xs
xsm
sm
md
lg

เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 9
 

3 ปีต่อมา...
 

ค่ำคืนหนึ่ง...กระเป๋าสะพายสภาพเก่าๆ ถูกโยนลงมาที่หลังประตูรั้วบ้าน ไม่นานนักฟ้าลดาในชุดกางเกงยีนต์เซอร์ๆ โดดข้ามกำแพงตามมา....

แหวนนอนหลับอยู่ภายในห้องคนใช้ด้านหลัง พลันมีเสียงแปลกๆอยู่ที่ประตู แหวนสะดุ้งตื่น เสียงนั้นยังดังอย่างต่อเนื่อง แหวนหน้าตื่น
“เสียงอะไร??”
แหวนมองไปที่ประตู เห็นเงาคนเดินผ่านใต้ช่องประตูหน้าห้อง แหวนผงะ
แหวนตะโกนถาม
“นั่นใคร!!”
ไม่มีเสียงตอบ เงาหน้าห้องหายไป แหวนเปิดไฟ หยิบไฟฉายอันใหญ่ที่วางตรงหัวเตียงขึ้นมา แล้วเดินออกไป
แหวนเปิดประตู หันไปมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร กระชับไฟฉายในมือแน่น เดินออกมา ทันใดนั้นมีคนมาปิดปากแหวน แหวนตาเหลือก แทบจะหมดแรงยืนลงไปตรงนั้น
ฟ้าลดาดัดเสียงแหบ

“ถ้าไม่อยากตาย ก็อย่าส่งเสียง”
แหวนเงียบหน้าตื่นกลัว
“เข้าใจที่ฉันพูดมั๊ย!!”
แหวนรีบพยักหน้า
“ดีมาก หันหน้ากลับมาช้าๆ”
แหวนกลัวสุดๆ ฟ้าลดาเอามือออกจากปากแหวน แหวนหันมาสีหน้าหวาดกลัวมาก แล้วก็ชะงัก
“คุณฟ้า!!”
ฟ้าลดายิ้มแฉ่ง แหวนกระโดดกอดฟ้าลดาด้วยความดีใจ
“เย้!! คุณฟ้ากลับมาแล้ว”
ฟ้าลดากอดแหวน ยิ้มไม่หุบแล้วก็ผละออกมาจากแหวน
“แหวนจ๋า ทำบะหมี่ให้ฟ้ากินหน่อยซิ”

+ + + + + + + + + +

ฟ้าลดานั่งซดบะหมี่ไม่หยุด ชมพูแพรนั่งลงตรงข้าม ขณะที่มีป้าเนียมกับแหวนยืนอยู่ด้วย

“เรานี่ชักจะพิเรนทร์ใหญ่แล้ว ปีนเข้าบ้านตัวเองเนี่ยนะ ทำอะไรยากไปรึเปล่าห๊ะฟ้า!” ชมพูแพรบ่น
ฟ้าลดากินไปพูดไป
“แหม..ก็ฟ้าอยากเซอร์ไพร์สนี่คะ ถึงไม่ได้โทรบอกว่าจะกลับมา”
“ระวังเถอะจะเซอร์ไพร์สซะเอง ถ้าเกิดตกลงมากระดูกกระเดี้ยวหักจะทำยังไง พี่มีน้องสาวคนเดียวนะ” ฟ้าลดาหันไปทางป้าเนียม
“ป้าเนียมดูพี่แพรซิคะ ฟ้าชักไม่แน่ใจแล้วว่าพี่แพรเป็นแม่ หรือเป็นพี่สาวของฟ้ากันแน่”
ป้าเนียม กับแหวนอมยิ้ม
“ยัยฟ้า!!”

ชมพูแพรหน้างอ ฟ้าลดารีบลุกไปกอด
“อย่าดุฟ้าเลยนะพี่แพร ฟ้าขอโทษ”
ชมพูแพรหันมาเห็นฟ้าลดาทำหน้าหมูใส่ก็หายโกรธ หัวเราะออกมา ป้าเนียมกับแหวนพลอยหัวเราะไปด้วย
ชมพูแพรจับหัว
“เรานี่นะจริงๆเลย แล้วไหนล่ะกระเป๋าเสื้อผ้า”
ฟ้าลดาเอาย่ามขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“นี่ไงคะ”
“แค่เนี้ยเหรอ ไปสามปี ไม่มีสมบัติอะไรกลับมาเลย”
“ฟ้าเอาไปแค่ไหน ก็เอามากลับมาแค่นั้นแหละค่ะ”
ฟ้าลดายิ้ม แล้วก็หยิบชามบะหมี่มากินต่อ ชมพูแพรส่ายหัวกับความง่ายๆของน้องสาว

+ + + + + + + + + + + +

ฟ้าลดากระโจนลงเตียงที่ยังไม่มีผ้าคลุมเตียง ชมพูแพรตามเข้ามา
“นอนเข้าไปได้ยังไง ฝุ่นทั้งนั้น”
ฟ้าลดาลุกขึ้นนั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ อยู่ที่นั่นยิ่งกว่านี้ฟ้าก็นอนมาแล้ว ยังเคยไม่อาบน้ำตั้งสามวัน”
“เหลือเกินนะเราน่ะ”
ฟ้าลดาอมยิ้ม
“ฟ้า..พี่ว่าฟ้าไปอยู่บ้านหลังใหญ่กับพี่ดีกว่า บ้านนี้เก่ามากแล้ว”
“ถึงมันจะเก่าจะโทรมยังไง แต่ฟ้าก็รักมันค่ะ พี่แพรให้ฟ้าอยากอยู่บ้านหลังนี้นะคะตามใจฟ้านะ” ฟ้าลดาเข้ามาอ้อนคลอเคลีย “นะคะพี่สาวคนสวย”
ชมพูแพรใจอ่อน

“ไม่ต้องมายอ พี่เคยขัดใจเราด้วยเหรอ”
ฟ้าลดายิ้มดีใจ กอดชมพูแพร
“พี่แพรเป็นพี่สาวที่ใจดีที่สุดในโลกเล้ยยย”
ชมพูแพรยิ้ม แล้วก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาในห้อง ชมพูแพรตกใจรีบผละออกมา
“ตายจริง! ตีสามแล้วเหรอเนี่ย พรุ่งนี้พี่มีนัดสำคัญแต่เช้าซะด้วย”
ฟ้าลดายิ้มกริ่ม
“นัดดูฤกษ์แต่งงานกับพี่หมอรึเปล่าคะ”
“ไม่ใช่จ๊ะ พรุ่งนี้พี่มีนัดกับมิสเตอร์ไมเคิล ท่านประธานของสายการบินเซเว่นซี สายการบินที่เราร่วมทุนด้วย”
“ถ้างั้นพี่แพรรีบไปนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่สวย” ฟ้าลดากอดและหอมแก้ม “กู๊ดไนท์ค่ะ”
“กู๊ดไนท์จ๊ะ”
สองพี่น้องกอดกัน แล้วชมพูแพรก็ออกไปจากห้อง ฟ้าลดาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงสีหน้ามีความสุขที่ได้กลับบ้าน

+ + + + + + + + + + + +

ขณะที่เครื่องบินมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย...
 

แอร์โฮสเตสฝรั่งเดินมาหาสายชล ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“Excuse me sir”
สายชลลดหนังสือพิมพ์ลงมา
“In 1 hour , We’ll arrive to Thailand”
สายชลพยักหน้า ลุกขึ้นยืน หันไปพบสหัส ผู้ช่วยของเขาที่ยืนรออยู่แล้ว สหัสส่งชุดให้ สายชลรับมาแล้วเดินไปแต่งตัว เตรียมตัวที่จะไปทำงานแทนไมเคิล

+ + + + + + + + + + + +

ที่บริษัท...
 

ชมพูแพรยืนดูช่อดอกไม้ ที่ตกแต่งอยู่บนโต๊ะสีหน้าไม่พอใจ หันมาทางวันดี เลขาที่ยืนหน้าเสียอยู่
“ทำไมถึงใช้ดอกไม้สีนี้!? นี่เป็นสีของคู่แข่งเรา เอาไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้!!”
วันดีเหรอหรา
“แต่นี่ใกล้เวลาที่ท่านประธานจะมาแล้ว ดิฉันจะไปหาเปลี่ยนที่ไหนทันล่ะคะ”
“ฉันไม่รู้ นี่มันเป็นหน้าที่ของเธอ ไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่ต้องคิด”
ชมพูแพรหัวเสีย วันดีจ๋อย ชมพูแพรหันไปเห็นน้ำเลอะที่พื้น
ชมพูแพรฉุนมากขึ้น
“นั่นน้ำอะไร?!!”
วันดีเสียงสั่น
“ไม่ทราบค่ะ”
“ไม่ทราบก็ให้แม่บ้านมาเช็ดซิ โอ๊ย..ฉันอยากจะบ้าตายกับเธอจริงๆ เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้”
ชมพูแพรจ้ำเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด พนักงานคนอื่นยืนตัวเกร็งด้วยความกลัว

+ + + + + + + + + + +

เมื่อกลับมาที่ห้องทำงาน ชมพูแพรคุยมือถือกับหมอวัฒนาอย่างเครียดๆ
“อะไรๆ ก็ไม่พร้อมสักอย่าง ไม่มีใครช่วยแพรดูสักคน”
หมอวัฒนาเดินไปคุยมือถือไป
“ใจเย็นก่อนครับแพร ตั้งแต่โทรมาคุณบ่นไม่หยุดเลยนะ”
“แพรลนไปหมดแล้วนี่คะพี่หมอ”
“แพรทำได้อยู่แล้ว เชื่อผมซิ”
ชมพูแพรถอนหายใจ
“ครั้งนี้แพรตื่นเต้นมากเลยค่ะ มิสเตอร์ไมเคิลเป็นนักธุรกิจที่เก่งมาก ต้องเอาใจยากแน่ๆ”
“อย่าเพิ่งคิดไปล่วงหน้าสิครับ ตั้งใจ แล้วก็มั่นใจในตัวเอง ผมรับรองว่าทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี สู้สู้”
ชมพูแพรยิ้มอย่างสบายใจขึ้น
“สู้ สู้ค่ะ”
“เย็นนี้หลังเลิกงาน เราไปทานข้าวด้วยกันนะครับ ชวนน้องฟ้าไปด้วย”
“ได้ค่ะ”
หมอวัฒนาวางสาย หยิบกล่องแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยิ้มแววตาเป็นประกายอย่างมีความสุข เพราะคิดว่าถึงเวลาที่จะขอชมพูแพรแต่งงานแล้ว

+ + + + + + + + + + + +

ด้านหน้าบริษัท...
 

รถเบนซ์สีดำแล่นเข้ามา ขณะที่ชมพูแพรยืนรอกับพนักงานคนอื่น มองรถที่กำลังแล่นเข้ามาอย่างตื่นเต้น ไม่นานรถก็มาจอดด้านหน้าประตูทางเข้า
สหัสลงจากรถฝั่งข้างคนขับ รีบมาเปิดประตูด้านหลังฝั่งเดียวกับคนขับ ไม่นานสายชลก้าวขาออกมา ทำเอาชมพูแพรกับพนักงานสาวๆตะลึงอึ้งในความหล่อ ชมพูแพรมองสายชลแปลกใจ สายชลขยับสูท เดินมาตรงหน้าชมพูแพรพร้อมกับสหัส
“นี่คือ คุณชาร์ล แมคโครวิท ลูกชายของมิสเตอร์ไมเคิล และเป็นท่านประธานคนใหม่ของเซเว่นซีครับ” สหัสแนะนำ
ชมพูแพรชะงัก สายชลก้มศีรษะให้ชมพูแพรน้อยๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณชมพูแพรครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก และได้ร่วมงานกันค่ะ”
ชมพูแพรยื่นมือออกไป สายชลสัมผัสแค่ปลายมือของชมพูแพร แค่นั้นก็ทำให้ชมพูแพรใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก สายชลค้อมศีรษะให้ชมพูแพรพลางยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ ชมพูแพรนิ่งเงียบไปสองสามวินาที จนสายชลแปลกใจ
“คุณชมพูแพรครับ”
ชมพูแพรได้สติรีบดึงมือออกจากมือสายชล
“เชิญข้างในดีกว่าค่ะคุณชาร์ล”

ชมพูแพรหมุนตัวจะเดินไป แต่กลับทรงตัวไม่อยู่ เซจะล้ม สายชลรีบเข้ามาโอบเอวประคองรับชมพูแพรไว้อย่างนุ่มนวล ชมพูแพรหันไป...หน้าเธอห่างจากเขาไม่ถึงคืบ หญิงสาวหน้าแดงซ่านเมื่อถูกพยุงให้ลุกขึ้นยืน
“เป็นไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ชมพูแพรพยายามตั้งสติ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษนะคะ น่าอายจังเลย”
“ไม่เป็นไรครับ”
สายชลผายมือให้ ชมพูแพรเดินนำเข้าไป ทุกคนจึงตาม...

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรพาสายชล กับสหัสเข้ามาในห้องทำงาน หลังจากที่พาไปทำความรู้จัก กับแผนกต่างๆของบริษัท
“นี่เป็นห้องทำงานของคุณชาร์ลค่ะ ถ้าไม่ถูกใจ จะตกแต่งใหม่ก็ได้นะคะ”
“ผมพอใจครับ ขอบคุณมากนะครับคุณชมพูแพร”
ชมพูแพรยิ้มให้น้อยๆ สายชลมองไปรอบๆห้อง แล้วก็เดินมาตรงหน้าชมพูแพร
“ถ้าคุณมีปัญหาอะไร โทรหาแพรได้ตลอดเวลานะคะ”
“ครับ”
“แล้วก็เรียกแพรว่าแพรเถอะค่ะ เราจะได้คุ้นเคยกันมากขึ้น”
“ได้ครับคุณชมพูแพร”
ชมพูแพรชะงัก สายชลยิ้ม เพราะแกล้งแหย่ แล้วเรียกตามที่เธอต้องการ...
“คุณแพร”

ชมพูแพรยิ้มพอใจ
“เออ คุณแพรครับ...ไม่ทราบว่าโรงแรมคุณ มีห้องว่างให้เช่าแบบถาวรมั๊ยครับ คือผมยังไม่มีที่อยู่ในกรุงเทพ”
ชมพูแพรนึกอะไรได้ขึ้นมา
“แพรว่าถ้าคุณคิดจะหาที่อยู่แบบถาวร แพรแนะนำให้เช่าบ้านดีกว่าค่ะ สนใจมั๊ยคะ”
“สนใจซิครับ เย็นนี้ช่วยพาผมไปดูได้มั๊ยครับ”
“เย็นนี้เหรอคะ” ชมพูแพรนึกได้ว่ามีนัดกับหมอวัฒนา
“ถ้าคุณไม่ว่าง ไม่เป็นไรนะครับ”
“ว่างค่ะ ถ้ายังไงเย็นนี้เจอกันนะคะ”
สายชลพยักหน้า
ชมพูแพรมองสายชลแววตาเป็นประกาย สหัสมองชมพูแพรด้วยความสงสัย

+ + + + + + + + + + + +

ป้าเนียมกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ฟ้าลดาเข้ามากอดหมับจากด้านหลัง ป้าเนียมตกใจหันไป
“คุณฟ้า! ป้าตกใจหมดเลย”
“นึกว่าเป็นหนุ่มมากอดเหรอคะ”
“คุณฟ้านี่ พูดอะไรก็ไม่รู้ ป้าปูนนี้แล้วนะคะ”
“ฝรั่งอายุเท่าป้า แต่งงานกับหนุ่มคราวลูกตั้งเยอะแยะนะคะ”
“ไม่เอาหรอกค่ะ อยู่คนเดียวสบายใจกว่า หิวมั๊ยคะ อยากทานอะไร เดี๋ยวป้าทำให้”
“ไม่ล่ะค่ะ ฟ้านัดเพื่อนเอาไว้ ฟ้าไปก่อนนะคะ”
ฟ้าลดาหอมแก้มป้าเนียมแล้วก็เดินออกไป ป้าเนียมยิ้ม แล้วก็หันมาทำครัวต่อ ขณะที่ ฟ้าลดาเดินไปที่ลานจอดรถ เปิดผ้าคลุมรถมินิออก
“ไม่ได้เจอกันซะนาน ออกไปซิ่งกันหน่อยนะ”
ฟ้าลดาตบหลังคารถ เปิดประตู สตาร์ท แล้วซิ่งออกไป...

(อ่านต่อหน้า 2 )





เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 9 (ต่อ)
 

เมื่อชมพูแพรออกจากห้องทำงานไป สายชลจึงโทรศัพท์ไปหาไมเคิล

“ผมถึงกรุงเทพฯแล้วครับพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดี โอเค..บ๊าย”
สายชลวางสายหันไปทางสหัสที่ยืนมองสายชล
“นายมองฉันมานานแล้วนะสหัส มีอะไรก็พูดมา”
สหัสยิ้ม
“ผมว่าคุณชมพูแพรมีท่าทีสนใจคุณนะครับ” สายชลชะงัก “ผมพูดจริงๆนะครับ ไม่แน่มาเมืองไทยคราวนี้คุณอาจจะมีแฟนกับเขาซักที”
“เคยมีคนบอกมั๊ยว่านายพูดมาก”
สหัสเงียบ
“เอากุญแจรถมา”
“คุณจะไปไหนครับ”
“ฉันจะออกไปขับรถเล่นชมเมืองซักหน่อย งานยังไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ”
สายชลกระดิกนิ้ว สหัสจำต้องเอากุญแจรถให้สายชล สายชลรับมาแล้วเดินออกไป

+ + + + + + + + + + +

ขณะที่ฟ้าลดาขับรถไป เธอร้องเพลงลั่นรถอย่างสบายอารมณ์ ฟ้าลดาขับแซงรถทุกคัน แล้วมาขับต่อท้ายรถสายชลที่ขับช้ามาก เพราะไม่ได้รีบร้อนไปไหน ต้องการขับรถเที่ยวเท่านั้น
ฟ้าลดาเปิดไฟสูงไล่เพราะแซงไม่ได้ สายชลไม่ได้สนใจมอง ฟ้าลดาหัวเสีย

“ขับช้าแล้วทำไมไม่ชิดซ้ายนะ บ้าเอ๊ย!!”
ฟ้าลดาบีบแตรไล่ไม่หยุด สายชลมองกระจกหน้า ไม่พอใจ
“รีบนัก ก็แซงไปซิ”
บ่นแล้ว สายชลแกล้งขับช้าลงกว่าเดิม
ฟ้าลดาหัวเสีย เห็นเลนข้างๆไม่มีรถพอดี เลยหักพวงมาลัยแซงมาข้างๆ สายชลหันไปเห็นรถคันนั้นขับมาข้างๆ ก็เร่งแซงขึ้นไป รถทั้งสองคัน ขับแข่งกันไปบนถนน

สายชลปาดหน้ารถฟ้าลดาไปมา ยิ่งทำให้ฟ้าลดายัวะ จึงแกล้งทำเป็นจะออกขวา สายชลเบนรถออกมา แต่ฟ้าลดากลับหักพวงมาลัยออกมาทางซ้ายแล้วขับมาขนาบข้าง สายชลหันไปมองด้วยความโมโหที่เสียรู้
ฟ้าลดาเห็นถนนไม่มีรถ เลยขับมาขวางหน้ารถสายชลที่ต้องเบรกเอี๊ยดด้วยความตกใจ ไม่นานกระจกรถฟ้าลดาเปิด ฟ้าลดาเชิดหน้าใส่ พร้อมยักคิ้วท้าทาย ทำเอาสายชลอึ้ง ตกตะลึง แทบช็อค
“นางฟ้า!!!”
ฟ้าลดาปิดกระจก แล้วก็ขับรถออกไป
สายชลยังอึ้งไม่หาย จนรถคันหลังบีบแตรจึงได้สติ หันไปมองตามรถฟ้าลดาที่เลี้ยวไป แล้วก็รีบขับตามไปทันที
สายชลขับรถตามหาฟ้าลดา พลางสอดส่ายสายตามองไปสองข้างทาง แล้วก็เห็นรถของฟ้าลดาจอดอยู่ในลานจอดรถของห้างฯ ที่ติดริมถนน สายชลจำได้ทันที รีบเลี้ยวรถเข้าไป

+ + + + + + + + + + + +

เมื่อฟ้าลดาไปถึงร้านอาหาร ที่นัดกับเจมส์ และธงไทย สองหนุ่มเพื่อนสนิทที่แข่งกันจีบเธอมานานแล้ว เมื่อไปถึงก็พบว่าเจมส์มารออยู่แล้ว โผเข้ามาจะกอดฟ้าลดา
“ฟ้า”
ฟ้าลดารีบเอามือยันตัวเจมส์ไว้
“หยุด!!” เจมส์เบรคแทบไม่ทัน ”ที่นี่ประเทศไทย”
เจมส์เซ็ง
“แล้วมันต่างกันตรงไหน จะประเทศไทย หรือ ต่างประเทศ ฟ้าก็ไม่ให้เราทำแบบนี้”
ฟ้าลดาตบหัวเบาๆ
“รู้แล้วยังจะทำอีก”
เจมส์นั่งลงถอนใจ
“โธ่ฟ้า..ฟ้าจะทรมานใจเราไปถึงไหน สามปีแล้วนะ ที่เราตามจีบฟ้า”
ฟ้าลดานั่งลงข้างๆ
“ก็สามปีแล้วเหมือนกันที่ฉันบอกแกว่า “เราเป็นเพื่อนกัน”
เจมส์ถึงกับตัวเหี่ยว ฟ้าลดาอมยิ้ม ระหว่างนั้นเสียงธงไทยดังขึ้น
“ฟ้าของไทยจ๋า”
ฟ้าลดากับเจมส์ หันไปเห็นธงไทยที่ยิ้มร่าถลาเข้ามานั่งข้างฟ้าลดา จับมือฟ้าลดาข้างหนึ่งขึ้นมากุมแน่น เจมส์มองไม่พอใจ

“ไทยว่าฟ้าเปลี่ยนที่นั่งดีมั๊ยจ๊ะ”
ฟ้าลดางง
“แล้วแกจะให้ฉันไปนั่งไหน”
“ก็เข้ามานั่งในใจไทยยังไงล่ะจ๊ะ ฮิ้วววว”
เจมส์ทำหน้าเลี่ยน ฟ้าลดาตีมือธงไทยเพียะ! เจมส์อมยิ้มสะใจ
“โอ๊ย!” ธงไทยสะดุ้งรีบปล่อยมือ “ฟ้าอ่ะ สงสัยจะไม่มีญาติเป็นสไปเดอร์แมน”
“มันเกี่ยวไรกับสไปเดอร์แมน”
“ฟ้าถึงไม่มีเยื่อใยกับไทยเลยไงล่ะ ฮิ้วววว”
ฟ้าลดาหน้าเบ้
เจมส์สุดทน
“น้ำเน่า!”
“ถึงฉันจะน้ำเน่า แต่ในน้ำเน่าของฉันก็ยังเห็นเงาจันทร์นะครับไอ้คุณเจมส์ ไม่เหมือนคุณหรอกครับ ทื่อบื๊อน่าเบื่อไม่มีอะไรให้เร้าใจซักนิด”

เจมส์แกล้งทำเป็นจะชก
“งั้นเจอซักหมัดมั๊ย แกจะได้รู้ว่าฉันเร้าใจรึเปล่า”
ธงไทยรีบหลบหลังฟ้าลดา
“เว๊ยยย! ฟ้าช่วยเขาด้วย เขากลัววววว!”
ฟ้าลดาผละออกจากธงไทย
“เลิกเล่นกันได้แล้ว เป็นงานเป็นการซักที ข่าวดีของแกสองคนคือไร?”
เจมส์กับธงไทยหันไปยิ้มให้ฟ้าลดา พร้อมกับแย่งกันบอกว่าเจ้านายอยากพบ ฟ้าลดาตื่นเต้นดีใจมาก
“พี่วี เจ้าของฟิล์มแฟลช โปรดักชั่นเฮ้าส์อยากเจอฉัน?!!”
เจมส์กับธงไทยยิ้มพร้อมพยักหน้า
“อื้อ พี่วีดูพอร์ทของฟ้าแล้วสนใจมาก ก็เลยอยากนัดเจอฟ้าที่กองถ่ายโฆษณาวันพรุ่งนี้ ฟ้าว่างรึเปล่า” เจมส์
“ว่างซิ ว่างทั้งวันเลย”
“ในที่สุดเราก็จะได้ทำงานที่เดียวกัน แล้วอีกไม่นานเราก็จะได้แต่งงาน มีลูก มันช่างเป็นชีวิตที่มีความสุขสดชื่น..น..น อะไรอย่างนี้ เฮอะๆๆ”

ฟ้าลดาเขกหัวธงไทยที่พูดพล่าม
”โอ๊ย!!! เขาเจ็บนะตัวเอง”
“จะได้รู้ไงว่าไม่ได้ฝันอยู่”
ธงไทยจับหัวด้วยความเจ็บ เจมส์กับฟ้าลดาพากันหัวเราะ

+ + + + + + + + + + + +

ฟ้าลดา เจมส์ ธงไทย ออกมาจากร้านกาแฟด้วยกัน เจมส์หันมาบอก
“พรุ่งนี้เราไปรับฟ้าที่บ้านนะ”
ฟ้าลดายังไม่ทันตอบ ธงไทยก็พูดขัดขึ้น
“เฮ้ยไม่ได้ เพราะฉันตั้งใจไว้แล้วว่าฉันจะไปรับฟ้า”
“แกจะมารับฟ้าได้ไง แกมีงานที่หัวหินไม่ใช่เหรอ”
ธงไทยนึกได้
“เออจริง โธ่เว๊ย!! ครั้งนี้ฉันยอมให้แกทำประตูขึ้นนำก่อนก็ได้วะ”
ฟ้าลดาน้ำเสียงวีนเล็กน้อย
“นี่ นี่ นี่”
สองหนุ่มหันมา
“ฉันไม่ใช่ฟุตบอลนะ จะได้แข่งกันทำประตู”
เจมส์กับธงไทยยิ้มแหยๆ
“แกสองคนรอฉันตรงนี้”
เจมส์ธงไทยพูดพร้อมกัน
“ฟ้าจะไปไหน?”
“ฉันจะไปห้องน้ำ”
สองหนุ่มผงะ
“จะไปด้วยมั๊ย”

เจมส์กับธงไทยพูดพร้อมกัน
“ไม่จ๊ะ”
ฟ้าลดายิ้มๆ แล้วเดินออกไป เจมส์กับธงไทยหันมาเขม่นกันต่อ
ทางเดินอีกด้าน...
สายชลเดินมองหาฟ้าลดาในหมู่คน เมื่อเห็นด้านหลังผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนฟ้าลดามาก สายชลรีบวิ่งแหวกฝูงชนไปหาผู้หญิงคนนั้น
สายชลคว้าไหล่ให้หันมา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง แต่ไม่ใช่ฟ้าลดา...ผู้หญิงตกใจ สายชลก็ตกใจรีบปล่อยมือ
“ขอโทษครับ ผมจำคนผิด”
ผู้หญิงพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไป ด้านหลังเห็นฟ้าลดาเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำ สายชลหันไปพอดีเลยไม่เห็น สายชลกวาดตามองไปรอบๆ
“หรือว่าเราตาฝาด” สายชลถอนหายใจเซ็ง

+ + + + + + + + + + + +

หมอวัฒนา คุยโทรศัพท์มือถือกับชมพูแพรอย่างผิดหวัง
“เย็นนี้แพรไม่ว่างแล้วเหรอครับ?”
ชมพูแพรรู้สึกผิดเล็กๆ แต่ก็โกหกต่อไป
“ค่ะ แพรขอโทษนะคะพี่หมอ แพรต้องพาคุณชาร์ล...ประธานเซเว่นซีคนใหม่ไปดูบ้านเช่าน่ะค่ะ พอดีแกรีบหาที่อยู่”
หมอวัฒนาถอนหายใจ
“ไม่เป็นไรครับ เอาไว้เราค่อยนัดกันวันอื่นก็ได้”
หมอวัฒนากดวางสาย แล้วหยิบช่อดอกไม้บนโต๊ะขึ้นมาต่างผิดหวังมากๆ เพราะตั้งใจจะขอชมพูแพรแต่งงาน

+ + + + + + + + + + + +

หมอวัฒนาเอาช่อดอกไม้ ที่จะให้ชมพูแพรใส่แจกัน ก่อนจะหันไปทางบรรดาคนไข้ที่มีแต่ผู้สูงอายุเพศหญิง
“สวยมั๊ยครับ” หมอวัฒนาถาม
คนไข้พยักหน้า ยิ้มชอบใจ
“งั้นหมอวางไว้ตรงนี้นะครับ” หมอวัฒนาวางไว้บนโต๊ะ “จะได้เห็นกันทุกคน”
“ถ้าคุณหมอเอาดอกไม้มาให้พวกป้าบ่อยๆ พวกป้าก็ไม่ต้องกินยาแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ”
“เห็นหน้าหล่อๆของคุณหมอ ก็หายป่วยแล้วไงจ๊ะ”
พวกคนไข้หัวเราะชอบใจ
หมอวัฒนาเกาหัว ยิ้มเขินๆที่ถูกคนไข้แหย่ ก่อนเดินออกจากห้องคนไข้ เดินมาตามทางได้ไม่นานก็มีเสียงเรียกดังขึ้น
“คุณหมอขา”
หมอวัฒนาหันไปเห็นฟ้าลดา ก็ยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจสุดๆ
“น้องฟ้า!”
ฟ้าลดาเดินมาตรงหน้า
“คุณหมอพอมีเวลาว่าง ไปทานข้าวกับสาวสวยมั๊ยคะ”
ฟ้าลดาโพสต์ท่าที่คิดว่าสวยและเซ็กซี่ที่สุด แต่ออกแนวฮามากกว่า จนหมอวัฒนาอดหัวเราะออกมาไม่ได้

+ + + + + + + + + + + +

ที่ร้านอาหาร...

หมอวัฒนานั่งลงตรงข้ามฟ้าลดา พลางเล่า...
“พอแพรโทรมาบอกว่าไม่ว่าง พี่ก็เลยรับเวรแทนเพื่อนไปแล้ว”
“โธ่เอ๊ย...ฟ้าก็รีบบึ่งรถมาแทบตาย เพราะนึกว่าพี่หมอจะเป็นพ่อสายบัวรอเก้อ ที่แท้ก็มีอย่างอื่นทำแล้ว เซ็งเป็ด ไม่น่ารีบมาเลยจริงจริ๊ง เฮ้อ” ฟ้าลดาแกล้งงอน
หมอวัฒนาตกใจนึกว่าฟ้าลดางอนจริง
“พี่ขอโทษนะครับน้องฟ้า”
ฟ้าลดาหันมายิ้มแฉ่ง
“พี่หมอโดนฟ้าหลอกอีกแล้ว ฮ่าๆๆ”
หมอวัฒนาเขิน
“ฟ้านี่”
“พี่หมอนี่หลอกง่ายไม่เปลี่ยน ฟ้าล้อเล่นค่ะ ใครจะโกรธพี่หมอสุดหล่อแสนดีคนนี้ได้ลงคอล่ะคะ”
หมอวัฒนาสบายใจ
“งั้นไหนๆน้องฟ้าก็มาแล้ว และพี่ก็พอมีเวลาว่างประมาณ 20 นาที น้องฟ้าอยากทานอะไร บอกมา พี่เลี้ยงเอง เต็มที่”
ฟ้าลดาสั่งอาหารมาทานทันที หลังจากทานอาหารเสร็จ หมอวัฒนาเดินมาส่งที่รถ
“อิ่มแปล้เลย ขอบคุณพี่หมอมากนะคะ”
“เลี้ยงน้องสาวแค่นี้ จิ๊บจ๊อยจ๊ะ เออนี่...ถ้าน้องฟ้าว่างวันไหน มาเช็คอัพร่างกายหน่อยนะ”
หมอวัฒนาจับหัวฟ้าลดาอย่างเอ็นดู หญิงสาวหยุดยืนตรงทำวันทยาหัสถ์
“ครับพ้มคุณหมอ”
หมอวัฒนายิ้ม แล้วสองคนก็เดินมาถึงรถฟ้าลดา
“ขับรถกลับบ้านดีดีล่ะ ถนนกรุงเทพมันวุ่นวาย มอไซด์ก็เยอะ ระวังๆหน่อย”
“พี่หมอนี่ช่างเหมาะสมกับพี่แพรจริงๆ”
หมอวัฒนายกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาไว้ใต้คาง พร้อมกระแอมทำเสียงหล่อ
“หล่อกับสวยใช่มะล่ะ”
ฟ้าลดายกนิ้วชี้ส่ายไปมาตรงหน้าหมอ
“ม่ายช่าย จู้จี้กะขี้บ่นทั้งคู่ต่างหาก”
หมอวัฒนาเซ็ง
“ฟ้า..”
ฟ้าลดาอมยิ้มขำ
“ฟ้าไปล่ะค่ะ บ๊าย”
ฟ้าลดาขึ้นรถ แล้วขับออกไป หมอวัฒนามองตามฟ้าลดาสายตาเอ็นดู

(อ่านต่อหน้า 3)





เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 9(ต่อ)

ชมพูแพร พาสายชล กับสหัสมาที่บ้าน โดยได้พาไปที่บ้านหลังเล็กซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านอีกหลังที่ฟ้าลดาพักอยู่ สายชลมองไปรอบๆเห็นต้นไม้ ดอกไม้ ก็รู้สึกดี

“เดิมคุณพ่อสร้างไว้ให้แพรกับน้อง แต่พอดีคุณพ่อคุณแม่เสีย แพรเลยต้องย้ายมาอยู่ดูแลที่บ้านใหญ่ค่ะ ถ้าคุณชาร์ลชอบความเป็นส่วนตัว แพรว่าคุณน่าจะชอบที่นี่”
สายชลหันมามองชมพูแพร
“แค่เห็นบรรยากาศผมก็ชอบแล้วล่ะครับ”
สายตาของสายชล ทำเอาชมพูแพรสะท้านไหว สายชลเดินต่อไป ชมพูแพรเดินตาม สหัสมองชมพูแพรอย่างสังเกต
แหวนเดินมาเห็นสายชล ชมพูแพร สหัส เดินผ่านไป แหวนมองไปที่สายชลแล้วก็หยุดกึกตะลึงในความหล่อ
“คุณแพรพาใครมาวะ? พับผ่าซิ หล่อหยั่งกับไม่ใช่คน” แหวนขยี้ตาดูสายชลอีกครั้ง
เมื่อเห็นชมพูแพรพาสายชลกับสหัสตรงไปที่บ้านเช่า แหวนมองตามด้วยความอยากรู้สุดๆ
“แบบนี้ต้องตามไปดู”
แหวนรีบจ้ำเดินตามไปทันที
+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรพาสายชลเข้ามาดูรอบๆบ้าน สหัสเดินตามห่างๆ

“บ้านหลังนี้มีสี่ห้องนอน ข้างล่างมีห้องทำงาน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องครัว มีสระว่ายน้ำเล็กๆข้างตัวบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้ามีครบ คุณชาร์ลหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ”
สายชลพยักหน้ารับ
“กว้างขวางดีนะครับ”
สายชลเดินขึ้นบันได ชมพูแพร กับสหัสเดินตาม สายชลเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน เดินไปที่ระเบียง ชมพูแพรกับสหัสตามออกมา สายชลเหลือบไปเห็น บ้านหลังเล็กของฟ้าลดาซึ่งอยู่ติดกับบ้านหลังนี้ สายชลมองด้วยความสนใจ
“นั่นบ้านใครครับ”
“บ้านน้องสาวแพรค่ะ แกอยู่บ้านหลังนั้น”
สายชลหันมาทางชมพูแพร
“ถ้าไงพรุ่งนี้ผมจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เลยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
ชมพูแพรมองสายชลรู้สึกดีสุดๆ

+ + + + + + + + + + + +

ป้าเนียมที่กำลังล้างผัก หันมาทางฟ้าลดาอย่างตื่นเต้นดีใจกับสิ่งที่เธอบอก
“คุณฟ้าได้งานทำแล้วเหรอคะ”
ฟ้าลดาเอาแครอทดิบขึ้นมากินไปด้วยพูดไปด้วย
“ยังค่ะ ยังไม่ได้งาน เขานัดไปคุยก่อน ป้าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้พี่แพรรู้นะคะ รอให้ชัวร์กว่านี้ ฟ้าไม่อยากหน้าแตก”
“ตกลงค่ะ”
ทันใดนั้นแหวนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา
“ป้า! ป้า..!! อ้าวคุณฟ้าอยู่ด้วยเหรอคะ?”
“มีอะไรนังแหวน?”
“คุณแพร คุณแพร!” แหวนหอบ
ป้าเนียมกับฟ้าลดาตกใจ
“ทำไม? พี่แพรเป็นอะไร!!”
“คุณแพรไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”
ฟ้าลดากับป้าเนียมงง
“อ้าว??”

“แล้วแกทำท่าตกอกตกใจทำไม หัวใจฉันยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย”
“ก็คุณแพรน่ะซิคะ พาใครมาเช่าบ้านก็ไม่รู้ หล่อโคตรๆ”
ฟ้าลดาเซ็ง
“โธ่ นึกว่าเรื่องไร”
“หล่อจริงๆนะคะคุณฟ้า ไม่รู้ว่าเป็นคนหรือเป็นเทวดา หล่อยิ่งกว่าพี่เคน คมเข้มยิ่งกว่าพี่ป๋อ เท่ห์ยิ่งกว่าพี่โดมของแหวนอีก” แหวนเพ้อ
“เวอร์ไปป่ะแหวน”
“ไม่เวอร์ล่ะคะ หล่อจริงอะไรจริง”
“ถ้าหล่อขนาดนี้ แหวนต้องพาฉันไปดูแล้วล่ะ ถ้าไม่หล่อจริง มีเรื่อง”
“ได้เลยค่ะคุณฟ้า”
แหวนกับฟ้าลดารีบออกไป ป้าเนียมส่ายหัว
“คุณฟ้านี่ก็เป็นไปเขาอีกคน เฮ้อ”

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรนำกุญแจบ้านมาให้สายชล เมื่อยืนยันที่จะเช่า

“นี่กุญแจบ้านค่ะ คุณชาร์ลเก็บไว้เลยก็แล้วกันนะคะ”
สายชลรับกุญแจมาเก็บ
“ครับ ขอบคุณนะครับคุณแพร ผมรู้สึกตัวเองโชคดีมากที่ได้คุณเป็นเพื่อนร่วมงาน แล้วก็ยังได้คุณเป็นเพื่อนบ้านอีกด้วย”
“ไม่เท่านั้นนะคะ คุณยังจะได้แพรเป็นเพื่อนอีกด้วย”
สายชลยิ้ม
“ตกลงครับ”

ชมพูแพรมองสายชลอย่างหลงใหลในรอยยิ้ม แล้วก็รู้สึกว่าสหัสมองมาที่เธอ ชมพูแพรเลยเรียกสติตัวเองให้กลับมา
“คุณมีอะไรให้แพรช่วย ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
“ผมไม่เกรงใจแน่ครับ เพราะคุณหลวมตัวเป็นเพื่อนผมแล้ว แต่วันนี้ผมคงรบกวนคุณแพรเท่านี้ล่ะครับ”
“ค่ะ”
สหัสเปิดประตูรถให้สายชล ชมพูแพรมองลังเล แล้วก็ตัดสินใจ
“คุณชาร์ลคะ”
สายชลหันมา
“เย็นวันพรุ่งนี้ ถ้าคุณว่าง...เชิญคุณ กับคุณสหัสทานข้าวที่บ้านแพรนะคะ ถือว่าเป็นงานเลี้ยงเล็กๆต้อนรับคุณ”
“ได้ครับ”
ชมพูแพรยิ้มด้วยความดีใจ สายชลกับสหัสขึ้นรถ สหัสขับรถออกไป ชมพูแพรมองตามรถสายชล แล้วก็หันมาเจอฟ้าลดากับแหวนที่เดินมาถึงพอดี
“อ้าวยัยฟ้า”
“เทวดากลับไปแล้วเหรอคะ ว้าน่าเสียดาย”
ชมพูแพรนิ่วหน้า
“เทวดาอะไร??”
“เทวดาของแหวนเขาไงคะ”
ชมพูแพรชะงัก หันไปมองแหวน
“มาแอบดูเหรอแหวน”
แหวนรีบแก้ตัว
“ไม่ได้แอบนะคะ แหวนบังเอิ๊ญบังเอิญผ่านมาเห็นเข้าพอดี๊พอดีค่ะ” แหวนยิ้มแหย

+ + + + + + + + + + +

ฟ้าลดากับชมพูแพรกลับเข้ามาด้วยกัน

“นายเทวดาของแหวน เขาเป็นใครเหรอคะ” ฟ้าลดาถามอย่างสงสัย
“ลูกของมิสเตอร์ไมเคิล และเป็นประธานคนใหม่ของเซเว่นซีจ๊ะ”
ชมพูแพรพูดไปก็เผลอยิ้มไป จนฟ้าลดาแปลกใจ
“ทำไมพี่แพรพูดถึงเขาแล้วต้องยิ้มด้วย”
ชมพูแพรตกใจ หน้าถอดสี
“พี่ยิ้มเหรอ?”
“ค่ะ ยิ้ม ยิ้มมากด้วย” ฟ้าลดายกมือลูบคาง “เอ..ชักน่าสงสัยซะแล้ว”
“สงสัยอะไรยัยฟ้า”
ฟ้าลดาแหย่
“สงสัยว่า พี่แพรกำลังคิดนอกใจพี่หมอน่ะซิคะ เพราะพี่แพรถึงกับเลิกนัดพี่หมอ แล้วก็พาเขามาดูบ้านเช่า”

ชมพูแพรปาหมอนบนโซฟาใส่น้องสาว
“บ้าเหรอฟ้า พี่ไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้นนะ นี่เป็นเรื่องงานล้วนๆ”
ฟ้าลดาขำ
“ฟ้าแซวเล่นเฉยๆ”
ชมพูแพรรีบแก้ตัวให้ตัวเอง
“ตอนแรกที่ยังไม่เจอเขา พี่กลัวแทบตายว่าเขาจะเข้ากับคนยาก แต่ที่ไหนได้ เขาเฟรนด์ลี่มาก และที่สำคัญ เขาเป็นคนไทย แถมยังเก่ง คล่องตัว แต่ถ่อมตน ถึงเขาจะเป็นลูกคนรวย แต่เขาก็ดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แล้วก็ไม่พูดมากขี้อวดอีกด้วย”
“แหม...ฟ้าชักอยากเห็นหน้า ท่านประธานเซเว่นซีคนนี้ซะแล้ว ว่าเขาจะเพอร์เฟ็กขนาดไหน ถึงทำให้พี่สาวฟ้าดูปลื้มเขามากขนาดนี้”
“พรุ่งนี้พี่ชวนเขามาทานข้าวเย็นที่บ้าน ฟ้าก็อยู่ด้วยซิ จะได้ชวนเขาคุย เพราะฟ้าคุยเก่งกว่าพี่”
“โอเคค่ะ”
ฟ้าลดายิ้มให้ แล้วแยกกลับไปที่บ้าน

ค่ำคืนนั้น...
 

ฟ้าลดาฝันร้าย นอนกระสับกระส่าย เหงื่อผุดเต็มหน้า ในฝันเธอเห็นเงาผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหา เธอพยายามเพ่งมองว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่เห็นหน้า ฟ้าลดาตื่นกลัวมากๆ แล้วชายคนนั้นก็เข้ามาประชิดตัว ฟ้าลดาสะดุ้งตื่นตกใจ ลุกขึ้นมานั่ง น้ำตาไหล ใจเต้นแรง
ฝันร้ายแบบนี้...เกิดขึ้นกับเธออยู่เสมอ

+ + + + + + + + + + + +

ที่กองถ่ายโฆษณาภาพนิ่ง
 

วีรเดช มองรูปที่ช่างภาพถ่าย ทางหน้าจอโน้ตบุคด้วยความหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นมายืน
“ไอ้เอก”
เอก ช่างภาพสะดุ้งหันไปมองวีรเดชหวาดๆ
“มาดูนี่”
ทีมงานเริ่มเกร็ง เอกเดินมาหาวีรเดชด้วยความกลัว
“เอ็งถ่ายรูปรับปริญญารึไงห๊ะ ดูเงาที่หน้านางแบบ หยั่งกับใส่หน้ากากอินทรีแดง”
ระหว่างนั้นเจมส์พาฟ้าลดาเดินเข้ามา ฟ้าลดาเห็นวีรเดชที่ดุมาก ถึงกับสะดุ้ง
“ลบเงาในคอมฯก็ได้นี่พี่” เอกบอก
“เงาดำขนาดนี้ ลบที จมูกนางแบบก็หายไปด้วยซิวะ นี่มันโฆษณาครีมหน้าเด้งนะเว๊ย จัดแสงให้สว่างๆกว่านี้ทำเป็นมั๊ย แล้วก็หัดถ่ายมุมแปลกๆบ้าง หยั่งกับแอดสมัยโบราณ ไปถ่ายใหม่”
“ครับผม”
เอกรีบออกไปจัดแสงใหม่ด้วยความกลัว วีรเดชหงุดหงิดมากๆ เจมส์หันไปเห็นหน้าฟ้าลดาก็รีบพูดให้กำลังใจ
“เออ พี่วีเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีน่ะ”
ฟ้าลดาพยักหน้าพยายามจะเชื่อ เจมส์พาฟ้าลดาเข้ามาหาวีรเดช
“พี่วีครับ นี่ฟ้าครับพี่ ฟ้าลดา...”

วีรเดชหันไป ฟ้าลดายกมือไหว้ วีรเดชมองฟ้าลดาตั้งแต่หัวจรดเท้าแววตาเหยียดๆ เพราะฟ้าลดาดูกะโปโลมาก
“เนี่ยนะฟ้าลดา...ชื่อออกจะไฮโซ แล้วดูแต่งตัวดิ โอ้โฮ...ชื่อไม่สมตัวเลย”
ฟ้าลดาชักไม่พอใจ
“ฟ้าว่าชื่อกับการแต่งตัว มันคงไม่เกี่ยวกับความสามารถของฟ้าหรอกมั๊งคะ”
วีรเดชผงะที่เจอฟ้าลดาตอกกลับ เจมส์อมยิ้ม วีรเดชรู้สึกเสียหน้า แต่ต้องเก๊ก
“เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ฉันจะรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานชั่วคราว เงินเดือนครึ่งนึง ไม่มีโอที ไม่มีสวัสดิการ โอเค้”
ฟ้าลดาอึ้ง..หันไปกระซิบเจมส์
“โคตรเคี่ยว”
วีรเดชเสียงดัง
“เม้าท์ไร?!!”
“ฟ้าว่ามันไม่ยุติธรรมไปหน่อยนะคะ ในพอร์ทฟ้า พี่ก็เห็นแล้วว่าฟ้ามีประสบการณ์การทำงานมาบ้าง หรือว่าพี่ไม่ได้อ่านคะ”
วีรเดชยิ้มมุมปาก
“ในเมื่อเธอพูดเองว่า ชื่อกับการแต่งตัวไม่เกี่ยวกับความสามารถของเธอ ฉะนั้นเงินเดือนมากหรือน้อยก็คงไม่เกี่ยวกับความสามารถของเธอเหมือนกัน”

ฟ้าลดางง หันไปมองเจมส์
“แล้วมันเกี่ยวไรกัน??”
เจมส์ยักไหล่ “ไม่รู้”
“ตกลงเอาไง ทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำ ฉันจะได้ไม่เสียเวลาคุยกับเด็กอย่างเธอ”
ฟ้าลดาไม่พอใจที่วีรเดชว่าเธอเป็นเด็ก แต่ยังไม่ทันตอบ ทีมงานก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“แย่แล้วพี่วี !!”
วีรเดชหันไปหัวเสีย
“อะไรอีก”

+ + + + + + + + + + + +

วีรเดช ฟ้าลดา เจมส์ รีบมาดู เอก ช่างภาพ ที่นอนเดี้ยงบนพื้น บันไดกับกล้องหล่นอยู่ข้างๆ วีรเดชตกใจ
“เป็นไงบ้างลูกพ่อ??”
“ท่าทางข้อมือจะหักครับ”เอกบอก
“ฉันไม่ได้หมายถึงแก”
เอกชะงัก วีรเดชข้ามตัวเอกบนพื้น รีบเข้าไปหยิบกล้องขึ้นมาดูทั่วๆ
“ไหนดูซิ ถลอกรึเปล่า”
ฟ้าลดา เจมส์ เอก ทีมงานเหวอ วีรเดชรีบเช็คกล้องแล้วโล่งอก
“เฮ้อ โชคดีที่กล้องไม่เป็นอะไร ไม่งั้นแกตายไอ้เอก!!”
“แต่ผมว่าถ้าพี่ไม่รีบพาเอกไปส่งโรงพยาบาล มันคงตายจริง แล้วถ้ามันตายขึ้นมา พี่คงต้องให้เงินชดเชยครอบครัวเอกหลายเดือน”เจมส์ว่า
วีรเดชนึกได้

“เออจริง” วีรเดชหันไปทางทีมงาน “ยืนบื๊อกันอยู่นั่นแหละ รีบพามันไปโรงบาลดิ”
ทีมงานเหรอๆหราๆ รีบประคองเอกพาไปโรงพยาบาล
“เวรเอ๊ย...แล้วจะหาช่างภาพที่ไหนวะ”
ฟ้าลดาอยากพิสูจน์ตัวเอง ให้วีรเดชเห็นเลยก้าวออกมา
“ฟ้าช่วยมั๊ยคะ”
วีรเดชหันไปมอง เจมส์รีบสนับสนุน
“ให้ฟ้าช่วยดิพี่ ฟ้าได้เอวิชาโฟโต้ตอนเรียนด้วยนะครับ”
“แต่การบ้านกับของจริง มันไม่เหมือนกันนะน้อง”
“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ค่ะพี่”
ฟ้าลดายักคิ้ว ยิ้มมั่นใจ วีรเดชมองฟ้าลดาอย่างไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยอมให้ลองงาน

(อ่านต่อหน้า 4)





เกมร้ายเกมรัก ตอนที่  9 (ต่อ)

ฟ้าลดาทำงานเป็นช่างภาพอย่าง คล่องแคล่ว ว่องไว โดยวัดแสง จัดแสง ดูหน้า ดูผม จัดท่าทางให้นางแบบ ทำเองทุกอย่าง ภาพที่ฟ้าลดาถ่ายปรากฏบนหน้าจอโน๊ตบุ๊ก ทำเอาวีรเดชอึ้ง เพราะแสงและมุมภาพสวยมากผิดกับที่เอกถ่าย เจมส์มองฟ้าลดาปลื้ม วีรเดชเงยหน้ามองฟ้าลดาด้วยความพอใจ

หลังจากเสร็จงาน ทีมงานเก็บของ วีรเดชเดินมาหาฟ้าลดาที่ยืนอยู่กับเจมส์ ฟ้าลดามองลุ้น วีรเดชยังเก๊กหน้านิ่ง ฟ้าลดาพูดแบบไม่ค่อยขยับปากกับเจมส์

“แกว่าฉันจะโดนด่า เหมือนช่างภาพคนนั้นมั๊ย”
“เดาอารมณ์พี่วียาก ไม่รู้จริงๆ”
ฟ้าลดากับเจมส์ตื่นเต้นมาก วีรเดชหยุดยืนตรงหน้าฟ้าลดา
“เออ..” ฟ้าลดากำลังจะพูด
วีรเดชยกมือ ฟ้าลดารีบหุบปาก
“เริ่มงานวันแรก เอารูปมาด้วย”
ฟ้าลดางง
“เอารูปมาทำไมคะ?”
“พนักงานประจำต้องมีรูปติดบัตร”
ฟ้าลดากับเจมส์อึ้ง วีรเดชพูดจบก็เดินออกไป
ฟ้าลดากับเจมส์หันมาตีมือกันด้วยความดีใจสุดๆ แต่วีรเดชหันกลับมาอีกครั้ง ฟ้าลดากับเจมส์รีบเก๊ก
“สองตำแหน่ง”
“คะ??”
“ทำสองตำแหน่ง ครีเอทีฟ กับ ช่างภาพ”
“โอเคค่ะ”
วีรเดชหันหลังเดินกลับไป แล้วก็ยิ้ม
“จะได้ประหยัดค่าจ้างช่างภาพไปอีกหนึ่ง เฮอะๆๆ”
ฟ้าลดากับเจมส์ยังยิ้มให้กันด้วยความดีใจสุดๆ

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรคุยโทรศัพท์กับฟ้าลดาอย่างแปลกใจมาก...
 

“อะไรนะ! ฟ้าได้งานทำ! ไปสมัครงานตั้งแต่ตอนไหน ทำไมพี่ไม่รู้ แล้วได้งานอะไร? ที่ไหน? แล้วบริษัทอะไร?”
ฟ้าลดาผงะ กับเสียงที่ดังของชมพูแพร
“ฟ้าได้งานเป็นครีเอทีฟ และช่างภาพ บริษัทที่ฟ้าได้งานทำ ชื่อฟิลม์แฟลชโปรดักชั้นเฮ้าส์ เป็นบริษัทโฆษณาอยู่แถวสุขุมวิทค่ะ”
“ยัยฟ้านะยัยฟ้า นี่ไม่คิดจะเล่าอะไรให้พี่ฟังเลยใช่มั๊ย”
ฟ้าลดาหน้าแหย
“ฟ้าอยากให้พี่แพรเซอร์ไพรส์นี่คะ”
“สรุปเย็นนี้ก็ไม่กลับมาทานข้าวกับพี่แล้ว เพราะว่าจะฉลองกับเพื่อน”
ฟ้าลดายิ้ม
“ค่ะ พี่แพรอย่าโกรธฟ้านะ แล้วฟ้าจะซื้อหนมไปฝาก”
ฟ้าลดาหันไปเห็นเจมส์กวักมือเรียก...
“เพื่อนฟ้าเรียกแล้ว ฟ้าไปล่ะค่ะ บาย”
ชมพูแพรส่ายหัวอย่างเซ็งๆ กับสิ่งที่น้องสาวโทรมาบอก

+ + + + + + + + + + + +

ที่บ้านเช่า...
 

สายชลเอาขวดโหลแก้ว ที่บรรจุลูกแก้วครึ่งหนึ่งวางบนชั้น ด้านหลังสหัสลากกระเป๋าเดินทางเข้ามารวมกับสองใบที่วางอยู่ก่อนแล้ว สายชลหันไปมอง
“คุณชาร์ลมีอะไรจะให้ผมทำอีกมั๊ยครับ”
“ไม่มีแล้ว ไปเถอะ ขอบใจ”
สหัสออกไป สายชลหยิบลูกแก้ว ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วใส่ลงในขวดโหลที่มีลูกแก้วอยู่ครึ่งหนึ่ง
“1000 วันแล้วนะที่เราต้องจากกัน นางฟ้าของสายชลไปอยู่ที่ไหน ถึงเราจะยังไม่เจอกัน แต่สายชลก็ไม่ท้อหรอกนะ รอสายชลนะนางฟ้า อย่าเพิ่งมีใคร สายชลต้องหานางฟ้าให้เจอให้ได้”
สายชลแววตายังมีความหวัง มองขวดโหลใส่ลูกแก้ววางเรียงบนชั้นเต็มไปหมด ด้วยความคิดถึงนางฟ้าของเขาจับใจ...

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรลงครัวทำอาหารเอง ทำให้ป้าเนียมกับแหวนแปลกใจมาก

“ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นคุณแพรลงครัวทำเอง สงสัยคุณแพรแกจะปลื้มคุณเทวดาเอามากๆ” แหวนแอบนินทา
“สู่รู้อีกแล้วนะแก” ป้าเนียมดุ
แหวนยิ้มแหย ชมพูแพรกำลังคนแกงในหม้อ ท่าทีตั้งใจมาก ป้าเนียมหันไปมองชมพูแพร แล้วก็อดคิดตามที่แหวนพูดไม่ได้
ค่ำคืนนั้น...
อาหารเต็มโต๊ะถูกจัดสวยงาม สายชลมองทึ่งๆ หันไปทางชมพูแพร
“คุณแพรทำทั้งหมดนี่เองเลยเหรอครับ”
“ค่ะ แต่มีคนช่วยด้วยนะคะ”
“คุณแพรนี่เก่งทั้งงานในบ้าน และงานนอกบ้านเลยนะครับ ถ้าผู้ชายคนไหนได้หัวใจคุณแพรไปครอง คงเป็นผู้ชายที่โชคดีมาก”
สายชลยิ้มให้ชมพูแพรด้วยความจริงใจ แต่ชมพูแพรกลับตีความไปว่า สายชลกำลังหยอดคำหวานให้เธอ ชมพูแพรถึงกับนิ่งไป
“เออ ผมพูดอะไรไม่ดีออกไปรึเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ คุณชาร์ลพูดดีเกินไปด้วยซ้ำ แพรไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ”

ชมพูแพรกลัวสายชลจับความรู้สึกได้เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“แพรว่าเราทานกันเลยมั๊ยคะ”
สายชลพยักหน้า สองคนนั่งลงทานข้าวด้วยกัน
มุมหนึ่งแหวนเกาะมุมกำแพงแอบดูสายชลด้วยความเขิน ป้าเนียมเดินมาเขกหัว แหวนสะดุ้งหันไป
“เขกหัวฉันอีกแล้วนะป้า”
“ก็ใครใช้ให้แกสาระแนล่ะนังแหวน มาแอบดูเจ้านาย ไม่มีมารยาท”
“ก็ป้าดูคุณเทวดาซิ หล่อจนไม่อาจละสายตาไปได้ อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น”
ป้าเนียมหันไปมองเงียบ แหวนแปลกใจ หันไปเห็นป้ากำลังตะลึง แหวนถึงกับเท้าเอว
“น่าน...ตะลึงไปเลยล่ะซิป้า”
“หล่อจริงๆด้วย แต่ข้าชอบหล่อแบบคุณหมอมากกว่า หน้าตาสะอาดสะอ้าน น่ารักน่ามอง เห็นแล้วมันสดใส”
“แต่หล่อแบบคุณหมอ มันไม่หวือหวาได้ใจแบบคุณคนนี้นะป้า ป้าดูคุณแพรซิ ยิ้มจนเห็นฟันทั้งปากแล้ว ทีตอนอยู่กับคุณหมอไม่เห็นเคยยิ้มขนาดนี้เล้ย”
“หุบปากได้แล้วนังแหวน ชักจะมากเกินไปแล้ว”
ทันใดนั้นเสียงแตรรถดังขึ้น ทุกคนหันไปมองหน้าบ้าน ชมพูแพรถึงกับชะงักที่เห็นรถคันที่จอดหน้าบ้าน รับป้าเนียมกับแหวนเองก็ผงะไปแพ้กัน
“อุ๊ยตาย! คุณหมอมา!! อายุยืนจริงจริ๊งงงง พูดถึงปุ๊บก็มาถึงปั๊บ มีใครจุดธูปเชิญมารึเปล่าเนี่ย” แหวนพึมพำ
ทางด้านชมพูแพรหน้าเสีย จนสายชลแปลกใจ
“ใครมาเหรอครับคุณแพร”
ชมพูแพรหันไปมองสายชลไม่ตอบ แต่เดินนำสายชลออกไป หมอวัฒนากับสายชลยืนประจันหน้ากัน โดยมีชมพูแพรยืนตรงกลาง
“นี่คุณหมอวัฒนา เป็นหมอของน้องสาวแพรค่ะ”
หมอวัฒนาชะงักไปเล็กน้อย กับสถานะที่ชมพูแพรแนะนำ แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้สึกอะไร สายชลสังเกตเห็นแววตาของหมอวัฒนา
“นี่คุณชาร์ลประธานเซเว่นซีค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันครับ”
“ผมไม่รู้ว่าแพรมีแขก ก็เลยมาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แค่ทานข้าวกันตามปกติ คุณหมอทานด้วยกันนะครับ”
หมอวัฒนามองชมพูแพรที่ยิ้มฝืนๆ จำต้องชวน
“ทานด้วยกันนะคะพี่หมอ”
หมอวัฒนาพยักหน้า หันไปยิ้มให้สายชล แต่ก็อดเหลือบมองชมพูแพรสีหน้ากังวลใจไม่ได้

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพร สายชล หมอวัฒนาทานข้าวด้วยกัน บรรยากาศเงียบมาก หมอวัฒนาตักอาหารเอาใจชมพูแพรตลอดเวลา สายชลเหลือบมองอย่างรู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน

“พี่หมอทานเถอะค่ะ แพรดูแลตัวเองได้” ชมพูแพรบอกอย่างอึดอัด
หมอวัฒนาถึงกับสะอึก กับท่าทางห่างเหินของชมพูแพร สายชลเห็นสีหน้าหมอแล้วพยายามจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น
“คุณหมอกับคุณแพร เป็นแฟนกันมานานเหรอยังครับ”
ชมพูแพรหน้าเสีย เมื่อสายชลรู้
“สิบปีแล้วครับ”
“โอ้โฮ...เป็นความรักที่มั่นคงและยาวนาน น่าอิจฉานะครับ สมัยนี้น้อยคนที่จะคบกันได้นานขนาดนี้ มีข่าวดีเมื่อไหร่ บอกผมด้วย ห้ามลืมเด็ดขาด”
“ไม่ลืมแน่นอนครับ บางทีอาจจะเร็วๆนี้ก็ได้”
ชมพูแพรไม่พอใจ หมอวัฒนาหันมาจับมือ แต่ชมพูแพรดึงมือออกช้าๆ ทำให้เขาผงะไป
“แพรว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณชาร์ลจะเบื่อแย่”
“ไม่เบื่อหรอกครับ เวลาเห็นคนรักกัน ผมจะรู้สึกดีทุกครั้ง ผมว่าคุณแพรต่างหากที่ไม่อยากพูด เขินใช่มั๊ยล่ะครับ”

ชมพูแพรทำเป็นยิ้มเหมือนยอมรับ ไม่ตอบอะไรออกมา
“ถ้างั้นมาคุยเรื่องคุณหมอดีกว่า ไม่ทราบคุณหมอวัฒนานี่ เป็นหมอทางด้านไหนเหรอครับ”
“ผมเป็นศัลยแพทย์ด้านประสาท และสมองครับ”
สายชลสนใจ
“นี่ถ้าผมปวดหัวบ่อยๆ ผมไปหาคุณหมอได้ใช่มั๊ยครับ”
“ได้ซิครับ” หมอวัฒนาหยิบนามบัตรออกมายื่นให้ “ถ้าคุณจะมาวันไหน โทรนัดผมได้เลย”
สายชลรับนามบัตรมา
“ขอบคุณครับ”
สายชลมองชื่อในนามบัตร
+ + + + + + + + + + +

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ชมพูแพร กับหมอวัฒนา เดินออกมาส่งสายชล

“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับอาหารมื้ออร่อย” สายชลยิ้มให้ทั้งคู่
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ายังไงคุณสายชล จะมาทานข้าวที่บ้านแพรทุกวันก็ได้นะคะ”
หมอวัฒนาหันไปมองชมพูแพรรู้สึกหึง
“อย่าลำบากเลยครับ เดี๋ยวผมหาอะไรทานข้างนอกก็ได้ ฝีมือทำกับข้าวของคุณแพร น่าจะทำให้คุณหมอทานคนเดียว ผมกลับล่ะครับ”
สายชลเดินออกไป หมอวัฒนาหันมาทางชมพูแพร แต่ชมพูแพรหน้าบึ้ง จ้ำเดินเข้าไปในบ้านทันที หมอวัฒนาอึ้งๆ แล้วก็รีบตามเข้าไป
“แพร..” หมอวัฒนาจับแขนชมพูแพรให้หันมา “แพรเป็นอะไรครับ?”
ชมพูแพรพูดน้ำเสียงเหวี่ยง
“พี่หมอยังกล้าถามแพรอีกเหรอคะว่าแพรเป็นอะไร พี่หมอเล่าเรื่องของเราให้คุณชาร์ลฟัง แล้วยังจะไปบอกเขาอีกว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน พี่หมอไม่รู้สึกแปลกบ้างเหรอ”
หมอวัฒนาเริ่มไม่ค่อยพอใจ
“ผมไม่เข้าใจว่ามันแปลกตรงไหน ทำไมถึงจะเล่าไม่ได้ ในเมื่อคุณชาร์ลเค้าเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเอง แพรต่างหากที่แปลก” หมอวัฒนาพูดน้ำเสียงน้อยใจ “แปลกที่ไม่บอกคุณชาร์ลว่าผมเป็นอะไรกับแพร”
ชมพูแพรเสียงอ่อนลงทันที
“ทำไมพี่หมอพูดกับแพรแบบนี้ล่ะคะ พี่หมออย่าบอกนะว่าหึงแพรกับคุณชาร์ล”
“ครับ ผมหึง หึงมากด้วย ก็คุณชาร์ลเขาออกจะดูดีขนาดนั้น และที่สำคัญตอนนี้เขาก็ย้ายมาอยู่ใกล้กับแพร”
ชมพูแพรทำเป็นหัวเราะ
“ที่แพรไม่บอกคุณชาร์ลว่า พี่หมอเป็นแฟนแพรตั้งแต่แรก เพราะว่าแพรยังไม่รู้จักเขามากพอที่จะบอกเรื่องส่วนตัวให้เขารู้ค่ะ”
“แต่แพรให้เขามาอยู่ใกล้บ้าน แล้วก็ชวนเขามาทานข้าวที่บ้านเนี่ยนะครับ”
“แพรต้องทำธุรกิจกับเขาไปอีกนานนี่คะ เพราะฉะนั้นแพรต้องแสดงความจริงใจให้เขาเห็น แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเล่าหรือบอกทุกเรื่องให้เขาฟังไม่ใช่เหรอคะ พี่หมอพูดแบบนี้ เหมือนพี่หมอไม่ไว้ใจแพร แพรเสียใจนะ”ชมพูแพรแกล้งงอน
หมอวัฒนาคิดตามที่ชมพูแพรพูด แล้วก็รู้สึกผิด
“ขอโทษนะครับที่ผมไม่เชื่อใจแพร”
“ไม่เป็นไรค่ะ แพรดีใจนะคะที่พี่หมอหึง แสดงว่าพี่หมอรักแพรมาก”
“ใช่ครับ ผมรักแพรมาก รักมากที่สุด”
หมอวัฒนายิ้มแล้วดึงชมพูแพรมากอด ชมพูแพรถอนหายใจโล่งอกที่หมอวัฒนาเชื่อ
+ + + + + + + + + + + +

สายชลเอากล้องดูดาวมาวางตรงระเบียงห้องนอน พลันเสียงรถดังขึ้น สายชลหันไปมองว่าใคร ขณะเดียวกัน รถเจมส์จอด ฟ้าลดาเปิดประตูลงจากรถ
“พรุ่งนี้เจอกัน บ๊าย”
เจมส์พยักหน้า ขับรถออกไป
สายชลส่องกล้องดูดาวจะมอง แต่ฟ้าลดาหันหลัง เดินเข้าไปในบ้านหลังเล็ก สายชลผละออกมาจากกล้อง
“น้องสาวคุณแพร”
สายชลกำลังจะเข้าห้อง แต่กลับเห็นดาวเต็มฟ้า ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ คิดไปถึงวันที่เขากับฟ้าลดา
เคยดูดาวด้วยกันที่เกาะมิน
“นางฟ้า จะมองดาวดวงเดียวกับสายชลอยู่รึเปล่านะ”
ทางด้านฟ้าลดา ยืนอยู่ริมหน้าต่างมองดาวที่เต็มท้องฟ้า
“โอ้โฮ..ดาวเต็มฟ้าเลย”
ฟ้าลดาเดินออกมาหน้าบ้าน เงยหน้ามองดาวแล้วยิ้มอย่างสุขใจ ก่อนนอนลงบนเปลญวน

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่...

สายชลออกไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ขณะเดียวกันนั้น ฟ้าลดาวิ่งจ๊อกกิ้งไปตามทางกับเจมส์ ที่มาหาตั้งแต่เช้า วิ่งได้ไม่นาน เจมส์หยุดยืนหอบ ฟ้าลดาวิ่งกลับไปหา
“อย่าบอกนะว่าแค่นี้เหนื่อย”
“เราไม่ค่อยได้วิ่งนี่ฟ้า”
“อ่อนว่ะ แค่นี้ก็ไม่ไหว”
“ใครจะบ้าพลัง ไฮเปอร์ได้เหมือนฟ้าล่ะ” เจมส์โบกมือ “ไม่ไหว ไม่ไหว ขอพักก่อนได้มั๊ย”
“แกพักไปแล้วกัน ฉันจะวิ่งต่อ”
ฟ้าลดาไม่สนใจเจมส์วิ่งออกไป เจมส์นั่งแผ่บนพื้นด้วยความเหนื่อยสุดๆ
ฟ้าลดาวิ่งต่อไป กำลังจะเลี้ยวตรงหัวมุม ก็ชนกับสายชล เข้าอย่างจังจนล้มไปบนพื้น ทั้งคู่ต่างตกใจ
“ขอโทษครับ”
สายชลรีบลุกขึ้นไปประคองฟ้าลดาให้ลุกขึ้นมา ฟ้าลดาหันมา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
สายชลเห็นหน้าฟ้าลดาก็ตะลึงงัน สายชลพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ฟ้าลดาก้มหน้าปัดเนื้อปัดตัว ไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมา
สายชลมั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้าคือฟ้าลดาจริงๆ ฟ้าลดายิ้มให้สายชล แล้วก็วิ่งออกไป
สมองของสายชลหยุดสั่งการไปชั่วขณะ ด้วยความสับสน การรอคอยสามปีได้สิ้นสุดลง สายชลดีใจ อิ่มเอิบ แต่ก็แปลกใจที่ทำไมเธอไม่ทักทายเขา สายชลหันขวับไปมอง สติกลับคืนมา
“นางฟ้า!!!”
สายชลรีบวิ่งตามฟ้าลดาไปทันที

จบตอนที่ 9
 

(อ่านต่อ ตอนที่ 10 วันพรุ่งนี้)




กำลังโหลดความคิดเห็น