xs
xsm
sm
md
lg

จิตกับธรรม : จิตตนคร (ตอนที่ ๒๗) เมืองที่มีปฏิวัติรัฐประหารกันบ่อยที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงนิพนธ์เรื่อง “จิตฺตนคร” ขึ้นสำหรับบรรยายทางรายการวิทยุ อส.พระราชวังดุสิต ประจำวันอาทิตย์ ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๑-๒๕๒๓ และได้รวบรวมพิมพ์ครั้งแรกในเรื่อง การบริหารทางจิตสำหรับผู้ใหญ่ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑

พระนิพนธ์เรื่องนี้ ทรงนำเอาเรื่องจิตและธรรมะที่เกี่ยวกับจิตในแง่มุมต่างๆมาผูกเป็นเรื่องราวทำนองปุคคลาธิษฐาน


เมื่อพระพุทธศาสนาได้แผ่เข้าไปในจิตตนคร โดยอุปถัมภ์สนับสนุนของคู่บารมีของนครสามี ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญของคู่อาสวะและสมุทัยดังที่ได้เล่าแล้ว

สมุทัยได้แสดงตนเป็นศาสดาประกาศศาสนาขึ้นบ้าง เพราะเกรงว่าพุทธศาสนาจะดึงคนออกไปให้พ้นอำนาจตน คือให้ไปสู่โลกุตตรภูมิ จึงตั้งศาสนาขึ้นแข่ง คอยแนะนำคนให้ดำเนินไปสู่ภูมิทั้ง ๓ ที่อยู่ในอำนาจตนเท่านั้น ดังที่เรียกมาแล้วว่ามารศาสนา ซึ่งก็ได้ผล เพราะประชาชนได้พากันนับถือกันทั้งเมืองก็ว่าได้ แต่ก็มักนับถือคู่กันไปกับพุทธศาสนา

ข้อนี้ทำให้สมุทัยผิดหวัง เพราะไม่อาจทำลายพุทธศาสนาลงไปได้ ทั้งดูเหมือนพุทธศาสนาจะเจริญขึ้น ประชาชนสนใจปฏิบัติในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ากันมากขึ้น และทางการปกครอง ฝ่ายของคู่บารมีก็เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ดำรงตำแหน่งน้อยใหญ่มากขึ้น เช่น ศีล หิริโอตตัปปะ อินทรียสังวร สติ สัมปชัญญะ สันโดษ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

ศีลเข้าคุมไตรทวารของจิตตนคร หิริโอตตัปปะเข้าเป็นนครบาล อินทรียสังวรเข้าคุมระบบสื่อสารทั้งชั้นนอกชั้นใน สติสัมปชัญญะเข้าคุมอิริยาบถหรือการจราจรของเมือง สันโดษเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ปันส่วนทรัพย์สินเครื่องอุปโภคบริโภค

เป็นเหตุให้พรรคพวกและสมุนน้อยใหญ่ของสมุทัย ต้องร่นถอยลดน้อยลงไปกว่าเดิม แต่สมุทัยก็หายินยอมโดยง่ายไม่ ใช้เล่ห์เพทุบายและอำนาจกำลังต่างๆ ยึดเอาที่มั่นต่างๆ กลับคืนมา แม้ยึดมาไม่ได้ทั้งหมด ก็ส่วนหนึ่งหรือครั้งคราวหนึ่ง

ฉะนั้น จิตตนครจึงเป็นนครที่มีการแย่งอำนาจ สับเปลี่ยนอำนาจการปกครองในหน่วยต่างๆ กันมากที่สุด บางทีสับเปลี่ยนกันทุกวัน วันละหลายครั้งก็มี จุดต่างๆที่ทุกฝ่ายต้องการยึดไว้เป็นของตนแต่ฝ่ายเดียวก็คือไตรทวารของเมือง หน้าที่นครบาล ระบบสื่อสารทั้ง ๖ การจราจร และอำนาจการปันส่วน หรือพิกัดรายได้ต่างๆ เป็นต้น และจุดสำคัญก็คือนครสามี

แต่ทุกฝ่ายก็ไม่สามารถจะยึดไว้หรือจะปฏิบัติหน้าที่ปกครองอยู่เพียงฝ่ายเดียวได้ คู่บารมีมีคู่อาสวะเป็นคู่ปรับกัน ซึ่งนครสามีก็ได้รับรองให้อยู่เป็นฝ่ายในด้วยกันทั้งสอง สมุทัยกับพรรคพวกฝ่ายหนึ่ง ศีลเป็นต้นซึ่งเป็นพวกคู่บารมีอีกฝ่าย
หนึ่ง ก็เผชิญหน้ากันอยู่ในจุดต่างๆ ทั้งสองฝ่าย ตลอดถึงศาสนาก็เป็นที่นับถือกันทั้งสองฝ่าย

ถ้าจะเทียบกับบ้านเมืองในโลก ก็น่าจะเรียกได้ว่า เป็นบ้านเมืองที่มีการปฏิวัติรัฐประหารมากและบ่อยครั้งที่สุด มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายเจ้าหน้าที่กันบ่อยที่สุด จนในที่สุดก็ดูเหมือนแบ่งเมืองกันปกครอง โดยแบ่งเขตกันปกครองหรือแบ่งเวลากันปกครองในเขตเดียวกันนั่นแหละ เช่นไตรทวารของเมือง ศีลเข้าปกครองรักษาบางส่วน โลภโกรธหลงหัวโจกใหญ่ของสมุทัยยึดปกครองไว้บางส่วน หรือส่วนเดียวกันศีลรักษาบางเวลา โลภโกรธหลงเข้าครองบางเวลา แบ่งกันไปแบ่งกันมาดังนี้

อาศัยที่จิตตนครเป็นเหมือนอย่างเมืองลับแลดังกล่าว ใครๆจึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องภายในของจิตตนคร ต่างจากเรื่องของบ้านเมืองในโลก ที่มีการออกข่าวให้รู้กันอยู่เสมอ จะมีการปฏิวัติรัฐประหารกันสักครั้งก็รู้กันทั่ว ส่วนในจิตตนครมีทุกวันก็ไม่มีใครรู้ใครสนใจกัน

เรื่องของบ้านเมืองในโลก ควรเป็นที่สนใจพอสมควร แต่เรื่องของจิตตนคร ควรเป็นที่สนใจอย่างยิ่ง จิตตนครของผู้ใด ผู้นั้นควรพยายามให้รู้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในนครของตน เพราะความรู้เห็นเหตุการณ์ในจิตตนคร เป็นความสำคัญ เป็นกุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จในการรักษาจิตตนครให้ร่มเย็นเป็นสุข

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกคนควรรู้อารมณ์ตน รู้ให้ทันเวลามากเพียงใดก็ยิ่งดี ความรู้ทันเท่านั้นที่จะทำให้อารมณ์ดับ อารมณ์ทั้งหลายเกิดแล้วดับได้เร็วเพียงใด ก็จะทำให้ใจอันเป็นที่รองรับอารมณ์นั้น พ้นจากความซัดส่ายฟูขึ้นแฟบลงได้เร็วเพียงนั้น ได้มีความสงบสุข ไม่หวั่นไหวไปตามอำนาจของอารมณ์ทั้งหลายหรือมาร

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 178 ตุลาคม 2558 โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)

กำลังโหลดความคิดเห็น