สธ. ส่ง สสจ.ปราจีนบุรี หารือครู ช่วยแนะแนวการเรียนต่อ “น้องไอซ์” หลังสังคมตั้งกองทุนช่วยเหลือแล้ว หวังมีความรู้พึ่งตัวเองได้ในอนาคต พร้อมเร่งหามาตรการเยียวยา จนท.สธ. ได้รับความเสียหายจากการทำหน้าที่
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ หรือ น้องไอซ์ ลูกสาวของ นพ.กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องอาศัยอยู่กับย่าวัย 80 ปี และไม่ได้เรียนต่อชั้น ม.4 เนื่องจากไม่มีเงิน ซึ่งล่าสุด มีการตั้งกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้วว่า การช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.อารดา จะมีระบบของสังคมที่มีเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น ของ นพ.กฤษฎา รวมถึงภาคประชาสังคมที่มีการตั้งกองทุนให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งคือ กระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าไปหารือร่วมกับครู และครอบครัวนี้ เพื่อวางแผนการศึกษาต่อ โดยเน้นที่ระบบการศึกษาที่มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาต่าง ๆ หรือแม้แต่การเรียนทางด้านสาธารณสุข อาทิ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ซึ่งจะมีทุนให้เรียนฟรี จบออกมาแล้วมีงานทำ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและความสนใจของ น.ส.อารดา ด้วย ส่วนการรักษาโรคลมชักนั้น เนื่องจาก นพ.กฤษฎา เคยรับราชการอยู่ระยะหนึ่ง เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบว่ามีสิทธิได้รับการดูแลในสวัสดิการข้าราชการหรือไม่ แต่ถึงแม้จะไม่มีก็จะอยู่ในสิทธิบัตรทอง ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นห่วง เช่นเดียวกับคุณย่าของ น.ส.อารดา ซึ่งจะมีระบบการดูแลผู้สูงอายุตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว
“เราพยายามเข้าไปให้คำปรึกษาเพื่อวางรากฐานให้น้องเขาสามารถยืนด้วยตัวเองให้ได้ ด้วยการศึกษา การมีงานทำ ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนมากกว่าการให้ความสงเคราะห์อย่างเดียว เพราะที่ผ่านมาการระดมเพื่อสงเคราะห์คนอื่น ๆ นั้น ไม่มีความยั่งยืนแต่อย่างใด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว และว่า ขณะนี้ ปลัด สธ. ได้พยายามเร่งรัดให้มีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อผลักดันเรื่องการช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติงาน เช่น การติดเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน หรือทุพพลภาพ หรือเป็นเหตุให้เสียชีวิตในอนาคต รวมถึงเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงกรณีของ นพ.กฤษฎา แต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นมา 10 กว่าปี ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ หรือ น้องไอซ์ ลูกสาวของ นพ.กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องอาศัยอยู่กับย่าวัย 80 ปี และไม่ได้เรียนต่อชั้น ม.4 เนื่องจากไม่มีเงิน ซึ่งล่าสุด มีการตั้งกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้วว่า การช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.อารดา จะมีระบบของสังคมที่มีเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น ของ นพ.กฤษฎา รวมถึงภาคประชาสังคมที่มีการตั้งกองทุนให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งคือ กระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าไปหารือร่วมกับครู และครอบครัวนี้ เพื่อวางแผนการศึกษาต่อ โดยเน้นที่ระบบการศึกษาที่มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาต่าง ๆ หรือแม้แต่การเรียนทางด้านสาธารณสุข อาทิ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ซึ่งจะมีทุนให้เรียนฟรี จบออกมาแล้วมีงานทำ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและความสนใจของ น.ส.อารดา ด้วย ส่วนการรักษาโรคลมชักนั้น เนื่องจาก นพ.กฤษฎา เคยรับราชการอยู่ระยะหนึ่ง เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบว่ามีสิทธิได้รับการดูแลในสวัสดิการข้าราชการหรือไม่ แต่ถึงแม้จะไม่มีก็จะอยู่ในสิทธิบัตรทอง ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นห่วง เช่นเดียวกับคุณย่าของ น.ส.อารดา ซึ่งจะมีระบบการดูแลผู้สูงอายุตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว
“เราพยายามเข้าไปให้คำปรึกษาเพื่อวางรากฐานให้น้องเขาสามารถยืนด้วยตัวเองให้ได้ ด้วยการศึกษา การมีงานทำ ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนมากกว่าการให้ความสงเคราะห์อย่างเดียว เพราะที่ผ่านมาการระดมเพื่อสงเคราะห์คนอื่น ๆ นั้น ไม่มีความยั่งยืนแต่อย่างใด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว และว่า ขณะนี้ ปลัด สธ. ได้พยายามเร่งรัดให้มีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อผลักดันเรื่องการช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติงาน เช่น การติดเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน หรือทุพพลภาพ หรือเป็นเหตุให้เสียชีวิตในอนาคต รวมถึงเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงกรณีของ นพ.กฤษฎา แต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นมา 10 กว่าปี ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
