xs
xsm
sm
md
lg

บุหงาหน้าฝน ตอนที่ 19

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ติดตามอ่านได้ทาง www.manager.co.th ทุกวัน เวลา 9.30 น.
ตอนที่ 19
วิรัชนั่งรออยู่ในบ้าน ครู่หนึ่งได้ยินเสียงโหวกเหวกที่ด้านนอก รีบลุกไปดูเห็นธานีวิ่งนำชาติที่อุ้มระรินมาที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ธานีแสดงละครตบตาวิรัช
“เร็วเข้าชาติ เดี๋ยวคุณระรินก็เป็นอะไรไปก่อนหรอก”
วิรัชตกใจ รีบวิ่งออกไปดู ระรินยังชัก เนื่องจากอาการช็อค ชาติอุ้มระรินขึ้นรถโดยธานีช่วยเปิดประตู
“เร็วชาติ”
วิรัชตามออกมาดู
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณธานี”
“ระรินไม่สบาย คุณไม่เห็นเหรอ ผมกำลังจะพาระรินส่งโรงพยาบาล”
“คุณระรินเป็นอะไรครับ ทำไมเธอถึงมีอาการอย่างนี้”
“ผมไม่ใช่หมอนะ เลิกถามเซ้าซี้ซะที ผมต้องรีบพาเมียผมส่งโรงพยาบาล”
ธานีขึ้นรถประคองระริน ชาติปิดประตูรถ รีบวิ่งไปที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถขับออกไป ธานีถอนใจโล่งอก ที่หลอกวิรัชหลุดได้
+ + + + + + + + + + + +

ปาหนันกลับเข้ามาในบ้านอย่างซึมๆ พบว่าเคี่ยมกับเจ่งรออยู่แล้ว
“กลับมาแล้วเหรอคะ”เจ่งหันไปยิ้มให้
ปาหนันฝืนยิ้มให้ ขณะเดียวกันที่ด้านนอกนาวิศที่แอบตามปาหนันมา แอบเข้ามาดูใกล้ๆ มองผ่านหน้าต่างเข้าไปในบ้าน
“กลับมืดอีกแล้วนะวันนี้ กินอะไรมารึยังล่ะ”เคี่ยมถามอย่างห่วงใย
นาวิศเห็นเคี่ยมก็จำได้พึมพำกับตัวเอง
“ลุงคนนั้น...”
“ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวยายจะอุ่นกับข้าวไว้ให้”เจ่งมองปาหนันอย่างเอ็นดู
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวหนันจัดการเอง”
นาวิศพูดกับตัวเองเบาๆ
“หนันเหรอ”
ปาหนันเดินไปทางหลังบ้าน นาวิศเดินอ้อมตัวบ้านไปหาปาหนันที่เดินไปนั่งหน้าเศร้าๆอยู่หลังบ้าน นาวิศเดินอ้อมมาถึง พูดด้วยทันที
“ฉันได้ยินเธอเรียกตัวเองว่า...หนัน ยังจะบอกฉันว่าเธอไม่ใช่คุณหนัน คนที่ไปหาฉันที่กรุงเทพอยู่หรือเปล่า”
ปาหนันสะดุ้งตกใจ เห็นนาวิศมาถึงที่นี่ก็หน้าตื่น หันมองไปในบ้าน กลัวใครมาเห็นเข้า
“คุณนาวิศ คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“เธอบอกให้ฉันฟังความรู้ของตัวเอง...และมันบอกฉัน ว่าจะปล่อยให้เธอหนีมาแบบนี้ไม่ได้...ความรู้สึกของฉัน มันบอกว่าเธอสำคัญพอ ที่ฉันจะตามเธอมา”
ปาหนัน มีความหวัง
“คุณนาวิศ...”
“เราเคยมีอดีตร่วมกันใช่ไหมบุหงา...หรือฉันควรจะเรียกเธอว่าคุณหนัน ใช่เธอรึเปล่า ที่เป็นเจ้าของบุหงารำไปถุงนั้น”
ปาหนันอึกอัก
“ฉัน...ฉันไม่รู้ว่ามันถึงเวลารึยัง ที่ฉันจะบอกคุณ”
“เธอรอเวลาอะไร ทำไมเธอถึงต้องปิดบัง ด้วยว่าเราเคยรู้จักกัน...”
ปาหนันลังเล
“เพราะ...ฉันไม่รู้ว่า คุณจะรู้สึก แบบที่เคยรู้สึกกับฉันหรือเปล่า”
นาวิศแปลกใจ
“รู้สึกอะไร...”
ปาหนันยังไม่ทันตอบ เสียงเคี่ยมดังเข้ามาเสียก่อน
“ลูกหนัน...”
ปาหนันตกใจ รีบดึงนาวิศไปซ่อน นาวิศอยากจะถาม แต่ปาหนันเอานิ้วจุ๊ปากให้เงียบๆ เคี่ยมออกมาหลังบ้าน ปาหนันรีบมารับหน้า
“มีอะไรเหรอจ๊ะพ่อ”
“ออกมาทำอะไรลูกหนัน ทำไมไม่กินข้าว”
“หนันยังไม่หิวน่ะจ้ะ อยากนั่งตากลมแถวนี้ก่อน พ่อไม่ต้องห่วงหนันหรอกจ้ะ เข้าบ้านเถอะ”
เคี่ยมพยักหน้ารับ
“เอางั้นก็ตามใจ”
เคี่ยมกลับเข้าไปในบ้าน นาวิศออกมาจากที่ซ่อน
“ที่แท้ลุงคนนี้ก็เป็นพ่อคุณ เราเจอกันที่ฟาร์ม แต่ท่านดูไม่ชอบหน้าผมเท่าไหร่ ตกลงที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณจะบอกได้รึยัง ว่าเรารู้จักกันได้ยังไง”
“ฉันว่าตอนนี้เราคุยกันไม่สะดวกแล้วล่ะ คุณกลับไปก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ฉันจะไปหาคุณ แล้วจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟัง มาเถอะค่ะ”
ปาหนันพานาวิศเดินแอบๆอ้อมไปทางหน้าบ้าน นาวิศไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมตามปาหนันไปหน้าบ้าน
“รีบไปเถอะค่ะ อย่าให้ใครเห็นคุณ”
ปาหนันจะหันกลับเข้าไปในบ้าน นาวิศดึงมือเธอไว้
“คุณหนัน...”
ปาหนันชะงัก หันมอง
“เธอสัญญาแล้วนะ...ฉันจะรอ จนกว่าจะได้รู้ความจริงจากเธอ”
ปาหนันสบตานาวิศอย่างหวั่นไหว ตื้นตันใจ ขณะเดียวกันนั้นสหัสโผล่เข้ามา
“ไอ้นาวิศ!”
ปาหนันตกใจที่สหัสมาเห็นเข้า
“สหัส!”
สหัสเข้าไปกระชากนาวิศออกจากปาหนัน
“แกมาทำอะไรที่นี่”
นาวิศตกใจ
“นาย...”
สหัสหันไปหาปาหนัน
“คุณหนันพามันมาถึงนี่เลยเหรอ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกสหัส คือ...”
ปาหนันอึกอัก พูดไม่ถูก นาวิศงงๆไม่เข้าใจ
“มันเรื่องอะไรกัน ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”
สหัสจ้องหน้านาวิศอย่างเอาเรื่อง
“แกเลิกเล่นเกมของแกซักทีไอ้นาวิศ ฉันจะไม่ให้แกทำเหมือนคุณหนันเป็นของเล่นอีก”
สหัสต่อยนาวิศขณะที่เขาไม่ทันให้ตั้งตัว นาวิศพลาดท่า โดนสหัสต่อยไปหลายที ปาหนันเข้าห้าม
“สหัส...หยุดได้แล้ว อย่าทำเขา”
สหัสไม่หยุด ปาหนันเข้ามาขวาง
“หนันบอกให้หยุด หรือไม่ก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก”
สหัสชะงัก เจ็บใจที่ปาหนันปกป้องนาวิศอีก
“คุณหนันปกป้องมันอีกตามเคย แล้วก็ปล่อยให้มันทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อไหร่คุณหนันจะเจ็บจะจำซะที”
เคี่ยม เจ่ง เดื่อ ทับทิม แท่น ได้ยินเสียงโวยวาย ต่างก็รีบออกมาดู ทุกคนต่างก็ตกใจที่เห็นนาวิศ
“พร้าว...”
“ลูกหนัน นี่มันเรื่องอะไรกัน”เคี่ยมถามเสียงเข้ม
ปาหนันหันไปบอกเดื่อกับทับทิม
“เดื่อ ทับทิม พาคุณนาวิศออกไป อย่าให้ใครทำอะไร”ปาหนันหันมาหาเคี่ยม “พ่อจ๊ะ หนันอธิบายได้ พ่อฟังหนันก่อนนะจ๊ะ”
นาวิศมองทุกคนอย่างไม่เข้าใจ เดื่อกับทับทิมช่วยกันดึงตัวนาวิศออกไป
“ไปเถอะ ไอ้พร้าว”
“เรียกคุณนาวิศซี่ เดี๋ยวพร้าวก็งงตาย”ทับทิมต่อว่า
“ทับทิมก็เรียกมันว่าพร้าวอยู่นี่ ทีตัวเอง เรียกได้”เดื่อเซ็งๆ
“เออน่ะ ช่างข้าเหอะ”ทับทิมตัดบท
นาวิศได้แต่มองทุกคน และมองปาหนันอย่างไม่เข้าใจ ขณะที่โดนเดื่อกับทับทิมดึงออกไป ปาหนันมองตามไป แล้วหันกลับมามองพ่อ
เคี่ยมมองลูกสาวหน้าขึงขัง จริงจัง
+ + + + + + + + + + + +

ธานีพาระรินมาโรงพยาบาล...ระรินนอนไม่ได้สติอยู่ที่เตียง มีสายน้ำเกลือติด ธานีนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงหน้าโศกเศร้า แกล้งรำพึง
“ระรินเครียดตั้งแต่นาวิศกลับมาจากเมืองนอก...เธอเองก็รู้ตัวดี ว่าไม่ควรคิดกับนาวิศเกินความเป็นอาสะใภ้กับหลานชาย...แต่ผมก็ไม่รู้มาก่อน ว่าเธอจะเครียดมาก จนถึงกับหันไปพึ่งยาเสพติด...”
หมอยืนฟังอยู่ มองธานีอย่างเห็นใจ ธานีลุกเดินมาขอร้องหมอ
“เรื่องนี้ถ้าแพร่งพรายออกไป ตระกูลของผมคงมีแต่เสียหาย...ผมขอร้องนะครับหมอ...หมอช่วยปิดเรื่องระรินเป็นความลับด้วย”
หมอพยักหน้าอย่างเห็นใจ ธานีหน้าเศร้า เบือนหน้าหลบแต่แล้วก็แอบยิ้ม หมอเปิดประตูออกมา วิรัชรออยู่หน้าห้อง รีบเข้ามาหาหมอ
“คุณหมอครับ คุณระรินเป็นยังไงบ้าง”
“เธอปลอดภัยแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวครับหมอ แล้วเธอเป็นอะไร”
“ผมบอกอะไรตอนนี้ไม่ได้ ขอตัวก่อน”
หมอรีบเดินผละไป วิรัชมองตามอย่างไม่เข้าใจ จะเข้าไปเยี่ยมระริน แต่ธานีเปิดประตูออกมาก่อน ธานีแกล้งยิ้ม
“อ้าว คุณวิรัช ยังอยู่อีกเหรอ...ขอบคุณมากนะ ที่เป็นห่วงระริน ตอนนี้เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว”
“ผมจะขอเยี่ยมคุณระรินได้ไหมครับ”
“ระรินหลับอยู่...อีกอย่าง หมอไม่ได้บอกเหรอ ว่าห้ามเยี่ยม”
วิรัชท่าทางเคลือบแคลง สงสัยในตัวธานี แต่ก็ต้องจำใจกลับไป ธานีมองตาม ยิ้มสมใจ
+ + + + + + + + + + + +

ปาหนัน บอกกับทุกคนว่านาวิศความจำเสื่อมจริงๆ เคี่ยมนิ่งคิด
“ที่แท้ นาวิศโดนรถชนหลังจากที่แยกกันวันนั้น ก็เลยความจำเสื่อมเข้าให้จริงๆ”
ปาหนันพยักหน้ารับ
“จ้ะ”
เจ่งถอนใจ
“ชีวิตของหมอนี่ จะว่าไปก็น่าสงสารนะคะ ไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรนักหนา”
เคี่ยมมองปาหนันอย่างเห็นใจ แต่ก็ต้องพูดกับปาหนันอย่างเด็ดขาด
“ลูกหนันจำได้ไหม ที่ลูกหนันเคยบอกพ่อ ว่าลูกหนันจะเลิกจมอยู่ในความฝัน เราจะมีชีวิตใหม่...ลูกหนันจะลืมนาวิศ”
ปาหนัน อึกอัก
“แต่ตอนนั้น...ตอนนั้นหนันไม่รู้ว่าเขาความจำเสื่อม ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายหนันนี่จ๊ะ”
“แล้วมันจะต่างอะไร ในเมื่อนาวิศเองก็ไม่มีภาพของลูกหนันในความทรงจำอีกแล้ว...พ่ออยากให้ลูกหนันรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อ อย่าเจอนาวิศอีกเลยนะลูก”
“แต่พ่อจ๊ะ หนันไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อคุณนาวิศเท่านั้นนะจ๊ะ...ที่หนันไปทำงานกับเขา ก็เพราะว่าหนันอยากมีเงินมารักษาพ่อด้วย”
“ลูกหนัน พ่อไม่ต้องการเงินของนาวิศ...ถ้าพ่อต้องตายวันนี้พรุ่งนี้ พ่อจะตายตาหลับ ถ้ารู้ว่าลูกหนันจะไม่ไปเจอนาวิศอีก”
ปาหนันอึ้งไป
“พ่อ...”
“คุณหนันครับ เราอุตส่าห์หนีคุณธานีมา แล้วทำไมคุณหนันยังจะไปพัวพันนาวิศ ให้คุณธานีตามเจอร่องรอยพวกเราอีก...คุณหนันเห็นแก่ความปลอดภัยของทุกคนเถอะนะครับ อย่าไปเจอนาวิศอีกเลย”สหัสขอร้อง
ปาหนันสับสนทุกข์ใจ
+ + + + + + + + + + + +

รสารอนาวิศอยู่อย่างร้อนใจ พอนาวิศเปิดประตูเข้ามา รสาก็รีบเข้าไปถาม
“คุณนาวิศ คุณตามปา...เอ่อ บุหงาไปถึงไหนคะ แล้วคุยอะไรกันบ้าง คุณพอจะจำอะไรได้บ้างรึยังคะ”
นาวิศแปลกใจ
“คุณถามเหมือนรู้ ว่าบุหงาจะทำให้ความทรงจำของผมกลับมาได้”
รสาอึกอัก
“ก็...ก็รสาเห็นคุณให้ความสำคัญกับเขาเหลือเกินนี่คะ แล้วตกลงเขาบอกอะไรคุณบ้าง”
“เขายอมรับแล้ว ว่าผมกับเขาเคยรู้จักกัน พรุ่งนี้ เขาจะเล่าทุกอย่างให้ผมฟัง ว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้น”
รสาได้ฟังก็ไม่สบายใจ ที่เรื่องราวชักจะยุ่งยากขึ้นทุกที
+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่..ระรินที่หลับอยู่ รู้สึกตัวขึ้นมา ระรินมองรอบๆห้อง...ครู่หนึ่งเธอรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอโดนผูกมือไว้กับเตียงทั้งสองข้าง
“อะไรเนี่ย...มัดฉันไว้กับเตียงทำไม ปล่อยนะ ปล่อยฉัน ใครก็ได้ ช่วยด้วย”
ระรินพยายามดึงมือออก แต่ไม่หลุด ได้แต่โวยวายให้คนช่วย พยาบาลวิ่งเข้ามา
“ช่วยด้วย...ปล่อยฉัน มัดฉันไว้กับเตียงทำไม”
“คนไข้ใจเย็นๆนะคะ ไม่ต้องตกใจ เราพยายามจะช่วยคุณเท่านั้นค่ะ”
“ช่วย...ช่วยประสาอะไรของคุณ แก้มัดให้ฉัน”ระรินโวยวาย
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณหมอสั่งไว้ เพราะถ้าปล่อยคุณ คุณอาจจะทำร้ายตัวเอง...”
ระรินอึ้งงง
“ทำร้ายตัวเอง...”
ธานีเดินยิ้มเข้ามาพูดน้ำเสียงอ่อนโยน
“ระริน...ตื่นแล้วเหรอ...”
ธานีจะเข้ามาลูบหัว ระรินหันหนี
“อย่าแตะต้องฉัน” ระรินหันไปบอกพยาบาล “คุณพยาบาล ฉันไม่เคยทำร้ายตัวเอง แต่ถ้าคุณจะหาคนที่ทำร้ายฉัน ก็ผู้ชายคนนี้แหละ”
“ไม่เอาน่ะระริน พูดอะไร ผมเป็นห่วงคุณมากนะ”
ธานีเข้ามาจับไหล่ ระรินดิ้นหนี
“อย่านะ...ออกไป อย่ามาถูกตัวฉัน”
พยาบาลเข้ามากันธานีออกไป
“คุณคะ ออกไปก่อนเถอะค่ะ”
ธานีแกล้งถอนใจ
“คุณพยาบาล ผมฝากภรรยาด้วยนะครับ สภาพจิตใจเธอไม่ปกติ ผมกลัวเธอจะทำร้ายตัวเอง”
ระรินได้ยินธานีโกหกกับพยาบาล ได้แต่อึ้ง
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะดูแลภรรยาของคุณอย่างดี”
ธานีหันมายิ้มให้ระริน
“งั้นผมไปก่อนนะที่รัก...คุณคงต้องอยู่ที่นี่ซักพัก ทำใจให้สบายนะ”
ธานีเดินออกไป พยาบาลตามออกไป
“คุณธานีปล่อยรินไปนะ คุณธานี คุณพยาบาล อย่าไปเชื่อเขา ปล่อยฉันไป”
ระรินพยายามดึงมือให้หลุดจากพันธนาการ แต่ไม่สำเร็จ
อ่านต่อหน้าที่ 2










ตอนที่ 19(ต่อ)
นาวิศตื่นตั้งแต่เช้า ลงมานั่งรอปาหนันที่ชั้นล่าง เดินไปมองที่ประตู รสาที่นั่งอยู่ด้วย เครียดไปอย่างวุ่นวายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ป่านนี้แล้ว ทำไมเธอยังไม่มานะ...”นาวิศบ่นกับตัวเอง
ทางด้านปาหนันนั่งเหม่อมองดอกหญ้าที่ แทนคำสัญญาของนาวิศ รู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
“ในเมื่อคุณลืมคำสัญญาของเราแล้ว หนันก็ไม่ควรรื้อฟื้นขึ้นมาอีกใช่ไหม...เพื่อให้ทุกคนสบายใจ หนันก็ควรจะลืมคำสัญญาของเราเหมือนกันใช่ไหม”
ขณะเดียวกัน เคี่ยมมองไปทางชั้นบน นึกเป็นห่วงปาหนัน เจ่งเข้ามา เคี่ยมถอนใจ
“ตอนแรกลูกหนันคิดว่านาวิศเปลี่ยนไปแล้ว ก็เลยตัดใจ...พอจะทำใจได้ นาวิศก็กลับเข้ามาในชีวิตอีก ไม่รู้ว่าอะไรกันนักกันหนา”
“บางทีชะตาฟ้าคงกำหนดให้สองคนนี้ผูกพันกัน...”เจ่งลองถามหยั่งดู “นายไม่คิดจะให้คุณหนันพบกับนาวิศอีกซักครั้งเหรอคะ ถ้าคุณหนันทำให้นาวิศความจำกลับมา มันอาจจะเป็นผลดีกับเราก็ได้”
“มันจะดียังไง ที่ผ่านมาฉันเห็นว่ามันมีแต่เรื่อง”
“แต่ถ้าสองคนนั้นกลับมารักกัน นาวิศต้องเห็นแก่คุณหนัน ยอมออกเงินค่าผ่าตัดให้นาย...เงินไม่กี่แสนสำหรับนาวิศ ไม่สะเทือนขนหน้าแข้งด้วยซ้ำ”
เคี่ยมถอนใจ
“เรื่องนี้เอง...ฟังฉันนะ...ที่เราเก็บเล็กผสมน้อยอยู่ทุกวันนี้ ต่อให้มันไม่ทัน ฉันอาจจะเป็นอะไรไปก่อน...แต่ฉันก็ไม่ต้องการเงินของนาวิศ”
ปาหนันเดินลงมาได้ยินเธอนั่งลงที่ขั้นบันได ได้แต่นึกสะท้อนใจ
+ + + + + + + + + + +

สหัสนั่งลับมีดอยู่หน้าบ้าน แท่นเดินเข้ามานั่งตรงข้าม
“ตกลงวันนี้เราจะไม่ไปทำงานกันจริงๆเหรอพี่”
“นายเคี่ยมไม่ให้คุณหนันไปหาไอ้นาวิศ เพราะงั้นไอ้นาวิศมันต้องมาหาคุณหนัน...แต่ฉันจะไม่ยอมให้มันได้เจอคุณหนันแน่”
ทันใดนั้นนาวิศ เดินเข้ามาถึงทางเดินด้านหน้าบ้าน แท่นมองตะลึง...
“มันมาจริงๆด้วยพี่”
สหัสจ้องหน้านาวิศโหดๆ นาวิศเดินเข้ามาอย่างไม่กลัว
“ฉันมาขอพบคุณหนัน”
นาวิศจะเดินไปทางประตูบ้าน สหัสปักมีดลงบนโต๊ะ เดินไปขวางนาวิศไว้ แท่นตามมาขวางนาวิศไว้ด้วย
“กลับไป คุณหนันจะไม่ออกมาเจอแก”สหัสไล่เสียงเข้ม
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้คุณหนันมาบอกฉันเอง ว่าไม่ต้องการพบฉัน”
นาวิศดันทุรังจะเข้าไป สหัสผลักอกนาวิศ
“พูดไม่รู้เรื่องรึไง ก็บอกว่าคุณหนันไม่ออกมา”แท่นตวาด
“แกกลับไปดีกว่านาวิศ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวกลับไป”สหัสพูดเสียงแข็ง
นาวิศไม่สนใจ
“ฉันแค่มาพบคุณหนัน ไม่ได้มาเพื่อมีเรื่อง”
“ที่แกมานี่ ก็เท่ากับหาเรื่องแล้ว ถ้าไม่รีบกลับออกไป รับรองได้มีเรื่องแน่”สหัสขู่ท่าทางเอาจริง
นาวิศผละออกมานิดหน่อย แต่แทนที่จะกลับออกไป นาวิศกลับตะโกนเข้าไปในบ้าน
“คุณหนัน...คุณหนันออกมา ฉันมาหาเธอแล้ว”
เคี่ยมกับเจ่งได้ยินเสียงนาวิศมาตะโกนเรียกปาหนันก็ตกใจ
“นาวิศ...”
ปาหนันนั่งจ่อมอยู่ที่บันได ได้ยินเสียงนาวิศก็หน้าตื่นขึ้นมา
+ + + + + + + + + + + +

สหัสเข้าไปผลักนาวิศล้ม...
“ฉันเตือนแกแล้วนะ พูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง”
สหัสจะเข้าไปเตะซ้ำ นาวิศกลิ้งตัวหนี ตั้งหลักยืนได้ก็ตะโกนเข้าไปในบ้านอีก
“คุณหนัน เธอสัญญาว่าจะเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง”
แท่นจับตัวนาวิศไว้ได้ แต่เขายังตะโกนไม่หยุด
“ทำไมเธอไม่ไปหาฉันตามสัญญา”
สหัสต่อยนาวิศเปรี้ยง เคี่ยมกับเจ่งเปิดประตูออกมาดู ปาหนันตามมาติดๆเห็นสหัสกับแท่นรุมทำร้ายนาวิศก็จะออกไปห้าม
“สหัส...หยุดนะ!”ปาหนันตะโกนห้ามเสียงแข็ง
เคี่ยมดึงตัวปาหนันไว้
“ลูกหนัน อย่าออกไป”
“พ่อจะปล่อยให้สหัสกับแท่น รุมทำร้ายคุณนาวิศอย่างนั้นไม่ได้นะจ๊ะ”
“ถ้านาวิศไม่อยากโดนรุม มันก็ต้องกลับไป”
นาวิศพยายามต่อสู้ แต่สู้สองคนไม่ได้ ปาหนันมองดูด้วยความเป็นห่วง เจ็บไปกับเขาด้วย นาวิศหันมาเห็นปาหนัน
“คุณหนัน...”
นาวิศพยายามจะไปหาปาหนัน แต่สหัสกับแท่นล็อคตัวไว้
“คุณหนัน เธอบอกว่าจะเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง ฉันมานี่แล้วไง เธอออกมาหาฉันสิ”
ปาหนันอยากจะออกไป เคี่ยมดึงไว้แล้วหันไปบอกนาวิศ
“นาวิศ นายกลับไปเถอะ”
“พ่อจ๊ะ...”ปาหนันพยายามขอร้อง
เคี่ยมเห็นปาหนันท่าทางอาลัยอาวรณ์นาวิศ ดึงปาหนันเข้าบ้านแล้วหันไปสั่งเจ่ง
“ปิดประตู”
เจ่งไม่สบายใจเพราะเห็นใจนาวิศกับปาหนัน แต่ก็จำต้องฟังเคี่ยมสั่ง ปาหนันขอร้องเคี่ยม
“พ่อจ๋า...พ่อให้หนันออกไปเจอเขาหน่อยเถอะนะจ๊ะ พ่อก็เห็นว่าเขาไม่ยอมไป ถ้าไม่ได้คุยกับหนัน”
“ยิ่งคุยก็ยิ่งยืดเยื้อ พ่อรู้ว่าลูกหนันยังรักนาวิศ แต่ลูกหนันอย่าลืมสิ ว่านาวิศมันลืมความรักที่เคยมีให้ลูกหนันไปแล้ว ต่อให้ลูกหนันพร่ำพรรณนาแค่ไหน แต่เพียงแค่คำพูด มันทำให้ความรู้สึกนั้นกลับมาไม่ได้หรอกนะลูกหนัน”
“ถ้าอย่างนั้นหนันก็ขอแค่ได้บอกลา...ได้ไหมจ๊ะ ให้หนันได้บอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย...นะจ๊ะพ่อ...”
เจ่งเห็นใจปาหนันมากจึงขอร้องเคี่ยม
“ให้คุณหนันได้คุยกับนาวิศอีกซักครั้งเถอะนะคะ อย่างน้อย คุณหนันจะได้ขอร้องนาวิศ ว่าอย่าพูดถึงพวกเรากับคุณธานี นะคะนาย”
เคี่ยมหนักใจ นิ่งคิด ขณะเดียวกัน นาวิศโดนสหัสกับแท่นเหวี่ยงออกไป แท่นชี้หน้า
“เอาสิวะ ถ้าเอ็งมีปัญญาตอแยได้ทั้งวัน ข้าก็มีปัญญาขวางเอ็งทั้งวันเหมือนกัน”
“แต่ข้าไม่ว่างขนาดนั้น”สหัสดึงมีดที่ปักไว้ที่โต๊ะออกมา “ไอ้นาวิศ ถ้าแกไม่ไป ฉันคงต้องเอาจริงแล้ว”
นาวิศตกใจ
“นายจะทำอะไร จะถึงกับฆ่าแกงกันเลยเหรอ”
“ถ้าจำเป็น”
นาวิศไม่พอใจ เดินเข้าไปอย่างท้าทาย สหัสปาดมีดเข้ามา นาวิศหลบ แท่นล็อคตัวนาวิศไว้ สหัสถือมีดเข้ามาใกล้ นาวิศพยายามสะบัด แต่ไม่หลุดจากแท่นที่ล็อคตัวไว้ ปาหนันเปิดประตูออกมา
“ขู่เขาพอรึยัง”
สหัสชะงักมองปาหนันไม่ค่อยชอบใจนัก
“คุณหนัน...คุณหนันออกมาทำไม”
“หนันจะไปกับเขา”
สหัสตะลึง
“คุณหนัน...”
เคี่ยมกับเจ่งตามออกมา
“ให้ลูกหนันไปเถอะสหัส...เขาสัญญาแล้ว ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย”
สหัสหันมองปาหนัน ไม่พูดอะไรอีก ปาหนันสบตานาวิศ แล้วเดินนำเขาไป สหัสมองตามอย่างหนักใจ
+ + + + + + + + + + +

เมื่อนาวิศออกไปจากบ้าน รสาตัดสินใจที่จะกลับกรุงเทพทันที เธอหิ้วกระเป๋ามาขึ้นรถ
“เอาเลย อยากทำอะไรก็ทำ ฉันไม่อยู่แล้ว...ไม่พาพี่รินหนีตอนนี้ ก็ไม่รู้จะหนีตอนไหนแล้ว”
รสาจะขึ้นรถ แต่รถคันหนึ่งขับเข้ามา รสามองอย่างตื่นกลัว รถคันนั้นจอดลง ธานีก้าวออกมา
“เธอกำลังจะไปไหน รสา”
รสาอึกอัก พูดไม่ออก จำต้องกลับเข้าบ้านไป
ในบ้าน...ธานีนั่งดูเอกสารมอบอำนาจที่จะให้นาวิศเซ็น ชาติยืนอยู่มุมหนึ่ง
“แล้วนาวิศจะยอมเซ็นเอกสาร มอบอำนาจให้คุณธานีเหรอครับ”
“นาวิศมาอยู่นี่หลายวันแล้ว แสดงว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจ จนดึงมันไว้ได้ ฉันแค่จะให้มันมอบอำนาจให้ฉันชั่วคราว เผื่อมีอะไรเร่งด่วนที่กรุงเทพ ฉันจะได้ตัดสินใจได้เลย”
“ซึ่งวาระเร่งด่วนของคุณธานี คือขายบริษัทของมันให้ต่างชาติใช่ไหมครับ”
ธานีพยักหน้ารับ แล้วเดินเข้าไปในครัว รสาเตรียมกาแฟให้ธานีเสร็จพอดี
“กาแฟได้แล้วค่ะ”
“จริงสิ...แม่บ้านคนสำคัญของนาวิศอยู่ไหน รึว่าออกไปกับนาวิศ”
รสาอึกอัก
“วันนี้ แม่บ้าน ไม่ได้มาทำงานค่ะ”
“อะไรวะ กินเงินเดือนตั้งหมื่นห้า แต่หยุดเป็นว่าเล่น”
รสาหลบสายตาธานี กลัวหลุดเรื่องปาหนัน
“ตกลงเธอได้เจอแม่บ้านคนนี้แล้วใช่ไหม มันมีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นรึไง”
รสาลังเล ไม่รู้ว่าควรบอกความจริงเพื่อเอาตัวรอด หรือช่วยปกปิดเรื่องปาหนัน ธานีเห็นรสาอึดอัด ท่าทางผิดสังเกต
“ว่าไงรสา...เธอกำลังปิดบังอะไรฉันรึเปล่า...”
รสาหนักใจ ไม่รู้ควรทำอย่างไร
“อ้อ จริงสิ...ฉันลืมส่งข่าวพี่สาวเธอ...ตอนนี้ระรินอยู่โรงพยาบาล”
รสาหน้าตื่น
“พี่รินเป็นอะไร คุณธานี คุณทำอะไรพี่ริน”
“จะโทษฉันก็ไม่ได้นะ...เพราะพี่สาวเธอก็เยอะอยู่...เล่นหว่านล้อมให้หน่อยเอามือถือมาให้ แล้วก็แอบโทรหาทนายวิรัชให้สืบว่าฉันกำลังทำอะไร...เพราะอย่างนั้น เขาเลยต้องโดนลงโทษเล็กๆน้อยๆ”
รสาร้อนใจ
“แล้วตอนนี้พี่รินเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันยังไม่ให้เขาตายหรอก...แต่ที่เล่าให้ฟังเนี่ย เพราะอยากให้เธอรู้ ว่าคนที่ทำอะไรลับหลังฉัน มันไม่รอดซักราย”
รสาหน้าเสีย ไม่กล้าที่จะปิดบังอีก จึงบอกความจริงเรื่องที่แม่บ้านของนาวิศคือปาหนันให้รู้ ธานีไม่พอใจมาก เมื่อรู้อย่างนั้น
“ที่แท้แม่บ้านของนาวิศก็คือลูกสาวไอ้เคี่ยม...มิน่า นาวิศมันถึงได้ถูกชะตานัก ที่แท้ก็เป็นคนเคยรัก”ธานีมองรสาดุ “เธอเองก็มีความผิดนะ ที่ปิดบังฉันมาตั้งนาน”
“แต่ปาหนัน ก็ยังไม่ได้ทำให้ความทรงจำ ของคุณนาวิศกลับมานะคะ รสาเองก็พยายามจะไล่เขา ไม่ให้มายุ่งกับคุณนาวิศ”
“แล้วเป็นไง ไล่ไปไล่มา นาวิศมันเลยไปถามความจริงจากปาหนัน”
รสาหน้าเสีย
“เอาเถอะ นับว่าเธอก็ยังทำถูก ที่ยอมสารภาพความจริงกับฉัน...ชาติ ถึงเวลาไปตามหาหลานชายสุดที่รักของฉันแล้ว ไป”
“เดี๋ยวค่ะ คุณธานีจะไปตามหาคุณนาวิศที่ไหนคะ”
ธานียิ้ม
“ฉันจัดการติดจีพีเอสที่รถนาวิศเรียบร้อย ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน ฉันก็หามันเจอ”
ธานีเดินไปกับชาติ รสามองตามอย่างเครียดๆ
+ + + + + + + + + + + +

นาวิศพาปาหนันนั่งรถไปด้วยกัน ปาหนันหันไปมอง เห็นบาดแผลที่ใบหน้าของนาวิศก็ไม่สบายใจ
“คุณนาวิศ...ปาหนัน...ฉันขอโทษนะ...แล้ว...เราจะไปไหนคะคุณนาวิศ”
“ที่ที่เราจะคุยกันให้รู้เรื่อง โดยไม่มีใครมาขัดขวางอีก”
นาวิศขับรถเข้ามาจอดในสวนแห่งหนึ่ง ทั้งสองลงจากรถ ปาหนันรู้ว่าตัวเองต้องทำใจลาจากนาวิศ เดินเศร้าๆเข้าไป นาวิศเดินตามไปด้วย ปาหนันตัดสินใจหันกลับมาบอก...
“ฉันมีเรื่องจะเล่าให้คุณฟังค่ะ”
“ฉันรอฟังอยู่”
“จริงๆแล้วฉันชื่อปาหนัน...เมื่อก่อน ฉันใช้ชีวิตอยู่ในสวนมะพร้าวที่ระนอง มันเป็นชีวิตของเด็กผู้หญิงบ้านๆคนนึง...จนวันนึงเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันก็เกิดขึ้น ฉันพบผู้ชายคนนึง โดนทำร้าย หนีตายมา ฉันช่วยชีวิตเขา ได้ดูแลเขา...”ปาหนันยิ้มสุขใจ “มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขจริงๆ”
“เธอ รักเขาเหรอ...”
ปาหนันนิ่งไป ก่อนจะพยักหน้ารับ
“ถึงจะรู้ว่าชีวิตเขาอยู่ในอันตราย เพราะมีคนคิดจะฆ่าเขา แต่เราสองคนก็ฟันฝ่ามาด้วยกัน จนถึงวันที่เขาต้องกลับไปสะสางเรื่องคนที่คิดจะฆ่าเขา”
ปาหนันเปิดกระเป๋า หยิบกล่องกระดาษเล็กๆออกมา เปิดกล่องออกเป็นดอกหญ้าแห้งแทนคำสัญญาของนาวิศ
“ดอกหญ้านี้แทนคำสัญญาของเขา ว่าเราจะกลับมาพบกัน กลับมารักกันอีกครั้ง”
นาวิศเข้ามาจับมือปาหนัน
“ปาหนัน...ผู้ชายคนนั้น คือฉันใช่ไหม”
ปาหนัน มองนาวิศเศร้าๆ ส่ายหน้า
“ผู้ชายคนนั้นเขาตายจากฉันไปแล้ว...คุณแค่เหมือนเขามาก แต่ไม่ใช่เขา”
“ไม่จริง...ถ้าฉันไม่ใช่เขา แล้วเธอมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม...บอกฉันสิปาหนัน เราเคยรักกันใช่ไหม”
“คุณไม่ใช่เขาแล้ว...จนกว่าหัวใจคุณจะกลับมารักฉันเหมือนเดิม”ปาหนันหยิบดอกหญ้าแห้งในกล่อง ไว้ในมือนาวิศ จับมือเขากำไว้ “ดอกหญ้าแทนคำสัญญานี้ ฉันคืนให้คุณ...ลาก่อน คุณนาวิศ”
นาวิศแบมือออก ดอกหญ้าแห้งแหลกเป็นผงในมือนาวิศ ลมหอบเศษดอกหญ้าปลิวไป ปาหนันตัดใจหันหลังให้นาวิศ เดินจากมา
“เดี๋ยวก่อนปาหนัน”
ปาหนันหยุด แต่ไม่หันมอง
“ใครที่คิดฆ่าฉัน”
“อาของคุณ”
ปาหนันเดินจากไป นาวิศมองตามอึ้งๆ ขณะที่ธานีที่ยืนอยู่กับชาติ มองตามอย่างไม่พอใจ...
+ + + + + + + + + + + +

เคี่ยม สหัส เจ่งรอการกลับมาของปาหนันครู่หนึ่ง ปาหนันเดินหน้าเศร้ากลับเข้ามา เคี่ยมรีบลุกไปหา
“ลูกหนัน...”
ปาหนันโผเข้ากอดพ่อ ร้องไห้
“มันจบแล้วจ้ะพ่อ...หนันจะไม่ไปหาเขาอีกแล้ว เขาไม่ใช่คนที่เคยรักหนัน หนันก็จะลืมเขาให้ได้เหมือนกัน”
เคี่ยมลูบผมปาหนันปลอบ สหัสกับเจ่งต่างก็มอง สงสารปาหนัน ทั้งหมดไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของธานีกับชาติลอบมองมาจากนอกบ้าน ด้วยสายตาเจ็บแค้นมีแผนร้าย ชาติหยิบปืนออกมา
“ให้ผมจัดการพวกมันเลยไหมครับ คุณธานี”
ธานียกมือห้าม
“ยังไม่ต้อง”
ชาติแปลกใจ
“นังปาหนันตัวดีดันบอกไอ้นาวิศว่าฉันคิดจะฆ่ามัน...ถ้าเกิดไอ้พวกนี้มันตายกันหมด นาวิศมันต้องยิ่งระแวงฉัน”
“แล้วนายจะเอายังไงครับ”
ธานียิ้มร้าย
“ฉันมีวิธีอื่นจัดการพวกมัน”
ธานีมองเข้าไปในบ้าน เห็นพวกเคี่ยมปลอบใจปาหนัน เจ่งเข้ามาลูบหลังปาหนันปลอบ ธานีมองพวกเคี่ยมอย่างอาฆาตแค้น ก่อนจะหันหลังกลับออกไป

จบตอนที่ 19
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.








กำลังโหลดความคิดเห็น