เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 10
สายชลวิ่งตามหาฟ้าลดา ไม่นานก็เห็นฟ้าลดาวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่อีกฝั่งของบึงน้ำ สายชลจับตามองฟ้าลดาเพื่อให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาไม่ได้ตาฝาด เมื่อมั่นใจว่าเป็นนางฟ้า ก็บอกตัวเองอย่างมุ่งมั่นว่า จะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีก
สายชลมองหาทางที่จะไปหาฟ้าลดาเร็วที่สุด แล้วก็ตัดสินใจวิ่งข้ามสนามหญ้า ทันใดนั้นสปริงเกิลจากสนามหญ้าพุ่งใส่ สายชลไม่สนใจวิ่งต่อไป
ฟ้าลดาวิ่งจ๊อกกิ้งมาตามทาง ทันใดสายชลวิ่งตัดสนามหญ้าออกมาจากด้านข้าง จับแขนเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามากอดแน่น ฟ้าลดาตกใจ
“นางฟ้า...”
ฟ้าลดางง ที่อยู่ดีๆก็มีคนมากอดเธอ สายชลดีใจจนน้ำตารื้นขึ้นมา ก่อนจะยิ้มกว้าง กอดฟ้าลดาจนมือสามารถจับข้อศอกอีกข้างได้
“นางฟ้าของสายชล นางฟ้าจริงๆ”
ฟ้าลดายังนิ่งอึ้ง
“ในที่สุด..เราก็ได้พบกัน”
สายชลกอดฟ้าลดาน้ำตาไหล ดีใจท่วมท้น แต่ฟ้าลดาไม่พอใจ...พยายามดันสายชลออกไป
“ปล่อย!!”
สายชลชะงักกับน้ำเสียงแข็งกร้าวของฟ้าลดาก็ตกใจ ผละออกมา แต่มือยังกอดฟ้าลดาอยู่
“ปล่อยฉัน!!”
ฟ้าลดาผลักสายชลเต็มแรง สายชลอึ้งไปกับแววตาดุดันของฟ้าลดา สายตาที่บอกว่าฟ้าลดาไม่รู้จักเขา
“นางฟ้า...นางฟ้าจำสายชลไม่ได้เหรอ?? นี่สายชลไง สายชล...”
“คุณจำคนผิดแล้ว”
ฟ้าลดามองไม่ไว้ใจ หันหลังจะเดินหนี แต่สายชลรั้งตัวเธอไว้ ไม่ให้ไป ฟ้าลดาหันมา..เริ่มกลัวกับท่าทางที่รุกรานของสายชล
“สายชลไม่ได้จำคนผิด นี่สายชลไงนางฟ้า สายชล..” สายชลพยายามยิ้ม ”อย่าแหย่สายชลเล่นอย่างนี้ซิ เลิกแกล้งทำเป็นจำสายชลไม่ได้ได้แล้ว”
“คุณพูดอะไร?!! ฉันไม่เข้าใจ”
สายชลจับไหล่ฟ้าลดาสองข้าง
“นางฟ้า..”
ฟ้าลดาผลักสายชลออกอย่างแรง
“หยุดเรียกฉันว่านางฟ้าซักที! ฉันไม่ใช่นางฟ้า เราไม่เคยรู้จักกัน”
สายชลงงไปหมด แต่ยังพยายามคิดว่าทำไมฟ้าลดาถึงพูดแบบนี้กับเขา แล้วสายชลก็นึกออก
“นางฟ้าโกรธสายชลใช่มั๊ย โกรธที่สายชลปล่อยให้คนพวกนั้นเอาตัวนางฟ้าไปใช่มั๊ย”
ฟ้าลดาไม่เข้าใจ
“สายชลขอโทษ ขอโทษที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนางฟ้าไม่ได้”
ฟ้าลดาสวนกลับ
“คุณพูดอะไร?!! ใครมาเอาตัวฉันไป??”
สายชลนิ่งคิด
“หรือว่าคนพวกนั้นทำอะไรนางฟ้า” สายชลจับไหล่ฟ้าลดาเขย่า
“คนพวกนั้นทำอะไรนางฟ้าใช่มั๊ย! บอกสายชลมา บอกมา!!”
ฟ้าลดาเห็นสายชลไม่ได้สติ เลยตบหน้าสายชลเพียะ!!
สายชลนิ่งงัน ฟ้าลดากลัวสายชลมากขึ้น หันหลังจะเดินหนี แต่สายชลคว้าแขนเธอไว้
“ปล่อย..”
“ไม่..” สายชลบีบแขนแน่นจนฟ้าลดาเจ็บ “สายชลจะไม่ปล่อยนางฟ้าไปไหนอีกแล้ว”
ทันใดนั้นมีคนเข้ามาคว้าไหล่สายชลให้หันมา
เจมส์ชกสายชลเปรี้ยง!! จนสายชลเลือดซึมมุมปาก ล้มไปกองบนพื้น ฟ้าลดาสะดุ้ง
“เจมส์!”
เจมส์รีบเข้ามาจับมือฟ้าลดา
“ฟ้าไม่เป็นไรใช่มั๊ย”
ฟ้าลดาส่ายหัว สายชลมองมือเจมส์ที่กุมมือฟ้าลดาก็ไม่พอใจลุกขึ้น จับไหล่เจมส์ให้หันมาแล้วต่อยคืน
เปรี้ยง!
ฟ้าลดาตกใจ เจมส์เลือดขึ้นหน้า หันไปอัดกับสายชล สายชลกับเจมส์ต่อยกันไม่หยุด ฟ้าลดาเหรอหรา
“นี่! หยุด...หยุดนะ!!”
ไม่มีใครหยุด สองคนยังซัดกันนัวเนีย ฟ้าลดาเห็นท่าไม่ดี พยายามคิดหาทางห้าม แล้วก็หันไปเห็นเข่งใส่ใบไม้แห้ง ด้านสายชลกับเจมส์ยังต่อยกัน
สายชลต่อยเจมส์ล้มไปบนพื้น สายชลจะเข้ามาซ้ำ
ฟ้าลดาเอาเข่งครอบหัวสายชล เจมส์ผลักสายชลให้พ้นทาง สายชลล้มกลิ้งไปบนพื้น เจมส์รีบลุกขึ้นมาหาฟ้าลดา
“รีบไปเหอะฟ้า”
เจมส์จับมือฟ้าลดาพาวิ่งออกไป สายชลเอาเข่งออกจากหัวเห็นใบไม้เต็มตัว หันไปเห็นเจมส์จับมือฟ้าลดาพาข้ามทางวิ่งเดินออกไป ก็รีบลุกขึ้นจะตามแต่กลุ่มคนวิ่งจ้อกกิ้งมาขวางหน้า
สายชลเสียจังหวะไปนิด พยายามแทรกกลุ่มคน ตายังมองหาฟ้าลดา แต่พอหลุดจากกลุ่มคนมาได้ สายชลก็ไม่เห็นฟ้าลดาแล้ว สายชลหัวเสียสุดๆทั้งโมโหทั้งเสียดาย
+ + + + + + + + + + + +
เมื่อกลับไปที่บ้าน สายชลทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่ได้เจอฟ้าลดา หรือเสียใจที่ฟ้าลดาทำเหมือนไม่รู้จัก สายชลเอามือสองข้างมากุมกันแน่น คิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
“สายชลต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนางฟ้า??”
สายชลหยิบมือถือ กดโทรออก รอสายไม่นาน สหัสรับสาย
“สหัส...ฉันอยากให้นายสืบประวัติผู้หญิงคนหนึ่งให้ฉัน”
สายชลแววตามุ่งมั่น จริงจัง
+ + + + + + + + + + + + + +
สหัสเดินเข้าในสวนสาธารณะ มองไปรอบๆ นึกถึงที่เขาคุยกับสายชล...
“คุณชาร์ลเจอผู้หญิงคนนั้น ตรงบริเวณไหนของสวนสาธารณะครับ”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ใกล้กับประตูทางเข้า”
สหัสมองไปบริเวณที่ใกล้ๆ กับประตูที่เขาเพิ่งเดินเข้ามา แล้วก็เห็นกล้องวงจรปิด สหัสยิ้มพอใจ เพราะมีหนทางที่จะตามตัวผู้หญิงที่เจ้านายต้องการแล้ว
ทางด้านเจมส์ที่มาส่งฟ้าลดาที่บ้าน เขาดูแขนฟ้าลดาที่เป็นรอยนิ้วมือสายชลก็โมโห
“ดูมันทำกับฟ้าดิ คิดแล้วก็เสียดาย น่าจะอัดมันมากกว่านี้“ เจมส์ใส่อารมณ์มากไปเลยเจ็บปาก “อุ๊ยยย!!!”
“ทำซ่าส์ แกเป็นมากกว่าฉันอีก ขอบใจ แกเลยต้องเจ็บตัวเพราะฉัน”
“แค่นี้เอง สบายสบายน่า”
ฟ้าลดาถอนหายใจ เจมส์มองสงสัย
“ฟ้า..เป็นอะไรรึเปล่า”
“ยังตกใจอยู่นิดๆ ผู้ชายคนนั้นเขาดูมั่นใจมากว่าฉันเป็นคนที่เขารู้จัก”
“มันบ้าไง! ต่อไปนี้ฟ้าอย่าไปวิ่งที่นั่นอีกนะ”
“แกก็ด้วย ต่อยเขาซะหนักขนาดนั้น เขาคงโกรธแกน่าดู”
“เออจริงด้วย แล้วมันจะดักตีหัวเรากลางทางรึป่าว เราต้องเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านนะฟ้า เกิดมันมาสุ่มอยู่แถวนี้”
“ฉันพูดเล่น เขาจะรู้ได้ไงว่าแกกับฉันเป็นใคร และอยู่ที่ไหน??”
ฟ้าลดาถอนหายใจเฮือกใหญ่
+ + + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น สหัสมาหาสายชลที่บ้านเช่า แล้วบอก...
“ผู้หญิงที่คุณสายชลต้องการให้ผมสืบประวัติ...ผมสืบมาได้เรื่องแล้วครับ”
“เร็วดีนี่”
สหัสยื่นรูปที่แค๊บมาจากกล้องวงจรปิดให้ สายชลรับมาดูเห็นเป็นรูปฟ้าลดาที่สวนสาธาณะ
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อ ฟ้าลดา”
สายชลฟังแล้ว นึกไปถึงครั้งที่ยาซะเคยบอกไว้ว่านางฟ้าของเขาชื่อฟ้าลดา เขาจึงมั่นใจมากว่าผู้หญิงที่เขาเจอคือนางฟ้าจริงๆ
สหัสเล่าต่อ...
“คุณฟ้าลดา นามสกุล พิมุขมนตราครับ”
สายชลชะงักหันมามองสหัส
“พิมุขมนตรา? นี่มันนามสกุลคุณแพร”
“ครับ...คุณฟ้าลดาเป็นน้องสาวคนเดียวของคุณชมพูแพร”
สายชลอึ้ง...นึกไปถึงสิ่งที่ยาซะบอกว่าฟ้าลดากลับไปกับพี่สาว นึกไปถึงหมอวัฒนาที่ถูกแนะนำว่าเป็นหมอของน้องสาวชมพูแพร และเป็นศัลยแพทย์ด้านประสาทและสมอง สายชลครุ่นคิด นิ่งไปนานจนสหัสแปลกใจ
“เออ คุณชาร์ลครับ...”
สายชลได้สติ หันมาทางสหัส แล้วก็รีบลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าสตางค์ เอานามบัตรหมอวัฒนาออกมา ก่อนจะหันมายื่นให้สหัส
“สืบให้ฉันอีกเรื่อง ฉันอยากรู้ว่าหมอวัฒนารักษาโรคอะไรให้นางฟ้า..”
สหัสชะงัก
“ใครนะครับ??”
สายชลกระแอม
“ฉันหมายถึงฟ้าลดา ช่วยหน่อยนะสหัส”
“ครับ”
สหัสรับนามบัตรมาเก็บแล้วเดินออกไป สายชลหยิบรูปฟ้าลดาขึ้นมาดูอีกครั้ง...
+ + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
สายชลส่องกล้องดูดาวไปที่บ้านหลังเล็ก แล้วเขาได้เห็นฟ้าลดาออกมาจากบ้านหลังเล็ก สายชลยิ้มด้วยความดีใจ
“นางฟ้า...ที่แท้เราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”
สายชลส่องกล้องดูฟ้าลดาต่ออย่างสุขใจ ทางด้านฟ้าลดาไหว้ชมพูแพรกับป้าเนียม ที่มายืนรอส่ง
“ฟ้าไปทำงานนะคะ”
“ทำงานดีๆล่ะยัยฟ้า อย่าเกี่ยงงาน อย่าขี้เกียจ”
“ค่ะ”
ฟ้าลดากำลังจะไป ชมพูแพรพูดต่อ
“เจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ห้ามอีโก้”
“ค่ะ”
ฟ้าลดาคิดว่าพูดจบแต่..
“อย่าคิดว่าตัวเองจบนอก แล้วจะทำตัวเชิดหยิ่ง ไม่เห็นหัวเพื่อนร่วมงาน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคนเขาจะหมั่นไส้ และที่สำคัญห้ามไปสายเด็ดขาด”
“ฟ้าจะไปสายก็เพราะพี่แพรนั่นแหละ ยาวววววเลย”
ป้าเนียมอมยิ้ม ชมพูแพรชะงัก ก่อนยิ้มเขินที่โดนน้องแซว
“แหม ก็มันอดห่วงไม่ได้นี่”
ฟ้าลดาเข้ามากอดเอวชมพูแพร
“น้องสาวพี่แพรคนนี้เก่งอยู่แล้ว พี่แพรสบายใจได้ค่ะ” ชมพูแพรพยักหน้า ” ฟ้าไปนะคะ”
ฟ้าลดาหอมแก้มชมพูแพร เข้าไปหอมแก้มป้าเนียม แล้วก็ขึ้นรถขับออกไป
สายชลเห็นฟ้าลดาขับรถออกไปจากบ้าน สายชลละสายตาออกมา แล้วมองตามฟ้าลดา แววตาเป็นประกายด้วยความชื่นใจ พลันเสียงมือถือดังขึ้น สายชลเดินเข้าไปในห้องแล้วหยิบมือถือมากดรับ
“ว่าไงสหัส...” สายชลนิ่งฟัง ”ได้ประวัติการรักษาของฟ้าลดามาแล้ว?”
สายชลเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอยากรู้
+ + + + + + + + + + + +
สายชลไปพบกับสหัสที่บริษัท สหัสยื่นซีดีให้ สายชลรับมา...
“ประวัติการรักษาคุณฟ้าลดา อยู่ในนี้ครับ”
“นายเอาออกมาจากโรงพยาบาลได้ไง”
สหัสเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ถูกัน
“เงินไงครับ”
สายชลยิ้ม
“นายนี่มันสุดยอดจริงๆ”
“ขอแค่คุณชาร์ลบอกมาว่าต้องการอะไร ผมทำให้ได้ทุกอย่าง”
สายชลพยักหน้าด้วยความพอใจ รีบเอาซีดีใส่เข้าโน้ตบุ๊ก แล้วเปิดออกดู มีแต่ภาษาอังกฤษเต็มไปหมด
“ศัพท์เฉพาะทางแพทย์ทั้งนั้น ฉันอ่านไม่เข้าใจ”
สหัสออกความเห็น
“ผมว่าคุณชาร์ลเอาให้คุณพอล เพื่อนคุณไมเคิลที่เป็นหมอช่วยดูมั๊ยครับ เขาต้องช่วยคุณได้แน่ๆ”
สายชลเห็นด้วยทันที ติดต่อพอลซึ่งอยู่ต่างประเทศ โดยคุยกันผ่านเวบแคม สหัสยืนอยู่ข้างๆ พอลดูข้อมูลอยู่ครู่งหนึ่งจึงเล่า...
“เพื่อนของยู เข้ารับการรักษาโรคความจำเสื่อม ท่าทางเขาจะเป็นรุนแรง เพราะขั้นตอนการรักษาสุดท้าย คือการช๊อตไฟฟ้า”
สายชลตกใจ
“ช๊อตไฟฟ้า?!!!”
“เยส..”
“แล้วมันจะทำให้ความจำบางส่วนของเขาหายไปมั๊ยครับ”
“ยูหมายความว่ายังไง??”
“เออ..สมมตินะครับ ผู้หญิงคนนี้เคยรู้จักกับคนๆหนึ่ง แล้วอยู่มาวันนึง ผู้หญิงคนนี้ก็ทำท่าเหมือนไม่รู้จักคนๆนี้แล้ว มันเป็นเพราะผลจากการรักษารึเปล่า”
“ก็มีความเป็นไปได้สูง บางคนความจำกลับมาทั้งหมด บางคนจำได้แค่ 70 - 80 %”
สายชลนิ่งอึ้งไป
“ขอบคุณมากครับ”
ภาพที่หน้าจอโน้ตบุ๊กดับไป สหัสมองสายชลด้วยความสงสัย
“คุณชาร์ล รู้จักกับคุณฟ้าลดามาก่อนเหรอครับ”
สายชลหันไปทางสหัสหน้าเครียด
“นางฟ้า หรือ ฟ้าลดาเป็นภรรยาฉัน”
สหัสตกใจมาก สายชลลุกขึ้นยืนมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างใช้ความคิด
“ฉันต้องทำให้นางฟ้าจำฉันอีกครั้งให้ได้!!!”
สายชลบอกอย่างมุ่งมั่น
(อ่านต่อหน้า 2)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 10 (ต่อ)
ชมพูแพรหันไปมองสายชล แววตาเป็นประกายด้วยความดีใจ
“เย็นนี้คุณชาร์ลจะมาทานข้าวบ้านแพร?!”
“ครับ แต่คุณแพรไม่ต้องเตรียมอะไรนะครับ มื้อนี้ผมขอแสดงฝีมือเอง”
ชมพูแพรประหลาดใจ
“อย่าบอกนะคะว่าคุณทำอาหารเป็น”
“ถูกต้องครับ เพื่อนคนนี้อยากทำอะไรตอบแทนเพื่อนที่แสนดีคนนี้บ้าง ถ้ายังไงชวนน้องสาวคุณแพรมาทานด้วยกันนะครับ”
“ได้ค่ะ”
สายชลยิ้มพอใจ ทั้งคู่เดินกันต่อไป ทันใดนั้นส้นรองเท้าชมพูแพรหัก ชมพูแพรจะล้ม
“ว๊าย!!”
สายชลรีบประคอง โอบเอวไว้แน่นกันไม่ให้ล้ม ชมพูแพรหันไปทางสายชลหน้าห่างกันแค่คืบ
“เป็นไงครับคุณแพร” สายชลถามอย่างเป็นห่วง
ชมพูแพรจะยืน แต่เจ็บข้อเท้า
“โอ๊ย!”
“ท่าทางข้อเท้าคุณแพรจะพลิกแล้วล่ะครับ ห้องผมอยู่ตรงนี้ ไปนั่งในห้องผมก่อนดีกว่า”
“ค่ะ”
สายชลประคองชมพูแพรเดินออกไป ชมพูแพรรู้สึกสะท้านไหวกับมือชายหนุ่มที่โอบรอบเอวเธอ
เมื่อพาเข้าไปนั่งในห้อง สายชลนวดข้อเท้าให้ ชมพูแพรมองสายชลเคลิ้มด้วยความรู้สึกดี สายชลเงยหน้ามอง ชมพูแพรหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ดีขึ้นมั๊ยครับ”
ชมพูแพรขยับข้อเท้า
“ดีขึ้นค่ะ แต่ยังตึงๆอยู่นิดหน่อย”
สายชลพยักหน้ารับแล้วก็นึกอะไรออก ลุกไปเอารองเท้าเดินในบ้านมาวางตรงหน้าชมพูแพร
“ผมเพิ่งซื้อมา คุณแพรใส่ไปก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
สายชลช่วยใส่รองเท้าให้ ชมพูแพรประทับใจสุดๆ
“ขอบคุณมากนะคะ”
ชมพูแพรลุกจะเดิน แต่ยังเดินไม่ถนัด สายชลเลยเข้าไปประคอง
“ผมพาคุณแพรไปส่งที่ห้องดีกว่า”
สายชลประคองพาชมพูแพรเดินออกจากห้องทำงานของตนเอง พาไปส่งในห้องทำงานของเธอ เขาใกล้ชิดมากจนทำให้ชมพูแพรร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
“คุณคุณชาร์ลส่งแพรแค่นี้ก็พอค่ะ”
สายชลพยักหน้ารับ แล้วปล่อยมือ ชมพูแพรค่อยๆเดินเข้าไป แต่กลับเซจะล้ม สายชลเห็น รีบพุ่งเข้าไปคว้าตัวไว้ แต่สายชลกลับทรงตัวไม่อยู่ ล้มไปบนโซฟา ชมพูแพรล้มตามลงไปนั่งตัก สองคนมองหน้ากัน
หมอวัฒนามาถึงหน้าห้องทำงานชมพูแพร เปิดประตูเข้าไป เห็นสายชลกำลังพยุงชมพูแพรให้ยืนพอดี หมอวัฒนาผงะ สายชลกับชมพูแพรหันไป
“คุณหมอมาพอดี ช่วยมาดูคุณแพรหน่อยเถอะครับ” สายชลรีบบอก
หมอวัฒนาตกใจ
“แพรเป็นอะไรครับ”
หมอวัฒนาหันไปมองชมพูแพรเป็นห่วง เข้าไปช่วยดูอาการที่ข้อเท้าให้ ส่วนสายชลออกจากห้องไป
“ไปหาหมอมั๊ยครับ”
“มีคุณหมอตรงนี้แล้ว จะให้แพรไปหาหมอที่ไหนอีกคะ”
หมอวัฒนายิ้ม แล้วลุกมานั่งข้างๆ ชมพูแพรสังเกตเห็นปลาสเตอร์ที่พันนิ้วหมอวัฒนาหลายนิ้ว
“นิ้วโดนอะไรมาคะ”
หมอวัฒนายิ้มแหย เอากระติกใส่น้ำซุปมาวางตรงหน้าชมพูแพร
“ผมต้มซุปไก่มาให้แพรน่ะครับ ไม่ทันระวังก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
“โธ่พี่หมอ...ไม่น่าต้องลำบากทำเอง ซื้อเอาก็ได้ ขอบคุณมากนะคะ”
หมอวัฒนาจับมือ...
“เห็นแพรทำงานหนัก ผมเป็นห่วง อะไรที่ทำได้ ผมก็อยากทำให้แพร”
หมอวัฒนาส่งยิ้มหวาน
“ทานเลยมั๊ยครับ”
“ค่ะ”
หมอวัฒนาเปิดฝา แล้วก็เทซุปใส่ลงในฝาให้ชมพูแพร ระหว่างนั้น ชมพูแพรกลับมองรองเท้าของสายชลที่ใส่อยู่ แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีกับสายชล ปลื้มมากกว่าซุปที่หมอวัฒนาทำให้เสียอีก...
+ + + + + + + + + + + +
ออฟฟิศฟิล์มแฟลช...
วีรเดชเรียกพยักงานเข้าประชุม เจมส์ลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ มองวีรเดชที่นั่งหัวโต๊ะ
“เอาจริงเหรอพี่!!!”
“เออ!!”
เจมส์นั่งลงอย่างเซ็ง
วีรเดชอธิบายต่อ...
“ก็อย่างที่รู้ เศรษฐกิจตกสะเก็ด งานน้อย เงินหด ข้าวยากหมากแพง บริษัทเล็กๆอย่างเรามีความเสี่ยงสูงที่จะเจ๊ง เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันหางานเข้าบริษัท ถ้าใครทำได้...ฉันให้ห้าเปอร์เซ็นต์!”
“ห้าเปอร์เซ็นต์?!! น้อยไปมั๊งพี่”ฟ้าลดาแย้ง
“เด็กใหม่ ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง”
ฟ้าลดาเงียบพูดไม่ออก วีรเดชลุกขึ้นยืน เอามือเท้าโต๊ะ กวาดตามองทุกคนหน้าโหด
“ถ้าใครมีปัญหา..ก็ออกไปซะ”
ทุกคนเงียบ ไม่กล้าพูด วีระเดชประกาศเลิกประชุมทันที...
เมื่อกลับมาที่โต๊ะทำงาน ฟ้าลดาโยนสมุดลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วก็นั่งลง
“เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นคนเคี่ยวขนาดนี้”
“นี่ยังน้อยนะพี่ฟ้า เมื่อก่อนพี่วีแกเป็นหนักกว่านี้อีก”จุ๊บอก
“ถ้าใครลืมปิดคอมฯ ปิดไฟ ปิดแอร์ ต้องจ่ายคนละ 500” แป๊ะเล่าต่อ
“เบิกปากกา ดินสอ ห้ามเกินสามด้ามต่อปี”เจมส์นินทาต่อ
ฟ้าลดาตาโต มองทุกคนงงๆ
“โอ้โฮ...สุดยอด!! แล้วทนกันได้ไง”
“ก็งานมันหายากนี่จ๊ะฟ้าจ๋า อะไรทนได้ก็ต้องทน” ธงไทยยิ้มแหยๆ
“เราขอโทษนะ ที่พาฟ้ามาลำบาก เราไม่นึกว่ามันจะเป็นแบบนี้” เจมส์รู้สึกผิด
“ถ้าฟ้าคิดว่าทนพี่วีไม่ไหว จะออกก็ได้นะ แต่ไทยคงคิดถึงฟ้าแย่ คิดถึงทุกนาทีที่กระพริบตาเลยล่ะจ๊ะ” ธงไทยว่าแล้วก็ทำตาปิ๊งๆ
“เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ฉันยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอก” ฟ้าลดากอดอกหน้าตามุ่งมั่น “สักวันฉันต้องทำให้อีตาพี่วีหายซ่าส์ให้ได้ คอยดู!!”
ระหว่างนั้นเสียงมือถือฟ้าลดาดังขึ้น ฟ้าลดาหยิบขึ้นมากดรับ
“ว่าไงคะพี่สาวสุดสวย....เย็นนี้? ได้เลยค่ะ”
ฟ้าลดาวางสาย หันไปเจอเจมส์กับธงไทย
“เย็นนี้มีนัดแล้วเหรอฟ้า” เจมส์ถาม
“อื้อ...”
“ว้าน่าเสียดาย ว่าจะไปชวนฟ้าไปหาอะไรกินซักหน่อย” ธงไทยรีบบอก
“วันหลังแล้วกัน วันนี้เจ้านายพี่แพรจะมาทานข้าวที่บ้าน”
ฟ้าลดานึกถึงเจ้านายของพี่สาว แล้วอยากเห็นหน้าขึ้นมาว่าหล่อขนาดไหนกันเชียว
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรแต่งตัวสวย แต่งหน้า ทาตา ทาแก้ม ทาปากสีแดงสด แล้วยืนดูตัวเองหน้ากระจกจนรู้สึกมั่นใจในความสวยของตัวเอง แล้วจึงเดินลงมาจากห้อง ป้าเนียมกับแหวนเห็นก็ตะลึง
“ว้าว ว้าว ว้าว ว้าว คุณแพรสวยมากเลยค่ะ “แหวนปลื้ม
ชมพูแพรยิ้มปลื้ม
“วันนี้ต้องเป็นวันพิเศษอะไรแน่ๆเลยใช่มั๊ยคะ” ป้าเนียมถาม
“ถ้าให้แหวนเดา คุณแพรต้องมีนัดกับคุณหมอแน่ๆ ฟันธง!! ชิมิค่ะ”
ชมพูแพรหน้าเจื่อน ยังไม่ทันตอบ เสียงสายชลดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
ทั้งสามคนหันไปเห็นสายชลเดินเข้ามา ชมพูแพรดีใจ ป้าเนียมกับแหวนอึ้งและงง จนต้องหันมามองหน้ากันเอง
“อ้าว?? ไม่ใช่หมอนี่น่า”
+ + + + + + + + + + + +
สายชลเตรียมอาหาร นวดแป้งทำพิซซ่า ชมพูแพร ป้าเนียม แหวน มองด้วยความแปลกใจ
“แพรไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าคุณชาร์ลทำพิซซ่าเป็น?”
สายชลพูดไปด้วยทำไปด้วย
“ตอนผมเรียนเมืองนอก ผมเคยทำงานร้านพิซซ่าครับ”
“อย่างคุณชาร์ล ยังต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอีกเหรอคะ”
“คุณพ่อผม...ท่านสอนให้ผมรู้จักช่วยเหลือตัวเอง ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องหาเงินซื้อเอง”
ชมพูแพรยิ่งรู้สึกดี สายชลหันไปทางทุกคน
“เรามาช่วยกันทำดีมั๊ยครับ”
ทั้งสามคนพยักหน้ารับ สายชลนวดแป้งพิซซ่า เอาแป้งขึ้นมาหมุนเป็นแผ่นใหญ่ ทุกคนทำตาม แต่หล่นแปะ หล่นแปะหลายรอบ พากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน
สายชลเอาซอสลงบนหน้าแป้งพิซซ่า หันไปเห็นแป้งเลอะจมูกชมพูแพร สายชลเอื้อมมือไปเช็ดแป้งที่จมูกให้ ชมพูแพรชะงัก สายชลยิ้มแบบไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับชมพูแพร ก่อนจะหันไปทำพิซซ่าต่อ โดยมีแหวนคอยช่วย ชมพูแพรอมยิ้ม ป้าเนียมมองสีหน้าชมพูแพรแล้วก็พอจะจับความรู้สึกได้
ไม่นานนัก พิซซ่าถาดใหญ่ จานสลัดชามโต วางบนโต๊ะ ชมพูแพรกับสายชลยืนมองอยู่ด้วยกัน
“น่าทานมากเลยค่ะ”
“แต่ไม่รู้รสชาติจะอิตาเลียน หรือว่าจะอี๋จนเลี่ยนนะครับ”
ชมพูแพรหัวเราะ
“ต้องอร่อยอยู่แล้วล่ะค่ะ ก็แพรช่วยทำด้วยนี่”
สายชลยิ้ม
“เออ แพรขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ เลอะแป้งไปหมดเลย”
“ครับ”
ชมพูแพรเดินออกไป พลันเสียงรถดังขึ้น สายชลหันไปมอง
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาลงจากรถ...
หันไปเจอสายชลยืนอยู่ สายชลยิ้มดีใจที่ได้เจอฟ้าลดาอีกครั้ง ฟ้าลดาเห็นสายชลก็งงๆ รู้สึกคุ้นๆ แล้วก็จำได้ว่าเคยเจอที่สวนสาธารณะ
ฟ้าลดาตื่นกลัว
“นาย!! นายเข้ามาบ้านฉันได้ไง!!”
สายชลผงะนึกได้ว่าฟ้าลดาคงกลัว...
“นางฟ้า..เอ๊ย เอ่อ คุณฟ้าลดา...”
ฟ้าลดายิ่งตกใจมากขึ้น
“นายรู้จักชื่อฉัน?!! นายสะกดรอยตามฉันมาใช่มั๊ย! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!!”
สายชลเดินเข้ามาพยายามจะอธิบาย
“คุณฟังผมก่อน”
ฟ้าลดากลัวมาก ถอยกรูดไปตั้งหลัก แล้วก็เห็นไม้กวาดทางมะพร้าว คว้าขึ้นมา เงื้อไปด้านหลัง สายชลชะงัก
“ถ้านายเข้ามา เจอดีแน่!!”
“ผมไม่ได้จะมาทำอะไรคุณนะ”
“ไม่ต้องพูด ออกไป” ฟ้าลดาเอาไม้จิ้มๆสายชล “ออกไปซิ ออกไป”
สายชลจับไม้กวาดหมับ ฟ้าลดาตกใจ
“ฟังผมก่อนคุณฟ้าลดา”
“ปล่อยนะ”
ฟ้าลดายื้อไม้กวาดกลับมา จังหวะเดียวกับสายชลปล่อยไม้ ทำให้ฟ้าลดาเสียหลัก จะล้มหงายหลัง สายชลตกใจ รีบพุ่งเข้าไปรับไว้ ฟ้าลดาอยู่ในอ้อมกอดสายชล ทำให้ยิ่งโมโห นึกว่าเขาฉวยโอกาสจึงชกหน้า เปรี้ยง!!
“โอ๊ย!!”
สายชลปล่อยฟ้าลดาเอามือกุมหน้าตัวเอง ฟ้าลดาล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างแรง
“อุ๊ยยยย!”
ฟ้าลดาหันไปคว้าไม้กวาดทางมะพร้าวขึ้นมา แล้วลุกขึ้นไล่ตี
“นายตายแน่..ไอ้โรคจิต! นี่แน่นี่แน่”
ฟ้าลดาไล่ตีไม่หยุด สายชลพยายามปัดป้องตัวเอง
“เฮ้ย! เดี๋ยว!! คุณ...!! เฮ้ย...ฟังผมก่อน”
สายชลถอยไปจนหลังชนประตูหน้าบ้าน ฟ้าลดาเงื้อไม้กำลังจะฟาด ชมพูแพรออกมาเห็นก็ตกใจ
“หยุดนะยัยฟ้า!”
ฟ้าลดาหันไปเห็นชมพูแพรก็รีบพูด
“พี่แพรเข้าบ้านไปค่ะ อย่าออกมา มันอันตราย”
ชมพูแพรรีบออกมางงๆ
“ฟ้าทำอะไร”
“ไอ้หมอนี่มันบ้าค่ะพี่แพร พี่แพรรีบเข้าบ้านไปซิคะ”
“ไปกันใหญ่แล้วฟ้า นี่คุณชาร์ล ประธานสายการบินเซเว่นซี “
ฟ้าลดาอึ้ง หันไปมองสายชลด้วยความตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ
+ + + + + + + + + + +
ฟ้าลดายกมือไหว้สายชลหน้าจ๋อย สายชลกับชมพูแพรยืนอยู่ข้างกัน
“ฟ้าขอโทษค่ะ ฟ้าไม่ทราบว่าคุณเป็นเจ้านายพี่แพร”
“ไม่เป็นไรครับ ผมผิดเองที่วันก่อนจู่โจมคุณมากเกินไป ผมนึกว่าคุณเป็นคนที่ผมรู้จักจริงๆ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณกลัว”
ฟ้าลดายิ้มๆ สายชลมองเธอด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ
“ถ้าเข้าใจกันแล้ว ก็ไปทานอาหารกันเถอะค่ะ”
ชมพูแพรกับฟ้าลดาเดินไปก่อน สายชลมองตามฟ้าลดารู้สึกดีใจจนยิ้มไม่หุบที่ได้เจอนางฟ้าของเขาอีกครั้ง
“นางฟ้าของสายชล นิสัยไม่เปลี่ยนจริงๆ”
สายชลยิ้มมีความสุข ก่อนเดินตามสองพี่น้องกลับไป
(อ่านต่อหน้า 3)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 10 (ต่อ)
ขณะนั่งที่โต๊ะอาหาร ฟ้าลดาใช้มือดึงพิซซ่าออกมา ชมพูแพรเห็นแล้วก็ไม่พอใจ
“ยัยฟ้า..เสียมารยาท ใช้ช้อนส้อมซิจ๊ะ”
“ใครเขากินพิซซ่า ใช้ช้อนส้อมกันพี่แพร”
“นาง...เอ่อ คุณฟ้าพูดถูกครับ ต้องใช้มือกินถึงจะอร่อย”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพร
“เห็นมั๊ยคะ”
สายชลหยิบพิซซ่าให้ชมพูแพร แล้วก็หยิบให้ตัวเอง
“ลองดูครับคุณแพร”
สายชล ฟ้าลดา ชมพูแพรใช้มือกินพิซซ่า ทั้งหมดกินพิซซ่าด้วยความเอร็ดอร่อย แล้วสายชลก็หันไปทางฟ้าลดา
“คุณฟ้าทำงานที่ไหนเหรอครับ”
“ฟ้าเพิ่งได้งานทำที่บริษัทโฆษณาค่ะ”
สายชลคิดแล้วก็นึกอะไรออก
“อย่างนี้ก็ดีเลยครับ เซเว่นซีกำลังหาบริษัทที่จะมาทำหนังโฆษณา เพื่อประชาสัมพันธ์สายการบินพอดี”
ชมพูแพรมองสายชลแปลกใจ แต่ฟ้าลดาดีใจมาก
“จริงเหรอคะ”
“ครับ”
“คุณชาร์ลคะ แต่เราเพิ่งทำโฆษณาไปเมื่อต้นปีที่แล้วเองนะคะ” ชมพูแพรแย้ง
“แต่กว่าโฆษณาชุดใหม่จะฉาย ก็คงประมาณปลายปีหรือต้นปีหน้า ซึ่งผมว่าเรารีบทำไว้ก่อนก็ดี เพราะตอนนี้สายการบินใหม่ๆเยอะเหลือเกิน”
“คุณชาร์ลมองการณ์ไกลดีจังเลยค่ะ”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ฟ้าจะรีบเสนอเจ้านายทันทีเลยนะคะ คุณห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาด”
“ครับ”
ฟ้าลดายิ้มร่าเริง สายชลก็พลอยมีความสุขไปด้วย แล้วก็หันไปยิ้มให้ชมพูแพร พลันเสียงมือถือชมพูแพรดังขึ้น ชมพูแพรหยิบมือถือที่วางบนโต๊ะมาดูเห็นชื่อหมอวัฒนาก็เซ็งไป
“แพรขอตัวรับสายนี้ซักครู่นะคะ”
“เชิญครับ”
ชมพูแพรรีบเดินออกไป แล้วรับสายหมอวัฒนาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“ค่ะ...พี่หมอ”
“ผมออกเวรแล้ว ว่าจะชวนแพรไปหาอะไรทาน ผมไปรับที่บ้านนะครับ”
ชมพูแพรหันไปมองสายชล แล้วก็โกหก
“แพรเหนื่อยน่ะค่ะ ไม่อยากออกไปไหน”
“แพรไม่สบาย เป็นอะไร หรือว่ายังเจ็บข้อเท้าอยู่”
“แพรไม่ได้เจ็บข้อเท้าแล้วค่ะ แพรรู้สึกเพลียนิดหน่อย พี่หมอไม่ต้องห่วงนะคะ แพรว่าจะทานยาแล้วก็นอนเลย”
“ถ้างั้นก็รีบนอนนะครับ ถ้ารู้สึกไม่ดี โทรหาผมได้ตลอดนะ”
หมอวัฒนาวางสายอย่างเป็นห่วงชมพูแพรมาก ขณะที่หญิงสาวสบายใจ ไปร่วมวงที่โต๊ะอาหารต่อ...
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดากับชมพูแพรออกมาส่งสายชลที่หน้าบ้าน...
“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้ออร่อยนะคะ”
“ถ้าคุณแพรชอบ ผมมาทำให้ทานบ่อยๆได้นะครับ”
ชมพูแพรปลื้มมาก
“งั้นแพรไม่เกรงใจนะคะ”
“ครับ”
สายชลกับชมพูแพรยิ้มให้กัน ฟ้าลดาเหล่มองชมพูแพรกับสายชลแปลกใจ
“เออ คุณฟ้าครับ”
ฟ้าลดาหันมา
“ผมว่าผมไปพบเจ้านายคุณฟ้า ด้วยตัวเองวันพรุ่งนี้ดีกว่า คือผมร้อนใจ พอคิดอะไรได้ก็อยากรีบจัดการให้เสร็จๆ”
“ได้ค่ะ”
“เราไปด้วยกันนะครับ ผมมารับ”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“ผมกลับล่ะครับ”
สายชลเดินออกไป ชมพูแพรยังมองตามสายชลด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ฟ้าลดาเห็นก็รีบกระแอมเสียงดัง ชมพูแพรสะดุ้งหันมา
“ฟ้าเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่แพรถึงได้ปลื้มคุณชาร์ลมากขนาดนี้ ก็เขาทั้งหล่อ ทั้งเป็นสุภาพบุรุษ ปลื้มได้...แต่ห้ามหลงรักเขาเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นฟ้าจะฟ้องพี่หมอ”
“ตกลงเราเป็นน้องสาวพี่ หรือน้องสาวพี่หมอกันแน่จ๊ะ ห่วงกันจริงห่วงกันจัง พี่ชักน้อยใจแล้วนะ”
ฟ้าลดาโผกอดชมพูแพรอ้อนๆ
“โอ๋ๆๆ อย่างอนนะคะพี่สาวคนสวยของฟ้า ยังไงฟ้าก็รักพี่แพรมากกว่าพี่หมอ มากกว่าใครๆในโลกอยู่แล้ว พี่แพรเป็นทั้งพี่เป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งแม่ของฟ้านี่หน่า”
ชมพูแพรผละออกจากน้อง
“ขอให้มันจริงเถิ๊ด ไม่ใช่พอไปเจอคนอื่น แล้วก็ลืมพี่”
“ฟ้าไม่มีทางเห็นคนอื่น ดีกว่าพี่แพรอยู่แล้วล่ะค่ะ”
ชมพูแพรเอามือบีบจมูกฟ้าลดา ด้วยความรักและเอ็นดู สองพี่น้องยิ้มให้กันอย่างมีความสุขก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้าน
+ + + + + + + + + + +
ทางด้านสายชล เมื่อกลับไปที่บ้าน ได้นำสร้อยที่เคยสวมให้ฟ้าลดา ในวันแต่งงานที่เกาะมินออกมาดู ความรู้สึกเต็มไปด้วยความหวัง...
“อีกไม่นาน...นางฟ้าจะต้องจำสายชลได้”
สายชลล้มตัวลงนอน พลันเสียงมือถือดังขึ้น สายชลหยิบมือถือมากดรับสาย
“สายชล ครับพ่อ ว่าไงนะครับ!!!”
หลังจากคุยกับไมเคิลแล้ว สายชลโทรหาสหัสทันที สหัสตกใจย้อนถามเสียงดัง...
“คุณเพลินตา กับคุณพิสมัยจะมาถึงวันพรุ่งนี้!!”
“ทำไมต้องเสียงดังขนาดนี้” สายชลหัวเราะ ”หรือว่าดีใจที่คู่ปรับจะมา”
“โธ่คุณสายชล อย่าล้อผมเล่นอย่างนี้ซิครับ แล้วครั้งนี้คุณเพลินตาจะอยู่นานแค่ไหน”
“ไม่มีกำหนด เพราะว่าพ่อให้เพลินตามาฝึกงานที่บริษัท”
สหัสยิ่งอึ้ง
“ไฟลท์จะมาถึงตอนเที่ยง นายไปรับด้วย“
“ครับ”
สหัสวางสายด้วยความเซ็งสุดๆ
“สนุกล่ะคราวนี้ เฮ้อ”
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันรุ่งขึ้น...
หมอวัฒนามาหาชมพูแพร และได้แวะไปหาฟ้าลดาที่บ้านเล็ก ฟ้าลดายื่นถุงกระดาษให้...
“ของฝากค่ะ”
หมอวัฒนารับมาเปิดดู
“อะไรเอ่ย?” หมอวัฒนาหยิบออกมา ”เนคไท! รู้ใจพี่จริงๆ สีโปรดซะด้วย”
“ใส่เลยซิคะพี่หมอ”
“ได้เลย”
หมอวัฒนาเอาเนคไทที่ผูกอยู่ออก
“ฟ้าใส่ให้ค่ะ”
ฟ้าลดาเอาเนคไทคล้องคอหมอวัฒนาแล้วผูกไทด์ให้ สายชลเดินมาเห็นฟ้าลดากับหมอวัฒนาก็ชะงักหยุดมอง ฟ้าลดาผูกไทด์เสร็จ แล้วก็ถอยออกมายืนเล็ง
“เป็นไง?” หมอวัฒนาโพสต์ท่า
“หล่อที่สุด เท่ห์ที่สุด”
“ขอบใจนะจ๊ะ”
หมอวัฒนาหยิกแก้มฟ้าลดาสองข้าง สายชลนิ่งไป ไม่นึกว่าสองคนนี้จะสนิทกันขนาดนี้ แล้วฟ้าลดาก็เห็นสายชล
“คุณชาร์ล!”
หมอวัฒนาปล่อยมือจากแก้มฟ้าลดาหันไปเห็นสายชล
“สวัสดีครับคุณชาร์ล”
“สวัสดีครับคุณหมอ” สายชลหันไปทางฟ้าลดา “พร้อมจะไปหรือยังครับ”
“พร้อมแล้วค่ะ” ฟ้าลดาหันไปทางหมอวัฒนา ”ฟ้าไปนะคะ”
“จ๊ะ”
ฟ้าลดาเดินตามสายชลไปที่รถ สายชลเปิดประตูรถให้ ขณะที่กำลังจะขึ้นรถ สายชลเห็นใบไม้ติดที่ผมฟ้าลดา
“ขอโทษนะครับ”
ฟ้าลดาหันมา สายชลเอาใบไม้ออกจากผมให้
“ขอบคุณค่ะ”
ฟ้าลดาขึ้นรถ สายชลมองฟ้าลดาแล้วยิ้มตาเป็นประกาย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถขับออกไป
ชมพูแพรยืนมองอยู่ เห็นแววตาสายชลที่มองฟ้าลดาก็นึกแปลกใจ ก่อนจะหันไปเจอหมอวัฒนา ชมพูแพรตกใจรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หมอไม่ได้สงสัยอะไร
“พี่หมอมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“มาได้ซักพักแล้วครับ ป้าเนียมบอกแพรแต่งตัวอยู่ ผมก็เลยไปหาน้องฟ้า”
หมอวัฒนายิ้มให้ เมื่อเข้าไปในบ้านเขาได้นำที่วัดความดันแบบพกพา ออกมาวางบนโต๊ะพร้อมกับปรอท ชมพูแพรมองแปลกใจ
“พี่หมอเอาของพวกนี้มาทำไมคะ”
“เห็นเมื่อคืนแพรบอกว่าไม่สบาย”
ชมพูแพรผงะ เพราะลืมไปแล้ว
“และผมก็รู้ว่าคนอย่างแพร ไม่มีทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลแน่ๆ”
“พี่หมอนี่รู้ใจแพรจริงๆ”
“ถ้าผมไม่รู้ใจแพร ผมจะเป็นแฟนแพรได้เหรอครับ”
หมอวัฒนายิ้ม แล้วก็วัดความดันให้ชมพูแพร ก่อนจะเอาปรอทดิจิตอลเสียบเข้าไปในหูชมพูแพร แล้วก็เอามาดู
“ไม่มีไข้ ความดันปกติ ร่างกายแข็งแรง” หมอวัฒนาเก็บของไปด้วยพูดไปด้วย “แพรเห็นข้อดีของการมีแฟนเป็นหมอรึยัง” หมอวัฒนาร้องเพลงพร้อมทำท่าประกอบ “กริ๊งเดียวเลย ดิลิเวอรี่มาเลย” ชมพูแพรขำกับท่าทางของหมอวัฒนา
“นี่ถ้าได้อยู่บ้านเดียวกับคุณหมอ รับรองคนไข้จะแข็งแรงยิ่งกว่านี้อีกนะครับ”
หมอวัฒนาส่งสายตาหวานซึ้ง ชมพูแพรชะงักแล้วก็รีบเปลี่ยนเรื่อง
“คุณหมอจะคิดค่าตรวจเท่าไหร่คะ”
“อืมม์..ขอเป็นเลี้ยงกาแฟคุณหมอซักแก้วล่ะกัน”
ชมพูแพรยิ้มให้หมอวัฒนา
+ + + + + + + + + + +
ขณะที่สายชลกำลังขับรถ ฟ้าลดานั่งข้างๆ สายชลเหล่มองฟ้าลดาแล้วก็อมยิ้มมีความสุขตลอดเวลา พอหันมาอีกทีเห็นฟ้าลดามองอยู่ด้วยความแปลกใจ สายชลหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“คุณชาร์ลยิ้มไรคะ”
“เออ..” สายชลนึก ”เพลงครับ...เพลงเพราะ”
ฟ้าลดางงๆ ก่อนจะหันไปทางหน้าต่าง สายชลเหล่มองฟ้าลดายิ้มไม่หุบ มีความสุข
เมื่อไปถึงบริษัท วีรเดชกุลีกุจอปัดเก้าอี้ให้สายชล เมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“เชิญนั่งครับคุณชาร์ล จะรับชา กาแฟ หรือน้ำอะไรดีครับ”
“กาแฟร้อนแล้วกันครับ”
“ฟ้า..ชงกาแฟมา”
ฟ้าลดาเอ๋อ...นึกไม่ถึงว่าจะถูกใช้ไปชงกาแฟ สายชลมองวีรเดชไม่พอใจ
“ไปซิ..มองอะไร??”
ฟ้าลดากำลังจะออกไป สายชลรีบพูด
“ผมเกรงว่าคุณวีรเดช คงต้องให้คนอื่นชงกาแฟ เพราะว่างานของผมต้องการให้คุณฟ้าเป็นครีเอทีฟ”
วีรเดชกับฟ้าลดาผงะ
”เพราะฉะนั้นคุณฟ้าลดาต้องนั่งฟังด้วย”
“อ่า...แต่ฟ้าเพิ่งเข้ามาทำงาน ยังไม่มีประสบการณ์ ผมมีครีเอทีฟเก่งๆหลายคน”
สายชลเสียงเข้ม
“ผมต้องการให้คุณฟ้าลดาเป็นครีเอทีฟ หรือว่าคุณมีปัญหา”
วีรเดชรีบฉีกยิ้ม
“ไม่มีครับ ไม่มีปัญหาเลยครับ ให้เด็กรุ่นใหม่เป็นครีเอทีฟก็ดีครับ จะได้มุมมองแปลกๆใหม่ๆ เฮอะๆๆ” วีรเดชกดเครื่องอินเตอร์คอม ” จุ๊..กาแฟร้อนหนึ่งที่ด่วน”
วีรเดชยิ้มให้สายชล แล้วก็หันไปทางฟ้าลดา
“นั่งซิฟ้า”
ฟ้าลดานั่งลงข้างสายชลแล้วก็หันไปยิ้ม พร้อมพูดคำว่า “ขอบคุณ” เบาๆ สายชลโค้งหัวรับว่า”ไม่เป็นไร”
+ + + + + + + + + + + +
จุ๊ที่ชงกาแฟเข้าไปให้ ออกมาจากห้องทำงานวีรเดช หน้าตาเคลิบเคลิ้ม
“คนไรไม่รู้ ยิ่งดูใกล้ๆก็ยิ่งหล่อ”
“นี่ นี่ นี่ มันจะออกนอกหน้ามากไปแล้ว แฟนนั่งหัวโด่ตรงนี้ทั้งคน” แป๊ะโวย
“แหมก็ขอโลมเลียทางสายตานิดส์นึง จิตใจจะได้กระชุ่มกระชวยอยากทำงาน”
“หมั่นไส้เว๊ย!!”
ระหว่างนั้นเจมส์เดินเข้ามา
“ทะเลาะอะไรกันอีกห๊ะคู่นี้!!”
“ไอ้จุ๊มันนอกใจผมพี่ เห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าแฟนตัวเอง”
“ใคร??”
เจมส์หันไปมองจุ๊ด้วยความสงสัย
“คุณชาร์ล ท่านประธานสายการบินเซเว่นซี ตอนนี้กำลังคุยงานกับพี่วีอยู่ในห้อง”
เจมส์แปลกใจ
+ + + + + + + + + + + +
สายชล ฟ้าลดา วีรเดช ยังคุยงานกันอยู่
“คุณฟ้าทำโปรเจ็กต์มาเลยนะครับ จะมาดูสถานที่ถ่ายทำก่อนก็ได้ จะเป็นบนเครื่อง หรือว่าที่กราวน์ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเมืองที่เรามีเทอร์มินอล ถามผมได้โดยตรง” สายชลสรุป
“ได้เลยครับคุณชาร์ล ผมจะให้ฟ้ารีบทำให้เร็วที่สุด”
สายชลเอานามบัตรยื่นให้ วีรเดชนึกว่าจะให้ตัวเองเลยยื่นมือออกไป แต่สายชลกลับยื่นให้ฟ้าลดา วีรเดชหน้าแตกเพล้ง!! ฟ้าลดารับนามบัตรมา สายชลลุกขึ้นยืน
“เสร็จธุระแล้ว ผมกลับนะครับ”
วีรเดชกับฟ้าลดาลุกขึ้นยืนตาม วีรเดชพยายามเสนอหน้าตลอดเวลา แต่สายชลไม่สนใจ
“เชิญครับเชิญ”
สายชล ฟ้าลดา วีรเดช เดินออกไป
(อ่านต่อหน้า 3)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 10 (ต่อ)
วีรเดช สายชล ฟ้าลดาออกมาจากห้องประชุมพร้อมกัน จุ๊หันไปเห็นรีบบอก...
“ออกมากันแล้ว”
เจมส์กับแป๊ะที่กำลังคุยงานหันไป ทันทีที่เจมส์เห็นหน้าสายชลก็อึ้งตะลึง จำได้
“แก!”
สายชลเองก็อึ้งไปเช่นกัน ที่เห็นเจมส์ทำงานที่นี่ เจมส์พุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อสายชล ทุกคนพากันตกใจ
“แกมาทำอะไรที่นี่?!! แกตามฟ้ามาเหรอ??”
ฟ้าลดารีบจับแขนเจมส์
“เจมส์ ใจเย็น ฟังก่อน นี่คุณชาร์ล เจ้านายพี่แพร”
“และเป็นประธานสายการบินเซเว่นซี” วีรเดชเน้น “ลูกค้าของเรา!!”
เจมส์เหวอ สายชลมองเจมส์ไม่ค่อยพอใจ เจมส์เอามือออกจากคอเสื้อสายชลแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก
“ขอโทษนะครับคุณชาร์ล ผมวู่วามไปนิด” เจมส์หน้าแหย
สายชลมองเจมส์ไม่ค่อยถูกชะตา
“ไม่เป็นไร เพราะวันนั้นผมก็วู่วามเหมือนกับคุณวันนี้ แล้วผมก็ต้องขอโทษด้วย ที่วันนั้นผมทำตัวก้าวร้าวไปหน่อย” สายชลหันไปทางฟ้าลดา “ผมกลับนะครับ”
“ค่ะ”
สายชลหันหลังเดินออกไป แต่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เลยหยุดเดิน หันกลับไปเห็นฟ้าลดากับเจมส์แหย่กันก็ทนไม่ไหวเพราะหึง สายชลตัดสินใจ
“คุณฟ้าครับ”
ฟ้าลดากับเจมส์หันมา สายชลรีบเดินมาตรงหน้า
“วันนี้คุณฟ้าว่างมั๊ย คือ ผมคิดๆดูแล้ว ผมอยากรีบพาคุณฟ้าไปดูสิ่งที่ผมต้องการ เผื่อจะเป็นไอเดียให้คุณฟ้า”
“ได้ค่ะ ฟ้าว่าง”
สายชลดีใจ เจมส์เหล่สายชลแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“น่าเสียดายที่เราติดลูกค้าเลยไปเป็นเพื่อนฟ้าไม่ได้”
“ไม่ต้องหรอก ฉันไปเอง”
“ถ้างั้นเราไปกันเลยนะครับ”
“ค่ะ ขอฟ้าไปเอากระเป๋าก่อนนะคะ”
สายชลพยักหน้า หันไปเจอเจมส์มองอยู่ สองคนมองหน้ากันอย่างรู้กันว่าต่างไม่ชอบหน้ากัน แล้วเจมส์ก็เดินไปกับฟ้าลดา
+ + + + + + + + + + +
ที่สนามบิน...
เพลินตากับพิสมัย เข็นรถเดินออกมา สองแม่ลูกแต่งตัวกันโอเวอร์มากๆ จนคนหันมามองเป็นตาเดียว
“โอ้ ก๊อด ไทยแลนด์ ร้อนมากๆ So hot”
“นั่นซิคะลูก หน้าคุณแม่มันเหรอยัง”
เพลินตาหันมามอง
“เริ่มมันตรงทีโซนแล้วค่ะ” พิสมัยตกใจ ”แล้วหน้าลูกล่ะคะ”
“ทอดไข่ดาวได้เลยค่ะ”
เพลินตาตกใจมาก
“ว๊ายตายแล้ว!”
เพลินตารีบเอากระดาษซับมันออกมาส่งให้แม่ สองแม่ลูกก็ช่วยกันซับหน้าไม่หยุด เพลินตาหันไปมองหาสายชล
“ทำไมพี่ชาร์ล ยังไม่มารับพวกเราอีกคะคุณแม่”
ไม่นานสหัสก็รีบวิ่งมารับ เพลินตาเห็นสหัสแล้วก็ไม่ชอบใจทันที
สหัสไหว้
“สวัสดีครับคุณพิสมัย” สหัสหันไปทางเพลินตา “คุณเพลินตา ขอโทษนะครับที่มาช้า”
“พี่ชาร์ลล่ะ”
“คุณชาร์ลติดประชุมก็เลยให้ผมมารับคุณสองคนแทนครับ” สหัสยิ้มแฉ่ง
เพลินตากับพิสมัย เหล่มองหน้ากันด้วยความเซ็ง
+ + + + + + + + + + + +
สหัสกำลังเอากระเป๋าใบสุดท้ายใส่รถ ก่อนจะปิดท้ายรถ หันไปทางเพลินตากับพิสมัย
“พาฉันไปหาพี่ชาร์ล”
“คุณชาร์ลยุ่งครับ”
“มันจะยุ่งทั้งวันเลยเหรอไง”
“นั่นซิ ไม่ต้องมากีดกันฉันไม่ให้เจอพี่ชาร์ลเลยนะ”
“โอ๊ยยยย...ผมไม่กล้ากีดกันคุณเพลินตาหรอกครับ ถ้าไม่ได้รับคำสั่ง”
พิสมัยกับเพลินตา หันขวับมองหน้ากันด้วยความอึ้ง ก่อนจะหันไปมองสหัส
“พูดอย่างนี้หมายความว่า พี่ชาร์ลสั่งไม่ให้เราสองคนไปหาเหรอ”
“ผมเปล่าพูดนะครับ คุณพูดเอง” สหัสรีบเปิดประตูรถ ”เชิญครับ” สหัสหันไปพูดเสียงเบากับเพลินตา ”ว่าง่ายๆ จะได้โตไวไวนะครับ”
“ไอ้บ้า! ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นแกนะ”
เพลินตาสะบัดหน้าใส่สหัส แล้วขึ้นรถกับพิสมัย สหัสยิ้มขำ ปิดประตู แล้วก็รีบขึ้นรถขับออกไป
+ + + + + + + + + + +
สายชลขับรถพาฟ้าลดาเข้ามาในสนามบิน ขณะที่รถสหัสกำลังแล่นออกมา ทันใดนั้นรถสายชล กับรถสหัสก็แล่นสวนทางกัน เพลินตาหันไปเห็นสายชลก็ผงะ เอาหน้าแนบกระจกหันไปมองตามว่าใช่สายชลหรือไม่ จนกระทั่งแน่ใจ
“หยุดรถ!”
“หยุดรถตรงนี้ไม่ได้ครับ”
“ฉันสั่งให้หยุดก็หยุดซิ”
สหัสงงๆ รีบเอารถจอดข้างทาง พิสมัยหันไปทางเพลินตา
“ให้สหัสจอดรถทำไมคะลูก”
“ตาเห็นพี่ชาร์ลค่ะแม่ พี่ชาร์ลนั่งมากับผู้หญิง”
สหัสตกใจ พิสมัยอึ้ง
“แน่ใจเหรอลูกว่าเป็นชาร์ล”
“แน่ใจค่ะ” เพลินตายื่นหน้ามาข้างสหัส “รีบกลับรถ แล้วตามรถคันนั้นไปเลย”
“กลับรถตรงนี้ไม่ได้ครับ”
“มันจะกลับไม่ได้ได้ไง แกก็เอาหัวปักเข้าช่องนั้นแล้วก็ถอยออกมาซิ เร็วเข้า!!”
“เออ..”
“นายสาหัส!! อย่ามาลีลา ถ่วงเวลานะ เร็วสิ” เพลินตาตบเบาะไม่หยุด ”เร็วๆๆๆ”
สหัสจำต้องกลับรถ แล้วขับออกไป เพลินตาลุ้นสุดๆ
+ + + + + + + + + + + +
สายชลกับฟ้าลดาลงมาจากรถ แล้วเดินไปด้วยกัน รถสหัสขับเข้ามา เพลินกับพิสมัยตามองหาสายชล
“เห็นพี่ชาร์ลมั๊ยแม่”
“ไม่เห็น ลูกตาฝาดไปรึเปล่า”
“ผมก็ว่าคุณเพลินตาน่าจะตาฝาดนะครับ คุณชาร์ลประชุมอยู่ที่ออฟฟิศ คงแยกร่างมาอยู่แถวนี้ไม่ได้หรอกครับ”
พูดจบ…เพลินตาก็เห็นสายชลกับฟ้าลดาเดินด้วยกันไกลๆ
“แต่สงสัยพี่ชาร์ลคงจะแยกร่างได้จริงๆ”
สหัสตกใจ หันไปเห็นสายชลเดินอยู่กับฟ้าลดาไกลๆ สหัสหน้าเสีย เพลินตาประกาศเสียงเหี้ยม
“จอด-รถ!!”
สหัสจำต้องจอดรถอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเพลินตากับพิสมัยก็รีบลงจากรถ
“ซวยแล้วคุณชาร์ล”
สหัสรีบหยิบมือถือออกมากดโทรหาสายชลทันที สายชลรับโทรศัพท์มือถืออย่างตกใจ
“ว่าไงนะ!!”
ฟ้าลดามองสายชลแปลกใจว่าเป็นอะไร สายชลเห็นฟ้าลดามองก็หันหลังให้แล้วคุยกับสหัสเบาๆ
“ขอบใจนะสหัส”
สายชลวางสายหันมาทางฟ้าลดา
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“อ่า..ไม่มีครับ”
แล้วสายชลก็เหลือบไปเห็นเพลินตากับพิสมัยกำลงเดินมา สายชลตกใจ รีบจับแขนฟ้าลดาแล้วดึงให้ย่อตัวหลบ ฟ้าลดาตกใจ
“คุณชาร์ลทำอะไร”
“คือ...” สายชลอึกอัก
“คอนแทคเลนส์ผมหล่นน่ะครับ” สายชลแกล้งหยีตาข้างหนึ่ง ”คุณฟ้าช่วยหาหน่อยซิครับ”
“ได้ค่ะได้”
ฟ้าลดาก้มหาคอนแทคเลนส์ สายชลชะโงกหน้ามองเพลินตากับพิสมัยด้วยใจเต้นระทึก ทางด้านเพลินตากับพิสมัยยังคงมองหาสายชล
“พี่ชาร์ลหายไปไหนแล้ว เมื่อกี๊ยังเห็นอยู่เลย” เพลินตาหัวเสีย
“เราแยกกันตามหาพี่ชาร์ลเถอะค่ะแม่”
พิสมัยกับเพลินตาแยกกันเดินหาสายชล
+ + + + + + + + + + +
สายชลยืดตัวมองหาเพลินตา แต่ไม่เห็นก็โล่งใจ ฟ้าลดาลุกขึ้นยืนข้างสายชล
“ไม่เจอเลยค่ะ”
สายชลหันมา
“เจออะไรครับ” สายชลลืม
“อ้าว? ก็คอนแทคเลนส์...”
สายชลนึกขึ้นได้
“เออ ใช่ครับใช่ คอนแทคเลนส์ ถ้าไม่เจอก็ช่างมันเถอะครับ เดี๋ยวค่อยซื้อใหม่ เรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะครับ ผมมีอะไรอยากให้คุณฟ้าดูตั้งหลายอย่าง”
สายชลกับฟ้าลดากำลังจะเดินไป แต่เพลินตาเดินออกมาจากหลังเสาตรงมุมหนึ่ง แล้วก็เห็นสายชล เพลินตาดีใจ
“พี่ชาร์ล!”
สายชลกับฟ้าลดาหันไปเห็นเพลินตา สายชลตกใจ มองเพลินตาที่โบกมือให้ ก็รีบฉุดแขนพาฟ้าลดาวิ่งหนีไปอีกทาง ฟ้าลดาเอ๋อ..
“คุณชาร์ล! คุณวิ่งทำไม!!”
สายชลไม่ตอบ
“พี่ชาร์ล! พี่ชาร์ล!!!”
เพลินตารีบตามสายชลกับฟ้าลดาไปทันที
สายชลจับแขนฟ้าลดา พาวิ่งลงบันไดลงมาที่ลานจอดรถอีกชั้น ฟ้าลดาเริ่มไม่พอใจ..แกะมือสายชลออก แล้วหยุดวิ่ง สายชลหันมา
“ทำไมคุณต้องวิ่งหนีผู้หญิงคนนั้นด้วย”
“รีบไปก่อนเถอะครับ ผมไม่อยากให้ตาเจอเรา”
ฟ้าลดาสงสัย
“ทำไม?? หรือคุณทำอะไรไม่ดีกับเธอเอาไว้” สายชลยังไม่ทันตอบ ห้าลดาโวยต่อ “ฉันไม่นึกเลยนะว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้“
“ไม่ใช่นะครับ!! ที่ผมต้องพาคุณหนี เพราะผมไม่อยากให้คุณเดือดร้อน”
ฟ้าลดาแปลกใจ แล้วสายชลก็เห็นเพลินตากำลังลงบันไดมา สายชลหน้าเสีย...รีบดันฟ้าลดาชิดกำแพง แล้วตัวเองก็เอาตัวยืนบังฟ้าลดาเอาไว้
สายชลหันไปมองเพลินตา เห็นเดินไปอีกทางก็โล่งอก พอหันกลับมาจมูกก็เกือบแตะโดนจมูกฟ้าลดา สองคนชะงักไปเล็กๆ ฟ้าลดาจะอ้าปากพูด
“ได้โปรดอย่าเข้าใจผมผิด ที่ผมทำ..ก็เพื่อปกป้องคุณ”
ฟ้าลดาเห็นแววตาที่จริงจังของสายชลก็พูดไม่ออก สายชลค่อยๆโผล่หน้าออกไป...ไม่เห็นเพลินตาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จับมือฟ้าลดาดึงออกมา แต่สายชลไม่เห็นว่าเพลินตายืนอยู่หลังฟ้าลดา
เพลินตากำมือแน่นด้วยความโมโห
“พี่ชาร์ล!!!”
สายชลกับฟ้าลดาผงะ สองคนหันไปเห็นเพลินตายืนอยู่
“ตา!” สายชลแกล้งยิ้ม “แหม บังเอิญจังเลยที่เจอตาที่นี่ อ๋อๆๆ พี่นึกออกแล้ว ตากับคุณน้าพิสมัยเครื่องลงตอนเที่ยง แต่นี่ตั้งบ่ายสามแล้ว ทำไมตายังอยู่ที่นี่อีก”
“เครื่องดีเลย์ค่ะ”
“อ๋อ...ถ้างั้นพี่ไปนะ”
“พี่ชาร์ลไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องให้ตาไขว้เขว!!! ตาไม่หลงกลหรอก นังนี่เป็นใคร?!!”
เพลินตามองฟ้าลดาเหยียด ฟ้าลดาไม่พอใจ
“นี่คุณ พูดจาให้ดีๆหน่อยได้มะ”
“ทำไมฉันต้องพูดดีกับแก ดูจากสารรูป พี่ชาร์ลไปเก็บมาจากข้างถนนเหรอคะ”
สายชลไม่พอใจเสียงดุ
“เพลินตา!! หยุดก้าวร้าวเพื่อนของพี่นะ”
“เพื่อนกิน หรือว่าเพื่อนนอนล่ะคะ”
ฟ้าลดาโมโหสุดๆ อยากกวนเพลินตาขึ้นมา จึงแกล้งควงแขนสายชลแนบแน่น สายชลตกใจ เพลินตาอ้าปากค้าง
ฟ้าลดายิ้มหวาน
“ฟ้าเป็นได้ทั้งเพื่อนกินและเพื่อนนอนแหละค่ะ หรือจะให้ทั้งกินทั้งนอนในเวลาเดียวกัน ฟ้าก็ทำได้...จริงมั๊ยคะคุณชาร์ลขา”
สายชลอมยิ้ม เพลินตาโกรธจนตัวสั่น กรี๊ดดังลั่น
“อ๊ายยยยย!!!”
สายชลกับฟ้าลดาตกใจ เพลินตาเข้าไปตบหน้าฟ้าลดาเพี๊ยะ!!
ฟ้าลดาฉุนกึก หันไปต่อยจมูกเพลินตาสวนกลับทันที เพลินตาถึงกับมึน แล้วเลือดก็ไหลออกทางจมูก เพลินตาจับๆแล้วเอามือมาดู
“อ๊ายยยย!!!”
สายชลเหวอ ฟ้าลดาสะบัดมือด้วยความเจ็บ
จบตอนที่ 10
อ่านต่อตอนที่ 11 วันพรุ่งนี้