เสาร์๕ ตอน ทับทิมสยาม ตอนที่ 10
ค่ำคืนนั้น...ดร.วิทยานั่งอยู่ในเต้นต์ กำลังนั่งครุ่นคิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูล สักครู่เจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ก็เดินเข้ามานั่งด้วย
“ผมพอจะจับต้นชนปลายออกได้บ้างแล้ว” ดร.วิทยาบอก
เจ้าพ่ออินทร์ มองอย่างไม่เข้าใจ
“เรื่องอะไรครับ ด็อกเตอร์”
“ก็ไอ้เรื่องประหลาดๆที่เราเจอ ทั้งกองทหารญี่ปุ่น ทั้งพวก ผีตองเหลืองเมื่อกลางวันมันเป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีว่า ทับทิมสยามสีม่วงต้องอยู่ที่นั่น”
เสือสนธิ์แปลงใจ
“แล้วไอ้ทับทิมสยามสีม่วง มันเกี่ยวอะไรด้วยว่ะ”
“นี่ไงครับ”
วิทยาเปิดเว็บไซค์ภาษาอังกฤษ ให้เสือสนธิ์และเจ้าพ่ออินทร์ดู เสือสนธิ์ส่ายหน้าเซ็งๆ
“เฮ้ยไอ้ภาษาฝรั่งข้าไม่ค่อยถนัด ช่วยแปลให้หน่อยได้ไหม”
“คือ...ในเว็บไซค์นี้มีบันทึก เกี่ยวกับลักษณะพิเศษของทับทิมสีม่วง ที่สามารถสร้างภาพลวงตาขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของคนได้” ดร.วิทยาอธิบาย
เจ้าพ่ออินทร์หน้าตื่นแปลกใจ
“หมายถึงมันจะเอาเรื่องที่เราคิด ไปสร้างเป็นภาพลวงตาขึ้นมาอย่างงั้นเหรอครับ”
ดร.วิทยาพยักหน้า
“ใช่ครับ...ซึ่งทับทิมสีม่วงจะจับเอาเฉพาะเรื่องในแง่ลบ หรือเรื่องร้ายๆ ขณะที่ทับทิมสีชมพู จะให้ภาพลวงตาทางด้านบวก หรือเรื่องดีๆ เท่านั้น”
“แล้วไอ้ทับทิมสยามสีแดงละครับ” เสือสนธิ์ถาม
“ทับทิมสยามสีแดง จะซึมซับเอาพลังทั้งแง่บวกแง่ลบเอาไว้ด้วยกัน ตัวมันจึงมีลักษณะกลางๆ เหมาะสำหรับการใช้ปรับสมดุลให้กับจิตคน”
เจ้าพ่ออินทร์ครุ่นคิด
“แสดงว่าพวกทหารญี่ปุ่น กับพวกผีตองเหลืองที่เราเจออำนาจของทับทิมสยามสีม่วงเหรอครับ”
“แล้วเราจะมีวิธีเอาชนะพวกมันได้ยังไงล่ะ ด๊อกเตอร์” เสือสนธิ์ถามอย่างกังวลใจ“ขอเวลาผมหน่อย ยังไงเรื่องนี้มันก็ต้องมีวิธีแก้ได้แน่นอน”
ดร.วิทยาหันไปหาคอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มค้นหาข้อมูลต่อไป
+ + + + + + + + + + + +
เทอด ยอด กริ่ง เคน ชลดา ยูกิ เจนนี่ นั่งผิงไฟคุยกันหน้าถ้ำ...
“ถึงจะเห็นเจดีย์อยู่ข้างหน้า แต่เราจะเดินเข้าไปง่ายๆ ไม่ได้ เพราะมันจะมีเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้น ทำให้เราเข้าไปใกล้เจดีย์ไม่ได้” เคนอธิบาย
เจนนี่หน้าสลดยังไม่หายกลัว
“ใช่ค่ะ...อย่างเมื่อกลางวันจู่ๆ ฉันก็เห็นพ่อกับแม่ พอจะเข้าไปหา ฉันก็ตกลงไปในหลุมโคลนดูด...เกือบไป”
“ส่วนฉันเห็นคนป่า มาจากไหนก็ไม่รู้” ชลดาบอก
ยูกินึกแล้วกลัวๆ
“เราเห็นปีศาจ มันมีพลังมากจนเราสู้ไม่ได้เลย”
กริ่งยิ้มๆ
“สิ่งที่พวกคุณเจอน่ะยังเด็กๆ พวกผมเจอทั้งผี ทั้งกิ้งก่ายักษ์ วิ่งกันตับแล่บเลยกว่าจะรอด”
ยอดมองหน้ากริ่ง
“กริ่ง...นายลืมอะไรไปหรือเปล่า”
“อะไรยอด”
“นอกจากผี แล้วก็กิ้งก่ายักษ์แล้ว นายยังเจอนางแบบปฏิทินด้วยนี่”
กริ่งสะดุ้ง แล้วยิ้มเขิน
“เฮ้ย...อย่าพูดน่าอายเขา ไม่เอาไม่พูดดีกว่า”
“นางแบบอะไรกันเหรอคะ สวยหรือเปล่า” ยูกิถาม
“ไม่มีใครสวยเท่าอาหมวยญี่ปุ่นของป๋มหรอกคร้าบบบ”
กริ่งประจบด้วยการทำท่าแบบเด็กญี่ปุ่น ยูกิหยิกหมั่นไส้ เทิด หันไปหาเคน
“แล้วคุณล่ะ เจออะไรมาบ้าง”
“ผมเจอ...เจ้าหญิง”
ทุกคนหยุดชะงัก หันมามองเคนที่กำลังนึกถึงม่านฟ้า
“แสดงว่าต้องสวย” เทอดถามยิ้มๆ
เคนพยักหน้ารับ
“ครับ สวย...แต่เธอดุเอาเรื่อง”
“แล้วไอ้เรื่องประหลาดๆ ที่เราเจอพวกนี้ มันคืออะไรกัน” ยอดถามอย่างสงสัยเคนนิ่งอึ้งไปก่อนจะพูดขึ้น
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าถ้าเรากลัวอะไร สิ่งนั้นก็จะปรากฏขึ้นมา ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แต่ถ้าเราหนี มันจะไม่ตามเราออกมา”
“คุณรู้วิธีที่จะเข้าไปที่เจดีย์มั๊ย” เจนนี่ถาม
“พวกพรานป่าทำเครื่องหมายนำทางเอาไว้ แต่ผมยังหาไม่เจอ”
“พรุ่งนี้พวกเราจะช่วยคุณหา” เทอดบอก
“ถ้าหลายคนช่วยกันหา ก็คงจะเร็วขึ้น”
เคน ครุ่นคิดอย่างมีหวัง
+ + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
ในเจดีย์ ด้านหน้าพระประธาน ดอน เดี่ยว ซัมดอง กำลังนั่งสมาธิกัน โดยที่ตามตัวของดอน กับเดี่ยว มีเครื่องมือวัดคลื่นไฟฟ้า ติดตามตัวแล้วโยงสายมายังเครื่องมือวัดคลื่น ซึ่งมี ดร.ฟอร์ดและลูกน้องควบคุม
สตีเฟ่น และ นาตาชา ยืนเฝ้ามองด้วยความสนใจ สักครู่ หน้าจอเครื่องมือวัดคลื่น เส้นกราฟนิ่งสงบ นั่นแสดงว่าทั้งดอน และเดี่ยวกำลังอยู่ในสมาธิขั้นสูง
ดร.ฟอร์ด มองเครื่องวัดแล้วบอก
“กราฟหยุดนิ่ง...แสดงว่าจิตของเขา ความถี่ทั้งสองอยู่ในสมาธิขั้นสูง”
ซัมดองลืมตาขึ้นมา แล้วหันไปมองที่ร่างของดอน และเดี่ยว ซัมดองหยิบดวงตาสวรรค์ขึ้นมาแล้วเริ่มร่ายเวทย์ ดวงตาสวรรค์ ส่องแสงเป็นประกายไปยังร่างของดอน และเดี่ยว แล้วสักครู่ก็ปรากฏภาพพระ ท่ากระดาน อยู่ในร่างของดอน ขณะที่ร่างของเดี่ยว ก็ปรากฏเป็นภาพพระสมเด็จ ภาพที่ปรากฏส่องแสงเรืองรอง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคน โดยเฉพาะ ซัมดองซึ่งต้องการพลังพระพุทธคุณ ซึ่งแฝงอยู่ข้างในร่างของดอนและเดี่ยวมาเป็นของตน
“ทำไมสองคนนี้มีพระอยู่ในตัวด้วย” ดร.ฟอร์ดถามอย่างแปลกใจ
“พวกเขาเป็นคนพิเศษ แตกต่างจากมนุษย์คนอื่น” ซัมดองบอก
นาตาชาหันไปหาซัมดอง
“อาจารย์ซัมดองคะ...เราสามารถดึงเอาพระข้างในร่างของพวกเขา ออกมาได้หรือเปล่า”
ซัมดองยิ้มน้อยๆ
“ได้ซิ...ถ้าจะทำ”
“งั้นก็ดึงเอามาไว้ในร่างผมซิอาจารย์” สตีเฟ่นบอก
ซัมดองรีบปฏิเสธทันที
“ไม่ได้ ร่างของพวกเอ็งบารมียังไม่ถึง”
“แล้วร่างอาจารย์ละคะ” นาตาชาถาม
“ข้าจะลองดู”
ซัมดองยกดวงตาสวรรค์มาไว้ที่หน้าอกของตน แล้วจากนั้นก็รวบรวมสมาธิดึงเอาพระจากดอน และเดี่ยว ให้ลอยออกจากร่าง พระท่ากระดาน และพระสมเด็จเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับดวงตาสวรรค์ บางขณะพระดูเหมือนจะลอยออกมา แต่สักครู่ก็เปล่งรัศมีเรืองรองกระแทกใส่ดวงตาสวรรค์ทำให้ซัมดองสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นคะ อาจารย์ซัมดอง” นาตาชาถามอย่างแปลกใจ
“พลังพุทธคุณแข็งกล้า วันนี้ยังไม่เหมาะที่จะทำ”
ดอนและเดี่ยว ลืมตาขึ้นมา สตีเฟ่นถามทันที
“พวกนายเห็นภาพอะไรในสมาธิบ้าง”
“ผมเห็นกลุ่มของดร.วิทยา” ดอนบอก
“ใช่...ผมก็เห็น”
“พวกมันกำลังทำอะไร” ดร.ฟอร์ดถาม
ดอนหันไปหาดร.ฟอร์ด
“ดร.วิทยากำลังพยายามหาทางเข้ามาที่นี่”
ดร.ฟอร์ดยิ้มหยัน
“มันคงไม่ง่ายนักหรอก”
“ผมจะออกไปจัดการกับพวกมันเอง” สตีเฟ่นอาสา
ซัมดอง หันไปมองดอนกับ เดี่ยว แล้วสั่งสตีเฟ่น
“เอาสองคนนี่ไปด้วย”
“แต่ว่า...ถ้าไปแล้วใครจะช่วยผมหาทับทิมสยามละ” ดร.ฟอร์ดแย้ง
“เรื่องทับทิมสยามเรายังมีเวลา แต่สองคนนี้จะช่วยนำทาง พวกแกไปยังแคมป์ของพวกมันได้” ซัมดองอธิบาย
“จริงซิเอาคุณดอนกับคุณเดี่ยวไป ดีกว่าใช้ จีพีเอสนำทางซะอีกนะ” นาตาชาแนะ
ดร.ฟอร์ดเห็นด้วยกัลลูกสาว
“ดี...” ดร.ฟอร์ดหันไปหา ดอนกับเดี่ยว “งั้นแกสองคน ไปกับสตีเฟ่น ถล่มฐานมันให้แหลก ส่วนไอ้ด็อกเตอร์วิทยา ต้องจับเป็นแล้วเอาตัว มันมาให้พ่อ”
สตีเฟ่นยิ้มเหี้ยม
“ไอ้นี่มันทรยศ ฆ่ามันซะก็หมดเรื่อง”
“พ่ออยากได้มันสมองของมันมาไขปริศนาของสมการ เสร็จแล้วเราค่อยจัดการมัน”
“ได้ครับ...ผมจะจับตัวมันมาให้พ่อ”
สตีเฟ่นรับคำ
+ + + + + + + + + + +
บริเวณแค้มป์ของ ดร.วิทยา ทุกคนกำลังผ่อนคลาย ไม่มีทีท่าระแวดระวังว่าภัยกำลังจะมาถึง เจ้าพ่ออินทร์ นั่งคุยอยู่กับดร.วิทยาอยู่ที่มุมหนึ่ง โดยมีนั้มยืนอยู่ไม่ห่างนัก ดร.วิทยาสงสัยและแปลกใจที่ กลุ่มของ ดร.ฟอร์ด ป่าวงกตได้ยังไง
“ผมสงสัยจริงๆ ว่าดร.ฟอร์ดหาวิธีผ่านเจดีย์เข้าไปยังไง”
“บางทีอาจเป็นเพราะดร.ฟอร์ด เคยครอบครองทับทิมสยามสี ชมพูมาก่อน จึงรู้เรื่องนี้ดี” เจ้าพ่ออินทร์ออกความเห็น
ดร.วิทยาส่ายหน้า
“เป็นไปได้”
เสือสนธิ์และฮวง เดินเข้ามา
“ผมจะออกไปหาอาหาร มีใครจะไปไหม” เสือสนธิ์ถาม
“ผมต้องทำงาน คงไปด้วยไม่ได้” ดร.วิทยาปฏิเสธ
เจ้าพ่ออินทร์หันไปหาเสือสนธิ์
“เสือสนธิ์ไปเถอะครับ ผมกับ นั้มจะดูแลทางนี้เอง”
เสือสนธิ์กับฮวง และลูกน้องส่วนใหญ่พากันเดินออกไป ทิ้งอยู่ที่แค้มป์คอยจัดเวรยามเพียง 5 - 6 คนวิทยา และอินทร์ต่างคุยกันต่อไป
+ + + + + + + + + + + +
สตีเฟ่น ราฮีม มะโหนก ดอน เดี่ยว และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง กำลังซุ่มมองความเคลื่อนไหวจากแคมป์ของด็อกเตอร์วิทยา สตี่เฟ่นส่องกล้องทางไกลเห็น เสือสนธิ์กับฮวงและลูกน้องกำลังเดินออกจากแค้มป์
“พวกมันกำลังออกจากแคมป์” สตีเฟ่นหันมาสั่งลูกน้อง “ดี...งั้นเราแบ่งกำลังกันเข้าโจมตี”
“ไอ้พวกที่แยกเข้าป่า ผมดูแลเอง” มะโหนกบอก
สตีเฟ่นหันไปสั่งดอนกับเดี่ยว
“งั้นแกสองคน จัดการกับไอ้พวกที่อยู่ในแคมป์ ถล่มอย่าให้เหลือซาก”
ดอนกับเดี่ยวออกไป มะโหนกและพวกลูกน้องแยกออกไปอีกทาง ขณะที่สตีเฟ่นและราฮีมและลูกน้องชื่อสมชาย ยืนอยู่ด้วยกัน สตีเฟ่นหันไปสั่งราฮีม
“ราฮีมแกคอยจับตาไอ้ดอน และได้เดี่ยวให้ดี ส่วนฉันจะไปดักในป่า”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่...ถ้าเห็นพวกมันทรยศเมื่อไหร่ก็จัดการได้เลย”
“ได้ครับคุณสตีเฟ่น”
สตีเฟ่นแยกตัวออกไป ขณะที่ราฮีมรู้สึกอึดอัด คันไม้คันมืออยากจะออกรบ สักครู่ราฮีมก็ส่งกล้องทางไกลให้ลูกน้องที่ชื่อสมชาย
“เอ็งเอาไป”
“แล้วลูกพี่จะไปไหน” สมชายถามอย่างแปลกใจ
“ข้าไม่ชอบอยู่เฉยๆ ได้ยินที่คุณสตีเฟ่นสั่งใช่มั๊ย”
“ได้ครับให้ผมจับตาดูได้ดอน กับไอ้เดี่ยว”
“เออ...”
ราฮีมแยกตัวออกไป สมชายหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูความเคลื่อนไหวต่อ
+ + + + + + + + + + + +
เสือสนธิ์ ฮวง และลูกน้อง กำลังเดินป่า สอดส่องหารอยเท้าสัตว์กันอยู่ แล้วสักครู่ก็ได้ยินคล้ายเสียงนกร้องเป็นสัญญาณ ฮวงชะงักเนื่องจากพอจะเดาออกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“มีอะไรฮวง” เสือสนธิ์ถามเบาๆ
“นี่ไม่ใช่เสียงนกครับ แต่เป็นเสียงสัญญาณ”
“สัญญาณของใคร”
“อาจเป็นพวกโจรป่า”
“ถ้ามันกล้ามา...เจอดีแน่” เสือสนธิ์คำรามกัดกรามแน่น
เสียงสัญญาณที่โต้ตอบกันเงียบลง ฮวง เสือสนธิ์ และลูกน้องต่างพากันถอยมาจับกลุ่มรวมตัวกันระแวด ระวัง ทุกอย่างเงียบไปสักครู่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงหวีดแหวกอากาศเข้ามา ฮวงตะโกนลั่น
“หลบเร็ว ระเบิด”
ฮวง เสือสนธิ์ และคนอื่นๆ พากันกระโดดหลบ ขณะที่ระเบิดหล่นลงมากลางวง ตูมใหญ่ เสือสนธิ์ ฮวง และคนที่เหลือต่างก็ยิงกราดไปมา เพื่อข่มขวัญทั้งที่ยังไม่เห็นตัวของฝ่ายตรงข้ามสักคน สักครู่เสือสนธิ์ได้สติรีบให้สัญญาณหยุดยิง
“เฮ้ย...พวกเอ็งยิงอะไรกัน ยังไม่เห็นพวกมันสักคน”
“มันอาจจะซุ่มอยู่ที่ใดที่หนึกก็ได้” ฮวงบอก
สักครู่ก็มีเสียงปืนดังปัง ลูกน้องคนหนึ่งซึ่งยืนใกล้ๆ เสือสนธิ์ล้มลงตายคาที ทุกคนพากันหลบวูบ แต่มองไม่เห็นว่าปืนยิงมาจากที่ไหน
“มันซุ่มยิงพวกเรา วิถีกระสุนมาทางไหน” เสือสนธิ์ถามเสียงเข้ม
“นั่นไงผมว่าแล้ว”
เสือสนธิ์หันไปสั่งลูกน้อง
“เฮ้ยอย่าอยู่รวมกัน จะกลายเป็นเป้านิ่ง”
ลูกน้องกระจายตัวกันออกไป แต่แล้วขณะที่ลูกน้องคนหนึ่ง วิ่งแยกออกไปเสียงปืนก็ดังขึ้น ทำให้ลูกน้องคนนั้นล้มลงขาดใจตาย
“ไอ้บ้าเอ้ย.....มันเป็นใครกันวะ” เสือสินธิ์แค้นสุดๆ
ฮวงลุกขึ้นมองหา พร้อมกับยิงออกไปแล้วหลบลงมา
“มันซุ่มยิงอยู่กัน โน่น”
ฮวงมองเห็นมะโหนกโผล่ออกมาจากต้นไม้ต้นหนึ่ง จึงยิงสวนกลับไป แต่สักครู่ทุกอย่างก็เงียบลง เสือสนธิ์ ฮวง และลูกน้องพากันกระสับกระส่าย เนื่องจากกำลังตกเป็นรอง
+ + + + + + + + + + +
เทอด เอาหูแนบไปที่ผนังถ้ำเช่นเดียวกับยอด และกริ่งเนื่องจากได้ยินเสียงปืนแว่วเข้ามา
“เสียงปืน” เทอดบอก
“พวกไหน” ยอดถาม
กริ่งร้อนใจ
“ออกไปดูดีกว่า บางทีเราอาจเจอดอน กับเดี่ยว”
เจนนี่ ชลดา ยูกิ ลุกขึ้นเตรียมจะไปด้วย เทอดหันมาห้าม
“ผมว่าผู้หญิงไม่ควรไป”
“ทำไม” ยูกิถามเสียงแข็ง
“พวกเราแค่ไปสังเกตุการณ์ ยังไม่ได้ปะทะ” เทอดบอก
“ใช่ครับ...ไปกันน้อยๆคน น่าจะดีกว่า” ยอดแนะ
ยอด เทอด กริ่ง พากันเดินไปยังโพรงถ้ำเพื่อทะลุไปยังประตูต้นไม้ในป่า ทั้งสามคน เปิดประตูต้นไม้ออกมา จากนั้นก็ หยุดฟังหาทิศทางของเสียงปืน ยอดชี้ไปด้านหนึ่ง
“ฉันว่าเสียงมาจากทางด้านนี้”
“แต่ฉันว่ามันมาจากหลายจุด” เทอดแย้ง
กริ่งตัดสินใจ
“งั้นแยกกันดู ถ้าไงกลับไปเจอกันในถ้ำ”
ยอดพยักหน้าเห็นด้วย
“ตกลงตามนั้น”
ยอด เทอด กริ่ง แยกตัวกันออกไป
+ + + + + + + + +
ในถ้ำ...
เจนนี่เห็นเคนหันไปนานก็บ่นๆ
“แล้วนี่คุณเคนไปไหน”
เคนเดินเข้ามาพร้อมไก่ป่า และอาหารป่า
“มีใครถามถึงผม”
“ฉันเอง”
“ผมล่าไก่ป่ามาได้”
ชลดาดีใจ
“เย็นนี้ได้กินของอร่อยกันแล้ว มาช่วยกัน”
สาวๆ ช่วยกันทำอาหาร
+ + + + + + + + + + +
ที่แค้มป์ มีเวรยามเหลือเฝ้าอยู่เพียง 3 คน ดอนย่องเงียบๆเข้าไป แล้วจัดการหน่วยเวรยามที่คอยตรวจตรา จากนั้นก็ลุกคืบไปจัดการคนต่อไป
อีกมุมซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าของแค้มป์ เดี่ยววางระเบิดตามจุดต่างๆ ครู่หนึ่งนั้มรู้สึกผิดสังเกตุ ที่ไม่เห็นมีเวรยาม จึงเดินมามอง เจ้าพ่ออินทร์เดินมาสมทบ สมชายย่องมาซุ่มดูเหตุการณ์จากด้านหลังเจ้าพ่ออินทร์
ดอนมองเห็นจึงรีบโผล่ออกจากที่ซ่อน ทำให้เจ้าพ่ออินทร์ตกใจ ดอนยกปืนเล็งมาที่เจ้าพ่ออินทร์
“ดอน...ที่แท้แกมันก็ไอ้พวกขายชาติ”
ดอนลั่นกระสุนออกไป แต่กระสุนปืนผ่านเจ้าพ่ออินทร์ไปแล้วพุ่งเข้าใส่ร่างของสมชายกับพวกอีก 5 คนซึ่งกำลังยกปืนจะยิง สมชายล้มและพวกตายหมด เจ้าพ่ออินทร์หันไปมอง รู้สึกประหลาดใจ
“แก...”
เจ้าพ่ออินทร์ และดอนยืนมองหน้ากัน
“แกยังเหมือนเดิมใช่มั๊ยดอน”
“ผมพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น “
เดี่ยวถือปืนปืนเข้ามาหาดอนอีกคน
+ + + + + + + + + + + +
ดร. วิทยาหนีออกจากแค้มป์เข้าไปในป่า ทันใดนั้น ราฮีมมายืนขวางไว้
“จะรีบไปไหน ด็อกเตอร์”
ดร.วิทยาตกใจ
“พวกแก...”
“จะไปกับผมดีๆ หรือว่าอยากจะตายที่นี่”
ดร.วิทยายกปืนจะยิง แต่ราฮีมเตะปืนหลุดจากมือ แล้วเข้ามาล็อคไว้ได้ ดร.วิทยาดิ้นไปมา
“ปล่อย...บอกให้ปล่อย”
“คนที่จะสั่งให้ปล่อยได้ก็คือ ด็อกเตอร์ฟอร์ดเท่านั้น”
เจ้าพ่ออินทร์ โผล่มาจากมุมหนึ่ง เอาปืนจ่อราฮีมจากด้านหลัง
“แน่ใจนะว่าปืนของฉันจะสั่งแกไม่ได้ ปล่อยด็อกเตอร์วิทยาเดี๋ยวนี้”
ราฮีมชะงักค่อยๆ คลายมือออกมา ดร.วิทยาสะบัดตัวออกมา แล้วหันไปคว้าปืนที่พื้น แต่แล้ว สตีเฟ่นก็โผล่เข้าจับตัว ดร.วิทยาล็อคไว้อีกครั้ง สตีเฟ่นหันไปขู่เจ้าพ่ออินทร์
“วางปืนเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นไอ้ด็อกเตอร์นี่ตายแน่”
ดร.วิทยาตื่นกลัว
“คุณอินทร์ช่วยผมด้วย”
เจ้าพ่ออินทร์รู้ตัวว่ากำลังเสียเปรียบ แต่ก็ลังเลที่จะยอมง่ายๆ แต่ที่สุดเมื่อเห็นสายตาเอาจริงของ สตีเฟ่น เจ้าพ่ออินทร์ก็ย่อตัวลงวางปืน ราฮีมอาศัยจังหวะนี้โจมตีเจ้าพ่ออินทร์ ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด สตีเฟ่นส่ายปืนไปมาเพื่อหาจังหวะยิงเจ้าพ่ออินทร์ ดร.วิทยาจึงอาศัยจังหวะรีบหนีเข้าป่าไป สตีเฟ่นหันมากระหน่ำยิงดร.วิทยา แต่เมื่อไม่โดนจึงวิ่งตามไป
+ + + + + + + + + + + +
สถานะการณ์ ของเสือสนธิ์ ฮวง และลูกน้องกำลังตกเป็นรองมะโหนก เนื่องจากกลุ่มของมะโหนกใช้การอำพรางตัว ทำให้ศัตรูมองไม่เห็น ยากต่อการโต้ตอบศัตรูจึงกลายเป็นเป้านิ่ง มะโหนกค่อยๆเก็บลูกน้องของเสือสนธิ์ ตายลงทีละคนไปเรื่อยๆทำให้ทุกคนหวาดกลัว เสือสนธิ์หันมาบอกฮวน
“ขืนอยู่แบบนี้เราเสร็จมันแน่”
“เอาไงดีครับเสือสนธิ์”
เสือสนธิ์พยายาหาหนทางเอาตัวรอด
“แกกับพวกหลบออกไปจากวงล้อมให้ได้ อย่าให้พวกมันเห็น ระหว่างที่ข้าเบนความสนใจพวกมัน แล้วเอ็งค่อยตลบหลัง”
“โอเค”
ฮวงส่งสัญญาณบอกลูกน้องจำนวนหนึ่งให้ตามมา ขณะที่เสือสนธิ์และกลุ่มที่เหลือพากันวิ่งซิกแซกไปอีกทางเพื่อเรียกร้องความสนใจ เสียงปืนจากทางด้านมะโหนกยิงเข้าใส่กลุ่มของเสือสนธิ์และลูกน้องเป็นชุด
ขณะที่ฮวงและพวกรีบหลบไปอีกมุม
อ่านต่อหน้า 2
เสาร์๕ ตอน ทับทิมสยาม ตอนที่ 10 (ต่อ)
ฮวง และพวก หลบมาด้านหนึ่ง ขณะที่เสือสนธิ์และลูกน้อง กำลังหลอกล่อเรียกความสนใจจากมะโหนกและพวก ทำให้ฮวงมองเห็นว่ามะโหนกและพวกแอบอยู่ตามต้นไม้ คอยซุ่มยิงจากมุมต่างๆ โดยอาศัยการพรางตัวให้กลมกลืน
จึงทำให้ศัตรูมองไม่เห็นตัว ฮวงหันไปสั่งลูกน้องให้เริ่มแยกกันจัดการกับศัตรูโดยเริ่มยิงลูกน้องมะโหนกร่วงทีละคน ทำให้มะโหนกละล้าละลัง ขณะเดียวกันนั้น เสือสนธิ์กับพวกก็เริ่มมองเห็นมะโหนกและโจมตีมาจากอีกด้าน
“ฮ่ะๆ มันต้องเจอของจริงอย่างข้า ไอ้เด็กเมื่อวานซืน...ฮ่ะๆ” เสือสนธ์หัวเราะชอบใจ
เสือสนธิ์กระหน่ำโจมตีกลุ่มของมะโหนกที่กำลังตกเป็นรอง ขณะที่ฮวงก็โอบล้อมเข้ามา จนมะโหนกและสมุนแตกกระเจิงไป ฮวงดีใจที่เอาชนะได้รีบวิ่งไปหาเสือสนธิ์
“แผนของเสือสนธิ์สุดยอด”
“รีบกลับไปที่แค้มป์เร็ว”
เสือสนธิ์ ฮวง และคนอื่นๆ รีบกลับไปที่แค้มป์
+ + + + + + + + + + +
บริเวณแค้มป์เหลือแต่ซาก กระจัดกระจาย เสือสนธิ์ ฮวง และพวกเดินเข้ามาสำรวจ
“เครื่องสื่อสารเสียหายหมด ไอ้พวกลอบกัด” เสือสนธิ์คำรามออกมาอย่างโกรธแค้น
“คนอื่นๆ หายไปไหนกันหมด”
ฮวงหันไปเห็นนั้มนอนสลบ กำลังจะฟื้น ฮวงเข้าไปพยุงมาที่เสือสนธิ์
“มันนอนสลบอยู่ครับ”
เสือสนธิ เอามือตบหน้านั้มเพื่อให้ได้สติ ฮวงเขย่าตัว
“นั้ม...นั้ม”
“ไอ้นั้มฟื้นได้แล้ว เกิดอะไรขึ้นที่นี่” เสือสนธิ์ถามเสียงดัง
“เราโดนโจมตีไม่รู้ตัว”
“แล้ว ดร.วิทยากับ เจ้าพ่ออินทร์ล่ะ”
“ดร.วิทยาหนีพวกมันไปได้ เจ้าพ่ออินทร์คงตามพวกมันไป”
เสือสนธิ์เป็นห่วงและกังวล
“งั้นพวกเราไปช่วยกันตามหาเจ้าพ่ออินทร์กับ ดร.วิทยา เร็ว”
เสือสนธิ์เดินนำทุกคนเข้าป่าไป
+ + + + + + + + + + + +
ดร.วิทยา กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ขณะที่สตีเฟ่นเดินเล็งยิง อย่างใจเย็น ดร.วิทยาหาที่หลบซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง ขณะที่สตีเฟ่นเดินเข้ามาช้าๆ
“แกหนีฉันไปไม่พ้นแน่ไอ้ด๊อกเตอร์”
สตีเฟ่นเล็งกระสุนไปตามมุมต่างๆ เพื่อเล็งหาความเคลื่อนไหว ขณะที่ดร. วิทยาหลบนิ่งทำตัวเงียบที่สุด...สตีเฟ่นมองไปรอบๆ แล้วหยุดมองที่พุ่มไม้หนึ่ง ซึ่งกำลังสั่นไหวราวกับว่ามีคนอยู่ สตีเฟ่นแกล้งเดินเลยพุ่มไม้นั้นไปอีกทาง
ดร.วิทยาซึ่งซ่อนอยู่ในพุ่มไม้มองเห็นสตีเฟ่นเดินเลยไปจึงค่อยๆ หลบไปอีกมุม แต่แล้วเมื่อคลานหลบไปสักพักก็เจอกับเท้าของสตีเฟ่นมายืนขวางเอาไว้ พร้องกับปืนจ้องมาที่เขา
“สตีเฟ่น แก...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่างน้อยฉันก็ เคยทำงานกับพ่อแกมาก่อนนะ”
“ใช่...แล้วแกก็ขโมยทุกอย่างไปจากพ่อฉัน รวมทั้งข้อมูลของทับทิมสยาม”
“แต่...ว่าทับทิมสยามเป็นของคนไทย ถ้ามันมีค่ามากกว่าการเป็นเครื่องประดับ ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะรู้”
“แกมันคนโลภเนรคุณ แกคิดจะชิงตัดหน้าการค้นพบของพ่อฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้”
“แล้วพ่อแกค้นพบอะไร”
“เรื่องนี้แกต้องไปถามพ่อฉันเอง...ไป”
ดร.วิทยาค่อยๆ ลุกขึ้นสตีเฟ่นเล็งปืนไว้ตลอดเวลา
“เดินไป”
“แต่ฉันเจ็บขา”
“เดิน” สตีเฟ่นตวาด
“แต่ขา...โอ๊ย...”
ดร.วิทยาแกล้งก้มลงไปกุมข้อเท้า ขณะที่สตีเฟ่นก้มลงมามอง เมื่อได้จังหวะ ดร.วิทยาก็ถีบอย่างแรงจนสตีเฟ่นล้มลง จากนั้นก็คว้าไม้มาฟาดสตีเฟ่นแล้วก็วิ่งหนีไป สตีเฟ่นหันไปคว้าปืนแล้วยิงไล่หลังถูกดร.วิทยาที่แขน ล้มลง สตีเฟ่นตามไปแล้วจับให้ลุกขึ้น
“นี่ถ้าพ่อไม่สั่งมาว่าให้จับเป็น ฉันฆ่าแกไปแล้ว...ลุกขึ้น”
ดร.วิทยาค่อยๆ ลุกขึ้น ขณะที่เลือดไหลเป็นทาง สตีเฟ่นเอาปืนจ่อที่หลังบังคับให้เดิน
+ + + + + + + + + + + +
ราฮีมต่อสู้อยู่กับเจ้าพ่ออินทร์ โดยอาศัยหมัดต่อหมัด ราฮีมมีลูกน้องมาช่วยอีก 2 คน...ดอนกับเดี่ยว
ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ในพุ่มไม้
“ถ้าเราน่าจะไปช่วยเจ้าพ่ออินทร์นะเดี่ยว”
“ตอนนี่เรา ก็คงช่วยอะไรไม่ได้”
“ฉันทนไม่ได้ที่เห็นพวกมันมาทำร้ายเจ้าพ่ออินทร์”
“เราต้องอดทนนะดอน...ทำตัวให้กลมกลืนกับพวกมันจนกว่าภารกิจของเราจะสำเร็จ”
เจ้าพ่ออินทร์เก็บลูกน้องราฮีมลงได้ แล้วเข้าเล่นงานราฮีมจนพลาดท่าเสียที สักครู่ เสือสนธิ์ ฮวง นั้ม ก็นำลูกน้องเข้ามาทำให้ราฮีมตกอยู่ในวงล้อม ดอนมองอยู่หันไปหาเดี่ยว
“เอาไงคุณเดี่ยว”
“ถ้าจะให้พวกมันซื้อใจก็ตอนนี้แหละ”
ดอนและเดี่ยวออกจากที่ซ่อน เพื่อไปช่วยราฮีมเพื่อทำตัวให้กลมกลืนเป็นพวกเดียวกัน
ขณะที่ราฮีมตกอยู่ในวงล้อม เสือสนธิ์เล็งปืนมาที่ราฮีม
“อย่าคิดสู้เด็ดขาด ไม่งั้นเอ็งตาย”
ราฮีมรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นรอง ค่อยๆ ยกมือขึ้นมา
“ไอ้นี่มันงูพิษ จัดการมันเลย” เจ้าพ่ออินทร์สั่งเสียงเข้ม
เสือสนธิ์ยกปืนขึ้นมาเตรียมยิง แต่แล้วดอนก็ยิงสกัด เสือสนธิ์กับพวกแตกกระจายหลบกันพัลวัน เดี่ยวรีบมาดึงให้ราฮีมให้ออกไป ขณะเดียวกันที่สตีเฟ่นก็พาตัว ดร.วิทยาเข้ามาแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้สถานะการณ์เริ่มพลิก
“ถ้าอยากให้ไอ้ด็อกเตอร์นี่ตายก็ลองดู” สตีเฟ่นตะโกนขู่
ดร.วิทยาส่งเสียงขอความช่วยเหลือ
“เสือสนธิ์...เจ้าพ่ออินทร์ ช่วยผมด้วย”
“ด็อกเตอร์ไม่ต้องห่วง ผมไม่ปล่อยให้พวกมันทำอะไรด็อกเตอร์เด็ดขาด” เสือสนธิ์ตะโกนตอบ
มะโหนกและลูกน้องเข้ามาสมทบ สตี่เฟ่นส่ง ดร.วิทยาให้มะโหนกและลูกน้องอีกสองคนล็อกไว้แล้วเริ่มถอย สตีเฟ่นและพวกลากตัวดร.วิทยาถอยไปเรื่อยๆ เสือสนธ์ ทำท่าจะตามไปแต่เจ้าพ่ออินทร์ห้ามไว้
“อย่า...เสือสนธิ์”
“จะปล่อยมันจับด๊อกเตอร์ไปงั้นเหรอ อินทร์”
“ถ้าตามไปตอนนี้จะทำให้ด็อกเตอร์อยู่ในอันตราย”
“งั้นเราก็ตามมันไปห่างๆ”
“ดี...ตามไปอย่าให้มันรู้ตัวดีที่สุด”
เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ ฮวง นั้มและลูกน้องยืนมองกลุ่มของสตีเฟ่น ที่กำลังหายเข้าไปในป่า
+ + + + + + + + + + +
ยอดซุ่มมองเหตุการณ์อยู่ที่มุมหนึ่ง เห็นสตีเฟ่น ดอน เดี่ยว กับพวก พากันพาดร.วิทยาเดินป่าผ่านไป เดี่ยวรั้งท้ายเพื่อตรวจความเรียบร้อย เกรงจะโดนติดตาม ยอดซึ่งซุ่มดูอยู่รีบออกจากที่ซ่อนเพื่อเข้าไปหาเดี่ยว
“เดี่ยว ๆ”
เดี่ยวหันมาเห็นยอดรีบเข้าไปใกล้
“ฉัน เทอด กริ่ง มาตามหานาย”
เดี่ยวกำลังจะตอบ แต่หูของเขาได้ยินเสียงเดินของราฮีม ที่กำลังเดินมาหา จึงตัดสินใจทำบางอย่าง...เดี่ยวตะโกนขึ้น
“พวกมันอยู่นี่”
เดี่ยวชักปืนเล็งมาที่ยอด ทำให้ยอดชะงัก ไม่คาดคิดว่าเดี่ยวจะทำแบบนี้
“เดี๋ยวซิ นี่ฉันยอดไง...จำไม่ได้เหรอ”
“หนีเร็วมันมากันแล้ว” เดี่ยวกระซิบยอด
ราฮีมก้าวเข้ามา
“จัดการมันเลย”
เดี่ยวมองยอดซึ่งกำลังลังเล แล้วก็ตัดสินใจลั่นกระสุนปืนออกไป ยอดกระโดดหลบแล้ววิ่งออกไป รอฮีมยิงตามไล่หลัง
“คิดว่าจะหนีเหรอ”
เดี่ยวยิงออกไป เสียงปืนทำให้สตีเฟ่นและลูกน้องบางคนกลับมาดู
“มีอะไร”
“ผมเจอพวกมันอยู่ตรงนี้ แต่มันหนีไปแล้ว”
“ช่างมัน รีบกลับไปสมทบกับพวกเรา” สตีเฟ่นสั่ง
พวกของสตีเฟ่นพากันเดินกลับไป...ฮวง เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ นั้ม และคนอื่นเพิ่งเดินมาถึง
“ตามมันไปเร็ว” เจ้าพ่ออินทร์สั่ง
ทุกคนพากันตามไป
+ + + + + + + + + + + +
กลุ่มของสตีเฟ่น พากันเดินทางเพื่อเอาตัว ดร.วิทยากลับไปที่เจดีย์ ขณะที่ ดอนกับ เดี่ยว ทำหน้าที่รั้งท้ายคอยคุ้มกันไม่ให้กลุ่มของเสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์ติดตามมาได้
ทั้งหมดเดินทางมาถึงที่บริเวณเขตภาพลวงตา ทุกคนหยุดมองฟ้าเพื่อรอให้เมฆคลายตัวเพื่อให้เกิดเงาทอด ดร.วิทยาสงสัยแอบสังเกตุปฏิกริยาของทุกคน โดยเฉพาะสตีเฟ่น สักครู่ฟ้าก็เปิดเงาเจดีย์ทอดออกมา สตีเฟ่นรีบสั่ง
“เงาทอดมาแล้ว...ไปเร็ว”
ทุกคนพากันเร่งเดินไปตามเงาเจดีย์ที่ทอดไป โดยเฉพาะมะโหนกซึ่งประคอง ดร.วิทยา เอาไว้พยายามเร่งให้เดิน
“เร็วซิ”
“แต่ฉันเจ็บ”
“เจ็บก็ต้องทน ถ้าไม่อยากตายอยู่แถวนี้”
ทุกคนต่างพากันเดินผ่านเงาเจดีย์เข้าไป
ไม่นานัก กลุ่มของเจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ และพวก พากันตามมาจนถึงเขตภาพลวงตา เสือสนธิ์ เสียดายมาไม่ทัน พวกสตีเฟ่นเข้าไปในเจย์ดีย์แล้ว
“งั้นตามเข้าไป” เจ้าพ่ออินทร์บอก
ทุกคนขยับตามไปแต่พอจะเดินตามเข้าไป ฝูงปีศาจก็ปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวาง ทุกคนพากันยิงใส่ แต่ก็ไม่สามารถสกัดพวกปีศาจเหล่านี้ได้
“เราตามพวกมันเข้าไปไม่ได้แน่ พวกเราถอย” เจ้าพ่ออินทร์ตะโกนบอก
ทุกคนจึงพากันถอยออกไป
+ + + + + + + + + + +
เทอด กริ่งซุ่มอยู่มุมหนึ่ง ยอดวิ่งมาสมทบ
“ว่าไงยอด” เทิดถาม
ยอดหน้าสลดลง
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า เดี่ยวจะทำกับฉันอย่างนั้น”
กริ่งแปลกใจ
“เดี่ยวทำอะไรนาย”
“ตะโกนเรียกพวกมันให้มาจับฉัน...ฉันว่าเดี่ยวน่าจะเป็นพวกมัน”
“งั้นกลับไปถ้ำกันก่อน แล้วเราค่อยคุยกันเรื่องนี้” เทอดบอก
เทอด ยอด กริ่ง พากันเปิดประตูต้นไม้แล้วเดินเข้าไป
+ + + + + + + + + + + +
ร่างของดร.วิทยาถูกโยนมากองไว้ที่พื้นบริเวณหน้าเจดีย์ ดร.ฟอร์ดกับทุกคนยืนมอง
“สบายดีนะ ด็อกเตอร์วิทยา”
“ด็อกเตอร์ฟอร์ด...ช่วยผมด้วย ๆ” ดร.วิทยาอ้อนวอน
ดร.ฟอร์ดมองหยัน
“นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า”
“อย่าให้พวกมันทำอะไรผมนะครับด็อกเตอร์ฟอร์ด ช่วยผมด้วย”
“ได้...ฉันจะช่วยแก”
ขาดคำ ดร.ฟอร์ดก็ตบฉาดไปที่ใบหน้าดร.วิทยา
“แกขโมยความรู้ ขโมยทุกอย่างที่ฉันคิดไป เป็นของแกแม้แต่เรื่องทับทิมสยาม แกก็ยังไม่เว้น ไอ้หัวขโมย”
ดร.ฟอร์ดต่อย ดร.วิทยาไม่ยั้ง เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ นาตาชาเข้ามารั้งพ่อเอาไว้
“พอแล้วค่ะพ่อ เดี๋ยวมันตาย”
“พ่ออยากเห็นมันตาย คนอย่างมันต้องตายอย่างทรมาน ไอ้คนทรยศ”
ดร.ฟอร์ดเข้าทำร้าย ดร.วิทยาอีก นาตาชาห้ามไว้
“พอเถอะค่ะพ่อ”
ดร.ฟอร์ดหันไปสั่งลูกน้อง
“เอามันไปขังไว้ในเจดีย์ เฝ้ามันเอาไว้ อย่าให้มันเห็นเดือนเห็นตะวัน”
“ครับ”
ดร.วิทยา ถูกลากเข้าไปขังในเจดีย์ ดร.ฟอร์ดหันมาหาสตีเฟ่น
“เดี่ยว บอกว่าได้ทำลายเครื่องมือสื่อสารของพวกมันหมดแล้ว” สตีเฟ่นบอก
ดร.ฟอร์ดหันไปกวาดมองทุกคนอย่างชื่นชม
“ดีมากทุกคนทำได้ดีมาก” ดร.ฟอร์ดหันไปหาสตีเฟ่น “แกด้วยสตีเฟ่น งานนี้แกทำได้ดีมากลูกพ่อ”
สตีเฟ่นหันไปบอกลูกน้อง
“พวกแกไปพักผ่อนได้”
ดอน เดี่ยว มะโหนก และลูกน้องอื่นๆ พากันเดินแยกไป เหลือเพียงสตีเฟ่น รอฮีม ดร.ฟอร์ด นาตาชา
“คุณดอน คุณเดี่ยว ทำงานเป็นไงบ้างพี่สตีเฟ่น” นาตาชาถาม
“ก็ถือว่าโอเค อย่างน้อยมันก็ช่วยราฮีมเอาไว้”
ราฮีมพยักหน้ารับ
“ใช่ครับ ผมกำลังจะเสียที แต่พวกมันมาช่วยเอาไว้”
นาตาชายิ้มพอใจ
“เวทย์มนต์ของซัมดอง ได้ผล”
“แต่ยังไงก็อย่าประมาท พวกแกต้องคอยเช็กสัญญาณโทรศัพท์บ่อยๆ เราจะได้รู้ว่าพวกมันแอบติดต่อใครหรือเปล่า” ดร.ฟอร์ดกำชับ
นาตาชายิ้มรับ
“ไม่ต้องห่วงค่ะพ่อ สัญญาณโทรศัพท์พวกมันปกติ ยังไม่มีอะไรน่าสงสัย”
ดร.ฟอร์ดพยักหน้าพอใจ
+ + + + + + + + + + + +
เย็นวันนั้น...
กลุ่มของ เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ กำลังค้นหาของบางอย่างที่บริเวณแค้มป์
“ผมไม่แน่ใจว่า ดร.วิทยาเอาติดตัวไปด้วยหรือเปล่า” เจ้าพ่ออินทร์ถาม
“เราถูกโจมตีกระทันหันอย่างงั้น ดร.วิทยาคงไม่ทันที่จะเอาทับทิมสยามไปด้วยหรอก” เสือสนธิ์บอก
“งั้นก็ลองหาดู”
เจ้าพ่ออินทร์เข้าไปค้นหาในเต้นท์ของ ดร.วิทยาที่มุมหนึ่งห่างออกไป บัวชุมกับม่านฟ้ากำลังซุ่มแอบมองอยู่เงียบๆ
“ด็อกเตอร์วิทยาหายไปไหน” ม่านฟ้าถามเบาๆ
“เมื่อกลางวัน บัวชุมแอบตามไปดูพวกมัน เห็นไอ้ด็อกเตอร์ วิทยาถูกจับตัวไปแล้วค่ะคุณหนู”
“แล้วทับทิมสยามล่ะ” ม่านฟ้าถามอย่างกังวล
เจ้าพ่ออินทร์ หยิบหีบใส่ของขึ้นมาจากซากเศษที่หักพัง
“เสือสนธิ์ เจอแล้ว...นี่ไง”
เสือสนธ์และเจ้าพ่ออินทร์ ช่วยกันเปิดหีบใส่ทับทิมสยามแล้วหยิบออกมา ทับทิมสยามสีแดงส่องประกายสะท้อนแสงแวววาว เสือสนธิ์ยิ้มพึงใจ
“งดงามมากข้าไม่เคยเห็นทับทิมสยามที่ไหน งามเหมือนเม็ดนี้เลย”
เจ้าพ่ออินทร์มองอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ประกายแสงงดงาม บ่งบอกถึงคุณค่าของมัน”
“เราต้องเก็บทับทิมสยามเม็ดนี้เอาไว้ให้ดี จนกว่าจะช่วยด็อกเตอร์วิทยาได้”
เจ้าพ่ออินทร์มองทับทิมสยามอย่างมุ่งมั่น
“ผมจะดูแลทับทิมสยาม เม็ดนี้อย่างดี ไม่ให้ใครมาแตะต้องเป็นอันขาด”
“นี่ก็เย็นมากแล้ว คืนนี้เราพักกันที่นี่กันอีกคืน...พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ”
เสือสนธิ์บอกให้ลูกน้องทุกคนไปพัก
+ + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...
บริเวณที่พักของกลุ่ม เสือสนธ์ เจ้าพ่ออินทร์ มีเวรยามเพียงแค่ 2 คน ขณะที่ส่วนใหญ่จะเข้าเต้นท์นอนกันเกือบหมด
มุมหนึ่งห่างออกไป ม่านฟ้าและบัวชุม อยู่ในชุดปกปิดใบหน้าอย่างทะมัดทะแมง แอบซุ่มอยู่ไม่ห่างนัก ม่านฟ้าหยิบไม้ซางออกมา แล้วใส่ลูกดอกยาสลบ จากนั้นก็เป่าไปที่ลูกน้องคนหนึ่งที่อยู่ยาม สักครู่ยามก็ค่อยๆ ง่วงซึมแล้วสลบไป บัวชุมพยายามเป่าลูกดอกไปใส่ยามอีกคน ในครั้งแรกพลาดเป้าไปเล็กน้อย แต่เมื่อพยายามอีกครั้งก็สำเร็จ เมื่อยาม 2 คนสลบไปแล้ว ม่านฟ้า และบัวชุมก็ออกจากที่ซ่อน ตรงมาที่กองไฟ
“คุณหนูเอาผงลิงหลับ โรยที่ไม้เลยค่ะ แล้วช่วยกันเอาไปรมตามเต้นท์ พวกมันจะได้ไม่ตื่น”
“จะถึงตายมั๊ยพี่บัวชุม” ม่านฟ้าถามหวั่นๆ
“ไม่หรอกค่ะ ก็แค่ตื่นยากกว่าเดิม แต่คุณหนูระวังอย่าสูดควันเข้าไปก็แล้วกัน บัวชุมขี้เกียจแบก”
“ระวังตัวเองเหอะ”
สองคนเอาผงยาลิงหลับ โรยใส่ไม้ที่มีควัน เพื่อให้คนที่สูดควัญหลับลึกยิ่งขึ้น ม่านฟ้าและบัวชุมแยกย้ายกันเอาควันไปรมคนที่นอนหลับตามแผนที่วางไว้แล้วสักครู่ก็เดินไปดูตามเต้นท์ต่างๆ จนกระทั่งบัวชุมเดินมาที่เต้นท์เจ้าพ่ออินทร์ที่นอนหลับ
“คุณหนู...พี่บัวชุมว่าต้องอยู่กับเจ้าพ่ออินทร์คนแน่ๆ”
ม่านฟ้าเดินมาสมบทบกระซิบ
“พี่บัวชุมดูต้นทางที่นี่ ฉันจะเข้าไปเอง”
ม่านฟ้าย่องเข้าไปในเต้นท์แล้วเริ่มค้นหาตามมุมต่างๆ แต่ไม่มีจึงเข้ามาตรงที่นอนซึ่งเจ้าพ่ออินทร์หลับอยู่ แต่เจ้าพ่ออินทร์พลิกตัวหันมาพอดี ม่านฟ้าหยุดนิ่งชักมีดเตรียมพร้อม สักครู่เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นม่านฟ้าจึงเข้าไปที่หมอนแล้วคลำดูจนกระทั่งพบทับทิมสยามสีแดง ซึ่งซ่อนเอาไว้ใต้หมอนนั่นเอง
ม่านฟ้าค่อยๆดึงทับทิมสยามออกมาอย่างเบามือ ขณะที่เจ้าพ่ออินทร์พลิกตัวมาทับมือม่านฟ้าเอาไว้ บัวชุมมองเห็นจึงค่อย ๆ ย่องเข้ามา แล้วช่วยม่านฟ้าดึงมือออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ บัวชุมจึงหาทางทำให้เจ้าพ่ออินทร์พลิกตัว โดยให้หญ้าแหย่เข้าไปในหูเพื่อให้เจ้าพ่ออินทร์พลิกตัวแล้วที่สุดเจ้าพ่ออินทร์ก็พลิกตัวม่านฟ้าดึงทับทิมสยามออกมาได้สำเร็จแต่แล้ว บัวชุมกลับโดนเจ้าพ่ออินทร์เอามือมากอดเอาไว้
“ไปเร็วพี่บัวชุม”
บัวชุมส่ายหน้า
“ไปไม่ได้ค่ะ”
ม่านฟ้าเห็นจึงเข้าไปช่วย บัวชุมพยายามยกแขนและขา ของเจ้าพ่ออินทร์ที่มาก่ายเอาไว้แล้วที่สุดก็หลุดออกมา บัวชุมหันมาค้อนเจ้าพ่ออินทร์
“ไม่สวยก็เลือกนะยะ...ขอโทษ”
บัวชุมรีบออกไปกับม่านฟ้า ทั้งคู่วิ่งหายเข้าป่าไป
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป