• อยากรู้เรื่องพลังจิต
ปุจฉา : กราบนมัสการองค์หลวงปู่ ตามที่หลวงปู่ได้เคยเมตตาสอนว่า พลังจิตนั้นสามารถเกิดขึ้นและถ่ายทอดกันได้ ถ้าได้ฝึกฝนอย่างดี และมีความสมดุลแห่งจิตนั้น ลูกขอเมตตาปุจฉาว่า
1. ความสมดุลแห่งจิตคืออะไร
2. มีกระบวนการฝึกฝนอย่างไร
3. เพศหญิงหรือชาย เป็นข้อจำกัดในการฝึกฝนหรือไม่ (เพศหญิงดูเหมือนจะมีจิตที่ฟุ้งซ่านกว่า)
4. การที่มีการทำวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นการถ่ายทอดพลังจิตของผู้ประกอบพิธีมายังวัตถุใช่หรือไม่
5. พลังจิตเป็นปัจจัยให้เราบรรลุธรรมได้เร็วขึ้นหรือไม่
วิสัชนา :
1. จิตนี้จักดำรงสมดุลได้ ด้วยความสงบ ปราศจากอารมณ์
2. เจริญสติจนถึงสมาธิ ปรากฏปัญญา (ดูรายละเอียดในหนังสือวิถีแห่งพุทธะ)
3. การฝึกจิต ไม่จำกัดเพศ หญิงหรือชาย
4. น่าจะใช่ ถ้าท่านผู้นั้นมีพลังที่เกิดจากสมดุลแห่งจิต
5. ย่อมจะแน่นอน คนผู้มีพลังจิตย่อมตั้งมั่น เข้มแข็ง ไม่ตกเป็นทาสของตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส
• ผู้นำท้อแท้
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันทำงานในระดับผู้นำขององค์กรแห่งหนึ่ง ทำมาหลายสิบปีแล้ว แต่มาระยะหลังๆ รู้สึกเหนื่อยใจมาก มันบอกไม่ถูก รู้แต่ว่ามันไม่มีความสุขเหมือนเดิม ไม่ใช่งานหนักนะคะ เพราะงานหนักแค่ไหนดิฉันก็สู้ได้ แต่หนักใจมันรู้สึกแย่มากๆค่ะ ดิฉันจึงอยากเรียนถามหลวงปู่ดังนี้
1. ไม่ทราบว่าจะใช้ธรรมะข้อใดมาปราบความรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ อ่อนแอ และพ่ายแพ้ในตนเอง และผู้นำขององค์กรมีสิทธิ์จะท้อแท้บ้างไหมคะ
2. ผู้นำที่ดีขององค์กรควรจะมีคุณสมบัติอย่างไรคะ และผู้นำควรจะใช้ธรรมะข้อใดในการนำองค์กรที่กำลังแตกแยกกัน ให้รวมกันเป็นหนึ่งให้ได้ เนื่องจากมีแต่คนเก่งแต่ไม่ยอมลงรอยกัน
3. การข่มใจด้วยขันติ กับการวางเฉย (อุเบกขา) การข่มนิวรณ์ด้วยองค์คุณแห่งฌาน (วิขัมภนปหาน) และความสงบใจ (อุปสมะ) แตกต่างกันอย่างไร ควรจะยึดหลักธรรมะข้อไหนดีกว่ากันคะ
วิสัชนา :
1. ความรัก ความศรัทธา ความเพียร สติ ความอดทน ปัญญา เหล่านี้เป็นธรรมที่ช่วยกำราบความสิ้นหวัง พ่ายแพ้ ท้อถอย อ่อนแอ ผู้นำองค์กรถ้ายังเป็นมนุษย์ ปุถุชนธรรมดา ก็ย่อมเป็นธรรมชาติอยู่เอง ที่ย่อมมีความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้
2. เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง และทำตนเองให้เป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่นได้ เข้มแข็ง ซื่อตรง มีน้ำใจ และต้องรู้จักให้อภัย
3. นั่นเพราะใจคนรับรู้อะไรจนปรุงเป็นอารมณ์ เมื่อเกิดและมีอารมณ์ จึงจำเป็นต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ที่เรียกว่า ขันติ
- อุเบกขา คือ สภาพที่ใจนี้รู้อะไร แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์ จึงไม่ทำอารมณ์ให้เกิดอะไร
- วิขัมภนปหาน คือ การข่มกิเลสด้วยอำนาจแห่งฌาน พอฌานเสื่อม กิเลสก็ปรากฏขึ้นอีก
- อุปสมะ คือ สภาพแห่งจิตที่ปราศจากกิเลส โดยมิต้องมีการข่มบังคับ เป็นวิถีแห่งพระนิพพาน
ฉันเลือกให้คุณไม่ได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะเลือกสิ่งดีที่สุดให้แก่ชีวิตคุณ และต้องถูกตรงต่อสภาวะความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณด้วย
• ทำบุญถวายอาหารเป็นปี ทดแทนการใส่บาตรได้มั้ย
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ดิฉันต้องรีบไปทำงานแต่เช้ามาก แถวบ้านก็ไม่มีพระมาบิณฑบาต จึงไม่สะดวกในการใส่บาตร ดิฉันจึงได้ไปทำบุญถวายภัตตาหาร โดยถวายเป็นมูลนิธิภัตตาหารเป็นรายปี แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลทุกวัน ดิฉันอยากทราบว่า การทำเช่นนี้จะทดแทนการใส่บาตรทุกเช้าได้หรือไม่เจ้าคะ นมัสการมาด้วยความเคารพยิ่ง
วิสัชนา : อาการทำบุญแล้วเป็นบุญ ต้องประกอบด้วยกิริยา 3 อย่าง ก่อนทำตั้งใจ ขณะที่ทำเต็มใจ ทำเสร็จแล้วสบายใจ ฉันไม่ทราบว่า คุณมีกิริยา 3 อย่างขณะที่คุณกรวดน้ำหรือเปล่า ถ้าไม่มี บุญอันนั้นดูเหมือนจะไม่สำเร็จประโยชน์เท่าที่ควร
แน่นอนละ ตอนที่คุณบริจาคทรัพย์ เพื่อจัดทำภัตตาหาร คุณอาจจะมีกิริยาสมบูรณ์ด้วยบุญครบ 3 ประการ แต่หลังจากวันนั้นแล้ว กิริยาเช่นนั้นยังอยู่กับคุณด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่...ทำร้อยอาจจะเหลือน้อยไม่เท่าเก่าก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับเจตนา
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 190 กันยายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : กราบนมัสการองค์หลวงปู่ ตามที่หลวงปู่ได้เคยเมตตาสอนว่า พลังจิตนั้นสามารถเกิดขึ้นและถ่ายทอดกันได้ ถ้าได้ฝึกฝนอย่างดี และมีความสมดุลแห่งจิตนั้น ลูกขอเมตตาปุจฉาว่า
1. ความสมดุลแห่งจิตคืออะไร
2. มีกระบวนการฝึกฝนอย่างไร
3. เพศหญิงหรือชาย เป็นข้อจำกัดในการฝึกฝนหรือไม่ (เพศหญิงดูเหมือนจะมีจิตที่ฟุ้งซ่านกว่า)
4. การที่มีการทำวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นการถ่ายทอดพลังจิตของผู้ประกอบพิธีมายังวัตถุใช่หรือไม่
5. พลังจิตเป็นปัจจัยให้เราบรรลุธรรมได้เร็วขึ้นหรือไม่
วิสัชนา :
1. จิตนี้จักดำรงสมดุลได้ ด้วยความสงบ ปราศจากอารมณ์
2. เจริญสติจนถึงสมาธิ ปรากฏปัญญา (ดูรายละเอียดในหนังสือวิถีแห่งพุทธะ)
3. การฝึกจิต ไม่จำกัดเพศ หญิงหรือชาย
4. น่าจะใช่ ถ้าท่านผู้นั้นมีพลังที่เกิดจากสมดุลแห่งจิต
5. ย่อมจะแน่นอน คนผู้มีพลังจิตย่อมตั้งมั่น เข้มแข็ง ไม่ตกเป็นทาสของตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส
• ผู้นำท้อแท้
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันทำงานในระดับผู้นำขององค์กรแห่งหนึ่ง ทำมาหลายสิบปีแล้ว แต่มาระยะหลังๆ รู้สึกเหนื่อยใจมาก มันบอกไม่ถูก รู้แต่ว่ามันไม่มีความสุขเหมือนเดิม ไม่ใช่งานหนักนะคะ เพราะงานหนักแค่ไหนดิฉันก็สู้ได้ แต่หนักใจมันรู้สึกแย่มากๆค่ะ ดิฉันจึงอยากเรียนถามหลวงปู่ดังนี้
1. ไม่ทราบว่าจะใช้ธรรมะข้อใดมาปราบความรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ อ่อนแอ และพ่ายแพ้ในตนเอง และผู้นำขององค์กรมีสิทธิ์จะท้อแท้บ้างไหมคะ
2. ผู้นำที่ดีขององค์กรควรจะมีคุณสมบัติอย่างไรคะ และผู้นำควรจะใช้ธรรมะข้อใดในการนำองค์กรที่กำลังแตกแยกกัน ให้รวมกันเป็นหนึ่งให้ได้ เนื่องจากมีแต่คนเก่งแต่ไม่ยอมลงรอยกัน
3. การข่มใจด้วยขันติ กับการวางเฉย (อุเบกขา) การข่มนิวรณ์ด้วยองค์คุณแห่งฌาน (วิขัมภนปหาน) และความสงบใจ (อุปสมะ) แตกต่างกันอย่างไร ควรจะยึดหลักธรรมะข้อไหนดีกว่ากันคะ
วิสัชนา :
1. ความรัก ความศรัทธา ความเพียร สติ ความอดทน ปัญญา เหล่านี้เป็นธรรมที่ช่วยกำราบความสิ้นหวัง พ่ายแพ้ ท้อถอย อ่อนแอ ผู้นำองค์กรถ้ายังเป็นมนุษย์ ปุถุชนธรรมดา ก็ย่อมเป็นธรรมชาติอยู่เอง ที่ย่อมมีความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้
2. เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง และทำตนเองให้เป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่นได้ เข้มแข็ง ซื่อตรง มีน้ำใจ และต้องรู้จักให้อภัย
3. นั่นเพราะใจคนรับรู้อะไรจนปรุงเป็นอารมณ์ เมื่อเกิดและมีอารมณ์ จึงจำเป็นต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ที่เรียกว่า ขันติ
- อุเบกขา คือ สภาพที่ใจนี้รู้อะไร แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์ จึงไม่ทำอารมณ์ให้เกิดอะไร
- วิขัมภนปหาน คือ การข่มกิเลสด้วยอำนาจแห่งฌาน พอฌานเสื่อม กิเลสก็ปรากฏขึ้นอีก
- อุปสมะ คือ สภาพแห่งจิตที่ปราศจากกิเลส โดยมิต้องมีการข่มบังคับ เป็นวิถีแห่งพระนิพพาน
ฉันเลือกให้คุณไม่ได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะเลือกสิ่งดีที่สุดให้แก่ชีวิตคุณ และต้องถูกตรงต่อสภาวะความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณด้วย
• ทำบุญถวายอาหารเป็นปี ทดแทนการใส่บาตรได้มั้ย
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ดิฉันต้องรีบไปทำงานแต่เช้ามาก แถวบ้านก็ไม่มีพระมาบิณฑบาต จึงไม่สะดวกในการใส่บาตร ดิฉันจึงได้ไปทำบุญถวายภัตตาหาร โดยถวายเป็นมูลนิธิภัตตาหารเป็นรายปี แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลทุกวัน ดิฉันอยากทราบว่า การทำเช่นนี้จะทดแทนการใส่บาตรทุกเช้าได้หรือไม่เจ้าคะ นมัสการมาด้วยความเคารพยิ่ง
วิสัชนา : อาการทำบุญแล้วเป็นบุญ ต้องประกอบด้วยกิริยา 3 อย่าง ก่อนทำตั้งใจ ขณะที่ทำเต็มใจ ทำเสร็จแล้วสบายใจ ฉันไม่ทราบว่า คุณมีกิริยา 3 อย่างขณะที่คุณกรวดน้ำหรือเปล่า ถ้าไม่มี บุญอันนั้นดูเหมือนจะไม่สำเร็จประโยชน์เท่าที่ควร
แน่นอนละ ตอนที่คุณบริจาคทรัพย์ เพื่อจัดทำภัตตาหาร คุณอาจจะมีกิริยาสมบูรณ์ด้วยบุญครบ 3 ประการ แต่หลังจากวันนั้นแล้ว กิริยาเช่นนั้นยังอยู่กับคุณด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่...ทำร้อยอาจจะเหลือน้อยไม่เท่าเก่าก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับเจตนา
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 190 กันยายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
