xs
xsm
sm
md
lg

รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 9
ณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พิมพ์นฤมลเดินคิดเรื่องณิชมนกับรวิภาสมาตลอดทาง มีนเดินเข้ามาหาพิมพ์นฤมล
“นมล เป็นอะไรน่ะ ทำไมทำหน้าเครียดอย่างนั้น ทำงานส่งอาจารย์ไม่ทันเหรอ หรือว่า...ทะเลาะกับพี่ภาสมา”
“ไม่ได้ทะเลาะ” พิมพ์นฤมลหงุดหงิด
“นั่น ทะเลาะกับพี่ภาสมาจริงๆด้วย แกมีเรื่องอะไรกับพี่ภาสอีกล่ะ”
“ก็บอกว่าไม่ได้ทะเลาะยังไงล่ะ”
“หลังๆมานี่” มีนไม่ฟัง "พี่ภาสก็ดีกับแกขึ้นเยอะแล้วนี่นา ช่วงคบกันแรกๆ ก็อย่างนี้แหละ มันก็ต้องมีปัญหากันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง นี่คงไม่ใช่มีปัญหาเรื่องมือที่สามใช่มั้ย”
พิมพ์นฤมลนิ่งอึ้งรู้สึกแทงใจดำ
“นี่ฉันไปเป็นแม่หมอได้เลยนะเนี่ย ทายถูกหมดทุกข้อเลย”
“แกทายถูกที่ไหน ฉันไม่ได้คบกับพี่ภาสซะหน่อย แล้วฉันจะไปมีปัญหากับพี่ภาสได้ไง พูดเองเออเองอยู่ได้”
รวิภาสเดินเข้ามาหาพิมพ์นฤมลกับมีน
“วันนี้ช่วงบ่ายมีเรียนหรือเปล่า”
“ถามใครคะ” พิมพ์นฤมลตอบ
“ก็ถามทั้งสองคนแหละ ถ้าไม่มีเรียนก็ไปช่วยงานที่ชมรมหน่อย ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”
“นมลไม่มีเรียน แต่ก็ไม่ว่าง ขอโทษนะคะที่ไปช่วยงานพี่ภาสไม่ได้”
พิมพ์นฤมลเดินงอนออกมา
“เออ..แต่เดี๋ยวนมลคงจะเคลียร์คิวได้ล่ะค่ะ แล้วเราจะไปช่วยนะคะพี่ภาส มีนไปเรียนก่อนล่ะ”
มีนรีบเดินไปประกบตัวพิมพ์นฤมล
“แกมีปัญหาอะไรกับพี่ภาส เล่าให้ฉันฟังซะดีๆ นมล อย่าให้ฉันต้องใช้กำลัง !”
พิมพ์นฤมลนิ่งอึดอัดใจอยากระบายอยู่เหมือนกัน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ในบ้านสรณาลัย ณิชมนนั่งนิ่งอึ้งอยู่ยังหาทางออกไม่ได้ พรพรรณนั่งรอฟังคำตอบจากณิชมนอย่างอดทน
พรรณอรกำลังเซ็นชื่อในหนังสือของตัวเอง ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรกับณิชมน
“ว่ายังไงล่ะ ประนอม เธอไปรู้จักคุณพงษ์เทพได้ยังไง”
“เออ..คือว่า...คือว่า” ณิชมนกลั้นใจตอบ “นอมเคยเจอคุณพงษ์เทพที่บ้านอาจารย์ดาวเรืองน่ะค่ะ”
ณิชมนเหลือบมองพงษ์เทพอย่างขอร้อง พงษ์เทพมองณิชมนอย่างแปลกใจ
“ไปเจอกันเมื่อไหร่ คุณพงษ์เทพอยู่ที่ซิดนีย์ตลอด แทบจะไม่ได้กลับเมืองไทยเลย เธอเองก็ทำงานกับอาจารย์ดาวเรืองแค่ไม่กี่ปี..”
“จะซักให้ได้อะไรขึ้นมานะ ยัยพร นี่ค่ะ คุณพงษ์เทพ หนังสือเล่มล่าสุดของน้า น้าเซ็นชื่อให้แล้วนะคะ” พรรณอรกล่าว
พรพรรณคว้าหนังสือของพรรณอรเอามาไว้ก่อน
“เก็บหนังสือของพี่อรไว้ก่อนค่ะ ตกลงคุณพงษ์เทพรู้จักประนอมจริงๆ หรือคะ”
“เออ..คือว่า..ผมจะตอบยังไงดี”
ณิชมนจ้องมองพงษ์เทพเหมือนจะสะกดจิตให้ช่วย พงษ์เทพทำรีรอกวนประสาทนิดนึงก่อน
“ครับ ผมเคยเจอคุณแม่บ้านประนอมมาก่อน”
“นี่ตกลงแค่เคยเจอกันหรือว่ารู้จักมักจี่กันมาก่อนคะ”
“เธอเชิญคุณพงษ์เทพมาคุยเรื่องงานหรือมาซักเรื่องส่วนตัวกันแน่จ๊ะยัยพร ถามเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้ ไม่กลัวคุณพงษ์เทพจะรำคาญเอาหรือยังไง” พรรณอรพูด
“ขอโทษนะคะ งั้นเรามาเข้าเรื่องงานกันก่อนก็ได้ ทางคุณพ่อยอมตกลงร่วมลงทุนกับโครงการเทพสุธาแล้วใช่มั้ยคะ”
พงษ์เทพมองณิชมนที่แอบถอนใจโล่งอกที่ไม่ถูกซักต่อ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

อีกด้านหนึ่งของบ้านสุธาสิน บุรธัชยืนนิ่งคิดอย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ตกลงด้วยหรอกครับ คุณหญิงย่า”
บุรธัชเดินเข้ามานั่งกับณิชาภัทรและนวลแข
“ทำไมเราต้องให้ทางบ้านประภานิชเข้ามาร่วมหุ้นด้วย แล้วยังให้คนที่ทำงานไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างพงษ์เทพมาร่วมบริหารอีก ผมยอมไม่ได้หรอกครับ”
“ก็ธัชเป็นคนต้องการขยายโครงการเทพสุธาไม่ใช่หรือคะ ถ้าหากต้องการขยายโครงการ เราก็ต้องเพิ่มเงินลงทุน เราโชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณพรพรรณเกลี้ยกล่อมคุณสุเทพมาร่วมลงทุนกับเราได้”
“คุณสุเทพได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่ตรงไปตรงมา เค้ายอมร่วมหุ้นกับเราโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย แล้วที่ส่งพงษ์เทพมาช่วยบริหารงานที่รีสอร์ตก็เพราะอยากให้ลูกชายได้ฝึกงานเท่านั้น” นวลแขบอก
“เราได้ทั้งเงินลงทุนก้อนใหญ่แล้วยังได้คนทำงานเพิ่มอีกคน ณิชาไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเสียหายเลย”
“คนอย่างพงษ์เทพจะช่วยงานอะไรคุณได้”
“ธัชไม่ได้เจอคุณพงษ์เทพมากี่ปีแล้ว ตอนนี้เค้าอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้”
“จะไปหาหุ้นส่วนดีๆ อย่างคุณสุเทพที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ คุณชายคุณชายอย่าอคติกับบ้านประภานิชเพียงเพราะทางนั้นสนิทกับบ้านสรณาลัยเลยนะ ตอบตกลงไปเถอะ คุณชาย” นวลแขเกลี้ยกล่อม
“ผมต้องขอคิดดูก่อนครับ”
บุรธัชมีทีท่าอ่อนลง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรรณอรกับพรพรรณเดินมาส่งพงษ์เทพที่หน้าบ้านสรณาลัย ณิชมนเดินหลังมาห่างๆ
“ฝากขอบคุณคุณพ่อด้วยนะคะ คุณพงษ์เทพ ถ้าหากทางบ้านประภานิชไม่มาร่วมลงทุนด้วย โครงการเทพสุธาต้องหยุดชะงักอย่างแน่นอน”
“ทางเราน่าจะเป็นฝ่ายขอบคุณมากกว่าครับ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเทพสุธา แล้วนี่คุณชายธัชไม่มีปัญหากับเรื่องนี้จริงๆหรือครับ”
“ไม่มีปัญหา ไม่มีอย่างแน่นอนค่ะ” พรพรรณตอบ
“แต่ก็อย่าเพิ่งแน่ใจไป ครั้งนี้คุณหญิงนวลแขอาจจะเกลี้ยกล่อมคุณชายธัชไม่สำเร็จก็ได้”
“อ้าว นี่คุณชายธัชยังไม่ตอบตกลงเหรอครับ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณชายธัชเลยค่ะ คุณหญิงนวลแขก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้แล้ว สองเสียงต่อหนึ่งเสียง ยังไงคุณชายธัชก็ต้องยอมตกลง”
“อย่างนี้ก็เท่ากับมัดมือชกคุณชายธัชน่ะซิ นี่คุณชายธัชไม่วีนไม่เหวี่ยงยิ่งกว่าเดิมเหรอ ที่ผ่านมาคุณชายธัชก็อยากจะให้เราถอนหุ้นอยู่แล้ว นี่กลับมีหุ้นส่วนเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้เธอคงโกรธแย่เลยนะ” พรรณอรกล่าว
“พรจัดการเรื่องคุณชายธัชได้อยู่แล้วค่ะ พี่อรไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจ อย่าออกความเห็นเลยดีกว่านะคะ”
พรพรรณจ้องหน้าพรรณอรให้หยุดพูด พรรณอรหน้าเหรอหราไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด
“งั้นเดี๋ยวผมคงต้องแวะไปดูรีสอร์ตซะหน่อย จะได้ไปรายงานคุณพ่อได้ถูก”
"น้าก็จะไปดูงานที่นั่นพอดี เดี๋ยวน้าไปด้วยค่ะ” พรพรรณพูด
“ผมขอคุณแม่บ้านประนอมไปเป็นเนวิเกเตอร์ให้หน่อยนะครับ”
“ฉันไม่รู้จักทางไปรีสอร์ตหรอกค่ะ” ณิชมนรีบตอบ
“ไม่เป็นไร ผมอยากมีคนนั่งรถเป็นเพื่อน” พงษ์เทพหันไปบอกพรพรรณ “ผมขอยืมตัวคุณแม่บ้านหน่อยนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน มีเรื่องต้องอัพเดทกันเยอะ แล้วเดี๋ยวเจอกันที่ที่รีสอร์ตนะครับ น้าพร ขอบคุณสำหรับหนังสือนะครับ น้าอร”
พงษ์เทพรีบยกมือไหว้ลารวบรัดตัดความแล้วดึงตัวณิชมนไปด้วย พรรณอรกับพรพรรณมองตามอย่างแปลกใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พงษ์เทพดึงตัวณิชมนมาที่รถ ณิชมนดึงมือออกจากพงษ์เทพ
“คุณพงษ์เทพคะ…”
“คุณไม่ต้องอธิบายหรอกครับ ผมไม่สนใจว่า ทำไมคุณถึงไม่อยากให้คนที่นี่รู้ว่า เราเจอกันยังไง ผมว่า ผมพอจะเดาออก”
พงษ์เทพมองณิชมนอย่างประเมิน ณิชมนเริ่มหวาดหวั่นร้อนๆหนาวๆ
“คุณคงเพิ่งเรียนจบจากซิดนีย์อย่างคุณนี่น่าจะจบด้านบริหารธุรกิจ พูดได้อย่างน้อยสามภาษา ในยุคเศรษฐกิจอย่างนี้ คุณคงจะเลือกงานไม่ได้คุณมีคุณสมบัติสูงเกินไปก็เลยต้องปรับเปลี่ยนประวัติการทำงานนิดหน่อย ผมเข้าใจ และก็นับถือคุณด้วยที่คุณเป็นคนไม่เลือกงาน”
“คุณจะเข้าใจอย่างนั้นก็ตามใจ เอาเป็นว่า ฉันมีคุณสมบัติที่ไม่ได้ตรงตามตำแหน่ง ก็เลย..บอกประวัติจริงๆให้รู้ไม่ได้ แล้วฉันจะขอบคุณมาก ถ้าคุณจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
“ไม่เป็นปัญหา ผมเป็นคนเก็บความลับเก่งอยู่แล้ว แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรคะ”
“คุณต้องให้โอกาสผมที่จะได้รู้จักคุณมากขึ้นกว่านี้ เริ่มต้นด้วยยอมรับผมเป็นเพื่อน..ผม..พงษ์เทพ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณประนอม”
พงษ์เทพยื่นมือให้ ณิชมนค่อยๆยื่นมือให้พงษ์เทพจับอย่างจำใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ณิชมนมองพงษ์เทพอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรพรรณกับพรรณอรยืนมองณิชมนกับพงษ์เทพอยู่
“พรว่า ประนอมกับคุณพงษ์เทพนี่ยังไงๆกันอยู่นะคะ ดูซิคะ มีจับไม้จับมือกันด้วย นี่ไม่ใช่แค่รู้จักกันธรรมดาแน่ๆ”
“ประนอมจะรู้จักสนิทสนมกับคุณพงษ์เทพแค่ไหน มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรานี่นา”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวคะ คุณสุเทพฝากฝังให้พรช่วยดูแลลูกชาย ถ้าหากคุณพงษ์เทพต้องมาเสียงานเสียการเพราะเรื่องคนของเรา บ้านเรากับบ้านประภานิชได้ผิดใจกันแน่”
ชัยวัฒน์เดินมาหยุดแอบฟัง
“เราควรจะห่วงประนอมมากกว่า คุณพงษ์เทพนี่ เรื่องผู้หญิงนี่ใช่ย่อยซะเมื่อไหร่ ทำตัวเป็นเพลย์บอยลอยไปลอยมาจนพ่อต้องจับส่งไปดัดนิสัยที่เมืองนอกเป็นสิบปี เราต้องเตือนประนอมให้อยู่ห่างๆ คุณพงษ์เทพไว้” พรรณอรกล่าว
“เตือนแล้วจะเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ ประนอมอาจจะชอบที่มีผู้ชายมารุมรุมล้อมก็ได้ เดี๋ยวคุณชายธัชมารับ คุณชายภาสมาส่ง นี่ยังมีคุณพงษ์เทพอีกคน พรรีบไปกันท่าไว้ก่อนดีกว่า”
พรพรรณรีบเดินออกไป
“สองพี่น้อง..คนพี่เป็นแวมไพร์ คนน้องเป็นมนุษย์หมาป่า มารักผู้หญิงคนเดียว เนื้อเรื่องใหม่ความขัดแย้งใหม่ คิดได้ยังไงเรา เก่งจริงๆ” พรรณอรพึมพำ
ไอเดียบรรเจิดขึ้นทันควัน พรพรรณรีบไปทำงานต่อ ในขณะที่ชัยวัฒน์รับรู้เรื่องของณิชมน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณ รีสอร์ตเทพสุธาที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ รถของบุรธัชแล่นมาจอด รถของพงษ์เทพมาจอดเทียบข้างบุรธัชกับณิชาภัทรลงจากรถ พงษ์เทพลงจากรถหันมาเห็นบุรธัชกับณิชาภัทร
“สวัสดีครับ คุณณิชา”
“สวัสดีค่ะ คุณพงษ์เทพ”
“สวัสดีครับ คุณชายธัข”
บุรธัชพยักหน้ารับแทนการทักทาย ณิชมนค่อยๆ ลงจากรถ
“คุณนอมมากับคุณพงษ์เทพได้ยังไงคะเนี่ย”
“คนเป็นเพื่อนกันทำไมจะมาด้วยกันไม่ได้ล่ะครับ คุณณิชา”
บุรธัชมองณิชมนอย่างแปลกใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรเดินนำพาพงษ์เทพกับณิชมนเดินดูรอบๆ รีสอร์ตเทพสุธา บุรธัชเดินตามรั้งท้ายมาอย่างไม่เต็มใจ
“ตอนนี้รีสอร์ตของเราเหลือแค่ตบแต่งภายในอีกนิดหน่อยก็เสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะค่ะ ณิชากะว่าจะ Pre-opening อาทิตย์หน้า ให้สื่อกับแขกวีไอพีมาลองใช้บริการดูก่อน แล้วปลายเดือนค่อยจัดงานเปิดตัวรีสอร์ตเราอย่างเป็นทางการ”
“แล้วคุณณิชาจะให้ผมมาช่วยงานเมื่อไหร่ครับ”
“คุณพงษ์เทพพร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละค่ะ”
“ผมพร้อมจะทำงานได้ทุกเมื่อครับ พรุ่งนี้เลยก็ยังได้”
“คุณพร้อม แต่ผมยังไม่พร้อม เรายังไม่ได้สรุปเรื่องการร่วมลงทุนของคุณ” บุรธัชขัด
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างแปลกใจ
“แต่วันนี้คุณไม่มาเสียเที่ยวหรอก แถวนี้มีที่ให้คุณพาคู่ควงไปเที่ยวอีกเยอะ”บุรธัชประชด
“ฉันไม่ได้เป็นคู่ควงของคุณพงษ์เทพ” ณิชมนรีบแย้ง
“แล้วเธอมากับเค้าในฐานะอะไร”
“จะฐานะอะไรก็เป็นเรื่องของฉัน ไม่รู้ว่า คุณพรพรรณมาถึงหรือยัง ฉันไปดูก่อนนะคะ” ณิชมนพูดกับพงษ์เทพแล้วรีบเดินออกไป
“คุณพงษ์เทพก็บอกแล้วว่าเป็นเพื่อนคุณนอมไม่ใช่คู่เดทซักหน่อย พูดแบบนี้ผู้หญิงเสียหายรู้มั้ย”ณิชาภัทรปราม
“คุณเป็นเพื่อนกับประนอมจริงๆ เหรอ ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่” บุรธัชสงสัย
“ขอโทษจริงๆ ผมคงบอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับคุณนอม”
บุรธัชกับพงษ์เทพมองหน้ากันอย่างไม่ชอบขี้หน้า
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรพรรณประจันหน้ากับบุรธัช ในรีสอร์ตเทพสุธา
“หมายความว่ายังไงคะ คุณชายธัช คุณจะไม่ยอมให้คุณสุเทพมาร่วมลงทุนกับเรา มีเหตุผลอะไรไม่ทราบ”
“ผมไม่ต้องการหุ้นส่วนใหม่”
“คุณชายมีปัญหาเหรอคะ คุณสุเทพก็รับปากแล้วว่า จะไม่มาก้าวก่ายงานบริหารของเรา ทุกอย่างจะเป็นไปเหมือนเดิม ไม่ต้องกลัวว่า ใครจะมาลดทอนอำนาจของคุณชายหรอกค่ะ”
“แล้วที่ส่งลูกชายมาคุมงานที่นี่ มันหมายความว่าอะไรล่ะครับ”
“คุณพงษ์เทพแค่มาทำงานที่นี่ไม่ได้มาคุมใคร คุณณิชายังคงมีอำนาจการตัดสินใจทุกอย่างเหมือนเดิม ถ้าคุณชายไม่ยอมให้คุณสุเทพมาร่วมหุ้นด้วย ก็ลืมเรื่องขยายโครงการเทพสุธาไปได้เลย”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะรับผิดชอบเรื่องเงินลงทุนเอง”
“คุณชายจะไปหาเงินมาจากไหนคะ คุณชายเพิ่งทุ่มซื้อทรัพย์สินของบ้านชุติมันต์หมดไปหลายสิบล้านแล้วยังซื้อที่เพิ่มทำป่าสักอีกเป็นพันไร่.."
“ผมหามาได้ก็แล้วกัน”
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะให้เวลาคุณชายสามวัน ถ้าคุณชายหาเงินมาไม่ได้ ก็เตรียมต้อนรับคุณสุเทพเป็นหุ้นส่วนใหม่ได้เลย”
พรพรรณเดินหงุดหงิดออกไปทางหน้าห้องที่ณิชมนยืนรออยู่
“ไป กลับกันได้แล้ว ประนอม”
พรพรรณเดินนำออกไป ณิชมนหันมามองบุรธัชที่เดินตามออกมา เขามองตามณิชมน ณิชาภัทรมองบุรธัชอีกทอดหนึ่ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พงษ์เทพยืนรออยู่ที่รถในรีสอร์ตเทพสุธา พรพรรณกับณิชมนเดินมา พงษ์เทพรีบปราดเข้ามาหา
“คุณชายธัชว่ายังไงบ้างครับ ถ้าหากทางเราทำให้น้าพรกับคุณชายธัชมีปัญหากันล่ะก็..”
“ไม่มีปัญหาค่ะ” พรพรรณขัด “ไม่มีปัญหาอะไรเลยจริงๆ แค่คุณชายธัชอยากรู้รายละเอียดอะไรบางอย่างเท่านั้น แล้วอีกสามวันน้าจะนัดประชุมสรุปเรื่องทุกอย่างเองนะคะ วันนี้เรากลับกันก่อนดีกว่าค่ะ”
“น้าพรจะกลับไปทำงานที่ไร่ใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ น้าว่าจะกลับไปที่ไร่ก่อนแล้วค่อยไปโรงงาน”
“งั้นผมพาคุณแม่บ้านไปส่งบ้านเองนะครับ”
“อุ๊ย น้าลืมไป น้านัดเพื่อนๆมาดื่มน้ำชาที่บ้าน น้าคงต้องกลับบ้านก่อน แล้วเจอกันนะคะ เรียนคุณพ่อด้วยว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ตกลงไว้ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงเราก็จะได้ร่วมงานกันแน่ๆ น้าไปนะคะ ไป ประนอม”
พรพรรณดึงณิชมนไปที่รถ ดำเกิงยืนรออยู่ที่รถเปิดประตูรถให้พรพรรณ
“ไปไหนต่อครับ” ดำเกิงถาม
“กลับบ้าน” พรพรรณตอบเสียงดัง
พรพรรณปรายตามองพงษ์เทพแล้วรีบเข้ารถไป ดำเกิงปิดประตูให้แล้วเข้าไปในรถ พงษ์เทพยังคงมองมาที่ณิชมน เธอไม่สนใจรีบเข้าไปนั่งข้างคนขับ
พรพรรณมองณิชมนแล้วก็มองไปที่พงษ์เทพ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” พรพรรณพูด
“ไปไร่หรือครับ คุณพรพรรณ”
“ไปวิทยาลัยพลพิทักษ์ ไหนๆ เราก็ออกมาด้วยกันแล้ว เราน่าจะแวะไปเยี่ยมอาจารย์ดาวเรืองกันซักหน่อยนะ ประนอม”
“อาจารย์ดาวเรือง !” ณิชมนตกใจ

+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินตรวจรอบๆ รีสอร์ตกลุ่มคนงานกำลังขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามา
“ยกไปที่ห้องอาหารเลย ระวังๆ หน่อย”
ณิชาภัทรเดินเข้ามา
“อินทีเรียของคุณจะมากี่โมง จะให้ผมอยู่ช่วยมั้ย ณิชา รู้สึกว่า ห้องอาหารไม่ตรงตามแบบเท่าไหร่ โต๊ะเก้าอี้ก็ไม่ได้เป็นไปตามสเป็ค..”
“ทำไมธัชถึงเปลี่ยนใจคะ เมื่อเช้าเราก็คุยกันจนเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ผมยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรด้วยเลยนะ ณิชา ผมบอกว่า ผมขอคิดดูก่อนแล้วตอนนี้ผมก็ตัดสินใจได้แล้ว”
“แล้วธัชจะไปหาเงินจากไหน ธัชต้องหาเงินมาให้ได้อย่างต่ำห้าสิบล้านภายในสามวัน ธัชจะขายไร่ขายโรงงาน ยอมทำลายธุรกิจตัวเองเพียงเพื่อเอาชนะคนบ้านสรณาลัยหรือคะ”
“ผมจำเป็นต้องทำ คุณก็รู้ว่า ที่คุณพรพรรณดึงบ้านประภานิชเข้ามาก็เพื่อจะคานอำนาจเรา อีกหน่อยการบริหารงานต้องมีปัญหาแน่ๆ”
“แล้วคุณพรพรรณก็ยังดึงคุณพงษ์เทพเข้ามาด้วยใช่มั้ยคะ ที่ว่าธัชตัดสินใจได้ ตัดสินใจได้ตอนไหนคะ ตอนที่เห็นคุณพงษ์เทพมากับคุณนอมหรือเปล่า ก็เลยตัดสินใจได้ทันทีว่าไม่ต้องการหุ้นส่วนใหม่คนนี้ !”
ณิชาภัทรเดินออกไป บุรธัชยืนอ้ำอึ้ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถของพรพรรณแล่นมาจอดหน้าอาคารวิทยาลัยพลพิทักษ์ ณิชมนนั่งกระสับกระส่ายหาทางออกอยู่ดำเกิงที่กำลังขับรถอยู่เหลือบตามองเธออย่างแปลกใจ พรพรรณนั่งอ่านเอกสารที่อยู่ด้านหลังรถเสียงโทรศัพท์มือถือของพรพรรณดังขึ้น เธอกดรับมือถือ
“สวัสดีค่ะ คุณทิพย์ ค่ะ พรได้รับบัตรเชิญแล้วค่ะ นานๆจะมีงานเลี้ยงเก๋ๆอย่างนี้ซักที พรไม่พลาดแน่นอนค่า”
“คุณพรพรรณคะ นอมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
พรพรรณติดพันคุยมือถืออยู่ไม่ทันจะฟัง
“พี่ดำเกิงจ๊ะ ขอยืมเศษตังค์หน่อยนะ”
“ห้องน้ำที่นี่เข้าฟรี ไม่ต้องเสียตังค์หรอก”
ณิชมนเห็นเศษเหรียญอยู่ที่คอนโซลรถเธอคว้าหมับมาทันที
“ขอยืมไปก่อน แล้วฉันจะใช้คืนทีหลังนะ”
ณิชมนผลุนผลันลงจากรถทันที พรพรรณเพิ่งกดปิดมือถือ
“นั่น ประนอมไปไหน” พรพรรณถาม
“ไปเข้าห้องน้ำครับ สงสัยจะปวดมาก เห็นเหงื่อแตกพลั่กๆ นั่งก้นไม่ติดเบาะมาตลอดทาง โน่นวิ่งจู๊ดไปโน่นแล้วครับ หวังว่าคงไม่ไปราดกลางทางนะครับ”
“ประนอมนี่ทำอะไรรุ่มร่าม น่าเกลียดจริงๆ”
พรพรรณมองตามอย่างรำคาญใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณ ชมรมค่ายอาสา รวิภาส กันต์และกลุ่มนักศึกษาช่วยกันแพ็คหนังสือและอุปกรณ์การเรียนใส่กล่อง มีนดึงพิมพ์นฤมลเดินเข้ามา
“ได้แรงงานทาสเพิ่มอีกสองคนแล้ว ไปช่วยนายภาสเลย ไป” กันต์ทัก
“นมลช่วยพี่กันต์ดีกว่าค่ะ”
“ไปช่วยนายภาสดีกว่า นมล งานทางนี้จะเสร็จแล้ว”
“ไปเถอะน่า ตอนนี้เราต้องจับตาพี่ภาสไว้” มีนกระซิบ
มีนดึงพิมพ์นฤมลไปช่วยรวิภาสที่กำลังแยกหนังสือเป็นกองๆ
“พี่ภาสจะให้เราทำอะไรบ้างคะ” มีนถาม
“ช่วยแยกหนังสือให้หน่อย พวกนี้เป็นหนังสือที่ได้รับบริจาคมา มีหนังสือเด็กหนังสือผู้ใหญ่มั่วไปหมด บางคนก็ไม่ได้ตั้งใจบริจาคแค่อยากกำจัดขยะในบ้านทิ้งเท่านั้น”
“มองโลกในแง่ร้าย คนบริจาคเค้าอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า เราต้องการหนังสือแบบไหน” พิมพ์นฤมลกล่าว
“เราติดป้ายที่กล่องรับบริจาคว่า รับบริจาคหนังสือให้ห้องสมุดโรงเรียนแล้วไอ้หนังสือโป๊แบบนี้ มันเหมาะสำหรับห้องสมุดโรงเรียนมั้ยล่ะ”
รวิภาสโยนหนังสือให้พิมพ์นฤมลดู
“เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะคัดหนังสือติดเรตทิ้งให้หมดเลยนะคะ” มีนบอก
เสียงมือถือของรวิภาสดังขึ้น รวิภาสมองจอมือถือท่าทางแปลกใจ เขากดรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล คุณเองน่ะเหรอ มีอะไรเหรอครับ”
รวิภาสเหลือบมองพิมพ์นฤมลอย่างไม่ตั้งใจ พิมพ์นฤมลกับมีนจ้องรวิภาสอย่างจับผิด
“ใจเย็นๆ คุณรออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวผมจะรีบไปหา”
รวิภาสกดปิดมือถือ
“ไอ้กันต์ ฉันมีธุระด่วน ไปก่อนนะ”
“เฮ้ย ไหนว่าวันนี้ต้องแพคหนังสือให้เสร็จไงวะ”
รวิภาสไม่ฟังรีบเดินออกไป พิมพ์นฤมลมองตามอย่างสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาสรีบเดินตรงมาที่รถ มีนดึงพิมพ์นฤมลออกมาตามดู
“ท่าทางรีบร้อนอย่างนี้ สงสัยพี่ภาสจะต้องไปหากิ๊กใหม่แน่ๆ” มีนพูด
“กิ๊กใหม่ที่ไหน”
“ก็ยัยแม่บ้านของแกไงล่ะ แกสงสัยอยู่ไม่ใช่เหรอว่า พี่ภาสกับแม่บ้านของแกกำลังกิ๊กกั๊กกันอยู่”
“เค้าสองคนแค่ดูสนิทสนมกันเกินไปเท่านั้น ทีหลังฉันจะไม่เล่าอะไรให้แกฟังอีกแล้ว แกนี่มันฟุ้งซ่านจริงๆ”
“แล้วแกไม่อยากรู้เหรอว่า พี่ภาสรีบร้อนไปไหน ไปหาใคร มีความสำคัญยังไงถึงได้ทิ้งงานไปอย่างนี้”
“ไม่อยากรู้”
“แต่ฉันอยากรู้ เราต้องตามไปดูให้หายข้องใจ ถ้าหากพี่ภาสไม่ได้ไปเจอผู้หญิงอื่นที่ไหน คนที่ฟุ้งซ่านก็คือแก ไม่ใช่ฉัน ไปเร็ว พี่ภาสขับรถออกไปแล้ว เร็วๆซิ เดี๋ยวจะตามไม่ทัน”
รถรวิภาสแล่นไป มีนลากพิมพ์นฤมลไปขึ้นรถของเธอทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่วิทยาลัยพลพิทักษ์ ณิชมนยืนสงบสติอารมณ์อยู่ที่โทรศัพท์สาธารณะ ดำเกิงโผล่มาที่ด้านหลังณิชมน
“คุณแม่บ้านมายืนทำอะไรตรงนี้”
ณิชมนสะดุ้งเฮือกหันมามองดำเกิง
“ฉันมาโทรศัพท์”
“ไหนบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ”
“ฉันเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจ้ะ”
“แล้วโทรหาใครเหรอครับ”
“โทรไปที่บ้านน่ะ ฉันเป็นห่วงงาน”
“แล้วก็ไม่บอก ใช้มือถือของผมก็ได้ แต่คุณแม่บ้านไปหาคุณพรพรรณก่อนดีกว่า เธอไม่ชอบรอใครนานๆ เดี๋ยวได้วีนแตก ไปๆครับ งานที่บ้านไม่ต้องห่วงหรอก กันยากับสายใจมันจัดการได้”
ดำเกิงเดินนำไปแล้วหันกลับมาทำเป็นหยอกล้อ
“คุณแม่บ้านโทรไปที่บ้านแน่เหรอครับ”
“ก็แน่น่ะซิ พี่ดำเกิงสงสัยอะไร” ณิชมนระวังตัว
“ผมก็นึกว่า คุณแม่บ้านแอบแวบมาโทรหาแฟนน่ะซิครับ”
“ฉัน..ฉันโทรไปที่บ้านจริงๆ แต่ไม่มีใครรับสาย สงสัยจะกำลังยุ่ง ฉันกลับไปบ้านก่อนดีกว่านะ”
“คุณแม่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
“ดำเกิงจ้องมองณิชมนอย่างสงสัย เธอส่ายหน้าจนหนทาง
“ไม่มีปัญหา ก็รีบไปหาคุณพรพรรณกันเถอะครับ”
ดำเกิงรีบเดินนำออกไป ณิชมนเดินตามไปอย่างจำยอม
อ่านรักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 9(ต่อ) วันพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.










รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 9(ต่อ)
อีกด้านหนึ่งของวิทยาลัยพลพิทักษ์ พรพรรณกับดาวเรืองเดินออกมาด้วยกัน
“พรต้องขอโทษจริงๆนะคะที่มาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า พรรู้สึกเครียดจริงๆทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องที่บ้าน พรไม่รู้จะไปปรึกษาใครจริงๆ”
“มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ไขไป เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เดี๋ยวพาลจะทำให้ป่วยไข้ไปเปล่าๆ แต่ถ้ามีอะไรจะให้ดิฉันช่วย ก็บอกมาได้เลยนะคะ”
“แค่อาจารย์รับฟังก็ช่วยได้เยอะแล้วล่ะค่ะ พรว่าจะมากราบขอบคุณอาจารย์นานแล้ว เรื่องที่ส่งประนอมไปช่วยงานที่บ้าน ประนอมทำงานใช้ได้ทีเดียวค่ะ”
“แต่ก็ยังมีปัญหาติดขัดอยู่ใช่มั้ยคะ”
“มีปัญหาอยู่นิ๊ดเดียวค่ะ เรื่องผู้ชายค่ะ ประนอมของอาจารย์เสน่ห์แรงจริงๆ มีผู้ชายมาพัวพันไม่ได้ซ้ำหน้าเลย”
“คุณพรเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า อย่างประนอมน่ะหรือมีผู้ชายมาพัวพันไม่น่าจะเป็นไปได้”
“ข้อมูลของพรไม่ผิดหรอกค่ะ ที่มาวันนี้ก็อยากรบกวนอาจารย์อบรมสั่งสอนประนอมให้ซักหน่อย ตอนนี้ประนอมยังไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทางก็จริง แต่เตือนกันไว้ก่อนดีกว่าจะมามีปัญหาทีหลัง”
ดำเกิงเดินนำณิชมนมาแต่ไกล ณิชมนหยุดยืนนิ่งตัวแข็ง
“นั่นประนอมมาพอดี”
ดาวเรืองมองไปที่ณิชมนยังไม่ทันเห็นหน้าถนัด จู่ๆณิชมนก็หันหลังกลับดื้อๆ
“ทำยังไงดีเรา” ณิชมนคิด
“คุณแม่บ้านจะไปไหนครับ คุณพรพรรณรออยู่โน่น” ดำเกิงเรียก
ณิชมนนิ่งตั้งสติหายใจเข้าหายใจออกช้าๆ
“ใจเย็นๆ ณิชมน” ณิชมนพึมพำ
“คุณแม่บ้านครับ”
“ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง ยอมรับความจริงไปเลยดีกว่า !”
ณิชมนก้มหน้าเดินไปหาพรพรรณกับดาวเรืองอย่างช้าๆซังกะตาย เธอเดินเข้าไปใกล้ดาวเรืองทุกทีๆ ดาวเรืองกำลังจะได้เห็นหน้าณิชมน รวิภาสเดินพรวดพราดแซงหน้ายืนบังณิชมนไว้ได้ทันท่วงที เขารีบยกมือไหว้ดาวเรืองกับพรพรรณ
“สวัสดีครับ คุณป้า สวัสดีครับ อาพร ผมขอตัวประนอมไปกับผมก่อนนะครับ มีปัญหาเรื่องโครงการสร้างฝาย พี่ธัชต้องการพบตัวประนอมด่วน”
รวิภาสลากตัวณิชมนไปลิ่วๆ ดาวเรืองได้เห็นแต่ด้านหลัง พรพรรณกับดำเกิงมองตามอย่างงงๆ
“เห็นหรือยังคะ อาจารย์ !”
ดาวเรืองมองพรพรรณยังไม่คล้อยตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รวิภาสกับณิชมนพากันวิ่งมา เขาหยุดวิ่งพักเหนื่อย ณิชมนวิ่งนำหน้าต้องกลับไปลากรวิภาสให้วิ่งต่อ
“เร็วเข้าค่ะ รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก คุณปลอดภัยแล้ว”
“ว่าไม่ได้นะคะ คุณพรพรรณอาจจะเปลี่ยนใจให้พี่ดำเกิงมาตามฉันกลับไปก็ได้ ท่าทางคุณพรพรรณต้องสงสัยอะไรแน่เลย ถึงได้พาฉันมาหาอาจารย์ดาวเรือง”
“คุณระแวงเกินไปแล้วล่ะครับ คุณณิชมน”
ณิชมนเผลอตัวเอามือปิดปากรวิภาส
“เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”
รวิภาสดึงมือณิชมนออกแล้วจับมือณิชมนไว้ พิมพ์นฤมลที่ตามมาพอดียืนมองณิชมน มีนเดินมายืนข้างๆ
“นั่นใครอ่ะ นมล ใช่แม่บ้านของเธอหรือเปล่า” มีนถาม
พิมพ์นฤมลพยักหน้ารับช้าๆอย่างเสียใจ รวิภาสยังจับมือณิชมนอยู่
“คุณฟังผมดีๆนะครับ คุณณิชมน ถ้ายังมีผมอยู่ จะไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร”
“ทำไมคุณถึงได้ใจดีกับฉันจังคะ”
“ผมรู้ว่า การรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวบนโลก มันเป็นยังไง เราคงต้องไปฆ่าเวลาที่ไหนซักพักก่อน ไม่งั้นอาพรจะสงสัยเอาได้ คุณอยากไปไหนหรือเปล่า”
“ฉันอยากไปที่ที่ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย ไปค่ะ ฉันรู้แล้วล่ะว่า เราควรไปไหนกันดี”
รวิภาสกับณิชมนเดินไปขึ้นรถ มีนมองพิมพ์นฤมลอย่างเห็นใจ
“ตามไปต่อมั้ย” มีนพูด
“ไม่ต้อง แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่า อะไรเป็นอะไร”
พิมพ์นฤมลมองตามณิชมนกับรวิภาสที่เดินคุยกันอย่างสนิทสนม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พรพรรณนั่งลงอย่างเหนื่อยใจ ดาวเรืองเลื่อนแก้วน้ำให้พรพรรณ
“อาจารย์เชื่อพรแล้วหรือยังคะ”
“ประนอมไปกับคุณชายภาสเพราะเรื่องงานไม่ใช่เหรอคะ แล้วนี่ประนอมไปเกี่ยวอะไรกับโครงการสร้างฝายคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ อาจารย์ ตอนนี้พรไม่ค่อยจะวางใจประนอมเลย ไม่รู้จะเสียงานเสียการเพราะผู้ชายอีกหรือเปล่า”
“ถ้าคุณพรไม่สบายใจ ส่งประนอมคืนมาก็ได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจแล้วดิฉันจะหาแม่บ้านคนใหม่ให้ แต่คงจะต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ”
พรพรรณตกใจกลัวไม่มีคนทำงานให้รีบกลับลำทันที
“อุ๊ย พรไม่ได้คิดจะไล่ประนอมออกนะคะ ประนอมมีความสามารถทำงานได้หลากหลายดี เรื่องปัญหาผู้ชายนี่ พรจะมองข้ามๆไปก่อนแล้วกัน พรก็ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นสาวแก่อิจฉาเด็ก”
“คุณพรแก่ที่ไหนล่ะคะ คุณน่ะทำตัวแก่เกินอายุเอง”
“ก็พรต้องแบกภาระทุกอย่างจะไม่ให้แก่ได้ยังไงคะ นี่พรก็รอให้นมลเรียนจบจะได้มาช่วยทำงาน ที่จริงพรอยากวางมือแล้วล่ะค่ะ ให้นมลรับงานต่อไปเลย แต่ก็กลัวว่าหลานจะรับมือกับคุณชายธัชไม่ไหว”
“คุณพรยังมีปัญหากับคุณชายธัชอยู่หรือคะ”
“คุณชายธัชต่างหากล่ะคะที่มีปัญหากับพร แล้วตอนนี้คุณชายก็กำลังสร้างปัญหาให้ตัวเอง ถ้าอาจารย์จะกรุณา ช่วยไปเตือนสติคุณชายหน่อยเถอะค่ะ อย่าให้คุณชายตัดสินใจผิดเหมือนอย่างท่านชายบริพัตร”
พรพรรณมองดาวเรืองอย่างจริงใจและหวังดีต่อบุรธัชจริงๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณ บ้านชุตืมันต์ บุรธัชยืนกวาดตามองบ้าน อาจเดินมาหยุดยืนเคียงข้าง
“ฉันคงต้องขายที่นี่”
“คุณชายแน่ใจหรือครับ”
“ถ้าท่านพ่อยังอยู่ ท่านพ่อก็ต้องตัดสินใจเหมือนฉัน”
“คุณชายเหมือนท่านชายบริพัตรมาก เป็นคนใจร้อนคิดเร็วทำเร็ว แต่จะต่างก็ตรงที่ท่านชายเป็นคนแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ทำทุกอย่างเพื่อให้งานประสบผลสำเร็จไม่เคยคิดเอาชนะคะคานใคร” อาจกล่าว
“แล้วลุงอาจจะให้ฉันทำยังไง ปล่อยให้คุณพรพรรณฮุบโครงการเทพสุธาไปเหรอ”
“แต่คุณชายรับปากกับคุณโชติว่าจะรักษาบ้านชุติมันต์ไว้ให้ คุณชายจะผิดคำพูดหรือครับ”
ลุงแสวงเดินเข้ามาอย่างดีใจ
“สวัสดีครับ คุณชาย ผมมัวแต่ทำสวนอยู่ก็เลยไม่รู้ว่า คุณชายมา เดี๋ยวผมไปหาน้ำหาท่ามาให้นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ลุงแหวง ฉันแวะมาดูบ้านแป๊บเดียว”
“ตกลงคุณชายจะซ่อมแซมตรงไหนบ้างล่ะครับ ส่งช่างมาได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ตอนที่ผมรู้ว่า คุณชายเป็นคนซื้อบ้านหลังนี้ไว้ ผมดีใจจนบอกไม่ถูกผมไม่ต้องกลัวว่าบ้านชุติมันต์จะถูกทุบทิ้ง คุณชายเหมือนพระมาโปรดจริงๆ”
บุรธัชสบตากับอาจแล้วต้องเมินหน้าหนีด้วยความรู้สึกผิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ในขณะเดียวกันรถรวิภาสแล่นมาจอดที่หน้าบ้านชุติมันต์ ณิชมนกับรวิภาสลงจากรถ
“คุณรู้จักบ้านชุติมันต์ได้ยังไง” รวิภาสถาม
“ใครๆก็รู้จักบ้านชุติมันต์ทั้งนั้น”
“แต่คุณเพิ่งกลับมาเมืองไทย คุณจะรู้จักได้ยังไง จริงซิ ผมรู้แต่ว่า คุณชื่อณิชมน ผมยังไม่รู้เลยว่า คุณนามสกุลอะไร”
“คุณคบเพื่อนที่นามสกุลหรือไงคะ” ณิชมนเลี่ยง
“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณณิชมน”
“คุณอย่าเรียกชื่อฉันบ่อยนักเลย ถ้าไปหลุดปากต่อหน้าคนอื่นล่ะก็แย่เลย”
“ผมกลัวว่าคุณจะอินกับบทแม่บ้านประนอมจนลืมชื่อตัวเองน่ะซิ”
“ฉันไม่มีวันลืมหรอกค่ะว่า ฉันเป็นใคร ชื่ออะไร เป็นลูกหลานใคร”
ณิชมนยืนมองบ้านชุติมันต์นิ่ง
“มีแต่คนอื่นเท่านั้นแหละที่ลืมฉันไปแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”
ณิชมนเดินนำหน้าเข้าไป
“เดี๋ยวซิ คุณ ตกลงคุณนามสกุลอะไรยังไม่บอกผมเลย”
รวิภาสรีบเดินตามณิชมนเข้าไปในบ้าน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลเดินหน้าเศร้ามานั่งซึมอยู่ที่ริมสระน้ำ บ้านสรณาลัย เธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูรูปรวิภาสที่ถ่ายคู่กับเธอแล้วตัดสินใจจะกดลบรูปทิ้ง จอมือถือขึ้นคำว่า Delete - Yes/No เธอตัดใจลบรูปทิ้งไม่ลงวางมือถือลงข้างตัว
ทันใดนั้นเอง พันธ์นฤสรร์ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ พิมพ์นฤมลเงยหน้าเห็นเป็นน้องชายที่คอยส่งผ้าเช็ดหน้าให้
“จะร้องไห้ไม่ใช่เหรอ” พันธ์นฤสรร์ถาม
“เปล่าร้องซะหน่อย”
“หน้าอย่างนี้ เดี๋ยวก็ร้อง”
“ยังไงก็ไม่ร้อง”
“ไม่ร้องก็ไม่ร้อง กินไอติมมั้ย”
พันธ์นฤสรร์ส่งไอศกรีมถ้วยให้พี่สาวแล้วจ้วงกินไอติมอีกถ้วยของตัวเอง พิมพ์นฤมลกินไอศรีมอย่างละเลียดเหมือนคนกินอะไรไม่ลง
“เค้าไม่รักก็ไม่ต้องไปสนใจ” พันธ์นฤสรร์ บอก
“อะไรนะ”
“แม่เคยบอกว่า คนที่ทำให้เราร้องไห้ แสดงว่า เค้าไม่รักเรา เค้าถึงกล้าทำให้เราจะเสียใจ เค้าไม่รักเรา เราก็ไม่ต้องไปรักเค้า แค่นี้ก็จบ !”
พิมพ์นฤมลเริ่มน้ำตาหยดแหมะพลางจ้วงกินไอศกรีมดับอารมณ์ พันธ์นฤสรร์มองตาปริบๆ พลางส่งถ้วยไอศรีมของตัวเองให้ พิมพ์นฤมลรับถ้วยไอศรีมมาจ้วงกินต่อ น้ำตาก็ไหลไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่บ้านชุติมันต์ บุรธัชกับอาจกำลังจะเดินกลับ ลุงแสวงเดินตามมาส่ง ณิชมนกับรวิภาสเดินเข้ามา ณิชมนเห็นบุรธัชเข้าก่อนรีบดึงรวิภาสหาที่หลบ ลุงแสวงเห็นณิชมนก่อนที่จะหลบไปทัน
“อ้าว คุณประนอมนั่นเอง คุณภาส ไม่ได้เจอกันนานนะครับ แล้วนี่มาด้วยกันได้ยังไงครับ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณนอมรู้จักคุณภาสด้วย” แสวงทัก
“เรื่องที่ประนอมรู้จักกับนายภาสไม่น่าแปลกใจหรอก ลุงแหวงแต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือ ทำไมประนอมถึงชอบมาที่บ้านนี้บ่อยๆ”
บุรธัชมองณิชมนอย่างจับผิด
“วันนี้ผมเป็นคนชวนประนอมมาที่นี่เอง เราเที่ยวกันจนไม่รู้ว่าจะไปไหนดีแล้ว ก็เลยมาที่นี่ ผมว่าจะมาขอลุงแหวงกินข้าวซักมื้อ จะได้มั้ยครับ”
“ได้ซิครับ แต่ผมมีแต่กับข้าวพื้นๆ นะครับ ไม่ทราบว่าจะทานกันได้หรือเปล่าน่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ลุงแหวง ทำอะไรกินกันง่ายๆก็ได้” บุรธัชพูด
รวิภาสกับณิชมนมองบุรธัชอย่างแปลกใจ
“ฉันขออยู่กินข้าวเย็นด้วยคนนะ ลุงแหวง นานๆจะได้กินข้าวเย็นกับน้องชายซักที จะพลาดโอกาสดีๆอย่างนี้ได้ยังไง”
“งั้นผมรีบไปเตรียมอาหารเย็นเลยดีกว่านะครับ”
แสวงกระวีกระวาดเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“ฉันไปช่วยลุงแหวงนะคะ”
ณิชมนจะเดินออกไป บุรธัชดึงตัวณิชมนไว้
“ไม่ต้อง ลุงอาจไปช่วยลุงแหวงหน่อย”
“ครับ คุณชาย” อาจตอบ
อาจเดินออกไป
“ลุงแหวงบอกว่า เธอชอบบ้านหลังนี้มาก วันนี้ฉันจะพาเธอเดินดูบ้านให้ทั่ว เพราะนี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้เข้ามาเหยียบที่นี่”
ณิชมนมองบุรธัชอย่างแปลกใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ในครัวบ้านสรณาลัย กันยา สายใจ รำไพและดำเกิงสุมหัวกินข้าวเย็นตั้งวงเมาธ์อย่างเมามัน ชัยวัฒน์นั่งจิบกาแฟห่างออกมาไม่ร่วมวงด้วย แต่เงี่ยหูฟังตลอด
“ยัยนอมนี่ร้ายจริงๆ เห็นผู้ชายทีไร เป็นได้แล่นปรู๊ดปร๊าดตามไปทุกที”
“เฮ้ย คุณแม่บ้านไม่ได้แล่นตามไป คุณชายภาสลากไปต่างหาก” ดำเกิงแย้ง
“เมื่อเช้าไปกับคุณอะไรนะ คุณพงษ์เทพไม่ใช่เหรอ แล้วไหงไปกับคุณชายภาสได้ล่ะ”
“ยักษ์ลากไป ลิงลากมา อย่างกับนางสีดาในรามเกียรติ์”
“อย่างนี้เรียกว่านางกากีมากกว่า”
“เฮ้ย แรงไปแล้วมั้ง พูดอะไรอย่าให้มันเกินไป” ดำเกิงกล่าว
“ไม่เกินไปหรอก พี่ดำเกิง ไม่เห็นหรือไง ยัยนอมควงผู้ชายไม่เคยต่ำกว่าสองคน ไม่รู้ว่ามีดีอะไรนัก ผู้ชายถึงได้ติดกันตรึม ฉันสวยกว่ายัยนอมเป็นไหนๆ เดี๋ยวฉันจะควงสามเช้ากลางวันเย็นไม่ซ้ำหน้าให้ดู”
นมลเดินเข้ามาหยุดฟัง
“ยังไงเธอก็สู้คุณแม่บ้านไม่ได้หรอก สายใจ ดูผู้ชายที่คุณแม่บ้านควงแต่ละคนซิ มีทั้งคุณชายไฮโซ ลูกเศรษฐีพันล้าน อย่างต้องมีทีเด็ดแน่ๆ” ชัยวัฒน์เสริม
พิมพ์นฤมลเดินเข้ามาทุกคนในนิ่งค้างหุบปากไป
“คุณน้าพรเคยสั่งแล้วใช่มั้ยว่า ห้ามจับกลุ่มนินทากัน นินทากันทีไรต้องมีเรื่องทะเลาะกันทุกที”
“เราไม่ได้นินทานะครับ คุณนมล พวกเรากำลังสงสัยต่างหากล่ะครับว่า คุณประนอมมาทำงานที่นี่เพราะมีเจตนาอื่นแอบแฝง” ชัยวัฒน์พูด
“หมายความว่ายังไง”พิมพ์นฤมลสงสัย
“ก็เห็นๆอยู่ครับ คุณประนอมเห็นที่นี่เป็นใบเบิกทางเพื่อจะได้จับผู้ชายรวยๆ ไม่งั้นผู้หญิงสวยๆอย่างคุณประนอมจะยอมทำงานเป็นแม่บ้านกระจอกๆเหรอครับ ผมพูดถูกมั้ยครับ คุณนมล”
พิมพ์นฤมลนิ่งฟังพยายามจะไม่คล้อยตามแต่ก็อดคิดไม่ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินนำมาที่ระเบียงบ้านเห็นต้นไม้ใหญ่รอบๆอาณาบริเวณบ้านชุติมันต์ ณิชมนกับรวิภาสเดินตามมา
“พี่ธัชไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งห้ามไม่ให้ประนอมมาที่นี่นะครับ”
“เป็นความผิดของฉันเองค่ะ คุณภาส ฉันควรจะขออนุญาตคุณชายธัชก่อน คราวหน้าฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว คราวนี้ฉันขอโทษจริงๆ”
“ขอโทษไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะมีคราวหน้าอีกมั้ย คงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านคนใหม่แล้ว”
“พี่ธัชจะขายบ้านหลังนี้หรือครับ พี่ธัชจะขายให้ใคร”
“ฉันยังไม่ตัดสินใจ มีคนอยากได้ที่ดินตรงนี้อยู่หลายคน ใครให้ราคาดีที่สุด ฉันก็คงจะขายให้เค้าไป แล้วเค้าจะทำอะไรกับบ้านหลังนี้ ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องของฉันแล้ว”
“คุณขายบ้านหลังนี้ไม่ได้นะคะ บ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของคุณโชติ คุณน่าจะเก็บบ้านนี้ไว้ก่อน ทายาทของคุณโชติอาจจะกลับมาซื้อคืนเมื่อไหร่ก็ได้” ณิชมนแย้ง
“บ้านหลังนี้มีคุณค่าเกินกว่าที่พี่ธัชจะมาขายทิ้งง่ายๆอย่างนี้ แล้วผมก็มีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้เท่าๆกับพี่ธัชเหมือนกัน ผมจะไม่ให้พี่ธัชขาย”
“แกลืมไปหรือว่าแกไม่สิทธิ์มีเสียงอะไรทั้งนั้น ฉันตัดสินใจไปแล้ว และฉันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ”
บุรธัชเดินออกไป รวิภาสจะเดินตามไปเอาเรื่องแต่ณิชมนดึงเขาไว้
“ขอฉันพูดกับคุณชายธัชเอง”
ณิชมนรีบตามบุรธัชไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินกลับเข้ามาในบ้านชุติมันต์ ณิชมนตามมาดึงตัวบุรธัชไว้
“คุณชายธัชคะ ฉันขอร้องล่ะค่ะ อย่าขายบ้านชุติมันต์เลยนะคะ คนอื่นอาจจะไม่ดูแลรักษาบ้านนี้เหมือนคุณ แล้วลุงแหวงอีกล่ะ ลุงแหวงจะไปอยู่ที่ไหน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ”
“แล้วคุณไม่เสียดายบ้านเก่ามีประวัติเป็นมายาวนานอย่างนี้หรือคะ ฉันเชื่อว่า คุณก็ต้องมีความผูกพันกับบ้านนี้ ไม่งั้นคุณคงไม่ซื้อมันตั้งแต่ทีแรกหรอก”
“ฉันซื้อเก็บไว้เก็งกำไรต่างหากล่ะ”
“คุณรอก่อนได้มั้ยล่ะคะ รออีกซักสองสามปีก็ได้”
“เธอจะไปหาเงินมาซื้อบ้านหลังนี้จากฉันเหรอ อย่างเธอไม่น่าจะต้องใช้เวลาถึงสองสามปี แค่วันสองวันเธอก็น่าจะหาเงินได้แล้ว”
“คุณต้องการจะพูดอะไร”
“ก็ฉันเห็นเธอตีสนิทกับผู้ชายได้รวดเร็วเหลือเกิน แล้วก็เลือกคบผู้ชายได้เก่งซะด้วย อย่างนายพงษ์เทพนี่น่าจะหลอกได้ง่ายหน่อย นายคนนี้ถูกใจผู้หญิงคนไหนก็ทุ่มได้เป็นล้านๆ”
“นี่คุณ !”
“แต่ถ้าเป็นนายภาสล่ะก็เสียใจด้วยนะ เพราะกว่านายภาสจะได้มรดกก็ต้องอายุยี่สิบห้าโน่นแน่ะ สิบแปดมงกุฏอย่างเธอไม่น่าพลาดเลยนะ เสียเวลามาจับน้องชายฉันที่มีแต่ตัว สู้เอาเวลาไปจับเหยื่อกระเป๋าหนักอย่างพงษ์เทพดีกว่า”
“คุณจะดูถูกฉันมากเกินไป ฉันไม่เคยคิดจะจับใคร !”
“แล้วไอ้การที่เธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายรวยๆ ตลอดเวลาน่ะ มันหมายความว่ายังไง อย่ามาอ้างเรื่องงาน ฉันไม่เชื่อหรอก แม่บ้านที่ไหนเป็นแบบเธอบ้าง ไม่แปลกหรอกที่เธออยากรวยทางลัด แต่ขอแนะนำหน่อยนะ อย่าทำตัวง่ายเกินไปนัก เดี๋ยวราคาจะตกเร็ว !”
ณิชมนโกรธจนหน้ามืดตวัดมือตบหน้าบุรธัชฉาดใหญ่ บุรธัชคว้าเธอเข้ามากอด ก้มหน้าลงใกล้กำลังจะจูบณิชมน แต่รวิภาสเดินเข้ามาขัดจังหวะ
“พี่ธัช !”
ณิชมนสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดบุรธัชเดินหนีออกไปทันที รวิภาสมองบุรธัชนิ่งอย่างสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถรวิภาสแล่นมาจอดที่หน้าตัวบ้านสรณาลัย ณิชมนลงจากรถอย่างเศร้าซึม รวิภาสลงรถตามมา
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” รวิภาสถาม
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
“แล้วเกิดอะไรขึ้น พี่ธัชทำอะไรคุณ”
“ช่างมันเถอะค่ะ พี่ชายคุณคงไม่ได้ตั้งใจ ฉันเองก็ทำรุนแรงกับเค้าเหมือนกัน ถือว่าหายกัน คุณไม่ต้องไปพูดเรื่องนี้กับคุณชายธัชอีกให้เรื่องมันจบตรงนี้นะคะ”
“คุณกับพี่ธัชทะเลาะกันเรื่องบ้านชุติมันต์ใช่มั้ย คุณผูกพันอะไรกับบ้านหลังนี้นักหรือครับ”
“บ้านหลังนี้มีความหมายกับฉันค่ะ”
“มีความหมายยังไงล่ะครับ ยังบอกไม่ได้ ก็ได้ๆ ผมจะไม่ซักอะไรคุณแล้วคุณยังยอมคบผมเป็นเพื่อนอยู่ก็โอเคแล้ว”
“ฉันต่างหากที่กลัวคุณจะไม่คบด้วย ฉันสัญญานะคะว่า ต่อไปนี้ฉันจะพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จะไม่รบกวนคุณอีก”
“ไม่เป็นไร มีอะไรโทรหาผมได้ตลอดเวลา ไม่งั้นเราจะมีเพื่อนไว้ทำไม”
รวิภาสตบไหล่ให้กำลังใจณิชมนแล้วกลับขึ้นรถไป ณิชมนยืนรอจนรวิภาสขับรถออกไป เธอยิ้มอย่างมีความสุขอย่างน้อยก็มีรวิภาสเป็นที่พึ่ง แต่เมื่อหันกลับมาณิชมนก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อพบว่าพิมพ์นฤมลกำลังยืนมองมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและเดินกลับเข้าบ้านไปเงียบๆ ณิชมนยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลเดินเข้ามาในบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่หน้านิ่งคอแข็งด้วยความรู้สึกโกรธ ณิชมนเดินตามเข้ามาอย่างร้อนรน
“คุณนมลคะ”
พิมพ์นฤมลหันกลับมามองณิชมน
“มีอะไรหรือคะ พี่นอม”
“คุณนมลอย่าเข้าใจผิดนะคะ คือว่านอม..นอมไปธุระกับคุณภาสมาเป็นธุระสำคัญจริงๆ ไม่งั้นนอมคงไม่ไปหรอกค่ะ”
“นมลก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ พี่นอมจะไปไหนกับใครก็ไม่ใช่ธุระอะไรของนมล แต่อย่าไปเวลางานก็แล้วกัน อย่าลืมว่าพี่นอมยังเป็นแม่บ้านของบ้านสรณาลัยอยู่”
“นอมไม่เคยลืมหน้าที่ของตัวเองหรอกค่ะ นอมจะทำงานให้คุ้มค่าเงินเดือนที่สุดเลยค่ะ”
“แต่คนทำงานเก่งๆอย่างพี่นอมน่าจะได้ทำงานที่ดีกว่านี้นะคะ ถ้าหากมีคนเสนองานดีๆมาให้ พี่นอมก็อย่าปฏิเสธเลยนะ นมลเข้าใจค่ะทุกคนก็ต้องการที่จะมีอนาคตดีๆกันทั้งนั้น”
“ไม่มีใครเคยเสนองานให้นอมนี่คะ”
“ก็ดูเหมือนคนบ้านบุริศราวัณจะชื่นชมการทำงานของพี่นอมนะคะ อีกไม่นานคุณชายธัชคงต้องมาซื้อตัวพี่นอมไปแน่ ไปทำงานที่บ้านโน้นก็ดีนะคะ พี่นอมจะได้ตัดสินใจได้ซักทีว่า จะเลือกคุณชายธัชหรือพี่ภาส”
“คุณนมล ! ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะคะ นอมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณนมลคิดนะคะนอมก็อยากจะอธิบายให้คุณเข้าใจนอมได้มากกว่านี้ แต่นอมบอกไม่ได้จริงๆ นอมก็ได้แต่หวังว่าความเป็นเพื่อนของเรา...”
“ความเป็นเพื่อนของเรามันจบลงตั้งแต่วันที่พี่นอมโกหกนมลแล้วล่ะค่ะ”
พิมพ์นฤมลเดินออกไป ณิชมนยืนคอตกหมดหวังที่จะปรับความเข้าใจกับเธอ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนเดินวนไปวนมาในห้องอย่างสับสนวุ่นวายใจ เธอหยิบรูปของบุรธัชขึ้นมาดูและนึกถึงตอนที่เธอตบหน้าบุรธัช
“ทำไปได้ไง..ไม่น่าเลยจริงๆ” ณิชมนพึมพำ
เธอทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง
จบตอนที่ 9
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.









กำลังโหลดความคิดเห็น