เนื่องจาก บ.เอ็กแซ็กท์ - บ.ซีเนริโอ ได้แจ้งเลื่อนการออกอากาศละครเรื่อง "กุหลาบซาตาน" จากเดิมวันพุธที่ 26 ตุลาคม ออกไปเป็นวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน เพราะทีมงานไม่สามารถถ่ายทำละครได้ตามกำหนด อันเนื่องมาจากสถานการณ์น้ำท่วมในระหว่างนี้ ทีมงานละครออนไลน์ จึงมีความจำเป็นที่ต้องขอหยุดการอัพเดทบทละครโทรทัศน์เรื่องนี้ไว้ที่ตอนที่ 6 (จบตอน) และหากการกระทำครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้อ่าน ทีมงานละครออนไลน์ ขออภัยมาณที่นี้
26 ตุลาคม พ.ศ. 2554
.........................................................................................................
กุหลาบซาตาน ตอนที่ 6
ทางด้านไปรมาหลังจากแยกออกจากกลุ่มชินภัทร เธอต้องรับผิดชอบทำรายงานตามลำพัง ไปรมานั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียด เอกสารและข้อมูลต่างๆ กองสูงท่วมหัว ส่วนภูษณะนั่งขยำกระดาษปาเล่นอยู่ข้างๆ
“รู้ไหม ไป๋ ไอ้กลุ่มที่เราไปทำงานด้วยเนี่ย มันเป็นกลุ่มที่เฮงซวยที่สุดในคลาสไม่มีใครอยากทำงานกับมันซักคน”
ไปรมาพิมพ์รัว ไม่มองหน้า
“แล้วไง”
“มันรับเราสองคนเข้าไป เพราะมันตั้งใจจะโละทุกอย่างให้เธอทำ เธอรู้ตัวใช่ไหม”
“งานจะส่งอาทิตย์หน้าแล้ว เธอจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา”
“ฉันแค่อยากจะบอกให้เธอรู้ว่า การตัดสินใจของเธอ ทำให้เราสองคนต้องลำบากทำไมเธอต้องออกจากกลุ่มชินด้วย ไป๋อยู่ใกล้ๆ เค้าแล้วใจมันสั่นหรือว่ายังไง”
“นี่ ภู อย่ามายั่วโมโหฉันนะ ถ้าเธอไม่ช่วยทำงาน ก็อย่ากวน จะไปไหนก็ไปเลยไป”
“ขอบคุณพระเจ้า ฉันรอคำนี้มาตั้งนาน ไปละนะ”
ภูษณะลุกพรวด ชนเข้ากับกองหนังสือทำให้แก้วเครื่องดื่มหกใส่รายงานที่ไปรมาทำเสร็จไปบ้างแล้ว
“ว้ายยยย” ไปรมาหยิบรายงานขึ้นมาดู แทบร้องไห้ “ เปื้อนหมดเลยอ่ะ”
ภูษณะหน้าเสีย
“เราขอโทษ”
ไปรมาเสียใจ วิ่งร้องไห้ออกไป ผ่านหน้าชินภัทรไปโดยไม่ทันเห็น
ไปรมาหลบมานั่งรายงานที่เปียกเละเทะแล้วร้องไห้อย่างขัดใจ ชินภัทรถือโกโก้ร้อนมาสองแก้ว แล้วนั่งข้างๆ วางถ้วยโกโก้ร้อนให้ไปรมาแก้วนึง
“กินซะ ช๊อกโกแลตกับน้ำตาลจะทำให้รู้สึกดีขึ้น” ไปรมามองนิ่งๆ “ไม่มียาพิษหรอกน่ะ พวกมาเฟียเราสอนให้ฆ่ากันซึ่งๆ หน้า”
ไปรมาอดไม่ได้ต้องยิ้มออกมา
“ขอบใจ”
ชินภัทรมองไปที่รายงาน
“กลับไปอยู่กลุ่มเรามั๊ย” ไปรมานิ่ง พูดไม่ออก “หวังพึ่งภูษณะไม่ได้หรอกนะ มันตั้ง ใจจะทำทุกอย่างให้ตัวเองสอบตก หรือไม่ก็โดนไล่ออกจากโรงเรียน เพราะมันโดนพ่อแม่บังคับให้มา”
“แล้วเธอล่ะ”
“เราเต็มใจมา เราจะกลับไปช่วยพ่อทำงาน พ่อเราหวังกับเรามาก”
“พ่อเราก็เหมือนกัน พ่อมีธุรกิจโรงแรมกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเราเรียบจบกลับไป เราสองคนก็จะเป็นคู่แข่งกัน รู้หยั่งงี้แล้ว ยังจะอยากช่วยอยู่หรือเปล่า”
ชินภัทรแกล้งทำโหด
“ก็ช่วยไปก่อน หลอกให้ตายใจ แล้วค่อยไปทรยศทีหลัง”
“บ้า” ไปรมาทุบชินภัทร ชินภัทรจับมือเธอไว้
“ไป ไปคุยกับอาจารย์ด้วยกัน ดูสิว่าเค้าจะยอมให้ย้ายกลับมากลุ่มเดิมไหม”
ชินภัทรดึงไปรมาให้ลอยขึ้นมาทั้งตัว ไปรมายิ้มทั้งสองรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนที่กรุงเทพระหว่างนั้นโรสกำลังกดโทรศัพท์หาใครบางคนอยู่ หน้าตากังวลมากขึ้นกว่าเดิม
“หายไปไหนนะ ไม่ติดต่อมาเลย โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาน”
พยาบาลเดินเข้ามาบอก
“พรุ่งนี้หมอให้คนไข้กลับบ้านได้แล้วนะคะ”
“ค่ะ”
“คุณชัชสั่งไว้ว่า พรุ่งนี้เช้าจะส่งคนมาเคลียร์ค่าใช้จ่าย แล้วรับคุณกลับบ้าน ให้คุณเตรียมตัวรอได้เลยค่ะ”
พยาบาลบอกแล้วออกไป จังหวะนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา โรสหยิบมาดูอย่างดีใจ ปรากฏว่าเป็นเบอร์ปฐวี โรสชะงัก
“ท่านปฐวี!”
โรสลังเล ไม่กล้ารับ
ปฐวีวางสาย บ่นกับตัวเอง
“ไม่รับสาย” ปฐวีหันไปสั่งดนัย “ให้คนของคุณสืบให้หน่อย ดนัย ผมอยากพบเธอ”
“ชื่อโรส นามสกุลฮอลเลอร์ ใช่ไหมครับ”
นงพงาจะเข้ามาในห้อง ชะงัก หยุดฟัง
“ใช่ ติดต่อคุณโรสให้ได้ บอกเธอว่าผมอยากเจอ เรามีเรื่องที่ยังคุยกันไม่จบ”
ปฐวีพรายยิ้มเจ้าเล่ห์ ดนัยเดินออกมา เจอนงพงาดักอยู่ ดนัยชะงัก
“คุณนง มีอะไรหรือเปล่าครับ”
นงพงามองดนัย ทั้งคาดคั้น ทั้งวิงวอน
“บอกฉันได้ไหม ดนัยว่าคุณโรสเป็นใคร แล้วระหว่างเค้ากับเจ้านายเธอ มีอะไรกัน”
ดนัยอึกอัก ไม่รู้จะบอกดีหรือไม่บอกดี
วันต่อมาโรสแต่งตัวเตรียมออกจากโรงพยาบาล โรสเดินออกจากห้องน้ำขณะนั้นผู้ชายท่าทางเอางานเอาการคนหนึ่ง แต่งตัวแบบคนขับรถโรงแรม เปิดประตูเข้ามา โรสแปลกใจ
“คุณชัชให้ผมมารับคุณโรสครับ”
โรสมองนาฬิกา เห็นว่าเพิ่ง9 โมง
“ฉันนึกว่าคุณชัชจะมาเองซะอีก เห็นเค้าว่าจะมาถึงนี่สิบโมง”
“มีประชุมด่วนครับ นายให้ผมมารับคุณกลับไปโรงแรม นายจะรออยู่ที่นั่น...มีกระเป๋าหรือของให้ผมช่วยถือไหมครับ”
“ไม่มีจ้ะเอ้อ...”
โรสห้ามไม่ทัน ชายคนนั้นคว้ากระเป๋าถือของโรสเดินนำลิ่วไป โรสได้แต่เดินตาม
โรสออกจากโรงพยาบาลได้เพียงไม่นานเป๋งก็ขับรถพาชัชมาที่โรงพยาบาล
“หาที่จอดรอแถวๆ นี้แหละ ฉันขึ้นไปรับคุณโรสแป๊บเดียว เดี๋ยวมา”
“ครับ”
ชัชลงจากรถ เป๋งขับรถออกไป
ชัชเดินเข้ามาในโรงพยาบาลแต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อรู้จากพยาบาลที่เคาน์เตอร์ว่าโรสกลับไปแล้ว
“คนไข้กลับไปแล้วค่ะ”
“ยังไง เมื่อไหร่ครับ”
“ซักครึ่งชั่วโมงได้แล้วค่ะ มีคนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล แล้วรับคนไข้ออกไปบอกว่าคุณสั่งให้มา”
“แล้วคุณก็เชื่องั้นเหรอ”
“ก็เค้าใส่เครื่องแบบโรงแรมคุณนี่คะ”
ชัชเอะใจ รีบกดโทรศัพท์หาโรส แต่ติดต่อไม่ได้
“ปิดเครื่อง...โรส คุณอยู่ไหน”
ชัชนึกเป็นห่วงโรส โดยไม่รู้ว่าขณะนั้นเธอถูกพาตัวมาที่ฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง โรสถูกปิดตาและคนที่พาเธอมาก็คือลูกน้องของโชค...ลูกน้องโชคพาโรสเข้ามาในห้องโล่งกว้าง เหมือนโกดัง ไม่มีหน้าต่าง ด้านข้างอีกด้านเป็นประตูขนาดใหญ่ที่ปิดเอาไว้
“ปล่อยฉันนะ พวกแกเป็นใคร พาฉันมาที่นี่ทำไม”
ทั้งสองไม่ตอบ ผลักโรสไปกลางห้อง โรสเป็นอิสระ รีบกระชากผ้าออก
“แก...” โรสชะงัก เมื่อเห็นโชคยืนอยู่ “คุณโชค”
“ฉันเอง...แปลกนะ ที่เธอมองไม่เห็น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง”
“คุณจะทำอะไรฉันคะ”
“ฉันจะไม่ทำอะไร ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน...” โชครับกระเป๋ามาจากลูกน้อง เปิดออก เห็นเงินอัดเต็มกระเป๋า “เงินสด 5 ล้านบาท พร้อมตั๋วเครื่องบินอีก 1 ใบให้เธอเดินทางไปจากเมืองไทยคืนนี้”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันต้องการให้เธอ ออกไปจากชีวิตของไอ้ชัช อย่ากลับมายุ่งกับมันอีก ว่าไง”
โรสนิ่งใช้ความคิด
ชัขมั่นใจว่าโชคจะต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พอออกจากโรงพยาบาลชัชจึงเอาปืนจ่อขู่เป๋ง เป๋งโวยวาย
“ผมไม่รู้ นายเป็นคนสั่งทุกอย่าง ผมไม่รู้อะไร”
“ฉันไม่เชื่อ แกมันเหมือนพยาธิในท้องพี่โชค เค้าทำอะไรแกต้องรู้ พูดมา ไม่งั้นฉันยิงแกจริงๆ”
เป๋งทำหน่าแหยๆ ก่อนจะบอกความจริงกับชัช
ส่วนโรสเธอพยายามพูดถ่วงเวลากับโชค
“ทำไมคะ ทำไมคุณต้องเสือกไสไล่ส่งฉัน คุณกลัวฉันจะบอกให้ชัชรู้เหรอคะว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนโหดร้ายเลือดเย็นยังไง”
“อย่ามาทำปากดี ว่าไง จะรับข้อเสนอของฉันหรือไม่รับ”
“ถ้าฉันไม่รับล่ะคะ”
“เธอก็จะหายไปจากโลกนี้ จะไม่มีใครได้เห็นเธออีกเลย แม้แต่ซาก”
โชคพยักหน้าสั่งลูกน้อง ประตูใหญ่ด้านข้างห้องเปิดออก โรสมองออกไปเห็นว่าหลังประตูนั้นคือบ่อจระเข้ มีจระเข้ตัวใหญ่ 3-4 ตัวยั้วเยี้ยโรสหน้าซีดเผือด
“ไม่นะคะ ไม่ อย่า”
“ถ้าไม่อยากกลายเป็นอาหารจระเข้ ... ก็ไปซะ” โรสอึกอัก โชคกระชากโรสมาที่ริมบ่อ “ว่ายังไง จะไปหรือไม่ไป!”
จังหวะนั้นชัชเปิดประตูเข้ามา
“ไม่!” ชัขบอกเสียงเข้มแล้วเดินเข้ามา “โรสจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” โชคปล่อยมือ โรสรีบโผไปหาชัชด้วยความดีใจ “พี่จะไล่โรสไปไหนไม่ได้ ผมไม่ยอม โรสต้องอยู่กับผม”
“ไอ้ชัช แกเห็นมันดีกว่าฉันงั้นเหรอ กะอีแค่ผู้หญิงคนนึง...”
“โรสเป็นผู้หญิงที่ผมรัก!” ทั้งโชคและโรสต่างอึ้ง “โรสจะไม่ไปไหน เขาจะอยู่กับผมที่นี่”
“แกพูดอะไรของแก ไอ้ชัช”
ชัชกุมมือโรส
“ผมรักโรสครับ พี่ เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน”
“แกพูดอีกทีซิ”
“ผมรักโรสครับ พี่ ผมจะแต่งงานกับเธอ”
โรสตะลึง นึกไม่ถึง ชัชยืนกุมมือโรสอย่างเด็ดเดี่ยว ส่วนโชคถึงกับช๊อก โมโหสุดขีด หยิบปืนสั้นในมือขึ้นมา ยิงไปรอบๆ ห้อง ชัชยืนอย่างมั่นคง โชคยิงจนกระสุนหมด แล้วเดินออกไปด้วยความโมโห โรสแทบทรุดกอดชัชไว้
“ไม่เป็นไรแล้ว โรส คุณไม่ต้องกลัว”
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าคุณไม่พูดไปอย่างนั้น คุณโชคคงไม่ยอม”
“ผมพูดจริง” โรสชะงัก “ผมรักคุณ...แต่งงานกับผมนะ โรส” โรสอึ้ง “โรส?” โรสกระชากมือออกจากชัช แล้ววิ่งหนีออกไป “โรส”
ชัชจะวิ่งตามแล้วชะงัก งง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้
โรสกลับมาที่โรงวแรมและเข้าห้องพักของตัวเองอย่างสับสน
“ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้นี่... เอายังไงดีล่ะ เราจะทำยังไงต่อไปดี”
โรสกลุ้มและสับสนสุดๆ
วันต่อมาที่สวิสเซอร์แลนด์วีณานอนอยู่บนเตียง ค่อยๆ ปรือตาตื่นมา มือควานเปะปะไปข้างตัว
“ที่รักคะ...”
มือวีณาคว้าไปโดนอะไรบางอย่างบนหมอนข้างๆ เธอลืมตาดู มันคือกุหลาบขาวแรกแย้มดอกหนึ่ง
วีณาเอามาดม ยิ้มชื่นใจ แล้วเห็นโน้ตเล็กๆ ที่วางอยู่ข้างๆ กุหลาบ วีณาหยิบขึ้นมาอ่าน
“ไปซื้ออาหารเช้า เดี๋ยวมา” วีณาตาโต ลุกพรวด “ว้าย ตายแล้ว!”
วีณากระโดดขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อผ้ามาใส่แทบไม่ทัน
กงพัดออกมาซื้อของที่ร้านเบเกอรี่ กงพัดซื้อขนมปัง ชีส ผลไม้ เสร็จแล้ว กำลังจ่ายเงินให้คนขาย
“Merci.”
กงพัดเก็บเงินทอน แล้วหอบของ เดินออกจากร้าน จังหวะนั้นพีชญาที่เดินรีบร้อนเข้ามา ชนกับกงพัดเบาๆ ของในมือกงพัดเกือบตก
“Pardon”
“de rien”
กงพัดยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินออกไป พีชญามองตามอย่างสนใจ ภูษณะดินตามมายืนข้างๆ มองพีชญาอย่างสงสัย
“มองอะไร”
พีชญาไม่สนภูษณะยังมองตามกงพัดไป
“ใครไม่รู้ เท่ มว๊ากกกกก”
ภูษณะมองตาม เห็นด้านหลังของกงพัดเดินลับไป ภูษณะรู้สึกคุ้นๆ แต่ไม่ได้ติดใจ
วีณาออกมาตามหากงพัด จึงเจอตำรวจที่แวะมาซื้อของทั เป็นภาษาฝรั่งเศส
“สวัสดีครับ”
วีณาหน้าเจื่อน
“สวัสดีค่ะ”
“ตามหาใครอยู่หรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ เปล่า ไม่ได้หาใครเลย”
วีณาบอกแล้วรีบลนลานออกไปนอกร้าน วีณาชะง้อมองไปรอบๆ กลุ้มใจมาก
“ไปไหนของเค้านะ”
วีณาเดินแกมวิ่งหากงพัดจนอ่อนใจ ไม่เจอ ไปหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ ตรงเนินเขา
“จะทำยังไงดี ทำยังไงดี”
วีณากลุ้มและกลัวมาก จนจะร้องไห้ออกมา กงพัดเดินมายืนข้างๆ วีณา
“เป็นอะไร”
วีณาลืมตาเห็นกงพัด ดีใจจนลืมตัว กระโดดกอดทั้งน้ำตา
“วีคุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” กงพัดตกใจที่เห็นวีณาร้องไห้
“คุณอย่าทำอย่างนี้อีกนะ อย่าไปไหนโดยไม่บอกฉันอีก”
“ผมเขียนโน๊ตบอกไว้แล้ว คุณไม่เห็น...”
วีณาเอามือปิดปากกงพัด
“อย่าทำอย่างนี้อีก ฉันไม่อยากตื่นมาแล้วพบว่าคุณหายไปฉันไม่อยากเสียคุณไป สัญญาได้ไหม ว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้”
กงพัดงง ไม่เข้าใจ
“วี ผมไม่เข้าใจ”
“สัญญาซี”
กงพัดไม่เข้าใจ แต่เห็นวีณาจริงจังมากเลยรับปาก
“ก็ได้ๆ ผมสัญญา”
วีณากอดกงพัดแน่น กงพัดลูบหลังปลอบโยน แต่แววตาสงสัยมาก
ชินภัทร ไปรมา พิชญาและภูษณะกลับจากซื้อของในเมือง กำลังเดินขึ้นโรงเรียนตามทางลาดชัน พีชญาคุยจ๋อยๆ
“เสียดาย ถ้าไม่ติดว่านัดพวกเธอไว้นะ ฉันวิ่งตามเค้าไปแล้ว”
“เค้าได้วิ่งหนีสิ” ชินภัทรแซว
“ไม่แน่นะ เค้าอาจจะชอบผู้หญิงอย่างเราก็ได้”
“ฝันไปเหอะ” ภูษณะชี้ไปที่ถนน “เค้าคงชอบสวยๆ ขาวๆ ขายาว หุ่นดี แบบพี่วีมากกว่า”
ทุกคนมองตาม เห็นรถของวีณาผ่านไป กงพัดขับมีวีณาซบอยู่ข้างๆ
“อ้าว กิ๊กพี่วีนี่เอง หมดสิทธิ์แล้ว พีช” ชินภัทรตบไหล่พีชญา
“โอ้ย อย่าโดน เจ็บ อกหัก”
“ไม่ยักรู้เนอะ ว่าพี่วีมีแฟน ไปที่ร้านก็ไม่เห็นเคยเจอ”
ไปรมาบอก ภูษณะมองตาม
“แต่เหมือนเราเคยเจอนะ ไม่รู้สิ มันคุ้นๆ”
รถวีณาลับไป เด็กๆ เดินต่อ ไม่มีใครติดใจยกเว้นภูษณะ
ส่วนที่กรุงเทพฯ โรสจะลากกระเป๋าเดินทางออกจากห้อง ชัชตามยื้อ บรรยากาศในห้องตึงเครียด
“มันอะไรกันน่ะ โรส คุณจะไปไหน นี่เราไม่ได้รักกันหรอกเหรอหรือว่าที่ผ่านมา ผมคิดไปเองคนเดียว”
โรสเมิน ตอบเลี่ยงๆ
“คุณก็รู้ ว่าฉันรู้สึกยังไงกับคุณ”
“แล้วคุณหนีผมทำไม ทำไมไม่ยอมแต่งงานกับผม”
โรสหันขวับมา
“เพราะมันเป็นไปไม่ได้ค่ะ! พี่ชายคุณพยายามจะฆ่าฉันนะคะชัช คุณโชคเกลียดฉัน คุณก็รู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง ร้ายกาจขนาดไหน คุณคิดว่าเราสองคนจะแต่งงาน แล้วอยู่กันอย่างมีความสุขได้เหรอคะ”
“คุณรักผมหรือเปล่า โรส...พูดมาคำเดียวว่าคุณรักผม แล้วผมจะทำทุกอย่าง...”
“ทำอะไรคะ ชัช คุณทำอะไรได้ คุณโชคมีอำนาจเหนือคุณทุกอย่าง บ้านที่คุณอยู่ งานที่คุณทำ เค้าเป็นเจ้าของ ควบคุมทุกอย่างในชีวิตคุณ ตั้งแต่เล็กจนโต คุณต้องทำทุกอย่างตามแต่เขาจะพอใจ แล้วคุณจะทำอะไรได้ เค้าไม่มีทางยอมให้เราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขหรอกค่ะ”
“แล้วทำไมเค้าต้องยอมด้วยล่ะ นี่มันชีวิตของผม ถ้าผมยืนยันจะแต่งงานกับคุณ...”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็คงต้องตาย พี่ชายคุณไม่ปล่อยฉันไว้หรอกค่ะ”
“พี่โชคไม่ใช่คนอย่างนั้น” ชัชบอกอย่างไม่เต็มปาก โรสเศร้า
“เมื่อวาน ถ้าคุณมาช่วยไม่ทัน ฉันคงไม่ได้มายืนตรงนี้แล้ว”
ชัชอึ้งเถียงไม่ออก โรสเมินหน้าไปร้องไห้ ชัชเข้าไปปลอบโยน รู้สึกหนักอึ้งในใจ
ระหว่างนั้นโชคอยู่ที่ห้องทำงานแต่เห็นภาพชัชกอดปลอบโรส อยู่ในจอทีวี โชคนั่งดู โรสพูดกับชัช เสียงดังออกมาจากเครื่องดักฟัง อู้อี้ แต่จับใจความได้
“...ชีวิตคุณอยู่ใต้อำนาจของคุณโชค ตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ คุณไม่มีวันเป็นอิสระ คุณไม่มีทางทำตามใจตัวเองได้...ต่อให้ฉันรักคุณมากแค่ไหน เราก็ไม่มีทางสมหวังหรอกค่ะ ชัช”
โชคทั้งเกลียดทั้งแค้นโรส
“เจ้าเล่ห์มารยา คิดจะเสี้ยมไอ้ชัชให้ทรยศฉัน ฉันมองไม่ผิดจริงๆ ว่าเธอมันไม่ใช่คนดี นังโรส!”
โชคคิดจะทำอะไรบางอย่าง
รถตู้ของโรงแรมพาโรสไปส่งที่สนามบิน ชัชนั่งข้างๆ เครียดขรึม
“คุณกลับไปพักผ่อนที่สวิสก่อน ผมจะตามไปทีหลัง” โรสจะเถียง ชัชรีบพูด “เรื่องของเราต้องไม่จบแบบนี้ ผมสัญญา ผมจะทำทุกอย่างให้เราได้อยู่ด้วยกัน”
โรสยิ้มเศร้า ชัชบีบมือโรสให้ความมั่นใจ แต่แล้วจู่ๆ รถกับเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทาง
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ทางไปสนามบินนี่คะ” โรสถามอย่างแปลกใจ
“นี่ จะไปไหนน่ะ” ชัชถามคนขับ
“นายโชคสั่งให้ผมพาคุณสองคนไปพบครับ”
ชัชกับโรสมองหน้ากัน อึ้ง
คนขับรถขับพาชัชกับโรสมายังบ้านโชค
“นี่บ้านผมเอง”
ชัชบอกโรสเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้าน เป๋งลงมารับ
“นายรออยู่ข้างในครับ”
โรสมีท่าทางหวาดๆ ชัชกุมมือโรส
“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ยอมให้เขาทำอะไรคุณ”
ชัชพาโรสเดินเข้าบ้านมา โชคที่ขณะนั้นนั่งหันหลังอยู่ ลุกขึ้นยิ้มรับ
“มาแล้วเหรอ”
“พี่ทำแบบนี้ ต้องการอะไร”
“ฉันมีของจะให้แก”
โชคส่งกล่องแหวนที่ถือมาให้ชัช ชัชเปิดดูเห็นเป็นแหวนเพชรเม็ดเป้ง
“แหวน!? อะไรของพี่ ผมไม่เข้าใจ” ชัชถามอย่างแปลกใจ
“เรื่องเมื่อวาน มันเป็นแค่บททดสอบ ฉันแค่อยากรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้เค้ารักน้องชายของฉันจริงไหม หรือแค่มาหลอกแกเพราะหวังเงิน” ชัชอึ้ง โชคหันไปหาโรส ยิ้มเหยียดๆ “เธอปฏิเสธเงิน 5 ล้าน เธอยอมเสี่ยงตาย แต่ไม่ยอมไปจากน้องชายฉัน ไม่เลวเลย”
ชัชแทบไม่อยากเชื่อ
“นี่...นี่พี่...พี่ทำขนาดนี้เพื่อลองใจโรสงั้นเหรอ พี่จะบ้าเหรอ”
“เฮ่ย จู่ๆ ก็มีผู้หญิงแปลกหน้าไม่รู้หัวนอนปลายเท้าโผล่มา จะให้ฉันเชื่อง่ายๆ เหรอ ว่าเค้าจะรักแกจริง...เอาน่ะ แกน่าจะดีใจนะ ที่โรสเค้าผ่านการทดสอบมาได้” ชัชทั้งฉุน ทั้งขำ ทั้งโล่งใจ ปนเปกันไปหมด แต่โรสยังระแวง “สวมแหวนหมั้นให้เค้าซี ฉันจะได้อวยพร”
ชัชหยิบแหวน หันไปยิ้มให้โรสอย่างชื่นมื่น โรสยังระวังตัว ตั้งรับไม่ถูก
“อย่าถือสานะ โรส พี่โชคของผมก็เป็นแบบนี้แหละ” ชัชจับมือโรสขึ้นมา “ผมรักคุณนะ โรส แต่งงานกับผมนะ”
โรสไม่มีทางปฏิเสธ ได้แต่ยิ้มรับชัชสวมแหวน โชคมองภาพนั้น ยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาที่แอบมองโรส ยังเปี่ยมด้วยแววอาฆาตมาดร้าย โรสมองโชคเธอไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดเลย แต่นึกไม่ออก ว่าโชคต้องการอะไร เลยได้แต่เก็บไว้ในใจ
วันต่อมาชินภัทรและเพื่อนๆ กำลังช่วยกันจัดและตกแต่งห้องสำหรับ Banquet ทำงานไปคุยไป บรรยากาศร่าเริง
“เสร็จงานนี้แล้ว จะมีวันหยุด เราไปเที่ยวไหนกันดี” พีชญาถามขึ้นมา
“นั่งรถไฟไปปารีสไหม” ไปรมาเสนอ
“เช่ารถ ขับไปเที่ยวอิตาลีดีกว่า” ภูษณะบอก
“ชินล่ะ ว่าไง” พีชญาหันไปถามชินภัทร
“เราจะกลับบ้าน อาชัชจะแต่งงาน”
“กับคุณอาสวยๆ ที่มาด้วยกันคราวที่แล้วน่ะเหรอ”
“ใช่ อาชัชกับคุณโรสจะแต่งงานกันปลายเดือนนี้ ที่มารีน่า พ่ออยากให้เรากลับไป”
“พวกเราก็ตามไปเที่ยวมั่งซี ได้ไหม” ภูษณะเสนอ
“ใช่ๆๆๆ ไปถล่มโรงแรมของพ่อชินกันดีกว่า ประหยัดงบด้วย” พีชญารีบสนับสนุน
“อ้าว แล้วค่าเครื่องบินล่ะ พีช เราไม่ออกให้นะ”
ทุกคนหัวเราะเฮฮา ภูษณะหันมาเห็นไปรมาหน้าสลดลง
“ไป๋ ทำไมทำหน้าหยั่งงั้น ไม่อยากไปเหรอ”
“เปล่า”
ชินภัทรมองหน้าไปรมา สงสัย พีชญาคิดๆ แล้วโพล่งขึ้นมา
“อ๋อ ไป๋คงกลัวจะไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ พ่อเธอกับพ่อของชินทะเลาะกันอยู่นี่เธอจะไปงานแต่งงานอาชัชได้ยังไง พ่อเธอคงไม่ยอมหรอก จริงไหม”
ชินภัทรอึ้ง เพิ่งคิดได้ ไปรมาหน้าเสีย ลุกหนีไป ภูษณะด่าพีชญาอุบอิบ
“พูดทำไมเนี่ย หะ พูดทำไม”
“ก็พูดความจริง”
ชินภัทรมองตามไปรมา แล้วเดินตามออกมาด้านนอก มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นไปรมาแล้ว
“แป๊บเดียว หายไปไหนได้ เร็วจัง หายตัวได้หรือยังไง”
ชินภัทรจะเดินไป แล้วนึกอะไรได้ สายตาของชินภัทรไปหยุดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่กลางสนาม
ในโพรงต้นไม้ ไปรมานั่งเศร้าอยู่ เช็ดน้ำตา ชินภัทรมุดเข้ามา
“เด็กขี้แย เป็นอะไร”
ไปรมาเช็ดน้ำตาป้อยๆ
“พ่อเราไม่มีทางให้เราไปบ้านชินแน่ๆ”
“เพราะพ่อเราเป็นมาเฟียงั้นเหรอ”
“อย่ามาว่าแต่พ่อเรา พ่อชินก็คงไม่กล้าให้ชินไปบ้านเรา”
“แต่เรากล้า...” ชินภัทรมองไปรมาอย่างลึกซึ้งและจริงจัง “ซักวันเราจะไป”
ไปรมาตื้นตัน น้ำตาไหลออกมาอีก
“เราอยากให้เค้าเลิกเกลียดกันซะที เราอยากให้มือปืนคนนั้นยังไม่ตาย เราอยากให้เค้าบอกกับพ่อชิน ว่าพ่อเราไม่ได้เป็นคนจ้างให้เค้าไปฆ่าใคร”
“เราก็ภาวนา ขอให้ตำรวจจับมือปืนคนนั้นได้ ทุกอย่างที่ค้างคาใจระหว่างพ่อเรากับไป๋ จะได้จบกันไปซะที แต่ตอนนี้ สัญญาได้ไหมว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะไม่ให้เรื่องของผู้ใหญ่ มาทำให้เราต้องผิดใจกัน”
ชินภัทรยื่นมือไป ไปรมาจับ
“เราสัญญา”
ชินภัทรบีบมือไปรมาแน่น ทั้งสองมองตากัน ชินภัทรจูบหน้าผากไปรมาเบาๆ แล้วดึงไปรมาเข้ามากอด
คืนนั้นที่บ้านวีณา กงพัดร้องเพลงเสียงดังกังวานท่ามกลางหุบเขา
“ในคืนที่มืดมน ขอจงมีแสงสว่าง ในใจที่มืดมน ขอความรักจงส่องฉายในโลกที่สับสน ให้รักนำทางเราไป ที่ไหนมีรัก ที่นั่นจะมีหวัง รักคือแสงสว่างในใจ”
วีณาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ออกมายืนแอบฟังกงพัดร้องเพลง บรรยากาศดูขลัง งดงาม จนเพลงจบ
วีณาเดินออกมากอดกงพัดจากด้านหลัง
“ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณร้องเพลงเพราะ”
กงพัดหันมาคุยด้วย
“ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน มีหลายเรื่องที่ผมคงต้องค่อยๆ ค้นหาเกี่ยวกับตัวเอง ผมอยากรู้ว่าตัวผมเป็นใคร” วีณาอึ้ง “แต่ที่แน่ๆ ผมคงจะเป็นคนร้าย หรือคนที่ทำความผิดร้ายแรงอะไรบางอย่าง
คุณถึงต้องซ่อนผมเอาไว้บนเขา ไม่ยอมให้ใครเห็นผม”
วีณาตกใจ แก้ตัวพัลวัน
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ คือ...คือฉันไม่ได้”
“วี ผมรู้ว่าคุณรู้ บอกความจริงกับผมมาดีกว่า ผมเป็นใคร”
วีณานิ่งอึ้งแล้วตัดสินใจบอกความจริงกับกงพัด
วันต่อมาที่กรุงเทพรถโชคเลี้ยวเข้าบ้าน โชคลงจากรถ เป๋งรอรับ
“ไง ไอ้เป๋ง ได้เรื่องไหม”
“คนที่นายให้ตาม มันมารออยู่แล้วครับ”
เป๋งบุ้ยใบ้ไปข้างๆ บ้าน โชคจึงเดินไปที่สระว่ายน้ำข้างบ้านพบ แดง หนุ่มหล่อล่ำ กำลังว่ายน้ำโชว์หุ่นฟิตเปรี๊ยะแล้วค่อยๆ ขึ้นมาจากสระ โชคมองแดงอย่างพึงพอใจ
“ไง ไอ้แดง ไม่ได้เจอกันซะนาน งานที่บ่อนเป็นไงมั่ง”
แดงเอาผ้าเช็ดตัวซับน้ำ แล้วนุ่งให้เรียบร้อย ก่อนเดินมาหาโชค
“ก็เรื่อยๆ ครับ นาย ไม่สบายเหมือนอยู่รับใช้ใกล้ชิดนายหรอก”
“ไม่ต้องมาปากหวาน อยากทำงานใกล้ชิดฉัน มันต้องมีความสามารถ”
“นายก็ลองดูสิครับ จะให้ผมทำอะไรก็ว่ามา ถ้าผมทำไม่ได้ ค่อยมาว่า”
“แน่นักเหรอ” แดงทำท่าผยองมาก “แน่จริงก็ดี ฉันมีงานให้แกทำ”
“งานอะไรครับนาย”
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วไปที่ห้องทำงานฉัน”
โชคเดินเข้าบ้าน เป๋งขยับจะตาม โชคห้าม
“ไม่ต้อง เป๋ง เอ็งรออยู่นี่”
แดงทำหน้าหยิ่งๆ ใส่เป๋ง แล้วเดินตามโชคไป เป๋งไม่เข้าใจ ทำไมต้องมีความลับ
แดงมาหาโชคที่ห้องทำงาน โชคเปิดเทปที่อัดจากห้องโรสให้แดงดู
“จะให้จัดการผู้หญิงคนนี้เหรอครับ นาย” แดงถาม
“ใช่”
“แต่เขาเป็นแฟนนายชัชไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่กล้า...ว่างั้น”
“ไม่ใช่ ผมเหรอจะไม่กล้า แต่ว่า นี่มันแฟนน้องนายนะครับ”
“ใครที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉัน มันก็อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ถ้าแก 'จัดการ' นังโรสได้สำเร็จ แกอยากได้อะไร ฉันจะให้”
แดงตาวาว
“ที่ไหน เมื่อไหร่ครับนาย”
“วันแต่งงานของมัน!”
โชคบอกแล้วยิ้มร้ายๆ
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป