xs
xsm
sm
md
lg

รอยไหม ตอนที่ 19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ติดตามอ่านละครออนไลน์ได้ทาง www.manager.co.th ทุกเช้าเวลา 09.00 น.

รอยไหม ตอนที่ 19
วันต่อมา เจ้าหลวงบอกกับทุกคนอย่างไม่สบายใจ...

“ตั้งแต่ปี๋ใหม่มา คุ้มเจ้าหลวงก่อทำบุญบ่ได้ขาด ป้อบ่เข้าใจ๋ว่ามันเกิดเหตุอาเพชอะหยังผีปู่ย่าตาทวด เปิ้นบ่ปอใจ๋อะหยัง หรือมีไผมันบังอาจทำเรื่องอัปรีย์ จัญไรขึ้นในคุ้ม ศิริวัฒนาถึงได้เป๋นอย่างอี้”
คำเที่ยงสบตามณีริน ศิริวงศ์กับสล่าพันสบตากันแวบนึง บัวเงินสงบนิ่งแนบเนียน

“แม่เองบ่อยากจะคิดอย่างอั้นเลย พวกเฮาบ่เกยเอาเปรียบเบียดเบียนไผบ่เกยคิดฮ้ายกับไผ ยะหยังหนอถึงมาทำกับหมู่เฮาอย่างอี้” พระชายาบอกอย่างเศร้าใจ
ศิริวงศ์เห็นความทุกข์ใจของพ่อแม่ก็รู้สึกสงสาร
“พ่อเจ้า แม่เจ้า...โรคภัยไข้เจ็บเดี๋ยวนี้มันมีนัก...ต่อหื้อหมอฝรั่งเก่งๆบางทีก่อยังบ่ฮู้ว่ามันโรคอะหยังกั๋นแน่ ส่วนเรื่องคุณไสย มนต์ดำ...ต่อหื้อฝรั่งตะวันตกเปิ้นจะว่าเป็นเรื่องงมงายจะได แต่ลูกเจื่อว่ามันมีจริง”
บัวเงินข่มใจให้สงบ ศิริวงศ์หันไปหาบัวเงิน
“เอื้อยบัวเงินมีความเห็นอย่างใด”
“ปี้กั๋ว...แค่อู้ถึงเรื่องนี้ปี้ก่อขนหัวลุกแล้วเจ้าน้อย”
คำเที่ยงทึ่งอ้าปากค้าง ศิริวงศ์ถามต่อ
“แล้วเอื้อยคิดว่า จะมีคนกล้าทำเรื่องแบบนี้ในคุ้มเจ้าหลวงก่อ”
“ไผจะไปกล้าน๊อเจ้าน้อย ผิดอาญาแผ่นดินขนาดจับได้ ตัดหัวประจาน แค่คิดก่อบ่มีไผกล้าแล้ว อีกอย่างวิชาแบบนี้มันพ้น เล่นของสกปรกโสโครก ของต่ำๆบาปกรรมจะตกแต่คนทำน่ะแหละบ่ไปไหน”
สล่าพันได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาบัวเงิน ศิริวงศ์ รู้ว่าบัวเงินพูดปดแต่ก็ไม่อยากคาดคั้นมากนัก จึงหันไปหาเจ้าหลวงกับพระชายา
“ป้อเจ้า แม่เจ้า สบายใจ๋เต๊อะส่วนเรื่องจะนิมนต์ตุ๊เจ้ามาโปรดลูกเห็นดีด้วย อย่างน้อยหมู่เฮาก่อได้ทำบุญกั๋น”
บัวเงินรีบตอบรับ
“เจ้า...จะได้เป๋นศิริมงคล”

+ + + + + + + + + +

เม้ยแอบไปหาหมอเสน่ห์ ตามที่บัวเงินได้สั่งไว้
“ยะหยังนายมึงบ่มาตวย” หมอเสน่ห์ถามเสียงเข้ม
“นายกูบ่ว่าง”
“นายมึงบ่ว่าง หรือมึงอยากจะฮื้อกู จ่วยหื้อความฮักของมึงสมหวังบ้างล่ะ” หมอเสน่ห์หัวเราะ
“กูมาธุระของนายกู”
“กูหื้อของดีตี้สุดนายมึงไปแล้ว ยังบ่ปอใจ๋ก๊ะ”
“นายกูเปินปอใจ๋นัก แต่เปิ้นจะมีความสุขกว่านี้ถ้าบ่มีมาร เปิ้นต้องการหื้อ หมอจ่วยกำจัดคนคนนึง”
หมออึ้งไป
“กูทำเป็นแต่หื้อคนฮักกัน มึงกลับไปบอกนายมึง ฆ่าคนกูบ่ทำ”
“ทำบ่ได้ หรือบ่อยากทำอู้มาตามตรง”
หมออึ้งมองเม้ย เม้ยควักถุงไถ้ใส่เงินออกมาวางตรงหน้า หมอค่อยๆแสยะยิ้ม

+ + + + + + + + + + + +

บัวเงินเดินลิ่วๆออกมาตึก ศิริวงศ์รีบตามออกมาแล้วเรียกไว้
“เอื้อย”
บัวเงินหยุดซะงัก
“เจ้าน้อยมีอะหยังกับปี้”
“เฮาอยากจะขอบใจ๋เอื้อย”
“ขอบใจ๋เรื่องอะหยังเจ้าน้อย”
“ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องสำรับถวายตุ๊เจ้า ตี้เอื้อยฮับเป๋นธุระจัดการ”
“มันเป๋นหน้าที่ตี้ปี้ต้องทำอยู่แล้วเจ้าน้อย”
“เฮาหวังว่า เจ้าอ้ายคงจะหายป่วย และกลับมาแข็งแรงดีวันดีคืน”
“เฮาก่อหวังอย่างอั้น กั๋นทุกคนน่ะแหละเจ้าน้อย”
บัวเงินมีความกังวลลึกๆ รนๆ เพราะอยากรู้ข่าวจากเม้ย ศิริวงศ์ไม่เห็นเม้ยก็ถามอย่างสงสัย
“นังเม้ยมันไปไหนเสียล่ะ ทุกทีมันต้องอยู่ข้างตัวเอื้อยบ่ยอมห่าง วันนี้บ่หันหน้ามันแล้วฮู้สึกแปลกๆจะใดบ่ฮู้”
“มันบ่ค่อยสบาย ปี้ก่อเลยหื้อมันนอนพักอยู่เฮือน หมู่นี้มีแต่คนเจ็บ ปี้บ่สบายใจ๋”
“แล้วญาตินังเม้ยล่ะ อาการค่อยดีขึ้นแล้วก๊ะ”
“ญาตินังเม้ย” บัวเงินแปลกใจ
“บ้านแถวหลังวัดป่าอ้อนั่นไง”
บัวเงินอึกอัก
“อ๋อ...ปี้จำได้แล้ว ดีขึ้นแล้ว หายเจ็บแล้ว หันนังเม้ยมันว่าลุกขึ้นมาเดินได้ปร๋อแล้วละ ขอบใจ๋เน้อเจ้าน้อย ตี้อุตส่าห์มีน้ำใจ๋ เป๋นห่วง”
บัวเงินรีบเดินไป ศิริวงศ์มองบัวเงินอย่างไม่ไว้ใจ

+ + + + + + + + + + + +

เม้ยตะกายกลับขึ้นเรือนมาเพราะรู้ว่านายรอ บัวเงินเห็นอย่างนั้น รีบเดินมาหาอย่างร้อนใจ
“อีเม้ย ทำไมมึงหายหัวไปนานนัก กูนึกว่ามึงกลายเป็นเมียไอ้หมอนั่นไปแล้ว”
“โธ่หม่อมเจ้า เม้ยก่อรีบไปรีบมาตี้สุดแล้ว เม้ยต้องคอยดูตางหนีทีไล่ตวยนะเจ้า บ่ฮู้ว่าป๊ะไผพ่อง”
“แล้วได้เรื่องก่อ”
“กว่าเม้ยจะเค้นคอ หื้อมันทำงานหื้อหม่อมได้ เม้ยก่อต้องหื้อเงินมันไปตั้งสามถุง”
“แล้วมันจะทำงานหื้อกูได้เมื่อใด”
“มันทำบ่ได้”
“อีง่าว แล้วมึงหื้อเงินมันไปยะหยัง”
“หม่อมฟังเม้ยก่อนเจ้า มันว่าทำบ่ได้ จนกว่าจะได้เศษผม เศษเล็บ อีมณีริน ไปเข้าพิธีของมันเจ้า บ่จะอั้นจะบ่มีตางสำเร็จเจ้า”
บัวเงินยิ้มออกที่เห็นหนทาง

+ + + + + + + + + + + +

ที่เรือนมณีริน คำเที่ยง ไล่ปิดหน้าต่างหลายบาน โดยมีบริวารช่วย
“ปิดหื้อหมดเน้อ อย่าหื้อมีช่องมีฮูอะหยัง เหลือแม้แต่ฮูเดียว”
มณีรินเข้ามาเห็น มองอย่างแปลกใจ
“ปี้คำเที่ยง...ยะอะหยัง”
“ถามได้...เจ้าริน ปี้ก่อกำลังหื้อละอ่อนมันรีบปิดประตู หน้าต่าง หื้อหมดน่ะก๊า”
“ฮู้แล้ว แต่ปิดยะหยัง อุดอู้หายใจ๋บ่ออก”
“เจ้าริน...วันนี้วันโกนเน้อ”
“แล้วยะหยัง”
“โบราณเปิ้นสั่งสอนไว้ วันโกนพวกเล่นของฮ้อนวิชา มันจะปล่อยของกัน ปะเหมาะเคราะห์ร้ายของบ่ดีมันอาจจะมาเข้าเฮาก่อได้ ตางตี้ดีเฮาต้องกันเอาไว้ก่อน”
“เหลวไหลน่าปี้คำเที่ยง”
“นี่มันบ่ใช่เรื่องเหลวไหลเน้อเจ้าริน เจ้าศิริวัฒนาเปิ้นเจ็บอยู่อาการอย่างอี้ ใครๆก่อฮู้ว่าโดนของ ก็บ่ฮู้ว่าคนทำมันจะคิดฮ้ายกับใครอีก อาจจะเป็นเจ้ารินก็ได้”
“ถ้าบ่เปิดหน้าต่าง เฮาจะออกไปเดินเล่นตั้งนอก”
“ต๋ายๆๆยิ่งบ่ได้ใหญ่เลย นังพวกอ่อนสูกันเจ้ารินไว้ อย่าหื้อเปิ้นออกไปได้เน้อ”
บริวารกรูกันวิ่งมาขวางประตูไว้ มณีรินขยับไปทางไหน ก็ตามไปกันไว้ทุกฝีก้าว
“ปี้ไหว้ละเจ้าริน เป๋นวันอื่นปี้จะบ่ว่าเลย แต่วันนี้ปี้ขอเน้อ” คำเที่ยงไหว้ประลกๆ
มณีรินเซ็งสุดๆ

+ + + + + + + + + + + +
(อ่านต่อหน้า 2)
 







 
ศิริวัฒนาเพลียหลับไป ขณะที่นอนกอดบัวเงินอยู่ บัวเงินทำทีเป็นขยับตัวจะลุกออกไปจากเตียง ศิริวัฒนาสะดุ้งตื่น

“น้องจะไปไหน”
“น้องว่าน้องกลับไปนอนเฮือนน้องจะดีกว่า”
“ยะหยังใจ๋ฮ้ายนัก จะปล่อยปี้นอนอยู่คนเดียวได้จะใด”
“เจ้าอ้ายน่ะแหละใจ๋ฮ้าย มีน้องอยู่ทั้งคน เจ้าอ้ายยังคิดถึงคนอื่น”
“คนอื่นตี้ไหน...บ่มี”
“คนขี้จุ๊...บ่มี แล้วจะใดถึงได้ถอดแหวนวงนั้นหื้อเปิ้นไป”
“แหวนอะหยัง”
“ยังมาทำเป๋นลืม ก็แหวนพลอยตี้เกยอยู่ในก้อยเจ้าอ้ายมาเมิน น้องเวียนขอมาหลายเตื้อก่อบ่ยอมหื้อน้อง”
“ปี้บ่เกยหื้อของขวัญอะหยังเจ้ารินเปิ้นเลย ตั้งแต่เปิ้นมาอยู่เจียงใหม่ ปี้ก่อเลยถอดแหวนวงนั้นหื้อเปิ้นไปแค่แสดงน้ำใจ๋เล็กๆน้อยๆถ้าน้องอยากได้แหวน ปี้มีแหวนไพลิน อีกวงนึง น้ำงามบ่มีตี้ติ”
“น้องบ่ฮักไพลิน น้องฮักพลอยแดงวงนั้นมากกว่า”
“ยังอั้นปี้จะหามาหื้อใหม่เน้อ”
“บ่...น้องจะเอาวงนั้น”
“แล้วจะหื้ออ้ายยะจะใด อ้ายหื้อเปิ้นไปแล้ว”
“หื้อแล้วก่อขอคืนได้บ่ใจ่ก๊ะ”
“มันจะดีก๊า”
“ถ้าเจ้าอ้ายฮักน้องแต๊ จะใดจะยะบ่ได้”
บัวเงินทำเป็นแง่งอน ศิริวัฒนาหนักใจ แต่เพราะโดนยาเสน่ห์เล่นงาน จึงไม่สามารถขัดใจบัวเงินได้
+ + + + + + + + + + + +

มณีรินไปที่ห้องหนังสือ ตรงไปที่ตู้หนังสือเปิดตู้ เก็บเล่มที่เอาไปอ่านกลับคืนที่เดิม ขณะมองหาหนังสือเล่มใหม่ก็รู้สึกเหมือนมีใครมายืนดูด้านหลัง มณีรินหันขวับไปมอง พบศิริวัฒนายืนอยู่
“เจ้า”
“สุมาเต๊อะ ถ้าเฮายะหื้อเจ้ารินตกใจ๋”
“ข้าเจ้าเอาหนังสือมาเก็บคืนตี้เดิม วันนี้เจ้าเป๋นจะใดพ่องเจ้า”
ศิริวัฒนาพยายามมองแต่ที่มือมณีริน อย่างผิดสังเกต
“เฮา...สบายดี เจ้ารินบ่ได้สวมแหวนวงนั้นก๊ะ”
“มันออกจะหลวมไปน่อย ข้าเจ้าเลยถอดเก็บไว้”
“ยังอั้นเฮาขอคืนมาก่อนเน้อ”
มณีรินรู้สึกดีเพราะไม่อยากเก็บไว้อยู่แล้ว
“แล้ว...แล้ว เฮาจะหาวงใหม่มาหื้อ เฮามีแหวนไพลินอยู่อีกวง น้ำงามเหมือนกั๋น เฮาจะเอามาแตนหื้อ แต่แหวนทับทิมวงนั้น เฮาขอเน้อ”
“บ่เป๋นหยัง แล้วข้าเจ้าจะเอามาคืนหื้อเจ้า”
“ขอบใจ๋เน้อ ขอบใจ๋จ๊าดนัก”
ศิริวัฒนาพูดจบเดินออกไปทันที มณีรินมองตามอย่างแปลกใจที่ศิริวัฒนามีท่าทีห่างเหิน ไม่เหมือนเดิม
+ + + + + + + + + + + +

ด้านศิริวงศ์ ปรึกษากับสล่าพันอยู่ในสวน...
“คนเฮามันทำเรื่องผิดพลาดกั๋นได้ทั้งนั้นแหละอ้าย มันอยู่ตี้สำนึกว่าทำผิดลงไปแล้ว คิดได้ว่ามันบ่ดี ไผๆก่อต้องหื้ออภัย”
“แล้วเจ้าคิดว่าหม่อมเปิ้นหยุดแล้วก๊ะ”
“เฮาบ่แน่ใจ๋หรอกอ้าย”
“อั้นก่อต้องจับหื้อได้ กาหนังกาเขา”
“อ้ายมีวิธีก๊ะ” ศิริวงศ์ถามอย่างร้อนใจ
“เจ้าสังเกตบ่ว่า ช่วงนี้หม่อมเปิ้นเฝ้าเจ้าศิริวัฒนาเปิ้น ในห้องบ่ยอมห่าง”
“อ้ายกำลังจะบอกเฮาว่า หลักฐานสำคัญ มันก่อต้องอยู่ในห้องนั้นใจ่ก๊ะ”
สล่าพันพยักหน้า ศิริวงศ์ครุ่นคิดหาหนทาง

+ + + + + + + + + + + +

เมื่อกลับไปที่เรือน มณีรินหยิบแหวนที่ศิริวัฒนาให้ออกมาดู คำเที่ยงมองๆแล้วพูดขึ้น
“พลอยน้ำงามขนาดนี้ หาบ่ได้แหมแล้ว นี่ถ้ามีไผหื้อแหวนปี้ยังอี้สักวง ปี้จะยอมมอบกายถวายชีวิต เลยเน้อ”
“เฮาก่ออยากจะยกต่อหื้อปี้คำเที่ยงเหมือนกั๋นนะ แต่มันสายเกินไปแล้ว เฮากำลังจะต้องเอาไปคืนเจ้าของเปิ้น”
คำเที่ยงตะลึง
“เอาไปคืน...บ่ได้เน้อเจ้าริน เจ้าศิริวัฒนาเปิ้นโกรธต๋ายเลย”
“บ่คืนก๊า เปิ้นโกรธต๋าย วันนี้เปิ้นเพิ่งมาออกปาก ขอคืนด้วยตั๋วเปิ้นเอง”
คำเที่ยงหน้าตื่น
“โฮ้...เป๋นไปได้หยังใด ปี้บ่เจื่อ...เป๋นไปบ่ได้”
“ก่อมันเป๋นไปแล้ว ปี้คำเที่ยง วันพูกเฮาจะเอาไปคืนเปิ้น...เฮาสบายใจ๋อย่างบอกบ่ถูกเชียวละ”
“หื้อกับมือ แล้วจะมาขอคืนง่ายๆได้ยังใด”คำเที่ยงไม่ค่อยพอใจ
“เปิ้นก่อคงนึกเสียดายของเปิ้นขึ้นมาน้าก๊า”
“เป๋นเจ้าเป๋นนายคน อู้อะหยังออกมาแล้วคืนกำได้จะใด ปี้ว่าเจ้าเปิ้นจำใจ๋อู้แทนคนบางคนมากกว่า”
“มีอคติกับคนอื่น...บ่ดีเน้อปี้คำเที่ยง”
“ต้องเป๋นหม่อมของเปิ้นแน่ เจื่อปี้เต๊อะ ปี้เอาหัวเป๋นประกัน”
“เปิ้นอยากได้แต๊ก่อหื้อเปิ้นไป ของพวกนี้มันก่อบ่ต่างจากก้อนกรวดก้อนหินหรอก เพชรพลอย มันจะมีก่าเป๋นเพชรพลอยก่อต่อเมื่อมันอยู่กับคนตี้เปิ้นหื้อก่ามันเต้าอั้นละ ปี้คำเที่ยง”
“แต่มันเป๋นเรื่องของศักดิ์ศรีเน้อเจ้าริน อีกอย่างปี้เจื่อว่าเรื่องนี้จะใดมันก่อบ่ชอบมาพากล”
“เลิกอู้เรื่องนี้ เสียที ปี้คำเที่ยง หื้อร้ายคนอื่น มันเป๋นบาปเน้อ” มณีรินเดินหนีตัดบท
คำเที่ยงขัดใจที่มณีรินไม่ฟังเลย

+ + + + + + + + + + + +

พระชายามาเยี่ยมศิริวัฒนา เคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ บัวเงินจึงไขกลอนประตูเปิดรับ
“แม่เจ้า”
“สายป่านนี้แล้ว จะใดยังบ่ปาศิริวัฒนาลงไปอีก”
“เจ้าอ้าย เปิ้นยังบ่ยอมตื่นเลยเจ้า”
“แล้วจะใด บ่ปลุกเปิ้น”
“ข้าเจ้าบ่กล้าเจ้า...”
พระชายาตรงไปที่เตียง ศิริวัฒนายังนอนหลับนิ่ง
“ลูก...ลูก...ศิริวัฒนา” พระชายาแตะที่เท้าเบาๆ
ศิริวัฒนาค่อยๆลืมตาขึ้น
“แม่เจ้า”
“ลุกขึ้นอาบ น้ำล้างหน้าแต่งตัวเต๊อะ ตุ๊เจ้าเปิ้นจะมาถึงแล้วเน้อ”
“มาหยัง” ศิริวัฒนาถามอย่างแปลกใจ
“อ้าว วันนี้ป้อกับแม่นิมนต์เปิ้นมาฉันเพลตี้นี่ บัวเงินบ่ได้บอกลูกก๊ะ”
ศิริวัฒนาส่ายหน้างงๆมึนๆ พระชายาหันไปมองบัวเงิน
“จะใดบ่ได้บอกเปิ้นหือบัวเงิน”
“ข้าเจ้าบอกเปิ้นแล้ว เมื่อคืนก่อเตือนแหมครั้งนึง แต่เปิ้นคงลืมแล้วเจ้า” บัวเงินโกหกจริงๆแล้วไม่ได้บอก
“บ่ไหว...บ่ไหว...รีบลุกขึ้นเต๊อะลูก”
“ลูกปวดหัว ลูกบ่ลงไป บ่ได้ก๊ะแม่เจ้า”
“บ่ได้ ตุ๊เจ้าเปิ้นมาโปรดถึงคุ้มเชียวหนา ลูกบ่ลงไปได้ยังใด นังเม้ยไปไหน จะได้มาจ่วยเปิ้นแต่งตั๋ว”
“ข้าเจ้าจะดูแลจ่วย เจ้าอ้ายเปิ้นเองเจ้า แม่เจ้าลงไปก่อนเต๊อะ บ่เมินหรอกเดี๋ยวข้าเจ้าจะปาเจ้าอ้ายเปิ้นลงไปเอง”
“หื้อโวยๆเน้อ”
พระชายาถอนใจ เมื่อเห็นสภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรงของลูก แล้วเดินออกไป บัวเงินพยายามประคองศิริวัฒนาให้ลุกขึ้น

อ่านต่อวันพรุ่งนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น