เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7
ยศ และลูกน้องอีก 2 คนไปนั่งคุยกับยาซะ หมึก ฉลาม ที่ร้านกาแฟ ยาซะมองที่รูปแล้วยืนยัน
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อนางฟ้า” ยาซะพูด
“แสดงว่าคุณฟ้าลดาอยู่ที่เกาะนี้จริงๆ ไอ้อ้วนก็ไม่ได้โกหกเราดิพี่”ลูกน้องหันไปถามยศ
“ไอ้อ้วน?” ยาซะนึก “ที่ตัวดำๆด้วยใช่มั๊ย”
“ใช่..คนที่เกาะบอกว่ามันเป็นบ้า”
ยาซะแค่นยิ้ม
“พวกคุณโดนหลอกแล้ว ไอ้อ้วนที่ว่าเนี่ยมันชื่อแตลอย เป็นลูกหัวหน้าเกาะ”
ยศแปลกใจ
“อ้าว?? แล้วทำไมคนพวกนั้นต้องโกหกว่าไม่เคยเห็นคุณฟ้าลดา... แล้วทำไมคนพวกนั้นถึงเรียกคุณฟ้าลดาว่านางฟ้า”
“ก็เพราะนางฟ้า หรือคุณฟ้าลดาของพวกคุณ ความจำเสื่อม!”
ยศกับลูกน้องตกใจ กับข้อมูลที่ได้มาก
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรมองหมอวัฒนาอย่างตกใจ เมื่อรู้ว่ายศโทรมาหาหมอวัฒนาและบอกเรื่องฟ้าลดา
“ยัยฟ้าความจำเสื่อม!!”
ชมพูแพรครุ่นคิดบางอย่าง แต่ไม่แสดงท่าทีให้หมอวัฒนารู้
“ครับ น้องฟ้าความจำเสื่อม ผมคาดว่าหลังจากที่น้องฟ้าประสบอุบัติเหตุ คงถูกคลื่นซัดไปที่เกาะมิน แล้วคนบนเกาะก็มาช่วยน้องฟ้าเอาไว้”
“โธ่ยัยฟ้า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรอย่างนี้ แต่ทำไมคนบนเกาะถึงต้องโกหกเรื่องยัยฟ้าด้วยล่ะคะ”
หมอวัฒนาหน้าเครียดมาก ไม่รู้จะเล่าสิ่งที่รู้มาให้ชมพูแพรฟังได้ยังไง ชมพูแพรมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“พี่หมอ...”
หมอวัฒนาหันมามองชมพูแพร
“ทำไมพี่หมอไม่ตอบแพรล่ะคะ“ ชมพูแพรกังวลขึ้นมาทันที “หรือว่ามีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับยัยฟ้า?!!”
หมอวัฒนากลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความยากเย็น
“ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับน้องฟ้าหรอกครับ ยาซะคนที่เคยเจอน้องฟ้าบอกว่า...น้องฟ้ามีสามีแล้ว”
ชมพูแพรตกใจ โวยลั่น
“ยัยฟ้ามีสามี!!” หมอวัฒนาพยักหน้า
“เนี่ยนะคะเรื่องไม่ร้ายแรงของพี่หมอ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาเป็นสามียัยฟ้า?!!”
“ยาซะไม่ได้บอกว่าสามีน้องฟ้าเป็นใคร? เค้าบอกแต่ว่าสามีน้องฟ้าเป็นชาวเกาะมิน”
ชมพูแพรทำหน้ารังเกียจขึ้นมาทันที หมอวัฒนาเล่าต่อ...
“ผู้ชายคนนั้นเห็นน้องฟ้าความจำเสื่อม ก็เลยสวมรอยอ้างตัวว่าเป็นคนรักของน้องฟ้า คนเกาะมินถึงต้องช่วยกันปกปิดเรื่องน้องฟ้าเอาไว้”
ชมพูแพรฟังแล้ว โมโหมาก
“เลว..เลวที่สุด! จิตใจของพวกมันทำด้วยอะไร! ถึงกล้าทำกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างยัยฟ้า”
ชมพูแพรคิดแล้วจะร้องไห้สงสารน้องมาก แล้วก็รีบหันไปจับแขนหมอวัฒนา
“พี่หมอคะ เราต้องรีบพาตัวยัยฟ้า ออกมาจากเกาะนั่นให้เร็วที่สุด”
หมอวัฒนาพยักหน้า ชมพูแพรเคียดแค้นคนเกาะมินเป็นอย่างมาก
+ + + + + + + + + + + +
ยศ กับลูกน้องอีก 2 คน ไปหายาซะ หมึก และฉลามอีกครั้ง เมื่อได้รับคำสั่งให้พาตัวฟ้าลดาออกมาจากมินให้ได้
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ผมรู้ทางหนีทีไล่ที่เกาะนั้นดี ผมจะเข้าไปพาตัวนางฟ้า เอ๊ย คุณฟ้าลดามาให้เอง” ยาซะให้ความมั่นใจ
“ค่าจ้างนายเท่าไหร่?”
“รอให้งานเสร็จก่อน แล้วค่อยว่ากัน แต่ครั้งนี้เราจะไม่ไปทางเรือ เราจะใช้เครื่องบิน เพราะคนเกาะมินมีความชำนาญในการเดินทางทางทะเล ถ้าเราใช้เรือ จะไม่ปลอดภัย”
“ตกลง ผมจะเป็นคนหาเครื่องบินเอง”
ยาซะพยักหน้ารับ แล้วยศก็เดินออกไปกับลูกน้อง หมึกกับฉลามรีบหันมาทางยาซะด้วยความกังวลใจ
“แล้วลูกพี่จะกลับเข้าไปในเกาะมินยังไง คราวที่แล้วพวกมันก็บอกไว้ว่า ถ้าเรากลับไปอีกมันจะเผาพวกเราทั้งเป็น” หมึกสยอง
“เรื่องนี้ฉันคิดเอาไว้แล้ว” ยาซะยิ้มมั่นใจ “อีกไม่กี่วัน จะมีประเพณีลอยทุกข์ลอยโศก ฉันจะแอบเข้าไปช่วงนั้น เพราะพวกมันคงจะวุ่นวายกับการเตรียมงาน จนไม่ทันได้สังเกตอะไร”
หมึกกับฉลามยิ้มกว้าง
“ลูกพี่นี่ฉลาดสุดๆ” ฉลามชม
ยาซะแสยะยิ้มร้ายกาจ
“แกจะต้องทรมานไปจนชั่วชีวิตไอ้สายชล?!”
+ + + + + + + + + + +
ปีร์กะสั่งให้ผู้หญิงบนเกาะ ช่วยกันทำข้าวตอกดอกไม้ แสงดาวอธิบายให้ฟ้าลดาฟัง...
“นี่คือกระทงข้าวตอกดอกไม้ เราเอาใช้ในประเพณีลอยทุกข์ ลอยโศก ที่จะมีขึ้นในคืนนี้”
“แล้วมันเอาไว้ทำอะไรจ๊ะ” ฟ้าลดาสงสัย
“เราจะเอากระทงนี้ลอยไปในทะเล ชาวเกาะมินมีความเชื่อมานานแสนนานแล้วว่า ประเพณีนี้จะเอาความไม่ดีออกไป ถ้ากระทงลอยไปไม่กลับมา ก็แสดงว่าเราจะโชคดี” ปีร์กะอธิบาย
“แล้วถ้ากระทงลอยกลับมาล่ะจ๊ะ”
“ก็จะโชคร้าย ซวยซ้ำ ซวยซ้อน ซวยไม่รู้จบไปตลอดชีวิตยังไงล่ะ” มามิเล่า
“แล้วเคยมีใครที่ลอยกระทงออกไป แล้วกระทงกลับมารึเปล่า”
“ตั้งแต่ฉันเกิดมา ยังไม่เคยมีเลย” อารีฟะบอก
ฟ้าลดาเอากระทงยกขึ้นแล้วอธิษฐาน
“ถ้างั้นขออย่าให้กระทงของนางฟ้า ลอยกลับมาเลยนะจ๊ะ ขอให้ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมาอีกเลยนะ โอมเพี้ยง!!”
ทุกคนหัวเราะกับท่าทางนั้น ฟ้าลดาอมยิ้ม ระหว่างนั้นสวยวิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“ฟุตบอลกำลังจะเริ่มแล้ว!”
+ + + + + + + + + + +
เสียงเชียร์ดังลั่น สวย กอยา ซาติน ถือพู่เต้นเชียร์อยู่ข้างสนาม สายชล แตลอย นารา และชาวเกาะผู้ชายคนอื่นกำลังแข่งฟุตบอลกัน สายชลอยู่ทีมเดียวกับแตลอย นาราอยู่ทีมตรงข้าม ฟ้าลดา มามิ แสงดาว อารีฟะ แลพเหล่าสาวชาวเกาะ เชียร์บอลด้วยความสนุกสนาน
แตลอยเลี้ยงลูกบอล แต่โดนนาราตัดขาแย่งลูกไป แตลอยเซ็งมาก นาราอมยิ้ม แต่เลี้ยงลูกไปได้ไม่นาน สายชลก็เข้ามาตัดแย่งลูกคืนไป ฟ้าลดาตื่นเต้นมาก ลุ้นสุดตัว
“สายชลสู้เค้า สายชล สายชล สายชล”
สายชลเลี้ยงลูกมาตรงหน้าประตู ฟ้าลดาเสียว ไม่กล้ามอง ยกมือปิดตา แล้วสายชลก็เตะ ลูกบอลลอยเข้าประตู ทุกคนเฮ มามิหันไปทางฟ้าลดาที่ยังปิดตาอยู่
“นางฟ้า สายชลทำประตูได้แล้ว!!”
ฟ้าลดาเอามือออก หันไปเห็นสายชลกระโดดโลดเต้น เข้ามากอดกับแตลอย ซะละยกธง
“ทีมสายชลเป็นฝ่ายชนะ”
ฟ้าลดาวิ่งเข้าไปกระโดดกอดสายชลด้วยความดีใจสุดๆ สวยก็วิ่งเข้าไปกระโดดเข้าเอวแตลอย ทุกคนเฮฮา มีความสุข โดยที่ไม่รู้เลยว่า ที่มุมมืดแถวนั้น ยาซะกำลังแอบดูสายชลกับฟ้าลดาที่กอดกันด้วยแววตาร้ายกาจ
“มีความสุขกันให้เต็มที่ ก่อนที่จะได้พบกับความเจ็บปวดไปตลอดกาล”
ยาซะมองสายชลด้วยความแค้น ก่อนที่จะกลับมาหาหมึกกับฉลามที่ซ่อนตัวอยู่
“คืนนี้พวกมันทุกคนจะนอนกันในทับที่ริมหาด ฉันจะให้คนจากในเมืองเข้ามาทางท้ายเกาะ แล้วพรุ่งนี้เช้ามืดเราจะไปจับตัวนางฟ้ากัน”
ยาซะบอกถึงแผนการ
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาที่ถือกิ่งไม้เดิน มาหาสายชลที่กำลังสร้างทับ สะดุ้งโหยงเพราะโดนกิ่งไม้ตำมือ
“โอ๊ย”
ฟ้าลดาทำกิ่งไม้ร่วงลงพื้น สายชลรีบลุกมาดู
“นางฟ้าเป็นอะไร” สายชลเห็นเลือดออกที่นิ้วก็ตกใจ
“กิ่งไม้ตำนิ้วนางฟ้า”
สายชลดูดเลือดที่นิ้วออกให้ฟ้าลดา สวยเห็นเหตุการณ์ก็รีบเสนอหน้าเข้ามา
“ตายแล้ว! เลือดออกในวันทำพิธีแบบนี้ เค้าว่าเป็นลางไม่ดี”
ฟ้าลดาหน้าเสีย หันไปทางสายชล
“จริงเหรอสายชล”
“โบราณเค้าว่าไว้แบบนั้น แต่มันไม่มีอะไรหรอก ไปทำแผลกันดีกว่า”
สายชลหันไปมองสวยไม่พอใจ สวยเหวอ สายชลรีบพาฟ้าลดาไปทำแผล ฟ้าลดายังใจไม่ดี กับคำพูดของสวย สายชลเห็นสีหน้าก็เดาออก
“ยังคิดถึงเรื่องที่สวยพูดอีกเหรอ”
“นางฟ้ากลัว กลัวจะเจอเรื่องไม่ดี กลัวว่าจะไม่ได้อยู่กับสายชล กลัวคนพวกนั้นจะกลับมา”
สายชลจับหน้าฟ้าลดา
“สายชลบอกแล้วไง ตราบใดที่สายชลยังอยู่ จะไม่มีใครมาเอาตัวนางฟ้าไปได้ทั้งนั้น”
ฟ้าลดาพยักหน้า แต่สีหน้ายังไม่ดี สายชลเหลือบไปเห็นดอกไม้ หันไปมองฟ้าลดาแล้วก็ยิ้ม
“ตรงนั้นมีดอกไม้ สายชลไปเอามาให้นะ”
ฟ้าลดาพยักหน้า สายชลลุกเดินไปเด็ดดอกไม้ แล้วก็ชะงักที่เห็นรอยเท้าแปลกๆ สายชลอึ้ง ฟ้าลดาเห็นสายชลนิ่งไปก็แปลกใจ
“สายชล..” สายชลหันมา ”มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มี...” สายชลฝืนยิ้มเดินกลับมาหาฟ้าลดา ”นี่จ๊ะ ดอกไม้ สายชลทัดหูให้นะ”
ฟ้าลดาพยักหน้า สายชลเอาดอกไม้ทัดหูให้ฟ้าลดาแต่หน้าเครียด
+ + + + + + + + + + + +
ซะละที่กำลังสร้างทับอยู่ หันมาถามย้ำกับสายชล...
“รอยเท้า??”
“จ๊ะ ฉันเห็นมันอยู่ทางด้านนั้น มันไม่ใช่รอยเท้าของพวกเราแน่ๆ ท่าทางจะมีคนแปลกหน้ามาแอบดูพวกเรา ฉันกลัวว่า..มันจะเป็นพวกที่มาตามหานางฟ้าวันก่อน”
“ถ้างั้นลุงจะให้คนไปลาดตระเวนดูรอบๆ ส่วนเอ็ง...ก็ดูแลนางฟ้าเอาไว้ให้ดี”
“จ๊ะ”
ซะละเดินออกไป สายชลกังวลใจมากๆ
ทางด้านฟ้าลดานั่งคุยอยู่กับอารีฟะ จับท้องอารีฟะที่กำลังท้องอย่างสนใจมากๆ
“น้องดิ้น” ฟ้าลดายิ้มตื่นเต้น “ดิ้นแรงด้วย”
ฟ้าลดาเงยหน้ายิ้มให้อารีฟะ นาราเดินมาข้างๆอารีฟะ
“ลูกคนนี้ท่าทางจะแรงดีเหมือนพ่อดูสิๆ ทั้งเตะทั้งต่อย” นาราจับท้องอารีฟะเอาหน้าแนบไปที่ท้องอารีฟะ “โอ๊ย!”
“ผัวเป็นไร?”
“ลูกคนนี้มันต่อยหน้าผัวน่ะสิจ๊ะ”
“คนบ้า..เด็กตัวแค่นี้ ต่อยได้ทีไหนเล่า เพ้อเจ้อ”
ฟ้าลดายิ้มที่เห็นนารากับอารีฟะรักกันรักกัน ระหว่างนั้นสายชลเดินตามเข้ามาสมทบ ฟ้าลดาหันไปทางสายชล
“สายชล...นางฟ้าอยากมีลูกกับสายชล”
“เอ็งสองคนยังหนุ่มยังสาว อีกไม่นานต้องมีลูกแน่ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก อุ๊ยๆ..ผัวจ๋า”
นาราตกใจ
“อย่าบอกนะว่าจะคลอดแล้ว“
“ไม่ใช่ เมียปวดฉิ๊งฉ่อง”
“โธ่...”
“พาเมียไปหน่อยสิ”
นาราพาอารีฟะเดินออกไป สายชลรีบหันมาทางฟ้าลดา
“นางฟ้า...นางฟ้าสัญญากับสายชลนะว่า ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าจะไปไหนต้องบอกสายชลก่อน”
“ทำไม?”
“สายชลเป็นห่วงนางฟ้าน่ะสิ สัญญากับสายชลได้มั้ย”
ฟ้าลดายื่นหน้ามาแตะหน้าผากสายชล
“สัญญา”
ฟ้าลดายิ้มรับ สายชลยิ้มแต่แววตาเครียดมาก
+ + + + + + + + + + + +
เสียงดนตรีดังอึกทึกคึกคักทั่วทั้งเกาะในค่ำคืนนั้น คนตีกลองกระหน่ำตี ทำให้เสียงดังกึกก้อง ขณะที่สาวๆพากันเต้นรำอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีใครรู้ว่ากำลังจะเกิดเหตุร้ายขึ้น!!
ที่ท้ายเกาะ...เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแล่นมาจอดในทะเล ไม่นานประตูเปิดออก มีคนหย่อนเรือยางลงมา ยศกับลูกน้องปีนลงมานั่งในเรือยาง แล้วพายมาขึ้นที่เกาะ
ขณะที่ริมหาด พอเพลงจบ ทุกคนปรบมือ แล้วก็เอากระทงข้าวตอกดอกไม้ เดินลงไปในทะเลกันเป็นคู่ๆ ซะละกับแสงดาว แตลอยกับสวย นารากับอารีฟะ ปีร์กะกับมามิ และสายชลกับฟ้าลดา
ทุกคนทยอย ไปลอยกระทงในทะเล
สายชลกับฟ้าลดาหันมายิ้มให้กัน ฟ้าลดาเอาดอกไม้ที่ทัดหูใส่ลงในกระทง แล้วก็ปล่อยกระทงให้ลอยไปในทะเล
ระหว่างนั้นที่ท้ายเกาะ ยศ กับลูกน้องขึ้นหาดเดินมาหายาซะ ที่รออยู่กับหมึกและฉลาม โดยไม่รู้ว่าชาวเกาะคนหนึ่งแอบมองพวกยาซะอยู่ แล้วรีบวิ่งกลับไปที่งาน...
+ + + + + + + + + + + +
สายชลกับฟ้าลดา มองกระทงของตัวเองที่ลอยออกไปกลางทะเล
“ไม่ต้องกลับมานะกระทง”
พูดไม่ทันขาดคำ กระทงของฟ้าลดาถูกคลื่นซัดลอยกลับมา ฟ้าลดาหน้าเสีย หันไปมองสายชล แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันชาวเกาะที่ซุ่มดูพวกยาซะ วิ่งหน้าตาตื่นมาหาซะละ
“ลุงซะละ! ลุงซะละ!!”
ทุกคนหันไปมอง และฟังเรื่องราวอย่างตกใจ!!
อ่านต่อหน้า 2
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ยาซะ ยศ หมึก ฉลาม ลูกน้อง 2 คนอยู่ในชุดดำ ย่องมาตามชายหาดผ่านหน้าทับของคนอื่นๆ จนมาถึงทับของสายชลกับฟ้าลดา ยาซะเปิดประตูเข้าไปอย่างมั่นใจ แล้วก็ผงะเพราะไม่มีคน ยาซะหันมาบอก
“ไม่มีใครอยู่”
ทุกคนตกใจ แล้วต้องชะงักไป เพราะหันไปเห็นซะละ และเหล่าชาวเกาะยืนล้อมอยู่
“ยาซะ! แกเองเหรอ?” ซะละถามเสียงเข้ม
ยาซะก้าวเท้าออกมา
“สายชลเอานางฟ้าไปไว้ที่ไหน?!”
“จะรู้ไปทำไม?” แสงดาวถาม
“ไม่ใช่เรื่องของพวกแก บอกมา!”
มามิเดินอาดๆเท้าเอวมาตรงหน้า
“ไม่บอก”
ยาซะโมโหหยิบปืนออกมา ทุกคนตกใจ อารีฟะกับนารากอดลูกๆแน่น ยศตกใจหันไปทางยาซะ
“ถ้าไม่บอก กูจะยิงทีละคน” ยาซะตวาด
ยศรีบห้าม
“จะไม่มีการฆ่าใครทั้งนั้น!”
ยาซะหันมาทางยศ
“เก็บปืน!”
ยาซะเก็บปืนไม่พอใจ ยศหันไปทางซะละ
“คุณเป็นหัวหน้าใช่มั๊ย”
ซะละพยักหน้า
“เราต้องการพาคุณฟ้าลดา หรือนางฟ้าของพวกคุณกลับบ้าน ตอนนี้พี่สาวคุณฟ้าลดา เป็นห่วงน้องสาวเขามาก กรุณาบอกมาเถอะครับว่า คุณฟ้าลดาอยู่ที่ไหน”
“พวกเราไม่รู้จริงๆว่า สายชลพานางฟ้าไปไหน?”
“พูดไปก็เสียเวลาเปล่า” ยาซะหันไปทางซะละกับคนอื่น “ฉันรู้จักเกาะนี้ทุกตารางนิ้ว ไอ้สายชลมันไม่มีทางพานางฟ้ารอดพ้นสายตาฉันไปได้ ไอ้หมึก ไอ้ฉลาม เฝ้าพวกมันเอาไว้ ถ้าเห็นใครตุกติก ยิงได้เลย!!”
ยศดึงยาซะมาพูด
“นี่ เราไม่ได้ตกลงกันแบบนี้นะ”
“คุณมีวิธีของคุณ ผมก็มีวิธีของผม”
ยาซะกระชับปืนในมือแน่นเหมือนเป็นการขู่ยศ ทำให้ยศไม่กล้าทำอะไร ยาซะหันไปทางลูกน้องของยศ 2 คน
“แกสองคนไปกับฉัน”
ลูกน้องยศเดินออกไปกับยาซะ ยศหันไปเห็นหมึกกับฉลามเอาปืนออกมา ชาวเกาะทุกคนหน้าเสีย
+ + + + + + + + + + + +
สายชลพาฟ้าลดาหนีมาตรงลานหินลอย ฟ้าลดาจะล้ม สายชลรีบประคองเอาไว้
“ไหวมั๊ย”
“ไหว”
สายชลจับมือฟ้าลดาแน่น รีบพาปีนผาหิน ฟ้าลดาทุลักทุเลมาก เพราะเหนื่อยสุดๆ สายชลช่วยฉุดฟ้าลดาให้ขึ้นมา
“อดทนหน่อยนะนางฟ้า”
“นางฟ้าทนได้ จะให้นางฟ้าทำอะไรก็ได้ ถ้ามันทำให้นางฟ้าได้อยู่กับสายชล”
สายชลพยักหน้า สองคนปีนผาหินต่อไป แต่เสื้อฟ้าลดาเกี่ยวต้นไม้ เสื้อขาด
“โอ๊ย!”
สายชลรีบมาดู
“เป็นไงนางฟ้า”
“นางฟ้าไม่เป็นอะไร รีบไปต่อเถอะ”
สายชลรีบพาฟ้าลดาเดินต่อไป โดยไม่รู้ว่าเศษเสื้อเกี่ยวกิ่งไม้เอาไว้ ขณะเดียวกัน ยาซะกับลูกน้องเดินเข้ามาในลานหินลอย ก่อนจะหยุดเดิน กวาดตามองหาสายชลกับฟ้าลดาไปรอบๆ แต่ไม่เห็น ยาซะกับลูกน้องเดินต่อ
สายชลกับฟ้าลดาเข้ามาในถ้ำ สายชลรีบเอาใบไม้ กิ่งไม้ปิดปากทางเข้าถ้ำเอาไว้ แล้วหันมาทางฟ้าลดา
“ตรงนี้ถ้าใครไม่สังเกตดีๆ จะไม่รู้ว่ามีถ้ำอยู่ พวกมันไม่มีทางหาเราเจอแน่ๆ”
ฟ้าลดาพยักหน้า ได้ยินเสียงคลื่น
“เสียงอะไร??”
“เสียงคลื่นน่ะ ถ้าเราปีนลงไปด้านล่าง จะมีทางออกไปทะเล นางฟ้าเข้ามานั่งด้านในเถอะ”
สายชลพาฟ้าลดาเข้ามาด้านใน สองคนกอดกันด้วยความวิตกกังวล
+ + + + + + + + + + + +
ยาซะ กับลูกน้องเดินมาถึงที่มีเศษเสื้อของฟ้าลดาติดอยู่ ก็ยิ้มออก
“คิดว่าจะหนีกูพ้นเหรอ”
ยาซะรีบเดินต่อไปกับลูกน้อง
ทางด้าน สายชลกับฟ้าลดานั่งด้วยกันในถ้ำ ฟ้าลดายังตื่นกลัว...
“ไม่ต้องกลัวนะนางฟ้า สายชลจะไม่ยอมให้ใครมาพาตัวนางฟ้าไป”
ฟ้าลดาพยักหน้า กอดสายชลแน่น แล้วสายชลก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน สายชลเอานิ้วแตะปากให้ฟ้าลดาเงียบ แล้วก็ผละจากฟ้าลดา รีบไปดูตรงปากถ้ำ เห็นยาซะกับลูกน้องเดินมา
“ไอ้ยาซะ!”
“ทำไงดีสายชล”
สายชลเครียด ครุ่นคิดว่าจะทำยังไง เสียงคลื่นดังขึ้นจึงคิดบางอย่างได้
“นางฟ้าพร้อมจะเสี่ยงกับสายชลมั๊ย”
ฟ้าลดากระชับมือสายชลแทนคำตอบ
ยาซะ กับลูกน้อง 2 คน เดินมาถึงหน้าถ้ำ ยาซะหยุดเดิน ลูกน้องหยุดตาม ยาซะหันไปมองรอบๆ แล้วก็เห็นปากถ้ำที่มีกิ่งไม้ใบไม้คลุมเอาไว้ ยาซะเดินไปดู...
“พวกมันหลบอยู่ในนี้ มาช่วยกันเอาไอ้พวกนี้ออก”
ยาซะ ลูกน้องสองคนช่วยกันเอากิ่งไม้ ใบไม้ออก กระทั่งเข้าไปในถ้ำได้ แต่ไม่พบใครอยู่ในนั้น ยาซะเจ็บใจ หัวเสีย
+ + + + + + + + + + + +
สายชลกับฟ้าลดา พรวดขึ้นมาจากน้ำพร้อมกัน...
“พวกมันต้องคิดไม่ถึงแน่ๆว่า เราจะดำน้ำออกมาจากใต้ถ้ำ”
ฟ้าลดายิ้มสบายใจ แล้วก็เหลือบไปเห็นยาซะกับลูกน้อง 2 คน กำลังเดินปีนลงมาจากผาหิน
“พวกมันอยู่นั่น”ฟ้าลดาตกใจ
สายชลหันไปมองหน้าตาตื่น
“เราจะไปหลบตรงไหนสายชล”
สายชลเห็นแง่งหินที่ยื่นออกมาในทะเล ข้างใต้มีที่หลบ สายชลรีบพาฟ้าลดาว่ายมาหลบตรงใต้แง่งหิน
ยาซะกับลูกน้อง 2 คน เดินมาหยุดยืนตรงแง่งหิน มองหาสายชลกับฟ้าลดาในทะเล แล้วก็รอบๆบริเวณ
“ไม่มีร่องรอยอะไรเลยพี่ เหมือนอยู่ดีดีพวกมันก็หายตัวไป”
ยาซะโมโห
“มันจะหายไปไหนได้ไงวะ”
ยาซะเดินมายืนชิดขอบแง่งหิน โดยไม่รู้ว่าภายใต้แง่งหินนั้น สายชลกับฟ้าลดากอดกันอยู่ ยาซะหันไปทางลูกน้อง
“ไปดูทางโน้น”
ยาซะกับลูกน้องเดินออกไป สายชลกับฟ้าลดาโล่งอก คิดว่าปลอดภัย
+ + + + + + + + + + +
สายชลกับฟ้าลดาจับมือเร่งเดินมาตามทาง แล้วก็ผงะตกใจ ที่เห็นยาซะ กับลูกน้อง 2 คนดักรออยู่ สายชลเอาตัวมากันฟ้าลดาเอาไว้
“ยังไงแกก็หนีฉันไม่พ้นหรอกไอ้สายชล!!”
สายชลจับมือฟ้าลดาแน่นจะพาฟ้าลดาวิ่งหนี แต่ยาซะชักปืนออกมา ทำให้สายชลกับฟ้าลดาไม่กล้าฟ้าลดาหน้าเสีย
“ถ้าแน่จริงก็วิ่งเลย”
สายชลไม่กล้า
“แกต้องการอะไรยาซะ”
“มีคนให้ฉันมาพาตัวคุณฟ้าลดากลับบ้าน”
สายชลกับฟ้าลดางง
“ฟ้าลดา?”
“ก็นางฟ้าของแกไง ชื่อจริงๆของนางฟ้าคือฟ้าลดา พาคุณฟ้าลดามาให้ฉัน แล้วแกก็กลับไปอยู่กับเผ่าพันธุ์ของแกซะ!!”
“ไม่! จะไม่มีใครพานางฟ้าไปจากฉันได้”
ยาซะโมโห เข้ามาเอาด้ามปืนตบปากสายชลจนเลือดกลบปาก ฟ้าลดาตกใจ
“สายชล!”
สายชลหันไปเห็นยาซะเอาปืนจ่อหน้า
“ถ้าแกไม่ไปกับฉัน ฉันจะฆ่าผัวแกซะ!!”
ฟ้าลดาสะดุ้ง หันไปมองสายชลเป็นห่วง
“อย่าไปนะนางฟ้า สายชลไม่กลัวมันหรอก”
ยาซะหมั่นไส้ เตะสายชลจนล้มกลิ้งไปบนพื้นก่อนจะเตะอีกสองสามครั้ง ฟ้าลดารีบเข้ามาดูสายชล
“พอแล้ว พอแล้ว”
ฟ้าลดากอดสายชลแน่น ยาซะขึ้นไกปืนดังกริ๊ก หันไปทางฟ้าลดา
“เอาไง จะให้ฉันฆ่ามันต่อหน้าแกเลยมั๊ย”
“ไม่! ตกลง ฉันจะไป”
สายชลตกใจ ยาซะแสยะยิ้มสะใจ จับแขนฟ้าลดาดึงออกมา สายชลกำทรายบนพื้นแน่น แล้วปาใส่หน้ายาซะ ยาซะแสบตา ปล่อยมือจากฟ้าลดา
“โอ๊ย!”
สายชลพุ่งเข้าไปแย่งปืนยาซะ ฟ้าลดาลุ้นสุดๆ ลูกน้องยศ 2 คนมองเหรอหรา...ทำอะไรไม่ถูก สายชลกับยาซะแย่งปืนกันด้วยความดุเดือด
ทันใดนั้นเสียงปืนดังปัง!!!
ฟ้าลดา สายชล ยาซะชะงัก อึ้ง
+ + + + + + + + + + + +
กลุ่มซาละ ได้ยินเสียงปืน ก็พากันใจเสียเป็นห่วงสายชล แตลอยเห็นหมึกกับฉลามเผลอหันไปมอง ก็พุ่งเข้ามาจับหัวสองคนโขกกันจนมึน
ยศตกใจ แล้วทุกคนก็กรูเข้ามา แย่งปืนไปจากหมึกและฉลาม หมึกกับฉลามอึ้ง นารากับแตลอยที่แย่งปืนมาได้หันปืนไปทางยศ หมึก ฉลาม สามคนรีบยกมือ
“รีบไปซะ! ก่อนที่ลูกปืนจะเข้าปากพวกเอ็ง!!!” นาราขู่
ยศ หมึก ฉลามรีบวิ่งออกไป ทุกคนหันมามองหน้ากัน
“รีบไปดูไอ้สายชลเร็วเข้า”
ทุกคนรีบพากันไปทันที
ขณะเดียวกัน สายชลกับยาซะมองหน้ากัน ฟ้าลดาลุ้นมากว่าใครโดนยิง แล้วสายชลกับยาซะก็ผละออกจากกัน สายชลก้มมองท้องตัวเองเห็นเลือดออก ฟ้าลดาตกใจ รีบเข้าไปประคองสายชล
“สายชล.!!!”
สายชลไม่มีแรงยืน ทรุดเข่าลงกับพื้น ฟ้าลดาร้องไห้จะขาดใจ
“สายชล สายชล”
ยาซะหัวเราะด้วยความสะใจ เข้ามาฉุดฟ้าลดาให้ลุกขึ้นยืน ฟ้าลดาไม่ยอมไป
“ปล่อยนะปล่อย..ปล่อยสิ ปล่อย”
ฟ้าลดาจะถูกลากไป แต่สายชลจับมือฟ้าลดาแน่น ยาซะหันไปเห็นหัวเสีย เข้ามากระทืบแขน สายชลไม่ยอมปล่อย ยาซะต่อยจนร่วงลงกับพื้น มือหลุดจากมือฟ้าลดา
“สายชล...”ฟ้าลดาร้องไห้
ฟ้าลดาหันไปทุบตียาซะ ขืนตัวไว้ไม่ยอมเดิน
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย..ปล่อย!!”
ยาซะหัวเสียอุ้มฟ้าลดาขึ้นมา ฟ้าลดาก็ดิ้นไม่หยุด สายชลเห็นฟ้าลดาถูกยาซะจับไป ก็พยายามลุกขึ้น
สายชลอ่อนแรง
“นางฟ้า...นาง....ฟ้า...”
สายชลลุกขึ้นยืนสำเร็จ ค่อยๆเดินมาหายาซะ ลูกน้อง 2 คนหันไปเห็นก็ตกใจ
“พี่...”
ยาซะหันไปเห็นสายชล ฟ้าลดากัดแขนยาซะ
“โอ๊ย!”
ยาซะร้องลั่น ปล่อยฟ้าลดาร่วงลงพื้น ฟ้าลดารีบวิ่งไปกอดสายชล
“ยืนเซ่ออยู่ทำไม จับพวกมันแยกกันสิวะ”
ลูกน้องรีบเข้าไปหา สายชลเห็นลูกน้องเดินมา ก็เกิดแรงฮึด สู้ตายไม่ยอมให้ใครพาฟ้าลดาไป สายชลเหวี่ยงหมัดออกไปมั่วๆไม่โดนใคร สุดท้ายทนเจ็บแผลไม่ไหว โดนลูกน้องจับล็อคแขน
ยาซะเข้ามาอัดสายชลไม่หยั้ง
“ฤทธิ์มากนักนะเอ็ง”
ฟ้าลดาพยายามห้าม จับแขนยาซะ
“อย่าทำสายชล อย่าทำสายชล”
ยาซะสะบัดแขน ทำเอาฟ้าลดากระเด็นออกไป พร้อมๆ กับสร้อยที่สวมคอฟ้าลดาร่วงลงพื้น สายชลหมดแรงสู้ ลูกน้องปล่อย สายชลร่วงลงพื้น หมดสภาพ ยาซะปาดเหงื่อ
“ไปเว๊ย!”
ยาซะลากฟ้าลดาออกไป ฟ้าลดาพยายามขืนตัวไว้แต่สู้แรงยาซะไม่ได้ หันไปมองสายชลน้ำตาไหลพรากเป็นห่วงสายชลสุดๆ
“สายชล..ช่วยนางฟ้าด้วย...สายชล....”
สายชลพยายามจะลุกก็ลุกไม่ขึ้น เหลือบตาไปเห็นสร้อยฟ้าลดาบนพื้นทราย
สายชลเอื้อมมือไปคว้าสร้อยแล้วกำแน่นแววตามุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ เงยหน้ามองตามฟ้าลดา
(อ่านต่อหน้า 3)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ยาซะลากฟ้าลดามาตามทาง
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะกลับไปหาสายชล ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง”
“หุบปาก!”
ฟ้าลดาโมโหถุยน้ำลายใส่หน้ายาซะ
ยาซะโมโหสุดๆ ตบหน้าฟ้าลดาเพี๊ยะ!! ฟ้าลดาถึงกับมึน แล้วเสียงมือถือยาซะดังขึ้น ยาซะกดรับ
“ฮัลโหล..ว่าไงนะ!! พวกมันแย่งปืนไปได้..บ้าเอ๊ย ฉันได้ตัวมันมาแล้ว อีกห้านาทีเจอกัน”
ยาซะรีบฉุดฟ้าลดาให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
ทางด้านซะละ และชาวเกาะ วิ่งมาที่ริมหาดเห็นสายชลนอนเลือดท่วมก็ตกใจ
“สายชล!”
มามิรีบเข้ามาดูสายชล
“สายชล...”
สายชลสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าทุกคน สายชลเสียงแหบพร่า
“นาง..ฟ้า...ถูกจับไปแล้ว...”
ทุกคนตกใจ
“ไป..ช่วยนางฟ้า...”
สายชลพยายามจะลุกขึ้นแต่ไม่ไหว เพราะเจ็บแผล
ปีร์กะเห็น
“สายชลโดนยิง!! เอ็งจะลุกไม่ได้นะ ไม่งั้นเลือดหมดตัวตายแน่”
สายชลจับแขนปีร์กะ
“ฉันสัญญากับนางฟ้าเอาไว้ว่าใครจะมาพาตัวนางฟ้าไปไม่ได้ ตราบใดที่นางฟ้ายังอยู่กับฉัน ฉันต้องไป..ฉันต้องไปพานางฟ้ากลับมา”
สายชลหน้าตามุ่งมั่นมากๆ จนทุกคนไม่รู้จะทำยังไง
+ + + + + + + + + + + +
ยาซะพาฟ้าลดามาหายศ หมึก ฉลามที่รออยู่ พยายามจะพาฟ้าลดาขึ้นเรือ แต่ฟ้าลดากัดแขน ยาซะร้องลั่น
“นังบ้า!!”
ฟ้าลดารีบผละแล้ววิ่งออกไป ยาซะรีบไล่ตามไปตะครุบตัวเอาไว้ ฟ้าลดาดิ้นๆๆๆ
“ปล่อยนะปล่อย...ปล่อย...”
ฟ้าลดาผละออกจากยาซะสำเร็จกำลังจะวิ่งหนี แต่ยาซะทุบไปที่ท้ายทอยฟ้าลดา ทำให้ฟ้าลดามหมดสติ ยศตกใจ หันไปมองยาซะ
“แกทำอะไร?!!”
“ไม่ต้องห่วง แค่สลบ ไม่ถึงตาย ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็พากลับไปไม่ได้”
ยศพูดไม่ออก ยาซะอุ้มฟ้าลดารีบเดินไปที่เรือกับคนอื่นๆ
นารา แตลอยพยุงสายชลมา ทุกคนตามมาด้วย แล้วเห็นฟ้าลดานั่งเรือไปที่เครื่องบินที่จอดอยู่กลางทะเล สายชลหัวใจแทบสลาย
“นางฟ้า..นางฟ้า!!”
สายชลผละออกจากนารากับแตลอยทั้งๆที่บาดเจ็บ แต่กลับสะดุดล้มลงพื้น จะลุกก็ลุกไม่ไหว ได้แต่เอื้อมมือไปข้างหน้า
“นาง...ฟ้า...”
ตาสายชลมองไปที่เรือที่แล่นออกไปไกล เปลือกตาค่อยๆปิดสนิท สายชลหมดสติไป
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยืนมองเครื่องบินที่กำลังบินมาด้วยความตื่นเต้น ด้านหลังมีทีมพยาบาลยืนอยู่พร้อมเตียง มีรถตู้จอดอยู่ ไม่นานเครื่องบินลงมาจอด ชมพูแพรกับหมอวัฒนารีบออกไป บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงตามออกมา
ไม่นานประตูเครื่องบินเปิดออก ยศอุ้มฟ้าลดาเดินออกมา ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตกใจกับสภาพของฟ้าลดา
“ยัยฟ้า!!”
สองคนรีบเดินเข้าไปตรงปลายบันได ยศอุ้มฟ้าลดาลงมา ยาซะ หมึก ฉลาม ลูกน้องตามลงมาติดๆ บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าไป ยศวางฟ้าลดาลงบนเตียง
ชมพูแพรรีบเข้าไปหาฟ้าลดา ลูบหน้า ลูบผมเป็นห่วงมากๆ หันไปมองยศ
“ทำไมน้องฉันเป็นแบบนี้”
ยศกำลังจะตอบ แต่ยาซะชิงตอบก่อน
“ไม่ทราบครับ”
ยศชะงัก
“ตอนพวกผมไปถึง คุณฟ้าลดาก็อยู่สภาพนี้แล้ว ไม่รู้ผัว..เออ..สามีคุณฟ้าลดาทำอะไรเธอรึเปล่า เพราะไอ้หมอนั่นไม่ใช่คนดี”
ยศหันไปมองยาซะอึ้งๆ ยาซะทำหน้านิ่ง ชมพูแพรโมโหแทนฟ้าลดา
“สารเลว!” ชมพูแพรรีบหันมาดูฟ้าลดาแล้วเงยหน้ามองหมอ “ยัยฟ้าจะเป็นอะไรมั๊ยคะหมอ”
หมอวัฒนาจับชีพจร
“ชีพจรเต้นปกติ แต่ต้องไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาลอีกที ผมว่าเรารีบพายัยฟ้าไปโรงพยาบาลดีกว่าครับ”
บุรุษพยาบาลรีบเข็นฟ้าลดาออกไป ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตามไปติดๆ ยศหันมาทางยาซะ
“ฉันชักจะสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่ไม่ดี..แกหรือคนบนเกาะนั้น”
ยาซะยิ้ม
“ทางที่ดีอย่ามีใครพูดอะไรดีกว่า เพราะผมอยากเจอคุณ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
ยาซะเปิดแจ็คเก็ตตัวนอกให้ยศเห็นด้ามปืนเป็นการขู่ ทำให้ยศไม่กล้า ยาซะเดินออกไปกับหมึกและฉลาม
+ + + + + + + + + + + +
ซะละ แตลอย นารา ช่วยกันแบกสายชลมานอนบนเตียง สายชลเลือดท่วม สภาพแย่มาก ปีร์กะรีบเข้ามา
“หลีกไป”
ซะละ นารา แตลอย ออกไปยืนกับแสงดาว มามิ อารีฟะ สวย มองสายชลเป็นห่วงสุดๆ ปีร์กะเห็นแผลที่ถูกยิงก็กังวลมาก
“เราต้องผ่ากระสุนออก”
“ป้าเคยทำเหรอ?” มามิถาม
“ไม่เคย”
“ไม่เคยทำ!! โธ่ป้า..แล้วไอ้สายชลมันจะไม่ตายเพราะฝีมือป้าเหรอ” นาราหนักใจ
“มันไม่มีทางเลือกแล้ว ทำหรือไม่ทำ ไอ้สายชลก็มีโอกาสตายทั้งนั้น”
ทุกคนเงียบ เครียด ปีร์กะหันไปมองสายชลหน้าเสียไปตามๆกัน
ขณะที่ปีร์กะเตรียมผ่าเอาลูกกระสุนที่สายชลออกนั้น นารา แตลอยจับตัวสายชลเอาไว้ ปีร์กะเอามีดลนที่ไฟตะเกียง ก่อนจะเอาแอลกอฮอล์ราดไปที่แผล สายชลสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด จะดิ้น นารากับแตลอยล็อคตัวสายชลเอาไว้แต่สู้แรงไม่ไหว ซะละต้องเข้าไปช่วย และในที่สุดปีร์กะผ่ากระสุนออกมาได้สำเร็จ สายชลหมดสติ หน้าซีดเซียว เหงื่อท่วม
+ + + + + + + + + + +
ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ...
หมอวัฒนาตรวจฟ้าลดา เปิดเปลือกตาเช็ค วัดความดัน เจาะเลือดฟ้าลดา จากนั้นส่งเข้าเครื่องเอ็มอาร์ไอ กระทั่งได้เห็นผลเอ็กซเรย์ จึงเดินออกมาด้านนอก ชมพูแพรเห็น รีบลุกเดินไปหา
“ยัยฟ้าเป็นไงคะพี่หมอ”
“ผมตรวจร่างกายโดยละเอียดแล้ว ไม่พบอะไรน่าเป็นห่วง ร่างกายของน้องฟ้าแข็งแรงมาก ตอนนี้ก็ต้องรอให้น้องฟ้าพื้นขึ้นมาอย่างเดียวครับ”
ชมพูแพรอึกอัก
“แล้ว..น้องของแพร เออ..ไม่ได้ท้องใช่มั๊ยคะพี่หมอ”
“ไม่ครับ น้องฟ้าไม่ได้ท้อง และไม่มีแนวโน้มว่าจะท้องด้วย”
ชมพูแพรสบายใจ
“งั้นแพรเข้าไปหาน้องได้มั๊ยคะ”
หมอวัฒนาพยักหน้า แล้วพาชมพูแพรเข้าไปในห้อง
ชมพูแพรลูบหัวฟ้าลดาที่นอนหมดสติ ให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง
“ยัยฟ้าซูบลงไปมาก” ชมพูแพรหันไปทางหมอวัฒนา ”คืนนี้แพรขออยู่เฝ้าน้องนะคะ”
“ได้สิครับ ถ้างั้นผมจะกลับไปเอาเสื้อผ้ามาให้แพรเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
ชมพูแพรหันไปจับมือฟ้าลดา เอาขึ้นมาแนบแก้มแล้วก็หอม ก่อนจะลูบหัวฟ้าลดาอีกครั้ง
+ + + + + + + + + + + +
สายชลนอนหมดสติ หน้าซีดจนขาว สภาพดูแย่มากๆ ปีร์กะจับชีพจร ทุกคนยืนมองสายชลอย่างเป็นห่วง
“สายชลเป็นไงบ้างป้า” ซะละถาม
“อาการไม่ดีเลย คงเพราะเสียเลือดมาก”
“ป้าต้องช่วยสายชลนะ สายชลจะตายไม่ได้” มามิขอร้อง น้ำตาท่วม
“ดวงชะตาของไอ้สายชลยังไม่ถึงฆาต แต่ความเสียใจอาจจะทำให้มันถอดใจ”ปีร์กะบอก
ทุกคนอึ้ง หันไปมองสายชลด้วยความวิตกกังวล มามิเข้ามาจับมือสายชลแน่น
“สายชล เธอห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ...สายชล”
สายชลยังคงนอนไม่ได้สติ
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาค่อยๆขยับเปลือกตา ลืมตาขึ้นมาอย่างเบลอๆงงๆ ทันใดนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกจับมาจากเกาะได้ ฟ้าลดาหอบหายใจถี่ แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง กรี๊ดดังลั่นด้วยความกลัว ทำให้ชมพูแพรที่นอนฟุบอยู่ข้างๆสะดุ้งตื่นเห็นฟ้าลดาฟื้น
“ยัยฟ้า..!!”
ฟ้าลดาไม่สนใจชมพูแพร ดึงน้ำเกลือออก ชมพูแพรตกใจ
“ฟ้าจะทำอะไร”
ชมพูแพรเข้ามาจับตัว ฟ้าลดาแกะมือชมพูแพรออก
“ปล่อย!! ฉันจะกลับบ้าน”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรตากร้าว ชมพูแพรตกใจ พยายามตั้งสติ จับตัวฟ้าลดา
“ฟ้าจำพี่ไม่ได้เหรอ พี่แพร...พี่สาวของฟ้าไง”
ฟ้าลดาผลักชมพูแพรแล้วลงจากเตียง
“ฉันจะกลับบ้าน” ฟ้าลดาพึมพำกับตัวเอง ”สายชล สายชล”
ชมพูแพรตกใจ รีบกดเรียกพยาบาล แล้วตามไปคว้าตัวฟ้าลดาไม่ให้ออกไปจากห้อง
“ฟ้าจะไปไหน?? ฟ้า...ฟ้า..”
ฟ้าลดาไม่ค่อยมีแรง
“ปล่อย..ปล่อย...”
ฟ้าลดาพยายามจะออกไป แต่ชมพูแพรกอดแน่น
“พี่ไม่ให้ฟ้าไป พี่จะไม่ปล่อยฟ้าไปไหนทั้งนั้น”
ฟ้าลดาร้องไห้ ทุบไปที่มือชมพูแพรอย่างแรงหลายครั้งเพื่อให้ปล่อย ชมพูแพรเจ็บแต่ก็ทนไม่ยอมปล่อย ไม่นานพยาบาลเข้ามาช่วยจับ ฟ้าลดาพยายามขัดขืน
“ปล่อย..ปล่อยฉัน! ปล่อยซิ...ปล่อย” ฟ้าลดากรีดร้อง ”อ๊าย! อ๊ายยยยย!!!!!!”
ฟ้าลดาคลุ้มคลั่งอาละวาด ชมพูแพรได้ยืนอึ้งตะลึง น้ำตาไหล ทำอะไรไม่ถูก ระหว่างนั้นหมอวัฒนาเข้ามาเห็นฟ้าลดาก็ตกใจไม่นึกว่าจะอาการหนักขนาดนี้ รีบหันไปทางชมพูแพร
“แพรออกไปรอข้างนอกก่อนนะครับ”
ชมพูแพรทำอะไรไม่ถูก หมอวัฒนาต้องพาชมพูแพรออกไป แล้วปิดประตู
ชมพูแพรยืนมองฟ้าลดาผ่านทางกระจกหน้าห้อง ยังตะลึงไม่หาย เห็นหมอวัฒนาเข้ามาจับตัวฟ้าลดาพาไปที่เตียงในห้อง...ฟ้าลดาดิ้นสู้
“น้องฟ้า..ใจเย็นๆ น้องฟ้า....”
“ปล่อยฉัน...ปล่อย! ปล่อย! ปล่อย! ฉันจะกลับบ้าน!”
พยาบาลรีบเอาเข็มฉีดยาให้ หมอวัฒนารีบฉีดยา ไม่นานฟ้าลดาก็หมดสติ หมอวัฒนาหันไปทางพยาบาล
“มัดเอาไว้”
พยาบาลรับคำ หมอวัฒนาหันไปมองฟ้าลดากังวลใจ
+ + + + + + + + + + + +
หมอวัฒนาออกมาจากห้อง พบชมพูแพรที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง
“แพร..”
ชมพูแพรยังนิ่ง หมอวัฒนาจับมือ ชมพูแพรสะดุ้ง
“โอ๊ย!”
หมอวัฒนาก้มมอง เห็นมือชมพูแพรแดงจากการโดนฟ้าลดาทุบ
“มือแพรโดนอะไรครับ??”
ชมพูแพรไม่ตอบ หมอวัฒนาจึงพาเข้าไปที่ห้องทำงาน เอาน้ำแข็งประคบมือให้ชมพูแพรที่นั่งนิ่ง น้ำตารื้อด้วยความเสียใจ แล้วจากความเสียใจก็เปลี่ยนเป็นโมโห
“ต้องเป็นเพราะไอ้ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ถึงทำให้ยัยฟ้ากลายเป็นคนเกรี้ยวกราดแบบนี้” ชมพูแพรเริ่มกังวลใจ “แล้วนี่น้องแพรจะเป็นบ้ารึเปล่าคะ”
“น้องฟ้าไม่เป็นบ้าหรอกครับ สมองของน้องฟ้าได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงพอควร คงจากอะไรซักอย่าง อาจจะเป็นตอนที่คลื่นซัดทำให้หัวไปกระแทกโดนอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะตกใจสุดขีดก็เป็นไปได้ ก็เลยทำให้น้องฟ้าเป็นอย่างที่เห็น”
“แล้วยัยฟ้าจะจำอะไรได้เหมือนเดิมมั๊ยคะ”
หมอวัฒนาถอนหายใจ
“ผมบอกไม่ได้ครับ ของแบบนี้ต้องใช้เวลา ตอนนี้สิ่งที่ต้องรีบทำก็คือ ฟื้นความทรงจำของน้องฟ้าให้เร็วที่สุด แต่มันก็อยู่ที่ว่าน้องฟ้าจะยอมร่วมมือกับเรารึเปล่า”
“แล้วถ้าน้องไม่ยอมร่วมมือล่ะคะ”
“เราก็ต้องค่อยๆรักษากันไปครับ เริ่มจากให้ยา แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น ก็ต้องใช้วิธีการรักษาที่มันรุนแรงขึ้นไปอีก”
“วิธีอะไรคะ”
“ช๊อตไฟฟ้าครับ”
ชมพูแพรอึ้ง หน้าเครียด
(อ่านต่อหน้า 4)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7 (ต่อ)
ปีร์กะช่วยรักษาอาการสายชลจนอาการดีขึ้น สายชลค่อยๆลืมตาขึ้นมา กลอกตาไปรอบๆ ระหว่างนั้นมามิเข้ามาเห็นสายชลฟื้นก็ดีใจ รีบถลามาข้างๆ
“สายชล...”
สายชลหันไปทางมามิ
“นางฟ้า...นางฟ้าอยู่ไหน”
มามิหน้าเสีย พูดไม่ออก สายชลพยายามนึก
“ฉันฝันว่า...นางฟ้าถูกคนจับตัวไป”
มามิกล้ำกลืน
“สายชลไม่ได้ฝันหรอก นางฟ้าถูกจับตัวไปจริงๆ”
สายชลอึ้ง รีบลุกขึ้น ทั้งๆที่ยังเจ็บแผล
“โอ๊ย!”
“สายชลจะไปไหน? แผลสายชลยังไม่หายสนิทดีนะ”
“ฉันจะไปตามหานางฟ้า”
สายชลพยายามลุกขึ้น มามิห้าม...จับตัวสายชลไม่ให้ไป
“สายชลอย่าเพิ่งลุกซิ”
สายชลสะบัดแขนออก
“ปล่อย!”
สายชลผละจากมามิ พอจะเดินออกไป ก็ทรุดลงกับพื้น เลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล มามิตกใจ รีบเข้ามาจับตัว
“สายชล...ไปนอนก่อนเถอะ”
“ไม่! ฉันจะไปตามหานางฟ้า ไม่งั้นฉันจะตามนางฟ้าไม่ทัน”
“สายชลสลบไปตั้งหลายวัน ยังไงก็ตามนางฟ้าไม่ทันหรอก”
สายชลอึ้ง น้ำตารื้อขึ้นมา กำมือแน่น แหกปากดังลั่น
“อ๊ากกกก!!!”
มามิตกใจ สายชลลุกขึ้นยืน หยิบเก้าอี้มาทุ่ม จับโต๊ะทุ่ม อาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างรุนแรง
“ไม่จริง...ไม่จริง...ไม่..ม..ม..ม..ม!!!!”
มามิร้องไห้ สายชลเจ็บแผล เลยทรุดเข่าลงกับพื้น..ร้องไห้อย่างหนัก มามิเข้ามากอดสายชลแน่น
“สายชล...สายชล...”
สองคนร้องไห้ไปด้วยกัน
+ + + + + + + + + + +
หลายวันต่อมา...
สายชลนั่งอยู่บนเตียง ในมือมีสร้อยของฟ้าลดา แล้วก็เงยหน้าเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มามิยื่นช้อนข้าวมาตรงหน้าสายชล
“กินข้าวหน่อยนะสายชล”
“ไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน สายชลไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว”
สายชลไม่ตอบ น้ำตารื้นตลอดเวลา มามิถอนหายใจ สายชลกำสร้อยในมือแน่น
มามิเอาถาดอาหารออกมาวางข้างนอก ปีร์กะ และทุกคนรออยู่ด้วยความเป็นห่วง
“สายชลไม่ยอมกินอะไรเลย”
“ทำแบบนี้ เดี๋ยวก็ตาย” แตลอยโพล่งขึ้นมา
สวยหยิกพุงแตลอย
“พี่ลอย ปากเสีย!”
“ก็มันจริงนี่ น้ำก็ไม่ดื่ม ข้าวก็ไม่กิน ยาก็ไม่กิน แล้วมันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”
“ไอ้ลอยพูดถูก ถ้าไอ้สายชลยังเป็นอยู่แบบนี้ ใครก็ช่วยมันไม่ได้” ปีร์กะถอนใจ
“เฮ้อ แล้วเราจะทำยังไงกันดี พ่อแม่มันตายไปแล้ว ถ้าเกิดไอ้สายชลเป็นอะไรไปอีกคน ฉันทำใจไม่ได้หรอกนะ” ซะละกังวล
นาราคิดออก ดีดนิ้ว
“ฉันนึกออกแล้ว พวกเราก็ช่วยกันจับสายชลง้างปาก แล้วเอาข้าวยัดลงไปในคอมันเลยดีมั๊ย”
“เออ ก็ดีเหมือนกันนะ งั้นเราก็ต้องบีบจมูกสายชล พอสายชลหายใจไม่ออก สายชลก็จะต้องอ้าปาก” อารีฟะเห็นด้วย
“หยุดเพ้อเจ้อกันได้แล้ว ถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็ไม่ต้องพูด” แสงดาวมองอย่างรำคาญ
นารากับอารีฟะจ๋อย แสงดาวหันไปมองสายชล
“ฉันจะไปพูดกับสายชลเอง”
แสงดาวเดินไปนั่งบนเตียงข้างสายชลที่ยังคง มองเหม่อออกไปข้างนอก แสงดาวจับแขนสายชล
“สายชล..”
สายชลหันมาทางแสงดาว น้ำตาคลอ
“ป้าแสงดาว...ฉันคิดถึงนางฟ้า”
สายชลน้ำตาไหล แสงดาวสงสารสายชลสุดๆ ดึงสายชลมากอดแน่น สายชลร้องไห้อย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป
“เป็นเพราะฉัน...ฉันทำให้นางฟ้าถูกจับตัวไป ฉันทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนางฟ้าไม่ได้ ฉันมันอ่อนแอ ฉันมันไม่เอาไหน ฉันปกป้องนางฟ้าไม่ได้”
แสงดาวผละออกมาจากสายชล
“สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของสายชล สายชลพยายามแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สายชลต้องทำก็คือ สายชลต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป...เพื่อนางฟ้า”
“แต่นางฟ้าไม่อยู่กับฉันแล้ว ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม”
“สายชลไม่คิดเหรอว่า นางฟ้ากำลังรอสายชลอยู่”
สายชลชะงัก ปีร์กะเดินเข้ามาหาสายชลกับแสงดาว
“แม่แสงดาวพูดถูก”
สายชลกับแสงดาวหันไปมองปีร์กะ
“จำที่ข้าเคยบอกเอ็งได้มั๊ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่านางฟ้าจะเป็นยังไง คนที่นางฟ้ารักคือเอ็ง เอ็งกับนางฟ้าเป็นเนื้อคู่กัน อย่าให้ความอ่อนแอ มาทำให้จิตใจที่เข้มแข็งดุจหินผาของเอ็ง ต้องเป็นดั่งต้นหญ้าที่เอนไหวเพราะลมพัดเลยสายชล”
สายชลคิดตามที่ปีร์กะพูด แล้วก็มองสร้อยของฟ้าลดาในมือ
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดานอนนิ่งบนเตียง แววตาไร้ชีวิต ชมพูแพรถือชามข้าวนั่งลงตรงหน้า
“ทานข้าวหน่อยนะยัยฟ้า”
ฟ้าลดาหันหน้าไปอีกทาง ชมพูแพรถอนหายใจ แต่ก็พยายามเดินมาอีกด้าน ตักข้าวขึ้นมายื่นไปตรงหน้าฟ้าลดา
“ข้าวต้มกุ้งฝีมือป้าเนียม ของโปรดฟ้าไงจ๊ะ ทานซักคำหนึ่งนะ”
ฟ้าลดาหันหน้าหนีไปอีก ชมพูแพรสุดทนเดินมาตรงหน้า ฟ้าลดาหันหน้าหนี ชมพูแพรกระชากไหล่ฟ้าลดาแล้วเขย่าด้วยความโมโห ฟ้าลดาหันมามองด้วยความตกใจ
“พอซักทีนะฟ้า!! พี่ทนไม่ไหวแล้ว”
ฟ้าลดาอึ้ง
“พี่กับพี่หมอพยายามช่วยฟ้า แต่ทำไมฟ้าถึงไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเองบ้าง ฟ้าจะเอาแต่นั่งๆนอนๆ ทำเป็นไม่รับรู้ ไม่ได้นะ!!”
ฟ้าลดาจ้องหน้าชมพูแพร ไม่พูด เบือนหน้าหนี ชมพูแพรถอนหายใจ ปล่อยมือออกจากฟ้าลดา หันไปเจอเจตน์ยืนอยู่ ชมพูแพรตกใจ
“คุณลุง...!!”
+ + + + + + + + + + + +
เจตน์ยืนมองฟ้าลดาที่นอนนิ่ง แล้วก็หันมาทางชมพูแพรที่นั่งอยู่ตรงห้องรับแขกสีหน้าไม่ดี
“หนูฟ้าดูไม่ดีขึ้นเลยนะ”
เจตน์เดินมานั่ง ชมพูแพรกลุ้ม
“ค่ะ ยัยฟ้าแกยังจำใครไม่ได้เลยค่ะ แล้วแกก็พยายามต่อต้านการรักษาทุกทาง”
“เฮ้อ...ถ้างั้นก็แย่น่ะซิ”
“คุณลุงมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ”
“หนูก็รู้ว่าเรือที่ขาดหางเสือ มันก็แล่นต่อไปไม่ได้ บริษัทเราก็เป็นแบบนั้น ตอนนี้ลูกค้าไม่มีความเชื่อใจบริษัทเราเหมือนก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทต้องขาดทุนย่อยยับแน่ๆ”
ชมพูแพรนิ่งคิด
+ + + + + + + + + + + + +
หมอวัฒนาเซ็นชื่อลงในใบรับรองแพทย์ ก่อนจะยื่นให้ชมพูแพรที่นั่งตรงข้าม
“นี่เป็นใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่าน้องฟ้ามีอาการสมองเสื่อม”
ชมพูแพรรับมาแววตาเป็นประกายด้วยความดีใจ แต่ต้องพยายามเก็บเอาไว้ไม่แสดงออก
“พี่หมอเข้าใจแพรใช่มั๊ยคะ แพรจำเป็นต้องยื่นร้องต่อศาล ขอเป็นผู้จัดการมรดกเพื่อให้บริษัทดำเนินงานต่อไปได้ “
“ผมเข้าใจครับ” หมอวัฒนาจับมือชมพูแพร “ตอนนี้แพรต้องคอยดูแลทั้งน้องฟ้า และบริษัทของคุณอา ถ้าแพรมีอะไรอยากให้ผมช่วย บอกผมได้ทันที ไม่ต้องเกรงใจ”
ชมพูแพรจับมือหมอวัฒนาตอบ
“พี่หมอต้องช่วยแพรแน่ค่ะ ช่วยรักและดูแลแพรไปอย่างนี้ แพรก็ดีใจแล้วค่ะ”
หมอวัฒนากับชมพูแพรยิ้มให้กัน
+ + + + + + + + + + + +
หญิงมาที่โรงแรม แต่รปภ.ซึ่งเคยห้ามไม่ให้ชมพูแพรเข้าไปในโรงแรม เดินมาขวางเธอไว้
“ไม่ให้ฉันเข้าไป!! สมองเสื่อมกันเหรอไง ฉันเป็นเจ้าของโรงแรม ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้”
“เป็นคำสั่งของท่านประธานครับ”
หญิงชะงักหน้าเจื่อน
“ท่านประธานเหรอ”
ไม่นานชมพูแพรเดินเชิดออกมา หญิงหันไปมองด้วยความตกใจ
“แพร!”
รปภ.หันไปมองทำความเคารพชมพูแพร ชมพูแพรยกมือให้รปภ.ออกไป หญิงยังอึ้งและงง
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
“ยังต้องให้อธิบายอีกเหรอ เธอน่าจะรู้แล้วนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หญิงเริ่มคิดได้
“ทีใครทีมันไงล่ะหญิง”
หญิงกำมือแน่น
“เธอฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่ เล่นงานฉันเหรอแพร”
ชมพูแพรขยับมาประจันหน้า
“เธอสอนฉันให้ทำแบบนี้เองนะ อย่าลืมซิ”
ชมพูแพรยิ้มหวานแต่ดูโหด หญิงหน้าถอดสีพูดไม่ออก
“ตอนนี้ก็ออกไปจากโรงแรมของฉันได้แล้ว”
หญิงกัดกราม กำมือแน่น พูดไม่ออก เสียหน้าอย่างแรง ได้แต่จ้ำเดินออกไป ชมพูแพรยิ้มอย่างผู้ชนะ ในที่สุดเธอก็มีโอกาสนำเงินมรดกของฟ้าลดามาใช้ได้อย่างที่เธอต้องการ
+ + + + + + + + + +
หลายวันต่อมา...
ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยืนมองฟ้าลดาที่นอนเหม่อ ชมพูแพรหันมาทางหมอวัฒนาอย่างกลุ้มๆ
“แพรว่ามันถึงเวลาที่เราต้องใช้วิธีนั้นแล้วค่ะหมอ”
หมอวัฒนามองชมพูแพร
“แพรทนเห็นน้องในสภาพนี้ไม่ได้แล้ว นี่ไม่ใช่น้องสาวของแพร แพรต้องการน้องสาวคนเดิมกลับมาค่ะ”
ชมพูแพรมุ่งมั่นจนหมอวัฒนาต้องพยักหน้ารับ ตัดสินใจที่จะใช้วิธีช็อตไฟฟ้าเพื่อเรียกความทรงจำกลับมาให้ฟ้าลดา
หมอวัฒนาเช็คร่างกายให้ฟ้าลดา จนเห็นว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำการรักษาแล้ว จึงบอกให้พยาบาลนำเอาเอาอุปกรณ์เครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาแปะที่ขมับฟ้าลดาสองข้าง
ฟ้าลดาทั้งเบลอทั้งมึน หมอวัฒนาเปิดอุปกรณ์ ฟ้าลดาถูกช็อตจนตัวเด้งขึ้นมา ตาเบิกโพลง ในความคิดของฟ้าลดานั้น เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกจับตัว ...วันทำพิธีลอยทุกข์ลอยโศก...คืนเข้าหอ...วันแต่งงาน...วันประกวด...ช่วงเวลาที่มีความสุขกับสายชล ภาพทุกอย่างผ่านไปด้วยความรวดเร็ว จนถึงภาพที่ตัวเองใส่ชุดดำน้ำลอยละล่องอยู่ใต้ทะเล....แล้วภาพก็ดับมืด
+ + + + + + + + + + + +
สายชลเอาผ้าพันแผลออก เห็นแผลหายสนิทมีเพียงแผลเป็น สายชลดีใจมาก ไม่นานนกแก้วบินมาหา สายชลยื่นมือออกไปให้นกแก้วเกาะ
“นางฟ้า...นางฟ้า”
สายชลหน้าเศร้า
“แกก็คิดถึงนางฟ้าเหมือนกันใช่มั๊ยแก้วตา”
สายชลมองนกแก้วอย่างตัดสินใจ จึงได้ไปหาซะละ แสงดาว และแตลอย ทุกคนมองสายชลอย่างแปลกใจ
“เอ็งจะไปตามหานางฟ้า!” ซะละถาม
“จ๊ะ”
“แล้วจะไปตามหาที่ไหน?” แสงดาวสงสัย
“คนเดียวที่รู้ว่านางฟ้าไปไหน คือไอ้ยาซะ!!! ฉันจะเข้าไปตามหามันในเมือง”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร” ซะละออกความเห็น
“ฉันก็ต้องเสี่ยง ยิ่งรอนาน...โอกาสที่จะได้เจอนางฟ้าก็ยิ่งน้อยลง ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องตามหานางฟ้าให้เจอ”
ซะละ แสงดาวหันมามองหน้ากัน
“ฉันเสียนางฟ้าไปไม่ได้ นางฟ้าคือชีวิตของฉัน”
ซะละฟังแล้วตัดสินใจ...
“ถ้าอย่างนั้น...ให้ไอ้ลอยไปด้วย”
“ห๊ะ!! ฉันเนี่ยนะพ่อ”
“เออ ถึงเอ็งจะโง่ แต่ไปสองคนก็ยังดีกว่าไปคนเดียว”
สายชลพยักหน้ารับ แตลอยหันไปมองพ่อกับแม่ด้วยความเซ็ง สายชลหน้าตามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
(จบตอนที่ 7)
อ่านต่อตอนที่ 8 พรุ่งนี้