ปลายกลีบกลายเป็นเลือดไหลหยดออกมา ดูน่ากลัว ด้านล่างมีชื่อนักเขียน Rose Haller ตรงหน้านงพงามีหนังสือนิยายแนวคล้ายๆ กันอยู่อีก 3-4 เล่ม ปฐวีเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นเข้า เดินเข้ามาทักตามปกติ
“วันนี้ไม่มีสอนเหรอคุณ แล้วนั่นอ่านหนังสืออะไร กองเบ้อเริ่มเลย”
นงพงาเงยหน้าขึ้นตอบ นิ่งๆ
“นิยายค่ะ นงเพิ่งสั่งซื้อมาจากเมืองนอก” นงพงาพลิกด้านหลังหนังสือ ผลักไปให้ปฐวีดู “เพราะเกิดสนใจนักเขียนคนนี้ขึ้นมา”
ปฐวีมองตาม เห็นด้านหลังหนังสือเป็นประวัติย่อๆ และมีรูปเล็กๆ ของโรส ปฐวีชะงัก อึ้ง นงพงาลุกขึ้นยืน ถามเสียงนุ่มนวล แต่จริงจัง
“โรส ฮอลเลอร์ เธอเป็นใครคะ แล้วเธอมาเกี่ยวข้องกับคุณเรื่องอะไร ทำไมต้องปิดบังนงด้วย”ปฐวียักไหล่ ไม่ตอบ
“ผมเกี่ยวข้องกับคนตั้งเยอะแยะ มีหลายต่อหลายคนที่คุณไม่รู้จัก ผมไม่เห็นคุณจะสนใจอยากรู้ ว่าพวกนั้นเป็นใคร”
“แต่นงสนใจคุณโรสค่ะ” นงพงาจ้องหน้าปฐวี คาดคั้น “เค้ามาทำอะไรที่นี่คะ”
“นง ผมกับโรสติดต่อกันจริง แต่ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแน่ๆ” นงพงาทำหน้าไม่เชื่อ “ถ้าไม่เชื่อ คุณโทรไปถามที่บลู โอเชี่ยน มารีน่าได้เลย”
“อะไรนะคะ”
“โรสจะแต่งงานกับชัช ชนารณพ ที่นั่น คืนนี้!”
ปฐวียิ้มเยาะ เมื่อคิดไปถึงการแต่งงานของชัช นงพงางง นึกไม่ถึง
ฃินภัทรเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อมางานแต่งงานของชัช พอลงจากเรื่องบินชินภัทรก็ขับรถตรงไปที่โรงแรมบลู โอเชียน มารีน่าระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นชินภัทรรับสาย
“ว่าไง พีช”
พีชญา ไปรมาและภูษณะกำลังจะไปเที่ยวในวันหยุด ทั้งสามคนอยู่บนรถไฟ
“ทำไรอยู่เนี่ย ทำไมเสียงดังอย่างนี้”
ชินภัทรหัวเราะ ปิดเพลง
“ขับรถอยู่ กำลังจะไปงานแต่งงานอาชัชที่พัทยา”
“แหม หมั่นไส้...ปาร์ตี้ริมทะเล น่าอิจฉา”
“ก็บอกให้มาด้วยก็ไม่มา”
“หยุดแค่ 3 วันเอง ไม่คุ้มค่าเครื่องบิน สู้เอาตังค์ไปช้อปปิ้งที่เจนีวาดีกว่า”
ภูษณะแย่งโทรศัพท์มา
“พูดมาก...อย่าไปสนใจยัยพีชเลย มีคนอื่นเค้ารอคุยอยู่น่ะ” ภูษณะส่งสายให้ไปรมา ไปรมาเขิน แต่ก็รับมา
“ชิน”
“ไป๋ นี่ไปเจนีวากันเหรอ”
“ใช่ พีชกับภูเค้าอยากจะไปช้อปปิ้ง” ไปรมาลุกจากที่นั่ง เดินเลี่ยงออกมา “เสียดายจังที่ชินไม่ได้ไปด้วยกัน”
“เสียดายเหมือนกัน ที่ไป๋ไม่ได้มาที่นี่ ...เอาไว้ซักวันนะ” ชินภัทรบอกอย่างมีความหวัง
“จ้ะ คงมีซักวัน”
“ไม่นานหรอก ไป๋ เราจะทำให้พ่อเรากับพ่อไป๋เข้าใจกันให้ได้ คอยดู”
ชินภัทรพูดอย่างคนมองโลกในแง่ดี และมั่นใจ
โชคยืนรออยู่ลูกชายหน้าบ้านพักตากอากาศ เมื่อเห็นรถชินภัทรแล่นเข้ามา โชคยิ้มดีใจ รีบลงมารับ
“ชิน”
ชินภัทรลงจากรถมา ยกมือไหว้โชค
“พ่อ”
“ทำไมมาช้าจัง พ่อคิดถึง แล้วนี่กินอะไรมารึยัง” โชคดึงลูกชายเข้ามากอดด้วยความคิดถึง
“ยังเลยครับ ลงจากเครื่อง ก็ขับรถออกมาเลย หิวจัง”
“เดี๋ยวกินด้วยกัน นี่พ่อให้เขาตั้งข้าวกลางวันแล้ว รออาชัชกับ...ว่าที่เจ้าสาวอยู่”
“เค้าไปไหนกันเหรอครับ”
ขณะนั้นโรสยืนอยู่ที่ชายหาด กอบทรายขึ้นมาในอุ้งมือ แล้เวปล่อยให้ร่วงผ่านไปช้าๆ
“15 ปี...ในที่สุด ก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง”
โรสยืนขึ้นมองไปที่ท่าเรือและโรงแรมตระหง่าน แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง อาฆาต
ชัชเดินมาจากทางด้านหลัง เห็นโรสยืนอยู่คนเดียว ชัชยิ้ม
“แอบมายืนทำอะไรคนเดียวจ๊ะ”
โรสหันมายิ้มอ่อนๆ
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ รู้สึกแปลกๆ ชอบกล”
“คุณคงเหงา แต่งงานทั้งที ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง ไม่มีญาติซักคน”
“ฉันไม่มีใครเหลือแล้วนี่คะ ทั้งพ่อ แม่ พ่อบุญธรรม แม้กระทั่ง...” โรสเงียบไปแล้วเปลี่ยนเรื่อง “
“ฉันมีแค่ตัวคนเดียวในโลกนี้”
“คุณมีผมไง หลังจากแต่งงาน เราจะมีกันและกัน คุณมีผม ตัวผม ครอบครัวผม ทุกๆ อย่างที่เป็นของผม ก็ถือว่าเป็นของคุณ”
“ฉันก็หวังอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ”

โรสยิ้มแล้วมองเลยไปที่โรงแรม บลู โอเชี่ยน มารีน่า อย่างคาดหวัง
ชัชกับโรสเดินกลับเข้ามาในบ้าน ชินภัทรเดินยิ้มเข้าไปหา
“อาชัช คุณโรส ยินดีด้วยครับ”
“เรียกอาโรสก็ได้จ้ะ”
“ใช่ ตอนนี้ก็ถือว่าโรสเป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว ขอบใจนะ ที่อุตส่าห์บินกลับมา”
“อาชัชแต่งงานทั้งที ผมไม่มาได้ยังไง...อีกอย่าง ผมมีเรื่องจะถามอาชัชด้วย”
ที่โต๊ะอาหาร โชคกินอย่างเอร็ดอร่อย ตักโน่นนี่ให้ลูกตลอด ชัชกับโรสส่งเครื่องปรุงกันไปมา
“มีอะไรจะถามอา” ชันถามชินภัทร
“ตำรวจได้ข่าวคืบหน้าเรื่องมือปืนคนนั้นมั่งไหมครับ”
โรสที่กำลังจะตักเครื่องปรุงชะงัก
“ไม่มีเลย”
ชัชบอก โรสจึงโพล่งขึ้นมา อย่างสนใจมาก
“ทำไมเหรอจ๊ะ หรือว่าทางโน้นมีข่าวอะไร”
“ไม่มีเหมือนกันครับ”
“ก็เห็นตำรวจเค้าสันนิษฐานว่ามันตายในทะเลสาบไม่ใช่เรอะ”
“ผมภาวนาขอให้มันไม่ตาย ผมอยากจับตัวมันให้ได้ จะได้รู้กันไป ว่าใครสั่งให้มันมาทำร้ายพวกเรา”
ชินภัทรพูดอย่างจริงจัง โรสนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“โรส” ชัชเรียกเมื่อเห็นโรสนสิ่งเงียบ
“คะ?” โรสได้สติ ชัชชี้เครื่องปรุง
“เสร็จหรือยัง ผมขอหน่อย”
โรสส่งให้โดยไม่ได้ปรุง
“ค่ะๆ”
โชคมองโรสอย่างแปลกใจ เป๋งเข้ามากระแอมข้างๆ
“อะไรติดคอเหรอ ไอ้เป๋ง”
“ไอ้แดงมาถึงแล้วครับ นาย”
“เออ ดี เรียกมันเข้ามา...จะได้แนะนำให้รู้จักกันไว้”
เป๋งเดินไปเรียก
“แดง...เข้ามา”
แดงเดินเข้ามา ถอดแว่น มองดูทุกคน
“แดง นี่คุณชัชน้องชายฉัน นี่ชินภัทรลูกชาย แล้วนั่น...คุณโรส...รู้จักไว้ซะ” โชคแนะนำ แดงยกมือไหว้กราด ด้วยท่าทางกร่างๆ ชัชมองแดงอย่างสำรวจ
“เป็นใคร มาจากไหนเนี่ย พี่”
“ลูกน้องเก่า รู้จักกันมานาน ไว้ใจได้...พี่เห็นว่าวันนี้มีงาน แขกเหรื่อเยอะ เลยจ้างมันมาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย...แกมีหน้าที่ประกบติด คุณชัชกับคุณโรส อย่าให้คลาดสายตาเข้าใจไหม” โชคสั่งแดงแดงมองโรส ตาวาว
“ไม่ต้องห่วงครับนาย รับรอง ผมประกบไม่ปล่อยแน่ๆ”
แดงมองโรสอย่างลามปาม จนโรสไม่สบายใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จโชคจึงหลบมาคุยกับแดงในมุมที่ลับตาคน โชครับยาจากแดงดูเป็นยาเม็ดค่อนข้างใหญ่
“เนี่ยเหรอ ยาที่แกว่า เม็ดเบ้อเร่อเบ้อร่า แกจะหลอกให้มันกินเข้าไปได้ยังไง”
“เอาบดเป็นผง ใส่ไปในเหล้าครับ นายไม่ต้องห่วง ผมใช้บ่อย รับรองไม่พลาด”
“นานแค่ไหน กว่ายาจะออกฤทธิ์”
“หลังจากกินเข้าไป ไม่เกิน 20 นาทีครับ โดนไปเม็ดนึงก็หลับยาวเลย ใครทำอะไรรับรองไม่รู้เรื่อง แถมตื่นมาจะจำไม่ได้ด้วย มาตัวเองโดนอะไรไปบ้าง ว่าแต่ว่านายแน่ใจนะ ว่านายชัชจะไม่เอาผมตาย”
“แกจัดการกับนังโรสไป เรื่องไอ้ชัช ฉันจัดการเอง”
ส่วนที่สวิสเซอร์แลนด์กงพัดปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว สะพายเป้หลัง มีกล้อง แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยว ใส่หมวก กางแผนที่เดินมาหยุดมองโบสถ์ตรงหน้า กงพัดค่อยๆ เดินวนดูรอบๆ เอามือแตะไล้ผนัง ต้นไม้ พยายามซึมซับหาความทรงจำในอดีต ก่อนจะเปิดประตู เข้าไปข้างใน
กงพัดเข้ามาในโบสถ์แล้วนั่งลงที่เก้าอี้แถวถัดไป ซึ้งวีณานั่งอยู่ก่อนแล้ว วีณาถามขึ้นมาเบาๆ โดยไม่มองหน้า
“จำอะไรได้มั่งไหมคะ”
“ไม่ได้เลย แต่ผมรู้สึกคุ้น เหมือนกับว่าจะหลับตาเดินได้เลย”
“ที่ฉันไปสืบมา ตำรวจเค้าว่าคุณเคยอยู่ที่นี่หลายปี พ่อบุญธรรมของคุณนักบวชชาวสวิส ท่านพาคุณร่อนเร่ไปหลายแห่ง ก่อนท่านจะเสียท่านพาคุณมาฝากไว้ที่นี่”
“แล้วผมนอนที่ไหน”
“ห้องพักของคุณอยู่ทางโน้น ตำรวจปิดเอาไว้ ไม่มีกุญแจ เข้าไปไม่ได้หรอก”
วีณาพากงพัดไปห้องพักของกงพัด กงพัดยกกระถางกุหลาบเล็กๆ ขึ้นซึ่งบริเวณนี้มีต้นไม้กระถางตกแต่งอยู่หน้าประตูหลายกระถาง กุหลาบดูเนียนและกลมกลืนไปกับอย่างอื่นมาก ไม่ได้ดูโดดเด่นเลยใต้กระถางมีกุญแจดอกเล็กๆ ซ่อนอยู่
“คุณจำได้แล้วเหรอคะ”
วีณาถามอย่างดีใจ กงพัดส่ายหน้า
“ความรู้สึกน่ะ ไม่ใช่ความจำ”
กงพัดไขกุญแจ พาวีณาย่องเข้าไป พอเข้ามาในห้องกงพัดและวีณามองไปรอบๆ ห้อง ที่ว่างเปล่า วีณามองๆ ดู
“ไม่มีอะไรเหลือเลย ของส่วนตัวของคุณ ถูกตำรวจขนไปหมดแล้ว”
กงพัดไม่ตอบ เดินสำรวจไปรอบๆ อย่างช้าๆ เปิดไฟ หยิบของอย่างคุ้นเคย วีณามองตามอย่างสนใจกงพัดนั่งที่เตียง พูดโพล่งขึ้นมา
“ผมคือกงพัดจริงๆ ผมเคยอยู่ที่นี่”
“แน่ใจนะคะ”
แทนคำตอบ กงพัดมองไปที่หัวเตียง บนผนัง มีรูปภาพดอกกุหลาบประดับอยู่ กงพัดงัดรูปออก ด้านหลังรูป มีช่องในกำแพงและมีกล่องอยู่ข้างใน วีณาตาค้าง
“อะไรคะน่ะ”
กงพัดเปิดกล่องดู ข้างในมีของเก่าๆ จุกจิก 2-3 อย่าง และรูปภาพเก่าๆ ในกรอบที่มีรอยไหม้ไฟ เป็นรูปของชายหญิงวัยกลางคน 3 คนยืนด้วยกัน ท่าทางสนิทสนม
“รูปใครคะ”
กงพัดส่ายหน้า
“ไม่รู้เหมือนกัน”
รูปที่อยู่ในกล่องเป็นรูปโชควัยหนุ่มกับพุฒิและกุล พ่อแม่ของกงพัด ถ่ายด้วยกันที่หน้าบ้านพุฒิ ริมทะเล
ส่วนที่เมืองไทยโชคมาหาชัชที่ห้องเจ้าบ่าว โชคเปิดแชมเปญดัง ป๊อก
“มาฉลองกันหน่อยไอ้น้องชาย”
โชคบอกอย่างอารมณ์ดี ขณะนั้นชัชยังไม่ได้แต่งตัว มีชุดเจ้าบ่าวใส่หุ่นรอไว้ ส่วนชินภัทรและโชคก็อยู่ในชุดเดิม ยังไม่ได้แต่งตัวเหมือนกัน บรรยากาศในห้องเฮฮาร่าเริง เหมือนปาร์ตี้อุ่นเครื่อง มีถังแช่แชมเปญ มีของว่าง มีถาดเรียงแก้วเปล่าเอาไว้เป็นโหล โชคส่งขวดแชมเปญให้ชินภัทร
“เอ้า รินแจกหน่อยซิ ส่งไปเรียนปีนึงหลายตังค์ ดูซิว่าคุ้มไหม”
“โห พ่อ เค้าสอนบริหารจัดการโรงแรมพ่อ ไม่ได้สอนเสิร์ฟอาหาร”
ชินภัทรเอาแชมเปญสามแก้วใส่ถาด เสิร์ฟแบบมืออาชีพ
“เชิญครับ”
ชัชรับแก้วมา ขำๆ
“นี่มันเพิ่งบ่ายสาม กว่างานจะเริ่มสองทุ่ม มีหวังเจ้าบ่าวเมาเละ”
“เฮ่ย เมาแล้วจะทำไม คนเมาแต่งงานไม่ได้เหรอวะ...เอ้า เรามาดื่มฉลองให้อาชัชกัน”
ทั้งสามคนชนแก้ว ไชโยโห่ฮิ้วแดงเปิดประตู เดินเข้ามามองหน้าโชคอย่างมีนัยยะ
“คุณโรสแต่งหน้าทำผมใกล้จะเสร็จแล้วครับ ผมเลยมาบอกให้เตรียมตัวไว้”
“เออ ดี ไหนๆ ก็มาแล้ว” โชครินแชมเปญ “เอาไปให้คุณโรสด้วย บอกว่าคุณชัชฝากมาให้”
แดงสบตาโชคอย่างรู้กัน
“ครับ นาย”
แดงเดินถือแก้วแชมเปญออกไป โชคยิ้ม
ขณะนั้นโรสอยู่ในห้องเจ้าสาว โรสอยู่ในชุดเสื้อคลุม แต่งหน้าทำผมใกล้จะเสร็จ มีชุดเจ้าสาวอยู่ในหุ่น แองจี้กำลังบรรจงเก็บรายละเอียดให้ แองจี้มองในกระจก เห็นโรสหน้าเครียด
“ทำไมหน้าเครียดอย่างนั้นล่ะค่ะ คุณขา เป็นเจ้าสาวทั้งที”
“ตื่นเต้นน่ะค่ะ” โรสแก้ตัว
“อู้ย ไม่ต้องตื่นเต้นค่ะ คุณสวยซะขนาดนี้ ถ้าแต่งตัวครบเครื่องล่ะก้อ รับรองเจ้าบ่าวเห็น ...ตายไปเลย”
โรสหัวเราะออกมา
“อ้าว เจ้าบ่าวตาย ฉันก็แย่สิคะ”
“ว้าย ลืมไป ขอโทษค่ะ” แองจี้ตีปากตัวเอง “นี่แน่ะ ปากไม่ดีๆ”
แดงเปิดประตูเข้ามา กระแอมพูดเสียงวางอำนาจ
“มัวแต่โอ้เอ้อยู่นั่น ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“ยัง” แองจี้สะบัดเสีรยงใส่ โรสไม่ค่อยชอบใจนักที่แดงเข้ามา
“นี่มันห้องฉัน เธอเข้ามาทำไม มีอะไร”
“นายชัชให้ผมเอาแชมเปญมาให้คุณครับ”
แดงวางแก้วแชมเปญให้โรส แล้วแอบเหลือบตามองโรสที่สวมเสื้อคลุม ดูเซ็กซี่ โรสไม่พอใจ
“ขอบใจ ออกไปได้แล้ว”
“ดื่มเลยนะครับ หายเย็นแล้วจะไม่อร่อย” แดงบอกแล้วหันไปสำทับแองจี้ “นายชัชรออยู่ รีบทำให้เสร็จ แล้วรีบไปแต่งตัวให้นาย เข้าใจไหม”
แดงพูดจบก็เดินออกไป แองจี้ด่าตามหลังทันที
“ยี้ ไอ้นักเลงบ้านนอก ตั้งแต่เกิดมาเคยกินแชมเปญกับเค้าด้วยเหรอ ทำเป็นอวดรู้ ...แล้วดูเวลามันมองคุณซีคะ อี๋” แองจี้ทำท่าขนลุก “คุณจ้างคนแบบนี้ไว้ใกล้ตัว ไม่กลัวเหรอคะ”
“ฉันไม่ได้จ้างหรอกจ้ะ ก็เพิ่งเห็นหน้าวันนี้แหละ” โรสคิดๆ แล้วเอะใจ “คุณโชคเค้าเพิ่งจ้างมา...วันนี้เอง”
โรสมองแก้วแชมเปญตรงหน้า สีหน้าระแวง
พอออกมาจากห้องโรส แดงดูนาฬิกาแล้วชะเง้อชะแง้อยู่หน้าห้องโรส ชินภัทรออกมาจากห้องชัช มองอย่างสงสัย
“แดง”
แดงสะดุ้ง ท่าทางมีพิรุธ
“ครับ”
“มายืนทำอะไรตรงนี้”
“ไม่มีอะไรครับ ก็เผื่อนายจะเรียกใช้”
“งั้นก็ดี...ลงไปเอาน้ำแข็งมาเพิ่มหน่อย มาที่ห้องนี้นะ...” ชินภัทรมองไปทางห้องโรส “ไม่ใช่ห้องโน้น”
แดงรับคำ แล้วเดินลงไป ชินภัทรมองตามอย่างไม่ไว้ใจ
โชคยังอยู่ในห้องชัชแต่มีกระวนกระวาย จิบแชมเปญสลับกับเหลือบมองนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา จนแชมเปญหมดแก้วไม่รู้ตัว ชินภัทรที่นอนดูทีวีอยู่ทักขึ้น
“ช้าๆ หน่อยพ่อ เดี๋ยวก็เมาหรอก”
ชัชใส่เสื้อคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังเดินไปที่ชุดที่เตรียมไว้ สังเกตเห็นอาการของโชค
“เป็นอะไรพี่ ดูท่าทางตื่นเต้นยิ่งกว่าผมเสียอีก”
“เปล่า ฉันแค่สงสัย ทำไมยัยช่างแต่งหน้าถึงไม่มาซักที ไหนว่าจะเสร็จแล้วไง”
ชินภัทรปิดทีวี ลุกจากเตียง
“เดี๋ยวผมไปดูให้” ชินภัทรจะเดินออก “จะไปอาบน้ำแต่งตัวด้วย จะสี่โมงแล้ว”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวอาไปดูเอง”
ชัชจะออกไป โชคห้ามไว้ดันชัชเข้าห้อง
“จะไปไหน...ผู้หญิงเค้ายังไม่เสร็จ แกไปแอบดูก่อนได้ไงวะ มา..ชั้นไปดูให้เองแกไปแต่งตัวรอไป เดี๋ยวช่างมาจะได้ไม่เสียเวลา” โชคบอกแล้วหันไปพูดกับชินภัทรา “แกจะไปอาบน้ำแต่งตัวก็ไป ไป”
โชคเดินออกไป ชัชมีสีหน้ากังวลนิดๆ
อ่านต่อหน้าที่ 2 







กุหลาบซาตาน ตอนที่ 7 (ต่อ)
โชคเดินมาห้องโรสด้วยหน้าตาเป็นกังวล พอมาถึงหน้าห้องโชคเคาะประตูเรียก
“โรส...โรส”
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบออกมา โชคจึงเปิดประตูเข้าไป เห็นในห้องว่างเปล่า ชุดแต่งงานยังอยู่ในหุ่นเรียบร้อยแต่ผ้าปูเตียงยับย่น เก้าอี้ล้ม
“อ้าว” โชคยกเก้าอี้ตั้ง มองไปรอบห้องอย่างแปลกใจ “ไปไหน...”
โชคเดินไปเปิดประตูห้องน้ำดู ภายในว่างเปล่าพอหันมา เจอแดงยืนอยู่ หน้าตาตื่นๆ
“นาย!”
“ไอ้แดง” โชคลดเสียงลง “นังโรสหายไปไหน”
“ไม่รู้เหมือนกันนาย ตอนแรกผมรออยู่หน้าห้อง แต่คุณชินใช้ผมลงไปเอาน้ำแข็ง น้ำแข็งในครัวก็ดันหมด รอกว่าไอ้เป๋งจะไปซื้อมาให้ กลับมาก็ไม่เจอใครแล้ว ผมลงไปดูข้างล่างก็ไม่มี”
“แก้วแชมเปญก็ไม่อยู่ ตกลงว่ามันกินเข้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ แกรีบไปหาตัวมันให้เจอ ถ้าไปสลบอยู่ที่ไหน แล้วใครไปเจอเข้าล่ะก็ แกซวยแน่”
แดงหน้าเสีย ทันใดนั้นประตูเปิดเข้ามา โชคกับแดงสะดุ้งเฮือกปรากฏว่าเป็นชัช แต่งตัวเรียบร้อยเดินเข้ามา หน้าตาร้อนใจ
“ไอ้ชัช!”
“ผมโทรหาที่มือถือตั้ง 2-3 หน โรสไม่รับ...แล้วนี่เค้าไปไหนล่ะครับ”
โชคจำใจต้องบอก
“ไม่รู้ ฉันมาเจอแต่ห้องเปล่าๆ ไม่รู้เจ้าสาวหายไปไหน ช่างแต่งหน้าก็หายไปด้วย”
ชัชเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง เห็นกระเป๋าเงิน มือถือ ของส่วนตัวของโรสอยู่ครบ เครื่องสำอางยังวางเกลื่อน ไม่ได้เก็บ แต่ประตูกระจกที่เปิดออกไปที่ระเบียงเปิดอ้าชัชหน้าเสีย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เป๋ง เรียกทุกคนในบ้านมารอข้างล่าง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ชัชเดินออกไป โชคกับแดงเดินตามโดยไม่รู้ว่าแองจี้หมดสติคอพับอยู่ในตู้เสื้อผ้า
ชัชรีบลงมาชั้นล่างยืนสั่งการลูกน้อง โชคกับชินภัทรยืนฟังอยู่ด้วย โชคมีสีหน้ากังวลมาก
“แยกย้ายกันออกไปดูรอบๆ บ้าน หาคุณโรสให้เจอ ให้คนไปดูแถวชายหาดด้วยแล้วถ้าเห็นใครแปลกหน้า หรือมีพิรุธ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ให้คุมตัวไว้ก่อน...ไปได้” ทุกคนออกไปทางหน้าบ้าน แดงตามไปด้วย เป๋งขยับจะตามไป “เป๋ง แกอยู่ที่นี่กับพี่โชค เผื่อโรสกลับมามีอะไรรีบส่งข่าวบอกฉัน”
“ครับ”
ชัชตามออกไป
“ผมไปด้วย อาชัช”
ชินภัทรวิ่งตามชัชออกไป โชคยืนมองกังวลมาก
โชคเดินวนเวียนไปมา เครียดที่ผิดแผน เป๋งยืนมอง
“มันหายหัวไปไหนของมันวะ บ้าเอ๊ย” โชคพึมพำออกมาโชคหันไปเห็นเป๋งมองอยู่ ก็หงุดหงิดจึงพาลใส่ “ยืนมองอยู่ทำไมเล่า คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่ บอกใครเอากาแฟมากินแก้วสิ”
“บอกใครครับ”
“ใครก็ได้! มีใครอยู่ในครัวไหม เอากาแฟมากินแก้วนึง” โชคตะโกนลั่นแล้วตะคอกใส่เป๋ง “แค่นี้แหละ มันยากตรงไหนวะ”
โชคเดินกระแทกเท้าโครมๆ ไปนั่งหน้าบูดที่โซฟา
ที่ห้องแพนทรีขณะนั้นกาแฟสีเข้ม ควันตลบไหลจากเครื่องชงกาแฟลงในถ้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว ตามด้วยน้ำเชื่อมและน้ำสีเหลืองอ่อน นมที่ตีจนขึ้นฟองขาว เสร็จเรียบร้อย ดูน่ากิน เป๋งเดินเซ็งๆ มาถึงหน้าแพนทรี เห็นกาแฟร้อนเพิ่งชงเสร็จใหม่ๆ วางรออยู่อย่างเรียบร้อยในถาดบนเคาน์เตอร์
“เอ๊า แทนที่จะยกออกไปให้ นกรู้จริงนะเว้ย นายโมโหทีไรหายหัวกันหมดเหลือแต่ไอ้เป๋งคนเดียว”
“ไอ้เป๋ง กาแฟ” โชคตะโกนเรียก
“ครับ ได้แล้วครับ”
เป๋งลนลานออกไปโดยไม่รู้ว่ามีสายตาใครบางคนมองตามไป
โชคยกถ้วยกาแฟดื่มอั๊กๆ แล้ววางแก้วปัง! นิ่วหน้า
“ใครชงวะ รสชาติหมาไม่แดก”
เป๋งชะโงกดูในถ้วย
“ก็เกือบหมดนี่ครับ”
“ไอ้เป๋ง” โชคลุกขึ้นชี้หน้า “กูเป็นเพื่อนเล่นมึงเหรอ หะ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะมึง นี่หาว่ากูเป็นหมาเหรอ หะ” โชคเตะเป๋ง เป๋งหลบวืด ทันใดนั้นก็มีเสียงโครมครามดังข้างบน เหมือนอะไรล้ม“ใครอยู่ข้างบน?”
เป๋งมองตามอย่างสงสัย
“เหมือนดังมาจากห้องนาย แต่พวกนายๆ ไปตามคุณโรสกันหมด จะมีใครอยู่ข้างบนอีกล่ะ”
โชคนึกอะไรได้
“ฉันไปดูเอง” โชคบอกแล้วชี้หน้า สั่งจริงจัง “แกเฝ้าอยู่ตรงนี้ อย่าเสือกตามขึ้นไปล่ะ”
โชครีบวิ่งขึ้นไป เป๋งงง
โชคเดินตามเสียงไป เสียงดังมาจากห้องตัวเอง ประตูห้องแง้มอยู่ ปิดไม่สนิท โชคชะงัก
“ใครอยู่ในห้องเรา?”
โชคคว้าเชิงเทียนแถวนั้นขึ้นมาถือ เตรียมพร้อมเป็นอาวุธ เปิดประตูเข้าไป แล้วชะงักเมื่อเห็นโรสในชุดเสื้อคลุมตะเกียกตะกายอยู่กับพื้นแถวๆ หน้าเตียง แบบคนใกล้หมดสติ กลางห้อง มีแก้วแชมเปญเปล่ากลิ้งอยู่กับพื้น โชคสะใจ
“นึกว่าหายไปไหน หากันแทบตาย ที่แท้ก็มาอยู่นี่เอง...”
โชคพูดขาดคำโรสก็ฟุบลงกับพื้นโชคเดินเข้าไป จับโรสพลิกดู โรสตาปิดสนิท หมดสติ โชคคิดๆ ดเวยแววตาร้าย
โชคจับโรสนอนบนเตียงตัวเอง
“ซัดไปหมดแก้ว กว่าจะฟื้นคงอีกเป็นชั่วโมง ถ้าไอ้ชัชกลับมาเจอ คงเป็นเรื่องแน่ มันคงสงสัยว่าใครเป็นคนวางยานังโรส” โชคคิดๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มา “ช่วยไม่ได้ ไอ้แดง แกคงต้องเป็นแพะรับบาปไปก่อนล่ะวะ งานนี้...” โชคมองโรส “เสียดาย อุตส่าห์วางแผนซะดิบดี”
โชคหันไปดูโรสที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงอีกครั้ง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นโรสลืมตาขึ้น โชคตกใจ ตาของโรสเบิกกว้าง จ้องไปที่โชค โชคจ้องโรส
ด้านนอกขณะนั้นแดงวิ่งหนีไปตามถนนเล็กๆ ที่สองข้างทางเป็นดงหญ้าสูง ชัชกับชินภัทรออกมาดักหน้า ชัชมีปืนในมือ
“อย่าหนีนะ แกเอาคุณโรสไปไว้ไหน”
“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“โกหก ฉันเห็นแกยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องอาโรส ก่อนที่เค้าจะหายไป” ชินภัทรบอก
“ผมไม่รู้จริงๆ”
“ไม่รู้แล้วทำไมต้องหนี”
“มันไม่พูดความจริงหรอก อาชัช ลากคอกลับไปให้พ่อสอบสวนดีกว่า”
แดงจะชักปืนสู้ ชัชยิงมือ ปืนหล่น แดงจะวิ่งหนี ชินภัทรดักไว้ ชัชเข้าประชิดตัว จับแขนแดงไพล่หลัง แดงดิ้นรน
“ไม่นะ นาย ไม่ อย่า...ผมไม่ไป”
ชัชเอาปืนทุบ แดงทรุดลงไปกองกับพื้น
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง โชคยังไม่ลงมาชัชยังไม่กลับ เป๋งเดินวนไปมาอย่างกลุ้ม จู่ๆ ก็มีมือมาเกาะที่บ่า หมับ! เป๋งสะดุ้ง
“หือ!” เป๋งหันมา เห็นหน้าแองจี้ก็ตกใจ “เย้ย”
“ประตูไปทางไหน” แองจี้ถามอย่างมึนๆ
“ทางโน้น นี่ไปไหนมาเนี่ย รู้ไหม ว่าคุณโรสหาย”
แองจี้มึนๆ เบลอๆ ฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง เดินโซเซไป
“ทางโน้นใช่ไหม”
เป๋งมองตาม อย่างอ่อนใจ
“นังบ้าเอ๊ย แอบดกเข้าไปเยอะล่ะซี เมาจนไม่รู้เรื่อง”
แองจี้ออกจากบ้านไป เสียงกรี๊ดของโรส ก็ดังมาจากชั้นบน
“คุณโรส!”
เป๋งมองไปที่บันได แล้ววิ่งออกไป
ชัชกับชินภัทรช่วยกันลากตัวแดงที่หมดสติร่องแรงมา โทรศัพท์ชัชดัง ชัชกับชินภัทรวางแดงลง ชัชรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล ว่าไง เป๋ง... อะไรนะ”
ชัชตกใจ ชินภัทรลืมตัว หันไปสนใจ
“มีอะไรเหรอครับ อาชัช”
“เรื่องอะไร เออๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้...เป๋งบอกให้กลับบ้านด่วน บอกว่ามีเรื่อง...” ชัชบอกชินภัทร แดงได้สติ ฉวยโอกาสวิ่งหนี
“เรื่องอะไร” ชินภัทรเห็นแดงวิ่งลงไปที่ดงหญ้าข้างทาง “อ้าว เฮ้ย อย่าหนี...”
“ช่างมันก่อน ชิน กลับบ้านเถอะ เป๋งบอกว่าที่บ้านมีเรื่องด่วน สำคัญมาก”
ระหว่างนั้นเป๋งกระสับกระส่ายรออยู่ พอเห็นชัชกับชินภัทรเดินเข้ามา เป๋งพุ่งเข้าไปหาอย่างร้อนใจ
“คุณโรสอยู่ข้างบนครับ นาย”
“โรสกลับมาแล้วเหรอ” ชัชดีใจ แล้วแปลกใจเมื่อเห็นเป๋งหน้าตาตื่นๆ “ แล้วเค้าเป็นอะไรหรือเปล่า ปลอดภัยดีไหม”
“นายรีบขึ้นไปดูเองดีกว่าครับ ไปเดี๋ยวนี้เลย...ที่ห้องนายโชคน่ะครับ”
ชัชเอะใจรีบวิ่งขึ้นไป ชินภัทรจะตามแต่เป๋งขวางเอาไว้
“พี่เป๋ง ถอย”
“คุณชินขึ้นไปไม่ได้ครับ” เป๋งยกมือไหว้ “ขอร้อง เชื่อพี่เป๋งนะครับ อย่าขึ้นไปเลย”
ชินภัทรไม่เชื่อ จะไป เป๋งขวางไว้หน้าตาจริงจัง ชินภัทรขัดใจแต่ก็จำยอม
ภายในห้องโชค โรสสวมเสื้อคลุมตัวเดิม ลุดลุ่ยเล็กน้อย ผมยุ่ง ท่าทางน่าสงสารกำลังคลานตะเกียกตะกายอยู่ทื่พื้น หนีไปรอบๆ ห้อง โชคที่อยู่ในสภาพมึนงง เดินโซเซ แต่พยายามฝืนใจไล่จับโรส
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
“หยุดนะ ฉันบอกให้แกหยุด”
โชคตะครุบตัวโรสได้ เอามืออุดปาก
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้น”
“ปล่อย ปล่อย” โรสอู้อี้ โชคมือตก หมดแรง โรสฉวยโอกาสตะโกนอีก “ช่วยด้วย”
“หยุด” โชคฮึดขึ้นมาเค้นคอโรส “บอกมา นังตัวดี แกทำอะไรฉัน ทำไมฉันเป็นแบบนี้ แกทำอะไรฉัน”
ชัชเปิดประตูเข้ามา เห็นโชคกำลังเค้นคอโรสอยู่ที่พื้นก็ตกใจ
“พี่โชค” ชัชเข้ามากระชากโชคออก เหวี่ยงไปไกล โรสผวาเข้ากอดชัช ร้องไห้
“ชัช ช่วยด้วย”
ชัชมองสภาพโรส เสื้อผ้าผมเผ้ายุ่งเหยิง มุมปากมีรอยช้ำ
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณมาอยู่ในห้องพี่โชค แล้วพี่โชค...”
ชัชหันไปมองโชคที่นั่งมึนอยู่บนเตียง ใส่เสื้อเชิร์ตติดกระดุมไม่ตรง และไม่ครบเม็ด เหมือนรีบใส่อย่างลวกๆ เข็มขัดกองอยู่ที่พื้นห้อง ชัชใจดิ่งวูบ เสียงเบา แทบไม่อยากพูด
“มันเกิดอะไรขึ้น”
โรสน้ำตาร่วง
“คุณโชคเค้า...เค้า”
โรสค่อยๆ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...โรสอยู่บนเตียง ปรือตาได้สติขึ้นมาเห็นโชคคร่อมเธออยู่ ยิ้มร้ายๆ
“ไม่นะ ไม่” โรสพยายามจะลุกหนี แต่ไม่มีแรง “อย่า...อย่า”

โชคตบฉาดเข้าที่หน้าโรส โรสคอพับหมดสติไป
สิ่งที่โรสเล่าทำให้ชัชนิ่งอึ้ง ช็อกสุดๆ เหมือนโลกถล่มลงตรงหน้า มองโชคอย่างไม่เชื่อสายตา
โชคที่นั่งโงนเงนอยู่ที่เตียง พยายามรวบรวมสติพูด
“ไม่ ไม่จริง ฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น อย่าไปเชื่อมันนะ ชัช นังโรสมันใส่ร้ายพี่ พี่ไม่ได้ทำ”
“พี่เมาจนแทบจะยืนไม่ไหว พี่จะรู้ได้ยังไง ว่าตัวเองทำอะไรหรือไม่ได้ทำ” ชัชบอกอย่างเจ็บปวด
“พี่ไม่ได้เมา...ต่อให้เมาพี่ก็ไม่ทำ พี่เกลียดมัน พี่จะไปนอนกับมันทำไม”
“เพราะคุณเกลียดฉันไงคะ...คุณทำลายฉัน เพราะไม่อยากให้ฉันแต่งงานกับชัช คุณแกล้งทำดีให้ฉันตายใจ แล้วคุณก็...ข่มขืนฉัน”
โรสระเบิดแล้วร้องไห้ออกมา โชคโกรธ ทนไม่ไหว โถมเข้าใส่ทั้งๆ ที่ไม่มีแรง
“นังแพศยา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นชั้นจะฆ่าแก”
ชัชกระชากโชคออกมา ต่อยเปรี้ยง โชคเซลงไปกองที่เตียง
“ผมไม่นึกเลย ว่าพี่จะทำกับผมได้ ผมเป็นน้องพี่นะ พี่ทำกับผมได้ยังไง” ชัชน้ำตาคลอ โชคไม่ทันตอบ ชินภัทรก็พรวดพราดเข้ามา
“พ่อ อาชัช ผมได้ยินเสียงทะเลาะกัน...” ชินภัทรชะงัก มองสภาพให้ห้อง ดูน่าตกใจ “มีอะไรกันเหรอครับ” ชัชเมิน ไม่ตอบ ชินภัทรหันไปมองโรส แปลกใจ “อาโรสครับเกิดอะไรขึ้น” โรสสะอื้นแล้ววิ่งหนีออกไปด้วยความอับอาย ชินภัทรยิ่งงง “พ่อครับ...”
“ออกไปก่อนชิน” ชินภัทรจะแย้ง “พ่อบอกให้ออกไป!”
โชคบอกเสียงเข้ม ชินภัทรจึงยอมออกไป ชัชมองหน้าโชค โชคมองหน้าชัช เครียดและเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย
โรสเข้ามาในห้องตัวเอง ปิดประตู ล็อกห้อง ถอนใจอย่างเหน็ดเหนื่อย น้ำตาแห้งหาย อาการเปลี่ยนไปเป็นคนละคน โรสมองชุดเจ้าสาวที่อยู่กลางห้อง เดินเข้าไปใกล้จับชุดดูแล้วมองอย่างครุ่นคิด วางแผน
ระหว่างนั้นโชคพยายามประคองสติ อธิบายกับชัช
“ฟังพี่นะไอ้ชัช พี่เข้ามาในห้อง ก็เห็นเค้าอยู่ในนี้แล้ว ท่าทางเหมือนเมาพี่ก็เลยจับให้นอนพักบนเตียง แล้วไม่รู้ยังไงทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ พี่ก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ พี่ไม่ได้ข่มขืนมัน มันใส่ร้ายพี่”
“โรสเป็นเจ้าสาว กำลังจะแต่งงานกับผมคืนนี้ เค้าจะโกหกว่าพี่ข่มขืนเค้า เพื่ออะไรพี่ เค้าจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร” ชัชถามอย่างเจ็บปวด โชคอึ้ง สับสน “ผมรู้ว่าพี่ไม่ชอบโรส แต่นึกไม่ถึงว่าจะใช้วิธีเลวทรามแบบนี้ โรสเป็นเมียผมนะพี่ เค้าเป็นเมียผม พี่ทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง”
“พี่...พี่”
ชินภัทรเปิดประตูเข้ามา หน้าตาตื่น
“แย่แล้วครับ แย่แล้ว” ชัชกับโชคหันไปมองชินภัทร ชินภัทรพูดระล่ำระลัก “อาโรสครับ อาชัช อาโรส ...อาโรสจะฆ่าตัวตาย”
“โรส!”
ชัชรีบวิ่งออกไปทันที
ขณะนั้นโรสในชุดเจ้าสาวสีขาวกำลังเดินจากชายหาดลงไปในทะเลอย่างช้าๆ ชัชวิ่งมาเป๋งที่ยืนรออยู่ ชี้บอก
“ทางโน้นครับนาย เดินลิ่วลงไปเลย ผมห้ามไหร่ก็ไม่ฟัง”
ชัชวิ่งตามลงไป
“โรส หยุดนะ โรส อย่า” โรสยังคงเดินต่อไป ชัชวิ่งไปคว้าตัวโรสเอาไว้ “คุณทำแบบนี้ทำไม”
“ฉันอยากใส่ชุดเจ้าสาว ฉันอยากเป็นเจ้าสาวของคุณ” โรสบอกทั้งน้ำตา
“คุณยังเป็นเจ้าสาวของผม เราจะแต่งงานกัน”
โรสมองขึ้นไปบนฝั่ง เห็นชินภัทร เป๋ง และลูกน้องอีก 2-3 คนยืนมองอยู่ห่างๆ
“ทั้งๆ ที่พี่ชายคุณ” โรสไม่อยากพูดถึง “ไม่มีทางหรอกค่ะ ฉันคงมองหน้าใครอีกไม่ได้”
“คุณไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น เราจะกลับไปจดทะเบียนแต่งงานกันที่กรุงเทพฯ ผมจะพาคุณไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
โรสโผเข้ากอดอย่างตื้นตัน
“ชัช”
ชัชกอดตอบโรส
“ผมรักคุณนะ โรส ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะรักคุณตลอดไป”
โรสได้ยิน แววตาละอายใจขึ้นมาแว่บนึง แล้วจางหายไป
เวลาผ่านไป...ชินภัทรกับเป๋งยืนส่งชัชกับโรสขึ้นรถ รถแล่นออกไป บรรยากาศเครียดและเศร้า ชินภัทรเดิเข้ามากับเป๋ง โชคนั่งมึนอยู่ที่โซฟาในมุมมืด
“พี่เป๋งไปบอกผู้จัดการโรงแรมว่างานเลี้ยงคืนนี้ยกเลิก เจ้าสาวป่วยกะทันหัน เดี๋ยวผมจะไปแต่งตัว แล้วจะไปขอโทษแขกแทนอาชัชเอง”
ชินภัทรสั่งเป๋งน้ำเสียงเป็นผู้ใหญ่เอางานเอาการ
“ครับ”
เป๋งออกไป ชินภัทรจะเดินขึ้นข้างบน หยุดมองโชคที่นั่งอยู่
“พ่อไม่ได้ทำจริงๆ นะลูก” โชคบอก ชินภัทรนิ่ง “ชินเชื่อพ่อใช่ไหม”
“ผมไม่รู้จริงๆ ครับ พ่อ ว่าผมควรจะเชื่อใคร”
“ชิน”
ชินภัทรพยายามเข้มแข็ง
“ผมต้องไปทำหน้าที่เจ้าภาพ ขอตัวก่อนนะครับ พ่อ”
ชินภัทรเดินขึ้นชั้นบนไป โชคเครียดและเศร้าอยู่ในความมืดเพียงลำพังด้วยความเสียใจ
“โธ่เว้ย ทำไมเป็นแบบนี้” อาการปวดและมึนหัวจี๊ดขึ้นมาอีก โชคเอามือกุมหัว ชักสงสัยแล้วว่าตัวเองเป็นอะไร “ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ เราเป็นอะไร”
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.






กำลังโหลดความคิดเห็น