xs
xsm
sm
md
lg

รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



รักปาฏิหาริย์ตอนที่ 10 
ณ บ้านบุริศราวัณ บุรธัชกางแบบแปลนโครงการเทพสุธาลงบนโต๊ะที่มีแฟ้มเอกสารวางเกลื่อนอยู่แล้วเขามองแบบแปลนอย่างมุ่งมั่น เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขากดรับโทรศัพท์ รวิภาสเดินเข้ามาหยุดฟัง
“ฮัลโหล สวัสดีครับ คุณกำพล ครับ ยังครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจขายให้ใคร คุณคงจะเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ ผมไม่ได้ร้อนเงินขนาดนั้น ยังไงผมก็ไม่ขายต่ำกว่าราคาประเมินแน่”
บุรธัชกดโทรศัพท์ปิดอย่างหงุดหงิดแล้วหันมาเห็นรวิภาสยืนมองแบบแปลนอยู่
“โปรเจ็คท์ยักษ์เลยนะครับเนี่ย ผมไม่คิดว่าพี่ธัชจะขยายโครงการเทพสุธาใหญ่โตขนาดนี้ ห้าสิบล้านคงไม่พอแล้วล่ะมั้ง อย่างนี้อย่างต่ำน่าจะซักร้อยล้าน” รวิภาสพูด
“แกไม่รู้เรื่องอะไร อย่าพูดมากดีกว่า”
“ผมรู้มากกว่าพี่ธัชคิดก็แล้วกัน พี่ธัชเลิกคัดง้างกับอาพรซะทีเถอะ ยังไงพี่ธัชก็หาเงินมาไม่ทันหรอก ยอมตกลงรับหุ้นส่วนใหม่ตอนนี้ดีกว่าต้องกลืนน้ำลายตัวเองทีหลัง ถึงตอนนั้นพี่ธัชจะเสียหน้ายิ่งกว่าเดิม”
อาจเดินเข้ามาหาบุรธัช
“คุณชายครับ นายชัยหาคนซื้อบ้านชุติมันต์ได้แล้ว รายนี้ไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลยครับ สงสัยจะเป็นพวกเล่นที่ดิน ตอนนี้เค้ารอคุณชายอยู่ที่บ้านชุติมันต์ครับ”
“งั้นก็รีบไปกันเลย”
บุรธัชรีบร้อนเดินออกไป
“บ้านราคาเป็นสิบๆล้าน ทำไมขายง่ายนักล่ะ ลุงอาจ” รวิภาสถาม
“คุณชายตั้งค่าคอมมิชชั่นไว้สูงลิ่วอย่างนั้น ทำไมจะขายไม่ได้ล่ะครับ งานนี้นายหน้าตั้งตัวได้เลยนะครับ มีแต่เรานี่แหละที่จะได้ไม่คุ้มเสีย”
อาจเดินออกไปอย่างหนักใจ รวิภาสมองตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่บ้านสุธาสิน ณิชาภัทรกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ลุงอาจ”
ณิชาภัทรกดโทรศัพท์ปิดเดินมาหานวลแขและดาวเรืองที่นั่งรอฟังข่าวอยู่
“มีคนซื้อบ้านชุติมันต์แล้วล่ะค่ะ คุณย่า”
“นี่ประวัติศาสตร์ จะซ้ำรอยหรือเปล่าคะ คุณหญิง” ดาวเรืองพูด
“หมายความว่ายังไงคะ นี่คุณป้ากลัวว่าธัชจะตัดสินใจผิดพลาดเหมือนท่านลุงหรือคะ”
“ตอนที่ท่านชายบริพัตรบุกเบิกไร่บุริศราวัณก็ทุ่มเททุกอย่างเหมือนที่คุณชายธัชทำอยู่ตอนนี้นี่แหละ” นวลแขกล่าว
“ธัชก็แค่ขายบ้านหลังเดียวเท่านั้นนะคะ”
“แล้วคิดเหรอว่า คุณชายจะหยุดอยู่แค่นี้” ดาวเรืองบอก
ณิชาภัทรนิ่งคิดเริ่มหนักใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

อีกด้านหนึ่งของบ้านสรณาลัย พิมพ์นฤมลขนหนังสือกองใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะ สายใจขนหนังสืออีกกองตามหลังมา
“เดี๋ยวหากล่องมาให้ซักสองสามใบนะ สายใจ”
“คุณนมลจะบริจาคหมดนี่เลยหรือคะ หนังสือใหม่ๆทั้งนั้นเลย บริจาคเฉพาะหนังสือเก่าๆไปก็พอมั้งคะ”
“นี่ สายใจ การบริจาคคือการแบ่งปันสิ่งดีๆให้คนอื่นนะ ไม่ใช่ให้ของส่งๆไปโดยไม่สนใจว่าคนได้รับจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้หรือเปล่า”
กันยาเดินเข้ามา
“คุณนมลคะ มีแขกมาหาคุณนมลน่ะค่ะ”
“ใครมาเหรอ กันยา”
รวิภาสเดินเข้ามา พิมพ์นฤมลมองรวิภาสต้องชะงักนิ่ง
“คุณภาสไม่ใช่แขกของนมลหรอก แต่เป็นแขกของพี่นอม”
“ฉันไม่ได้มาหาประนอม ฉันมาหาอาพร”
“น้าพรไม่อยู่ ไปที่ไร่แล้ว”
รวิภาสหันหลังจะกลับออกไปแล้วเปลี่ยนใจหันกลับมาใหม่
“แต่ประนอมอยู่ใช่มั้ย”
“อยู่ค่ะ กันยา ไปบอกพี่นอมว่ามีแขกคนสำคัญมาหา”
กันยาเดินออกไปพลางขยิบตาเรียกสายใจไปด้วย
“วันนี้มาหากันถึงบ้านเลยนะ แก” กันยากระซิบ
“ยัยนอมคงโทรไปอ้อนให้มาหาน่ะซิ แก”
กันยากับสายใจเดินหัวชนกันกระซิบกระซาบมองรวิภาสอย่างสอดรู้
“เชิญตามสบายนะคะ พี่ภาส“
พิมพ์นฤมลเดินคอแข็งออกไป รวิภาสรีบเดินตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลเดินหนีออกมาอีกมุมของบ้าน รวิภาสเดินมาดึงตัวเธอไว้
“ทำไมต้องทำหน้าเหวี่ยงใส่ฉันอย่างนี้ด้วย ฉันก็ไม่อยากมาบ้านนี้นักหรอกนะ แต่ฉันจำเป็นต้องมา”
พิมพ์นฤมลสะบัดตัวหลุดจากมือรวิภาส
“ถ้าจำเป็นต้องเจอกันนักล่ะก็ ทำไมไม่นัดไปเจอกันข้างนอกล่ะ ทำไมต้องมาหากันถึงที่นี่ พี่ภาสทำอะไร คิดถึงใจคนอื่นบ้าง” พิมพ์นฤมลหลุดปาก
“ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ธัชไม่รู้หรอกว่า ฉันมาที่นี่ ฉันก็ไม่อยากให้เราสองบ้านมีปัญหามากไปกว่านี้ ฉันมีธุระสำคัญจริงๆ ก็เลยต้องมาหาอาพรที่นี่”
พิมพ์นฤมลนิ่งอึ้งทำหน้ามีพิรุธจนรวิภาสสังเกตได้
“นี่เราพูดกันคนละเรื่องอยู่ใช่มั้ย นี่ไม่พอใจเรื่องประนอมใช่มั้ย หึงเหรอ”
“พูดบ้าๆ ทำไมนมลจะต้องหึง นมลกับพี่ภาสไม่ได้เป็นอะไรกัน เราไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนกันด้วยซ้ำ”
ณิชมนเดินเข้ามา
“จำได้ก็ดีแล้ว จำไว้ให้ขึ้นใจ เราไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนกัน แต่เราเป็นศัตรูกัน” รวิภาสกล่าว
รวิภาสหันไปเห็นณิชมนที่ยืนทำอะไรไม่ถูก
“ไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” รวิภาสบอกณิชมน “วันนี้เจ้าของบ้านดูจะไม่เต็มใจรับแขกเท่าไหร่”
“คุณภาสคะ คือว่า ฉันว่า..เราคุยธุระกันที่นี่ก็ได้...”
รวิภาสไม่ฟังดึงณิชมนเดินออกไป พิมพ์นฤมลมองตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถของบุรธัชแล่นมาจอดที่หน้าตัวบ้านชุติมันต์ เขากับอาจเดินเข้ามาในบ้าน ลุงแสวงเดินมาต้อนรับบุรธัชท่าทางเศร้าซึมรู้เรื่องการขายบ้านแล้ว
“เชิญครับ คุณชาย นายชัยมารออยู่นานแล้ว”
ลุงแสวงจะเดินออก บุรธัชมองแสวงรู้สึกผิดขึ้นมาวูบหนึ่ง
“ลุงแหวง...” บุรธัชเรียก
“คุณชายไม่ต้องอธิบายหรอกครับ ผมเข้าใจ”
ลุงแสวงเดินคอตกออกไป ชัยซึ่งเป็นนายหน้าซื้บ้านเดินหน้าระรื่นเข้ามาหาบุรธัช
“สวัสดีครับ คุณชายธัช คุณชายคงเตรียมสัญญาซื้อขายมาเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ เรามาเริ่มกันเลยดีมั้ยครับ เชิญครับ คุณพงษ์เทพ”
พงษ์เทพเดินเข้ามา บุรธัชนิ่งชะงักมองพงษ์เทพ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ล้อกันเล่นได้หรือไง” บุรธัชพูด
“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะครับ คุณชาย ผมตั้งใจมาซื้อบ้านชุติมันต์จริงๆ”
บุรธัชมองพงษ์เทพอย่างไม่พอใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนกับรวิภาสเดินเข้ามานั่งในร้านกาแฟ
“ฉันไม่คิดเลยนะคะว่า คุณชายจะหาคนซื้อบ้านชุติมันต์ได้เร็วขนาดนี้นี่เราคงจะทำอะไรไม่ได้แล้วใช่มั้ยคะ”
“ผมยังติดต่ออาพรไม่ได้ ถ้าขอร้องอาพรหยุดเรื่องหุ้นส่วนใหม่ไว้ก่อน พี่ธัชอาจเปลี่ยนใจไม่ขายบ้านชุติมันต์ก็ได้”
“แล้วทำไมอยู่ๆ คุณภาสถึงร้อนใจขึ้นมาล่ะคะ”
“ไม่รู้ซิ ผมรู้สึกว่า พี่ธัชกำลังทำผิด แม้แต่ลุงอาจก็ยังไม่เห็นด้วยเลย แล้วผมก็เห็นบ้านชุติมันต์มาตั้งแต่เกิด บ้านนี้เหมือนเซฟเฮาส์ของผมเลยนะครับ ตอนเด็กๆ มีเรื่องทะเลาะกับพี่ธัชทีไร ผมก็หนีไปอยู่กับปู่โชติทุกที”
“ปู่โชติ..”
“ที่จริงท่านบอกให้เรียกคุณโชติน่ะครับ ท่านบอกว่า ไม่อยากแก่ นึกถึงปู่โชติแล้ว ผมก็อยากเก็บบ้านชุติมันต์ไว้ระลึกถึงท่าน”
“แล้วเราควรจะทำยังไงดีล่ะคะ นอกจากคุณพรพรรณแล้ว ยังมีใครที่เราพอจะไปขอร้องให้ช่วยได้มั้ยคะ”
“มีอีกคนที่น่าจะขอร้องพี่ธัชได้”
“ใครคะ”
“ก็ทายาทของปู่โชติไงครับ !”
ณิชมนนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินออกมาจากบ้านชุติมันต์ พร้อมกับอาจ
ชัยวิ่งหน้าตาตื่นตามมา
“คุณชายธัช คุณชายจะไปไหนครับ เรายังไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อขายกันเลย คุณชายมีปัญหาติดขัดอะไรตรงไหน บอกผมมาได้เลย”
“จะไม่มีการเซ็นสัญญาอะไรทั้งนั้น เพราะผมไม่ขายแล้ว !”
“ทำไมล่ะครับ เกิดอะไรขึ้น”
“คุณชายเปลี่ยนใจไม่ขายแล้ว เดี๋ยวผมจ่ายค่าเสียเวลาให้” อาจบอก
อาจพาชัยเดินออกไป บุรธัชยืนฮึดฮัดมองดูไปรอบๆบ้านรู้สึกผิดแผนไปหมด เขาจะเดินออกต้องชะงักเมื่อเห็นพงษ์เทพเดินตามออกมา
“คุณชายมีปัญหาอะไรกับผมหรือครับ”
“ไม่น่าจะต้องถาม ผมไม่ต้องการเงินของพวกคุณ”
“ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแหละครับ ทางผมไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งอะไรกับคุณชายเลย ทำไมเราจะร่วมงานกันไม่ได้ แม้แต่ทางเราจะช่วยซื้อบ้านนี้คุณชายก็ไม่รับ นี่ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจแล้วใช่มั้ยครับ”
“ใช่ นี่ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจ แต่เป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับพวกคุณ !”
“ไอ้คำว่า “พวกคุณ” นี่ คุณหมายถึงเรากับบ้านสรณาลัยหรือครับ ผมบอกได้เลยว่า เราไม่ใช่พวกใครทั้งนั้น เราตกลงเข้าร่วมลงทุนกับโครงการเทพสุธาก็เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี..”
“และก็เป็นโครงการที่จะทำเงินให้คุณอย่างมหาศาล แค่โยนเงินทุนมาก้อนนึงแล้วก็มากอบโกยผลประโยชน์ไป แล้วยังได้ใช้โอกาสนี้สร้างภาพลักษณ์ให้คุณใหม่ จากหนุ่มเสเพลมาเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง เสียใจด้วยนะ คุณพงษ์เทพ ผมร่วมงานกับคนอย่างคุณไม่ได้จริงๆ !”
บุรธัชเดินออกไป พงษ์เทพนิ่งอึ้ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนกับรวิภาสเดินออกจากร้านกาแฟ รวิภาสเดินคุยโทรศัพท์มือถือมา
“จริงหรือครับ ลุงอาจ ขอบคุณครับ แล้วส่งข่าวมาเรื่อยๆนะครับ”
รวิภาสกดโทรศัพท์ปิด
“ข่าวดีครับ การเจรจาซื้อขายล้มเหลวครับ คนซื้อคุยกับพี่ธัชยังไงก็ไม่รู้ พี่ธัชเกิดเปลี่ยนใจไม่ขายให้ดื้อๆซะงั้น”
“นี่ก็กำลังจะหมดวันแล้ว เหลืออีกแค่สองวัน คุณชายธัชไม่น่าจะหาคนซื้อรายใหม่ได้ทันนะคะ”
“ลุงอาจบอกว่ามีอีกสองสามรายที่สนใจจะซื้ออยู่ แต่กดราคาเกินไป ถ้าพี่ธัชเข้าตาจนจริงๆ อาจจะยอมขายก็ได้ ตอนนี้อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้”
“ที่คุณพูดถึงทายาทคุณโชติน่ะค่ะ คุณหมายถึงลูกชายคุณโชติหรือคะ”
“ครับ อาชยทัต ลูกชายปู่โชติ มีอาชยทัตคนเดียวนี่ที่น่าจะขอร้องพี่ธัชได้แต่เราจะไปตามหาอาชยทัตที่ไหน ปู่โชติตามหามาเป็นสิบๆปี ยังตามไม่เจอเลย”
“ลุงแหวงบอกว่า คุณชยทัตมีลูกสาวนะคะ”
“หรือว่าเราหาใครมาสวมรอยเป็นลูกสาวอาชยทัตดีมั้ย คุณ ถ้าพี่ธัชไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนก็ดีน่ะซิ จะได้ให้คุณสวมรอยซะเลย แต่เราก็ไม่รู้ว่า ลูกสาวอาชยทัตชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ สงสัยแผนนี้จะไม่เวิร์ค”
“เราไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือคะ คุณภาส”
“ไม่มีแล้วล่ะครับ นอกจากเราจะตามหาทายาทปู่โชติให้เจอ และต้องเจอภายในวันนี้ด้วย !”
ณิชมนคิดหนักหาทางแก้ปัญหา
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่บ้านสรณาลัย พิมพ์นฤมลแพคหนังสือใส่กล่องแล้วปิดกล่องด้วยเทปกาวอย่างรวดเร็วว่องไว เธอแพคเสร็จไปหนึ่งกล่องแล้วรีบจัดหนังสือใส่อีกกล่องมุ่งมั่นกับงานเพื่อลืมๆเรื่องรวิภาส
กันยากับสายใจยืนจดๆจ้องๆจะช่วยแต่ไม่มีช่องว่างให้เข้าแทรก
“ให้กันยาทำให้ดีกว่านะคะ คุณนมล”
“ไม่ต้อง นมลทำเองได้”
“คุณนมลเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พี่นอมทำอะไรให้คุณนมลโกรธใช่มั้ยคะ” สายใจถาม
“เรื่องคุณชายภาสใช่มั้ยคะ”
“พูดอะไรน่ะ” พิมพ์นฤมลตกใจ
“ถ้ากันยาเป็นคุณนมล กันยาก็โกรธค่ะ ไล่ออกได้ก็ไล่ออกไปเลย อะไรกันคะ เป็นลูกจ้างบ้านสรณาลัยแต่ไปประจ๋อประแจ๋กับบ้านศัตรู" กันยายุยง
“คุณชายภาสกับพี่นอมดูสนิ๊ทสนิทกันมากเลยนะคะ อย่างนี้แล้ว คุณนมลยังเชื่ออีกหรือคะว่า สองคนนั้นไม่ได้คิดอะไรกัน” สายใจเสริม
“พอได้แล้ว มีงานอะไรก็ไปทำ ไป”
กันยากับสายใจเดินออกไปอย่างจำใจยังเมาธ์ไม่มันปาก พิมพ์นฤมลหันยกกล่องหนังสือขึ้น ก้นกล่องเปิดออกกองหนังสือร่วงหล่นใส่เท้า
“โอ๊ย !”
พิมพ์นฤมลกระโดดเหยงๆ ด้วยความเจ็บ พรรณอรโผล่เข้ามา
“เป็นอะไร ลูก”
“นมลไม่เป็นอะไรค่ะ”
พิมพ์นฤมลทรุดตัวลงเก็บหนังสือ กลั้นน้ำตาไว้ พันธ์นฤสรร์ ขี่สกูตเตอร์โฉบเข้ามา
“ยังไม่หายอกหักอีกเหรอ” พันธ์นฤสรร์ ถาม
“นมลอกหักเหรอ ลูก”
“คุณแม่อย่าไปฟังค่ะ พันสรพูดเพ้อเจ้อ นมลไม่มีแฟนจะอกหักได้ยังไงแล้วชาตินี้นมลจะไม่มีแฟนด้วย นมลจะไม่รักใครอีกแล้ว !”
พิมพ์นฤมลเดินกระโผลกกระเผลกออกไป
“นั่นมันคำพูดของคนอกหักชัดๆ แล้วพี่นมลไปหลงรักใครเหรอ พันสร”
“คุณแม่สนใจด้วยหรือครับ”
พันธ์นฤสรร์ไถรถสกูตเตอร์ออกไป พรรรณอรยืนหน้าเหวอ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถบุรธัชแล่นมาจอดที่บ้านสุธาสิน บุรธัชมองอาจที่ขับรถให้อย่างไม่พอใจ
“พาฉันมาที่นี่ทำไม”
ณิชาภัทรเดินมาเปิดประตูดึงบุรธัชลงจากรถ
“ลงมาซะดีๆค่ะ ธัช คุณย่ารอธัชอยู่”
“ผมมีธุระสำคัญที่จะต้องไปจัดการก่อน”
“เราก็มีธุระสำคัญที่จะต้องจัดการกับธัชเหมือนกัน เข้าไปข้างในเร็วเข้า เดี๋ยวคุณป้าจะต้องรีบกลับไปประชุมที่วิทยาลัย”
“คุณป้าดาวเรืองก็มาด้วยเหรอ” บุรธัชถาม
“วันนี้มากันครบองค์ประชุมเลยค่า คุณชายบุรธัช”
ณิชาภัทรลากบุรธัชไปจนได้ อาจมองตามลุ้นว่าจะเกลี้ยกล่อมบุรธัชสำเร็จ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

รถรวิภาสแล่นมาจอดที่บ้านชุติมันต์ ณิชมนลงจากรถ รวิภาสลงจากรถเดินมาหาณิชมน
“เสียเวลาเปล่าน่า คุณ ลุงแหวงจะไปรู้เรื่องลูกสาวอาชยทัตได้ยังไง” รวิภาสพูด
“เราลองดูก็ไม่เสียหายนี่คะ อาชยทัตอาจจะเคยติดต่อมาก็ได้ ตอนนี้มีเบาะแสอะไร เราก็ต้องคว้าไว้หมดแหละค่ะ”
“ถึงเราจะรู้ว่า ตอนนี้อาชยทัตกับลูกสาวอยู่ที่ไหน เราก็ตามตัวกลับมาไม่ทันหรอก คุณ”
“คุณบอกเองว่า อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่เหรอคะ วันนี้เราอาจจะตามหาตัวลูกสาวคุณชยทัตเจอก็ได้ ใครจะไปรู้”
“ก็ลองดูแล้วกัน งั้นผมไปหาอาพรก่อน ส่วนคุณก็สืบหาเบาะแสอาชยทัตไป ก่อนอื่นคุณต้องสืบดูให้รู้ว่า ลูกสาวอาชยทัตชื่ออะไร จะได้ตามหาตัวได้ง่ายขึ้น มีอะไรโทรเข้ามือถือผมนะ คุณ”
รวิภาสกลับเข้ารถไป
“ณิชมน ชุติมันต์...ลูกสาวคุณชยทัตชื่อ ณิชมน ชุติมันต์ค่ะคุณภาส...” ณิชมนพึมพำแล้วนิ่งคิดหาทางออก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่บ้านสุธาสิน บุรธัชนั่งอยู่หน้านิ่งท่าทางแน่วแน่กับการตัดสินใจของตัวเอง
“ผมตัดสินใจแล้วครับ ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจ”
ณิชาภัทร นวลแขและดาวเรืองมองบุรธัชอย่างหนักใจ
“แต่ย่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณชายครั้งนี้เลย”
“คุณชายแน่ใจแล้วเหรอคะว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” ดาวเรืองกล่าว
“ผมแน่ใจครับ”
“ธัชเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหาเงินลงทุนในตอนนี้ เดี๋ยวณิชาจะคุยกับคุณพรพรรณให้ยืดเวลาไปก่อน เราค่อยๆหาทางกันว่าจะหาเงินมาจากไหน”
“ผมจัดการเรื่องนี้เองได้”
“โดยการขายบ้านชุติมันต์งั้นเหรอคะ ในเวลานี้ธัชจะไปขายใครได้นอกจากบ้านประภานิชแล้ว ก็คงไม่มีใครสนใจซื้อแล้วล่ะค่ะ”
“ผมหาคนซื้อได้ก็แล้วกัน”
“ธัชได้คนซื้อรายใหม่แล้วเหรอคะ ธัชจะขายบ้านชุติมันต์ให้ใครคะ”
“นายกำพล..” บุรธัชพูด
“คุณชายขายให้นายกำพลได้ยังไง ก็รู้อยู่ว่า นายคนนี้กว้านซื้อที่ดินขายต่อให้พวกต่างชาติ ที่นาที่ไร่ดีๆก็เอาไปทำคอนโดซะหมด ลูกหลานจะไม่มีที่ดินทำกินก็เพราะคนพวกนี้แหละ” นวลแขบอก
“อย่างนี้หมายความว่า บ้านชุติมันต์ขายไปเมื่อไหร่ก็ต้องถูกทุบทิ้งใช่มั้ยคะ !”
ดาวเรืองมองบุรธัชที่นิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนยืนมองบ้านชุติมันต์อยู่อย่างตัดสินใจไม่ถูก ลุงแสวงเดินมาหยุดมองบ้านชุติมันต์ด้วยอีกคน
“อีกไม่นานบ้านชุติมันต์ก็คงเหลือแต่ชื่อ...” แสวงกล่าว
“ลุงแหวงไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันกับคุณภาสกำลังหาทางกันอยู่”
“ผมมองไม่เห็นว่าจะมีทางไหนที่จะเปลี่ยนใจคุณชายธัชได้เลยครับ ช่างเถอะครับ เราจะหวังให้คนอื่นมาช่วยรักษาบ้านนี้ได้ยังไง ในเมื่อลูกหลานคนบ้านชุติมันต์ยังไม่สนใจไยดีเลย”
ลุงแสวงเดินออกไปท่าทางราวกับแก่ขึ้นอีกสิบปี ณิชมนมองบ้านชุติมันต์อย่างชั่งใจ
“เราจะทำยังไงดี..” ณิชมนพึมพำ
พงษ์เทพเดินเข้ามายืนข้างๆณิชมน
“กำลังคิดอะไรอยู่หรือครับ”
“คุณพงษ์เทพ ! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ณิชมนมองพงษ์เทพอย่างแปลกใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินออกมาจากบ้านบุริศราวัณ ดาวเรืองเดินตามออกมา
“คุณชายธัชคะ”
“ผมขอโทษนะครับ คุณป้า ผมต้องรีบไป”
“ป้าไม่ทำให้คุณชายต้องเสียเวลามากหรอกค่ะ ป้ารู้ว่า ป้าพูดยังไง คุณชายก็คงไม่เปลี่ยนใจ คุณชายเป็นพวกถือคติ ยอมหักไม่ยอมงอ แต่การที่เรายอมผ่อนปรนให้คนอื่นบ้าง ไม่ใช่เป็นการยอมแพ้เสมอไปนะคะ คุณชาย”
“ผมทราบครับ คุณป้า”
“คุณชายพิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่า คุณชายสามารถสานต่อความฝันของท่านพ่อได้ ไร่บุริศราวัณไปได้ไกลกว่าที่ใครๆคาดคิด ถ้าคุณชายอยากเอาชนะคนบ้านสรณาลัย คุณชายก็ชนะแล้ว”
“ผมจะชนะก็ต่อเมื่อไร่สรณาลัยล่มจมเหมือนไร่บุริศราวัณเมื่อสิบปีก่อนนั่นแหละครับ คุณป้าพูดถูกแล้วล่ะครับ ไม่มีใครที่จะเปลี่ยนใจผมได้ !”
บุรธัชเดินออกไป ดาวเรืองมองตามอย่างหนักใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนกับพงษ์เทพเดินดูรอบๆ บ้านชุติมันต์
“คุณเองนะเหรอคะที่จะมาซื้อบ้านชุติมันต์”
“อย่าพูดถึงมันเลยครับ นี่ผมกลับบ้านไปต้องโดนพ่อด่าแน่ๆ เจรจาซื้อบ้านแค่นี้ยังเจรจาไม่สำเร็จ ผมมันไม่เอาไหนจริงๆ”
“ทำไมคุณชายธัชไม่ยอมขายบ้านนี้ให้คุณล่ะคะ”
“คุณชายคงเกลียดขี้หน้าผมมั้งครับ”
“คุณชายธัชน่าจะมีเหตุผลมากกว่านั้นนะคะ”
“เค้าบอกว่า เค้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนักธุรกิจที่เห็นแก่เงิน ทุกคนทำธุรกิจก็หวังรวยทั้งนั้น คุณชายธัชนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลยที่ปฏิเสธเงินของพ่อผมแล้วยังเอาเงินเป็นสิบล้านมาจมกับบ้านเก่าๆหลังนี้อีก คิดอะไรของเค้า”
“คุณชายธัชรักบ้านหลังนี้น่ะซิคะ ถึงได้ซื้อไว้ คุณชายไม่ได้มองทุกอย่างเป็นธุรกิจไปหมด.....ฉันยังพอมีความหวังอยู่..” ณิชมนตัดสินใจได้
ณิชมนตัดสินใจไปหาบุรธัชรีบเดินออกไป
“เดี๋ยวซิ คุณนอม คุณจะไปไหน”
พงษ์เทพรีบตามไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชกับอาจเดินเข้ามาในบ้านบุริศราวัณ กำพลที่นั่งรออยู่ลุกขึ้นรี่ไปหาบุรธัชทันที
“สวัสดีครับ คุณชายธัช ผมดีใจจริงๆที่คุณชายเปลี่ยนใจ ในที่สุดเราก็ได้ทำธุรกิจร่วมกันซักทีนะครับ คุณชาย”
“ก็คงเป็นครั้งนี้ครั้งเดียวแหละครับ คุณกำพล”
“ก็ไม่แน่นะครับ คุณชาย บ้านชุติมันต์นี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น ผมยังสนใจไร่องุ่นกับสวนปาล์มของคุณโชติที่คุณชายซื้อไปน่ะครับ ที่ตรงนั้นสวยมาก คุณชายจะขายทีเดียวในวันนี้เลยก็ได้นะครับ”
“ผมไม่ขาย !”
“ไม่เป็นไรครับ เอาเรื่องบ้านนี่ให้จบก่อนก็ได้ ไหนครับ คุณอาจ สัญญาซื้อขายของทางคุณ”
อาจส่งใบสัญญาซื้อขายให้กำพล บุรธัชนิ่งอึ้งเริ่มว้าวุ่นใจ

อ่านรักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 10(ต่อ) หน้าที่ 2










รักปาฏิหาริย์ตอนที่ 10(ต่อ)
รถพงษ์เทพซิ่งมาอย่างเร็วจอดเอี๊ยดที่หน้ารั้วบ้านบุริศราวัณ ณิชมนรีบร้อนลงจากรถ พงษ์เทพลงจากรถตามมา
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“คุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”
“คุณช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะ มีฉันคนเดียวที่จะจัดการเรื่องนี้ได้”
“ท่าทางคุณซีเรียสจัง มีปัญหาอะไรกับคุณชายธัชหรือครับ”
“ปัญหาทุกอย่างจะต้องแก้ไขในวันนี้..ฉันคงจะเป็นแม่บ้านประนอมอีกต่อไปไม่ได้แล้ว”
“คุณพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“อีกไม่นานคุณจะเข้าใจทุกอย่างเอง ตอนนี้กลับไปก่อนเถอะนะคะ”
ณิชมนดึงสร้อยของนวลแขออกมาดู เธอสูดหายใจลึกๆแล้วเดินเข้าไปทางบ้านบุริศราวัณอย่างห้าวหาญ
พงษ์เทพมองตามณิชมนอย่างเป็นงง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชมองกำพลที่กำลังอ่านสัญญาซื้อขายอย่างละเอียด กำพลเซ็นชื่อในสัญญาอย่างรวดเร็วแล้วส่งใบสัญญาให้กับบุรธัช เขารับใบสัญญานิ่งคิดตัดสินใจกำลังจะจดปากกาเซ็น
ณิชมนเดินมาเข้ามาเกือบถึงตัวบ้านค่อยๆหมดความมั่นใจลงเรื่อยๆ
“ถ้าเค้าไม่เชื่อเราล่ะ” ณิชมนพึมพำ
ณิชมนหันกลับไปแล้วเปลี่ยนใจหันกลับมาอีกครั้ง กำล็อกเก็ตไว้แน่น เธอเงยหน้ามองบ้านบุริศราวัณอย่างหวาดหวั่น
“คุณชายธัชคะ ฉัน..ไม่ใช่แม่บ้านประนอมค่ะ ที่จริงฉันคือ..” ณิชมนซ้อมพูด
ณิชมนอ้ำอึ้งพูดไม่ออก เริ่มใจเสีย ในขณะเดียวกันบุรธัชเซ็นชื่อลงใบสัญญาซื้อขายฉบับแรก กำพลส่งใบสัญญาคู่ฉบับส่งให้
“คุณชายเซ็นสัญญาคู่ฉบับนี้แล้ว ก็เป็นอันว่าการซื้อขายครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์”
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น บุรธัชชะงักก่อนที่จะเซ็นสัญญาคู่ฉบับ อาจถือโทรศัพท์บ้านไร้สายเข้ามา
“คุณชายครับ โทรศัพท์ครับ”
“ฉันไม่รับสายใครในตอนนี้ บอกไปว่า เดี๋ยวฉันโทรกลับ”
“คุณชายควรจะรับสายนี้นะครับ โทรศัพท์ทางไกลจากลอนดอนเธอบอกว่า เธอชื่อ คุณณิชมน ชุติมันต์ ต้องการพูดสายกับคุณชายครับ”
บุรธัชรีบไปรับโทรศัพท์จากอาจมาพูดทันที
“ฮัลโหล !”
ณิชมนถือโทรศัพท์มือถือยืนแอบๆอยู่มุมหนึ่งนอกตัวบ้าน เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงบุรธัช บุรธัชคุยโทรศัพท์กับณิชมน
“ฮัลโหล นี่ผมบุรธัชพูดครับ ฮัลโหลๆ ..”
ณิชมนยังกล้าๆกลัวๆอยู่ ก่อนทำใจกล้าพูดโทรศัพท์ด้วย
“ฮัลโหล ฉัน..ณิชมนนะคะ ฉันเป็นลูกสาวของคุณชยทัต เป็นหลานสาวคนเดียวของคุณปู่โชติ...”ณิชมนดัดเสียงแปร่งๆ
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน คุณหญิงนวลแข คุณยายของคุณกำลังตามหาตัวคุณกับอาณัชชาอยู่”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ฉันรู้ข่าวมาว่า คุณกำลังจะขายบ้านชุติมันต์”
“คุณรู้ได้ยังไง นี่คุณเป็นใคร ผมจะรู้ได้ไงว่า คุณคือคุณณิชมน ชุติมันต์จริงๆ คุณมีอะไรพิสูจน์ คุณอยู่กับอาณัชชาหรือเปล่า ขอผมพูดสายกับอาณัชชาก่อน ผมถึงจะเชื่อคุณ”
“แม่มาพูดสายกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อฉันก็แล้วแต่คุณ ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณเลย นอกจากขอคุณอย่าเพิ่งขายบ้านชุติมันต์ในตอนนี้ ฉันกำลังจะกลับไปบ้านค่ะ ฉันกลับไปเมื่อไหร่ฉันจะซื้อบ้านชุติมันต์คืนจากคุณ ได้โปรดเถอะนะคะ อย่าขายบ้านของคุณปู่เลย นะคะ คุณชายบุรธัช”
ณิชมนกดโทรศัพท์ปิดทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง
บุรธัชถือโทรศัพท์ค้างแล้วคิดหนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

อาจเดินออกมาส่งกำพล ณิชมนยืนแอบมองชะเง้อดูเหตุการณ์อย่างลุ้นๆ อาจยื่นมือให้กำพลจับเป็นการบอกลา กำพลไม่จับมือด้วยเดินหนีขึ้นรถอย่างหงุดหงิด เขาขึ้นรถขับออกไป อาจยืนรอส่งมองดูรถกำพลแล่นออกไป
ณิชมนค่อยๆลัดเลาะไปตามหน้าต่างบ้านยังไม่แน่ใจว่าบุรธัชยกเลิกการขายบ้านหรือเปล่าเธอค่อยๆย่องเข้าไปจนเห็นบุรธัชยืนอยู่ บุรธัชค่อยๆ ฉีกใบสัญญาทิ้ง
ณิชมนยิ้มอย่างดีใจหันกลับมาเกือบร้องกรี๊ดเมื่อเห็นพงษ์เทพยืนอยู่ข้างหลัง พงษ์เทพรีบปิดปากณิชมนไว้ทัน
บุรธัชหันมองไปนอกหน้าต่างรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ พงษ์เทพปิดปากณิชมนลากออกมาไกลจากบุรธัช
ณิชมนปัดมือพงษ์เทพออก
“คุณมาทำอะไรที่นี่ !” ณิชมนถาม
“แล้วคุณล่ะมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ณิชมนรีบเดินหนีออกไป พงษ์เทพรีบเดินตามไปอย่างสนใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนเดินออกมาจากบ้านบุริศราวัณ พงษ์เทพเดินมาขวางทางไว้ไม่ให้ณิชมนเดินหนี
“คุณนอม เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวไม่ได้แล้วนะ ไม่ว่าคุณจะเข้าไปทำอะไรในบ้านคุณชายธัช ตอนนี้ผมก็ติดร่างแหเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วยแล้ว บอกมาซะดีๆว่าคุณเข้าไปสืบอะไรในบ้านคุณชายธัช”
“ฉันเข้าไปสืบเรื่องที่คุณชายธัชจะขายบ้านชุติมันต์”
“เดี๋ยวนี้น้าพรเล่นอย่างนี้เลยเหรอ”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณพรพรรณนะคะ แล้วคุณก็ไม่ต้องถามอะไรมาก เพราะฉันจะไม่บอกคุณ”
“แล้วที่คุณบอกว่า คุณเป็นแม่บ้านประนอมไม่ได้อีกต่อไปหมายความว่าไง หรือว่าคุณไม่อยากทำงานเป็นแม่บ้านแล้ว ไปเป็นผู้ช่วยผมมั้ยล่ะ”
“คุณแน่ใจหรือคะว่า คุณจะได้ทำงานที่รีสอร์ตเทพสุธา”
“ไม่ได้ทำงานที่รีสอร์ต ผมไปทำงานกับพ่อก็ได้ หรือไม่ก็ขอเงินพ่อซักก้อนไปทำธุรกิจของตัวเอง ไม่เห็นจะเป็นปัญหาเลย”
“ฉันเข้าใจแล้วว่า ทำไมคุณชายธัชไม่อยากร่วมงานกับคุณคุณเป็นคนที่ได้ทุกอย่างมาง่ายเกินไป ไม่เคยจริงจังกับอะไรเลยแล้วคุณชายจะไว้ใจให้คุณทำงานด้วยได้ไง คุณใช้ชีวิตให้คุ้มค่าก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่ก็น่าจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าด้วย”
ณิชมนเดินออกไป พงษ์เทพนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ที่มหาวิทยาลัย พิมพ์นฤมลยกกล่องหนังสือบริจาคจากท้ายรถ รวิภาสเดินเข้ามาหาเธอ
“ฉันไปหาอาพรที่ไร่แล้ว อาพรไม่ได้อยู่ที่นั่น”
“ก็โทรเข้ามือถือซิคะ”
พิมพ์นฤมลยกกล่องหนังสือเดินหนี รวิภาสเดินตาม
“โทรแล้ว แต่อาพรปิดมือถือ มา..ฉันช่วย”
รวิภาสดึงกล่องหนังสือมาถือไว้ให้เองพลางเดินไปพร้อมกับพิมพ์นฤมล
“เธอรู้หรือเปล่าว่า อาพรไปไหน”
“ถ้าปิดมือถือก็แสดงว่า น้าพรคงจะประชุมอยู่ จริงซิ วันนี้น้าพรเข้าไปประชุมที่กรุงเทพฯ”
“แล้วก็ไม่บอก ให้ฉันขับรถตามหาจนทั่วจังหวัด”
เสียงมือถือของรวิภาสดังขึ้น
“หยิบมือถือให้หน่อยดิ อยู่ในกระเป๋ากางเกง” รวิภาสสั่ง
พิมพ์นฤมลคีบมือถือออกมาให้อย่างจำใจ เธอมองที่จอมือถือถึงกับต้องชะงักเพราะจอมือถือขึ้นชื่อ “ประนอม”
“พี่นอมโทรมา”
“รับให้หน่อยซิ”
พิมพ์นฤมลมองรวิภาสอย่างอยากจะบีบคอแล้วกดรับโทรศัพท์อย่างไม่เต็มใจ
“รอเดี๋ยวนะคะ”
พิมพ์นฤมลเอามือถือจ่อที่หูรวิภาส ทำท่างฮึดฮัดใส่อย่างไม่ชอบใจ
“ฮัลโหล ฮื่อใช่ นมลเป็นคนรับ ทำไมต้องตายด้วย แล้วเรื่อง..เรื่องนั้นว่าไง ไม่ต้องตามแล้วเหรอ เป็นข่าวดีจริงๆ ด้วย แล้วเจอกันนะ”
รวิภาสถอยออกมาพยักหน้าให้รู้ว่าคุยจบแล้ว พิมพ์นฤมลกดปิดมือถือแล้วเอาวางคืนให้บนกล่องหนังสือที่รวิภาสถืออยู่
“ฝากยกกล่องหนังสือไปที่ชมรมด้วยนะคะ”
พิมพ์นฤมลเดินผละออกไปอย่างหงุดหงิดใจ
“เธอจะไปไหน”
“กลับบ้าน พี่ภาสจะไปเจอพี่นอมไม่ใช่เหรอคะ รีบไปซิ เดี๋ยวพี่นอมจะรอนาน”
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไม่ล่ะ”
“ไหนบอกว่าไม่ได้หึงไงล่ะ ถ้าไม่หึงไม่ได้คิดอะไรจริงๆ เราก็น่าจะไปเที่ยวด้วยกันได้ไม่ใช่เหรอ ไปรอที่รถฉัน เดี๋ยวฉันตามไป”
รวิภาสยกกล่องหนังสือเดินออกไป พิมพ์นฤมลสองจิตสองใจว่าจะไปดีหรือไม่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณ ไร่บุริศราวัณ รวิภาสกับพิมพ์นฤมลขี่จักรยานมาด้วยกัน รวิภาสหยุดรถที่หน้าไร่องุ่น พิมพ์นฤมลหยุดรถตามมองไปรอบๆ
“พี่ภาสนัดพี่นอมมาเจอที่นี่เหรอ”
“ใครบอก”
“อ้าว แล้วนัดพี่นอมที่ไหน”
“ไม่ได้นัดซักหน่อย”
“พี่ภาสโกหกนมลทำไม”
“ฉันพูดซักคำมั้ยว่า นัดประนอมไว้ เธอพูดเองทั้งนั้น”
“แล้วชวนนมลมาที่นี่ด้วยทำไม”
“เรายังมีเรื่องติดค้างกันอยู่ เรื่องที่ฉันแพ้พนันเธอไง”
พิมพ์นฤมลนึกถึงตอนที่พนันกับรวิภาส เธอวิ่งเข้าต้นไม้ที่เป็นเป้าหมายจนชนะ พิมพ์นฤมลรีบขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยาน รวิภาสขี่จักรยานออกไป
“พี่ภาสแพ้พนันแล้วก็ต้องทำตามที่นมลให้ทำนะ สัญญากับนมลซิว่า จะไม่โกงนมล สัญญาๆๆ”
พิมพ์นฤมลยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้ารวิภาส เขาปัดมือเธอออกทำท่ารำคาญ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ในไร่บุริศราวัณรถจักรยานสองคันจอดคู่กันอยู่ รวิภาสกับพิมพ์นฤมลเดินมาด้วยกันช้าๆต่างมองกันอย่างหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน
“ตกลงเธอจะให้ฉันทำอะไร นี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้เอาคืน จะให้ฉันวิ่งรอบไร่มั้ยล่ะ ให้วิ่งกี่รอบ บอกมาได้เลย”
พิมพ์นฤมลยังคงนิ่งคิด
“เธอจะให้ฉันทำอะไรให้ ก็บอกมา เราจะได้หมดเรื่องค้างคาใจกัน”
“ต้องเป็นวันนี้ด้วยเหรอ” พิมพ์นฤมลถาม
“แล้วเธอจะยื้อเรื่องนี้ไปทำไม”
“งั้นก็ได้ค่ะ นมลหวังว่า พี่ภาสคงจะจำพูดของตัวเองได้ทุกคำนะคะ พี่ภาสต้องทำทุกอย่างที่นมลต้องการ”
“แล้วเธอต้องการอะไรล่ะ”
“นมลอยากให้พี่ภาสเลิกเห็นนมลเป็นศัตรู เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราสองคนเลย เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่ได้หรือคะ”
“ถ้าเป็นเรื่องนี้ ฉันคงทำตามที่เธอต้องการไม่ได้”
“งั้นนมลขอเรื่องอื่นก็ได้ นมลขอให้พี่ภาสเลิกติดต่อกับพี่นอม พี่นอมเป็นคนของบ้านสรณาลัย ก็ถือว่าเป็นศัตรูของพี่ภาสเหมือนกัน อย่ามายุ่งเกี่ยวกับพี่นอมอีก”
“เธอไม่มีสิทธิ์บังคับให้ฉันเลิกคบใคร ! ตอนนี้ประนอมกับฉันเป็นยิ่งกว่าเพื่อน ไม่มีวันที่ฉันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับประนอมแน่”
รวิภาสเดินออกไป พิมพ์นฤมลแน่ใจว่ารวิภาสมีใจกับณิชมนจริงๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชาภัทรดึงตัวบุรธัชเข้ามานั่งในบ้านสุธาสิน
“ธัชเล่ามาให้ละเอียดเลยนะ น้องณิชมนพูดอะไรกับธัชบ้าง แล้วทิ้งเบอร์โทรหรือที่อยู่ไว้หรือเปล่า น้องยังอยู่ที่ลอนดอนใช่มั้ย แล้วจะติดต่อกลับมาอีกเมื่อไหร่ แล้วน้องรู้เรื่องบ้านชุติมันต์ได้ยังไง”
“ผมก็บอกคุณทางโทรศัพท์ไปแล้วว่า น้องณิชมนของคุณแค่โทรมาขอให้ผมอย่าเพิ่งขายบ้านชุติมันต์แล้วเค้าก็วางสายไป แค่นั้นจริงๆ”
“แล้วทำไมธัชไม่ขอเบอร์โทรน้องณิชมนไว้ ธัชนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ”
นวลแขกับดาวเรืองเดินเข้ามา
“ณิชา !” นวลแขพูด
“อย่างนี้เราเช็คเบอร์โทรเข้าได้ใช่มั้ยคะ คุณป้า”
“เค้าคงไม่ให้เราเช็คเบอร์โทรกันง่ายๆหรอก อาจจะต้องแจ้งความกับตำรวจก่อนแล้วค่อยทำเรื่องขอข้อมูลโทรศัพท์” ดาวเรืองบอก
“ไม่ต้องเช็คเบอร์โทรอะไรทั้งนั้น ณิชมนก็บอกกับคุณชายเองว่ากำลังจะกลับมา เราก็รอให้เค้ากลับมาก็แล้วกัน ถ้าหากชยทัตมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านชุติมันต์คืน ก็แสดงว่าตอนนี้ชีวิตไม่ได้ลำบากอะไรนัก เราคงไม่ตามหาให้เหนื่อยแล้วมั้งคะ ครู” นวลแขกล่าว
“แต่ที่ดิฉันได้ข่าวมา ที่ชยทัตพาครอบครัวย้ายที่อยู่บ่อยๆก็เพราะหนีเจ้าหนี้นะคะ เราตามหาต่อไปดีกว่านะคะ คุณหญิง ให้แน่ใจจริงๆ ณัชชากับลูกยังมีความสุขดี”
“ถ้าสองแม่ลูกกำลังลำบากจริงๆ คงไม่มีเวลาตามข่าวบ้านชุติมันต์หรอกลืมไปว่า ณัชชาเป็นลูกสะใภ้บ้านชุติมันต์ไปแล้ว จะมาสนใจอะไรกับคนบ้านนี้ ณิชมนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามียายอยู่อีกคน”
นวลแขเดินออกไปอย่างน้อยใจ
“เดี๋ยวณิชาคุยกับคุณย่าเองค่ะ คุณป้า คุยเรื่องธัชก่อนดีกว่า สรุปว่าธัชไม่ขายบ้านชุติมันต์แล้วใช่มั้ย แล้วธัชจะทำยังไงต่อไปคะ”
บุรธัชนิ่งคิดยังหาทางออกไม่ได้ คนรับใช้เดินเข้ามายอบตัวรายงาน
“มีแขกมาขอพบคุณชายค่ะ”
บุรธัชหันไปมองเห็นพงษ์เทพก้าวเข้ามา ณิชาภัทรกับดาวเรืองมองอย่างแปลกใจ
บุรธัชมองพงษ์เทพเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บุรธัชเดินนำพงษ์เทพออกมาคุยที่ระเบียงบ้าน
“คุณมีธุระอะไรกับผมอีก”
“ผมมีข้อเสนอใหม่ ฟังผมก่อนนะครับ อย่าเพิ่งปฏิเสธ”
“ผมบอกแล้วว่า ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ขอรับเงินของพวกคุณ”
“แต่ถ้าทางเราขอร่วมลงทุนด้วยโดยไม่ถือว่าเป็นหุ้นส่วน ไม่ขอเป็นกรรมการบอร์ด ไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆทั้งสิ้น คุณชายจะซื้อหุ้นคืนในส่วนนี้เมื่อไหร่ก็ได้”
“แล้วคุณล่ะมีเงื่อนไขอะไร”
“ผมขอฝึกงานที่โครงการเทพสุธา ผมหมายถึงฝึกงานจริงๆ ถ้าผมฝึกงานไม่ผ่าน คุณก็ไม่จำเป็นที่จะรับผมเข้าทำงาน”
“คุณพ่อคุณมีธุรกิจตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นโครงการเทพสุธา”
“ถ้าผมไปทำงานกับพ่อ ผมจะพิสูจน์อะไรได้ล่ะครับ”
“คุณจะพิสูจน์อะไร”
“ก็พิสูจน์ว่าผมรู้จักใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ผมทำตัวไร้สาระมานานเกินไปแล้ว ผมควรจะเริ่มจริงจังกับชีวิตซักที ผมหวังว่า คุณชายจะให้โอกาสผมนะครับ”
พงษ์เทพเดินออกไป บุรธัชนิ่งคิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนเดินเข้ามาในบ้านสรณาลัย พรรณอรกับพรพรรณเดินเข้ามาพรรณอรโผเข้ามาหาณิชมนอย่างเริงร่า
“ประนอม ! นี่ต้องเป็นฝีมือของเธอใช่มั้ย ขอบใจเธอจริงๆ เลยนะ ทีนี้เราก็จะไม่มีปัญหาอะไรกับคุณชายธัชแล้ว”
“นอมทำอะไรหรือคะ”
“เห็นมั้ยคะ พี่อร ประนอมรู้เรื่องด้วยที่ไหน ประนอมจะไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คุณชายธัชยอมให้ทางคุณพงษ์เทพมาร่วมหุ้นด้วยคะ”
“อ้าว แล้วเห็นเด็กในบ้านบอกว่าประนอมออกไปกับคุณชายภาสแต่เช้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เหรอ” พรรณอรถาม
“พี่อรนี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ คุณชายภาสยิ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย แล้วพี่อรอย่าเพิ่งดีใจไป หมดปัญหาเรื่องนี้ เดี๋ยวคุณชายธัชก็ต้องมีปัญหากับเราอีกแน่ แล้ววันนี้เธอออกไปกับคุณชายภาสเหรอ ไปทำอะไรกัน”
ณิชมนอ้ำอึ้งตอบไม่ได้ พิมพ์นฤมลเดินเข้ามาหยุดฟัง
“เธอก็อย่าถามอะไรมากเลย ประนอมก็ต้องมีธุระส่วนตัวบ้างซิ ประนอมเธอสนิทกับพวกคุณชายไว้ก็ดีแล้วนะ อีกหน่อยมีปัญหาอะไรจะได้ให้ประนอมไปช่วยคุยให้ ดีมั้ย ยัยพร”
“ไม่ดีค่ะ พี่อร ให้ประนอมอยู่ห่างๆไว้เป็นดีที่สุด โครงการสร้างฝายเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เธอก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับพวกคุณชายอีก เธอน่าจะรู้ตัวดีเธอเป็นแค่แม่บ้าน เธอจะไปคบหากับพวกคุณชายในฐานะอะไร”
“เรื่องนั้นคงไม่เป็นปัญหาหรอกค่ะ น้าพร” นมลแทรก “ที่ผ่านมาก็ดูเหมือนไม่มีใครเห็นว่าพี่นอมเป็นแค่แม่บ้านเลยนี่คะ ไม่ว่าพวกคุณชายจะคบกับพี่นอมในฐานะอะไร นมลก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ สิ่งที่พี่นอมฝันไว้ ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะค่ะ”
พิมพ์นฤมลพูดแล้วเดินจากไป ณิชมนมองตามไม่เข้าใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

พิมพ์นฤมลเดินมาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
“เธอไม่มีสิทธิ์บังคับให้ฉันเลิกคบใคร ! ตอนนี้ประนอมกับฉันเป็นยิ่งกว่าเพื่อน ไม่มีวันที่ฉันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับประนอมแน่” เธอนึกถึงคำพูดของรวิภาส
พิมพ์นฤมลตัดสินใจหยิบมือถือออกมา แล้วกดรูปถ่ายคู่กับรวิภาสทิ้งไป พรรณอรเดินเข้ามานั่งข้างๆ
“มีอะไรหรือเปล่า ลูก”
พิมพ์นฤมลหันกอดพรรณอรอย่างเงียบๆ
“ยังไม่อยากพูด ก็ไม่เป็นไร นมล..แม่เป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้เลยใช่มั้ย ลูก”
“นมลเข้าใจค่ะ บางครั้งนมลก็ไม่อยากคิดถึงใคร ไม่อยากสนใจใครอยากอยู่แต่ในในโลกของตัวเอง”
“นมลรักใครเข้าแล้วใช่มั้ย” พรรณอรถาม
พิมพ์นฤมลกอดพรรณอรนิ่งไม่ยอมตอบอะไร พันธ์นฤสรร์ เดินมายืนมองพรรณอรกอดปลอบใจพิมพ์นฤมลอยู่สักพักแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ อย่างน้อยใจที่ไม่เคยได้ความเอาใจใส่จริงๆจากแม่
พรรณอรกอดพิมพ์นฤมลไว้โดยไม่ถามอะไรต่อเพราะเธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของลูกสาว
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

ณิชมนเดินเข้ามาในห้องของตัวเอง เธอหันไปเห็นถุงผ้าวางอยู่บนโต๊ะ เธอเพิ่งนึกขึ้นได้รีบหยิบกรอบรูปออกมาดูมองกรอบรูปของบุรธัช
“ยังไม่มีเวลาเอาไปซ่อมซักที”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้วพรพรรณก็เปิดประตูเข้ามาทันที ณิชมนรีบวางกรอบรูปลงแล้วเอาถุงผ้าปิดรูปบุรธัชไว้
“มีอะไรหรือคะ คุณพรพรรณ”
“ฉันสงสัยเรื่องที่นมลพูดเมื่อกี้ นมลหมายความว่าไง”
“นอมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ”
“นมลพูดเหมือนเธอคิดอะไรกับคุณชายบ้านโน้น คุณชายคนไหนคุณชายธัชหรือคุณชายภาส”
“นอม..นอมไม่ได้คิดอะไรกับใครทั้งนั้นนะคะ”
“เด็กในบ้านพูดกันให้แซดว่า หมู่นี้คุณชายพี่คุณชายน้องมาหาเธอที่นี่ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วยังคุณพงษ์เทพอีก”
“คุณพงษ์เทพ?”
“อย่าคิดว่า ฉันไม่รู้นะ ถึงฉันจะไม่อยู่ แต่ฉันก็มีหูมีตาคอยสอดส่องแทนฉัน วันนี้มีคนเห็นเธอนั่งรถตะลอนๆไปกับคุณพงษ์เทพ ถ้าเธอรักจะทำงานที่นี่ ก็อย่าทำเรื่องเสียหายเป็นอันขาด โดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย”
ณิชมนถอยหลังเอามือปัดถุงผ้าออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“นั่นอะไร”
พรพรรณขยับเข้าไปหยิบรูปบุรธัชมาดู
“ประนอม !”
“นอมอธิบายได้นะคะ !”
พรพรรณจ้องณิชมนอย่างจับผิด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

อาจเดินออกมาจากในบ้านบุริศราวัณ ณิชมนยืนกระสับกระส่ายรออยู่ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นบุรธัชก็โล่งใจ
“คุณชายธัชไม่อยู่ใช่มั้ยคะ”
“มีธุระอะไรกับคุณชายหรือครับ” อาจถาม
ณิชมนยื่นถุงใส่กรอบรูปให้อาจ
“ไม่ได้มีธุระอะไรหรอกค่ะ นอมเอาของมาคืนคุณชาย คุณชายไม่อยู่ งั้นลุงอาจช่วยรับแทนด้วยนะคะ”
อาจกำลังจะเอื้อมรับถุงใส่กรอบรูปจากณิชมนต้องชะงัก
“เธอเอาอะไรมาคืนฉัน” บุรธัชพูด
ณิชมนตกใจหันไปเห็นบุรธัชเดินเข้ามา
“รูปของคุณน่ะค่ะ ฉันเอากรอบรูปไปซ่อมให้แล้ว ก็เลยเอามาคืน”
“เธอหยิบมาจากไหน ก็เอาไปคืนที่ตรงนั้น”
“คุณรับคืนไปเลยไม่ได้เหรอคะ ฉันต้องรีบกลับไปให้ทันเวลา”
ณิชมนก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออย่างร้อนใจ
“ทันเวลาอะไร” บุรธัชถาม
“คุณพรพรรณให้เวลาฉันสองชั่วโมงเท่านั้น ให้ฉันรีบเอากรอบรูปไปใส่กระจกใหม่แล้วก็รีบเอามาคืนคุณ แล้วต้องรีบกลับไปรายงานตัวทันทีนี่เหลือเวลาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น”
“แล้วจะมายืนพูดให้เสียเวลาทำไมล่ะ” บุรธัชกล่าว
บุรธัชเดินกลับเข้าบ้านไป
“นี่คุณ !”
ณิชมนหันไปขอความช่วยเหลือจากอาจ อาจเดินแยกออกไปอย่างรู้งาน
ณิชมนหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบวิ่งตามบุรธัชไป

จบตอนที่ 10
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.3










กำลังโหลดความคิดเห็น