จริงหรือมั่ว? กินไข่วันละฟอง ทำให้เป็นโรคหัวใจ!

ไข่ถูกตราบาปใส่ให้เมื่อสามสิบปีมาแล้ว สมัยนั้นวงการแพทย์เริ่มรู้แล้วว่า ยิ่งคนมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ก็จะยิ่งเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากขึ้น จึงมีความพยายามลดคอเลสเตอรอลที่มากับอาหาร โดยทึกทักตั้งเป้าขึ้นมาว่าปริมาณแนะนำต่อวัน (RDA) สำหรับคอเลสเตอรอลคือ ไม่ควรกินเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อนำอาหารที่คนชอบกินมาเรียงลำดับก็พบว่าไข่แดงมีคอเลสเตอรอลสูงโดดเด่นมาก คือฟองหนึ่งมี 122 มิลลิกรัม ถ้ากินไข่วันละฟองทุกวัน ก็จะได้คอเลสเตอรอลเกินครึ่งของโควตาเข้าไปแล้ว ไม่เหลือที่ให้คอเลสเตอรอลจากอาหารอื่น สมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) สมัยนั้นจึงแนะนำว่าควรกินไข่แดงไม่เกินสัปดาห์ละ 3 ฟอง จะได้คอเลสเตอรอลจากไข่เป็รนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของคอเลสเตอรอลจากอาหารทั้งหมด ซึ่งคนสมัยนั้น “เดา” เอาว่าน่าจะกำลังดี

จริงหรือมั่ว? กินไข่วันละฟอง ทำให้เป็นโรคหัวใจ!



ต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ.2542) ฮาร์วาร์ด ได้สรุปงานวิจัยที่ทำต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ปี โดยติดตามดูคนถึงแปดหมื่นกว่าคน แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีนิสัยกินไข่มาก คือสัปดาห์ละ 7 ฟองขึ้นไป อีกกลุ่มหนึ่งนิสัยกินไข่น้อย คือน้อยกว่าสัปดาห์ละ 7 ฟอง ตามดูไป 8 ปี ก็พบว่าคนทั้งสองกลุ่มนี้มีอัตราการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดไม่ต่างกัน จะมีเฉพาะคนเป็นเบาหวานและมีกรรมพันธุ์บางอย่างเท่านั้นที่กินไข่มากแล้วเป็นโรคหัวใจมากขึ้น แต่กลุ่มหลังนี้เป็นเพียงคนส่วนน้อย คือไม่ถึง 10 เปอร์เซ็น ขณะที่คนส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็น กินไข่มากๆ ก็สบายดี ไม่เห็นเป็นอะไร

ข้อมูลนี้ทพให้วงการแพทย์งงเป็นอันมากว่า เฮ้ย นี่มันอะไรกัน ก็ตามความเชื่อของเราไข่มันเป็นของไม่ดีไม่ใช่เรอะ ทำไมพวกที่กินไข่มากๆ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น ได้มีผู้วิเคราะห์ผลวิจัยสุขภาพผู้คนขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักกันดีในวงการแพทย์ว่า งานวิจัย NHANES-III พบว่า คอเลสเตอรอลจากไข่ไม่สัมพันธ์กับคอเลสเตอรอลในเลือดของคนที่กินไข่ คือหารเฉลี่ยแล้วพบว่าคนที่กินไข่น้อย คือไม่เกินสัปดาห์ละ 1 ฟองกลับมีคอเลสเตอรอลในเลือดไม่ต่างจากคนที่กินไข่มากกว่าสัปดาห์ละ 4 ฟองเสียอีก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่กินไข่มากเกินขนาด เช่น วันละสอง สาม สี่ ห้า หกฟองนั้น ก็มีงานวิจัยที่ดีอีกงานหนึ่ง คือ งานวิจัยสุขภาพแพทย์ (Physicians' Health Study) ซึ่งตามดูแพทย์หมื่นกว่าคน แบ่งเป็นพวกกลัวไข่กับบ้ากินไข่ก็ได้ข้อสรุปว่าการกินไข่มากกว่าวันละฟองมีความสัมพันธ์กับการเกิดหัวใจล้มเหลว (heart failure) มากขึ้น

จริงหรือมั่ว? กินไข่วันละฟอง ทำให้เป็นโรคหัวใจ!



ดังนั้น มาถึงวันนี้แล้ว สรุปว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ได้ดังนี้

จริง ที่ว่า ไข่เป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง
ไม่จริง ที่ว่า คอเลสเตอรอลจากไข่เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดเลวในเลือด
ไม่จริง ที่ว่า กินไข่วันละฟองทำให้เป็นโรคหัวใจ (ยกเว้นคนที่เป็นเบาหวานหรือมีกรรมพันธุ์ ซึ่งมีจำนวนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์)
จริง ที่ว่า คนที่กินไข่มากกว่าวันละ 1 ฟอง คือกินวันละ 2-5 ฟอง อนาคตอาจจะมีภาวะหัวใจล้มเหลวมากกว่าคนที่กินไข่ไม่เกินวันละ 1 ฟอง

จริงหรือมั่ว? กินไข่วันละฟอง ทำให้เป็นโรคหัวใจ!



ข้อควรปฏิบัติ

สำหรับคนทั่วไปทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชราที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร แนะนำให้กินไข่วันละ 1 ฟอง เพราะไข่เป็นอาหารอุดมคุณค่า ราคาถูก ให้โปรตีนสูง มีกรดแอมิโนที่จำเป็นครบถ้วน มีวิตามินเอ บี1 บี 2 บี6 บี12 ซี ดี อี กรดโฟลิก โคลีน แคลเซียม โซเดียม โพแทสเซียมฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และที่สำคัญ วิตามินดีที่ได้จากไข่และการที่ไข่เพิ่มไขมันดีได้นั้น หาได้ยากจากอาหารอื่นทั่วไป การกินไข่วันละไม่เกินหนึ่งฟองไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจ ให้ท่านท่องไว้ได้เลยว่า ไข่วันละไม่เกินหนึ่งฟอง “ไม่” ทำให้เป็นโรคหัวใจ

สำหรับคนที่อยากกินไข่มากกว่าวันละฟอง เช่น อยากจะกินวันละ สาม สี่ ห้าฟองก็กินได้ แต่ต้องยอมรับเงื่อนไข 3 ข้อคือ

1.การกินไข่มากกว่าวันละ 1 ฟอง อาจจะ (อาจจะ เท่านั้นนะ) สัมพันธ์กับการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวในอนาคตมากขึ้น

2.ถ้าจะกินไข่มากกว่าวันละ 1 ฟอง ต้องเปลี่ยนโครงสร้างรวมของอาหารให้เป็นอาหารไขมันต่ำ หมายถึงกินผักและผลไม้เยอะๆ หรือกินมังสวิรัติ ถ้าจะดื่มนม ก็ดื่มนมไร้ไขมัน ถ้าจะกินไก่กินหมูกินเนื้อ ก็กินแต่เนื้อๆ ไม่ติดหนังติดมัน ถ้าจะปรุงอาหารก็ใช้วิธ๊อบ ต้ม นึ่ง ย่าง ไม่ผัดหรือทอด