xs
xsm
sm
md
lg

เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8

ที่โรงพยาบาล...
 

ฟ้าลดาฟื้นขึ้นมาอย่างงงๆ ชมพูแพรยื่นหน้าเข้ามามองด้วยความดีใจ
“ฟ้า...”
ฟ้าลดาหันมามองชมพูแพรนิ่ง
“ฟ้าจำพี่ได้มั๊ย”
ฟ้าลดาไม่ตอบ หันไปมองเพดานห้อง ชมพูแพรหน้าเสีย ขณะเดียวกันนั้น หมอวัฒนาเดินเข้ามาในห้อง เห็นฟ้าลดาฟื้นก็ดีใจ
“น้องฟ้า...ฟื้นแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ฟื้นแล้ว แต่ท่าทางคงยังจำอะไรไม่ได้ แพรถามว่าจำแพรได้มั๊ย ก็ไม่ตอบค่ะ”
“คงต้องให้เวลาแกซักพักล่ะครับ แพรใจเย็นๆนะ”
ฟ้าลดากรู้สึกอึดอัด กับเชือกที่มัดอยู่ตรงข้อมือ ชมพูแพรเห็น
“หมอคะ แก้เชือกนี่ออกดีกว่าค่ะ แพรคิดว่าน้องคงอึดอัด”
หมอวัฒนาเข้ามาใกล้ๆ
“น้องฟ้าอย่าอาละวาดอีกนะครับ จะได้ไม่ต้องถูกจับมัดอีก”
ฟ้าลดามองหน้าเขานิ่งๆ หมอวัฒนาแก้เชือกออกให้ ฟ้าลดาไม่อาละวาดกลับนอนเฉย ชมพูแพรมองแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
 

ชมพูแพรรื้อหาของตามชั้น ป้าเนียมเดินเข้ามาเห็นก็แปลกใจ
“คุณแพรทำอะไรคะ”
ชมพูแพรหันมา
“แพรกำลังหารูปเก่าๆค่ะ ว่าจะเอาไปให้ยัยฟ้าดู เผื่อยัยฟ้าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”
“ป้าช่วยหานะคะ”
ชมพูแพรกับป้าเนียมช่วยกันหารูป
 
+ + + + + + + + + + + +

วันต่อมา...

ฟ้าลดานั่งอยู่บนเตียง ชมพูแพรเอารูปตอนเด็กๆให้ดู
“รูปนี้เป็นรูปที่น้องเข้าโรงเรียนวันแรก น้องร้องไห้ไม่ยอมไปจนคุณพ่อคุณแม่ต้องไปนั่งเรียนด้วยในห้อง”
ชมพูแพรหยิบอีกรูปมา
“ส่วนรูปนี้น้องประกวดนางนพมาศได้ที่หนึ่ง”
ฟ้าลดาตั้งใจดู ชมพูแพรหยิบรูปมาให้ดูอีก
“รูปนี้ตอนที่ไปเรียนไฮสกูลที่อเมริกา แล้วก็แต่งตัวเป็นผีในคืนวันฮาโลวีน”
ฟ้าลดาตั้งใจดูมากขึ้น
“พอจะจำอะไรได้บ้างมั๊ย”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆดูไป” ชมพูแพรนึกได้ “เออ...พี่มีอะไรให้ดูด้วย”
ชมพูแพรเอาไอแพดขึ้นมาแล้วกดเปิด...ฟ้าลดาหันไปมอง ภาพในจอ เป็นงานวันเกิดฟ้าลดา พ่อ แม่ ชมพูแพร หมอวัฒนา ป้าเนียม แหวน กำลังร้องเพลงวันเกิดให้เธออยู่
“งานวันเกิดอายุครบ 18 ปีของน้อง ที่เพิ่งจัดไปเมื่อต้นปี”
ฟ้าลดาเห็นตัวเองเป่าเทียน พ่อ แม่ ชมพูแพร เข้ามาหอมแก้ม ชมพูแพร หมอวัฒนา ป้าเนียม เอาของขวัญให้

ชมพูแพรหันไปมอง รู้สึกดีที่น้องสาวสนใจภาพที่เธอเปิดอยู่ เธอชี้ที่หน้าจอ
“นี่ป้าเนียม...ป้าเนียมเลี้ยงพี่กับฟ้ามาตั้งแต่เกิด นี่พี่หมอ กับพี่ไงจ๊ะ”
ฟ้าลดาพยายามนึกตามไปด้วย ภาพในไอแพด เป็นภาพ ภมร ลัดดา ชมพูแพร หมอวัฒนา พาฟ้าลดามาที่รถมินิป้ายแดงผูกโบว์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ชมพูแพรบรรยายให้น้องฟัง
“รถคันนี้เป็นของขวัญของ คุณพ่อ คุณแม่ที่ให้ฟ้า”
ฟ้าลดามองภาพในจอนิ่ง แต่แล้วอยู่ดีๆก็เกิดภาพบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวสมองของเธอ...เป็นภาพที่ตัวเธอ ตื่นตาตื่นใจ กับรถมินิ หันไปกอดภมร กับลัดดาดีใจสุดๆ รับกุญแจมาจากภมรแล้วขึ้นไปนั่ง ครู่หนึ่งฟ้าลดาลงจากรถ จับมือชมพูแพรให้ขึ้นไปนั่งด้วยกัน แล้วฟ้าลดาก็ขับรถออกไป สองพี่น้องโบกมือให้พ่อกับแม่
ฟ้าลดาปวดหัว ยกมือขึ้นมาจับหัวตัวเอง
“โอ๊ย!”
ชมพูแพรตกใจ หันไปมองฟ้าลดา
“ยัยฟ้า...”
ฟ้าลดาค่อยๆหันมา มองชมพูแพร แววตาสั่นระริก
“พี่แพร...”
ชมพูแพรอึ้ง
“ยัยฟ้า...น้องจำพี่ได้แล้วเหรอ”
ฟ้าลดาพยักหน้า ชมพูแพรน้ำตาไหล...ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ดึงน้องสาวมากอดแน่น ฟ้าลดากอดพี่สาวตอบด้วยความดีใจ

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่...
 

รถชมพูแพรแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ป้าเนียมกับแหวนออกมายืนรอรับด้วยความตื่นเต้น ชมพูแพรกับฟ้าลดาลงจากรถ ทันทีที่ป้าเนียมกับแหวนเห็น ฟ้าลดาก็ดีใจรีบเข้าไปหาทันที
“คุณฟ้า”
ป้าเนียมเข้าสวมกอด ฟ้าลดางงๆสักครู่ป้าเนียมก็ผละออกมามองฟ้าลดายิ้มทั้งน้ำตา
“ทูนหัวของป้า”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรงงๆ ชมพูแพรยิ้ม
“นี่ป้าเนียมไงจ๊ะฟ้า ฟ้าจำได้มั๊ย”
ฟ้าลดานึกๆ
“อ๋อ...ป้าเนียม ที่พี่แพรบอกว่าเลี้ยงพี่กับฟ้ามาตั้งแต่เกิด”
“ใช่จ๊ะ”
ฟ้าลดาหันไปมองหน้าป้าเนียม พยายามนึก
“ฟ้ายังจำป้าไม่ได้หรอก่คะ แต่ฟ้าจะพยายามจำให้ได้เร็วที่สุด”
ป้าเนียมยิ้มสบายใจ
“คุณฟ้าจำป้าตอนนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ไว้ป้าจะค่อยๆเล่าเรื่องสมัยเด็กๆให้คุณฟ้าฟัง”
ฟ้าลดาพยักหน้ารับ แล้วก็หันไปทางแหวน
“แล้วคนนี้...”

ฟ้าลดาพยายามนึก แหวนรีบเสนอหน้า
“แหวนค่ะคุณฟ้า คุณฟ้าชอบมาปลุกแหวนตอนดึกๆ ให้ทำบะหมี่ให้กินเป็นประจำเลยไงคะ จำได้มั๊ยเอ่ย”
ฟ้าลดาส่ายหน้า
“ว้า...ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นคืนนี้แหวนจะทำบะหมี่ให้คุณฟ้ากิน เผื่อรสชาติอร่อยๆของบะหมี่ที่แหวนทำจะทำให้คุณฟ้าจำแหวนได้”
ฟ้าลดายิ้ม...แล้วก็หันไปมองรอบๆบ้านพยายามจะนึก ก่อนจะเหลือบไปเห็นบ้านหลังเล็กในสวน ฟ้าลดารู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก...หันไปทางชมพูแพร
“นั่นบ้านใครคะ”
“บ้านหลังเก่าของคุณพ่อคุณแม่จ๊ะ”
“ฟ้าขอไปดูได้มั๊ยคะ”
ฟ้าลดาหันไปมองบ้านหลังเล็กอีกครั้ง แววตาเป็นประกาย ด้วยความรู้สึกอยากจะเข้าไปมาก

+ + + + + + + + + + + +

ป้าเนียมไขกุญแจเปิดประตูบ้าน ฝุ่นคลุ้งออกมา ชมพูแพรเอามือปิดจมูก...
“ฟ้า...พี่ว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเลย สกปรกจะตาย”
“ขอฟ้าดูแป๊บเดียวนะคะ”
ฟ้าลดาไม่รอคำตอบ รีบเข้าไปในบ้าน ป้าเนียมเข้ามาเปิดหน้าต่าง แสงจากข้างนอกเข้ามาทำให้ฟ้าลดาเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น เธอมองไปรอบๆบ้าน ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกอบอุ่น และ ปลอดภัย ก่อนจะเห็นรูปพ่อกับแม่ที่ถ่ายกับตัวเองและชมพูแพรสมัยเด็กวางอยู่บนชั้น ฟ้าลดาหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ยิ้มดีใจที่จำได้
“คุณพ่อ...คุณแม่...”
ชมพูแพรชะงัก หันไปมองหน้าป้าเนียมแล้วก็เดินเข้ามาหาฟ้าลดา
“ฟ้าจำคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว แล้วก็ยังจำได้อีกด้วยว่าตอนฟ้าเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ชอบพาฟ้ามาเล่นที่นี่ใช่มั๊ยคะ”
ชมพูแพรยิ้ม
“ใช่จ๊ะ “
ฟ้าลดาดีใจมาก
“แล้วคุณพ่อคุณแม่อยู่ไหนคะพี่แพร”
ชมพูแพรกับป้าเนียมชะงัก หันมามองหน้ากัน ชมพูแพรเดินมาตรงหน้าน้องสาว กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก
“คุณพ่อคุณแม่...เสียชีวิตแล้วจ๊ะ”
ฟ้าลดาแทบช็อค...น้ำตารื้นขึ้นมาทันที ก้มมองรูปพ่อกับแม่อีกครั้ง ชมพูแพรเข้ามากอดน้องสาวปลอบใจ

เมื่อกลับไปที่บ้านใหญ่...
 

ฟ้าลดาวางรูปภมรกับลัดดาวางอยู่บนชั้น ฟ้าลดายื่นมือไปจับรูปพ่อกับแม่หน้าเศร้า แล้วก็หันมาทางชมพูแพร
“พี่แพรคะ ฟ้าอยากอยู่บ้านหลังเล็กค่ะ”
“แต่บ้านหลังนั้นทั้งเก่าทั้งโทรมนะฟ้า”
“ให้ฟ้าอยู่ที่นั่นเถอะนะคะ” ฟ้าลดาหันไปมองรูปพ่อกับแม่อีกครั้ง “ฟ้าไม่มีโอกาสได้ร่ำลาพ่อกับแม่ ฟ้าอยากจำเรื่องราวที่เกี่ยวกับพ่อแม่ให้ได้มากที่สุด ฟ้ามั่นใจว่าการที่ฟ้าอยู่บ้านหลังนั้นจะทำให้ฟ้าจำทุกอย่างได้เร็วขึ้นค่ะ”
ฟ้าลดาหันมามองชมพูแพรอีกครั้งด้วยแววตาที่เว้าวอน ชมพูแพรมองน้องสาวด้วยความอ่อนใจ

+ + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
 

สายชลเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพาย แล้วก็หยิบสร้อยของฟ้าลดาขึ้นมาจูบ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า หันไปเห็นกีตาร์อูคูเลเล่แขวนอยู่ก็หยิบออกมาเล่น คิดถึงตอนที่สอนฟ้าลดาเล่นกีตาร์ แล้วก็ยิ้มออกมา พลันเสียงมามิดังขึ้น
“สายชล”
สายชลหันไปมอง
“เห็นไอ้ลอยบอกว่าเธอจะไปตามหานางฟ้า”
“อื้อ”
“เธอคิดว่าจะเจอนางฟ้าเหรอ”
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอนางฟ้ารึเปล่า แต่ฉันต้องไป”
“ถ้าเธอเจอนางฟ้า แล้วเธอคิดว่านางฟ้า จะกลับมากับเธออีกเหรอ”
“ฉันก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ...ว่านางฟ้าจะกลับมาหาฉันรึเปล่า แต่ฉันทำใจให้มีใคร มาแทนที่นางฟ้าไม่ได้จริงๆ ฉันขอบใจเธอมากนะมามิ...ที่ช่วงหลายวันมานี้ เธอคอยดูแลฉัน แต่ฉันรักนางฟ้ามาก จนไม่อาจรักใครได้อีก”
มามิพยักหน้าอย่างเข้าใจ เดินมาตรงหน้าสายชล
“ฉันจะเอาใจช่วย ให้เธอเจอนางฟ้านะสายชล”
สายชลยิ้มให้ แล้วก็หันมาจัดของต่อ มามิมองเศร้าๆ

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันต่อมา...

ปีร์กะ ซะละ และทุกคนมาส่งสายชลกับแตลอยที่ท่าเรือ
“โชคดีนะ” อารีฟะบอก
สายชลพยักหน้า ปีร์กะเอาเครื่องรางให้สายชลกับแตลอย
“เก็บไว้ มันจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันภัยให้กับเอ็งสองคน”
แตลอยกับสายชลรับเครื่องรางมาจากปีร์กะ แตลอยหันไปทางสวยที่น้ำตาคลอ
“ไปดีมาดีนะพี่ลอย”
“จ๊ะ”
แตลอยกับสวย มองกันเศร้าๆ นาราหันไปทางสายชล
“เดินทางปลอดภัยนะสายชล”
“จ๊ะ”
แสงดาว เดินมายื่นเงินให้สายชล
“เงิน...เอ็งต้องใช้ รับไปซะ”
สายชลรับมายกมือไหว้
“ขอบคุณป้าแสงดาวมากนะจ๊ะ”
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว”
สายชลหันมาทางมามิ
“ขอให้เจอนางฟ้านะสายชล” มามิให้กำลังใจ
สายชลพยักหน้า แล้วเดินไปขึ้นเรือ เมื่อขึ้นเรือแตลอยโบกมือลาสวย สายชลหันไปมองทุกคน สักครู่แตลอยก็ขับเรือออกไป สายชลหันไปมองด้านหน้าแววตามุ่งมั่น





 
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8 (ต่อ)

ป้าเนียมกับแหวน ยกอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะหน้าบ้านหลังเล็กซึ่งถูกทำสะอาดจนเรียบร้อยสวยงาม ฟ้าลดาออกมาดูอาหารอย่างดีใจ
“โจ๊กหมู...แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย”
“ปากหวานแบบนี้ ป้าเนียมเขาถึงได้หลงเรานัก” ชมพูแพรแหย่
“ฟ้าไม่ได้ปากหวานนะคะ ฟ้าพูดจริง โจ๊กป้าเนียมอร่อยจนแม่ช้อยเลิกรำไปเลยล่ะค่ะ”
ป้าเนียมหัวเราะชอบใจ
“แล้วน้ำส้มของแหวนล่ะคะคุณฟ้า”
ฟ้าลดาเอาน้ำส้มขึ้นมาดื่ม
“น้ำส้มของแหวนก็อร่อยจนเชลยังไม่กล้าชิม”
ทุกคนหัวเราะ แหวนหน้างอ
“แหม คุณฟ้าอ่ะ”
ฟ้าลดายิ้มขำๆ
“ฟ้าล้อเล่น น้ำส้มของแหวนต้องอร่อยที่สุดในโลกอยู่แล้ว”
“เชิญคุณแพรกับคุณฟ้าทานกันตามสบายนะคะ ป้ากับนังแหวนขอตัวไปทำงานต่อก่อน”
“ค่ะ”

ป้าเนียมกับแหวนออกไป ชมพูแพรมองฟ้าลดาแล้วก็ยิ้ม จนฟ้าลดาแปลกใจ
“พี่แพรยิ้มทำไมคะ หรือเช้านี้ฟ้าหน้าตาตลก”
“ไม่ใช่” ชมพูแพรจับมือฟ้าลดา “พี่ดีใจที่น้องสาวของพี่กลับมาสดใสร่าเริงเหมือนก่อนแล้วน่ะซิ”
ฟ้าลดายิ้มกว้าง แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เออพี่แพรคะ ฟ้าได้คุยกับป้าเนียม ป้าเนียมบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เสียไปหลายเดือนแล้ว แต่ฟ้าจำได้ว่าฟ้าอยู่โรงพยาบาลไม่นาน แล้วช่วงก่อนหน้านั้นฟ้าไปอยู่ไหนมาเหรอคะ”
ชมพูแพรแทบสำลัก เงยหน้ามองฟ้าลดาพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วโกหก
“ก็อยู่โรงพยาบาลนี่แหละ แต่เป็นโรงพยาบาลที่กระบี่ ตอนนั้นร่างกายฟ้ายังไม่แข็งแรง พี่หมอยังไม่อยากให้ฟ้าเดินทางไกลน่ะจ๊ะ”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ฟ้ามีอะไรสงสัยอยากถามอีกมั๊ย”
ฟ้าลดายิ้ม
“ไม่มีแล้วค่ะ”
ชมพูแพจับมือฟ้าลดา
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วนะฟ้า เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องพยายามไปนึกถึงมัน ตอนนี้ฟ้ากำลังจะมีชีวิตใหม่ พี่สัญญาพี่จะเป็นคนทำให้ชีวิตของฟ้าดีกว่าเดิม”
“ค่ะ”
ฟ้าลดาก้มหน้ากินข้าวไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ชมพูแพรมองฟ้าลดาอย่างไม่สบายใจ
+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรเข้ามาหาป้าเนียมในครัว ขณะที่ป้าเนียมกับแหวน กำลังทำความสะอาดห้องครัวอยู่
“ป้าเนียมจ๊ะ”
ป้าเนียมกับแหวนหันไป ชมพูแพรขยับมาใกล้
“ฉันมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับป้า”
แหวนยังนิ่ง ชมพูแพรเหล่ แหวนรู้ตัว
“เออ...แหวนไปทำความสะอาดห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ”
แหวนออกไป แต่จริงๆรีบหลบมุมแอบฟัง
“คุณแพรมีอะไรคะ”ป้าเนียมถาม
“แพรอยากให้ป้า ช่วยปกปิดเรื่องที่ยัยฟ้าเคยไปอยู่เกาะมิน”
แหวนพยายามเงี่ยหูฟัง แล้วพึมพำเบาๆ
“ทำไมพูดกันเสียงเบาแบบนี้วะ”
ทางด้านป้าเนียมแปลกใจ กำลังจะอ้าปากถาม ชมพูแพรรีบบอก
“แพรอยากให้น้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความทรงจำที่เกาะมินมีแต่จะทำให้ชีวิตยัยฟ้าตกต่ำ”
แหวนได้ยินแบบไม่ได้ศัพท์ พึมพำเบาๆ
“เกาะมิน...คืออะไร”
ชมพูแพรจับมือป้าเนียม
“ป้ารับปากกับแพรนะคะ”
“ค่ะ อะไรที่ช่วยให้คุณฟ้าดีขึ้นได้ ป้ายินดีและเต็มใจค่ะ”
ชมพูแพรพยักหน้าแล้วก็ยิ้ม แต่แววตายังกังวลใจบางเรื่อง
 
+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรมาหาหมอวัฒนาที่โรงพยาบาล ถามเรื่องของฟ้าลดาอย่างเครียดๆ
“แพรอยากรู้ว่ายัยฟ้า จะจำเรื่องอดีตของแกได้มั๊ย แพรกลัวถ้าแกเกิดจำเรื่องบนเกาะนั้นได้ แกจะกลับไปแย่กว่าเก่า”
หมอวัฒนาส่ายหน้า...
“เรื่องนี้ผมบอกไม่ได้ครับ ศาสตร์ทางด้านจิตใจ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราวิเคราะห์ตายตัวไม่ได้ แพรลองดูซิครับจากตอนแรกที่แกจำพวกเราไม่ได้ แล้วพอเราทำการรักษา แกก็จำพวกเราได้ แต่กลับลืมเรื่องช่วงที่แกหายตัวไป ในอนาคต...บางทีน้องฟ้าก็อาจจะจำเรื่องทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นได้ก็ได้”
ชมพูแพรเครียดหนักมากขึ้น
“ถ้าเกิดยัยฟ้ามาถามอะไรพี่หมอ พี่หมอต้องตอบแบบที่แพรบอกน้องนะคะ ยัยฟ้าจะได้ไม่พยายามนึกถึงเรื่องนั้นอีก”
“ตกลงครับ...ผมว่าแพรอย่าเพิ่งกังวลอะไรไปล่วงหน้าเลยนะ อืมม์...เอางี้มั๊ยให้น้องฟ้าไปเรียนอะไรซักอย่างที่แกชอบ ทำให้สมองแกไม่ว่าง แกจะได้ไม่มีเวลาหาเหตุผลในเรื่องที่จำไม่ได้ แล้วเดี๋ยวน้องฟ้าก็จะลืมไปเอง”
“แพรก็กำลังคิดอยากส่งแก กลับไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่เหมือนกันค่ะ ให้แกไปอยู่รัฐที่เคยอยู่ จะได้เจอเพื่อนเก่าๆ มีสังคม ได้เจอผู้คน และที่สำคัญแพรกลัวว่า วันนึงไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น มันจะมาตามหายัยฟ้า แล้วถ้ามันรู้ว่ายัยฟ้าฐานะดี มันต้องคิดแบลคเมล์ยัยฟ้าแน่ๆ”
“ผมเห็นด้วยกับแพรทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นก่อนส่งน้องฟ้าไป ผมขอตรวจน้องฟ้าให้ละเอียดอีกครั้งนะครับ จะได้แน่ใจว่าแกไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”
ชมพูแพรพยักหน้าสบายใจขึ้น

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
 

สายชลกับแตลอย มาถึงท่าเรือบนฝั่ง
“เราจะไปตามหายาซะที่ไหน” แตลอยสงสัย
“คงต้องเริ่มหาจากแถวๆนี้ก่อน”
ทั้งสองมองไปรอบๆหายาซะ แต่ไม่เห็น แตลอยเห็นร้านข้าวริมทาง เกิดอาการหิวขึ้นมาทันที
“สายชล...หาไรกินก่อนมั๊ย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง”
สายชลพยักหน้ารับ แล้วเข้าร้านไปด้วยกัน สองคนเดินไปสั่งข้าวแล้วนั่งรอ สักครู่คนขายเอาข้าวราดแกงมาวางตรงหน้า แตลอยยิ้มร่ามีความสุข สายชลก็เห็นหมึกกับฉลามเข้ามาในร้าน จึงกระซิบบอกแตลอยเบาๆ
“ไอ้หมึก! ไอ้ฉลาม!”
แตลอยที่กำลังจะเอาข้าวเข้าปาก หันไปมองตามสายชลแล้วก็ผงะ สายชลลุกขึ้นเดินไปกระชากไหล่หมึกให้หันมา หมึกกับฉลามเห็นสายชลก็ตกใจ
“ไอ้สายชล!” หมึกอุทานออกมาอย่างตกใจ
“แกยังไม่ตายเหรอวะ” ฉลามถามหน้าตื่น
สายชลกระชากคอเสื้อหมึกแววตาโกรธแค้น
“ไอ้ยาซะอยู่ไหน”
ยังไม่ทันที่หมึกจะตอบ ฉลามจับไหล่สายชล ให้หันมาแล้วต่อยเปรี้ยง!
คนในร้านร้องลั่น สายชลถลาไปชนโต๊ะตัวเอง ทำให้โต๊ะล้ม ข้าวหกเต็มพื้น แตลอยเหวอ มองข้าวด้วยความเสียดาย สายชลโมโหหันไปเปิดศึกกับหมึกและฉลาม สองคนสู้สายชลไม่ได้ พอได้จังหวะ หมึกก็รีบฉุดฉลามวิ่งหนี
“ไอ้ลอย...รีบตามพวกมันไป”
สายชลกับแตลอย วิ่งตามหมึกกับฉลามออกไปทันที หมึกกับฉลามวิ่งหนีสายชลกับแตลอยมาตามทาง หมึกรีบหันไปสั่งเพื่อน
“แยกกันตรงนี้ แกรีบไปบอกลูกพี่”
สองคนวิ่งแยกไปคนละทาง สายชลเห็นพวกมันแยกกันหนีจึงหันไปบอกแตลอย
“ไอ้ลอย ตามไอ้ฉลามไป ฉันจะตามไอ้หมึกเอง”
แตลอยพยักแล้วก็วิ่งตามฉลามไปติดๆ สายชลรีบไล่ตามหมึกไปอีกทาง

+ + + + + + + + + + + +

ยาซะเดินหัวเสียออกมาจากในบ่อน
“หมดตัวเลยกู วันนี้มันเป็นวันอะไรวะ ซวยจริงๆ”
ทันใดนั้นฉลามวิ่งหน้าตาตื่นมาหาหยุดหอบ
“ลูกพี่...ลูกพี่...”
ยาซะงง
“มีอะไรก็รีบพูดมาซิวะ”
ฉลามเหนื่อยจนพูดไม่ออก หันไปเห็นแตลอยวิ่งมาพอดี ยาซะหันไปมองแตลอยก็ตกใจ แตลอยเบรกเอี๊ยด เห็นยาซะก็กลัว
“ไอ้สายชลมันมาตามหาพี่ ท่าทางมันเหมือนหมาบ้าไม่มีผิด”
ยาซะชะงัก หันไปมองแตลอยที่กลืนน้ำลายเอื๊อก ทำอะไรไม่ถูก
ทางด้านสายชลไล่ตามคว้าตัวหมึกได้ทัน จับหมึกอัดเข้ากำแพงอย่างแรง
“บอกฉันมาว่าไอ้ยาซะอยู่ไหน”
หมึกหน้าตาตื่น ยังไม่ทันตอบ เสียงยาซะก็ดังขึ้น
“ไอ้สายชล”
สายชลหันไป ฉลามผลักแตลอยที่ถูกอัดมากองกับพื้นข้างๆ สายชลตกใจ หมึกใช้โอกาสนี้ผลักสายชลแล้วรีบไปยืนข้างยาซะ สายชลประคองแตลอยให้ลุกขึ้นยืน
“ไอ้ลอย”
แตลอยหันมาหน้าบูดเบี้ยว
“ฉัน...ไม่เป็น...ไร”

สายชลกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น หันไปมองยาซะตากร้าว
“แกนี่มันตายยากจริงๆ” ยาซะคำราม
“ถ้าแกยังไม่ตาย ฉันก็ไม่มีวันตาย แกเอานางฟ้าไปไว้ที่ไหน”
“นางฟ้าไปแล้ว...ชาตินี้แกไม่มีวันได้เจอผู้หญิงคนนี้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจเว้ยยยยย” ยาซะหัวเราะร่า
สายชลโกรธสุดๆ พุ่งเข้าหายาซะ แต่เจอหมึกกับฉลามขวาง สายชลตั๊นหน้าหมึกกับฉลามจนพวกมันกระเด็นไปคนละทาง นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
ยาซะตกใจ หันไปมองลูกน้องเลยไม่ทันตั้งตัว สายชลพุ่งเข้ามาต่อยหน้าอย่างแรง ยาซะหน้าหันเลือดพุ่ง ออกจากปาก หันไปมองสายชลด้วยความโมโห ยาซะจะต่อย สายชลหลบแล้วซัดไม่ยั้ง ด้วยความโกรธแค้นเต็มที่ จนยาซะหน้าแหก หมดแรงกองกับพื้น สายชลกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นมาตะโกนใส่หน้า
“บอกฉันมาว่านางฟ้าอยู่ไหน”
ยาซะส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้”

สายชลจับคอเสื้อแน่นแล้วเขย่า
“นางฟ้าอยู่ไหน...บอกมาซิเว๊ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้”
สายชลโกรธมากจนขาดสติ หยิบมีดสั้นออกมา จ่อไปที่คอหอย ยาซะหน้าตื่น แตลอยเห็นตกใจ
“จะบอกหรือไม่บอก”
ยาซะตัวสั่นด้วยความกลัว สายชลกดปลายมีด ลงไปที่คอหอยจนเลือดซิบออกมา
“ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันไม่รู้” ยาซะเสียงสั่นหวาดกลัวสุดๆ
สายชลตะคอกใส่หน้า
“โกหก!”
“ฉันไม่ได้โกหก ต่อให้แกฆ่าฉันตาย ฉันก็ไม่รู้ว่านางฟ้าไปไหน ฉันรู้แค่ว่าเขากลับไปกับพี่สาวเขา”
สายชลชะงัก ยาซะเห็นจังหวะหนี เลยปัดมือสายชล มีดกระเด็นหล่นพื้น ยาซะรีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว สายชลจะวิ่งตาม แตลอยรีบเข้ามาจับตัวสายชลเอาไว้
“พอแล้วสายชล พอแล้ว”
สายชลนิ่งด้วยความรู้สึก ความหวังพังทลายตรงหน้า
+ + + + + + + + + + + +

สายชลจ้ำเดินไปตามทางแววตามุ่งมั่น แตลอยตามมาติดๆ
“สายชล...แกจะไปไหน”
สายชลเดินไป พูดไป
“ฉันจะไปหานางฟ้า”
“แกจะไปหาเค้าที่ไหน”
“ไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่าฉันต้องตามหานางฟ้าให้เจอ”
“โลกตั้งกว้าง แกจะเจอนางฟ้าได้ยังไง เขากลับไปกับครอบครัวเขาแล้ว ทำใจเถอะ”
สายชลหยุดกึก หันขวับมา
“ฉันคือครอบครัวเดียวของนางฟ้า ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอานางฟ้าไปจากฉัน”
“พอเหอะสายชล”
“แกไม่ใช่ฉัน แกไม่เข้าใจหรอก นางฟ้ามีความหมายกับชีวิตฉันมาก นางฟ้าคือชีวิตของฉัน เขาเป็นครอบครัวของฉัน”
แตลอยจะห้าม สายชลรีบขัด
“แกกลับไปเถอะ ฉันจะตามหานางฟ้าด้วยตัวของฉันเอง”
“ไม่...ฉันไม่กลับ ถ้าแกจะให้ฉันกลับ แกต้องกลับไปกับฉัน” แตลอยเข้ามาจับไหล่สายชล “กลับบ้านนะสายชล”
สายชลปัดมือแตลอยออกมา
“ทำไมแกถึงพูดไม่รู้เรื่องอย่างนี้ห๊ะ”
แตลอยฉุน
“แกต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง เลิกหวังลมๆแล้งๆซักที นางฟ้าไม่มีวันกลับมาหาแกแล้ว”
สายชลโมโหผลักแตลอยอย่างแรง แตลอยโมโหผลักสายชลกลับ สายชลผลักแตลอย แตลอยผลักสายชลจนล้มไปบนพื้น
สายชลฟิวส์ขาด ลุกขึ้นต่อยแตลอยเปรี้ยง! แล้วก็ชะงัก มองมือตัวเองด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ตั้งใจ แตลอยอึ้ง

“ฉัน....ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แกกลับไปเถอะไอ้ลอย นี่มันเป็นเรื่องของฉัน”
สายชลหันหลังจะเดินไป แตลอยมองตามสายชลแล้วก็นึกอะไรออก ลุกขึ้นเดินมาทุบไปที่ท้ายทอยทำให้ เขาล้มหมดสติไปบนพื้น
“มันไม่ใช่เรื่องของแกคนเดียวสายชล แต่มันเป็นเรื่องของฉันด้วย”
แตลอยยืนมองสายชลรู้สึกผิด ที่ต้องทำร้ายเพื่อน

ยังไม่จบตอน

(อ่านต่อวันพรุ่งนี้)






เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8(ต่อ)

เช้าวันถัดมา...
 

แตลอยขับเรือแล่นอยู่กลางทะเล สายชลยังนอนหมดสติ สักครู่ก็ลืมตาขึ้นมา รู้สึกปวดต้นคอลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็ตกใจที่เห็นตัวเองอยู่ในเรือ สายชลรีบเดินออกไป มองรอบๆมีแต่ท้องทะเลมองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง แตลอยกำลังขับเรือ สายชลเข้ามากระชากไหล่ให้หันมา แตลอยตกใจ รีบยกมือขึ้นป้องกันตัวนึกว่าสายชลจะต่อย
“พาฉันกลับเข้าฝั่ง”
แตลอยค่อยๆเอามือลง
“แกไม่ต่อยฉันเหรอ”
“ถ้าแกไม่พาฉันกลับเข้าฝั่ง ฉันต่อยแกแน่”
แตลอยตกใจ แล้วก็ยืดตัวขึ้น
“ถ้างั้นก็ต่อยฉันเลย”
สายชลชะงัก
“ต่อยฉันให้ตายนะเว๊ย เพราะถ้าฉันไม่ตาย แกไม่มีทางได้กลับเข้าฝั่งหรอก” แตลอยแอ่นอกทั้งๆที่กลัว “เอาเลย...ต่อยมา”
แตลอยหลับตาหวาดเสียว สายชลถอนใจ
“ไอ้ลอย...ทำไมแกไม่เข้าใจฉันบ้าง”
“แกต่างหากที่ไม่พยายามเข้าใจ และไม่ยอมรับความจริง” แตลอยจับบ่าสายชล “นางฟ้าไปแล้ว เรื่องของแกกับนางฟ้า...มันจบแล้ว”
สายชลมองแตลอยนิ่งไปชั่วอึดใจ หันหลังให้กำมือแน่น แล้วตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาไหลพร่างพรู แตลอยมองสายชลด้วยความสงสาร

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรมองกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็ก ที่วางอยู่กลางห้องอย่างแปลกใจ
“เราเอาไปแค่นี้เหรอ”
ชมพูแพรเงยหน้ามองฟ้าลดาที่ยืนยิ้ม
“ค่ะ ฟ้าขี้เกียจแบก ไปหาซื้อที่โน่นก็ได้ ง่ายนิดเดียว”
“ยัยฟ้านะยัยฟ้า ชอบทำให้พี่เป็นห่วงอยู่เรื่อย พี่ล่ะไม่ไว้ใจเราจริงๆ อีกไม่กี่วันก็จะเดินทางแล้ว เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วแน่นะ”
“แน่ค่ะ”
ชมพูแพรคิดๆแล้วถาม
“ยา”
ฟ้าลดาหยิบขึ้นมา
“นี่ค่ะ”
“ของใช้ส่วนตัว”
ฟ้าลดาหยิบถุงผ้าขึ้นมา
“อยู่ในนี้ทุกอย่างแล้วค่ะ”
“พาสปอร์ต”
ฟ้าลดาหยิบขึ้นมา
“อือฮึ”
“แล้วมีอะไรอีกรึเปล่าน้าาาา”
ชมพูแพรทำท่านึก ฟ้าลดาเข้ามาจับมือ
“พี่แพร...นี่พี่แพรเครียดไปป่ะคะ”
“จะไม่ให้เครียดได้ยังไง น้องพี่จะไปตั้งสามปีเชียวนะ...สาม ปี”
“สามปี กระพริบตาปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊งก็ผ่านไปแล้วค่ะ”
ชมพูแพรผละออกมามองน้องสาว
“เรานี่ชอบทำเป็นเล่นอยู่เรื่อย”

ชมพูแพรก็ร้องไห้ออกมา ฟ้าลดาตกใจ
“อ้าวพี่แพร...ร้องไห้ซะงั้น” ฟ้าลดาเช็ดน้ำตาให้พี่สาว “โอ๋ๆ ไม่เอานะคะ ไม่ร้องไห้นะ”
ชมพูแพรดึงน้องสาวมากอด
“พี่รักฟ้ามากนะ แล้วพี่ก็ห่วงน้องของพี่คนนี้มากด้วย”
ฟ้าลดาผละออกมามองหน้าชมพูแพร
“ฟ้ารู้ค่าาาา...พี่แพรเหนื่อยกับฟ้ามามาก ฟ้าสัญญาว่าฟ้าจะไม่ทำให้พี่แพรเป็นห่วง และอะไรที่ฟ้าทำให้พี่แพรได้ ฟ้าจะยอมทำทุกอย่าง”
ฟ้าลดาเอาหน้าแนบแก้มกับชมพูแพร สองพี่น้องกอดกันด้วยความรัก...

+ + + + + + + + + + + +

สายชลนั่งนิ่งอยู่ที่หัวเรือ ดวงตาเหม่อลอย แตลอยมองอย่างเป็นห่วง ทันใดนั้นมีเสียงโวยวายดังขึ้น สายชลกับแตลอยหันไปมอง เห็นเรือลำหนึ่งจอดอยู่กลางทะเล
“ไอ้ลอย...ขับเข้าไปใกล้ๆซิ”
แตลอยขับเรือเข้าไป สายชลเพ่งมองเห็นฝรั่งคนหนึ่ง ในสภาพบอบช้ำวิ่งมาที่หัวเรือ มีผู้ชายสามคนเข้ามารุมทำร้ายจนสลบ สายชลกับแตลอยตกใจ
“เฮ้ย!ทำอะไร...หยุดนะเว๊ย”
ชายสามคนหันมาเห็นสายชลก็ตกใจ รีบช่วยกันยกไมเคิลโยนลงน้ำแล้วขับเรือหนีไป สายชลรีบกระโดดน้ำลงไปช่วย ว่ายน้ำเข้าไปหาไมเคิลที่นอนคว่ำหน้าอยู่ในทะเล ทันทีที่ถึงตัวสายชลพลิกร่างไมเคิลขึ้น เขาต้องผงะที่เห็นหน้าตาบอบช้ำ
สายชลนำไมเคิลขึ้นมาบนเรือแล้ว รีบเอาหูแนบฟังเสียงหัวใจของไมเคิลที่นอนอยู่บนพื้น แล้วก็ผละออกมา สายชลกับแตลอยมองหน้ากันด้วยความวิตก

เย็นวันนั้น...
 

สวย กอยา ซาตินกำลังเล่นกระโดดเชือกกันอยู่แถวนั้น สวยหันไปเห็นเรือแตลอยกำลังแล่นมา ก็ดีใจมากรีบวิ่งไปบอกทุกคน...
ทุกคนวิ่งมาที่หาด เห็นเรือแตลอยเทียบท่าก็พากันตื่นเต้นกันมากๆ สักครู่สายชลกับแตลอยช่วยกันแบกไมเคิลออกมาจากเรือ ทุกคนนิ่วหน้ามองสงสัย
“นางฟ้ารึเปล่า” อารีฟะถามขึ้น
นาราเพ่งมอง
“ไม่น่าใช่นะ ดูตัวใหญ่ๆพิกล”
ทุกคนหันมามองหน้ากันงงๆ ไม่นานสายชลกับแตลอย ก็ช่วยกันแบกไมเคิลเดินมาหา ทุกคนมองอย่างสงสัย
“เอ็งพาใครมาด้วยห๊ะ”ปีร์กะถามอย่างแปลกใจ
“อย่าเพิ่งถามอะไรฉันมากเลยนะ รีบช่วยเขาก่อนเถอะ” สายชลบอกอย่างร้อนใจ
“ถ้างั้นรีบพาไปที่บ้านข้า”
ซะละกับนารา เข้ามาช่วยสายชลกับแตลอยแบกไมเคิล แล้วทั้งหมดก็รีบเดินตามปีร์กะไปติดๆ

+ + + + + + + + + + + +

ปีร์กะจับชีพจรไมเคิล ทุกคนยืนมองลุ้น แสงดาวสะกิดแตลอย กับซะละ แล้วพยักเพยิดให้ตามตัวเองออกไปข้างนอก ทั้งสองคนเดินตามออกไป เมื่อออกมานอกบ้านแสงดาวถามทันที...
“เล่าให้แม่ฟังซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
แตลอยมองซะละกับแสงดาวเครียดๆ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง

ค่ำคืนนั้น...
 

ปีร์กะหันมาทางสายชล และทุกคนที่รอฟังอาการของไมเคิล
“โชคดีที่ได้สายชลปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาการเลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่คืนนี้ก็ต้องดูใกล้ชิดกันหน่อย”
แสงดาว รีบบอก...
“ถ้างั้นให้สายชลเป็นคนดูแล”
ทุกคนหันไปมองแสงดาวด้วยความแปลกใจ สายชลรีบปฏิเสธทันที
“ไม่นะป้าแสงดาว”
“ทำไม” แสงดาวถามเสียงเข้ม
สายชลหันไปมองไมเคิล รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ แล้วก็หันมาทางแสงดาวกับคนอื่นๆ
“ฉันไม่พร้อม”
แสงดาวจ้องหน้า
“ไม่พร้อมเรื่องอะไร”

สายชลอึกอัก
“ฉันยังดูแลใครไม่ได้ตอนนี้”
“แต่เธอต้องทำ...และต้องทำให้ได้ ถือว่าฉันขอ” แสงดาวสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
สายชลอึ้ง พูดไม่ออก ทุกคนอึ้งไปตามๆกัน มองแสงดาวด้วยความสงสัย
เมื่อพากันออกไปนอกบ้าน ปีร์กะถามแสงดาวด้วยความสงสัย
“ทำไมเอ็งต้องให้สายชลดูแลไอ้หัวทอง ทั้งที่ไอ้สายชลมันยังเอาตัวเองไม่รอด”
“เพราะฉันกลัวว่าถ้าปล่อยให้สายชลเป็นแบบนี้ต่อไป สายชลจะคิดสั้นน่ะซิ”
ทุกคนตกใจ แสงดาวอธิบายต่อ
“สายชลหวังไว้มากเหลือเกิน ว่าถ้าเจอยาซะก็จะเจอนางฟ้า แต่...ยาซะกลับให้คำตอบไม่ได้ว่านางฟ้าไปอยู่ที่ไหน...มันเหมือนความหวังสุดท้ายพังทลายไปตรงหน้า ฉันเลยคิดว่า การที่สายชลได้ทำอะไรซักอย่าง อาจจะทำให้สายชลลืมเรื่องนี้ได้บ้าง”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงสายชล

+ + + + + + + + + + + +

กลางดึก...
 

สายชลยืนมองไมเคิลที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียงตามลำพัง
ทันใดนั้นเขาก็เห็นไมเคิลเป็นฟ้าลดานอนอยู่ สายชลตกใจถึงกับผงะ ถอยหลัง แล้วอยู่ดีดีไมเคิลก็ชักขึ้นมาเพราะพิษไข้ สายชลทนดูไม่ได้ เพราะทำให้เขาคิดถึงฟ้าลดามาก สายชลรีบวิ่งออกไปยืนหน้าบ้าน กำมือแน่น หลับตา ไม่กล้าหันไปมองไมเคิลในบ้าน ในขณะที่ไมเคิลครางด้วยความเจ็บปวด จนสายชลทนไม่ไหว ลืมตาขึ้น
“ฉันเคยปล่อยให้พ่อแม่ตายไปตรงหน้า โดยที่ฉันช่วยอะไรไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมให้ใครต้องมาตายตรงหน้าฉันอีก”
สายชลตัดสินใจหันหลัง เดินไปหาไมเคิล นั่งลงข้างๆ เอามือจับหน้าผากเอาไว้ แล้วก็พึมพำไม่หยุด
“ความชั่วร้ายจงออกไป สิ่งดีดีจงเข้ามา ความชั่วร้ายจงออกไป สิ่งดีดีจงเข้ามา...”
สายชลคอยดูแลไมเคิล เขาพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ที่จะให้ไมเคิลฟื้นขึ้นมา
หลายวันต่อมา...
เมื่อไมเคิลฟื้นขึ้นมา เขาหันไปเห็นสายชลกำลังเย็บแหจับปลาอยู่ที่ระเบียง เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินออกไปหา สายชลหันมาเห็นไมเคิลฟื้นแล้วก็ดีใจ
“เธอช่วยฉันไว้ใช่มั๊ย”
สายชลชะงักไปนิดๆที่ไมเคิลพูดไทยได้ ก่อนจะพยักหน้ารับ ไมเคิลเดินมาใกล้ๆแล้วก็หันไปมองรอบๆเห็นท้องทะเลสวยงาม สายชลมองหยั่งเชิง
“คุณจำได้รึเปล่าว่าตัวเองเป็นใคร”
ไมเคิลหันมายิ้ม
“จำได้ซิ ฉันไม่ได้ความจำเสื่อม ฉันชื่อไมเคิล แล้วฉันก็ยังจำได้อีกด้วยว่า พวกที่ฉันจ้างให้พามาเที่ยว...ปล้นฉัน ฉันไม่ยอม พวกมันก็เลยรุมทำร้ายฉัน ฉันพยายามจะสู้ แต่ก็สู้ไม่ได้ จากนั้นฉันก็ไม่รู้ตัวอีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“คุณโดนทำร้ายจนสลบ แล้วพวกนั้นก็โยนคุณลงทะเล ก่อนจะขับเรือหนีไป”
ไมเคิลอึ้ง
“นี่มันขโมยเรือฉันไปเหรอ”
สายชลพยักหน้า ไม่เคิลโกรธ
“โอ้ก๊อด! เลวจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้เธอช่วยไว้ ฉันคงตายไปแล้ว...ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน”
“เกาะมิน”
ไมเคิลมองบรรยากาศรอบๆอย่างชื่นชอบ

+ + + + + + + + + + + +

ซะละ แสงดาว และเหล่าชาวเกาะ นำอาหารกับผลไม้มาให้มากมาย ไมเคิลตื่นตาตื่นใจมากๆ
“โฮะๆๆ ขอบคุณนะคร้าบ ขอบคุณ ขอบคุณ”
“เป็นฝรั่งอาไร้ พูดไทยชั๊ดชัด” อารีฟะพูดขึ้นอย่างแปลกใจ
“กินเต็มที่เลยนะ ยังมีอีกเพียบ” นาราบอกอย่างยิ้มแย้ม
ไมเคิลพยักหน้าแล้วก็หยิบกิน
“โอ้...อร่อยมาก” ไมเคิลหยิบกินไม่หยุด “อันนี้ก็อร่อย อันโน้นก็อร่อย อร่อยจริงๆ”
ทุกคนขำๆกับท่าทางของไมเคิลมาก ไมเคิลหันไปมองสายชลเห็นเขาไม่ยิ้มอยู่คนเดียว แววตาเต็มไปด้วยความเศร้า จนไมเคิลแปลกใจ
“กินจุกว่าฉันอีกนะเนี่ย” แตลอยบ่น
“ลอย...เสียมารยาท”แสงดาวปราม
แตลอยชะงักหน้าแหยๆ ไมเคิลกินต่อไม่ยอมหยุด ปีร์กะมองพอใจ
“กินได้อย่างนี้ กลับมาแข็งแรงวันสองวันแน่ไอ้หัวทอง”
ไมเคิลผงะ

“ไอ้หัวทอง” ไมเคิลนิ่งคิดแล้วยิ้มออกมา “อื้อ...ผมชอบชื่อนี้ ไอ้หัวทอง เฮอะๆ”
สายชลชะงัก คิดถึงฟ้าลดาขึ้นมาทันที ตอนที่เธอฟื้นขึ้นมาและได้ยินเขาเรียกเธอว่านางฟ้า เมื่อนึกถึงก็เศร้าซึมไป มามิมองไมเคิลแปลกใจ
“แค่นี้ก็ขำ บ้าป่าวเนี่ย”
แตลอยนึกได้
“ก็เหมือนนางฟ้าตอนแรกๆไง ไม่ว่าพวกเราทำอะไร นางฟ้าก็ขำ เฮอะๆๆ”
สายชลได้ยินอย่างนั้นทำเอาซึมหนักเข้าไปอีก ทุกคนเงียบกริบ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ”แตลอยพูดเบาๆอย่างรู้สึกผิด
ไมเคิลไม่เข้าใจ
“นางฟ้าคือใคร”
ทุกคนหันขวับไปมองไมเคิล สายชลเดินออกไปเลย ไมเคิลงงๆ
“ไม่มีอะไรหรอกพี่หัวทอง กินเข้าไปเถอะ กินเยอะๆ ปากจะได้ไม่ว่าง” สวยเหน็บแนม
ไมเคิลไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่สนใจ เลยก้มหน้าก้มตากินต่อ ซะละหยิกหูแตลอย
“โอ๊ยโอ๊ยพ่อ...ฉันเจ็บ”
“เพราะเอ็งคนเดียว พูดถึงนางฟ้าอีกทำไม หลายวันมานี่ไอ้สายชลมันกำลังจะดีขึ้นอยู่แล้ว”
ซะละบิดหูแตลอยอย่างแรง แตลอยแกะมือซะละออก แล้วมือก็ปัดไปโดนข้าวของแถวนั้นหล่นเสียงดังโครม สายชลสะดุ้งเฮือก เกิดอาการช็อกเหมือนได้ยินเสียงปืนดังปัง!

(อ่านต่อหน้า 4)




เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8 (ต่อ)
สายชลนึกถึงตอนที่เขาถูกซายะยิง และฟ้าลดาก็ถูกมันลากไป สายชลช็อค ยืนนิ่งอยู่กับที่ มามิเห็นเขานิ่งไปก็แปลกใจ
“สายชลเป็นอะไร”
ทุกคนหันไปมองสายชลที่ยืนนิ่งก็รีบแห่กันเข้าไปดู ไมเคิลมองตามด้วยความสงสัย ปีร์กะเข้ามาตรงหน้าสายชล
“สายชล...”
สายชลตาค้างตัวเกร็ง
“ไอ้สายชล” ปีร์กะเรียกเสียงดัง
สายชลยังนิ่งค้าง สวยตกใจ
“พี่สายชลเป็นไรอ่ะ”
แสงดาว รีบเขย่าแขน
“สายชล...สายชล...”
สายชลยังนิ่ง ไมเคิลเห็นท่าไม่ดี รีบลุกเดินเข้าไปหา
“ผมจัดการเอง”

ไมเคิลเดินมายืนตรงหน้าสายชล ทุกคนแหวกทางให้
“เฮ้!” ไมเคิลดีดนิ้วไปตรงหน้า “สายชล!”
สายชลสะดุ้ง กรอกตามามองไมเคิล
“เธอเป็นอะไร”
“ฉะ...ฉัน...ฉันขยับตัวไม่ได้ ฉันขยับตัวไม่ได้”
สายชลหอบหายใจถี่และแรง ไมเคิลรีบจับมือสายชลแล้วหยิก
“รู้สึกเจ็บมั๊ย”
สายชลพยักหน้า
“บีบมือฉัน บีบมือฉันไว้”
สายชลค่อยๆบีบมือ ไมเคิลยิ้ม
“Good ดี...ดีมาก”
สายชลดูผ่อนคลายลง ทุกคนโล่งใจ

+ + + + + + + + + + +

เมื่อสายชลแยกไป ไมเคิลถามปีร์กะว่าเกิดอะไรขึ้น ปีร์กะตัดสินใจเล่าให้ฟัง...
ทางด้านสายชล นั่งมองสร้อยของฟ้าลดา อยู่ที่ริมหาดหน้าตาเคร่งเครียด ระหว่างนั้นไมเคิลเดินมานั่งข้างๆ สายชลหันไปมอง
“คิดถึงนางฟ้าเหรอ”
สายชลชะงักกึก หันขวับมองไมเคิล
“ฉันรู้เรื่องเธอกับนางฟ้าหมดแล้ว ขอโทษที่เข้ามายุ่งเรื่องของเธอ ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องทรมานใจ”
สายชลทอดสายตามองทะเล
“คุณไม่เข้าใจ”
“ฉันเคยเป็นแบบเธอสายชล หรืออาจจะเป็นมากกว่า เพราะผู้หญิงที่ฉันรัก...ตายในอ้อมแขนของฉัน”
สายชลอึ้งหันมามอง ไมเคิลหน้าสลดลง
“ฉันแย่กว่าเธอมากสายชล ตอนนั้นฉันเหมือนตายไปกับเค้าด้วย แต่แล้วฉันก็คิดได้ว่า อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปและเราแก้ไขอะไรไม่ได้ ปัจจุบันต่างหาก คือสิ่งที่ชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในอดีต”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“ไปอเมริกากับฉันมั้ยสายชล”

สายชลอึ้ง
“อเมริกา...บ้า! ผมจะไปทำไม”
“ฉันแค่อยากตอบแทนที่เธอช่วยชีวิตฉัน อีกอย่างการได้เดินทางไกล ได้ห่างไกลจากที่เดิมๆ ภาพเดิมๆ อาจทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น และเธออาจจะลืมเรื่องเดิมๆ ได้ซักวันนึง”
“คุณกำลังจะบอกให้ฉันไปเพื่อให้ลืมนางฟ้า” สายชลลุกขึ้นยืน “ไม่ ฉันต้องการจะจำนางฟ้า” สายชลมองไม่เคิลอย่างผิดหวัง “คุณก็เหมือนทุกคน กลับไป อย่ามายุ่งกับฉันอีก”
สายชลจะเดินไป ไมเคิลรีบพูดขึ้น
“สายชล อยู่ที่นี่เธอก็มีแต่ความทรงจำเดิมๆ ที่มีแต่จะฉุดให้เธอถอยหลัง”
สายชลชะงักหันมามอง
“เธอมีนางฟ้า” ไมเคิลชี้ที่หัวใจ “ในนี้ได้ แต่ชีวิตต้องเดินหน้า เธอกับนางฟ้าแค่จากเป็น ถ้าเธอไม่ออกไปเจอโลกกว้าง แล้วเธอจะเจอนางฟ้าของเธอได้ยังไง”
สายชลคิดตาม ไมเคิลเดินมาจับบ่า
“ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เธอรู้สึกแย่ แต่มันก็อยู่ที่ว่าเธอจะใช้ปัญหาทำให้ตัวเองอ่อนแอ หรือ จะใช้มันทำให้เธอแข็งแกร่ง คิดดูนะสายชล”
ไมเคิลยิ้มให้แล้วหันหลังเดินออกไป สายชลคิดตามที่เขาพูด
+ + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
 

สายชลนอนก่ายหน้าผาก คิดหนักเรื่องที่ไมเคิลพูด
‘…ไปอเมริกากับฉันมั้ยสายชล...’
‘…เธอกับนางฟ้าแค่จากเป็น ถ้าเธอไม่ออกไปเจอโลกกว้าง แล้วเธอจะเจอนางฟ้าของเธอได้ยังไง...ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เธอรู้สึกแย่ แต่มันก็อยู่ที่ว่าเธอจะใช้ปัญหาทำให้ตัวเองอ่อนแอ หรือ จะใช้มันทำให้เธอแข็งแกร่ง คิดดูนะสายชล…’
สายชลนึกถึงคำพูดของยาซะ
‘...ฉันก็ไม่รู้ว่านางฟ้าไปไหน ฉันรู้แค่ว่าเค้ากลับไปกับพี่สาวเค้า...’
สายชลหนักใจ แล้วนึกถึงถึงคำพูดของ ปีร์กะ
‘…จำที่ข้าเคยบอกเอ็งได้มั๊ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่านางฟ้าจะเป็นยังไง คนที่นางฟ้ารักคือเอ็ง เอ็งกับนางฟ้าเป็นเนื้อคู่กัน...’
สายชลหยิบสร้อยในมือขึ้นมาดู คิดหนัก ว่าจะทำยังไงดี
สายชลทุกข์ใจคิดถึงฟ้าลดามาก จนทำให้เขาฝันเห็นเธอเดินอยู่ข้างๆ
“นางฟ้าได้ยินที่ไมเคิลพูดกับสายชลแล้วใช่มั๊ย”
เธอหันมายิ้มให้ สายชลหยุดเดิน
“ถ้าสายชลไปกับไมเคิล สายชลจะเจอนางฟ้ามั้ย”
ฟ้าลดายังคงส่งยิ้มให้เขา
“ถ้าสายชลอยู่ที่นี่ นางฟ้าจะกลับมามั้ย”
สายชลหันไปมองฟ้าลดาที่กำลังหมุนตัวไปรอบๆแล้วหันมายิ้มให้
“ถ้าสายชลไปกับไมเคิล...บางที...เราอาจจะเจอกัน”
สายชลมองฟ้าลดา แววตาเป็นประกายมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วภาพของฟ้าลดาก็ค่อยๆเลือนหายไป

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรมาส่งฟ้าลดาที่สนามบิน สองพี่น้องกอดกันแน่น ก่อนจะผละออก ชมพูแพรจะร้องไห้ ฟ้าลดาส่ายหน้า
“พี่แพรอย่าทำหน้าแบบนี้ซิคะ ฟ้ามีเพื่อนที่โน่นเยอะแยะ แล้วอีกอย่างฟ้าก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ต้องกังวลนะคะ”
“ฟ้าจะอายุเท่าไหร่ พี่ก็ห่วงเสมอนั่นแหละ” ชมพูแพรจับมือน้องสาวขึ้นมา “ดูแลตัวเองดีดีนะ ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วย แล้วก็ต้องโทรหาพี่ทุกวันรู้มั๊ย”
“ค่าาาา ฟ้าจะโทรหาพี่แพรทุกวัน แต่เก็บเงินปลายทางนะคะ”
ฟ้าลดาแหย่พี่สาวแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะหันไปทางหมอวัฒนา
“พี่หมอคะ ฝากดูแลพี่แพรด้วยนะคะ พี่แพรเป็นดวงใจของฟ้า พี่หมอห้ามทำให้พี่แพรเสียใจเด็ดขาด”
หมอวัฒนายดมือวันทยาหัสถ์
“แน่นอนครับพ้ม เพราะว่าแพรก็เป็นดวงใจของพี่เหมือนกัน”
ชมพูแพรหันไปยิ้มให้เขาแล้วก็หันมาทางฟ้าลดาอีกครั้ง
“ฟ้าไปนะคะ แล้วฟ้าจะนำความสำเร็จมาเป็นของขวัญให้พี่แพรค่ะ”
ชมพูแพรพยักหน้า กอดกับน้องสาวอีกครั้ง ก่อนจะผละจากกัน ฟ้าลดาหันไปไหว้ หมอวัฒนารับไหว้ สองคนยืนส่งฟ้าลดาที่ต้องเดินทางแล้ว...
+ + + + + + + + + + +

แสงดาวกับซะละใจหาย เมื่อสายชลมาบอกว่าจะไปอเมริกา
“จะไปอยู่กับไมเคิล” แสงดาวถามอย่างตกใจ
“จ๊ะ”
“แน่ใจแล้วเหรอสายชล” ซะละถามอย่างเป็นห่วง
สายชลพยักหน้า
“ทุกที่บนเกาะนี้มีแต่เรื่องราวของฉันกับนางฟ้า ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ฉันก็เห็นแต่นางฟ้า ฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นแค่ความทรงจำ ฉันจะตามนางฟ้ากลับมาให้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องรอนานแค่ไหนก็ตาม”
ซะละ กับแสงดาวมองสายชลด้วยความเห็นใจ แสงดาวจับมือสายชล
“ชีวิตเป็นของสายชล สายชลมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง”
สายชลหันไปมองแสงดาวกับซะละที่ยิ้มให้กำลังใจ แตลอยยืนอยู่ได้ยินทุกอย่างก็อึ้งไป
+ + + + + + + + + + + +

สายชลเดินออกมาเจอแตลอยยืนหันหลังอยู่ ก็แปลกใจเดินไปหา
“ไอ้ลอย”
แตลอยหันมามองสายชลด้วยความโมโห
“แกคิดจะบอกฉันเมื่อไหร่ ว่าแกจะไปกับไมเคิล!”
“ลอย...ฉัน...”
แตลอยไม่ปล่อยให้สายชลพูด โผกอดแน่น สายชลตกใจ แตลอยร้องไห้ออกมา
“แกร้องไห้ทำไม”
“ฉันเสียใจที่แกจะไป” แตลอยผละออกมา “แต่ฉันก็ดีใจที่แกจะได้ไปตามหาชีวิตของแก”
แตลอยกอดสายชลอีกครั้ง สายชลเศร้าสุดๆแล้วก็เอื้อมมือมากอดแน่น
ค่ำคืนนั้น...
สายชลเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าย่าม หยิบสร้อยของฟ้าลดามาใส่กระเป๋า ปิดกระเป๋า แล้วก็หยิบกีตาร์อูคูเลเล่ออกมาวางข้างกระเป๋า ก่อนจะนั่งลง มองไปรอบๆบ้าน เหมือนอยากจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้มากที่สุด

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่...
 

สายชลสะพายกระเป๋าย่ามกับกีตาร์อูคูเลเล่ เอาโซ่คล้องประตูบ้านเสร็จ ก็เอามือจับไปที่ประตู ใจหายที่ต้องจากบ้านของพ่อกับแม่ไป
ไมเคิลจับไหล่ สายชลหันไปมองแล้วก็พยักหน้า สายชลหยิบกรงนกแก้ว เดินออกไปกับไมเคิล
สายชลร่ำลาชาวเกาะคนอื่นๆ ทุกคนร้องไห้ที่เขากำลังจะไปจากที่นี่ สายชลหันมาทางซะละ แสงดาว แตลอย ปีร์กะ นารา อารีฟะ สวย แล้วก็แปลกใจ เพราะไม่เห็นมามิ สายชลหันไปถามปีร์กะ
“มามิไปไหนล่ะป้า”
ปีร์กะถอนหายใจเฮือกใหญ่ บอกให้รู้ว่ามามิอยู่ที่บ้าน สายชลรีบไปหาทันที
มามินั่งร้องไห้อยู่มุมหนึ่ง...เสียใจที่สายชลกำลังจะไป ระหว่างนั้นสายชลเดินเข้ามา เธอหันไปเห็นเขาก็ชะงัก
“ใจคอจะไม่ไปส่งฉันจริงๆเหรอ”สายชลเดินมานั่งข้างๆ
มามิปาดน้ำตา
“ฉันไม่อยากไป ฉันทนเห็นเธอจากไปไม่ได้สายชล”
สายชลชะงัก มามิร้องไห้อย่างหนัก เขาจึงดึงเธอมากอด มามิกอดตอบ สายชลตบหลังปลอบใจ

+ + + + + + + + + + + +

สายชลกอดลาทุกคน จนมาถึงมามิ เขาหันไปหยิบกรงนกแก้วที่ฝากไมเคิลถือหันมาส่งให้
“ฉันให้”
มามิชะงักรับกรงนกแก้วมาถือเอาไว้
“ฉันจะถือว่าเธอฝากเลี้ยง แต่เธอต้องกลับมาเอามันคืนไปนะ”
สายชลพยักหน้า หันไปมองทุกคนด้วยความอาลัยอีกครั้ง
“ฉันไปนะจ๊ะ ฉันขอบคุณทุกคนมาก ที่ช่วยเหลือฉันมาโดยตลอด ฉันจะไม่มีวันลืมทุกคน ฉันสัญญา”
นารายิ้มให้
“โชคดีนะไอ้สายชล”
“ที่นี่เป็นบ้านของเอ็ง เอ็งกลับมาได้ทุกเมื่อ” ซะละบอกอย่างจริงใจ

สายชลพยักหน้าน้ำตารื้อจะร้องไห้ หันหลังเดินไปขึ้นเรือกับไมเคิล
เรือแล่นออกไป ทุกคนมองตามเรือไม่วางตา สายชลหันไปมองทุกคนแล้วโบกมือลาน้ำตาไหล ไมเคิลตบบ่าสายชลให้กำลังใจ กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ณ สถานที่แห่งใหม่...

จบตอนที่ 8
 
อ่านตอนที่ 9 วันพรุง่นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น