• ไม่สนใจทำบุญ
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ที่หลวงปู่เคยสอนว่า “บุญเป็นเครื่องยังให้ถึงสมบัติทั้งปวง” ดังนั้น หากบุคคลใดขยันทำมาหากิน แต่ตระหนี่ ไม่สนใจทำบุญทำทานนั้น คนนั้นจะมีสิทธิ์ถึงสมบัติและโภคทรัพย์ทั้งปวงได้หรือไม่ครับ
วิสัชนา : เขาก็จะได้แต่สมบัติในชาติปัจจุบัน แล้วก็เป็นคนที่โง่เอามากๆ บริหารทรัพย์ไม่เป็น เรียกว่า ไม่ใช้ทรัพย์ต่อทรัพย์ เผื่อไว้ในชาติต่อๆไป หรือในอนาคต
คนมีทรัพย์แล้วไม่รู้จักใช้ทรัพย์ ไม่เอาทรัพย์มาสั่งสมอบรมอริยทรัพย์ ไม่สร้างให้ทรัพย์กลายเป็นอริยะ ที่จะติดตามตัวไปในภพชาติต่อๆ ไป ก็ถือว่าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา เพราะเขาคิดว่า เขาจะมีชีวิตเสวยทรัพย์นั้นจนกระทั่งไม่รู้จักตายมั้ง
ต่างกับคนสมัยโบราณที่จะนิยมทำทาน ทำบุญบริจาค แล้วก็แบ่งปันทรัพย์ของตนให้กับผู้อื่น คนตกทุกข์ได้ยาก ช่วยเหลือสัตว์อื่น เพราะเชื่อแล้วก็ถือว่า นี่คือกระบวนการที่จะสั่งสมอริยทรัพย์ ให้ติดตามได้ทั่วตลอดกาลตลอดสมัย หรือตราบนานเท่านาน ข้ามภพข้ามชาติไปได้
• ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงปัญญาที่แท้จริง
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูงสุด ตามที่มีการสอนธรรมะให้ลุถึงปัญญา ดิฉันอยากจะขอเรียนถามดังนี้
1. ทำไมต้องปฏิบัติให้ถึงปัญญา
2. ปัญญาที่แท้จริงคืออะไร มีลักษณะอย่างไร มีกี่วิธีในการเจริญปัญญา
3. ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงปัญญาที่แท้จริง
4. ถ้าปฏิบัติจนได้ปัญญาแล้ว ทุกคนจะมีปัญญาเท่าเทียมกัน หรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร จะทราบหรือแน่ใจได้อย่างไรว่า ได้ปฏิบัติจนลุปัญญาที่แท้จริง
วิสัชนา : 1. เพราะปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก ผู้มีปัญญาย่อมชนะในทุกสิ่ง
2. ปัญญาที่แท้จริง คือ ปัญญาที่รู้ชัดตามความเป็นจริง มีลักษณะคือ
- รู้ทุกข์
- รู้เหตุเกิดทุกข์
- รู้ทางดับทุกข์
- รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
หรืออีกนัยหนึ่ง คือ รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งสรรพชีวิตในโลก เกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่และแปรปรวนในท่ามกลาง และสุดท้ายแตกสลายในที่สุด
3. วิธีเจริญสติปัญญา ก็ต้องควรฝึกสติ คือ ตัวพร้อมรู้ และทำความรู้ให้เกิดภายในตนก่อน จึงจะค่อยๆขยับไปรู้เรื่องนอกตัว
4. ไม่เสมอกัน สุดแต่วาสนาบารมีที่สะสมอบรมมา จะทราบว่าตนมีปัญญาก็ต่อเมื่อคุณสามารถพึ่งพิงอาศัยสิ่งที่คุณรู้นั้นได้ แม้ในที่สุดวาระสุดท้ายของชีวิต อีกทั้งผู้อื่นก็สามารถพึ่งพิงปัญญาคุณก็ได้ด้วย
• บ้านอยู่บนทางสามแพร่ง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ บ้านของผมตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง แต่ก่อนก็ไม่ได้อยู่บนทางสามแพร่ง แต่พอมีการตัดถนนสร้างหมู่บ้านใหม่ ก็เลยกลายเป็นว่าบ้านอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี คนส่วนใหญ่บอกว่าไม่ดี จะมีแต่สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ผมรู้สึกกลุ้มใจมาก ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร จึงจะไม่พบกับสิ่งเลวร้าย หลวงปู่ช่วยแนะนำด้วยครับ
วิสัชนา : วิธีปฏิบัติตัวให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายคือ ไม่เมา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ มีปัญญา ฉลาดที่จะแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบ แต่ถ้ายังไม่สบายใจ ก็หาต้นไม้ปลูกไว้หน้าบ้าน หรือไม่ก็เอากระจกเงาแขวนไว้หน้าบ้าน ก็ดูน่าจะดีเหมือนกัน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 185 พฤษภาคม 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ที่หลวงปู่เคยสอนว่า “บุญเป็นเครื่องยังให้ถึงสมบัติทั้งปวง” ดังนั้น หากบุคคลใดขยันทำมาหากิน แต่ตระหนี่ ไม่สนใจทำบุญทำทานนั้น คนนั้นจะมีสิทธิ์ถึงสมบัติและโภคทรัพย์ทั้งปวงได้หรือไม่ครับ
วิสัชนา : เขาก็จะได้แต่สมบัติในชาติปัจจุบัน แล้วก็เป็นคนที่โง่เอามากๆ บริหารทรัพย์ไม่เป็น เรียกว่า ไม่ใช้ทรัพย์ต่อทรัพย์ เผื่อไว้ในชาติต่อๆไป หรือในอนาคต
คนมีทรัพย์แล้วไม่รู้จักใช้ทรัพย์ ไม่เอาทรัพย์มาสั่งสมอบรมอริยทรัพย์ ไม่สร้างให้ทรัพย์กลายเป็นอริยะ ที่จะติดตามตัวไปในภพชาติต่อๆ ไป ก็ถือว่าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา เพราะเขาคิดว่า เขาจะมีชีวิตเสวยทรัพย์นั้นจนกระทั่งไม่รู้จักตายมั้ง
ต่างกับคนสมัยโบราณที่จะนิยมทำทาน ทำบุญบริจาค แล้วก็แบ่งปันทรัพย์ของตนให้กับผู้อื่น คนตกทุกข์ได้ยาก ช่วยเหลือสัตว์อื่น เพราะเชื่อแล้วก็ถือว่า นี่คือกระบวนการที่จะสั่งสมอริยทรัพย์ ให้ติดตามได้ทั่วตลอดกาลตลอดสมัย หรือตราบนานเท่านาน ข้ามภพข้ามชาติไปได้
• ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงปัญญาที่แท้จริง
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูงสุด ตามที่มีการสอนธรรมะให้ลุถึงปัญญา ดิฉันอยากจะขอเรียนถามดังนี้
1. ทำไมต้องปฏิบัติให้ถึงปัญญา
2. ปัญญาที่แท้จริงคืออะไร มีลักษณะอย่างไร มีกี่วิธีในการเจริญปัญญา
3. ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงปัญญาที่แท้จริง
4. ถ้าปฏิบัติจนได้ปัญญาแล้ว ทุกคนจะมีปัญญาเท่าเทียมกัน หรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร จะทราบหรือแน่ใจได้อย่างไรว่า ได้ปฏิบัติจนลุปัญญาที่แท้จริง
วิสัชนา : 1. เพราะปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก ผู้มีปัญญาย่อมชนะในทุกสิ่ง
2. ปัญญาที่แท้จริง คือ ปัญญาที่รู้ชัดตามความเป็นจริง มีลักษณะคือ
- รู้ทุกข์
- รู้เหตุเกิดทุกข์
- รู้ทางดับทุกข์
- รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
หรืออีกนัยหนึ่ง คือ รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งสรรพชีวิตในโลก เกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่และแปรปรวนในท่ามกลาง และสุดท้ายแตกสลายในที่สุด
3. วิธีเจริญสติปัญญา ก็ต้องควรฝึกสติ คือ ตัวพร้อมรู้ และทำความรู้ให้เกิดภายในตนก่อน จึงจะค่อยๆขยับไปรู้เรื่องนอกตัว
4. ไม่เสมอกัน สุดแต่วาสนาบารมีที่สะสมอบรมมา จะทราบว่าตนมีปัญญาก็ต่อเมื่อคุณสามารถพึ่งพิงอาศัยสิ่งที่คุณรู้นั้นได้ แม้ในที่สุดวาระสุดท้ายของชีวิต อีกทั้งผู้อื่นก็สามารถพึ่งพิงปัญญาคุณก็ได้ด้วย
• บ้านอยู่บนทางสามแพร่ง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ บ้านของผมตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง แต่ก่อนก็ไม่ได้อยู่บนทางสามแพร่ง แต่พอมีการตัดถนนสร้างหมู่บ้านใหม่ ก็เลยกลายเป็นว่าบ้านอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี คนส่วนใหญ่บอกว่าไม่ดี จะมีแต่สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ผมรู้สึกกลุ้มใจมาก ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร จึงจะไม่พบกับสิ่งเลวร้าย หลวงปู่ช่วยแนะนำด้วยครับ
วิสัชนา : วิธีปฏิบัติตัวให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายคือ ไม่เมา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ มีปัญญา ฉลาดที่จะแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบ แต่ถ้ายังไม่สบายใจ ก็หาต้นไม้ปลูกไว้หน้าบ้าน หรือไม่ก็เอากระจกเงาแขวนไว้หน้าบ้าน ก็ดูน่าจะดีเหมือนกัน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 185 พฤษภาคม 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
