ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 4
ที่บ้านสรณาลัย พรรณอรกับพรพรรณเดินออกมาส่งดาวเรือง
“อาจารย์ไม่น่ารีบกลับเลยนะคะ น่าจะอยู่ทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อน” พรรณอรบอก
“นั่นน่ะซิคะ จะได้อยู่เจอประนอมด้วย ยัยประนอมก็ไม่รู้ไปจ่ายตลาดถึงไหนป่านนี้ทำไมยังไม่กลับมาอีก สงสัยต้องไปเถลไถลที่อื่นต่อแน่ๆ”
“ตลาดไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นะ ยัยพร เธอนี่จ้องหาเรื่องจับผิดประนอมเค้าอยู่เรื่อย เดี๋ยวเค้าทนไม่ไหวลาออกไปจะว่ายังไง แม่บ้านดีๆไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ นะ เธอ”
“ค่า ประนอมทำงานดีทำงานเก่ง แต่พรไม่เชื่อหรอกว่า ประนอมจะดีจะเก่งไปซะทุกอย่าง คนเรามันก็ต้องมีข้อเสียกันบ้างล่ะ จริงมั้ยคะ อาจารย์” พรพรรณประชด
“ค่ะ ทุกคนก็ต้องมีข้อดีข้อเสียต่างๆกันไปแหละค่ะ อย่างประนอมเป็นคนซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ทำงานเก่ง แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง” ดาวเรืองตอบ
พรพรรณหูผึ่ง “ประนอมมีข้อเสียเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ประนอมเคยเหลวไหลอยู่ช่วงนึงตอนที่มีแฟนน่ะค่ะ ตอนนั้นติดแฟนมาก แต่พอเลิกรากันไปก็กลับมาตั้งใจทำงานเหมือนเดิม”
“ต๊าย ยัยประนอมนี่บ้าผู้ชายเหรอคะ อย่างนี้จะดีเหรอคะ พี่อร จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับนมลนะคะ”
“ประนอมโดนแฟนปอกลอกจนแทบหมดเนื้อหมดตัว เรียกว่าได้บทเรียนราคาแพงแล้ว คงไม่กล้าทำตัวเหลวไหลอีกแล้วล่ะค่ะ ดิฉันก็เข้าใจประนอมนะคะ เป็นผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่พอมีผู้ชายหน้าตาดีๆมาติดพันก็ต้องหลงใหลได้ปลื้มจนขาดสติเป็นธรรมดา”
พรรณอรกับพรพรรณมองหน้ากันคิดเหมือนกันว่าใช่ประนอมคนเดียวกันหรือเปล่า
“แต่ยังไงดิฉันก็อยากขอโอกาสให้ประนอมเค้าซักหน่อยนะคะ ให้ลองทำงานที่นี่ไปซักพัก ทำงานถูกใจไม่ถูกใจยังไงก็ค่อยมาว่ากันอีกที แล้วดิฉันจะแวะมาดูประนอมให้ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ดิฉันลาล่ะค่ะ”
พรรณอรกับพรพรรณยกมือไหว้ ดาวเรืองรับไหว้แล้วเดินออกไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่ริมถนน บุรธัชกับณิชมนนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น บุรธัชรู้สึกตัวค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ณิชมนยังนอนนิ่งอยู่ บุรธัชประคองณิชมนขึ้น ปัดผมที่ปรกหน้าออก ตบหน้าเบาๆให้คืนสติ
“เธอ..เป็นยังไงบ้าง ประนอม..ประนอม..”
ณิชมนได้สติค่อยๆ ลืมตาขึ้นพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของบุรธัช
“คุณ !”
ณิชมนผลักบุรธัชออกแล้วพรวดพราดลุกขึ้นยืนแต่เกือบเซล้มเพราะความหน้ามืด
“ยังไม่ตายหรอกเหรอ เจ็บตรงไหนบ้างล่ะ”
“เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย แล้วเราจะกลับขึ้นไปยังไงล่ะเนี่ย”
ณิชมนเงยหน้ามองไปบนถนน
“เดินเลยไปอีกหน่อยก็มีทางขึ้นแล้ว” บุรธัชบอกแล้วเดินนำออกไป,ณิชมนขยับตัวตามแล้วต้องชะงักเพราะเจ็บข้อเท้า
“โอ๊ย..”
บุรธัชหันกลับมามองอย่างรำคาญ
“เป็นอะไร”
“เจ็บขา เจ็บแปล๊บๆ ยังไงไม่รู้”
“เดินไหวมั้ย”
“คุณจะให้ฉันขี่หลังเหรอไง”
“ขาหักหรือเปล่า”
“ขาคงจะเคล็ดไม่ถึงกับหักหรอก”
“ขายังไม่หัก ก็เดินตามมา”
บุรธัชเดินนำไปอย่างไม่แยแส
“เป็นสุภาพบุรุษจริงๆ คุณชายบุรธัช !!”
ณิชมนเดินกะโผลกกะเผลกตามไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บนถนน บุรธัชเดินกลับมาที่รถทีแรกจะขึ้นรถไปเลยแต่ก็ตัดสินใจยืนรอณิชมน ณิชมนเดินกระปลกกระเปลี้ยตามมา
“โชคดีจริงๆที่รถยังอยู่ นึกว่าถูกขโมยไปซะแล้ว”ณิชมนโล่งใจ
“เธอขับรถไปก่อน เดี๋ยวฉันจะขับตามหลังเธอไป” บุรธัชสั่ง
“คุณจะตามไปจับผิดอะไรฉันอีกล่ะ”
“ที่ฉันจะขับรถตามหลังเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะขับรถลงข้างทางก่อนที่จะถึงบ้าน ดูสารรูปตัวเองซะก่อน ยืนก็แทบจะไม่ไหวแล้ว จะขับรถไหวมั้ยล่ะเนี่ย”
“ที่ฉันเป็นอย่างนี้ก็เพราะคุณไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณไม่ขับรถไล่ตามฉันมา ฉันก็ไม่อยู่ในสภาพแบบนี้หรอก นี่ถ้าฉันขาหักแขนหักไปล่ะก็ ฉันฟ้องคุณหมดตัวแน่”
“เธอควรจะสำนึกบุญคุณฉันที่ช่วยชีวิตเธอไว้ มากกว่าจะมาโวยวายใส่ฉันอย่างนี้ ถ้าไม่มีฉัน ป่านนี้เธอคงกลายเป็นผีเฝ้าถนนไปแล้ว”
“ถ้าฉันตายไป คุณนั่นแหละเป็นฆาตกร คุณเลิกตามรังควาญฉันซักทีได้มั้ย ฉันมีเรื่องปวดหัวมากพอแล้ว อย่ามาเพิ่มปัญหาให้ฉันอีก คุณเป็นศัตรูกับใคร ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ถ้าหากเลิกคิดร้ายกับคนอื่นไม่ได้ล่ะก็ ไปพบจิตแพทย์ซะ” ! “นี่เธอ !” บุรธัชเริ่มฉุน
ณิชมนไม่สนใจเดินกะโผลกกะเผลกขึ้นรถไป
บุรธัชกลับไปที่รถตัวเอง ณิชมนบีบแตรดังลั่นเร่งให้บุรธัชไปเร็วๆ บุรธัชหันไปมองอย่างหงุดหงิด ณิชมนไม่รอให้บุรธัชขึ้นรถขับรถหลบรถบุรธัชที่ขวางถนนอยู่เฉียดตัวเขาไปอย่างน่าหวาดเสียว บุรธัชมองอย่างฉุนๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสรณาลัย รถณิชมนแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน ณิชมนลากสังขารของตัวเองลงจากรถ เธอเดินไปเปิดท้ายรถ ดำเกิงกระวีกระวาดมาช่วยขนของ
“กลับมาแล้วเหรอครับ”
ดำเกิงเห็นสภาพของณิชมนแล้วต้องชะงัก
“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณแม่บ้าน”
“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยจ้ะ”
พันธ์นฤสรร์ ไถรถ Scooter เข้ามา มองณิชมนหัวจดเท้า
“ทำไมเยินอย่างนี้ล่ะ ไปกัดกับหมาที่ไหนมา”
“คุณพันสรพูดจาไม่น่ารักเลยค่ะ พูดกับผู้ใหญ่ พูดอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”
“ไม่ต้องมาสอน !” พันธ์นฤสรร์ตะคอกแล้วฉกถุงขนมจากดำเกิง ก่อนจะไถรถ Scooter ออกไป ณิชมนมองตามอย่างทำอะไรไม่ได้แล้วหันกลับมาขนของท้ายรถ
“ เออ..แล้วอาจารย์ดาวเรืองยังอยู่หรือเปล่า พี่ดำเกิง”
“อาจารย์กลับไปซักพักได้แล้วล่ะครับ แต่ท่านบอกว่า แล้วจะมาใหม่ท่าทางท่านอยากจะเจอคุณแม่บ้านอยู่ คราวหน้าคงได้เจอกันแน่ๆ”
ดำเกิงถือถุงเดินออกไป
“ยังจะมีคราวหน้าอีกเหรอเนี่ย” ณิชมนพึมพำ ยังคงหวั่นใจว่าความลับจะแตกในไม่ช้า
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านบุริศราวัณ บุรธัชเปลี่ยนชุดใหม่เดินออกมา อาจยืนรอรายงานผลอยู่
“ว่ายังไง ลุงอาจ เป็นไปอย่างที่ฉันคิดไว้ใช่มั้ย”
“เออ..คือว่า..ผมว่า..คุณชายอาจจะคิดมากไปเองนะครับ”
“ลุงอาจไปพบไปเห็นอะไรมา ก็บอกฉันมาตรงๆ ดีกว่า”
“คุณภาสไปหาคุณนมลที่คณะครับ คุยกันอยู่แป๊บๆ ก็ออกมาแล้วครับ คงจะไปคุยเรื่องเรียนล่ะมั้งครับ”
“นายภาสเคยสนใจเรื่องเรียนที่ไหน แล้วอีกอย่างสองคนนั่นเรียนกันคนละคณะ ลูกสาวคุณพรรณอรเรียนบริหารการท่องเที่ยว นายภาสเรียนเกษตร จะคุยเรื่องเรียนอะไร นายภาสคงไปจีบฝ่ายโน้นซะมากกว่า”
“คุณภาสอาจจะไปจีบตามประสาผู้ชาย ไม่จริงจังอะไรหรอกมั้งครับ”
“จะจริงจังหรือไม่จริงจัง ฉันก็ไม่ต้องการให้นายภาสไปคบหากับคนบ้านสรณาลัย แล้วที่คุณพรรณอรส่งลูกสาวมาตีสนิทกับนายภาส มีแผนอะไรอยู่ก็ไม่รู้”
“คุณภาสเป็นฝ่ายไปหาคุณนมลเองนะครับ คุณชาย”
บุรธัชไม่สนใจฟัง” เรื่องนี้ฉันอยู่เฉยไม่ได้แน่ ฉันต้องดึงนายภาสออกมาก่อนที่จะถลำตัวลึกลงไปกว่านี้”
อาจค้านอะไรไม่ได้,ได้แต่มองบุรธัชตาปริบๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ชมรมค่ายอาสาฯ พิมพ์นฤมลกับมีนก้มหน้าก้มตากรอกใบสมัครจนเสร็จ แล้วส่งใบสมัครให้กันต์อย่างรวดเร็ว กันต์รับใบสมัครมาดูอย่างตั้งตัวไม่ติด
“เป็นอันว่า นมลกับมีนเป็นสมาชิกของชมรมค่ายอาสาโดยสมบูรณ์แล้วนะคะ พี่กันต์”
“ครับๆ น่าจะเป็นอย่างนั้น”
กันต์ยังไม่แน่ใจ หันไปมองรวิภาสที่นั่งปรึกษากับเพื่อนอยู่ห่างออกไป
“พี่กันต์ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พี่ภาสยอมให้นมลเข้าชมรมฯแล้วจริงๆ “ มีนบอก
“พี่ก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี”
“เชื่อเถอะค่ะ พี่กันต์ แล้วนี่พี่กันต์จะให้เราทำอะไรบ้าง บอกมาได้เลยค่ะ”
“วันนี้คงยังไม่มีอะไรทำหรอก กลับบ้านไปก่อน อีกสองวันนายภาสคงจะเรียกประชุมสรุปโปรเจ็คของปีนี้ แล้วคงรู้ว่าใครจะต้องทำอะไรบ้าง”
“งั้นเรากลับกันเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ พี่กันต์”
พิมพ์นฤมลหันไปมองรวิภาสที่ไม่สนใจมองมาเลย
“ขอบคุณนะคะ พี่ภาส”
รวิภาสหันมามองพิมพ์นฤมลกับมีน พยักหน้ารับรู้ไปอย่างนั้น
“นึกว่าเท่ตายล่ะ” พิมพ์นฤมลแขวะ
พิมพ์นฤมลกับมีนเดินออกไป กันต์รีบเดินไปหารวิภาส
“เกิดอะไรขึ้นวะ ไอ้ภาส เมื่อก่อนแค่นมลเดินเฉียดผ่านหน้าชมรมฯ แกยังโวยวายจะเป็นจะตาย แล้วทำไมตอนนี้เกิดยอมให้เค้าเข้าชมรมฯได้ล่ะ”
“ก็ตอนนี้เราต้องการคนทำงานเพิ่ม...”
“ฉันว่าจะต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่”
“มันจะมีอะไรมากกว่านั้นวะ นมลหัวดื้อจะตาย ยังไงก็คงหาทางเข้าชมรมได้แน่ ฉันก็เลยรับๆเข้ามาให้หมดเรื่องหมดราว อีกอย่างคุณหนูไฮโซอย่างนมลอยู่ชมรมใช้แรงงานอย่างชมรมเราได้ไม่นานหรอก”
กันต์มองรวิภาสอย่างสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
หน้าชมรมค่ายอาสาฯ พิมพ์นฤมลกับมีนเดินออกมา
“ฉันเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุดก่อนนะ แกไปรอที่รถเลย เดี๋ยวฉันไปส่งแกที่บ้านให้” มีนบอกนมล
“ไม่ต้องรีบนะ แต่เร็วๆ หน่อยก็ดี”
“เจ้าค่า คุณผู้หญิง” มีนประชดแล้วเดินไปห้องสมุด รวิภาสเดินผ่านมาพอดี
“วันนี้ไม่ได้เอารถมาเหรอ” รวิภาสถาม
“ถามทำไม จะไปส่งเหรอ” พิมพ์นฤมลเย้า
“ไปส่งก็ได้ มีเรื่องจะคุยด้วยอยู่พอดี”
พิมพ์นฤมลแกล้งทำเป็นรำคาญ “เรื่องอะไรอีกล่ะ”
“ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร”
รวิภาสเดินหนี พิมพ์นฤมลรีบวิ่งตาม
“เดี๋ยวซิ อย่าเพิ่ง ขอนมลโทรบอกมีนก่อน พี่ภาสๆ รอด้วยๆ”
พิมพ์นฤมลรีบตามรวิภาสไปพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหามีนทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถของรวิภาสแล่นมาจอดหน้าบ้านสรณาลัย รวิภาสจอดรถเรียบร้อย พิมพ์นฤมลนั่งมองรวิภาสอย่างไม่อยากเชื่อว่าได้นั่งรถมาด้วยกัน วิภาสหันมามองเธอ
“ถึงบ้านแล้ว ลงไปซิ เป็นอะไรไป วิญญาณออกจากร่างไปแล้วหรือไง”
พิมพ์นฤมลรู้สึกตัว “เออ..ก็พี่ภาสบอกว่า มีเรื่องจะพูดด้วยไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีอะไร แค่อยากมาส่งเฉยๆ”
พิมพ์นฤมลเผลอยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ซะเมื่อไหร่ล่ะ”
พิมพ์นฤมลหุบยิ้มทันที
“เธออย่าเพิ่งดีใจไป ถึงวันนี้ฉันจะยอมรับเธอเข้าชมรมแล้ว ก็ใช่ว่าเธอจะได้เป็นสมาชิกอย่างถาวร ถ้าหากเธอทำงานไม่ได้เรื่องล่ะก็ ฉันไล่เธอออกจากชมรมแน่”
“นมลจะพิสูจน์ให้ดูว่า นมลทำงานเป็นและก็ทำได้ดีกว่าที่พี่ภาสคิด พี่ภาสอย่าหาเรื่องแกล้งนมลก็แล้วกัน”
“ฉันจะไปแกล้งอะไรเธอ”
“พี่ภาสไว้ใจได้ซะที่ไหน”
พิมพ์นฤมลนึกได้รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วดึงรวิภาสเข้ามาใกล้ เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้รวิภาสแล้วรีบถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือทันที
“ทำอะไรน่ะ”
“ถ้าพี่ภาสแกล้งอะไรนมลล่ะก็ นมลจะส่งรูปนี้ไปให้แฟนของพี่ภาสทุกคน!”
พิมพ์นฤมลยิ้มทะเล้นใส่แล้วรีบลงจากรถทันที รวิภาสอดยิ้มขำไม่ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในบ้านสรณาลัย ณิชมนที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วมองพิมพ์นฤมลกินคัพเค้กอย่างอร่อย พิมพ์นฤมลมีท่าทางเริงร่ามากผิดปกติ ณิชมนมองคัพเค้กที่หน้าเละดูไม่น่ากิน แต่ดูเหมือนว่าพิมพ์นฤมลจะไม่สังเกตเห็นเลย
“คุณนมลคะ นอมขอโทษนะคะ นอมไม่ทันระวัง ทำคัพเค้กเละหมดเลย คุณนมลทานอย่างอื่นเถอะนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงเละก็ยังทานได้อยู่นี่ คัพเค้กร้านพี่ก้อยนี่อร่อยจริงๆเลย”
“วันนี้คุณนมลดูมีความสุขจังเลยค่ะ”
“วันนี้มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นน่ะซิคะ พี่นอม วันนี้พี่ภาสขับรถมาส่งนมลค่ะ”
“คุณภาสขับรถมาส่งแค่นี้ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้วเหรอคะ”
“พี่ภาสไม่เคยพูดดีๆกับนมลเลย หน้าก็แทบจะไม่มอง แล้วอยู่ดีๆ พี่ภาสก็ขับรถมาส่งนมล จะไม่ให้เห็นว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์ได้ยังไงล่ะคะพี่นอม พี่ภาสคงจะเกลียดนมลน้อยลงแล้วล่ะมั้ง”
“ทำไมคุณภาสถึงต้องเกลียดคุณนมลด้วยล่ะคะ คุณสองคนมีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
“นมลกับพี่ภาสไม่มีเรื่องอะไรกันหรอกค่ะ แต่เป็นเราสองบ้านที่มีปัญหาค้างคากันมานานนับสิบปี ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสะสางกันได้ซะที”
ณิชมนมองพิมพ์นฤมลด้วยท่าทีตั้งใจรอฟังเรื่องต่างๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านบุริศราวัณ รวิภาสเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี บุรธัชนั่งอ่านเอกสารรออยู่ รวิภาสเดินผ่านเลยไปอย่างไม่ใส่ใจ
“ไหนแกบอกว่า แกจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านสรณาลัยยังไงล่ะ”
รวิภาสชะงักหันกลับมา บุรธัชวางเอกสารลงลุกขึ้นประจันหน้ากับเขา
“ลุงอาจมารายงานแล้วเหรอครับ”
“แกไปหาลูกสาวคุณพรรณอรทำไม”
“ผมไม่ได้แค่ไปหานมลที่คณะนะครับ เมื่อกี้นี้ผมยังไปส่งเค้าถึงบ้านด้วย ตอนแรกว่าจะอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านสรณาลัยซักหน่อย แต่คิดอีกทีกลับมารายงานตัวกับพี่ธัชก่อนดีกว่า พี่ธัชอยากรู้อะไร ถามมาได้เลย”
“แกทำอย่างนี้ทำไม”
“ถ้าหากพี่ธัชเชื่อใจผมซักหน่อย ผมก็จะไม่ทำอย่างนี้หรอก ต่อไปนี้ผมจะทำตามใจตัวเอง ผมอยากจะทำอะไร ผมก็จะทำ ผมอยากจะคบใคร ผมก็จะคบ”
“แกจะคบผู้หญิงคนไหน ฉันไม่ว่า แต่ห้ามคบกับลูกสาวคุณพรรณอรเป็นอันขาด !”
บุรธัชกับรวิภาสยืนประจันหน้ากัน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสรณาลัย ณิชมนได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างบ้านสรณาลัยกับบ้านบุริศราวัณจากพิมพ์นฤมลจนหมดแล้ว
“นอมไม่คิดเลยนะคะว่า ปัญหาระหว่างบ้านสรณาลัยกับบ้านบุศราวัณ จะร้ายแรงอย่างนี้ มิน่าล่ะ คุณชายแวมไพร์นั่นถึงได้เกลียดคนบ้านสรณาลัยนัก”
พิมพ์นฤมลกำลังดื่มน้ำอึกใหญ่ ได้ยินคำพูดของณิชมนก็แทบสำลักน้ำ
“พี่นอมเรียกคุณชายธัชว่าอะไรนะคะ”
“คุณชายแวมไพร์ค่ะ คุณชายนั่นเหมือนผีดิบดูดเลือดจะตาย ดูเย็นชาไม่มีหัวใจ เจอนอมทีไรทำท่าเหมือนอยากขย้ำคอให้ตายทุกที แล้วสรุปว่า เค้าเข้าใจผิดไปเองใช่มั้ยคะ เรื่องที่คุณพ่อคุณนมลไปโกงคุณพ่อของเค้าน่ะ”
“ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ ค่ะ พี่นอม คุณพ่อเป็นคนดีไม่มีวันจะโกงใครได้หรอกค่ะ นมลอยากให้ปัญหาเรื่องนี้จบลงซักที นมลกับพี่ภาสจะได้กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“คุณนมลชอบคุณภาสหรือคะ”
“พี่นอมพูดอะไรน่ะ” พิมพ์นฤมลเขินอาย “ นมลไม่ได้ชอบพี่ภาสซักหน่อย”
ณิชมนมองพิมพ์นฤมลแล้วยิ้มอย่างรู้ทัน
“ชอบก็ได้ แต่นมลชอบพี่ภาสแบบพี่ชายแบบเพื่อน..ก็เท่านั้น”
“งั้นนอมจะช่วยให้คุณภาสกลับมาเหมือนเดิมนะคะ”
ณิชมนเหลือบเห็นมือถือของพิมพ์นฤมลวางอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู เธอเห็นรูปพิมพ์นฤมลกับรวิภาสเป็นวอล์เปเปอร์มือถือเรียบร้อยแล้ว
“พี่นอมจะทำอะไรน่ะ”
ณิชมนกดเลือกรูปพิมพ์นฤมลกับรวิภาสแล้วจัดแจงส่งรูปไปให้รวิภาสทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านบุริศราวัณ บุรธัชกับรวิภาสยังคงยืนประจันหน้าฮึ่มๆ ใส่กันอยู่
“ฉันหวังว่า ฉันคงจะไม่ต้องเตือนแกเรื่องนี้อีก ต่อไปนี้ห้ามแกไปยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวคุณพรรณอรอีก อย่าแต่คบเป็นแฟนเลย ให้คบเป็นเพื่อน ฉันก็ไม่อนุญาต” บุรธัชออกคำสั่ง
มีเสียงสัญญาณข้อความเข้าดังจากมือถือของรวิภาส
รวิภาสกดมือถือดูข้อความ เห็นรูปที่ณิชมนส่งมาแล้วยิ้มขำ
“ช้าไปแล้วล่ะครับ พี่ธัช นมลตอบรับเป็นแฟนผมแล้วล่ะครับ”
รวิภาสชูมือถือให้บุรธัชเห็นรูปที่ส่งมาชัดๆ เจตนาแกล้งยั่วโมโหเล่น
“นายภาส !”
“ผู้หญิงระดับอย่างนมลนี่ ผมคงจะเล่นๆด้วยไม่ได้ คงต้องรักจริงหวังแต่ง ดีเหมือนกันนะ พี่ธัช ถ้าผมแต่งงานกับนมล เราสองบ้านจะได้รวมเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขซักที”
“ถ้าแกคิดถึงแต่ความสุขของตัวเอง ไม่คิดถึงหน้าที่ของตัวเอง แกก็ไม่ใช่คนบ้านบุริศราวัณแล้ว นายภาส”
“พี่ธัชก็หัดหาความสุขใส่ตัวเองบ้าง เลิกหมกมุ่นเรื่องบ้านสรณาลัยซักที สนใจคนที่อยู่ข้างๆ บ้าง พี่ณิชาอดทนคบกับพี่ธัชมาเป็นสิบปีเคยคิดจะไปง้อคืนดีบ้างมั้ย ก่อนที่คิดจะกำหนดชีวิตใคร ก็ทำชีวิตตัวเองให้ดีซะก่อนเถอะครับ”
รวิภาสเดินจากไป ทิ้งบุรธัชให้ยืนอย่างโดดเดี่ยว
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสุธาสิน ณิชาภัทรเดินออกมาเห็นบุรธัชยืนรออยู่
“ธัช..มาหาคุณย่าเหรอคะ คุณย่าไม่อยู่ค่ะ วันนี้ก๊วนของท่านนัดเล่นไพ่บริดจ์กัน กว่าจะกลับก็คงค่ำๆแหละค่ะ”
“ผมไม่ได้มาหาคุณหญิงย่า ผมมาหาคุณ”
“มีอะไรเหรอคะ ธัช”
“ผมอยากปรึกษาเรื่อง..เรื่องโครงการเทพสุธาน่ะ เราจะขยายทำรีสอร์ตด้วย คุณดูแลคนเดียวคงจะไม่ไหว จะหาคนมาช่วยมั้ย”
ณิชาภัทรมองท่าทางเหนื่อยอ่อนของบุรธัชอย่างรู้ทัน
“ธัชมาปรึกษาเรื่องงานอย่างเดียวเหรอคะ ณิชารับฟังได้ทุกเรื่องนะคะ”
“ผมไม่อยากรบกวนคุณ..”
“ธัชมาหาณิชาก็เพราะอยากหาคนคุยด้วยไม่ใช่เหรอคะ ไปค่ะ ไปทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยคุยกัน ณิชาดีใจจังที่ธัชมาหา ณิชาจะได้ไม่ต้องทานข้าวคนเดียว”
ณิชาภัทรดึงบุรธัชเดินไปที่สวนด้วยกัน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่โต๊ะสนามในสวน บุรธัชกับณิชาภัทรานั่งอยู่ด้วยกัน คนรับใช้ยกจานชามอาหารชุดสุดท้ายออกไป คนรับใช้อีกคนยกชุดกาแฟเข้ามาวางไว้
“เดี๋ยวฉันจัดการเองจ้ะ”
คนรับใช้เดินกลับเข้าบ้าน ณิชาภัทรรินกาแฟให้บุรธัช
“น้ำตาลสองเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ หรือว่าเพิ่มเป็นสามดี ชีวิตของธัชจะได้หวานขึ้นอีกหน่อย จะได้เลิกทำหน้าขมอย่างนี้ซะที”
“ผมก็เป็นผมอย่างนี้ จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอก”
“แต่ณิชาเชื่อว่า คนเราเปลี่ยนกันได้นะคะ เพียงแต่คนที่จะเปลี่ยนธัชได้ไม่ใช่ณิชาเท่านั้นแหละ”
“คุณคงเสียใจที่มาเสียเวลากับผู้ชายแย่ๆ อย่างผม”
“ณิชาไม่เสียใจค่ะ แล้วก็ไม่เสียดายเวลาที่เสียไปด้วย เรามีช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำ และที่สำคัญณิชาเป็นคนที่จะเลือกคบธัชเอง แล้วถ้าหากภาสจะเลือกคบใคร ก็ปล่อยให้เค้าตัดสินใจเถอะค่ะ ภาสโตพอที่จะรู้อะไรเป็นอะไรแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าหากนายภาสรู้อะไรเป็นอะไร มันคงไม่ไปคบลูกสาวคุณพรรณอรหรอกยังไงผมก็ให้สองคนนี้คบกันไม่ได้”
“เรารอดูไปก่อนดีมั้ยคะ ธัช ภาสกับนมลอาจจะคบกันเป็นแค่เพื่อนก็ได้”
“คบกันแบบไหน ผมก็ไม่ให้ทั้งนั้น”
“ธัชไม่ต้องการเพื่อน แต่คนอื่นเค้าต้องการนะคะ ไม่มีใครอยู่คนเดียวในโลกได้เหมือนธัชหรอก”
“ใครบอกว่า ผมไม่ต้องการเพื่อน”
บุรธัชจับมือณิชาภัทร
“ผมต้องการเพื่อนอย่างคุณเสมอนะ ณิชา..”
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างเริ่มมีความหวังแต่บุรธัชเห็นเธอเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านสรณาลัย ณิชมนกำลังเดินเก็บของเล่นที่พันธ์นฤสรร์ ทิ้งเกลื่อนตามพื้น พิมพ์นฤมลเดินตามณิชมนพลางกดมือถือดูตลอดเวลา
“พี่นอมไม่น่าส่งรูปไปให้พี่ภาสเลย ไม่รู้พี่เค้าโกรธหรือเปล่า ไม่เห็นตอบอะไรกลับมาเลย”
“ถ้าคุณภาสโกรธ อย่างมากเค้าก็คงลบรูปทิ้งไป”
“แล้วถ้าพี่ภาสไม่ลบรูปทิ้งล่ะ”
“ก็แสดงว่า..คุณภาสคิดอย่างเดียวกับที่คุณนมลคิด”
“พี่ภาสจะคิดกับนมลแบบนั้นจริงๆ เหรอ” พิมพ์นฤมลเขิน
“จริงๆ ซิคะ ถ้าคุณภาสไม่ลบรูปทิ้งก็แสดงว่า คุณภาสเห็นคุณนมลเป็นเพื่อนเหมือนอย่างที่คุณนมลคิด” ณิชมนกระเซ้า
พิมพ์นฤมลทำหน้าผิดหวัง
“หรือว่าคุณนมลคิดมากไปกว่านั้นคะ”
“นมลไม่พูดกับพี่นอมแล้ว”
พิมพ์นฤมลเดินงอนออกไป ณิชมนยิ้มขำแล้วหันมองเข้าไปในห้อง เห็นชัยวัฒน์กำลังนั่งอ่านนิตยสารรถอย่างสบายอารมณ์ โดยมีพันธ์นฤสรร์นั่งเหมือนทำการบ้านอยู่ใกล้ๆ แต่กลับขีดเขียนอะไรไปมั่วๆ
“เสร็จแล้ว เล่นเกมได้หรือยัง” พันธ์นฤสรร์ถามห้วนๆ
“เสร็จแล้วเหรอครับ ครูให้พักสองชั่วโมง แล้วเดี๋ยวกลับมาคัดลายมือนะครับ”
“ไม่เอา ขี้เกียจ ดูการ์ตูนดีกว่า”
“ก็ได้ๆ ตามใจครับ” ชัยวัฒน์ตอบส่งๆ
พันธ์นฤสรร์คว้าเครื่องเล่นเกมแล้ววิ่งออกไปทันที
ณิชมนเดินเข้ามาหยิบสมุดที่พันธ์นฤสรร์วางทิ้งไว้ ชัยวัฒน์เงยหน้าเห็นณิชมน
“คุณนอม..เออ..ผมกำลังจะตรวจการบ้านเลขของคุณพันสรอยู่พอดีเลย”
“คงไม่ต้องตรวจหรอกค่ะ เพราะคุณพันสรไม่ได้ทำเลขซักข้อเดียว”
ณิชมนโชว์สมุดให้เห็นว่ามีแต่รูปการตูนเต็มหน้าสมุด ณิชมนส่งสมุดคืนให้ชัยวัฒน์แล้วเดินออกไป ชัยวัฒน์มองตามอย่างไม่สบายใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
ตอนที่ 4(ต่อ)
พรรณอรกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับแวมไพร์พลางจดข้อมูลลงในสมุด ณิชมนเดินเข้ามาวางแก้วน้ำผลไม้ไว้บนโต๊ะให้
“ขอบใจนะ”
ณิชมนยืนรีรอ พรรณอรเงยหน้าขึ้นมองณิชมน
“มีอะไรหรือจ๊ะ ประนอม อยากรู้ล่ะซิว่า ฉันกำลังอ่านอะไรอยู่ฉันกำลังหาข้อมูลสำหรับเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ คราวนี้ฉันจะให้พระเอกเป็นแวมไพร์ แล้วนางเอกเป็นนักข่าวสาว...”
“สมัยนี้คนคงเบื่อเรื่องแวมไพร์แล้วล่ะค่ะ มีทั้งหนังทั้งซีรีส์ไม่รู้กี่เรื่องแล้วค่ะ ทั้งแนวโหดๆ แนวโรแมนติค แนวคอมเมอดี้ ไม่น่าจะมีอะไรให้เขียนแล้วนะคะ”
“ถ้าเป็นฉันเขียนล่ะก็ รับรองไม่มีทางซ้ำกับเรื่องอื่นแน่ๆ ในเมืองไทยไม่มีใครเขียนนวนิยายสืบสวนซ่อนเงื่อนได้สนุกเท่าวิศัลยา วรรณกานต์อีกแล้ว อุ๊ยตาย ฉันทำความลับแตกซะแล้ว เธอห้ามบอกใครเชียวนะว่า ฉันคือ วิศัลยา วรรณกานต์”
พรรณอรมองณิชมนอย่างลุ้นๆ รอดูว่าณิชมนจะมีอาการตื่นเต้นที่ได้รู้เรื่องนี้หรือไม่
“วิศัลยา วรรณกานต์?” ณิชมนทำท่าไม่รู้จัก
“อึ้งไปเลยเหรอ ประนอม ไม่ต้องตื่นเต้นไป ฉันนี่แหละ วิศัลยา วรรณกานต์ นักเขียนชื่อดังที่ไม่มีใครรู้ว่า ตัวจริงเป็นใคร รู้มั้ยว่า ทุกคนคิดว่าฉันเป็นผู้ชาย เพราะฉันเขียนฉากแอคชั่นไล่ล่าได้สนุกมาก แต่หนังสือเล่มใหม่ ฉันจะเขียนเป็นแนวแฟนตาซี..”
“คุณผู้หญิงคะ…”
“อยากได้ลายเซ็นเหรอ ไปเอาหนังสือมาซิ เดี๋ยวฉันเซ็นให้”
“นอมไม่มีหนังสือของคุณหรอกค่ะ นอมไม่ค่อยชอบอ่านนิยาย”
พรรณอรเสียเซลฟ์
“นอมขอรบกวนคุยเรื่องคุณพันสรหน่อยได้มั้ยคะ”
พรพรรณเดินเข้ามาพร้อมกับชัยวัฒน์
“เรื่องพันสรเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย”
ณิชมนหันไปมองพรพรรณกับชัยวัฒน์
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พรพรรณนั่งลงข้างพรรณอร ชัยวัฒน์ขยับไปยืนใกล้ๆ พรพรรณ ณิชมนมองชัยวัฒน์รู้ว่าชัยวัฒน์ร้อนตัวจึงรีบไปตามพรพรรณมา
“มีอะไรก็พูดมาได้เลย ประนอม บ้านนี้ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น มีปัญหาอะไร จะได้ช่วยกันแก้ไข”
“นอมขอถามหน่อยได้มั้ยว่า ทำไมถึงไม่ส่งคุณพันสรเข้าโรงเรียนคะ”
“พันสรไม่ชอบไปโรงเรียนน่ะซิ ฉันก็เลยให้พันสรเรียนที่บ้าน เธอคงไม่รู้ว่าสมัยนี้มีการศึกษาทางเลือกใหม่ หรือที่เค้าเรียกว่า Home schoolน่ะจ้ะ” พรรณอรบอก
“ฉันก็เลยจ้างครูชัยวัฒน์มาสอนที่บ้าน ครูชัยวัฒน์จบด้านนี้มาโดยเฉพาะเคยสอนโรงเรียนทางเลือกใหม่ที่ดังๆ มาตั้งเป็นสิบปี” พรพรรณเสริม
“ครับๆ ผมเชี่ยวชาญการสอนแบบโฮมสคูล ผมไปอบรมมาหลายหลักสูตรศึกษามาทุกแนวคิด ทั้งแนวคิดแบบองค์รวม หรือแนวคิดของซัมเมอร์ ฮิลผมเอามารวบรวมแล้วเขียนหลักสูตรขึ้นมาใหม่ รับรองคุณพันสรได้ความรู้ไม่แพ้เรียนในโรงเรียนแน่ๆ”
“แต่เรียนแบบโฮมสคูลไม่ได้หมายความว่า จะปล่อยให้คุณพันสรทำอะไรทุกอย่างตามใจชอบนะคะ ยังไงก็ต้องมีตารางเรียนที่แน่นอน จะต้องสอนให้คุณพันสรรู้หน้าที่ของตัวเอง ต้องมีวินัยว่า เวลาไหนเวลาเรียน เวลาไหนเวลาเล่น” ณิชมนท้วง
“เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่หน้าที่ของเธอเลยนะ ประนอม ถ้าหากครูชัยวัฒน์ทำหน้าที่บกพร่อง เธอต้องมาบอกฉัน ไม่ใช่แจ้นมาฟ้องพี่อรเอาหน้าอย่างนี้” พรพรรณขัด
“ผมไม่ได้ทำหน้าที่บกพร่องเลยนะครับ” ชัยวัฒน์แก้ตัว “ ผมทำตามที่คุณพรรณอรสั่งทุกอย่าง ให้ปล่อยคุณพันสรใช้ชีวิตอย่างอิสระ อย่าไปบีบบังคับมาก ไม่งั้นจะไปจำกัดจินตนาการของเด็กได้”
“ฉันก็สั่งครูชัยวัฒน์ไปอย่างนั้นจริงๆ” พรรณอรเสริม
“แต่ก็ไม่ควรจะปล่อยคุณพันสรมากเกินไปนะคะ ยังไงเข้มงวดเรื่องการเรียนหน่อยก็ดี เพราะตอนนี้ภาษาไทยผสมคำง่ายๆ คุณพันสรยังอ่านไม่ได้เลย เพราะครูชัยวัฒน์ปล่อยให้คุณพันสรสร้างจินตนการไปกับเกมเพลย์สเตชั่นรุ่นใหม่” ณิชมนยังไม่ลดละ
“งั้นฉันฝากด้วยแล้วกันนะ ครูชัยวัฒน์ ไม่งั้นสอนวัดผลคราวหน้า ถ้าพันสรสอบไม่ผ่าน พันสรต้องเสียใจแย่เลย ขอบใจประนอมนะ ที่เป็นหูเป็นตาให้ ฉันขอไปทำงานต่อล่ะ” พรรณอรสรุปแล้วหยิบหนังสือแล้วเดินออกไป
ณิชมนมองตามอย่างรู้สึกเหนื่อยเปล่า ส่วนพรพรรณจ้องณิชมนอย่างจับผิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พรพรรณเดินออกมาจากห้องพรรณอร ยังรู้สึกคาใจเรื่องณิชมนอยู่ ชัยวัฒน์เดินตามพรพรรณมาอย่างร้อนใจ
“คุณพรพรรณครับ ผมไม่ได้ปล่อยปละละเลยคุณพันสรอย่างที่ประนอมกล่าวหานะครับ อย่างประนอมเป็นแค่หัวหน้าคนใช้ จะมารู้อะไรเกี่ยวกับการเรียนการสอนของผม การสอนแบบทางเลือกนี่ต้องใช้แนวคิดแบบ Child center เราให้ความสำคัญกับความต้องการของเด็กเป็นอันดับแรก อธิบายไป คนใช้จบม.6 อย่างประนอมไม่มีวันเข้าใจแน่ๆ”
“ครูไม่รู้สึกผิดสังเกตหรือยังไงว่า ประนอมพูดจาฉลาดเกินกว่าจะจบแค่ม.6 แม่บ้านอย่างประนอมไม่น่าจะเข้าใจระบบการศึกษาแบบโฮมสคูลด้วยซ้ำไป” พรพรรณขัดขึ้น
“คุณพรพรรณอย่าไปให้ราคากับคำพูดของคนใช้อย่างประนอมเลย ไม่ต้องจบม.6 หรอกครับ จบป.6 ก็พูดอย่างประนอมได้ ก็แค่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็น เข้าไปค้นหาข้อมูลแป๊บเดียว แล้วก็เอามาพูดมั่วๆก็ฟังดูดีได้ สมัยนี้มีแต่คนมีความรู้แบบกลวงๆ อย่างนี้ทั้งนั้น”
ชัยวัฒน์ชะงักรู้สึกว่าพูดเข้าตัวเองทั้งนั้น
“ที่จริงยัยประนอมจะจบป.6 หรือว่า ม.6 ก็ไม่สำคัญหรอก ฉันแค่สงสัยว่าผู้หญิงสวยๆหน้าตาฉลาดๆอย่างนี้ เป็นแค่แม่บ้านชื่อประนอม บุญเสริมจริงๆ เหรอ”
พรพรรณยังไม่ปล่อยวางเรื่องประนอม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่ห้องณิชมน พรพรรณค่อยๆ เปิดประตูแล้วย่องเข้ามา แล้วมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง
“ห้องสะอาดสะอ้าน แสดงว่าเป็นคนมีระเบียบ”
พรพรรณเริ่มค่อยๆ ค้นดูข้าวของในห้องหยิบเสื้อผ้าออกมาดู
“มีแต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เสื้อผ้ายี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยได้ยิน มีหนังสือภาษาอังกฤษด้วย แบบเรียนภาษาไทย พจนานุกรม พกมาทำไม”
พรพรรณค้นหนังสือของณิชมนออกมาดู มีหนังสือ Lonely planet, หนังสือแบบเรียนภาษาไทย
หนังสือท่องเที่ยวเชียงราย พจนานุกรมไทย-อังกฤษ,หนังสือสารคดีประเทศไทย
“มันแปลกๆ ยังไงชอบกล !”
ณิชมนเปิดประตูเข้ามา พรพรรณตกใจทำหนังสือทั้งหมดร่วงหล่นลงกับพื้น
“อุ๊ยตายแล้ว !”
พรพรรณรีบก้มลงเก็บหนังสือ ณิชมนเห็นพาสปอร์ตที่สอดอยู่ในหนังสือหลุดกระเด็นอยู่ที่พื้น
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพรพรรณ นอมเก็บเองค่ะ” ณิชมนลนลาน
“ฉันเก็บให้เอง”
พรพรรณกำลังจะหยิบหนังสือเล่มที่ทับอยู่บนพาสปอร์ตขึ้นมา ณิชมนตะครุบรวบทั้งหนังสือและพาสปอร์ตขึ้นมาได้ทันเวลาก่อนที่พรพรรณจะเห็น ณิชมนลุกขึ้นยืนกอดหนังสือไว้แน่น
“คุณพรพรรณมีอะไรจะใช้นอมเหรอคะ”
“เปล่าๆ ไม่มี๊ไม่มีอะไรจะต้องใช้เธอ”
“แล้วคุณพรพรรณมาที่ห้องนอมทำไมคะ”
“ทำไม ฉันจะเข้ามาตรวจดูห้องเธอไม่ได้หรือไง ในบ้านนี้ฉันสามารถเข้าตรวจดูได้ทุกห้องตลอดเวลา ใครมีอะไรปกปิดไว้ล่ะก็ ไม่มีทางที่จะรอดหูรอดตาฉันไปได้หรอก ระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ”
พรพรรณเดินออกไป ณิชมนหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาดู รูปถ่ายในพาสปอร์ตพร้อมชื่อ Miss Nichamon Chutimun
“ณิชมน ชุติมันต์..เธอคงจะอยู่บ้านนี้ได้อีกไม่นาน” ณิชมนพึมพำ
ณิชมนเริ่มคิดจะหาทางออกอีกครั้ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่ ที่บ้านบุริศราวัณ บุรธัชนั่งดื่มกาแฟอยู่ ณิชาภัทรเดินเข้ามา
“ขอทานมื้อเช้าด้วยคนซิคะ ธัช”
“ไม่เห็นจะต้องขอเลย คุณก็เหมือนเจ้าของบ้านนี้อยู่แล้ว”
อาจถือหนังสือพิมพ์มาวางให้บุรธัช
“ลุงอาจให้เด็กจัดอาหารเช้าเพิ่มอีกที่นะ” บุรธัชบอก
“ได้ครับ คุณชาย”
“แล้วนี่ภาสยังไม่ตื่นหรือคะ ลุงอาจ”
“คุณภาสออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะครับ”
“บอกหรือเปล่าว่า ไปไหน”
“เห็นบอกว่าไปทำกิจกรรมของชมรมน่ะครับ”
“ทำกิจกรรมอะไร ชมรมอะไร วันๆมันก็มั่วสุมอยู่กับวงดนตรีของมัน ถามทีไรก็บอกว่า ไปซ้อมดนตรีบ้านเพื่อน ไม่เห็นมันจะทำอย่างอื่นเป็นเลย”
“ภาสมีอะไรดีๆ อย่างที่ธัชอาจจะคิดไม่ถึง..”
บุรธัชไม่สนใจฟัง “ผมรู้ว่า ผมจะไปตามมันได้ที่ไหน”
บุรธัชผุดลุกขึ้นเดินออกไปทันที ณิชาภัทรรีบเดินตามไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ยามเช้า ณ บ้านสรณาลัย พรรณอรเปิดหนังสือภาพวาดสวยๆ แล้วฟังไอพอดไปด้วย ณิชมนเดินเข้ามาหา
“คุณผู้หญิงคะ”
พรรณอรฮัมเพลงเสียงดังไม่ได้สนใจณิชมน
“คุณผู้หญิงคะ” ณิชมนเสียงดังขึ้น
ณิชมนขยับไปอยู่ตรงหน้าพรรณอร
“มีอะไรจ๊ะ ประนอม”
“นอมขออนุญาตไปข้างนอกนะคะ”
“อะไรนะ” พรรณอรเสียงดังขึ้น
ณิชมนชี้ไปที่หูฟัง พรรณอรนึกได้จึงถอดหูฟังออก
“มีอะไรหรือจ๊ะ”
“นอมขออนุญาตไปข้างนอกนะคะ คือว่า..นอมลืมซื้อ.”.
“ไปเลยจ้ะ ฉันอนุญาต”
พรรณอรหยิบหูฟังขึ้นมาสวมต่อทันทีแล้วเปิดหนังสือดูต่ออย่างสบายอารมณ์
ณิชมนโล่งอกที่ได้รับอนุญาตง่ายดาย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถบุรธัชแล่นมาจอดที่หน้ารั้วบ้านสรณาลัย บุรธัชมองเข้าไปในบ้าน ณิชาภัทรที่นั่งอยู่ข้างๆ มองบุรธัชอย่างอ่อนใจ
“ภาสคงไม่มาที่นี่หรอกมั้งคะ”
“เมื่อวานนายภาสยังมาส่งลูกสาวคุณพรรณอรเลย วันนี้มันอาจจะมารับกันก็ได้ จีบกันใหม่ๆ ก็ต้องเช้าถึงเย็นถึงอย่างนี้แหละ”
“ตอนธัชจีบณิชาไม่เห็นจะเช้าถึงเย็นถึงเลย มีแต่ณิชาต้องมาหาธัช ไม่งั้นก็ไม่ได้เจอหน้ากัน”
“ก็คุณเป็นฝ่ายที่จีบผม คุณก็ต้องมาหาผมซิ”
“ธัช !”
ณิชาภัทรทุบบุรธัชทำเป็นโมโหไปอย่างนั้น บุรธัชจับมือณิชาภัทรไว้ ณิชาภัทรมองบุรธัชแล้วยิ้มมีความสุข เธอเป็นฝ่ายจับมือบุรธัชไว้เอง
“ณิชาอยากให้ธัชเป็นอย่างนี้ทุกวัน ทำตัวสบายๆ ขำๆ บ้าง”
บุรธัชหันไปเห็นณิชมนขับรถออกมาจากในบ้าน
“แม่บ้านประนอม..” บุรธัชโพล่งออกมา
บุรธัชรีบขับตามไปอย่างรู้สึกสังหรณ์ใจ
“ธัชจะไปไหน แล้วนั่นรถใครคะ ธัชขับรถตามใครน่ะ”
“รถแม่บ้านตัวแสบน่ะซิ !”
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างไม่เข้าใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ไร่บุริศราวัณ รวิภาสยืนจิบกาแฟอย่างสบายใจ กันต์ยืนชะเง้อมองไปไกลๆ พิมพ์นฤมล มีนและนักศึกษาอีกสามสี่คนวิ่งหอบแฮ่กๆ มาแต่ไกลเหงื่อท่วมตัว แล้วมาหยุดตรงหน้ารวิภาส พิมพ์นฤมลกับมีนวิ่งลากขามาถึงสุดท้าย
“ครบสิบรอบแล้วค่ะ” พิมพ์นฤมลบอกอย่างหมดแรง
รวิภาสหันไปหยิบขวดน้ำมาดื่ม พิมพ์นฤมลกับมีนมองตามตาละห้อย
“พอได้แล้วมั้ง ไอ้ภาส” กันต์พูด
“น้องๆ เค้ายังไม่เหนื่อยกันนี่”
“เหนื่อยค่ะ พี่ เหนื่อยมากด้วย มีนรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย” มีนบอก
“เราตกลงว่าจะรับน้องกันพอขำๆ ไม่ใช่เหรอวะ อย่าโหดนักเลย” กันต์ท้วง
“ชมรมเราไม่เคยทำอะไรแค่ขำๆ เราทำอะไรทำจริง วันนี้เราไม่ได้ต้องการแค่รับน้องสนุกๆ แต่เราต้องการทดสอบว่า น้องๆ จะอึดพอที่จะอยู่ชมรมเราได้หรือเปล่า” รวิภาสเสียงเข้ม
“ถ้าต้องการทดสอบกันจริงๆ ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคิดจะหาทางบีบใครบางคนให้ออกจากชมรมฯล่ะก็ บอกให้เลยนะคะว่า แผนการสกปรกอย่างนี้ไม่มีทางสำเร็จแน่ วันนี้นมลสู้ตาย ! “
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ นมล” กันต์ซัก
“ก็ชมรมค่ายอาสาฯ เคยรับน้องใหม่หนักอย่างนี้เหรอคะ ให้มารอตั้งแต่ตีสี่ ให้วิ่งเป็นสิบๆ กิโลไม่ได้หยุด ไม่ให้กินข้าวไม่ให้กินน้ำ นมลอยากรู้ว่าเวลาไปออกค่ายจริงๆ ไม่มีข้าวไม่มีน้ำให้กินหรือยังไง ถึงต้องทดสอบพวกเราแบบนี้ อย่างนี้แกล้งกันชัดๆ !”
“กันต์ พาน้องๆ กลับไปชมรมฯ ได้แล้ว” รวิภาสสั่ง
พิมพ์นฤมล มีนและนักศึกษาคนอื่นๆ ยิ้มดีใจ
“ยกเว้นนมล !” รวิภาสขัดขึ้น
“อะไรนะ”
“ไหนบอกว่า วันนี้จะสู้ตายยังไงล่ะ ตามฉันมา !”
รวิภาสเดินออก พิมพ์นฤมลยืนอึ้ง มีนเข้าไปกอด
“นมล สู้ๆนะ อย่ายอมแพ้ ถ้าแกไม่ตายซะก่อน คงได้เจอกันใหม่นะ”
มีนเดินตามกันต์ออกไปพร้อมกลุ่มนักศึกษา
รวิภาสหันมามองพิมพ์นฤมลด้วยสายตาท้าทาย แต่เธอทำฮึดเดินตรงไปหารวิภาส
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
วิภาสขี่จักรยานอย่างสบายๆ นำมา พิมพ์นฤมลวิ่งหอบเหนื่อยตามหลังอย่างแทบจะไม่มีแรงวิ่งแล้ว
“วิ่งเร็วๆ หน่อยซิ” รวิภาสหันไปแกล้ง
“เร็วแล้ว”
“เร็วกว่านี้อีก ไม่ไหวแล้วใช่มั้ย”
“ไหว !”
พิมพ์นฤมลหยุดยืนงับอากาศหายใจ รวิภาสขี่จักรยานเลยหน้าไปไกล สักพักจึงขี่จักรยานย้อนกลับมาหา
“ไม่ไหวก็บอกมาเถอะ”
“ไหว ขอหายใจแป๊บนึง”
“ยอมแพ้เถอะ”
“ยังไงนมลก็ไม่ยอมแพ้ จะให้วิ่งอีกกี่รอบบอกมาเลย”
“ยังมาอวดเก่งอีก งั้นวิ่งไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่นั่น เห็นมั้ย ถ้าวิ่งไปถึงได้ก็แสดงว่าเธอผ่านการทดสอบในวันนี้”
รวิภาสชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร
“ได้เลย !”
พิมพ์นฤมลวิ่งออกไปทันที แต่แล้วก็สะดุดก้อนหินล้มลง รวิภาสชะงักมองอย่างเป็นห่วง แต่เธอก็ลุกขึ้นใหม่แล้ววิ่งต่อไป รวิภาสขี่จักรยานตามไปช้าๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถที่ณิชมนขับแล่นมาจอดที่หน้าบ้านชุติมันต์ ณิชมนถือถุงผลไม้ลงจากรถเดินไปที่ประตูรั้ว ลุงแสวงที่กวาดใบไม้อยู่หันมามอง
“อ้าว คุณนั่นเอง”
ลุงแสวงเดินมาเปิดประตูรั้วให้ ณิชมนยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ ลุงแหวง หนูมาเยี่ยมค่ะ”
ณิชมนส่งถุงผลไม้ให้ลุงแสวง
“ขอบคุณครับๆ แค่แวะมาเยี่ยมคนแก่ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะครับ ไม่ต้องซื้ออะไรติดไม้ติดมือมาหรอกครับ”
“หนูอยากจะมาขอโทษลุงแหวงน่ะค่ะ คราวที่แล้วไม่รู้ว่า หนูทำให้ลุงเดือดร้อนหรือเปล่า เจ้าของบ้านคนใหม่ว่าอะไรลุงหรือเปล่าคะ”
“คุณชายบุรธัชน่ะเหรอครับ ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ แค่เตือนว่า ทีหลังอย่าสุ่มสี่สุ่มห้าให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านอีก เชิญครับ เชิญเข้ามาเลยครับ”
แสวงเดินนำณิชมนเข้าไปในบ้าน ก่อนที่รถบุรธัชจะแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน บุรธัชมองตามณิชมนที่เดินเข้าไปในบ้านกับลุงแสวง
“ยัยนี่มาที่นี่ทำไมอีก”
ณิชาภัทรมองบุรธัชโดยยังตามเรื่องไม่ทัน
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อประนอมเหรอคะ แล้วเค้าเป็นใคร ทำไมธัชต้องขับรถตามเค้ามาด้วย”
“ก็ยัยประนอมนี่เป็นแม่บ้านบ้านสรณาลัยน่ะซิ เข้าใจหรือยังว่า ทำไมผมต้องขับรถตามเค้ามา !”
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างอ่อนใจที่หาเรื่องกับบ้านสรณาลัยได้ทุกเรื่อง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนกับลุงแสวงเดินเข้ามาในบ้านชุติมันต์ ณิชมนมองไปรอบๆ บ้าน พยายามจดจำบ้านหลังที่พ่อเคยอยู่
“ท่าทางคุณจะชอบบ้านโบราณนะครับ” ลุงแสวงถามขึ้น
“หนูชอบบ้านหลังนี้ หนูรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้ยังไงไม่รู้ เสียดายนะคะถ้าหนูมีเงินล่ะก็ หนูจะซื้อบ้านหลังนี้ตัดหน้าคุณชายบุรธัช”
“คุณโชติคงไม่ขายให้คุณหรอกครับ ท่านสั่งไว้ให้ขายกับคุณชายคนเดียว”
“คุณชายบุรธัชใช้อำนาจมาเฟียบีบบังคับให้คุณโชติขายบ้านให้ใช่มั้ยคะ”
“คุณเอาอะไรมาพูด คุณโชติเต็มใจขายให้ คุณหญิงนวลแขเป็นพยานได้ท่านเป็นคนกำหนดเองว่า ถ้าหากภายในสามปี คุณชยทัตไม่กลับมารับมรดกก็ให้โอนบ้านเป็นชื่อคุณชายซะ ไม่งั้นเดี๋ยวบ้านจะตกเป็นของแผ่นดินไป”
“คุณหญิงนวลแข..”
ณิชมนรีบเข้าเรื่องที่ต้องการรู้ทันที
“คุณหญิงนวลแข..ท่านเป็นคนยังไงคะ ท่านใจดีเหมือนคุณโชติมั้ยคะ”
“ไม่เหมือนกันเลยครับ คุณหญิงท่านเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือเกียรติถือศักดิ์ศรีเป็นที่สุด ตอนที่คุณชยทัตพาคุณณัชชาหนีไป ท่านประกาศตัดเป็นตัดตายเลยนะครับ สั่งทุกคนไม่ให้ตามหาเด็ดขาด ผ่านไปสองสามปีอาจารย์ดาวเรืองก็มาส่งข่าวว่า คุณณัชชามีลูกสาว ท่านยังไม่สนใจเลย”
“ท่านไม่สนใจหลานของท่านเลยหรือคะ” ณิชมนสงสัย
“ก็ท่านมีหลานย่าอยู่แล้ว จะไปสนใจหลานยายที่ไม่เคยเห็นหน้าทำไมล่ะครับ คุณณัฐวร ลูกชายคนโตของท่านมีลูกสาวชื่อ คุณณิชาภัทร..”
“คุณณิชาภัทร…” ณิชมนทวนคำ
“คุณณิชาเธอสวยน่ารัก เรียนหนังสือก็เก่ง เรียนจบจากเมืองนอกมาก็มาช่วยงานคุณหญิงท่านที่เทพสุธา หลานคนนี้เป็นสุดรักสุดดวงใจ ของท่านเลยครับ ผมรับรองได้เลยว่า ท่านจะต้องยกมรดกทั้งหมดให้คุณณิชาแน่ๆ ก็ท่านมีหลานอยู่คนเดียวนี่ครับ”
“ท่านลืมหลานคนนี้ไปแล้วจริงๆ “ ณิชมนพึมพำ แล้วนิ่งอึ้งรู้สึกหมดหวังที่จะไปหานวลแขแล้ว
“คุณณิชานี่อายุยืนจริงๆ พอพูดถึง ก็มาพอดี สวัสดีครับ คุณณิชา”
ณิชมนหันขวับไปมองเห็นณิชาภัทรเดินเข้ามา ณิชมนอึ้งที่ได้เจอญาติตัวเองอย่างไม่คาดคิด
“สวัสดีค่ะ ลุงแหวง สบายดีนะคะ”
ณิชาภัทรหันไปมองณิชมนอย่างจับสังเกตแล้วเอ่ยทัก
“สวัสดีค่ะ คุณ..”
“ประนอมค่ะ คุณณิชาภัทร...”
“เรียกณิชาก็พอค่ะ คุณประนอมคุยธุระอะไรกับลุงแหวงอยู่หรือคะ ณิชามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ได้มีธุระอะไรหรอกค่ะ แค่ผ่านมาแถวนี้เลยแวะมาเยี่ยมลุงแหวงน่ะค่ะ ลุงแหวงมีแขก งั้นไม่รบกวนแล้วนะคะ”
ณิชมนหันไปบอกแสวงรีบหาทางออกไป
“หนูกลับก่อนนะคะ ลุงแหวง แล้ววันหลังหนูจะมาเยี่ยมใหม่”
ณิชมนจ้ำเดินหนีออกมา บุรธัชมาขวางทางไว้
“ไม่มีวันหลังสำหรับเธอแล้ว แม่บ้านประนอม”
ณิชมนนิ่งอึ้งตกใจ คาดไม่ถึงว่าจะเจอบุรธัชที่นี่
“คุณชายแวมไพร์ !” ณิชมนหลุดปาก แล้วรีบเดินหนีออกไปดื้อๆ บุรธัชยืนงงที่ถูกเรียกว่าแวมไพร์
“เดี๋ยว จะหนีไปไหน ยัยแม่บ้านสิบแปดมงกุฎ !” บุรธัชรู้สึกตัวรีบตามณิชมนไปทันที ณิชาภัทรมองตามบุรธัชอย่างเหนื่อยใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนรีบเดินออกมาจากบ้านชุติมันต์ หันหลังกลับไปเห็นบุรธัชตามมา ณิชมนเริ่มวิ่งไปหันมองบุรธัชไปจนสะดุดล้มกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบ บุรธัชเดินมายืนมองอย่างสะใจ ณิชมนค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น
“เจอคุณทีไร คุณทำฉันเจ็บตัวทุกที”
“ที่เธอต้องเจ็บตัว เพราะเธอทำตัวเองทั้งนั้น เธอมาที่นี่ทำไม แล้วเมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไร !”
“ฉันมาเยี่ยมลุงแหวง ฉันหมดธุระแล้ว ฉันจะกลับล่ะ”
ณิชมนเดินหนีออกไป บุรธัชจับแขนณิชมนไว้ไม่ให้ไป
“เธอยังไปไหนไม่ได้ จนกว่าเธอจะบอกฉันว่า เธอมาที่นี่ทำไม”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ !”
ณิชมนดิ้นรนหาทางหลุดจากมือบุรธัช
ณิชาภัทรกับลุงแสวงตามออกมา
“ธัช ! ธัชทำอะไรน่ะ จะบ้าเหรอ”
ณิชาภัทรดึงณิชมนออกจากบุรธัช
“ณิชาบอกให้ธัชรออยู่เฉยๆ ก่อน ถ้าอยากรู้อะไร ณิชาจะถามให้เองใช้กำลังอย่างนี้ ธัชจะได้คำตอบที่ต้องการมั้ย”
“กับพวกบ้านสรณาลัย ก็ต้องใช้วิธีแบบนี้แหละ”
“คุณชายใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ลุงแสวงเบรค
“ฉันสั่งลุงแหวงแล้วใช่มั้ยว่า ห้ามคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านนี้เด็ดขาด”
“ก็คุณประนอมเป็นคนของอาจารย์ดาวเรือง ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนยังไงคุณเค้าไม่ใช่พวกต้มตุ๋นแน่ๆ ครับ”
“ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของบ้านสรณาลัยต่างหากล่ะ ลุงแหวง เค้ามาที่นี่ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ เธอมาที่นี่ ต้องการอะไร ประนอม”
ณิชมนทำไม่รู้ไม่เห็นยืนแอบหลังณิชาภัทร
บุรธัชโยนกุญแจรถให้ณิชาภัทร
“คุณกลับไปก่อน ณิชา เอารถผมไป”
“แล้วธัชล่ะ นี่ธัชคิดจะทำอะไร”
บุรธัชเข้าไปลากณิชมนออกไป ณิชมนไม่ทันระวังตัวถลาตามแรงกระชากของบุรธัช
“คุณจะพาฉันไปไหน คุณจะทำอะไรฉัน !”
ณิชมนดิ้นรนขัดขืนสุดฤทธิ์
“วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่า เธอเป็นใครกันและต้องการอะไรจากฉัน !”
บุรธัชเสียงเข้มลากณิชมนออกไปจนได้
จบตอนที่ 4
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.