xs
xsm
sm
md
lg

เส้นตายสลายโสด ตอนที่ 14

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 14

น้ำฟ้าอุ้มหมาอยู่หน้าออฟฟิศ แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบหมา เธอจึงอุ้มให้อยู่ห่างๆ จากตัว และเมื่อน้องหมามองมาน้ำฟ้าก็ไม่สบอารมณ์

“มองอะไร” น้องหมายังมองหน้าอีก “อะไร ได้คืบจะเอาศอก หมาเด็กเอาแต่ใจ! ให้ฉันอุ้มดีๆ เหรอ ไม่มีทาง”
น้ำฟ้ามองหน้าหมาอีก แล้วก็ใจอ่อน เอามาอุ้มไว้แนบอกอย่างเร็ว
“พอใจยัง! เมื่อไหร่แม่แกจะมาเนี่ย”
น้ำฟ้าค่อยๆ รู้สึกว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกๆ จึงก้มลงมอง
“ฉี่ใส่ฉันได้ยังไง อ๊ายย เลี้ยงไม่เชื่อง อกตัญญู”
น้ำฟ้าดูเสื้อผ้าตัวเองเปื้อนฉี่หมาเป็นทาง จึงตัดสินใจวางหมาลง เอาเชือกจูงหมาพันไว้รอบๆ เสา
แล้ววิ่งเข้าออฟฟิศไปทันที มิ้นท์โผล่มาจากมุมหนึ่ง มองไปที่น้องหมาอย่างมีแผน
น้ำฟ้าเดินออกจากห้องน้ำ หลังจากที่ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ถูกหมาฉี่รดแล้ว ดินเดินมากับเฟซและฮันนี่
“อ้าว...ฟ้า แล้วไหนถุงทองล่ะ”
“ถุงทองไหน” น้ำฟ้าทำหน้างง
“ถุงทอง น้องหมาของเฟซค่ะ”
“ก็อยู่ข้างหน้าไง ฉันผูกเอาไว้ ทีหลังก็เลี้ยงให้ฉี่เป็นที่เป็นทางหน่อยนะ ไม่ใช่เห็นตัวคนที่อุ้มเป็นส้วม”
“เธออุ้มหมาด้วยเหรอฟ้า เกลียดหมาจะตายนี่”
“แน่ใจเหรอว่าล่ามมันไว้ดีแล้ว”
“คงดีแหละ” ฟ้าว่า
เฟซวิ่งออกไป ดินตามไปกับฮันนี่
“อะไรกันนักหนานะ แค่หมาตัวเดียว” น้ำฟ้าบ่น
เฟซ ดิน ฮันนี่วิ่งมาถึงหน้าออฟฟิศ แต่ไม่เห็นตัวน้องหมา เฟซตกใจมาก
“ถุงทอง”
“หายไปไหน”
“หรือถูกขโมยไปแล้ว หรือเชือกหลุด วิ่งหนีเตลิดไป ถูกรถทับ ตายคาที่”
ฮันนี่สันนิษฐาน เฟซปล่อยโฮออกมาทันที
“ถุงทอง ลูกแม่”
“หรือว่า...” ฮันนี่จะพูดต่อ ดินขัด
“พอเหอะ ฮันนี่”
น้ำฟ้าเดินออกมากับบีบี ต้นและกอหญ้า ฮันนี่หันมาเล่นงานน้ำฟ้าตามแผนทันที
“เพราะเธอคนเดียวฟ้า ทำหมาเขาหลุดไป”
“ไม่จริง ก็ฉันผูกไว้แน่นแล้วนะ...”
“รบกวนทุกคนช่วยกันตามหาถุงทองหน่อยได้มั้ยครับ เผื่อจะหลุดไป และยังอยู่แถวนี้” ดินตัดบท ฮันนี่แอบยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะหาเรื่องหนีออกจากที่นั้น
“ อุ๊ย...ต้องโทรหาลูกค้าก่อนนะ นัดไว้ เดี๋ยวออกมาช่วยนะ โชคดีนะทุกคน”
ฮันนี่รีบวิ่งเข้าออฟฟิศไป สะใจมาก
ดินและเฟซวิ่งนำออกไป ตะโกนตามหาถุงทอง ต้น กอหญ้า ช่วยวิ่งออกไปตามหาด้วย...น้ำฟ้ารู้สึกผิด เมื่อเห็นเฟซร้องไห้ไปวิ่งตามหาถุงทองไปก็ยิ่งรู้สึกผิดหนัก เลยตัดสินใจวิ่งออกไปช่วยตามหาด้วย
“ถุงทอง กุ๊กๆๆ”
“นั่นมันไก่”
“ไม่เคยเลี้ยงหมา ไม่รู้”
“เรื่องง่ายๆ ล่ะซื่อบื้อ เรื่องยากๆ ล่ะฉลาดนัก”
น้ำฟ้า และบีบีวิ่งออกไปตามหาน้องหมา
ขณะนั้นมิ้นท์อุ้มน้องหมาอยู่ริมถนน ท่าทางของมิ้นท์เหมือนลังเลใจอะไรบางอย่าง
“ให้วางยาเบื่อเลยเหรอ...คุณฮันนี่โหดอ่ะ”
มิ้นท์มองหน้าน้องหมาแล้วรู้สึกสงสาร
“เนอะ...คนอะไรใจร้ายใจดำอำมหิต ใครจะไปทำลง หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแบบเนี้ย แล้วจะเอาแกไปไว้ที่ไหนดีล่ะเนี่ย”
มิ้นท์ยังตัดสินใจไม่ได้

+ + + + + + + + + + + + +

เฟซเดินตามหาน้องหมาไปร้องไห้ไป ดินกำลังคุยอยู่กับชาวบ้านคนหนึ่ง
“ไม่เห็นเหรอครับ”
ชาวบ้านส่ายหน้า ดินผละจากชาวบ้านมาหาเฟซที่ใจเสียหนักขึ้น
“ไม่มีใครเห็นถุงทองเลย”
“ใจเย็นๆ ครับ”
เฟซร้องไห้หนัก โผเข้าซบดิน ดินตบไหล่เบาๆ ปลอบใจ น้ำฟ้าและบีบีวิ่งเข้ามา สองคนกระหืดกระหอบ แต่เมื่อเห็นภาพดินกำลังปลอบใจเฟซทั้งคู่ถึงกับชะงัก เฟซหันมาเห็นน้ำฟ้ากับบีบี รีบถามขึ้นทันที
“เจอถุงทองมั้ยคะ”
“ไม่เจอค่ะ”
น้ำฟ้ากับบีบีตอบเสียงสะบัด เฟซได้ฟังก็ยิ่งร้องไห้
“ฮือ...”
ระหว่างปลอบใจเฟซ ดินมองน้ำฟ้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ จนน้ำฟ้านึกหมั่นไส้
“อ่ะ กอด ปลอบใจกันอยู่นั่น ไม่ห่วงหมาแล้วหรือไง”
“ห่วงค่ะ แต่เฟซ...เฟซกลัว...กลัวถุงทองจะ...”
“ก็รีบออกไปตามหาสิคะ มัวแต่ร้องไห้ มันคงโผล่มาหรอกค่ะ ไป บีบี ไปตามหากันทางโน้น”
น้ำฟ้าลากบีบีที่มองดินกับเฟซแบบงอนๆ ออกไป
“เราไปตามหาถุงทองกันต่อเถอะครับ คุณเฟซ”
“ค่ะ”
ดินพาเฟซออกตามหาหมาต่อไป

+ + + + + + + + + + + +

ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าออฟฟิศ เฟซทรุดตัวลงนั่งหมดแรง
“ไม่มีใครเห็นเลยพี่”
“ทำไงดี โทรไปแจ้งรายการวิทยุให้เขาช่วยประกาศตามหาดีมั้ย” กอหญ้าออกความเห็น
“ไปแจ้งเลย”
กอหญ้าวิ่งออกไป น้ำฟ้ามองดูเฟซที่ร้องไห้ออกมาอีก
“ถุงทอง แม่ขอโทษนะ แม่ดูแลหนูไม่ดีเลย”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ คือฉันอาจจะล่ามมันไว้ไม่ดี มันอาจจะ...”
ดินมองน้ำฟ้าอย่างโกรธๆ แล้วเข้ามาลากน้ำฟ้าออกไปทางหนึ่ง
“ผมขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว เดี๋ยวนี้!”
น้ำฟ้าตามไปอย่างตกใจ เพราะดินดูโมโหมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บีบีมองตามประหลาดใจ แต่ก็มาปลอบใจเฟซ แบบไม่ค่อยเต็มใจ
“ทำใจเหอะ ตอนนี้ถุงทองอาจไปเกิดใหม่เป็นเทวดาหมาแล้วก็ได้”
เฟซยิ่งใจเสียปล่อยโฮออกมา
“เจ๊ เงียบเหอะ ยิ่งปลอบยิ่งไปกันใหญ่” กอหญ้าบอกบีบี
“เออ ไม่ปลอบก็ได้”
บีบีลุกหนีออกไป ต้นลงมาปลอบเฟซแทน
“บางทีตอนนี้ ถุงทองอาจจะกลายเป็นลูกชิ้นทอดไปแล้วก็ได้ ยังไม่ขึ้นสวรรค์ไปเป็น
เทวดาหมาหรอก คุณเฟซว่ามั้ย”
เฟซค่อยๆ หันมามองหน้าต้น ที่ยังไม่รู้ตัวว่าคำปลอบโยนนั้นช่างแสนทำร้ายจิตใจไม่แพ้บีบี
“โฮ...”
ต้นตกใจ คราวนี้ลนลานจนทำอะไรไม่ถูก
ดินพาน้ำฟ้าหลบมาอีกมุมหนึ่งแล้วต่อว่าอย่างไม่พอใจ
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้”
“ฉันไปทำอะไร”
“ผมรู้นะว่าคุณจงใจทำให้หมาหลุดไปเอง”
“ฉันเนี่ยนะ เพื่อ...?”
“คุณตั้งใจจำทำร้ายความรู้สึกของคุณเฟซ เพราะคุณรู้ว่าคุณเฟซรักถุงทองมาก”
“ฉันเนี่ยนะ เพื่อ...?”
“เพื่อเพื่อนคุณไง”
น้ำฟ้าอึ้ง บีบีที่เดินเข้ามาตั้งใจจะเข้ามาคุยด้วย แต่ชะงักไม่เดินต่อ เปลี่ยนมาแอบฟังทันที
“นี่นายคิดว่าฉันมีความคิดชั่วร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ทำไมคุณจะทำไม่ได้ คนอย่างคุณทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการทำร้ายจิตใจคนอื่น”
“นายดิน”
“สงสารบีบีนะ ที่มีเพื่อนร้ายกาจอย่างคุณ ผมคิดผิดจริงๆ ที่คิดว่าคุณน่าจะเป็นเพื่อนผมได้”
“พอแล้ว! เออ ฉันมันร้ายกาจ ฉันเป็นคนตั้งใจปล่อยให้หมามันหลุดไป อยากให้มันไปถูกรถชนตาย อยากให้แฟนของนายเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เครียดจนประสาท แล้วฉันก็จะหาทางดันเพื่อนฉันให้เข้าไปแทนที่ เพื่อนฉันจะได้สมหวัง มีความสุข นี่คือแผนชั่วร้ายทั้งหมดของฉัน ชั่วมาก พอใจหรือยัง!”
ดินอึ้ง น้ำฟ้ามองดินด้วยความรู้สึกเสียใจ
“ฉันก็คิดผิดที่คิดว่านายน่าจะเป็นเพื่อนฉันได้...”
น้ำฟ้าวิ่งออกไป ดินมองตามด้วยความรู้สึกผิดหวัง บีบีอึ้งที่เรื่องบานปลาย ฟ้ากับดินทะเลาะกันโดยมีตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันนั้นมิ้นท์ยังอุ้มน้องหมาอยู่ริมถนนและตัดสินใจที่จะไม่วางยาเบื่อหมาตามที่ฮันนี่สั่ง
“เดี๋ยวพี่จะเอาไปฝากเพื่อนเลี้ยงแล้วกันเนอะ”
มิ้นท์จะโบกเรียกแท็กซี่ แต่รถของคุณวีเข้ามาเทียบจอด มิ้นท์ตกใจจะเดินหนี แต่ไม่ทัน คุณวีจอดรถแล้วเปิดประตูลงมา
“คุณมิ้นท์จะพาหมาของคุณเฟซไปไหนครับ”
“เอ่อ...คือ...ว่า มิ้นท์พามาเดินเล่นค่า”
มิ้นท์ปาดเหงื่อ คุณวีมองมิ้นท์อย่างสงสัย มิ้นท์หลบตาวูบ
“แน่ใจเหรอครับ ว่าคุณตั้งใจพาหมามาเดินเล่น”
“จริงๆ ค่ะ พอดีมิ้นท์ว่าง ไม่มีอะไรทำ เลยพาหมามาเดินเล่นชิวๆ”
คุณวียังไม่ไว้ใจ มิ้นท์หน้าเสียหลบสายตาคุณวี

+ + + + + + + + + + + +

เฟซยังร้องไห้ไม่หยุดโดยมีดินนั่งปลอบใจอยู่ข้างๆ ต้นได้แต่ดูนิ่งๆ เงียบๆ ไม่กล้าปลอบอีก กอหญ้ายืนมองอยู่ใกล้ๆ ด้วยความสงสาร
“เดี๋ยวคงมีเบาะแสอะไรบ้างแหละ หมาของคุณเฟซใครๆ ก็ต้องสะดุดตา เพราะเป็นหมาฝรั่ง แต่ถ้าเป็นพันธุ์ทางข้างถนนเหมือนนายต้นเนี่ยก็อาจจะไม่เป็นที่สังเกต” กอหญ้าบอก
“ไม่ใช่หมา” ต้นแย้ง
“โฮ... ถุงทอง กลับมาหาแม่นะลูกนะ ขอให้บุญทั้งหมดที่เฟซทำเอาไว้ทั้งในชาตินี้และอดีตชาติ ช่วยทำให้ถุงทองกลับมาหาเฟซด้วยเถอะ”
รถคุณวีขับเข้ามาทุกคนประหลาดใจ คุณวีลงมาจากรถมิ้นท์เปิดประตูอุ้มน้องหมาลงมาด้วยหน้าเจื่อนๆ
“ถุงทอง”
“ถุงทองลูกแม่”
เฟซวิ่งเข้าไปอุ้มถุงทองมาจากมิ้นท์ทันที
“ผู้หญิงมีบุญจริงๆ อ่ะ ขอปุ๊บมาปั๊บเลย”
“ไปเจอถุงทองได้ไงครับ คุณมิ้นท์” ดินถาม
“เอ่อ คือ เอ่อ...” มิ้นท์อึกอักไม่รู้จะตอบยังไง
“ผมเห็นคุณมิ้นท์พาถุงทองไปเดินเล่นอยู่ที่ฝั่งโน้นน่ะครับ” คุณวีบอก
“ใช่ค่ะ ไปเดินเล่น มิ้นท์เห็นหมาน่ารัก น่าเอ็นดูเลยถือวิสาสะอุ้มพาออกไปค่ะ”
“เย้! เจ๊ฟ้าของต้นเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว เฮ้”
ต้นบอกอย่างดีใจ ดินหน้าเสียคิดถึงน้ำฟ้าที่เพิ่งถูกเขาต่อว่าไปอย่างรุนแรง

+ + + + + + + + + + + +

ขณะนั้นน้ำฟ้ากำลังพยายามสงบสติอารมณ์อยู่ ในมือถือแก้วน้ำเปล่า พยายามจะดื่มย้อมใจ แต่อารมณ์ตอนนี้ยังโกรธอยู่มาก น้ำฟ้าดื่มน้ำหมดแก้วหันไปหยิบขวดมาจะรินต่อ แต่น้ำในขวดหมด...มีขวดน้ำขวดใหม่มาวางให้ น้ำฟ้าเหลือบไปมอง เห็นดินเป็นคนหยิบขวดน้ำมาให้
“ผม...ขอโทษ”
น้ำฟ้าหันมาเผชิญหน้าดินด้วยความรู้สึกผิดหวัง
“ง่ายไปมั้ง”
น้ำฟ้าหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วจนเต็ม จะดื่ม
“ผมผิดเองที่ด่วนตัดสินคุณ ผมขอโทษ” น้ำฟ้าไม่ตอบ ดื่มน้ำต่อไป “คุณต้องให้ผมทำยังไง คุณถึงจะยอมยกโทษให้ผม ขอร้องล่ะคุณฟ้า อย่าเงียบแบบนี้”
“ดูถูกฉันโดยที่ไม่เช็กข้อมูลให้ดีไม่พอ ยังจะมาสั่งฉันให้ทำโน่นทำนี่อีกเหรอ”
“คนเราทำผิดกันได้ และถ้ารู้ว่าผิด ก็ควรจะขอโทษ และผมก็กำลังขอโทษคุณ”
“ตอนนี้ก็พูดให้ตัวเองดูดีขึ้นมาอีก เฮอะ”
“คุณฟ้า อย่าใช้อารมณ์ได้มั้ย เราคุยกันดีๆเถอะ”
“ไปคุยดีๆ กับแฟนของนายโน่น! ส่วนฉัน....ไม่มีวันคุยดีกับนายอีกแน่”
“แปลว่าคุณจะไม่ให้อภัยผม”
“และฉันก็จะไม่ลืมมันด้วย”
น้ำฟ้าลุกขึ้นจะเดินหนี ดินเข้าไปขวาง
“ผมไม่ยอมให้คุณไป”
น้ำฟ้ามองหน้าดินอย่างท้าทาย แล้วคว้าแก้วน้ำมาสาดใส่หน้าดิน
“รู้สึกไง เหมือนโดนหยามศักดิ์ศรีใช่มั้ย...เหมือนกัน!”
น้ำฟ้ากระแทกแก้วน้ำลง ผลักตัวดินออก แล้วเดินฉับๆ ออกไป ดินค่อยๆ ปาดน้ำออก รู้สึกแย่ที่ทำผิด จนทำให้น้ำฟ้าโกรธมาก

+ + + + + + + + + + + +

ฮันนี่โกรธมากที่มิ้นท์ทำงานไม่สำเร็จจึงต่อว่ามิ้นท์ด้วยความโมโห ภายในห้องทำงานของเธอ
“โง่ๆๆ ทำไมไม่รีบจัดการให้มันตายๆ ไปซะ”
“ก็มิ้นท์สงสารลูกหมาตาดำๆ นี่คะ”
“แต่ไม่สงสารตัวเองใช่มั้ยที่ขัดคำสั่งฉันเนี่ย! ฉันอยากให้หมาของยัยเฟซตาย”
“อย่าด่ามิ้นท์เลยค่ะ ยังไงมันก็ได้ผลนี่คะ ยัยเฟซร้องไห้ซะไม่มีดี กับทำให้ยัยน้ำเน่าทะเลาะกับคุณดินจนมองหน้ากันไม่ติด แถมไม่มีใครรู้ความจริงว่า จริงๆ แล้วคุณฮันนี่ให้มิ้นท์เอาหมาไปฆ่า”
“จะตะโกนประจานฉันให้คนอื่นได้ยินกันหรือไง” มิ้นท์จ๋อย
“แต่คราวนี้ ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย เธอรอดตัวไป”
ฮันนี่ค่อยๆ หัวเราะออกมาอย่างสะใจ “หึหึหึ...”
“โรคจิตอ่ะ” มิ้นท์พึมพำออกมาเบาๆ ขณะที่ฮันนี่หัวเราะอย่างมีความสุข

น้ำฟ้าเดินออกมาจากออฟฟิศ ในอารมณ์พลุ่งพล่านด้วยความโกรธ ขณะกำลังจะเดินออกไปนอกถนน บีบีเดินเข้ามาหา เรียกเอาไว้
“ฟ้า! แกจะไปไหน”
“ยังไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้”
“ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั้ย”
น้ำฟ้ามองบีบีอย่างประหลาดใจ
บีบีพาน้ำฟ้ามานั่งคุยที่มุมนั่งเล่น บีบีนั่งซึมถอนใจเฮือกใหญ่เปิดปากจะพูดแต่ก็ไม่พูด บีบีถอนใจอีกเฮือก เปิดปากจะพูดแต่ก็ไม่พูดจนน้ำฟ้าต้องโวยขึ้นมา
“ขืนแกเฮือกหยุด เฮือกหยุด อยู่แบบนี้อีกทีนึงนะ ฉันจะไปจริงๆ ด้วย”
“ก็ได้” บีบีถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง แต่คราวนี้รวบรวมสติได้พูดออกไป
“ฉันจะตัดใจจากคุณดิน” น้ำฟ้ารีบเอามือมาอังที่หน้าผากของบีบีทันที จับตามเนื้อตามตัวพัลวัน
“ทำอะไร”
“อ้าปากซิ” บีบีอ้าปาก
ฟ้าส่องดูในคอ “คอก็ไม่แดง” ฟ้าจับเปลือกตาบีบีเหลือกขึ้น “ตาก็โอเค”
“โอ๊ย เจ็บ ทำอะไรของแก”
“เช็กดูไง ว่าแกไม่สบายหรือเปล่า ถึงได้บอกว่าจะตัดใจจากนายดิน”
“ฉันปกติดีและฉันก็คิดดีแล้ว ถึงได้บอกแก”
“ทำไม”
“ฉันควรจะยอมรับความจริง ว่าฉันสวยเกินไป คุณดินไม่มีทางคิดกับฉันไปไกลกว่าคำว่าเพื่อนได้”
“ทำไม” น้ำฟ้าคาดคั้นต่อ
“คุณดินอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ฉัน”
“ทำไม” น้ำฟ้ายังคาดคั้นไม่เลิกเพราะไม่เชื่อ
“เนื้อคู่ตัวจริงของฉันอาจจะรออยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ เช่น ฮอลลีวู้ด”
“ทำไม”
“เพราะฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้แกกับคุณดินต้องมาทะเลาะกันจนเสียความเป็นเพื่อน”
บีบีโพล่งบอกสาเหตุที่แท้จริง น้ำฟ้าถึงกับอึ้ง
“บีบี”
“แกเป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุด ส่วนคุณดินถึงฉันจะไม่อยากเป็นแค่เพื่อน แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉันของแก...ฉันจะเป็นคนเลวมากถ้าทำให้ความเป็นเพื่อนของเราต้องพังเข้าใจป่ะ” บีบีพูดเป็นงานเป็นการ
น้ำฟ้าพยักหน้า ซาบซึ้งมาก
“บีบีขอบใจนะแต่ไม่ทันแล้วละ”
“อะไรไม่ทัน”
“นายดินจะเป็นไงฉันไม่รู้ แต่สำหรับฉันไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนให้นายดิน”
“แต่คุณดินเป็นคนดีนะ เขาอาจจะกำลังโกรธ เลยคิดว่าเป็นฝีมือแก ขอร้องล่ะฟ้า อย่าให้การเสียสละของฉันต้องเสียเปล่าเลย”
“ไม่หรอกบีบี อย่างน้อยแกก็จะได้เริ่มต้นใหม่กับเนื้อคู่ตัวจริงที่อาจจะรอแกอยู่ที่ฮอลลีวู้ด และจำไว้นะ ว่าที่ฉันโกรธนายดินเพราะความหูเบาของนายนั่น ไม่ใช่เพราะแก” น้ำฟ้าหงุดหงิดเมื่อคิดถึงดิน
“พูดถึงชื่อนี้แล้วหงุดหงิดฉันจะกลับบ้าน”
น้ำฟ้าเดินออกมาหน้าออฟฟิศกำลังจะกลับบ้าน เฟซเดินเข้ามาหาใบหน้าจ๋อยๆ
“คุณฟ้าคะ”
“คะ”
“เฟซขอโทษแทนคุณดินด้วยนะคะ”
“ไม่ค่ะ”
“คุณฟ้าโกรธคุณดินขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ค่ะ”
“เฟซขอโทษค่ะที่เป็นต้นเหตุให้คุณสองคนทะเลาะกัน”
“ฉันยกโทษให้คุณเฟซค่ะ แต่กรุณาอย่ามาเป็นกาวสมานใจให้นายดินกับฉันอีก เพราะไม่งั้น ฉันจะไม่ยกโทษให้คุณเฟซ”
“ค่ะ” เฟซอุ้มน้องหมาเดินออกไป ก่อนจะวกกลับมาใหม่ “เฟซมีเรื่องจะรบกวนคุณฟ้าเรื่องหนึ่ง ได้มั้ยคะ”
ฮันนี่เดินเข้ามาเห็น รีบหลบแอบฟังทันที ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน น้ำฟ้ามองหน้าเฟซที่ส่งสายตาอ้อนวอนดูน่าสงสารเหมือนหน้าถุงทองไม่มีผิด แล้วถอนหายใจ
“ขอร้องล่ะคุณเฟซ ตอนนี้อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉันได้มั้ย”
“ถ้าคุณฟ้าไม่อยากให้เฟซยุ่ง งั้น ช่วยคืนดีกับคุณดินได้มั้ยคะ”
“โอยยย!”
ฮันนี่ยิ้มอย่างมีแผนร้าย

+ + + + + + + + + + + +

เฟซจูงมือกึ่งลากน้ำฟ้ามาที่หน้าบ้านดิน แต่น้ำฟ้าขืนตัวอย่างไม่เต็มใจ
“มาเถอะค่ะ”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันจะกลับ”
“คุณฟ้าคะ ถ้าคุณฟ้าไม่ยอมคุยกับคุณดินแล้วคืนดีกัน เฟซก็จะทำตัวน่ารำคาญมาขอร้องอ้อนวอนคุณฟ้าทุกวัน ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ทุกๆ ที่ คอยดูสิคะ กลัวมั้ยคะ”
“เฮ้อ...”
“ใจอ่อนแล้วใช่มั้ยคะ”
น้ำฟ้ายังนิ่ง จนเหลือบไปเห็นรถของฮันนี่จอดอยู่
“รถยัยฮันนี่” น้ำฟ้าเปลี่ยนใจทันที “เข้าไปกันเถอะ คุณเฟซ”
น้ำฟ้าเป็นฝ่ายลากเฟซเข้าไปในบ้านดินอย่างเร็วจนเฟซงง
ขณะนั้นดินนั่งเปิดทีวีดูอยู่ในชุดเตรียมนอน ไม่ใส่เสื้อ ดินกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ อย่างหงุดหงิด
ก่อนจะตัดสินใจปิดทีวีลุกขึ้นจะเข้าข้างใน แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นฮันนี่ยืนยิ้มอยู่ที่ประตูเข้าบ้าน
“ฮันนี่”
“พอดีเห็นประตูไม่ได้ล็อค และเปิดอยู่ ฮันนี่ก็เลยถือวิสาสะเดินเข้ามา คงไม่ว่ากันนะคะ”
ฮันนี่เดินเข้าหา ดินถอยหนี
“เอ่อ...งั้น รอผมแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน แป๊บนึงนะ เดี๋ยวผมมา”
ดินเดินผ่านฮันนี่ ฮันนี่หลบแต่แกล้งเซ ล้มลงบนตัวดิน
“อุ๊ย!”
“ระวัง!”
ดินรับตัวฮันนี่ไว้ ทั้งคู่ล้มลงไปบนโซฟา ฮันนี่จงใจสบตาดินตรงๆ ในระยะใกล้มากจนดินอึ้ง จังหวะนั้นน้ำฟ้ากับเฟซเข้ามาเห็นพอดี สองสาวตกใจ น้ำฟ้าโกรธมากในขณะที่เฟซหน้าเสีย
“ทำอะไรกัน”
น้ำฟ้าถามขึ้นมา ดินกับฮันนี่หันมามองจึงเห็นน้ำฟ้ากับเฟซยืนอยู่
“คุณฟ้า คุณเฟซ เวรแล้วมั้ยล่ะ”
ดินตกใจรีบผลักฮันนี่ออกไปทันที เฟซเบือนหน้าหนี ทำตัวไม่ถูก
“ขอโทษค่ะ ที่เสียมารยาท เรากลับกันเถอะค่ะคุณฟ้า”
เฟซจะจูงน้ำฟ้าออกไป แต่น้ำฟ้ายังมองดินและฮันนี่อย่างเดือดดาล
“เดี๋ยว คุณเฟซอย่าเพิ่งกลับ” น้ำฟ้าปราดเข้ามาจิกทึ้งดินทันที เหมือนแฟนที่จับได้ว่าแฟนมีกิ๊ก
“ทำอย่างนี้กับคุณเฟซทำไมหา นี่ๆๆ”
เฟซอึ้งที่น้ำฟ้าออกตัวแรง
“โอ๊ยย เดี๋ยวก่อน คุณฟ้า”
“คุณฟ้าใจเย็นๆ ก่อนค่ะ คุณฟ้า” เฟซพยายามห้ามแต่น้ำฟ้าไม่สนใจ
“มีคุณเฟซอยู่แล้วทั้งคน ยังไม่พอ ไหนบอกว่าเลือกแล้วไง แล้วทำไม ทุเรศ อุบาทว์!”
น้ำฟ้าจิกทึ้งดินต่อไม่หยุด
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ ผมกับฮันนี่...”
“มาตำส้มตำกินกันชิวๆ เฉยๆ งั้นเหรอ คุณเฟซไม่ใช่เด็ก ให้นายหลอกเล่นนะ...ใช่มั้ย”
น้ำฟ้าหันไปถามเฟซ เฟซตกใจตอบไม่ถูก
“มั้ง...คะ”
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
น้ำฟ้าเตะผ่าหมากดินทันที
“อุ๊บ”
ทั้งเฟซและฮันนี่ตกใจ
“คุณดิน /ดิน”
ดินหน้าเขียวลงไปทรุด น้ำฟ้าสะใจ
“ขอให้สูญพันธุ์ไปเลย”
น้ำฟ้าเดินหนี ฮันนี่รีบตามไปเอาเรื่อง เหลือเฟซที่อยู่ดูแลดินซึ่งหน้าเขียวขยับไปไหนไม่ได้
“คุณดินเป็นไงบ้างคะ”
“มัน...เลว...ร้าย..มาก...ครับ”
น้ำฟ้าเดินลิ่วๆ ออกมา ฮันนี่ตามมาขวางหน้า
“ทำร้ายดินแล้วจะลอยนวลไปเฉยๆ หรือไงยัยน้ำเน่า”
“ถามคำ ไม่ขยะแขยงตัวเองบ้างหรือไง มาอ่อยแฟนเขาถึงบ้าน”
“ฉันไม่ได้อ่อย ดินกับฉันเราเคยรักกันมาก ไอ้ที่หล่อนเห็นยังน้อยไป เราสองคนเคยทำอะไรๆ กันมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“ต๊าย พูดได้ไม่อายปาก แต่ตอนนี้เธอมันก็เป็นแค่อดีตย่ะ แฟนตัวจริงเขาอยู่ข้างในโน่น”
“เหรอ ไม่เห็นเคยได้ยินดินแนะนำกับใครเลยว่าแม่นั่นเป็นแฟน ทึกทักเอาเองไม่ว่า”
“ลืมไป ว่าคนอย่างเธอไม่ค่อยฉลาด อาจจะเข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่เป็น นังสมองมด”
“อ๊าย นังน้ำเน่า”
ฮันนี่เข้าไปจะตบ น้ำฟ้ารับไว้ได้
“ฉันเป็นมือตบทีมวอลเล่ย์บอลโรงเรียน จำไม่ได้หรือไง”
น้ำฟ้าตบฮันนี่เปรี้ยง ฮันนี่เซถลาจนไปชนกับดินและเฟซที่กำลังเข้ามาห้าม
“ว้าย”
“ฮันนี่”
“ดินขา ดูสิคะ ฮันนี่พยายามจะปกป้องดิน มันก็ตบฮันนี่ ตบเอาๆ”
“สมพรปากแกล่ะ ฉันจะซ้ำแกจริงๆ ให้ดู”
“คุณฟ้าหยุดเถอะ”
“ดินคะ ช่วยฮันนี่ด้วยสิคะ”
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฮันนี่”
“แต่...”
“ผมบอกให้กลับไป”
ดินบอกเสียงเข้มฮันนี่จำใจวิ่งหนีไป น้ำฟ้ามองดินอย่างผิดหวังแล้วเดินมาหาเฟซ
“คิดเอาเองนะคุณเฟซ ว่าผู้ชายแบบนี้ มีค่าพอที่คุณจะมาเสียเวลาด้วยหรือเปล่า”
น้ำฟ้าบอกแล้วเดินออกไป เฟซหันมามองดินซึ่งกำลังเซ็งกับคำพูดของฟ้า
“คิดเอาเองแล้วกันครับ”

ดินเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างเซ็งๆ เฟซถอนหายใจ ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น

อ่านต่อหน้า 2










เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 14 (ต่อ)

คืนเดียวกันนั้นที่แผงขายของ กอหญ้ากับเพื่อนกำลังช่วยกันเก็บแผง บีบีเดินเข้ามาหากอหญ้า

“กอหญ้า”
“อ้าว เจ๊ ทำไมมาซะดึก”
“เพิ่งเคลียร์งานเสร็จ อ่ะ” บีบียื่นซองให้กอหญ้า
“อะไรเจ๊”
“ค่าเสียหายเมื่อวันก่อน พี่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไร แล้วก็ค่าเสียหายนี่ ไม่ต้องหรอก มีคนจ่ายให้แล้ว เพิ่งมาแล้วก็เพิ่งไปเมื่อตะกี้”
“ใครอ่ะ”
บีบีถามอย่างแปลกใจ

+ + + + + + + + + + + +

บีบีวิ่งหาใครบางคน แล้วก็เห็นเห็นธีรเทพกำลังนั่งซึมอยู่ที่ริมฟุตบาท จึงเดินเข้าไปหา
“นายธีรเทพ” ธีรเทพสะดุ้ง หันมา “ไหนบอกว่าให้ฉันเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายไง แล้วทำไมนายมาจ่ายซะเอง”
“ฉันเพิ่งมาคิดได้ ฉันควรจะเป็นพระเอก”
“หา”
“ที่ผ่านมาฉันทำตัวเป็นแบดบอย...ฉันเลยอกหัก”
“ประสาท”
“คนเรามันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถ้าอยากให้อะไรๆ มันดีขึ้น”
“จะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ผู้หญิงควรจะรักนายที่ตัวจริงของนาย ไม่ใช่รักในสิ่งที่นายพยายามเป็น”
ธีรเทพอึ้ง บีบีคิดว่าธีรเทพจะคิดได้
“ถ้าวันไหน ผู้หญิงที่นายจีบค้นพบว่าจริงๆ แล้วนายมันเห่ย นายจะเจออะไรรู้มั้ย ปลาช็อคน้ำเย็นไง”
“หา”
“อาการของผู้หญิงที่ตาสว่างหลังจากเจอความเห่ยของนายไง ช็อค ลอยขึ้นอืด ขอไปตายเหนือน้ำ ดีกว่าทนอยู่กับนายอีกแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว”
“เธอพูดถูก เวลาจีบใคร ฉันควรจะเป็นตัวของตัวเอง” ธีรเทพเข้ามาจับไหล่บีบีถามด้วยท่าทางจริงจังมาก
“แต่ถามคำ ว่าฉันซึ่งเป็นฉัน มาจีบเธอ เธอจะชอบฉันมั้ย”
คำถามนี้ทำให้บีบีถึงกับอึ้ง
“ถามอะไร บ้าเปล่า ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ยังจะคิดดูก่อนเลย”
ธีรเทพตบเข่าฉาด
“ก็น่านไง! ผู้หญิงเห่ยๆ อย่างเธอ ยังไม่เอา ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ฉันก็จะยังแห้ว ถ้าเป็นตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้น ฉันต้องทำตัวเป็นพระเอกถ้าอยากได้นางเอกมาเป็นเจ้าสาว”
“ประสาท กู่ไม่กลับ”
บีบีเดินหนี ธีรเทพตะโกนไล่หลัง
“แล้วเธอล่ะ”
“ฉันทำไม”
“เลิกทำตัวเป็นนางเอก รอพระเอกมาเดินชนได้แล้ว ตัดใจจากนายดินได้เมื่อไหร่ บอกฉัน เดี๋ยวหาแฟนให้ ไม่ยาก ไปตามป่าช้า...”
“ไอ้บ้า!อยู่ไกลๆ ฉันเลย” บีบีหันมาด่าแล้วเดินหนี
“เฮ้ย มีพระเอกคอยช่วยขนาดนี้ ยังโกรธอยู่ได้ งั้นขึ้นคานไปเห้อะ แม่คุณ”

+ + + + + + + + + + + +

กอหญ้าช่วยเพื่อนเอาถุงเก็บของขึ้นแท็กซี่เรียบร้อย พร้อมกับโบกมือลาเพื่อนๆ รถแท็กซี่เคลื่อนตัวออกไป รถมอเตอร์ไซค์ของต้นเข้ามาจอดเทียบกอหญ้า
“อะไรเนี่ย”
ต้นเปิดหน้ากากหมวกกันน็อค
“ไปป่ะ สก๊อย”
“ฉันไม่ใช่สก๊อย”
“ล้อเล่น...ไป ไปส่ง...”
ต้นส่งหมวกกันน็อคให้ กอหญ้ากลัวว่าต้นจะจับได้เรื่องเสื้อ
“นายมานานแล้วเหรอ ได้แวะไปที่แผงฉันเปล่า”
“เพิ่งเสร็จงานก็มาเนี่ย ทำไม กลัวฉันไปเป็นมารคอหอยเธอกับแฟนหรือไง”
“เปล่า แล้วมาทำไม”
“แวะมาดู เผื่อเจอจะไปส่ง เอาใจแม่สื่อหน่อยสิ ช่วงนี้ผลงานตกนะ ไม่มีความคืบหน้า”
“เคยได้ยินทฤษฎีหนังสะติ๊กป่ะ ยิ่งดึงยิ่งห่าง แต่ถ้าเราปล่อย มันจะเด้งกลับมาก็เหมือนกัน”
ต้นงง แต่ฟอร์มจัด
“อ๋อ เคยได้ยินสิ”
“ฉันว่านายไม่เคยได้ยิน” กอหญ้าบอกอย่างรู้ทัน
“ในความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ถ้าฝ่ายหนึ่งเข้าหาฝ่ายหนึ่งมากเกินไป มันจะทำให้เค้ายิ่งหนีและมีระยะห่างเพราะอึดอัด แต่ถ้าฝ่ายหนึ่งอยู่เฉยๆ มันจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่านี่สิ น่าค้นหา น่าเข้าใกล้ เข้าใจป่ะ”
ต้นไม่เข้าใจ แต่ฟอร์มเหมือนเดิม
“อ๋อ เข้าใจสิ”
“ฉันว่านายไม่เข้าใจ ไปเหอะ เหนื่อย”
ต้นออกอาการเซ็งที่กอหญ้ารู้ทัน กอหญ้าขึ้นซ้อนท้าย ต้นขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป

+ + + + + + + + + + + +

ดินตัดสินใจโทรศัพท์หาน้ำฟ้า แต่น้ำฟ้าไม่นอมรับสาย ดินจึงเปลี่ยนใจกดเบอร์ใหม่...คราวนี้น้ำฟ้าสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านดังอยู่นอกห้อง รีบวิ่งออกไปที่โทรศัพท์ ซึ่งเป็นแบบเครื่องบันทึกเสียงตอบรับอัตโนมัติ น้ำฟ้าลังเลที่จะรับ ตัดสินใจไม่รับ ให้เครื่องตอบรับทำงาน เครื่องตอบรับ เป็นเสียงฟ้าและเสียงบีบีพูดพร้อมกัน
“ตอนนี้น้ำฟ้ากับบีบีติดภารกิจสวยโสดอยู่ค่า มีอะไรฝากข้อความไว้นะคะ”
น้ำฟ้าหันหลังเดินกลับเข้าห้อง
“คุณฟ้า...” น้ำฟ้าชะงักเมื่อได้ยินเสียงดิน “ผม...ขอโทษ...ผมเอ่อ...”
น้ำฟ้าเดินถอยหลังกลับมานั่งข้างๆ โทรศัพท์ นั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ
ขณะเดียวกันนั้นดินกำลังพูดมือถืออยู่เงียบๆ มืดๆ
“เฮ้อ...ผมขอโทษจริงๆ ผมยอมทำอะไรก็ได้ ถ้าทำให้คุณหายโกรธ แล้วเราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้มั้ย”
น้ำฟ้าหมั่นไส้ ยี้ใส่เครื่องตอบรับ
“ไม่ได้! ชิ ไม่เชื่อหรอก ว่าจะยอมทำได้ทุกอย่าง”
“ผมทำได้จริงๆ” น้ำฟ้าสะดุ้ง
“อุ๊ย...ได้ยินได้ไง หูทิพย์หรือไง”
“ไม่รู้สิ..ผมคิดว่าผมรู้นะ ว่าคุณกำลังไม่เชื่อผม”
“อุ๊ย...รู้อีก”
“ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสกันบ้างไม่ได้เหรอ”
“แหม...ทำเหมือนง้อแฟนงั้นแหละ ฉันไม่ใช่แฟนนาย! ไม่ต้องมาพูดแบบนี้!”
“ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะ”
น้ำฟ้าอึ้ง ตะคอกใส่โทรศัพท์
“รู้แล้ว” น้ำฟ้าลุกเดินหนี แล้วเดินกลับมาใหม่ “ไม่ต้องย้ำบ่อยๆ ฉันก็จำได้ ว่านายคิดกับฉันเป็นเพื่อน”
ดินห่อเหี่ยว กดวางสาย ขณะที่น้ำฟ้าชี้ด่าไปที่โทรศัพท์
“แต่ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนนายแล้ว จำไม่ได้หรือไง! ไอ้ผู้ชายหลายใจ”
ไฟเปิดขึ้นน้ำฟ้าตกใจ บีบีเดินงัวเงียออกมา
“ฟ้า...เสียงดังอะไรเนี่ย”
“ไม่มีอะไร” น้ำฟ้ารีบเดินเข้าห้อง ปิดประตูโครม

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันต่อมาน้ำฟ้าในชุดสวย สดใส เตรียมไปตากอากาศที่รีสอร์ทริมทะเลเต็มที่ ยืนรอคุณวีมารับที่หน้าคอนโดบีบีเดินเข้ามา
“อิจฉาชะมัด ได้ไปเที่ยวรีสอร์ทไฮโซของคุณวีตั้งสองวัน อยากไปมั่งอ่ะ”
“ฉันลาพักร้อนครั้งแรกในรอบหลายปี ขอเหอะ...อีกอย่าง ไอ้ที่ๆ ออฟฟิศเราไปจัดสัมมนาน่ะ ไม่ใช่รีสอร์ทเดียวกันหรือไง! อีกสองวันพวกแกก็ได้ไปแล้ว”
“แหม...ก็อยากไปแบบไปเที่ยว ไม่ได้ไปแบบทำงานนี่นา แต่ก็ยังดีเที่ยวให้คุ้มเลยนะแก แล้วเจอกัน”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะสนุกให้ลืมโลกไปเลย”
“ร่าเริงไปป่ะเนี่ย”
“ก็จะไปกับแฟน แฟนมารับ แฟนออกตังค์ให้ ร่าเริงแค่นี้ น้อยไปย่ะ อย่าอิจฉาบีบี”
“แหวะ...หมั่นไส้ ไปนะ”
บีบีเดินออกไป น้ำฟ้าสวมแว่นกันแดด รอคุณวี
“จะมีใครมีความสุขเท่ากับน้ำฟ้าในตอนนี้อีกล่ะ ไม่มี้ รอแฟนขับรถเปิดประทุนสุดหรูมารับไปชิวๆ ที่รีสอร์ทห้าดาว ฮ้าๆๆ”
เสียงเครื่องยนต์รถเต่าเก่าๆ ดังแทรกเข้ามา รถเต่าของดินเข้ามาจอดเทียบ น้ำฟ้าถอดแว่นกันแดดออกทันทีด้วยความตกใจเมื่อเห็นดินยิ้มเผล่อยู่ในรถ
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณนาย”
“นายดิน”

+ + + + + + + + + + + +

น้ำฟ้าหิ้วกระเป๋าเดินหนีดินฉับๆ หลังจากรู้ว่าดินมารับเธอแทนคุณวี ดินต้องรีบสาวเท้าเดินตาม
“ไม่ไปแล้วเหรอคุณ”
“ไปกับนายฉันไม่ไป ฉันจะโทรหาคุณวี ทำไมไม่โทรบอกฉันเองว่าติดงานด่วน ทำไมต้องให้นายเป็นคนขับรถพาฉันไป”
“งั้นเชิญ”
น้ำฟ้าหยุด วางกระเป๋า หยิบโทรศัพท์ โทรหาคุณวีทันที
“ฮัลโหล...คุณวีคะ”
“ผมขอโทษ เมื่อคืนเกิดเรื่องที่โรงงานของผม ไม่อยากทำให้คุณฟ้าหมดสนุก ใจเย็นๆ นะครับ ที่ผมรบกวนคุณดิน เพราะคุณดินเป็นคนที่ผมไว้ใจที่สุดว่าจะดูแลคุณฟ้าได้ อีกอย่าง เพื่อนควรจะปรับความเข้าใจกันนะครับ”
ขณะนั้นเลขาของคุณวีเดินเข้ามาอย่างร้อนรน มายืนรอ “ผมต้องไปแล้ว แล้วผมจะรีบตามไป ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ให้คุณฟ้าเรียบร้อยแล้ว เที่ยวให้สนุกนะครับ”
คุณวีวางสาย รีบเดินออกไปกับเลขา
น้ำฟ้ากดมือถืออย่างหงุดหงิด
“คงจะสนุกตายเลยล่ะค่ะ! ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็ไม่ไปกับนาย”
น้ำฟ้าย่อตัวลงจะหยิบกระเป๋า แต่วืดคว้าอากาศ เพราะกระเป๋าหายไปแล้ว กระเป๋าทั้งสองใบไม่เหลืออยู่สักใบ
“กระเป๋าฉันอยู่ไหน” น้ำฟ้ามองหากระเป๋า เห็นดินกำลังยัดกระเป๋าของเธอไว้ที่กระโปรงหน้ารถเต่า
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ไปกับนาย”
ดินปิดฝากระโปรงเรียบร้อย น้ำฟ้าปราดเข้าไปจะเปิดกระโปรงรถเพื่อเอากระเป๋าคืน ดินขวางเอาไว้
“อย่าให้ความหวังดีของแฟนเป็นหมันเลยคุณฟ้า” น้ำฟ้ายังหน้าบึ้ง
“ผมสัญญา ผมจะขับรถให้คุณนั่งเงียบๆ ไม่พูด ไม่แอะอะไรสักคำ ไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ และพอไปถึงผมก็จะอยู่ของผมเงียบๆ รอทำงานของผม”
“ฉันไม่ไป”
“งั้นคุณวีคงทำงานแก้ปัญหาไม่ค่อยมีสมาธิ ถ้ารู้ว่าคุณไม่ไปกับผม”
ฟ้ามองหน้าดินอย่างเอาเรื่อง เคือง ที่ดินเอาคุณวีมาขู่

+ + + + + + + + + + + +

บีบีหอบเอกสารมากมายจะเดินเข้าออฟฟิศ แล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นธีรเทพมาในชุดขาวทั้งตัว แบบพระเอกเกาหลี ยืนในท่าที่ตัวเองคิดว่าเท่ห์อยู่
“จะไปวิปัสสนาวัดไหนเนี่ย”
คำถามนี้ทำให้ธีรเทพถึงกับเซ็ง
“ไม่รู้จักหรือไง เทรนด์เกาหลี พระเอกสุดๆ”
“เฮ้อออ แล้วจะมาพระเอกใส่ใคร”
“คุณฟ้า”
“เสียใจ ไม่อยู่ ไปเที่ยวกับคุณวี” ธีรเทพเหี่ยวเลย ไม่เหลือมาดพระเอก
“คราวนี้ เข้าวัดเหอะ ไปวิปัสสนา นั่งสมาธิเข้าหาทางธรรม ชำระจิตใจ ปลงซะ”
“ไปเที่ยวที่ไหน”
“ไม่บอก! เบื่อพวกสมองหนา ไม่ยอมรับความจริง”
บีบีเดินหนี ธีรเทพตาม
ธีรเทพเกาะกระจกข้างคนขับ ซึ่งบีบีกำลังจะออกรถทำหน้าละห้อยใส่จนบีบีตกใจ...บีบีรำคาญจัดเปิดกระจกรถ
“ฉันจะไปทำงาน ถอยไป”
“ไม่อ่ะ บอกมาก่อน คุณฟ้าไปเที่ยวที่ไหน”
“นายจะตามไปรังควานฟ้าอีกทำไม ไปเกิดใหม่ได้แล้วไป”
“ฉันไม่ได้ไปรังควานคุณฟ้า แค่อยากจะไปบอกลา แบบพระเอกๆ”
“แน่ใจ”
“มากมาย”
“เฮ้อออ”
บีบีลังเลว่าจะบอกธีรเทพดีมั้ยหันมา เจอธีรเทพทำตาปริบๆ น่าสงสารมาก

+ + + + + + + + + + + + +
น้ำฟ้าตัดสินใจยอมขึ้นรถเต่าไปกับดิน รถเต่าแล่นอย่างช้าๆ มาตามถนนนอกเมือง น้ำฟ้าร้อน หน้ายุ่ง ผมยุ่ง บ่นยาว
“ขับให้มันเร็วกว่านี้ได้มั้ย ขับเป็นเต่า จะครึ่งวันอยู่แล้ว เพิ่งจะออกมาจากกรุงเทพได้แค่เนี้ย! มะรืนจะถึงมั้ย ทำไมร้อนเงี้ย” ดินขับรถเงียบๆ
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ ทำไมร้อน แอร์เสียหรือไง” ดินขับรถเงียบๆ น้ำฟ้าตะคอกใส่หูดิน
“ฉันร้อนนนน ได้ยินมั้ยยย”
“โอ๊ย!! มาตะคอกใส่หูผมทำไม”
“ก็ตอบฉันมาสิ”
“ผมสัญญากับคุณแล้วไง ว่าผมจะขับรถเงียบๆ ไม่พูดไม่แอะ”
“หืม...มีเซ้นส์มั้ย ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด”
“มี แต่ขี้เกียจใช้ ตกลงชวนผมคุยเนี่ย หายโกรธแล้วใช่มั้ย”
“ไม่ และโกรธมากกว่าเดิม เอารถสัปปะรังเคอะไรมาให้ฉันนั่ง ระวังรถไอติมแซงนะ”
“ผมอยากให้คุณนั่งชมวิวสองข้างทางไปแบบช้าๆ เก็บภาพประทับใจไปเรื่อยๆ เคยได้ยินมั้ย จุดหมายปลายทางไม่สำคัญเท่ากับระหว่างทางที่เราเดินทางไป”
“ทำไมจะไม่สำคัญ ฉันอยากไปถึงจุดหมายปลายทางเร็วๆ เพราะฉันหิว ฉันร้อน ฉันเหนื่อย ฉันเมื่อย”
“ชู่ว์ อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวลูกชายผมน้อยใจ เกเรขึ้นมา แล้วจะยุ่ง”
เครื่องยนต์กระตุกทันที
“ว้าย อะไร เกิดอะไรขึ้น”
น้ำฟ้าถามอย่างตกใจ รถเต่าค่อยๆ คลานมาจอดเทียบริมถนน ฟ้าลงจากรถ โวยวาย ดินลงตามลงมา
“รู้งี้ ฉันขับรถมาเอง ยังจะดีกว่านั่งเต่ามากับนาย”
“อย่าพูดมากสิ ขี้บ่น เดี๋ยวมันจะยิ่งน้อยใจ ระเบิดตัวเองใส่ จะว่าไง”
“เต่าลูกนายมันฟังภาษาคนออกที่ไหนเล่า ไปหลอกเด็กเหอะ ไป๊”
เสียงเครื่องยนต์ระเบิดเปรี้ยง
“ว้าย/ เฮ้ย” ทั้งคู่ร้องขึ้นพร้อมๆ กัน
ไอน้ำระเหยฟู่ออกมาจากกระโปรงห้องเครื่อง รถดับสนิท
“ดนูลูกพ่อ” น้ำฟ้าหน้าเสีย

+ + + + + + + + + + + +

ดินต้องโทรหาช่าง ช่างนำรถมาลากรถเต่าออกไป ดินและน้ำฟ้ายืนมองกันหน้าเศร้า กระเป๋าของทั้งฟ้าและของดินวางอยู่ข้างๆ
“เอาไงต่อล่ะทีเนี้ย”
“โบกรถเข้าเมือง แล้วไปต่อรถทัวร์”
“อยากจะกรี๊ด”
“กรี๊ดเลย”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงควายร้องอยู่ข้างหลังดินและน้ำฟ้า ทั้งคู่ชะงัก ค่อยๆ หันไปจึงเห็นควายยืนจ้องหน้าอยู่
“อ๊ายยย”
น้ำฟ้ากับดินร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ...น้ำฟ้าเดินลิ่ว ดินหิ้วกระเป๋าตัวเอียงตามไปติดๆด้วยความรวดเร็วเดินหนีควายมา
“คุณฟ้า จะไปไหนเนี่ย! เราหนีมาไกลพอแล้ว”
น้ำฟ้าหยุดเดินด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“เหรอ...” น้ำฟ้ากับดินอยู่กลางทุ่งนาเวิ้งว้าง “แล้วตอนนี้ ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย”
ขณะที่ดินและน้ำฟ้ากำลังหลงทางอยู่กลางทุ่งนา ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่กรุงเทพฯ กอหญ้ากำลังขายของอยู่กับเพื่อน กอหญ้าโชว์เสื้อยืดของต้นที่แผง กำลังขายให้กับลูกค้าคนหนึ่ง
“แบบนี้มีตัวเดียวในโลกพี่ ขายถูก...ร้อยห้าสิบ”
“ร้อยเดียวไม่ได้เหรอ”
“โหพี่ กว่าจะคิดออกให้เน่าได้ขนาดนี้ ยากนะ อย่าต่อเลยพี่ เสียความรู้สึก”
“แล้วก็เสียใจมากๆ ด้วย”
เสียงต้นดังขึ้น กอหญ้าชะงักหน้าเสีย หันไปเห็นต้นยืนมองมาอย่างเสียใจ
“นายหื่น”
“เธอมันสันดานโจรจริงๆ ยัยโจรน้ำส้ม เธอทำยังงี้ได้ยังไง”
ต้นเสียใจมาก เดินหนีไปทันที กอหญ้ารู้สึกใจหาย
“ว่าไงน้อง ร้อยนึงได้มั้ย”
กอหญ้ามองเสื้อ มองไปทางต้น ลังเล จะเอาไงดี
ต้นเดินโกรธมาตามทาง กอหญ้าวิ่งตามต้นมา
“เดี๋ยวก่อน นายหื่น หยุดก่อน” ต้นไม่สนใจ เดินลิ่วๆ กอหญ้าวิ่งตามไปขวางหน้าเอาไว้
“ฉัน...ฉัน...ขอโทษ” ต้นพูดไม่ออก มองกอหญ้าด้วยสายตาผิดหวังมาก
“พูดอะไรสักคำสิ จะด่าฉันก็ได้”
“ลองมาเป็นฉันดูเด่ะ แล้วเธอจะรู้ ว่าทำไมมันพูดอะไรไม่ออก”
ต้นเดินกระแทกกอหญ้าไปด้วยความเสียใจและผิดหวัง กอหญ้าเซ ได้แต่ยืนนิ่ง คอตก ต้นค่อยๆเดินห่างออกไปเรื่อยๆ กอหญ้ายืนซึม รู้สึกโกรธตัวเอง
“โธ่เว้ย”

ส่วนคู่ของน้ำฟ้ากับดิน ยังคงหลงทางกันอยู่ น้ำฟ้าเดินชูมือถือหาสัญญาณมาจนถึงหน้าบ้านของชาวบ้าน ดินหิ้วกระเป๋าตามต้อยๆ
“ทำไมแถวนี้ไม่มีสัญญาณเลยนะ แย่จริง”
“ไม่มีน้ำใจช่วยกันบ้างเลย”
“คุณวีให้นายช่วยดูแลฉัน ก็ทำไปสิ”
“ครับคุณนาย” ดินวางกระเป๋าลง มองเข้าไปในบ้านแล้วตะโกนถาม “มีใครอยู่บ้างครับ”
ตากับยายออกมา
“มีอะไรกัน พ่อหนุ่ม”
“คือ พวกผมรถเสีย หลงทางมา มือถือก็โทรออกไม่ได้ ที่นี่พอมีโทรศัพท์ให้ผมโทรหาเพื่อนให้มารับมั้ยครับ”
“อ๋ออออ...ไม่มี” ตากับยายบอกออกมาพร้อมกัน
“อ้าว”
“อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลย น้ำไฟก็ยังมาไม่ถึง”
“นี่มันส่วนไหนของประเทศไทยเนี่ย”
“แล้วจะเอาไง มืดแล้วนะ จะเดินกันไปไหน แถวนี้งูชุมนา”
ยายบอก น้ำฟ้าตกใจ กระโดดเข้าเกาะดิน
“ว้าย งูเหรอคะ”
น้ำฟ้ากับดินมองหน้ากัน น้ำฟ้ารู้สึกตัวว่ากอดดินอยู่ รีบผละออกทันที
“มีรถเข้าเมืองมั้ยครับ”
“มีแต่สองแถว”
น้ำฟ้ากับดินยิ้มโล่งใจ
“แต่กว่าจะมีอีกคันก็หกโมงเช้าโน่น”
“หกโมงเช้า” น้ำฟ้ากับดินอุทานออกมาพร้อมกัน
“นอนค้างที่นี่ก่อนมั้ย มีห้องหับรับรอง ไม่ต้องห่วง”
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนตากับยาย ก็จะยินดีมากครับ”
“จะดีเหรอนายดิน ใครก็ไม่รู้ คนแปลกหน้า” น้ำฟ้ากระซิบถามดินอย่างไม่ไว้ใจ
“คนบ้านนอก เขาใจดีอย่างนี้แหละ ไม่ต้องกลัวหรอก หรือจะออกไปเดินล่องูข้างนอก” ดินบอก น้ำฟ้ารีบเปลี่ยนใจ รับเสียงอ่อนเสียงหวานทันที
“งั้นขอสองห้องนะคะตายายขา”
“มีห้องเดียวเท่านั้นแหละนังหนู ผัวเมียกัน จะนอนแยกห้องกันทำไม”
“นอนห้องเดียวกัน” น้ำฟ้ากับดินอุทานออกมาพร้อมกัน
“หรือไม่ใช่ผัวเมีย ตายล่ะ มาค้างอ้างแรมกันแบบนี้ได้ยังไง คนกรุงเทพฯ ล่ะสิเนี่ย ตา ฉัน
ไม่เอาหรอกนะ เดี๋ยวคนจะนินทาฉันกันทั้งบาง” ยายรีบบอก
“เอ แถวนี้โรงแรมก็ไม่มีซะด้วย ยังไงดีล่ะ”
“เราสองคนเป็นสามีภรรยากันค่ะ/ครับ” น้ำฟ้ากับดินรีบบอก
“งั้นก็โล่งอก ไปๆๆ ขึ้นเรือน”

ตากับยายเดินนำ น้ำฟ้ากับดินหันมามองหน้ากัน น้ำฟ้าหน้าเสียที่ต้องนอนห้องเดียวกับดิน

โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป









กำลังโหลดความคิดเห็น