• ยึดอย่างไรให้ไม่เป็นทุกข์
ปุจฉา : ขอน้อมกราบนมัสการหลวงปู่ครับ ผมอยากจะขอคำชี้แนะจากหลวงปู่ ว่า
1. การที่เรายังเป็นปุถุชนอยู่นั้น เราน่าจะยึดอย่างไรให้ไม่เป็นทุกข์มากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือคนที่เรารัก
2. ธรรมะใดที่สามารถฝึกทำให้เราพึงพาตนเองได้ทางใจ และเป็นคนที่เข้มแข็ง มีพลัง
3. การทำให้อยู่เหนือทั้งดี-ชั่ว เราควรพิจารณาสิ่งนั้น หรือไม่สนใจ ทำเฉยๆ ครับ
วิสัชนา : 1. ยึดสัตว์ บุคคล เขา เรา ไม่ได้หรอกคุณ ที่สุดไม่ได้ดังใจก็ต้องเป็นทุกข์อยู่ดี ลองหาพระธรรมที่เหมาะสมกับตนสักข้อเป็นเครื่องยึดถือ น่าจะทำให้คุณชนะทุกข์ได้
2. สติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว หรือศีล สมาธิ ปัญญา
3. ต้องมีสติปัญญา พิจารณาทุกอย่างเหมือนดั่งคนที่ยืนดูสรรพสิ่งอยู่บนยอดเขา แล้ววางตัวเป็นกลาง ด้วยคิดว่าสักแต่ว่าเห็น มิได้เป็นของเราจริงๆ หรือไม่ก็ใช้ปัญญา พิจารณาทุกอย่างที่พบเห็นด้วยความรอบคอบ ระลึกว่า ทุกสรรพสิ่งมีที่สุด เกิด โต ตาย แล้วจะไม่มีอะไรมีอำนาจเหนือคุณ
• จะทราบได้อย่างไรว่ากำลังทำบาป
ปุจฉา : ข้าพเจ้ามีคำถามที่จะรบกวนเรียนถามพระคุณเจ้าดังนี้ครับ
1. การที่เราด่า ล่วงเกิน พูดไม่ดีต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์ จะได้รับบาปกรรมมากน้อยเพียงใด
2. การที่เราดูสิ่งยั่วยวนก่อให้เกิดกิเลสตัณหา บาปไหมครับ
3. การที่เราอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ตัวเราจะได้บุญด้วยไหมครับ
4. ถ้าคนเราบวชแต่จิตใจไม่เป็นสุข คิดถึงแต่กิเลส แต่กายปฏิบัติตามหน้าที่พระสงฆ์ จะก่อให้เกิดบาปแก่ตัวเราไหม
5. เราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าเรากำลังทำบาป เมื่อมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ซับซ้อนมาก เช่น ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างก่อให้เกิดบาปได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม เพียงแต่คิดเท่านั้น จะบาปไหมครับ
วิสัชนา : 1. บาปกรรม... บาปกรรม... อย่าทำ นอกจากจะเป็นบาปแล้ว ผู้อื่นรู้เข้า เขาจะตำหนิติว่าเรา แล้วจะไม่มีใครอยากคบด้วย วันข้างหน้า คุณมีครอบครัว มีลูก ลูกคุณก็จะด่าคุณเหมือนกัน หรือยิ่งกว่าที่คุณด่าพ่อแม่ ครูอาจารย์
2. ถือได้ว่าเป็นอกุศลชนิดหนึ่ง เป็นกิเลส ยังมิได้เป็นบาป เพราะยังมิได้ล่วงเกินใครให้เสียหายเดือดร้อน แต่ก็เป็นเหตุให้ตนเดือดร้อนได้เหมือนกัน
3 เพราะคุณมีบุญ คุณจึงแบ่งบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ก็ต้องถามคุณว่า วันๆคุณทำบุญอะไรบ้างล่ะ ในบุญกิริยา 10 อย่าง เช่น ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อ่อนน้อมถ่อมตน ทำหน้าที่ถูกต้อง แบ่งบุญให้แก่ผู้อื่น เห็นคนอื่นทำดีคุณก็ยินดีด้วย ฟังธรรม สนับสนุนให้ผู้อื่นฟังฟรือแสดงธรรม ทำความเห็นให้ถูก เช่น เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทั้ง 10 อย่างนี้ คุณทำได้อย่างไหน ในเวลาใดของแต่ละวันล่ะ
4. แน่นอน แน่นอน เป็นบาปแน่ๆ
5. ความรู้สึกไม่สบายใจ ทุกข์ใจ ทุกข์กาย ที่เกิดจากผลของการกระทำแห่งเรานั่นแหละเป็นบาป บาปมีทั้งทางกายและทางใจ ดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งให้ผลเป็นทุกข์
• อยากรู้สาเหตุของกรรมบีบคั้น
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพค่ะ
1. หนูเคยได้ฟังหลวงปู่พูดว่า “กรรมบีบคั้นให้พลาดจากสิ่งที่คาดหวัง” หนูอยากรู้ว่ามีสาเหตุจากการกระทำใดไว้ และมีวิธีใดบ้างที่จะลดหรือล้างความหนักของกรรมบีบคั้นได้คะ
2. ที่หลวงปู่บอกว่า “ให้กระทำด้วยวิธีอันเลิศ แล้วผลที่ประเสริฐจะตามมา” นั้น วิธีใดที่ถือว่าเลิศคะ จะขึ้นกับปัญญาและกรรมของคนคนนั้นด้วยหรือเปล่า
3. คนเราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต และมีแผนการในอนาคตไหมคะ (เป้าหมายที่เป็นรูปธรรม) หากเราบอกว่า เราไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง แต่เราจะเลือกทำสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ หรือตั้งเป้าหมายที่เป็นนามธรรมจะเพียงพอไหมคะ
วิสัชนา : 1. กรรมบีบคั้นทำให้เราพลาดจากสิ่งที่พึงได้พึงถึง ซึ่งก็มีทั้งดีและเลว เขาเรียกว่าอุปปีฬกกรรม กุศลกรรมเท่านั้นที่จะทำให้อุปปีฬกกรรมให้ผลในส่วนที่ดี
2. วิธีที่ทำ พูด คิด ที่ประกอบไปด้วยสติ ปัญญา อย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบคอบ นั่นแหละเป็นวิธีอันเลิศ
3. ไม่ว่าคุณจะมีจุดมุ่งหมายอะไร สิ่งที่สำคัญต้องสร้าง และทำเหตุปัจจัยของจุดมุ่งหมายนั้นๆให้ถึงพร้อมสมบูรณ์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตั้งเป้าและไม่ทำ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 189 กันยายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : ขอน้อมกราบนมัสการหลวงปู่ครับ ผมอยากจะขอคำชี้แนะจากหลวงปู่ ว่า
1. การที่เรายังเป็นปุถุชนอยู่นั้น เราน่าจะยึดอย่างไรให้ไม่เป็นทุกข์มากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือคนที่เรารัก
2. ธรรมะใดที่สามารถฝึกทำให้เราพึงพาตนเองได้ทางใจ และเป็นคนที่เข้มแข็ง มีพลัง
3. การทำให้อยู่เหนือทั้งดี-ชั่ว เราควรพิจารณาสิ่งนั้น หรือไม่สนใจ ทำเฉยๆ ครับ
วิสัชนา : 1. ยึดสัตว์ บุคคล เขา เรา ไม่ได้หรอกคุณ ที่สุดไม่ได้ดังใจก็ต้องเป็นทุกข์อยู่ดี ลองหาพระธรรมที่เหมาะสมกับตนสักข้อเป็นเครื่องยึดถือ น่าจะทำให้คุณชนะทุกข์ได้
2. สติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว หรือศีล สมาธิ ปัญญา
3. ต้องมีสติปัญญา พิจารณาทุกอย่างเหมือนดั่งคนที่ยืนดูสรรพสิ่งอยู่บนยอดเขา แล้ววางตัวเป็นกลาง ด้วยคิดว่าสักแต่ว่าเห็น มิได้เป็นของเราจริงๆ หรือไม่ก็ใช้ปัญญา พิจารณาทุกอย่างที่พบเห็นด้วยความรอบคอบ ระลึกว่า ทุกสรรพสิ่งมีที่สุด เกิด โต ตาย แล้วจะไม่มีอะไรมีอำนาจเหนือคุณ
• จะทราบได้อย่างไรว่ากำลังทำบาป
ปุจฉา : ข้าพเจ้ามีคำถามที่จะรบกวนเรียนถามพระคุณเจ้าดังนี้ครับ
1. การที่เราด่า ล่วงเกิน พูดไม่ดีต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์ จะได้รับบาปกรรมมากน้อยเพียงใด
2. การที่เราดูสิ่งยั่วยวนก่อให้เกิดกิเลสตัณหา บาปไหมครับ
3. การที่เราอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ตัวเราจะได้บุญด้วยไหมครับ
4. ถ้าคนเราบวชแต่จิตใจไม่เป็นสุข คิดถึงแต่กิเลส แต่กายปฏิบัติตามหน้าที่พระสงฆ์ จะก่อให้เกิดบาปแก่ตัวเราไหม
5. เราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าเรากำลังทำบาป เมื่อมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ซับซ้อนมาก เช่น ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างก่อให้เกิดบาปได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม เพียงแต่คิดเท่านั้น จะบาปไหมครับ
วิสัชนา : 1. บาปกรรม... บาปกรรม... อย่าทำ นอกจากจะเป็นบาปแล้ว ผู้อื่นรู้เข้า เขาจะตำหนิติว่าเรา แล้วจะไม่มีใครอยากคบด้วย วันข้างหน้า คุณมีครอบครัว มีลูก ลูกคุณก็จะด่าคุณเหมือนกัน หรือยิ่งกว่าที่คุณด่าพ่อแม่ ครูอาจารย์
2. ถือได้ว่าเป็นอกุศลชนิดหนึ่ง เป็นกิเลส ยังมิได้เป็นบาป เพราะยังมิได้ล่วงเกินใครให้เสียหายเดือดร้อน แต่ก็เป็นเหตุให้ตนเดือดร้อนได้เหมือนกัน
3 เพราะคุณมีบุญ คุณจึงแบ่งบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ก็ต้องถามคุณว่า วันๆคุณทำบุญอะไรบ้างล่ะ ในบุญกิริยา 10 อย่าง เช่น ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อ่อนน้อมถ่อมตน ทำหน้าที่ถูกต้อง แบ่งบุญให้แก่ผู้อื่น เห็นคนอื่นทำดีคุณก็ยินดีด้วย ฟังธรรม สนับสนุนให้ผู้อื่นฟังฟรือแสดงธรรม ทำความเห็นให้ถูก เช่น เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทั้ง 10 อย่างนี้ คุณทำได้อย่างไหน ในเวลาใดของแต่ละวันล่ะ
4. แน่นอน แน่นอน เป็นบาปแน่ๆ
5. ความรู้สึกไม่สบายใจ ทุกข์ใจ ทุกข์กาย ที่เกิดจากผลของการกระทำแห่งเรานั่นแหละเป็นบาป บาปมีทั้งทางกายและทางใจ ดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งให้ผลเป็นทุกข์
• อยากรู้สาเหตุของกรรมบีบคั้น
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพค่ะ
1. หนูเคยได้ฟังหลวงปู่พูดว่า “กรรมบีบคั้นให้พลาดจากสิ่งที่คาดหวัง” หนูอยากรู้ว่ามีสาเหตุจากการกระทำใดไว้ และมีวิธีใดบ้างที่จะลดหรือล้างความหนักของกรรมบีบคั้นได้คะ
2. ที่หลวงปู่บอกว่า “ให้กระทำด้วยวิธีอันเลิศ แล้วผลที่ประเสริฐจะตามมา” นั้น วิธีใดที่ถือว่าเลิศคะ จะขึ้นกับปัญญาและกรรมของคนคนนั้นด้วยหรือเปล่า
3. คนเราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต และมีแผนการในอนาคตไหมคะ (เป้าหมายที่เป็นรูปธรรม) หากเราบอกว่า เราไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง แต่เราจะเลือกทำสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ หรือตั้งเป้าหมายที่เป็นนามธรรมจะเพียงพอไหมคะ
วิสัชนา : 1. กรรมบีบคั้นทำให้เราพลาดจากสิ่งที่พึงได้พึงถึง ซึ่งก็มีทั้งดีและเลว เขาเรียกว่าอุปปีฬกกรรม กุศลกรรมเท่านั้นที่จะทำให้อุปปีฬกกรรมให้ผลในส่วนที่ดี
2. วิธีที่ทำ พูด คิด ที่ประกอบไปด้วยสติ ปัญญา อย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบคอบ นั่นแหละเป็นวิธีอันเลิศ
3. ไม่ว่าคุณจะมีจุดมุ่งหมายอะไร สิ่งที่สำคัญต้องสร้าง และทำเหตุปัจจัยของจุดมุ่งหมายนั้นๆให้ถึงพร้อมสมบูรณ์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตั้งเป้าและไม่ทำ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 189 กันยายน 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
