xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะกับสุขภาพ : อาหารสำหรับโรคหัวใจ (2) (อาหารต้านโรค ตอนที่ 3)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท่านผู้อ่านครับ คราวที่แล้วได้กล่าวถึงอาหารไขมันต่ำ (Low fat diet) โดยยกตัวอย่างอาหารมังสวิรัติ อาหารลดความดัน(DASH) และโปรแกรมของศาสตราจารย์ ดีน ออร์นิช เป็นตัวอย่าง

แต่ในวงการแพทย์แผนปัจจุบัน ยังมีแพทย์อีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการใช้อาหารไขมันต่ำ แนวอาหารมังสวิรัติ ในการบำบัดโรคหัวใจ คือ นพ.คอลด์เวลล์ เอสเซลเตน (Caldwell Esselstyn) เขาเป็นแพทย์โรคหัวใจ อยู่ที่คลีฟแลนด์คลินิก ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการรักษาโรคหัวใจ

เขากล่าวว่า โรคหัวใจเกิดจากอาหารและวิถีชีวิตของเรา เราสามารถป้องกันและบำบัดโรคหัวใจได้ ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง โปรแกรมของเขาเรียกว่า โปรแกรมป้องกันและบำบัดโรคหัวใจ (Prevent and reverse Heart Disease) โดยอาหารแบบของเขาเป็นอาหารมังสวิรัติ ไขมันต่ำมาก งดไขมันทุกชนิด กินธัญพืชครบถ้วน และผัก ผลไม้ เป็นหลัก งดอโวคาโดเพราะมีไขมันมาก กินโปรตีนจากถั่วทุกชนิด ยกเว้นถั่วเปลือกแข็ง (Nuts) งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมทั้งไข่ นม งดขนมทำจากแป้ง เช่น ขนมปัง เค้ก คุกกี้ และอาหารแปรรูปจากธัญพืช เช่น ซีเรียล น้ำผลไม้รสหวานที่มีน้ำตาลมากเกินก็ต้องงด รวมทั้งน้ำอัดลม ชา กาแฟ กินวิตามินรวมวันละ 1 เม็ด วิตามินบี 12 วันละ 1,000 ไมโครกรัม วิตามินดี วันละ 1,000 iu (25 ไมโครกรัม), แคลเซียม 1,000-1,200 มิลลิกรัม น้ำมันโอเมก้า 3 จาก น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed oil) วันละ 1 ช้อนโต๊ะ และสำหรับคนไข้ที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เขาจะให้กินยาลดไขมันโคเลสเตอรอลด้วย

นอกเหนือจากการใช้อาหารรักษาโรค คุณหมอเอสเซลเตนได้ใช้วิธีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพด้วย เช่น ออกกำลังกายเบาๆวันละ 30 นาที งดเหล้าและบุหรี่ การผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีต่างๆ

นพ.เอสเซลเตนได้เริ่มศึกษาวิธีการนี้เป็นครั้งแรกในคนไข้ 18 รายที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โดยให้กินอาหารมังสวิรัติไขมันต่ำแบบของเขา ก็พบว่า เมื่อฉีดสีดูขนาดของเส้นเลือด รูของเส้นเลือดที่ตีบตันขยายขึ้นได้ ร้อยละ 73 รวมทั้งอาการเจ็บหน้าอกหายไป

แต่เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยน้อยเกินไป ดังนั้น เขาจึงทำการทดลองใหม่ในปี 1990 ในผู้ป่วย 198 ราย ใช้เวลาศึกษา 5 ปี เหลือผู้ป่วยที่อยู่จนสิ้นสุดการศึกษา 177 ราย โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้กินอาหารตามปกติและรักษาโดยใช้ยา อีกกลุ่มหนึ่งให้กินมังสวิรัติ ไขมันต่ำแบบของเขา เมื่อเปรียบเทียบกันก็พบว่า กลุ่มที่กินมังสวิรัติ เกิดอาการเจ็บหน้าอกร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินอาหารตามปกติ เกิดอาการเจ็บหน้าอก ร้อยละ 62

ในกลุ่มที่กินมังสวิรัติ เมื่อฉีดสีดูพบว่า รูเส้นเลือดขยายขึ้นร้อยละ 22 แต่น่าสังเกตว่า กลุ่มที่กินมังสวิรัติ จะมีไขมันดี HDL-C ค่อนข้างต่ำ และไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง (Esselstyn CB. Journal of Family Practice 1995;41(6):560-68.)

จะเห็นว่าผลการรักษาโดยวิธีของเขาได้ผล สามารถหยุดยั้งเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ วิธีการกินอาหารแบบของเขาจึงได้รับความนิยม มีการนำไปใช้โดยสาธารณชนทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น กรณีของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บิล คลินตัน ในปี 2004 ขณะที่กำลังช่วยสมาชิกพรรคเดโมแครตคนหนึ่ง หาเสียงเลือกตั้งอยู่นั้น เขาเกิดมีอาการเจ็บหน้าอกขึ้นมาทันทีทันใด และได้รับการส่งตัวไปตรวจรักษา ก็พบว่า เส้นเลือดหัวใจของเขาตีบไป 4 เส้น เขาได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือดหัวใจ 4 เส้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา ก็ดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร เขาสบายดีมาตลอด

แต่หกปีต่อมาคือปี 2010 เขาเกิดมีอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาอีก เมื่อหมอฉีดสีดูก็พบว่า เส้นเลือดที่เคยต่อไว้ มีเนื้อเยื่อพังผืดมารัด ทำให้ตีบตันอีกครั้งหนึ่ง แพทย์ผู้ทำการรักษาเห็นว่า การผ่าตัดซ้ำที่เดิมจะเกิดอาการแทรกซ้อนสูง ควรใส่ขดลวดถ่างขยายเส้นเลือด แล้วใช้วิธีธรรมชาติบำบัดด้วยอาหาร และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตควบคู่กันไป จะได้ผลดีกว่า

หลังจากนั้นคลินตันจึงเริ่มศึกษาวิธีธรรมชาติบำบัด เขาอ่านหนังสือของ นพ.แอสเซลเตน พบว่า การใช้อาหารไขมันต่ำ เช่น อาหารมังสวิรัติ และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต จะช่วยให้เส้นเลือดที่ตีบตันขยายออกได้ ดังนั้น เขาจึงเริ่มทดลองกับตนเอง โดยกินอาหารมังสวิรัติไขมันต่ำ แบบของคุณหมอเอสเซลเตน แล้วออกกำลังกายเบาๆวันละ 30 นาที ฝึกสมาธิและสวดมนต์ทุกวัน อาการต่างๆ ของเขาก็ดีขึ้น น้ำหนักตัวลดลง 24 ปอนด์ ร่างกายแข็งแรงขึ้น (youtube.com/The Last Heart Attack, CNN”s Dr.sanjayKupta-Documentary)

นพ.คอลด์เวลล์ เอสเซลเตน เป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก ทีมกรรเชียงเรือของอเมริกาในปี 1956 และเข้าศึกษาด้านศัลยกรรมทั่วไปที่คลีฟแลนด์คลินิกในปี 1962 จากนั้นได้เข้ารับราชการเป็นศัลยแพทย์ทหารในสงครามเวียดนาม ได้รับรางวัลเหรียญบรอนซ์ และกลับมาทำงานที่คลีฟแลนด์คลินิกในฐานะศัลยแพทย์ทั่วไป จนเกษียณในปี 2000

เมื่อเกษียณแล้ว เขาก็เดินทางไปบรรยายและเขียนหนังสือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมป้องกันและรักษาโรคหัวใจด้วยอาหารไขมันต่ำ และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โปรแกรมของเขาได้รับความนิยมอย่างมาก ช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจมีทางเลือกในการรักษาตนเองโดยไม่ต้องพึ่งยามาก และคุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น อายุยืนขึ้น

ท่านผู้อ่านอาจจะเข้าไปดูการบรรยายของเขาได้ใน www.youtube.com พิมพ์คำว่า Esselstyn : No more Heart Attack/Former President Bill Clinton and Heart Diseas.

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 190 ตุลาคม 2559 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
กำลังโหลดความคิดเห็น