ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 5
ที่หน้าบ้านชุติมันต์ บุรธัชลากณิชมนมาถึงรถ ณิชมนดิ้นรนมาตลอดทาง
“ปล่อยฉัน บอกให้ปล่อย !”
“เอากุญแจรถมา”
“อยากได้ก็หาเอาเองซิ”
บุรธัชขยับจะค้นตัวณิชมน
ณิชมนร้องลั่น “อย่าแตะต้องตัวฉันนะ !”
“ก็เอากุญแจรถมาซิ ว่าไง กุญแจรถอยู่ไหน !”
ณิชมนทำเป็นล้วงดูในกระเป๋าสะพาย
“ไม่รู้หายไปไหนแล้ว”
ณิชมนโกหกหน้าตายแต่แล้วก็นึกได้ ชำเลืองมองไปในรถอย่างไม่ตั้งใจ บุรธัชมองตามอย่างรู้ทัน
บุรธัชเปิดประตูรถออก เพราะรถไม่ได้ล็อคแถมมีกุญแจคาอยู่อีกต่างหาก
ณิชมนมองไปที่กุญแจรถนึกโมโหตัวเองที่ดันลืมได้
“ขึ้นรถไป!” บุรธัชออกคำสั่ง
บุรธัชปล่อยมือจากณิชมนแล้วดันให้ณิชมนเดินไปด้านข้างคนขับ ณิชมนอาศัยเสี้ยววินาทีที่บุรธัชปล่อยมือผลักบุรธัชออกไปเต็มแรงแล้ววิ่งหนีออกไปทันที
บุรธัชยืนนิ่งมองตาม เขายิ้มอย่างเหนือกว่า
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บนถนน ณิชมนวิ่งหนีออกมาจากทางบ้านชุติมันต์ เธอหยุดพักหายใจ หันไปมองด้านหลังยังไม่เห็นวี่แววของบุรธัชก็นึกว่าหนีพ้นแล้ว ณิชมนวิ่งต่อไปพร้อมกับมองหารถที่พอขอความช่วยเหลือได้
มีเสียงรถแล่นมาจากข้างหลัง ณิชมนหยุดนิ่งอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองแว้บเดียวแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
บุรธัชขับรถบ้านสรณาลัยตามมาจนทัน
บุรธัชกดกระจกรถลง มองไปที่ณิชมนอย่างเย้ยๆ
“คิดว่าจะหนีพ้นงั้นเหรอ ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้”
“ยังไงฉันก็ไม่ขึ้นรถไปกับคุณแน่”
“ฉันบอกให้ขึ้นรถมา อีกสิบกิโลกว่าจะถึงถนนใหญ่ เธอเดินไปไม่ไหวหรอก”
“ยังไงฉันก็ไม่ไปกับคุณ !”
“ก็ได้ งั้นฉันจะเอารถไปคืนเจ้านายเธอให้เอง บางทีเจ้านายเธออาจจะบอกฉันได้ว่า เธอมาทำอะไรที่บ้านชุติมันต์”
บุรธัชขับรถออกไป ณิชมนนิ่งอึ้งเธอคิดว่าความลับต้องแตกแน่ถ้าบุรธัชไปบอกเรื่องที่เธอมาบ้านปู่
“เดี๋ยว ! อย่าเพิ่งไป คุณ อย่าเพิ่งไป”
ณิชมนร้องตะโกนตาลีตาเหลือกรีบวิ่งตามรถไปอย่างไม่คิดชีวิต
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชขับรถมาช้าๆ อย่างใจเย็น เขามองกระจกหลังเห็นณิชมนวิ่งตามมา บุรธัชยังคงขับรถแล่นไปช้าๆ แต่ไม่ยอมหยุด
ณิชมนวิ่งตามเหนื่อยจนเหมือนจะขาดใจตาย
“จอดรถๆ ฉันยอมแล้ว ฉันยอมไปกับคุณแล้ว” ณิชมนร้องตะโกน
ณิชมนวิ่งจนหมดแรง เธอหยุดยืนหอบหายใจอยู่กลางทาง มองรถที่แล่นไปอย่างหมดหวัง รถค่อยๆ ถอยกลับมาช้าๆ แล้วจอดที่ณิชมน
ณิชมนรีบเปิดประตูรถกระโจนเข้าไปนั่ง บุรธัชมองสภาพของณิชมนแล้วทั้งขำทั้งสมเพช
“ฉันนึกว่า เธอจะฉลาดกว่านี้ซะอีก คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์วูแมนหรือยังไง ถึงคิดว่า ตัวเองจะวิ่งเร็วกว่ารถ”
ณิชมนยังหอบด้วยความเหนื่อยแต่มองบุรธัชตาขวาง
“ก็ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก คุณอยากรู้อะไร ก็ถามมาเลย”
“ถามแน่ แต่ไม่ใช่ที่นี่”
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“เดี๋ยวก็รู้ !”
บุรธัชขับรถออกไปอย่างเร็ว,ณิชมนไม่ทันตั้งตัวหัวคะมำโขกกับคอนโซลหน้ารถ ณิชมนเงยหน้ามองบุรธัชในใจคิดว่าฝากไว้ก่อน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ไร่บุริศราวัณ พิมพ์นฤมลวิ่งอย่างอ่อนแรงรู้สึกเหมือนจะล้มลงได้ทุกวินาที รวิภาสขี่จักรยานตามหลังมาช้าๆ
“ยอมแพ้ซะเถอะ ยังไงเธอก็ทำไม่ได้หรอก”
“นมลต้องทำให้ได้ นมลจะวิ่งไปให้ถึง “
พิมพ์นฤมลหยุดพักหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย
“ยังไงเธอก็วิ่งไปไม่ถึงหรอก นมล ยืนยังยืนแทบไม่ไหวเลย”
“ต่อให้นมลต้องคลานไป นมลก็จะต้องไปถึงต้นไม้นั่นให้ได้”
“เธอจะทรมานตัวเองไปทำไม แพ้ก็ต้องยอมรับว่า แพ้ซิ”
“ก็นมลยังไม่แพ้นี่ นมลเชื่อว่า นมลทำได้ พี่ภาสพนันกับนมลมั้ยล่ะ “
“ได้ พนันกันก็ได้ แต่เธอต้องวิ่งไปถึงที่ต้นไม้ต้นนั้นภายในห้านาทีถ้าเธอทำได้ เธอก็ชนะพนัน เริ่มเลยนะ”
“เดี๋ยวก่อน ขอพักอีกแป๊บนึง”
รวิภาสไม่ฟังหยิบนาฬิกาจับเวลาขึ้นมาเตรียมพร้อม
“3-2-1 ไป !” รวิภาสตะโกน
พิมพ์นฤมลวิ่งออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ รวิภาสมองตาม เขาไม่คิดว่าเธอจะฮึดสู้ขนาดนี้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถแล่นเข้ามาจอดในไร่บุริศราวัณ ณิชมนมองไปรอบๆ ไร่ที่ไม่มีวี่แววของผู้คนแล้วหันมามองบุรธัชอย่างไม่ไว้ใจ บุรธัชเปิดประตูออกไปจากรถ ณิชมนยังนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ บุรธัชเดินไปเปิดประตูด้านที่ณิชมนนั่ง
“ลงมาได้แล้ว”
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม ถ้าจะคุยกัน ก็คุยกันที่ร้านอาหาร ไม่ใช่ที่เปลี่ยวๆ อย่างนี้”
บุรธัชลากณิชมนลงจากรถ
“นี่คุณ คุณคิดจะทำอะไรฉัน”
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเธอไม่บอกความจริงฉัน เธออาจจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ก็ได้”
“ทำไมคุณถึงยุ่งกับชีวิตฉันนักนะ คุณชายบุรธัช”
บุรธัชสาวเท้าเข้าไปหา ณิชมนถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ
“ก็ถ้าเธอไม่ไปบ้านชุติมันต์ ไม่โผล่หน้าไปทุกที่ที่ฉันไป ฉันก็คงไม่ยุ่งกับชีวิตเธอหรอก ฉันแน่ใจว่า เธอไม่ใช่แม่บ้านธรรมดา เธอเป็นใครกันแน่”
“คุณก็ไปสืบประวัติของฉันมาแล้ว จะมาถามอะไรฉันอีกล่ะ ฉันเป็นแค่แม่บ้านธรรมดาๆ นี่แหละ ฉันคือแม่บ้านประนอม มีหน้าที่ดูแลบ้านเท่านั้น ไม่ได้เป็นสายของบ้านสรณาลัยอย่างที่คุณบ้าคิดไปเอง”
“แล้วเธอไปถามเรื่องคุณหญิงนวลแขกับลุงแหวงทำไม”
ณิชมนตกใจเพราะไม่คิดว่าบุรธัชจะได้ยิน
“เธอต้องการอะไรจากคุณหญิงนวลแข สุธาสินเหรอ แม่บ้านประนอม !”
ณิชมนได้แต่นิ่งอึ้งคิดหาข้อแก้ตัว
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านของไร่บุริศราวัณ พิมพ์นฤมลวิ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่อย่างเหนื่อยอ่อน รวิภาสขี่จักรยานแซงหน้าไพิมพ์นฤมลปอย่างช้าๆ
“เหลืออีกสองนาที !” รวิภาสบอก
พิมพ์นฤมลกัดฟันฮึดวิ่งด้วยแรงเฮือกสุดท้ายจนแซงหน้ารวิภาสไปแล้วโผเข้าแตะต้นไม้ที่เป็นเส้นชัย
รวิภาสลงจากรถจักรยานแล้วเดินไปหาพิมพ์นฤมลที่นอนแผ่อยู่ที่พื้น เขามองนาฬิกาจับเวลา
“ นมล...นมลชนะใช่มั้ย” พิมพ์นฤมลถามอย่างเหนื่อยหอบ
นาฬิกาจับเวลาบอกเวลาสิบนาทีกว่าไปแล้ว
รวิภาสยื่นมือให้พิมพ์นฤมลจับ
“เธอชนะ !”
เขาดึงพิมพ์นฤมลให้ลุกขึ้นยืน
“นมลบอกแล้วว่า นมลต้องทำได้ นมลผ่านการทดสอบ แล้วก็ชนะพนันพี่ภาสด้วย รู้มั้ยว่า คนที่แพ้พนันจะต้องทำอะไร”
“อย่ามาให้ทำอะไรปัญญาอ่อนอย่างตอนเด็กๆล่ะ”
“ปัญญาอ่อนยังไงไม่ทราบ”
“ให้ขี่หลังไปตลอดชีวิตนี่นะ ไม่ปัญญาอ่อน”
“พี่ภาสจำเรื่องที่เราเคยพนันกันได้ด้วย แล้วพี่ภาสจำเรื่องอะไรได้อีก”
“เรื่องของเธอมีอะไรให้น่าจำนักเหรอ จะให้ทำอะไรก็บอกมาเลย จะได้จบๆ เรื่องไป ฉันมีเรียนตอนบ่าย”
“นมลยังไม่บอกตอนนี้หรอก รอให้โอกาสเหมาะๆ แล้วพี่ภาสก็จะรู้ว่าพี่ภาสจะต้องทำอะไรให้นมล”
“เรื่องมากจริงๆ ถ้าไม่บอกวันนี้ เป็นอันว่าทุกอย่างโมฆะก็แล้วกัน” รวิภาสตัดบทแล้วแกล้งเดินหนี นมลรีบตาม
“ได้ยังไง พี่ภาสอย่าขี้โกงซิ อย่าหนีนะ พี่ภาส”
รวิภาสขึ้นขี่จักรยานออกไป พิมพ์นฤมลวิ่งตาม
“พี่ภาสจะทิ้งนมลไว้ตรงนี้เหรอ พี่ภาส !”
รวิภาสขี่จักรยานต่อไปเรื่อย
“พี่ภาสใจร้ายที่สุด !!” พิมพ์นฤมลตะโกน
รวิภาสขี่จักรยานกลับมาหาเธอ
“จะตะโกนไปทำไม เดี๋ยวคนงานก็แตกตื่นกันหมดหรอก ยืนเฉยอยู่ทำไมจะกลับด้วยกันมั้ย หรือจะเดินกลับเอง”
“ไปด้วยซิ”
พิมพ์นฤมลรีบขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยาน รวิภาสขี่จักรยานออกไป
“พี่ภาสแพ้พนันแล้วก็ต้องทำตามที่นมลให้ทำนะ สัญญากับนมลซิว่า จะไม่โกงนมล สัญญาๆๆ”
พิมพ์นฤมลยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้ารวิภาส รวิภาสปัดมือออกพร้อมกับทำท่ารำคาญ
“รู้แล้วน่า !”
พิมพ์นฤมลซ้อนท้ายรถจักรยานที่รวิภาสขี่ไปอย่างมีความสุข รวิภาสแอบหันมามอง เธอเงยหน้าขึ้นมอง เขารีบหันกลับไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของไร่บุริศราวัณ บุรธัชยังคงรุกไล่ณิชมนอยู่
“ตอบฉันมา เธอต้องการอะไรจากคุณหญิงนวลแข !”
“นี่คุณแอบฟังคนอื่นเค้าคุยกันเหรอ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย เป็นลูกผู้ดีมีสกุลเสียเปล่า”
“เธออย่ามาเฉไฉหน่อยเลย บอกมาซะดีๆว่า เจ้านายเธอมีแผนการอะไรอีก คิดจะฮุบโครงการเทพสุธาไว้คนเดียวล่ะซิ คุณหญิงนวลแขไม่โง่ให้เจ้านายเธอหลอกง่ายๆ หรอก”
“คุณพ่อคุณก็ไม่น่าจะโง่ให้คุณพ่อคุณนมลหลอกง่ายๆ เหมือนกัน ท่านอาจจะบริหารงานผิดพลาดจนต้องขายไร่ให้กับทางสรณาลัย ทำไมคุณไม่คิดแบบนี้บ้างล่ะ คุณจะเลิกโกรธแค้นเจ้านายของฉันซักที”
บุรธัชโกรธจัดบีบแขนณิชมนแน่น
“เธอเป็นแค่แม่บ้าน เธอจะรู้อะไร ! คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงท่านพ่อของฉัน อย่ามาพูดพล่อยๆ อย่างนี้อีก”
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นแค่แม่บ้านโง่ๆ เซ่อๆ คนนึงเท่านั้น ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับพวกคุณเลย คุณหาว่าฉันเป็นสายของคุณพรพรรณ ทางคุณพรพรรณก็ระแวงกลัวว่าฉันจะเป็นคนของคุณ ฉันทนอยู่ในสภาพนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันก็เลยคิดหางานที่อื่นทำ ก็เลยไปบ้านชุติมันต์ไงล่ะ”
ณิชมนหยุดพักหายใจนึกแปลกใจกับความลื่นไหลของตัวเอง
“บ้านนั้นมีงานให้เธอทำที่ไหน”
“ฉันคิดจะไปของานที่บ้านคุณหญิงนวลแขต่างหากล่ะ ฉันก็เลยไปถามลุงแหวงเผื่อลุงเค้าจะรู้จักคุณหญิงท่าน”ณิชมนตอบมั่วๆ
“แล้วทำไมต้องเป็นบ้านคุณหญิงนวลแข”
“ก็..เออ..คือ..คุณนมลเคยพูดถึงท่าน เห็นว่าบ้านท่านใหญ่โตน่าจะต้องการลูกจ้างเพิ่ม แล้วท่านก็เป็นกลางไม่ได้อยู่ฝ่ายคุณหรือฝ่ายคุณพรพรรณ ถ้าฉันได้ทำงานบ้านท่านล่ะก็ ทุกคนจะได้เลิกมองฉันผิดๆซะทีหมดข้อข้องใจแล้วใช่มั้ย ฉันกลับล่ะ !”
ณิชมนหันหลังจะกลับไปที่รถ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อมองข้ามไหล่บุรธัชไปเห็นรวิภาสขี่จักรยานโดยมีซ้พิมพ์นฤมลอนท้ายอยู่ไกลๆ ฝ่ายพิมพ์นฤมลเห็นบุรธัชยืนอยู่กับณิชมนก็ตกใจ
“พี่ภาสหยุดรถก่อน หยุดรถๆๆ”
รวิภาสเบรกรถทันที
“มีอะไร”
พิมพ์นฤมลลงจากรถหาที่ซ่อน รวิภาสมองไปเห็นบุรธัชจึงดึงเธอไว้
“ไม่ต้องหลบ เราไม่ได้ทำอะไรผิด”
“นมลไม่อยากมีเรื่อง เดี๋ยวพี่ภาสจะเดือดร้อนเปล่าๆ”
พิมพ์นฤมลวิ่งไปหาที่หลบ รวิภาสมองตามอย่างขัดใจ
ณิชมนมองตามพิมพ์นฤมลที่วิ่งไปพลางหันมาทำท่าให้ณิชมนช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของบุรธัช
โดยพิมพ์นฤมลชี้ไปที่บุรธัช แล้วทำท่าเชือดคอให้รู้ว่าบุรธัชน่ากลัวมากแล้วโบกมือห้ามไปมา
บุรธัชมองณิชมนที่หน้าตาตื่นๆ อย่างแปลกใจ
“จะกลับก็กลับไปซิ” บุรธัชบอก
บุรธัชจะหันไปทางด้านหลัง ณิชมนรีบดึงตัวบุรธัชไว้
“เดี๋ยวก่อนซิ คุณ”
“มีอะไรอีกล่ะ”
“คุณไม่สงสัยอะไรฉันแล้วใช่มั้ย วันนี้เราต้องเคลียร์กันให้จบนะ ฉันจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขซักที” ณิชมนไหลไปเรื่อย
“ฉันยังไม่หมดข้อสงสัยง่ายๆ หรอก แม่บ้านประนอม แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อน”
“ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหาของคุณนะ ที่คิดจะจับฉันสอบปากคำเมื่อไหร่ก็ได้ จะบอกให้นะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณลากตัวฉันมาอย่างนี้อีก คราวหน้าฉันแจ้งตำรวจจับคุณแน่”
“รอคราวหน้าทำไม ทำไมไม่เรียกตำรวจมาจับฉันตอนนี้เลยล่ะ” บุรธัชท้าทาย
“ฉัน..ฉันมีงานอื่นสำคัญกว่าที่จะมาเสียเวลากับคนบ้าอำนาจอย่างคุณน่ะซิ”
ณิชมนมองหาพิมพ์นฤมล แล้วเห็นว่าหายตัวไปแล้ว
“ฉันกลับล่ะ คราวนี้ฉันกลับจริงๆ”
ณิชมนเดินหนีไปที่รถ พิมพ์นฤมลวิ่งหลบๆ มาที่รถอีกด้านเตรียมตัวจะมุดขึ้นรถ
ณิชมนหยุดเดินหันขวับกลับมาดูบุรธัช บุรธัชเดินตามมาหยุดไม่ทันจึงชนเข้ากับณิชมนอย่างจัง
“นี่คุณ ! จะเดินตามฉันมาทำไม ฉันกลับเองได้”
บุรธัชชูกุญแจรถให้ดู
“เธอจะไปได้ยังไง กุญแจรถอยู่ที่ฉันนี่”
ณิชมนรีบคว้ากุญแจรถมาทันที มีเสียงประตูรถปิดดังปังจากฝีมือของพิมพ์นฤมล
“เสียงอะไร?” บุรธัชซัก
ณิชมนรีบกันบุรธัชไว้ไม่ให้เขาเข้าใกล้รถ
“เสียงอะไร? ฉันไม่เห็นได้ยินเลย” ณิชมนเฉไฉ
รวิภาสขี่จักรยานเข้ามาขัดจังหวะ
“สวัสดีครับ มาเที่ยวไร่เหรอครับ” รวิภาสทักณิชมน
ณิชมนมองรวิภาสแล้วนิ่งอึ้ง รวิภาสมองณิชมนอย่างรู้สึกคุ้นหน้า
“ฉันไปล่ะนะ แล้วหวังว่า เราคงไม่ต้องพบกันอีก !” ณิชมนพูดตัดบทกับบุรธัช แล้วรีบขึ้นรถขับออกไปทันที
“แฟนใหม่เหรอ พี่ธัช”
“แกอย่ามาพูดบ้าๆ นั่นแม่บ้านคนใหม่ของบ้านสรณาลัย”
“แม่บ้านคนใหม่? แน่ใจเหรอ พี่ธัช”
รวิภาสมองตาม เขาเริ่มจำได้ว่าเคยเห็นณิชมนที่ไหน
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถที่ณิชมนขับแล่นออกมาจากไร่บุริศราวัณ ณิชมนมองกระจกหลังแล้วหันไปบอก
“พ้นแล้วล่ะค่ะ คุณนมล”
พิมพ์นฤมลโผล่ออกมาจากเบาะหลัง แล้วมองไปด้านหลังอย่างโล่งใจ
“นี่ถ้าพี่ภาสเข้ามาช้านิดเดียว คุณชายธัชต้องจับได้แน่ๆเลย” พิมพ์นฤมลพูด
“คุณชายบุรธัชนี่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ตัวเองจะตัดขาดจากบ้านสรณาลัยก็ตัดไปคนเดียวซิ ทำไมต้องบังคับน้องชายให้เลิกคบกับคุณนมลด้วย”
“ไม่ใช่แค่ให้เลิกคบกับนมลนะคะ คุณชายธัชไม่ให้พี่ภาสเจอกับนมลด้วยล่ะค่ะ”
“แล้วคุณภาสก็เชื่อพี่ชายเหรอคะ” ณิชมนสงสัย
“พี่ภาสคงจะมีเหตุผลอะไรมั้งคะ”
“คุณภาสนี่..เป็นคนยังไงเหรอคะ เรียนเก่งมั้ยคะ สงสัยจะเรียนไม่เก่ง เป็นคนความจำสั้นหรือเปล่าคะ ท่าทางดูเหมือนเป็นคนไม่สนใจเรื่องคนอื่นนะคะ อย่างนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญๆ คงจะไม่เก็บมาใส่ใจแน่ ใช่มั้ยคะ คุณนมล”
พิมพ์นฤมลมองณิชมนอย่างไม่เข้าใจว่าณิชมนพยายามจะถามอะไรอยู่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่ไร่บุริศราวัณ รวิภาสเดินมาที่รถของตัวเอง ภาพอดีตตอนที่เจอกับณิชมนที่สนามบินผุดขึ้นในหัวของรวิภาส
“คนเดียวกันแน่ๆ !” รวิภาสพึมพำ
บุรธัชเดินตามมา
“แกรู้จักแม่บ้านประนอมใช่มั้ย นายภาส”
“เค้าชื่อประนอมเหรอครับ คนสวยๆไม่น่าจะชื่อเชยอย่างนี้เลย นี่คบกันมานานแค่ไหนแล้ว ไม่แฟร์เลยนะครับ พี่ธัชห้ามผมไม่ให้คบกับนมล แต่พี่ธัชกลับมาคบกับแม่บ้านบ้านสรณาลัยซะเอง”
“แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ตกลงแกรู้จักประนอมมาก่อนหรือเปล่า”
“ไม่รู้จักครับ แล้วพี่ธัชล่ะ ไปรู้จักแม่บ้านคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ สนิทกันจนพามาเที่ยวที่ไร่นี่ ไม่ธรรมดาแล้วนะเนี่ย”
“ฉันพาประนอมมาที่นี่เพื่อคุยธุระ ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่แกเพ้อเจ้อ แกไม่รู้จักประนอมมาก่อนก็แล้วไป แล้วแกมาที่นี่ทำไม ไม่มีเรียนหรือไง”
“ขี้เกียจเรียนก็เลยมาขี่จักรยานเล่น”
“มากับใคร”
“มาคนเดียว”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ผมก็ไม่หวังจะให้พี่ธัชเชื่ออยู่แล้ว”
“เมื่อไหร่เราจะพูดกันดีๆ ซักที”
“ก็เมื่อไหร่ที่พี่ธัชเห็นผมเป็นน้องไม่ใช่คนงานในไร่ที่ต้องทำตามคำสั่งพี่ธัชทุกอย่าง ก็เมื่อนั้นแหละครับ”
รวิภาสผละขึ้นรถ บุรธัชมองตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถที่ณิชมนขับแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านสรณาลัย ณิชมนกับพิมพ์นฤมลลงจากรถ ณิชมนยังถามเรื่องรวิภาสอยู่
“คุณภาสเป็นอย่างที่นอมว่าใช่มั้ยคะ คุณนมล”
“ผิดหมดทุกข้อเลยค่ะ พี่นอม พี่ภาสเป็นคนเรียนเก่ง อาจจะเกเรตอนช่วงม.ปลาย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พี่ภาสก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ตั้งใจเรียนจนได้เอแทบทุกวิชา แล้วพี่ภาสก็เป็นคนความจำดีสุดๆจำเพื่อนนมลได้ทุกคน บางคนพี่ภาสเจอแค่ครั้งเดียวยังจำชื่อได้เลยค่ะ”
“งั้นเหรอคะ” ณิชมนหวั่นใจ
กันยารีบเดินมาหาพิมพ์นฤมล
“คุณนมลคะ คุณพันสรอาละวาดใหญ่แล้วล่ะคะ”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ กันยา”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คราวนี้อาละวาดหนักกว่าทุกครั้งนะคะ ท่าทางครูชัยจะเอาไม่อยู่ คุณพรพรรณก็ออกไปที่ไร่แล้วด้วย”
“แล้วคุณผู้หญิงล่ะ”
“คุณแม่เขียนงานอยู่ล่ะซิ” พิมพ์นฤมลเอ่ยอย่างรู้ทัน
“ค่ะ คุณผู้หญิงทำงานอยู่ กันยาไม่กล้าเข้าไปกวน คุณนมลไปดูหน่อยเถอะค่ะ เผื่อคุณพันสรจะฟังคุณนมลบ้าง”
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลรีบเข้าบ้านไป กันยารีบตามไปดู
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในบ้านสรณาลัย พันธ์นฤสรร์ขว้างหนังสือ ของเล่นและข้าวของที่อยู่ใกล้มือใส่ชัยวัฒน์ไม่ยั้ง
“ออกไปๆ ฉันบอกว่าให้ออกไป ออกไป”
ชัยวัฒน์พยายามเข้าไปใกล้ แต่ก็ต้องถอยออกมาเพราะถูกขว้างของใส่ตลอดเวลา
ข้างๆ นั้นสายใจคอยเก็บข้าวของให้พ้นมือพันธ์นฤสรร์อย่างกลัวโดนลูกหลง
“คุณพันสร ฟังครูก่อนนะครับ” ชัยวัฒน์พยายามเจรจา
“ไม่ฟังๆๆ”
“เราเรียนเพิ่มแค่สองสามชั่วโมงเอง ครูตัดให้เหลือสองชั่วโมงก็ได้”
“ไม่เรียนๆๆ บอกว่า ไม่เรียน !”
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลเดินเข้ามา พันธ์นฤสรร์หันมามองณิชมนแล้วขว้างของใส่ทันที แต่ณิชมนหลบทัน ของถูกกันยาแทน
“พันสร ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ” พิมพ์นฤมลเสียงเข้ม
“ไม่หยุด” พันธ์นฤสรร์ตะโกนต่อ”ไม่เรียน ยังไงก็ไม่เรียนโว้ย”
“ทำไมเป็นเด็กอย่างนี้ ถ้าเธอยังไม่หยุดอาละวาด พี่จะบอกให้คุณแม่ส่งเธอเข้าโรงเรียน ให้ไปเรียนโรงเรียนประจำไกลๆ เลย ดื้ออย่างนี้ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยหรอก”
พันธ์นฤสรร์ยิ่งอาละวาดหนัก ขว้างและเตะข้าวของรอบข้างจนกระจุยกระจาย
“เราออกไปก่อนเถอะค่ะ”ณิชมนเสนอ
“แล้วจะทิ้งคุณพันสรไว้อย่างนี้เหรอ คุณแม่บ้านไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้เหรอไง หรือว่ามีปัญญาแค่นี้”ชัยวัฒน์ถามแดกดัน
“ทิ้งคุณพันสรไว้อย่างนี้แหละ ทุกคนออกไปค่ะ” ณิชมนยืนยัน
ณิชมนดึงพิมพ์นฤมลออกไป ชัยวัฒน์ตามออกไปพร้อมกันยาและสายใจ
พันธ์นฤสรร์หันไปมองทุกคนที่เดินออกไปแล้วยิ่งโมโหอาละวาดหนักขึ้นไปอีก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านสรณาลัย ณิชมน พิมพ์นฤมลและชัยวัฒน์เดินออกมาจากในบ้านพร้อมกัน โดยมีกันยากับสายใจตามหลังมา
“พี่กันยากับพี่สายใจไปทำงานต่อเถอะ อยู่เฝ้าคุณพันสรก็ไม่ได้ช่วยให้แกหยุดอาละวาดหรอก” ณิชมนบอก
กันยากับสายใจเดินออกไป
“แล้วการทิ้งคุณพันสรไว้อย่างนั้นจะทำให้คุณพันสรหยุดอาละวาดได้เหรอ คุณแม่บ้าน” ชัยวัฒน์ซัก
“แล้วทุกครั้งที่คุณพันสรอาละวาด คุณแก้ปัญหาด้วยวิธีอะไร ด้วยการตามใจแกทุกอย่างใช่มั้ยคะ แกถึงได้อาละวาดทุกครั้งที่ไม่ได้ดังใจ เราควรปล่อยให้แกอาละวาดให้พอ เหนื่อยหมดแรงเมื่อไหร่ก็หยุดไปเองแหละค่ะ” ณิชมนอธิบาย
“ผมจะคอยดูว่า วิธีของคุณแม่บ้านจะได้ผลออกมาเป็นยังไง คุณนมลเป็นพยานให้ผมด้วยนะครับ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับคุณพันสร ไม่ใช่ความผิดของผม แต่เป็นความผิดของคุณแม่บ้านคนเดียว !”
ชัยวัฒน์ผละออกไปอย่างหงุดหงิด
“พันสรคงไม่ทำร้ายตัวเองใช่มั้ยคะ พี่นอม” พิมพ์นฤมลเป็นห่วง
“ไม่หรอกค่ะ คุณพันสรเด็กเกินกว่าจะใช้วิธีแบบนั้นเรียกร้องความสนใจ แล้วทีหลังคุณนมลอย่าขู่คุณพันสรอย่างนั้นอีกนะคะ ที่บอกว่าจะส่งแกไปเรียนโรงเรียนประจำ ทำอย่างนั้นยิ่งจะทำให้แกเกลียดโรงเรียนแล้วก็จะทำให้แกคิดไปจริงๆ ว่าไม่มีใครต้องการแก”
“นมลพูดไปโดยไม่ทันคิดน่ะค่ะ แค่อยากขู่ให้พันสรหยุดอาละวาดเท่านั้นพี่นอมเข้าใจความรู้สึกเด็กดีจริงๆ เลยค่ะ ถ้าพี่นอมไม่ทำงานเป็นแม่บ้านไปเป็นครูได้เลยนะคะเนี่ย”
“อย่าเพิ่งชมนอมเลยค่ะ นอมยังไม่รู้ว่า วิธีของนอมจะสำเร็จหรือเปล่าคุณพันสรดื้อออกอย่างนั้น คงไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆหรอกค่ะ”
ณิชมนมีสีหน้าที่ยังไม่มั่นใจนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านบุริศราวัณ บุรธัชเดินเข้ามาแล้วต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นณิชาภัทรนั่งรออยู่แล้ว ณิชาภัทรเดินเข้ามาหาบุรธัชแล้วส่งกุญแจรถคืนให้
“ณิชา... ผมขอโทษจริงๆ ผมลืมไปเลย มัวแต่ยุ่งอยู่กับ..เออ.. “ บุรธัชพยายามแก้ตัว
“แม่บ้านที่ชื่อประนอม ธัชสงสัยอะไรแม่บ้านคนนี้นักหนาคะ ถึงขนาดฉุดลากเค้าออกไปอย่างนั้น ถ้าเกิดเค้าฟ้องร้องข้อหาลักพาตัวขึ้นมา ธัชจะเสียชื่อเสียงนะคะ ธัชนี่นะ ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับบ้านสรณาลัยล่ะก็บ้าดีเดือดอย่างนี้ทุกที”
“ผมมีเหตุผลที่จะสงสัยแม่บ้านคนนี้”
“เหตุผลอะไรล่ะคะ”
“ประนอมดูยังไงก็ไม่เหมือนแม่บ้าน ดูฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยม ปลิ้นปล้อนโกหกเอาตัวรอดไปเรื่อย ผมแน่ใจว่า ที่เค้ามาทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านสรณาลัยต้องมีเจตนาอื่นแอบแฝงแน่ๆ”
“นั่นก็เป็นปัญหาของบ้านสรณาลัยไม่ใช่เหรอคะ ไม่ใช่ปัญหาของธัชซะหน่อย ณิชาว่า ธัชสนใจแม่บ้านคนนี้เกินไปแล้ว แต่ก็ไม่แปลก แม่บ้านคนนี้สวยไม่ใช่ย่อย แล้วยังมีประวัติลึกลับน่าค้นหาอีก”
บุรธัชมองณิชาภัทรอย่างรู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร
“คุณคงไม่คิดบ้าๆ เหมือนนายภาสนะ ผมไม่ได้สนใจประนอมอย่างที่คุณคิด ผมเห็นเค้าทำตัวน่าสงสัย คราวก่อนไปถามลุงแหวงเรื่องคุณโชติไม่พอ คราวนี้ไปถามเรื่องคุณหญิงย่าอีก เป็นคุณ คุณไม่สงสัยหรือไง”
“ลุงแหวงอาจจะเป็นคนเริ่มก่อนหรือเปล่า ธัชก็รู้ว่า ลุงแหวงเจอใครก็ชอบเล่าเรื่องสมัยเก่าๆ ทุกที ยิ่งเรื่องอาชยทัตกับอาณัชชาหนีตามกันไป ลุงแกเล่า ให้ณิชาฟังไม่รู้กี่ร้อยรอบแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่า คุณย่าห้ามพูดเรื่องนี้เด็ดขาด เรื่องที่มันจบไปแล้วก็ควรปล่อยให้มันจบไป”
บุรธัชมองณิชาภัทรอย่างเข้าใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
ตอนที่ 5(ต่อ)
หน้าบ้านบุริศราวัณ บุรธัชเดินออกมาส่งณิชาภัทร
“เรื่องคุณอาชยทัตกับคุณอาณัชชายังไม่จบหรอกนะ ณิชา ยังไงผมก็เชื่อว่า คุณหญิงย่าตัดคุณอาณัชชาไม่ขาดหรอก”
“แต่คุณย่าไม่เคยให้คนออกไปตามหาอาณัชชาเลยนะคะ ตอนที่อาณัชชาหนีไปกับอาชยทัต คุณย่าจะลงหนังสือพิมพ์ประกาศตัดอาณัชชาออกจากตระกูล ไม่ให้ใช้นามสกุลสุธาสินด้วยซ้ำ ดีนะคะที่คุณพ่อห้ามไว้เพราะกลัวจะทำให้เรื่องยิ่งอื้อฉาว”
“คุณหญิงย่ารักคุณอาณัชชามากก็เลยโกรธมาก แต่นี่ผ่านมากี่ปีแล้ว ยี่สิบกว่าปีแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณอาณัชชากลับมาตอนนี้ คุณหญิงย่าจะต้องยกโทษให้แน่ๆ”
“ตอนที่ณิชาเรียนอยู่ที่ซิดนีย์ ณิชาก็เคยลองไปตามหาอาณัชชานะคะ แต่ก็ไม่เจอ มีคนที่รู้จักเล่าว่า ระยะหลังนี่อาชยทัตติดการพนันก็เลยพาอาณัชชาตระเวนไปเล่นกาสิโนทั่วยุโรป ณิชาเดาว่า อาณัชชาต้องอยู่อย่างลำบากแน่ๆ ยิ่งถ้ามีลูกก็ยิ่งแย่ไปใหญ่”
“ถ้าคุณอาณัชชามีลูก ก็ยิ่งต้องหาทางกลับเมืองไทยแน่ๆ คุณอาคงไม่อยากให้ลูกโตขึ้นโดยไม่รู้จักครอบครัวตัวเองหรอก”
“ลูกของอาณัชชาก็เป็นน้องณิชาน่ะซิคะ ณิชาอยากเห็นจังว่า น้องคนนี้หน้าตาเป็นยังไง เป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย คนเดียวที่จะบอกเราได้ คือใครรู้มั้ยคะ ธัช”
บุรธัชมองณิชาภัทร เขารู้ว่าณิชาภัทรจะไปหาคำตอบที่ใคร
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่บ้านสรณาลัย พันธ์นฤสรร์นั่งหมดแรงอยู่กลางห้อง แต่ยังไม่หมดฤทธิ์ใช้ขาถีบโน่นถีบนี่ไปเรื่อย
“ไม่เรียนๆ ยังไงก็ไม่เรียน” พันธ์นฤสรร์เริ่มเสียงแหบ
ในที่สุดพันธ์นฤสรร์ก็หยุดนิ่งหมดแรงอาละวาดอีกต่อไปแล้ว
“หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย กันยา ! สายใจ ! น้ำๆๆๆ จะกินน้ำ”
ณิชมนส่งแก้วน้ำให้ พันธ์นฤสรร์เงยหน้ามองณิชมนแล้วเมินหน้าหนี เธอจึงวางแก้วน้ำลงบนพื้น
“ดื่มน้ำเถอะค่ะ คุณพันสร จะได้มีแรงคุยกัน”
พันธ์นฤสรร์หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแต่ยังวางมาดอยู่
“เรามีเรื่องที่จะต้องตกลงกัน ครูชัยจะจัดตารางเรียนใหม่ เพิ่มชั่วโมงเรียน ลดชั่วโมงเล่นลงและต้องทดสอบความรู้อาทิตย์ละครั้ง คุณพันสรจะต้องทำตามนี้นะคะ”
“ไม่”
“ถ้าคุณพันสรไม่ขยันเรียน ก็จะสอบวัดผลไม่ผ่าน คุณก็จะเรียนซ้ำชั้นอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถ้ามีความรู้แค่ป.1 อยู่แค่นี้ อีกหน่อยจะไปช่วยงานคุณผู้หญิงได้ยังไง”
เมื่อนึกถึงแม่พันธ์นฤสรร์ก็เริ่มคิดได้
“คุณพันสรเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน มีหน้าที่ดูแลทุกคนในครอบครัวแทนคุณผู้ชายนะคะ”
“ฉันรู้แล้ว ครูชัยบอกว่า อีกหน่อยฉันต้องเป็นผู้นำของครอบครัว ต้องทำตัวให้แมนๆ เข้าไว้ อย่าทำตัวอ่อนแอให้ใครเห็น”
“การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความว่า ต้องทำตัวก้าวร้าวพูดจาแข็งกระด้างนะคะ คุณพันสร และที่สำคัญการเป็นผู้นำของครอบครัว หมายถึงการมีความรับผิดชอบด้วย คุณพันสรทำตัวไม่มีความรับผิดชอบอย่างนี้รู้มั้ยคะว่า ทำให้ใครผิดหวังที่สุด..”
พันธ์นฤสรร์มองณิชมนอย่างเริ่มเปิดใจรับฟัง
“คุณแม่ของคุณพันสรไงคะ ! ตอนนี้คุณแม่กำลังผิดหวังในตัวคุณที่สุด !”
ณิชมนมองพันธ์นฤสรร์ด้วยแววตาจริงจัง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกมุมหนึ่งของบ้านสรณาลัย ชัยวัฒน์กำลังฟ้องพรพรรณเรื่องณิชมน
“คุณพรพรรณครับ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคุณประนอมคนเดียวนะครับ นี่ถ้าหากเค้าไม่มายุ่งจุ้นจ้านงานของผม คุณพันสรก็คงไม่อาละวาดอย่างนี้หรอกครับ”
พิมพ์นฤมลพาพรรณอรเดินเข้ามา
“พี่อรมาก็ดีแล้ว มาช่วยกันหน่อยค่ะ พันสรอาละวาดไม่ยอมเรียนหนังสือค่ะ ทำยังไงดีคะ”
“นมลบอกว่า ประนอมไปเกลี้ยกล่อมอยู่ไม่ใช่เหรอ” พรรณอรชี้แจง
“คุณประนอมเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จหรอกครับ”ชัยวัฒน์ฟันธง
“แต่นมลเชื่อว่า พี่นอมต้องทำสำเร็จ”
“คุณพันสรเป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดจะทำอะไรแล้วไม่เคยยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ ผมถึงได้ใช้วิธีสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ยัดเยียดให้เรียนวันละหกเจ็ดชั่วโมงอย่างที่คุณประนอมบอก เห็นมั้ยครับว่า เกิดอะไรขึ้น เด็กเกิดความตึงเครียดรับสภาวะกดดันไม่ไหว ก็เลยใช้วิธีต่อต้านแบบนี้ เฮ้อ อย่างนี้ก็เดือดร้อนผมอีก ผมคงต้องเกลี้ยกล่อมคุณพันสรเป็นเดือนแน่ กว่าจะยอมกลับมาเรียนกับผมใหม่”
ณิชมนพาพันธ์นฤสรร์ เข้ามา พันธ์นฤสรร์วิ่งเข้าไปกอดพรรณอร
“พันสร..ว่ายังไงลูก ไม่อยากเรียนหนังสือเหรอ ลูก”
“ตกลงจะเรียนหรือไม่เรียน ถ้าไม่เรียนกับครูชัยล่ะก็..น้าจะส่งเรา..” พรพรรณขู่
“เรียนครับ” พันธ์นฤสรร์ตอบ
พรพรรณกับชัยวัฒน์มองพันธ์นฤสรร์อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คุณพันสรยอมกลับไปเรียนตามเดิมแล้วล่ะค่ะ แต่มีเงื่อนไขนิดหน่อยครูชัยต้องปรับตารางเรียนใหม่ ลดชั่วโมงเรียนวิชาบังคับและเพิ่มวิชาความรู้ทั่วไป” ณิชมนสรุปแทน
“ที่สนุกๆ !” พันธ์นฤสรร์เสริม
“แล้วก็วิชาศิลปะ” ณิชมนช่วย
“ที่สนุกๆ !” พันธ์นฤสรร์เสียงแจ๋ว
“ค่ะ ครูชัยควรจะสอนแบบนอกกรอบบ้าง ไม่ต้องสอนตรงเป๊ะตามตำราหรอกค่ะ อย่างวิชาภาษาอังกฤษก็ใช้หนังอนิเมชั่นประกอบการสอน ก็จะให้การเรียนการสอนสนุกขึ้น”
“ขอบคุณ แต่ไม่ต้องมาสอน ผมเป็นครู ผมรู้ว่าจะสอนเด็กยังไง ผมเน้นเรื่องเรียนเพื่อรู้ไม่ใช่เรียนเพื่อสนุก”
“แต่ถ้าเรียนแล้วได้ความรู้ด้วยสนุกด้วยจะไม่ดีกว่าเหรอคะ ยิ่งเด็กเล็กขนาดคุณพันสรด้วยแล้ว ก็ต้องหาทางจูงใจให้อยากเรียน” ณิชมนเสนอ
“ฉันเห็นด้วยอย่างแรงเลย ต้องเรียนด้วยความสนุก ฉันถึงให้พันสรเรียนที่บ้าน จะได้เลือกเรียนวิชานอกหลักสูตรได้เปิดโลกกว้างให้กับเด็ก ทีนี้จินตนาการของเด็กก็จะได้กว้างไกล ยังไงฝากประนอมดูวิชาเรียนให้พันสรด้วยนะ” พรรณอรหนุน
“มีเงื่อนไขแค่นี้เองเหรอ” พรพรรณสงสัย
“มีอีกข้อค่ะ จะมีการทดสอบความรู้ทุกอาทิตย์ ถ้าหากคุณพันสรทำคะแนนได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะได้ไปเที่ยวที่ไร่หรือรับรางวัลอื่นตามความเหมาะสม”
“ฉันก็นึกแล้วว่า ถ้าไม่มีเรื่องเที่ยวมาล่อล่ะก็ พันสรไม่กลับมาเรียนง่ายๆหรอก เป็นอันว่าหมดเรื่องแล้วนะ ครูชัยก็ไปจัดตารางเรียนมาใหม่แล้วก็ทำตามที่ประนอมแนะนำไป”
ชัยวัฒน์ฮึดฮัดไม่พอใจแต่เก็บอารมณ์ไว้ พรพรรณมองณิชมนอย่างยอมรับ
“ขอบใจนะ ประนอม ทำงานใช้ได้นี่” พรพรรณเอ่ยชมแบบวางฟอร์มแล้วเดินออกไป พิมพ์นฤมลยกนิ้วโป้งให้ณิชมน แต่ชัยวัฒน์มองณิชมนอย่างไม่พอใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนกับพิมพ์นฤมลเดินออกมาจากในห้องของสรณาลัย พันธ์นฤสรร์ดึงชัยวัฒน์ออกมาจากห้องตามหลังณิชมนไป
“ไปเร็วๆ ครู ไปเรียนหนังสือกัน แล้วจะให้สอบเมื่อไหร่ เอาเร็วๆ นะครูจะได้ไปเที่ยวเร็วๆ เดินเร็วๆ หน่อยดิ”
“ถ้าไม่เข้าใจอะไรตรงไหนมาถามพี่นอมได้นะ พันสร”
“ถ้าคุณพันสรไม่เข้าใจอะไร ต้องถามผมคนเดียว ผมมีหน้าที่สอนคุณพันสร คนอื่นไม่เกี่ยว อย่ามาก้าวก่ายหน้าที่ คนมีการศึกษาไม่ทำกัน” ชัยวัฒน์แขวะ
ชัยวัฒน์ถูกพันธ์นฤสรร์ลากตัวออกไป แต่ก็ไม่วายหันมาส่งสายตาอำมหิตใส่ณิชมน
“พี่นอมอย่าไปถือสาครูชัยเลยนะ เค้าคงจะเสียหน้าน่ะค่ะ” พิมพ์นฤมลปลอบ
“นอมก็ก้าวก่ายงานของครูชัยเค้าจริงๆ”
“พี่นอมทำตามหน้าที่ต่างหากล่ะคะ บ้านเราโชคดีจริงๆที่มีพี่นอมมาอยู่ด้วย แล้วนี่พี่นอมรู้ได้ยังไงคะว่าจะต้องต่อรองกับพันสรยังไง”
“ตอนเด็กๆ พ่อของนอมไม่มีเงินส่งนอมไปโรงเรียน นอมก็เลยต้องเรียนเองที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ นอมเข้าใจค่ะว่า การเรียนคนเดียวมันน่าเบื่อแค่ไหน นอมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน ยิ่งได้ไปกับพ่อแม่ด้วยแล้ว เป็นความสุขที่นอมไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ”
“ดูท่าทางพี่นอมจะคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วล่ะคะ”
“คงจะไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้วล่ะค่ะ”
ณิชมนนิ่งอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่ห้องทำงานภายในวิทยาลัยพลพิทักษ์ บุรธัชกับณิชาภัทรมองหน้ากันแล้วหันไปมองดาวเรืองที่นิ่งคิดอยู่
“ผมไม่ใช่คนเริ่มนะครับ คุณป้า แรกๆ เราก็คุยเรื่องแม่บ้านประนอมอยู่ดีๆ แล้ววกเข้าไปเรื่องคุณอาณัชชากับคุณอาชยทัตได้ยังไงก็ไม่รู้” บุรธัชแก้ตัว
“คุณชายหมายถึงแม่บ้านประนอมที่ทำงานที่บ้านสรณาลัยอยู่ตอนนี้หรือคะ”ดาวเรืองสงสัย
“จริงซิครับ ประนอมเคยทำงานให้คุณป้ามาก่อนนี่ครับ คุณป้ายังมีแฟ้มประวัติประนอมอยู่หรือเปล่าครับ ขอผมดูหน่อยได้มั้ย”
“ธัช ! เราไม่ได้มาหาคุณป้าเพื่อสืบประวัติแม่บ้านประนอมนะคะ คุณป้าขา ตกลงคุณป้าจะไม่ยอมบอกเราเรื่องอาณัชชาจริงๆ เหรอคะ”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะ ณิชา” ดาวเรืองปราม
“แต่ตอนนี้ณิชาก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ คุณป้า ถ้าหากมีอะไรช่วยได้ ณิชาก็อยากจะช่วย แล้วที่สำคัญตอนนี้ณิชาได้ชื่อว่าเป็นหลานคนเดียวของคุณย่า ถ้าหากอาณัชชามีลูก ก็เท่ากับว่าคุณย่ามีทายาทเพิ่มอีกคน แล้วจะให้ณิชาอยู่เฉยๆ รับมรดกของคุณย่าไปคนเดียว มันก็ไม่ยุติธรรมต่อลูกของอาณัชชานะคะ คุณป้า”
“ย่ายังไม่ทันจะตายเลย คิดจะฮุบมรดกของย่าแล้วเหรอ ณิชา” เสียงนวลแขดังมาจากทางด้านหลัง นวลแขก้าวเข้ามาในห้อง
“คุณย่า !” ณิชาภัทรตกใจ
บุรธัชกับณิชาภัทรมองหน้ากันเหมือนเด็กถูกผู้ใหญ่จับผิดได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ ห้องรับแขก วิทยาลัยพลพิทักษ์ ณิชาภัทรประคองนวลแขมานั่งอย่างประจบ บุรธัชกับดาวเรืองตามมานั่งด้วย
“คุณย่าขา คุณย่าฟังผิดแล้วล่ะค่ะ” ณิชาภัทรชี้แจง “ณิชาไม่ได้คิดจะฮุบมรดกของคุณย่านะคะ ณิชาไม่อยากรับมรดกจากคุณย่าอย่างไม่เป็นธรรมต่างหาก แล้วนี่คุณย่าตามอาณัชชาถึงไหนแล้วคะ มีเบาะแสะอะไรเพิ่มเติมบ้าง”
“เรานี่ร้ายจริงๆ คิดจะหลอกถามย่าใช่มั้ยเนี่ย” นวลแขรู้ทัน
“คุณหญิงย่าไม่ปฏิเสธอย่างนี้ แสดงว่า กำลังตามหาคุณอาณัชชาอยู่ใช่มั้ยครับ” บุรธัชพูดดัก
“คุณย่ายกโทษให้อาณัชชาแล้วเหรอคะ” ณิชาภัทรดีใจ
“บอกความจริงไปเถอะค่ะ คุณหญิง” ดาวเรืองเสนอ
“ย่าให้คนตามหาณัชชาอยู่ ล่าสุดที่ได้ข้อมูลมาก็คือ ชยทัตพาครอบครัวย้ายกลับมาอยู่ลอนดอนแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าอาศัยอยู่ที่ไหน ชยทัตทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ย้ายที่อยู่แทบทุกสามเดือน ก็เลยหาตัวไม่เจอซักที”
“อาชยทัตพาครอบครัวย้ายกลับมาอยู่ลอนดอน..นี่หมายความว่า อาชยทัตกับอาณัชชามีลูกใช่มั้ยคะ มีกี่คนคะ ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย”
“มีคนเดียวจ้ะ” ดาวเรืองตอบ “เป็นผู้หญิง ชื่อ ณิชมน..ณิชมน ชุติมันต์..ณัชชาไม่เคยลืมครอบครัวทางนี้เลย ถึงได้ตั้งชื่อลูกว่า ณิชมน ชื่อนี้คุณหญิงเป็นคนตั้งเอง จำได้มั้ยคะ คุณหญิง”
“ฉันจำไม่ได้” นวลแขบอกปัด
“ก็คุณหญิงเคยบอกว่า ถ้าหากณิชามีน้องสาว ก็จะให้ชื่อณิชมน ณัชชาก็เลยขอจองชื่อนี้ให้ลูกตัวเอง ตอนนั้นคุณหญิงดุณัชชาใหญ่หาว่าแก่แดดแก่ลม จำไม่ได้จริงๆ หรือคะ คุณหญิง”
นวลแขยังคงทำหน้าเฉยแม้ในใจจะห่วงใยลูกมากก็ตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชกับณิชาภัทรเดินประกบนวลแขพาออกมาจากวิทยาลัยพลพิทักษ์ โดยมีดาวเรืองเดินตามหลังมา
“ธัชกลับไปก่อนนะคะ เดี๋ยวณิชากลับกับคุณย่าได้” ณิชาภัทรบอกบุรธัช
“กลับไปกับคุณชายก่อนเถอะ ณิชา” นวลแขบอก “ย่าต้องอยู่ประชุมกับกรรมการวิทยาลัย คงนานหลายชั่วโมง วันนี้ต้องประชุมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องมอบทุนให้นักศึกษาเรียนดี แล้วยังมีโครงการอะไรนะ ครู”
“โครงการที่ทางจังหวัดขอความร่วมมือมาเหรอคะ โครงการร่วมใจพัฒนาค่ะ วันนี้คงสรุปได้ว่า จะให้ทางเราช่วยอะไรบ้าง” ดาวเรืองตอบ
“ณิชากลับกับธัชก่อนก็ได้ค่ะ ดีเหมือนกันนะ ธัช เราจะได้ไปช่วยกันวางแผนตามหาอาณัชชากัน”
“ถ้าคุณอาชยทัตทำงานไม่เป็นที่อย่างนี้ ตามหาตัวลูกสาวน่าจะง่ายกว่าลูกคุณอาอายุประมาณนี้น่าจะเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เราสอบถามไปทางมหาวิทยาลัยในลอนดอน อาจจะได้เรื่องก็ได้นะครับ”บุรธัชเสนอ
“ณิชาจะตามหาหลานสาวของคุณย่าให้เจอให้ได้ค่ะ”
“ตามใจ อยากจะทำอะไรก็ทำไป อย่าให้เสียงานเสียการก็แล้วกัน” นวลแขอนุญาต
“งั้นเรารีบกลับกันเถอะค่ะ ธัช เราจะได้เริ่มตามหาน้องณิชมนกัน ณิชาไปนะคะ คุณย่า”
ณิชาภัทรรีบเดินออกไป แต่บุรธัชรีรอ
“มีอะไรหรือคะ คุณชาย” นวลแขถาม
“คุณหญิงย่าครับ ผมมีเรื่องจะรบกวนน่ะครับ”
บุรธัชมองนวลแขด้วยสายตามุ่งมั่น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านสรณาลัย พรรณอรนั่งหลับตาฟังเพลงคลาสิคอยู่ รอบตัวของเธอเกลื่อนไปด้วยหนังสือแวมไพร์ พรพรรณเข้ามาปิดเครื่องเสียงและเก็บหนังสือให้เข้าที่
“ยัยพร ! พี่กำลังคิดพล็อตเรื่องใหม่ออกอยู่แล้วเชียว”
“พรขอโทษค่าที่มาขัดจังหวะ แล้วเรื่องเก่าเขียนจบแล้วเหรอคะ”
“พี่เขียนจบแล้วจ้ะ ทางสำนักพิมพ์ก็เร่งเหลือเกิน กลัวว่าจะไม่ทันงานสัปดาห์หนังสือ โธ่ หนังสือของพี่น่ะนะ ไม่ต้องโปรโมทก็ขายได้อยู่แล้ว ที่จริงพี่ว่าจะพักซักสองสามเดือนนะ แต่ประนอมทำให้พี่คิดพล็อตใหม่ขึ้นมาได้ หนังสือเรื่องใหม่ของพี่จะชื่อว่า... “
“พรก็จะมาคุยเรื่องประนอมนี่แหละค่ะ”
“เธอไม่พอใจอะไรประนอมอีกล่ะ”
“พรพอใจซะยิ่งกว่าพอใจอีกค่ะ ประนอมทำงานได้คุ้มเงินเดือนอย่างนี้ พรไม่สนใจแล้วล่ะค่ะว่า ประนอมจะจบม.6 จริงหรือเปล่า หรือจะเป็นใครมาจากไหน ขอให้ทำงานดีอย่างนี้ตลอดไป อย่ามาดีแตกทีหลังก็แล้วกัน”
“แล้วเธอมีเรื่องอะไรกับประนอมล่ะ”
“วันนี้เห็นฝีมือปราบพันสรของประนอมแล้ว พรว่าจะไปขอโทษอาจารย์ดาวเรืองน่ะค่ะ อาจารย์อุตส่าห์ส่งคนทำงานเก่งๆมาให้ พรยังไปทำเรื่องมากใส่อีก พรุ่งนี้พรว่าจะไปหาอาจารย์ที่วิทยาลัย แล้วจะพาประนอมไปด้วย พี่อรจะไปด้วยกันมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะจ้ะ พรุ่งนี้เป็นวันล้างพิษของพี่ พี่ต้องล้างพิษทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากจะกินแต่ผักและผลไม้แล้ว พี่ยังต้องทำสมาธิ..ต้อง..”
“พรก็นึกอยู่แล้วเหมือนกันว่า พี่อรไม่ไปด้วยแน่” พรพรรณขัดขึ้น “ตั้งแต่พี่นฤสรณ์เสียพี่อรก็ไม่เคยออกจากบ้านนี้เลย พี่อรจะหนียังไง ก็หนีโลกความจริงไปไม่ได้หรอกนะคะ”
พรพรรณเดินออกไป พรรณอรนิ่งอึ้งสีหน้าที่เคยยิ้มเริ่มเปลี่ยนไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่ ที่บ้านสรณาลัย ณิชมนช่วยกันยากับสายใจเก็บกวาดบ้านครั้งใหญ่ กันยาโยนหนังสือพิมพ์กับนิตยสารเก่าๆ ลงในถุงขยะ
“อย่าใส่ไปในถุงนั้นค่ะ พี่กันยา ถุงนั้นใส่เฉพาะขวดพลาสติก” ณิชมนร้องบอก
“ก็คุณแม่บ้านบอกว่า ถุงนี้สำหรับใส่ขยะรีไซเคิลไม่ใช่เหรอ” กันยาเถียง
“ไหนๆ เราก็แยกขยะแล้ว ก็แยกเป็นหมวดหมู่ไปเลย ถุงนี้ใส่กระดาษ ถุงนี้ใส่ขวดพลาสิค ถุงนี้ใส่ขวดแก้ว ช่วยแบ่งเบาภาระคนเก็บขยะยังไงล่ะคะ”
“เพิ่มงานให้พวกเราเปล่าๆนะคะ คุณแม่บ้าน”สายใจค้าน
“ช่วยกันสามคน แป๊บเดียวก็เสร็จค่ะ แล้วเลิกเรียกฉันว่า คุณแม่บ้านได้แล้ว เรียกประนอมเฉยๆ ก็ได้ ฉันก็เป็นลูกจ้างเหมือนทุกๆ คนแหละค่ะ”
“เรียกนอมเฉยๆได้ไง ต้องเรียกพี่นอมถึงจะถูก พี่นอมอายุสามสิบกว่าเข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ” กันยาแย้ง
“เราอ่อนกว่าพี่นอมตั้งหลายปี ดูหน้าก็รู้แล้วว่า ใครรุ่นป้าใครรุ่นหลาน” สายใจเสริม
กันยากับสายใจทำท่ามั่นใจว่าตัวเองหน้าอ่อนมากๆ ทั้งๆ ที่หน้าแก่กว่าณิชมนหลายเท่า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกันยาเดินไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ บ้านสรณาลัยค่ะ คะ? ต้องการพูดสายกับใครนะคะ”
กันยาเงยหน้ามองณิชมน
“พี่นอม ! โทรศัพท์ !”
ณิชมนอึ้งกลัวว่าจะเป็นญาติประนอมตัวจริงโทรมา
“พี่นอม ยืนเฉยอยู่ทำไม มารับโทรศัพท์ซิ”
“พี่กันยาฟังผิดหรือเปล่า” ณิชมนพยายามบ่ายเบี่ยง
“เค้าขอสายพี่นอมจริงๆ”
ณิชมนเดินๆไปรับโทรศัพท์อย่างกล้าๆกลัวๆ กันยาเดินกลับมาเมาธ์กับสายใจทันที
“ผู้ชายโทรมา !”
ณิชมนเห็นกันยากับสายใจมองมาอย่างสนใจ
“สวัสดีค่ะ ประนอมพูดสายค่ะ”ณิชมนพูด
ด้านหน้าบ้านสรณาลัย บุรธัชกำลังพูดโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถ
“ฉันอยู่ที่หน้าบ้าน ออกมาเจอกันหน่อย”
“คุณ..คุณโทรหาคนผิดแล้วล่ะค่ะ” ณิชมนปัดเพราะจำเสียงได้
“อย่าวางสายนะ ไม่งั้นฉันจะเข้าไปหาเธอในบ้าน ฉันให้เวลาห้านาที” บุรธัชขู่แล้วกดโทรศัพท์ปิดทันที
ณิชมนนิ่งอึ้ง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไร
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่หน้าบ้านสรณาลัย บุรธัชก้าวลงมาจากรถ เขายืนรอพลางดูนาฬิกาข้อมือ ณิชมนรีบเดินตรงมาหาบุรธัช เธอมองหน้ามองหลังกลัวคนในบ้านเห็น
“ขึ้นรถ!” บุรธัชสั่ง
“เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ คุณมีอะไรสงสัยฉันอีกล่ะ คุณอยากรู้ว่าฉันไปที่บ้านชุติมันต์ทำไม ฉันก็ตอบจนเคลียร์แล้ว ฉันพยายามจะไม่ออกไปข้างนอก เพราะจะได้ไม่ต้องไปเจอคุณให้เข้าใจผิดกันอีก หรือว่าคุณคิดจะแกล้งฉัน อยากให้คุณพรพรรณไล่ฉันออกใช่มั้ย”
“เธอก็ไม่อยากทำงานที่นี่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ทำงานที่นี่ แล้วฉันจะไปทำงานที่ไหนได้ ตอนนี้ฉันไม่มีเงินไม่มีบ้านไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย ถ้าไม่ทำงานที่นี่ ฉันก็จะไม่มีที่ซุกหัวนอน เห็นใจกันหน่อยได้มั้ย”
“ก็เพราะฉันเห็นใจเธอน่ะซิ ฉันก็เลยจะหางานใหม่ให้เธอ เธออยากทำงานที่บ้านคุณหญิงนวลแขไม่ใช่เหรอ”
“บ้านคุณหญิงนวลแข?” ณิชมนทวนคำ
“ฉันพูดกับคุณหญิงนวลแขให้เธอแล้ว ท่านกำลังขาดคนทำงานบ้านพอดียิ่งท่านรู้ว่าเธอเป็นคนของอาจารย์ดาวเรือง ท่านยิ่งยินดีที่จะรับเธอเข้าทำงาน ยืนรออะไรอยู่ ขึ้นรถซิ”
ณิชมนนิ่งอึ้ง บุรธัชเปิดประตูแล้วจับตัวณิชมนเข้าไปในรถ
ณิชมนทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอหน้าคุณยายในเวลานี้
กันยากับสายใจย่องออกมาจากที่หลบ
“ไปกับผู้ชาย !” กันยาเสียงหลง
“ไวไฟจริงๆ เพิ่งมาอยู่แป๊บเดียว สอยผู้ชายได้แล้ว หน้าตาคุ้นๆเนอะ แกว่าใช่พวกที่ทำงานที่ไร่หรือเปล่า”สายใจช่วยเสริม
“จะเป็นใครก็ช่าง โดดงานไปกับผู้ชายอย่างนี้ ได้ถูกไล่ออกแน่ๆ”
กันยากับสายใจหันมายิ้มให้กันอย่างรู้กันว่าจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพรพรรณ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถบุรธัชแล่นเข้ามาจอดหน้าตัวบ้านสุธาสิน บุรธัชลงจากรถ ณิชมนนั่งทำใจไม่กล้าลงจากรถ บุรธัชเดินไปเปิดประตูรถให้
“ลงมาได้แล้วครับ คุณผู้หญิง” บุรธัชประชด
ณิชมนค่อยๆลงจากรถอย่างไม่มั่นใจ แล้วยืนมองตัวบ้านอย่างสำรวจ
“บ้านของแม่..”ณิชมนพึมพำ
บุรธัชดึงณิชมนให้เดินเข้าไปด้วยกัน
“เธอต้องชอบทำงานที่บ้านนี้แน่ มีเจ้านายแค่สองคนคือ คุณหญิงนวลแขกับหลานสาว เธอเจอณิชาแล้วนี่ ณิชาเป็นหลานสาวคนเดียวของคุณหญิงนวลแข …”
ณิชมนชะงักยืนนิ่ง บุรธัชหันไปมองณิชมนที่ไม่ยอมเดินตามมา
“เปลี่ยนใจแล้วเหรอ ที่บอกว่า เธออยากทำงานที่บ้านนี้ เธอโกหกใช่มั้ย”
“ฉันไม่ได้โกหก...”
“งั้นก็พิสูจน์ซิ ช่วยแสดงให้ฉันเห็นว่า เธอเป็นแค่แม่บ้านธรรมดาๆ คนนึง จริงๆ ทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่มีประวัติอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่ แล้วฉันก็จะไม่ยุ่งกับชีวิตเธออีก !”
ณิชมนตัดสินใจก้มหน้าก้มตารีบเดินเข้าไปในบ้าน บุรธัชมองตาม เขาเริ่มคลายสงสัยว่าณิชมนคงไม่ได้มีอะไรปิดบังอยู่
จบตอนที่ 5
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.