ปราจีนบุรี - พบศพสาวปริศนาถูกฝังที่วัดป่าภาวนาธรรม อ.กบินทร์บุรี เมื่อ 15 ปีก่อน หลังถูกขัดขวางอย่างหนักจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย อ้างผิดกฎหมาย และเจ้าอาวาสไม่อนุญาต ล่าสุด ขุดพบแล้วเตรียมตรวจพิสูจน์หาสาเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีที่มีการนำศพหญิงสาวชาวกัมพูชามาฝังในบริเวณวัดป่าภาวนาธรรม หมู่ 2 บ้านหนองบุญเกิด ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อ 15 ปีก่อน จากการเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ โดยไม่มีการชันสูตร หรือมีการออกใบมรณบัตรรับรองการตายจากแพทย์ แต่ได้มีการอ้างว่าเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจำเป็นต้องเร่งฝังอย่างรวดเร็ว แม้ว่าในช่วงนั้นจะถูกชาวบ้านคัดค้านก็ตาม
โดยตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายคณะสงฆ์ที่รู้เห็นการเสียชีวิตของหญิงสาวชาวกัมพูชารายนี้ แม้ว่าตลอดระยะเวลา 15 ปี จะไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายสงฆ์ โดยเฉพาะเจ้าอาวาสสมัยนั้น (พระอธิการอวน อาภาโส) ที่คัดค้านไม่ยอมให้มีการขุดตามที่ชาวบ้านต้องการ จนกระทั่ง พระอธิการอวน อาภาโส มีปัญหาต้องออกจากวัดไปจำพรรษาที่อื่น ทางกลุ่มชาวบ้านจึงถือโอกาสขุดพิสูจน์อีกครั้งเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.2559 แต่การขุดไม่สำเร็จ เนื่องจากความมืด และการชี้จุดไม่ชัดเจนจนต้องยุติการขุด และมีการประชุมชาวบ้าน และพระเพื่อดำเนินการอีกครั้ง
จากนั้นได้มีการประชุมคณะสงฆ์ และฆราวาสที่วัดทุ่งแฝก กบินทร์บุรี แต่การประชุมล้มเหลวเมื่อคณะสงฆ์เองมาไม่ครบ และไม่ให้ความร่วมมือ โดยข้ออ้างเดิมผิดกฎหมาย สุดท้ายชาวบ้านรวมตัวกันไปพบ นายอัครเดช กัณหารี กำนัน ต.ลาดตะเคียน เพื่อให้มารับรู้ และเป็นสักขีพยานในการขุดเพื่อพิสูจน์ดังกล่าว หลังได้ทำพิธีขอขมาผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นเกิดมีกระแสลมแรง และเม็ดฝนโปรยปรายลงมาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ อากาศภายในวัดป่าภาวนาธรรมร้อนระอุจนเป็นที่โจษขานถึงการรับรู้ของผู้ตาย บ้างก็ว่าผู้ตายดีใจที่มีคนมาช่วยให้ขึ้นจากหลุมข้างต้นพิกุล เพื่อวิญญาณจะได้ไปเกิด หลังต้องอยู่ที่นี่มาถึง 15 ปี
การขุดดำเนินไปเกือบ 2 ชั่วโมง ชาวบ้านเริ่มมีความหวังเมื่อพบพลาสติกใสอยู่ใต้ดินที่กำลังขุด สุดท้ายความพยายามของชาวบ้านที่ต้องการพิสูจน์ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อขุดลงไปกว่า 60 เซนติเมตร ได้ยกเอาห่อเสื่อพลาสติกที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีขาวอีกชั้นขึ้นมา เมื่อเปิดออกดูถึงกับตะลึงเมื่อพบโครงกระดูก กะโหลกศีรษะอยู่รวมกับกระเป๋าคิตตี้สีชมพู กระเป๋าเสื้อผ้าอีกหนึ่งใบ และแก้วน้ำจากร้านสะดวกซื้อ ทำให้ชาวบ้านถึงกับโล่งใจที่ทำความสงสัยเมื่อ 15 ปีที่แล้วเป็นผลสำเร็จ
ขณะที่ทาง พ.ต.ท.สมคิด บุญถนอม รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสระบัว พร้อมด้วย นายสมชาย ชำนิ นายอำเภอกบินทร์บุรี ที่ทราบข่าวเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อพบศพถือว่าเป็นคดี ก็ต้องส่งให้ทางพนักงานสอบสวนเข้ามาดูแลเพื่อสืบหาว่าผู้ตายเป็นใคร และเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดต่อไป ไม่ว่าผู้ตายจะเป็นคนไทย หรือต่างชาติ