เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 5
วันต่อมาที่ห้องประชุมออฟฟิศของฟ้า บอสพูดกับพนักงานทุกคนที่เข้าร่วมประชุมว่า เมื่อลูกค้ามีความต้องการอย่างไร ก็ต้องจัดไปตามนั้น และมอบหมายให้น้ำฟ้าดูแลงานนี้
“เยส!”
บีบีทำท่าดีใจ ฟ้าถอนหายใจ
“โอ๊ะ...ถอนหายใจซะดั๊งดัง” ดินแกล้งแหย่ฟ้า
“ถอนหายใจ...ถอนตำแหน่ง”
บอสบอก ฟ้ารีบหายใจเข้า
“ เฮือกกก..โอเคค่ะ”
ฟ้าหันไปแยกเขี้ยวใส่ดิน
“อย่ามาทำหวานใส่กันในห้องประชุม แยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานหน่อย” บอสบอก
“แถวบ้านบอสเรียกอาการเมื่อกี้ว่าหวานใส่กันเหรอครับ” ดินถาม
“ใช่ แล้วมีอะไรมั้ย”
“ไม่มีครับ”
“แต่ฉันมี” ฮันนี่บอก
“มีตลอดล่ะเธอน่ะ”
“จะไม่ให้มีได้ยังไง ตกลง นี่เรียกเรามาประชุมเรื่องส่วนตัวของน้ำฟ้าหรือเรื่องงานของคุณธีรเทพคะบอส”
บอสเสียหน้า แต่แก้เก้อ
“ ให้ทุกฝ่ายตั้งใจทำงาน ห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นคนที่จะโดนก่อนใครคือคุณนะฟ้า ในฐานะหัวหน้างาน”
“ขอกลับไปที่ปรัชญาการทำงานของฉันค่ะบอส ฉันสะกดคำว่าพลาดไม่เป็น”
ฮันนี่มองฟ้าด้วยสายตาเคียดแค้น
พอออกจากห้องประชุมฮันนี่กระแทกแก้วกาแฟของตัวเองบนเคาน์เตอร์อย่างแรง
“แต่แกก็เคยพลาดมาแล้ว แค่โชคดีเอาตัวรอดไปได้เท่านั้นแหละ”
ฮันนี่กำหมัดแน่น ยังคงเต็มไปด้วยความอยากเอาชนะ ดินเดินถือถ้วยกาแฟเข้ามาจะชงกาแฟเพิ่ม พอเห็นฮันนี่ยืนอยู่ ดินชะงัก รีบเดินออกไป ฮันนี่หันมาเห็นดินกำลังจะออกไป แผนในหัวผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ดินคะ”
ฮันนี่เรียกดินเสียงหวาน นางเอกมาก ดินชะงัก แต่ไม่ยอมหันไป
“มีอะไร ผมจะรีบไปทำงาน”
“จะชงกาแฟไม่ใช่เหรอ มา ฮันนี่ชงให้”
ฮันนี่เดินมาแย่งถ้วยกาแฟจากมือดิน
“ไม่เป็นไร”
ดินจะดึงกลับ แต่ฮันนี่ยื้อเอาไว้แล้วจับมือดิน สบตาอย่างมีความหมาย
“ขอให้ฮันนี่ทำอะไรเพื่อดินบ้างเถอะ เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี นะคะ”
ดินอึ้งแล้วใจอ่อน
“ก็ได้”
ดินยอมให้ฮันนี่ถือแก้วไปชงกาแฟ ฟ้าเดินเข้ามาเห็น ชะงัก รีบหลบ แอบดูว่าดินกับฮันนี่ทำอะไรกัน
“กาแฟหนึ่ง น้ำตาลหนึ่ง น้ำร้อนแค่ครึ่งถ้วยไม่ต้องเยอะ เหมือนเดิมใช่มั้ยคะ”
ดินอึ้งที่ฮันนี่ยังจำได้
“ก็...เหมือนเดิม”
ฮันนี่สังเกตถ้วยกาแฟ ยกขึ้นดู
“เอ๊ะ นี่ก็ถ้วยกาแฟถ้วยโปรดของดินนี่คะ ฮันนี่เพิ่งสังเกตเห็น”
“อืม...ก็ เหมือนเดิม”
“ไม่ลองของใหม่ๆ บ้างล่ะคะ ยึดติดกับของเดิมๆ น่าเบื่อออก”
ฟ้าหมั่นไส้ฮันนี่มาก
“มันคือความชอบ เป็นรสนิยมส่วนตัวที่ใครก็มาเปลี่ยนไม่ได้ เฉพาะเรื่องกาแฟนะไม่ใช่เรื่องอื่น”
“แล้วคิดว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร...แหม ถามเล่นๆ ตอบเสียงเครียดเชียว ไม่เอาสิคะ”
ฮันนี่เข้ามาบีบจมูกดินด้วยความเอ็นดู ฟ้านึกเคือง
“เอาอีกแล้ว ผมเคยบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้เล่นแบบนี้”
ฟ้าเหวอ ที่เห็นคนเคยๆ หยอกล้อกันด้วยวิธีการเคยๆ ที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน ฟ้าพุ่งเข้าไปทันที
“ดินขา ชงกาแฟเสร็จแล้วหรือยังคะ”
ฟ้าถามเสียงดุ ฮันนี่เย้ยฟ้า
“นี่ค่ะ กาแฟสูตรคุณดิน ลองชิมดูสิคะ ว่ารสชาติยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”
ฟ้าฉุน รับถ้วยกาแฟของดินมาเอง
“แหม...เป็นง่อยเหรอคะ ถึงให้คนอื่นชงให้” ฮันนี่ปรี๊ด “อุ๊ย...ไม่ทันไร กาแฟชืดแล้วอ่ะ ไม่อร่อยแล้วล่ะ”
ฟ้าเอากาแฟไปเททิ้ง
“เฮ้ย! /นี่ เธอ”
“เดี๋ยวแฟนชงให้ใหม่นะคะ กาแฟหนึ่ง น้ำตาลหนึ่ง น้ำร้อนแค่ครึ่งถ้วยไม่ต้องเยอะ ใช่มั้ยคะคนดี”ฟ้าเข้าไปบีบจมูกดินบ้าง
“อย่า” ดินร้องห้าม
“รู้น่ะว่าไม่ชอบให้ทำแบบนี้ แต่อยากหยอกแฟนบ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนรักกัน”
ฮันนี่ฉุน เดินหนี ฟ้ายิ้มสะใจ
“นี่แอบดูผมกับฮันนี่คุยกันตลอดเวลาเลยใช่มั้ย”
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นจะรู้เหรอว่านายกับยัยนั่นมีความรักความหลังอะไรกันบ้าง”
“แต่มันเป็นความหลังที่ผมไม่ได้อยากจะจดจำเท่าไหร่”
“อ้อเหรอ...ให้มันแน่เหอะ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองแล้วกัน”
“หึงหรือไง”
“ไม่ได้หึง แต่อยากให้นายรู้ไว้ คนเราไม่ควรจะเจ็บกับอะไรซ้ำซาก ถ้าไม่อยากเป็นคนโง่ เข้าใจ๋” ฟ้า ยื่นถ้วยกาแฟกลับไปให้ดิน
“อ้าว ไม่ชงให้แล้วเหรอ”
“ชงเอง”
ฟ้าเดินออกไป ดินยิ้มขันฟ้า ก่อนจะหน้าหมองลง เมื่อคิดถึงฮันนี่
เวลาผ่านไป... ดินกดมือถือโทรออก รอสายครู่หนึ่ง
“มาถึงหรือยัง ตอนนี้อยู่ไหน อืม...โอเค เดี๋ยวเจอกัน”
ฮันนี่และมิ้นท์เดินมาเจอดิน ดินชะงัก เมื่อเห็นฮันนี่ส่งยิ้มแสนหวานให้
“ไปทานข้าวด้วยกันมั้ยคะ”
ฮันนี่เอ่ยชวนดิน จู่ๆ ฟ้าก็โผล่เข้ามา
“ดินขา แฟนฮิ้วหิวค่ะ”
ฟ้าควงแขนดินออกไปเลย ฮันนี่ มิ้นท์มองฟ้าอย่างหมั่นไส้
“คนไม่เคยมีแฟนก็เงี้ยค่ะคุณฮันนี่ พอมีแล้วก็อยากจะอวดชาวบ้าน”
“อวดได้ไม่นานหรอก”
ฮันนี่เต็มไปด้วยความแค้นที่รอสะสางกับฟ้า
ฟ้า ดิน มากินข้าวกับบีบีและต้น ดินกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ฟ้ามองดินอย่างหมั่นไส้ บีบีเห็นต้นกินข้าวหน้าเศร้า
“แกจะกินข้าวเคล้าน้ำตาไปอีกนานมั้ย”
“ตลอดชีวิต”
“วันหลังถ้ามากินข้าวกับพวกฉันแล้วเหมือนมางานศพแบบนี้ล่ะก็ อย่ามาเลย ฉันไม่เจริญอาหารว่ะ”
“หนามยอกต้องเอาหนามบ่งสิเจ๊... เชิญหวานกันตามสบายเลยเจ๊” ต้นบอกฟ้ากับดิน
“โอ๊ย แฟนพี่เขาไม่ใช่คนหวานหรอกต้น”
“เลิกเลยเจ๊”
“ไอ้ต้น”
“ใครบอกว่าผมไม่หวาน ชิมแล้วหรือไง”
“ชิมได้ด้วยเหรอคะคุณดิน ว๊าว!”
“ล้อเล่นครับ แค่ไม่อยากให้แฟนตัดสินทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วผมไม่ใช่แค่หวานอย่างเดียวนะ ว้านหวานต่างหาก”
ดินส่งสายตาเชื่อมให้ฟ้า
“เอาอีกพี่ หวานได้อีก” คนในร้านเฮกันไปดูที่หน้าร้าน /ทุกคนเห็นความผิดปกติ รีบลุกไปดู ต้นนำหน้าก่อนเลย “เฮ้ย! ไรวะ”
“ไอ้ต้น! ใจเย็น แกจะไปตีกับใคร”
ขณะนั้นมีป้าคนหนึ่งร้องโวยวาย ยืนหอบเหนื่อยอยู่หน้าร้าน
“เอากระเป๋าฉันมา”
ดิน ฟ้า บีบี ต้นวิ่งออกมาดู
“มันวิ่งไปทางไหนป้า”
“ทางโน้น โอย ช่วยป้าที ผู้ชายผมยาวๆ เสื้อขาว”
“ไปต้น”
ดินและต้นวิ่งออกไป ฟ้าและบีบีดูแลป้า
“ป้าใจเย็นๆ นะ”
แต่ป้าเป็นลมล้มลง
“อ้าว...ป้า”
เจ้าของร้านและชาวบ้านมาช่วยฟ้าและบีบีดูแลป้า
ดินกับต้นวิ่งมาเห็นโจรกระชากกระเป๋าเป็นผู้ชายผมยาว ใส่เสื้อขาว วิ่งอยู่ไกลๆ
“มันอยู่นั่น”
“ตามโลด”
ดิน ต้นรีบเร่งความเร็วตามไปทันที
โจรกระชากกระเป๋าวิ่งมาถึงสามแยก ตัดสินใจเลี้ยวไปทางขวาแต่ดินและต้นไม่เห็น...ดิน ต้นวิ่งมาถึงสามแยก มองซ้ายขวา เอาไงดี
“ต้นแกไปทางซ้าย ”
“ซ้ายโลด”
ดินแยกไปทางขวา ต้นแยกไปทางซ้าย ระหว่างนั้นฟ้ากับบีบีวิ่งตามมา
“บีบี โทรหาพวกนั้นเร็ว เช็กว่าตามขโมยไปถึงไหนแล้ว”
“แกจะบ้าเหรอ จะมีใครรับโทรศัพท์กันตอนนี้เล่า”
“งั้น ตามไป”
ฟ้า และบีบีรีบวิ่งต่อ
โจรกระชากกระเป๋าวิ่งหนีดินที่ตามมา ข้ามถังขยะ เครื่องกีดขวางที่วางอยู่ระเกะระกะไปอย่างทุลักทุเล
“หยุดนะ! อย่าหนี”
โจรกระชากกระเป๋ายังวิ่งหนี ดินวิ่งตามไม่ลดละ
อีกมุมหนี่งต้นวิ่งตามหาโจรมาเรื่อยๆ
“มันอยู่ไหนวะ”
ต้นเหลือบไปเห็นคนลักษณะผมยาว เสื้อขาว สะพายกระเป๋าดูดน้ำส้มใส่ถุงออกมาจากร้านขายของชำข้างทาง
“ผมยาว เสื้อขาว กระเป๋าก็ป้าๆ ดูรีบๆ... เป๊ะ มีแวะซื้อน้ำส้มดูดสบายใจเลยนะ! ไอ้โจรน้ำส้ม เสร็จฉัน!”
ต้นวิ่งตามไปทันที
ขณะนั้นฟ้าและบีบีวิ่งมาถึงสามแยก ฟ้าสั่งการทันที
“บีบีแกไปทางขวา ฉันไปทางซ้าย”
“ทำไมอ่ะ”
“ขวาร้ายซ้ายดี โอเคนะ”
ฟ้าวิ่งไปทางซ้ายทันที
“เชื่อเขาเลยว่ะ”
บีบีวิ่งไปทางขวา
ส่วนต้นเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเป้าหมายมา พอได้จังหวะต้นตะครุบตัวเป้าหมายที่ตัวเองคิดว่าเป็นโจรกระชากกระเป๋าเอาไว้จากข้างหลัง
“จะหนีไปไหน”
กอหญ้า ตกใจ ตาเหลือก เพราะสิ่งที่ต้นจับคือหน้าอกของเธอ
“เฮ้ย”
“ทำไมนิ่มจังวะ”
“ก็มันหน้าอกฉัน”
กอหญ้าเอาถุงน้ำส้มโปะใส่หัวต้น จนถุงแตก น้ำส้มไหลโจ๊ก กอหญ้ากระทืบเท้าต้นซ้ำ
“กรี๊ดดดด”
“ร้องซะแต๋วแตกเลยนะ! อีกทีแล้วกัน”
กอหญ้ากระทืบเท้าต้นอีกข้าง
“โอยยยย”
ต้นลงไปนอนดิ้นเพราะเจ็บเท้า
“แกจะทำอะไรฉัน ไอ้หื่น”
“เฮ้ย ผู้หญิงนี่หว่า”
“เออสิ ถ้าไม่ใช่ แล้วไอ้ที่แกจับมันจะนิ่มได้ไง ไอ้โรคจิต”
กอหญ้าจ้องต้นเหมือนกินเลือดกินเนื้อ โกรธมากที่ถูกหยามศักดิ์ศรีด้วยการถูกจับหน้าอก
อีกมุมหนี่งดินตามโจรกระชากกระเป๋าได้ทัน คว้าตัวมาต่อยเปรี้ยงลงไปกอง ดินกระชากกระเป๋าคืนมาจากโจร โจรพยายามคลานหนีทันใดนั้นปี๊บก็เข้ามาครอบหัวโจรเอาไว้ ดินประหลาดใจเงยหน้ามองจึงเห็นบีบีเป็นคนเอาปี๊บมาครอบหัวโจร แล้วนั่งทับโจรเอาไว้ โจรดิ้นกุกกักๆ
“เสร็จบีบี ไอ้โจรกระจอก!”
“เยี่ยมไปเลยครับคุณบีบี”
“บ้า! เขินนะ ขอแต่งงานเลยป่ะล่ะ”
ดินขำ ไม่ตอบอะไร รีบเข้าไปล็อกตัวโจรเอาไว้
อีกด้านหนึ่งขณะนั้นต้นพยายามจะหนีกอหญ้า
“ขอโทษคร้าบ ต้นไม่ได้ตั้งใจ”
“นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจแกจะขนาดไหน ไปหื่นในนรกแล้วกัน”
กอหญ้าเงื้อเท้าสูง เตรียมเตะสีข้างต้น
“เฮ้ย! สู้นะโว้ย!” ต้นลุกขึ้นยืน กอหญ้าชะงักเท้ากลับ กระเถิบหนี “ฉันไม่ใช่ไอ้หื่น นังโจรน้ำส้ม ฉันคิดว่าเธอเป็นโจรกระชากกระเป๋า เลยจะมาจับ”
ต้นพูดจบปุ๊บ ถูกกอหญ้าต่อยเปรี้ยงเข้าเบ้าตาถึงกับมึน
“ฉันไม่เชื่อแล้วก็อย่ามาเรียกฉันว่าโจรน้ำส้ม ไอ้หื่น”
ต้นหงายหลังตึง ฟ้าโผล่เข้ามาเห็นพอดี
“ต้น”
โจรกระชากกระเป๋าถูกตำรวจรวบตัวไป โดยมีป้าเจ้าทุกข์ถือกระเป๋าตัวเองตามด่าไม่หยุด ดิน และบีบียืนมองอยู่ที่มุมหนึ่ง
“โล่งอกไปทีนะคะคุณดิน ยูอาร์มายฮีโร่จริงๆ เลยอ่ะ”
“ขอบคุณครับ...แล้วคุณฟ้ากับนายต้นล่ะ”
“เออ นั่นสิ”
ฟ้าเข้ามาดูต้นที่นอนเห็นดาวอยู่ ประคองต้นให้นอนบนตักตัวเอง ต้นเคลิ้ม
“ต้น เป็นไงบ้าง”
“พี่รู้จักไอ้หื่นนี้ด้วยเหรอ”
“นี่ เขาไม่ได้หื่นนะ เขาชื่อต้น เป็นลูกน้องพี่ แล้วเราน่ะเป็นใคร ทำไมทำแบบนี้”
“ก็มันหื่น มาจับหน้าอกหนู แล้วยังมาเรียกหนูเป็นโจรน้ำส้มอีก บ้าเปล่า”
“ต้น แกทำแบบนั้นจริงหรือเปล่า”
“จริง”
ฟ้าปล่อยต้นร่วงลงทันที
“สมน้ำหน้าแล้วล่ะ”
“แต่ผมเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นโจร ใครจะรู้ เห็นข้างหลังคิดว่าผู้ชาย ที่ไหนได้เป็นผู้หญิง พกกระดานอีกต่างหาก เรียบเชียว”
กอหญ้าต่อยต้นเปรี้ยงเข้าตาอีกเบ้าทันที
“ ฉันไม่ได้พกกระดาน”
ต้นร่วงลงไปอีก
“นี่ ทำไมก้าวร้าวรุนแรงแบบนี้ เอะอะก็ใช้กำลัง ที่บ้านมีปัญหาหรือเปล่า มีพ่อแม่ญาติพี่น้องคอยสั่งคอยสอนมั้ยเนี่ย”
“โห เจ๊ มีเคืองนะเนี่ย ว่าถึงพ่อถึงแม่ถึงญาติเลยเหรอ เค้าไม่ได้เกิดจากระบอกไม้ไผ่นะ ทำไมจะไม่มีพ่อแม่พี่น้อง”
ดินเข้ามากับบีบี
“กอหญ้า”
“พี่ดิน”
กอหญ้ารีบเข้าไปหาดินทันที ฟ้า ต้นตกใจ และประหลาดใจ
“รู้จักกันด้วยเหรอ”
ดินพากอหญ้ามาที่ออฟฟิศ กอหญ้านั่งเซ็งอยู่บนเก้าอี้ มองสำรวจไปรอบๆออฟฟิศบีบีเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กอหญ้า เอาใจสุดชีวิตหลังจากรู้ว่าเป็นน้องสาวของดิน
“น้ำจ๊ะน้องกอหญ้า คลายร้อน ดับกระหาย และความรุ่มร้อนใจ”
“ขอบคุณนะพี่”
“บีบีจ๊ะ เรียกพี่บีบี พี่เป็นเพื่อนสนิทของคุณดิน รู้จักคำว่าเพื่อนสนิทมั้ยจ๊ะ เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่แฟน แค่รอวันพัฒนา หุหุหุ”
“อ๋อ ค่ะ...เพื่อนสนิท”
กอหญ้าเหลือบไปเห็นต้นโผล่หัวเข้ามาแอบดู กอหญ้าเงื้อหมัดเข้าใส่ ต้นกลัว หดหัวกลับเข้าไปข้างใน...ฟ้า ดินและบอส มองกอหญ้าอยู่ที่มุมหนึ่ง
“กอหญ้าเป็นน้องสาวผม เพิ่งมาจากต่างจังหวัด ที่มาขอฝึกงานที่นี่น่ะครับบอส”
“เห็นจดหมายแล้วล่ะ”
“ทำไมไม่เห็นมีใครบอกอะไรฟ้าเลย”
“ก็กำลังจะบอกอยู่นี่ไง เอ๊ะ แต่นายไม่ได้บอกอะไรแฟนตัวเองเลยหรือไง” บอสถาม
“อ๋อ...” ดินอึกอัก
“บอกแล้วนี่เนอะ ฟ้าคงลืมเองค่ะ ฮ่ะๆๆๆ” ฟ้ารีบแก้ตัวแทนดิน
“ใช่ ช่วงนี้แฟนผมสมองปลาทองมากครับบอส อย่าถือสาเลยนะครับ”
“รู้แล้วว่าเป็นแฟนกันไม่ต้องย้ำมาก ตกลงตามนี้นะ เริ่มฝึกวันนี้เลยแล้วกัน”
“ตกลงบอสรับเด็กคนนั้นให้มาฝึกงานที่นี่เหรอคะ”
“อ้าว ไม่ดีหรือไง ได้แรงงานฟรี ไม่ต้องจ้างใครให้เสียเงิน แถมเด็กก็ได้ประสบการณ์กลับไปด้วย วินวิน เรียนอะไรมานะ”
“ศิลปกรรมครับ”
“งั้นก็ไปฝึกที่ฝ่าย...”
ต้นถึงกับเหวอเมื่อรู้ว่าบอสส่งกอหญ้ามาฝึกงานกับเขา
“ฝ่ายศิลปกรรมของผมเนี่ยนะ”
“ใช่”
“ไม่เอา” กอหญ้าหมั่นไส้ต้น ต้นรีบถอยหนีไปหาฟ้า “เจ๊....ผมไม่อยากทำงานไป เสียวเบ้าตาไปนะเจ๊”
“นายก็อย่ามาทะลึ่งจับอะไรฉันอีกแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”
“โอยยย อยากจับตายล่ะ”
“พูดอะไร”
“พอๆๆ ไอ้ต้น ถ้าแกมีปัญหาไปคุยกับบอสเอง”
ฟ้าเอาบอสมาคขู่ ต้นไม่อยากมีปัญหากับบอส
“ทำงานต่อดีกว่า สบายมาก”
“ส่วนเธอ กอหญ้า ถ้าทำตัวมีปัญหา เกะกะ เกเร เธอมีปัญหากับฉันแน่”
“เจ๊เป็นอะไรมากป่ะ เหมือนจ้องจะมีปัญหากับหนูจัง”
“กอหญ้า ทำตัวให้น่ารักหน่อย อย่าก้าวร้าวกับผู้ใหญ่” กอหญ้าหุบปาก สงบคำ “ฉันพูดจริงทำจริง คอยดูแล้วกัน จะให้เป็นน้องใครลูกใครฉันก็ไม่สน”
ฟ้าเดินออกไป กอหญ้าไม่ค่อยชอบฟ้า
“บ้าอำนาจอ่ะ สงสัยป้าเขายังไม่มีแฟนแหงเลย ถึงได้ขี้หงุดหงิดใส่คนอื่นแบบนี้”
ฟ้าได้ยิน หูร้อน รีบหันหลังกลับ
“แฟนฉันก็พี่ชายเธอไง”
“หา”
“เคลียร์ด้วย” ฟ้าหันไปบอกดินที่เดินเข้ามาพอดี
ดินจึงพากอหญ้าหลบมาคุยอีกมุมหนึ่งของออฟฟิศ
“แม่คุณฟ้าเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยากเห็นลูกสาวแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนตาย คุณฟ้าอยากทำให้แม่มีความสุข...เราสองคนก็เลยตกลงเป็นแฟนกันหลอกๆ จนกว่า... นั่นแหละ แต่เราห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ”
“ไม่บอกหรอก โหยยย...น่าสงสารอ่ะ”
“ใครน่าสงสาร พี่หรือเขา”
“หนูไม่สงสารพี่ดินหรอก ยังไงผู้ชายก็ไม่มีอะไรเสียหาย หนูสงสารเจ๊เขา”
“เฮ้ย เราเป็นน้องพี่นะ พี่คือคนที่เป็นเหยื่อ ไม่ใช่คุณฟ้า”
“ใครบอก ผู้หญิงต่างหากที่เป็นเหยื่อความคาดหวังของครอบครัว ที่คิดว่าลูกสาวจะมีความสุขและมีความมั่นคงได้เมื่อต้องแต่งงานมีสามีเท่านั้น”
“แก่แดด อายุเท่าไหร่น่ะเรา”
“ถึงหนูจะแค่ยี่สิบต้นๆ หนูก็คิดเป็นนะ แล้วตอนนี้ก็คิดว่าทำไมพี่ยอมช่วยเจ๊เขา”
“มนุษยธรรม”
“โม้ หนูว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น พี่ชายหนูไม่ได้มีแววตาวิ้งๆอย่างนี้มานานแล้วนะ หลังจากที่....”
“น้องกอหญ้า”
เสียงฮันนี่ดังขึ้น
“พี่ดิน ช่วยบอกทีว่าหนูกำลังฝันร้าย”
“ฝันร้ายที่กลายเป็นจริง”
ฮันนี่ปราดเข้ามากอดกอหญ้า กอหญ้าหน้าแหยมาก
“ดีใจจังเลย ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
“ค่ะ หนูก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
ดินยิ้มๆขำอาการของกอหญ้าที่ไม่อยากเจอฮันนี่แต่ก็ต้องเจอ
คืนนั้นที่บ้านคุณสดใส น้ำฝนเตรียมอาหารเต็มโต๊ะ
“ป่านนี้พี่ฟ้ากับคุณดินยังไม่มาอีก จอห์นคุณโทรตามหน่อยสิ” จอห์นนั่งเซ็งไม่ได้สนใจสิ่งที่น้ำฝนพูด “จอห์น”
“จ๋า...ดาร์ลิ้ง”
“ฉันคุยด้วย ไม่ได้ยินหรือไง ใจลอยไปไหน บอกมานะ”
“ไม่ได้ลอยไปไหน แต่ทำไมเราสองคนไม่ไปดินเนอร์กันส่วนตัวบ้าง ผมอยากอยู่กับคุณสองคนตามลำพัง”
“ก็รอให้เรื่องของพี่ฟ้าเรียบร้อยก่อนสิคะ รับรองเราได้อยู่กันตามลำพังไปอีกนานจนคุณเบื่อเลยล่ะ”
“ดาร์ลิ้งก็รู้ ว่าผมไม่มีทางเบื่อดาร์ลิ้งแน่นอน”
“ปากหวาน”
“โทรตามฟ้ากับตาดินหรือยังลูก ลืมนัดแม่หรือเปล่าเนี่ย”
“กำลังจะโทรเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ จอห์นคะ”
จอห์นรีบหยิบมือถือมากดเบอร์ฟ้า แบบเซ็งๆ
“ปิดเครื่องครับ”
ขณะนั้นฟ้ากับดินอยู่หน้าบ้าน ฟ้าเดิน คอแข็งๆ เครียดๆ ดินฉวยข้อมือฟ้าเอาไว้
“นี่ เป็นอะไร ไม่พูดไม่จามาตลอดทาง”
“เครียด”
“เรื่องอะไร”
“งาน”
“เครียดเรื่องงานก็เก็บไว้ที่ทำงาน ไม่ควรเก็บมาเครียดต่อที่บ้าน”
“ก็งานมันยังไม่เสร็จ”
“แล้วแม่คุณทำงานกับคุณด้วยหรือไง” ฟ้าอึ้ง “ยิ้มหน่อยสิ แม่คุณจะได้ชื่นใจ เวลาเห็นลูกสาวมีความสุข”
“ฉันไม่ได้เครียดแค่เรื่องงาน”
“เอ๊า แล้วมันเรื่องอะไรอีก”
“นายเอาน้องมาฝึกงานโดยไม่ปรึกษาฉัน เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง”
ฟ้าต่อว่าดินแล้วเดินหนี
“อะไรอีกเนี่ย แม่คุณเอ๊ย”
ดินรีบเดินตามฟ้า
“จะไปไหน เดี๋ยวก่อน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน คุณฟ้า”
คุณสดใส น้ำฝน จอห์นเดินออกมาได้ยินเสียงดินจึงชะงัก เข้าไปแอบดู เห็นดินคว้ามือฟ้าเอาไว้
“คุณฟ้า”
“ว้าย ปล่อยนะ อย่ามาจับมือถือแขน”
ดินรีบปล่อย
“ขอโทษ”
คุณสดใสมองอย่างสงสัย
“เป็นแฟนกัน ทำไมไม่ยอมให้จับมือถือแขน”
“พี่ฟ้าอาจจะยังหวงเนื้อหวงตัวอยู่บ้างก็ได้นะคะคุณแม่”
“พี่ฟ้ายังไม่เคยมีแฟน พอมีแล้วก็อาจจะตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก”
คุณสดใสยังรู้สึกพิลึกๆ อยู่ ทั้งสามคนแอบมองต่อไป
“ผมขอโทษ ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ แต่ผมเห็นว่าคนที่ตัดสินใจคือบอสไม่ใช่เหรอ”
“แต่ฉันเป็นแฟนนายไม่ใช่เหรอ ก็ควรจะรับรู้ด้วยว่านายคิดจะทำอะไร”
“แต่คนเป็นแฟนไม่ได้จำเป็นต้องมารับรู้เรื่องของแฟนซะทุกเรื่องหรอกนะ”
“เอาใหม่ ไม่ใช่แค่แฟน แต่ฉันกำลังจะแต่งงานกับนาย ฉันต้องรู้ทุกเรื่อง”
“เอาใหม่ ต่อให้แต่งงานกันแล้วนานเป็นสิบปี ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ซะทุกเรื่อง แต่ละคนควรจะมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างสิคุณ”
“แล้วจะแต่งงานกันไปทำไม ถ้าอยากมีพื้นที่ส่วนตัว อยู่เป็นโสดไปสิ”
“แล้วเราแต่งงานกันจริงๆ หรือเปล่าล่ะ”
ประโยคนี้ทำให้คุณสดใสรู้สึกแปร่งๆหู
“สองคนนี่มันยังไงกัน พูดเรื่องแต่งงานจริง ไม่จริง เอ๊ะยังไง”
ฟ้านึกเคืองจึงหงุดหงิดหนักเข้าไปอีก
“เออ ใช่! เราไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ นายไม่จำเป็นต้องมาแคร์ฉันก็ได้”
คุณสดใสทนไม่ไหว เดินออกไปทันที แต่ยังแกล้งทำเป็นป่วย ไอกระเสาะกระแสะ
“ค่อกๆๆ...อะไรกันลูก ใครแต่งงานกันไม่จริง”
ฟ้ากับดินหันมามองคุณสดใสอย่างตกใจ
“คุณแม่”
ทั้งหมดเข้ามาในบ้าน ดินโอบฟ้ากระชับต่อหน้าคุณสดใส น้ำฝนและจอห์น เพื่อแก้ตัว ฟ้ายิ้มหวานเพื่อปกปิดพิรุธ
“ฟ้าเขางอนผมนะครับ ก็เลยพูดอะไรออกไปไม่คิด”
“ใช่ค่ะ ฟ้าก็แค่คิดน้อยไปนิด ไม่ใช่ไม่คิดเลยนะคะที่รัก”
“ครับ คิดน้อยไปนิด ทีหลังก็หัดคิดเยอะๆ ก่อนพูดนะครับที่รัก”
“ตกลง รักกันแน่นะ ค่อกๆ”
“ค่ะ /ครับ” ฟ้ากับดินตอบรับพร้อมกัน
“แค่ทะเลาะกันแน่นะ แค่กๆๆ”
“ค่ะ /ครับ”
“ก็เหมือนฝนกับจอห์นไงคะคุณแม่ ลิ้นกับฟัน พบกันเมื่อไรก็เรื่องใหญ่”
“น้ำกับไฟ ไม่เจอกันได้ยิ่งดี”
“ถ้าไกลกันบ้างก็ดี”
“ใช่ครับ” ดินเห็นด้วยแล้วชี้ไปที่ฟ้าและวกกลับมาชี้ตัวเอง “หมากับแมว พอเจอกันก็สู้กันทุกทีครับ”
“ว่าฉันเป็นหมาเหรอคะที่รัก ฮึ่ม....”
“เห็นมั้ยครับ กัดเก๊งเก่ง ผมล่ะยอมแพ้ ขอเป็นแค่แมวเชื่อง เมี้ยว”
ฟ้ากับดินหัวเราะผสมโรงกัน คุณสดใสยังมองสองคนไม่ไว้ใจ แต่ทำเป็นไม่ติดใจอะไร
“ไปๆ ทานข้าวกันเถอะ แม่หิวแล้วล่ะ”
คุณสดใสลุกเดิน น้ำฝนกับจอห์นประคองกันไป ฟ้ากับดินถอนหายใจโล่งใจ รีบผละออกจากกันอย่างอัตโนมัติ
อ่านต่อหน้า 2
เส้นตายสลายโสด
ตอนที่ 5 (ต่อ)
วันต่อมาที่ร้านเวดดิ้งรักนิรันดร์ ธีรเทพยืนควงหุ่นเจ้าสาวมองไปที่ฟ้า ซึ่งกำลังชี้จุดให้บีบี ต้น กอหญ้า ดูเพื่อวางสิ่งต่างๆ ที่จะใช้ในงานแถลงข่าว
“สวย...เก่ง...ฉลาด...” ดินเข้ามาขัดจังหวะเพ้อของธีรเทพ
“แต่เผด็จการสุดๆ”
“เฮ้ย...สมัยนี้ผู้ชายยอมให้ผู้หญิงเป็นใหญ่ทั้งนั้นแหละ” ธีรเทพแย้ง
“จะยืนเพ้ออีกนานมั้ย คุณฟ้าเชิญคุณลูกค้าไปคุยสรุปงานที่จะจัดพรุ่งนี้ครับ”
“เดี๋ยวก่อน”
“อะไรของแกวะ”
“ต้องดึงเวลาให้รอนิดนึง ผู้หญิงจะได้รู้สึกว่าฉันมีค่า”
“ตามใจ”
ดินเดินออกไป ธีรเทพหันไปเพ้อใส่หุ่นเจ้าสาว
“รอหน่อยนะครับ เจ้าสาวของผม คริคริ”
ฟ้า ดิน บีบี ต้น กอหญ้า ยืนรอธีรเทพอยู่ พอธีรเทพเดินหล่อเข้ามา ฟ้าก็เหวี่ยงใส่แบบสุภาพทันที
“คิดว่าจะให้รอถึงพรุ่งนี้ซะอีกค่ะ!”
“อุย...”
ดินแอบขำเพื่อน ธีรเทพพยายามเก๊กหล่อใส่เพื่อแก้ตัว
“เอ่อ คือยังงี้นะครับ ผม...”
“ให้ฟ้าสรุปงานให้ฟังเลยนะคะ ไม่ชอบอะไรก็ว่ามา จะได้ปรับแก้ หรือถ้าชอบก็จบจะได้ไปทำงานต่อ ตามนี้นะคะ”
“ครับ ตามนี้”
ฟ้าเดินนำต้นและกอหญ้าไปทางมุมหนึ่ง ต้นพยายามเดินห่างกอหญ้ามาก ขณะที่ธีรเทพยังยืนเหวอๆ
“ตามไปสิคุณ ยืนบื้ออยู่ได้” บีบีบอก
“นี่ฉันเป็นลูกค้านะ พูดให้มันดีๆหน่อย”
ดินผลักหลังธีรเทพไปเลย
“ไป”
ธีรเทพหน้าคว่ำ รีบเดินตามฟ้าไป
ทั้งหมดเดินมาอีกมุมของร้านเวดดิ้งรักนิรันดร์ ฟ้าชี้ที่มุมหนึ่ง
“ฉันจะวางป้ายชื่องานแถลงข่าวกิจกรรมของคุณไว้ตรงนั้น”
“ตกลงชื่อกิจกรรมของผมชื่ออะไรครับคุณฟ้า”
“ชื่อโครงการ “คู่แท้อยู่แค่เอื้อม”ไงครับ แจ้งให้ทราบแล้วนี่” ดินตอบแทน
“หรือไม่โอเคคะ” ฟ้าย้อนถาม
“ไม่เคยไม่โอเคครับ”
“โจรน้ำส้ม จดเด่ะ เดี๋ยวก็ลืมหรอกว่าจะตั้งอะไรไว้ตรงไหน”
ต้นหันไปบอกกอหญ้า กอหญ้ากำลังจะจดถึงกับเซ็ง
“แล้วเห็นฉันกำลังเคี้ยวหญ้าอยู่หรือไง นายหื่น”
ต้นถอยหนีทันที
“แล้วคู่รักคู่แท้ที่เป็นดาราที่ผมอยากได้มาคุยและเป็นแบบถ่ายชุดแต่งงานของผมในวันงานล่ะครับ”
“ฮันนี่ไม่ได้แจ้งคุณเหรอคะว่าเป็นพี่ไก่กับพี่ก้อย รับรองค่ะว่าเป็นที่สนใจของนักข่าวแน่ เพราะดาราสองคนนี้กำลังจะแต่งงานกัน”
“แค่อยากได้ยินจากปากของคุณฟ้าครับ แล้วเรื่องที่ผมอยากให้คุณฟ้าเป็นพิธีกรคู่กับผมล่ะครับ”
ฟ้าชะงักแล้วเดินไปเลย ไม่ตอบคำถาม ต้นและกอหญ้ารีบตามไป ดินกระซิบกับธีรเทพ
“แปลว่า...ยังไม่ได้คิด”
ดินเดินออกไป บีบีเข้ามากระซิบธีรเทพ
“แปลว่า...ควรจะเลิกคิด”
บีบีเดินออกไป ธีรเทพถึงกับเซ็ง
“แปลว่า...ต้องสู้ต่อไป”
ธีรเทพรีบตามฟ้าไป
คืนนั้นเมื่อเคลียร์งานเสร็จบีบีเก็บของเตรียมกลับบ้านในขณะที่ ฟ้ายังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ
“ฟ้ากลับหรือยัง” บีบีเข้ามาถาม
“ยัง ขอเช็กทุกอย่างก่อนว่างานพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรพลาด”
“เช็กรอบที่ร้อยแล้วนะ ตามใจ ฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปที่งานก่อนแก”
“บาย กลับดีๆ ล่ะ”
“แกก็เหมือนกัน เหลือคนเดียวในออฟฟิศแล้วนะ คนอื่นกลับไปหมดแล้ว”
บีบีเดินออกไป ฟ้ารู้สึกเมื่อยขบ เงยหน้ามองออกไป เห็นตัวเองอยู่คนเดียวในออฟฟิศ ฟ้ารู้สึกเหนื่อย ตัดสินใจวางมือ เก็บของกลับบ้าน
ฟ้าเดินมาที่รถ เปิดประตูรถ เอาของเหวี่ยงใส่เข้าไป แล้วขึ้นรถสตาร์ทเครื่อง ขับออกไป ขณะนั้น
ดินอยู่บนมอเตอร์ไซค์ที่ปิดไฟหน้าและจอดดับเครื่องเอาไว้ ตัดสินใจสตาร์ทเครื่อง...กอหญ้าที่นั่งหลับพิงหลังดินอยู่ สะลึมสะลือตื่น
“กลับได้สักทีแล้วใช่มั้ยพี่”
“อืม...”
“เฮ้อ...อย่างนี้ไม่เรียกว่าแอบชอบเขาแล้วเรียกว่าอะไร มารอส่งเขาขึ้นรถกลับบ้านเนี่ย”
“อย่าแก่แดด พี่แค่รอเวลาให้หายรถติด ไม่เกี่ยวกับใคร”
“เอาเหอะๆ ง่วงจะตายอยู่แล้ว ไปสักที”
ดินใส่หมวกกันน็อก แล้วยื่นหมวกกันน็อกให้กอหญ้าก่อนจะเร่งเครื่องออกไป
วันต่อมาในงานแถลงข่าวกิจกรรม “คู่แท้อยู่แค่เอื้อม” ของร้านเวดดิ้งรักนิรันดร์...ที่โต๊ะลงทะเบียนนักข่าวและผู้คนเริ่มทะยอยมาลงทะเบียน ฟ้ายืนดูบรรยากาศอย่างมั่นใจว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุม
“บีบีทุกอย่างโอเคมั้ย”
“โอเค เพอร์เฟ็กต์”
“เยี่ยม”
ฟ้าหันจะเดินออกไปจากหน้างาน ธีรเทพเข้ามา ยืดๆ วางมาด
“งานเรียบร้อยดีหรือเปล่าครับคุณฟ้า”
“เพอร์เฟ็กต์ค่ะ”
“แล้วคุณฟ้าล่ะครับ...โอเคกับผมมั้ย”
“หือ”
“ก็ที่ผมขอให้เราเป็นพิธีกรคู่กันไงครับ โอเคมั้ย หรืออยากจะให้ผมเป็นมากกว่านั้น”
“ฟ้าโอเคค่ะในฐานะที่คุณเป็นลูกค้า ถ้ามากกว่านั้นไม่ได้ ฉันมีแฟนแล้ว เลิกตอแยฉันสักที”
“ก็แค่แฟนหลอกๆ อย่าบอกใครไม่ใช่เหรอ”
ดินเดินสะพายกล้องผ่านไป ฟ้าเหลือบไปเห็นพอดี
“นายดิน”
ฟ้าลากดินมาคุยกันเป็นการส่วนตัวที่มุมลับตาคน
“นายบอกความลับเรื่องที่เราเป็นแฟนกันหลอกๆ กับนายธีรเทพทำไม”
“เฮ้อ...เก็บความลับไม่เคยอยู่เลย ไอ้ธี เซ็ง” ดินบ่น
“เซ็งอะไร เซ็งใคร คนที่ควรจะเซ็งคือฉัน แค่นี้ชีวิตฉันก็วุ่นวายไม่รู้จะยังไงแล้ว จะโพนทะนาบอกเรื่องนี้ไปทำไม มีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย”
“น้องสาวผม”
“ต่อไปก็เป็นยามสมปอง แม่บ้านแวว คนขายส้มตำ แถลงข่าวมันไปทั่วประเทศเลยมั้ย” ฟ้าใส่เป็นชุดแล้วหยุดหายใจ “เหนื่อย”
“ผมก็เหนื่อย ที่ต้องมาตกกระไดพลอยโจนกับคุณไปด้วย อย่าคิดว่ามีแต่ตัวเองที่เหนื่อยเป็น”
ดินเดินหนี ฟ้าตามไปเอาเรื่อง
“อย่าเดินหนีฉัน ฉันยังพูดไม่จบ”
“ทำไมคุณมันน่ารำคาญอย่างนี้นะ”
ฟ้าตีแขนดินดังเพียะ ดินสะดุ้ง
“กล้าว่าฉันเหรอ นายนั่นแหละที่ทำตัวน่ารำคาญ”
“จะเอาไง อยากให้ผมทำอะไร สั่งมาเลยจะได้จบๆ”
“ไม่มีสมองคิดเองหรือไง คิดสิคิด ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ฉันเหนื่อยและโกรธ เพราะฉันเบื่อที่ต้องมาทะเลาะกับนาย”
“ได้ ต่อไปนี้ผมจะรูดซิปปาก ไม่คุย ไม่พูด และเราไม่ต้องมาอยู่ใกล้กัน เพราะผมก็เบื่อ”
“ดี อยู่ให้ห่างๆ ฉันเลยนะ”
ดินจ้องตาฟ้า ดินแอบน้อยใจ ฟ้าสะบัดใส่ หันมาทางหนึ่ง เจอคุณสดใสยืนอยู่พอดี
“แม่”
ฟ้าอุทานอย่างตกใจย คุณสดใสจ้องฟ้ากับดินอย่างจับผิด
“ทะเลาะอะไรกันเหรอลูก”
ฟ้าเปลี่ยนอารมณ์ทันที
“อุ๊ย ไม่ได้ทะเลาะกันค่า เนอะ ที่รักเนอะ”
ฟ้าเข้าไปกอดเอวดินทันที ดินจะขยับออก ฟ้าแอบหยิกเอวดิน
“โอ๊วว ไม่ได้ทะเลาะกันครับ เนอะ ที่รักเนอะ”
ดินจงใจโอบฟ้าเข้ามาแนบชิดอย่างแรง จนฟ้าเซ ฟ้าแอบฟึดฟัดใส่ดิน คุณสดใสลอบมองฟ้ากับดินอย่างสังเกต ฟ้ากับดินปั้นยิ้มให้คุณสดใส
คุณสดใสพาฟ้ามาเจอน้ำฝันกับจอห์นที่ยืนรออยู่
“น้ำฝนเขาอยากพาแม่มาเปิดหูเปิดตาบ้าง ดีกว่านอนซมอยู่กับบ้าน แม่เลยชวนน้องมาหาติ่มซำกินแถวนี้ อิ๊มอิ่ม อร๊อยอร่อย”
“แต่แถวนี้ไม่มีร้านติ่มซำเลยนี่คะ”
“อ้าวเหรอ เอ๊ะ...โอ๊ะ...”
น้ำฝนรีบแก้สถานการณ์
“ฝนเห็นโฆษณาร้านรักนิรันดร์ ชุดสวยดี ฝนเลยชวนคุณแม่มาดูชุดเจ้าสาวเตรียมเอาไว้ให้พี่ฟ้าและก็ของฝนเองด้วยค่ะ”
“ใช่ครับ ถึงเวลาจะได้ไม่ฉุกละหุกไงครับ”
คุณสดใสตีหน้าเศร้า
“ดูซิ นี่แม่เริ่มความจำเลอะเลือนแล้วเหรอเนี่ย หรือว่ามะเร็งมันจะลุกลามไปถึงสมองแล้ว”
“แม่ ไม่เอา อย่าคิดมาก แม่ต้องคิดบวกสิ จะได้แข็งแรง หนูเคยอ่านหนังสือนะ มะเร็งหายได้ถ้าใจสู้”
“จ๊ะ แม่จะสู้ สู้เพื่อวันที่แม่จะเห็นลูกในชุดเจ้าสาว วันนั้นลูกของแม่จะต้องสวยที่สุดในชีวิต”
น้ำฝนและจอห์นรีบเบือนหน้าหนี เหมือนจะสะเทือนใจ แต่แอบถอนหายใจกับแอ็กติ้งของแม่...บีบีวิ่งเข้ามาหาฟ้า
“อยู่นี่เองฟ้า นายธีรเทพตามหาแกอยู่น่ะ อุ๊ย วันนี้มีนัดรวมญาติด้วย สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ จ๊ะ...ไปทำงานเถอะลูกไม่ต้องห่วงแม่ เดี๋ยวแม่จะขอดูชุดเจ้าสาวให้ลูกๆ”
คุณสดใส น้ำฝน จอห์นนั่งลงที่เก้าอี้รอชมงานบนเวที
“คุณแม่แน่ใจเหรอคะว่าพี่ฟ้ากับคุณดินไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ”
“ฉันอายุเท่าไหร่”
“ดูเผินๆ คิดว่ายี่สิบครับ”
“บ้า...แต่ถูกใจ แม่อยู่มาจนป่านนี้ เห็นอะไรมาก็เยอะ ได้ยินฮันนี่พูดก็เยอะ แม่มั่นใจว่าสองคนนั่นมีอะไรผิดปกติ”
“คุณแม่อ่ะคิดมาก ไม่มีอะไรในกอไผ่หรอกค่ะ เสียเวลาเปล่า”
“ไม่เชื่อฉัน เดี๋ยวคอยดู มันต้องมีพิรุธอะไรสักอย่างให้ฉันจับได้”
คุณสดใส น้ำฝน จอห์น ช่วยกันสอดส่ายสายตามองหาดินและฟ้า
อีกด้านหนึ่งของงงานฮันนี่ มิ้นท์ดูรอบๆ เห็นนักข่าว และผู้ชมสนใจงานบนเวทีด้วยความเซ็ง
“ท่าทางยัยน้ำเน่ามันจะได้หน้าไปอีกแล้วนะคะคุณฮันนี่ ดูสิ งานเริ่ดเชียว”
“จะพูดทำไม” มิ้นท์จ๋อย ฮันนี่จ้องไปที่ฟ้าที่กำลังควบคุมงานที่อยู่คอนโทรลด้วยความริษยา “เตรียมโดนฉันเหยียบ กระทืบจนจมดินได้แล้ว ยัยน้ำเน่า”
“คุณฮันนี่มีแผนอะไรเลวๆ อีกแล้วใช่มั้ยคะ”
“แผนดีๆ จะทำให้ยัยน้ำเน่านั่นพินาศย่อยยับได้หรือไง ถามไม่คิด”
มิ้นท์จ๋อย ฮันนี่หยิบมือถือขึ้นมา
“ฮัลโหล...” ฮันนี้แกล้งทำเสียงเศร้า
“พี่ไก่เหรอคะ ฮันนี่เองคะ คืออย่างนี้ค่ะพี่ ฮันนี่เห็นว่าเราสนิทกันเลยต้องจะแจ้งให้พี่ทราบ ฮันนี่ยอมทำผิดกฎของบริษัทเลยค่ะ แต่ไม่อยากให้คุณพี่เสีย ก็ทางลูกค้าน่ะสิคะ เตี๊ยมกับนักข่าวให้ขุดคุ้ยเรื่องที่คุณพี่เคยไปศัลยกรรมหน้าที่เกาหลีมา...นั่นสิคะ ไม่เกี่ยวกับงานเลยนะคะ”
มิ้นท์ทึ่งที่ฮันนี่ใส่ไฟให้พี่ไก่ฟัง
“เลวสุดขอบโลกอ่ะ”
ขณะนั้นธีรเทพยืนถือสคริปต์ด้วยท่าทางตื่นเต้นโดยมีสตาฟคอยประกบอยู่
“ยังไม่หายตื่นเต้นอีกเหรอวะ ไหวป่ะเนี่ย”
ดินเดินเข้ามาถาม
“ฉันตื่นเต้นที่จะได้เป็นพิธีกรคู่กับคุณฟ้าต่างหากล่ะเว้ย”
“เชิญพิธีกรผู้หญิงมาสแตนบายเลยครับ จะได้ซ้อมบท”
สตาฟพูดใส่อินเตอร์คอม ฟ้าเข้ามากับบีบี บีบีเปลี่ยนชุดสวยพร้อมขึ้นเวทีเป็นพิธีกร
“บีบีจะเป็นพิธีกรคู่กับคุณธีรเทพค่ะ” ฟ้าบอก
“หา?”
“คงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยคะ”
“ทำไมอ่ะครับ เหตุผลครับ ผมต้องการเหตุผล”
“แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดของฟ้าเหรอคะ”
“เห็นสิครับ แต่....จะไหวเร้อ”
“ฉันเป็นอดีตพิธีกรหญิงมือหนึ่งของงานอีเว้นต์เลยนะ” บีบีบอก
“คุณฟ้าน่าจะบอกก่อนว่าส่งยัยนี่มาเป็น ผมจะได้...”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าไม่โอเคเหรอคะคุณธีรเทพ”
“โอเคที่สุดครับ”
บอสหน้าตื่นเข้ามา
“มีปัญหาแล้ว ปัญหาใหญ่ โคตรใหญ่เลย” ทุกคนตกใจ “คู่รักดาราพี่ไก่พี่ก้อยที่เราติดต่อให้มาคุยในงาน โทรมายกเลิกงานกับผมเมื่อกี้”
ทุกคนตกใจ
“ยกเลิกได้ไง เราเสียหายนะ ให้ข่าวไปแล้วว่าเขาจะมา นักข่าวด่าเราตายเลยนะบอส”
“เขายกเลิกกะทันหันแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาต้องมีเหตุผลจำเป็นมากๆ”
“เหตุผลอะไรที่จำเป็นมากขนาดต้องเบี้ยวงานฉันวะ ตายๆๆ”
“มันเกิดอะไรขึ้น ฮันนี่เป็นคนติดต่อนี่ รู้เรื่องนี้หรือยัง”
ฮันนี่เดินเข้ามา
“รู้แล้ว พี่ไก่ พี่ก้อย เป็นคนโทรมาบอกฉันเองเรื่องขอยกเลิกงาน แต่เรื่องใหญ่ขนาดนี้ฉันขอให้คุยกับบอสเอง”
“ฉันต้องการเหตุผล”
“เขาให้เหตุผลว่า กลัวนักข่าวจะถามเรื่องส่วนตัวมากเกินไป”
“เอ๊า มันก็เรื่องปกติ ทำไมเพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้ ทำไมไม่คิดตั้งแต่ก่อนรับงาน”
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะคุณฟ้า”
“ทำไงดี” ธีรเทพตะคอกใส่บีบี “คิดสิคิด”
“จะคิดออกได้ไง มีคนสติแตกมาตะคอกใส่เนี่ย”
“เราต้องหาคู่รักที่ไม่น่าจะรักกันได้แต่สุดท้ายกลายเป็นคู่แท้ และเป็นที่รู้จักของสื่อ”
ดินบอก ฟ้าหันมองดินอย่างหมั่นไส้
“ก็ใช่น่ะสิยะ ถ้าเป็นคนธรรมดา ใครจะมาสนใจ พูดทำไมเนี่ย”
“ผมไม่ได้พูดกับคุณ”
“เอ๊ะ”
“แล้วถ้าเป็นคู่ที่ไม่ได้มีชื่อเสียง แต่ไม่น่าจะรักกันได้มากๆ ของจริงล่ะบอส สนใจมั้ย”
“เออ... เอามาเหอะ ขอให้เป็นคนที่ไม่น่าจะรักกันได้จริงๆ เป็นใช้ได้ จะได้โปรโมตเรื่องการจัดหาคู่ คู่ไหนล่ะ แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน”
ฮันนี่จ้องฟ้ากับดิน
“มองอะไร” ฟ้ากับดินถามออกมาพร้อมกัน
“คู่น้ำฟ้ากับดินไงคะบอส”
ฮันนี่บอก ฟ้าเดินหนีออกมาทันที
“ไม่มีทาง”
“มันจะไม่ทันแล้วนะ” บีบีตามตื้อ
“เห็นนักข่าวมั้ย”
“เห็น เพียบเลย”
“ยังไม่เก็ตอีกเหรอ ถ้าฉันขึ้นไปคุยกับนายนั่นในฐานะคู่รัก มันก็ต้องเป็นข่าว ฉันไม่อยากเปิดเผยให้คนทั้งประเทศรู้ว่าฉันกับนายนั่นเป็นแฟนกัน”
“ทำไมจะเปิดเผยไม่ได้”
“ระหว่างฉันกับนายนั่น...ฟ้ากับดินชัดๆ” ดินเข้ามาได้ยินพอดี ดินชะงัก รู้สึกวูบในใจ “คนอย่างฉันมีแฟนเป็นนายนั่นเหรอ ไม่เอาหรอก ขออยู่ในมุมมืดแบบนี้ไปจนกว่าเรื่องมันจะจบ ฉันไม่อยากให้ใครมารับรู้เรื่องของฉันอีก บอกตรงๆ ฉัน...”
“อายมากใช่มั้ย” ดินถามขัดขึ้น ฟ้าและบีบีถึงกับสะดุ้ง “คนที่ควรจะอายน่าจะเป็นผมมากกว่านะ ที่ต้องมาเป็นแฟนผู้หญิงอย่างคุณ ถ้าคนทั้งประเทศรู้ คงสมเพชผมน่าดู บีบี ที่ออฟฟิศมีปี๊บป่ะ”
“จะเอามาทำไม”
“เอาไว้คลุมหัวเวลาจะเดินไปไหน เพราะอาย”
“แรงอ่ะ”
“นายกล้าดียังไงมาใช้คำว่าสมเพชกับฉัน”
“อย่าลืมนะว่าคุณเป็นคนเริ่มทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอย่าโยนความรับผิดชอบมาที่ผมคนเดียว”
ดินเดินหนีไป ฟ้าเจ็บใจ
“นายจะไปไหน”
“กลับ”
ดินเดินออกไป บอส ฮันนี่ มิ้นท์เข้ามา
“เอาไงฟ้า แขกกับนักข่าวโวยแล้วนะ ดินไปไหน”
“กลับไปแล้วอ่ะค่ะ”
“ทำใจเถอะค่ะบอส ก็แค่งานไม่เพอร์เฟ็กต์ ก็แค่ถูกลูกค้าปรับ ก็แค่ถูกนักข่าวเขียนข่าวประจาน” ฮันนี่บอก
“โอยเครียดด” ฟ้าลังเล
อีกมุมหนึ่งของงงานกอหญ้าดูดน้ำส้มที่เป็นของรับรองนักข่าวและแขกดังโฮก จนต้นสะดุ้ง
“ดูดเบาๆ ไม่เป็นหรือไง”
“เครียดอ่ะ นี่ มันมีเรื่องให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้บ่อยป่ะ”
“ทุกงาน” กอหญ้าดูดน้ำส้มดังโฮกอีก “เฮ้ย! บอกให้เบาๆ” แต่กอหญ้าไม่สนใจ ไม่รับรู้ ต้นถึงกับเซ็ง “ไปเช็กมุมถ่ายรูปชุดแต่งงานกันเหอะ ถ้ามีอะไรพลาดอีก โดนเจ๊ฆ่าตายหมู่แน่”
ต้นออกไป กอหญ้ารีบตามไป ฮันนี่และมิ้นท์เดินเข้ามาหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม ฮันนี่สบายใจมาก
“ให้สองคนนั่นขึ้นเวทีคุยต่อหน้านักข่าวแบบนั้น มันก็ยิ่งดัง ยิ่งได้หน้าอีกน่ะสิคะคุณฮันนี่”
“เบื่อพวกมีสมองไว้คั่นหูซะจริงๆ ยิ่งอยู่ต่อหน้านักข่าวแบบนั้นสิดี ฉันจะได้ขยี้ให้ชีวิตรักของมันพังต่อหน้าสื่อและคนทั่วประเทศเลย”
“เลวได้โล่จริงๆ ค่ะ”
“หุบปากไปเลย ไม่ต้องชม”
มิ้นท์จ๋อย ฮันนี่ยิ้มสะใจ เตรียมรอรับความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น
เวลาผ่านไป...ธีรเทพและบีบีกำลังเป็นพิธีกรบนเวที
“ขออภัยที่ให้รอนานนะครับ คือ เอ่อ...เพราะว่า...”
ธีรเทพพูดต่อไม่ได้บีบีจึงช่วยพูดต่อให้
“เหมือนความรักไงล่ะคะ ยิ่งรอนาน ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าความรักนั้นช่างมีค่า คุ้มค่าสมกับที่รอคอย ใช่มั้ยคะคุณธีรเทพ”
ธีรเทพโล่งอกที่บีบีช่วยเอาไว้ได้
“ถูกต้องครับ แต่เรารอกันมานานพอแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องรออะไรอีก ข้ามช่วงเวลาที่ดาราคู่รักคู่แท้จะมาคุยกับเราในวันนี้ไปเลย”
นักข่าวมองหน้ากัน บ่นกันฮึมฮัมๆ
“ค่ะ ข้ามก็ข้าม พอดีคู่รักดาราของเราแจ้งมาว่า...ยางระเบิดค่ะ ประสบอุบัติเหตุอาการหนัก”นักข่าวและคนที่มาร่วมงานฮือฮา “ไปที่รายละเอียดของกิจกรรมการหาคู่เลยดีกว่าค่ะ”
ดินสะพายกล้องและอุปกรณ์กำลังจะเดินออกจากงาน ทันใดนั้นฟ้าก็ปราดขึ้นเวที ถือไมค์ขึ้นมาด้วย ฟ้ามองไปที่ดินแล้วพูดออกมาว่า
“ที่รักคะ”
“เฮ้ย”
ธีรเทพและบีบีร้องออกมาพร้อมกัน ดินชะงัก หันมา ฟ้าชี้ไปที่ดิน
“แฟนดิฉันค่ะ แหมเถียงกันนิดๆ หน่อย ก็งอนจะกลับบ้านเลยเหรอคะ”
ฟ้าหันไปพยักหน้าให้บีบี
“ทีมงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพูดคุยกับคู่รักคู่แท้ คนสองคนที่ไม่น่าจะรักกันได้ เลยส่งคู่รักซึ่งเป็นทีมงานของเราเองมาคุยกับเรา แหม...ใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียวณ จุดๆ นี้”
“ขอเสียงปรบมือให้กับคุณน้ำฟ้าและคุณดอกดินด้วยครับ”
ทุกคนฮือ ตบมือเปาะแปะ นักข่าวส่วนใหญ่ส่ายหัว ไม่น่าสนใจ นักข่าวบางส่วนเริ่มเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ บอส ต้น และกอหญ้าโล่งอก
“เฮ้อ...กว่าจะขึ้นมาได้ จะเล่นตัวไปเพื่อ...”
“ง้องอนกันถึงขนาดนี้ ถ้าไม่รักกันทำไม่ได้นะครับคุณแม่” จอห์นบอกคุณสดใส
“อย่าทำให้ฉันเสียสมาธิตาจอห์น ฉันกำลังจับตาสแกนหาพิรุธ เงียบๆ”
คุณสดใสพยายามสังเกตอาการของฟ้าและดิน ดินยังเก้ๆ กังๆ ทำตัวไม่ถูกเมื่อทุกคนหันมามองดินเป็นตาเดียว
“ยังจะใจแข็ง เค้าง้อแล้วไม่สนใจแบบนี้ ฟ้าควรจะทำไงดีล่ะคะ ทุกๆ คนคะ”
“ขึ้นเลยๆๆๆ”
ดินไม่ขึ้นจะเดินหนี ฟ้าทิ้งไมค์แล้ว ตะโกนเรียกสุดเสียง
“ที่รักขา”
ฟ้ากระโดดลงจากเวทีทันที ทุกคนตกใจ ฟ้าปราดมาจับมือดินแสดงละคร บีบน้ำตา
“เราสองคนรักกัน อย่าให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาทำให้เราต้องโกรธกันเลยนะ” ดินประหลาดใจ ฟ้าจะมามุขไหน ฟ้าพูดลอดฟัน หน้ายิ้ม “ขึ้นเวทีซะ จะได้คุยให้มันจบๆ”
“ผมไม่ขึ้น” ฟ้าเจ็บใจ
“แล้วต้องให้ฟ้าทำไงคะ ที่รักถึงจะยอมขึ้นไปบนเวที คุยเรื่องความรักของเราให้ทุกๆ คนฟัง ฟ้าจะยอมทำทุกๆ อย่างเลย”
“ทุกอย่างแน่นะ”
“แน่สิ”
“คุกเข่าง้อผมสิ”
“คุกเข่า”
“แหม ถ้าเป็นดิฉันนะคะ ให้ทำมากกว่านี้ดิฉันก็จะทำค่ะ” บีบีบอกอยู่บนเวที
“ความรักก็เหมือนการลงทุน เพียงแต่ไม่มีคำว่าขาดทุนมีแต่ได้กำไร”
“อะไรของนาย เลอะเทอะ ถ้าไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูด”
บีบีกระซิบกับธีรเทพ
“ถ้าไม่คุกเข่าง้อผม ผมกลับ” ดินบอกฟ้า
“เดี๋ยวๆ ๆ”
“คุกเข่าๆ ๆ”
ทุกคนส่งเสียงเชียร์ ฟ้าเจ็บใจดิน จำยอมคุกเข่า ทุกคนเฮ...นักข่าวหันมาให้ความสนใจทันที ต่างก็ตั้งกล้องใหม่ และบ้างก็เริ่มเข้ามาเก็บภาพ
“แล้วพูดตามผม ที่รักขา...ยกโทษให้ฟ้านะคะ เรื่องทั้งหมดฟ้าเป็นคนผิดเอง” ฟ้าอึ้ง ไม่พอใจที่ดินให้ฟ้ายอมรับว่าผิด “ไม่พูดผมกลับ”
“ฉันเป็นคนผิดเองค่ะ”
ทุกคนเฮ ฟ้าเจ็บใจดินมาก แต่ดินยิ้มสะใจ ฟ้ารีบลุกขึ้น
“จะขึ้นเวทีกันได้หรือยังคะ ที่รัก”
“ยังงี้ต้องหอมโชว์ด้วยครับ จะได้แสดงว่าหายโกรธแล้วจริงๆ”
จอห์นลุกขึ้นบอก ทุกคนเฮ
“ไอ้จอห์น... ไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้น”
ฟ้าหมดความอดทนเดินหนี แต่ดินคว้าตัวฟ้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ ทุกคนตกใจ
“เฮ้ย”
ธีรเทพกับบีบีร้องพร้อมกัน...ฟ้าตกใจลืมตัวตบหน้าดินฉาดใหญ่
“อ๊ะ...ตบยังงี้ก็ต้องจูบ”
ดินคว้าตัวฟ้ามาจูบแก้มอีก ทุกคนเฮ
“อีกแล้วเหรอ”
ฟ้าตบอีก ดินจูบ
“ตบ ผมจูบ”
ฟ้าจะตบ..แต่ยั้งไว้
“ตบอีกๆๆ”
ฟ้าไม่กล้าตบ อยากจะกรี๊ด แต่กรี๊ดไม่ได้
“ซูมๆ เอาอารมณ์ชัดๆ”
นักข่าวสั่งตากล้องให้จับภาพไปที่ฟ้ากับดิน ฟ้าทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งโกรธ แต่แกล้งยิ้มสดชื่น
“แล้วหายโกรธหรือยังคะที่รัก แก้มเค้าช้ำไปหมดแล้วเนี่ย”
“หายตั้งแต่จูบแรกแล้วล่ะที่รัก เราไปกันเถอะ”
ดินประคองฟ้าขึ้นเวที ฟ้าแกล้งกระทืบเท้าดิน ดินสะดุ้งเฮือก แต่ต้องเก็บความรู้สึก จอห์นพูดกับคุณสดใส
“ไม่รักกันจริง ทำไม่ได้นะครับคุณแม่ ใช่มั้ยน้ำฝน เหมือนเราสองคนไง”
จอห์นคว้าน้ำฝนมาหอมแก้ม
“จอห์นอ่ะ”
“เกรงใจกันหน่อยนะ แค่นี้ยังทำให้ฉันเชื่อไม่ได้หรอก มันต้องดูกันยาวๆ”
ฮันนี่มองดินกับฟ้า ที่กำลังเดินขึ้นเวที
“ได้เวลาที่แกจะโดนฉันเหยียบแล้ว ยัยน้ำเน่า”
ฟ้าและดินนั่งที่เก้าอี้เรียบร้อย บีบีนั่งประกบฟ้า ธีรเทพนั่งประกบดิน
“มาที่คำถามแรกเลยนะครับ จากข้อมูล คุณสองคนต่างกันมาก ...ราวฟ้ากับดิน”
“ไม่ต้องย้ำ”
“ครับ...ต่างกันเหมือนสวรรค์กับนรก แต่ก็มาพบรักกันได้ อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนสารภาพความรักก่อนครับ”
“เขา / เขา”
ฟ้าและดินพูดออกมาพร้อมกัน ทุกคนอึ้ง ที่ฟ้ากับดินตอบไม่เหมือนกัน คุณสดใส เม้าท์กับน้ำฝนและจอห์น
“เอาแล้วไง นั่นไง ความผิดปกติเริ่มตั้งเค้าแล้ว เชื่อจมูกแม่ว่ามันมีกลิ่นตุๆ”
“เอ่อ ตกลงกันให้ดีก่อนจะตอบก็ได้นะคะ ไม่รีบ สรุปว่าใครสารภาพก่อนคะ” บีบีแก้สถานการณ์ให้
“ฉัน/ผม”
ฟ้าและดินพูดพร้อมกันอีก ทุกคนฮือ...ฟ้าและดินเริ่มอึดอัด
“คือ...ลืมกันไปแล้วน่ะค่ะ พอดีช่วงนี้งานเยอะ สมองมันเลยเบลอ จำอะไรไม่ค่อยได้ ใช่มั้ยที่รัก”
“นั่นสิครับ จะเธอ ฉัน ฉัน เธอ แต่มันก็คือเรา”
“แหวะ...เน่าได้อีก”
ฟ้าแอบแหวะ
“มาที่คำถามต่อไปเลยดีกว่า ก่อนจะเลี่ยน” บีบีหยิกธีรเทพที่พูดจาไม่ดี “ไม่ทราบว่า...”
“รู้มาว่าคุณฟ้ากับคุณดินรู้จักกันแค่ไม่กี่วันก็รักกันแล้วเหรอคะ มันจะติดจรวดเกินไปหน่อยมั้ย”
ฮันนี่ถามแทรกขึ้นมา ฟ้าตกใจที่จู่ๆ ฮันนี่ก็โผล่ขึ้นมาถาม
“เอ่อ คือ....”
ดินรีบชิงตอบ
“รักแท้ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยระยะเวลา เข้าใจคำว่ารักแรกพบหรือเปล่าครับ”
ทุกคนฮือเห็นด้วย ฟ้ามองหน้าดิน ดินสบตาฟ้าด้วยความรู้สึกจริงๆ ในหัวใจ ฟ้ารู้สึกวูบหวั่น
“ฮันนี่ มันไม่ใช่หน้าที่คุณถาม ให้นักข่าวถาม” บอสต่อว่าฮันนี่
“ทำไมคะ เป็นประเด็นดีออกจะได้ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ถามต่อนะคะ ทราบมาว่าคุณดินเป็นผู้ชายที่ตรงกันข้ามกับสเป็กของยัยน้ำเน่า เอ้ย น้ำฟ้าทุกอย่าง จะรักกันได้จริงเหรอคะ”
“เอ่อ คือ...” ฟ้าอึกอักตอบไม่ถูก
“ความรักไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว จนกว่าจะได้เจอกับตัวเอง ระหว่างเราความต่างนั่นแหละที่ทำให้เราสองคนเติมเต็มซึ่งกันและกัน” ดินตอบ
ทุกคนชอบใจกับคำตอบของดินพากันตบมือ จากคนสองคนกลายเป็นตบกันเซ็งแซ่ฟ้ามองดินอย่างขอบคุณ ดินยิ้มให้ฟ้าอย่างจริงใจ
“เจ๋งไปเลยพี่ดิน...มันต้องงี้สิ”
ฮันนี่เจ็บใจ ไม่ยอมแพ้ งัดไม้ตาย
“ที่คุณสองคนตกลงเป็นแฟนกันเพราะเงื่อนไขแม่คุณฟ้าที่อยากเห็นลูกสาวแต่งงานก่อนแม่จะตายด้วยโรคมะเร็งภายในหกสิบวัน จริงหรือเปล่าคะ”
ทุกคนครางฮือ หันมองหาฮันนี่ ฮันนี่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้อง นักข่าวรุมล้อมถ่ายรูปฮันนี่ทันที“เอ่อ...”
ฟ้าอึ้ง ไม่รู้จะตอบยังไง คุณสดใสตกใจ ลุ้นว่าฟ้าจะตอบยังไง
“จริงหรือเปล่าลูกฟ้า ลูกเป็นแฟนหลอกๆ กับนายดินเหรอ”
คุณสดใสลุกขึ้นถาม นักข่าวและทุกคนหันไปทางคุณสดใส
“แม่ผู้หญิง...ซูมๆๆ เอาอารมณ์ชัดๆ”
นักข่าวสั่งตากล้อง ฮันนี่สะใจที่ฟ้าพูดไม่ออก
“ว่าไงคะคุณฟ้า แม่คุณก็อยู่ตรงนี้แล้ว ตอบให้คุณแม่สบายใจหน่อยสิคะว่าแม่ไม่ได้ถูกหลอก”
ฟ้ามองหน้าคุณสดใส รู้สึกผิด ตอบคำถามไม่ออก
อ่านต่อตอนที่ 6