เรื่องย่อจบบริบูรณ์
เพลงรักบ้านนา
- บทพระนิพนธ์ : หม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย บทโทรทัศน์ : นันทนา วีระชน กำกับการแสดง : บริพันธ์ ชัยภูมิ ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร บริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ - มิวสิคัล วันเวลาออกอากาศ : วันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.30 ทางช่อง 7 สี ออกอากาศ : วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555 จำนวนตอน : 20 ตอนจบ
สองหนุ่ม ทวน (วงศกร ปรมัตถากร) และ เมิน (ธนพล นิ่มทัยสุข) ลูกศิษย์ของ หลวงตา (เทพ โพธิ์งาม) แห่งวัดบ้านนา ทั้งคู่ต่างก็เป็นเด็กกำพร้าที่หลวงตาเก็บมาเลี้ยงไว้ด้วยข้าวก้นบาตรจนเติบโต ทั้งสองกำลังเดินทางกลับมาถึงบ้านนา หลังหายตัวไปนานเกือบสิบปี ทำให้เป็นที่โจษขานกันในหมู่ชาวบ้านนาว่าทั้งสองไปติดคุก!!!
ทวนและเมินกลับมาถึงบ้านนาในวันเวลาเดียวกัน ทั้งคู่ได้พบกับ ศรีไพร (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) ลูกสาวคนเล็กของ นายพร (ไพโรจน์สังวริบุตร) และ นางสด (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ซึ่งเพิ่งจะเรียนจบเกษตรสาขาพืชสวน กลับมาเป็นชาวนาที่บ้านนาไม่นาน
ซึ่งขณะนั้นศรีไพรกำลังพาผู้หญิงแก่ไปคลอดลูก แต่รถบุโรทั่งของทวนกับรถอีแต๋นของเมินกลับจอดขวางไว้ จนทำให้ทั้งสามคนต้องช่วยกันทำคลอดอย่างโกลาหล และศรีไพรก็ไม่ชอบหน้าหนุ่มทั้งสองขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าทั้งทวนและเมินต่างเคยหลงรัก ศรีแพร (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) พี่สาวผู้เป็นนางงามท้องถิ่น เช่นเดียวกัน
ข่าวการคืนสู๋บ้านนาในรอบ 10 ปี ของ ทวนและเมิน ไม่พ้นหูพ้นตาของ ด.ช.แสน (ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) ลูกสมุนตัวจ้อยของศรีไพร แสนรีบวิ่งไปแจ้งข่าวกับหลวงตาว่าทวนและเมินกลับมาแล้ว เนี้ยว (นัทธินันท์ กุมชพร) ลูกสาว เจ๊กตง (แอนนา มกจ๊ก) ซึ่งเคยหลงรักทวน ก็เนื้อเต้นดีอกดีใจที่ทวนกลับบ้านนา ขณะที่เจ๊กตงรมณ์บ่จอยสุดขีด ต้องรีบคิดหากีดกัน เพราะรังเกียจคนคุกเช่นทวนและเมิน ไม่ต้องการมาเป็นลูกเขย
หลวงตาให้ทวนและเมินไปปลูกเพิงอยู่หลังป่าช้าของวัด พร้อม ทอก (เหลือเฟือ มกจ๊ก) และ หมอก (ชูษี เชิญยิ้ม) สองลูกศิษย์วัด โดยมี มหาเฉื่อย (เด๋อ ดอกสะเดา) มัคทายกประจำวัดคอยดูแลทั้งสอง
เมินนั้นรีบไปหาศรีแพรที่บ้านทันที กลับถูกนายพรและนางสดกีดกันไม่ให้พบกับศรีแพร เพราะทั้งสองต่างหวงลูกสาว
ศรีแพรเป็นลูกสาวคนโตที่นายพรหวังจะให้แต่งงานกับ ชิงชัย (นนทพันธ์ ใจกันทา) ลูกชาย เศรษฐีบุญช่วย (ประกาศิต โบสุวรรณ) นายพรชอบความร่ำรวยเพราะคิดว่าเงินจะทำให้ศรีแพรมีความสุข แต่ศรีแพรแอบรักเมินมาตั้งแต่ทั้งสองเริ่มเป็นหนุ่มสาว เมินมีฐานะเป็นเด็กวัด ทวนทำตัวเป็นคู่แข่งของเมิน ทั้งสองต่างสงสัยกันและกันว่าต่างหายไปไหนกันมาเกือบสิบปี แต่ทั้งสองก็ต่างปกปิดความจริง และต่างเริ่มต้นแข่งขันกันเพื่อที่จะได้หัวใจของศรีแพร โดยมีศรีไพรคอยกันท่าชายหนุ่มทั้งสองเพราะเห็นว่าเป็นคนไม่ดี เป็นคนไม่เอาถ่าน ประวัติเป็นคนขี้คุก และทำตัวไร้สาระไปวันๆ
ศรีไพรลูกสาวคนเล็กของนายพรและนางสด เป็นผู้หญิงห้าวๆ ที่เรียนจบปริญญาแต่กลับมาเป็นชาวนา ศรีไพรเห็นว่าชาวบ้านนาตกอยู่ใต้อิทธิพลของเศรษฐีบุญช่วย ที่หาประโยชน์จากชาวนาอย่างเอารัดเอาเปรียบ จึงต่อต้านเศรษฐีบุญช่วยและชิงชัย มีชาวนาเป็นพวกอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเศรษฐีบุญช่วยรู้เข้าจึงประกาศให้ชาวนากู้เงินเพิ่ม ชาวนาจึงหันไปเป็นพวกของเศรษฐีบุญช่วยทั้งหมด ทำให้ศรีไพรต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวโดยมีนายพรเป็นแนวร่วมเท่านั้น
อยู่มาวันหนึ่ง ศรีไพรมีเรื่องกับพวกของชิงชัย ทวนและเมินเข้าช่วย ศรีไพรจึงเกิดความคิดที่จะชวนทวนและเมินเป็นพวก แบบหลอกใช้ โดยให้ทั้งสองพิสูจน์ความแข็งแกร่งด้วยการไถนาด้วยควาย ชื่อไฉไลเฉิด
เจ้าไฉไลเฉิดเป็นควายตัวผู้ อายุแก่ชรา แต่แสนรู้ เป็นควายคู่ใจของศรีไพรและด.ช.แสน ทั้งสองหาทางกลั่นแกล้งทวนและเมิน เพราะรู้ว่าการที่เมินและทวนทำตัวเป็นพวกเพราะต้องการจีบพี่สาว เนี้ยวเอาข้าวมาส่งทวนที่ท้องนาทุกวัน เจ๊กตงคอยตามมาขัดขวางเพราะไม่ต้องการให้เนี้ยวแต่งงานกับคนที่ชาวบ้านนาลือกันว่าเขาไปติดคุก
แต่ไม่มีใครรู้ความจริงว่า เขาทั้งสองหายไปทำอะไรมานานเกือบสิบปี หลวงตาเจ้าอาวาสก็ไม่รับรู้ ไม่ให้ความกระจ่างกับชาวบ้าน
นอกจากนี้หลวงตามักใช้ความหูตึง ทำให้เศรษฐีบุญช่วยต้องควักเงินทำบุญคราวละมากๆ เพื่อบำรุงศาสนาทั้งที่เป็นคนขี้เหนียว เพราะหลวงตารู้ว่าเศรษฐีบุญช่วยและชิงชัยมีแผนจะย้ายวัดออกไป เพื่อเอาที่ดินมาทำร้านสะดวกซื้อ
ชิงชัยพบศรีแพรในที่เปลี่ยวจึงปลุกปล้ำศรีแพรแต่เมินเข้ามาช่วยไว้ ทำให้นายพรและนางสดโกรธชิงชัยมาก ถึงกับเลิกความคิดที่จะให้ศรีแพรแต่งงานกับชิงชัย แต่ยังคงมีความตั้งใจจะให้ศรีแพรได้แต่งงานกับพวกข้าราชการในอำเภอ
ที่เพิงพักอาศัยของทวนและเมิน มหาเฉื่อยนำข้าวก้นบาตรมาให้สองหนุ่มเวลาดึกๆ โดนผีหลอกเป็นประจำ ทำให้ทุกคนสงสัยว่าเดิมในป่าช้าวัดบ้านนาไม่เคยมีผี แล้วผีมาจากไหน แต่คืนหนึ่ง ทั้งทวนและเมินก็โดนผีหลอกจนได้
เศรษฐีบุญช่วยรู้ว่าศรีไพรตั้งตัวเป็นผู้นำต่อต้านตน โดยหันมาทำนาแบบเก่า จึงหาทางบีบชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ให้เข้าพวก ต่อต้านวิธีการและความคิดของศรีไพร ชิงชัยคอยก่อกวนศรีไพรเวลาเรียกประชุมชาวนาเพื่อหาทางให้ชีวิตหลุดจากหนี้สิน ชิงชัยท้าให้ศรีไพรแข่งไถนา โดยให้ศรีไพรใช้ควาย แต่ตนเองใช้รถไถนา
ศรีไพรต้องวางแผนให้แสนไปหลอกเจ๊กตงและเนี้ยวให้ปิดร้านไปทัวร์เมืองจีน ทำให้ไม่มีน้ำมันใส่รถไถ เนื่องจากบ้านนามีน้ำมันขายที่ร้านเจ๊กตงที่เดียวเท่านั้น สมุนของชิงชัยเอาน้ำมันพืชใส่ลงไปในเครื่องยนต์รถไถ โดยไม่รู้ว่าต้องนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการทำให้เป็น ไบโอดีเซลเสียก่อน ทำให้เครื่องรถไถพัง จนต้องพ่ายแพ้การแข่งขัน
ทวนและเมินจำต้องทำความดีกับศรีไพร ทั้งที่ต่างไม่ชอบหน้าศรีไพรจอมห้าว ต่างกลั่นแกล้งกันไปมาทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งนี้เพื่อที่จะจีบศรีแพรคนงามนั่นเอง สไบ (อรวรรษา ฐานวิเศษ) สาวใช้ของเศรษฐีบุญช่วยซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเมียเก็บของบุญช่วย แอบมีความสัมพันธ์กับชิงชัย
ชิงชัยนำ จ่าสิน (ชาลี กรรณสูต) อดีตตำรวจชั่วเข้ามาคุมงานผิดกฎหมายในบ้านนา โดยชิงชัยวางแผนจะตั้งโรงงานผลิตยาบ้าและงานค้าอาวุธสงคราม เนื่องจากเศรษฐีบุญช่วยยึดได้ที่นาจำนวนมากจากลูกหนี้ซึ่งเป็นชาวนา ที่ต่างต้องเดือดร้อนมีแต่หนี้สินจนในที่สุดก็หมดตัว
ศรีไพรทำนาแบบดั้งเดิมโดยใช้แรงควายและแรงคน ทวนและเมินถูกใช้งานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่ามีความเป็นลูกผู้ชาย และมีความสามารถที่จะดูแลปกป้องศรีแพรหรือไม่ ทำให้ทวนและเมินเคียดแค้นศรีไพรยิ่งขึ้น แต่ทั้งสองก็ต้องทนทำความดีต่อศรีไพร เพื่อจะได้หัวใจของศรีแพรนั่นเอง
สไบชิงชังศรีแพร เพราะริษยาในความงดงามที่เป็นหนึ่ง ซึ่งศรีแพรยังมีตำแหน่งเป็นนางงามท้องถิ่น จึงวางแผนใช้สมุนไปฉุดศรีแพรมาเพื่อย่ำยีให้อับอาย แต่เมินก็เข้าช่วยไว้อีกครั้งหนึ่ง ทำให้หัวใจของศรีแพรเอนเอียงไปทางเมิน ทวนร้อนใจรีบทำความดีกับศรีแพร
แต่ทุกครั้งที่พยายามทำ กลับกลายเป็นว่าทวนช่วยศรีไพร ทั้งที่ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน
สุมิตร (ทศพร รถกิจ) แขกขายผ้า ผู้หลงรักเนี้ยวแต่เนี้ยวไม่รักตอบ เริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นคู่แข่งของเจ๊กตง ทำให้เจ๊กตงยิ่งโกรธแค้น บังคับให้เนี้ยวไปเข้าพวกกับเศรษฐีบุญช่วยเพื่อผลทางธุรกิจ แต่เนี้ยวไม่ยอมเพราะเนี้ยวหลงรักทวน จึงมาเข้าพวกกับศรีไพรเพื่อต่อต้านเศรษฐีบุญช่วย
บ้านนาเริ่มเกิดเหตุเดือดร้อน ลูกหลานชาวบ้านพากันติดยาเสพติด อิทธิพลของเศรษฐีบุญช่วยและชิงชัยแผ่ขยาย ชาวนามีแต่หนี้สินและต้องยินยอมให้เศรษฐีบุญช่วยยึดที่นา ทวนและเมินพยายามช่วยศรีไพรทำงานเพื่อชาวนา จนชาวนาเริ่มเห็นแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่จะช่วยให้ชาวนาอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนและหลุดพ้นหนี้สิน ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ตามแนวคิดของศรีไพร
งานผิดกฎหมายของเศรษฐีบุญช่วยและชิงชัย โดยมีจ่าสินเป็นผู้ดำเนินการ ถูกขัดขวางทุกครั้งจนเกิดความเสียหาย ทำให้ต่างสงสัยว่าจะมีสายลับที่เข้ามาล้วงความลับของตนเอง
เศรษฐีบุญช่วยสั่งให้จ่าสินไปสืบว่าทวนและเมินหายไปไหนมาเกือบสิบปี จ่าสินสืบได้ความว่าทั้งสองถูกเกณฑ์ทหารไปรับใช้ชาติ จากนั้นก็หายตัวลึกลับ
เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ชิงชัยเอารถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวข้าวของชาวนาที่เป็นหนี้ไปทั้งหมด เพื่อหักหนี้ค่าปุ๋ยค่ายาค่าสารเคมีต่างๆ จนหมดตัว
ขณะที่ศรีไพรใช้แรงคนเก็บเกี่ยวแต่ได้ผลผลิตที่เป็นกอบเป็นกำ ศรีไพรได้โอกาสจึงชักชวนชาวบ้านให้กลับมาใช้วิธีดั้งเดิมที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเคยทำมา เมื่อชาวบ้านทนแรงบีบคั้นของเศรษฐีบุญช่วยไม่ไหว จึงกลับมาเข้าพวกกับศรีไพร
เศรษฐีบุญช่วยบีบให้ผู้ใหญ่บ้านลาออก เพื่อให้ชิงชัยเข้ารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านก่อนเป็นกำนัน ศรีไพรได้รับแรงยุจากชาวนาที่เห็นคุณค่าในตัวศรีไพรให้ลงสมัคร ทวนและเมินฉวยโอกาสนี้ช่วยหาเสียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมในตัวศรีแพร จนศรีไพรได้รับการเลือกให้เป็นผู้นำชุมชน จากนั้นศรีไพรก็เริ่มทำงานพัฒนาตำบลบ้านนาด้วยการเริ่มพัฒนาความคิดของชาวนาเสียใหม่ จนทุกคนรวมตัวกันเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อต้านอิทธิพลของเศรษฐีบุญช่วย
เศรษฐีบุญช่วยสั่งให้ชิงชัยเก็บศรีไพรเป็นการข่มขวัญชาวบ้าน ทวนเข้าช่วยชีวิตของศรีไพรไว้ ทำให้ศรีไพรเริ่มเห็นความดีในตัวทวน และทวนก็เริ่มมองเห็นความตั้งใจจริงและอุดมการณ์อันมุ่งมั่นของศรีไพร สาวห้าวที่ตนเองเคยชิงชังรังเกียจ
เช่นเดียวกับยายสดก็เริ่มเห็นความดีของทวนและเมินที่พยายามต่อสู้ร่วมกับชาวนามาเสมอ เศรษฐีบุญช่วยวางแผนเผาวัดเพื่อย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่ ตนเองจะได้ฮุบที่ดินมาสร้างศูนย์การค้าในบ้านนา เมินและทวนก็วิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยหลวงตาและมหาเฉื่อยไว้ได้ ทำให้ศรีไพรเริ่มใจอ่อนกับทวนบ้างแล้ว
แต่กระนั้นนายพรก็ยังไม่ชอบหน้าทวนและเมิน คอยขัดขวางทั้งสองอยู่เสมอ สไบโกรธแค้นที่ใครๆ ก็ไปรุมรักศรีแพร จึงดักทำร้ายโดยเอาน้ำกรดสาดหน้าศรีแพรให้เสียโฉม แต่เป็นวันฝนตก ทางลื่น สไบกลับลื่นล้มขณะกำลังจะสาดหน้าศรีแพร น้ำกรดราดรดตนเองจนแขนเป็นแผลเหวอะวะ เข้าทำนองให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวเอง
ชิงชัยเตรียมส่งอาวุธ พร้อมเริ่มผลิตยาบ้าในโรงงานที่ซ่อนไว้กลางป่าละเมาะของหมู่บ้าน ตำรวจเข้าทลาย จับของกลางได้ แต่จ่าสินและชิงชัยหนีไปได้ ทวนและเมินตามไปจับตัวทั้งสองได้
ในที่สุด ความจริงก็ปรากฏว่า ทวนคือ "ร้อยตำรวจเอกประทวน" แห่งกองตำรวจพิเศษ มาสืบคดีเรื่องยาเสพติด ส่วนเมินคือ "ร้อยเอกประเมิน" แห่งกองกำลังปราบปรามการก่อการร้ายสากล มาสืบจับอาวุธเถื่อนที่บ้านนา
นายสดเลิกรังเกียจเมินและทวน เมื่อเห็นว่าทั้งสองเป็นคนดี ไม่ได้ไปติดคุก แต่หลวงตาส่งไปเรียนและรับราชการรับใช้ชาติ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเกณฑ์ทหาร หลวงตารู้ดีแต่ไม่พูด แกล้งทำเป็นหูตึง ส่วนผีในป่าช้าก็ถูกจับได้ว่าเป็นคนของหน่วยข่าวกรองที่ปลอมตัวมาสืบคดีเช่นกัน
นายพรและนางสดยอมให้เมินแต่งงานกับศรีแพรได้ และทวนก็ขอความรักต่อศรีไพร เนี้ยวผิดหวัง หันไปแต่งงานกับสุมิตรซึ่งบัดนี้ตั้งร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆร้านขายของชำของเจ๊กตง ทำให้เจ๊กตงคั่งแค้นยิ่งนักที่คู่แข่งทางการค้าคนสำคัญ กลับกลายมาเป็นลูกเขยของตนเอง
ความสุขกลับคืนสู่บ้านนา พร้อมๆ กับความรักที่เบ่งบานขึ้นในหัวใจของคนหนุ่มสาว จากคู่กัดไม้เบื่อไม้เมาทวนและศรีไพร กลายมาเป็นคู่รัก และเมินได้ครองคู่กับศรีแพร
จบบริบูรณ์
.......................................................................................................
รายชื่อนักแสดง
ใครเป็นใครใน "เพลงรักบ้านนา"
01.วงศกรปรมัตถากร แสดงเป็นทวน
02.ฝนทิพย์วัชรตระกูล แสดงเป็นศรีไพร
03.ธนพลนิ่มทัยสุข แสดงเป็นเมิน
04.ภัทรธิดาพัชรวีระพงษ์ แสดงเป็นศรีแพร
05.ทศพร รถกิจ แสดงเป็น สุมิตร
06.นัทธินันท์ กุมชพร แสดงเป็นเนี้ยว
07.ไพโรจน์สังวริบุตร แสดงเป็นพร
08.ปภัสราเตชะไพบูลย์ แสดงเป็นสด
09.ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์ แสดงเป็นแสน
10.นนทพันธ์ ใจกันทา แสดงเป็นชิงชัย
11.อรวรรษาฐานวิเศษ แสดงเป็นสไบ
12.ศรศิลป์มณีวรรณ์ แสดงเป็นชาริณี
13.ประกาศิตโบสุวรรณ แสดงเป็นเศรษฐีบุญช่วย
14.เทพโพธิ์งาม แสดงเป็นหลวงตา
15.เด๋อดอกสะเดา แสดงเป็นมหาเฉื่อย
16.แอนนามกจ๊ก แสดงเป็นเจ๊กตง
17.ชูษีเชิญยิ้ม แสดงเป็นหมอก
18.เหลือเฟือมกจ๊ก แสดงเป็นทอก
19.ชาลี กรรณสูต แสดงเป็นจ่าสิน
20.ณรัฐพัฒนาพงศ์ชัย แสดงเป็นหลิม
21.จิณณะจอมขันเงิน แสดงเป็นเลิศ
22.ดนยา รัตนธาดา แสดงเป็นน.ส.แหว่ง
23. ทับท่ากระดาน แสดงเป็นผีขอทาน
อ่านต่อหน้า 2
ติดตามอ่านเรื่องราวละเอียด สมบูรณ์ ตอนต่อตอน ตรงตามบทโทรทัศน์เป๊ะ ทาง "ละครออนไลน์" เิ่ริ่ม อังคารที่ 25 ตุลาคม นี้
บุคลิกตัวละคร
ใน... "เพลงรักบ้านนา"
.............................................................................................
วงศกร ปรมัตถากร รับบท ทวน หรือ ร้อยตำรวจเอกประทวน
ชายอายุ 27 ปี รูปร่างหน้าหล่อเหลา อารมณ์ดี ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน ตัวจริงเป็นนายตำรวจในหน่วยปราบปรามพิเศษ ปลอมตัวเข้ามาในบ้านนาในคราบของ นักร้อง นักเลง เพื่อสืบคดี
ฝนทิพย์ วัชรตระกูล รับบท ศรีไพร
หญิงสาวอายุ 25 ปี หน้าตาสวยหวาน แต่นิสัยห้าว และ ดุ เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้นำชาวนาในหมู่บ้าน และด้วยความเป็นคนหวงพี่สาว จึงไม่ค่อยถูกกับพระเอกทั้งสอง
ธนพล นิ่มทัยสุข รับบท เมิน หรือ ร้อยเอกประเมิน
ชายอายุ 27 ปี เป็นหนุ่มเจ้าสำอาง อ่อนแอ แต่จริงจังและจริงใจ ตัวจริงเป็นนายทหารแห่งหน่วยข่าวกรองพิเศษ ปลอมตัวเข้ามาในบ้านนาในคราบศิษย์รักของหลวงตา เพื่อมาสืบคดีเช่นเดียวกับเมิน
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท ศรีแพร
หญิงสาวอายุ 26 ปี เป็นพี่สาวของศรีไพร มีดีกรีความสวยเป็นถึงนางงามระดับท้องถิ่น เป็นคนจิตใจดี มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และด้วยความที่เป็นคนอ่อนหวาน จึงกลายเป็นคนอ่อนแอในสายตาของศรีไพรผู้เป็นน้องสาว ซึ่งมีแต่ความห้าว ดุ
ทศพร รถกิจ รับบท สุมิตร
เป็นแขกขายผ้าในหมู่บ้านบ้านนา นอกจากนี้ยังคอยปล่อยเงินให้กู้ แล้วเก็บกินดอกรายวันมหาโหดตามหลักการ “เศรษฐกิจของผู้มีรายได้น้อย” สุมิตรหลงรักเนี้ยวแต่เนี้ยวไม่รักตอบ สุมมิตรจึงเริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นคู่แข่งของเจ๊กตง ทำให้เจ๊กตงยิ่งโกรธแค้น ไม่ยอมให้ลูกสาวมาคบหา
นัทธินันท์ กุมชพร รับบท เนี๊ยว
หญิงสาววัยรุ่นอายุ 18 ปี เป็นลูกสาวของเจ๊กตง เป็นคนซื่อตรง สวย ใส สไตล์วัยรุ่นน่ารัก
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท พร (พ่อศรีแพร-ศรีไพร)
ชายสูงวัยอายุ 60 ปี เป็นพ่อของศรีไพร กับศรีแพร เป็นคนตรง ดุ หวงลูกสาวมาก... แต่กลัวเมียมากเช่นเดียวกัน
ปภัสรา เตชะไพบูลย์ รับบท สด (แม่ศรีแพร-ศรีไพร)
หญิงอายุ 50-60 ปี เป็นแม่ของศรีแพร กับ ศรีไพร ชอบความยุติธรรม เป็นคนจิตใจดี มักจะมีเรื่องขัดแย้งกับสามีเป็นประจำ เพราะคอยเข้าข้างลูกสาวทั้งสองอยู่เสมอ
ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์ รับบท เด็กชายแสน
เด็กชายอายุ 12-15 ปี เป็นหลานชายของตาพร แสนเป็นคู่หูของศรีไพร นิสัยแก่นแก้วตามอย่างลูกพี่
นนทพันธ์ ใจกันทา รับบท ชิงชัย
ชายอายุ 27-30 ปี เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเศรษฐี บุญช่วย นิสัยเกเร ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน มีนิสัยประจำตัว ‘รักการทำผิด’ ทุกประเภท
อรวรรษา ฐานวิเศษ รับบท สไบ
หญิงสาวอายุ 25-35 ปี เป็นสาวสวย มั่น เซ็กซี่ เย่อหยิ่ง จองหอง ครบสูตรนางร้าย นอกจากนี้ยังเป็นเมียเก็บของเศรษฐีบุญช่วย ที่ได้รับการเลื่อนฐานะมาจาก...สาวใช้ในบ้าน
ศรศิลป์ มณีวรรณ์ รับบท ชาริณี
หญิงสาวอายุ 22 ปี ลูกสาวของเศรษฐีบุญช่วย เป็นน้องสาวของชิงชัย นิสัย เย่อหยิ่ง ยโส เข้ามาก่อกวนสร้างความวุ่นวายในบ้านนา เป็นคู่อริของสไบ เมียน้อยของเศรษฐีบุญช่วยผู้เป็นพ่อ
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบท เศรษฐีบุญช่วย
ชายอายุ 45-55 ปี เป็นนักธุรกิจประเภทผิดกฎหมายทั้งหลายทั้งปวง เป็นคนกร้าวร้าว และเห็นแก่ตัว เป็นผู้มีอิทธิพลประจำท้องถิ่น
เทพ โพธิ์งาม รับบท หลวงตาเจ้าอาวาสวัดบ้านนา
ชายอายุ 69 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านนา เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ ถึงแม้นจะหูตึงไปหน่อย และก็มักจะมีคำสอนที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาหลุดออกมาจากปากให้ชาวบ้านฟังอยู่เสมอ
เด๋อ ดอกสะเดา รับบท มหาเฉื่อย
ชายอายุ 60 ปี เป็นมัคทายกประจำวัดบ้านนา อาศัยเคยบวชเรียนมา จึงทำให้เป็นคนถือศีล กินเจ แต่ด้วยกรรมยังมี จึงต้องมาเป็นมัคทายก มหาเฉื่อยมีนิสัยเจ้าชู้ กรุ่มกริ่ม ตลก เฮฮา รื่นเริง เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
แอนนา ม๊กจ๊ก รับบท เจ๊กตง
ชายอายุ 60 ปี เป็นเจ้าของกิจการร้านชากาแฟในหมู่บ้าน แล้วเป็นคนที่ขี้งก ขี้หวง เข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว แต่ยังพูดไทยไม่ชัด ยังออกสำเนียงไหหลำตามบรรพบุรุษ
ชูศรี เชิญยิ้ม รับบท หมอก
ชายอายุ 40-45 ปี เป็นลูกศิษย์ของหลวงตา หมอกยังเป็นคู่หูคอยติดตาม 2 พระเอก ทวนและเมิน
เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก รับบท ทอก
ชายอายุ 40-45 ปี เป็นลูกศิษย์ของหลวงตา อีกคน ที่เป็นคู่หูคอยติดตาม 2 พระเอก เมินกับทวน
ชาลี กรรณสูต รับบท ลูกสมุนของบุญช่วย
ชายอายุ 35-45 ปี เป็นลูกสมุนของเศรษฐีบุญช่วย ทำความชั่วได้ทุกอย่าง ต้องมีสินร่วมด้วย
ณรฐ พัฒนาพงศ์ชัย รับบท หลิม (สมุนของชิงชัย)
ชายอายุ 35 ปี เป็นสมุนของชิงชัย โง่ ซื่อ เซ่อ ครบตามลักษณะสมุนที่ดี
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท เลิศ (สมุนของชิงชัย)
ชายอายุ 35 ปี เป็นสมุนอีกคนของชิงชัย ลักษณะโง่ ซื่อ เซ่อ เช่นกัน
จุ๊กกะดุ๋ย รับบท นางสาวแหวง คนติดตามสไบ
หญิงอายุ 30-40 ปี สาวใช้จอมประจบ สอพลอ ตลก คอยติดตามสไบ นิสัยขี้ประจบประแจง มีเอกลักษณ์จากรูปร่างที่อวบอ้วน ใหญ่โต แต่พูดไม่ชัด
ติดตามชมละคร "เพลงรักบ้านนา" ออกอากาศทางช่อง 7 สี ต่อจาก "เสือสั่งฟ้า" เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
และติดตามอ่านเรื่องราวละเอียด สมบูรณ์ ตอนต่อตอน ตรงตามบทโทรทัศน์เป๊ะ ทาง "ละครออนไลน์" เิ่ริ่ม อังคารที่ 25 ตุลาคม นี้