สุขภาพดีเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคนเรา แม้ว่าการแพทย์สมัยใหม่ในปัจจุบัน จะมีวิธีการต่างๆที่ช่วยเอาชนะความเจ็บป่วยได้ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นกับเรา ด้วยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายให้แข็งแรง และเลิกนิสัยที่จะทำลายภูมิคุ้มกัน อันจะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้น และมีความสุขในชีวิตมากขึ้นนั่นเอง
• ส่งเสริมสุขภาพกาย
1. ออกกำลังกายทุกวัน
การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากมันจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น และช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น เช่น พยายามเดินเร็วๆ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
2. รับแสงแดดบ้าง
การใช้ชีวิตอยู่แต่ในที่ร่มหรือห้องแอร์ ส่งผลให้ร่างกายขาดวิตามินดี ที่ช่วยให้สุขภาพดี วิธีที่ดีสุดที่จะเพิ่มระดับวิตามินดี คือ การใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รับสายลมแสงแดด
3. นอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
การอดนอนอาจทำให้ร่างกายเจ็บป่วยง่ายขึ้น การนอนหลับอย่างเพียงพอในแต่ละคืน ช่วยให้ร่างกายสดชื่น และสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ นอกจากนี้ เมื่อเริ่มไม่สบาย การได้นอนมากขึ้น จะช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้นด้วย
4. เลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดโรคร้ายมากมาย ทั้งโรคปอด โรคมะเร็ง และทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงด้วย หากอยากมีสุขภาพแข็งแรงควรเลิกบุหรี่ หรืออยู่ห่างไกลควันบุหรี่
5. ลดการดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์เล็กน้อย อาจเป็นข้อดี แต่หากดื่มมากเกินไป อาจเป็นภัยต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• ส่งเสริมสุขภาพจิต
1. หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดที่เรื้อรัง เป็นหนึ่งในศัตรูตัวร้ายที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันโรค งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า มีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างคนที่เครียด กับการมีภูมิคุ้มกันลดลงและเจ็บป่วยมากขึ้น
วิธีการต่อไปนี้ อาจช่วยลดความเครียดได้
- นั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ จะช่วยให้รู้สึกสงบสุขและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- จัดการสาเหตุที่ทำให้เครียด เช่น หากที่ทำงาน มีคนที่ทำให้รู้สึกเครียดมาก จงพยายามอยู่ห่างคนนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- พบจิตแพทย์เพื่อรักษาด้วยการบำบัด หากเป็นความเครียดที่ฝังลึกมานาน และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
2. คบหาสมาคมกับคนอื่นบ้าง
การเก็บตัวไม่คบหาสมาคมกับคนอื่น จะทำให้เครียดง่าย แต่การได้รู้จักพบปะพูดคุยกับคนอื่นๆ จะช่วยให้มีสุขภาพจิตดี และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายดีไปด้วย
3. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
ถ้าที่อยู่อาศัย หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยได้พบปะคนอื่น การคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง ก็พอช่วยแก้เหงา ให้หายเครียด และหัวเราะได้บ้าง ซึ่งจะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงยิ่งขึ้น ลองหาแมว หมา กระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงที่ชอบ มาเลี้ยงไว้สักตัวก็ดี
4. หัวเราะบ่อยๆ
การยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรคให้แข็งแรง และยังช่วยให้สุขภาพจิตดีด้วย หากใครไม่ค่อยหัวเราะ ก็ลองหันไปดูรายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ตลก ดูวีดีโอเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ หรือเด็กเล็กๆ ที่แสดงพฤติกรรมน่ารัก น่าขบขัน อ่านหนังสือการ์ตูนหนังสือขำขัน หรือใช้เวลาอยู่กับเพื่อนที่มีอารมณ์ขันให้มากขึ้น
• ปรับเปลี่ยนนิสัยการรับประทาน
1. ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเปล่านอกจากจะทำให้ร่างกายชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่สุด ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี เพราะฉะนั้น ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่หากเริ่มมีอาการไม่สบาย ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้น จะช่วยกำจัดโรคภัยที่กำลังก่อตัวขึ้นได้
2. หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาล
น้ำตาลอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รู้สึกเฉื่อยชา เหนื่อยล้า และยังลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันโรคอีกด้วย เพราะฉะนั้น ต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาล เช่น เครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลมากเกินไป หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมาก
3. รับประทานผักและผลไม้มากๆ
วิธีดีที่สุดที่จะคงวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย คือ การรับประทานผักสดและผลไม้นานาชนิด โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลส้ม มีวิตามินซีสูง เมื่อรับประทานทุกวัน อาจช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น รวมทั้งผักผลไม้สีสดใส ซึ่งมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากต่อร่างกาย
4. กินกระเทียมเพิ่มขึ้น
มีข้อมูลหลายแห่งอ้างถึงสรรพคุณของกระเทียม เรื่องการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส หรือสารก่อมะเร็ง แม้ว่ายังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจน แต่มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า กระเทียมช่วยป้องกันโรคได้ โดยเฉพาะกระเทียมสดมีสรรพคุณดีที่สุด
5. เพิ่มธาตุสังกะสี
อาหารที่มีโปรตีนสูง มักมีธาตุสังกะสีสูงด้วย เช่น หอยนางรม เนื้อหมู เนื้อวัว ไก่ ปลา ถั่วลิสง ฯลฯ ช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุสังกะสีเป็นประจำ จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงมากขึ้น
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 176 สิงหาคม 2558 โดย เบญญา)