ข่าวสารผ่านโลก

• รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อายุราว 600 ปี กลับคืนวัดที่ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น : รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์โบราณ 2 องค์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 ซึ่งหนึ่งในนั้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ได้กลับคืนสู่วัดเคนนินจิ ซึ่งเป็นวัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ภายหลังถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เมืองเกียวโต นาน 70 ปี

โดยเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2015 ทางวัดได้มีพิธีเปิดผ้าคลุมรูปปั้นพระสังฆราชแห่งนิกายรินไซ “ชูกัน เอนเก็ตสึ ซาโซะ” ขนาดสูง 81 ซม. แกะสลักในยุคราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 1336-1392) และรูปปั้นเทพผู้พิทักษ์ “บิชามอนเตน ริตสึโซะ” ขนาดสูง 37.5 ซม. แกะสลักในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยพระหัตถ์ซ้ายถือลูกแก้ว ซึ่งเชื่อกันว่า บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระไซโช ผู้ก่อตั้งนิกายเทนได (นิกายในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน) ได้นำกลับมาที่ญี่ปุ่น

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขึ้นทะเบียนรูปปั้น “ชูกัน เอนเก็ตสึ ซาโซะ” เป็นสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรม ซึ่งทางวัดได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมรูปปั้นโบราณทั้งสองนี้ จนถึงวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2015

(จาก The Asahi Shimbun)

• ทึ่ง..พระพุทธรูปนำความสงบสุข คืนสู่ชุมชนในสหรัฐฯ
สหรัฐอเมริกา : เมื่อเร็วๆนี้ มีรายงานว่า อาชญากรรมในย่านโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เริ่มลดลง หลังจากชาวบ้านคนหนึ่งได้ตัดสินใจอัญเชิญพระพุทธรูป มาประดิษฐานในศาลเจ้าเล็กๆที่ตั้งอยู่บริเวณทางเดินภายในชุมชนเมื่อปี 2009

แดน สตีเวนสัน ผู้อัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐาน ไม่ใช่คนเคร่งศาสนา แต่เขาหวังว่า พระพุทธรูปจะช่วยให้ชุมชนที่สกปรก เสื่อมโทรม เต็มไปด้วยอาชญากรรม การค้ายาเสพติด และโสเภณี เกิดความสงบสุขขึ้นบ้าง จากนั้นไม่นาน ชาวบ้านก็เริ่มนำดอกไม้และเทียนมาสักการะ ขณะที่มีหญิงชาวเวียดนามจำนวนหนึ่งมานั่งสวดมนต์ทุกเช้า

หลังจากนั้นไม่นาน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในย่านดังกล่าว ชาวบ้านเลิกทิ้งขยะเรี่ยราด ไม่มีพวกมือบอนขีดเขียนตามกำแพงอีกต่อไป และที่สำคัญ นักค้ายาเสพติดและโสเภณีพากันย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งเห็นได้จากข้อมูลของตำรวจท้องถิ่นที่ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2012 ที่เริ่มมีการสวดมนต์บริเวณศาลเจ้าทุกเช้า อาชญากรรมในพื้นที่ดังกล่าวลดลงเฉลี่ย 82%

(จาก Goodnewsnetwork.org)

• นักโบราณคดีฟันธง..ซากมหาวิทยาลัยเตลฮารา เก่าแก่กว่านาลันทาและวิกรมศิลา
อินเดีย : ทีมนักโบราณคดีเมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ค้นพบความจริงที่เผยให้เห็นว่า เมล็ดพันธุ์แห่งการศึกษาขั้นสูงของอินเดียนั้น หยั่งรากลึกเกินกว่าที่เคยเข้าใจกัน เนื่องจากการขุดสำรวจล่าสุด พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่า ซากปรักหักพังของมหาวิทยาลัยเตลฮารา ในรัฐพิหาร มีอายุมากกว่ามหาวิทยาลัยนาลันทาและวิกรมศิลา

“ทีมนักโบราณคดีขุดพบตราประจำวัด 4 อัน ในเขตนาลันทา ทำด้วยกระเบื้องดินเผา จารึกชื่อของมหาวิทยาลัยด้วยภาษาบาลีว่า 'ศรีประทัมชีวปุระ มหาวิหาร ภิกษุ สังฆะ' ซึ่งเป็นชื่อจริงของมหาวิทยาลัยเตลฮารา”

อานันท์ คิชอร์ รัฐมนตรีด้านงานศิลปวัฒนธรรม และเยาวชน แห่งรัฐพิหาร กล่าว และเสริมว่า พระเสวียนจั้ง (พระถังซัมจั๋ง) ภิกษุจีนเขียนบันทึกไว้ว่า เคยเดินทางมายังเตลฮาราในคริสต์ศตวรรษที่ 7 ซึ่งท่านเรียกว่า “เตเลียดากา”

นอกจากนี้ ยังขุดพบก้อนอิฐที่ใช้ก่อสร้างตัวฐานรากของมหาวิทยาลัย ขนาด 42x32x6 ซม. ทำในยุคจักรวรรดิกุษาณะ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 อันเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่า มหาวิทยาลัยเตลฮารามีอายุมากกว่ามหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 5 และมหาวิทยาลัยวิกรมศิลา ซึ่งสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 8-9 และยังลบล้างความเชื่อก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า เตลฮาราสร้างในสมัยจักรวรรดิคุปตะ (คริสต์ศตวรรษที่ 4-7)

ทั้งนี้ การขุดสำรวจพื้นที่เตลฮาราเริ่มขึ้นในปี 2009 พบซากมหาวิทยาลัยเตลฮารา พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์และหิน และดวงตรากว่า 100 อัน จมอยู่ในเนินดินสูง 45 ฟุต นับเป็นซากมหาวิทยาลัยสมัยโบราณแห่งที่ 3 ที่ขุดพบในรัฐพิหาร นอกเหนือจากซากมหาวิทยาลัยนาลันทาและวิกรมศิลา

(จาก Thenewsreports.com)

• สิงคโปร์ทุ่ม 500 ล้าน สร้างวัดแห่งใหม่
สิงคโปร์ : Bliss and Wisdom Organization (BW) เป็นองค์กรพุทธในสิงคโปร์ ซึ่งได้ก่อตั้งวัด BW ขึ้นในปี 2002 ด้วยสมาชิกแรกเริ่มเพียง 150 คน และเพิ่มมากขึ้นเป็น 3,500 คนในปัจจุบัน มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ซิตี้รยาเซ็นเตอร์ บนถนนเกลัง

นายลิม ตอง บุน เลขาธิการทั่วไปของวัด BW กล่าวว่า การจัดงานวิสาขบูชาในแต่ละปี ทางวัดต้องเช่าพื้นที่จัดงาน เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จึงได้มองหาที่ดินสร้างวัดขนาดใหญ่ เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนจำนวนหลายพันคนที่มาร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา

เมื่อต้นปี 2014 ทางวัดชนะประมูลที่ดินบริเวณถนนวูดแลนดส์ 6 จึงเตรียมก่อสร้างวัด BW แห่งใหม่ขึ้น เป็นอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 34,000 ตารางฟุต ประกอบด้วยห้องเรียน ห้องสมุด คลินิกแพทย์ หอพักสำหรับพระสงฆ์และแม่ชี ห้องอาหาร สำนักงาน ห้องโถงใหญ่จุคนได้ 700 คน และลานจอดรถใต้ดิน มูลค่ารวม 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2017

โดยทางวัดมีโครงการที่จะเปิดสอนพุทธศาสนาในระดับประกาศนียบัตรแก่ภิกษุและฆราวาส ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งหากดำเนินการได้สำเร็จ วัด BW จะเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของประเทศที่สอนศาสนาพุทธ

พระจิงหยวน เจ้าอาวาสวัด BW กล่าวว่า “เราต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเบิกบานใจ แก่ผู้ใดก็ตามที่ตั้งใจศึกษาธรรมะ เพื่อจะได้เรียนรู้ ใคร่ครวญ และนำไปปฎิบัติ”

(จาก Straitstimes)

• ปากีสถานขุดพบเศียรพระพุทธรูป อายุเกือบ 2,000 ปี
ปากีสถาน : เมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักโบราณคดีได้ขุดพบพระพุทธรูปและเศียรพระพุทธรูปโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากเครื่องปั้นดินเผาในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 2-5 รวมทั้งเหรียญกษาปณ์ยุคจักรวรรดิกุษาณะจำนวนมาก ในบริเวณพุทธสถานภามาล เมืองฮาริปุระ ประเทศปากีสถาน

ดร.อับดุล ซามัด ผู้อำนวยการกองพิพิธภัณฑ์ กล่าวว่า พุทธสถานภามาล เป็นที่ตั้งของสถูปภามาล ซึ่งสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นสถูปทรงกากบาท ที่ดูคล้ายพีระมิดแอซเตค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติและของโลก โดยเริ่มมีการขุดสำรวจพื้นที่บางส่วนในช่วงต้นยุค 1930

ปัจจุบัน การขุดสำรวจพุทธสถานภามาล อยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยฮาซาร่า ซึ่งได้จัดทำโปรแกรมให้นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ได้เรียนรู้ถึงเทคนิคและวิธีการขุดเจาะในปัจจุบัน โดยได้รับความร่วมมือจากบรรดานักวิชาการและนักโบราณคดีชั้นนำจากอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ช่วยถ่ายทอดความรู้ให้

(จาก Dawn)

• “วัดคิตตี้” สวรรค์ของแมวจร
ญี่ปุ่น : มีคำกล่าวที่รู้จักกันดีว่า “คนอียิปต์โบราณ นับถือบูชาแมวว่าเป็นเทพเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกมันไม่เคยลืมเลย” เช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น ที่แมวได้รับการนับถือ เอาใจใส่ เพราะเชื่อว่าเป็นสัตว์นำโชค เห็นได้จากการที่เกาะหลายแห่งได้กลายเป็นบ้านของบรรดาแมวเหมียวนับร้อยๆตัว จนเรียกว่า “เกาะแมว” ซึ่งพวกมันสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี

แต่ความเป็นจริงที่น่าเศร้าคือ ยังมีแมวเร่ร่อนและแมวที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก พอๆกับในประเทศอื่นๆ และวันนี้ บรรดาคนรักแมวทั้งหลายคงดีใจเมื่อรู้ว่า มีวัดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่รับเลี้ยงพวกมันด้วยความรักและเมตตา

วัดโกตันโจ จังหวัดฟุกุอิ เป็นที่รู้จักกันดีว่า มีแมวจำนวนมากอาศัยอยู่ จนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านต่างขนานนามว่า “วัดคิตตี้” หรือ “วัดแมวเหมียว” แต่ละวันจะมีพระคอยดูแลให้อาหาร หลังจากกินอิ่ม พวกมันจะแยกย้ายกันไปนอนหลับตามตู้คำทำนาย หรือเดินไปมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

(จาก RocketNews)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 170 กุมภาพันธ์ 2558 โดย เภตรา)