ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 8
รถสองคันของกรรมการโครงการแล่นออกไปจากตัวบ้านบุริศราวัณ บุรธัช ณิชมนและณิชาภัทรยืนรอส่งจนรถของกรรมการแล่นไปจนหมด
“ฉันคงต้องขอตัวกลับแล้วเหมือนกัน คุณชายคะ ไม่ว่าคุณตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉันก็ต้องขอขอบคุณนะคะ” ณิชมนเอ่ย
“ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณ ขอแค่เธอรักษาคำพูดของตัวเองก็พอ ยังจำที่พูดได้มั้ย ถ้าฉันยอมเปลี่ยนใจเข้าร่วมโครงการ เธอจะตอบคำถามของฉันทุกข้อ !” บุรธัชทวงถาม
ณิชมนอ้ำอึ้งแล้วรีบรวบรัดตัดบท
“ค่ะ ฉันจะตอบคำถามคุณทุกข้อที่ฉันตอบได้ ฉันไปก่อนนะคะ ฉันต้องรีบกลับไปเรียนข่าวดีให้คุณพรพรรณทราบ ขอบคุณคุณณิชามากนะคะ ถ้าไม่ได้คุณณิชา นอมคงต้องตกงานแน่ๆ แล้วเจอกันนะคะ”
“ค่ะ แล้วเจอกัน” ณิชาภัทรยิ้มให้
“เดี๋ยวซิ อย่าเพิ่งไป” บุรธัชบอก
ณิชมนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินรีบชิ่งออกไปทันที ณิชาภัทรดึงบุรธัชไว้
“ธัชอย่าไปยุ่งกับคุณนอมนักเลยค่ะ”
“คุณเห็นหรือยังว่า ผู้หญิงคนนี้กะล่อนปลิ้นปล้อนแค่ไหน”
“ที่ณิชาเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือ ธัชก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณนอมมากเกินไป”
“ผมจำเป็นต้องรู้เรื่องของคนบ้านสรณาลัยทุกคน”
“ธัชรู้ว่าคุณนอมเป็นคนของบ้านสรณาลัย เป็นศัตรูของธัช ก็น่าจะพอแล้วนอกจากว่าธัชไม่อยากจะเป็นศัตรูกับคุณนอมเท่านั้นแหละ ธัชถึงต้องการรู้เรื่องของเธอให้มากกว่านี้”
บุรธัชนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านสรณาลัย พรพรรณเดินออกมารอดูว่าณิชมนกลับมาหรือยัง ชัยวัฒน์เดินเข้ามาหาพรพรรณ
“คุณแม่บ้านยังไม่กลับมาอีกหรือครับ อย่างนี้สงสัยจะไม่ได้เรื่องแล้วล่ะมั้งครับ ถ้าหากทางคุณชายธัชยอมตกลงด้วยจริงๆ ก็คงจะรีบกลับมารายงานแล้ว แต่นี่เล่นหายเงียบไปอย่างนี้ คงทำงานไม่สำเร็จก็เลยไม่กล้าโผล่หน้ากลับมา ผมว่า คุณพรพรรณเตรียมหาแม่บ้านคนใหม่ได้เลยครับ” ชัยวัฒน์ยุยง
“เรื่องประนอม ฉันตัดสินใจเองได้ อย่าสนใจเรื่องคนอื่นนักเลย ครูชัย ทำงานของตัวเองให้ดีก่อนเถอะ”
“ผมทำงานของผมอย่างเต็มที่อยู่แล้วครับ ผมไม่ได้เพียงแต่สอนหนังสืออย่างเดียว ผมยังดูแลเอาใจใส่คุณพันสรเป็นอย่างดี ในบ้านนี้ไม่มีใครเข้าใจคุณพันสรเท่าผมอีกแล้ว”
พรพรรณมองชัยวัฒน์อย่างไม่เชื่อนัก
พรรณอรในชุดสีขาวกรุยกรายเหมือนนางฟ้าเดินออกมา เธอกำลังจะไปที่ห้องทำงาน
“พี่อรจะไปไหนคะ”
“พี่ก็จะไปทำงานของพี่น่ะซิ”
“นิยายเรื่องใหม่หรือครับ” ชัยวัฒน์สอดขึ้น
“จ้ะ นวนิยายเรื่องใหม่ของฉันกำลังจะเริ่มต้นในคืนนี้ ฉันคิดฉากแรกของเรื่องได้แล้ว ฉันจะเริ่มที่ท่านชายชยากรได้พบกับนางฟ้าอุปถัมภ์ ครูคงเคยได้ยินใช่มั้ยว่า เราทุกคนมี Guardian angel พระเอกของฉันน่ะเป็นท่านชายแวมไพร์ แต่แวมไพร์กลับมีนางฟ้าคอยคุ้มครอง น่าสนใจมั้ยล่ะ”
“ฟังแค่นี้ ผมก็รออ่านแทบไม่ไหวแล้วล่ะครับ” ชัยวัฒน์ประจบ
“แล้วพี่อรจะไม่อยู่รอประนอมก่อนหรือคะ”
“เดี๋ยวพี่รอฟังข่าวดีพรุ่งนี้ก็ได้”
“อย่าเพิ่งแน่ใจไปเลยครับว่า เราจะได้รับข่าวดี อาจจะเป็นข่าวร้ายก็ได้”
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ครูผิดหวัง” เสียงของพิมพ์นฤมลดังขึ้น
ทุกคนหันไปมองเห็นณิชมนกับเพิมพ์นฤมลดินเข้ามา ณิชมนยังใส่ชุดสูทของณิชาภัทรอยู่
“เรามีข่าวดีมาแจ้งให้ทุกคนทราบค่ะ”
“นี่แสดงว่า คุณชายธัชตอบตกลงใช่มั้ย" พรพรรณพูด
“เก่งจริงๆ ลูกแม่” พรรณอรกล่าว
พรรณอรโผเข้ากอดนมล
“พี่นอมต่างหากล่ะคะที่เก่ง พี่นอมเป็นคนทำให้คุณชายธัชเปลี่ยนใจ”
“นี่เป็นนิมิตรหมายที่ดี อย่างนี้บ้านเรากับบ้านบุริศราวัณอาจจะกลับมาเป็นมิตรกันเหมือนเดิม ประนอม ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่รับเธอเข้าทำงาน เธอทำงานได้ดีมาก ขอบใจเธอจริงๆ เลยนะ”
พรรณอรโผเข้ากอดณิชมนอย่างชื่นชม ชัยวัฒน์มองณิชมนอย่างหมั่นไส้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของบ้านสรณาลัย พันธ์นฤสรร์กำลังวาดรูปอย่างกระแทกกระทั้นจนดินสอสีหักคามือ ณิชมนเดินเข้ามาวางปืนลมลงบนโต๊ะ
“คุณพันสรคะ นอมเอาปืนมาคืนค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้ยืม โชคดีที่นอมไม่ต้องใช้มัน เห็นมั้ยคะ คนเราถ้าพูดกันดีๆ ก็ไม่ต้องใช้ความรุนแรง นอมไม่อยากให้คุณพันสรเล่นปืนเลยค่ะ ให้นอมเก็บไว้ก่อนได้มั้ยคะ”
“อยากได้ก็เอาไป”
“นอมไม่ได้อยากได้นะคะ แต่อยากให้คุณพันสรเล่นของเล่นอย่างอื่น”
“ไม่อยากเล่น ไม่อยากเล่นอะไรทั้งนั้น อยากได้ก็เอาไป !”
พันธ์นฤสรร์หยิบปืนลมโยนใส่ณิชมนแล้ววิ่งออกไป ในขณะที่พิมพ์นฤมลเดินเข้ามา พันธ์นฤสรร์วิ่งสวนออกไป
“พันสร ! เป็นอะไรไปอีกล่ะ” พิมพ์นฤมลถาม
“สงสัยใครจะทำให้โกรธน่ะค่ะ หรือไม่ก็อยากจะทำให้เรารู้ว่า แกกำลังโกรธอยู่”
“นี่พันสรกำลังเรียกร้องความสนใจหรือคะ พี่นอม”
พิมพ์นฤมลมองณิชมน เธอเริ่มจะเห็นปัญหาของน้องชายแล้ว
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านบุริศราวัณ รวิภาสนอนหมดแรงอยู่บนเตียง บุรธัชเดินเข้ามาหยุดยืนมอง รวิภาสรีบลุกขึ้นมานั่งเพราะไม่อยากเสียฟอร์ม
“ลุงอาจบอกว่า แกไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“แค่ปวดท้องนิดหน่อยเท่านั้น”
“จะไปหาหมอมั้ยล่ะ” บุรธัชถาม
“ไม่ต้องหรอกครับ กินยาเดี๋ยวก็หาย”
“งั้นก็ตามใจ”
บุรธัชจะเดินออกแต่ต้องชะงัก
“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”รวิภาสพูดขึ้น
“ก็แกเป็นน้องฉัน”
“พี่ธัชยังจำได้เหรอครับว่า ผมเป็นน้อง” รวิภาสอดกวนไม่ได้
“พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”
“ก็ผมเห็นพี่ธัชทำตัวเหมือนเป็นพ่อมากกว่าเป็นพี่ ถ้าพี่ธัชจำได้ว่าผมเป็นน้องก็ดีแล้ว ปล่อยๆผมซะบ้างเถอะครับ ไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องส่วนตัวของผม ให้ผมได้ตัดสินใจของผมเอง”
“ก็ได้ เรื่องเรียนต่อ ฉันจะไม่บังคับแกแล้ว แกจะเรียนต่อหรือจะทำงานก็ตามใจ ส่วนเรื่องส่วนตัว ถ้าแกหมายถึงนมลล่ะก็ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้แกกับเด็กคนนั้นคบกันแน่”
บุรธัชเดินออกไป รวิภาสทิ้งตัวลงนอนต่ออย่างเซ็งชีวิต
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลเดินออกมาด้วยกันจากบ้านสรณาลัย
“นมลนี่แย่จริงๆ เลยนะคะที่ไม่ได้ใส่ใจน้องเลย นมลคิดว่า แกดื้อซนไปตามประสาเด็ก เดี๋ยวโตขึ้นก็คงจะดีขึ้นเอง แต่นี่ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อยิ่งเกเร แล้วเราควรจะทำยังไงกับพันสรดีคะ พี่นอม”
“เราก็ต้องดูแลเอาใจใส่คุณพันสรให้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ยอมตามใจแกทุกอย่างนะคะ เราจะต้องทำให้คุณพันสรรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่าให้แกรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง”
“นมลรู้สึกผิดจังเลยค่ะ ตั้งแต่นมลเข้ามหาวิทยาลัยก็แทบจะไม่อยู่บ้านถ้าไม่ไปเรียนก็ไปโน่นไปนี่กับเพื่อนๆ ไม่ได้สนใจว่าพันสรจะเป็นยังไง คุณแม่เองตั้งแต่เริ่มเขียนหนังสือก็อยู่แต่ในโลกส่วนตัวของท่าน”
“ตอนนี้คุณพันสรต้องการความรักความเอาใจใส่จากคุณนมลกับคุณผู้หญิงอย่างมากเลยนะคะ ยิ่งคุณพันสรไม่มีคุณพ่อก็ยิ่งต้องใส่ใจแกให้มากขึ้น”
“ต่อไปนมลจะใส่ใจน้องให้มากขึ้นค่ะ พี่นอมนี่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เยอะจัง”
“นอมคงเป็นคนที่ไม่มีใครเอาใจใส่เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจคุณพันสร เพียงแต่นอมไม่รู้จะไปเรียกร้องความสนใจกับใคร นอมไม่เหลือใครในชีวิตแล้วนี่คะ”
พิมพ์นฤมลมองณิชมนที่พูดกึ่งเล่นกึ่งจริง ณิชมนยิ้มแต่แอบเศร้าใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินเข้ามานั่งลงบนเตียงในห้องของเธอเอง เธอดึงสร้อยที่สวมอยู่ออกมาดู
“สร้อยเส้นนี้เป็นของคุณยาย เก็บไว้ให้ดีนะ ลูก..คุณยายตัดขาดแม่ไปแล้ว.. คุณยายเป็นคนใจแข็ง พูดคำไหนคำนั้น ท่านไม่มีวันยกโทษให้แม่แน่ๆ...” คำพูดของณัชชาดังก้องในความคิด
ณิชมนจะถอดสร้อยออกแต่แล้วก็เปลี่ยนใจใส่ตามเดิม หันไปเห็นกระเป๋าใบที่ถือไปบ้านบุริศราวัณ
หยิบข้าวของในกระเป๋าออกมาเก็บแฟ้มเอกสารโครงการและเครื่องมือป้องกันตัวต่างๆ เธอหยิบกรอบรูปที่เหลือแต่กรอบออกมาพร้อมรูปถ่ายของบุรธัชที่ติดมาด้วย เป็นรูปถ่ายบุรธัชพันผ้าพันคอที่ณิชมนเก็บได้ที่ซิดนีย์แต่เธอยังไม่ทันสังเกตเห็น
“นึกว่าจะแน่ สุดท้ายก็แพ้เราอยู่ดี !”
ณิชมนมองรูปบุรธัชและยิ้มในชัยชนะของตัวเอง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชเดินเข้ามาในห้องที่จัดไว้ให้ณิชมนเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาเห็นเสื้อผ้าชุดเก่าของณิชมนพับเรียบร้อยวางอยู่
“นึกแล้วว่าต้องลืม”
บุรธัชก้มลงเห็นนกหวีดของณิชมนหล่นอยู่ที่พื้นจึงหยิบขึ้นมาดู เขานึกถึงณิชมนที่ตกใจกลัวว่าเขาจะทำอะไร นึกถึงตอนที่เธอพยายามเป่านกหวีดแต่ไม่ดัง นึกถึงณิชมนที่ตกใจหน้าตาตื่นกลัว
“นึกว่าจะเก่ง ยังไงก็เป็นผู้หญิง”
บุรธัชอดขำณิชมนไม่ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บ้านสรณาลัยในตอนเช้าณิชมนกำลังช่วยกันยาจัดโต๊ะอาหารเช้าอยู่สายใจเดินเข้ามานมล
“พี่นอม มีคนมาหาแน่ะ”
“ใครมาหาฉันเหรอจ๊ะ”
“ถ้าให้ฉันทายนะ ต้องเป็นคนจากบ้านบุริศราวัณแน่ๆเลย” กันยาพูด
“แกนี่ทายแม่นอย่างกับตาเห็นเลยนะ” สายใจกล่าว
พิมพ์นฤมลเดินมาเข้ามาหยุดยืนฟัง
“ว่าแต่คุณชายพี่หรือว่าคุณชายน้องล่ะที่มาหาพี่นอมน่ะ”
“แกก็ลองทายดูอีกครั้งซิ คุณชายคนไหนที่คิดถึงพี่นอมจนต้องรีบมาหาแต่เช้าตรู่อย่างนี้”
“คุณชายคนไหนจะมาหาก็ช่าง พี่นอมสับรางให้ดีๆ ก็แล้วกัน วันก่อนรถไฟก็เกือบชนกันไปแล้วหนนึง วันนี้อาจจะไม่โชคดีเหมือนวันนั้นก็ได้” กันยาพูดกระแหนะกระแหน
“พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ถ้าไม่บอก ฉันไปดูเองก็ได้” ณิชมนรำคาญ
ณิชมนเดินออกไปไม่ทันเห็นพิมพ์นฤมล พิมพ์นฤมลมองตามณิชมน เธอรู้สึกเหมือนเพิ่งได้ข้อมูลใหม่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินออกมาจากบ้านสรณาลัย เห็นอาจถือถุงเสื้อผ้ารออยู่ เธอยกมือไหว้อาจ
“สวัสดีค่ะ มีธุระอะไรกับนอมหรือคะ”
“คุณชายธัชให้ผมมาหาคุณประนอมครับ”
“รายงานการประชุมเมื่อคืนใช่มั้ยคะ นอมพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนอมไปหยิบมาให้นะคะ”
“ผมไม่ได้มาเรื่องโครงการสร้างฝายหรอกครับ”
อาจส่งถุงเสื้อผ้าให้ณิชมน
“คุณชายให้ผมเอาเสื้อผ้าของคุณมาคืนครับ ผมให้แม่บ้านซักรีดเรียบร้อยแล้วนะครับ”
“ตายจริง นอมลืมซะสนิทเลย ขอบคุณมากนะคะ”
“แล้วคุณชายก็ยังให้ผมหาซื้อนกหวีดอันใหม่มาให้ แล้วก็ยังฝากมาบอกว่า ถ้าจะใช้ป้องกันตัวให้ใช้นกหวีดอันใหญ่ๆอย่างนี้ ไม่ใช่นกหวีดของเล่นเด็กอนุบาล แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ อย่าไปไหนคนเดียว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ นกหวีดอันเดียวก็ช่วยอะไรไม่ได้”
เธอหยิบนกหวีดอันใหม่จากถุงมาดูอย่างไม่สบอารมณ์
“เจ้านายของลุงอาจมีอารมณ์ขันดีจังนะคะ”
“อย่าโกรธไปเลยครับ คุณชายท่านหวังดี ปกติคุณชายไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้” อาจยิ้ม “สำหรับคุณนี่คงเป็นกรณีพิเศษ”
อาจเดินออกไป ณิชมนมองตามอย่างไม่เข้าใจนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
กันยากับสายใจชะเง้อมองไปที่ณิชมนอย่างสอดรู้แล้วซุบซิบกันด้วยความสงสัย
“ลุงอาจเอาอะไรมาให้ยัยนอมน่ะ”
“ให้อะไรไม่สำคัญ มันสำคัญที่ใครให้มากกว่า”
“นี่แกคิดว่า ยัยนอมกะจะรวบทั้งพี่ทั้งน้องเลยเหรอ แต่ฉันว่าไม่สำเร็จหรอก คุณชายบ้านโน้นไฮโซขนาดนั้นจะมาสนใจอะไรกับคนใช้อย่างยัยนอม” กันยาบอก
“แต่เค้าไม่ใช่คนใช้ธรรมดา เค้าเป็นถึงคุณแม่บ้านเชียวนะยะ ตอนนี้ก็เลื่อนขั้นมาช่วยงานคุณพรพรรณแล้วด้วย แกไม่ต้องหวังแล้วว่าจะแย่งตำแหน่งคุณแม่บ้านมาได้”
พิมพ์นฤมลเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังกันยากับสายใจ
“ก็คงอีกไม่นานหรอก ถ้ายัยนอมยังหว่านเสน่ห์คุณชายพี่คุณชายน้องอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวได้เกิดเรื่องฉาวแน่ๆ ไว้ถึงตอนนั้นฉันก็จะเข้าเสียบเป็นคุณแม่บ้านแทนยัยนอม” กันยาพูดอย่างหมั่นไส้
“ที่พูดนี่หมายความว่ายังไง” พิมพ์นฤมลพูดขึ้น
กันยากับสายใจสะดุ้งหันไปเห็นพิมพ์นฤมล
“คือ.คือ..กันยาไม่ได้คิดจะแย่งตำแหน่งพี่นอมนะคะ คือ..คือกันยาพูดเผื่อไว้เฉยๆ เผื่อพี่นอมลาออกไป...”
“นมลไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ที่กันยาพูดว่า พี่นอมหว่านเสน่ห์คุณชายพี่คุณชายน้องน่ะ หมายความว่ายังไง หมายถึงใคร”
“ก็หมายถึงคุณชายธัชกับคุณชายภาสน่ะซิคะ คุณนมล” กันยาตอบ
“คุณนมลก็ทราบแล้วไม่ใช่เหรอคะว่า วันก่อนพี่นอมหายตัวไปกับใคร”
“พี่นอมไปกับคุณชายธัช แล้วพี่ภาสมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“ตอนไปพี่นอมไปกับคุณชายธัช แต่ขากลับนี่ซิคะ กลับมากับคุณชายภาสเราสองคนเห็นกับตาเลยนะคะ ตอนที่คุณชายภาสมาส่งวันนั้น แอบคุยส่งตาหวานกันตั้งนานกว่าจะเข้าบ้าน”
“สายใจว่า พี่นอมคงจะอ่อยคุณชายธัชไม่สำเร็จก็เลยมาอ่อยคุณชายภาสแทน ไม่อยากเชื่อจริงๆ ผู้หญิงเรียบร้อยน่ารักอย่างพี่นอมจะทำเรื่องน่าอายอย่างนี้ได้”
“ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆค่ะ!” กันยาและสายใจร่วมกันยุยง
“พูดอะไรไร้สาระ !” พิมพ์นฤมลดุใส่จนกันยากับสายใจหน้าจ๋อย
พิมพ์นฤมลนิ่งคิด เธอยังไม่ปักใจเชื่ออะไรทั้งนั้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนกับกันยาถือถาดอาหารเช้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะ พิมพ์นฤมล พรพรรณและพันสรนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว
พรรณอรเดินหน้ามึนเข้ามานั่งที่โต๊ะเป็นคนสุดท้าย
“ขอโทษทีที่มาช้าไปหน่อย เมื่อคืนเขียนงานถึงตีสาม เวลาสมองแล่นนี่ทำงานเพลินจนลืมเวลาไปเลย ยัยพร เย็นนี้เราต้องฉลองกันซะหน่อยนะ”
“ฉลองเรื่องอะไรคะ” พรพรรณถาม
“อ้าว ก็ฉลองความสำเร็จให้ประนอมไงล่ะ”
“รอให้โครงการนี้สำเร็จเรียบร้อยก่อนเถอะค่ะ พี่อร พรไม่ค่อยจะเชื่อใจคุณชายธัชซักเท่าไหร่ ไม่รู้มีแผนการตลบหลังเราทีหลังหรือเปล่า เงื่อนไขที่ขอติดต่อผ่านทางประนอมคนเดียว มันดูแปลกๆอยู่นะคะ”
“คุณชายธัชคงเห็นว่า พี่นอมทำงานเก่งมั้งคะ คุณพรพรรณ เก่งจนใครๆก็อยากทำงานด้วย ถ้าได้ทำงานด้วยกัน ก็จะได้เจอหน้ากันบ่อยๆ..” กันยาแทรก
“กันยา...” พิมพ์นฤมลปราม
“โอ๊ย คุยเรื่องโครงการสร้างฝายบ้านี่อยู่ได้ เบื่อชะมัด” พันธ์นฤสรร์บอก
“พันสร !” พรพรรณดุ
“พันสรเบื่อแล้ว คุยเรื่องอื่นดีกว่านะ” พรรณอรพูด
ณิชมนแอบสะกิดพิมพ์นฤมลที่ยังนิ่งคิดคาใจเรื่องณิชมนกับรวิภาสอยู่
“คุณนมลคะ..” ณิชมนกระซิบ
พิมพ์นฤมลเพิ่งรู้สึกตัวว่าต้องทำอะไร
“คุณแม่คะ ปิดเทอมคราวหน้าเราพาพันสรไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่ฮ่องกงกันดีมั้ยคะ ไปซักสามสี่วันก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาทำงานของคุณแม่”
พันธ์นฤสรร์ขยับฟังอย่างสนใจ
“แม่ไปไม่ได้หรอกจ้ะ พอแม่เริ่มงานแล้วก็หยุดไม่ได้ แล้วเวลาที่แม่เขียนงาน แม่ไม่มีอารมณ์ทำอะไรหรือไปเที่ยวไหนหรอกนะจ๊ะ รออีกซักสามสี่เดือนเราค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่แล้วกัน สงสัยแม่จะนอนน้อยไปหน่อยรู้สึกมึนๆ หัวยังไงไม่รู้ ขอไปนอนพักก่อนนะจ๊ะ”
พรรณอรพูดแล้วเดินออกไปทันที พิมพ์นฤมลกับพันธ์นฤสรร์มองตามอย่างผิดหวัง
“ไม่เป็นไรนะ พันสร ถ้าพันสรอยากไปเที่ยวจริงๆ เดี๋ยวน้าพาไปเอง” พรพรรณปลอบ
“ใครอยากไปก็ไปเอง !”
พันธ์นฤสรร์เดินปึงปังออกไป
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลมองหน้ากันอย่างผิดหวัง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนกำลังจัดเก็บนิตยสารให้เข้าที่ จากนั้นก็เก็บหมอนอิง เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น เธอเดินไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ บ้านสรณาลัยค่ะ คุณภาส ! โทรมาทำไมคะ”
ณิชมนมองซ้ายมองขวาอย่างระวังตัว พิมพ์นฤมลเดินมาหยุดมอง
“ไม่ดีมั้งคะ เดี๋ยวใครเห็นเข้าจะสงสัยเอาได้” ณิชมนละลักละล่ำ “ ก็ได้ค่ะๆ แล้วเดี๋ยวเจอกันนะคะ”
ณิชมนวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมาเห็นพิมพ์นฤมลยืนอยู่ก็นิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“ใครโทรมาเหรอคะ”
“เพื่อนค่ะ เพื่อนนอมโทรมา นอมขอโทษนะคะ เดี๋ยวนอมจะบอกให้เค้าโทรเข้ามือถือ อย่าโทรเข้าบ้าน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เป็นเพื่อนกันก็ต้องโทรติดต่อหากันบ้าง แล้วเพื่อนที่ไหนเหรอคะ”
“เพื่อน..เพื่อนที่ทำงานเก่าน่ะค่ะ”
“งั้นนมลก็คงไม่รู้จัก”
ณิชมนนิ่งอ้ำอึ้งไม่อยากโกหกมากนัก
“ที่พี่นอมบอกว่าชีวิตนี้ไม่เหลือใครแล้ว คงจะไม่จริงแล้วใช่มั้ยคะ”
พิมพ์นฤมลเดินออกไป ณิชมนเริ่มไม่สบายใจในท่าทีแปลกๆของพิมพ์นฤมล
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ไร่บุริศราวัณ รวิภาสเดินตรวจดูแปลงทดลองอยู่พลางจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงไป บุรธัชเดินเข้ามา รวิภาสไม่ทันเงยหน้าดู เขานึกว่าเป็นณิชมน
“มาเร็วดีนี่คุณ สงสัยจะขับรถซิ่งน่าดู ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องรีบ”
รวิภาสเงยหน้าขึ้นเห็นเป็นบุรธัช
“นัดใครไว้?”บุรธัชถาม
“เพื่อน..”
“ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่า อย่านัดผู้หญิงมาที่นี่ ไร่ฉันไม่ใช่ที่ให้แกพาผู้หญิงมาเที่ยว”
“ทำไมพี่ธัชไม่คิดว่า ผมนัดไอ้กันต์ไว้ หรือถ้าผมนัดเพื่อนผู้หญิงจริงๆก็อาจจะนัดมาคุยธุระสำคัญก็ได้ พี่ธัชหัดมองผมในด้านอื่นบ้างก็ได้นะครับ”
“งั้นแกบอกมาซิว่า ชีวิตด้านอื่นของแก มันเป็นยังไง”
ณิชมนเดินเข้ามาทางด้านหลังบุรธัช พอเห็นบุรธัชก็ต้องชะงักนิ่งแทบกลั้นหายใจ รวิภาสบุ้ยใบ้ให้หลบๆ ไปก่อน ณิชมนย่อตัวหลบลงใต้โต๊ะที่วางกระถางต้นไม้
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ธัชคิดแล้วกัน”
“แล้วที่กลับดึกๆดื่นๆ ทุกวัน แกไปทำอะไร ถ้าไม่ไปซ้อมดนตรีบ้าบอก็คงพาสาวไปเที่ยวตามผับตามบาร์ ทุกวันนี้ฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าแกไปเรียนหนังสือบ้างหรือเปล่า ถ้าฉันไม่บังคับให้แกมาทำงานที่นี่ แกก็คงจะเอาเวลาไปทำตัวเละเทะยิ่งกว่านี้”
ณิชมนไม่เห็นด้วย ลืมตัวลุกขึ้นหัวชนโต๊ะจนกระถางต้นไม้กลิ้งหล่นลงพื้นแตกกระจาย บุรธัชหันไปมอง เธอรีบลุกขึ้นยืนทำเหมือนเพิ่งเข้ามาแต่ไม่เนียน
“มาแอบอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉัน..ฉันไม่ได้แอบนะคะ ฉันเพิ่งเข้ามาต่างหาก สวัสดีค่ะ คุณภาส ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่เลยนะคะ บังเอิญจริงๆ เลยนะคะ ปกติเห็นคุณทำงานที่ร้านกาแฟนี่คะ..”
รวิภาสส่ายหน้าไม่ให้พูดมาก เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งมีพิรุธ
“เธอมาทำไมที่นี่อีก”
“ฉันมาทำไม..เออ..ฉันมาขอบคุณคุณอีกครั้งน่ะค่ะ แล้วก็..แล้วก็มีเรื่องจะปรึกษาด้วยน่ะค่ะ”
“ไปคุยกันข้างนอก” บุรธัชบอก
บุรธัชเดินออกไป ณิชมนเดินตามพลางหันมามองรวิภาส
“เจอกันที่ร้านกาแฟ” รวิภาสพูดแบบไม่มีเสียง
ณิชมนพยักหน้ารับรู้ บุรธัชหันไปมอง เธอรีบหันขวับกลับมายิ้มกลบเกลื่อน
บุรธัชเดินไปโดยณิชมนรีบเดินตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชเดินออกมาจากแปลงทดลอง ณิชมนรีบเดินตามมาติดๆ บุรธัชหันขวับกลับมาหา เธอเบรกแทบไม่ทันเกือบชนเข้ากับบุรธัช
“เธอไปรู้จักกับนายภาสตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คะ? คุณถามว่าอะไรนะคะ”
“ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำๆ และฉันแน่ใจว่า เธอได้ยินที่ฉันถามอย่างชัดเจนที่ตอบไม่ได้นี่ เพราะยังคิดเรื่องโกหกไม่ทันใช่มั้ยล่ะ”
“เออ..คือ..ฉันเคยขอร้องให้คุณภาสช่วยพูดกับคุณเรื่องโครงการสร้างฝายน่ะค่ะ ฉันคิดว่า ที่คุณยอมเปลี่ยนใจ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะคุณภาส ฉัน..ฉันก็เลยมาขอบคุณเค้าน่ะค่ะ”
“เธอไปสนิทสนมกับนายภาสตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ที่ฉันกล้าขอร้องคุณภาสก็เพราะเห็นว่า คุณภาสเป็นเพื่อนสนิทของคุณนมลต่างหากล่ะคะ”
“นายภาสเคยเป็นเพื่อนสนิทนมล แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”
“คุณไม่สามารถตัดขาดความเป็นเพื่อนของคุณภาสกับคุณนมลได้หรอกค่ะ”
“เหมือนเธอที่ตัดขาดจากฉันไม่ได้ซักทีใช่มั้ย”
“คุณพูดอะไรน่ะ”
“ฉันชักจะเชื่อแล้วว่า เธอชอบฉันจริงๆ เธอหาเรื่องมาเจอหน้าฉันได้ทุกวันแล้วรูปของฉันที่เธอขโมยไปน่ะ ไม่ต้องคืนนะ ฉันให้..เอาไว้ดูเวลาที่คิดถึงฉันก็แล้วกัน”
ณิชมนยืนนิ่งอ้าปากค้าง
“นี่คุณ..ฉันไม่ได้ขโมยนะ ฉันตั้งใจเอากรอบรูปไปซ่อมให้ ไม่ได้คิดจะขโมยรูปของคุณ คิดอะไรบ้าๆ ใครจะไปชอบคนอย่างคุณ !”
บุรธัชไม่อยู่ฟังคำแก้ตัวเดินลิ่วๆ จากไป ณิชมนยืนหงุดหงิดโมโห
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในร้านกาแฟ รวิภาสถือถ้วยกาแฟมาวางให้ณิชมนที่นั่งหน้าหงิกอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“พี่ชายของคุณนี่หลงตัวเองชะมัด เค้าคิดว่าตัวเองหล่อเพอร์เฟ็คนักหรือไงถึงได้คิดว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องหลงชอบเค้า ไม่ใช่ฉันคนนึงล่ะ”
รวิภาสดื่มกาแฟพลางยิ้มขำ
“คุณยิ้มอะไร ฉันไม่ได้โกหกนะ พี่ชายคุณหาว่า ฉันชอบเค้าจริงๆ คิดไปได้ยังไงก็ไม่รู้”
“ผมก็ไม่ได้ว่าคุณโกหกซักหน่อย ผมกำลังนึกภาพพี่ธัชแกล้งแหย่คุณต่างหาก ปกติพี่ชายผมไม่เคยเป็นแบบนี้นะครับ พี่แกทำแต่งานไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน นี่ถ้าพี่ธัชไม่เคยเป็นแฟนกับพี่ณิชา ผมคิดว่าพี่ชายผมต้องเป็นเกย์ชัวร์”
“นี่หมายความว่า คุณชายธัชกับคุณณิชาเลิกกันแล้วเหรอคะ แต่ดูเค้าสองคนสนิทกันออก ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของฉันซักหน่อย ว่าแต่คุณโทรเรียกฉันออกมาพบนี่ มีเรื่องสำคัญอะไรหรือคะ”
รวิภาสหยิบซองเอกสารออกจากกระเป๋าวางบนโต๊ะ
“คุณอยากได้ไอ้นี่อยู่ไม่ใช่เหรอ ประวัติของประนอม บุญเสริมตัวจริง”
ณิชมนรีบตะครุบรับซองเอกสารมาทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถพิมพ์นฤมลแล่นมาจอดที่หน้าร้านกาแฟ เธอถือถุงใส่กล่องซุปลงจากรถแล้วมองไปเห็นรถรวิภาสจอดอยู่
“นึกแล้วพี่ภาสต้องอยู่ที่นี่”
พิมพ์นฤมลกำลังจะเดินเข้าร้านกาแฟแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นรถกระบะบ้านสรณาลัยจอดอยู่
“พี่นอม..”
พิมพ์นฤมลนิ่งคิดอย่างเริ่มระแวงสงสัย
ติดตามอ่านตอนที่ 8(ต่อ) พรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 8 (ต่อ)
ณิชมนพลิกอ่านประวัติของประนอมอย่างตั้งอกตั้งใจ ปากขมุบขมิบท่องอย่างร้อนรน รวิภาสมองณิชมนอย่างขำๆ
“ไม่ต้องจำให้หมดในวันนี้ก็ได้ นี่เป็นฉบับก๊อปปี้ คุณเอากลับไปท่องต่อที่บ้านได้เลย ถึงประนอมตัวจริงกับคุณจะต่างกันคนละโยชน์ แต่คุณตบตาทุกคนมาได้จนถึงวันนี้ ก็ถือว่ารอดตัวแล้วล่ะ”
“แต่ฉันพลาดไปเยอะเหมือนกันนะคะ อย่างประนอมตัวจริงมีพ่อแม่อยู่ครบ แต่ฉันดันบอกคุณนมลไปว่า พ่อแม่ฉันตายไปหมดแล้ว การโกหกไม่เคยเป็นผลดีกับใครเลย ยิ่งโกหกชีวิตของฉันก็ยิ่งยุ่งเหยิงขึ้นทุกที ฉันไม่อยากเป็นคนโกหกเลยจริงๆ”
“อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้โกหกผมใช่มั้ยครับ”
“ทุกอย่างที่ฉันบอกคุณไปเป็นความจริงค่ะ”
“บอกความจริงแต่บอกไม่หมดนี่ เค้าไม่ถือว่าโกหกใช่มั้ย”
“คุณเองก็ไม่ได้บอกความจริงทุกอย่างกับพี่ชายคุณไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณไม่บอกเค้าไปว่า คุณไม่ใช่คนเหลวไหลอย่างที่เค้าคิด คุณเรียนก็เก่งแล้วยังเป็นหัวหน้าชมรมค่ายอาสาฯ อีกต่างหาก”
“คุณอย่าไปเชื่อนมลมากนัก”
“แต่ฉันเชื่อค่ะ ทำไมล่ะคะ เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ซิครับ เพราะพี่ธัชบีบบังคับผมมากไปมั้ง ตอนเด็กๆผมโดดเรียนเป็นประจำ ไม่มีเดือนไหนที่พี่ธัชไม่ต้องไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครอง ผมเกเรจนถูกทำทัณฑ์บนไม่รู้กี่ครั้ง แต่โชคดีที่เข้ามหาวิทยาลัยได้..”
“จากนั้นคุณก็คิดได้..”
พิมพ์นฤมลตัดสินใจเปิดประตูร้านเข้ามา เสียงกระดิ่งที่แขวนประตูดังขึ้น ณิชมนกับรวิภาสคุยกันติดพันไม่ทันสังเกตเห็นเธอ
“ผมเบื่อที่จะแกล้งพี่ธัชแล้วล่ะมั้งครับ เดี๋ยวพี่ธัชอายุสั้นเพราะผม จะเป็นบาปกรรมเปล่าๆ ผมก็เลยลองตั้งใจเรียนดู ก็ไม่เห็นจะยากอะไร ถึงผมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ธัชก็ยังเห็นผมเป็นไอ้เด็กเกเรไม่เอาไหนคนเดิมอยู่ดีไอ้เด็กที่พี่ธัชต้องแบกภาระดูแลมันมาตลอดสิบปี”
ณิชมนแตะมือรวิภาสอย่างปลอบใจ
“คุณเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ของคุณชายธัช เค้าไม่มีวันคิดว่า คุณเป็นภาระหรอกค่ะ”
รวิภาสเงยหน้าเห็นพิมพ์นฤมล ณิชมนหันไปมองตาม
“คุณนมล..”
พิมพ์นฤมลรีบเดินออกไปจากร้านทันที ณิชมนหันมามองหน้ากันกับรวิภาสแล้วมองมือตัวเองที่ยังแตะมือรวิภาสอยู่
“คุณนมล !”
ณิชมนรีบลุกออกไป รวิภาสยังนิ่งเฉยอยู่ เธอกลับมาฉุดรวิภาสให้ลุกขึ้น
“นั่งเฉยอยู่ทำไมคะ สงสัยคุณนมลจะต้องเข้าใจเราผิดแน่ๆ”
ณิชมนดึงรวิภาสออกไปจากร้านด้วยกัน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลรู้สึกสับสนวุ่นวายใจเดินกลับไปที่รถของตัวเอง ณิชมนฉุดรวิภาสตามมาจนทัน
“คุณนมลคะ อย่าเพิ่งไปค่ะ”
พิมพ์นฤมลมองณิชมนที่ยังจับแขนรวิภาสอยู่ ณิชมนรีบปล่อยมือจากรวิภาสทันที
“คุณนมลคงแปลกใจว่าทำไมนอมถึงอยู่กับคุณภาสได้ คืออย่างนี้นะคะ คือว่า เออ..คุณภาสช่วยหน่อยซิ”
ณิชมนหันไปมองรวิภาสขอความช่วยเหลือ คิดเรื่องโกหกไม่ทัน
“เรื่องที่เรานัดมาเจอกันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เห็นจะต้องอธิบายให้ใครฟัง” รวิภาสพูด
“นมลก็ไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของใครเหมือนกัน”
“คุณนมลเอาซุปมาให้คุณภาสใช่มั้ยคะ คุณนมลตื่นขึ้นมาทำซุปให้คุณภาสแต่เช้ามืดเลยนะคะ”
“แต่ดูเหมือนพี่ภาสจะหายดีแล้ว คงไม่ต้องการซุปนี่แล้ว นมลจะกลับแล้วล่ะค่ะ ขอโทษนะคะที่มาขัดจังหวะ”
พิมพ์นฤมลรีบขึ้นรถแล้วขับออกไป
“ทำยังไงดีล่ะคะ คุณภาส คุณนมลต้องคิดว่า เราสองคนแอบนัดเจอกัน”
“นมลก็เข้าใจถูกแล้วนี่”รวิภาสยังวางฟอร์ม
“คุณภาส ! คุณรู้มั้ยว่า คุณนมลชอบคุณมาก เราควรจะอธิบายให้เธอเข้าใจเรานะคะ นอมไม่อยากให้เธอเสียใจ”
“เชื่อผมเถอะ ให้นมลเสียใจตอนนี้ดีกว่าไปเสียใจทีหลัง”
รวิภาสเดินออกไป ณิชมนหันกลับมาเห็นพงษ์เทพยืนมองอยู่
“เป็นคุณจริงๆ ด้วย !” พงษ์เทพพูด
“คุณ..”
ณิชมนนึกว่าเคยพบพงษ์เทพที่ไหน แล้วเธอก็จำได้ว่าพบพงษ์เทพบนเครื่องบิน
“ไม่นึกเลยว่า เราจะได้เจอกันอีก” พงษ์เทพกล่าว
“คุณจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”
ณิชมนรีบเดินหนี พงษ์เทพรีบเดินตามอย่างติดใจสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนรีบเดินกลับมาที่รถ พงษ์เทพเดินตามมา
“คุณจำผมไม่ได้จริงๆเหรอ เราเจอกันบนเครื่องบินไงล่ะครับ แล้วงานแต่งงานเป็นยังไงบ้างครับ”
“งานแต่งงานอะไรคะ” ณิชมนงง
พงษ์เทพมองมือของณิชมนที่ไม่ได้สวมแหวนหมั้นแล้ว เขาเพิ่งรู้ตัวว่าถูกณิชมนหลอก
“ไม่น่าจะต้องหลอกกันเลย ถ้าคุณไม่อยากคุยกับผม ก็บอกกันตรงๆ ก็ได้” พงษ์เทพยิ้ม
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณนะคะ”
“คุณจำผมได้แล้วใช่มั้ยครับ”
ณิชมนนิ่งอึ้งรู้ว่าพลาดไป
“ผมเองก็จำคุณได้ไม่ลืมเลย เราเริ่มต้นกันไม่ดีเท่าไหร่ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีมั้ยครับ ผม..พงษ์เทพครับ”
พงษ์เทพยื่นมือให้ณิชมน
“ฉัน..ฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ฉันต้องรีบกลับไปทำงาน”
ณิชมนตัดบทไม่ยอมสานสัมพันธ์ด้วย รีบเปิดประตูรถ พงษ์เทพจับประตูรถไว้ยังไม่ให้ณิชมนหนีไปง่ายๆ
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้คุณยังไม่พร้อมที่จะรู้จักเพื่อนใหม่ ไว้คราวหน้าก็ได้ผมเชื่อว่า เราจะต้องได้พบกันอีกแน่”
พงษ์เทพปล่อยมือ ณิชมนรีบขึ้นรถแล้วขับรถออกไป พงษ์เทพนิ่งคิดหาทางที่จะรู้จักณิชมน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชกับนวลแขนั่งอยู่ด้วยกันในบ้านสุธาสิน เขาดื่มกาแฟฆ่าเวลาอยู่ ณิชาภัทรรีบเร่งเดินเข้ามาพลางใส่ต่างหูไปพลาง
“ขอโทษนะคะ ธัช ที่ให้รอ เมื่อกี้ณิชาเพิ่งไปตรวจงานที่รีสอร์ตมา กลับมาเหงื่อท่วมตัวเลยค่ะ เลยต้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่”
“แล้ววันนี้นึกยังไงถึงขอให้คุณชายมารับ ปกติย่าก็เห็นเราขับรถปรู๊ดปร๊าดไปโน่นไปนี่เองอยู่แล้ว”
“ก็วันนี้ณิชาเหนื่อยจนขับรถไม่ไหวนี่คะ แล้วถ้าธัชไม่เต็มใจมารับณิชา ขอร้องให้ตาย ธัชก็ไม่มาหรอก จริงมั้ยคะ”
“ผมเต็มใจมารับณิชาครับ คุณหญิงย่า”
“เห็นมั้ยคะ ณิชารู้ใจธัชที่สุด ณิชาไม่อยากทำตัวเป็นผู้หญิงเก่งตลอดเวลาผู้หญิงเราต้องทำตัวอ่อนแอบ้าง ไม่งั้นผู้ชายไม่กล้าเข้ามาจีบน่ะค่ะ คุณย่าขา”
“ยัยณิชา นี่เราน่ะเป็นผู้หญิงนะ พูดจาอะไรอย่าให้มันก๋ากั๋นนัก มิน่าล่ะ คุณชายถึงได้ถอนตัวไปแทบไม่ทัน”
“คุณย่าพูดเหมือนกับณิชาไม่ใช่หลานคุณย่างั้นแหละ ธัชน่ะทำหลานคุณย่าอกหักนะคะ ที่จริงเราไม่ควรให้ธัชเข้าบ้านเราด้วยซ้ำไป”
“ไม่จริงนะครับ ณิชาเป็นฝ่ายทิ้งผมไปก่อน”
“มัวแต่พูดเล่นอยู่นั่นแหละ รีบๆไปประชุมเถอะ แล้ววันนี้จะประชุมเรื่องโครงการสร้างฝายด้วยหรือเปล่า พูดถึงโครงการนี้แล้ว ย่าต้องขอบใจธัชนะที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าปัญหาส่วนตัว”
“คนที่ควรจะขอบคุณคือ คุณนอมมากกว่าค่ะ คุณย่า ถ้าไม่ได้คุณนอมธัชคงไม่ใจอ่อนยอมตกลงง่ายๆ หรอกค่ะ”
“เราหมายถึง แม่บ้านประนอมใช่มั้ย รู้สึกว่าย่าจะได้ยินชื่อแม่บ้านคนนี้หลายครั้งหลายหนแล้ว ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วล่ะซิ”
ณิชาภัทรมองนวลแขอย่างนิ่งคิด บุรธัชมองณิชาภัทรอย่างรู้ทัน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินเข้ามาในบ้านสรณาลัยตามหาพิมพ์นฤมล พิมพ์นฤมลนั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์ทำรายงานอยู่อย่างนิ่งเงียบ
“คุณนมลคะ เรื่องคุณภาสน่ะค่ะ”
“นมลบอกแล้วยังไงคะว่า นมลไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น”
“คุณนมลโกรธนอม”
“เปล่า ไม่ได้โกรธ”
“แต่นอมรู้ว่า คุณนมลโกรธนอมอยู่ คุณภาสแค่ต้องการช่วยแก้ปัญหาบางอย่างให้กับนอม เราเลยนัดเจอกัน ไม่มีอะไรมากกว่านี้”
“ไม่มีอะไรมากกว่านี้..แต่ดูเหมือนพี่นอมกับพี่ภาสสนิทสนมกันเร็วดีนะคะเพิ่งเจอกันแค่ครั้งเดียวไม่ใช่หรือคะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของนมลอยู่ดี นมลไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“คุณนมลพร้อมจะฟังนอมเมื่อไหร่ก็บอกนะคะ คุณนมลคะ เชื่อเถอะนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะนอมเป็นคนของคุณนมล คุณภาสคงจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยนอมหรอกค่ะ คุณภาสแคร์คุณนมลนะคะ”
ณิชมนเดินออกไป พิมพ์นฤมลนิ่งคิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินเข้ามานั่งอย่างอ่อนใจ เปิดสมุดบัญชีใช้จ่ายขึ้นมาดู เธอยังไม่ทันจะทำงานของตัวเอง พรพรรณเดินเข้ามา
“ไปไหนมา ประนอม นี่พอฉันยอมให้เธอออกไปข้างนอกทำธุระส่วนตัวได้ก็เอาใหญ่เชียว นี่คิดจะไปข้างนอกสามเวลาหลังอาหารเลยหรือยังไง ฉันจะใช้งานเธอทีไร หาตัวไม่เจอทุกที”
“คุณพรพรรณจะใช้นอมทำอะไรหรือคะ”
“เดี๋ยวไปประชุมกับฉันที่เทพสุธา”
“เรื่องโครงการสร้างฝายหรือคะ เมื่อวานก็เพิ่งประชุมไปนี่คะ”
“วันนี้มีประชุมหลายเรื่อง คงมีเรื่องโครงการสร้างฝายด้วยล่ะมั้ง ทางโน้นอยากให้เธอเข้าประชุมด้วย ก็ไปด้วยกัน ไป เดี๋ยวถ้าคุณชายธัชไม่เห็นเธอเข้าประชุมด้วย เป็นได้หาเรื่องยกเลิกโครงการแน่ ไปหยิบแฟ้มเอกสารแล้วตามไปที่รถ”
พรพรรณเดินออกไป ณิชมนรีบรวบรวมเก็บสมุดบัญชีใช้จ่ายแล้วจดโน้ตสั่งงาน
“อย่าลืมชาเขียวของคุณผู้หญิงตอนบ่ายสี่โมง...” ณิชมนพึมพำ
ชัยวัฒน์เดินเข้ามามองณิชมนที่ดูวุ่นวาย
“ทำงานเก่งถูกใจเจ้านายก็ต้องเหนื่อยอย่างนี้แหละครับ คุณแม่บ้าน ใครๆก็เรียกหา แม้แต่คุณชายบ้านบุริศราวัณก็ยังติดใจอยากได้คุณแม่บ้านไปใช้งาน มีเคล็ดลับอะไรก็บอกกันบ้าง แต่ผมคงจะเอาเคล็ดลับของคุณไปใช้ไม่ได้แน่ๆ เพราะดูเหมือนเคล็ดลับของคุณนี่ใช้ได้เฉพาะกับเจ้านายผู้ชายเท่านั้น” ชัยวัฒน์กล่าว
“ฉันไม่มีเคล็ดลับอะไรหรอกค่ะ นอกจากตั้งใจทำงานของตัวเอง ไม่ยุ่งกับเรื่องคนอื่นจนลืมหน้าที่ของตัวเอง ครูชัยคงว่างมากเลยใช่มั้ยคะถึงได้มีเวลาจับตาดูการทำงานของฉัน ถ้าว่างมาก ฉันฝากงานที่นี่ด้วยนะคะนี่ค่ะฉันเขียนโน้ตสั่งงานไว้หมดแล้ว ขอบคุณค่ะ”
ณิชมนส่งกระดาษโน้ตให้ชัยวัฒน์แล้วเดินออก ชัยวัฒน์ฮึดฮัดหงุดหงิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ห้องประชุม ณิชมนกับพรพรรณเดินเข้ามาในห้องประชุม
“นี่ยังไม่มีใครมาหรอกเหรอ เราอุตส่าห์รีบแทบตาย ไหนๆ เธอก็มาด้วยเดี๋ยวเธอช่วยจดรายงานประชุมให้ฉันด้วยนะ ถ้าหากมีอะไรสงสัยไม่เข้าใจ ก็เก็บไว้ถามทีหลัง อย่าทำหน้าเอ๋อให้คุณชายธัชดูถูกเอาได้”
“ค่ะ คุณพรพรรณ”
“อีตาคุณชายธัชนี่ร้ายจริงๆ ทำให้ฉันถูกเมาธ์ไปทั่วเรื่องที่ฉันส่งแม่บ้านไปทำงานแทน ก็ฉันไม่คิดว่า เธอจะทำงานสำเร็จนี่นา เอ๊ย ไม่ใช่ ฉันคิดไว้ว่า ถ้าคุณชายตอบตกลง ฉันก็จะสานงานต่อเอง ไม่ได้คิดจะให้เธอประชุมกับทางจังหวัด ถ้าฉันมีโอกาสเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้คุณชายธัชขายหน้าบ้าง!”
บุรธัชเดินเข้ามา พรพรรณรีบเปลี่ยนท่าทีทันที
“คุณชายธัช..สวัสดีค่ะ” พรพรรณปั้นยิ้ม
“สวัสดีครับ”
“แล้วคุณณิชาล่ะคะ”
“กำลังตามมาครับ”
ณิชาภัทรพานวลแขเดินเข้ามา พรพรรณรีบยกมือไหว้นวลแขอย่างดีใจ
“สวัสดีค่ะ คุณหญิง วันนี้คุณหญิงเข้าประชุมด้วยหรือคะ” พรพรรณถาม
ณิชมนหันไปมองนวลแขอย่างคาดไม่ถึง
“ยัยณิชาน่ะซิ ลากฉันมาประชุมด้วย”นวลแขตอบ
“ประนอม..กราบสวัสดีคุณหญิงซะซิ คุณหญิงนวลแขเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโครงการเทพสุธา นี่ประนอม...”พรพรรณแนะนำ
ณิชมนยกมือไหว้นวลแข ก้มๆหน้าไม่กล้าสบตาด้วย
“แม่บ้านประนอม” บุรธัชพูด
“ผู้ช่วยประนอมค่ะ คุณหญิง ตอนนี้ประนอมเลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยของพรแล้ว”
“แม่บ้านบ้านสรณาลัยนี่เก่งรอบด้านจริงๆ ทำงานแทนเจ้านายได้ทุกอย่างแม้กระทั่งงานสอดแนมล้วงความลับคู่แข่ง ไปหาแม่บ้านเก่งๆ อย่างนี้มาจากไหนครับ ผมจะได้ไปหาบ้าง” บุรธัชแขวะ
“ฉันไม่เคยส่งประนอมไปสอดแนมใคร...” พรพรรณโต้
“เอาล่ะๆ อย่าพูดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องดีกว่า เริ่มประชุมกันเลย ว่าไง ยัยณิชาเป็นคนเรียกประชุมไม่ใช่เหรอ วันนี้จะประชุมเรื่องอะไรบ้าง” นวลแขตัดบท
“ณิชาอยากสรุปเรื่องโครงการร่วมใจพัฒนาก่อนค่ะ แต่คนที่จะสรุปโครงการนี้ได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นคุณนอม เชิญคุณนอมเลยค่ะ”
“ค่ะๆ ได้ค่ะ”
ณิชมนพลิกแฟ้มเอกสารเกือบจะลนลาน โดยมีบุรธัชจับตามองอยู่ พรพรรณมองอย่างเอาใจช่วย
“เออ..คือ..เราสรุปได้ว่า โครงการสร้างฝายชะลอน้ำจะเริ่มในต้นเดือนนี้ก่อนอื่นเราจะต้องไปสำรวจพื้นที่ที่จะสร้างฝายก่อนนะคะ จากการสำรวจพื้นที่ครั้งก่อน เราประมาณการว่า จะสร้างฝายจำนวนสองแห่งบนพื้นที่ของไร่บุริศราวัณและอีกสามแห่งบนพื้นที่....”
นวลแขมองณิชมนอย่างรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา ณิชมนสบตากับนวลแขแล้วรีบหลบสายตา
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินถือแฟ้มโครงการออกมาจากนั้นจึงหยิบสร้อยของแม่ออกมาดูแล้วอดถอนใจยาวไม่ได้ บุรธัชเดินมาหยุดมองณิชมนอย่างขำๆ
“ถึงกับถอนใจเลยเหรอ แม่บ้านประนอม”
ณิชมนรีบปรับสีหน้าให้ปกติ จ้องบุรธัชอย่างไม่กลัว
“คราวนี้คุณคงไม่กล่าวหาว่าฉันหาเรื่องมาเจอคุณอีกนะ เพราะคุณเป็นคนโทรเรียกฉันมาประชุมเอง สงสัยคุณจะเป็นฝ่ายแอบชอบฉันมากกว่ามั้ง ถึงได้หาเรื่องให้ได้เจอหน้าฉันเช้าเย็น”
“ฉันไม่ได้เป็นคนโทรเรียกให้เธอมาประชุม”
ณิชมนนิ่งอึ้งรู้สึกว่าหน้าแตกกระจาย
“ถ้าไม่ใช่คุณ แล้วจะเป็นใคร”
“ณิชาเป็นคนโทรขอให้คุณพรพรรณพาเธอมาประชุมด้วย คุณหญิงย่าอยากเห็นหน้าเธอ”
“ทำไมคุณหญิงนวลแขถึงอยากจะเห็นหน้าฉันคะ” ณิชมนตกใจ
“ก็ณิชาไปคุยเรื่องเธอไว้เยอะ คุณหญิงย่าก็เลยอยากรู้จักเธอ ที่จริงท่านก็แค่พูดเปรยๆ ไม่ได้จริงจังหรอก ณิชาชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อย่างนี้แหละ”
ณิชาภัทรกับนวลแขเดินเข้ามา
“นินทาณิชาอีกแล้วนะคะ ธัช”
ณิชมนมองนวลแขแล้วนึกได้รีบเก็บสร้อยเข้าใต้เสื้อทันที เฉียดฉิวที่นวลแขเกือบจะเห็นสร้อย
“ผมพูดความจริงไม่ได้นินทา ผมพูดอีกครั้งก็ยังได้ คุณน่ะ ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นจนเกินไป”
“ก็ดีกว่าคนที่ยุ่งอยู่กับชีวิตตัวเองจนไม่คิดถึงคนอื่นเลย”
“ไป ไปทะเลาะกันต่อที่บ้าน ไป อย่ามาทะเลาะกันตรงนี้ให้อายคนอื่น” นวลแขปราม เธอมองณิชมนอย่างเมตตา
“แล้วเจอกันใหม่นะ หนู”
ณิชมนยกมือไหว้นวลแข จ้องมองไม่วางตา บุรธัช ณิชาภัทรและนวลแขเดินออกไป ณิชมนยังคงมองตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชยืนมองไปที่สวนหลังบ้านสุธาสิน ณิชาภัทรเดินมาหา
“คุณย่าขอเอนหลังซักครึ่งชั่วโมง ท่านสั่งมาให้เฝ้าธัชไว้อย่าให้หนีไปไหน ยังไงเย็นนี้ธัชต้องอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน”
“ถึงคุณไม่มาเฝ้า ผมก็ไม่หนีหายไปไหนอยู่แล้ว”
“ณิชารู้นะว่า ที่ธัชมาที่บ้านนี้บ่อยๆ เพราะคุณย่าไม่ใช่เพราะณิชา รู้หรือเปล่า คนที่ชอบอยู่กับคนแก่ เป็นคนขาดความอบอุ่น”
“อย่ามาตั้งสมมติฐานมั่วๆ ผมเคารพรักคุณหญิงย่า ผมก็ต้องมาเยี่ยมท่านบ่อยๆ ผิดตรงไหน นี่คุณอิจฉาผมล่ะซิ ที่คุณหญิงย่ารักผมมากกว่าคุณ”
“ณิชาอิจฉาคุณย่ามากกว่าที่ทำให้คุณรักได้..”
“ณิชา...”
“ณิชาเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือคะ เป็นคนที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นจนลืมดูแลคนที่อยู่ข้างๆ ที่เราต้องเลิกกันเพราะณิชาไม่ได้ใส่ใจธัชมากพอใช่มั้ยคะ”
“เพราะเราทั้งสองคนต่างหาก เราต่างยุ่งกับงานกับครอบครัวตัวเอง จนลืมใส่ใจกันและกัน”
“แล้วเราจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้มั้ยคะ ธัช”
“เราเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ดีกว่า ณิชา ผมไม่อยากให้คุณต้องเสียใจเพราะผมอีก...”
ณิชาภัทรมองบุรธัชอย่างฝืนยิ้มแต่ในใจแอบผิดหวัง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสรณาลัย พิมพ์นฤมลเดินมาที่รถพลางควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพาย ณิชมนเดินมาส่งกุญแจรถให้
“อยู่นี่ค่ะ คุณนมลลืมไว้บนโต๊ะอาหาร”
พิมพ์นฤมลรับกุญแจรถจากณิชมนอย่างหมางเมินและทำหน้านิ่งๆใส่
“วันนี้คุณนมลกลับเร็วหรือเปล่าคะ”ณิชมนพยายามชวนคุย
“ถามทำไม พี่นอมมีนัดกับพี่ภาสอีกเหรอคะ เชิญไปพบกันได้ตามสบาย ไม่ต้องห่วงนมลหรอกค่ะ”
“โธ่ คุณนมลคะ เรื่องนอมกับคุณภาส มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ค่ะ”
“งั้นพี่นอมบอกนมลหน่อยว่า พี่นอมนัดเจอกับพี่ภาสทำไม บอกมาได้เลยค่ะ นมลพร้อมจะฟังคำอธิบายจากพี่นอมแล้ว”
“ก็อย่างที่นอมบอกไปแล้ว คุณภาสช่วยแก้ปัญหาบางอย่างให้นอม”
“ปัญหาอะไรคะ ทำไมพี่นอมไม่มาขอให้นมลช่วย ทำไมต้องให้พี่ภาสช่วย”
ณิชมนอึกอักบอกความจริงไม่ได้
“พี่นอมตอบไม่ได้ใช่มั้ยคะ เพราะนี่คงเป็นปัญหาระหว่างพี่นอมกับพี่ภาสสองคน คนอื่นไม่เกี่ยวใช่มั้ยคะ นมลเข้าใจแล้วล่ะค่ะ”
พิมพ์นฤมลขึ้นรถแล้วขับออกไป ณิชมนเดินคอตกกลับไป ในขณะเดียวกัน รถพงษ์เทพแล่นเข้ามาจอด ณิชมนหันไปมองต้องตกใจตาเหลือก พงษ์เทพลงจากรถ เขามองณิชมนอย่างแปลกใจ
“นี่คุณ ! คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง?”
ณิชมนปวดหัวกลุ้มหนักเข้าไปอีก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พงษ์เทพเดินชิวๆ เข้ามาในบ้านสรณาลัย ณิชมนเดินต้อนหน้าต้อนหลังพยายามหยุดพงษ์เทพไว้
“คุณกลับไปซะเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะค่ะ”
“ผมยังกลับไปไม่ได้”
“นี่คุณอย่ามาใช้วิธีนี้กับฉันนะ มันไม่ได้ผลหรอก ฉันเกลียดผู้ชายขี้ตื๊อที่สุด คุณกลับไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันเรียกตำรวจ”
“ผมไม่ได้ทำผิดอะไรนะครับ คุณ”
พงษ์เทพนั่งลงอย่างสบายๆ
“คุณบุกรุกเข้ามาในบ้านคนอื่น ยังว่าไม่ผิดอีกเหรอ กลับไปซะ ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณ ไม่ต้องการเป็นเพื่อนคุณ ยิ่งผู้ชายที่ชอบจีบผู้หญิงไปทั่วอย่างคุณ ฉันรังเกียจยิ่งกว่าอะไร”
“คุณให้โอกาสผมได้อธิบายก่อนได้มั้ย ที่ผมมาที่นี่น่ะ...”
“ไม่ต้องอธิบาย ฉันไม่ฟัง กลับไปซะ ไป !”
ณิชมนอดทนไม่ไหว เข้าไปดึงตัวพงษ์เทพให้ลุกออกมา
“ออกไปจากบ้านนี้เดี๋ยวนี้ !”
กันยากับสายใจโผล่เข้ามาดู
“ยัยนอมพาผู้ชายเข้ามาบ้าน !”
“กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันใหญ่แล้ว ยัยนอมนี่แรงขึ้นทุกวัน !”
“อย่างนี้ต้องฟ้องคุณพรพรรณ !” กันยาเสนอ
กันยากับสายใจรีบพากันจะออกไป พรรณอรกับพรพรรณเดินสวนเข้ามาก่อนยังไม่ทันเห็นว่าเป็นพงษ์เทพ
“คุณพรพรรณคะ ! พี่นอมพาผู้ชายเข้าบ้านค่า” กันยาและสายใจฟ้อง
“ฉันเห็นแล้ว ไปทำงานของพวกเธอ ไป”
กันยากับสายใจรีรอ พรพรรณมองจนกันยากับสายใจต้องถอยออกไป พรพรรณตรงเข้าไปหาณิชมนเตรียมตัวเล่นเต็มที่ แล้วต้องแปลกใจที่ณิชมนอยู่กับพงษ์เทพ
“ประนอม ! เธอทำอะไรคุณพงษ์เทพ !” พรพรรณกล่าว
ณิชมนที่กำลังผลักพงษ์เทพต้องชะงักหยุดนิ่งกึกแล้วค่อยๆปล่อยมือจากเขา
“คุณพรพรรณ..รู้จัก..รู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยเหรอคะ”
“ก็รู้จักน่ะซิ คุณพงษ์เทพเป็นแขกของฉัน เธอทำอะไรของเธอ”
“คุณ..คุณประนอมไม่ได้ทำอะไรผมหรอกครับ น้าพร เราแค่ทักทายกันตามประสาคนรู้จักน่ะครับ”
“ประนอมรู้จักคุณพงษ์เทพด้วยเหรอ เธอมีอะไรทำให้เราแปลกใจอยู่เรื่อยเลยนะ ประนอม”
“แล้วเธอไปรู้จักคุณพงษ์เทพได้ยังไง แม่บ้านประนอม !”
“แม่บ้านประนอม...” พงษ์เทพแปลกใจ
ณิชมนมองพงษ์เทพแล้วอ้ำๆอึ้งๆตอบอะไรไม่ได้ เธอหน้าซีดเหงื่อแตกทำอะไรไม่ถูก
จบตอนที่ 8
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.