เสาร์ห้า ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 15
ฮวงเปิดภาพที่ขโมยมาได้โดยใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ขณะที่ ดร.วิทยา เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ ยืนดูอย่างสนใจ
ดร.วิทยานั้น เมื่อมองเห็นภาพจากคอมพิวเตอร์ ก็จำได้ทันทีว่าเป็นภาพที่ตนเคยเห็นนั่นเอง
“ใช่แล้ว....ภาพนี้ฉันจำได้ อยู่ที่ผนังในเจดีย์”
“มันเป็นภาพอะไรกันครับ ด็อกเตอร์” เสือสนธิ์ถาม
“ลองดูแสงสะท้อนพวกนี้ซิ มันสะท้อนกันไปมาอยู่สามจุด แล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าพระประธาน”
เจ้าพ่ออินทร์พึมพำ
“แสงสะท้อนสามจุด ทับทิมสยามก็มี 3 ก้อน 3 สี”
“ถูกต้อง...จุดสะท้อนสามจุดในภาพ ฉันเชื่อว่ามันต้องเป็นทับทิมสยาม ทั้งสามก้อนแน่นอน ตรงนี้เป็นทับทิมสีชมพู ตรงนี้เป็นทับทิมสีม่วง แล้วตรงนี้ต้องเป็นทับทิมสีแดง” ดร.วิทยาชี้ พลางอธิบาย
“แล้วแสงสว่างที่อยู่หน้าพระประธานละครับ หมายถึงอะไร” ฮวงถามอย่างสงสัย
“มันคือผลลัพท์ของการทดลอง ที่พวกดร.ฟอร์ดกำลังค้นคว้าอยู่”
“พลังงานนิวเคลียร์เหรอครับ” เสือสนธิ์ถามบ้าง
ดร.วิทยานิ่งคิด แล้วพยักหน้า...
“ผมไม่แน่ใจ เพราะพลังงานที่เราเห็นในภาพ จุดกำเนิดมันมาจากแสง แล้วก็ทับทิมสยาม ทั้ง 3 ก้อน มันไม่ควรเป็นพลังงานนิวเคลียร์”
“บางทีมันอาจจะเป็นพลังงาน ที่คนโบราณค้นพบมาแล้ว แต่พวกเรายังไม่รู้จักก็ได้นะครับ” ฮวงออกความเห็น
ดร.วิทยาพยักหน้ารับ
“ใช่...และพลังงานนี้ไม่ควรตกอยู่ในมือคนชั่วอย่างด็อกเตอร์ฟอร์ดเด็ดขาด”
“อย่างห่วงไปเลยครับ ยังไงพวกเราต้องช่วยด็อกเตอร์ ขัดขวางการทดลองครั้งนี้แน่นอน” เสือสนธิ์น้ำเสียงจริงจัง
“จะให้พวกเราเดินเกมส์ยังไงต่อ ว่ามาได้เลยครับ พวกเรายินดีช่วย” เจ้าพ่ออินทร์บอก
ขณะเดียวกันนั้น นั้มเดินถือหนังสือพิมพ์เข้ามา
“นายครับ...มีข่าวทับทิมสยามในหนังสือพิมพ์ครับ”
เสือสนธิ์หันไปหา ฮวง
“ฮวง...แกอ่านให้ฟังที”
ฮวงรับหนังสือพิมพ์จากนั้มมา
“เป็นข่าวซุบซิบน่ะครับ” ฮวงเริ่มอ่าน “ในที่สุดทายาทจากเชียงรุ้ง ก็ปรากฏตัวพร้อมทับทิมสยามสีแดง เธอประกาศพร้อมสละทับทิมสยามสีแดง เพื่อให้เป็นไปตามพินัยกรรมบรรพบุรุษ ที่ต้องการให้ทับทิมสยามทั้งสามก้อนกลับมารวมตัวกัน”
“ทายาทจากเชียงรุ้ง...ใครกัน…” ดร.วิทยาพึมพำ
“มีรูปลงมั๊ย” เจ้าพ่ออินทร์ถาม
“มีครับ...ผู้หญิงคนนี้ไง”
ฮวงชี้ไปที่รูปม่านฟ้าซึ่งยืนถือทับทิมสยามสีแดงอยู่ เจ้าพ่ออินทร์เห็นก็จำได้ทันที
“ผู้หญิงคนนี้ เราเจอในป่านี่ครับ”
เสือสนธิ์เข้าไปมองก็จำได้
“ใช่...นี่แหละนังหัวขโมย”
เจ้าพ่ออินทร์ไม่พอใจ
“โง่บัดซบจริงๆ ที่มาประกาศขายทับทิมสยาม ผ่านหนังสือพิมพ์แบบนี้”
เสือสนธิ์ถอนใจ
“แบบนี้มันเป็นการเชิญแขกชัดๆ คอยดูเถอะผู้หญิงคนนี้อยู่ไม่สุขแน่นอน”
ดร.วิทยานิ่งคิด
“บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเป็นบัตรเชิญ อาจกลายเป็นกับดักก็ได้นะ”
เสือสนธิ์มองดร.วิทยาอย่างแปลกใจ
“ด็อกเตอร์หมายความว่ายังไง”
“ลองคิดดูดีๆ ถ้าไม่แน่จริง ก็ไม่มีใครประกาศลงสื่อแบบนี้ ผมว่าเรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แต่พวกคุณไม่ต้องห่วง ขอเวลาให้ผมอ่านเกมส์ต่ออีกหน่อย แล้วจากนั้นผมจะบอกว่าพวกเราควรทำอะไร”
ดร.วิทยาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมามองดู อย่างใช้ความคิด
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
ดร.ฟอร์ด สตีเฟ่น นาตาชา มองดูรูปของม่านฟ้าในข่าวหนังสือพิมพ์ โดยมีราฮีมกำลังโทรศัพท์เช็คข้อมูลให้ ครู่หนึ่งก็หันกลับมาบอก
“ผมโทรเช็คดูแล้วครับ ข่าวนี้เป็นข่าวจริง ผู้หญิงที่ชื่อม่านฟ้า ก็คือทายาทแห่งเชียงรุ้งตัวจริงแน่นอน”
“แสดงว่าทับทิมสยามสีแดงที่เห็นในรูปเป็นของจริง” ดร.ฟอร์ดน้ำเสียงมั่นใจ
“แล้วรู้ที่อยู่ติดต่อหรือเปล่าราฮีม” สตีเฟ่นถามเสียงเครียด
“นี่ครับ...หมายเลขติดต่อ ผมให้พรรคพวกสืบมาให้แล้ว”
ราฮีมส่งกระดาษจดหมายเลขโทรศัพท์ให้นาตาชา
“นาตาชา แกโทรติดต่อเดี๋ยวนี้ ฉันอยากรู้ว่ามันต้องการเงินเท่าไหร่” ดร.ฟอร์ดสั่งทันที
“แต่พ่อคะ...เรื่องนี้มันแปลกๆ นะคะ” นาตาชาแย้งอย่างสงสัย
“ฉันไม่สน...ขอเพียงแต่ทับทิมสยามสีแดงเป็นของจริง ยังไงก็ต้องหาวิธีชิงเอามาให้ได้” ดร.ฟอร์ดสั่งเสียงเฉียบ
นาตาชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลข แล้วโทรออก
+ + + + + + + + + + + +
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชลดา กระแต ยูกิ ม่านฟ้า และบัวชุม หันมามองหน้ากัน กระแตกับยูกินั่งอยู่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เตรียมพร้อมเช็คข้อมูล
“อย่าเพิ่งรับนะ ขอดูหมายเลขก่อน”
ยูกิกรอกหมายเลข ลงไปในโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คหาข้อมูล และพื้นที่ เมื่อยูกิป้อนข้อมูลเสร็จ กระแตก็หันไปบอกม่านฟ้า
“เอาละ...ม่านฟ้ารับสายเลย”
ม่านฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
“สวัสดีค่ะ”
นาตาชา กำลังคุยอยู่ที่ปลายสาย
“เธอคือม่านฟ้า...ทายาทแห่งเชียงรุ้ง”
“ใช่...”
“เธอจะขายทับทิมสยามสีแดงเท่าไหร่”
“คุณเป็นใคร”
“ฉัน...นาตาชา เธอจะขายทับทิมสยามเท่าไหร่”
“ฉันจะขายทับทิมสยามสีแดง ก็ต่อเมื่อผู้ที่รับซื้อ คือผู้ที่ครอบครองทับทิมสยามสีชมพู และสีม่วง”
“แน่นอน...เธอก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้ ทับทิมสยามทั้งสองก้อนอยู่กับฉัน”
“เงินสดห้าสิบล้านคุณคงจ่ายได้”
“แพงไป”
“งั้นก็เจ็ดสิบล้าน สำหรับคนที่ไม่มีปัญญาจ่ายอย่างคุณ”
“นี่เธอบ้าหรือเปล่า”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถ้ายังคิดจะซื้อ ฉันขอร้อยล้านบาท...หากช้ากว่านี้ฉันจะเปลี่ยนสกุลเงินเป็นดอลล่า ตกลงมั๊ย”
“ก็ได้...ฉันตกลง”
“แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า เธอมีทับทิมสยามทั้งสองก้อนจริงๆ”
“มันเกี่ยวอะไร ฉันมีเงินให้เธอมันก็น่าจะจบ”
“ร้อยยี่สิบล้าน ถ้าทำตามเงื่อนไขฉันได้ค่อยติดต่อมา ฉันไม่ชอบคนที่คุยไม่รู้เรื่อง” ม่านฟ้ากดสายทิ้งทันทีชลดาหันไปหายูกิ
“รู้หรือยังยูกิว่า นาตาชาโทรมาจากที่ไหน”
“เป็นหมายเลขเติมเงิน ยังสแกนไม่เจอว่าอยู่ที่ไหน”
กระแตมองที่จอคอมพิวเตอร์
“ใช่...เหมือนมีสัญญาณรบกวนอยู่ตลอดเวลา”
โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ กำลังสแกนหาข้อมูลไปเรื่อยๆ
+ + + + + + + + + + + +
นาตาชามองโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“นังบ้า”
“โทรกลับไปนาตาชา ทำตามเงื่อนไขของมัน แล้วพยายามนัดหมายจุดส่งของให้ได้” ดร.ฟอร์ดสั่งร้อนใจ
“แต่ด็อกเตอร์ครับ ผมไม่ไว้ใจเรื่องนี้เลย บางทีพวกมันอาจจะกำลังสแกนหาที่อยู่เราก็ได้” ราฮีมบอกอย่างกังวลใจ
สตีเฟ่นกำลังเร่งเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่ใกล้ๆ
“ไม่ต้องกลัว...ฉันมีเครื่องรบกวนสัญญาณ รับรองมันหาเราไม่เจอแน่”
นาตาชากดโทรศัพท์กลับไปอีกครั้ง
ทางด้านชลดา กระแต และยูกิ กำลังพยายามหาทางเช็คที่อยู่ของนาตาชา แต่ทำไม่สำเร็จ
“เอาไงดี ยังสแกนหาที่อยู่พวกมันไม่ได้เลย” ยูกิบอกอย่างร้อนใจ
“ยังไงพวกมันต้องโทรกลับมาอีก” กระแตพึมพำ
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชลดาหันไปบอกม่านฟ้า
“ทำตามแผนเลยนะม่านฟ้า”
“ได้ค่ะ”
ม่านฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“เอาละ ฉันพร้อมที่จะทำตามเงื่อนไขของเธอทุกอย่าง”
“ยังไง”
“ถ้าเธออยากเห็นทับทิมสยามสีม่วง กับสีชมพู วันที่เราเจอกัน ฉันจะเอาไปด้วย”
“พร้อมเงินสด หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน”
“ที่ไหน...เมื่อไหร่...”
“พรุ่งนี้...ฉันจะติดต่อกลับไป เตรียมเงินให้พร้อมก็แล้วกัน”
“ฉันพร้อมเสมอ”
ม่านฟ้าวางโทรศัพท์ แล้วหันมาหายูกิ ชลดา และกระแต
“บ้าจริงๆ เราไม่รู้ที่อยู่ของพวกมันเลย” กระแตบ่นออกมาอย่างหนักใจ
“ถ้างั้นก็เล่นตามเกมส์” ยูกิแนะ
บัวชุมกังวลใจเป็นห่วงม่านฟ้า
“แต่พวกคุณต้องรับรองนะว่า คุณหนูของฉันจะไม่เป็นอันตราย”
“อย่าพูดอย่างนั้นซิพี่บัวชุม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็ยอมรับได้ทั้งนั้น“ ม่านฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“ไม่ต้องกลัวนะบัวชุม ทีมเสาร์ห้าจะคอยดูแลพวกเราอยู่ลับๆ” ชลดาปลอบ
“ค่ะ...ฉันไว้ใจพวกคุณ”
บัวชุมพยักหน้ายอมรับ ค่อยเบาใจขึ้นมาได้บ้าง
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
ชลดาปลอมตัวเป็นเอื้องคำ ยูกิปลอมตัวเป็น เอื้องโรย กระแตปลอมตัวเป็นเอื้องหลวง โดยทุกคนทำตัวเป็นบริวารของม่านฟ้า ทั้งสี่คนเดินออกมาจากสำนักงานของเสาร์ห้าตรงไปที่รถ ชลดา สังเกตเห็นม่านฟ้ามีท่าทีกังวล
“เธอสบายดีนะม่านฟ้า กังวลอะไรหรือเปล่า”
“เรื่องพี่บัวชุมน่ะ”
“เราให้พี่บัวชุมรออยู่บ้าน ไม่น่าจะมีอะไรนะม่านฟ้า” ยูกิบอก
ม่านฟ้ายังไม่คลายกังวล
“แต่พี่บัวชุมเป็นคนดื้อ ฉันกลัวว่า...”
ชลดามองม่านฟ้า
“กลัวพี่บัวชุมจะแอบตามมาเหรอ”
“ใช่...พี่บัวชุมแกเป็นห่วงฉันมาก ยังไงก็คงไม่รออยู่ที่บ้านเฉยๆเป็นแน่”
“อย่าคิดมากเลยม่านฟ้า เดินตามแผนไปก่อน ถ้ากังวลเรื่องอื่นเดี๋ยวงานเราจะเสีย” กระแตเตือน
“จ๊ะ...เราอาจคิดมากไปเองก็ได้”
ทุกคนพากันขึ้นรถ กระแตทำหน้าที่คนขับแล้วขับออกไป ห่างออกไปในรถคันหนึ่ง นั้มกำลังส่องกล้องทางไกลจับตารถของ ม่านฟ้าซึ่งกำลังแล่นออกไป นั้มยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“ด็อกเตอร์ครับ ผู้หญิงที่ชื่อม่านฟ้าอยู่ในรถคันนั้น”
“เป็นไปอย่างที่ฉันคิดจริงๆ รีบตามไปเลย”
นั้มรีบออกรถตามไป
เจนนี่กับบุษกรจอดรถซุ่มอยู่มุมหนึ่ง บุษกรหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องไปที่รถนั้ม
“นั่นรถใคร” เจนนี่ถามอย่างสงสัย
“ยังมองไม่ถนัด...เจนนี่ออกรถตามไปเร็ว”
เจนนี่ขับรถติดตามรถนั้มไปอีกที
+ + + + + + + + + + + +
ในรถตู้ปฏิบัติการณ์ ของเสาร์ห้า ดอน ทำหน้าที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ และภาพวงจรปิด จากถนนต่างๆ เคน นั่งดูการทำงานของดอนอยู่ในรถ เดี่ยว คอยประสานงาน สักครู่เสียงวิทยุติดต่อดังขึ้น เดี่ยวรีบรับ
“ครับ”
“คุณเดี่ยวคะ มีรถอีกคันกำลังขับตามรถของม่านฟ้า” บุษกรรายงานมาทางวิทยุ
“เห็นมั๊ยครับว่าเป็นพวกไหน”
“รถติดฟิล์มดำมาก กล้องส่องไม่เห็นข้างในค่ะ ตอนนี้พวกเราอยู่ถนนด้านข้างสำนักงานค่ะ”
ดอนหันไปกดภาพ วงจรปิด จากถนนข้างสำนักงาน เห็นรถของม่านฟ้าวิ่งนำ สักครู่ก็เห็นรถของนั้มวิ่งตาม
“เห็นภาพแล้วครับ เดี๋ยวผมเช็คจากทะเบียนรถให้”
เดี่ยวพูดวิทยุบอกกับบุษกร
“พวกคุณตามไปเรื่อยๆ อย่าให้มันรู้ตัว เดี๋ยวคุณดอนเช็คทะเบียนรถให้”
“รับทราบค่ะ”
เดี่ยวหันไปมองภาพจากวงจรปิด
+ + + + + + + + + + + +
ทางด้านบัวชุมที่ตามมา ลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วจ่ายเงินค่ารถ
“นี่แล้วท่าเรือไปทางไหน”
“เดินไปทางนี้หน่อยเดียวป้า”
บัวชุมด่าทันที
“ปากเสีย”
“อ้าว...ด่าผมทำไม”
“ก็มาเรียกฉันว่าป้าทำไม...หยาบคาย”
มอเตอร์ไซค์เซ็งๆ ออกรถไป บัวชุมหยิบเสื้อผ้าออกจากถุงมา แล้วเริ่มปลอมตัวเอาผ้าคลุมหน้าไม่ให้ใครจำได้
ขณะเดียวกัน ทางด้านดอน มองข้อมูลจากกรมการขนส่งในจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับทะเบียนรถ และเจ้าของรถคือ ดร.วิทยา
“เป็นรถของ ดร.วิทยา เกิดประกาย ครับคุณเดี่ยว”
เดี่ยวหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมากด
“บุษกรครับ”
“ค่ะ”
“รถต้องสงสัย เป็นรถของดร.วิทยา เจ้าเก่า”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันกับเจนนี่จัดการให้ค่ะ”
“เทคแคร์นะ”
เดี่ยวเลิกติดต่อ ดอนหันมา
“คุณว่าสองคนนั้นเอาอยู่มั๊ยคุณเดี่ยว ผมรู้สึกเป็นห่วง”
“จะให้ผมไปช่วยมั๊ยครับ”เคนถามอย่างร้อนใจ
“ดูไปก่อนคุณเคน ถ้าเห็นท่าไม่ดีเราค่อยไปช่วย” เดี่ยวแนะ
ดอนพยักหน้าเห็นด้วย
+ + + + + + + + + + + +
เจนนี่ขับรถเร่งเครื่องขึ้นไป แล้วขับปาดหน้ารถของนั้มแล้วจอดนิ่ง ทำให้รถนั้มไปไหนไม่ได้
นั้มหงุดหงิด เดินลงจากรถไปโวยวายใส่
“เฮ้ย...จะเอายังไง”
บุษกรเปิดประตูรถกระแทกนั้มเซออกไป แล้วจากนั้นก็ลงจากรถแล้วเตะก้านคอซ้ำ ลูกน้องของนั้มรีบลงรถตามมา เจนนี่ปรี่เข้าไปขวางแล้วเตะๆตัดกำลังจากนั้น ทั้งบุษกรและเจนนี่ก็ต่อสู้กับนั้มและลูกน้อง นั้มเห็นท่าไม่ดี รีบหนีขึ้นรถแล้วกลับรถหนีไป บุษกรและเจนนี่ช่วยกันจับลูกน้องที่เหลืออยู่ใส่กุญแจมือ บุษกร ยกนาฬิกาที่เป็นวิทยุสื่อสารขึ้นมา ติดต่อ
“เรียบร้อยค่ะ คุณเดี่ยว หนีไปได้คนนึง”
“คุณกับเจนนี่แสตนด์บายไว้นะ อย่าเพิ่งเข้าไปข้างในท่าเรือรอคำสั่งอยู่ด้านนอก”
“ได้ค่ะ”
เจนนี่มองลูกน้องนั้มแล้วบอกบุษกร
“ติดต่อสายตรวจมารับตัวไอ้นี่ไปดีกว่า”
“ดีเดี๋ยวเราจัดการให้”
บุษกรติดต่อสายตรวจ ทางด้านนั้มขับรถไป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อกับดร.วิทยา
“ด็อกเตอร์ครับ”
ดร.วิทยา และฮวง อยู่ในรถอีกคัน
“ฉันรู้แล้ว”
“เอ้อ...แล้วจะให้ผมทำยังไงต่อ”
“รีบมาหาฉัน”
“ได้ครับ”
ดร.วิทยาวางโทรศัพท์ เซ็งๆที่นั้มทำงานล้มเหลว
“แล้ว ด็อกเตอร์จะปล่อยม่านฟ้า ไปง่ายๆ เหรอครับ” ฮวงถามขึ้น
“ไม่ต้องห่วง...ฉันมีแผนสอง”
ดร.วิทยายิ้มมั่นใจ
+ + + + + + + + + + + +
ลูกน้องของเจ้าพ่ออินทร์ ช่วยกันตั้งจานรับสัญญาณเล็กๆ ลักษณะคล้ายจานดาวเทียม ที่มุมหนึ่งในบริเวณท่าเรือ เมื่อติดตั้งเสร็จจึงหันมาหาเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ซึ่งกำลังซุ่มดูความเคลื่อนไหวในบริเวณท่าเรือ
“ตั้งจานรับสัญญาณเสร็จแล้วครับ”
“ดีมาก”
เจ้าพ่ออินทร์กดโทรศัพท์ติดต่อกับดร.วิทยา
“ด็อกเตอร์ครับ”
“ว่าไง”
“ติดตั้งจานรับสัญญาณเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดี...งานนี้ไม่ว่าใครติดต่อกับใคร ฉันก็จะรู้ความเคลื่อนไหวพวกมัน รวมทั้งพิกัดที่มันอยู่”
“เยี่ยมเลยครับด็อกเตอร์”
เจ้าพ่ออินทร์กดวางโทรศัพท์
+ + + + + + + + + + + +
บริเวณท่าเรือ มีตู้คอนเทนเนอร์วางเอาไว้มากมาย ยอด กริ่ง เทอด แยกย้ายกันกระจายตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ของท่าเรือ ทุกคนเฝ้าดูความเคลื่อนไหวเงียบๆ
ยอดส่องกล้องทางไกล เห็นรถของนาตาชา แล่นเข้ามา จึงใช้นาฬิกา ซึ่งเป็นวิทยุสื่อสารสำหรับติดต่อ โดยมีหูฟังคล้ายบลูทูธ ติดไว้ที่หู
“คุณกริ่ง คุณเทอด”
กริ่ง และเทอด ได้ยินจากหูฟังบลูทูธ
“ครับคุณยอด”
“ได้ยินครับ”
“รถของนาตาชา แล่นเข้ามาแล้ว ในรถผมเห็นราฮีม แค่คนเดียว ทำหน้าที่ขับรถ”
“แล้วสตีเฟ่นล่ะ” กริ่งถามอย่างสงสัย
“นั่นซิ...น่าแปลกนะที่มันไม่มา” เทอดบอกอย่างไม่ไว้ใจ
“ผมเชื่อว่ามันต้องซุ่มดูเหตุการณ์ อยู่ในท่าเรือแล้วแน่นอน” ยอดออกความเห็น
“ถ้าคุณยอด คุณกริ่งปอด ก็กลับบ้านก่อนได้นะครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” เทอดโอ่
“โอ้โห...กะจะเป็นพระเอกคนเดียวเลยคุณเทอด” กริ่งแซว
“ขอโทษนะครับ...งานนี้ต้องฝีมือระดับผมจึงจะเอาอยู่ครับ” ยอดเกทับ
เทอด และกริ่งส่ายหน้าขำๆ
+ + + + + + + + + + + +
ราฮีมขับรถเข้ามาจอด นาตาชามองไปทั่วๆ
“นัดจุดนี้ใช่มั๊ยครับ”
“ใช่...พวกมันนัดตรงนี้แน่นอน สำรวจเส้นทางไว้แล้วนะ ราฮีม”
“ไม่ต้องห่วง ผมรู้จักแถวนี้ดี”
นาตาชาหันไปมองเห็นรถกำลังแล่นเข้ามา
“มันมากันแล้ว”
รถของม่านฟ้าแล่นเข้ามาจอดนิ่ง
ทางด้าน ม่านฟ้าขับรถเข้ามาจอด ตรงกันข้ามกับรถของนาตาชา แล้วโทรหา...
“ฉันมาแล้ว”
“พวกเธอมากันกี่คน” นาตาชาย้อนถาม
“สี่...พวกเขาเป็นบริวารของฉัน แล้วเธอล่ะ”
“ฉันมากับคนขับรถ พร้อมเงินสด แล้วก็ทับทิมสยามทั้งสองก้อนที่เธออยากเห็น”
“เธอออกมาจากรถได้แล้ว”
“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่ตุกติก”
“ถึงตรงนี้แล้ว...ถ้าเธอเปลี่ยนใจก็กลับไป”
“ก็ได้...ฉันจะลงไป”
นาตาชา กดวางสายลงจากรถ เดินไปพร้อมกล่องใส่ทับทิมสยาม และกระเป๋าเงิน ราฮีมตามไปช่วยถือของให้ เช่นเดียวกับม่านฟ้าที่เดินลงมาจากรถพร้อมชลดา กระแต และยูกิ
ทั้งสองฝ่ายเดินมาเผชิญหน้ากันตรงจุดกึ่งกลาง นาตาชามองไปที่ชลดา กระแต และยูกิแล้วรู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน ม่านฟ้ารีบชิงเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้นาตาชาสงสัย
“เธอคงกลัวบริวารของฉัน”
“เปล่า...ฉันก็แค่รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน”
ม่านฟ้าหันไปแนะนำ
“นี่พี่เอื้องคำ พี่เอื้องโรย แล้วก็พี่เอื้องหลวง พวกเราเป็นชาวเชียงรุ้ง...ไหนล่ะ เงินร้อยล้าน”
ราฮีม เปิดกระเป๋าเงินโชว์แบงค์ที่อยู่ในกระเป๋า
“แล้วไหนทับทิมสยามสีแดง” นาตาชาถามเสียงแข็ง
ม่านฟ้าจ้องหน้า
“ฉันต้องแน่ใจก่อนว่าเธอมีทับทิมสยามมีชมพูและสีม่วงจริง”
“ก็ได้”
นาตาชา เปิดกระเป๋าใส่ทับทิมสยามทั้งสองก้อน ให้ดู
“ฉันขอดูใกล้ๆ”
นาตาชารีบปิดกระเป๋า
“ยังไม่ได้จนกว่าฉันจะได้เห็นทับทิมสยามก่อน”
“ก็ได้”
ชลดาหยิบทับทิมสยามสีแดงของปลอม ออกมาจากย่ามส่งให้ม่านฟ้า นาตาชามองอย่างสงสัย
“ฉันขอดูใกล้ๆ”
“ไม่มีปัญหา แต่เธอต้องส่งกระเป๋าเงินมาก่อน”
นาตาชาหันไปหาราฮีม แล้วพยักหน้าให้ราฮีมส่งกระเป๋า ชลดายื่นมือออกไปรับแต่จังหวะนั้นเองก็แทนที่จะรับเงิน ชลดากลับจับมือของราฮีมบิดแล้วถีบจนราฮีมเซล้มไป กระแตเข้าไปช่วยซ้ำเงินในกระเป๋ากระจายลอยปลิว ทำให้มองเห็นว่า เงินในกระเป๋าเป็นเงินปลอมนั่นเอง
“ที่แท้ก็เงินปลอม”
นาตาชาชักปืนออกมา แต่ม่านฟ้าปัดออกไป ยูกิรีบเข้าไปกระชากกระเป๋าทับทิมสยาม จนหลุดจากมือ จากนั้นก็ส่งกระเป๋าใส่ทับทิมสยามให้ม่านฟ้า
“ไปที่รถเร็ว”
“ชลดา เธอไปกับม่านฟ้า” กระแตสั่ง
ม่านฟ้า และชลดา รีบวิ่งไปที่รถ ขณะที่ยูกิ และกระแต ฉีกชุดเสื้อผ้าที่ปลอมตัวออกไปเหลือเป็นชุด
ทมัดแทมง สำหรับต่อสู้ได้อย่างสะดวก
ยูกิต่อสู้กับนาตาชา ขณะที่กระแตต่อสู้กับราฮีม ทันใดนั้น รถอีกคัน ซึ่งมีเทอดเป็นคนขับ แล่นมาจอด ชลดา และม่านฟ้ารีบวิ่งขึ้นไป เทอดขับรถพาทั้งคู่หนีไป กระแต และยูกิ รีบหาจังหวะในการต่อสู้แล้วรีบวิ่งมาขึ้นรถ ขับออกไปคนละทางกับรถของม่านฟ้า นาตาชา หันไปคว้าปืนมาแล้วยิงไล่ตามไป ราฮีมไปขับรถมารับ นาตาชาขึ้นรถแล้วขับตามไป
+ + + + + + + + + + + +
กระแตขับรถพายูกิ หนีมาที่มุมหนึ่ง ทันใดนั้น รถของสตีเฟ่น และลูกน้องออกมาขวางทาง
กระแตรีบเบรคกระทันหัน
“กลับรถเร็ว” ยูกิสั่ง
กระแตตกใจ
“แย่แล้วรถเบรกไม่ดี”
“ดึงเบรกมือ”
กระแตดึงเบรคมือ ระหว่างเลี้ยวกลับรถ ทำให้รถสไลด์ปัดไปตามถนน อย่างสวยงาม แล้วก็จอดสนิทเนื่องจากเครื่องดับ กระแตพยายามสตาร์ท
“ทำไงดี รถสตาร์ทไม่ติด”
ทันใดนั้น ยอดก็โผล่ทะลุรถเข้ามา
“จ๊ะเอ๋”
กระแตตกใจ
“ว้าย...คุณยอด”
“เดี๋ยวผมขับเอง”
กระแตรีบย้ายที่ไปหลังรถ ยอดเข้ามานั่งที่คนขับ
“ผลุบๆ โผล่ ๆแบบนี้ หัวใจจะวาย” กระแตบ่น
“พูดซะน่ารักเลย เราไม่ใช่ตัวตุ่นนะ” ยอดพูดขำๆ
“ย่ะ...รีบๆ เข้าเถอะ”
ยูกิมองเห็นสตีเฟ่นกำลังจะยิง
“เร็วค่ะ เร็วๆ”
ยอดสตาร์ทรถ แล้วเร่งเครื่อง เมื่อเครื่องยนต์ติดรถก็ออกตัวอย่างแรงหนีไป
สตีเฟ่นหยิบปืน RPG-7 ออกมาแล้วประทับบ่ายิงตรงไปที่รถยอด ลูกปืนระเบิดตูมๆ ไล่หลังรถไป
อ่านต่อหน้า 2
เสาร์ห้า ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 15 (ต่อ)
เทอด ขับรถหนีมาตามทางโดยมีรถของราฮีมขับตาม นาตาชาโผล่ออกมาจากหน้าต่างยิงไล่หลัง ชลดาถอดชุดปลอมตัวออก แล้วจากนั้นเธอและม่านฟ้าก็โผล่ออกไปยิงสวน แต่จังหวะไม่ดี ทำให้ทำได้ไม่สะดวกนัก
นาตาชา ยิงกระหน่ำอีกชุด กระสุนปืนถูกกระจกหลังแตกกระจาย ชลดาและม่านฟ้า พากันหลบกระสุนปืน
“คุณเทอด...ใกล้เข้ามาแล้ว” ชลดาบอกอย่างร้อนใจ
“ใจเย็น เดี๋ยวจัดการให้”
เทอด ยกวิทยุสื่อสารขึ้นมา
“คุณกริ่ง ช่วยหน่อย”
“จัดปายยยย” เสียงกริ่งตอบกลับมา
เทอดเร่งความเร็ว ราฮิมขับรถบี้รถเทอดใกล้เข้ามา นาตาชาเปลี่ยนกระสุนแล้วโผล่ออกไปยิงกระหน่ำ ทันใดนั้น กริ่งวิ่งใกล้รถของนาตาชาเข้ามา กริ่งเรียกนาตาชา
“ตัวเอง...”
นาตาชาหันไปมอง ขณะที่กริ่งบิดมือเพื่อแย่งปืน
“ปล่อยนะ”
“ปล่อยก็ได้”
กริ่งแย่งปืนมาได้ แล้วก็ลดความเร็วในการวิ่งลง ขณะที่รถของนาตาชาเสียหลัก หมุนปัดไปมาแล้วจอดอยู่ข้างทาง
“บ๊าย...บาย”
กริ่งรีบวิ่งหนีกลับไปทางเดิม
ทางด้านยอดขับรถพากระแตและยูกิหนี รถของ สตีเฟ่น และลูกน้อง กริ่งซึ่งวิ่งอยู่บนถนน ไม่ทันมองว่า รถยอดกำลังแล่นมา ทำให้กระแต และยูกิ หวาดเสียวเกรงจะชน
“ระวังค่ะคุณเทอด นั่นคุณกริ่ง” ยูกิบอกเสียงดัง
ยอดบีบแตรดังยาว แล้วยกนาฬิกาสื่อสารขึ้นมาพูด
“วิ่งตามมา...เร็ว”
กริ่งกลับตัวออกวิ่งตามไป แล้วก็ทันรถของยอด ยูกิรีบเปิดประตูด้านข้าง
“คุณกริ่ง โดดขึ้นมา”
กระแตหันไปมองด้านหลังเห็นสตีเฟ่น โผล่ออกมาจากรถ เอาปืน RPG-7 เล็งมา ก็ร้อนใจ
“เร็วค่ะ...รีบขึ้นมาเร็ว”
กริ่งตัดสินใจโดดเข้ามาในรถ ขณะที่ยูกิ คว้าตัวเอาไว้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ กระสุนปืนRPG-7 ระเบิดตูมที่ด้านหลัง รถแล่นผ่านระเบิดพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด
+ + + + + + + + + + + +
รถของนาตาชา จอดอยู่ข้างทาง นาตาชา และราฮีมลงจากรถเนื่องจากรถยางแตก
“ปัดโธ่ ยางแตกได้ไง” ราฮีมบ่นอย่างหัวเสีย
“เร็วราฮีม...เราต้องเอาตัวม่านฟ้ามาให้ได้”
“งั้นตามผมมา”
ราฮีม รีบนำนาตาชาไป
ขณะเดียวกัน ภายในรถปฏิบัติการ...ดอน และเดี่ยวกำลังดูเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด แล้วสักครู่ที่กล้องหนึ่ง มีภาพของบัวชุม ซึ่งปลอมตัวคลุมหน้า กำลังวิ่งลัดเลาะไปมาตามมุมต่างๆของท่าเรือ ดอนหันไปมอง
“นั่นใครครับคุณเดี่ยว”
“จริงด้วยครับ...ท่าทางแปลกๆ”
เคนนั่งมองสักครู่ก็จำได้
“พี่บัวชุม”
ดอนตกใจ
“จริงด้วย บัวชุมมาทำอะไรที่นี่”
“คงเป็นห่วงม่านฟ้าน่ะ คุณดอน” เดี่ยวบอก
ดอนถอนใจ
“ดื้อจริงๆ บอกให้รออยู่ที่บ้านก็ไม่เชื่อ มาที่นี่อันตรายเปล่าๆ”
“เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ”
เคนเปิดรถออกไป
บัวชุมซึ่งปลอมตัวคลุมหน้ากำลังวิ่งลัดเลาะ ไปตามมุมต่างๆบริเวณตู้คอนเทนเนอร์ บัวชุมกำลังจะวิ่งเลี้ยวไป เคนก็ปรากฏตัวดักหน้าเอาไว้ บัวชุมตกใจ
“ว้าย...”
“จะไปไหน”
“มายุ่งอะไร...ถอยไปนะ”
“พี่บัวชุมไม่ควรมาที่นี่”
“ไม่ใช่เรื่องของแก”
“บอกมาก่อนว่าพี่บัวชุมมาทำไม”
“ฉันเป็นห่วงคุณหนูของฉัน แกถอยไปได้แล้ว”
บัวชุมผลักเคนเซแล้วก็วิ่งหนีไป เคนรีบตาม
+ + + + + + + + + + + +
รถของเทอดเลี้ยวมาที่ถนนอีกสาย รถของเจ้าพ่ออินทร์ขับออกมาปิดถนน เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ และลูกน้องก็พากันลงมายืนพร้อมยิง เทอดตกใจ
“เจ้าพ่ออินทร์ กับเสือสนธิ์มาได้ยังไง”
“เราไม่ควรปะทะกับพวกเขานะเทอด พวกเขาโดนหลอกใช้” ชลดาเตือน
“รถคุณยอด ตามมาข้างหลังค่ะ” ม่านฟ้าบอก
เทอดยกนาฬิการวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูด
“คุณยอด...ตอบด่วน...ข้างหน้าไปไม่ได้ เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์รออยู่”
“ข้างหลังก็ไปไม่ได้ สตีเฟ่นมันตามมา”
“งั้นก็แยกย้ายนะครับ”
“ให้มันได้ยังงี้ซิ...เหนื่อยอีกแว้วววว” กริ่งบ่นเซ็งๆ
เทอดเบรครถเอี๊ยดด ทั้งหมดรีบลงจากรถแล้ววิ่งหนี ขณะที่เจ้าพ่ออินทร์และเสือสนธ์ระดมยิงเข้ามา ขณะเดียวกันนั้น รถของยอด วิ่งตามมาแล้วเบรคเอี๊ยดเช่นกัน จากนั้นยอด กริ่ง กระแต ยูกิ ก็ลงจากรถแล้วพากันวิ่งหลบไป
+ + + + + + + + + + +
กลุ่มเสาร์ห้า และกลุ่มผู้หญิงรวมทั้งม่านห้า พากันยิงโต้ไปยังฝ่ายเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ ม่านฟ้า หลบมุมแล้วหยิบกระเป๋าใส่ทับทิมสยามออกมาเปิดออกมาดู
“นี่มันไม่ใช่ทับทิมสยาม ทั้งหมดเป็นของปลอม”
“คิดแล้วเชียว” ชลดาแค้นๆ
“นาตาชา กับสตีเฟ่นอยู่ไหน”
ยูกิมองออกไป เห็นรถของสตีเฟ่นจอดอยู่ไกลออกไป
สตีเฟ่นมองเห็นเหตุการณ์ด้วยกล้องส่องทางไกลเห็นพวกเจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ กำลังยิงใส่พวกเสาร์ห้า สตีเฟ่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อดร.ฟอร์ดทันที
“ว่าไงสตีเฟ่น”ดร.ฟอร์ดถามทันทีที่รับสาย
“งานนี้กลุ่มไอ้ดร.วิทยามันมาด้วยครับ”
“มันต้องมาแน่ ฉันคาดเอาไว้แล้ว”
“เอาไงดีครับ”
“ถอนตัว“
“แล้วทับทิมสยาม...”
“ยังไงทับทิมสยามสีชมพู กับสีม่วงของแท้ก็ยังอยู่กับเราส่วนทับทิมสยามสีแดง คงต้องรอจังหวะอีกที”
สตีเฟ่นชักเป็นห่วงน้องสาว
“แต่นาตาชา...”
“ช่างมัน...ถ้ามันโง่ ก็ปล่อยให้มันตาย ส่วนแกกลับมาหาฉัน”
ดร.ฟอร์ดวางสาย แล้วหันไปมองทับทิมสยามสีชมพู และสีม่วง ของแท้ซึ่งวางอยู่บนแท่นเรเดี่ยม
“ฉันไม่โง่พอที่จะเอาของทับทิมสยามของแท้ไปเสี่ยงเด็ดขาด”
ทับทิมสยาม ทั้งสองก้อน ส่องประกายระยิบ
+ + + + + + + + + + + +
ในรถปฏิบัติงาน ดอนหันมาหาเดี่ยว
“จับคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ได้แล้วคุณเดี่ยว”
“ได้พิกัดปลายสายมั๊ย”
“นี่ครับ”
ดอนจดพิกัด ซึ่งเป็นรหัสตัวเลขส่งให้ เดี่ยวรีบใช้คอมพิวเตอร์หาพิกัดทันที
“พิกัดปลายสาย อยู่ที่รีสอร์ท แถวนครนายกครับ”
“งานนี้ได้ยืดเส้นยืดสายกับเขาซะที”
เดี่ยวกดวิทยุสื่อสารออกไปหาบุษกร
“บุษกรครับ”
บุษกร และเจนนี่รอในรถ
“คะ...คุณเดี่ยว”
“ตามผมไปหาดร.ฟอร์ดทีนะ”
“ได้ค่ะ...ที่ไหนคะ”
“รอสักครู่นะ เดี๋ยวผมจะส่งแผนที่ไปให้”
เดี่ยวเปิดโปรแกรมแปลงไฟล์ภาพแผนที่
ทางด้าน ฮวง และดร.วิทยา ดูที่เครื่องจับสัญญาณภายในรถ ทั้งสองใส่หูฟังจับสัญญาณโทรศัพท์ได้เช่นกันฟังการสนธนา
“แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั๊ยฮวง”
“ทับทิมสยามของจริงอยู่กับดร.ฟอร์ด”
“ใช่...พวกเราให้รีบไปเยี่ยมดร.ฟอร์ดด่วน”
“ครับนาย”
ฮวงหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาสั่งการทันที
กลุ่มของเจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ และพวกกำลังรุกคืบบุกเข้าหากลุ่มเสาร์ห้า ยูกิมองเห็นรถของสตีเฟ่น กำลังแล่นออกไป
“สตีเฟ่นถอนตัวไปแล้ว”
“เมื่อกี้ คุณเดี่ยวก็ติดต่อมาบอกว่ากำลังไปหาดร.ฟอร์ด” กระแตบอก
“แต่ผมไม่เข้าใจว่า เจ้าพ่ออินทร์ กับเสือสนธิ์ กำลังเล่นอะไรกันแน่” กริ่งแปลกใจ
“พวกเขาคงไม่รู้ว่าทับทิมสยามเป็นของปลอม” ยอดบอก
ชลดาถอนใจ
“อย่างนี้ไม่สนุกเลย จะทำอะไรรุนแรงก็ไม่ได้ เพราะพวกเขาก็เป็นเพื่อนของเรา”
“ผมว่าบางที พวกเขาอาจจะถ่วงเวลาเราไว้” เทอดออกความเห็น
“ถ่วงเวลาเรื่องอะไรคะ” ยูกิถามอย่างไม่เข้าใจ
“ดร.วิทยาคงให้เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ถ่วงเวลาพวกเราเอาไว้ แล้วส่งคนไปชิงทับทิมของแท้มาจากดร.ฟอร์ดแน่ๆ” เทอดบอกอย่างมั่นใจ
“อย่างงี้คุณเดี่ยว คุณดอนก็งานเข้าน่ะซิ” ยอดบอกอย่างเป็นห่วงเพื่อน
“ผมว่าเรารีบหาทางถอนตัวกันดีกว่าครับ” กริ่งแนะ
ชลดาพยักหน้า
“เห็นด้วยค่ะ”
ยูกิหันมองกริ่ง
“เห็นด้วยเช่นกัน”
“งั้นกระแต แยกไปเตรียมรถ ชลดา กับยูกิ คุ้มกันม่านฟ้าไปหากระแต ผม คุณเทอด คุณกริ่งจะยิงคุ้มกันให้” ยอดสั่งการ
ทุกคนเริ่มกระจายตัวแล้วค่อยๆ ยิงแล้วถอย ไปเรื่อยๆ
+ + + + + + + + + + + +
เทอด ยอด กริ่ง พากันถอยมาที่มุมหนึ่ง ขณะที่เสือสนธิ์ และพวกกำลังรุกคืบมา แล้วสักครู่ก็เงียบเสียงไป
ยอดสงสัย
“พวกมันหายไปไหน”
“รีบออกไปจากตรงนี้ดีกว่า” กริ่งแนะ
“งั้นผมไปก่อน”
เทอดรีบปลีกตัวไปมุมหนึ่ง แต่แล้วจู่ๆเจ้าพ่ออินทร์ ก็โผล่มาด้านหลังเอาปืนจ่อเทอดไว้
“หยุด”
ทันใดนั้น กริ่งโผล่มาเอาปืนจ่อหลังเจ้าพ่ออินทร์ไว้เช่นกัน
“ทิ้งปืนดีกว่าครับ”
เสือสนธิ์โผล่มาหลังกริ่ง เอาปืนจ่อกริ่งไว้
“ใครกันแน่ต้องทิ้งปืน”
ยอดออกมาจากอีกมุมเอาปืนจ่อเสือสนธิ์อีกที
“พวกคุณต้องทิ้งปืน ไม่ใช่พวกเรา”
ลูกน้องของเจ้าพ่ออินทร์ ปรากฏตัวจากมุมต่างๆ ล้อมทุกคนเอาไว้ เจ้าพ่ออินยิ้มหยัน
“ใครกันแน่ คิดดูซะใหม่”
“พวกคุณกำลังถูกหลอกใช้นะครับ เจ้าพ่ออินทร์” เทอดบอก
“ไม่...ดร.วิทยาเป็นคนดี พวกแกต่างหากที่ทรยศชาติ” เจ้าพ่ออินทร์เถียง
“ดร.วิทยาไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด คุณกำลังเข้าข้างคนผิด” กริ่งพยายามอธิบาย
“ใช่ครับ...เจ้าพ่ออินทร์ กับเสือสนธิ์เคยร่วมงานกับพวกเรา อย่างน้อยก็น่าจะรู้ว่าพวกเราไม่เคยคิดทรยศชาติ” ยอดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เสือสนธิ์ไม่เชื่อ
“ระวังจะโดนหลอก อย่าไปฟังมัน จัดการมันเลย”
“ทิ้งปืนซะ ยังไงพวกเราก็ล้อมไว้หมดแล้ว” เจ้าพ่ออินทร์สั่งเสียงเข้ม
เทอดมองเจ้าพ่ออินทร์
“คุณต่างหากที่ต้องทิ้งปืน แล้วกลับตัวซะ ยังไงคุณก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้เด็ดขาด”
ลูกน้องของเจ้าพ่ออินทร์ เดินเข้ามาเล็งปืนที่ เทอด ยอด กริ่ง
“ยิงเลย” เสือสนธิ์สั่ง
ทันทีที่กระสุนปืนลั่น เทอดก็หายตัว ยอดพลิกตัวหายเข้าไปในกำแพง กริ่งวิ่งจู๊ดหายไปทุกคนงง มองหา ได้ยินเสียงเทอด ดังออกมา
“เราไม่อยากทำอันตรายพวกคุณ ลองคิดดูให้ดีนะครับเสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์”
เสือสนธิ์ ยิงเปรี๊ยงไปตามทิศทางของเสียง แล้วจากนั้นคนอื่น ๆ ก็พากันยิงไปในอากาศที่ว่างเปล่า แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักครู่ ยอดก็โผล่ออกมาจากผนังแล้วเตะปืนลูกน้องคนหนึ่งซึ่งอยู่แถวนั้นหล่นไป กริ่งวิ่งจู๊ดเข้ามาแล้วชนลูกน้องหลายคนเซถลา เทอดปรากฏตัวแล้วกระชากปืนเสือสนธิ์หล่นไป แล้วก็หายตัว พวกลูกน้องพากันหวาดผวา เจ้าพ่ออินทร์เห็นท่าไม่ดีรีบบอกเสือสนธิ์
“ถอยก่อยดีกว่าครับ ยังไงเราก็สู้ไม่ได้แน่”
เสือสนธิ์หันไปตะโกนสั่งลูกน้อง
“พวกเราถอย”
เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์และลูกน้องพากันถอยไป
+ + + + + + + + + + +
ขณะที่ม่านฟ้า ชลดา ยูกิพากันหนี ราฮีมโผล่ออกมาใช้ปืนจ่อหลังชลดาไว้ นาตาชาเดินเข้ามาหาม่านฟ้า
“หยุดนะ”
“แก...นังจิ้งจอเจ้าเล่ห์ แกเอาทับทิมสยามปลอมมาหลอกฉัน” ม่านฟ้าต่อว่า
นาตาชายิ้มหยัน
“เธอมันก็นังอสรพิษดีๆนี่เอง ส่งทับทิมสยามสีแดงมาให้ฉัน”
“อยากได้ก็เอาไป”
ม่านฟ้าหยิบทับทิมสยามสีแดง ออกมาจากย่ามแล้วปาใส่หน้า จากนั้นก็เตะปืนนาตาชากระเด็นไป ชลดาพลิกตัวล็อกมือของราฮีมแล้วกัดอย่างแรง ขณะที่ยูกิคาราเต้ ฟันฉับลงไปที่ข้อมือราฮีม ทำให้ราฮีมปล่อยปืนหลุด ม่านฟ้า ต่อสู้กับนาตาชา และ ชลดา ยูกิ สู้กับราฮีม
ม่านฟ้าเสียทีถูกนาตาชาเตะเซ ล้มลงไป นาตาชาหันไปคว้าปืนที่หล่นพื้นขึ้นมา ปรี่เข้าไปหาม่านฟ้าหมายจะยิง บัวชุมโผล่มาที่มุมหนึ่งแล้วชักมีดออกมาปาไปที่นาตาชา
“ตายซะเถอะนังแหม่ม”
นาตาชาหันไปเห็น จึงเบี่ยงตัวหลบ ทำให้เสียจังหวะในการยิง กระสุนปืนลั่นเปรี้ยง ม่านฟ้าพลิกตัวหลบทำให้กระสุนปืนเฉี่ยวไปที่หัวไหล่ เลือดไหลออกมา นาตาชาหันมาหาม่านฟ้า จะยิงอีกครั้ง แต่แล้วเคนก็โผล่ออกเตะปืนกระเด็นไป แล้วนาตาชาก็หันไปสู้กับเคนแทน บัวชุมรีบเข้าไปฉุดม่านฟ้าให้ลุกขึ้น
“คุณหนูหนีเร็ว”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงคนอื่น ห่วงตัวเอง เสี่ยงอันตรายแบบนี้ บัวชุมไม่ยอมเร็วค่ะ บัวชุมจะดูแลคุณหนูเอง”
บัวชุมรีบฉุดม่านฟ้าหนีไป ปล่อยคนอื่นๆ สู้กันต่อ
บัวชุม พยุงม่านฟ้า หนีลัดเลาะไปตามทาง แต่เลือดม่านฟ้าไหลมากทำให้เริ่มหมดแรง
“พี่บัวชุม ฉันเดินไม่ไหว”
“อดทนหน่อยค่ะ อีกนิดเดียว”
“พี่บัวชุม ฉัน...”
ม่านฟ้าค่อยๆ ทรุดตัวลง บัวชุมจึงพยุงให้หลบนั่งพัก บัวชุมฉีกผ้ามาห้ามเลือดให้
“แผลนิดเดียว เข้มแข็งนะคะ”
“จ๊ะพี่”
“งั้นคุณหนูรออยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพี่บัวชุมมา”
“จะไปไหน”
“พี่บัวชุมจะไปเอารถมารับ รอตรงนี้นะคะ”
บัวชุมรีบวิ่งออกไป ม่านฟ้า นั่งรออยู่
+ + + + + + + + + + +
เคนต่อสู้กับนาตาชา ยูกิ ชลดา ต่อสู้กับราฮีม นาตาชาเตะเคนเซไปหา ราฮีมจึงเล่นงานเคนแทน ยูกิกับชลดา หันมาทางนาตาชา แล้วเปิดศึกกันต่อ แต่ยูกิพลาด ถูกนาตาชาล็อกตัวไว้ได้
“หยุดนะ”
นาตาชาล็อกยูกิไว้ ขณะที่ราฮีม อาศัยจังหวะคว้าปืนขึ้นมา แล้วคว้าตัวยูกิมาล็อกไว้แทน แล้วเอาปืนจ่อไปที่ยูกิ
“อย่าเข้ามา” นาตาชาขู่
ชลดา และเคนชะงักเกรงยูกิได้รับอันตราย ราฮีมค่อยๆ พายูกิ ถอยไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางหนี นาตาชาถอยตาม พลางคุมเชิงไว้ ยูกิอาศัยจังหวะที่ราฮีมมัวแต่ระวังหลัง เธอใช้ศอกกระทุ้งราฮีมแล้วรีบหมุนตัวหนีไป ราฮีมหันไปยิงแต่ไม่ถูก ชลดาและเคนพากันโดดหลบทางปืน ที่ราฮีมกำลังยิงกราดมา
“หนีเร็วครับคุณนาตาชา”
ราฮีม และนาตาชารีบหนีไป ยูกิ เคนและชลดา ตามไม่ได้เนื่องจากราฮีมระดมยิงสกัดเอาไว้ จนกระทั่งหนีรอดไปได้ เคนพยายามจะวิ่งตามแต่ชลดา ยั้งไว้
“ไม่ต้องตามคุณเคน ไปช่วยคนอื่นๆ ดีกว่า”
“ทางนี้ค่ะ...ตามมา”
ยูกินำทางทุกคนไปอีกทาง ทางด้านกระแตกำลังขับรถเข้ามา บัวชุมวิ่งเข้ามาโบกไว้
“จอดด้วย”
กระแตจอดรถ
“ม่านฟ้าล่ะ”
“ถูกยิงค่ะ บัวชุมพาไปหลบที่ตรงโน้น”
“เดี๋ยวฉันไปช่วย”
กระแตลงจากรถแล้วตามบัวชุมไป
+ + + + + + + + + +
เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ และลูกน้องกำลังหนีมา แต่แล้วเสือสนธิ์หันไปเห็นม่านฟ้า ซึ่งหลบมุมอยู่ จึงสะกิดเจ้าพ่ออินทร์
“ดูนั่นซิ”
“ม่านฟ้า”
“สงสัยคงโดนยิงมา ดูซิ เลือดไหล”
เจ้าพ่ออินทร์หันไปสั่งลูกน้อง
“พวกเอ็งไปเอาตัวมา”
ลูกน้อง พากันย่องเข้าไป ม่านฟ้าพยายามต่อสู้ แต่ที่สุดก็โดนจับตัวได้
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
ลูกน้องคนหนึ่ง ขับรถของเจ้าพ่ออินทร์ แล่นมาจอดรอ เจ้าพ่ออินทร์รีบสั่ง
“รถมาแล้ว รีบพาขึ้นรถเร็ว”
ม่านฟ้าดิ้นรน
“ปล่อย...ปล่อยฉัน”
ม่านฟ้าถูกจับตัวขึ้นรถไป บัวชุมและกระแตพากันวิ่งเข้ามา
“คุณหนู...เอาคุณหนูของฉันมาๆ”
กระแตชักปืนพยายามยิงให้รถหยุด แต่ช้าไปแล้วรถแล่นออกไป บัวชุมร้องไห้โฮ พยายามวิ่งตาม
“คุณหนู ๆ ๆ อย่าเอาคุณหนูของฉันไป โฮๆ”
บัวชุมทรุดตัวลงร้องไห้โฮ กระแตเข้ามาปลอบ ขณะที่คนอื่นๆมาสมทบ
+ + + + + + + + + + + +
รถปฏิบัติการ กำลังแล่นอยู่กลางถนน ห่างออกไป รถของดร.วิทยา กำลังแล่นตามมา...เดี่ยววิทยุติดต่อกับบุษกร
“บุษกร”
“คะ...คุณเดี่ยว”
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“กำลังจะเลี้ยวเข้าถนนหลักค่ะ”
“รอรับแผนที่นะ ผมจะส่งไปให้”
เดี่ยวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งแผนที่ทางเอ็สเอ็มเอ็ส
ทางด้าน ดร.วิทยา เห็นสัญญาณรับคลื่นโทรศัพท์ปรากฏ ดร.วิทยารีบเปิดเครื่องเช็คสัญญาณ ปรากฏเป็นภาพเอส เอ็ม เอสแผนที่รีสอร์ท
“มีอะไรครับ ด็อกเตอร์” ฮวงถามอย่างแปลกใจ
“มีใครบางคน กำลังส่งเอ็สเอ็มเอ็ส เป็นภาพแผนที่รีสอร์ทที่เรากำลังจะไป”
“เครื่องมือของเรารับได้ด้วยเหรอครับ”
“ได้ซิ...ฉันประดิษฐ์ไอ้เครื่องนี้มาก็เพื่อสะกดรอยจากคลื่นสัญญาณทุกชนิด”
“แล้วรู้มั๊ยครับว่า แผนที่ถูกส่งมาจากแถวไหน”
ดร.วิทยาชี้ไปที่รถปฏิบัติการณ์ซึ่งกำลังแล่นอยู่ห่างออกไป
“คันนั้น”
“ถ้างั้นผมจะให้ไอ้อ้วน กับลูกน้องของมันช่วยกันสกัดรถคันนั้นนะครับ”
“ระวังตัวให้ดี ฉันว่ารถคันนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน”
ฮวงหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูด
“นั้ม...สกัดรถคันหน้าให้ที”
“ได้...ไม่มีปัญหา”
ฮวงเหยีบคันเร่งแล้วแซงรถตู้ปฏิบัติการไป ขณะที่รถของนั้มและรถลูกน้องพากันขับเร่งขึ้นมาตามหลังรถปฏิบัติการ
+ + + + + + + + + + +
ดอน และเดี่ยว อยู่ในรถปฏิบัติการณ์ กำลังเตรียมปืนและบรรจุกระสุนตามกระเป๋าติดตัว
“งานนี้ผมว่าคงต้องชุดใหญ่”
“จัดให้คุณดอน”
รถของนั้มขับขึ้นมาตีคู่ แล้ว ลูกน้องก็โยนตะปูเรือใบเข้าใส่แล้วขับแซงขึ้นไป รถปฏิบิตการยางแตก คนขับรีบเบรคแล้วเข้าจอดข้างทาง ดอนและเดี่ยว หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น
“มันมาเร็วกว่าที่คิด” ดอนพึมพำ
รถของนั้มขับหนีไป ขณะที่รถลูกน้องอีกคันซึ่งตามหลังรถปฏิบัติงาน สาดกระสุนใส่คนขับซึ่งกำลังลงจากรถมา ดอน และเดี่ยวเปิดประตูออกจากรถแล้วยิงใส่รถลูกน้องนั้ม คนขับตายคาที่ รถหมุนคว้างแล้วระเบิดตูม ลูกน้องนั้มตายเรียบ ดอน และเดี่ยว เดินสำรวจความเสียหายของรถ
“รถบุษกรใกล้มาถึงหรือยัง” ดอนถาม
“เดี๋ยวผมเช็คให้”
เดี่ยวยกนาฬิกาวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดติดต่อกับบุษกรทันที
อ่านต่อหน้า 3
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 15 (ต่อ)
รถของดร.วิทยา รถของนั้มและลูกน้องคนอื่นๆ พากันแล่นเข้ามาจอดที่รีสอร์ท ทุกคนพากันลงจากรถ
“กระจายกำลังล้อมที่นี่เอาไว้ อย่าให้ใครเข้าออก ไอ้ดร.ฟอร์ดมันต้องอยู่ที่นี่แน่นอน” ดร.วิทยาสั่งการ
ลูกน้องคนอื่นๆ พากันกระจายกันออกไป ดร.วิทยา ฮวง นั้มและลูกน้องสองคน พากันเดินไปยังเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รีสอร์ทคนหนึ่งกำลังตื่นตระหนกที่จู่ๆ ก็มีคนถือปืนเข้ามาบุก เธอจึงรีบหมุนโทรศัพท์เพื่อแจ้งตำรวจ แต่ฮวงเข้ามากดสายทิ้ง
“ห้ามโทร”
“ดร.ฟอร์ดอยู่ห้องไหน”
“ไม่มีค่ะ...ไม่มี”
ฮวงตบเจ้าหน้าที่เซถลาไป
“บอกมา...อย่าเรื่องมาก”
“แต่...ไม่มีคนชื่อดร.ฟอร์ดจริงๆค่ะ”
ดร.วิทยาเดินเข้ามาถาม
“ฝรั่งน่ะ...พวกฝรั่งพักห้องไหน”
“ค่ะ ๆ พวกฝรั่งอยู่ห้อง...” เจ้าหน้าที่บอกหมายเลขห้อง
“พาไปเร็ว” ฮวงตวาด
เจ้าหน้าที่รีบเดินนำทุกคนออกไป สตีเฟ่นแอบมองเหตุการณ์อยู่มุมหนึ่งชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม
+ + + + + + + + + + + +
ดร.ฟอร์ดกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“รอเดี๋ยว”
ดร.ฟอร์ด เดินไปเปิด ดร.วิทยา ฮวง นั้มและลูกน้องพากันกรูเข้ามา เจ้าหน้าที่รีสอร์ทถูกล็อกไว้ นั้มเข้ามาจับดร.ฟอร์ดล็อคไว้ ฮวงรีบเข้าไปค้นตามมุมต่างๆ เพื่อหาทับทิมสยามแต่ไม่เจอ
“ไอ้วิทยา...ไอ้หมาบ้า” ดร.ฟอร์ดด่า
“ปากดีนัก” ดร.วิทยาตบ ดร.ฟอร์ดหน้าหัน “สิ่งที่แกทำกับฉัน ฉันจำไว้เสมอ ไอ้ดร.ฟอร์ด”
ดร.วิทยาเข้าไปต่อย ถีบ ดร.ฟอร์ด อย่างแค้นจัด
“โอ๊ย...อย่า...” ดร.ฟอร์ดร้องอย่างเจ็บปวด
ดร.วิทยาแสยะยิ้ม
“ร้องเข้าไปๆ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ”
ดร.ฟอร์ดล้มพับไปกับพื้น แต่ดร.วิทยาไม่ยั้ง เข้าไปกระทืบซ้ำ...ฮวงหาทับทิมสยาม ไม่เจอรีบเข้ามารายงาน
“หาไม่เจอครับ”
ดร.วิทยาหันไปจ้องหน้า ดร.ฟอร์ด
“บอกมาว่าทับทิมสยามอยู่ที่ไหน”
“ไม่...ฉันไม่บอก”
“อยากตายใช่มั๊ย”
นั้มพาเจ้าหน้าที่รีสอร์ทเข้ามา แล้วผลักให้ล้มลงข้างๆ ดร.ฟอร์ด วิทยาชักปืนออกมาแล้วยิงเปรี้ยง เจ้าหน้าที่รีสอร์ทฟุบลงตายบนร่างดร.ฟอร์ดที่หน้าซีดตัวสั่นหวาดผวา
“ทับทิมสยามอยู่ที่ไหน”
ดร.ฟอร์ด เหลือบมองไปที่ฝ้าเพดาน แล้วรีบก้มหน้า
“ไม่...ฉันไม่มีวันบอกแกเด็ดขาด”
ดร.วิทยามองไปที่ฝ้าเพดาน แล้วหันไปสั่งฮวง
“ฮวง...ลองดูที่นั้น”
ดร.ฟอร์ดหน้าซีดที่วิทยารู้ที่ซ่อน ฮวงปีนไปเปิดฝ้าดาลแล้วหยิบกระเป๋าใส่ทับทิมสยามลงมา ดร.ฟอร์ด กระเสือกกระสนจะเข้าแย่ง
“ไม่...อย่า...อย่าเอาของฉันไป...อย่า”
ดร.วิทยากระทืบแล้วเตะ ดร.ฟอร์ดหงายท้องไป ฮวงเปิดกระเป๋าทับทิมสยามออกมาเห็นทับทิมสยามสีชมพู และสีม่วง วางอยู่บนแท่นเรเดี่ยม ดร.วิทยายิ้มพึงใจ
“ทับทิมสยามวางไว้บนแท่นเรเดี่ยม ใช่...แกยังฉลาดเหมือนเดิม ดร.ฟอร์ด เรเดี่ยมคือสิ่งที่จะควบคุมปรากฏการณ์ภาพลวงตาได้”
“เอาของฉันมา”
ดร.ฟอร์ด โถมร่างเข้าไปแย่งทับทิมสยาม แต่โดนดร.วิทยาผลักออกไป ฮวงรีบปิดกระเป๋าเตรียมออกไป ดร.วิทยาหันไปสั่งนั้มเสียงเหี้ยม
“นั้ม...แกจัดการมันให้ตายสงบๆ หน่อย แล้วรีบตามไปที่รถ”
ดร.วิทยา และฮวง พากันเดินออกจากห้องไป นั้มและลูกน้องเดินเข้ามาหาดร.ฟอร์ด
+ + + + + + + + + + +
ฮวงและดร.วิทยาพากันเดินมา แล้วสักครู่ก็ได้ยินเสียงปืนจากห้องดร.ฟอร์ดดังขึ้น ดร.วิทยายิ้มสะใจ
“ขอให้เอ็งจงตกนรกหมกไหม้ ไอ้ดร.ฟอร์ด”
แต่แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นติดต่อกันอีกหลายครั้ง ดร.วิทยาและฮวงหันไปมอง เห็นนั้มกำลังต่อสู้กับสตีเฟ่น ลูกน้องที่เฝ้าอยู่มุมหนึ่งรีบวิ่งไปช่วยนั้ม ฮวงชักปืนจะไปช่วยนั้มแต่ ดร.วิทยาห้ามไว้
“ไม่ต้องฮวง...แกรีบขับรถพาฉันกลับหมู่บ้านเสือหมอบ”
“ครับนาย”
ฮวงและดร.วิทยาพากันขึ้นรถ
ทางด้านบุษกร ขับรถมาจอดหน้ารีสอร์ท ดอน เดี่ยว เจนนี่ และบุษกรลงจากรถ ลูกน้องนั้มที่อยู่หน้ารีสอร์ท ยิงสกัดทันที ฮวงรีบขับรถพาดร.วิทยาออกจากรีสอร์ท แต่ออกไปไม่ได้ ฮวงรีบกลับรถเพื่อออกทางด้านหลัง
สตีเฟ่นที่สู้กับนั้ม และลูกน้อง นั้มเห็นท่าจะสู้ไม่ได้ จึงรีบถอย สตีเฟ่น ยิงลูกน้องนั้มตายแล้วยิงนั้มที่กำลังหนี นั้มยิงตอบ แต่ก็ยิงพลางถอยพลางแล้วรีบวิ่งหนีไปที่รถขับหนีไปทางประตูรีสอร์ทด้านหลัง
ขณะเดียวกัน ดอน ใช้ตาทิพย์มองเข้าไปในรถ เห็นดร.วิทยากอดกระเป๋าใส่ทับทิมสยามไว้แน่น ขณะรถวิ่งออกไปทางประตูหลังรีสอร์ท
“ดร.วิทยา ได้ทับทิมสยามไปแล้ว”
เดี่ยวมองเห็นรถคันหนึ่ง ของพวกลูกน้องเจ้าพ่ออินทร์ ซึ่งจอดไว้จึงหันไปบอกบุษกร
“คุณยิงคุ้มกันให้ผมทีนะ ผมจะไปที่รถคันนั้น”
“ได้ค่ะ”
เดี่ยวและดอนพากันวิ่งไปที่รถ ขณะที่บุษกร และเจนนี่ยิงสกัดให้ เดี่ยวและดอน ขึ้นรถแล้วขับออกไป
บุษกร ยกนาฬิกาวิทยุสื่อสารขอกำลังเสริม
“หน่วยเหนือๆ ทราบแล้วเปลี่ยน ขอกำลังเสริมด่วน”
เจนนียิงปะทะ กับลูกน้องของเจ้าพ่ออินทร์ไม่ถอย
+ + + + + + + + +
สตีเฟ่นเดินเข้าไปหาดร.ฟอร์ดซึ่งนอนสลบอยู่
“พ่อ ๆ”
ดร.ฟอร์ดฟื้นขึ้นมา รู้สึกหวาดผวา
“อย่า...อย่าทำอะไรฉัน”
“ผมสตีเฟ่น...ไม่ต้องกลัวครับ”
“สตีเฟ่น...มันเอาทับทิมสยามไปแล้ว มันเอาไปแล้ว”
“รีบหนีเถอะครับพ่อ...เดี๋ยวตำรวจมา”
“แกต้องไปเอาทับทิมสยามคืนมาให้พ่อนะ สตีเฟ่น เอาทับทิมสยามคืนมา”
“รีบไปเถอะครับ”
ดร.ฟอร์ด ยังตกอยู่ในอาการหวาดผวา สติไม่ค่อยเต็มร้อย สตีเฟ่นรีบพยุงออกจากห้องไป
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น รถของดร.วิทยา กำลังวิ่งอยู่กลางถนน ขณะที่รถเดี่ยว และดอนวิ่งใกล้เข้ามา ฮวงมองเห็นจากกระจกหลัง
“ด็อกเตอร์ครับ พวกมันตามมา”
“เหยียบให้มิด อย่าให้มันตามมาได้”
“ครับ”
ดร.วิทยาวางกระเป๋าแล้วหันไปคว้าระเบิดมือ จากนั้นก็เปิดกระจกโยนระเบิดไปยังรถของเดี่ยวและดอน ระเบิดตูมเดี่ยวหักรถหลบได้ทัน
รถไฟขบวนหนึ่ง แล่นมาตามรางซึ่งตัดผ่านถนน ดอน ชักปืนออกมาแล้วโผล่ออกไปยิงใส่ยาง รถของดร.วิทยายางระเบิดรถปัดไปมา แล้วจอดนิ่ง ดร.วิทยาลงจากรถ แล้วขว้างระเบิดมือ ใส่รถเดี่ยวและดอนที่วิ่งตามมา เดี่ยวรีบหักรถหลบลงข้างทาง ฮวงคว้าปืนออกมากราดยิง จนเดี่ยวและดอน ต้องหมอบหลบ เสียงหวูดรถไฟดังขณะกำลังจะแล่นผ่านถนน
“เร็วครับด็อกเตอร์”
“ไปไหน”
“รถไฟ”
ฮวงรีบพาดร.วิทยา วิ่งไปที่รถไฟซึ่งกำลังแล่นผ่านถนน ดร.วิทยาหันไปขว้างระเบิดมือ เพื่อสกัดไม่ให้ดอนและเดี่ยวตามทัน ฮวงวิ่งนำดร.วิทยามาตามรางรถไฟ เมื่อรถไฟแล่นมาถึง ฮวงรีบกระโดดขึ้นไป ขณะที่ดร.วิทยา วิ่งตาม
“ส่งกระเป๋ามาครับ...ส่งมา”
ดร.วิทยา ส่งกระเป๋าให้ ฮวงรับแล้วยื่นมืออีกข้างมาฉุด ดร.วิทยาขึ้นรถไฟได้สำเร็จในที่สุด เดี่ยวและดอน วิ่งตามมาแต่ไม่ทัน
“เสียดายที่คุณกริ่งไม่ได้มากับเรา” ดอนบ่น
“มันคงลอยนวลไปไม่นานแน่”
ดอน และเดี่ยวมองตามรถไฟที่กำลังแล่นออกไปลับตา
+ + + + + + + + + + + +
รถของเจ้าพ่ออินทร์แล่นมาจอดหน้าบ้าน เสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์ พาม่านฟ้าลงมาจากรถ
ม่านฟ้าดิ้นรนไม่ยอมง่ายๆ แม้ว่าเธอจะบาดเจ็บ
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
“อย่าดิ้นไปเลย...เดี๋ยวเลือดที่แผลเธอจะออกมากกว่านี้” เสือสนธิ์ปราม
ชาวบ้านที่ผ่านไปมา หยุดมอง อยากรู้อยากเห็น ม่านฟ้าหันไปเห็นจึงตะโกนเสียงดัง
“ช่วยด้วย ๆ พวกเค้าจับตัวฉันมา ช่วยแจ้งตำรวจที”
เจ้าพ่ออินทร์จ้องหน้ายิ้มหยัน
“ร้องไปก็ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน่า หยุดร้องเถอะ”
ม่านฟ้าสะบัดหลุด แล้วจะวิ่งออกไปแต่ลูกน้องเสือสนธิ์ขวางไว้ เธอจึงพยายามร้องให้ชาวบ้านที่ยืนมองช่วย
“ลุงจ๋า ช่วยด้วย ฉันถูกจับตัวมา บอกตำรวจมาช่วยฉันที”
เจ้าพ่ออินทร์เดินมาหา
“เหนื่อยเปล่าน่ะ หมู่บ้านนี้คนของเสือสนธิ์ทั้งนั้น ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก”
เจ้าพ่ออินทร์ฉุดร่างของม่านฟ้าให้ตามเข้าไปข้างใน ทุกคนพากันเดินเข้าไป สัปเหร่อแต้มกับ ต่ำแอบมองอยู่มุมหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนั้นใครกัน”
“เดี๋ยวข้าจะสืบให้ รีบกลับบ้านเหอะไอ้ต่ำ”
“สวยนะ...ลุงว่ามะ”
สัปเหร่อแต้มหันไปส่งเสียงดุ
“ไอ้ต่ำ”
“จ๋า”
“กลับบ้าน”
“ไม่อ้ะ...อยากอยู่แถวนี้”
“ยังไม่เป็นหนุ่มเลย ริเจ้าชู้นะเอ็ง”
“ต่ำเป็นหนุ่มแว้ว...ต่ำจะอยู่ที่นี่”
สัปเหร่อแต้มระอา ตรงเข้าอุ้มต่ำ แล้วพากลับบ้าน ต่ำดิ้นกระแด่วๆ ๆ
“ลุงแต้มใจร้าย ปล่อยนะ...ปล่อย นี่เป็นรักแรกพบของต่ำนะ...ปล่อย”
ต่ำดิ้นๆ ร้องโวยวายไปตลอดทาง
+ + + + + + + + + +
เจ้าพ่ออินทร์ พาม่านฟ้าไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก โดยมีลูกน้องติดตามเฝ้าอยู่ด้านนอก
“เธอพักที่บ้านหลังนี้ ประเดี๋ยวจะให้คนมาทำแผลให้”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน...ฉันทำแผลเองได้”
“ถ้างั้นก็จะให้คนเอายามาให้ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกเด็กที่เฝ้าหน้าบ้าน”
“พวกแกต้องการอะไร”
เจ้าพ่ออินทร์ไม่ตอบ เดินออกไป แล้วปิดประตูขังม่านฟ้าไว้ ม่านฟ้ารีบไปที่ประตูพยายามกระชากเปิดแต่ไม่สำเร็จ
“ปล่อยฉัน...ปล่อยนะ”
เจ้าพ่ออินทร์หันไปสั่งลูกน้องที่เฝ้าบ้าน
“จับตาดูให้ดี อย่าให้มันหนีรอดไปได้”
“ครับนาย”
เจ้าพ่ออินทร์เดินกลับไป
+ + + + + + + + + + + +
ฮวง และดร.วิทยากำลังเดินเข้ามา แล้วพบกับเจ้าพ่ออินทร์ที่เพิ่งกลับมาจากบ้านที่ขังม่านฟ้า
“เป็นยังไงบ้างครับด็อกเตอร์”
“ฉันสบายดี ไม่ต้องห่วง”
เจ้าพ่ออินทร์แปลกใจที่เห็นทั้งสองเดินมา
“แล้วนี่รถไปไหนครับ”
“โดนพวกเสาร์ห้ามันยิงยางแตก ผมกับด็อกเตอร์เลยต้องขึ้นรถไฟหนี” ฮวงบอก
ดร.วิทยาชูกระเป๋า
“แต่ไม่ต้องห่วง ฉันได้ทับทิมสยามมาแล้ว”
เจ้าพ่ออินทร์ดีใจ
“งั้นก็ดีซิครับ...ผมอยากเห็นเหลือเกิน”
“ตามฉันมา”
ดร.วิทยาเดินนำทุกคนเข้าบ้านไป ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในห้องรับแขก ดร.วิทยา เปิดกระเป๋าออก เผยให้เห็นทับทิมสยามสีชมพู และทับทิมสยามสีม่วง วางอยู่บนแท่นเรเดี่ยม
เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ ฮวง ต่างพากันจ้องมองตาไม่กระพริบกับความสวยงาม
“ทับทิมน้ำงาม ใสบริสุทธิ์เหลือเกินด็อกเตอร์” เสือสนธิ์ชื่นชม
เจ้าพ่ออินทร์มองอย่างตื่นตาตื่นใจ
“เกิดมาผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
“นี่แหละคือสิ่งที่คนทั้งโลกใฝ่หานับพันปี และในที่สุดมันก็ตกมาเป็นของฉัน”
“แต่น่าเสียดายนะครับที่เรายังหาทับทิมสยามสีแดงไม่เจอ” ฮวงบอก
เสือสนธิ์ยิ้ม
“ใครว่าละครับ...ผมจับตัวม่านฟ้าได้ ตอนนี้ขังไว้ที่บ้านหลังเล็กหลังบ้านครับด็อกเตอร์”
ดร.วิทยาแปลกใจ
“ม่านฟ้า...ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของทับทิมสยามสีแดงน่ะเหรอ”
เจ้าพ่ออินทร์พยักหน้า
“ใช่ครับ...ผมเชื่อว่าอีกไม่นานม่านฟ้าก็คงต้องสารภาพแน่ๆว่าซ่อนทับทิมสยามสีแดงเอาไว้ที่ไหน”
ดร.วิทยาดีใจ
“งั้นพาฉันไปหาม่านฟ้าที ฉันจะทำให้มันสารภาพให้ได้”
“เอาไว้พรุ่งนี้เถอะครับ ตอนนี้ม่านฟ้าบาดเจ็บเพราะถูกยิง คงยังไม่พูดอะไรแน่ๆ” เสือสนธิ์แย้ง
ดร.วิทยาไม่ค่อยพอใจนัก
“แล้วไม่กลัวมันหนีหรือไง”
“ผมจัดเด็กเป็นเวรยามเฝ้าไว้ตลอดเวลา ด็อกเตอร์อย่ากังวลเลยครับ”
ฮวงยิ้มพึงพอใจ
“จู่ๆ ทับทิมสยามทั้งสามก้อน ก็มากองอยู่ข้างหน้าอย่างง่ายดาย แสดงว่าด็อกเตอร์ดวงดีจริงๆเลยนะครับ”
“ฉันทำเพื่อชาติบ้านเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงช่วยน่ะฮวง ฮ่ะๆ”
ดร.วิทยาและฮวงแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วหัวเราะชอบใจที่ช่วยกันหลอกเจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ได้
+ + + + + + + + + +
สัปเหร่อแต้มหมุนโทรศัพท์ติดต่อไปยังสำนักงานเสาร์ห้า ชลดาเป็นคนรับสาย
“สวัสดีค่ะน้าแต้ม”
“ที่บ้านเสือสนธิ์มีความเคลื่อนไหว ตอนนี้พวกมันจับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งมาขังไว้”
“หน้าตาสวยๆ แต่งตัวเหมือนคนเหนือใช่มั๊ยคะ”
“ใช่...ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
“ชื่อม่านฟ้าค่ะ ทางเสือสนธิ์คงจะจับเธอมาเพื่อสืบหาทับทิมสยามสีแดงน่ะค่ะ”
“ต้องการให้ช่วยสืบเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“น้าแต้มช่วยดูความเคลื่อนไหว แล้วคอยส่งข่าวด้วย ทางเรากำลังหาทางที่จะเข้าไปช่วยม่านฟ้าอยู่”
“โอเค”
สัปเหร่อแต้มวางโทรศัพท์แล้วหันมาทางต่ำซึ่งนั่งเหม่อมองท้องฟ้า ตาเยิ้ม
“ข้ารู้แล้วว่ารักแรกพบของเอ็งชื่ออะไร”
“ชื่ออะไรเหรอ” ต่ำถามอย่างสนใจ
“ชื่อม่านฟ้า...ทางหน่วยเหนือสั่งให้สืบความเคลื่อนไหว แล้วมารายงานทุกวัน เข้าใจนะ”
“จ๊ะลุงแต้ม...” ต่ำเพ้อ “ม่านฟ้า...ชื่อเพราะจัง...ต่ำศักดิ์ ม่านฟ้า ฮิ ๆ ต่ำศักดิ์ ม่านฟ้า คล้องจองกันดีจัง”
“เป็นเอามากนะเอ็ง”
สัปเหร่อแต้มเดินส่ายหน้าออกไป
+ + + + + + + + + + + +
ที่สำนักงานของเสาร์ห้า...บัวชุมนั่งร้องไห้โฮไม่ยอมหยุด เธอรู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้ม่านฟ้าถูกจับตัวไป ยูกิ เข้ามาปลอบ
“อย่าร้องไห้ไปเลยพี่บัวชุม เงียบได้แล้ว”
“ถ้าบัวชุมไม่เข้าไปยุ่งกับแผนของพวกคุณ ป่านนี้ คุณหนูม่านฟ้าก็คงไม่โดนจับไปอย่างนี้แน่นอน”
“ไม่เอาน่า อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นซิ” ชลดาเข้ามาปลอบอีกคน
บัวชุมสะอื้น
“แต่บัวชุมเป็นห่วงคุณหนู คุณหนูต้องมาลำบากเพราะบัวชุม บัวชุมเป็นคนไม่ดี ฮื่อๆ”
“ใจเย็นนะ...ตอนนี้เรารู้แล้วว่าคุณหนูม่านฟ้าของบัวชุมอยู่ที่ไหน” ยูกิบอก
บัวชุมหยุดร้องไห้หันมาหายูกิ
“อยู่ไหนคะ”
“หมู่บ้านเสือหมอบ”
“บัวชุมจะไปที่นั่น ไปช่วยคุณหนูเอง”
บัวชุมร้อนใจจะไป ชดลารีบห้าม
“อย่าใจร้อนซิ ยังไงเราก็ต้องช่วยม่านฟ้าให้กลับมาหาบัวชุมแน่นอน แต่เราต้องรอบคอบนะ ไม่งั้นจะเสียแผน”
บัวชุมเริ่มใจเย็นลง
+ + + + + + + + + + + +
ทีมเสาร์ห้านั่งประชุมกันอยู่ในห้องประชุม...
“หรือว่าเราจะบุกไปที่หมู่บ้านเสือหมอบกันดี” เทอดเสนอ
“พวกเสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์ คงรอถล่มโดยไม่ฟังแม้แต่คำอธิบายแน่นอน” เดี่ยวออกความเห็น
ยอดถอนใจ
“น่าเสียดาย พวกเขาไม่น่าถูกหลอกใช้แบบนี้เลย”
“ถ้าเราเข้าไปไม่ได้ ก็น่าจะให้คนอื่นเข้าแทนซิ” กริ่งแนะ
ดอนเห็นด้วย
“นั่นซิ...ความคิดคุณกริ่งน่าสนใจ”
กริ่งเก็กทันที
“แหม...คุณดอนตาถึง”
“แล้วใครล่ะ ที่จะเข้าหมู่บ้านเสือหมอบได้โดยไม่ถูกสงสัย” ยอดถามอย่างสงสัย
ยูกิ และชลดาเดินเข้ามาได้ยินพอดี
“ขอโทษนะคะ เรื่องนี้พี่บัวชุมเหมาะสมที่สุดค่ะ” ยูกิเสนอ
เทอดเห็นด้วย
“จริงซิ...เสือสนธิ์กับเจ้าพ่ออินทร์ไม่รู้จักบัวชุม”
กริ่งส่งยิ้มชื่นชมให้ยูกิ
“แหม...ยูกิเก่งจริงๆเลยนะ”
เดี่ยวนิ่งเครียด
“แต่ลำพังบัวชุมคนเดียว ผมไม่วางใจ”
“งั้นก็น่าจะเป็นเคน” ชลดาเสนอแนะ
ดอนเห็นด้วย
“ผมเห็นด้วยครับ เคนมีฝีมือพอที่จะดูแลความปลอดภัยให้ม่านฟ้าและบัวชุมได้”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
+ + + + + + + + + + + +
บัวชุม ยูกิ ชลดา กำลังนั่งคุยกัน เคนนั่งฟังอยู่ห่างออกไป
“ไม่ค่ะ...บัวชุมไม่ยอม งานนี้บัวชุมทำคนเดียวได้ไม่ต้องมีคนชื่อเคนก็ได้”
“แต่พวกเราไม่วางใจนะ” ยูกิแย้ง
“บัวชุมดูแลตัวเองได้ค่ะ พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เคนเดินเข้ามา
“ม่านฟ้าก็ผู้หญิง พี่บัวชุมก็ผู้หญิง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีใครคุ้มกัน”
บัวชุมจ้องหน้าเคนอย่างไม่ชอบขี้หน้า
“ฉันไม่ต้องการคนคุ้มกันอย่างแก”
เคนเซ็งๆ
“ไม่เป็นไร...งั้นงานนี้ผมไปคนเดียว พี่บัวชุมไม่ต้องเข้าไป”
บัวชุม โวยวายใส่ทันที
“ฉันไม่ยอม...ยังไงฉันก็จะไป”
ชลดารีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม
“ใจเย็นนะคะพี่บัวชุม งานนี้ต้องอาศัยทั้งพี่บัวชุมและคุณเคน จะขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ไม่งั้นเราก็คงให้คนอื่นทำงานนี้แทน”
บัวชุมลังเล
“ก็ได้ค่ะ” บัวชุมหันไปจ้องเคน “แต่ถ้าแกมายุ่งกับคุณหนูของฉันอีก ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่”
บัวชุมมองเคนด้วยสายตาข่มขู่ ขณะที่เคนยิ้มน้อยๆ
อ่านต่อหน้า 4
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 15 (จบตอน)
บัวชุม เดินลัดเลาะมาหยุดที่หน้าบ้านสัปเหร่อแต้ม ชะเง้อมองหา แต่ไม่เห็นมีใครอยู่
“มีใครอยู่มั้ยจ๊ะ ฮู้...”
บัวชุมเดินเมียงมองไปมา แต่ไม่เห็นแม้เงาของคนอยู่อาศัย จึงโผล่หน้าเข้าไปมองในบ้าน
“ฮู้...มีใครอยู่มั๊ยจ๊ะ”
บัวชุมโผล่ไปมองอีกช่องหน้าต่างแล้วจู่ๆ ต่ำก็โผล่หน้าขึ้นมา บัวชุมสะดุ้งตกใจร้องกรี๊ด
“ผะ...ผี หลอก...กรี๊ดดดด”
บัวชุมเซถลาหกล้ม ต่ำเดินออกจากบ้านมาดู บัวชุมคิดว่าต่ำเป็นผี จึงพยายามหนีหัวซุกหัวซุนเอามือปิดหน้าปิดตา
“อย่า...อย่าทำลูกช้างเลย กลัวแล้วๆ”
ต่ำงง ไม่เข้าใจว่าบัวชุมกลัวอะไรจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วชะโงกหน้าเข้ามาดู บัวชุมเปิดตามาเจอหน้าต่ำที่ยื่นหน้าเข้ามามองใกล้ๆ ก็ตกใจแทบสิ้นสติ
“กรี๊ดดด...อย่าทำลูกเลย กลัวแล้วๆ”
สัปเหร่อแต้มเพิ่งกลับมาจากข้างนอก เห็นเหตุการณ์จึงเดินเข้ามา
“เฮ้ย...มีอะไรกันวะไอ้ต่ำ”
“ไม่รู้จ๊ะ เป็นอะไรก็ไม่รู้ ดูซิ ฉี่ราดเลย”
บัวชุมเริ่มสงสัย เงยหน้ามามองเมื่อเห็นสัปเหร่อแต้มเดินมาหาต่ำ ก็เริ่มรู้ว่าต่ำไม่ใช่ผี จึงก้มลงมองที่ผ้านุ่งของตัวเอง ซึ่งเปี๊ยกแฉะไปด้วยอารามตกใจ
“ว๊าย...”
“ใครวะ” สัปเหร่อแต้มถาม
บัวชุมอายๆ
“น้า...เป็นคนแน่นะ”
สัปเหร่อแต้มเซ็งๆ
“เออ”
บัวชุมชี้ต่ำ
“แล้วนี่ก็คน”
“เออซิวะ...เอ็งคิดว่ามันเป็นอะไร”
“ผีลูกกรอก”
ต่ำหน้าเหวอ ฉุนกึก
“อ้าว...เห็นฝาแฝดกับนิชคุณเป็นผีซะแล้ว สงสัยจะตาถั่ว”
สัปเหร่อแต้มมองบัวชุมอย่างสงสัย
“เธอเป็นใคร มาจากไหน”
“ฉันบัวชุมจ๊ะ มาหาสัปเหร่อแต้ม”
“ใครตาย”
บัวชุมงงๆ
“ใคร”
สัปเหร่อแต้มถอนใจ
“ก็ใครล่ะ...เอ็งมาหาสัปเหร่อไม่ใช่เรอะ”
บัวชุมยิ้ม
“จ๊ะ ฉันมาหาสัปเหร่อแต้ม”
“งั้นก็ตอบมาซิว่าใครตาย”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าใครตาย”
สัปเหร่อแต้มชักฉุน
“เอ๊ะ นังนี่ ถ้าจะบ้า” สัปแต้มหันไปสั่งต่ำ “ไอ้ต่ำ...ไล่ไปซะ”
“ได้เลย...มาหาว่าต่ำเป็นผีลูกกรอก เดี๋ยวจัดให้”
สัปเหร่อแต้มเดินเข้าบ้าน ต่ำหันไปคว้าไม้กวาดมาแล้วยื่นไม้กวาดแหย่ๆ บัวชุมแล้วคำรามขู่แบบหมาดุๆ กำลังจะกัดคน
“แฮ่...แฮ่...”
“ไอ้เด็กบ้า” บัวชุมด่าต่ำเสร็จแล้วรีบหันไปเรียก “น้าอย่าเพิ่งไป ฉันมาจากหน่วยเหนือ พวกเสาร์ห้าส่งฉันมาจ๊ะ”
สัปเหร่อแต้มชะงักหันมามองบัวชุม
“ที่แท้ก็เธอนี่เองมาๆ ตามมา”
สัปเหร่อแต้มเดินกลับมาแล้วพาบัวชุมออกจากบ้านไป ต่ำรีบเดินตาม
+ + + + + + + + + + + +
สัปเหร่อแต้มพาบัวชุม และต่ำมาที่หน้าบ้านเสือสนธิ์ นั้มขวางเอาไว้ไม่ยอมให้เข้า
“มาทำไม”
“ฉันจะมาหาเสือสนธิ์จ๊ะ”
“เสือสนธิ์ไม่ว่าง กลับไปๆ”
ต่ำมองเห็นเสือสนธิ์อยู่ในบ้านก็รีบบอก
“ก็นั่นไง เสือสนธิ์อยู่ในบ้านไง”
นั้มไม่พอใจ
“ข้าบอกว่าไม่ว่าง พวกเอ็งกลับไปได้แล้ว ไม่ต้องเข้ามา”
“ทำไมพวกฉันเข้าไปไม่ได้” สัปเหร่อแต้มถามอย่างสงสัย
“ข้าไม่ให้สัปเหร่อเข้าบ้าน มันซวย”
ต่ำโกรธ
“พูดงี้ก็สวยซิ”
นั้มมองหยัน
“เอ็งจะทำไมข้าไอ้ต่ำ”
“ไม่ทำไมหรอก แต่ถ้าตายเมื่อไหร่ ศพไม่สวยแน่” ต่ำพูดกวนๆ
นั้มชักฉุน
“เดี๋ยวเหอะมึง ปากดีนัก”
ขณะเดียวกันนั้นเสือสนธิ์เดินออกมาพอดี
“เฮ้ยมีอะไรกันวะ”
แต้มยิ้มแย้มให้เสือสนธิ์
“คือฉันมาขอพบเสือสนธิ์จ๊ะ พอดีจะเอาหลานมันมาสมัครงาน”
เสือสนธิ์มองพิจารณบัวชุมแล้วพยักหน้า
“งั้นก็เข้ามาข้างใน”
สัปเหร่อแต้มพาบัวชุมเข้าไปข้างใน ต่ำ ยักคิ้วเย้ยนั้ม
+ + + + + + + + + + + +
บัวชุม สัปเหร่อแต้ม และต่ำนั่งอยู่กับพื้นในห้องรับแขก เสือสนธิ์นั่งอยู่บนโซฟา
“เธอชื่ออะไร”
“ชื่อบัวจ๊ะ”
“เป็นอะไรกับไอ้แต้ม”
สัปเหร่อแต้มรีบตอบแทน
“เป็นหลานจ๊ะ บ้านมันอยู่หนองจิก ผัวมันตายไม่มีที่พึ่งก็เลยมาให้ฉันช่วยหางานให้”
“ทำอะไรเป็นบ้าง”
“ทำได้ทุกอย่างจ๊ะ จะให้ทำไร่ไถนา หรือทำงานบ้านฉันก็ถนัดจ๊ะ” บัวชุมบอกอย่างยิ้มแย้ม
เสือสนธิ์พยักหน้า
“ดีเหมือนกัน กำลังหาคนทำงานบ้านพอดี จะเอาเงินเดือนเท่าไหร่”
“เท่าไหร่ก็ได้จ๊ะ นังบัวมันขอแค่มีที่ให้ซุกหัวนอน มีข้าวให้มันกินก็พอ เรื่องเงินมันไม่เกี่ยง” สัปเหร่อแต้มตอบแทน
เสือสนธิ์ยิ้มพอใจ
“งั้นก็ดี เธอไปนอนบ้านเล็ก ข้างหลังละกัน”
“แต่บ้านตรงโน้นมีคนอยู่นี่จ๊ะเสือสนธิ์” ต่ำแย้ง
เสือสนธิ์มองต่ำไม่พอใจ
“ไอ้นี่มันสอดรู้สอดเห็นจริง ที่ข้าให้มันอยู่เรือนหลังเล็กก็จะให้มันคอยดูแลผู้หญิงที่ชื่อม่านฟ้า ตอนนี้มันไม่สบายอยู่ นังบัวจะได้ช่วยดูแลพยาบาลแทนพวกข้า”
“ได้จ๊ะ...ฉันทำได้จ๊ะ”
บัวชุมแอบยิ้มดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
+ + + + + + + + + + + +
บัวชุมเดินถืออาหารมากับลูกน้องเสือสนธิ์คนหนึ่ง แล้วไขกุญแจเปิดประตูบ้านหลังเล็ก บัวชุมเข้าไปในห้องเห็นม่านฟ้ากำลังนอนซม เป็นไข้จากอาการอักเสบ ของแผลที่ถูกยิง บัวชุมเดินเข้ามา ดู
“เอ็งปลุกนังนี่ลุกขึ้นมากินข้าว กินยา แล้วก็ทำความสะอาดบ้าน เสร็จแล้วให้มาบอกข้า ข้าจะรออยู่ข้างนอก” ลูกน้องสั่ง
“จ๊ะพี่”
ลูกน้องเดินออกไปแล้วปิดประตู บัวชุมรีบเข้าไปหาม่านฟ้าแล้วหาผ้ามาเช็ดตัวลดไข้ ม่านฟ้าลืมตาขึ้นมา
“พี่บัวชุม”
ม่านฟ้าผวาเข้ามากอดบัวชุม ทั้งคู่น้ำตาไหล
“คุณหนู...พี่บัวชุมมาช่วยแล้วนะคะ ไม่ต้องกลัว”
“พาฉันออกไปที ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่”
“ยังไปตอนนี้ไม่ได้นะคะ เอาไว้มีโอกาสเมื่อไหร่พี่บัวชุมจะบอก ตอนนี้คุณหนูทานข้าวทานยาก่อน จะได้แข็งแรง”
“จ๊ะพี่บัวชุม”
“แล้วต่อไป อย่าเรียกบัวชุมต่อหน้าคนอื่นนะคะ เรียกพี่บัวเฉยๆ แล้วคุณหนูต้องทำเป็นไม่รู้จักกับพี่บัวชุมด้วยนะคะ พวกมันจะได้ไม่สงสัย”
“จ๊ะพี่บัว...”
“มาค่ะ...ทานข้าวก่อน พี่บัวชุม...เอ้อ...พี่บัว เตรียมของอร่อยมาให้ค่ะ”
บัวชุมพยุงม่านฟ้าให้ลุกขึ้น แล้วจัดอาหารให้ ม่านฟ้าเริ่มทานอาหาร
+ + + + + + + + + + + +
เคน ชกต่อยกับลูกน้องเจ้าพ่ออินทร์คนหนึ่งที่ลานหมู่บ้าน ท่ามกลางเสียงเชียร์ของชาวบ้านหลายครั้งที่เคนดูเหมือนจะได้เปรียบ สามารถเผด็จศึกได้ แต่เคนก็แกล้งทำเป็นเสียที ทำให้โดนฝ่ายตรงข้ามชกต่อยเอาได้อย่างง่ายดาย เจ้าพ่ออินทร์ ยืนมองอยู่ไม่ห่างนักแล้วสักครู่ก็เดินเข้ามาห้าม
“เฮ้ย...หยุด”
เคนและคู่ต่อสู้ชะงัก
“มีเรื่องอะไรกัน”
“ไอ้นี่มันลักลอบมายิงสัตว์ ในเขตของเราครับเจ้าพ่อ” ลูกน้องฟ้อง
เจ้าพ่ออินทร์หันไปหาเคน
“เอ็งเป็นใคร”
“ข้าชื่อเคน เป็นชาวป่า”
“แล้วเอ็งเป็นอะไรกับไอ้แคน”
“พี่แคนเป็นพี่ ข้าเป็นน้อง”
“ยิงมันเลยเจ้าพ่อ พวกมันจะได้หลาบจำ อีกหน่อยก็พาพวกเข้ามาหากินในป่าของเรา” ลูกน้องยุยง
“แต่ข้าหลงทางมา...ข้าไม่รู้” เคนเถียง
สัปเหร่อแต้ม และต่ำเดินเข้ามา
“ยกโทษให้มันสักครั้งหนึ่งเถอะเจ้าพ่อ อย่าไปทำมันเลย”
เจ้าพ่ออินทร์หันมามองสัปเหร่อแต้ม อย่างไม่พอใจ
“เอ็งเป็นอะไรกับมัน”
“เปล่าหรอกจ๊ะ ฉันก็แค่เคยเห็นมันล่าสัตว์ในป่าบ่อยๆไม่ได้รู้จักกัน”
“มันอาจจะเป็นสาย หาทางเข้ามาสืบเรื่องของเราก็ได้นะเจ้าพ่อ” ลูกน้องเตือน
สัปเหร่อแต้มมองหน้าลูกน้องคนนั้น
“ถ้ามันเป็นสายจริง มันก็คงจะไม่ปล่อยเอ็งไว้หรอก ป่านนี้มันคงส่องเอ็งเป็นศพไปนานแล้ว”
เจ้าพ่ออินทร์มองเคนอย่างพิจารณา
“เอาละ...ครั้งนี้ข้าจะยกโทษให้เอ็ง แต่ต่อไปห้ามเข้ามาล่าสัตว์ในเขตป่าของที่นี่”
เจ้าพ่ออินทร์หันหลังเดินออกไป เคนรีบร้องทักไว้
“แต่เจ้าพ่อ...อย่าเพิ่งไป”
เจ้าพ่ออินทร์หันมา
“เจ้าพ่อมีงานอะไรให้ฉันทำหรือเปล่า คือฉันต้องเก็บเงิน”
“เอ็งจะเอาเงินไปทำอะไร”
“คือฉันจะแต่งเมีย”
“ถ้าอยากได้เงินก็ไปหาที่อื่น ที่นี่ไม่มี”
เจ้าพ่ออินทร์เดินออกไป ชาวบ้านเริ่มแยกย้าย สัปเหร่อแต้ม และต่ำเดินเข้ามาหา
“ตามข้ามา”
เคนเดินตามสัปเหร่อแต้ม และต่ำไป
+ + + + + + + + + + + +
สัปเหร่อแต้มเดินนำ เคน และต่ำเข้ามาหยุดแล้วหาที่นั่งกันแถวหน้าบ้าน
“ไอ้ต่ำ”
“จ๋า”
“ไปหยิบตะกร้าเก็บสมุนไพรมา”
ต่ำเดินไปหยิบตะกร้าสะพายหลังแบบชาวเขา สำหรับเก็บสมุนไพรมา
“มาแล้วจ๊ะ”
สัปเหร่อแต้มหันไปบอกเคน
“เอ็งเอานี่ติดตัวไป”
เคนงงๆ
“ให้ฉันทำไมน้า”
“ต่อไป...ถ้าใครถาม เอ็งก็บอกไปว่าเอ็งมาช่วยข้าทำงานเก็บสมุนไพร พวกมันจะได้ไม่สงสัย”
“ถ้าจะเข้าไปในหมู่บ้าน อย่าลืมเรียกฉันไปด้วยล่ะ” ต่ำบอก
“ทำไม” เคนถามอย่างสงสัย
“ถ้าเอ็งไปกับไอ้ต่ำ อย่างน้อยชาวบ้านก็คุ้นหน้ามัน เอ็งก็จะไม่โดนสงสัย” สัปเหร่อแต้มแนะ
“แล้วลุงแต้มจะให้พี่เคนนอนที่ไหนเนี่ยะ” ต่ำถามอย่างสงสัย
“ก็นอนกับเอ็งซิวะ”
ต่ำหน้าเหวอ
“อ้าว....มานอนกับฉันได้ไง มุ้งฉันเล็กนิดเดียว”
“งั้นเอ็งก็มานอนนอกมุ้ง ให้เจ้าเคนมันนอนข้างใน”
“อะไรกันเนี่ยะ ยุงก็กัดฉันตายนะซิ ไม่ยุติธรรมเลย” ต่ำโวย
“ตัวเอ็งเล็ก ยุงมันมองไม่เห็นหรอก”
สัปเหร่อแต้มพูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ต่ำครุ่นคิด งงๆ
“ไม่ต้องงง พี่ต่ำ ยุงมันไม่กัดคนหล่อ ฉันขอตัวนะ”
เคนเดินยิ้มๆออกไป
“เออจริง ยุงไม่กัดคนหล่อ...แต่เอ๊ะ ยุงมันมองไม่เห็นเรานี่หว่า เอ๊ะ...หรือว่าเราหล่อ”
ต่ำครุ่นคิด งงๆ ต่อไป
+ + + + + + + + + + + +
ดร.วิทยากับฮวง เดินมาที่หน้าบ้านหลังเล็ก ฮวงหันไปเรียกลูกน้องซึ่งเฝ้าบ้าน
“ม่านฟ้าเป็นไงบ้าง”
“ยังเป็นไข้ไม่หายเลยครับ”
ดร.วิทยาหงุดหงิด
“อะไรวะ ยาก็มี...ทำไมไม่หาย”
“ไม่รู้ครับ”
“ไหนเปิดประตูซิ” ฮวงสั่ง
ลูกน้องเปิดประตูให้ ดร.วิทยาและฮวงเข้าไปข้างใน ม่านฟ้านอนหลับอยู่ที่มุมหนึ่งสะดุ้งตื่นหันมา รู้สึกหวาดกลัว
“อย่าเข้ามานะ ออกไปๆ”
ดร.วิทยามองอย่างหนักใจ
“ท่าทางจะเอาเรื่องไม่เบา”
“ฉันบอกให้ออกไป...อย่ามายุ่งกับฉัน” ม่านฟ้าโวยวาย
ดร.วิทยาพยักหน้าให้ ฮวงเข้าไปบีบคอม่านฟ้า จนหายใจไม่ออก
“อย่าดื้อซิคนสวย”
ม่านฟ้าไอสำลัก ขาดอากาศหายใจ
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าทับทิมสยามอยู่ที่ไหน” ดร.วิทยาตะคอกถาม
ม่านฟ้านิ่งเฉยไม่ยอมตอบ ฮวงบีบคอหนักขึ้น
“อยากตายหรือไง บอกมา”
ม่านฟ้าพยายามดิ้นรน แต่ไม่สามารถสู้แรง ฮวงได้ สักครู่ฮวงก็คลายมือออกมา
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าทับทิมสยามอยู่ที่ไหน” ดร.วิทยาถามเสียงเข้ม
“ฆ่าให้ตายฉันก็ไม่บอก”
“ท้าใช่มั๊ย”
ฮวงเข้ามาบีบคอม่านฟ้าอีกครั้ง ม่านฟ้าดิ้นทุรนทุราย บัวชุมเดินเข้ามาเห็นแล้วตกใจ กระจาดผลไม้ที่ถือมาหล่นกระจาย ฮวง และ ดร.วิทยาหันไปมอง
“เข้ามาทำไม” ดร.วิทยาถามเสียงเข้ม
บัวชุมหน้าตื่น
“เข้า...เข้ามาทำบ้านจ๊ะ”
“ออกไป” ดร.วิทยาตวาด
บัวชุมอึกอัก
“แต่ว่า...”
“อะไร”
บัวชุมนิ่งคิดนิดนึงก่อนจะพูดขึ้น
“เอ้อ...นังผู้หญิงคนเนี๊ยะมันปากแข็งจ๊ะนาย เฆี่ยนตียังไงมันก็ไม่บอกหรอก ทำไปก็เสียเวลาเปล่า”
“สู่รู้...ออกไป” ดร.วิทยาไล่
“แต่ฉันมีวิธีนะจ๊ะนาย”
“ออกไป”
ดร.วิทยาตวาดเสียงดัง บัวชุมจำใจต้องออกไปทั้งๆที่เป็นห่วงม่านฟ้า ฮวงเค้นคอม่านฟ้าจนหน้าซีด ดิ้นทุรนทุราย
“ปากแข็งนักใช่มั๊ย อยากตายหรือไง”
บัวชุมแอบมองอยู่ข้างนอกน้ำตาไหลด้วยความสงสาร แล้วที่สุดก็ทนเห็นต่อไปไม่ได้วิ่งหนีไป
+ + + + + + + + + + + +
บัวชุมแอบมานั่งร้องไห้สงสารม่านฟ้าอยู่ที่มุมหนึ่ง ไม่ห่างจากบ้านนัก สักครู่ ฮวง และดร.วิทยาเดินออกมา บัวชุมมองเห็นรีบปาดน้ำตา แล้วรีบเดินเข้าไปด้วยความเป็นห่วงม่านฟ้า ดร.วิทยาหันมามอง
“เดี๋ยว”
“เรียกฉันหรือจ๊ะ”
“จะรีบไปไหน”
“ฉันจะไปดูว่านังนั่นมันตายหรือเปล่า”
“ยังไม่ตาย...ปากแข็งอย่างงี้ อีกไม่กี่วันก็ตายแน่นอน”
“ให้มันตายก็ดีจ๊ะ ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อย ไปหาข้าวหาน้ำให้มันกิน สบายดี”
บัวชุมทำเหมือนไม่ใส่ใจในตัวม่านฟ้า แล้วจะเดินเข้าไปข้างใน แต่วิทยาเรียกไว้
“เมื่อกี้เธอบอกว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้มันพูดนะ”
บัวชุมหันมา
“อ๋อ...ที่หมู่บ้านฉัน เวลาจะบังคับให้ใครพูดเค้าจะใช้สมุนไพรจ๊ะ”
“สมุนไพรอะไร” ดร.วิทยาถามอย่างแปลกใจ
บัวชุมยิ้ม
“ว่านผีเจาะปากจ๊ะ”
ฮวงแปลกใจ
“มีด้วยเหรอ...ไอ้ว่านชื่อแบบนี้”
“มีซิจ๊ะ...บ้านฉันเยอะแยะ”
“แล้วมันมีฤทธิ์ยังไง” ดร.วิทยาถามอย่างสงสัย
“เวลาใครกิน มันก็จะเมา แล้วก็ติดใจ ทำให้อยากกินจนขาดไม่ได้ ทีนี้ถ้ามันอยากกิน ก็ต้องแลกกับสิ่งที่เราอยากรู้...ไม่งั้นก็ปล่อยให้มันลงแดง ทุรนทุราย กี่รายๆ ก็ทนไม่ได้นานหรอกจ๊ะ”
ฮวงคิดตามที่บัวชุมบอก
“น่าลองเหมือนกันนะครับด็อกเตอร์ ท่าทางนังม่านฟ้ามันก็ดื้อเอาการ”
“งั้นเธอไปหาไอ้ว่านที่ว่านี้มาให้ฉันที”
บัวชุมแบมือ
“ฉันต้องไปจ้างคนหาจ๊ะ”
ดร.วิทยาส่งเงินให้
“เอาไป”
“พรุ่งนี้ได้ของแน่นอนจ๊ะนาย”
บัวชุมเดินเข้าไปข้างใน แล้วสักครู่ก็ได้ยินเสียง เหมือนบัวชุมกำลังตบตี ทำร้ายม่านฟ้า
“ปากแข็งนักเหรอเอ็ง นี่แนะๆ”
“อย่าทำฉัน...อย่าทำ”
“นายเค้าถามอะไรไม่บอก อยากตายหรือไงนี่ไง”
ดร.วิทยา ยิ้มพอใจ แล้วเดินออกไปกับฮวง
โปรดติดตามตอนไป วันพรุ่งนี้
พฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554